บิทคับ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 30 Dec 2022 01:26:32 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่งบอร์ด-ผู้บริหาร ‘บิทคับ’ 3 ราย สั่งปรับเงิน 75 ล้านบาท ฐานสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub https://thestandard.co/sec-bitkub-fined-75-mb/ Thu, 29 Dec 2022 11:51:37 +0000 https://thestandard.co/?p=730626

สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีลงโทษทางแพ่งกับผู้กร […]

The post ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่งบอร์ด-ผู้บริหาร ‘บิทคับ’ 3 ราย สั่งปรับเงิน 75 ล้านบาท ฐานสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>

สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ 2. อนุรักษ์ เชื้อชัย 3. สกลกรย์ สระกวี กรณีกระทำความผิดสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub เป็นเงินรวม 75.01 ล้านบาท พร้อมสั่งกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ได้ตรวจสอบเหตุสงสัยว่าอาจมีการสร้างปริมาณเทียมในศูนย์ซื้อขาย Bitkub โดยพบการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดของบุคคล 3 ราย ได้แก่

 

  1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์
  2. อนุรักษ์ ร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 18 เหรียญ อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขาย Bitkub 
  3. สกลกรย์ ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบริษัทบิทคับ สั่งการหรือกระทำการหรือไม่สั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ เป็นเหตุให้บริษัทบิทคับกระทำความผิดดังกล่าว 

 

บริษัท บิทคับ โดยสกลกรย์ ได้ทำสัญญากับอนุรักษ์ ให้อนุรักษ์ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub และได้ให้อนุรักษ์ยืมเงินเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่า ระหว่างวันที่ 4 มกราคม – 5 กันยายน 2562 อนุรักษ์ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเหรียญอื่นอีก จำนวน 18 เหรียญ ได้แก่ ABT, ADA, BSV, CVC, GNT, IOST, JFIN, KNC, LINK, LTC, MANA, OMG, SNT, USDT, WAN, XLM, ZIL และ ZRX โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของตนเองในศูนย์ซื้อขาย Bitkub ซึ่งการจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีกันเองในแต่ละเหรียญ มีสัดส่วนตั้งแต่ 74-99% ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


โดยบริษัท บิทคับ และสกลกรย์ รับทราบถึงการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายของอนุรักษ์ แต่ไม่ได้มีการทักท้วงการส่งคำสั่งซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของอนุรักษ์ดังกล่าว 

 

ทั้งนี้ การกระทำของบริษัท บิทคับ และอนุรักษ์ เป็นความผิดฐานส่งคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรา 46 (1) ประกอบมาตรา 48 (2) (3) แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดฉบับเดียวกัน เป็นความผิด 18 กระทง (นับตามจำนวนเหรียญ) 

 

ส่วนการกระทำของสกลกรย์เป็นความผิดในฐานะเป็นบุคคลที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท บิทคับ สั่งการหรือกระทำการ หรือไม่สั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ เป็นเหตุให้บริษัทบิทคับกระทำความผิดในกรณีข้างต้น ซึ่งต้องรับโทษเดียวกันตามมาตรา 94 ประกอบมาตรา 46 (1) ประกอบมาตรา 48 (2) (3) แห่ง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดฉบับเดียวกัน เป็นความผิด 18 กระทง (นับตามจำนวนเหรียญ)

 

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) พิจารณาการกระทำของผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่มีพฤติการณ์การกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันกับกรณีก่อนหน้าที่ ค.ม.พ. ได้มีมติให้ดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 4 เหรียญ ได้แก่ BTC, BCH, ETH และ XRP ซึ่งรวมแล้วผู้กระทำความผิดได้สร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 22 เหรียญ 

 

ในกรณีนี้ ค.ม.พ. มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ตามควรแก่กรณี โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด มาตรการห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนี้ 

 

  1. ให้บริษัทบิทคับชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,003,747 บาท 

 

  1. ให้อนุรักษ์ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,003,747 บาท กำหนดมาตรการห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเวลา 4 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 8 เดือน

 

  1. ให้สกลกรย์ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,003,747 บาท และให้สกลกรย์ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ดำเนินการกับบริษัทบิทคับอย่างลูกหนี้ร่วมตามมาตรา 99 แห่ง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ประกอบมาตรา 317/11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2559 นอกจากนี้ ค.ม.พ. ได้กำหนดมาตรการห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเวลา 4 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 8 เดือน

 

สำหรับการกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และการกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับต่อจากวันสุดท้ายของระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารที่ ค.ม.พ. กำหนดในกรณีก่อนหน้าดังกล่าว 

 

โดยหากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

 

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

The post ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่งบอร์ด-ผู้บริหาร ‘บิทคับ’ 3 ราย สั่งปรับเงิน 75 ล้านบาท ฐานสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก.ล.ต. สั่งขยายเวลาอีก 30 วัน ให้ Bitkub แก้ไขเทคโนโลยีเหรียญ KUB-adminTransfer เพื่อลดความเสี่ยงที่มีกับสินทรัพย์ลูกค้า https://thestandard.co/sec-bitkub-kub-admintransfer/ Fri, 11 Nov 2022 02:40:23 +0000 https://thestandard.co/?p=707556

บอร์ด ก.ล.ต. ขยายเวลาให้ Bitkub อีกเป็นระยะเวลา 30 วัน […]

The post ก.ล.ต. สั่งขยายเวลาอีก 30 วัน ให้ Bitkub แก้ไขเทคโนโลยีเหรียญ KUB-adminTransfer เพื่อลดความเสี่ยงที่มีกับสินทรัพย์ลูกค้า appeared first on THE STANDARD.

]]>

บอร์ด ก.ล.ต. ขยายเวลาให้ Bitkub อีกเป็นระยะเวลา 30 วัน ประสานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB และแก้ไขในส่วนของ adminTransfer เพื่อลดความเสี่ยงผู้ถือเหรียญ KUB 

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 มีมติสั่งการให้ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) แก้ไขการดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน โดยประสานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB และแก้ไขในส่วนของ adminTransfer


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ทั้งนี้ เพื่อจำกัดผลกระทบในเชิงระบบจากความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ถือเหรียญ KUB จากการเข้าถึงระบบดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคำนึงถึงการแก้ไขในเชิงเทคนิค (By Design) และการลดโอกาสการแทรกแซงของบุคลากร รวมทั้งให้ Bitkub แสดงหลักฐานเกี่ยวกับการแก้ไขดังกล่าวอย่างชัดเจนต่อ ก.ล.ต. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565 โดยได้ครบกำหนดไปกำหนดเดิมไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565) นั้น

 

ขณะที่ต่อมา Bitkub ได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาดำเนินการตามคำสั่งของคณะกรรมการข้างต้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 15/2565 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่ Bitkub ยังไม่อาจดำเนินการประสานกับผู้ออกเหรียญให้แก้ไขในส่วนของมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB ตามการสั่งการของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และให้แก้ไขในส่วนของมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB และ adminTransfer 

 

โดยตามการสั่งการของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งครบกำหนด 30 วันเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 และ Bitkub ได้ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการมานั้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ สั่งการให้ Bitkub ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ครบกำหนดการสั่งการครั้งก่อน 

 

ทั้งนี้ การแก้ไขดังกล่าวให้คำนึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงของ adminTransfer และหากผู้ออกเหรียญ KUB เลือกการแก้ไขโดยการยกเลิก adminTransfer ให้ Bitkub ประสานผู้ออกเหรียญ KUB จัดให้มีการควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ถือเหรียญด้วย นอกจากนี้ ในระหว่างการแก้ไขตามการสั่งการดังกล่าว ให้ Bitkub ประสานผู้ออกเหรียญ KUB ให้ดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงนโยบายการควบคุมการใช้ adminTransfer ให้มีความรัดกุมมากขึ้นตามที่ Bitkub เสนอมา โดยต้องคำนึงถึงการควบคุมความเสี่ยงจากการเข้าถึงกุญแจและการอนุมัติคำสั่ง adminTransfer บน Smart Contract ด้วย

The post ก.ล.ต. สั่งขยายเวลาอีก 30 วัน ให้ Bitkub แก้ไขเทคโนโลยีเหรียญ KUB-adminTransfer เพื่อลดความเสี่ยงที่มีกับสินทรัพย์ลูกค้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก.ล.ต. สั่ง Bitkub ประสานงานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขในส่วน ‘adminTransfer’ ภายใน 30 วัน https://thestandard.co/kub-admintransfer-modify/ Fri, 07 Oct 2022 01:13:25 +0000 https://thestandard.co/?p=692408 เหรียญ KUB

มติคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีคำสั่งให้ Bitkub แก้ไขการดำเนินง […]

The post ก.ล.ต. สั่ง Bitkub ประสานงานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขในส่วน ‘adminTransfer’ ภายใน 30 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เหรียญ KUB

มติคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีคำสั่งให้ Bitkub แก้ไขการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน โดยประสานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB และแก้ไขในส่วนของ adminTransfer ภายใน 30 วัน เพื่อป้องกันความเสียหายของประชาชน 

 

ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 และครั้งที่ 10/2565 มีมติสั่งการให้บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ดำเนินการแก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการในศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายในวันที่ 4 สิงหาคม 2565 โดยให้ Bitkub ประสานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ Bitkub ได้พิจารณาไว้ (เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564) โดย Bitkub ได้มีหนังสือลงวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ชี้แจงการแก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการซื้อ-ขายในศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ได้พิจารณาคำชี้แจงข้อเท็จจริงของ Bitkub และเอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว พบข้อเท็จจริงใหม่ว่า เทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB มีระบบ adminTransfer ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ผู้ไม่หวังดีจะสามารถโอนสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ ได้หากเข้าถึงสิทธิ์ในระบบดังกล่าว อีกทั้งไม่ปรากฏการควบคุมเชิงเทคนิค (Technical Control) 

 

จึงพิจารณาได้ว่า การที่ Bitkub ให้บริการซื้อ-ขายเหรียญ KUB ซึ่งมี adminTransfer ที่ยังไม่ได้มีการคำนึงถึงความเสี่ยงตามที่กล่าวข้างต้น เป็นการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน

 

คณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 สั่งการให้ Bitkub แก้ไขการดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน โดยประสานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์เหรียญ KUB และแก้ไขในส่วนของ adminTransfer เพื่อจำกัดผลกระทบในเชิงระบบจากความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ถือเหรียญ KUB จากการเข้าถึงระบบดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคำนึงถึงการแก้ไขในเชิงเทคนิค (by Design) และการลดโอกาสแทรกแซงของบุคลากร รวมทั้งให้ Bitkub แสดงหลักฐานเกี่ยวกับการแก้ไขดังกล่าวอย่างชัดเจนต่อ ก.ล.ต. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565 และให้ Bitkub เปิดเผยความเสี่ยงเกี่ยวกับ adminTransfer ของเหรียญ KUB บนเว็บไซต์ของ Bitkub ภายใน 3 วันนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565

The post ก.ล.ต. สั่ง Bitkub ประสานงานกับผู้ออกเหรียญ KUB ให้แก้ไขในส่วน ‘adminTransfer’ ภายใน 30 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก.ล.ต. จี้อัยการฟ้องผู้กระทำผิดรวม 5 ราย จาก บิทคับ ออนไลน์ และ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ฐานสร้างวอลุ่มเทียมในศูนย์ซื้อขาย https://thestandard.co/sec-bitkub-online/ Tue, 27 Sep 2022 11:41:25 +0000 https://thestandard.co/?p=687546 ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณี […]

The post ก.ล.ต. จี้อัยการฟ้องผู้กระทำผิดรวม 5 ราย จาก บิทคับ ออนไลน์ และ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ฐานสร้างวอลุ่มเทียมในศูนย์ซื้อขาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และผู้กระทำความผิด 2 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่

 

  1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (บริษัทบิทคับ)
  2. อนุรักษ์ เชื้อชัย (อนุรักษ์) และ
  3. สกลกรย์ สระกวี (สกลกรย์)

 

กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub (ศูนย์ซื้อขาย Bitkub) ของบริษัทบิทคับ โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 24,161,292 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

 

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่

 

  1. บริษัทบิทคับ
  2. อนุรักษ์ และ
  3. สกลกรย์ 

 

โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวม 24,161,292 บาท ห้ามอนุรักษ์และสกลกรย์ ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามข่าว ก.ล.ต. ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นั้น

 

แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 24,161,292 บาท กำหนดห้ามอนุรักษ์และสกลกรย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้สกลกรย์ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัทบิทคับอย่างลูกหนี้ร่วม

 

ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่

 

  1. บริษัท LLC Fair Expo
  2. Mr.Mikalai Zahorski (Mr.Mikalai)

 

กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro (ศูนย์ซื้อขาย Satang) ของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทสตางค์) โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 12,080,646 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

 

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่

 

  1. บริษัท LLC Fair Expo
  2. Mr.Mikalai

 

โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 12,080,646 บาท ห้ามบริษัท LLC Fair Expo และ Mr.Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 6 เดือน และห้าม Mr.Mikalai เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามข่าว ก.ล.ต. ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นั้น

 

แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 12,080,646 บาท กำหนดห้าม Mr.Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้ Mr.Mikalai ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัท LLC Fair Expo อย่างลูกหนี้ร่วม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

The post ก.ล.ต. จี้อัยการฟ้องผู้กระทำผิดรวม 5 ราย จาก บิทคับ ออนไลน์ และ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ฐานสร้างวอลุ่มเทียมในศูนย์ซื้อขาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้บริหาร Bitkub Blockchain แจงชัด ไม่รู้เรื่องดีล SCB พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ย้ำถือลงทุนยาว https://thestandard.co/bitkub-blockchain-scb-deal/ Tue, 30 Aug 2022 13:06:18 +0000 https://thestandard.co/?p=674208 Bitkub Blockchain Technology

Bitkub Blockchain Technology เผย ‘สำเร็จ วจนะเสถียร’ ซึ […]

The post ผู้บริหาร Bitkub Blockchain แจงชัด ไม่รู้เรื่องดีล SCB พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ย้ำถือลงทุนยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bitkub Blockchain Technology

Bitkub Blockchain Technology เผย ‘สำเร็จ วจนะเสถียร’ ซึ่งเป็น CTO ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปกติ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในกระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีผู้บริหารใช้ข้อมูลภายในซื้อเหรียญ KUB ขณะที่สำเร็จชี้แจงความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ยืนยันไม่รู้ดีลซื้อหุ้น 

 

บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub Blockchain Technology) เผยแพร่ประกาศผ่านเพจ Facebook ของบริษัทว่า สำเร็จ วจนะเสถียร CTO ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งตามปกติ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


สืบเนื่องจากข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ 135/2565 เรื่อง ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อเหรียญ KUB โดยอาศัยข้อมูลภายใน ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นั้น บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (‘บริษัท’) ขอแจ้งให้ทราบว่า สำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer: CTO) ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวตามปกติ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในกระบวนการทางกฎหมาย โดยบริษัทจะติดตามและเรียนแจ้งให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบต่อไป

 

จากกรณีดังกล่าวบริษัทขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนการพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain และการดำเนินการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

 

บริษัทขอเรียนให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและต่อไปในอนาคต บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain ตามแผนงานที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับสาธารณะชนดังที่นำเสนอผ่านเอกสาร Whitepaper ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ Bitkub Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแรงของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงได้ และสร้างประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมและโปร่งใสต่อไป

 

ขณะเดียวกัน สำเร็จ วจนะเสถียร ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ระบุถึงกรณีที่ถูก ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อเหรียญ KUB ว่า ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวหาผมเรื่องการใช้ข้อมูลภายในสำหรับการซื้อเหรียญ KUB ของผม ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2564 – 2 พฤศจิกายน 2564 นั้น ผมอยากจะใช้ช่องทางนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและความบริสุทธิ์ใจของผม ดังนี้

 

ผมรู้กฎหมายเรื่อง Insider Trading เป็นอย่างดีว่าเวลาผมทำโปรเจกต์ ผมก็จะซื้อ KUB ไม่ได้ ดังนั้นผมจะมีช่วงเวลาสั้นๆ หลังโปรเจกต์เปิดตัว และยังไม่ได้เริ่มโปรเจกต์ใหม่ที่ผมจะลงทุนซื้อ KUB ได้ โดยก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าวผมอยากซื้อ KUB ในราคาที่ต่ำกว่า 30 บาท แต่ซื้อไม่ได้ เนื่องด้วยผมทำโปรเจกต์ Morning Moon ก่อนหน้านี้ สุดท้ายผมรอโปรเจกต์ Morning Moon เปิดตัว เลยต้องซื้อ KUB ได้ที่ราคา 30-32 บาท เพราะหากไม่ซื้อภายในช่วงเวลาดังกล่าว ผมก็จะต้องเริ่มโปรเจกต์ใหม่ และจะทำให้ผมไม่สามารถซื้อ KUB ได้อีกนาน ส่วนเวลาก่อนหน้านี้ก็ซื้อเพื่อแลกเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange ทันที

 

ช่วงเวลาที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ ผมเป็นผู้บริหาร BBT ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับ Exchange ดังนั้นผมกล้าพูดได้ว่าผมไม่รู้เรื่อง SCB ดีลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าผมรู้ผมคงขาย WAN, SNT, BNB, Ethereum ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านบาทแล้ว และคงลงเงินกับ KUB ไปให้หมดไปแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ผมลงทุนใน KUB ก็ใกล้เคียงกับเหรียญอื่นๆ ที่ผมมีส่วนตัว เป็นจำนวน 60,000 KUB ผมมองว่าจำนวนไม่ได้ผิดแปลก แต่เป็นความบังเอิญที่เป็นเวลาที่เขาทำดีลกันพอดี

 

การซื้อเหรียญ KUB ของผมมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว ดังจะเห็นได้ว่า หากผมซื้อเหรียญ KUB โดยมีเจตนาที่จะมุ่งหวังทำกำไรระยะสั้นแล้ว ผมคงเทขายเหรียญ KUB ทั้งหมดเพื่อทำกำไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผมยังไม่ได้ขายเหรียญ KUB ดังกล่าวเพื่อทำกำไรแต่อย่างใดจนถึงวันนี้ที่ผมพิมพ์ มีส่วนหนึ่งที่เอาไปแลกค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange เท่านั้น

 

เรื่องราวทั้งหมดผมได้บอก ก.ล.ต. แล้ว แต่ทาง ก.ล.ต. ก็ยังตัดสินลงโทษอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าผมกระทำผิด ผมจึงจะขอต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ผมขอยืนยันว่า ผมบริสุทธิ์ใจและยืนหยัดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของ Bitkub Chain ต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ดีและได้มาตรฐาน เพื่อให้คนไทยได้ใช้งานอย่างแพร่หลาย

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post ผู้บริหาร Bitkub Blockchain แจงชัด ไม่รู้เรื่องดีล SCB พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ย้ำถือลงทุนยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังพาวเวลล์ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าคุมเงินเฟ้อได้ https://thestandard.co/us-bond-yield/ Mon, 29 Aug 2022 12:20:10 +0000 https://thestandard.co/?p=673613 พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งแตะระด […]

The post Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังพาวเวลล์ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าคุมเงินเฟ้อได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลประเทศอื่นๆ ในเอเชียก็ถูกเทขายเช่นกัน หลังธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึง Fed ส่งสัญญาณว่าจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อจะกลับเข้าเป้าหมาย

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2007 หลัง เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวในการประชุมแจ็กสันโฮลว่า จุดยืนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปจนถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง 

 

นอกจากนี้ยังชี้ว่า บันทึกทางประวัติศาสตร์ยังเตือนเราอย่างหนักแน่นว่าไม่ควรผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควร สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุว่า มีความจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจของยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยก็ตาม

 

แอนดรูว์ ไทซ์เฮิร์สต์ นักกลยุทธ์จาก Nomura Holdings ในซิดนีย์ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีความคาดหวังว่าพาวเวลล์จะใช้นโยบายทางการเงินแบบตึงตัว (Hawkish) แต่ในวันศุกร์ที่ผ่านมาพาวเวลล์กลับแสดงท่าทีมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจที่ตลาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคลื่อนไหวมากขึ้นในคืนวันศุกร์ (26 สิงหาคม) ทำให้เรารักษามุมมองสำหรับเส้นผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไว้คงที่ หลังการสื่อสารของ Fed ในการประชุมแจ็กสัน โฮล ในช่วงสุดสัปดาห์

 

ทั้งนี้ การเทขายพันธบัตรรัฐบาลครั้งล่าสุดนี้ได้ลบล้างการเข้าซื้อในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนมองว่า ผู้กำหนดนโยบายจะชะลอการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

พันธบัตรรัฐบาลประเทศอื่นในเอเชียก็ถูกเทขายเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.14% อยู่ที่ 3.72% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 3.98%

 

ความเป็นผู้นำของ Fed ในการดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว (Hawkish Policy) ยังส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน โดย Bloomberg Dollar Spot Index พุ่งขึ้น 0.5% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะแตะ 3.82% จาก 3.68% ในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุนจาก GSFM มองว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะสูงกว่ายุโรปและสหราชอาณาจักร เพราะทั้งสองประเทศนี้ต้องเผชิญกับความผิดปกติทางเศรษฐกิจ (Economic Dysfunction) ทำให้ธนาคารกลางเผชิญกับความยุ่งยากในการขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วและแรงเช่นเดียวกับ Fed

 

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากถึง 0.08% อยู่ที่ 3.48% ขณะที่ผลตอบแทนในพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกันอยู่ที่ 3.13% ทำให้การผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี (The inversion of the yield curve) อยู่ที่ 0.36% ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ 0.58% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา


พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากธนาคารกลางประเทศอื่นๆ ได้ส่งข้อความที่ชัดเจนหลังจบการประชุมแจ็กสันโฮลว่า พวกเขาพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง แม้ว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ตาม

 

หลายฝ่ายพากันจับตารายงานตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ รวมถึงรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคฉบับต่อไปในวันที่ 13 กันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับ Fed และพันธบัตรทั่วโลก

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังพาวเวลล์ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าคุมเงินเฟ้อได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ส่อง 8 บริษัทจดทะเบียนที่ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub https://thestandard.co/8-bitkub-partner/ Fri, 26 Aug 2022 09:47:29 +0000 https://thestandard.co/?p=672481 บิทคับ

กลายเป็นข่าวสนั่นไปทั่วทั้งวงการคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อ […]

The post ส่อง 8 บริษัทจดทะเบียนที่ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>
บิทคับ

กลายเป็นข่าวสนั่นไปทั่วทั้งวงการคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อ SCBS ภายใต้บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) ยกเลิกธุรกรรมซื้อหุ้นบิทคับ (Bitkub) ที่เคยทำสัญญาจะซื้อหุ้นจำนวน 51% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท ส่งผลให้หุ้น SCB ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ปิดตลาดบวกไปกว่า 6.00 บาท หรือ +5.74% ขณะที่ราคาเหรียญ KUB ปรับตัวร่วงอย่างหนักติดลบกว่า 20%

 

ภาสกร ปานนอก CEO บริษัท Bitkub Blockchain Technology ได้ให้ข้อมูลกับทีมงาน THE STANDARD WEALTH ถึงพันธมิตรที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน พบว่ายังคงมีพันธมิตร Node Validator อยู่หลายบริษัท ซึ่งก็มีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมด้วย รวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่ร่วมแคมเปญ NFT ส่วนพันธมิตรที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการชำระสินค้า-บริการ ขณะนี้ได้พักโครงการไว้ชั่วคราวเพื่อรอความชัดเจนจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อน แล้วจึงค่อยหาแนวทางร่วมกันใหม่อีกครั้ง 

 

สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub ผ่าน Node Validator และแคมเปญ NFT มีดังนี้ 

 

  1. ANAN บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator

 

  1. GRAMMY บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การลงทุนในตลาด Music NFT 

 

  1. MINT บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) พันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator

 

  1. SIS บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator

 

  1. SPC บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) นำผลิตภัณฑ์มาม่าร่วมกับ Bitkub ออก NFT Collection ที่มีชื่อว่า NFT MAMA

 

  1. SO บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) พันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator

 

  1. TKN บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมแคมเปญ NFT ผ่านซองขนมสะสม ภาพมาสคอตกว่า 600,000 ชิ้น

 

  1. TPCS บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) พันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator

 

ด้าน ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ให้ข้อมูลกับทีมงาน THE STANDARD WEALTH โดยตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ตกลงร่วมกันยกเลิกการเข้าลงทุนในบิทคับออนไลน์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 กรณีที่ในโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่ SCBS ไปขอ License เอง จึงยกเลิกกับทางบิทคับไปนั้น กระบวนการการขอ License ของ SCB ได้ขอก่อนที่จะมีข้อตกลงร่วมก่อนหน้านี้ เพราะการขอ License ก.ล.ต. ที่เป็น Exchange ต้องใช้ระยะไม่ต่ำกว่า 1 ปี กว่าที่จะประกาศออกมาให้ใช้ได้ พื้นฐานปกติหลังจากที่ได้ License แล้วจะต้อง Activate ธุรกิจให้ได้ภายใน 180 วัน

 

Bitkub

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post ส่อง 8 บริษัทจดทะเบียนที่ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>
ย้อนรอยมหากาพย์ SCBX-Bitkub ก่อนดีลล่ม ปิดฉากยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย https://thestandard.co/scbx-bitkub-3/ Thu, 25 Aug 2022 13:08:48 +0000 https://thestandard.co/?p=672062 SCBX-Bitkub

การประกาศล้มดีลยกเลิกแผนเข้าลงทุนใน Bitkub ของกลุ่ม SCB […]

The post ย้อนรอยมหากาพย์ SCBX-Bitkub ก่อนดีลล่ม ปิดฉากยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
SCBX-Bitkub

การประกาศล้มดีลยกเลิกแผนเข้าลงทุนใน Bitkub ของกลุ่ม SCBX หรือยานแม่ ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนแวดวงคริปโตเคอร์เรนซีของไทยต่อเนื่องจากกรณีปัญหา Zipmex

 

หากย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 การประกาศส่งยานลูกอย่าง SCBS เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงคริปโตไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากดีลนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะส่งให้ Bitkub ก้าวขึ้นมาเป็นยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทยในทันที โดยกระแสข่าวเชิงบวกที่เกิดขึ้นนี้ได้ส่งผลให้ราคาเหรียญ KUB พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 580 บาท

 

อย่างไรก็ดี ในแถลงการณ์ของกลุ่ม SCBX ได้ให้รายละเอียดกำกับไว้ครั้งนั้นว่า การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 

นอกจากนี้ยังกำหนดเงื่อนไขว่า ผลการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน โดยคาดว่าการสอบทานจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปีนี้

 

ย้อนกลับไปในตอนนั้น อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เหตุผลของการเข้าลงทุนใน Bitkub เอาไว้ว่า

 

“ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหนึ่งในธุรกิจการเงินแห่งโลกอนาคตที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว การที่ ‘กลุ่ม SCBX’ เข้าไปลงทุนใน ‘Bitkub’ ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่มีความน่าเชื่อถือ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยให้ ‘กลุ่ม SCBX’ สามารถสร้างคุณค่าใหม่ที่สามารถเติบโตในระยะยาวไปกับโลกใหม่ได้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ยานแม่ SCBX ในการยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงิน สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า”

 

ขณะที่ จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้กล่าวว่า

 

“Bitkub ได้เดินมาถึงจุดที่เราได้กลายเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Digital Economy ต่อจากนี้ Bitkub ไม่ได้เป็นเพียงสตาร์ทอัพอีกต่อไป แต่กำลังจะก้าวมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อวงการการเงิน 3.0 ของประเทศไทย ในตอนนี้เราได้พา Bitkub มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก และเพื่อที่จะนำ Bitkub ให้ก้าวไปสู่ระดับโลก พวกเราต้องการพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งมาเป็นกำลังเสริมให้ไปถึงได้เร็วขึ้นอย่างยั่งยืน นั่นเป็นเหตุผลที่เราจับมือร่วมกับ SCBS”

 

โดยท๊อปยังระบุด้วยว่า การเข้ามาลงทุนใน Bitkub ของกลุ่ม SCBX ถือเป็นการประทับตรา ‘ยูนิคอร์น’ อีก 1 ตัวให้คนไทยทุกๆ คนได้ภาคภูมิใจ

 

อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่ไตรมาสแรกของปีนี้ตามกำหนดการ ปรากฏว่าธุรกรรมการซื้อขายกลับยังไม่มีวี่แววว่าจะแล้วเสร็จ โดยทั้ง SCB และ Bitkub ให้เหตุผลว่า การสอบทานธุรกิจยังไม่แล้วเสร็จ จนมีการขยายกรอบเวลาธุรกรรมออกมาเรื่อยๆ สอดคล้องกับราคาเหรียญ KUB ที่ทยอยปรับลดลง

 

จนเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา SCBX ได้ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งว่า จากการคาดการณ์ว่าธุรกรรมการซื้อขายหุ้นกับ Bitkub จะสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2565 นั้น ธุรกรรมดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการสอบทานทางธุรกิจและระหว่างการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ต้องขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปอย่างไม่มีกำหนด

 

ต่อมาภายในเดือนเดียวกัน มาณพ เสงี่ยมบุตร Chief Finance & Strategy Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เปิดเผยในงานแถลงข่าวว่า การเข้าลงทุนใน Bitkub ยังคงไม่มีพัฒนาการใหม่ๆ โดยดีลดังกล่าวได้มีการเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ Due Diligence และการเจรจาพูดคุย ตลอดจนปรึกษากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและหน่วยงานที่กำกับดูแล

 

“ดีลยังมีอยู่ แต่ใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และผลตอบแทน รวมไปถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม” มาณพกล่าว

 

การที่ดีลถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ประกอบกับกรณีที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) สั่งการให้ Bitkub แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ในการเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ศูนย์ซื้อขายฯ) ของ Bitkub ภายใน 30 วัน ทำให้เริ่มมีข่าวลือเรื่อง ‘ดีลล่ม’ เกิดขึ้นอย่างหนาหู

 

ในท้ายที่สุดข่าวลือก็กลายมาเป็นข่าวจริงในวันนี้ (25 สิงหาคม)​ เมื่อกลุ่ม SCBX ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการยกเลิกการเข้าลงทุนใน Bitkub โดยระบุว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (‘SCBS’ หรือ ‘ผู้ซื้อ’) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (‘บริษัทฯ’) เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (‘Bitkub’) จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (‘ผู้ขาย’) ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท รวมเรียกว่า ‘ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น’ นั้น

 

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ บริษัทฯ และ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub ในอีกหลายด้าน

 

อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้

 

ขณะที่ ท๊อป จิรายุส ได้โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่าการตัดสินใจยุติธุรกรรมซื้อขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ที่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนอย่างรอบด้าน และเห็นตรงกันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้

 

“ผมและทีมงานตลอดจนผู้บริหารต้องขอขอบพระคุณทาง SCBS ที่ได้ให้ความสนใจในสตาร์ทอัพและแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล ตลอดจนเล็งเห็นถึงศักยภาพของ Bitkub Exchange และมีอุดมการณ์ที่จะสนับสนุนให้บริษัทของคนไทยได้เติบโตและขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆ ได้ แต่ด้วยความล่าช้าของธุรกรรม จึงทำให้มีการยุติดีลในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้กับทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าต่อไป Bitkub เป็นองค์กรที่มีอนาคตมาก ในฐานะผู้บริหารและผู้นำองค์กร ผมและทีมงานทุกคนยังคงเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในการเป็น National Champion ใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่โลกอนาคต และเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค พวกเรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสให้กับทุกคนตามแนวทางที่เราเชื่อมั่นต่อไปครับ”

 

กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy และ Bitcoin Addict Thailand ประเมินว่า ดีลการเข้าลงทุนใน Bitkub ของกลุ่ม SCBX ที่ล่มลง อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนสูญเสียความเชื่อมั่นไปบ้างเนื่องจากการมีข่าวว่าผู้เล่นรายใหญ่อย่างไทยพาณิชย์สนใจเข้ามาลงทุนใน Bitkub ช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้หลายคนมองว่าแวดวงคริปโตเคอร์เรนซีในไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม การที่แถลงการณ์ระบุถึงสาเหตุของดีลล่มว่าเกิดจากการติดปัญหากับหน่วยงานกำกับดูแล ไม่ใช่เกิดจากการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ก็ช่วยให้ภาพลักษณ์ไม่ได้ออกมาแย่ ขณะเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ Bitkub ก็เพิ่งประกาศผลกำไรของธุรกิจ Exchange ที่กว่า 2 พันล้านบาท จึงมองว่าในแง่การดำเนินธุรกิจเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก

 

กานต์นิธิระบุอีกว่า ในมุมมองส่วนตัวยังมองว่าอนาคตของ Bitkub ไม่ได้น่ากังวล เพราะกำไรกว่า 2 พันล้านบาท น่าจะทำให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกหลายปี ขณะเดียวกัน ลักษณะการทำธุรกิจของ Bitkub คือเป็นคนกลางที่เก็บค่าธรรมเนียม ดังนั้นไม่ว่าราคาคริปโตจะขึ้นหรือลง บริษัทก็ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียม นอกจากนี้หากมองในแง่ดี การที่ดีลนี้ล้มไปอาจเปิดโอกาสให้เกิดดีลใหม่ๆ ขึ้นก็ได้

 

“ผลกระทบที่อาจจะเห็นได้ในตอนนี้คือการปรับลดลงของราคาเหรียญ KUB ซึ่งเป็นผลมาจากข่าว อาจมีนักลงทุนบางส่วนที่ต้องได้รับผลกระทบ แต่ผมมองว่า Bitkub ยังมีอนาคต ยังมีช่องทางให้ไปต่อได้อยู่” กานต์นิธิกล่าว

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The post ย้อนรอยมหากาพย์ SCBX-Bitkub ก่อนดีลล่ม ปิดฉากยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
กลุ่ม SCBX ประกาศล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub ดับฝันก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น ยกเหตุผลยังมีประเด็นค้างคากับ ก.ล.ต. ซึ่งไม่รู้จบเมื่อไร https://thestandard.co/scbx-bitkub-cancel/ Thu, 25 Aug 2022 08:06:01 +0000 https://thestandard.co/?p=671864 Bitkub

กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ประกาศยกเลิกการเข้าลงทุนใน บิทคับ ออ […]

The post กลุ่ม SCBX ประกาศล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub ดับฝันก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น ยกเหตุผลยังมีประเด็นค้างคากับ ก.ล.ต. ซึ่งไม่รู้จบเมื่อไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bitkub

กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ประกาศยกเลิกการเข้าลงทุนใน บิทคับ ออนไลน์ หลัง Bitkub ยังมีประเด็นที่ต้องดำเนินการแก้ไขตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)​ ซึ่งมีความไม่แน่นอนเรื่องระยะเวลา

 

กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการยกเลิกการเข้าลงทุนใน บิทคับ ออนไลน์ โดยระบุว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (‘SCBS’ หรือ ‘ผู้ซื้อ’) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (‘บริษัทฯ’) เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นใน บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (‘Bitkub’) จาก บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (‘ผู้ขาย’) ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท รวมเรียกว่า ‘ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น’ นั้น

 

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ บริษัทฯ และ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub ในอีกหลายด้าน

 

อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ SCBS ครั้งที่ 15/2565 จึงมีมติให้ SCBS ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต. ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) สั่งการให้ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยจะครบกำหนดวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 Bitkub ได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาดำเนินการตามคำสั่งของ ก.ล.ต. ซึ่งคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 10/2565 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ได้พิจารณาแล้ว มีมติอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 (1) แห่ง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ สั่งการให้ Bitkub ดำเนินการแก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามคำสั่งคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 ภายในเวลาทำการของ ก.ล.ต. ในวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาโดย ก.ล.ต.

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post กลุ่ม SCBX ประกาศล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub ดับฝันก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น ยกเหตุผลยังมีประเด็นค้างคากับ ก.ล.ต. ซึ่งไม่รู้จบเมื่อไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
เหรียญ KUB ดิ่งหนักกว่า 23% หลัง SCBX แจ้งล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub https://thestandard.co/kub-coin-fall/ Thu, 25 Aug 2022 07:37:40 +0000 https://thestandard.co/?p=671861 เหรียญ KUB

ราคา เหรียญ KUB ของ Bitkub ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากที่ S […]

The post เหรียญ KUB ดิ่งหนักกว่า 23% หลัง SCBX แจ้งล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>
เหรียญ KUB

ราคา เหรียญ KUB ของ Bitkub ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากที่ SCBX แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กลุ่ม SCBX และ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ตกลงที่จะยกเลิกการเข้าลงทุนใน บิทคับ ออนไลน์ เป็นที่เรียบร้อย

 

กรณีข่าวดังกล่าวส่งผลต่อราคาเหรียญ KUB โดยตรง ซึ่งล่าสุด ณ เวลา 14.00 น. เหรียญ KUB เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 57.01 บาท ลดลงราว 23% จากช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (‘SCBS’ หรือ ‘ผู้ซื้อ’) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (‘บริษัทฯ’) เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นใน บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (‘Bitkub’) จาก บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (‘ผู้ขาย’) ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท รวมเรียกว่า ‘ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น’ นั้น

 

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ บริษัทฯ และ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub ในอีกหลายด้าน

 

อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติ อันเป็นนัยสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้

 

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ SCBS ครั้งที่ 15/2565 จึงมีมติให้ SCBS ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post เหรียญ KUB ดิ่งหนักกว่า 23% หลัง SCBX แจ้งล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub appeared first on THE STANDARD.

]]>