บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 03 May 2025 03:31:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘หัวเว่ย’ รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เผยดีมานด์โซลาร์, ESG และ Data Center ในไทยสูง จากกลุ่มลูกค้าบิ๊กคอร์ป, โรงงาน และห้างสรรพสินค้า https://thestandard.co/huawei-solar-esg-data-center/ Sat, 03 May 2025 03:31:26 +0000 https://thestandard.co/?p=1070804

หัวเว่ย รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เปิดตัว LUNA20 […]

The post ‘หัวเว่ย’ รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เผยดีมานด์โซลาร์, ESG และ Data Center ในไทยสูง จากกลุ่มลูกค้าบิ๊กคอร์ป, โรงงาน และห้างสรรพสินค้า appeared first on THE STANDARD.

]]>

หัวเว่ย รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เปิดตัว LUNA2000-215 Series ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบระบายความร้อนแบบไฮบริดป้อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) เผยดีมานด์โซลาร์เซลล์, ESG และ Data Center ในไทยสูง จากกลุ่มลูกค้าโรงงาน ห้างสรรพสินค้า องค์กร บริษัทชั้นนำ 

 

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จัดงาน Asia Pacific C&I Future Energy Summit 2025 โดยภายในงานมีการเสวนาร่วมกับ ผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยสรุปเทรนด์พลังงานในประเทศไทยขณะนี้ว่า ภาคเอกชนมีความต้องการพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ เพิ่มมากขึ้นจากปัจจัยเทรนด์โลก ที่มุ่งสู่พลังงานสะอาด 

 

หัวเว่ยฯ ในประเทศไทย จึงเน้นย้ำบทบาทของการเป็นผู้นำขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาคด้วยการพัฒนาและบริการโซลูชันด้านพลังงานหมุนเวียน ที่มีเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานเข้ามาบริการลูกค้า โดยเฉพาะ ระบบ C&I Smart Hybrid Cooling ESS ซึ่งเป็นโซลูชันจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โซลูชันการชาร์จของผู้บริโภคในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งหัวเว่ยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด ทั้งในแง่ของยอดขายและผู้พัฒนาโซลูชันที่ครบวงจร

 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังเห็นตรงกันว่าพลังงานสะอาดในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตดี เห็นได้จากนักลงทุนในกลุ่ม Data Center ที่เตรียมลงทุนในไทย ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมากและต้องการพลังงานสีเขียว จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่จำเป็นต้องใช้โซลูชันนี้ ขณะเดียวกัน หัวเว่ยก็มีส่วนช่วยผลักดันให้ไทยเป็น Digital Hub ของภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องรอความชัดเจนในการขายไฟให้รัฐจากการกักเก็บพลังงาน เนื่องจากปัจจุบันการเก็บพลังงานรูปแบบ Energy Storage เป็นเพียงการเก็บไว้ใช้เองเท่านั้น แต่กฎหมายยังไม่สามารถขายไฟให้รัฐได้ หากปลดล็อกตรงส่วนนี้ได้เชื่อว่าความต้องการใช้พลังงานสะอาดหรือการติดแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

 

ซุน เสี่ยวเฟิง ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Global Smart PV ของ Huawei Digital Power กล่าวว่าไทยคือโอกาสและเป็นความท้าทายในตลาดพลังงานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หัวเว่ยจึงมุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมภูมิภาคนี้

 

แจ็ค ตง ประธานฝ่ายขายและบริการระบบ PV ภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรมระดับโลก Huawei Digital Power บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ระบุเสริมว่า เทรนด์การพัฒนาขององค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน (Environment, Social, และ Governance หรือ ESG) ของโลก ทำให้ทุกองค์กรพยายามลดการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พยายามดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม และมุ่งหน้าไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป็นศูนย์ (Net Zero) เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องการจะเป็น Digital Hub

 

ดังนั้น ภาครัฐจึงมีนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาด ตามแผนพัฒนาไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP และแต่ละองค์กรจำเป็นต้องลงทุนกับ ESG ซึ่งเทคโนโลยีนี้ของหัวเว่ยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงงานผลิตจิวเวลรี หรือลูกค้าองค์กร อย่าง บริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอเรชั่น จำกัด, หน่วยธุรกิจบริหารจัดการพลังงานและนวัตกรรม PEA ENCOM, บริษัท Mott Macdonald, บริษัท ไนซ์ เอ็นไวร์พาวเวอร์ เมเนจเม้นท์ จำกัด รวมถึงTÜV Rheinland Group ล้วนเป็นกลุ่มตัวอย่างที่นำโซลูชันเข้าไปใช้ในองค์กร และในอนาคตจะไม่ใช่แค่องค์กรขนาดใหญ่ แต่ระดับครัวเรือนจะหันมาใช้โซลูชันเหล่านี้มากขึ้นอีกด้วย

 

“การเปิดตัว LUNA2000-215 Series ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบระบายความร้อนแบบไฮบริดสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) ระบบกักเก็บพลังงานนี้คือผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพโดยรวมสูงถึง 91.3% การบำรุงรักษาอัจฉริยะ ยืดหยุ่นสูงใช้งานได้กับทุกโซลูชัน จากพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงานที่ให้ทุกคนเข้าถึงได้” แจ็ค ตง กล่าว

The post ‘หัวเว่ย’ รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เผยดีมานด์โซลาร์, ESG และ Data Center ในไทยสูง จากกลุ่มลูกค้าบิ๊กคอร์ป, โรงงาน และห้างสรรพสินค้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับเทรนด์พลังงานสะอาด! ศุภาลัยจับมือหัวเว่ยและไอออน เอนเนอร์ยี่ นำร่องติดตั้ง Solar Roof 1,500 หลัง ตั้งเป้า 15,000 หลังภายในปี 2571 https://thestandard.co/supalai-solar-roof-goal/ Thu, 28 Mar 2024 01:46:27 +0000 https://thestandard.co/?p=916404 ศุภาลัย Solar Roof

ปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุ […]

The post จับเทรนด์พลังงานสะอาด! ศุภาลัยจับมือหัวเว่ยและไอออน เอนเนอร์ยี่ นำร่องติดตั้ง Solar Roof 1,500 หลัง ตั้งเป้า 15,000 หลังภายในปี 2571 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศุภาลัย Solar Roof

ปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อลุยภารกิจพิชิต Net Zero สู่อนาคตที่ยั่งยืน

 

นี่เองทำให้เทรนด์ติดตั้ง Solar Roof มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัย (Residential) ด้วยเหตุผลภาระค่าไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันแปรของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและการซื้อไฟฟ้า ส่งผลให้ค่า FT มีการปรับตัวสูงขึ้น หากมีพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ก็จะทำให้ภาพรวมภาระค่าไฟฟ้าต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอีกด้วย

 

จุดนี้เองเลยกลายเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน), บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในการร่วมกันทำโครงการ Solar Roof

 

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของศุภาลัยจะใช้เป็นต้นแบบเรื่องการบริหารจัดการพลังงานที่ยั่งยืน ในขณะที่ไอออน เอนเนอร์ยี่ จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการต่างๆ

 

โดยระบบดังกล่าวจะมาจากหัวเว่ยร่วมออกแบบและติดตั้ง Solar Roof ให้กับบ้านในโครงการของศุภาลัย และเซ็ตมาตรฐานการติดตั้งด้วยอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ระดับ Tier 1 คู่กับ Huawei Inverter และสายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล (BCC)

 

ที่ผ่านมาหัวเว่ยมีบริการรวมถึงโซลูชันต่างๆ ที่ได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในตลาดมากกว่า 170 ประเทศ ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บพลังงาน การนำไปใช้งาน และความปลอดภัยในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน

 

ภายใต้เป้าหมายในการสนับสนุนโครงการจำนวน 30,000 โครงการในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถลดก๊าซคาร์บอนได้ถึง 265,000 ตัน ตามเป้าหมายเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย

 

“ในเฟสแรกได้ดำเนินแผนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกบ้านศุภาลัย ประเดิม 1,500 หลังทั่วประเทศ พร้อมดูแลระบบติดตั้ง บำรุงรักษา รวมถึงความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งาน และร่วมกันผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน” ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

ขณะเดียวกันได้มีการตั้งเป้าเพื่อพิชิตยอด 15,000 หลัง ภายในปี 2571 โดยปัจจุบันได้อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่จะดำเนินการติดตั้งไปแล้วกว่า 30% ครอบคลุมกว่า 29 จังหวัด 

 

ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสามารถคำนวณยอดผลิตกระแสไฟฟ้ารวมได้ 82,300 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 49,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เสมือนการปลูกต้นไม้ทดแทน 3.2 ล้านต้น และลูกบ้านศุภาลัยสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20,000-30,000 บาทต่อปี

 

และในอนาคตมีแผนพัฒนาเพิ่มช่องทางการ Tracking ติดตามพร้อมควบคุมการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน SABAI สามารถใช้งานได้อย่างครบวงจรมากขึ้น

The post จับเทรนด์พลังงานสะอาด! ศุภาลัยจับมือหัวเว่ยและไอออน เอนเนอร์ยี่ นำร่องติดตั้ง Solar Roof 1,500 หลัง ตั้งเป้า 15,000 หลังภายในปี 2571 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Huawei ประกาศเดินหน้าเรื่องปัญญาประดิษฐ์ เตรียมปรับแต่ง AI ให้มีความเฉพาะตัวสำหรับประเทศไทย สามารถพูดภาษาไทยได้ คาดใช้จริงต้นปีหน้า https://thestandard.co/huawei-announces-progress-on-ai/ Tue, 19 Dec 2023 08:13:14 +0000 https://thestandard.co/?p=878446

“โลกอัจฉริยะแห่งอนาคตได้มาถึงแล้ว เราคาดว่า 50% ของฟังก […]

The post Huawei ประกาศเดินหน้าเรื่องปัญญาประดิษฐ์ เตรียมปรับแต่ง AI ให้มีความเฉพาะตัวสำหรับประเทศไทย สามารถพูดภาษาไทยได้ คาดใช้จริงต้นปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>

“โลกอัจฉริยะแห่งอนาคตได้มาถึงแล้ว เราคาดว่า 50% ของฟังก์ชันหลักในหน่วยงานและธุรกิจต่างๆ จะต้องหันมาใช้ AI ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อปลดล็อกมูลค่าทางธุรกิจให้เต็มศักยภาพมากขึ้น” เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด

 

สืบเนื่องจากการเปิดตัว Pangu Model 3.0 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของค่าย Huawei เมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนี้ ที่มีเป้าหมายมุ่งเน้นสนับสนุนการเข้าถึง AI ให้เป็นไปได้กับทุกอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วน โดยตัวโมเดลสามารถปรับแต่งให้ตรงตามบริบทของแต่ละประเภทธุรกิจ และตามสถานการณ์ที่หลากหลายได้อย่างเฉพาะเจาะจง

 

วานนี้ (18 ธันวาคม) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) บนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ภายในงานประชุม Huawei Cloud AI Summit Thailand 2023 เพื่อผลักดันประเทศไทยให้สามารถพัฒนาไปสู่ยุคดิจิทัลได้อีกระดับ โดยใจความสำคัญของข้อตกลงแบ่งออกได้เป็น 4 ประการ ดังนี้

 

Localization: เป็นการปรับแต่ง AI ให้มีความเฉพาะตัวสำหรับประเทศไทย เพราะแต่ละประเทศมีกระบวนความคิดในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตัวอย่างการใช้งานโมเดลสำหรับภาษาไทย เช่น การใช้ในหน่วยงานรัฐบาล การเงินและค้าปลีก โดยโมเดลภาษาไทยที่ Huawei สร้างขึ้นได้ผ่านการฝึกฝนด้วยคลังข้อมูลของบริษัทที่สะสมมากว่า 30 ปี และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในไฮไลต์ของงานคือการที่เดวิดสามารถพูดผ่านวิดีโอที่อัดไว้เป็นภาษาไทยได้อย่างชัดเจน

 

Industry-Centric: เน้นความสามารถในการปรับความชำนาญของโมเดล AI ให้เชี่ยวชาญและมีความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้นๆ ที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน

 

Ecosystem: Huawei ต้องการสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี AI ที่ได้มาตรฐานระดับโลก แต่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานในประเทศต่างๆ ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งแปลว่าความสามารถของบุคลากรก็เป็นสิ่งจำเป็น และต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งรัฐและเอกชน โดย Huawei Cloud ได้ร่วมมือกับองค์กรธุรกิจและมหาวิทยาลัยต่างๆ กว่า 40 สถาบัน เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยี โดยการร่วมเปิดตัว Cloud & AI Community Thailand และเชิญชวนพันธมิตรของ Huawei เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มเติม เพื่อเปลี่ยนไทยจากผู้ใช้งาน AI ให้กลายเป็นผู้สร้าง AI

 

Security: อีกประเด็นที่ต้องมีการวางกฎเกณฑ์ และอาศัยความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งบริษัทและผู้กำกับนโยบาย ในการให้ AI ถูกใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นอย่างแรกที่เดวิดเน้น เพราะโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยจะสามารถนำไปสู่การต่อยอดที่มั่นคงต่อไปได้

 

ในส่วนของภาครัฐ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “เรามีความตั้งใจพัฒนาระบบคลาวด์กลางของรัฐ GDCC เพื่อสร้างฐานความรู้ร่วมกันให้เกิดเทคโนโลยี AI ของไทยร่วมกันกับ Huawei โดยมีเป้าหมายที่ต้องการสร้างสังคมดิจิทัลผ่านการฝึกอบรมธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพให้มีทักษะเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าไทยยังมีคนเก่งด้านนี้เป็นจำนวนน้อย” 

 

สำหรับภาครัฐเอง ประโยชน์ที่จะได้คือการที่ Huawei Cloud จะเสนอกระบวนการทำงานของรัฐบาลโดยเข้าไปเริ่มตั้งแต่การให้ความรู้ ความเข้าใจ ไปจนถึงการจัดการและตัดสินใจที่จะทำให้คำร้องขอของประชาชนมีการจัดการที่เป็นไปแบบอัตโนมัติ และทำได้ตลอดเวลา ทำให้บริการภาครัฐบาลรักษาคุณภาพและความมั่นคงได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนบุคลากร

The post Huawei ประกาศเดินหน้าเรื่องปัญญาประดิษฐ์ เตรียมปรับแต่ง AI ให้มีความเฉพาะตัวสำหรับประเทศไทย สามารถพูดภาษาไทยได้ คาดใช้จริงต้นปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
แสนสิริ ปลดล็อก ‘สินเชื่อแผงโซลาร์’ ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วางเป้าติดตั้ง 10,000 หลัง ลดคาร์บอน 42,000 ตัน ภายใน 5 ปี https://thestandard.co/sansiri-solar-panel-loan/ Fri, 18 Aug 2023 03:16:38 +0000 https://thestandard.co/?p=830537

การเข้าถึงพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย ยังคงมีข้อจำกัดในก […]

The post แสนสิริ ปลดล็อก ‘สินเชื่อแผงโซลาร์’ ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วางเป้าติดตั้ง 10,000 หลัง ลดคาร์บอน 42,000 ตัน ภายใน 5 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>

การเข้าถึงพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย ยังคงมีข้อจำกัดในการเข้าถึง ทั้งอุปกรณ์และการติดตั้งยังมีต้นทุนที่ราคาสูง ถึงแม้ว่าต้นทุนเหล่านี้จะเริ่มมีการปรับราคาลดลง แต่ก็ยังเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงด้านแหล่งเงินทุน

 

ในขณะที่การปฏิวัติการเข้าถึงพลังงานสะอาดของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะระดับครัวเรือน ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่แสนสิริต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นจริงและยั่งยืน เนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวไปสู่ Net Zero ในระดับประเทศและระดับโลกต่อไปได้

 

เมื่อรวมเหตุผลทั้ง 2 เข้าด้วยกัน กลายเป็นที่มาของแสนสิริ ได้ร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด และ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี จำกัด ผนึกกำลังในการมอบบริการสินเชื่อเพื่อบ้านรักษ์โลก เพื่อให้ลูกบ้านได้ติดตั้งแผงโซลาร์ด้วยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0% ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันครั้งแรกในประเทศไทย

 

โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบ้านในโครงการของแสนสิริทั้งหมด โดยเฉพาะบ้านในโครงการแสนสิริที่ยังไม่เคยติดแผงโซลาร์ และมีนิติดูแล โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กว่า 300 โครงการ และนอกจากนี้บ้านในทุกโครงการใหม่ของแสนสิริในทุกระดับเซ็กเมนต์ที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มจากเดิมที่แสนสิริติดตั้งให้ เพื่อรองรับการใช้งานและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้น 

 

“ความร่วมมือครั้งนี้ ตั้งเป้าติดตั้งแผงโซลาร์ 100% จำนวน 10,000 ครัวเรือน ภายใน 5 ปี คาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ 42,000 ตันคาร์บอนต่อปี” อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว 

 

ที่ผ่านมาแสนสิริตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 เพื่อมุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ปัจจุบันแสนสิริได้ติดตั้ง Solar Roof ไปแล้วกว่า 800 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 1,145 ตันคาร์บอน ติดตั้ง EV Charger ไปแล้ว 400 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 537 ตันคาร์บอน กำจัดของเสียในที่อยู่อาศัยแล้ว 1.7 ล้านกิโลกรัม เทียบเท่าการลดปริมาณคาร์บอนแล้วกว่า 1,174 ตันคาร์บอน เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้แล้ว 73,661 ต้น เทียบเท่าการลดคาร์บอนกว่าแล้ว 700 ตันคาร์บอน

 

ปัจจุบันแสนสิริมีพอร์ตลูกค้าแนวราบรวมทั้งสิ้น 249 โครงการ หรือคิดเป็นกว่า 79,000 ยูนิต ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกบ้านทุกกลุ่ม และลูกบ้านจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้เข้าร่วมแคมเปญได้อย่างเท่าเทียม

The post แสนสิริ ปลดล็อก ‘สินเชื่อแผงโซลาร์’ ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วางเป้าติดตั้ง 10,000 หลัง ลดคาร์บอน 42,000 ตัน ภายใน 5 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
กสิกรไทยจับมือหัวเว่ย หนุนสินเชื่อสีเขียว ชวนติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ 30,000 หลังภายใน 1 ปี https://thestandard.co/kbank-joins-hands-with-huawei-support-green-credit/ Wed, 18 May 2022 09:56:48 +0000 https://thestandard.co/?p=630314 กสิกรไทย

กสิกรไทยจับมือหัวเว่ยสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวให้ผู้รับเห […]

The post กสิกรไทยจับมือหัวเว่ย หนุนสินเชื่อสีเขียว ชวนติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ 30,000 หลังภายใน 1 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
กสิกรไทย

กสิกรไทยจับมือหัวเว่ยสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวให้ผู้รับเหมาติดตั้ง, เจ้าของบ้าน และเจ้าของธุรกิจ หวังให้มีบ้านติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ 30,000 หลังคาเรือน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.65 แสนตันภายใน 1 ปี 

 

พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ในปีนี้ตลาดหลังคาโซลาร์เซลล์ภาคธุรกิจจะมีการติดตั้งเพิ่มขึ้น 125.9 เมกะวัตต์ เติบโตขึ้น 54.2% จากปีก่อน รวมถึงในภาคครัวเรือนก็เติบโตขึ้นจากโครงการบ้านใหม่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และผู้บริโภคก็ให้ความสนใจมากขึ้นจากกระแสรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มของค่าไฟที่สูงขึ้น

 

ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ร่วมมือกับหัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดดิจิทัลพาวเวอร์และมีเครือข่ายผู้ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง สนับสนุน Green Ecosystem ที่จะส่งมอบทั้งด้านการเงินและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมให้แก่ผู้ใช้งานครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือผู้รับเหมาติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์, เจ้าของบ้าน และเจ้าของธุรกิจ เพื่อชวนให้ทุกคนมาร่วมกันรักษ์โลกและได้ประโยชน์จากการลดค่าไฟฟ้า โดยบ้านหนึ่งหลังจะลดค่าไฟได้ประมาณ 36,500 บาทต่อปี เมื่อติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ 5 กิโลวัตต์

 

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผสมผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมสังคมสีเขียวในประเทศไทย ด้วยจุดแข็งของหัวเว่ยในด้านการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะพลังงานดิจิทัล บวกกับความเป็นผู้นำด้านการเงินของธนาคารกสิกรไทย จะช่วยส่งมอบโซลูชันทางการเงินรูปแบบต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว โดยจะกระตุ้นตลาดโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่สนใจการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในภาคครัวเรือน ด้วยข้อเสนอหรือการผ่อนชำระพิเศษของธนาคารกสิกรไทย

 

นอกจากนั้นหัวเว่ยยินดีที่จะร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในโครงการอื่นๆ สำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เพื่อสร้างกรณีตัวอย่างให้มากขึ้นในตลาด โดยหัวเว่ยจะผลักดันให้ผู้ติดตั้งระบบทั่วประเทศร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยและศูนย์การค้าต่างๆ ในการจัดงานโรดโชว์ เพื่อช่วยให้คนทั่วไปเข้าใจเรื่องโซลูชันโซลาร์เซลล์สำหรับใช้ในภาคครัวเรือนของหัวเว่ย และเข้าใจโครงการ ‘GO GREEN Together’ ของธนาคารกสิกรไทยมากยิ่งขึ้น 

 

อีกทั้งยังร่วมกับพาร์ตเนอร์รายต่างๆ เพื่อส่งมอบการฝึกอบรมทางเทคโนโลยีทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ในทุกสัปดาห์ ช่วยให้วิศวกรไฟฟ้าสามารถเรียนรู้ทักษะด้านการดีไซน์ การติดตั้ง และการบำรุงรักษา จนเกิดความเชี่ยวชาญ และช่วยให้ได้รับโอกาสหน้าที่การงานใหม่ๆ นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังช่วยหัวเว่ยในการฝึกอบรมพาร์ตเนอร์ให้มีความเข้าใจในเรื่องการเงิน ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถหาแหล่งเงินทุนได้

 

ปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนในประเทศไทยที่หันมาติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเทรนด์ตลาดบ่งชี้ว่า น่าจะมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์มากถึง 80,000 ครัวเรือนภายในปี 2565 เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟ ทั้งนี้ อัตราเฉลี่ยของระยะเวลาการคืนทุน (Payback Period) ในการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 5 ปี 

 

เจ้าของบ้านที่ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ยังสามารถเลือกข้อเสนอพิเศษจากธนาคารกสิกรไทยที่ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในบ้านลงไปได้มากแล้ว ผู้ติดตั้งยังจะได้รับโซลูชันอินเวอร์เตอร์ที่มีประสิทธิภาพ, มีความน่าเชื่อถือ, มีความเสถียรจากหัวเว่ย และสามารถดูข้อมูลกระแสไฟฟ้าผ่านมือถือได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีส่วนช่วยสนับสนุนเรื่องการพัฒนาคาร์บอนต่ำในประเทศอีกทางหนึ่ง

 

นอกจากนี้หัวเว่ยยังลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการแบบ End-to-End (E2E) ลงกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน และยังมีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 2.7 เท่า 

 

หัวเว่ยได้ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาบริการเชิงนวัตกรรมด้านดิจิทัลพาวเวอร์ ทำให้สามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไปได้ถึง 230 ล้านตัน

 

สำหรับความร่วมมือการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวในครั้งนี้มีรายละเอียดดังนี้ 

 

  1. ผู้รับเหมาติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์: สนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้หมุนเวียนและเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ เพื่อให้ผู้รับเหมาสามารถรับงานได้อย่างคล่องตัว ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ธนาคารจะให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่ผู้รับเหมาที่ดำเนินธุรกิจลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์บนอาคาร และจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาวในราคาประหยัดให้แก่เจ้าของอาคาร
  2. เจ้าของบ้าน: สนับสนุนสินเชื่อบ้านเพื่อติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ โปรโมชันพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี 
  3. เจ้าของธุรกิจ: สนับสนุนสินเชื่อธุรกิจเพื่อติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ โปรโมชันพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 8 ปี

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post กสิกรไทยจับมือหัวเว่ย หนุนสินเชื่อสีเขียว ชวนติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ 30,000 หลังภายใน 1 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Huawei เดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานในไทยและเอเชียแปซิฟิก ย้ำความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญที่สุด ต้องเก็บไว้ภายในประเทศเท่านั้น https://thestandard.co/huawei-powering-digital-thailand-2022/ Thu, 18 Nov 2021 09:15:34 +0000 https://thestandard.co/?p=561367 Huawei

Huawei เตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่าง 5G, เทคโนโลยีคล […]

The post Huawei เดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานในไทยและเอเชียแปซิฟิก ย้ำความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญที่สุด ต้องเก็บไว้ภายในประเทศเท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
Huawei

Huawei เตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่าง 5G, เทคโนโลยีคลาวด์ และ AI ในเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งในไทยด้วย โดยเปิดตัวในงาน ‘POWERING DIGITAL THAILAND 2022’ ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับบริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน), มูลนิธิอาเซียน และพาร์ตเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมไอซีทีอีกกว่า 50 รายทั่วไทย

 

หลินไป่เฟิง ประธานบริหารหัวเว่ยเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ทาง Huawei เองมองว่าตลาดเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่สำคัญและมีศักยภาพเติบโตอย่างมาก และการแพร่ระบาดใหญ่ทำให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเรามองว่าอาเซียนจะมีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่ใน 5 อันดับแรกของโลกภายในปี 2025 รวมถึงจะมีขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 32 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 อีกด้วย”

 

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า “มีงานวิจัยของ Global Intelligence Index พบว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้จะยังขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีมากถึง 47 ล้านคนภายในปี 2030 โดย Huawei จะให้การสนับสนุนในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคนี้ โดยเราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงไทยให้มีความเชื่อมต่อกัน รวมถึงพัฒนา 5G, เทคโนโลยีคลาวด์ และ AI ซึ่งเราจะพัฒนาเทคโนโลยีให้ครอบคลุมทั่วถึง เพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนั้นเรายังจะพัฒนาเทคโนโลยีช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในภูมิภาคนี้อีกด้วย โดยเป้าหมายเราคือจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 80%”

 

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหารหัวเว่ยเทคโนโลยีประเทศไทย กล่าวว่า “ในประเทศไทยมีการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตไวกว่า GDP ของประเทศ โดยไทยมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่และแบบไม่เคลื่อนที่เติบโตขึ้นถึง 10% และใช้บริการคลาวด์เพิ่มขึ้น 7% นอกจากนั้นการปรับเข้าสู่ดิจิทัลจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลกลงถึง 10 เท่าอีกด้วย

 

“งานวิจัยในไทยระบุว่า เทคโนโลยี 5G จะทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นถึง 2.3 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของ GDP ภายในปี 2035 ซึ่งเทคโนโลยี 5G นี้ ประเทศไทยถือว่าเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน มีผู้ใช้ 5G ในไทยถึง 43 ล้านคน โดย Huawei จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยมีการใช้ 5G ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจ รวมถึงเรากำลังเพิ่มการนำ 5G ไปใช้กับโรงงานต่างๆ กว่า 100 โรงงานในไทย

 

“นอกจากนั้นการใช้งานคลาวด์ในไทยมีการเพิ่มขึ้นถึง 78% ในปีนี้ ซึ่งประเด็นที่หลายคนกังวลคือการเก็บข้อมูล เรามองว่าในยุคนี้ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นการเก็บข้อมูล หรือมี Data Center ภายในประเทศ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะเห็นได้ว่าหลายประเทศมีการออกมาตรการต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลไว้ในประเทศแล้ว รวมถึงไทยเอง ซึ่ง Huawei ถือเป็นผู้ให้บริการเพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่มี Data Center เพื่อเก็บข้อมูลไว้ภายในประเทศต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการด้านการเก็บข้อมูลของประเทศนั้นๆ ซึ่งประเทศไทยมี Data Center ของ Huawei เพื่อเก็บข้อมูลให้อยู่ภายในประเทศถึง 3 แห่งแล้ว” 

 

ด้าน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “นอกจากภาคประชาชนแล้ว ภาครัฐก็ต้องเป็นดิจิทัลด้วย ซึ่งในขณะนี้ไทยเรามียูนิคอร์นถึง 3 ตัวแล้ว และจะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ จากการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ว่าจะด้านภาษีและด้านอื่นๆ”

 

ขณะที่ ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “ในขณะนี้โรงงานไทยมีการใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือ Automation อยู่ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ Huawei จะเข้ามาช่วยพัฒนาให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าขึ้นไปอีก นอกจากนั้นเรายังกำลังดูเรื่องโลกเสมือน หรือ Metaverse อยู่อีกด้วย”

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

The post Huawei เดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานในไทยและเอเชียแปซิฟิก ย้ำความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญที่สุด ต้องเก็บไว้ภายในประเทศเท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>