คุณภาพของบริการหลังการขายที่ดีของฮอนด้าเริ่มต้นด้วยการมี ‘บริการที่หลากหลาย ครบวงจร’ ซึ่งภายใต้ศูนย์บริการของฮอนด้าที่มีกว่า 229 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ผู้ใช้รถยนต์ของฮอนด้าจึงสามารถวางใจด้วยจำนวนสาขาที่ครอบคลุมกระจายตามโลเคชันต่างๆ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถในปัจจุบันสำหรับผู้บริโภค นอกเหนือจากสมรรถนะตัวรถยนต์ ดีไซน์ ราคา และการเป็นตัวเลือกรถที่ดีที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน ‘บริการหลังการขาย’ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการพิจารณาซื้อรถยนต์เช่นกัน

เหตุผลก็เพราะว่า รถยนต์ไม่เหมือนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีอายุการใช้งานสั้น มี Cost หรือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนที่ต่ำ ตรงกันข้าม เพราะต้องเน้นการใช้งานระยะยาว คงสภาพเขา (รถ) ให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด ภายใต้งบประมาณในการดูแล บำรุงรักษาตัวรถที่สมเหตุสมผล คุ้มค่ากับทุกสตางค์ที่เราต้องจ่ายออกไป มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่การเลือกซื้อรถจากแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่สามารถการันตีได้ถึงคุณภาพของแบรนด์ บริการหลังการขายที่ดี จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทุกวันนี้ให้ความสำคัญ

หนึ่งในแบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่นที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างยาวนาน ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจากรุ่นสู่รุ่นถึงคุณภาพของตัวรถ และบริการหลังการขายก็คือ ‘ฮอนด้า’

โดยฮอนด้าสื่อสารอย่างต่อเนื่องถึงคุณภาพบริการหลังการขายของพวกเขาในช่วงที่ผ่านมา คือการเน้นสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจถึงคุณภาพของบริการที่ดี เหมาะสมกับราคา ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพของการให้บริการผู้ใช้งานที่ดีต่อเนื่อง มั่นใจในบริการไม่เสื่อมคลาย นอกเหนือจากยานยนต์ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาซึ่งการันตีได้ถึงคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว

และในกรณีที่ประสบเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับรถ รถเสียกลางทาง น้ำมันหมด ลืมกุญแจไว้ในรถ เปิดประตูไม่ได้ หรือเหตุขัดข้องใดๆ ก็ตามแต่ ฮอนด้าก็พร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (24hr Roadside Assistance) เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า ในทุกเส้นทางที่เดินทางด้วยฮอนด้า ‘ความมั่นใจ ความอุ่นใจในการขับขี่’ จะเกิดขึ้นควบคู่ไปพร้อมๆ กันเสมอ

สำหรับบริการหลังการขายของฮอนด้าในปัจจุบันนั้นมีอยู่หลากหลายมากๆ ตัวอย่างเช่น บริการเช็กระยะ ‘Honda PAYSAVE’ แพ็กเกจเช็กระยะ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ผู้ใช้บริการจะได้รับส่วนลดค่าแรง ค่าอะไหล่สูงสุดถึง 15% (เริ่มต้นที่การบำรุงรักษาตามระยะตั้งแต่ระยะ 10,000 กิโลเมตรขึ้นไป)

ตามมาด้วยบริการ ‘Honda Ultimate Care’ โปรแกรมขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่เป็น 5 ปี โดยขยายระยะเวลารับประกันเพิ่มอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร นับต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง

หรือบริการเช็กระยะตามใจ ที่เราสามารถเลือกรูปแบบของการรับบริการได้ตามความสะดวก หรือตามไลฟ์สไตล์ของเรา 

‘Honda Quick Service’ บริการเช็กระยะเร่งด่วน ตามเวลาที่กำหนดที่การันตีถึงความรวดเร็วในการเข้ารับบริการเช็กระยะ เพียงจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้า

Honda Drop & Go บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ เพียงแค่จองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ทาง servicebooking.honda.co.th หรือช่องทางติดต่อของศูนย์บริการฮอนด้าที่เข้ารับบริการ เมื่อถึงวันเวลาที่นัดหมาย เราก็แค่นำรถไปจอดและฝากกุญแจ ณ จุดบริการ (ให้บริการเฉพาะบางสาขา) โดยสามารถตรวจเช็กสถานะของการเข้ารับบริการผ่านมือถือ และชำระค่าบริการแบบออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง (e-Payment)

ข้อดีคือไม่ต้องมานั่งรอที่ศูนย์บริการนานๆ สามารถประมาณการเวลาแล้วเสร็จของการเข้าเช็กระยะ เพื่อไปทำกิจกรรมหรือทำธุระอื่นๆ ของตัวเอง แต่ถ้าอยากนั่งรอรับบริการที่ศูนย์บริการของฮอนด้าก็สบายใจได้เลย เพราะขึ้นชื่อว่าฮอนด้าแล้ว พวกเขาก็ให้ความสำคัญกับการยกระดับบริการและมาตรฐานภายในศูนย์บริการให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทันสมัย สะดวกสบาย และตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กัน

ภายใต้บริการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คุณจะมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับบริการที่ดีเต็มไปด้วยคุณภาพในทุกๆ ระยะที่คุณนำรถเข้ามาใช้บริการ เพราะทีมงาน มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการดูแลรถยนต์ฮอนด้ามาอย่างยาวนาน

อย่าลืมว่าจะซื้อรถทั้งที ไม่ใช่แค่คุณภาพและสเปกตัวรถที่ต้องพิจารณา เพราะคุณในฐานะผู้ใช้งานรถก็ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของบริการหลังการขายด้วย และทั้งหมดทั้งมวลที่หยิบยกมาแบ่งปันกันก็น่าจะพิสูจน์ได้ดีว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากเพียงไร

The post Honda แบรนด์รถยนต์ที่การันตีบริการหลังการขายที่อุ่นใจ มั่นใจ และวางใจได้แบบไม่มีแผ่ว appeared first on THE STANDARD.

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำ Living Solutions Provider โดยสุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล หัวหน้าสายงานบริหารลูกค้าและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เปิดเผยถึงความยั่งยืนของแพลตฟอร์มของ ‘รู้ใจคลับ (RueJai Club)’ เพื่อสะท้อนถึงการส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพมาตรฐานสูงให้แก่ลูกบ้านในทุกระดับว่า

“เป้าหมายอนาคตสำหรับการเป็นแบรนด์บ้านอันดับ 1 ไม่เพียงพัฒนาสินค้าคุณภาพทุกระดับราคา บริษัทยังให้ความสำคัญสูงสุดควบคู่ไปพร้อมกับงานบริการหลังการขาย เพื่อเป็นผู้ช่วยส่วนตัวประจำบ้านและดูแลบ้านคุณให้เหมือนวันแรก เราจึงเปิดตัว ‘รู้ใจคลับ’ ด้วยการถ่ายทอดหัวใจสำคัญของบริการใหม่ 4 แพ็กเกจพรีเมียมที่มาจากอินไซต์จริงของลูกบ้านแต่ละเซกเมนต์ ผ่านแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ล่าสุด” 

‘รู้ใจคลับ (RueJai Club)’ โมเดล ‘ช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิต’ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับส่งมอบบริการและโซลูชัน โดยทำหน้าที่คอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ง่ายขึ้น และทำให้ทุกคนในบ้านได้รับความสะดวกสบายตามมิชชันของบริษัท เพื่อสร้างเช้าที่ดีให้ลูกค้าทุกคน (For Good Mornings) และเป็นบ้านอยู่สบายไร้กังวล (Worry-free Home)  

สำหรับ 4 แพ็กเกจพรีเมียมที่เปิดตัวในช่วงแรก ได้แก่

1. แพ็กเกจ Single Lady เหมาะสำหรับสาวโสดที่ไม่โปรดงานช่าง หมดกังวลไม่ต้องหาช่างเองให้ยุ่งยาก อุ่นใจกับงานซ่อมเบ็ดเตล็ด และ Fast Fix ผู้ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน บริการแก้ไขกรณีเร่งด่วนหรือยามวิกาล เช่น ท่อประปาแตก ไฟฟ้าดับ ปั๊มน้ำทำงานผิดปกติ พร้อมบริการสายด่วนให้คำปรึกษางานต่อเติมหรือซ่อมแซม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง

2. แพ็กเกจทิ้งตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลกับภาระเรื่องการดูแลบ้าน เพราะคุณสามารถทิ้งตัวให้ ‘รู้ใจ’ ดูแลจัดการสิ่งต่างๆ แบบไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ด้วยบริการทำความสะอาด ส่งน้ำดื่ม และบริการล้างแอร์ติดผนัง 

3. แพ็กเกจหวังเช่า เพราะเรา ‘หวัง’ ให้คุณ ‘เช่า’ ซึ่งเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการปล่อยเช่า ได้ปรับปรุงซ่อมแซมสภาพคอนโดมิเนียมหรือบ้านของคุณให้กลับมาอยู่ในสภาพดี ด้วยการตรวจระบบไฟฟ้า ระบบประปา และผนัง ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ พร้อมทำความสะอาดแบบบิ๊กคลีนนิ่ง เพื่อพร้อมรับผู้เช่ารายใหม่

4. แพ็กเกจ Home Maintenance เพราะเราอยากให้บ้านคุณสวยเหมือนวันแรกที่เข้าอยู่ ดูแลบ้านอย่างคน ‘รู้ใจ’ กับแพ็กเกจดูแลบ้าน Home Maintenance Package 8 หมวด 38 รายการ เพื่อสร้างความมั่นใจกับทุกการบำรุงรักษาแบบครบวงจรด้วยทีมช่างรู้ใจ เพื่อให้รู้ปัญหา และสามารถจัดการแก้ไขก่อนจะบานปลาย

นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษอื่นๆ ทั้งรายครั้งและรายเดือน รวบรวมไว้ให้เลือกตามความสนใจ บน ‘RueJai Application’ (รู้ใจแอปฯ) อย่างครบวงจร ซึ่งสมาชิกรู้ใจสามารถนัดหมายผ่านแอปฯ ได้ล่วงหน้า พร้อมมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด โดยมีจุดเด่นคือ การใช้ช่างมืออาชีพที่ผ่านการอบรมโดยทีมรู้ใจ ซึ่งไว้วางใจได้ทั้งด้านความเชี่ยวชาญ ภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ พร้อมจัดทีมบริการลูกค้าสำหรับอำนวยความสะดวกดูแลและสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง    

สุดารัตน์ กล่าวสรุปว่า “สิ่งที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์เสมอมา นอกจากสินค้าพร้อม เรายังพัฒนาคุณค่าในการส่งมอบบริการคุณภาพสูง โดยที่ลูกค้าทุกคนจะได้รับการดูแลหลังการขาย และเป็นสมาชิกรู้ใจคลับโดยอัตโนมัตินับตั้งแต่วันแรกของการอยู่อาศัย”

ติดตามชมเรื่องราวภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัว ‘รู้ใจคลับ’ ได้ที่ https://m.scasset.com/478i และดาวน์โหลด ‘RueJai Application’ (รู้ใจแอปฯ) ผู้ช่วยส่วนตัวประจำบ้านได้แล้ววันนี้ ทั้งทาง App Store และ Play Store เพียงพิมพ์คำว่า RueJai พร้อมรับสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับแพ็กเกจ Single Lady, ทิ้งตัว, หวังเช่า พร้อมรับเคตดิตค่าซ่อม 5,000 บาท เมื่อซื้อแพ็กเกจ Home Maintenance ทันที ตั้งแต่ 24-30 เมษายนนี้ และโปรโมชันอื่นๆ อีกมากมายได้ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกช่องทาง โดยสามารถแชตผ่าน ‘RueJai Application’ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามข่าวสาร สิทธิพิเศษ กิจกรรมดีๆ ได้ทางโซเชียลมีเดีย หรือ @RueJaiClub โทร. 1749

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post ‘รู้ใจคลับ’ หัวใจของ SC Asset บริการหลังการขายคุณภาพสูง นำ 4 แพ็กเกจพรีเมียมที่มาจากอินไซต์ลูกบ้าน เปิดตัวผ่านโฆษณา ตอกย้ำสร้างทุกเช้าที่ดีเพื่อทุกคน [PR News] appeared first on THE STANDARD.

     นอกเหนือจากทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ และนวัตกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยแล้ว สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างในการตกลงปลงใจทุบกระปุกเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ของใครหลายต่อหลายคนน้ันคงจะหนีไม่พ้นเรื่อง ‘บริการหลังการขาย’ หรือ ‘After Sale Services’ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หรือ Developer หลายต่อหลายราย ต่างชูประเด็นดังกล่าวมาเป็นจุดขาย ผลประโยชน์จึงตกอยู่กับผู้บริโภคอย่างเราเต็มๆ

     แต่เมื่อพูดถึงบริการหลังการขายนั้นก็มีรายละเอียดต่างๆ ให้ต้องพิจารณากันให้ดี สำหรับคอลัมน์บ้านรู้ใจในครั้งนี้ THE STANDARD จึงรวบรวมลักษณะของโครงการชั้นดี ซึ่งผู้ประกอบการที่ใส่ใจได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นโครงการคุณภาพ ซึ่งหากใครที่กำลังอยู่ในระหว่างการเลือกซื้อ ก็น่าจะนำไปใช้เป็นหลักประกอบในการพิจารณาตัดสินใจกันดูสักนิด

      1. บริการหลังการขายเพื่อการลงทุน

     เพราะนอกจากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเองแล้ว การลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมยังได้รับความนิยมจากคนในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น สำหรับโครงการที่ดีนั้น นอกจากในแง่ของทำเลซึ่งการันตีได้ว่าจะมีผู้ที่สนใจต้องการซื้อต่อหรือเช่าแล้ว อีกอย่างที่รับรองได้ว่าผู้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลตอบแทนกลับมาก็คือ การที่ทางโครงการนั้นได้จัดเตรียมบริการหลังการขายด้านการลงทุน ตั้งแต่การฝากขาย-ปล่อยให้เช่า รวมไปถึงการให้คำปรึกษาในด้านการลงทุนแบบเป็นพิเศษ ในบางเจ้าอาจจะเลยไปถึงบริการอำนวยความสะดวกในด้านการย้ายเข้า-ย้ายออกเลยทีเดียว

      2. นิติบุคคลและการรักษาความปลอดภัย

     เรื่องของหน่วยงานกลางที่เจ้าของโครงการจ้างมาเพื่อจัดสรรดูแลส่วนกลางอย่าง ‘นิติบุคคล’ ก็เป็นอีกประเด็นสำคัญที่จะกำหนดถึงปริมาณความสุขของลูกบ้าน เพราะจะเป็นผู้บริหารความเป็นไปต่างๆ ภายในโครงการ และถ้าหากว่าการบริหารงานไม่ดีนั้นก็ย่อมมีเรื่องไม่ต้องใจรออยู่แน่ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์สักแห่งควรทำการบ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยว่า โครงการที่เรากำลังมองอยู่นี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

     อีกเรื่องสำคัญที่จะตามมาก็คือเรื่องนโยบายรักษาความปลอดภัย นอกจากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีมาตรการอื่นๆ นอกเหนือจากนี้อะไรอีกบ้าง เช่น มีเวรยามการตรวจตราอย่างไร มีกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย มีการนำเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยมาใช้ หรือมีแอปพลิเคชันอะไรที่นำมาใช้ เพื่อจะช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจได้อีกหรือเปล่า?

      3. บริการหลังกายขายเพื่อการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง

     เพราะโครงการที่ดีไม่ใช่ว่าขายขาดแล้วก็ทอดทิ้งลูกบ้านเอาไว้โดยไม่ดูดำดูดี และคนที่ซื้อที่อยู่อาศัยไปก็ย่อมอยากจะอยู่ในบ้านที่ตัวเองซื้อโดยไม่ต้องกังวลว่า หากมีอะไรเกิดเสียหายชำรุดแล้วจะต้องทำอย่างไร จะมีช่างฝีมือดีที่ไหนที่ไว้ใจได้มาจัดการซ่อมแซมดูแลให้หรือเปล่า และช่างที่หามาล่ะ จะเป็นช่างที่ได้มาตรฐานหรือเปล่า ไม่ใช่ประเภทที่นัดไม่เป็นนัด หรือซ่อมไปได้สักพักแล้วก็กลับมาเสียใหม่ ให้เสียทั้งเงินและเวลาต้องหาช่างใหม่มาซ่อมอีก โครงการที่ดีและใส่ใจในเรื่องนี้ย่อมมีการบริหารจัดการงานซ่อมทั้งหมดในโครงการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ซึ่งจะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหาประเภทนี้

      4. บริการหลังการขายเพื่อสร้างชุมชนน่าอยู่

     ด้วยความที่เมื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์จากโครงการที่อยู่อาศัยนั้น เราไม่ได้มาแค่เพียงบ้านหลังเดี่ยวๆ แต่รวมไปถึงชุมชนด้วย ถ้าได้เพื่อนบ้านที่ดี และโครงการจัดสภาพแวดล้อมจนถึงกิจกรรมที่จะช่วยให้กลายเป็นชุมชนน่าอยู่อันแสนอบอุ่นและปลอดภัยได้ก็ดีไป แต่ลองนึกดูสิว่าถ้าสภาพแวดล้อมภายในโครงการไร้ระเบียบ นอกจากสภาพแวดล้อมไม่สะอาดแล้วยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายไร้กฎเกณฑ์ แล้วจะอยู่กันสงบสุขได้อย่างไร  แต่โครงการที่ดีย่อมคิดถึงเรื่องนี้ โดยเราสามารถพิจารณาได้จากการสอบถามถึงนโยบายดังกล่าวโดยตรงกับทางโครงการ ว่าที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง

     บรรยากาศภายในงาน โครงการ ‘Farm Rak ปลูกผัก ปลูกเพื่อน’ กำเนิดมาจากแนวคิด Lively Neighbourhood ของ SC Asset

     ทั้งหมดดังกล่าวคือหลักที่ควรใช้ในการพิจารณาก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทำให้คุณค้นพบที่อยู่อาศัยที่ดีและถูกใจ

The post บ้านรู้ใจ: บริการหลังการขาย 4 คีย์หลักที่ควรต้องคำนึงถึงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ นั้นมีอะไรบ้าง? appeared first on THE STANDARD.