น้ำท่วมเชียงใหม่ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 17 Dec 2024 09:58:54 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.เชียงใหม่ https://thestandard.co/chulabhorn-flood-relief-chiangmai/ Tue, 17 Dec 2024 09:58:54 +0000 https://thestandard.co/?p=1020557 chulabhorn-flood-relief-chiangmai

วันนี้ (17 ธันวาคม) สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬา […]

The post ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.เชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
chulabhorn-flood-relief-chiangmai

วันนี้ (17 ธันวาคม) สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดให้ นพ.เติมพงศ์ พ่อค้า ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน 500 ชุด กระเป๋านักเรียน 500 ใบ และกระเป๋ายาพระราชทาน 200 ชุด มอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ที่ลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

 

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

ด้าน ชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำปิงและน้ำกวงล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน – 8 ตุลาคม 2567 ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ทั้งหมด 23 อำเภอ 151 ตำบล 1,157 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อน 147,400 ครัวเรือน รวม 342,613 คน มีผู้เสียชีวิต 16 คน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

 

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

โอกาสนี้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ออกหน่วยแพทย์พระราชทานตรวจรักษาโรคทั่วไป พร้อมนำถุงยังชีพพระราชทาน กระเป๋ายาพระราชทาน และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น มอบให้แก่ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่ประสบอุทกภัยภายในบ้านพักในตำบลฟ้าฮ่าม 3 ราย

 

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

The post ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.เชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครม.สัญจรเห็นชอบหลักการทุ่มงบ 641.13 ล้านบาท ฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงรายเร่งด่วน พร้อมเคาะมาตรการรับมือไฟป่าหมอกควัน https://thestandard.co/cabinet-641m-flood-recovery/ Fri, 29 Nov 2024 07:34:36 +0000 https://thestandard.co/?p=1014194

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิ […]

The post ครม.สัญจรเห็นชอบหลักการทุ่มงบ 641.13 ล้านบาท ฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงรายเร่งด่วน พร้อมเคาะมาตรการรับมือไฟป่าหมอกควัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าทั้งจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้ว ซึ่งช่วงปลายปีจะมีการจัดงาน Winter Festivals 2024 ทั่วประเทศ รวมถึง 2 จังหวัดนี้ด้วย ขณะเดียวกันได้ติดตามปัญหาเรื่องหมอกควันเพื่อหานวัตกรรมและเครื่องมือลดหมอกควัน PM2.5 

 

เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท

 

สำหรับผลการประชุม ครม. เห็นชอบหลักการโครงการเร่งด่วนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 39 โครงการ กรอบวงเงิน 641.13 ล้านบาท โดยเป็นการจัดสรรงบกลางประจำปี 2568 ส่วนใหญ่เป็นโครงการซ่อมแซมด้านคมนาคม เขื่อน ตลิ่ง และโครงการฟื้นฟูต่างๆ ผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว 

 

สั่งทุกส่วนเร่งดูแลประชาชนภาคใต้

 

ส่วนปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ที่มีสาเหตุมาจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำมาก ได้สั่งการให้ 4 รัฐมนตรีลงพื้นที่ซึ่งอยู่หน้างานเรียบร้อยแล้ว และจะลงพื้นที่แก้ไขทำหน้าที่ต่อโดยไม่รอช้า ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า กรุงเทพมหานครส่งความช่วยเหลือไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทาง ประกอบด้วย เรือท้องแบน 7 ลำ, เรือเครื่อง 5 ลำ, รถกระบะ 2 คัน, รถช่าง 1 คัน, รถบรรทุก 6 ล้อมีเครนพร้อมผู้ควบคุม, เจ้าหน้าที่กู้ภัย 23 นาย และช่าง 3 คน รวมเป็น 27 คน

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลสั่งการให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เร่งรัดการทำงานทุกส่วนราชการ ทั้งด้านการประกอบอาหาร โรงครัวพระราชทาน การอพยพพี่น้องประชาชนจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูง ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์เตรียมมีเรื่องของยารักษาโรคต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม ทั้งนี้ ตนเร่งในเรื่องของการเยียวยาควบคู่กันไปเพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรอนานเหมือนที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่

 

ครม. เห็นชอบมาตรการรับมือไฟป่า – PM2.5

 

ขณะเดียวกัน ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในปี 2568 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อควบคุมพื้นที่เผาไหม้จากการเผาข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงาน รวมถึงการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมือง ประกาศห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าในเขตเมือง และมีการจับรถควันดำอย่างเข้มงวด รวมถึงควบคุมพื้นที่ก่อสร้าง และการจัดการบอกคนข้ามแดนโดยการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล ศูนย์แจ้งเตือน ใช้ศูนย์บัญชาการเฝ้าระวังควบคุมระดับไฟในประเทศเพื่อนบ้าน

 

ขณะเดียวกันยังมีมาตรการอื่นๆ ที่จะออกตามมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ส่วนโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งขณะนี้จบโครงการไปแล้ว 

 

นายกฯ ห่วงเหตุเครนถล่มถนนพระราม 2 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุเครนถล่มบริเวณจุดก่อสร้างทางด่วนถนนพระรามที่ 2 ว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางกลับจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อไปดูถนนพระราม 2 ทันที

 

ด้านสุริยะกล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก จึงสั่งการให้ตนเดินทางกลับภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่จังหวัดเชียงใหม่ทันทีเพื่อลงพื้นที่หาสาเหตุ โดยสิ่งสำคัญที่สุดที่กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายให้บริษัทผู้รับเหมาชั้นพิเศษ หากทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต จะมีสมุดพกไปลงข้อมูลไว้ว่าทำผิดตรงไหน ตรงไหนล่าช้า มีผู้เสียชีวิต และทางเราจะมีการประสานกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง อย่างเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต 4 ราย จะไม่ให้ผู้รับเหมารายนี้รับงาน 2-4 ปี ซึ่งเรื่องนี้จะมีรายละเอียดที่ต้องไปคุยกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน เพราะหากไม่มีมาตรการแบบนี้ผู้รับเหมาก็ไม่ได้สนใจที่จะตั้งใจทำอย่างจริงจัง 

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมาตรการนี้ออกมาจะทำให้เรื่องอุบัติเหตุและการก่อสร้างที่ล่าช้าเช่นนี้ลดน้อยลงแน่นอน ส่วนมาตรการนี้จะบังคับใช้เมื่อใด เนื่องจากประชาชนมีความกังวลและไม่อยากที่จะสัญจรผ่านถนนพระราม 2 สุริยะยืนยันว่าต้องมีความเด็ดขาดกับผู้รับเหมา แต่ที่ผ่านมามาตรการนี้ยังไม่ออกมาเป็นรูปธรรม ซึ่งการควบคุมตรงนี้ส่วนหนึ่งอยู่ที่กรมบัญชีกลางที่เราต้องไปคุยกัน พร้อมคิดว่ามาตรการนี้จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้

 

ชวนชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว เริ่มสักการะวันที่ 5 ธันวาคม 2566 – 14 กุมภาพันธ์ 2568

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลขอประชาสัมพันธ์การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน 

 

โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วได้ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ตลอดเส้นทาง และประชาชนสามารถสักการะพระเขี้ยวแก้วในระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 67 – 14 กุมภาพันธ์ 2568

 

The post ครม.สัญจรเห็นชอบหลักการทุ่มงบ 641.13 ล้านบาท ฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงรายเร่งด่วน พร้อมเคาะมาตรการรับมือไฟป่าหมอกควัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หมูเด้งและแฟนคลับมอบเงิน 5 แสนบาท ช่วยเหลือ 10 โรงเรียนประสบอุทกภัยในเชียงใหม่ https://thestandard.co/moodeng-10-chiang-mai-schools/ Sat, 19 Oct 2024 11:51:25 +0000 https://thestandard.co/?p=998083

วันนี้ (19 ตุลาคม) รศ. ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการอ […]

The post หมูเด้งและแฟนคลับมอบเงิน 5 แสนบาท ช่วยเหลือ 10 โรงเรียนประสบอุทกภัยในเชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (19 ตุลาคม) รศ. ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย ภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ, อรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ, จงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ, สมรัก บุษปธำรง รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และคณะผู้บริหาร จัดพิธีส่งมอบเงินจำนวน 5 แสนบาท จากโครงการ ‘หมูเด้ง’ ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ (ครั้งที่ 2) เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันทรายหลวง พร้อมผู้แทนและนักเรียนของแต่โรงเรียนเข้าร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้ จำนวน 10 โรงเรียน ดังนี้

 

  1. โรงเรียนวัดเสาหิน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  2. โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  3. โรงเรียนวัดวังสิงห์คำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  4. โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  5. โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  6. โรงเรียนกาวิละอนุกูล อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  7. โรงเรียนวัดหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  8. วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  9. โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  10. โรงเรียนบ้านเมืองกื้ด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

 

สำหรับโครงการ ‘หมูเด้ง’ ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนในการดูแลชีวิตและสวัสดิภาพของสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และสถานที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นอุทกภัยฉับพลันครั้งใหญ่และหนักที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ทำให้ทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย

 

ทั้งนี้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในครั้งนี้ และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนในวิกฤตที่เกิดในสังคมไทย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ว ตามแนวนโยบายและความมุ่งมั่นให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคม

The post หมูเด้งและแฟนคลับมอบเงิน 5 แสนบาท ช่วยเหลือ 10 โรงเรียนประสบอุทกภัยในเชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ณัฐพงษ์ลงพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่ พร้อมข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาลเตรียมการป้องกันและฟื้นฟูเหตุอุทกภัย https://thestandard.co/natthaphong-ruengpanyawut-12102024/ Sun, 13 Oct 2024 06:17:00 +0000 https://thestandard.co/?p=995492 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

วานนี้ (12 ตุลาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีร […]

The post ณัฐพงษ์ลงพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่ พร้อมข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาลเตรียมการป้องกันและฟื้นฟูเหตุอุทกภัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

วานนี้ (12 ตุลาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัย พร้อมทั้งติดตามแผนฟื้นฟูและมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

 

ช่วงเช้า ณัฐพงษ์พร้อมด้วย ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส. จังหวัดเชียงราย พรรคประชาชน และ เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ร่วมประชุมหารือกับส่วนราชการของจังหวัดเชียงรายหลายหน่วยงาน รวมถึงสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้รับรายงานความเสียหายกว่า 6,000 ล้านบาท รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การแจ้งเตือนภัยพิบัติของจังหวัดยังขาดการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างเป็นระบบและแม่นยำ ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถอพยพได้ทันเวลาก่อนมวลน้ำจะมาถึงเขตชุมชน

 

จากนั้นช่วงบ่ายณัฐพงษ์เดินทางต่อไปยังอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พบประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และสำรวจความเสียหายของพนังกั้นน้ำและฝายร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมชลประทาน และผู้นำชุมชน รวมถึงผู้แทนพรรคประชาชนในพื้นที่ ได้แก่ สมดุลย์ อุตเจริญ และ ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส. จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน

 

ณัฐพงษ์ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบปัญหาใหญ่ๆ เช่น ฝายน้ำอาย มีการออกแบบเป็นประตูระบายน้ำแบบเปิดด้านล่าง ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ลำน้ำแม่อายได้ทันกับปริมาณที่หลากมาจากต้นน้ำ ทำให้น้ำ ทราย และโคลนทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชนในเทศบาลตำบลแม่อายเสียหายจำนวนมาก จนต้องรื้อประตูฝายเพื่อลดระดับน้ำ ปัจจุบันจึงไม่สามารถส่งน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตรได้ แนวทางแก้ไขเร่งด่วนคือการออกแบบใหม่ให้เป็นรูปแบบฝายน้ำล้นที่สามารถระบายน้ำได้ดีกว่า พร้อมทั้งต้องขุดลอกทรายที่ตกค้างในลำน้ำจำนวนมาก จำเป็นต้องประสานการจัดสรรงบประมาณเพื่อบูรณะใหม่โดยเร็ว

 

ณัฐพงษ์มีข้อเสนอเพิ่มเติมถึงรัฐบาลเพื่อเร่งฟื้นฟูในช่วงหลังระดับน้ำลดลง ดังนี้

 

  1. รัฐบาลต้องเร่งจัดทำแผนรับมือน้ำท่วมโดยมองภาพใหญ่ระยะยาว ทั้งก่อนท่วม ระหว่างท่วม หลังท่วม เพื่อป้องกันเหตุและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะระบบเตือนภัยต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องและเร็วที่สุดก่อนจะเกิดความเสียหาย มีเวลาในการอพยพกลุ่มคนเปราะบางและประชาชนทั่วไปได้ทัน

 

  1. จัดระดมความเห็นร่วมกันเพื่อออกแบบให้ลำน้ำกกสามารถระบายน้ำได้ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำสูงสุดของลำน้ำกก ขณะเดียวกันต้องรักษาระดับน้ำกักเก็บเดิมในแม่น้ำกกให้สอดคล้องกับการผลิตน้ำประปาและการชลประทาน รวมถึงต้องแก้ปัญหาการรุกล้ำและกีดขวางทางน้ำริมน้ำกกด้วย

 

  1. เร่งฟื้นฟูสุขภาพ ทั้งสุขภาพจิตของประชาชนในระยะสั้นและระยะยาว ฟื้นฟูระบบน้ำประปาให้สามารถใช้ในการดำรงชีพในครัวเรือนได้อย่างปลอดภัย รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นที่เกิดจากโคลนแห้ง ที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะอำเภอแม่สายในขณะนี้

 

ณัฐพงษ์กล่าวว่า จะนำปัญหาและอุปสรรคที่พบจากการสำรวจหน้างานในวันนี้ ประสานหน่วยงานระดับพื้นที่กับหน่วยงานส่วนกลางเพื่อหาทางออก เช่น การขอตั้งงบประมาณเพื่อซ่อมบำรุงประตูน้ำแม่อาย ตามกระบวนการจำเป็นต้องตัดจำหน่ายประตูน้ำแม่อายเป็นพัสดุสิ้นสภาพก่อน จึงจะตั้งงบใหม่มาสร้างแทนของเดิม หรือซ่อมบำรุงได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าขั้นตอนการตัดจำหน่ายเป็นงานของใคร ระหว่างจังหวัดกับท้องถิ่น ทำให้กระบวนการไม่สามารถเดินหน้าได้ นอกจากนี้ตนพร้อมใช้กลไกของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเร่งรัดติดตามประเด็นปัญหาอื่นๆ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนและการฟื้นฟูพื้นที่ดำเนินการได้โดยเร็วที่สุด

The post ณัฐพงษ์ลงพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่ พร้อมข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาลเตรียมการป้องกันและฟื้นฟูเหตุอุทกภัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
อบจ. เปิดจุดพักขยะที่เสียหายจากน้ำท่วมกลางเมืองเชียงใหม่ https://thestandard.co/chiang-mai-opens-flood-damaged-waste-sites/ Thu, 10 Oct 2024 10:09:18 +0000 https://thestandard.co/?p=994390

วันนี้ (10 ตุลาคม) ที่สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟแห่งป […]

The post อบจ. เปิดจุดพักขยะที่เสียหายจากน้ำท่วมกลางเมืองเชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (10 ตุลาคม) ที่สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะทำงาน เปิดจุดพักขยะชิ้นใหญ่ที่เสียหายจากน้ำท่วมเชียงใหม่

 

นายก อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า พื้นที่ 62 ไร่ของสวนแห่งนี้จะเปิดให้ประชาชน ภาคเอกชน ตลอดจนเทศบาล ใช้เป็นที่พักขยะชั่วคราว และมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดถ่ายออกไปในทันที อีกทั้งยังเป็นพื้นที่กว้างขวาง รถพ่วง รถบรรทุก และรถตักดิน เข้ามาได้สะดวก

 

โดยจะนำไปฝังกลบที่บ่อขยะในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบนโยบายให้พนักงานทุกคนดำเนินการขนย้ายขยะตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

 

ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจากหลายชุมชนทยอยขนขยะบรรทุกเต็มคันรถเข้ามายังจุดพักอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถทหารจากค่ายสรรพาวุธเบา กองพลทหารราบที่ 4 และรถจากวัดกู่คำ ใกล้สถานีขนส่งอาเขต ซึ่งมีพระสงฆ์ขนขยะ เช่น ธรรมาสน์ ตาลปัตร และโลงศพ ที่เสียหายจากน้ำท่วมมาด้วยตนเอง

 

The post อบจ. เปิดจุดพักขยะที่เสียหายจากน้ำท่วมกลางเมืองเชียงใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศปช. แจ้งรถไฟสายเหนือเปิดให้บริการแล้ว พร้อมเร่งฟื้นฟูสาธารณูปโภคเชียงใหม่และเชียงรายให้ครบทุกพื้นที่ https://thestandard.co/northern-train-service-resumes/ Wed, 09 Oct 2024 12:04:00 +0000 https://thestandard.co/?p=993954

วันนี้ (9 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ […]

The post ศปช. แจ้งรถไฟสายเหนือเปิดให้บริการแล้ว พร้อมเร่งฟื้นฟูสาธารณูปโภคเชียงใหม่และเชียงรายให้ครบทุกพื้นที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (9 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม หลังสถานีขนส่งและสถานีรถไฟได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ว่า ศปช. ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งฟื้นฟูระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสามารถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าพื้นที่ได้เต็มศักยภาพ

 

ล่าสุดได้รับรายงานว่าทางหลวงในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่และสารภีได้รับการฟื้นฟูจนสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติแล้ว เช่นเดียวกับสถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 ก็เปิดให้บริการได้ตามปกติ รวมถึงรถไฟสายเหนือก็เปิดให้บริการได้แล้วเช่นกัน

 

ส่วนการจ่ายน้ำให้ประชาชน หลังน้ำท่วมภาคเหนือ ศปช. ได้รับรายงานจาก ปราโมทย์ ฉันทะ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาเชียงใหม่ (ชั้นพิเศษ) สถานีผลิตน้ำป่าตัน ว่า ขณะนี้เร่งจ่ายน้ำให้ประชาชน ซึ่งดำเนินการแล้วกว่าร้อยละ 80 ของกำลังจ่ายน้ำทั้งหมด โดยจะเร่งปรับปริมาณการจ่ายน้ำ เพราะในเส้นท่อมีอากาศ ป้องกันท่อประปาแตก ล่าสุดมีผู้ได้รับบริการจ่ายน้ำประปาแล้ว 136,616 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 97.97 ของจำนวนผู้รับบริการทั้งหมด

 

ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ซ่อมแซมระบบประปาแล้ว 337 จุด หรือร้อยละ 79.7 จากทั้งหมดที่เสียหาย 423 จุด คาดว่าจะจ่ายน้ำได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในวันจันทร์นี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ PWA Contact Center โทร. 1662

 

สำหรับความคืบหน้าการจ่ายไฟฟ้าเข้าบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ จิรายุเปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เขต 1 ภาคเหนือ ดำเนินการแก้ไขและจ่ายไฟให้ประชาชนต่อเนื่อง โดยในทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและหม้อแปลง สามารถจ่ายไฟให้บ้านเรือนประชาชนแล้วร้อยละ 95 ที่เหลือส่วนใหญ่อยู่ที่อำเภอสารภีที่ยังมีน้ำท่วมขัง

 

ส่วนที่จังหวัดเชียงราย จ่ายไฟให้ประชาชนแล้วร้อยละ 99.5 ยังเหลือที่อำเภอแม่สาย บริเวณติดลำน้ำสาย ที่ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วม คาดว่าต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมฟื้นฟู

 

“ที่จังหวัดเชียงใหม่ กฟภ. ยังรอจ่ายไฟเข้าบ้านเรือนประชาชนอีกประมาณ 3,000 ครัวเรือนจากทั้งหมด 53,000 ครัวเรือน ส่วนใหญ่อยู่ที่อำเภอสารภี ที่ต้องตัดไฟเพื่อความปลอดภัยในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยของเจ้าหน้าที่และกู้ภัย ขณะที่จังหวัดเชียงราย ในเทศบาลนครเชียงรายไม่มีปัญหา ยังเหลือที่อำเภอแม่สายประมาณ 300 ครัวเรือนจากทั้งหมด 55,000 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่กำลังฟื้นฟูระบบจ่ายไฟ อาจต้องใช้เวลา หลังน้ำท่วมเสียหายหนักมาก” จิรายุกล่าว

The post ศปช. แจ้งรถไฟสายเหนือเปิดให้บริการแล้ว พร้อมเร่งฟื้นฟูสาธารณูปโภคเชียงใหม่และเชียงรายให้ครบทุกพื้นที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ‘เชียงใหม่’ ท่วมครั้งใหญ่รอบ 50 ปี บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-09102024-4/ Wed, 09 Oct 2024 08:05:21 +0000 https://thestandard.co/?p=993774

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ โดยเฉพาะตัวเมืองเชียงใหม่ กระท […]

The post ชมคลิป: ‘เชียงใหม่’ ท่วมครั้งใหญ่รอบ 50 ปี บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ โดยเฉพาะตัวเมืองเชียงใหม่ กระทบย่านเศรษฐกิจในวงกว้าง ‘ถือเป็นวิกฤตขั้นสุดในรอบหลายสิบปี’ นอกจากนี้ยังฉุดยอดขายค้าปลีก-สินค้า แม้บางกลุ่มเพิ่งรับ 10,000 บาท แต่อาจต้องนำไปซ่อมบ้านแทน ไปฟังเสียงสะท้อนจากแวดวงธุรกิจได้ในไฮไลต์นี้

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: ‘เชียงใหม่’ ท่วมครั้งใหญ่รอบ 50 ปี บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘เชียงใหม่’ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี ปัญหาอยู่ตรงไหน บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร https://thestandard.co/lessons-from-chiang-mai-historic-flooding/ Wed, 09 Oct 2024 06:30:09 +0000 https://thestandard.co/?p=993727 เชียงใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความ […]

The post ‘เชียงใหม่’ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี ปัญหาอยู่ตรงไหน บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชียงใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของไทยคงต้องยกให้  ‘เชียงใหม่’ ยิ่งเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงสิ้นปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ยิ่งมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว แวะมาเยือนวัฒนธรรมท้องถิ่นดินแดนล้านนา 

 

ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเชียงใหม่ (Gross Provincial Product หรือ GPP) มีมูลค่ารวมทั้งหมด 239,739 ล้านบาท ขณะที่รายได้ประชากรต่อหัวเฉลี่ย (GPP per Capita) อยู่ที่ 133,306 บาท 

 

เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีประชากรที่มีมากกว่า 1.79 ล้านคน และถือเป็นจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดที่มีส่วนกระตุ้นเม็ดเงินต่อเศรษฐกิจไทยไม่น้อย

 

 

ทว่าภาพบรรยากาศปลายฝนต้นหนาวในปีนี้ ด้วยความเร็วและน้ำไหลเชี่ยว สถานการณ์มวลน้ำมหึมาไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ กระสอบทรายที่กั้นป้องกันการท่วมตลาดวโรรสหรือกาดหลวง และตลาดต้นลำไย เทศบาลนครเชียงใหม่ ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ย่านการค้าขายสำคัญ โดยเฉพาะย่านถนนช้างคลานที่ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง 

 

ย่านเศรษฐกิจถูกน้ำท่วมหนักในจุดที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อนตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ระดับน้ำที่สถานีตรวจวัด P.1 สะพานนวรัฐ ขึ้นถึง 5.28 เมตร นับเป็นระดับน้ำสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายทุกสถิติน้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ เรียกว่ากระทบหนักสุดในรอบ 50 ปี!

 

เกิดอะไรขึ้นกับ ‘เชียงใหม่’ ปัญหาอยู่ที่ไหน บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร เราเรียนรู้อะไรจากวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้ ?

 

THE STANDAED WEALTH สัมภาษณ์ สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำท่วมเชียงใหม่ครั้งนี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้ ‘ถือเป็นวิกฤตขั้นสุดในรอบหลายสิบปี’ โดยหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 2,960 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.02% ของ GDP (บนสมมติฐานว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายภายใน 7 วัน) 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์น้ำท่วมยืดเยื้อถึง 15 วัน ประเมินว่ามูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 4,232 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากประมาณการเดิม ซึ่งภาพรวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวมทั้งสิ้นประมาณ 220,469 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่การเกษตร 77,164 ไร่ และพื้นที่อื่นๆ 143,305 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 10 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ เชียงดาว, แม่แตง, แม่ริม, เมืองเชียงใหม่, สารภี, หางดง, สันป่าตอง, ดอยหล่อ, จอมทอง และฮอด โดยอำเภอเมืองเชียงใหม่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

 

 

ขณะที่ประเมินผลกระทบแยกตามภาคเศรษฐกิจจะพบว่า ภาคการเกษตรเสียหายมากที่สุด โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมถึง 1,846 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 62.4% ของความเสียหายทั้งหมด รองลงมาเป็นภาคบริการ เสียหาย 1,098 ล้านบาท และภาคอุตสาหกรรม เสียหาย 15 ล้านบาท ตามลำดับ 

 

ห่วงช่วงไฮซีซันกระทบท่องเที่ยวไทย ต่างชาติยกเลิกไฟลต์บิน

 

สนั่นระบุอีกว่า “สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีความรุนแรงและเกิดขึ้นในช่วงไฮซีซันของจังหวัดเชียงใหม่ จึงส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับผลกระทบ”

 

ไม่ว่าจะเป็นบริเวณถนนท่าแพและพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่เส้นทางการคมนาคมบางจุดถูกตัดขาดหรือมีได้รับความเสียหายทั้งทางถนนและรถไฟ ส่งผลให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความยากลำบาก 

 

“คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะมีความกังวลและอาจเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ปีนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ” 

 

อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์น้ำลดระดับและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลควรเร่งเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะย่านการค้า การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ ให้กลับฟื้นตัวได้ทันในช่วงไฮซีซันของปีนี้

 

ขณะเดียวกัน หอการค้าไทยจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสินค้าราคาประหยัดช่วยเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในพื้นที่ เช่นเดียวกับหอการค้าจังหวัดเชียงรายที่จะจัดงานหอการค้าแฟร์ ซึ่งส่วนนี้คงจะเปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับประชาชน

 

“ส่วนด้านการท่องเที่ยว หอการค้าไทย หอการค้าในพื้นที่ และ ททท. จะช่วยประชาสัมพันธ์และเร่งโปรโมตพื้นที่ท่องเที่ยวที่กลับมาเปิดได้ตามปกติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ เพื่อรองรับช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วย” สนั่นกล่าว 

 

จากเชียงราย…ถึงเชียงใหม่ 

 

เราได้หารือกับหอการค้าเชียงใหม่ โดยระดมความคิดเห็นและนำเสนอข้อเสนอในการฟื้นฟู เยียวยา และแผนการจัดการน้ำ ผ่านมายังหอการค้าไทย เช่นเดียวกับพื้นที่เชียงราย 

 

“ในระยะสั้น ขอให้มีการตรวจสอบระบบน้ำประปาให้สามารถใช้งานได้ตามปกติและสำรองน้ำประปาให้เพียงพอต่อการฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมทั้งให้ความสำคัญและความเท่าเทียมในการช่วยเหลือ เยียวยา โดยใช้ช่องทางในการได้รับการชดเชยช่องทางเดียวให้เบ็ดเสร็จเพื่อลดความซ้ำซ้อน”

 

 

นอกจากนี้อยากให้จัดทำแผนและงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ทั้งการลดค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูปลอดอัตราดอกเบี้ยและปลอดระยะเวลาชำระหนี้ 1 ปี และการจัดสรรพื้นที่ทำกินใหม่ เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการให้กลับมาฟื้นตัวได้ 

 

ส่วนในระยะยาว สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน ในการจัดระบบเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการจัดการของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก

 

สะท้อนการจัดการกับปัญหาน้ำท่วมรัฐบาล  

 

สนั่นระบุว่า ในส่วนของรัฐบาลมีมาตรการเยียวยาและมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่เกิดขึ้นตามมาภายหลัง

ดังนั้น อยากให้รัฐบาลเร่งเข้าไปสำรวจและประเมินความเสียหายของภาคธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเพิ่มเติมในส่วนของมาตรการฟื้นฟูในระยะสั้น เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งถือเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคเหนือกลับมาเป็นปกติในช่วงไฮซีซันได้ทันท่วงที

 

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนมุมมองไปถึงแผนการบริหารจัดการกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งเริ่มเกิดขึ้นถี่และขยายวงกว้างมากขึ้น

 

“ขณะที่รัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการบรรเทาความเสียหายและเยียวยาประชาชนในส่วนนี้ปีละกว่าแสนล้านบาท” สนั่นกล่าว

 

ดังนั้น รัฐบาลควรมีการทบทวนและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเป็นระบบอย่างจริงจัง โดยหอการค้าไทยเสนอให้รัฐบาลรื้อฟื้นแผนการวางระบบบริหารจัดการน้ำในอดีตที่รัฐบาลได้เคยนำเสนอไว้ และเร่งผลักดันโครงการที่สามารถดำเนินการได้ก่อนผ่านงบประมาณปี 2568 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับภาคธุรกิจและประชาชนในพื้นที่ได้ทันท่วงที ส่วนในระยะกลาง-ยาว เสนอให้รัฐบาลจัดเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำให้เกิดการบูรณาการมากขึ้น 

 

 

หอการค้าเชียงใหม่รับ วิกฤตสุดรอบ 50 ปี

 

THE STANDARD WEALTH พูดคุยกับ ‘ปรกฤษฎิ์ สายหัสดี’ กรรมการเลขาธิการหอการค้าเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า ณ วันนี้ น้ำที่ท่วมสูงในหลายจุดได้ลดลงแล้ว หลังท่วมสูงตลอดหลายวันที่ผ่านมา แต่ยังเหลือดินโคลนหนากว่า 20 เซนติเมตร ทั่วพื้นที่ต้องตักทิ้งและทำความสะอาด ขณะที่ย่านตลาดวโรรสพบว่าน้ำที่ท่วมบริเวณโดยรอบลดลงแล้วเช่นกัน แต่ในตัวตลาดโดยเฉพาะชั้นใต้ดินยังถูกน้ำท่วมขังสูง และต้องปิดให้บริการเพื่อสูบน้ำออก สภาพโดยรอบตลาดมีแต่ดินโคลน เศษขยะ และข้าวของที่เสียหาย

 

“น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายหนักที่สุดในรอบ 50 ปี โดยปีนี้ต้องยอมรับว่ามวลน้ำไหลเข้าท่วมตัวเมืองอย่างรวดเร็ว ‘แบบตั้งตัวไม่ทัน’ แม้จะเตรียมการป้องกันไว้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังได้รับความเสียหายหนัก”

 

แม้ครั้งล่าสุดที่เคยเกิดน้ำท่วมสูงช่วงปี 2553-2554 เท่าที่เคยมีมา ระดับน้ำสูงถึง 4 เมตร และระดับการเตือนภัย 4.2 เมตร ปีนี้มีการปรับตัวเลขเตือนภัย ซึ่งปีนี้ก่อนหน้านั้นสัญญาณที่เข้ามาแรกๆ คือรู้ในทันทีว่ารอบนี้หากระดับเกินจุดเดิมคือท่วมแน่ เช่น พื้นที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ถนนช้างคลาน เริ่มมีน้ำเอ่อล้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงได้หารือกับหอการค้าเชียงรายล่วงหน้า ว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้วิกฤตแน่นอน  

 

ประเมินเศรษฐกิจเสียหาย 600 ล้านบาท หวั่นกระทบท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน

 

“ผมประเมินว่าไม่น่าต่ำกว่า 600 ล้านบาท เพราะรอบนี้สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ร้านคาเฟ่ ขนข้าวของย้ายไม่ทัน และกระทบพื้นที่ที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้เห็นว่าสถานีบริการน้ำมัน ธุรกิจในตัวเมือง ตลาด ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักร โรงพิมพ์ ร้านกาแฟ เสียหายหนัก ย่านเศรษฐกิจกระทบหมดเลย”

 

นอกจากนี้สิ่งที่น่าห่วงและจะเสียหายมากตามมาคือ การยกเลิกไฟลต์บิน การท่องเที่ยวเสียหาย ยิ่งในขณะนี้เป็นช่วงที่เข้าสู่ไฮซีซัน ช่วงปลายปี ณ ตอนนี้อาจจะต้องคุยจริงจัง โดยจะหารือสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวเบื้องต้น หารือแบงก์ชาติ และหารือตัวเลขเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้มันเกินการเยียวยา 

 

บทเรียนครั้งใหญ่ของชาวเชียงใหม่

 

มวลน้ำปีนี้มาเยอะ ต้องเรียนว่าหน่วยงานประกาศแจ้งเตือนประชาชนแล้ว เพียงแต่ชาวบ้านหลายคนอาจจะประมาท ชะล่าใจ เมื่อน้ำมาตอนตี 4-5 คือมารวดเดียวเลย ทุกคนไม่ทันตั้งตัว

 

“บทเรียนที่เห็นชัดครั้งนี้คงจะต้องหันมาบูรณาการร่วมกัน เพราะมวลน้ำที่หลายๆ คนประเมินอาจจะประมาทไป ต่อไปนี้ต้องทำให้ตระหนัก รู้เร็ว รับมือเร็ว ตั้งหลักกันนิดหนึ่งถึงขั้นตอน กระบวนการ การประกาศและอาจจะต้องทบทวนกันถึงระบบการเตือนภัยว่าที่มีอยู่นั้นช้า-เร็วหรือไม่ ถึงเวลาที่จะต้องมาดูการเตือนภัยอย่างจริงจัง”

 

อย่างไรก็ตาม รอบนี้เห็นเลยว่าทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน อีกสิ่งสำคัญคือ ประเด็นที่ดูเหมือนจะไกลตัวอย่างโลกร้อน นำมาสู่สภาพอากาศที่แปรปรวน ปัจจัยเรื่องน้ำ ทุกคนต้องเริ่มให้ความสำคัญ 

 

ขณะเดียวกัน มีการกล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำของโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ ที่เป็นกระแสไวรัล ต้องชื่นชมว่าทางโรงแรมมีการบริหารจัดการพนังกั้นน้ำเป็นปกติทุกปี มีการวางระบบเป็นอย่างดี จึงสามารถควบคุมได้ทันท่วงที สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาเป็นกรณีศึกษา 

 

 

หรืออย่างคูเมืองเชียงใหม่ก็มีภูมิปัญญาเดิมของชาวบ้าน เอกชนและรัฐต้องมาเรียนรู้วิธีการจัดการน้ำร่วมกัน กับโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ ที่ต้องทำกำแพง นำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำมาใช้ สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาถอดบทเรียน มานั่งคุย นอกเหนือจากการปรับตัวอย่างไร ต้องนำกรณีศึกษาเหล่านี้มาคุยกันเพื่อวางแผนระยะยาว

 

แหล่งข่าวผู้ประกอบการร้านอาหารนิมมานฯ เชียงใหม่ บอกกับ THE STANDARD WEALTH ว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วและมวลน้ำมาเยอะกว่าปกติ และการรับมือของชาวบ้านยังไม่รวดเร็วพอ ที่เป็นผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนหลักๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทำให้การให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ปีนี้เนื่องจากมวลน้ำมาเร็วและแรง ประชาชนไม่ทันตั้งตัว ทำให้พื้นที่ย่านการค้าจึงกระทบหนัก 


แม้ได้รับข้อความแจ้งเตือนเข้ามาทางโทรศัพท์ล่วงหน้า ทว่าการประเมินการแจ้งเตือนน้ำแบบระดับเมตรอาจจะเป็นการแจ้งเตือนสื่อสารที่เข้าใจยาก ชาวบ้านบางคนยังไม่เข้าใจ ชะล่าใจ

 

ทั้งนี้ ในอนาคตรัฐเองก็ต้องเข้ามาช่วยจัดการบริหารให้เร็วและมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งภาคเอกชนเองก็ให้ความช่วยเหลือได้เร็ว หลังจากนี้น้ำลดแล้วจึงอยากให้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ เพราะจะเป็นช่วงไฮซีซันของเชียงใหม่ และน่าเห็นใจประชาชนและคนที่ลำบากจริงๆ น้ำท่วมครั้งเดียวทำให้รายได้หายไปในพริบตา

 

“ปีนี้ถือเป็นบทเรียนร่วมกัน ซึ่งครั้งนี้น่าจะเป็นน้ำท่วมใหญ่ในตัวเมืองเชียงใหม่ในรอบหลายสิบปี แต่ไม่ว่าจะในรอบปีไหน ความเสียหายทางใจก็ไม่อาจประเมินได้”

 

 

The post ‘เชียงใหม่’ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี ปัญหาอยู่ตรงไหน บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วมฉุดยอดขายค้าปลีก-สินค้า แม้บางกลุ่มเพิ่งรับ 10,000 บาท แต่อาจต้องนำไปซ่อมบ้านแทนจับจ่าย https://thestandard.co/wealth-in-depth-flood-retail/ Tue, 08 Oct 2024 13:13:20 +0000 https://thestandard.co/?p=993433

เสียงสะท้อนจากมุม ‘ค้าปลีก-สินค้า’ มั่นใจ น้ำท่วมภาคเหน […]

The post น้ำท่วมฉุดยอดขายค้าปลีก-สินค้า แม้บางกลุ่มเพิ่งรับ 10,000 บาท แต่อาจต้องนำไปซ่อมบ้านแทนจับจ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>

เสียงสะท้อนจากมุม ‘ค้าปลีก-สินค้า’ มั่นใจ น้ำท่วมภาคเหนือกระทบยอดขายระยะสั้น แต่มีผลต่อกำลังซื้อ แม้บางกลุ่มเพิ่งได้รับเงิน 10,000 บาทมา แต่อาจต้องซ่อมแซมบ้านแทนการจับจ่าย พร้อมย้ำ สินค้า FMCG ยังขายได้ แต่สินค้าพรีเมียมอาจแย่ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่คนรายได้น้อยยังติดกับดักหนี้ครัวเรือนสูง 

 

แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจค้าปลีกฉายภาพกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ภาพรวมค้าปลีกปี 2567 คาดว่าจะโต 3.5 จากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันของการท่องเที่ยว รวมถึงการพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการแจกเงิน 10,000 บาทที่เพิ่งให้กลุ่มเปราะบางไป 

 

แต่ต้องยอมรับว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในกรุงเทพมหานครหรือภาคกลางยังพอไปได้ สวนทางกับต่างจังหวัด ยิ่งในภาคเหนือมาเจอน้ำท่วมซ้ำเข้าไปอีกก็ยิ่งเหนื่อยกันมากขึ้น และแน่นอนว่ามีมูลค่าความเสียหายมากมายแน่นอน 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ยิ่งไปกว่านั้น หลายครัวเรือนยังติดหล่มปัญหาหนี้สิน สวนทางกับภาระค่าใช้จ่าย อีกทั้งตลาดแรงงานไม่มีการจ้างงานเพิ่ม ทำให้กำลังซื้อไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างที่หลายคนคาดการณ์ 

 

เมื่อเจาะลึกมาดูที่กลุ่มสินค้าที่ยังสร้างยอดขายได้หรือยอดขายจะไม่ลดลงไปกว่านี้แล้วคือ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เริ่มตั้งแต่สบู่ ยาสีฟัน และผงซักฟอก ซึ่งล้วนเป็นสินค้าจำเป็น แต่สินค้าพรีเมียมที่มีราคาสูงนั้นค่อนข้างลำบาก หากมีสินค้าที่ทดแทนกันได้และราคาถูกกว่า ลูกค้าก็จะเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่า 

 

บางคนเลือกนำเงิน 10,000 บาทไปซ่อมแซมบ้าน แทนการซื้อสินค้าไม่จำเป็น

 

วิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ แม้จะท่วมยาวแต่กระทบเป็นบางจุด จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้างในช่วงนี้ เนื่องจากร้านค้าไม่สามารถเปิดทำการค้าขายได้ 

 

เช่นเดียวกับศรีนานาพรที่ปลายเดือนที่แล้วยอดขายลดลง ซึ่งเป็นทุกบริษัท แต่บังเอิญว่าจังหวัดเชียงใหม่เริ่มเข้าช่วงไฮซีซัน น้ำท่วมจึงมีผลกระทบแค่ระยะสั้น และเมื่อมีเงินกระตุ้น 10,000 บาทจากภาครัฐเข้ามาก็พอช่วยได้บ้าง 

 

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ น้ำท่วมมีผลต่อบรรยากาศ อารมณ์ และความรู้สึก ในการจับจ่าย ถ้าผู้คนมีเงินอยู่แค่นี้ก็อาจเลือกเอาเงินไปซ่อมแซมบ้าน แทนที่จะนำเงินจะมาซื้อของไม่จำเป็น

 

ดังนั้นศรีนานาพรจึงต้องเร่งจัดโปรโมชันและออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับฤดูขายในช่วงไตรมาส 4 และเชื่อว่าภายหลังจากที่เหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย ผู้บริโภคจะกลับมา ใช้จ่ายอีกครั้ง

 

รายได้ค้าปลีกภาคเหนือสะดุด แต่ไม่หวั่น เชื่อกระทบระยะสั้น

 

ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่รุนแรงมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา ช่วงแรกๆ อาจทำให้ร้านค้าปลีกในภาคเหนือสะดุดไปบ้าง แต่มองว่าเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น 

 

เนื่องจากในภาพรวมแล้วบรรยากาศการจับจ่ายของค้าปลีกยังเติบโต โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งผู้คนมีความกังวล จึงได้กักตุนอาหารแห้ง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำดื่ม และอาหารกระป๋อง กันมากขึ้น 

 

 

เช่นเดียวกับร้านธนพิริยะ 6 สาขาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต้องปิดร้านชั่วคราว แต่สาขาที่อำเภอแม่สายหนักที่สุด ปิดร้านไปประมาณ 10 วัน แต่ในแง่ของยอดขายไม่ได้รับผลกระทบ ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านั้นร้านได้สต็อกสินค้าเอาไว้เพื่อรองรับ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท แต่เมื่อน้ำท่วมมาก็กลายเป็นโอกาสที่จะรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้เพียงพอ

 

สุดท้ายโอกาสในตลาดค้าปลีกต่างจังหวัดยังมีอยู่มาก เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์ คลี่คลายจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เพราะช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว เราจึงเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมีเกือบ 50 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดพะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ 

 

น้ำท่วมเชียงใหม่ ทำผลผลิตผัก ‘โอ้กะจู๋’ ลดไป 13%

 

ไม่เว้นแม้แต่บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เจ้าของร้านอาหารโอ้กะจู๋ ส่วนใหญ่วัตถุดิบปลูกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 

 

เมื่อไม่นานมานี้ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัท โดยร้านอาหาร 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สาขาสันทราย ตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย และสาขานิ่มซิตี้เดลี่ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณสนามบินเชียงใหม่ ยังคงสามารถเปิดขายได้เป็นปกติ

 

 

แต่น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อฟาร์มสารภี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของพื้นที่เพาะปลูกผักสลัดของบริษัท โดยมีกำลังผลิตประมาณวันละ 150-300 กิโลกรัม หรือคิดเป็นประมาณไม่เกินร้อยละ 13 ของกำลังการผลิตผักสลัดทั้งหมด แม้จะเกิดความเสียหายในบางส่วน แต่บริษัทได้เตรียมแผนรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มกำลังการผลิตที่สวนสันอุ้มและรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมจากเกษตรกรเครือข่าย 

 

ส่วนครัวกลางและฟาร์มหลักในพื้นที่อื่นๆ ยังคงดำเนินงานตามปกติ และสามารถขนส่งผักสลัดและวัตถุดิบไปยังกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ตามปกติ

 

สุดท้ายนี้ น้ำท่วมนับเป็นวิกฤตที่เข้ามาทุบซ้ำกำลังซื้อต่างจังหวัด, ธุรกิจ, ร้านค้า, โรงแรม, ที่พัก, ร้านอาหาร และท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ประเมินความเสียหายของเศรษฐกิจจากน้ำท่วมสูงถึง 2 พันล้านบาท

The post น้ำท่วมฉุดยอดขายค้าปลีก-สินค้า แม้บางกลุ่มเพิ่งรับ 10,000 บาท แต่อาจต้องนำไปซ่อมบ้านแทนจับจ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฝังร่าง ‘พังตามน’ ในพื้นที่ปางช้าง Elephant Nature Park https://thestandard.co/plai-tamon-buried/ Tue, 08 Oct 2024 13:01:56 +0000 https://thestandard.co/?p=993417

วันนี้ (8 ตุลาคม) ระหว่างลงพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเช […]

The post ฝังร่าง ‘พังตามน’ ในพื้นที่ปางช้าง Elephant Nature Park appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (8 ตุลาคม) ระหว่างลงพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ THE STANDARD ติดตาม แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม นำเจ้าหน้าที่ร่วมกันเคลื่อนย้ายร่างของช้างที่ล้มเนื่องจากเหตุน้ำท่วมมาประกอบพิธีฝัง

 

แสงเดือนระบุว่า ช้างเชือกนี้ไม่ใช่ของปางช้าง Elephant Nature Park แต่เป็นของตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่แม่แตง ที่ปางช้างให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายร่างจากบริเวณ Sunshine for Elephants นำมาฝังในพื้นที่ของ Elephant Nature Park

 

ด้านตำรวจนายดังกล่าวเปิดเผยต่อ THE STANDARD ว่า ช้างที่ล้มชื่อ ‘พังตามน’ อายุร่วม 70 ปี และมีปัญหาที่ขา ทำให้เดินช้ากว่าช้างเชือกอื่นๆ

 

จากนั้นเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ของ Elephant Nature Park กว่า 10 คน ขนย้ายร่างของพังตามนมาด้วยรถบรรทุกและรถตักดิน นำร่างวางลงในหลุมที่ขุดไว้ก่อนหน้า โรยด้วยผงปูนขาว พร้อมกันนี้ ยังมีพระสงฆ์มาประกอบพิธีด้วย

 

หมายเหตุ: THE STANDARD ได้รับอนุญาตให้ทำข่าวและเผยแพร่ภาพ

 

The post ฝังร่าง ‘พังตามน’ ในพื้นที่ปางช้าง Elephant Nature Park appeared first on THE STANDARD.

]]>