เริ่มแล้ววันนี้กับ Hotel Art Fair 2022 นิทรรศการงานอาร์ตที่เปลี่ยนตู้ โต๊ะ เตียง ในโรงแรมให้กลายเป็นแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะ โดยปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ภายใต้คอนเซปต์ ‘NEW’ โอบรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน เรื่องราว ความเปลี่ยนแปลงหรือความคิด หลังเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดจนทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป

การกลับมาในครั้งนี้ Hotel Art Fair เพิ่มวันจัดงานเป็น 4 วัน พร้อมกับชักชวนแกลเลอรี 28 แห่งจากทั่วไทยและภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ร่วมด้วย Guest Celebrity Curators อีก 2 คน ได้แก่ ริก้า ดีล่า และ วสุ วิรัชศิลป์ รวมทั้ง จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ แขกพิเศษที่นำคอลเล็กชันสะสมส่วนตัวมาจัดแสดง

กิจกรรมภายในงานยังมี Art Tank Talk โดย Art Tank.Media เสวนางานอาร์ตที่นำทีมโดย ยุพเรศ คุณาวงศ์ ซึ่งแบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่ Trend of Thai Art Investment, Art Crush, Fireside Chat About Life and Art และ Gen of Art Toys

พร้อมกันนี้ยังได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากสำนักงานการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) ที่มาช่วยขับเคลื่อนในเรื่องของการส่งเสริมงานศิลปะในแง่ของธุรกิจที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ พร้อมมีการทำประชาสัมพันธ์สื่อสารการจัดงานกับพันธมิตรจากต่างประเทศ

Hotel Art Fair จัดขึ้นในวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ ชั้น 8 และ 9 The Standard, Bangkok Mahanakhon ซื้อบัตรและเช็กอินเข้างานได้ที่ชั้น 3 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hotelartfair.com งานนี้ใครชอบชิ้นไหนสามารถซื้อติดมือกลับบ้านไปได้ด้วยนะ

Ten Fingers Factory & Design

Ten Fingers Factory & Design

งาน Alex Face กับ Bangkok CityCity Gallery 

Bangkok CityCity Gallery

Richard Koh Projects

Moon Landing

Moon Landing

Moon Landing

ผลงานจากศิลปินญี่ปุ่น กับ Kobayashi Gallery + Gallery Kunimatsu Aoyama

La Lanta Fine Art

Gallery Seescape

BearWolf

ศิลปะทดลอง Lik Sriprasert งานศิลป์ที่ตั้งคำถามกับสิ่งเดิม 

และพยายามทำลายฟอร์มเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่

The post Hotel Art Fair 2022 เทศกาลเปลี่ยนตู้ โต๊ะ เตียง ในโรงแรมให้กลายเป็นแกลเลอรี เริ่มแล้ว 3-6 พ.ย. ที่ The Standard, Bangkok appeared first on THE STANDARD.

นอกจากประเทศญี่ปุ่นก็มี ‘ฮ่องกง’ นี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย การปิดพรมแดนในช่วงโควิดที่ผ่านมาฮ่องกงมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะศิลปะ มีพิพิธภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม, M+ Museum เป็นต้น แน่นอนว่าการมาของมิวเซียมดีๆ เหล่านี้ดึงดูดงานอาร์ตดีๆ มากมาย เพราะแค่ช่วงท้ายปี 2022 ก็มีงานเดือดๆ มาให้ชมหลายชิ้น มาดูว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2022 มีงานนิทรรศการดีๆ อะไรบ้างที่นักเดินทางสายอาร์ตไม่ควรพลาด

TICK TOCK, TICK TOCK

ประติมากรรมกัมมี่แบร์ 8 เมตร

17 พฤศจิกายน – กลางธันวาคม 2022 | ใกล้หอนาฬิกาจิมซาจุ่ย

มูลนิธิ First Initiative Foundation ผู้จัดงาน ยกผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดของศิลปินชาวอเมริกัน WhIsBe มาไว้ถึงเกาะฮ่องกง รูปปั้นสีแดงขนาดยักษ์ที่มีความสูงกว่า 8 เมตร หรือเทียบได้กับตึก 3 ชั้น ผสมผสานความโมเดิร์นของกัมมี่แบร์ นอกจากจะได้สัมผัสขนมสุดรักในไซส์มหึมา ตัวงานยังมีแสงสีและเทคนิคดิจิทัล เช่น เอฟเฟกต์ AR และฟิลเตอร์ Instagram เพื่อยกระดับประสบการณ์การดูให้สนุกยิ่งขึ้น

ARTE Museum

นิทรรศการ Immersive Art ชื่อดังจากเกาหลีใต้

7 ตุลาคม 2022 – ธันวาคม 2023 | K11 HACC

หนึ่งในนิทรรศการมีชื่อจากเกาหลีใต้ และเป็นอีกชิ้นที่เราชอบมากเช่นกัน นิทรรศการศิลปะ Immersive Media แบบชั่วคราวของ ARTE Museum ในบ้านหลังใหม่ K11 ATELIER King’s Road นิทรรศการชิ้นนี้เป็นผลงานของบริษัทออกแบบด้านดิจิทัลของเกาหลีใต้ d’strict ผู้อยู่เบื้องหลัง ‘Wave’ ที่เคยสร้างชื่อมาแล้ว ณ COEX ในกรุงโซล ตัวนิทรรศการจะประกอบด้วย Media Art ทั้งหมด 6 ชิ้น ภายใต้ธีม Eternal Nature ซึ่งถือเป็นการจัดแสดงนอกเกาหลีใต้ครั้งแรก และเปิดให้ชมอย่างจุใจยาวนานถึง 15 เดือนเต็ม จากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงที่ 11 SKIES อย่างถาวรในช่วงปลายปี 2023 หรือต้นปี 2024 พร้อมกับผลงานใหม่แบบจัดเต็ม

Yayoi Kusama: 1945 to Now

ตามรอย ยาโยอิ คุซามะ ผ่านชิ้นงานจากอดีตถึงปัจจุบัน

12 พฤศจิกายน 2022 – 14 พฤษภาคม 2023 | M+

นิทรรศการผลงานเก่าๆ ของศิลปิน ยาโยอิ คุซามะ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (นอกประเทศญี่ปุ่น) โดยรวมผลงานมากกว่า 200 ชิ้น จากคอลเล็กชันหลักในพิพิธภัณฑ์และคอลเล็กชันส่วนตัวของนักสะสมจากทั่วเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมถึงคอลเล็กชันจาก M+ และคอลเล็กชันของศิลปินเอง ผู้เข้าชมจะได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับการรังสรรค์ชิ้นงานตลอดช่วงเวลากว่า 7 ทศวรรษในการเป็นศิลปินของคุซามะ โดยจะเน้นองค์ประกอบที่สร้างสุนทรียะและคำถามเชิงปรัชญาที่โดดเด่นอยู่ในทุกชิ้นงาน พร้อมค้นพบพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของศิลปะ นอกจากนี้ยังมีผลงานใหม่ล่าสุดจำนวน 3 ชิ้น ที่จะมาจัดแสดงอยู่ตามชั้นต่างๆ ของอาคาร M+ อีกด้วย

Odysseys of Art: Masterpieces Collected by the Princes of Liechtenstein

ยกสมบัติล้ำค่ากว่า 120 ชิ้น ของเจ้าชายมาจัดแสดง

9 พฤศจิกายน 2022 – 20 กุมภาพันธ์ 2023 | พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง

นิทรรศการที่ยกสมบัติล้ำค่ากว่า 120 ชิ้น ในคอลเล็กชัน Princely Collection of Liechtenstein อันทรงเกียรติมาสู่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก นิทรรศการแบ่งหัวข้อออกเป็น 8 ส่วน โดยชูคอลเล็กชันของเหล่าเจ้าชาย จัดหมวดหมู่ตามรสนิยมการสะสมงานอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพระองค์ ตลอดจนอิทธิพลอันลึกซึ้งของศิลปะและวัฒนธรรมจีนที่มีต่อศิลปะตกแต่งและสถาปัตยกรรมยุโรปตลอด 400 ปีที่ผ่านมา ไฮไลต์ของนิทรรศการนี้คือการนำเสนอผลงานชิ้นเอกที่ใหญ่ที่สุดของจิตรกรบาโรกในสมัยศตวรรษที่ 17 อย่าง ‘ปีเตอร์ พอล รูเบนส์’ และ ‘อันโตน ฟัน ไดก์’ สองศิลปินผู้มีชื่อเสียงในกลุ่มราชวงศ์ยุโรปเป็นอย่างมาก

En Voyage with Claude Monet

ประสบการณ์เยี่ยมชมงาน Monet แบบ 360 องศา

27 ตุลาคม 2022 – 15 มกราคม 2023 | Cultural Plaza

ประสบการณ์งานศิลปะแบบ Immersive Art กับแสงสีเสียงแบบ 360 องศา โดยสตูดิโอสุดสร้างสรรค์สัญชาติเบลเยียม Dirty Monitor และออร์แกไนเซอร์ด้านเทคโนโลยีศิลปะในเมืองอย่าง ChillHoYeah ที่จะพาผู้ชมไปพบกับผลงานชิ้นเอกของ Monet ประมาณ 200 ชิ้น ตลอดเส้นทางการเดินชมที่ใช้เวลา 36 นาที ซึ่งรวมไปถึงผลงานยอดนิยมอย่าง ‘Impression, Soleil Levant’ (1872) ที่ถูกสร้างขึ้นก่อนกระแส Impression จะได้รับการยอมรับในเวลาต่อมา

ภาพ: Courtesy of Brands

The post Hong Kong กับ 5 นิทรรศการน่าปักหมุดช่วงสิ้นปีสำหรับนักเที่ยวสายอาร์ต appeared first on THE STANDARD.

แม้คุณไม่ได้ติดตามงานศิลป์หรือสตรีทอาร์ตอื่นๆ แต่ย่อมต้องเคยผ่านตากับภาพกราฟฟิตี้สีขาว-ดำรูป ‘คนขว้างดอกไม้’ หรือ ‘เด็กทำลูกโป่งหลุดมือ’ ทางอินเทอร์เน็ต ผลงานส่วนหนึ่งของ Banksy ศิลปินสตรีทอาร์ตชาวอังกฤษสุดลึกลับ ที่ฝากผลงานอันมีเอกลักษณ์และทรงพลังไว้ตามกำแพงหรือสถานที่สาธารณะต่างๆ มากมาย งานของเขามักเป็นแนวเสียดสีสังคม เอ่ยถึงระบอบทุนนิยม การเมือง สงคราม ลามไปถึงเรียกร้องอิสรภาพ เสรีภาพ และด้วยเป็นสตรีทอาร์ต การดูงาน Banksy จึงจำเป็นต้องตีตั๋วบินตามไปดู นั่งรถออกไปหา เดินปักหมุดตามรอยสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้ไปเห็นชิ้นงานจริงสักชิ้นหนึ่ง 

แน่นอนว่า Banksy ไม่เพียงแต่พิชิตท้องถนน แต่เขายังทำผลงานบางส่วนออกประมูลขายแก่ผู้สนใจ ซึ่งนั่นทำให้กลุ่มศิลปินและคนรักงาน Banksy กลุ่มหนึ่งรวบรวมชิ้นงานจริงบางส่วน และจัดแสดงนิทรรศการ The Art of Banksy: “Without Limits” เพื่อนำงานของเขาสู่โลกกว้าง

The Art of Banksy: “Without Limits” เป็นนิทรรศการรวบรวมผลงานของ Banksy โดยเหล่านักสะสม ครั้งแรกในอาเซียน ที่เคยจัดแสดงมาแล้วกว่า 18 เมืองสำคัญทั่วโลก โดยมี King Power, MOCA BANGKOK และ Plan B Media เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ในการจัดงาน

ภายในงานจัดแสดงผลงานจริง 30 ชิ้น และผลงานรีเมกอื่นๆ รวมกันกว่า 150 ชิ้น ทั้งภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ประติมากรรม รวมไปถึงมัลติมีเดียอื่นๆ โดยเราจะได้เห็นงานคุ้นตากันอย่าง ‘Flower Thrower’ ภาพกราฟฟิตี้ขาว-ดำรูปคนขว้างดอกไม้ หรือ ‘Girl with Balloon’ รูปเด็กหญิงตัวน้อยที่ทำลูกโป่งสีแดงหลุดหาย นอกจากนี้ยังมีงานแนวประติมากรรมที่น่าสนใจ เช่น Police Helmet with Mirrors หรือห้องมัลติมีเดีย ‘Infinity Room’ ที่นำคุณไปพบงานและโลกของ Banksy ในชั่วพริบตา

The Art of Banksy: “Without Limits” จัดแสดงขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK) ราคาบัตรเข้างาน 250 บาท สามารถซื้อบัตรได้แล้วที่ Zipevent www.zipeventapp.com/e/THE-ART-OF-BANKSY-WITHOUT-LIMITS หรือจุดขายบัตรพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK) 

The post The Art of Banksy: “Without Limits” นิทรรศการรวบรวมผลงานของ Banksy โดยนักสะสม พร้อมงานจริงกว่า 30 ชิ้น appeared first on THE STANDARD.

เคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ในอนาคตหากเรามองกลับมา อาจเป็นเรื่องตลกก็ได้’ กันมาบ้างไหม?

ตลอดการเติบโตของแต่ละคนล้วนมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป ด้วยสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ ผู้คนที่เราต่างพบเจอ หรือแม้แต่ในครอบครัวเดียวกัน ก็ทำให้เรื่องราวชีวิตแตกต่างกันได้ แต่เราเชื่อว่าไม่ว่าเรื่องราวของแต่ละคนจะดำเนินมาแบบไหน ทุกครั้งที่เราได้นั่งฟังหรือซึมซับเรื่องราวเหล่านั้น สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาคือการ ‘หันกลับมามองตัวเอง’

Story of My Mind เป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของจิตรกรรุ่นใหม่อย่าง โบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย ผู้มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์ผลงานจากโลกเซอร์เรียล (Surrealism) บนผืนผ้าใบอันน่าตื่นเต้น โดยการกลับมาของเธอในครั้งนี้จะพาทุกคนไปโลดแล่นสู่จักรวาลแห่งชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นในการเดินทางในสายงานศิลปะ หรือแม้แต่สิ่งที่เธอต้องพบเจอในชีวิต

ซึ่งตัวกลางในการสื่อสารของเธอในครั้งนี้คือ ‘ไพ่ทาโรต์หลัก (Major Arcana)’ ที่มักจะซ่อนตัวละครลับอย่าง ‘เด็กหญิงในชุดผ้าคลุมสีแดง’ ไว้ในไพ่แทบทุกใบ โดยมีทั้งหมด 22 ใบ เริ่มต้นจาก The Fool ไพ่หมายเลข 0 และสิ้นสุดที่ไพ่ The World หมายเลข 21 พร้อมสอดแทรกเรื่องราวชีวิตของเธอผ่านไพ่ทาโรต์ทั้งหมด

เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องจัดแสดงงาน เราจะพบกับรูปปั้นเด็กหญิงใส่ผ้าคลุมสีขาวขนาดใหญ่ พร้อมมือที่ถือพู่กัน และเหยียบหลอดสีเพื่อเป็นตัวช่วยในการเดินทาง ตั้งสง่างามอยู่ภายหน้า เปรียบเสมือนตัวแทนในการต้อนรับผู้ชมทุกคนให้เดินทางไปกับเรื่องราวของเธอ 

บรรยากาศภายในงานทำให้ผู้ที่มาเยือนได้ค่อยๆ เรียนรู้ตัวตนของโบว์ไปเรื่อยๆ เริ่มจากไพ่ใบที่ 0 ไปจนถึงใบที่ 21 หลังจากนั้นจะพบกับห้องจัดแสดงเบื้องหลังของผลงานเหล่านี้ ซึ่งเธอได้จำลองเป็นห้องขนาดเล็ก มีโซฟาสีเหลืองตั้งอยู่ และเต็มไปด้วยกระดานสีมากมายที่เธอเลือกใช้

เรื่องราวชีวิตของเธอล้วนผ่านทุกข์ สุข โกรธ เศร้า ดีใจ เสียใจ ไม่ต่างอะไรกับชีวิตคนทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือรายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมดที่เจอ ทำให้เราเองก็อดหันกลับมามองตัวเองไม่ได้ เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนทำให้ตัวเราได้เป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็นเช่นทุกวันนี้ 

Story of My Mind เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ที่ River City Bangkok ห้อง RCB Galleria 1 ชั้น 2 ตั้งแต่วันนี้ – 28 สิงหาคม 2565 เวลา 11.00-20.00 น.

The post Story of My Mind นิทรรศการสะท้อนเรื่องราวชีวิตเด็กหญิงในชุดผ้าคลุมสีแดง ที่พาตัวเองไปอยู่ในไพ่ทาโรต์ appeared first on THE STANDARD.

เพราะจิตใจคือเรื่องใหญ่ เราเลยอยากชวนทุกคนไปเยี่ยมชมนิทรรศการครั้งใหม่ของทีม Eyedropper Fill เจ้าของผลงาน จักรวาลใจ (Mental-Verse) สารคดีสั้นเกี่ยวกับโรคซีมเศร้าที่เคยฉายให้ทุกคนชมในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเนื่องจากงานครั้งนั้นได้ผลตอบรับดีมาก ทีมเลยกลับมาพร้อมภาคต่อ ‘พาใจกลับบ้าน (HOMECOMING)’ ที่อยากชวนทุกคนกลับมาฮีลใจด้วยกันอีกครั้ง

ความตั้งใจของทีมงานก็คือ อยากให้หลายคนเข้าใจผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและอยากให้ผู้ป่วยซึมเศร้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขาจึงเลือกออกแบบงานในรูปของ Digital Art ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้แบบเบาใจ เช่นเดียวกับงานพาใจกลับบ้าน ที่เป็นภาคต่อของ จักรวาลใจ ครั้งนี้ด้วย ซึ่งงานนี้จะชวนทุกคนให้กลับมาสนใจตัวเอง ทำความเข้าใจตัวเอง และรู้จักตัวเองอีกครั้ง ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้จิตใจผ่อนคลาย โดยทุกอย่างเปิดให้เข้าร่วมฟรี

อย่างเช่น ‘AramArom’ ห้องศิลปะแนว Interactive Art ที่ด้านในทั้ง 6 ห้อง จะพาทุกคนไปสำรวจอารมณ์ของตัวเองผ่านประสาทสัมผัส หรือ ‘เวิร์กช็อป’ ที่มีทั้งการจัดดอกไม้ เกมไพ่ และสวิงแดนซ์

‘CONNE(X)T HOMECOMING: พาใจกลับบ้าน’ โดย Eyedropper Fill จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 7 สิงหาคมนี้ อยู่บนชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ สามารถจองรอบเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ zipeventapp.com/e/Conne-x-t-Homecoming 

ภาพ: Eyedropper Fill

The post ‘พาใจกลับบ้าน’ นิทรรศการใหม่จากทีม Eyedropper Fill ที่ชวนทุกคนกลับมาฮีลใจด้วยกัน appeared first on THE STANDARD.

การพูดถึงกลุ่มคนชาติพันธุ์และปัญหาความเหลื่อมล้ำอาจไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่การพูดถึงพวกเขาให้พวกเรา ‘รู้จัก’ มากขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ เมื่อเดินเข้าไปสัมผัสนิทรรศการใหม่ Sound of the Soul ที่จัดแสดงอยู่ในหอศิลปกรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง จึงคิดได้ขึ้นมาทันทีว่านี่คือการนำเสนอ ‘เสียง’ ของกลุ่มชาติพันธุ์ในรูปแบบที่เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ต้องอยากหยุดและตั้งใจฟัง

Sound of the Soul เป็นนิทรรศการเสียงจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่จัดโดยหอศิลปกรุงเทพฯ ร่วมกับศิลปิน 3 กลุ่ม คือ Hear & Found, ศุภชัย เกศการุณกุล และ DuckUnit พวกเขาตั้งใจช่วยกันออกแบบนิทรรศการให้ออกมาในรูปของงานศิลปะสไตล์ Visual Performance ที่มีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาช่วยเสริมให้ ‘เสียง’ อันเป็นใจความสำคัญของนิทรรศการมีความเด่นชัดมากขึ้น

ซึ่งเสียงที่นิทรรศการนี้อยากพูดถึงและอยากให้พวกเราฟังมี 3 ความหมาย คือ เสียงธรรมชาติอันเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงน้ำ เสียงนก หรือเสียงไม้ ต่อมาคือเสียงดนตรีที่เป็นเหมือนวัฒนธรรมของพวกเขา และสุดท้ายเป็นเสียงของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่เคยมีใครรับฟัง

หลายคนอาจคิดว่าเนื้อหาของนิทรรศการนี้ดูหนัก แต่เราว่าทีมศิลปินออกแบบพื้นที่ได้เปิดโล่งและให้อิสระกับผู้ชมมากพอตัว เชื่อว่าทุกคนจะเดินชมและฟังเสียงต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินจนลืมตัวแน่ๆ

เริ่มตั้งแต่การออกแบบทางเดินด้วยผ้าที่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งเบื้องหลังผืนผ้าที่ถูกตัดปลายเป็นทรงโค้งราวกับภูเขาจะมีเสียงแว่วๆ ของกลุ่มชาติพันธุ์ให้เราเงี่ยหูฟังด้วย รวมถึงไฟกลางห้องที่เคลื่อนไหวได้ก็ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเดินเข้าไปอีกจะพบงานวิดีโอที่ศิลปินเข้าป่าไปพูดคุยกับกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยตัวเอง ก่อนจะนำข้อความเหล่านั้นมาเปิดให้ชมและคิดตามผ่านหูฟัง ซึ่งเรื่องราวตรงนี้ไม่อยากให้ทุกคนเดินผ่าน เนื่องจากเป็นเสียงจริงๆ ของคนชาติพันธุ์ที่ไม่ถูกเกลาหรือดัดแปลง

“ด้วยความที่เราทำงานที่หอศิลป์ และได้เห็นการเรียกร้องต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เรื่องความเหลื่อมล้ำของกลุ่มคนชาติพันธุ์ก็เป็นอีกเรื่องที่พวกเราสนใจ แต่เราจะนำเสนออย่างไรให้ไม่กลายเป็นนิทรรศการเชิงมนุษยวิทยาและไม่ต่อว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงเกิดเป็นนิทรรศการนี้ที่อยากให้คนรุ่นใหม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่มีสอนในห้องเรียน” หนึ่งในทีมผู้จัดนิทรรศการ ฟ้า-กัณหรัตน์ เลี่ยมทอง หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมศิลปะของหอศิลป์ บอกกับเรา

Sound of the Soul เปิดให้เข้าชมฟรี ที่ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)

The post Sound of the Soul นิทรรศการชวนเงี่ยหูฟังเสียงของกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านงานวิชวลอาร์ตและแสงไฟ appeared first on THE STANDARD.

บทสัมภาษณ์พิเศษของ คุณใหม่-ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน หลังร่วมมือกับ Google Arts & Culture ในบทบาทภัณฑารักษ์ ที่คุณใหม่ได้นำผลงานทางประวัติศาสตร์ของไทยออกสู่สายตาชาวโลกในรูปแบบนิทรรศการออนไลน์ ที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในผลงานชิ้นนั้นโดยอาศัยตัวช่วยอย่างเทคโนโลยีล้ำสมัย
สามารถเข้าชมเพิ่มเติมได้ที่ History of Glass Plate Photography in Siam – Google Arts & Culture

TIME INDEX

0:00 คุณใหม่ เจนเซน ชวนติดตามนิทรรศการไทยบน Google Arts & Culture
0:29 บทบาทภัณฑารักษ์ในช่วงสถานการณ์โควิด
1:49 ความสนุกกลับมาอีกครั้งปรับมาทำนิทรรศการออนไลน์
4:58 นิทรรศการฟิลม์กระจกในรูปแบบออนไลน์
10:40 โปรเจกต์ในอนาคตที่จะทำร่วมกับ Google
13:04 พิพิธภัณฑ์ในฝันของคุณใหม่

ชมคลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://thestandard.co/video/

The post ชมคลิป: คุณใหม่ เจนเซน ชวนติดตามนิทรรศการไทยบน Google Arts & Culture appeared first on THE STANDARD.

เตรียมพบกับนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในเมืองไทยของ 2CHOEY (ทู-เชย) ศิลปินแนวสตรีทอาร์ต ที่จะพา ‘Fingies’ ตัวการ์ตูนนิ้วมือที่มีคาแรกเตอร์แสนซน มานำเสนอประเด็นต่างๆ ในสังคมได้อย่างแสบสันและคมคาย จนเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนๆ ชาวไทยและต่างชาติ   

นิทรรศการชุดนี้มีชื่อว่า ‘Fingers Crossed’ ที่แรงบันดาลใจเกิดขึ้นในช่วงโควิด ซึ่งเป็นตอนที่ศิลปิน 2CHOEY ย้ายจากประเทศออสเตรเลียมายังเมืองไทย ภาพวาดเหล่านี้จึงคล้ายกับไดอะรีบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่เขาสนใจ ไม่ว่าจะความยากลำบากของผู้คน วัฒนธรรมการบริโภคอาหารขยะ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อม และโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ที่แม้จะเป็นประเด็นทางสังคม แต่ 2CHOEY ได้นำเสนออย่างสร้างสรรค์ในรูปแบบที่ร่วมสมัย ใช้โทนสีสดใส ชวนให้ติดตามชม  

ใครสนใจสามารถชมนิทรรศการ Fingers Crossed โดย 2CHOEY (ทู-เชย) ที่ร่วมมือกับ Trendy Gallery และ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้ที่ RCB Galleria 3 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ถึง 14 พฤศจิกายน 2564 www.trendygallery.co.th โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ 

The post ความยากลำบากของผู้คน วัฒนธรรมการบริโภคอาหารขยะ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม เผยให้เห็นใน ‘Fingers Crossed’ นิทรรศการครั้งแรกของ 2CHOEY appeared first on THE STANDARD.

ในสถานการณ์ของบ้านเราที่โควิด-19 ยังคงระบาดหนักและอยู่ในขั้นวิกฤต เหล่าคนที่รักศิลปะหลายคนคงลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับงานนิทรรศการต่างๆ โดยเฉพาะมหกรรมเทศกาลศิลปะที่ทุกคนรอคอยอย่าง Bangkok Design Week หลังจากที่เลื่อนมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ทุกคนก็หายห่วงได้ เพราะทางทีมงานได้ปรับเปลี่ยนวิธีเสพศิลป์และพูดคุยเป็นแบบออนไลน์ให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบ New Normal แล้ว และยังขยายเวลาของนิทรรศการจากวันที่ 8 พฤษภาคม ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 อีกด้วย

การปรับมาจัดงานในรูปแบบออนไลน์นั้น ทางผู้จัดได้เลือกออกแบบให้เข้ากับประเภทของแต่ละกิจกรรมต่างๆ และตามสถานการณ์ตลอดทั้ง 3 เดือน เริ่มจากในเดือนพฤษภาคมที่งานจะเป็นออนไลน์ทั้งหมด เริ่มจากงาน Online Talks ซึ่งเป็นกิจกรรมที่รวบรวมผู้ประกอบการ นักออกแบบ นักวิจัย และเหล่าครีเอทีฟมาแลกเปลี่ยนพูดคุย โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้กรุงเทพมหานคครมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม จัดขึ้นผ่านทางไลฟ์สตรีมมิงของเฟซบุ๊กเพจ Bangkok Design Week และผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ซึ่งกิจกรรมการทอล์กออนไลน์สำหรับเดือนพฤษภาคมได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 8 และจะจัดหัวข้อสุดท้ายประจำเดือนนี้ในวันที่ 15 พฤษภาคม (14:00-17:00 น.) ในหัวข้อ ‘ลองทาย ลองTRY x SC ASSET, Powered by PechaKucha’ ซึ่งเป็นการรวบรวมนักสร้างสรรค์กว่า 20 ชีวิต นำทีมโดย ป๋าเต็ด มาพูดคุยผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กของงาน 

การจัดนิทรรศการในพื้นที่จริง ณ TDCD หรือพื้นที่อื่นๆ อย่างสตูดิโอของดีไซเนอร์ยังคงมีการจัดเช่นเดิม แต่ปรับรูปแบบสำหรับผู้เข้าชม โดยทางผู้จัดจะพา Virtual Tour ให้เหมือนกับเราได้เดินชมงานจริงๆ โดยงานแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 15:00 น. กับงาน ‘อยู่บ้านส่องงานดีไซน์ PAW-DEE x PATAPiAN’ นิทรรศการงานออกแบบที่เกิดจากการนำเทคนิคไม้ไผ่โบราณมาผสานการออกแบบที่ร่วมสมัย โดยจะไลฟ์ผ่าน https://www.facebook.com/pawjaipawdee/ ส่วนใครที่อยากเห็นของจริงสามารถไปชมได้ที่ ATTA ‘N’ ATTA Artspace โครงการ Warehouse 30 โดยต้องนัดหมายล่วงหน้าตามมาตรการการเฝ้าระวังของผู้จัดงาน 

นอกจากนั้นเรายังเข้าร่วมกิจกรรมแบบออนไลน์ได้อีกมากมาย เช่น การชมดนตรี ดูการแสดง เวิร์กช็อปออนไลน์ และตลาดออนไลน์ ซึ่งไฮไลต์จะมีอะไรอีกบ้าง THE STANDARD POP จะคอยสรุปมาฝาก 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทั้งโครงการได้ที่ https://www.facebook.com/BangkokDesignWeek 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post Bangkok Design Week ปรับรูปแบบจัดงานรูปแบบออนไลน์ ให้คุณเสพศิลป์อย่างปลอดภัย วันนี้ – 31 กรกฎาคม appeared first on THE STANDARD.

ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล นับเป็นศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียงด้านการวาดภาพและออกแบบที่โด่งดังถึงต่างประเทศ ด้วยฝีมือวาดภาพและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอที่ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายของศิลปะแบบจีน ส่งให้เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Gucci หลายต่อหลายครั้ง และล่าสุดเธอก็ได้ฤกษ์แสดงผลงานส่วนตัวในชื่อ Venus of the Shell

ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล 

แรงบันดาลใจหลักของงานนี้ ได้แก่ เทพวีนัส เทพีแห่งความรัก ความงาม เพศ และความรุ่งเรือง เมื่อเทพวีนัสนั้นเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคนตามความเชื่อของเทพปกรณัมของกรีก-โรมัน แต่ในความเป็นจริงอาจมีด้านอื่นที่แตกหัก ผิดหวัง โดดเดี่ยว โกรธแค้น และมืดมนไม่ต่างกับมนุษย์ 

ยูนได้ถ่ายทอดความคิดเหล่านี้ลงบนจิตรกรรมฝาผนังและกระเบื้องโมเสกที่เต็มไปด้วยสีสันตระการตา นำเสนอบนพื้นที่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน อันประกอบไปด้วย Forbidden Flower, Moonlight Dive, Mandragora in the Vase และ The Wanderer ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินเข้าไปในเปลือกหอย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของเทพวีนัส ทั้งยังเปรียบให้เห็นถึงความลึกล้ำซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ที่ยากจะหยั่งถึง

นิทรรศการ Venus in the Shell จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เข้าชมได้ฟรีที่ River City Bangkok Galleria ชั้น 2 โดยสามารถติดตามผลงานของยูน ปัณพัท ได้ทาง www.phannapast.com 

ภาพ: River City Bangkok Galleria 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post นิทรรศการ Venus of the Shell โดย ยูน ปัณพัท เปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ appeared first on THE STANDARD.