นาฬิกาข้อมือ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 06 Nov 2025 05:04:28 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึกตำนานไอร์ตัน เซนนา https://thestandard.co/tag-heuer-senna-tribute/ Thu, 06 Nov 2025 05:04:28 +0000 https://thestandard.co/?p=1140223 TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา

TAG Heuer เปิดตัวนาฬิกา Formula 1 Chronograph รุ่นพิเศษ […]

The post TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึกตำนานไอร์ตัน เซนนา appeared first on THE STANDARD.

]]>
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา

TAG Heuer เปิดตัวนาฬิกา Formula 1 Chronograph รุ่นพิเศษ 2 แบบ เพื่อสดุดีตำนานนักขับ F1 ชาวบราซิล ไอร์ตัน เซนนา โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในศึก São Paulo Grand Prix 2025 ซึ่งสานต่อความร่วมมืออันยาวนานตั้งแต่ปี 1988

 

รุ่นแรก TAG Heuer Formula 1 Chronograph x Senna 44 mm มาในโทนดำเข้มพร้อมดีไซน์สะท้อนเอกลักษณ์หมวกกันน็อกและสีประจำชาติบราซิล ตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ DLC น้ำหนักเบา หน้าปัดดำแบบ sunray พร้อมเข็มวินาทีสีเหลืองและดีเทลธงชาติบราซิล ส่วนฝาหลังสลักภาพ “ดวงตาเซนนา” หลังหมวกกันน็อก และสายยางสีเหลืองที่เข้าชุดกับแพ็กเกจจิงสุดพิเศษ

 

อีกรุ่นคือ 43 mm Limited Edition (จำนวน 3,000 เรือน) ดีไซน์คลาสสิกขึ้นด้วยสายนาฬิกา S/EL สเตนเลสขัดด้าน-เงา หน้าปัดดำตกแต่งสีเหลือง เขียว แดง พร้อมขอบทาโครมิเตอร์อะลูมิเนียมสีดำสลักโลโก้ ‘SENNA’ และตัว ‘S’ สีเหลือง

 

โดยนาฬิกา 44 มม. ราคา 5,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนรุ่น 43 มม. จำหน่ายในราคา 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ วางจำหน่ายแล้วผ่าน TAG Heuer ทั่วโลก

 

TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 1
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 2
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 3
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 4
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 5
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 6
TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึก ตำนานไอร์ตัน เซนนา 7

The post TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ รำลึกตำนานไอร์ตัน เซนนา appeared first on THE STANDARD.

]]>
CHANEL PREMIÈRE GALON การกลับมาอีกครั้งของนาฬิกาที่คลาสสิกเหนือกาลเวลา https://thestandard.co/chanel-premiere-iconic-allure-classic/ Fri, 10 Oct 2025 07:33:05 +0000 https://thestandard.co/?p=1128554 chanel-premiere-iconic-allure-classic

ถ้าให้ลองนึกถึงนาฬิการะดับไอคอนิกจากแบรนด์ลักชัวรี่ระดั […]

The post CHANEL PREMIÈRE GALON การกลับมาอีกครั้งของนาฬิกาที่คลาสสิกเหนือกาลเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
chanel-premiere-iconic-allure-classic

ถ้าให้ลองนึกถึงนาฬิการะดับไอคอนิกจากแบรนด์ลักชัวรี่ระดับดับแถวหน้าของวงการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทั้งเสน่ห์แบบ Allure และมีความคลาสสิกแบบใส่กี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ THE STANDARD POP เชื่อว่าชื่อของ ‘CHANEL PREMIÈRE’ จะต้องถูกนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน

 

ไม่เพียงแต่ได้ชื่อว่าเป็นการเปิดประตูสู่การรังสรรค์คอลเลกชันนาฬิกาสำหรับผู้หญิงเรือนแรกอย่างเป็นทางการของ CHANEL ที่เปิดตัวในปี 1987 แต่ทุกๆ องค์ประกอบของนาฬิกา PREMIÈRE ล้วนแล้วแต่ถูกดีไซน์ขึ้นมาอย่างใส่ใจ พิถีพิถัน และมีเรื่องราวในทุกๆ มิติก็ว่าได้

 

เจนนี่ คิม กับ CHANEL PREMIÈRE GALON

เจนนี่ คิม กับ CHANEL PREMIÈRE GALON

 

ไล่ตั้งแต่หน้าปัดตัวเรือนที่แค่เห็นเพียงหางตา ก็ทราบทันทีว่านี่คือแบรนด์ CHANEL โดยหยิบยืมเอารูปทรงฝาขวดนํ้าหอม N°5 ทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์มาใช้ออกแบบ เช่นเดียวกับสายของตัวเรือนที่นำเอาอัตลักษณ์หนังกระเป๋าลายควิลท์มาร้อยเรียงเข้ากับสายโซ่สีทอง จนทำให้เกิดภาพรวมที่ลงตัว ดูคลาสสิก แต่ขณะเดียวกันก็ยังทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

 

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย ที่ถึงจะล่วงเลยมาแล้วเกือบ 40 ปี แต่ PREMIÈRE ก็ยังคงสถานะไอเทมระดับไอคอนิกของวงการได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งยังปรากฏอยู่บนข้อแขนผู้คนมากมายทั่วโลกอย่างน่าหลงใหล

 

นาฬิกา CHANEL PREMIÈRE ที่เน้นดีไซน์

PREMIÈRE GALON โดดเด่นด้วยกำไลข้อมือแบบเปียบิดเกลียวและหน้าปัดตัวเรือนเคลือบแลคเกอร์สีดํา

 

ในปี 2025 ทาง CHANEL ก็ได้นำ PREMIÈRE กลับมาตีความและสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งด้วยไวยากรณ์ที่ต่างออกไปจากเดิม แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็น PREMIÈRE ทุกประการภายใต้ซีรีส์ ‘PREMIÈRE GALON’

 

ความโดดเด่นของ CHANEL PREMIÈRE GALON คือการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวเรือนแบบแปดเหลี่ยมไว้เช่นเดิม แต่แตกต่างและยูนีกด้วยการเปลี่ยนมาใช้กำไลข้อมือแบบดีไซน์แถบเปียแบบบิดเกลียวแทนที่สายโซ่คล้องหนังรัดข้อมือแบบเดิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในลูกเล่นซิกเนเจอร์ ที่ Gabrielle Chanel ผู้ก่อต้ังแบรนด์ จะใช้เป็นลูกเล่นแต่งขอบเสื้อผ้า ประดับทั้งบนกระเป๋าและปลายแขนเสื้อเพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับซิลูเอตของชุด และการเบลนด์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบกราฟฟิกให้กับผืนผ้า

 

เบ็คกี้ รีเบคก้า แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ CHANEL กับ CHANEL PREMIÈRE GALON ในงานแฟชันโชว์ Spring/Summer 2026 ของ CHANEL

เบ็คกี้ รีเบคก้า แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ CHANEL กับ CHANEL PREMIÈRE GALON
ในงานแฟชั่นโชว์ Spring/Summer 2026 ของ CHANEL 

 

แถบเปียที่ว่านี้ CHANEL ได้อธิบายไว้เบื้องต้นว่า สามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้จากหลากหลายวัสดุและเทคนิควิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการถักไหมพรม การทอ หรือการบิดเกลียว เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับเครื่องแต่งกายของแบรนด์นั่นเอง

 

 PREMIÈRE GALON DIAMONDS ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18K พร้อมหน้าปัดเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 108 เม็ด

PREMIÈRE GALON DIAMONDS ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18K
พร้อมหน้าปัดเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 108 เม็ด

 

กลับมาที่คอลเลกชัน PREMIÈRE GALON นอกเหนือจากกำไลข้อมือแถบเปียแบบบิดเกลียวที่สวยงามสะกดใจแล้ว ตัววัสดุทั้งหน้าปัดและตัวเรือนก็ยังใช้วัสดุเป็นทองคำเยลโลว์โกลด์ 18K เพื่อตอกย้ำถึงความบริสุทธิ์เรียบง่ายของหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีดำเข้มได้อย่างลงตัว

 

Marion Cotillard พร้อม CHANEL PREMIÈRE GALON ในลุคเข้าร่วมงานแฟชันโชว์ Spring/Summer 2026 ของ CHANEL

Marion Cotillard พร้อม CHANEL PREMIÈRE GALON ในลุคเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ Spring/Summer 2026 ของ CHANEL

 

ส่วนสำหรับตัวเรือนแบบประดับเพชรมาพร้อมกันถึง 2 เวอร์ชัน ได้แก่ ตัวเรือนแบบหน้าปัดเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 108 เม็ด (~0.49 กะรัต) และตัวเรือนแบบเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 52 เม็ด (~0.24 กะรัต) หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีดํา ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วไม่เพียงแต่เป็นนาฬิกา แต่สามารถเป็นอีกหนึ่งแอกเซสซอรี่ที่ใส่ได้ประจำวันแบบ Day-To-Night และนำมาเป็นมิกซ์แอนด์แมทช์แบบ Stacking คู่กับชิ้นอื่นได้แบบมีสไตล์

 

คิมโกอึน ดารานักแสดงศิลปินชาวเกาหลีกับ CHANEL PREMIÈRE GALON

คิมโกอึน ดารานักแสดงศิลปินชาวเกาหลีกับ CHANEL PREMIÈRE GALON 

 

PREMIÈRE GALONตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 52 เม็ด หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีดํา

PREMIÈRE GALON ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ 52 เม็ด 
หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีดํา

 

ศึกษาข้อมูลของ CHANEL PREMIÈRE GALON เพิ่มเติมได้ที่ https://www.chanel.com/th/watches/premiere/c/4x2x2/

The post CHANEL PREMIÈRE GALON การกลับมาอีกครั้งของนาฬิกาที่คลาสสิกเหนือกาลเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
สยามพิวรรธน์สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการลักซ์ชัวรีรีเทล เปิด Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [Advertorial] https://thestandard.co/siamparagon-bangkok-watch-week-2025/ Sat, 27 Sep 2025 03:00:27 +0000 https://thestandard.co/?p=1123323 siamparagon-bangkok-watch-week-2025

บนภูมิทัศน์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีจักรวาลของน […]

The post สยามพิวรรธน์สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการลักซ์ชัวรีรีเทล เปิด Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
siamparagon-bangkok-watch-week-2025

บนภูมิทัศน์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีจักรวาลของนาฬิกาหรูที่ยืนหยัดเหนือกาลเวลา ในฐานะ ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ (Alternative Asset) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ากลไกขนาดจิ๋วบนข้อมือสามารถสะท้อนมูลค่าอันมั่นคง สวนกระแสความผันผวนของตลาดการลงทุนทั่วไป และกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งอนาคตได้อย่างเหนือความคาดหมาย

 

ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล อุตสาหกรรมนาฬิกาหรูของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโดยรวมอาจพุ่งสูงถึง 420–650 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ปัจจัยสำคัญมาจากกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานะของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการช็อปปิงที่ดึงดูดนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลก สิ่งนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าตลาดนาฬิกาหรูให้กลายเป็น ‘Collectors Market’ ที่เต็มไปด้วยพลวัตและความน่าค้นหา

 

เพื่อตอบรับกับกระแสดังกล่าวและตอกย้ำภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองหลวงแห่งเรือนเวลาของภูมิภาค ‘Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 จึงได้เกิดขึ้นในฐานะปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ที่รวบรวมแบรนด์นาฬิการะดับโลกกว่า 30 แบรนด์มาไว้ภายใต้หลังคาเดียวกัน สร้างเวทีให้แก่ผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาได้เข้ามาสัมผัสกับมรดก นวัตกรรม และจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์

 

ในพิธีเปิดงานซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและผู้บริหารแบรนด์นาฬิกาจากทั่วโลก ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมกล่าวถึงเจตนารมณ์และความสำคัญของการจัดงานในครั้งนี้

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

“สยามพารากอนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมที่สุดแห่งโลกของเรือนเวลามาไว้ ณ ที่แห่งนี้ ‘Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025’ ไม่ใช่เพียงงานจัดแสดงนาฬิกา แต่คือการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับวัฒนธรรมแห่งความหรูหรา ที่ซึ่งมรดก นวัตกรรม และความหลงใหลได้มาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์”



คำกล่าวของชฎาทิพสะท้อนภาพใหญ่อันเป็นหัวใจสำคัญ นั่นคือวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้า แต่คือการสร้างสรรค์ ‘แพลตฟอร์ม’ ที่เชื่อมโยงแบรนด์ระดับโลกเข้ากับลูกค้าที่มีรสนิยมได้อย่างไร้รอยต่อ ศักยภาพในการเนรมิตปรากฏการณ์ระดับโลกเช่นนี้จึงเป็นผลลัพธ์จากการสั่งสมประสบการณ์และความเข้าใจในตลาดลักชัวรีอย่างลึกซึ้ง

 

เวทีเสวนาสำคัญจึงได้เริ่มต้นขึ้น เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์ดังกล่าว กับ Opening Symposium ในหัวข้อ Moments That Last : Thailand as a Luxury Destination for Watch Culture, Storytelling, and Legacy ซึ่งเป็นการรวมตัวของบุคคลสำคัญในวงการ

 

ไม่ว่าจะเป็น แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์โครงการและพัฒนาธุรกิจ บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด, ณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท PMT The Hour Glass, มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of Bvlgari Thailand 

 

และดำเนินรายการโดย นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD เพื่อร่วมกันถอดรหัสความหมายที่แท้จริงของ ‘เวลา’ และ ‘มูลค่า’ ที่ซ่อนอยู่ภายใน

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

แก่นแท้แห่งความหรูหราในมุมมองของผู้สร้างเดสติเนชั่น

 

เมื่อนิยามของความหรูหราไม่ได้หยุดอยู่แค่การครอบครอง แต่วัดกันที่ความรู้สึกและประสบการณ์ แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์โครงการและพัฒนาธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่แก่นแท้ของ Luxury ยังคงหยั่งรากลึกอยู่ที่ Heritage, Craftsmanship และ Quality เช่นเดิม

 

“แก่นแท้ของความหรูหราได้หวนกลับคืนสู่ความหมายดั้งเดิม แม้แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่เองก็ตาม เรื่องราวเบื้องหลัง คุณภาพ และงานฝีมืออันประณีตได้กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายยิ่งขึ้น แบรนด์ต่างๆ จึงต้องกลับมาให้ความสำคัญกับรากฐานและคุณค่าที่แท้จริงเหล่านี้”

 

ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์ทำได้เพียงปลายนิ้ว บทบาทของพื้นที่ค้าปลีกอย่างสยามพารากอนจึงต้องก้าวข้ามการเป็นเพียงสถานที่ซื้อขาย แต่ต้องทำหน้าที่เป็น ‘แพลตฟอร์ม’ สำหรับการสร้างประสบการณ์และการเล่าเรื่อง การซื้อนาฬิกาสักเรือนจึงก้าวข้ามการเป็นเพียงธุรกรรม ไปสู่การบันทึก ‘Special Moment’ หรือช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน การจบการศึกษา หรือความสำเร็จในหน้าที่การงาน

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

“ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับในบูติก การได้นั่งฟังเรื่องราวความเป็นมาของนาฬิกาเรือนนั้นๆ คือความพิเศษที่โลกออนไลน์ไม่สามารถมอบให้ได้ เราจึงเป็นสถานที่สำหรับสร้างช่วงเวลาอันน่าจดจำให้กับทุกคน และเรื่องราวเหล่านั้นก็เกิดขึ้นจริงในทุกๆ วันจากผู้ที่มาเยือนสยามพารากอน”


ปรัชญาแห่งกาลเวลา เมื่อนาฬิกาคือศิลปะอันมีจิตวิญญาณ

 

ขณะที่มุมมองหนึ่งขับเคลื่อนด้วยธุรกิจและประสบการณ์ อีกมุมหนึ่งได้พาเราดำดิ่งสู่ปรัชญาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท PMT The Hour Glass ได้แบ่งปันมุมมองว่า นาฬิกาเป็นมากกว่าเพียงวัตถุทางวิศวกรรม แต่คือ ‘Kinetic Art’ หรืองานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ซึ่งบรรจุไว้ซึ่งจิตวิญญาณของผู้สร้าง

 

“หากปราศจาก ‘ปรัชญา’ การสร้างนาฬิกาก็จะเป็นเพียงงานวิศวกรรมที่เที่ยงตรงแต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ สิ่งที่ทำให้นาฬิกาเรือนหนึ่งมีคุณค่าที่แท้จริง คือเรื่องราว นวัตกรรม และขนบธรรมเนียมในการผลิตที่แต่ละแบรนด์ได้สืบทอดกันมา”

 

สำหรับนักสะสมตัวจริง ความน่าหลงใหลได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าฟังก์ชันการทำงาน สู่การสร้าง ‘Human Connection’ หรือความเชื่อมโยงกับผู้ผลิตนาฬิกา การได้เข้าใจถึงความมุ่งมั่นและ Passion ที่อยู่เบื้องหลังกลไกอันซับซ้อน ดังนั้นภารกิจสำคัญจึงเป็นการ ‘Advance Culture’ หรือการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการรักและเข้าใจในเรือนเวลาให้กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

เสียงจากคนรุ่นใหม่ คุณค่าที่สัมผัสได้ในโลกดิจิทัล

 

ในฐานะตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับเทคโนโลยี มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of Bvlgari Thailand ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า ในยุคที่เวลาสามารถดูได้จากทุกอุปกรณ์ สิ่งที่เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนได้คือความ ‘Touchable’ หรือประสบการณ์ที่จับต้องได้ และ ‘จิตวิญญาณ’ ที่สถิตอยู่ในนาฬิกาแต่ละเรือน

 

“หัวใจสำคัญที่ทำให้ผมหลงใหลในนาฬิกา คือสิ่งที่เทคโนโลยีให้ไม่ได้ นั่นคือจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์และเรื่องราวที่สัมผัสได้จริง มันคือความแตกต่างที่ทำให้การครอบครองนาฬิกาสักเรือนมีความหมายมากกว่าแค่การดูเวลา”

 

สำหรับภาคภูมิแล้ว การสะสมนาฬิกาคือการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความสุขส่วนตัว เป็นการลงทุนทางความรู้สึกที่ผูกพันกับความทรงจำและช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิต ซึ่งคุณค่าทางใจนี้เองที่สำคัญไม่แพ้มูลค่าทางการลงทุน

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

ที่สุดแห่งประสบการณ์ที่รอให้คุณมาสัมผัส

 

นอกเหนือจากเวทีเสวนาที่อัดแน่นไปด้วยความรู้และแรงบันดาลใจ Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ยังมอบประสบการณ์ที่จับต้องได้จริงผ่านโซนจัดแสดงและกิจกรรมต่างๆ ที่คัดสรรมาอย่างพิเศษ

  • The Exhibition ที่รวบรวมเรือนเวลาระดับพิพิธภัณฑ์ที่หาชมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น Patek Philippe Calatrava Ref:96 Steel หน้าปัดสี Salmon อันเป็นตำนาน, Audemars Piguet Master02 ที่ผลิตจำกัดเพียง 250 เรือนทั่วโลก หรือ Bvlgari Fenice Octo Roma Secret เรือนเวลาหนึ่งเดียวในโลกที่มูลค่าประเมินค่าไม่ได้

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

  • Global Launch & First-Time Debut เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในโลกหลายรุ่น อาทิ Chopard L.U.C XPS Urushi Naga, Louis Erard Le Regulateur Louis Erard x Vianney Halter Thailand Edition และการเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยของ Jaquet Droz แบรนด์นาฬิกาสวิสเก่าแก่กว่า 280 ปี
  • The Symposium เจาะลึกเบื้องหลังการรังสรรค์เรือนเวลาไปกับเวทีเสวนาจากผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ชั้นนำมากมายตลอดงาน อาทิ TAG HEUER, ZENITH, PANERAI, H. MOSER & CIE., BOVET, CHOPARD, BREITLING และอีกมากมาย ที่จะมาแบ่งปันเรื่องราวและนวัตกรรมอย่างเจาะลึก

 

Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025

 

ความสำเร็จของการจัดงาน Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้วางใจที่แบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกมีต่อกลุ่มสยามพิวรรธน์ การรวบรวมผู้บริหารระดับสูงจากนานาชาติ เรือนเวลาที่หาชมได้ยาก และการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ล่าสุดพร้อมกันในที่เดียว สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและมาตรฐานการจัดงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สยามพิวรรธน์จึงไม่ได้ทำหน้าที่เพียงผู้จัดสรรพื้นที่ ทว่าเป็นพันธมิตรคนสำคัญที่ร่วมขับเคลื่อนและยกระดับวัฒนธรรมเรือนเวลาในประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้น


บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดได้ฉายภาพให้เห็นว่า มูลค่าของนาฬิกาหรูไม่ได้ถูกกำหนดด้วยกลไกหรือวัสดุเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการหลอมรวมของศิลปะ มรดก วัฒนธรรม และประสบการณ์ที่แบรนด์มอบให้ 

 

ซึ่งทั้งหมดนี้รอให้ผู้ที่หลงใหลได้มาสัมผัสด้วยตนเองในงาน Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กันยายน 2568 ณ สยามพารากอน เพื่อร่วมพิสูจน์ว่าเวลาไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นตำนานที่ถูกสืบทอดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

The post สยามพิวรรธน์สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการลักซ์ชัวรีรีเทล เปิด Siam Paragon Bangkok Watch Week 2025 ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Seiko 5 Sports x Pepsi การใช้ชื่อ “Pepsi Watch” ของจริงอย่างเป็นทางการ https://thestandard.co/seiko-pepsi-watch-collaboration/ Tue, 26 Aug 2025 14:32:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1111653 seiko-pepsi-watch-collaboration

Pepsi ไม่ได้เป็นแค่ชื่อเล่นของนาฬิกาบางรุ่นอีกต่อไปแล้ว […]

The post Seiko 5 Sports x Pepsi การใช้ชื่อ “Pepsi Watch” ของจริงอย่างเป็นทางการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
seiko-pepsi-watch-collaboration

Pepsi ไม่ได้เป็นแค่ชื่อเล่นของนาฬิกาบางรุ่นอีกต่อไปแล้ว หลังล่าสุดพวกเขาจับมือกับ Seiko เปิดตัวนาฬิกา Seiko 5 Sports x Pepsi อย่างเป็นทางการครั้งแรก 

 

การจับมือครั้งนี้ ทำให้ Seiko ออกนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน SSK047 และ SRPL99 ที่แฟน ๆ สามารถเรียกว่า “Pepsi Watch” ได้เต็มปาก

 

ที่ผ่านมาชื่อ “Pepsi” เป็นเพียงฉายาที่คอสะสมนาฬิกาใช้เรียกนาฬิกาที่มีขอบหน้าปัดสีแดง–น้ำเงิน เช่น Rolex GMT-Master II BLRO แต่ Seiko กลายเป็นแบรนด์แรกที่ทำให้ชื่อเล่นนี้กลายเป็นทางการ ผ่านความร่วมมือกับ Pepsi โดยตรง

 

นาฬิการุ่น SRPL99 ออกแบบในสไตล์วินเทจ ตัวเรือนเป็น สแตนเลสสตีลขนาด 38 มม. กันน้ำลึก 100 เมตร ขอบหมุนแดง–น้ำเงินเมทัลลิก หน้าปัดขาวเงินแบบเรโทร พร้อมโลโก้ Pepsi รุ่นยุค 90 

 

ส่วนรุ่น SSK047 มากับตัวเรือน 42.5 มม. เคลือบดำแบบ โดยวัสดุยังเป็นสแตนเลสสตีล ขอบหน้าปัดสองสีแดง–น้ำเงิน มาพร้อมฟังก์ชัน GMT และเข็ม 24 ชั่วโมงสีแดง ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ สายยางซิลิโคนลาย Pepsi และฝาหลังใสโชว์โลโก้แบรนด์

 

ทั้งสองรุ่นผลิตจำกัดเพียง 7,000 เรือนต่อรุ่น มาพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์รูปกระป๋อง Pepsi โดยนาฬิกาทั้ง 2 รุ่น เตรียมวางจำหน่ายเดือนกันยายน 2025 โดยรุ่น SRPL99 ราคาอยู่ที่ 380 ยูโร หรือราว 14,400 บาท และรุ่น SSK047 ราคา 540 ยูโร หรือราว 20,500 บาท

 

Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา Seiko x Pepsi เปิดตัวนาฬิกา

The post Seiko 5 Sports x Pepsi การใช้ชื่อ “Pepsi Watch” ของจริงอย่างเป็นทางการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Rolex และ Patek มือ 2 จุดสว่างในโลกนาฬิกาที่กำลังดิ้นรน พิษเศรษฐกิจ-กำแพงภาษีทรัมป์ ทำตลาดนาฬิกาใหม่ป่วน https://thestandard.co/used-luxury-watch-market-growth/ Sun, 17 Aug 2025 08:05:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1108267 used-luxury-watch-market-growth

ตลาดนาฬิกาหรูมือสองกำลังกลายเป็น ‘จุดสว่างเพียงหนึ่งเดี […]

The post Rolex และ Patek มือ 2 จุดสว่างในโลกนาฬิกาที่กำลังดิ้นรน พิษเศรษฐกิจ-กำแพงภาษีทรัมป์ ทำตลาดนาฬิกาใหม่ป่วน appeared first on THE STANDARD.

]]>
used-luxury-watch-market-growth

ตลาดนาฬิกาหรูมือสองกำลังกลายเป็น ‘จุดสว่างเพียงหนึ่งเดียว’ ท่ามกลางภาพรวมของอุตสาหกรรมนาฬิการะดับไฮเอนด์ที่กำลังมืดมน โดยสามารถทำผลงานในช่วงครึ่งปีแรกได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าสนใจ

 

ดัชนี Bloomberg Subdial Watch Index ซึ่งติดตามนาฬิกาที่มีการซื้อขายมากที่สุด 50 รุ่น ได้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 5.3% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 และยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่สาม โดยมีรุ่นเด่นๆ ที่ทำผลงานได้ดีคือ Rolex Gold Daytona 116508 และ Patek Philippe Aquanaut 5167A

 

ในทางตรงกันข้าม ตลาดนาฬิกาใหม่กลับกำลัง ‘เจ็บตัวหนัก’ โดยยอดส่งออกนาฬิกาสวิสในเดือนมิถุนายนลดลง 5.6% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งปีในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง ขณะที่ Swatch Group ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Omega และ Blancpain ก็มียอดขายครึ่งปีแรกลดลง 7.1%

 

ปัจจัยลบสำคัญที่ซ้ำเติมตลาดนาฬิกาใหม่คือสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะกำแพงภาษี 39% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนของนาฬิกาใหม่

 

ปัจจัยเหล่านี้กลับกลายเป็นผลดีต่อตลาดมือสอง คริสตี้ เดวิส ผู้ก่อตั้ง Subdial แพลตฟอร์มซื้อขายนาฬิกาในลอนดอน อธิบายว่า ราคาทองคำที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ได้ผลักให้ราคานาฬิกาใหม่ถีบตัวสูงขึ้น ทำให้นักสะสมและผู้ซื้อมองหานาฬิกามือสองเพื่อความคุ้มค่าที่มากกว่า

 

นอกจากนี้ การซื้อนาฬิการุ่นยอดนิยมจากบูติกโดยตรงมักจะต้องรอคิวนานหลายเดือนหรือเป็นปี แต่แพลตฟอร์มมือสองกลับมอบข้อได้เปรียบในการ ‘เข้าถึงได้ทันที’ และมีนาฬิกาให้เลือกหลากหลายรุ่นกว่า ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

 

เดวิสยังได้ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์ที่น่าสนใจว่า การที่ Patek Philippe Aquanaut ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่น Nautilus ที่โด่งดังกว่า อาจสะท้อนถึงกระแส ‘ความหรูหราที่ไม่ตะโกน’ (quiet luxury) ที่ผู้คนกำลังมองหาความเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา

 

การฟื้นตัวครั้งนี้ แม้จะยังไม่เทียบเท่ากับช่วงบูมในยุคโควิด แต่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตลาดนาฬิกามือสองได้กลายเป็น ‘ตลาดทางเลือก’ ที่มีความแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทายที่ตลาดนาฬิกาใหม่กำลังเผชิญอยู่

 

ภาพ: Papin Lab / Shutterstock

 

อ้างอิง:

The post Rolex และ Patek มือ 2 จุดสว่างในโลกนาฬิกาที่กำลังดิ้นรน พิษเศรษฐกิจ-กำแพงภาษีทรัมป์ ทำตลาดนาฬิกาใหม่ป่วน appeared first on THE STANDARD.

]]>
นาฬิกา Rolex กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือก! ของนักลงทุน บางรุ่นในตลาดมือสองทำกำไรสูงสุดมาตลอด 15 ปี https://thestandard.co/rolex-for-new-investors/ Sat, 19 Jul 2025 01:00:55 +0000 https://thestandard.co/?p=1097781 rolex-for-new-investors

จากข้อมูลจากตลาดนาฬิกามือสอง รายงานว่า Rolex บางรุ่นไม่ […]

The post นาฬิกา Rolex กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือก! ของนักลงทุน บางรุ่นในตลาดมือสองทำกำไรสูงสุดมาตลอด 15 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
rolex-for-new-investors

จากข้อมูลจากตลาดนาฬิกามือสอง รายงานว่า Rolex บางรุ่นไม่ได้เป็นแค่เครื่องบอกเวลา แต่ยังกลายเป็น “สินทรัพย์ทางเลือก” ให้นักลงทุนที่ต้องการเก็บกำไรในระยะยาว โดยเฉพาะรุ่นที่ราคาขายต่อพุ่งสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

 

โดยเว็บไซต์ Bob’s Watches ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายนาฬิกาหรูรายใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง 15 ปี จากการซื้อขายนาฬิกา Rolex กว่า 50,000 เรือน พบว่าหลายรุ่นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางรุ่นราคาพุ่งเกิน 600% ทำให้นาฬิกาหรูกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรือคริปโต และมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

 

Paul Altieri ซีอีโอของ Bob’s Watches แสดงความเห็นว่า นาฬิกา Rolex ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่คือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ใส่ได้ ทำประกันได้ และส่งต่อได้ ต่างจากราคาหุ้นที่อาจหายวับไปตามแรงเหวี่ยงของตลาด

 

แม้ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา ตลาดนาฬิกามือสองโดยรวมจะเริ่มชะลอตัวลง หลังช่วงโควิด แต่แบรนด์ Rolex ยังคงเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะ 3 รุ่นยอดนิยมที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในตลาดมือสองตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย

 

  1. Rolex Datejust ซึ่งเป็นนาฬิกาโมเดล dress watch กลายเป็นรุ่นที่มีมูลค่าเพิ่มสูงสุด โดยเฉพาะรุ่นย่อยที่มีรหัสอ้างอิง เช่น 16013, 16233, และ 69173 หากย้อนดูราคาขายตั้งแต่ปี 2010 มีราคาขายต่อเฉลี่ยอยู่แค่เพียง 1,150 ดอลลาร์ (ราว 42,000 บาท) กระทั่งในปี 2025 ราคาพุ่งขึ้น 8,500 ดอลลาร์ (ราว 300,000 บาท) โดยเพิ่มขึ้นกว่า 639%

 

“แม้คนส่วนใหญ่มักมองว่านาฬิกาโมเดล dress watch ไม่น่าได้รับความสนใจเท่ารุ่นสปอร์ต แต่รุ่น Datejust กลับสามารถเข้าถึงได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดมือสอง” ซีอีโอของ Bob’s Watches ย้ำ

 

  1. Rolex Submariner นาฬิกาสปอร์ตโมเดลที่ฮิตที่สุด ในช่วงปี 2020 – 2022 ราคาพุ่งแรงสุด 18,889 ดอลลาร์ (ราว 660,000 บาท) แม้มีช่วงที่ราคาตกในปี 2023 แต่ปัจจุบันกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ราว 17,295 ดอลลาร์ (ราว 605,000 บาท) สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นรุ่นที่มีมูลค่าการลงทุนที่ยั่งยืน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงของ Submariner ได้แก่รหัส 16610, 116610 และ 16613

 

และ 3. Rolex GMT-Master II เป็นอีกรุ่นที่มีสีขอบที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สี Pepsi และ Batman ขายดีเพราะดีไซน์และเรื่องราวของแต่ละรุ่นมีผลต่อมูลค่ามาก เช่น ขอบสี Pepsi ที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การบิน ช่วยเพิ่มความน่าสะสมและผลักดันราคาให้สูงขึ้นในตลาด โดยตั้งแต่ปี 2010 ราคามือสองเพิ่มขึ้นถึง 506% ปัจจุบันปี 2025 ยืนราคาที่ 20,595 ดอลลาร์ (ราว 720,000 บาท) รุ่นยอดนิยมได้แก่รหัส 116710 Batman และรหัส 16710 Pepsi / Coke

 

เรียกได้ว่าการลงทุนใน Rolex ไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์ แต่คือการมองเห็น ‘คุณค่าในความคลาสสิก’ ที่สวมใส่ได้จริง เก็บสะสมได้ และสามารถขายต่อได้ตามมูลค่าของตลาด

 

ภาพ: i viewfinder/shutterstock

 

อ้างอิง:

The post นาฬิกา Rolex กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือก! ของนักลงทุน บางรุ่นในตลาดมือสองทำกำไรสูงสุดมาตลอด 15 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Richard Mille เปิดตัวนาฬิการุ่น ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ในสีขาว-แดง https://thestandard.co/richard-mille-rm72-01-charles-leclerc/ Tue, 13 May 2025 04:59:15 +0000 https://thestandard.co/?p=1073605 richard-mille-rm72-01-charles-leclerc

นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชันของ Richard Mille ที่จับมือกับ […]

The post Richard Mille เปิดตัวนาฬิการุ่น ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ในสีขาว-แดง appeared first on THE STANDARD.

]]>
richard-mille-rm72-01-charles-leclerc

นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชันของ Richard Mille ที่จับมือกับ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักแข่ง F1 จากทีมเฟอร์รารี ได้รับแรงบันดาลใจจากสีประจำตัวนักแข่งและสัญชาติของเขา

 

นาฬิกาเรือนนี้มาในตัวเรือนควอตซ์ TPT สีขาวพร้อมแถบสีแดงอันโดดเด่น เพื่อเป็นการสื่อถึงธงชาติโมนาโกและบ้านเกิดของเลอแคลร์ 

 

หน้าปัดยังคงใช้ธีมสีแดงและสีขาว โดยไม่มีตัวเลขนาทีบนเรือน และเน้นที่ตัวจับเวลาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งรถ 

 

นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก CRMC-1 พร้อมระบบจับเวลาแบบฟลายแบ็ก พร้อมตัวนับเวลา 30 นาทีและ 24 ชั่วโมง ตัวเลือกฟังก์ชัน และพลังงานสำรอง 50 ชั่วโมง⁠

นาฬิกา RM72-01 ‘Charles Leclerc’ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือน ราคา 330,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11 ล้านบาท

 

Richard Mille เ Richard Mille เ Richard Mille เ Richard Mille เ

 

อ้างอิง:

The post Richard Mille เปิดตัวนาฬิการุ่น ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ในสีขาว-แดง appeared first on THE STANDARD.

]]>
การเดินทางครั้งใหม่ของ J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL ในรูปโฉมสีน้ำเงินเฉดพิเศษ ที่ใช้เวลาพัฒนา 5 ปีเต็ม https://thestandard.co/chanel-j12-bleu/ Wed, 02 Apr 2025 01:00:56 +0000 https://thestandard.co/?p=1057159 chanel-j12-bleu

CHANEL นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ลักชัวรีเพียงไม่กี่เจ้ […]

The post การเดินทางครั้งใหม่ของ J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL ในรูปโฉมสีน้ำเงินเฉดพิเศษ ที่ใช้เวลาพัฒนา 5 ปีเต็ม appeared first on THE STANDARD.

]]>
chanel-j12-bleu

CHANEL นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ลักชัวรีเพียงไม่กี่เจ้าที่ไม่ว่าจะนำเสนอคอลเล็กชันหรือไอเท็มอะไร ทุกอย่างต้องมีจุดเชื่อมโยงที่สะท้อนรากฐานและดีเอ็นเอที่ Gabrielle Chanel ได้ริเริ่มเมื่อก่อตั้งแบรนด์ในปี 1910 ซึ่งกับคำว่า BLEU (เบลอ) หรือสีน้ำเงินในภาษาฝรั่งเศส เราก็ได้เห็นตั้งแต่ในคอลเล็กชัน High Jewelry ครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอในชื่อ BIJOUX DE DIAMANTS ที่เปิดตัวในปี 1932 และต่อมาในปี 2010 ก็ถูกต่อยอดมาเป็นชื่อน้ำหอมที่รังสรรค์โดย Jacques Polge ที่เป็นหนึ่งในน้ำหอมสุภาพบุรุษที่ประสบความสำเร็จตลอดกาลอย่างรวดเร็ว

 

มาในวันนี้ CHANEL ก็ได้นำคำว่า BLEU มาต่อยอดและขยายอาณาจักรสู่พาเหรดสีใหม่บนนาฬิกาสุดไอคอนิกของแบรนด์อย่าง J12 เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่าง แต่ยังคงแบบฉบับ Allure ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

J12 BLEU กับระยะเวลากว่า 1,825 วันที่ถูกใช้ไปเพื่อให้ได้มาซึ่งโทนสีน้ำเงินเฉดพิเศษที่ใครก็ต่างถวิลหา

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2000 ตอนเข้าสหัสวรรษใหม่ CHANEL เปิดตัวเรือนเวลา J12 ออกมา โดยผลงานการรังสรรค์ของ Jacques Hélleu ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่ดูแลงานฝ่ายศิลป์ของ CHANEL ณ ช่วงเวลานั้น โดยได้รับแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบมาจากไลฟ์สไตล์ของการเดินเรือ โดยเฉพาะการแข่งขันเรือยอชต์ J Cup ในอเมริกา

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา J12 ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และขึ้นแท่นกลายเป็นเรือนเวลาสุดไอคอนิกของ CHANEL แทบจะทันทีกับหลากหลายเวอร์ชันที่ตอบโจทย์บริบทของแต่ละยุค

 

ด้วยจุดเด่นการออกแบบที่ได้พังทลายกรอบของการกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศให้กับตัวเรือนเวลาหรือผู้สวมใส่ (J12 ถูกออกแบบด้วยความตั้งใจที่ Jacques Hélleu อยากให้เรือนเวลาเรือนนี้เป็นนาฬิกาแบบ Unisex ที่ไม่จำเป็นต้องตีกรอบเพศของผู้ใส่แต่อย่างใด) พร้อมๆ กับการเลือกใช้วัสดุแบบเซรามิก ซึ่งนับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของนวัตกรรมเรือนเวลาในขณะนั้น โดยเฉพาะต่อประเด็นเรื่องความคงทนและแข็งแรง 

 

สำหรับวัสดุเซรามิกที่พวกเขานำมาผลิตเป็นตัวเรือน J12 นั้น CHANEL เคลมว่าเซรามิกของพวกเขาได้ก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่จำลองขึ้น เพื่อทดสอบคุณภาพอันเข้มงวดภายใต้สภาวะขั้นสุด ตัวอย่างเช่น การทดลองกันรอยขีดข่วนด้วยกรวดทรายนับล้านเม็ด การกระแทกหลายพันครั้ง การปล่อยทิ้งไว้ท่ามกลางรังสียูวีของแสงอาทิตย์เป็นเวลาหลายสิบชั่วโมง ฯลฯ

 

ไม่จำเป็นต้องมีลักษณะการออกแบบที่เน้นเปลือยโฉมกลไกขั้นสูงตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อบ่งชี้ว่าเรือนเวลาดังกล่าวเป็นเรือนเวลาสำหรับผู้ชายเพียงอย่างเดียว (แม้ว่าตัวเรือน J12 จะถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกเวลาขั้นสูงคาลิเบอร์ หรือมีออปชันแบบหน้าปัดโครโนกราฟไม่ต่างกัน) แต่เลือกใช้ความต่างในเชิงรูปลักษณ์ ความคงทนและแข็งแรงที่ชูเป็นจุดแข็ง เพื่อโอกาสในการสวมใส่และการใช้งานที่หลากหลาย 

 

เมื่อความเป็นขบถในเชิงงานดีไซน์ แต่กลับได้มาซึ่งรูปลักษณ์ที่ทะเยอทะยาน ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาทรงสปอร์ตเรือนแรกของแบรนด์ CHANEL ทั้งหมดนี้เองที่มีส่วนหล่อหลอมให้ J12 ขึ้นแท่นเป็นเรือนเวลาที่หลายคนชื่นชอบไปโดยปริยาย 

 

ในปี 2003 CHANEL จึงได้เปิดตัว J12 ในตัวเรือนเซรามิกสีขาวออกมา นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิกา CHANEL J12 ก็มักจะปรากฏตัวในรูปโฉมพิเศษตามแต่ละโอกาสอยู่เป็นประจำเช่นกัน

 

กระทั่งล่าสุดในปี 2025 แบรนด์ก็ได้เปิดตัว J12 BLEU ในเฉดสีตัวเรือนสีน้ำเงิน ซึ่งมีการเปิดเผยว่าพวกเขาใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาโทนสีเฉดนี้มากถึง 5 ปีเต็ม เพื่อให้ได้มาซึ่งเฉดสีที่ใกล้เคียงกับความต้องการของพวกเขามากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของการใช้วัสดุเซรามิกที่คงทนและแข็งแรงทุกประการ

 

Arnaud Chastaingt

Arnaud Chastaingt ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์เรือนเวลาแห่ง CHANEL 

ซึ่งอยู่เบื้องหลังงานดีไซน์และสีน้ำเงินเฉดสุดลึกลับน่าค้นหาของ J12 BLEU

 

Arnaud Chastaingt ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์เรือนเวลาของ CHANEL กล่าวถึงความพิเศษของเฉดสี BLEU ใน J12 เอาไว้ว่า “ผมเคยวาดฝันเอาไว้ถึงการแต่งแต้มสีดำของเราด้วยสีน้ำเงิน ซึ่งเฉดสีน้ำเงินที่เราเลือกมาใช้งานนี้เปรียบได้ดั่งการค้นพบที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุม ผมต้องการโทนสีน้ำเงินที่ให้ความรู้สึกถึงความสง่างามแบบไร้ที่ติ เป็นสีน้ำเงินที่เกือบจะใกล้เคียงดำ หรือสีดำที่เกือบจะเป็นสีน้ำเงิน”

 

ขณะเดียวกัน Arnaud Chastaingt ก็ได้กล่าวถึงคอลเล็กชัน J12 BLEU โดย CHANEL ว่าเปรียบได้กับการยกระดับนำพา ‘เซรามิก’ ให้กลายเป็นวัสดุขั้นสูงขึ้นไปอีกระดับ ทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นถึงศิลปะการพัฒนางานศิลป์เรือนเวลาจากเซรามิก ซึ่งถือเป็นหัวใจการสร้างสรรค์นาฬิกาและความชำนาญจาก CHANEL

 

“เซรามิกยังถือเป็นวัสดุที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณทีมวิศวกรแห่ง CHANEL Watchmaking Creation Studio ด้วยเช่นกันสำหรับความปราดเปรื่อง ที่พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่ไร้ซึ่งขีดจำกัด” ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์เรือนเวลาแห่ง CHANEL กล่าว

 

การจัดเรียงแซฟไฟร์สีน้ำเงินอย่างพิถีพิถันลงบนหน้าปัดตัวเรือน J12 BLEU

การจัดเรียงแซฟไฟร์สีน้ำเงินอย่างพิถีพิถันลงบนหน้าปัดตัวเรือน J12 BLEU

 

สีน้ำเงินเฉดพิเศษใน J12 BLEU กับ 9 ทางเลือกที่รอให้คุณได้ค้นพบ!

 

สำหรับ CHANEL J12 BLEU เฉดสีน้ำเงินที่ CHANEL เปิดตัวออกมารับปี 2025 ประกอบไปด้วยกันถึง 9 โมเดลที่แตกต่าง ได้แก่

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU CALIBER 12.1 ขนาดหน้าปัด 38 MM WATCH

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED EDITION
  • เซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงิน ด้านทรงบาแกตต์เรียงเป็นวงบนขอบตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำแบบอยู่กับที่
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้าน พร้อมตำแหน่งแสดงเวลาเคลือบเงาสีดำ
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบขันเกลียว พร้อมเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงคาโบชง
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้าน และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้น
  • คาลิเบอร์ 12.1: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC
  • พลังงานสำรอง: ~70 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที วันที่
  • การกันน้ำ: 200 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38 มม.

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU CALIBER 12.2 ขนาดหน้าปัด 33 MM WATCH (เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 12 เม็ด (~0.06 กะรัต))

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED EDITION
  • เซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงบาแกตต์เรียงเป็นวงบนขอบตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำแบบอยู่กับที่
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้านประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 12 เม็ด (~0.06 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบขันเกลียว พร้อมเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงคาโบชง
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้าน และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้น
  • คาลิเบอร์ 12.2: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC
  • พลังงานสำรอง: ~50 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 200 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 33 มม.
  • เพชร: เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 12 เม็ด (~0.06 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU CALIBER 12.1 ขนาดหน้าปัด 38 MM WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.28 กะรัต))

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED EDITION
  • เซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงบาแกตต์เรียงเป็นวงบนขอบตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำแบบอยู่กับที่
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้าน ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.28 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบขันเกลียว พร้อมเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงคาโบชง
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้าน และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 12.1: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC พร้อมเคลือบสีดำ
  • พลังงานสำรอง: ~70 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 200 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38 มม.
  • แซฟไฟร์: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.28 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU CALIBER 12.2 ขนาดหน้าปัด 33 MM WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.22 กะรัต))

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED EDITION
  • เซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงบาแกตต์เรียงเป็นวงบนขอบตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำแบบอยู่กับที่
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้านประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.22 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบขันเกลียว พร้อมเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านทรงคาโบชง
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้าน และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 12.2: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC พร้อมเคลือบสีดำ
  • พลังงานสำรอง: ~50 ชั่วโมง
  • ฟังกฺชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 200 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 33 มม.
  • แซฟไฟร์: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.22 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU ขนาดหน้าปัด 38 MM SAPPHIRES WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 58 เม็ด (~6.28 กะรัต) / เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)) > จำนวนจำกัด 100 เรือน

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED TO 100
  • ขอบตัวเรือนสตีลแบบคงที่เคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 46 เม็ด (~6 กะรัต)
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้านประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.28 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบไม่ขันเกลียวประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ (~0.16 กะรัต)
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 12.1: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC พร้อมเคลือบสีดำ
  • พลังงานสำรอง: ~70 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 50 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38 มม.
  • แซฟไฟร์สีน้ำเงิน: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 58 เม็ด (~6.28 กะรัต)
  • เพชร: เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU ขนาดหน้าปัด 42 MM SAPPHIRES WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 170 เม็ด (~17.01 กะรัต) / เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)) > จำนวนจำกัด 12 เรือน

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED TO 12
  • ขอบตัวเรือนสตีลแบบคงที่เคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์ สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 48 เม็ด (~7.44กะรัต)
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้านประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.28 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบไม่ขันเกลียวประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ (~0.16 กะรัต)
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไน
  • ทรงบาแกตต์ 110 เม็ด (~9.29 กะรัต) และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 12.1: ระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงจาก COSC พร้อมเคลือบสีดำ
  • พลังงานสำรอง: ~70 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 50 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มม.
  • แซฟไฟร์สีน้ำเงิน: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 170 เม็ด (~17.01 กะรัต)
  • เพชร: เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU ขนาดหน้าปัด 28 MM SAPPHIRES WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 196 เม็ด (~8 กะรัต) / เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.05 กะรัต)) > จำนวนจำกัด 12 เรือน

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำ พร้อมข้อความ LIMITED TO 12
  • ขอบตัวเรือนสตีลแบบคงที่เคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์ สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 46 เม็ด (~2.16กะรัต)
  • หน้าปัดเคลือบเงาสีน้ำเงินด้านประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.12 กะรัต)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบไม่ขันเกลียวประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ (~0.05 กะรัต)
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 138 เม็ด (~5.72 กะรัต) และหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • ระบบกลไกแบบควอตซ์ที่มีความเที่ยงตรงสูง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที วินาที
  • การกันน้ำ: 30 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 28 มม.
  • แซฟไฟร์สีน้ำเงิน: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 196 เม็ด (~8 กะรัต)
  • เพชร: เพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.05 กะรัต)

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU DIAMOND TOURBILLON WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 34 เม็ด (~4 กะรัต) / เพชรเม็ดเดี่ยว 1 เม็ด (~0.18 กะรัต) และเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)) > จำนวนจำกัด 55 เรือน

 

  • ตัวเรือนเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้านและสตีลเคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมข้อความ LIMITED TO 55
  • ขอบตัวเรือนสตีลแบบคงที่เคลือบสีดำประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 34 เม็ด (~4 กะรัต)
  • หน้าปัดแบบโอเพนเวิร์กทำสีน้ำเงิน
  • กรงทูร์บิญงประดับเพชรเม็ดเดี่ยว 1 เม็ดที่ได้รับการเจียระไนแบบพิเศษ (~0.18 กะรัต – F/G – VVS)
  • เม็ดมะยมสตีลเคลือบสีดำแบบไม่ขันเกลียว ประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ (~0.16 กะรัต)
  • สายรัดข้อมือเซรามิกความทนทานสูงสีน้ำเงินด้าน พร้อมขอบลาดเอียงแบบขัดเงาและหัวล็อกสตีลแบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 5: ระบบกลไกแบบไขลานด้วยมือพร้อมฟลายอิ้งทูร์บิญงที่สร้างสรรค์โดย CHANEL Manufacture
  • พลังงานสำรอง: ~42 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที
  • ระบบคอมพลิเคชั่น: ฟลายอิ้งทูร์บิญง
  • การกันน้ำ: 50 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38 มม.
  • แซฟไฟร์สีน้ำเงิน: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 34 เม็ด (~4 กะรัต)
  • เพชร: เพชรเม็ดเดี่ยว 1 เม็ด (~0.18 กะรัต) และเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.16 กะรัต)
  • จำนวนส่วนประกอบ: 172 ชิ้น
  • กรงทูร์บิญงประดับเพชร 1 เม็ด
  • จำนวนทับทิม: 29 ชิ้น
  • ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4Hz)
  • ระบบป้องกันแรงกระแทกและรักษาสมดุล
  • ระบบควบคุมสมดุลแรงเฉื่อยแบบแปรผัน
  • เส้นผ่านศูนย์กลางของกลไก: Ø 28.40 มม. – 12”½
  • ความหนาของกลไก: 6.25 มม.

 

J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL

 

  1. J12 BLEU X-RAY WATCH (แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 196 เม็ด (~16.19 กะรัต) และแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.17 กะรัต)) > จำนวนจำกัด 12 เรือน

 

  • ตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์สีน้ำเงินและไวต์โกลด์ 18K เคลือบสีดำ
  • ด้านหลังตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์สีน้ำเงิน พร้อมหมายเลข X/12
  • ขอบตัวเรือนไวต์โกลด์ 18K เคลือบสีดำแบบคงที่ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 46 เม็ด
  • (~5.61 กะรัต)
  • หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงบาแกตต์ 12 เม็ด (~0.43 กะรัต)
  • เข็มนาฬิกาไวต์โกลด์ 18K เคลือบสีดำ
  • เม็ดมะยมไวต์โกลด์ 18K เคลือบสีดำแบบไม่ขันเกลียว ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบริลเลียนต์ (~0.17 กะรัต)
  • สายรัดข้อมือคริสตัลแซฟไฟร์สีน้ำเงินและไวต์โกลด์ 18K เคลือบสีดำ ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 138 เม็ด (~10.15 กะรัต) พร้อมหัวล็อกไวต์โกลด์ 18K แบบพับทบสามชั้นเคลือบสีดำ
  • คาลิเบอร์ 3.1: ระบบกลไกแบบไขลานด้วยมือที่รังสรรค์โดย CHANEL Manufacture แผ่นยึดตัวจับเวลา ฐานรอง และแผ่นยึดชุดเฟืองคริสตัลแซฟไฟร์
  • พลังงานสำรอง: ~55 ชั่วโมง
  • ฟังก์ชันการทำงาน: ชั่วโมง นาที
  • การกันน้ำ: 30 เมตร
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38 มม.
  • แซฟไฟร์สีน้ำเงิน: แซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบาแกตต์ 196 เม็ด (~16.19 กะรัต) และแซฟไฟร์สีน้ำเงินเจียระไนทรงบริลเลียนต์ 1 เม็ด (~0.17 กะรัต)
  • จำนวนส่วนประกอบ: 158 ชิ้น
  • จำนวนทับทิม: 21 ชิ้น
  • ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4Hz)
  • กระปุกลาน 1 ชิ้น พร้อมขอบหน้าปัดประดับอัญมณี
  • กลไกแบบเปลือย (Skeleton Movement)
  • ระบบป้องกันแรงกระแทกและรักษาสมดุล
  • ระบบควบคุมสมดุลแรงเฉื่อยแบบแปรผัน
  • เส้นผ่านศูนย์กลางของกลไก: 29.35 มม.
  • ความหนาของกลไก: 6.77 มม.

 

The post การเดินทางครั้งใหม่ของ J12 BLEU เรือนเวลาไอคอนิก CHANEL ในรูปโฉมสีน้ำเงินเฉดพิเศษ ที่ใช้เวลาพัฒนา 5 ปีเต็ม appeared first on THE STANDARD.

]]>
Longines แต่งตั้งให้ Henry Cavill เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด https://thestandard.co/henry-cavill-longines/ Sat, 15 Feb 2025 03:05:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1042218 henry-cavill-longines

Longines แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัว Henry Ca […]

The post Longines แต่งตั้งให้ Henry Cavill เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
henry-cavill-longines

Longines แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัว Henry Cavill ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด เพื่อนำเสนอปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า ‘Elegance is an attitude’

 

ในการประกาศร่วมงาน นักแสดงชาวอังกฤษวัย 41 ปีจากภาพยนตร์เรื่อง Superman และ Enola Holmes สวมนาฬิการุ่น Master Collection ซึ่งเป็นคอลเล็กชันเรือนเวลาที่ประณีตที่สุดของแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2005 และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักสะสมและผู้ใช้งาน

 

“สิ่งที่ Longines ดึงดูดผมคือความสง่างามที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่ต้องป่าวประกาศให้มาก มันอยู่ในรายละเอียดและทุกๆ การกระทำ นี่เป็นปรัชญาเกี่ยวกับงานฝีมือและงานศิลป์ที่เที่ยงตรงที่ส่งมารุ่นต่อรุ่น ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ผมยึดถืออย่างลึกซึ้ง” 

 

ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแทนแบรนด์ที่ Longines เรียกว่า Ambassador of Elegance ซึ่งก่อนหน้านี้มีทั้ง Jennifer Lawrence ที่เป็นตัวแทนของฝั่งผู้หญิง รวมไปถึง Zhao Liying ที่เข้ารับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ตอนฉลองครบรอบ 185 ปีของ Longines เมื่อปี 2017

ภาพ: Longines

The post Longines แต่งตั้งให้ Henry Cavill เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Tales of Precision’ 4 คอลเล็กชันจากอวกาศสู่มหาสมุทร แคมเปญมนตร์ขลังสีแดง by OMEGA [PR NEWS] https://thestandard.co/omega-tales-of-precision-collection-red-campaign/ Fri, 20 Dec 2024 07:00:19 +0000 https://thestandard.co/?p=1018974 Tales of Precision

‘OMEGA’ ผู้ผลิตเรือนเวลาจากสวิส ร่ายมนตร์ขลังให้กับเดือ […]

The post ‘Tales of Precision’ 4 คอลเล็กชันจากอวกาศสู่มหาสมุทร แคมเปญมนตร์ขลังสีแดง by OMEGA [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tales of Precision

‘OMEGA’ ผู้ผลิตเรือนเวลาจากสวิส ร่ายมนตร์ขลังให้กับเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง และเทศกาลแห่งการหยุดพักผ่อนในช่วงสิ้นปีด้วย ‘Tales of Precision’

 

Tales of Precision แคมเปญพิเศษประจำปี 2024 กับคอนเซปต์โทนสีแดงตระการตา บอกเล่าผ่านคอลเล็กชันอันโดดเด่นทั้ง 4 คอลเล็กชันแห่งมรดกเรือนเวลาที่มาอวดโฉมในปลายปีนี้ เริ่มตั้งแต่ห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง ไปสู่มหาสมุทรทอประกาย

 

Tales of Precision

‘Tales of Precision’

 

Tales of Precision มาพร้อมนาฬิกาที่แต่งแต้มด้วยเฉดสีดำน่าค้นหา รังสรรค์บนหัตถกรรมสเตนเลสสตีลด้วยหัตถศิลป์ของกาลเวลา ผสานรวมกันเป็นดีไซน์ที่ตระการตาเหนือกาลเวลา และรักษามาตรฐานของเรือนเวลาด้วยกลไกอันสมบูรณ์แบบที่ทำให้การบอกเวลาเที่ยงตรงในระดับสูง ถักทอออกมาเป็นนิยามตัวตนของ OMEGA ทั้ง 4 คอลเล็กชัน

 

Seamaster Aqua Terra – ความแม่นยำท่ามกลางเกลียวคลื่น

 

  • รูปลักษณ์เรียบหรูผสานกับตัวตนด้านมหาสมุทร
  • เรือนเวลาขนาด 38 มิลลิเมตร 
  • หน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีดำ
  • กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 8800 ที่ช่วยส่งมอบความเที่ยงตรงอันน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นบนฝั่งและใต้เกลียวคลื่นได้ลึกถึง 150 เมตร

 

Seamaster Aqua Terra - ความแม่นยำท่ามกลางเกลียวคลื่น

Seamaster Aqua Terra

 

Speedmaster 38 mm – จิตวิญญาณนักผจญภัยทุ่งทะเลดาว

 

  • รูปลักษ์แห่งความประณีตโดยแท้จริง 
  • เรือนเวลาขนาด 38 มิลลิเมตร
  • ดีไซน์แรงบันดาลใจจาก Moonwatch ระดับตำนานของ OMEGA ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากบรรดานักบินระหว่างปฏิบัติงานในอวกาศ 
  • โครโนกราฟขนาดพอเหมาะสำหรับผู้ที่มีจิตวิญญาณรักการผจญภัยและสไตล์อันสง่างาม

 

Speedmaster 38 mm

Speedmaster 38 mm

 

De Ville Prestige – ความเรียบง่ายของชีวิตในเมือง

 

  • รูปลักษณ์แห่งความเที่ยงตรงบรรจบความเรียบง่ายบนวัสดุสเตนเลส
  • เรือนเวลาขนาด 40 มิลลิเมตร
  • รังสรรค์มาสำหรับชีวิตในเมือง และนาฬิกานี้จะช่วยให้คุณตรงต่อเวลาในทุกช่วงเวลาสำคัญ
  • หน้าปัดทรงโดมซันบรัชสีดำที่ตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ด้วยทอง Sedna™ 18K 
  • กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 8800

 

De Ville Prestige

De Ville Prestige

 

Constellation Meteorite – ความเที่ยงตรงจากหมู่ดวงดารา

 

  • รูปลักษณ์ที่ส่งตรงมาจากหมู่ดาว 
  • เรือนเวลาขนาด 41 มิลลิเมตร แผ่นหน้าปัดถูกรังสรรค์มาจากอุกกาบาตแท้ 
  • วัสดุบรรพกาลจากห้วงอวกาศที่มีอายุราว 4.5 พันล้านปีนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ถึงความเที่ยงตรงในทุกโมงยามซึ่งถูกส่งมอบ
  • Co-Axial Master Chronometer Calibre 8900 ที่อยู่ภายใน

 

Constellation Meteorite

Constellation Meteorite

 

ฉากหลังของ ‘Tales of Precision’ คือสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ OMEGA ที่มาพร้อมเหล่าสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ เช่น นักบินอวกาศจากนาฬิกา Speedmaster ดวงดาวจากนาฬิกา Constellation เกลียวคลื่นจาก Seamaster และชื่อของ De Ville ตลอดเทศกาลนี้ 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือนเวลาได้ที่

  • OMEGA สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 0 2160 5959
  • OMEGA สาขาสยามพารากอน โทร. 0 2129 4878
  • OMEGA สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า 0 7651 0818
  • LINE OA: @OMEGAThailand

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

The post ‘Tales of Precision’ 4 คอลเล็กชันจากอวกาศสู่มหาสมุทร แคมเปญมนตร์ขลังสีแดง by OMEGA [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>