“มีไก่ 72,000 ล้านตัวทั่วโลก ถูกเลี้ยงและฆ่าเพื่อการบริโภคในแต่ละปี และไก่ 2 ใน 3 ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายและน่าหดหู่” 

ด้วยเหตุผลนี้ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (World Animal Protection Thailand) จัดงาน ‘เอ้ก-อี-เอ้ก อ๊ากกก’ เทศกาลศิลปะเพื่อไก่และคน โดยร่วมมือกับ 4 ศิลปินและนักปฏิรูปคนดัง คือ มารีญา พูลเลิศลาภ ทูตองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ร่วมกับ นักรบ มูลมานัส ศิลปินนักปฏิรูปงานศิลป์ ถ่ายทอดเสียงผ่านงานศิลปะ, ครูเซียง หมอลำหุ่น ศิลปินพื้นบ้าน คณะเด็กเทวดา รังสรรค์งานศิลป์ ‘ชีวิต A4’, นลธวัช มะชัย และ อาจารย์ตั้ว-ประดิษฐ ประสาททอง มาร่วมกันรังสรรค์ผลงานศิลปะ

ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมไทยได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการเลี้ยงสัตว์อย่างมีสวัสดิภาพในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนและสัตว์ โดยเฉพาะไก่ ซึ่งมีการบริโภคเป็นจำนวนมหาศาล รวมถึงผลกระทบจากการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัย ตลอดจนทางออกที่ทุกคนสามารถช่วยกันได้ เพื่อความยั่งยืนของระบบอาหารที่เกื้อกูลกันของคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม 

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมรับชมงานศิลปะ ‘เอ้ก-อี-เอ้ก อ๊ากกก เพื่อไก่และคน’ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคม 2566

The post เสพงานศิลปะผ่าน 4 ศิลปิน ‘เอ้ก-อี-เอ้ก อ๊ากกก’ เพื่อไก่และคน appeared first on THE STANDARD.

ใครที่เป็นแฟนของแบรนด์ไทยปัญญ์ปุริ (Pañpuri) คงไม่มีใครอยากพลาดคอลเล็กชันล่าสุดอย่าง Pañpuri X Nakrob Moonmanas ที่เป็นการต้อนรับช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ โดยร่วมมือกับ นักรบ มูลมานัส ศิลปินผู้รังสรรค์งานศิลปะรูปแบบคอลลาจ ‘นกพิราบคาบช่อมะกอก’ มาร่วมออกแบบแคมเปญ Gift Time 2022: Pañpuri X Nakrob Moonmanas ผ่านการเล่าเรื่องราวของการเฉลิมฉลองและเริ่มต้นใหม่ ภายใต้แรงบันดาลใจในการค้นหาประสบการณ์ที่ช่วยเติมเต็มสุขภาพกายและใจแบบองค์รวม

ความสวยงามของงานศิลปะคอลลาจของนักรบ มูลมานัส นั้นมีการบอกเล่าเรื่องราวของจิตวิญญาณแห่งความหวังและความสุข ภายใต้วัฒนธรรมของเอเชียที่เปี่ยมไปด้วยความสวยงามในหลากหลายมิติ เพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นกพิราบคาบช่อมะกอก เป็นสัญลักษณ์สากลของความหวัง เสรีภาพ และการเปิดรับสิ่งใหม่ เป็นแรงบันดาลใจในการค้นหาประสบการณ์ครั้งใหม่ ที่นอกเหนือจากกรอบและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตแบบเดิม โดยการจัดวางองค์ประกอบของศิลปะคอลลาจ ประดับประดาด้วยนกพิราบ ท้องฟ้า เทวดา ผีเสื้อ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมหวัง ของขวัญต่างๆ ในคอลเล็กชันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทียนหอมในแก้วหรูหรา หรือรูมสเปรย์ ล้วนทำหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งการให้เพื่อแสดงความห่วงใยแก่ผู้รับ

The post Pañpuri X Nakrob Moonmanas มอบความงามของศิลปะรูปแบบคอลลาจสำหรับนักสะสม appeared first on THE STANDARD.

เข้าสู่ช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี ตอนนี้ด้วยสถานการณ์ที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น อีเวนต์ กิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาจัดมากขึ้น THE STANDARD POP อยากชวนคุณใช้วันหยุดสุดสัปดาห์กับกิจกรรมดีๆ ที่เราเลือกสรรมาให้คุณ ที่สำคัญอย่าลืมเช็กมาตรการการเข้าร่วมของแต่ละที่ ตรวจวัดอุณหภูมิของตนเอง ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ผู้คนแออัด เท่านี้ก็พร้อมเที่ยวงานต่างๆ สุดสัปดา์นี้แล้ว 

1. Galleries’ Night 2021 

What: งานใหญ่ที่สุดของสัปดาห์นี้เราขอยกให้ Galleries’ Night 2021 ที่ปีนี้มาในธีม ‘Art is the Solution’ ประกอบไปด้วยนิทรรศการศิลปะจากหลากหลายแกลเลอรีรอบกรุงกว่า 70 แกลเลอรี ที่พร้อมเปิดให้เข้าชมในเวลาดึกกว่าเวลาทำการปกติ ปีนี้มีรถพร้อมบริการฮอปปิ้งจากจุดหนึ่งไปอีกจุด พร้อมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดอย่าง PhotoAlchemy โดย นักรบ มูลมานัส, นิทรรศการ 1973 โดย ตะวัน วัตุยา, Introspection: Gongkan Solo Exhibition โดย ก้องกาน และ A Minor History by Apichatpong Weerasethakul เป็นต้น 

When: 26 พฤศจิกายน (โซนสีลม/สาทร/ริมแม่น้ำเจ้าพระยา), 27 พฤศจิกายน (โซนอารีย์/ปทุมวัน/สุขุมวิท) และ 3-4 ธันวาคม (บางแสน ชลบุรี) 

Where: 70 แกลเลอรีในกรุงเทพฯ และชลบุรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/galleriesnight 

ภาพ: ฉัตรชัย เฉยชิต 

2. Bangkok Art Book Fair 2021

What: เทศกาลหนังสือศิลปะ ที่ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 มาในธีม DON’T KEEP YOUR DREAM AT HOME อุทิศงานในครั้งนี้ให้กับผู้ที่ตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานของตนเองทุกคนที่ยังคงตั้งคำถามและท้าทายต่อประเด็นร่วมสมัยทางสังคมและการเมืองต่างๆ ในปัจจุบัน ท่ามความไม่แน่นอนที่ยังคงปรากฏจากการระบาดของโควิด

When: 26-27 พฤศจิกายน 2564 

Where: Bangkok City City Gallery สาธร ซอย 1 (หมายเหตุว่า Bangkok Art Book Fair เข้าร่วมกับงาน Galleries’ Night ด้วย) www.facebook.com/bangkokcitycity 

ภาพ: Courtesy of the Organizer 

3. Farm Hopping at Sansiri Backyard

What: กิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติจัดโดยแสนสิริ ภายในงานมีเวิร์กช็อปต่างๆ ให้เข้าร่วมอย่าง ‘ลงแขกเกี่ยวข้าวไรซ์เบอร์รี’ โดย ไร่กำนันจุล, เวิร์กช็อป ‘รีไซเคิลพลาสติก’ ที่ชวนเปลี่ยนฝาขวดน้ำให้เป็นสิ่งของใหม่ๆ, ‘ทำกระถางรีไซเคิล’ กับ Precious Plastic Bangkok และกิจกรรม Egg Hunting เก็บไข่ไก่ เก็บผักออร์แกนิกใส่ตะกร้า ให้อาหารสัตว์ต่างๆ ภายในฟาร์ม นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดและอาหารจากร้านต่างๆ มาร่วมด้วยเช่นกัน

When: 26-28 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00-20.00 น. 

Where: T77 Community (มีบริการ Shuttle Service จาก BTS อ่อนนุช) www.facebook.com/SansiriBackyard 

ภาพ: Courtesy of the Organizer 

4. Fat-tival Food Fest 2021

What: งานเทศการอาหารการกิน ณ ลานด้านหน้าห้างสรรพสสินค้า The EmQuartier ที่รวมรวมแบรนด์ดังไว้ถึง 60 ร้าน เช่น choco.project, Ama Bakery, James Boulangerie, The Rolling Pins, Remy’s, BUN MEAT & CHEESE, โคตรยำ และ Overseoul เป็นต้น 

When: 25-29 พฤศจิกายน 2564   

Where: The EmQuartier www.facebook.com/fattival/ 

ภาพ: Bun Meat & Cheese โดย วรรษมน ไตรยศักดา 

5. Q&A Residency at Haoma 

What: ร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่ง Haoma Bangkok พรีเซนต์เมนูอาหารอินเดียของพวกเขา โดยจับมือกับ อรรถพร เดอ-ซิลวา บาร์เทนเดอร์จาก Q&A ค็อกเทลบาร์ เพื่อครีเอตเครื่องดื่มแพริ่งกับอาหารของเชฟดีเค 

When: 27-28 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.30-14.30 น. สำหรับมื้อกลางวัน และ 18.00 น. เป็นต้นไปสำหรับมื้อเย็น 

Where: Haoma Bangkok https://www.facebook.com/HaomaBKK 

ภาพ: Courtesy of Haoma Bangkok 

6. Ganja – A New Value to the Future 

What: ตลอดเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนธันวาคมนี้ TCDC COMMONS Seacon Square ได้นำเสนอนิทรรศการและเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อเป็นอาหารในงาน ‘Ganja Appetit เมื่อกัญชาเป็นอาหาร’ ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ส่วนความพิเศษของสัปดาห์นี้คือ เวิร์กช็อปที่ว่าด้วยเรื่องกัญชากับการเป็นมูลค่าใหม่ในวงการอาหาร โดย ยี้-สันติ อาภากาศ และ เชฟปูรณ์-รชต วิไลลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญอาหารแห่งอนาคตจาก TasteBud และกลุ่ม Future Food Network 

When: 28 พฤศจิกายน เวลา 13.00-15.00 น. (รับ 15 คน) ลงทะเบียนได้ที่: https://forms.gle/WAVRUWqAQgQ59iDPA 

Where: TCDC COMMONS ซีคอนสแควร์ www.facebook.com/COMMONSSeaconSquare  

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ thestandard.co/ganja-appetit-event-and-exhibition/ 

ภาพ: Courtesy of the Organizer

7. Vinyl Brunch at Chim Chim Bangkok 

What: ถือโอกาสใช้การกลับมาของ THE STANDARD POP Calendar บอกกันอีกสักทีว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป Chim Chim Bangkok ได้จัดกิจกรรม Vinyl Brunch ที่ชวนดีเจมาเปิดแผ่นเสียงกันสดๆ เคล้ามื้อสายของวันเสาร์ เริ่มเดือนแรกด้วย DJ Nanziee และจะสับเปลี่ยนดีเจไปเรื่อยๆ ในทุกๆ เดือน 

When: 27 พฤศจิกายน 2564 เวลา 12.00-16.00 น. 

Where: Chim Chim Bangkok www.facebook.com/ChimChimBangkok 

ภาพ: Courtesy of the Restaurant 

What: ช่วงนี้มีหลายเหตุผลที่เราอยากชวนคุณกลับไปที่ The Commons Saladeang อีกครั้ง ข้อแรก Hot Pot จากไต้หวัน Hanji-A เพิ่งมาเปิดที่สาขานี้หมาดๆ ส่วนเหตุผลที่สองเอาใจคนรักเสียงเพลง เพราะบริเวณชั้น 3 ของ The Commons มีเหล่าดีเจจาก Durian Radio ผลัดกันมาเปิดเพลงทุกสุดสัปดาห์ กลายเป็นบรรยากาศสุดสัปดาห์ที่เราคิดถึงมานาน ติดตามพวกเขาได้ที่ www.facebook.com/durianradio 

When: 27-28 พฤศจิกายน 2564  

Where: The Commons Saladaeng https://www.facebook.com/thecommonssaladaeng 

ใช้ภาพจาก Content นี้ค่ะ เปลี่ยน text

https://thestandard.co/sugar-ray-winter-weekend-club/ 

8. Sugar Ray Winter Weekend Club 

What: หากใครได้มีโอกาสไปเขาใหญ่สุดสัปดาห์นี้ อย่าลืมแวะไปงาน Sugar Ray Winter Weekend Club ป๊อปอัพบาร์ที่รวมเมนูยอดนิยมจาก Thaipioka ทองหล่อ, Sugar Ray สุขุมวิท 24 และ Sugar Ray Apartment พร้อมอาหารจากเชฟแม้ว Laylol เป็นเทศกาลพิเศษ ณ Midwinter Khaoyai ที่สำคัญแต่ละสัปดาห์มีดีเจด้วย เช่น สุดสัปดาห์นี้พบกับดีเจจาก Olympic Digger และ DJ Bomber Selecta พร้อมป๊อปอัพร้านแผ่นเสียงจาก Recoroom

When: 26-28 พฤศจิกายน 2564 (และทุกสุดสัปดาห์ตลอด 3 เดือน) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thestandard.co/sugar-ray-winter-weekend-club/ 

Where: Midwinter Khaoyai  

ภาพ: Quarter Past 6 

9. Chiang Rai Sustainable Design Week 2021

What: ทางฝั่งเชียงรายก็มีงานออกแบบให้ไปดูเช่นกันกับ ‘เทศกาลออกแบบเพื่อความยั่งยืนเชียงราย’ ที่จะพาทุกคนไปค้นหาแรงบันดาลใจจากกิจกรรมของกลุ่มนักสร้างสรรค์ในรูปแบบ Exhibition & Showcase, Cafe Hopping, Talk & Seminar และ Workshop 

When: 22-28 พฤศจิกายน 2564 

Where: ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า www.facebook.com/chiangraidesignweek 

ภาพ: Courtesy of the Organizer   

The post THE STANDARD CALENDAR: รวมกิจกรรมน่าทำระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2564 appeared first on THE STANDARD.

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ผนึกกำลัง 3 ศูนย์การค้า แสดงพลังความเป็น ‘วันสยาม’ (One Siam) ทุ่มงบ 50 ล้านบาท จัดงาน ‘สยาม ดีไลท์ฟูล ไชนีส นิวเยียร์’ (Siam Delightful Chinese New Year) ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด ‘แลนเทิร์น เฟสติวัล’ (Lantern Festival)

เนรมิตประติมากรรมโคมไฟอลังการ 999 ดวง อันสื่อความหมายถึงความโชติช่วงชัชวาล และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองโดยมีโคมไฟสัญลักษณ์ปีนักษัตรทั้ง 12 ปี ความสูง 2.5 เมตร ตั้งตระหง่านทั่วบริเวณงาน รวมถึงไฮไลต์โคมไฟยักษ์รูปสุนัขขนาดความสูง 5 เมตร ที่แสดงถึงการเริ่มต้นของนักษัตรปีจอ พร้อมกันนี้ยังได้รับความร่วมมือจากศูนย์วัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทย นำการแสดงสุดตระการตาที่ผสมผสานเอกลักษณ์ประจำชนเผ่าและศิลปะวัฒนธรรมจีนของคณะนักแสดงจากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วม 100 ชีวิต เช่น นาฏลีลาอันอ่อนช้อยงดงามด้วยเครื่องแต่งกายหลากสีสันอย่าง ระบำเชี่ยวฮวาตั้น, ระบำตรงเป่ยยังกอ, ระบำเส้าโตวลี่, ระบำกู่จาลี่กู่ลี่, ระบำการเล่นว่าว และระบำจีนเหนียนเหนียนโหย่วหยี การแสดงมายากลและกายกรรมอันเร้าใจ เช่น กายกรรมโคงจุ๋, มายากลโบราณจีน รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับการแสดงเครื่องดนตรีจีนสั่วน่า ที่มาร่วมสร้างความสุนทรีย์ตามแบบฉบับจีนโบราณ พร้อมอิมพอร์ตมหกรรมโชว์สุดตระการตาจากเมืองจีนและกิจกรรมเสริมสิริมงคล ทั้งยังร่วมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมจีนเชื่อมสายสัมพันธ์สองแผ่นดินให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงมอบโปรโมชันสุดพิเศษที่ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญแก่ชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวจีนในเทศกาลตรุษจีน โดยมีบัตรเครดิตกสิกรไทยร่วมสนับสนุน ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 กุมภาพันธ์นี้ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขของทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้ง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จึงได้รวมพลังของความเป็น ‘วันสยาม’ จัดงาน ‘สยาม ดีไลท์ฟูล ไชนีส นิวเยียร์’ ขึ้น ซึ่งแต่ละศูนย์การค้าต่างจัดกิจกรรมขึ้นในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของวันสยามในการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และสำหรับปีนี้เราได้เปิดมิติใหม่ล้ำสมัยในการมอบความพิเศษให้กับทุกท่านด้วยการแจก ‘ดิจิตอลอั่งเปา’ เพื่อมอบโชคและคำอวยพรผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์

โดยท่านสามารถร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลต่างๆ ได้แก่ บัตรของขวัญ ส่วนลด อีกทั้งสร้างสรรค์ AR Application เพียงดาวน์โหลด Flash Venture ผ่านแอปพลิเคชัน ท่านจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมการค้นหาและสะสมสัญลักษณ์นักษัตรทั้ง 12 ปีใน 3 ศูนย์การค้า พร้อมลุ้นของรางวัลหรือส่วนลดต่างๆ มากมาย

พิเศษสุดในวันเปิดงาน 15 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 18.00 น. ทุกท่านจะได้พบไฮไลต์การแสดงสุดอลังการที่ยกขบวนกันมามอบความสุขให้แก่ผู้ร่วมงานอย่างเต็มอิ่ม ได้แก่ Chinese New Year Drum การประโคมโหมกลองด้วยจังหวะฮึกเหิมเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน สลับกับนาฏลีลาอันอ่อนช้อยงดงามจากนักแสดงที่ส่งตรงมาจากประเทศจีน และการเชิดสิงโตจากนักแสดงหนุ่มสุดฮอตขวัญใจชาวจีนอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ที่จะมาสร้างสีสันและมอบความสุขเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่าของชาวจีนอย่างลึกซึ้ง ภายในงานยังได้จำลองบรรยากาศของโรงน้ำชาและยังเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น สวมใส่เสื้อผ้าชุดจีนโบราณและแต่งหน้าสไตล์จีนโดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ โดยสามารถบันทึกภาพเก็บเป็นความทรงจำอันประทับใจได้อีกด้วย ส่วนบริเวณโดยรอบชั้น M สยามพารากอน ถูกประดับตกแต่งด้วยสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล เช่น สุนัขสีชมพูท่ามกลางดงดอกเหมย ทุกอย่างแทนความหมายของคำอวยพรที่มอบแก่ผู้มาเยือนให้พบแต่ความสุข ความมั่งคั่ง ชีวิตที่งดงาม และการมีสุขภาพที่แข็งแรง

ขณะที่บริเวณฮอลล์ออฟเฟม พบกับโคมไฟขนาดยักษ์ที่จะนำความสว่างไสวเรืองรองมามอบให้แก่ทุกคน พร้อมเพลิดเพลินกับแสดงดนตรีกู่เจิง เอ้อหู และขลุ่ยจีน รวมถึงกิจกรรมการสอนถักเชือกจีนจากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และดื่มด่ำไปกับซุ้มอุโมงค์ดอกเหมยประดับไฟสวยงามละลานตาบริเวณพาร์ค พารากอน ที่ส่องสว่างสร้างสีสันในเทศกาลแห่งความสุขอันแสนประทับใจ  

ด้าน สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์รวมแห่งแฟชั่นและงานศิลปะสร้างสรรค์ทุกแขนง จัดแสดงประติมากรรมสุดแนวภายใต้คอนเซปต์ All we need is love ผลงานการออกแบบของศิลปินคอลลาจ นักรบ มูลมานัส ที่สะท้อนถึงความรักของครอบครัว หรือความรักระหว่างคู่รักในวันตรุษจีน เช่นเดียวกับความรักที่แตกต่างหลากหลายล้วนเป็นสิ่งสวยงามทำให้โลกน่าอยู่ โดยรูปคู่รักหลากหลายทั้งในด้านอาชีพ วัย สัญชาติ เพศ สีผิว จะปรากฏอยู่บนโคมซึ่งทุกคนใส่ชุดสีแดงอันเป็นเครื่องหมายของการเฉลิมฉลองปีใหม่จีน อีกทั้งยังสื่อถึงความรักอันยิ่งใหญ่ ทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยลวดลาย Chinoiserie หรือลายประดับตกแต่งของชาวตะวันตกที่ได้รับอิทธิพลจากจีน ลวดลายของโคมไฟจึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักในโลกนี้ที่สวยงามเท่าเทียมกัน

The post สยามพิวรรธน์ รวมพลัง ‘วันสยาม’ จัดงาน ‘สยาม ดีไลท์ฟูล ไชนีส นิวเยียร์’ ฉลองตรุษจีนยิ่งใหญ่ อิมพอร์ตมหกรรมโชว์สุดตระการตาจากเมืองจีน พร้อมเนรมิตประติมากรรมโคมไฟอลังการ [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

เรียกความสนุกกันทุกสุดสัปดาห์ วันที่ 3-9 กุมภาพันธ์นี้มีอะไรน่าดูน่าชม หรือน่าไปชิมบ้าง เราหาคำตอบมาให้

Coronets: an exhibition by Nakrob Moonmanas

What: นิทรรศการศิลปะที่นำเอาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในสังคมไทยอย่าง ‘ชฎา’ มาตีความใหม่ผ่านรูปแบบศิลปะจัดวาง เพื่อให้เห็นถึงแง่มุมทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรมของชฎา ผ่านฝีมือของ นักรบ มูลมานัส ศิลปินผู้เคยเป็นที่รู้จักจากผลงานภาพประกอบสองมิติ

When: 1-20 กุมภาพันธ์ 2561

Where: Thong Lor Art Space ซอยสุขุมวิท 55 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

Why: งานนี้เราจะได้เห็นชฎาที่สร้างจากเทคนิคแปลกใหม่อย่างเปเปอร์มาร์เช่ พร้อมทั้งได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของมันมากขึ้น

How: www.facebook.com/events/310162786160073

Stop: BTS สถานีทองหล่อ

Nai Lert Flower & Garden Art Fair

What: ชมศิลปะการจัดดอกไม้ผ่านรูปแบบการนำเสนออันหลากหลาย ทั้งประติมากรรมกลางแจ้งโดยศิลปินชื่อดังอย่าง พงษธัช อ่วยกลาง และอาจารย์ประจักษ์ สุปันตี งานจัดดอกไม้อันวิจิตรผ่านฝีมือนักจัดดอกไม้ชื่อดังอย่าง สกุล อินทกุล และชยพร โตเมศร์ และชิมช้อปกับร้านค้ากว่า 50 ร้าน

When: 2-4 กุมภาพันธ์ 2561

Where: Nai Lert Park Heritage Home ซอยสมคิด กรุงเทพฯ

Why: งานดอกไม้ในบ้านโบราณกลางเมืองแห่งนี้ถูกจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ เจ้าของบ้าน แถมปีนี้ยังมีไฮไลต์เป็นพรมดอกไม้ผืนยักษ์บนสนามหญ้าขนาด 450 ตารางเมตรใจกลางพื้นที่บ้านที่เราควรไปถ่ายรูปเก็บไว้

How: www.flowerandgardenfair.nailertgroup.com

Stop: BTS สถานีชิดลม

Art Ground 03

What: ไปดื่มด่ำกับศิลปะพร้อมกระทบไหล่ศิลปินรุ่นใหม่ที่งานจัดแสดงศิลปะและตลาดนัดงานศิลปะของ The Jam Factory ซึ่งเวียนกลับมาจัดอีกครั้งเป็นปีที่สาม ในงานมีหลากหลายโซนให้คุณได้ปลุกอินเนอร์ศิลปินในตัวออกมา ทั้งโซน Art How ที่มีศิลปินไทยอย่าง The Archivist และ Le Raclet สตูดิโอจากเบอร์ลิน เมืองสุดอาร์ตของเยอรมนีมาร่วมจัดเวิร์กช็อปสอนทำภาพพิมพ์ หรือจะเป็นโซน Art Sound ที่คุณจะถูกกล่อมด้วยเสียงเพลงจากวงอินดี้ไทยมากมาย

When: 2-4 กุมภาพันธ์ 2561

Where: The Jam Factory ถนนคลองสาน กรุงเทพฯ

Why: นี่เป็นโอกาสสำคัญที่คุณจะได้สนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ๆ ของไทย พร้อมทั้งอัพเดตว่าวงการนี้ของบ้านเราก็ไปไกลแล้วเหมือนกัน

How: www.facebook.com/events/331610473989921

Stop: BTS สถานีสะพานตากสิน (นั่งเรือข้ามฟากไปที่ท่าเรือคลองสาน)

31T & BKK

What: อีกส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week 2018 งานบูรณาการอาหารเข้ากับเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่จะให้เราได้ร่วมค้นหารสชาติใหม่ๆ จากวัตถุดิบไทย ผ่านการลองเลือกวัตถุดิบ ‘สาม’ อย่างมารวมเป็น ‘หนึ่ง’ คำ ก่อนจะบอกให้โลกรู้ถึงรสชาติของมันผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือของคุณ

When: 2-4 กุมภาพันธ์ 2561

Where: Warehouse 30 ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ

Why: ส่วนผสมที่คุณเลือกอาจสร้างรสชาติอันแปลกใหม่แหวกแนวให้กับวงการอาหารไทยก็ได้ ใครจะไปรู้?

How: www.facebook.com/events/145644376226277

Stop: BTS สถานีสะพานตากสิน

Young Master Thailand Release Party

What: ในที่สุดคราฟต์เบียร์ชื่อดังจากฮ่องกงอย่าง Young Master ก็เข้ามาขายในประเทศไทยแล้ว งานนี้มีอีเวนต์เปิดตัวที่ย่านสุดฮิปอย่างซอยนานา เยาวราช โดยเริ่มกันตั้งแต่บ่ายสามที่ Cho Why กับเซสชั่นถามตอบกับเหล่าผู้ก่อตั้ง แล้วไปดื่มกันต่อที่ Píjiǔ Bar และ Ba Hao
When: 3 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.

Where: ซอยนานา เยาวราช ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
Why: จ่ายค่าเข้างานแค่ร้อยเดียว ได้ทั้งไกด์บุ๊ก เสื้อ แถมยังได้แก้วน้ำให้เอาไปตะลอนชิมเบียร์ได้ทั้งคืน

How: www.facebook.com/events/358670264607342

Stop: MRT สถานีหัวลำโพง

Patio Fiesta

What: ไปชิมค็อกเทลพิเศษฝืมือ 2 บาร์เทนเดอร์จากบาร์สไตล์อเมริกันแห่งใหม่ The 88 แถมยังมีทาโกไซส์มินิให้ชิมฟรีตลอดทั้งคืนที่งานปาร์ตี้บนลานกลางแจ้งของ Touche Hombre

When: 3 กุมภาพันธ์ 2561 21.00 น.

Where: Touche Hombre, 72 Courtyard ซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Why: งานนี้มีสองดีเจใหม่จาก Bangkok Invaders มาเป็นดีเจ แถมสี่เมนูค็อกเทลพิเศษจากเตกีลาที่เสิร์ฟในงานก็เก๋เกินกว่าจะพลาด

How: www.facebook.com/events/2045827968972404

Stop: BTS สถานีทองหล่อ

Chor Cher Farm & Folk Market #3

What: ตลาดสไตล์พื้นบ้านในอาณาจักรแห่งความสร้างสรรค์ของฝั่งธนฯ อย่างช่างชุ่ย กลับมาเอาใจเหล่าสายออร์แกนิกเป็นครั้งที่สาม โดยครั้งนี้มาในธีม Simple Happiness

When: 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00-21.00 น.

Where:  กรีนโซน ช่างชุ่ย ถนนสิรินธร บางพลัด กรุงเทพฯ

Why: ยิ่งเห็นข่าวอันตรายจากผักปนเปื้อนสารพิษมากเท่าใด เรายิ่งต้องสนับสนุนสินค้าออร์แกนิกมากขึ้นเท่านั้น จริงไหม?

How: www.facebook.com/events/372210023248375

Stop: BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถประจำทาง ปอ.515 หรือ ปอ.539

Impermanence

What: นิทรรศการของ กิตติธร เกษมกิจวัฒนา ศิษย์เก่าจากโรงเรียนศิลปะชื่อดังแห่งกรุงปารีส L’ENSCI ที่ได้ผนวกศิลปะเข้ากับเทคโนโลยี ด้วยการเลือกใช้น้ำ สสารที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มาเป็นตัวกลางเพื่อสื่อถึงภาวะเกิด-ดับ ผ่านการใช้โปรแกรมเพื่อแปลงคลื่นเสียงและความถี่ให้เกิดความเคลื่อนไหวของน้ำ

When: 4 กุมภาพันธ์-25 มีนาคม 2561

Where: Project Room by Gallery VER ซอยนราธิวาส 22 กรุงเทพฯ

Why: ไปดูกันว่า ‘น้ำ’ จะสะท้อนสัจธรรมของชีวิตออกมาได้ลึกซึ้งเพียงไหน

How: www.facebook.com/events/1593620944058823

Stop: BRT สถานีถนนจันทน์

The post THE STANDARD Calendar: กิน ดื่ม เที่ยว กิจกรรมน่าทำระหว่างวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ 2561 appeared first on THE STANDARD.

     รวบรวมกิจกรรมสนุกๆ ประจำวันที่ 9-15 กันยายนนี้มาให้แล้ว เพียงเลือกกิจกรรมสุดโปรด แล้วเตรียมสนุกกันได้

Earth, Wind, Fire

What: ชมนิทรรศการ ‘ดิน น้ำ ป่า ฟ้า’ นิทรรศการโดยภัณฑารักษ์รับเชิญ ฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที, อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ และ อภิศักดิ์ สนจด ที่นำเสนอการตีความเพื่อการศึกษา สืบสาน ส่งมอบพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้แก่เด็ก เยาวชน และพสกนิกรของท่านให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยแสดงผลงานจำนวน 90 ชิ้นจากฝีมือและหัวใจของศิลปิน 45 ชีวิต

When: 10 สิงหาคม-12 พฤศจิกายน 2560

Where: ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระราม 1 กรุงเทพฯ

Why: เพื่อน้อมรำลึกองค์อัครศิลปินของสยามประเทศที่เรายังคิดถึง

How: โทร. 0 2214 6630

Stop: BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ

Get in the Time Capsule

What: เปิดกรุชมการเดินทางของกระเป๋า Louis Vuitton ผ่านนิทรรศการ ‘ไทม์ แคปซูล’ (Time Capsule) ที่จัดแสดงเรื่องราวและวิวัฒนาการของการเดินทางและหีบเดินทางตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน โดยจะแสดงผลงานแห่งความสร้างสรรค์ทั้งหีบเดินทางและเครื่องหนังของ หลุยส์ วิตตอง ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 160 ปี ส่งตรงมาจากกรุงปารีสมาจัดแสดงในไทยเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

When: 7-25 กันยายน 2560 เวลาเปิด 10:00-20:00 น. เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 20 นาที และห้องจัดแสดงจะเริ่มปิด 10 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ

Where: ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ปทุมวัน กรุงเทพฯ

Why: ใครที่เคยโฉบไปชมบ้างที่ฮ่องกงไม่นานมานี้ แคปซูลนี้มีอะไรใหม่ๆ ให้ชมที่ต่างออกไปด้วย ชมเสร็จอาจมีอะไรดลใจให้อยากรีบคว้ากระเป๋าเดินทางดีๆ สักใบไปท่องโลกเลยก็ได้

How: eu.louisvuitton.com/eng-e1/articles/time-capsule-exhibition-in-bangkok

Stop: BTS สถานีสยาม

The Finest Thai

What: ใครที่เผอิญวีกเอนด์นี้แวะไปที่สิงคโปร์อย่าพลาด การเปิดบ้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ สิงคโปร์ ให้กลายเป็นงานมหกรรม กิน ช้อป ชิลล์ ซึ่งต่อยอดจาก ‘Winter Market Fest’ ซึ่งแสนสิริจัดเป็นประจำทุกปี ยกระดับให้มีความอินเตอร์มากขึ้น โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้ง ททท. และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ร้านอาหาร สินค้าไทยชั้นนำของไทยอย่างคับคั่ง ไปแสดงเสน่ห์แบบไทยๆ ให้ชาวต่างชาติได้เห็นกัน

When: 8-10 กันยายน 2017 ระหว่างเวลา 12.00-21.00 น.

Where: สถานเอกอัคราชทูตไทย ถนนออร์ชาร์ด ประเทศสิงคโปร์

Why: สถานเอกอัครราชทูตไทยที่สิงคโปร์ไม่ได้จัดงานแบบนี้บ่อยนัก และมีแต่สินค้าไทยดีๆ ทั้งนั้น ชวนเพื่อนๆ ต่างชาติไปช้อปอวดของไทยเก๋ๆ ของบ้านเรากันได้เลย

How: ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/events/671119823082734

Stop: Orchard Station

Play with Food

What: หากแวะไป เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ลองไปปีนป่ายผาจำลองที่ ‘Magnum Play Space’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากไอศกรีมแม็กนั่ม และไถลตัวลื่นไปกับสไลเดอร์ช็อกโกแลต (จำลอง) คล้ายลื่นตัวลงจากแท่งไอติมโปรดเพลินๆ จบท้ายด้วยการโรยตัวบนบีนแบ็กที่คล้ายถั่วอัลมอนด์ สร้างมู้ดขนาดนี้แล้วแวะแม็กนั่มบาร์ต่อ เติมความหวานหน่อยจะเป็นไรไป

When: 8-10 กันยายน 2560 เวลา 10.00-22.00 น.

Where: ลานเอเทรี่ยม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

Why: กิจกรรมวันชีตเดย์ที่ถือโอกาสหม่ำแม็กนั่มรสโปรดได้แบบไม่รู้สึกผิดมาก…

How: www.facebook.com/MagnumThailand

Stop: BTS สถานีเพลินจิต

12 Artists + 1 Canvas = ?

What: ชมงานศิลป์กันอิ่มที่งาน ‘Art Weekend’ ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนศิลปินไทยให้มีพื้นที่ในการจัดแสดงงานในรูปแบบที่แปลกใหม่ ได้ลองอะไรที่น่าตื่นเต้นและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ พบกับงานของศิลปินทั้ง 12 คน อาทิ Alex Face, โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์, นักรบ มูลมานัส, ทรัพย์มณี ชัยแสนสุข ฯลฯ

When: 9-10 กันยายน 2560 เวลา 12.00-20.00 น.

Where: The Commons ซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Why: งานนี้มีการแสดงศิลปะสดๆ เพราะศิลปินแต่ละคนจะมาเติมแต่งผลงานบนผืนผ้าเดียวกัน ออกมาจะสวยแค่ไหน ต้องมาชมเอง

How: www.facebook.com/events/1580219445361963

Stop: BTS สถานีทองหล่อ

Always in Our Hearts

What: ขอเชิญถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ศูนย์การค้า โอ.พี.เพลส ร่วมกับกลุ่มศิลปินจัดนิทรรศการ ‘คิดถึงพ่อ จากดวงใจ ถวายพ่อหลวง’ ครั้งที่ ๗ (The Royal Father in Our Hearts) เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยเป็นนิทรรศการที่สื่อถึงเรื่องราวแห่งการรำลึกพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยถ่ายทอดผ่านชื่องานนิทรรศการ ด้วยถ้อยคำเรียบง่ายแต่แฝงด้วยพลังความรู้สึก ‘คิดถึง’ และผ่านผลงานศิลปินไทยชั้นนำ และศิลปินร่วมสมัยกว่า 30 ชีวิต อาทิ แดง บัวแสน, ช่วง มูลพินิจ, ฉัตรมงคล อินทร์สว่าง, มานพ สุวรรณปินฑะ ฯลฯ

When: 9-30 กันยายน 2560 เวลา 10.30-18.00 น.

Where: ห้องเจริญกรุง ชั้น 3 ศูนย์การค้าโอ.พี.เพลส ถนนเจริญกรุง 38 กรุงเทพฯ

Why: ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไปด้วยกัน

How: โทร. 0 2266 0186 ถึง 95 หรือ 0 2235 8860

Stop: BTS สถานีสะพานตากสิน แล้วต่อรถ

The Book Guys

What: สิ่งพิมพ์กำลังจะตายจริงหรือ? ชวนสนทนากับคนทำร้านหนังสือที่งาน ‘Booksellers Talk’ ถึงการทำร้านให้รอดหรือให้รุ่งจากประสบการณ์ทำร้านหนังสือไทยในเยอรมนี คุยกับ เอ็ดการ์ ไร (Edgar Rai) นักเขียน นักแปล และเจ้าของร้านหนังสือ Uslar & Rai ร้านเล็กๆ บนถนน Schönhauser Allee ในเบอร์ลิน สิโรตม์ จิระประยูร เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้านหนังสือ The Booksmith ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจหนังสือและการบริหารร้านทั้งเล็กใหญ่มายาวนาน ภัทรอนงค์ สิรีพิพัฒน์ คนทำหนังสือและเจ้าของ Fathom Bookspace ร้านหนังสือที่เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

When: 10 กันยายน 2560 เวลา 14.30-16.00 น.

Where: ร้าน Fathom ซอยสาทร 3 (สวนพลู) กรุงเทพฯ

Why: ปลุกไฟและใจรักในหน้ากระดาษไปพร้อมๆ กับประสบการณ์ดีๆ ได้ประโยชน์แก่คนรักหนังสือไปด้วยกัน

How: www.facebook.com/events/114096225957551

Stop: MRT สถานีลุมพินี

Bring Back the 90’s!

What: เอาใจมนุษย์ยุค 90’s ให้ย้อนยุคกันกลับไปหาวัยหวานทั้งเสื้อโซนิคและรองเท้าส้นตึก กับงานปาร์ตี้ ‘90’s Night’ ที่แน่นอนว่าต้องมีเพลงป๊อปหวานใสจากขบวนบอยแบนด์ เกิร์ลแบนด์ ไปจนอัลเทอร์เนทีฟสำหรับเด็กหลังห้อง รวมไปถึง เกมดวลลิปซิงก์ และมีรางวัลสำหรับคนที่แต่งกายได้วาร์ปกลับไปยุค 90’s ได้จ๊าบที่สุด

When: 13 กันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 20.00 น.

Where: Game Over Lounge Thailand ตึกลิเบอร์ตี้ ทองหล่อ สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Why: เป็นโอกาสดีที่ได้หาข้ออ้างแต่งตัวเป็น บัฟฟี แวมไพร์ สเลเยอร์ หรือทำผมแบบ นิค คาร์เตอร์ กันสักคืน…

How: www.facebook.com/events/265578553950013

Stop: BTS สถาทีทองหล่อ

The post THE STANDARD Calendar: กิน ดื่ม เที่ยว กิจกรรมน่าทำระหว่างวันที่ 9-15 กันยายน 2560 appeared first on THE STANDARD.

     ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)ในช่วงนี้ อาจจะได้รับชมผลงานชุดใหม่ของศิลปินภาพปะติดขวัญใจมหาชนอย่าง นักรบ มูลมานัส กันไปแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ชม ขอบอกว่านอกจากความสวยงามที่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาแล้ว งานภาพปะติดของนักรบยังเอื้อให้เกิดการตีความที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และสังคม ซึ่งในบางครั้งก็นำเสียงตอบรับที่ไม่ใช่ดอกไม้หรือการชื่นชมกลับมาสู่เจ้าของผลงานด้วยเหมือนกัน

     Sacrifice ถือเป็นนิทรรศการเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของนักรบที่รวบรวมเอาผลงานจำนวน 16 ชิ้น ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ โดยงานชุดดังกล่าวมีความแตกต่างจากผลงานชิ้นเก่าๆ ของเขาที่หลายคนเคยเห็นมา

     THE STANDARD ไม่ได้มาบอกว่านิทรรศการนี้มีภาพอะไรให้ชม และมันมีความหมายอะไรซุกซ่อนอยู่ในนั้นบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นงานศิลปะคงจะไม่ได้ทำหน้าที่ของมัน แต่เรานำบทสนทนาบางตอนกับศิลปินหนุ่มผู้นี้มาฝาก

     ซึ่งเราแน่ใจว่าเมื่ออ่านจบ หลายคนน่าจะเข้าใจถึงแนวคิดการสร้างสรรค์ผลงานของนักรบกันมากขึ้น และน่าจะอยากไปเยือนที่ BACC เพื่อจะได้ชมให้เห็นกับตาตัวเองกันสักครั้ง

ในแง่หนึ่งของการทำงานคอลลาจนั้น ก็เหมือนกับการเสียสละด้วยเหมือนกัน เพราะเราต้องเสียสละรูปและความหมายเก่าๆ เพื่อที่จะนำมาสร้างสรรค์เป็นรูปใหม่ให้เกิดมุมมองหรือความหมายใหม่

ศิลปินภาพปะติด และอิทธิพลของวรรณคดีไทย

     ผมเรียนจบด้านภาษาไทยมาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จริงๆ แล้วเมื่อมองย้อนกลับไปตอนเด็กๆ เราก็มีความสุขกับการเรียนวิชาศิลปะ แต่เมื่อถึงตอนที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยวัยเพียงเท่านั้น เราอาจจะไม่ได้รู้จักหรือเข้าใจตัวเองมากพอ ทำให้ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าตกลงเราชอบอะไรกันแน่

     ในช่วงเวลาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ผมค้นพบว่า เฮ้ย มันยังมีสิ่งหนึ่งที่เรายังอยากจะทำอยู่ คือเรื่องของการออกแบบและการทำงานศิลปะ ผมก็เลยพยายามไปลงวิชาเลือกเสรีจากคณะที่สอนศิลปะ ซึ่งเราก็ได้วิธีคิดในการทำงานมาจากชั้นเรียนเหล่านั้น แล้วก็นำมาผสมกับสิ่งที่เราเรียนอยู่ในคณะอักษรศาสตร์ เอกวิชาภาษาไทย ซึ่งจะต้องเรียนเกี่ยวกับวรรณคดีไทย จึงผลทำให้ผลงานของผมออกมาเป็นอย่างที่เห็นในทุกวันนี้  

     เรียกว่าได้รับอิทธิพลจากตรงนั้นมาเป็นส่วนใหญ่ก็ว่าได้ เพราะเมื่อได้เรียนเรื่องพวกนี้แล้ว เราก็ค้นพบว่ามันยังมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจที่ซุกซ่อนอยู่ และยังไม่ได้ถูกหยิบยกมาไว้ในที่แจ้ง

นิทรรศการเดี่ยว ‘เต็มรูปแบบ’ ครั้งแรก

     ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมเคยจัดแสดงงาน ‘นิรันดร์ – Eternity’ นิทรรศการเฉพาะกิจซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานเก่าๆ ของผมซึ่งเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 และมีการสร้างผลงานชิ้นใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อแสดงในงานดังกล่าวมาครั้งหนึ่งแล้วที่ HUBBA-TO ซึ่งเป็น Co-Creation Space แต่สำหรับการแสดงนิทรรศการชุด Sacrifice ในครั้งนี้นับเป็นนิทรรศการเดี่ยว ‘เต็มรูปแบบ’ ครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้ เพราะจัดแสดงในพื้นที่ซึ่งเป็นหอศิลป์จริงๆ และมีการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

ทำไมต้อง Sacrifice

     มันเป็นคำแรกที่เรานึกถึง มีความหมายถึงการเคารพ สักการะ และความเสียสละ ผมคิดว่าการทำงานคอลลาจของเรามันก็เหมือนกับการเสียสละ ซึ่งในแง่หนึ่งคือการที่เราหยิบบางสิ่งหรือเรื่องราวที่มาจากอดีต จากศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะพูดถึงด้วยความศรัทธา ความผูกพัน ความเชื่อ หรือความสวยงามของสิ่งเหล่านี้ มันก็ไม่แปลกนะ เพราะอย่างนักเขียนก็มีการหยิบยกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาเล่าใหม่แบบนี้เหมือนกัน และเขาก็ให้ความเคารพกับผู้ที่สร้างผลงานชิ้นก่อนหน้าเหมือนเป็นครูบาอาจารย์ สำหรับการสร้างงานของผม มันก็เป็นอะไรแบบนี้มากๆ เพราะเราคงไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานเช่นนี้ออกมาได้เลย หากไม่มีงานของศิลปินชั้นครูเหล่านี้

     และในแง่หนึ่งของการทำงานคอลลาจนั้น มันก็เหมือนกับการเสียสละด้วยเหมือนกัน เพราะเราต้องเสียสละรูปและความหมายเก่าๆ เพื่อที่จะนำมาสร้างสรรค์เป็นรูปใหม่ให้เกิดมุมมองหรือความหมายใหม่ มันก็เลยเหมือนกับว่าเราจะต้องยอมเสียสละอะไรออกไปเพื่อเปลี่ยนมุมมอง งานชุดนี้ก็เลยใช้ชื่อว่า Sacrifice

คนส่วนใหญ่เคยเห็นผลงานของผมแต่ในรูปแบบสองมิติผ่านทางหน้าจอ แต่สำหรับคราวนี้ เมื่อเราได้มีโอกาสจัดแสดงผลงานในหอศิลป์ เราทดลองใช้องค์ประกอบต่างๆ ทั้งเรื่องการจัดแสงและการใช้พื้นที่ เพื่อช่วยดึงศักยภาพของผลงานออกมาให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นคนเขาก็จะบอกว่าดูงานของเราในอินเทอร์เน็ตเอาก็ได้

ไม่ได้เรียนด้านศิลปะจึงต้องทำงานหนัก

     ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องเทคนิคเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร เพราะไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง นั่นก็เลยทำให้ผมต้องทำงานหนักในการที่จะต้องเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เพราะคนส่วนใหญ่เคยเห็นผลงานของผมแต่ในรูปแบบสองมิติผ่านทางหน้าจอ แต่สำหรับคราวนี้ เมื่อเราได้มีโอกาสจัดแสดงผลงานในหอศิลป์ เราทดลองใช้องค์ประกอบต่างๆ ทั้งเรื่องการจัดแสงและการใช้พื้นที่ เพื่อช่วยดึงศักยภาพของผลงานออกมาให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นคนเขาก็จะบอกว่าดูงานของเราในอินเทอร์เน็ตเอาก็ได้

     เราก็เลยเลือกใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อที่จะมาช่วยในการเล่าเรื่อง ก็เลยต้องทำงานร่วมกับช่างเทคนิคเยอะเหมือนกัน เพราะผมเลือกที่จะใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่น เราเห็นช่างที่ทำจิตรกรรมฝาผนัง ก็เข้าไปคุยกับเขาว่ามันมีขั้นตอนหรือเทคนิคอย่างไร เมื่อคิดว่าอยากจะนำมาใช้กับงานเราบ้าง ก็เลยลองปิดทองและตัดเส้นเพิ่ม และเราก็ดีใจที่ได้นำเอาเทคนิคเก่าๆ ที่กำลังจะสูญหายมาใช้ทำงานเพื่อให้มันคงอยู่ต่อไป ข้อดีอีกอย่างคือผมเองก็ได้พัฒนาตัวเองทางด้านนี้ด้วย มันทำให้เราได้ทำงานที่แตกต่างจากที่เคยทำมา ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้พี่ที่เป็นช่างเทคนิคด้วย

ศิลปินได้ตายไปแล้ว ต่อไปนี้คือหน้าที่ของผู้ชม

     ผมยินดีมากเวลาที่คนดูงานของเราแล้วมีการตีความ ถามเราว่าภาพนี้ ตรงนี้ แปลว่าอย่างนั้นอย่างนี้ใช่ไหม เราได้ซ่อนสิ่งเหล่านี้เอาไว้ใช่ไหม ซึ่งสารภาพตามตรงว่าบางทีตอนที่ทำงานผมก็ไม่ได้นึกถึงอะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่การที่คนดูมีปฏิกิริยาแบบนี้ เมื่อคุณดูรูปนี้แล้วมันก็ทำให้คุณนึกถึงเรื่องนี้ ได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เราคิดว่ามันศิลปะมันได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะมันทำให้เกิด ‘บทสนทนาเฉพาะ’ ระหว่างชิ้นงานกับผู้ชมแต่ละคน

     เราจะแอบเบื่อนิดหน่อยเวลาที่มีคนถามว่า ‘งานชิ้นนี้หมายถึงอะไร’ มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่มันคือหน้าที่ของคนดูที่จะตอบ คืองานศิลปะมันไม่ได้ดูยากขนาดนั้น คำถามพื้นฐานแรกก็คือ คุณดูแล้วสามารถบอกได้ไหมว่ามันสวยหรือไม่สวย คุณชอบหรือไม่ชอบ คุณมีสิทธิที่จะบอกว่างานของเราสวยหรือไม่สวย และคุณจะไม่ชอบงานเราก็ได้ ถ้าคุณมีเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร

     จริงๆ แล้วเราอยากจะบอกว่า ‘ศิลปินได้ตายไปแล้ว หลังจากที่เขาสร้างงานเสร็จ’ เป็นหน้าที่ของผู้ชมที่จะดูว่ามันมีความหมายอย่างไร และคุณมองเห็นอะไรในผลงานนั้นบ้าง โดยที่คุณไม่ได้ไปก๊อบปี้ความหมายมาจากคนอื่น

ในฐานะของศิลปินหรือผู้สร้างสรรค์ มันก็จำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดสิ่งที่เราคิดออกมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะโอเคไหม แต่เราก็พยายามที่จะประนีประนอมในการสร้างงานของเราเหมือนกันนะ

ศิลปะและการตีความ

     ความที่เป็นงานคอลลาจซึ่งเอื้อให้เกิดความหลากหลายในการตีความ ก็เลยมีบางทีเหมือนกันที่บางคนดูรูปของผมบางรูปแล้วก็ตีความว่า นักรบมีความรุนแรง เป็นเสื้อเหลือง เป็นเสื้อแดง หรือภาพนี้มีความอวยเจ้า ซึ่งมันก็มีความแตกต่างหลากหลายมาก แต่เราก็โอเคแล้วก็แฮปปี้มาก เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าศิลปะมันได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว มันทำให้คนคิดเห็นและตีความแตกต่างกัน

     แต่เราคิดว่าวิธีการเสพศิลปะอย่างหนึ่งก็คือการตัดคนที่ทำงานนั้นออกไป มันไม่จำเป็นเสียหน่อยว่าคนทำจะต้องมีความคิดแบบนี้ มันก็เป็นความหมายเฉพาะระหว่างคุณกับงานศิลปะโดยที่ไม่เกี่ยวกับคนทำเลยก็ได้ เราก็เลยรู้สึกโอเคกับคนที่ตีความออกมาเป็นอย่างนั้น และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก เพราะปกติสังคมเราไม่ได้ตีความอะไรมากมายขนาดนั้น และมันก็เกิดอะไรบางอย่างจากการที่คนมองไม่เห็นถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในสิ่งต่างๆ

     ซึ่งจริงแล้วๆ การที่คุณมองเห็นความหมายอะไรที่ซ่อนอยู่ในสิ่งต่างๆ ไปมากกว่าหนึ่งชั้นแรกนี่เราคิดว่ามันเป็นผลดีนะ

‘เกณฑ์’ ของใคร

     ถ้าถามว่ามันจะมีเส้นแบ่งอย่างไรจึงจะไม่ก้าวล่วงในการทำงาน เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่า ‘เส้นแบ่ง’ คืออะไร ไม่รู้สิ อย่างในงานของเรามันก็เป็นเกณฑ์ของเราคนเดียว ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับเกณฑ์ของคนอื่น แต่เราก็ได้กลั่นกรองความคิดของตัวเองมาแล้วพอสมควร แล้วก็รู้สึกว่าตัวเราไม่ได้เป็นคนที่ตะโกนกระโชกโฮกฮาก เราก็เล่าในน้ำเสียงของเราที่อาจจะไม่ได้สุภาพหรือเรียบร้อยนัก แต่เราก็ไม่ได้ก้าวร้าว

     ดังนั้นถ้าจะมีคนดูที่ตีความว่าเป็นการด่าทางอ้อมหรือเปล่า หรือเป็นคำชมที่ไม่จริงหรือเปล่า มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าตัวคุณเองทำงานชิ้นนั้นอย่างไร แต่สำหรับเรา เราทำงานนั้นจบไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเห็นแก่ตัว หรือเป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคมหรือเปล่า จะบอกว่าเส้นแบ่งของงานที่เราทำมันก็คือตัวของเราเอง แต่ในฐานะของศิลปินหรือผู้สร้างสรรค์ มันก็จำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดสิ่งที่เราคิดออกมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะโอเคไหม แต่เราก็พยายามที่จะประนีประนอมในการสร้างงานของเราเหมือนกันนะ

เป็น ‘loyalist’ หรือเปล่า

     เราตอบไม่ถูก เพราะคำว่า loyalist ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนคิดว่าคนที่จงรักภักดีต่อสถาบันจะต้องเป็นคนที่เทิดทูนมาก แต่เวลาเราทำงาน บางทีก็ไม่ได้คิดว่าเป็น king หรือ god หากแต่เป็น symbol ในเรื่องต่างๆ

     “แต่สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เราเคารพพระองค์ในฐานะที่เป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น เราไม่ได้มองท่านว่าเป็นพระเจ้าหรือว่าเป็นอะไร การที่เรานำเอาส่วนประกอบโน่นนั่นนี่มาทำให้ท่านดูเป็น God ก็เพราะว่าเราต้องการที่จะล้อไปกับความคิดแบบไทยๆ ประมาณว่า… เมื่อเป็นเจ้าไทยก็ต้องเป็นลายไทยเท่านั้น เราคิดว่ามันน่าสนใจ ก็เลยเอาเทวดาของตะวันตกเข้าไปผสมดู

     อย่างคนดูบางคนเห็นแล้วก็อาจจะคิดว่า เฮ้ย! ทำแบบนี้ก็ได้เหรอ!? แต่เราก็อยากจะนำเสนอมุมมองความคิดที่มันแตกต่างไปจากสิ่งที่เราเคยเห็น

     เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่รู้ว่าเราเป็น loyalist หรือไม่ และเป็นในความหมายของใครบ้าง หรือว่าเราเป็น liberal ซึ่งมันก็แล้วแต่ความหมายของแต่ละคน เราอาจจะเป็น loyalist ในบางวินาที และเราก็อาจจะเป็น liberal ในบางวินาที แล้วเราก็มาคิดอีกว่าเราเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้ไหม

ประสบการณ์ใหม่ในวันที่อายุ 27

     มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะต้องเรียนรู้และฝึกฝน ตอนนี้ผมอายุ 27 ปีแล้วครับ มันเป็นช่วงที่เราเร่ิมทำงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ก็เริ่มจะรู้แล้วว่าอะไรที่มันเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา และผมก็พยายามที่จะอัพเลเวลตัวเองขึ้นมา เราอยากจะทำอะไรให้ได้มากขึ้นกว่านี้ มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานในการลองทำสิ่งต่างๆ เพราะอีกหน่อยถ้าเราอายุเยอะกว่านี้ก็อาจจะทำไม่ได้แล้ว ด้วยเพราะไม่มีเวลาหรือด้วยเหตุผลต่างๆ

The post ‘นักรบ มูลมานัส’ ความตายของศิลปิน กับสิทธิในการสร้างสรรค์และตีความนิทรรศการ ‘Sacrifice’ appeared first on THE STANDARD.