ธุรกิจความงาม – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 27 Mar 2025 08:05:58 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ชาญอิสสระทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน เปิดตัว 6 โครงการหรู พระราม 9-ภูเก็ต-หัวหิน พร้อมบุกธุรกิจสกินแคร์ BABA SKIN CLUB https://thestandard.co/charn-issara-6-luxury-projects/ Thu, 27 Mar 2025 08:05:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1057225 ชาญอิสสระ

สำหรับปี 2568 ชาญอิสสระ ประกาศเปิด 6 โครงการซูเปอร์ลักช […]

The post ชาญอิสสระทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน เปิดตัว 6 โครงการหรู พระราม 9-ภูเก็ต-หัวหิน พร้อมบุกธุรกิจสกินแคร์ BABA SKIN CLUB appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชาญอิสสระ

สำหรับปี 2568 ชาญอิสสระ ประกาศเปิด 6 โครงการซูเปอร์ลักชัวรีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันได้เตรียมขยายไลน์ธุรกิจสุขภาพ-ความงาม เสริมทัพการเติบโตของธุรกิจด้วย

 

เริ่มจากบริเวณพระราม 9-กรุงเทพกรีฑา มี 2 โครงการคือ โครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ บนที่ดิน 19 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต และโครงการบ้านอิสสระ บนที่ดิน 21 ไร่ จำนวน 67 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 5,123 ล้านบาท

 

โครงการมิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต ‘ศรีพันวา ลากูน’ บนที่ดิน 62 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ที่มีทั้งโรงแรมหรู วิลล่า และคอมมูนิตี้ ย่านเชิงทะเล, The Sky Series เวิลด์คลาสลักชัวรีวิลล่า บนที่ดินกว่า 2 ไร่ จำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท

 

โครงการอิสสระ วิลล์ หัวหิน (ISSARA VILLE) ลักชัวรีพูลวิลล่า หัวหิน บนที่ดิน 4 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 144 ล้านบาท รวมถึงโครงการซาซ่าส์ หัวหิน (SASA HUA HIN) A NEW STYLISH BEACH CONDOMINIUM บนที่ดิน 3 ไร่ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,706 ล้านบาท ที่ได้ทั้งวิวทะเลและวิวสนามกอล์ฟแบบเต็มๆ

 

ธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึงเหตุผลที่ปีนี้เน้นทำโครงการแนวราบเป็นเพราะการขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่มีความท้าทายมากขึ้น จากทั้งต้นทุนที่ดิน ซึ่งเพิ่ม 5-10% ทุกปี รวมถึงยังมีต้นทุนการก่อสร้าง ตลอดจนการขอ EIA

 

ขณะเดียวกัน การที่เน้นโครงการระดับบนนั้น “หลุดพ้นจากราคาที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้า” ธีราภรณ์กล่าว พร้อมเสริมว่า ถึงอย่างนั้นการแข่งขันในตลาดอสังหาในเวลานี้มากที่สุดคือเรื่องราคา โปรโมชันที่จูงใจ ดังนั้นจึงอาจจะยอมกำไรน้อยลงหน่อย แต่ขายได้เพื่อสร้างสภาพคล่องทางธุรกิจ

 

นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาโปรดักต์ใหม่ในกลุ่มของธุรกิจดูแลสุขภาพผิว ภายใต้แบรนด์ BABA SKIN CLUB ด้วยแนวคิด Skin Vacation นวัตกรรมใหม่เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุง พักผ่อน ซึ่งใช้สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสม โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยมี กรัชเพชร อิสสระ รับตำแหน่งเป็นแบรนด์ไดเรกเตอร์ของผลิตภัณฑ์ BABA SKIN CLUB

 

“BABA SKIN CLUB เป็นไลน์ธุรกิจใหม่ โดยจะนำร่องเป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเป็นชุดแรกที่คำนึงถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย ให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้จบครบในหลอดเดียว ทั้งปกป้อง ดูแล ฟื้นฟู ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” ดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

The post ชาญอิสสระทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน เปิดตัว 6 โครงการหรู พระราม 9-ภูเก็ต-หัวหิน พร้อมบุกธุรกิจสกินแคร์ BABA SKIN CLUB appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิด 3 ธุรกิจโตสวนกระแสเศรษฐกิจ วิเคราะห์ทำไมยอดเปิดธุรกิจใหม่พุ่ง 8,800 รายในเดือนเดียว และทุนญี่ปุ่นรั้งอันดับ 1 https://thestandard.co/3-thriving-businesses-economic-downturn/ Tue, 25 Feb 2025 12:56:07 +0000 https://thestandard.co/?p=1045683

เปิดศักราชใหม่ปี 2568 ธุรกิจตั้งใหม่เป็นช่วงขาขึ้น เดือ […]

The post เปิด 3 ธุรกิจโตสวนกระแสเศรษฐกิจ วิเคราะห์ทำไมยอดเปิดธุรกิจใหม่พุ่ง 8,800 รายในเดือนเดียว และทุนญี่ปุ่นรั้งอันดับ 1 appeared first on THE STANDARD.

]]>

เปิดศักราชใหม่ปี 2568 ธุรกิจตั้งใหม่เป็นช่วงขาขึ้น เดือนแรกพุ่งไปกว่า 8,800 ราย ทุนรวม 24,951 ล้านบาท อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย ไตรมาส 1 คาดจัดตั้งใหม่ทะลุ 27,000-28,000 ราย คิดเป็น 30% ของทั้งปี และญี่ปุ่นยังคงขนเงินลงทุนไทยมากสุด ขณะที่เลิกกิจการลดลง เผยเทรนด์ดูแลสุขภาพดัน ‘ธุรกิจความงาม-ศัลยกรรม’ โตสวนกระแสเศรษฐกิจ โกยรายได้กว่า 3 แสนล้านต่อปี 

 

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าวิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมกราคม 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 8,862 ราย เพิ่มขึ้น 4,485 ราย (102%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (4,377 ราย) โดยทุนจดทะเบียนรวม 24,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,056 ล้านบาท (8.98%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (22,895 ล้านบาท) 

 

ในเดือนนี้มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ทุน โดยจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท เป็นกิจการ ผลิต จำหน่าย ส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง 

 

ธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่ สูงสุด 3 อันดับ

 

  • ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 691 ราย ทุน 1,423 ล้านบาท
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 612 ราย ทุน 2,039 ล้านบาท 
  • ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 336 รายทุน 731 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.80%, 6.91% และ 3.79% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนมกราคม 2568 ตามลำดับ

 

“ปัจจัยหลักคือเศรษฐกิจของไทยและของโลก ที่ได้รับแรงหนุนหลักทั้งจากการบริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยว มาตรการรัฐ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนของนโยบายของประเทศมหาอำนาจ”

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 


 

อรมนกล่าวอีกว่า ขณะที่การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,431 ราย ลดลง 4,634ราย (-76.41%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (6,065 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 4,601 ล้านบาท ลดลง 30,501 ล้านบาท (-86.89%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (35,102 ล้านบาท) 

 

“ในจำนวนนี้มีธุรกิจเลิกประกอบกิจการที่ทุนจดทะเบียนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย ทุนจดทะเบียน 1,568 ล้านบาท เป็นกิจการนำเข้าและส่งออก ยารักษาโรค เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ทุกชนิด”

 

ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับ

 

  • ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 151 ราย ทุนเลิก 264 ล้านบาท 
  • ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 58 ราย ทุนเลิก 178 ล้านบาท 
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 52 ราย ทุนเลิก 158 ล้านบาท 

 

คิดเป็นสัดส่วน 10.55%,4.05% และ 3.64% ของจำนวนการเลิกประกอบธุรกิจในเดือนมกราคม 2568 

 

​สำหรับนิติบุคคล กลุ่มธุรกิจบริการเป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุด มีจำนวน 501,709 ราย ทุนจดทะเบียน 12.98 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีก 

 

“​คาดการณ์ในไตรมาสแรกของปี 2568 จะมีธุรกิจจดทะเบียนจัดตั้งใหม่อยู่ที่ 27,000-28,000 ราย คิดเป็น 30% ของยอดจดทะเบียนทั้งปี และตลอดปี 2568 จะอยู่ที่ราว 90,000-95,000 ราย โดยอัตราส่วนการจัดตั้งธุรกิจต่อการเลิกธุรกิจในเดือนมกราคม 2568 พบว่าอยู่ที่ 6:1 ซึ่งถือว่ามีการจัดตั้งใหม่ที่เติบโตสูง”

 

ขณะที่การเลิกยังต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนเฉลี่ย ปี 2567 อยู่ที่ 4:1 และ 5 ปี ย้อนหลัง (2562-2566) อยู่ที่ 3:1 แสดงให้ถึงแนวโน้มที่ดีของภาคธุรกิจในปี 2568 ญี่ปุ่นรั้งอันดับ 1 ลงทุนไทย

 

ส่วนการลงทุนของชาวต่างชาติประจำเดือนมกราคม 2568 เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 23,160 ล้านบาท อันดับ 1 ยังคงเป็นทุนจากญี่ปุ่น 21 ราย คิดเป็น 20% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 8,880 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจบริการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ตามด้วย สหรัฐฯ, จีน, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เยอรมนี ตามลำดับ 

 

รวมถึงการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติเดือนมกราคม จำนวน 29 ราย คิดเป็น 28% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย ยังคงเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นมากสุด 11 ราย ตามด้วยจีนและสิงคโปร์

 

คนไทยหันมาดูแลตัวเอง ดันธุรกิจความงามโตแรงสวนทางเศรษฐกิจ

 

อรมนกล่าวอีกว่า มีความน่าสนใจว่าธุรกิจความงาม มีแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจความงาม 6,621 ราย ทุนจดทะเบียน 190,160 ล้านบาท 

 

หากย้อนไปปี 2563 มีการจัดตั้งนิติบุคคลในธุรกิจนี้ 527 รายต่อปี และก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2566 มีการจัดตั้งใหม่จำนวน 1,161 และ ปี 2567 จัดตั้ง1,135 ราย ขณะที่วิเคราะห์เชิงลึก 3 ปี ย้อนหลัง (2564-2566) สามารถสร้างรายได้ที่สูงเฉลี่ยกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี 

 

“การเติบโตของธุรกิจความงามเป็นผลมาจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดค่านิยมจากโซเชียลมีเดียที่นำเสนอเรื่องราวการดูแลตนเองผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ คนศัลยกรรมมากขึ้น เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีวิวัฒนาการมากขึ้น และลูกค้าไม่ได้จำกัดแค่เพียงผู้หญิงแต่ยังขยายลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ชาย กลุ่ม Gen Z ที่เริ่มเข้าสู่สังคมการทำงาน ผู้สูงอายุที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการชะลอวัย และลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการ”

 

ภาพ: RuslanKphoto / Shutterstock

The post เปิด 3 ธุรกิจโตสวนกระแสเศรษฐกิจ วิเคราะห์ทำไมยอดเปิดธุรกิจใหม่พุ่ง 8,800 รายในเดือนเดียว และทุนญี่ปุ่นรั้งอันดับ 1 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะลึกเทรนด์ความงาม 2025: เปิดตัว Profhilo® ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่สายบิวตี้ห้ามพลาด [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/2025-beauty-trend-and-profhilo/ Thu, 20 Feb 2025 05:00:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1043644

เมื่อพูดถึง ‘ความงาม’ ภาพจำในแต่ละยุคสมัยมักแตกต่างกันไ […]

The post เจาะลึกเทรนด์ความงาม 2025: เปิดตัว Profhilo® ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่สายบิวตี้ห้ามพลาด [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อพูดถึง ‘ความงาม’ ภาพจำในแต่ละยุคสมัยมักแตกต่างกันไปตามค่านิยมและอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนผ่าน เช่นในยุค 2000 ที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับใบหน้าเรียวคมและกรอบหน้า V-Shape หรือในฝั่งเอเชียที่เคยมีค่านิยมผิวขาวใส ตากลมโต หรือแม้แต่ริมฝีปากอวบอิ่มที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงเวลาหนึ่ง

 

ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในวงการความงามอย่างแท้จริง เมื่อความงามไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบเดิมๆ แต่กลับเปิดรับความหลากหลายและเฉลิมฉลอง ‘การเป็นตัวเอง’ มากยิ่งขึ้น ทั้งแพทย์ คลินิก และโรงพยาบาล ต่างปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริการที่ดีที่สุด

 

ในยุคที่เน้นความเป็นธรรมชาติ Profhilo® จึงเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน สร้างความกระชับ และลดเลือนริ้วรอยอย่างธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาการเติมเต็มเกินความจำเป็น เหมาะสมกับยุคที่ความงามไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ แต่เป็นการสะท้อนตัวตนของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง

 

 

อลอน ซีโอนิท ประธาน Alma Thailand ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Alma ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เชี่ยวชาญและผู้รับบริการทั่วโลก Profhilo® ตัวช่วยฟื้นฟูผิว ตอบโจทย์เทรนด์ความงามยุคใหม่

 

ภายใต้กระแสความงามที่ให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติ Alma Lasers บริษัทในเครือ Sisram Medical ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันทางการแพทย์และความงาม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® ในประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติที่น่าจับตามอง

 

 

Profhilo® เป็นผลิตภัณฑ์ปรับสมดุลผิวจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยี Bio-Remodeling กระตุ้นให้เซลล์ผิวกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติเด่น ได้แก่

 

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างเป็นธรรมชาติ: Profhilo® ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเสริมสร้างความกระชับของผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

 

  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างครอบคลุมด้วย Bio-Remodeling: เทคโนโลยี Bio-Remodeling ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวในทุกระดับชั้น ทั้งชั้นตื้นและชั้นลึก ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์จากภายในสู่ภายนอก

 

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก: ด้วยกรดไฮยาลูโรนิก (HA) ความเข้มข้นสูง Profhilo® ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดี

 

  • ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ: Profhilo® ช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยบริเวณใบหน้าและลำคอ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ก่อให้เกิดการจับตัวเป็นก้อน

 

  • ช่วยฟื้นฟูรอยแผลเป็นและหลุมสิว: Profhilo® มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูรอยแผลเป็นและหลุมสิว โดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Keratinocyte ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

 

  • ผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย: ผลลัพธ์ของ Profhilo® สามารถคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน โดยไม่ต้องใช้สารเคมีเชื่อม HA ลดความเสี่ยงต่อการแพ้ บวม หรือแดง

 

  • ขั้นตอนการรักษาที่สะดวกสบาย: การรักษาด้วย Profhilo® ใช้การฉีดเพียง 5 จุดต่อข้าง ทำให้เจ็บน้อยกว่าและสะดวกสบายกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์หรือสกินบูสเตอร์ทั่วไป

 

เทรนด์ ‘Natural Beauty’ มาแรง 

 

หนึ่งในกระแสหลักของวงการความงามยุค 2025 คือ ‘Natural Beauty’ หรือความงามที่ดูเป็นธรรมชาติ ผิวสุขภาพดี ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมในเทคนิคที่เน้นการปรับโครงสร้างผิวอย่างละเอียดและเป็นธรรมชาติ โดยไม่เน้นการเติมเต็มที่มากเกินความจำเป็น

 

พญ.พิมพิดา วรัญญูรัตนะ

พญ.พิมพิดา วรัญญูรัตนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC Group

 

พญ.พิมพิดา วรัญญูรัตนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC Group เสริมว่า “เทรนด์ทั่วโลกเริ่มหันกลับมาสู่แนวทางที่เน้นสร้างสมดุล และให้ความสำคัญกับคุณภาพผิว เห็นได้ชัดจากการที่คนไข้เริ่มฉีดฟิลเลอร์น้อยลง และหันมาใช้สารฉีดที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในแทน เพราะทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น”

 

นอกจากนี้ พญ.พิมพิดา ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ว่า “ปัจจุบันแม้แต่วัยรุ่นอายุ 20 กว่าปีก็เริ่มมีสัญญาณผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ การรักษาในยุคนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การผ่าตัดหรือฉีดสารเติมเต็ม แต่เป็นการดูแลแบบองค์รวม”

 

นพ.ดนัย ภววัฒนานุสรณ์

นพ.ดนัย ภววัฒนานุสรณ์ หัวหน้าทีมแพทย์ Dr. Tony Medical Center

 

สอดคล้องกับ นพ.ดนัย ภววัฒนานุสรณ์ หัวหน้าทีมแพทย์จาก Dr. Tony Medical Center ที่มองว่า “ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการผิวสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ผู้คนไม่ได้มองหาการเติมเต็มเพื่อเปลี่ยนใบหน้า แต่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสะท้อนตัวตนของตัวเอง ทางเราจึงให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูผิวจากภายใน ผ่านเทคนิค Mix & Match ที่ผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน โดยเน้นไปที่การดูแลและปรับโครงสร้างผิว ซึ่งช่วยให้ได้ลุคที่ดูสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ (Harmonized Look) และผลลัพธ์ที่เป็น Best Version ของแต่ละคนอย่างแท้จริง”

 

ดร. พญ.พลินี รัตนศิริวิไล

ดร. พญ.พลินี รัตนศิริวิไล แพทย์ที่ปรึกษาศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลพญาไท 1 และ 2

 

“ผู้คนให้ความสนใจกับแนวทาง Natural Beauty มากขึ้น โดยเน้นความสวยที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ หลายคนเริ่มกังวลกับภาวะ Overfilled Syndrome หรือใบหน้าที่ดูบวมเกินไปจากการฉีดสารเติมเต็ม”

 

ดร. พญ.พลินี รัตนศิริวิไล แพทย์ที่ปรึกษาศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลพญาไท 1 และ 2 กล่าวโดยวิเคราะห์ว่า แนวทางความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ‘Subtle but Significant’ การดูดีแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลผลข้างเคียงระยะยาว เพราะคนไข้ยุคใหม่มีความรู้และหาข้อมูลก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์ในยุคนี้จึงต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น ‘เชิงรับ’ มากขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำยืนยันและแนะนำแนวทางที่ถูกต้อง ตามหลักของแพทย์ที่ให้ความปลอดภัยเป็นหลัก”

 

Personalized Treatment: หัวใจสำคัญของการสร้างความผูกพันกับลูกค้า

 

พญ.อัญชลี อมรรุ่งมีธรรม

พญ.อัญชลี อมรรุ่งมีธรรม แพทย์ผู้บริหาร Anjali Clinic

 

จากเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คลินิกและโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทยเริ่มปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยเน้นการให้บริการที่มุ่งเน้น ‘Personalized Treatment’ หรือการรักษาเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมกับลักษณะผิวและความต้องการของลูกค้าแต่ละรายอย่างแท้จริง

 

“เทรนด์ Personalized Treatment จะมาแรงขึ้น โดยคนไข้ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉพาะบุคคล เน้นดูแลทั้งภายนอกและภายใน” พญ.อัญชลี อมรรุ่งมีธรรม แพทย์ผู้บริหาร Anjali Clinic กล่าว โดยยกตัวอย่างคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาเรื่องความงามภายนอกว่าหลายคนมีปัญหาด้านสุขภาพภายใน เช่น ต่อมหมวกไตล้า นอนไม่หลับ ภาวะซึมเศร้า ทำให้หลายคลินิกหันมาให้ความสำคัญกับการวางแผนพัฒนาสุขภาพแบบครบวงจรให้กับคนไข้

 

พญ.อัญชลี มองว่า “การรักษาแบบเฉพาะบุคคลและองค์รวม ทำให้คนไข้มีความผูกพันและความเชื่อมั่นกับคลินิกมากขึ้น ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ Branding แต่คือการสร้าง Loyalty ที่เกิดจากความใส่ใจจริงๆ เมื่อหมอดูแลคนไข้ด้วยความจริงใจ คนไข้จะรักและไว้วางใจ จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน”

 

บทบาทใหม่ของแพทย์

 

พญ.ปรณีย์ ฉัตรธานี Hospital & Clinic Aesthetic Physician จาก Apex Clinic มองว่าแพทย์จะต้องหมั่นพัฒนาความเชี่ยวชาญอยู่ตลอดเวลา

 

พญ.ปรณีย์ ฉัตรธานี

พญ.ปรณีย์ ฉัตรธานี Hospital & Clinic Aesthetic Physician, Apex

 

“ปีนี้คลินิกมุ่งเน้นการฝึกอบรมเพื่อเสริมความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมความงาม แพทย์ทุกคนจะได้รับการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญในทุกเครื่องมือ เพื่อให้สามารถให้บริการที่ดีที่สุด”

 

นพ.ศิวะดล เลิศพรภวิชญ์ Head of Medical Specialist, Rassapoom Clinic

 

เช่นเดียวกับ นพ.ศิวะดล เลิศพรภวิชญ์ Head of Medical Specialist ที่เล่าให้ฟังว่า “Rassapoom Clinic จะมีการประชุมเทคนิคการฉีด เพื่อพัฒนาแนวทางการรักษาใหม่ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามา โดยเน้นที่ความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

 

กลยุทธ์การตลาดที่เปลี่ยนแปลไป

 

ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาด นพ.ดนัย เล่าให้ฟังว่า Dr. Tony Medical Center เน้นการโปรโมตและให้ความรู้เกี่ยวกับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พัฒนาเพิ่มเติมจากตัวเดิม เพราะผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บางตัวยังต้องได้รับการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงข้อดีและความแตกต่างมากขึ้น

 

ด้าน นพ.ศิวะดล เสริมว่า Rassapoom Clinic จะเน้นให้ความรู้ด้านความงามบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok, Instagram, Facebook รวมถึงการเป็นวิทยากรในงานประชุมและอบรม เพื่อแชร์องค์ความรู้และเทคนิคแก่แพทย์ในวงการ Aesthetic และตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็น Aesthetic Medical Hub ของโลกให้ได้

 

ด้าน พญ.อัญชลี กล่าวถึงแนวทางของ Anjali Clinic ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาคนไข้ว่า “สนใจใช้ AI เพื่อช่วยให้การดูแลคนไข้เป็น Personalized มากขึ้น โดย AI ในการถ่ายภาพ 3D จะช่วยประเมินรูปหน้าและวางแผนการรักษาได้แม่นยำยิ่งขึ้น”

 

สรุป:

 

ปี 2025 สังคมได้ก้าวข้ามค่านิยมความงามแบบเดิมและเปิดรับความหลากหลาย ความงามจึงไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบใดๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นการเฉลิมฉลองความแตกต่างและความงดงามในเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล Profhilo® จึงเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุคนี้ ด้วยเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ช่วยเพิ่มความกระชับและลดเลือนริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาการเติมเต็มที่เกินความจำเป็น

 

พร้อมกันนี้ บุคลากรทางการแพทย์ด้านความงามทั้งในโรงพยาบาลและคลินิกต่างปรับตัวด้วยการสรรหานวัตกรรมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อมอบบริการที่เป็น Personalized Care หรือการดูแลเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย และสร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการในยุคที่ความงามคือการเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

The post เจาะลึกเทรนด์ความงาม 2025: เปิดตัว Profhilo® ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่สายบิวตี้ห้ามพลาด [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิน เมธวิน ถูกแต่งตั้งเป็น Friend of SHISEIDO คนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ https://thestandard.co/winmetawin-shiseido/ Thu, 20 Feb 2025 02:17:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1043940 win-metawin-shiseido

SHISEIDO แบรนด์ความงามระดับโลกจากญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้ง […]

The post วิน เมธวิน ถูกแต่งตั้งเป็น Friend of SHISEIDO คนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
win-metawin-shiseido

SHISEIDO แบรนด์ความงามระดับโลกจากญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้ง วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ศิลปินและนักแสดงชื่อดังชาวไทย ขึ้นแท่นเป็น Friend of SHISEIDO คนแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่มีความร่วมมืออันยาวนานกับแบรนด์ SHISEIDO ในประเทศไทย

 

การร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ครั้งสำคัญในปี 2025 โดยแบรนด์เล็งเห็นถึงทัศนคติที่สอดคล้องกับแนวคิดของ SHISEIDO ทั้งในด้านความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ความกล้าที่จะท้าทายสิ่งใหม่ๆ และการเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก

 

ในฐานะ Friend of SHISEIDO วิน เมธวิน จะมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ ULTIMUNE เซรั่มไอคอนิกของแบรนด์ตลอดปี 2025 โดยครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเตรียมร่วมงานเปิดตัวสูตรใหม่ล่าสุดของ ULTIMUNE ในงาน NEW ULTIMUNE Power Infusing Serum Global Launch Event ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์นี้ ร่วมกับ วี-วิโอเลต วอเทียร์ Friend of SHISEIDO ประเทศไทย แฟนๆ สามารถติดตามแคมเปญพิเศษและกิจกรรมต่างๆ ของ วิน เมธวิน กับ SHISEIDO ได้ตลอดปี 2025 ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของแบรนด์

 

 

The post วิน เมธวิน ถูกแต่งตั้งเป็น Friend of SHISEIDO คนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
CHANEL ปล่อยเมกอัพคอลเล็กชันใหม่ Spring/Summer 2025 ปลดล็อกโค้ดสีที่แต่งหน้าสนุกกว่าเดิม https://thestandard.co/chanel-spring-summer-2025-makeup-collection/ Fri, 03 Jan 2025 04:09:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1026693 chanel-spring-summer-2025-makeup-collection

CHANEL เปิดตัวคอลเล็กชันเมกอัพ Spring/Summer 2025 ที่ท้ […]

The post CHANEL ปล่อยเมกอัพคอลเล็กชันใหม่ Spring/Summer 2025 ปลดล็อกโค้ดสีที่แต่งหน้าสนุกกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
chanel-spring-summer-2025-makeup-collection

CHANEL เปิดตัวคอลเล็กชันเมกอัพ Spring/Summer 2025 ที่ท้าทายทุกกฎของการแต่งหน้าด้วยแนวคิด ‘ไม่มีการผสมสีใดที่เป็นสิ่งต้องห้าม’ โดยได้ Ammy Drammeh หนึ่งในสมาชิก Comètes Collective ร่วมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เปิดรับมุมมองใหม่จากศิลปินร่วมสมัย

 

คอลเล็กชันใหม่นี้โดดเด่นด้วย 4 เฉดสีหลัก ตั้งแต่ม่วงเข้ม เขียวมินต์ชิมเมอร์ วอร์มเบจแมตต์ และชมพูคอปเปอร์ซาติน ที่ครอบคลุมทั้งโทนอ่อนหวานและโทนเข้ม เข้ากับทุกสไตล์การแต่งหน้า สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีเดียวทั้งลุคหรือจะเล่นกับการไล่เฉดสีที่ต่างกัน

 

ไฮไลต์ของคอลเล็กชันนี้คือ Ombre Essentielle อายแชโดว์คู่กับ Stylo Yeux Waterproof ดินสอเขียนขอบตากันน้ำ และที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ Rouge Coco Baume ลิปสติกในตำนานที่กลับมาพร้อม 6 เฉดสีใหม่และฟินิชที่เงางามกว่าเดิม ด้วยนวัตกรรมที่สามารถปรับความเข้มของสีได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทั้งลุคธรรมชาติและลุคจัดเต็ม และยังมี Jeux de Lumières พาเลตต์มัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ที่รวม 4 เฉดสีไว้ในที่เดียว ใช้ได้ทั้งแต่งตา ปัดแก้ม และไฮไลต์ รวมถึง Le Vernis สีทาเล็บโทนละมุน 2 เฉดใหม่ที่ช่วยเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบ

 

คอลเล็กชันนี้แสดงให้เห็นว่า CHANEL เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดความงาม ที่ผู้บริโภคต้องการทั้งคุณภาพ ความหลากหลาย และอิสระในการแสดงออก พร้อมรักษาความหรูหราและคลาสสิกที่เป็น DNA ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์เทรนด์ความงามในปัจจุบันที่ผู้คนต้องการค้นพบและแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

chanel

 

ภาพ: Courtesy of Chanel Beauty

The post CHANEL ปล่อยเมกอัพคอลเล็กชันใหม่ Spring/Summer 2025 ปลดล็อกโค้ดสีที่แต่งหน้าสนุกกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
2025 ปีแห่งโอกาสของอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ความงามของตัวเอง https://thestandard.co/2025-influencers-beauty-brands/ Wed, 01 Jan 2025 03:40:32 +0000 https://thestandard.co/?p=1026295 2025-Influencers-Beauty-Brands

หลังจากปี 2024 ที่วงการบิวตี้เห็นปรากฏการณ์ความสำเร็จขอ […]

The post 2025 ปีแห่งโอกาสของอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ความงามของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
2025-Influencers-Beauty-Brands

หลังจากปี 2024 ที่วงการบิวตี้เห็นปรากฏการณ์ความสำเร็จของแบรนด์ความงามของเหล่าเซเลบริตี้ที่สร้างมูลค่าทางการตลาดอย่างถล่มทลาย ทว่าปี 2025 จะกลายเป็นปีที่น่าจับตามองสำหรับการก้าวเข้ามาลุยธุรกิจความงามของกลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ที่พร้อมจะเขย่าวงการด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง

 

ยกตัวอย่างความสำเร็จของ Mr. Moudz หรือ Mahmoud Sidani อินฟลูเอ็นเซอร์จากดูไบ ผู้พลิกโฉมตลาดน้ำหอมด้วยแบรนด์ BY MOUDZ สะท้อนให้เห็นพลังของคอมมูนิตี้และการตลาดแนวใหม่ที่น่าจับตา เมื่อแบรนด์สามารถสร้างยอดขายจนสต็อกหมดถึง 4 ครั้งในช่วงเปิดตัว แม้จะเป็นการขายแบบ Blind Buying ที่ลูกค้าไม่ได้ทดลองกลิ่นก่อนซื้อ

 

ความน่าสนใจของปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขยอดขาย แต่เป็นการพลิกโฉมรูปแบบการทำธุรกิจความงามแบบดั้งเดิม เมื่ออินฟลูเอ็นเซอร์สามารถใช้จุดแข็งในการเข้าถึงและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างถึงแก่น ผสานกับการสร้างแบรนด์ที่มีเรื่องราวและคุณภาพ อย่างกรณีของ BY MOUDZ ที่เขาสร้างความผูกพันผ่านแพลตฟอร์ม Snapchat จนสร้างยอดขายได้มากกว่า Instagram ถึง 20 เท่า

 

เราจึงมองว่าในปี 2025 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการความงาม เมื่อเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นพร้อมก้าวเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด ด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล ผนวกกับความสามารถในการสร้างกระแสและการตลาดแบบ Organic Marketing ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด อาจสร้างปรากฏการณ์พลิกตลาดจนแซงหน้าทั้งแบรนด์ศิลปินดาราและเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำได้ในอนาคต

 

ภาพ: Courtesy of Brand

The post 2025 ปีแห่งโอกาสของอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ความงามของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
KOSÉ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นคว้าแบรนด์ความงามไทย PAÑPURI เสริมพอร์ต ‘หรู’ https://thestandard.co/kose-acquires-panpuri-thailand/ Tue, 10 Dec 2024 13:09:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1018109 KOSÉ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นคว้าแบรนด์ความงามไทย PAÑPURI เสริมพอร์ต ‘หรู’

KOSÉ บริษัทความงามยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศเข้าซื้อกิจ […]

The post KOSÉ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นคว้าแบรนด์ความงามไทย PAÑPURI เสริมพอร์ต ‘หรู’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
KOSÉ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นคว้าแบรนด์ความงามไทย PAÑPURI เสริมพอร์ต ‘หรู’

KOSÉ บริษัทความงามยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศเข้าซื้อกิจการ PAÑPURI แบรนด์ความงามของไทย โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน แม้ว่า PAÑPURI จะระบุว่ามีรายได้ 32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.08 พันล้านบาท) ในปี 2024

 

รายงานของ The Business of Fashion ระบุว่า PAÑPURI ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2003 โดย วรวิทย์ ศิริพากย์ เป็นที่รู้จักในด้านผลิตภัณฑ์อาบน้ำ บำรุงผิว ดูแลเส้นผม และน้ำหอมระดับพรีเมียม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการดูแลสุขภาพแบบไทย

 

ปัจจุบัน PAÑPURI มีร้านค้า 26 แห่งในประเทศไทย และวางจำหน่ายในสปาระดับ ‘หรู’ และห้างสรรพสินค้า เช่น centralwOrld และ EmQuartier นอกจากนี้ PAÑPURI ยังมีวางจำหน่ายใน 15 ประเทศทั่วโลก

 

KOSÉ กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้ PAÑPURI เร่งการขยายตัวในตลาดต่างประเทศในฐานะแบรนด์สุขภาพหรูหราจากเอเชีย

 

พอร์ตโฟลิโอของ KOSÉ รวมถึงแบรนด์ต่างๆ เช่น DECORTÉ แบรนด์สกินแคร์หรูหราที่ก่อตั้งโดย KOSÉ ในปี 1970 และ TARTE แบรนด์เครื่องสำอางที่ก่อตั้งในสหรัฐฯ เมื่อปี 1999 และ KOSÉ เข้าซื้อกิจการในปี 2014

 

ก่อนหน้านี้ PAÑPURI เป็นของวรวิทย์และครอบครัว รวมถึง Lakeshore Capital บริษัท Private Equity

 

อ้างอิง:

The post KOSÉ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นคว้าแบรนด์ความงามไทย PAÑPURI เสริมพอร์ต ‘หรู’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะลึกและเปิดประสบการณ์ความงามสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Prada Beauty https://thestandard.co/exclusive-beauty-experiences-with-prada-beauty/ Fri, 22 Nov 2024 04:57:37 +0000 https://thestandard.co/?p=1011490 Prada Beauty

นับจากปี 1913 ที่ Prada สร้างตำนานในฐานะแบรนด์แฟชั่นระด […]

The post เจาะลึกและเปิดประสบการณ์ความงามสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Prada Beauty appeared first on THE STANDARD.

]]>
Prada Beauty

นับจากปี 1913 ที่ Prada สร้างตำนานในฐานะแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ล่าสุดแบรนด์ก็เปิดตัวในตลาดความงามเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการผสานความหรูหราเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมกับตีความนิยามใหม่ของความงามที่จะมาเปลี่ยนโฉมหน้าวงการบิวตี้เมืองไทย

 

ไฮไลต์สำคัญของ Prada Beauty อยู่ที่ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Prada Skin ที่ปฏิวัติวงการสกินแคร์ด้วยเทคโนโลยี Adapto.gn Smart™ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศเมืองไทยได้แบบเรียลไทม์ (เริ่มว้าวแล้วใช่ไหม?) โดยใช้สารสกัดจากพืชหายากอายุกว่า 400 ล้านปี ผสานกับส่วนผสมทรงประสิทธิภาพอย่างโพรซิเลน ไฮยาลูรอนิกแอซิด และวิตามิน CG ที่น่าตื่นเต้นคือรองพื้น Prada Reveal ที่มาพร้อม 33 เฉดสี ซึ่งพัฒนาด้วย AI เพื่อให้เข้ากับทุกสีผิวของคนเอเชียอย่างแม่นยำ

 

 

Prada Beauty

 

 

ในส่วนของเมกอัพ Prada Color นำเสนอลิปสติกเนื้อแมตต์ 2 รูปแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากวัสดุไอคอนิกของแบรนด์อย่างหนัง Saffiano และ Re-Nylon พร้อมอายแชโดว์ 6 พาเลตต์ที่ถอดแบบมาจากลวดลายผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Prada โดยโทนสีถูกคัดสรรมาให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าของสาวเอเชีย สะท้อนการผสานศิลปะแฟชั่นเข้ากับความงามได้อย่างลงตัว

 

 

 

ความโดดเด่นที่ทำให้ Prada Beauty ก้าวไปอีกขั้น คือการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบรีฟิลที่ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์ได้ถึง 60-80% นอกจากนี้ยังมีบริการ Skin Decoder™ ที่ใช้ AI วิเคราะห์ผิวเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และ Color Explorer™ เทคโนโลยี AR ที่ให้ลองแต่งหน้าเสมือนจริง ซึ่งจะติดตั้งที่เคาน์เตอร์ Prada Beauty ทุกสาขาในประเทศไทย

 

 

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การผสานความร่วมมือระหว่างช่างแต่งหน้าในโลกจริงอย่าง Lynsey Alexander และศิลปินดิจิทัลอย่าง Ines Alpha สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Prada ที่ต้องการสร้างสรรค์ความงามที่ไร้ขีดจำกัด ข้ามผ่านพรมแดนระหว่างโลกจริงและโลกดิจิทัล

 

 

 

การเปิดตัว Prada Beauty ในไทยครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ในตลาด แต่เป็นการปฏิวัติวงการความงามด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหรา นวัตกรรมล้ำสมัย และความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความงามและความรับผิดชอบต่อโลก นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่น่าจับตามองในวงการความงามปี 2024 เลยทีเดียว

 

The post เจาะลึกและเปิดประสบการณ์ความงามสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Prada Beauty appeared first on THE STANDARD.

]]>
อัปเดตนวัตกรรมความงามจาก ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ งานประชุมวิชาการในหัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/medyceles-360-volume-2/ Fri, 06 Sep 2024 03:18:40 +0000 https://thestandard.co/?p=978757

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดความงามในไทย โดยเฉพาะ ‘กลุ่มคลินิ […]

The post อัปเดตนวัตกรรมความงามจาก ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ งานประชุมวิชาการในหัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดความงามในไทย โดยเฉพาะ ‘กลุ่มคลินิกความงามและศัลยกรรม’ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจและกำลังซื้อในครัวเรือนที่ลดลง

 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 4 ฮับเวชศาสตร์ความงามที่สำคัญของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน

 

 

ปัจจัยขับเคลื่อนให้การใช้บริการเวชศาสตร์ความงามในไทยเติบโต นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์บนโซเชียลมีเดีย การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็ส่งผลให้เกิดเทรนด์ดูแลความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย ขณะเดียวกันค่าบริการในไทยที่เข้าถึงง่าย และการส่งเสริมจากภาครัฐสู่การเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ผู้เล่นใหม่อยากเข้า ผู้เล่นเก่าก็ไม่หยุดพัฒนา ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมความงาม ผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่ผู้บริโภคได้ใช้ของดีในราคาที่ย่อมเยาและจับต้องได้

 

นอกจากสงครามราคาและการแข่งขันด้านนวัตกรรม ความปลอดภัยและเทคนิคความรู้ของแพทย์ผู้ให้บริการก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจความงามและแพทย์ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

 

 

บริษัท Medyceles (เมดิเซเลส) และ Celeste (เซเลส) ในฐานะบริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมือแพทย์ และเวชสำอาง ครบวงจรสำหรับธุรกิจคลินิกความงามมากว่า 10 ปี เพื่อสานต่อความตั้งใจในการอัปเดตข้อมูลความรู้และนวัตกรรมความงาม จึงจัดงาน ‘MEDYCELES 360’ เป็นปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จจากการจัดงานเมื่อปีที่ผ่าน ภายใต้หัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม อัดแน่นด้วยกิจกรรมหลากหลาย ทั้งงานประชุมวิชาการทางการแพทย์ Hands-On Training และ Cadaveric Training บรรยายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ระดับโลก ตลอด 3 วันเต็ม เมื่อวันที่ 22-24 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมและทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี ได้รับความสนใจจากแพทย์เฉพาะทางด้านความงามและเจ้าของธุรกิจลงทะเบียนมาร่วมงานมากกว่า 1,000 คน

 

วิภารัตน์ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของ Medyceles

 

วิภารัตน์ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของ Medyceles เผยว่า “เมดิเซเลสมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้เพื่ออัปเดตความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ประจำปี พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ให้กับลูกค้าบริษัทเมดิเซเลสและเซเลส เพื่อต่อยอดให้แพทย์และคนไข้ได้ใช้สินค้าและบริการความงามที่ปลอดภัยและดีที่สุด”

 

เมดิเซเลสยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำเข้ายาและผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับคลินิกเสริมความงามอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้า ได้แก่ Botulinum Toxin (Neuronox), Hyaluronic Acid Dermal Filler (Neuramis) และ Non-Cross Link Hyaluronic Acid : Skin Booster (Neuraderm)

 

“เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีงานวิจัยรองรับ เพื่อให้ทุกผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคใช้มีประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ขาดไม่ได้เลยคือการซัพพอร์ตลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่บริการหลังการขาย การอัปเดตความรู้อย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งปี” วิภารัตน์กล่าว พร้อมเผยกลยุทธ์ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำศาสตร์แห่งความงาม

 

“นโยบายของเราคือลูกค้าทุกกลุ่มต้องสวยอย่างมีคุณภาพด้วยราคาที่จับต้องได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลตัวเองและศึกษาหาข้อมูลสินค้าก่อนเลือกใช้ เครื่องมือการตลาดจึงต้องครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์”

 

วิภารัตน์อธิบายเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์การตลาดจะแบ่งออกเป็น 3 แกน ได้แก่ การตลาดที่เน้นผู้บริโภคหรือคนไข้ ทำการตลาดเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการดึง ซนเยจิน นักแสดงเกาหลีชื่อดังมาเป็น Global Brand Ambassador ตั้งแต่ปี 2021-2023 ให้กับ Neuramis

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล

 

สำหรับประเทศไทย แบรนด์เลือกใช้ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล สำหรับแคมเปญ ‘เปิดบริสุทธิ์หน้า’ ตอบโจทย์การดูแลตัวเองของคนรุ่นใหม่ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ 

วิภารัตน์เผยว่า “ที่เลือก แต้ว ณฐพร เพราะสะท้อนความเป็นผู้หญิงเก่งวัยทำงานที่ดูแลตัวเองอย่างดี ในขณะที่ นนกุล ชานน ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เก่งรอบด้าน ไม่ว่าจะความสามารถหรือทัศนคติที่ดีในการดูแลตัวเอง ส่งผลให้แคมเปญได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างมาก เชื่อว่าจะดันยอดขายแตะ 1 พันล้านบาทภายในปี 2024”

 

กลยุทธ์การตลาดอีก 2 แกน คือการตลาดเจาะกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยการอัปเดตความรู้ด้านวิชาการและการแพทย์ เช่น การเชิญวิทยากรจากเกาหลีใต้มาอบรมเทคนิคทางการแพทย์หรือการอบรมวิชาการผ่านออนไลน์ ไปจนถึงการจัดงานวิชาการ ‘MEDYCELES 360’ เพื่อเสริมความรู้เชิงทฤษฎีและปฏิบัติ และการตลาดที่เน้นผู้ประกอบการในธุรกิจความงาม โดยให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย การส่งเสริมเครื่องมือทางการตลาดเพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาอบรมให้ความรู้ทางการตลาด การจัดทริปต่างประเทศเพื่ออัปเดตความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ

 

อัปเดตนวัตกรรมความงามแบบครบวงจร

 

ไฮไลต์สำคัญของงานครั้งนี้คือการอัปเดตองค์ความรู้ เทคนิค และเทรนด์ความงาม จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากถึง 18 คน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์จากเกาหลีใต้

 

 

  • Prof. Hee Jin Kim, D.D.S., Ph.D. College of Dentistry, Yonsei University, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘ULTRASOUND IMAGING OF THE FACIAL MUSCLE AND VASCULAR STRUCTURE RELEVANT TO BOTULINUM TOXIN AND HA DERMAL FILLER INJECTIONS’
  • Prof. Yang Won Lee, Konkuk University, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘INTRODUCTION TO NEXT-GENERATION OF NEUROTOXIN TYPE A : WHAT’S THE DIFFERENCE’
  • Hong Ki Lee, M.D., Ph.D. Image Plastic Surgery, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘PRECISION IN AESTHETIC AND THERAPEUTIC EXCELLENCE OF NEURONOX (BOTULINUM TOXIN TYPE A)’ และ ‘SYNERGISTIC 3D HA DERMAL FILLER STRATEGIES AND TECHNIQUES FOR NATURAL FACIAL CONTOURS’

 

ด้านแพทย์ความงามของไทยที่มาร่วมแบ่งปันความรู้ดีๆ ภายในงาน อาทิ

  • ศ. นพ.วาสนภ วชิรมน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง และอาจารย์ประจำหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายในหัวข้อ ‘THE EFFECT OF THREAD AND SKIN REJUVENATION WITH N-SCAFFOLD’
  • ผศ. พญ.มาริษา พงศ์พฤฒิพันธ์ หัวหน้าหน่วยผิวหนัง (สาขาตจวิทยา) ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย บรรยายในหัวข้อ ‘CLINICAL INSIGHTS AND OUTCOMES IN NASOLABIAL FOLD AND TEAR TROUGH AUGMENTATION USING HA DERMAL FILLERS’
  • ผศ. นพ.ศุภะรุจ เลื่องอรุณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ บรรยายในหัวข้อ ‘THE USE OF BOTULINUM TOXIN IN SCAR MANAGEMENT : EFFICACY AND TREATMENT GUIDELINE’

 

และหัวข้อไฮไลต์ที่มีผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก ได้แก่ หัวข้อ ‘BOTULINUM TOXIN IN NON-SURGICAL BODY CONTOURING : TECHNIQUES, APPLICATIONS, AND CLINICAL OUTCOMES’ โดย อ.ไพศาล รัมณีย์ธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ

 

อ.ไพศาล รัมณีย์ธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ

 

อ.ไพศาล เผยว่า ปัจจุบันการฉีด Botulinum Toxin ไม่เพียงแค่ฉีดบริเวณหน้า แต่ยังสามารถฉีดได้ทั่วร่างกาย พร้อมกันนี้ท่านยังนำประสบการณ์จากเคสมากมายมาแชร์เทคนิคการฉีดที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีกับคนไข้เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของร่างกาย

 

ด้าน นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและผิวพรรณ โรงพยาบาล MedPark ก็มาเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของ Botulinum Toxin ภายในหัวข้อ ‘DEFINING SKIN QUALITY BY MULTIPLE TOXIN INTRADERMAL INJECTION : SKIN LAXITY, SEBUM CONTROL, AND SWEAT CONTROL’

 

นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและผิวพรรณ โรงพยาบาล MedPark

 

นพ.ชลธวัช เน้นย้ำว่าการฉีด Botulinum Toxin ไม่เพียงแต่ช่วยลดริ้วรอยอย่างที่เราคุ้นเคย นอกจากเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทยอย่างการแก้ปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นลดขนาดรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ยังช่วยลดการเกิดเหงื่อและกลิ่นตัวบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

 

นอกจากความรู้ด้านการแพทย์ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจคือมุมมองด้านเวชศาสตร์ความงามในอนาคตของประเทศไทย จากแพทย์ที่เข้าร่วมงานที่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า แพทย์ต้องอัปเดตความรู้ด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะความงามจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล หากแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษา ชูจุดเด่นและกลบจุดด้อยของคนไข้ได้ จะทำให้คนไข้ยิ่งสวยและมั่นใจในแบบของตนเอง ที่สำคัญการเลือกใช้นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีงานวิจัยรองรับจะเพิ่มความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในระยะยาว

 

 

ในส่วนของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก บางนวัตกรรมคาดการณ์ว่าจะมาพลิกโฉมตลาดความงาม อาทิ ‘Non-Animal Based Botulinum Toxin’ ยากลุ่ม Botulinum Toxin แบรนด์แรกของโลกที่ปราศจากโปรตีนจากสัตว์และมีความบริสุทธิ์สูงที่สุด ซึ่งทางแบรนด์เองก็มีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สู่ตลาดในปี 2026

 

หรือนวัตกรรมสุดล้ำของ ‘Exosome’ ที่ผสานนวัตกรรมของ Human และ Plant Exosome ไว้ด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ ‘Exotraction’ มาช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวได้อย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์

 

และ ‘Master Orga Sunblock’ ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมของ Exosome และ Postbiotics นวัตกรรมใหม่ที่เป็นทั้งกันแดดและบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ผิว ถือว่าล้ำสุดๆ ในวงการกันแดด

 

นอกจากนี้เทรนด์ด้านการฟื้นฟู (Skin Rejuvenation) อย่างการร้อยไหมบริเวณใต้ตาหรือร่องคอ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการใช้สารเติมเต็ม ‘HA Dermal Filler’ มาช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัย ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในตลาดความงามเมืองไทย

 

 

ภายในงานมีการจัดบูธแสดงสินค้าของเมดิเซเลสและเซเลส เปิดโอกาสผู้เข้าร่วมงานได้เข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ

 

 

นอกจากนี้ความรู้ด้านนวัตกรรมความงามและผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่น กิจกรรมความสนุกจากเกมต่างๆ ปีนี้ยังเปิดเวทีบรรยายสุดพิเศษจาก เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ และบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD รวมเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคโลกาภิวัตน์

 

อ้างอิง:

The post อัปเดตนวัตกรรมความงามจาก ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ งานประชุมวิชาการในหัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เศรษฐกิจซบเซา ไม่ได้ทำให้คนไทยทำ ‘ศัลยกรรม’ น้อยลง | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-25082024/ Sun, 25 Aug 2024 00:00:10 +0000 https://thestandard.co/?p=975041

เจาะตลาดศัลยกรรมและความงามหลังโควิดคลี่คลาย ตลาดกำลังเต […]

The post ชมคลิป: เศรษฐกิจซบเซา ไม่ได้ทำให้คนไทยทำ ‘ศัลยกรรม’ น้อยลง | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

เจาะตลาดศัลยกรรมและความงามหลังโควิดคลี่คลาย ตลาดกำลังเติบโตขึ้น 10-15% ต่อปี แม้สวนทางกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น้อยลง

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

 

The post ชมคลิป: เศรษฐกิจซบเซา ไม่ได้ทำให้คนไทยทำ ‘ศัลยกรรม’ น้อยลง | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>