ทิม คุก – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 08 May 2023 00:26:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ยอมรับถึงศักยภาพของ AI ว่า ‘ยิ่งใหญ่’ แต่ชี้มีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข ท่ามกลางเสียงบ่นของลูกค้าและพนักงานว่า Siri นั้นล้าสมัย https://thestandard.co/tim-cook-still-concerns-about-ai/ Fri, 05 May 2023 08:20:08 +0000 https://thestandard.co/?p=785474

Apple ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้รับการวิจารณ์จากผู้ใช้แล […]

The post ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ยอมรับถึงศักยภาพของ AI ว่า ‘ยิ่งใหญ่’ แต่ชี้มีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข ท่ามกลางเสียงบ่นของลูกค้าและพนักงานว่า Siri นั้นล้าสมัย appeared first on THE STANDARD.

]]>

Apple ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้รับการวิจารณ์จากผู้ใช้และแม้แต่พนักงานของบริษัทเองเกี่ยวกับ Siri ซึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนว่าไม่ล้ำหน้าเท่าคู่แข่ง ล่าสุดระหว่างเผยถึงในไตรมาส 2 ปี 2023 ‘ทิม คุก’ ซีอีโอกล่าวว่า แม้เขาจะรับทราบถึงศักยภาพอันมหาศาลของ AI แต่ยังเน้นย้ำว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไข

 

ในระหว่างการพูดคุยกับนักลงทุน คุกถูกนักวิเคราะห์ถามเกี่ยวกับ Generative AI ซึ่งเป็นหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในโลกเทคโนโลยี เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับแผนผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ยอมรับว่าศักยภาพของ Generative AI นั้น ‘น่าสนใจมาก’

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

คุกเน้นย้ำถึงความสำเร็จของ Apple ในด้าน AI เช่น การตรวจจับการล้ม การตรวจจับการชน และคุณสมบัติ ECG ของ Apple Watch เขากล่าวว่าคุณลักษณะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตผู้คนอีกด้วย

 

“เห็นได้ชัดว่าเรามีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยผสานรวม AI และการเรียนรู้ในทั้งระบบนิเวศของเรา” เขากล่าว “และเราได้ถักทอมันเป็นผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ต่างๆ มาเป็นเวลาหลายปี”

 

เมื่อเทียบกับคู่แข่งด้านเทคโนโลยีอันได้แก่ Meta, Alphabet, Microsoft และ Amazon กล่าวถึง AI ทั้งหมด 168 ครั้งในระหว่างการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ขณะที่คุกแทบจะไม่พูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไรนัก

 

อย่างไรก็ตาม คุกยังชี้ให้เห็นว่าเมื่อพูดถึงแพลตฟอร์ม AI เช่น ChatGPT ซึ่งสามารถสร้างข้อความ รูปภาพ และเสียงได้ มีหลายประเด็นที่ต้องแก้ไข แม้ว่าเขาจะมองในเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพของ AI แต่ยืนยันว่า Apple จะยังคงลงทุนในเทคโนโลยี AI สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่อไปในลักษณะที่ระมัดระวังและรอบคอบ

 

ภายใน Apple สถานการณ์ของทีม Siri และ AI ไม่เป็นไปในเชิงบวกมากนัก รายงานล่าสุดเปิดเผยว่าแม้แต่พนักงานของ Apple ก็ยังไม่พอใจกับ Siri โดยยอมรับว่าด้อยกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี GPT ของ OpenAI

 

รายงานอื่นๆ ระบุว่าวิศวกรของ Apple เชื่อว่าฐานข้อมูลของ Siri นั้นล้าสมัยและอัปเดตคุณสมบัติใหม่ช้า นอกจากนี้ Apple ยังสูญเสีย AI และวิศวกรแมชชีนเลิร์นนิงที่สำคัญให้กับบริษัทอื่นๆ เช่น Google

 

หนึ่งในเหตุผลของความท้าทายเหล่านี้คือ Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว แม้ว่า OpenAI จะรวบรวมข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ Siri และฟีเจอร์ที่ใช้ AI อื่นๆ จาก Apple จะประมวลผลข้อมูลภายในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ถึงวิธีการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่อาจทำให้การพัฒนาความสามารถด้าน AI ของ Siri ช้าลง

 

นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องว่าแพลตฟอร์ม Generative AI เช่น ChatGPT กำลังลอกเลียนแบบเนื้อหาจากเว็บต่างๆ หรือไม่ สิ่งนี้ทำให้กระบวนการตัดสินใจของ Apple ซับซ้อนขึ้นไปอีก เนื่องจาก Apple กำลังพิจารณาว่าจะพัฒนาเทคโนโลยี Generative AI ของตนเองหรือไม่

 

แม้จะไม่แน่นอนว่า Apple จะเปิดตัว Generative AI ของตัวเองในงาน WWDC 2023 ที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ แต่คำพูดของคุกชี้ให้เห็นว่า Apple กำลังใช้แนวทางที่ระมัดระวังในภูมิทัศน์ AI ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว 

 

พวกเขามีแนวโน้มที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ AI ต่อไป แต่จะทำเช่นนั้นได้ต้องคำนึงถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและความท้าทายที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าเหล่านี้

 

อ้างอิง:

The post ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ยอมรับถึงศักยภาพของ AI ว่า ‘ยิ่งใหญ่’ แต่ชี้มีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข ท่ามกลางเสียงบ่นของลูกค้าและพนักงานว่า Siri นั้นล้าสมัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทิม คุก กับสุดยอด ‘ทักษะผู้นำ’ ทำความเข้าใจแนวทางของ ‘แม่ทัพ Apple’ ผ่านสายตานักวิชาการ https://thestandard.co/tim-cook-leadership-skill/ Sat, 18 Mar 2023 07:33:38 +0000 https://thestandard.co/?p=764962

การทำความเข้าใจแนวทางสไตล์การบริหารงานของซีอีโอ Apple ใ […]

The post ทิม คุก กับสุดยอด ‘ทักษะผู้นำ’ ทำความเข้าใจแนวทางของ ‘แม่ทัพ Apple’ ผ่านสายตานักวิชาการ appeared first on THE STANDARD.

]]>

การทำความเข้าใจแนวทางสไตล์การบริหารงานของซีอีโอ Apple ในรายงานเรื่อง A Theoretical Approach to Tim Cook’s Leadership Style เริ่มต้นด้วยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ Apple และ Tim Cook จากนั้นจึงข้ามไปดูเป้าหมายและความท้าทายของ Apple ก่อนจะขยายความทฤษฎีเชิงวิชาการเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ เพื่อตรวจดูว่าทฤษฎีเหล่านี้นำไปใช้กับสไตล์ความเป็นผู้นำของ Tim Cook ได้อย่างไร และสุดท้ายจึงสรุปออกมาเป็นคำแนะนำตามการวิเคราะห์ที่พบ

 

อย่างที่โลกรู้ Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติสุดไฮเทคที่มีชื่อเสียง ก่อตั้งในปี 1976 โดย Steve Jobs, Ronald Wayne และ Steve Wozniak สำหรับ Tim Cook ที่เป็นซีอีโอคนปัจจุบันของ Apple นั้นเคยทำงานให้กับ IBM, Intelligent Electronics และ Compaq Computer Corporation มาก่อนจะร่วมงานกับ Apple ในปี 1998 แน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้คือเวทีเพาะบ่มประสบการณ์อันมีค่าในฐานะผู้อำนวยการ ซีโอโอ และรองประธานบริษัทของ Tim Cook

 

หากมองที่ Apple พันธกิจหลักที่บริษัทวางไว้คือการนำ ‘ผลิตภัณฑ์ไอทีส่วนบุคคล’ ที่ดีที่สุดมาสู่ผู้คนทั่วโลก โดยจะรวมการสนับสนุนในภาพใหญ่ และการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ การศึกษาที่ผ่านมายังพบว่า Apple มีค่านิยมหลัก 6 ประการที่เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ได้แก่ การช่วยเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้คน การโฟกัสที่การศึกษา การใส่ใจสิ่งแวดล้อม การไม่แบ่งแยกและความหลากหลาย ความเป็นส่วนตัว ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและความยุติธรรม และความรับผิดชอบต่อห่วงโซ่การผลิต 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

รายงานนี้มองว่า หนึ่งในความท้าทายที่ Apple เผชิญภายใต้การนำของ Tim Cook คือปัญหาด้านจริยธรรมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว โดยในปี 2559 รัฐบาลสหรัฐฯ และ FBI เรียกร้องให้ Apple ช่วยปลดล็อก iPhone ของผู้ก่อการร้าย ซึ่งขัดต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple ในฐานะซีอีโอ Tim Cook ต้องแก้ไขภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้อย่างชาญฉลาด

 

ผลงานของ Tim Cook ไม่เพียงสะท้อนสไตล์ความเป็นผู้นำที่มีลักษณะเด่นที่ความโปร่งใส การทำงานเป็นทีม ความคาดหวังสูง และท่าทางสงบเท่านั้น แต่ยังถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่นำเสนอวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจแก่พนักงานที่ดูแลอยู่ ในฐานะซีอีโอและผู้นำ บทบาทของ Tim Cook คือการจัดการและกระตุ้นทีมงานที่มี พร้อมกับลงมือตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญ ร่วมกับการจัดการทรัพยากรและการดำเนินงาน ตลอดจนมีส่วนร่วมกับผู้คนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ Apple

สไตล์ vs. ทฤษฎี

วงการวิชาการยกให้ ‘ความเป็นผู้นำ’ เป็นกระบวนการสำคัญที่มีบทบาทมากต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ในขณะเดียวกัน ทักษะความเป็นผู้นำยังสามารถรับประกันความพึงพอใจและแรงจูงใจของผู้ตามด้วย ความสำคัญนี้ทำให้การศึกษาด้านทฤษฎีและรูปแบบความเป็นผู้นำได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเป็นกรอบสำหรับการประเมินพฤติกรรมความเป็นผู้นำในสถานการณ์ต่างๆ

 

หนึ่งในแนวทางการเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ ‘ทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์’ (Situational Leadership Theory) แนวคิดพื้นฐานสำคัญของทฤษฎีนี้คือ สถานการณ์ที่แตกต่างย่อมต้องการลักษณะพฤติกรรมของผู้นำที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจึงควรปรับวิธีการจัดการให้เข้ากับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ในขณะที่ทฤษฎีแรกมุ่งเน้นไปที่การปรับรูปแบบการเป็นผู้นำให้เข้ากับความต้องการของสถานการณ์ แต่ยังมีอีกทฤษฎีที่เน้นความสำคัญในทางกลับกัน นั่นคือทฤษฎีผู้นำเชิงพฤติกรรม (Behavioral Theories of Leadership) แนวคิดนี้เชื่อว่าการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผลนั้น จำเป็นต้องมีพฤติกรรม ทักษะ และเจตคติที่เหมาะสม โดยจำแนก พฤติกรรมที่ผู้นำใช้ในการบริหารงานออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ พฤติกรรมที่มุ่งงานกับพฤติกรรมที่มุ่งคน ซึ่งพฤติกรรมทั้งสองด้านจะมีความสัมพันธ์ในการบรรลุเป้าหมายขององค์กร

 

 

เพื่อให้เข้าใจง่าย เราขอสรุปที่ทฤษฎีที่สองก่อน นั่นคือทฤษฎีผู้นำเชิงพฤติกรรม โดยในรายงานมีการอธิบายด้วยตาราง Leadership Grid ซึ่งได้มาจากการสรุปแนวทางการจำลองพฤติกรรมที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมและพัฒนาผู้นำในองค์กร บนการเน้นปัจจัย 2 ประการ ทั้งความห่วงใยต่องาน และความห่วงใยต่อบุคลากร แน่นอนว่าปัจจัยที่ต่างกัน ทำให้ได้รูปแบบความเป็นผู้นำต่างกัน นำไปสู่การสรุปรูปแบบผู้นำ 5 สไตล์ ได้แก่ 

  • การบริหารสไตล์ 1, 1 (Impoverished Management) คือการบริหารแบบปล่อยตามสบาย มุ่งงานต่ำและมุ่งคนต่ำ
  • การบริหารสไตล์ 1, 9 คือการบริหารแบบสโมสร (Country-Club Management) มุ่งคนสูงแต่มุ่งงานต่ำ
  • การบริหารสไตล์ 9, 1 คือการบริหารแบบเผด็จการหรือมุ่งงาน (Task or Authoritarian Management) มุ่งงานสูงแต่มุ่งคนต่ำ
  • การบริหารสไตล์ 5, 5 คือการบริหารแบบเดินสายกลาง (Middle of the Road Management) มุ่งทั้งงานและคนปานกลาง 
  • การบริหารสไตล์ 9, 9 คือการบริหารแบบประชาธิปไตยหรือทีมงาน (Team or Democratic Management) มุ่งทั้งงานสูงและคนสูง

 

จากการใช้ Leadership Grid รายงานนี้สรุปว่าสไตล์ความเป็นผู้นำของ Tim Cook สามารถระบุได้ว่าเป็นการบริหารสไตล์ 9, 9 ซึ่งเน้นความคาดหวังสูงและการทำงานเป็นทีม และหากอิงกับข้อมูลของนักวิจัยชื่อ Kahney ปี 2019 จะพบว่า Cook ให้ความสำคัญกับคนในองค์กร และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเพื่อนกันในบริษัท

 

ตอนนี้ได้เวลาย้อนกลับไปสรุปทฤษฎีแรก นั่นคือทฤษฎีสถานการณ์ที่ต้องดูระดับความพร้อมของผู้ตามในการปฏิบัติงาน หน้าที่ หรือวัตถุประสงค์เฉพาะด้วย โดยทฤษฎีสถานการณ์มีการแบ่งรูปแบบความเป็นผู้นำเป็น 4 กลุ่ม คือ ผู้นำที่สั่งให้ทำ ผู้นำที่ฝึกสอน ผู้นำที่สนับสนุน และผู้นำที่มอบหมายงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกกำหนดโดยความพร้อมของผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจึงควรปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับความต้องการของสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

ในอีกด้าน รายงานนี้วิเคราะห์ว่า ‘จริยธรรม’ มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของ Tim Cook ซึ่งทางวิชาการก็มีการสรุปแนวทางการตัดสินใจเชิงจริยธรรมไม่ต่ำกว่า 3 แนวทางที่สามารถช่วยผู้นำตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดในสถานการณ์ต่างกัน ทั้งการเห็นแก่จริยธรรม การเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น และการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน โดยนอกจากการพิจารณาที่หมายถึงการได้รับประโยชน์จากการกระทำที่ต่างกันไป ยังมีการพิจารณาสาย ‘เน้นประโยชน์’ ที่มองว่า การตัดสินใจที่ก่อให้เกิดผลดีสูงสุดสำหรับคนจำนวนมากที่สุดนั้น คือการพิจารณาที่ถูกต้องและมีศีลธรรมที่สุด

 

ถามว่า Tim Cook ใช้แนวคิดอะไรเพื่อแก้ความท้าทายทางสังคมที่ Apple เผชิญเมื่อครั้งถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้สร้างประตูหลังหรือ Backdoor ในระบบปฏิบัติการ iPhone เพื่อให้เจ้าหน้าที่ FBI สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ก่อการร้ายที่ใช้ iPhone สิ่งที่ Tim Cook ทำคือการปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลและ FBI เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เป็นการตัดสินใจที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยไม่สร้าง Backdoor ให้กับระบบ บนเหตุผลว่าอาจเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อความปลอดภัยของข้อมูล

 

อย่างไรก็ตาม Tim Cook ได้ให้ข้อมูลอื่นๆ ที่อยู่ในความครอบครองของ Apple ตลอดจนวิศวกรและแนวคิดเกี่ยวกับตัวเลือกการสืบสวนต่างๆ เพื่อสนับสนุน FBI อีกทาง

 

รายงานวิเคราะห์ว่า รูปแบบความเป็นผู้นำของ Cook ในสถานการณ์นี้เป็นการออกคำสั่ง เนื่องจากผลกระทบของการตัดสินใจมีความสำคัญต่อทั้งสังคมและบริษัท การตัดสินใจจึงไม่ใช่สิ่งที่พนักงานสามารถทำได้ตามความคิดเห็นของใครได้ ดังนั้น Cook จึงใช้รูปแบบคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่ท้าทายต่อสังคม

 

 

ในแง่ของแนวทางการตัดสินใจ รายงานมองว่า Cook ใช้วิธีการ ‘เน้นประโยชน์’ เพราะการตัดสินใจเรื่อง FBI เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมและก่อให้เกิดอันตรายน้อยที่สุด การตัดสินใจครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ Apple ลูกค้า และผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างดีที่สุด บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการใช้เงินและเวลาเพื่อสร้าง Backdoor และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่คิดว่าความเป็นส่วนตัวเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ iPhone ซึ่งการตัดสินใจของ Cook ไม่เพียงสร้างความเสียหายน้อยที่สุด แต่ยังสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้คนจำนวนมากที่สุดในสังคม รวมถึงบริษัทด้วย

 

สั่งเมื่อต้องสั่ง

คำแนะนำที่รายงานนี้สรุปไว้คือ รูปแบบการเป็น ‘ผู้นำแบบออกคำสั่ง’ ที่ Tim Cook ใช้นั้นได้ผลดี เนื่องจากความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัจจัยที่ละเอียดอ่อน ซึ่งไม่ควรปล่อยให้พนักงานตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไรกับประเด็นนี้ สไตล์ความเป็นผู้นำของ Cook จึงช่วยเสริมความพร้อมของพนักงานที่ต่ำกว่า และเป็นผลให้แบรนด์มีคุณค่าเพิ่มขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้ถือหุ้น

 

รายงานตั้งข้อสังเกตอีกว่า หาก Cook ตัดสินใจให้ข้อมูลลับๆ กับ FBI ก็จะเป็นการนำในรูปแบบการออกคำสั่งเช่นกัน โดยการตัดสินใจอีกแบบอาจจะทำให้ FBI พบข้อมูลที่ช่วยในการสอบสวนและปลอบโยนครอบครัวของเหยื่อ นอกจากนี้ ยังอาจช่วยในการสืบสวน และป้องกันการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคตได้

 

ดังนั้น บทสรุป 1 ย่อหน้าของรายงานฉบับนี้คือ ลักษณะความเป็นผู้นำของ Tim Cook สามารถระบุโดยใช้ทฤษฎีเชิงสถานการณ์และทฤษฎีเชิงพฤติกรรม ซึ่งแม้รูปแบบความเป็นผู้นำของ Cook ตามทฤษฎีพฤติกรรมจะเป็นรูปแบบการจัดการ ‘ทีมงาน’ ที่มุ่งทั้งงานและคนสูง 

 

แต่พบว่า Cook เลือกใช้รูปแบบ ‘คำสั่ง’ และแนวทาง ‘เน้นประโยชน์’ เมื่อต้องจัดการกับความท้าทายทางสังคมของ Apple ทั้งหมดนี้ทำให้ Cook สามารถรักษานโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าที่แข็งแกร่งของ Apple ไว้เหนียวแน่น ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และทำให้โอกาสในอนาคตของบริษัทสดใสยิ่งขึ้นแบบที่เราเห็นทุกวันนี้

 

อ้างอิง:

The post ทิม คุก กับสุดยอด ‘ทักษะผู้นำ’ ทำความเข้าใจแนวทางของ ‘แม่ทัพ Apple’ ผ่านสายตานักวิชาการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทิม คุก ยก 3 เหตุผล ดอลลาร์แข็งค่า – ปัญหาการผลิตในจีนที่กระทบ iPhone 14 Pro / Pro Max – เศรษฐกิจไม่ฟื้น ทำ Apple มียอดขายพลาดเป้านักวิเคราะห์ในรอบ 7 ปี https://thestandard.co/tim-cook-3-reasons-low-sales/ Fri, 03 Feb 2023 03:05:30 +0000 https://thestandard.co/?p=745587 Tim Cook

จากที่เคยเติบโตดีมาตลอด แต่ที่สุดแล้วในไตรมาสเดือนตุลาค […]

The post ทิม คุก ยก 3 เหตุผล ดอลลาร์แข็งค่า – ปัญหาการผลิตในจีนที่กระทบ iPhone 14 Pro / Pro Max – เศรษฐกิจไม่ฟื้น ทำ Apple มียอดขายพลาดเป้านักวิเคราะห์ในรอบ 7 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tim Cook

จากที่เคยเติบโตดีมาตลอด แต่ที่สุดแล้วในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2022 เจ้าพ่อ Apple ก็พลาดเป้าจากยอดขายที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้ในรอบ 7 ปี แถมยังมียอดขายต่ำกว่าปีก่อนหน้าถึง 5% ซึ่งเป็นยอดขายที่ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019

 

ทิม คุก ผู้เป็นแม่ทัพของ Apple กล่าวว่า 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ปัญหาการผลิตในจีนที่ส่งผลกระทบต่อ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max และสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคโดยรวม ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกอ่อนแอลง

 

“ในปัจจัยที่สาม ผมจะบอกว่าเป็นเพียงสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย และทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องนี้จากผม” คุกกล่าวกับ CNBC

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

เมื่อมองเข้าไปในผลประกอบการของ Apple สามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้

  • รายได้รวม: 1.17 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 5.49% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • ยอดขาย iPhone: 6.578 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8.17% เมื่อเทียบปีต่อปี
  • ยอดขาย Mac: 7.74 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 28.66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • ยอดขาย iPad: 9.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • รายได้จากผลิตภัณฑ์อื่นๆ: 1.348 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • รายรับจากธุรกิจบริการ: 2.077 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

ผลงานที่พลาดเป้าและเป็นครั้งแรกที่ Apple พลาดการคาดการณ์ยอดขายช่วงปลายปีของนักวิเคราะห์ตั้งแต่ปี 2015 ทำให้รายงานของ Bloomberg ระบุว่า หุ้นร่วงลงกว่า 5.6% หลังเผยแพร่ผลประกอบการ  

 

ที่สำคัญนี่ยังแสดงถึงการถดถอยจากความสำเร็จของ Apple ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งได้แรงหนุนจากความต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อใช้ทำงานและเรียนออนไลน์จากที่บ้าน

 

“โลกยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อไปจนถึงสงครามในยุโรปตะวันออก ไปจนถึงผลกระทบที่ยาวนานของการแพร่ระบาด และเราต่างทราบดีว่า Apple ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อมัน” คุกกล่าวในระหว่างการพูดคุยกับนักวิเคราะห์ “แต่ไม่ว่าเราจะเผชิญกับสภาวะใด แนวทางของเราก็ยังเหมือนเดิมเสมอ เรามีความรอบคอบและตั้งใจ”

 

คุกยอมรับว่า สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทายส่งผลกระทบต่อยอดขาย iPhone, ยอดขาย Mac และยอดขายอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Apple Watch ยอดขาย iPhone และ Mac ลดลงทุกปี หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ซึ่งรวมถึงหูฟัง เช่น AirPods และอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Apple Watch ลดลงกว่า 8%

 

สำหรับยอดขาย Mac ลดลงเนื่องจากเป็นการยากที่จะเปรียบเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่ง Apple เปิดตัวแล็ปท็อป MacBook Pro ระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ แต่ไม่มีการเปิดตัวที่คล้ายกันในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคมของปีนี้

 

ท่ามกลางความผิดหวังยังมีแสงสว่างเล็กๆ อยู่ นั่นคือ Apple เปิดเผยว่ามีอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ 2 พันล้านเครื่อง ซึ่งรวมถึง iPhone, Mac, Apple Watch และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้นจากอุปกรณ์ที่ใช้งาน 1.8 พันล้านเครื่องที่เปิดเผยเมื่อปีที่แล้วในเดือนมกราคม

 

ตัวเลขนี้มีความสำคัญต่อนักลงทุนเนื่องจากเป็นการสรุปการเข้าถึงทั่วโลกของ Apple ซึ่งเจ้าพ่อไอทีสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าเหล่านั้นผ่านบริการหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตามคุกกล่าวว่า Apple กำลังลดต้นทุนและชะลอการจ้างงาน แต่ก็ไม่ได้ประกาศเลิกจ้างเหมือนบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่งหลายๆ แห่ง

 

“เรายังตระหนักดีว่าสภาพแวดล้อมที่เราอยู่นั้นยากลำบาก ดังนั้นเราจึงลดต้นทุน เรากำลังลดการจ้างงาน เรารอบคอบมากและพิจารณาคนที่เราจ้าง” คุกกล่าว

 

Apple คาดว่ารายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อไตรมาสที่ผ่านมายังคงมีอยู่ ไม่ได้ลดน้อยลงไป

 

ภาพ: Kevin Mazur / Getty Images 

 

อ้างอิง:

The post ทิม คุก ยก 3 เหตุผล ดอลลาร์แข็งค่า – ปัญหาการผลิตในจีนที่กระทบ iPhone 14 Pro / Pro Max – เศรษฐกิจไม่ฟื้น ทำ Apple มียอดขายพลาดเป้านักวิเคราะห์ในรอบ 7 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทิม คุก ประกาศหั่นผลตอบแทนรายปีของตัวเองลง 40% เหลือเพียง 1.6 พันล้านบาท https://thestandard.co/tim-cook-apple-pay-cut/ Mon, 23 Jan 2023 02:32:26 +0000 https://thestandard.co/?p=740620

ทิม คุก ซีอีโอจาก Apple เตรียมลดผลตอบแทนของตนเองลง 40% […]

The post ทิม คุก ประกาศหั่นผลตอบแทนรายปีของตัวเองลง 40% เหลือเพียง 1.6 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

ทิม คุก ซีอีโอจาก Apple เตรียมลดผลตอบแทนของตนเองลง 40% ตามเอกสารที่บริษัทยื่นให้กับ ก.ล.ต. ทำให้รายได้ที่จะได้รับอยู่ที่ราว 49 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.6 พันล้านบาท 

 

บริษัทกล่าวในเอกสารว่า เขาได้ร้องขอการลดผลตอบแทนนี้ด้วยตนเอง หลังการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนของเขาที่ไม่สอดคล้องกับผลประกอบการ

 

โดยในปี 2022 คุกทำเงินได้ราว 99 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 พันล้านบาท) แบ่งเป็น 83 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.7 พันล้านบาท) จากหุ้น 12 ล้านดอลลาร์ (ราว 397 ล้านบาท) จาก Incentives และ 3 ล้านดอลลาร์ (ราว 99 ล้านบาท) จากเงินเดือน 

 

ทั้งยังได้รับผลประโยชน์ต่างๆ อีก เช่น เงินสมทบแผนเกษียณอายุ ความปลอดภัย การเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว และเงินพักผ่อนอีกกว่า 46,000 ดอลลาร์

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

อย่างไรตาม คณะกรรมการของ Apple ยังเชื่อมั่นในผลงานของเขาในฐานะซีอีโอ และมีความมั่นใจกับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของเขา

 

บริษัทกล่าวว่า ตั้งแต่เขาเข้ามาเป็นซีอีโอในปี 2011 ราคาหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้นกว่า 1,212% เมื่อเทียบกับ S&P 500 ที่ 290% เท่านั้น

 

ไม่นานมานี้ค่าตอบแทนผู้บริหารอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ถือหุ้น เนื่องจากความกังวลด้านผลตอบแทนของบริษัท โดยบริษัท Institutional Shareholder Services หรือ ISS ได้แนะนำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับการจ่ายค่าตอบแทนของเขาในการประชุมประจำปีของปีงบประมาณที่ผ่านมา

 

อ้างอิง:

The post ทิม คุก ประกาศหั่นผลตอบแทนรายปีของตัวเองลง 40% เหลือเพียง 1.6 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
พิมพ์ติดข้างฝาไว้เลย! เคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จในการทำงานจาก 4 สุดยอดซีอีโอระดับโลก เพื่อการเริ่มต้นปีใหม่อย่างไฉไล https://thestandard.co/4-best-success-tips-ceos-shared/ Tue, 17 Jan 2023 04:18:05 +0000 https://thestandard.co/?p=738325 4-best-success-tips-ceos-shared

นี่ก็เริ่มต้นเข้าปีใหม่มาได้เกือบครึ่งทางของเดือนมกราคม […]

The post พิมพ์ติดข้างฝาไว้เลย! เคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จในการทำงานจาก 4 สุดยอดซีอีโอระดับโลก เพื่อการเริ่มต้นปีใหม่อย่างไฉไล appeared first on THE STANDARD.

]]>
4-best-success-tips-ceos-shared

นี่ก็เริ่มต้นเข้าปีใหม่มาได้เกือบครึ่งทางของเดือนมกราคมแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงกลับเข้าสู่โหมดการทำงานเต็มตัวแล้ว ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่เต็มใจนักเพราะยังคิดถึงบรรยากาศของการฉลองในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อยู่ก็ตาม (ผู้เขียนนี่แหละ!)

แต่ก็เป็นช่วงเวลาแบบนี้เองที่หัวใจเรายังเปิดรับกับการเรียนรู้จากบทเรียนต่างๆ ซึ่งนอกจากการนั่งอ่านรีวิวประจำปีของบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหาย (ไปจนถึงบรรดาเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์คนดังทั้งหลาย) หนึ่งในคนที่เราควรจะฟังให้มากคือบรรดาผู้บริหารที่เก่งกาจที่มักจะมีคำแนะนำดีๆ มามอบให้สำหรับการเริ่มต้นใหม่เพื่อให้ทุกอย่างไฉไลกว่าเดิมในปีนี้

และนี่คือ 4 คำแนะนำที่เป็นเคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จจาก 4 สุดยอดซีอีโอที่แนะนำว่าพิมพ์ติดฝาบ้านเอาไว้เลยก็ได้ เหมือนรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่มีคำคมแปะตามฝาบ้าน

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

1. เข็มทิศชีวิตอยู่ที่หัวใจ – ทิม คุก (Apple)

ซีอีโอคนแรกที่มีคำแนะนำมาฝากกับพวกเราคือ ทิม คุก แห่ง Apple ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยคำแนะนำดีๆ ต่อชีวิตของเขานั้นมาจากการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาของมหาวิทยาลัยแกลเลอเดต ในวอชิงตัน ดี.ซี.

คุกได้ให้คำแนะนำแก่น้องๆ ที่กำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตว่า ไม่มีเข็มทิศชีวิตที่ไหนจะนำทางพวกเขาได้ดีไปกว่าหัวใจของตัวเอง เหมือนที่เขาเลือกจะฟังตัวเองจนมาร่วมงานกับ Apple ตั้งแต่ปี 1988 

“ผมรู้ใจของตัวเองว่า ผมต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองและสิ่งที่เชื่อ เพราะมันคือตัวเลือกที่สำคัญที่สุดที่เราจะทำได้ สิ่งนี้จะนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยทำให้เราค้นพบความสุขในการทำงาน และถ้าเราพยายามมากพอและมีโชคช่วย มันอาจจะช่วยให้เรามีชีวิตที่มีความหมายได้

“เมื่อคุณลองจินตนาการถึงตัวเองในอนาคต สิ่งที่ควรจะถามนั้นไม่ใช่ ‘อะไรจะเกิดขึ้น’ แต่ควรจะถามว่า ‘ตัวฉันจะเป็นอย่างไรในเวลานั้น’ ผมหวังว่าพวกคุณจะมีจิตใจที่อ่อนโยนและแน่วแน่ ผมหวังว่าพวกคุณจะมองเห็นถึงความมหัศจรรย์ในการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง และเจอมนตร์ที่อยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่น”

 

2. มองให้เห็นความดีของคนอื่น – แคลร์ บาบิโนซ์-ฟงต์โนต์ (Feeding America)

งานของ แคลร์ บาบิโนซ์-ฟงต์โนต์ ไม่ได้มีเป้าหมายที่ความมั่งคั่งร่ำรวยอะไรเหมือนใครเขา เพราะหน้าที่ของ Feeding America คือการบรรเทาความหิวโหยของผู้คนในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนมากมายเหมือนเม็ดทรายบนชายหาด

สิ่งสำคัญสำหรับเธอคือการรู้จักถึงความสำคัญของการ ‘ให้’ หัวใจต้องกว้างเหมือนทะเล

อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการทำงานในความเห็นของบาบิโนซ์-ฟงต์โนต์ คือเรื่องของการทำงานไปด้วยกัน และมันสำคัญที่เราต้องมองเห็นความตั้งใจดีของเพื่อนร่วมงาน มองให้เห็นความดีของพวกเขา

“จงคิดเสมอว่าความตั้งใจดีของเพื่อนร่วมงานนั้นเป็นเพราะพวกเขาอยากจะทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นร่วมกัน” เพราะมีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ว่าผู้คนมักจะประเมินต่ำเกินไปว่ามีคนชอบพวกเขามากแค่ไหน ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในที่ทำงาน และส่งผลกระทบต่อโอกาสในการประสบความสำเร็จ

ถ้าเรามองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวของคนอื่น มันมีโอกาสที่เราจะร่วมมือกันไปสู่ความสำเร็จได้

“ตอนนี้ฉันพยายามทำความเข้าใจว่าผู้คนนั้นเชื่อมโยงกันได้อย่างไร และพยายามจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ต่อให้ทุกคนอยากจะชนะ เราก็สามารถจะชนะไปด้วยกัน และเราควรที่จะพยายามไปด้วยกันแบบนั้น”

 

3. ยากแค่ไหนเราก็ฝ่ามันไปด้วยกันได้ – เอ็ด บาสเตียน (Delta Air Lines)

หนึ่งในธุรกิจที่เจอช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คือธุรกิจสายการบิน เพราะโควิดหมายถึงการที่พวกเขามีสภาพไม่ต่างจากการถูกถอดเครื่องช่วยหายใจให้พยายามเอาตัวรอดได้ด้วยพลังของตัวเอง

สายการบินเดลตาก็เจอปัญหาเช่นกัน จากจุดเริ่มต้นในการล็อกดาวน์ที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดไปจนถึงเมื่อกลับมาเริ่มทำการบินได้ก็มีปัญหามากมายตั้งแต่การขาดแคลนสตาฟฟ์ ไปจนถึงการรับมือกับผู้โดยสารที่เกรี้ยวกราดขึ้น

ปัญหาสารพันที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่รับมือไม่ง่ายเลย เพียงแต่ในความเห็นของ เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอแห่งสายการบินเดลตา มันคือโอกาสที่คนที่เป็นผู้นำอย่างเขาจะได้แสดงความเห็นด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การลงมาขลุกอยู่กับปัญหาร่วมกับทุกคนในทีม

“มันเป็นเรื่องง่ายในช่วงเวลาที่ลำบากหากจะหลบฉากไป เพราะเราไม่มีคำตอบอะไรให้ต่อคำถามที่เกิดขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่มีช่วงเวลาไหนที่การปรากฏตัวของเราจะสำคัญ ร่วมแบ่งปันในสิ่งที่เรารู้และสิ่งที่เราไม่รู้ไปกับทีม”

เมื่อทุกคนช่วยกันแล้ว ไม่ว่ายากแค่ไหนเราก็เอาชนะมันได้ จริงไหม

 

4. ไม่บอกจะรู้ไหม! – เบธ ฟอร์ด (Land O’Lakes)

ซีอีโอสาวคนแรกในรอบร้อยปีของ Land O’Lakes เป็นสุดยอดนักบริหารคนหนึ่งของชาวอเมริกัน ความเก่งกาจในการทำงานเป็นที่เลื่องลืออย่างมากตั้งแต่ครั้งที่เริ่มต้นกับ PepsiCo ไปจนถึง Scholastic 

 

แต่คนที่ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดต่อเธอคือแม่ของเธอเอง และมันเป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ฟอร์ดอายุได้แค่ 11 ปีเท่านั้น

เรื่องของเรื่องก็คือการที่เธอมักจะมีปัญหาแต่ไม่ชอบพูดออกมาเพราะคิดเอาเองว่าแม่จะรู้ แต่กลายเป็นว่ามันกลับเป็นปัญหาที่ไม่ควรเป็นปัญหาเลย เพราะแค่เธอพูดออกมาแม่ก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว

“แม่หันมาบอกฉันว่า ‘ถ้าแกอยากได้อะไร แกต้องขอสิ ฉันไม่ใช่คนที่อ่านใจได้นะ’…เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันจำได้แม่นจนถึงตอนนี้”

เช่นนั้นฟอร์ดจึงนำมันมาใช้ในการทำงาน และแนะนำให้ทุกคนทำเหมือนกัน คือหากมีอะไรติดค้างคาใจ มีปัญหาอะไร สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การเก็บเอาไว้กับตัวเอง แต่ต้องบอกให้คนอื่นรู้ด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหาอยู่แบบนั้น

“บ่อยครั้งที่เราอาจจะคิดว่า ‘ไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันทำงานได้ดีแค่ไหน’ หรือเราอาจจะกลัวที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าเราลองขอความช่วยเหลือจากคนอื่น หรือขอในสิ่งที่เราต้องการ คนอื่นก็พร้อมที่จะยื่นมือช่วยเหลือเราอยู่แล้ว”

จริงอยู่ที่มันออกจะฟังดูเหมือนวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์นิดหน่อย แต่เชื่อเถอะโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่คนใจร้ายหรอก 

 

และทั้งหมดนี้คือคำแนะนำ เคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จที่เหล่าสุดยอดซีอีโอเอามาฝากไว้ให้คิส เอ้ย คิด สำหรับการทำงานในปี 2023 หรือจะใช้ปีไหนก็ได้ไม่เป็นไร เพราะเป็นคำแนะนำที่เป็นอมตะใช้ได้ตลอดกาลอยู่แล้ว

 

หวังว่าจะมีข้อที่นำไปใช้กันได้นะ 🙂

 

อ้างอิง:

The post พิมพ์ติดข้างฝาไว้เลย! เคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จในการทำงานจาก 4 สุดยอดซีอีโอระดับโลก เพื่อการเริ่มต้นปีใหม่อย่างไฉไล appeared first on THE STANDARD.

]]>
Apple เตรียมเพิ่ม Touch Screen บน MacBook Pro ทั้งที่ผู้ก่อตั้งอย่าง สตีฟ จ็อบส์ เคยบอกว่า ‘มันไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์’ https://thestandard.co/apple-touch-screen-macbook-pro/ Fri, 13 Jan 2023 11:11:20 +0000 https://thestandard.co/?p=737022 Apple Touch Screen

จากรายงานของ Bloomberg บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก […]

The post Apple เตรียมเพิ่ม Touch Screen บน MacBook Pro ทั้งที่ผู้ก่อตั้งอย่าง สตีฟ จ็อบส์ เคยบอกว่า ‘มันไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Apple Touch Screen

จากรายงานของ Bloomberg บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Apple กำลังทำหน้าจอ Touch Screen ให้กับ MacBook Pro ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปในปี 2010 ผู้ก่อตั้งอย่าง สตีฟ จ็อบส์ เคยบอกไว้ว่าหน้าจอ Touch Screen นั้น ‘แย่มากตามหลักสรีรศาสตร์’

 

ในปี 2012 ทิม คุก ซีอีโอคนปัจจุบันของ Apple ได้ล้อเลียนการตัดสินใจของ Microsoft ที่รวมแท็บเล็ตและแล็ปท็อปเข้าด้วยกัน ‘มันเหมือนกับการรวมเครื่องปิ้งขนมปังและตู้เย็น’

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

จุดนี้เองทำให้เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่ Apple แย้งว่าหน้าจอสัมผัสไม่เหมาะสมที่จะใช้งานกับแล็ปท็อป และ iPad เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากมีคนต้องการอินเทอร์เฟซแบบสัมผัส นอกจากนี้ Apple ยังกังวลว่า Mac หน้าจอสัมผัสอาจกระทบกับยอดขาย iPad ได้

 

หากจุดเปลี่ยนของ Apple อาจเกิดจากตัวเลขการเติบโตของคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น เช่น Dell, Lenovo และ Microsoft ที่ขายแล็ปท็อป Touch Screen และในหลายๆ รุ่นสามารถพับจอได้ถึง 360 องศา

 

Bloomberg รายงานโดยอ้างถึงบุคคลที่มีความคุ้นเคยกับเรื่องนี้ว่า อุปกรณ์ Touch Screen ของ Apple คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอัปเดตใหญ่สำหรับ MacBook Pro บริษัทยังวางแผนที่จะเปลี่ยนเทคโนโลยีของจอเป็นแบบ LED แทนจอ LCD ในปัจจุบัน

 

และถึงจะมีหน้าจอสัมผัสจริงแต่ Apple ก็ไม่ได้จริงจังที่จะรวมระบบปฏิบัติการ iPad และ Mac เข้าด้วยกัน คนที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ดังกล่าวกล่าวว่า Mac หน้าจอสัมผัสเครื่องแรกมีแนวโน้มที่จะใช้ macOS

 

อ้างอิง:

The post Apple เตรียมเพิ่ม Touch Screen บน MacBook Pro ทั้งที่ผู้ก่อตั้งอย่าง สตีฟ จ็อบส์ เคยบอกว่า ‘มันไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: บทเรียนผู้นำ จาก สตีฟ จ็อบส์ สู่ ทิม คุก | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-14102022/ Fri, 14 Oct 2022 03:39:20 +0000 https://thestandard.co/?p=695524

ถอดบทเรียนความเป็นผู้นำจาก Steve Jobs ถึง Tim Cook ที่น […]

The post ชมคลิป: บทเรียนผู้นำ จาก สตีฟ จ็อบส์ สู่ ทิม คุก | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: บทเรียนผู้นำ จาก สตีฟ จ็อบส์ สู่ ทิม คุก | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไม่มีข้อแก้ตัว! ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ออกมาบอกว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีควรมี ‘ผู้หญิง’ ในการทำงานมากกว่านี้ https://thestandard.co/women-tech-industry/ Wed, 05 Oct 2022 01:52:06 +0000 https://thestandard.co/?p=691100 ทิม คุก

แม่ทัพของ Apple อย่าง ทิม คุก กล่าวว่า ยังมีผู้หญิงทำงา […]

The post ไม่มีข้อแก้ตัว! ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ออกมาบอกว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีควรมี ‘ผู้หญิง’ ในการทำงานมากกว่านี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทิม คุก

แม่ทัพของ Apple อย่าง ทิม คุก กล่าวว่า ยังมีผู้หญิงทำงานอยู่ในบริษัทเทคโนโลยีไม่เพียงพอ รวมถึงบริษัทของเขาเองด้วย

 

ในการให้สัมภาษณ์กับ BBC คุกกล่าวว่าเทคโนโลยีจะไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร หากไม่มีพนักงานที่หลากหลายกว่านี้ และ ‘ไม่มีข้อแก้ตัว’ สำหรับการขาดแคลนผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


Apple เพิ่งเปิดตัวโครงการพัฒนาผู้ก่อตั้งสำหรับผู้ก่อตั้งและผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเพศหญิงในสหราชอาณาจักร

 

“ผมคิดว่าแก่นแท้ของเทคโนโลยีและผลกระทบที่มีต่อมนุษยชาตินั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้หญิงที่ทำงานอยู่” คุกกล่าว “เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สามารถบรรลุหลายสิ่งหลายอย่างได้ แต่ถ้าคุณไม่มีมุมมองที่หลากหลายบนโต๊ะทำงาน คุณก็ไม่สามารถหาทางออกที่ดีได้”

 

เขากล่าวว่าขณะที่บริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึงของตัวเขาเองมีความก้าวหน้าในด้านความหลากหลาย แต่ก็ไม่มี ‘ข้อแก้ตัวที่ดี’ สำหรับภาคเทคโนโลยีที่จะไม่จ้างผู้หญิงเพิ่ม โดย Apple มีพนักงานหญิง 35% จากพนักงานทั่วโลกในปี 2021 ตามตัวเลขความหลากหลาย

 

คุกยังบอกอีกด้วยว่า เขานั้นสนใจเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ซึ่ง “ในอนาคต ผู้คนจะสงสัยว่าเราใช้ชีวิตกันอย่างไรโดยไม่มี AR” เขากล่าว “เรากำลังลงทุนอย่างหนักในพื้นที่นั้น”

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post ไม่มีข้อแก้ตัว! ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ออกมาบอกว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีควรมี ‘ผู้หญิง’ ในการทำงานมากกว่านี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ดับฝัน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือเปล่า? ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า คนทั่วไปยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Metaverse หมายถึงอะไร https://thestandard.co/tim-cook-avoids-term-metaverse/ Tue, 04 Oct 2022 05:07:42 +0000 https://thestandard.co/?p=690676 Metaverse

ในขณะที่ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ กำลังทุ่มเดิมพันกับ Met […]

The post ดับฝัน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือเปล่า? ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า คนทั่วไปยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Metaverse หมายถึงอะไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
Metaverse

ในขณะที่ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ กำลังทุ่มเดิมพันกับ Metaverse ด้วยคาดหวังจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ อีกยักษ์เทคโนโลยีอย่าง Apple กลับมีทีท่าที่ไม่สนใจเสียอย่างนั้น

 

“ฉันคิดเสมอว่ามันสำคัญที่ผู้คนจะเข้าใจว่าบางสิ่งคืออะไร” ทิม คุก ซีอีโอของ Apple เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Bright ซึ่งเป็นสื่อดัตช์ “และฉันไม่แน่ใจจริงๆ ว่าคนทั่วไปสามารถบอกคุณได้ว่า Metaverse คืออะไร”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

คำว่า Metaverse ถูกกล่าวถึงเพียงครั้งเดียวในระหว่างการรายงานผลประกอบการของ Apple ในขณะที่ Meta นั้นใช้คำนี้ไปมากถึง 36 ครั้งแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บอกกับพนักงานในเดือนกรกฎาคมว่า Meta อยู่ใน ‘การแข่งขันเชิงปรัชญาที่ลึกซึ้ง’ กับ Apple เพื่อสร้าง Metaverse ซึ่ง Meta ได้ประกาศทุ่มงบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับลงทุนในเทคโนโลยี VR (Virtual Reality หรือ การจำลองสภาพแวดล้อมจริงเข้าไปให้เสมือนจริง)

 

สิ่งนี้สวนทางกับคุกซึ่งนักวิเคราะห์ถามเขา เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับบทบาทของ Apple ในพื้นที่ Metaverse เขาตอบว่า Apple ‘กำลังสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ และที่เกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอ’ และชี้ไปที่แอป AR ที่มีอยู่กว่า 14,000 แอปใน App Store 

 

คำพูดนี้สื่อให้เห็นว่าคุกให้ความสำคัญกับ AR (Augmented Reality) ซึ่งเป็นการรวมสภาพแวดล้อมจริงกับวัตถุเสมือนเข้าด้วยกันในเวลาเดียวกัน

 

“ฉันคิดว่า AR เป็นเทคโนโลยีที่ลึกซึ้งซึ่งจะส่งผลต่อทุกสิ่งทุกอย่าง” คุกกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Bright “ลองนึกภาพว่าจู่ๆ ก็สามารถสอนด้วย AR และสาธิตสิ่งต่างๆ แบบนั้นได้ หรือทางการแพทย์ เป็นต้น อย่างที่ฉันบอกไป เราจะมองย้อนกลับไปและคิดว่าครั้งหนึ่งเราเคยอยู่โดยปราศจาก AR ได้อย่างไร”

 

คุกย้ำว่าการเข้าไปในโลกเสมือนจริงไม่ใช่วิธีการที่จะนำชีวิตทั้งหมดเข้าไปอยู่ เพราะ ‘VR มีไว้สำหรับช่วงเวลาปกติ แต่ไม่ใช่วิธีสื่อสารที่ดี ฉันไม่ได้ต่อต้าน แต่นั่นคือวิธีที่ฉันมองมัน’ 

 

ทิศทางของคุกสอดคล้องไปกับแม่ทัพของยักษ์เทคอื่นๆ เช่น เอริก ชมิดต์ อดีตซีอีโอของ Google ที่ตั้งข้อสังเกตว่า “ไม่มีข้อตกลงว่า Metaverse คืออะไร” หรือ ซีอีโอของ Snap ที่เห็นว่า Metaverse นั้นยังคลุมเครือและเป็นเรื่องสมมติ ดังนั้นเขาจึงจะผลักดัน AR มากกว่า

 

อ้างอิง:

The post ดับฝัน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือเปล่า? ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า คนทั่วไปยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Metaverse หมายถึงอะไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า ‘ทักษะการเขียนโค้ด’ ควรเริ่มสอนในโรงเรียนประถม เพราะมองเป็นภาษาสากล https://thestandard.co/tim-cook-coding/ Sun, 02 Oct 2022 11:39:34 +0000 https://thestandard.co/?p=689855 Apple

ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้ออกมากล่าวย้ำคำพูดของตัวเองถ […]

The post ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า ‘ทักษะการเขียนโค้ด’ ควรเริ่มสอนในโรงเรียนประถม เพราะมองเป็นภาษาสากล appeared first on THE STANDARD.

]]>
Apple

ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้ออกมากล่าวย้ำคำพูดของตัวเองถึงความสำคัญของการสอนทักษะการเขียนโค้ดในโรงเรียน ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อชาวดัตช์ระหว่างเยือนยุโรปของเขา

 

“ฉันคิดว่าทุกคนควรเรียนรู้การเขียนโปรแกรมก่อนที่จะจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม และจริงๆ แล้วฉันคิดว่าควรสอนในโรงเรียนประถมด้วยซ้ำ” คุกกล่าว พร้อมกับเสริมว่า การเขียนโค้ดเป็น ‘ภาษาสากล’ ดังนั้นนี่จึงควรเป็นวิชาที่ถูกบรรจุลงในหลักสูตรถาวร

 

“เป็นภาษาที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถเรียนรู้ได้” เขากล่าวต่อ “แน่นอนว่าภาษาแม่ของคุณมีความสำคัญต่อการสื่อสาร แต่ภาษาของโปรแกรมเป็นวิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ของคุณ มันทำให้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ของคุณเป็นจริง และคุณสามารถใช้สิ่งนั้นได้ในหลายแง่มุมของชีวิต”

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ที่ผ่านมาคุกได้ส่งเสริมทักษะการเขียนโค้ดเข้ากับหลักสูตรการศึกษาระดับปฐมวัยเป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งในการประชุม TIME 100 Summit ในปี 2019 เขาบอกว่า การเขียนโปรแกรมเป็น “ภาษาที่สองที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถเรียนรู้ได้”

 

“ฉันคิดว่าเด็กทุกคนในโลกควรเรียนรู้ที่จะเขียนโค้ด ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในวิทยาศาสตร์หรือศิลปะก็ตาม” ซีอีโอของ Apple กล่าว “ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่กำลังพูดเหมือนวิชาพื้นฐานอย่างคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์ ซึ่งนี่เป็นทักษะหลักที่เด็กๆ ต้องมี”

 

ก่อนหน้านี้ได้มีผู้นำธุรกิจกว่า 500 คนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปรับปรุงหลักสูตร K-12 ในแต่ละรัฐ ให้รวมหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วย

 

“สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำโลกในด้านเทคโนโลยี แต่มีเพียง 5% ของนักเรียนมัธยมปลายของเราที่เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ สิ่งนี้เป็นที่ยอมรับได้อย่างไร พวกเราคิดค้นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งนี่เป็นความรับผิดชอบของเราในการเตรียมคนรุ่นต่อไปสำหรับอนาคต”

 

สำนักงานสถิติแรงงานประเมินว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนวิศวกรซอฟต์แวร์ 1.2 ล้านคนภายในปี 2026 ในปี 2021 ค่าเฉลี่ยรายได้สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 109,020 ดอลลาร์ หรือราว 4.1 ล้านบาท

 

ภาพ: Courtesy of Apple

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

The post ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บอกว่า ‘ทักษะการเขียนโค้ด’ ควรเริ่มสอนในโรงเรียนประถม เพราะมองเป็นภาษาสากล appeared first on THE STANDARD.

]]>