วันนี้ (28 กรกฎาคม) พิศิษฐ์ สุภาพ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย สพ.ญ. ปรารถนา ทองอินทร์ สัตวแพทย์ชำนาญการ และ ทีมสัตวแพทย์ ลงพื้นที่ศูนย์อพยพประชาชนจากเหตุความรุนแรงชายแดนไทย – กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิ หยอดยาเห็บหมัด และแจกจ่ายอาหารแก่สัตว์เลี้ยงที่ประชาชนพาออกมาจากบ้านเรือนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อันตราย

พิศิษฐ์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าว THE STANDARD ว่า สำนักงานปศุสัตว์อำเภอกันทรลักษ์ได้แบ่งเจ้าหน้าที่สำรวจตามศูนย์อพยพฯ เพื่อดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงในช่วงที่ต้องย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว สำหรับอำเภอกันทรลักษ์ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า เจ้าหน้าที่จึงถือโอกาสนี้ฉีดวัคซีนให้สัตว์เหล่านี้ไปในตัว

สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ไม่สามารถนำออกมาจากบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันตราย เบื้องต้นสำนักงานปศุสัตว์ฯ ได้ประสานกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อขอทราบจำนวนสัตว์ จะได้จัดเตรียมอาหารไปให้ ชรบ. ให้อาหารสัตว์เหล่านั้นตามบ้าน เพราะด้วยสถานการณ์ที่อันตรายทีมสัตวแพทย์เองก็ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้

ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอกันทรลักษ์ ได้เตรียมแผนดูแลสัตว์เลี้ยงขั้นต่อไปหลังเหตุความรุนแรงชายแดนสงบลงคือการเป็นศูนย์กลางประชาสัมพันธ์ตามหาสัตว์เลี้ยงที่ตกใจเสียงปืน และ ระเบิดจนเตลิดออกจากบ้าน สูญหาย

พิศิษฐ์ ได้ฝากประชาสัมพันธ์ผ่านทีมข่าวโดยขอเปิดรับบริจาคอาหารสุนัข และ แมว สำหรับทุกช่วงอายุเพื่อให้สามารถนำไปช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงตามหมู่บ้านและจุดอพยพฯได้ นอกจากนี้ยังขอรับบริจาคหญ้าสด และ ฟางแห้งสำหรับวัว และ ควายตามคอกในพื้นที่อันตราย

โดยสามารถติดต่อ ได้ที่ พิศิษฐ์ เบอร์โทรศัพท์ 089-9591441 หรือ สพ.ญ. ปรารถนา เบอร์โทรศัพท์ 090-9545810 ทั้งนี้ขอให้ผู้บริจาคนำส่งอาหารเข้ามาในพื้นที่  เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สะดวกเดินทางไปรับมอบ

The post เปิดรับบริจาคอาหารสัตว์ ช่วยน้องหมา-แมว-วัว-ควาย ได้รับผลกระทบชายแดนศรีสะเกษ appeared first on THE STANDARD.

หากอยากรู้ว่าสัตว์เลี้ยงรักคุณหรือไม่ ให้ลองแกล้งร้องไห้ดูสิ!

นี่เป็นการทดสอบง่ายๆ ที่อาจเปิดเผยความผูกพันแท้จริงระหว่างคุณกับเพื่อนสี่ขาสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน อาจมีคำถามที่อยู่ในใจมานานคือ “สัตว์เลี้ยงของเรารักเราจริงหรือเปล่านะ?” “หรือท่าทางของพวกมันจะเป็นเพียงแค่นิสัยชินเฉยๆ? ” รู้ไหมว่าคำตอบอาจอยู่ในการทดสอบง่ายๆ ที่นักวิจัยค้นพบนั่นคือการแกล้งร้องไห้ต่อหน้าน้องหมา 

งานวิจัยที่แสดงว่าสุนัขจะตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจเมื่อเจ้าของแกล้งร้องไห้โดยศาสตราจารย์ Kim Bard ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาพัฒนาการเปรียบเทียบจาก University of Portsmouth ระบุว่าเมื่อทำการศึกษาพฤติกรรมของสุนัขเมื่อเจ้าของแกล้งร้องไห้ พบว่าสุนัขจะตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อเจ้าของของตัวเอง แต่จะไม่แสดงปฏิกิริยาเช่นเดียวกันกับคนแปลกหน้า ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่าสุนัขบางตัวมีความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของมนุษย์และตอบสนองในลักษณะที่คล้ายคลึงกับความรักนั่นเอง 

“การที่สุนัขแสดงความเห็นอกเห็นใจเฉพาะกับเจ้าของเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์นี้มีความพิเศษ”  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะแสดงพฤติกรรมนี้หรอกนะ บางตัวก็ปล่อยเบลอก็มี และการตีความความรู้สึกของสัตว์เลี้ยงยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนอยู่ดี 

ว่าแต่แมวเข้าใจความรู้สึกเราด้วยมั้ยนะ? สำหรับทาสแมวการศึกษาบางชิ้นชี้ว่าแมวอาจมีความสามารถในการเห็นอกเห็นใจเช่นกัน แต่การแสดงออกของแมวต่อความรู้ทางอารมณ์นี้มักจะไม่ชัดเจนเท่าสุนัข เจ้าของแมวส่วนใหญ่คงทราบดีว่าปฏิกิริยาของแมวต่ออารมณ์ของมนุษย์นั้นมีความหลากหลายและคาดเดาได้ยากกว่า 

อ้างอิง

• https://www.bbc.co.uk

The post หากอยากรู้ว่าสัตว์เลี้ยงรักคุณหรือไม่ ลองแกล้งร้องไห้! appeared first on THE STANDARD.

สรุปข้อบัญญัติ กทม. ควบคุมการเลี้ยงสัตว์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ 10 ม.ค. 2569 เจ้าของต้องทำอะไรบ้าง จำกัดจำนวนเท่าไร พาออกนอกบ้านต้องทำอย่างไร

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับบริการด้านสุขภาพสัตว์ การทำหมัน และจดทะเบียนได้ที่คลินิกสัตวแพทย์ กทม. ทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ 

1. กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง โทร. 0 2248 7417
2. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.1 สี่พระยา เขตบางรัก โทร. 0 2236 4055 ต่อ 213
3. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.2 มีนบุรี เขตมีนบุรี โทร. 0 2914 5822
4. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา โทร. 0 2392 9278
5. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.4 บางเขน เขตจตุจักร โทร. 0 2579 1342
6. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.5 วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ โทร.0 2472 5895 ต่อ 109
7. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.6 ช่วง นุชเนตร เขตจอมทอง โทร. 0 2476 6493 ต่อ 1104
8. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย โทร. 0 2411 2432

8 หน้าที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงตามข้อบัญญัติ กทม. 

1. จัดหาที่อยู่เหมาะสม: มั่นคง แข็งแรง พอเพียง มีอาหาร น้ำ แสง อากาศถ่ายเท ระบบจัดการของเสียดี
2. รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดประจำ ไม่หมักหมม ไร้กลิ่นรบกวน
3. ดูแลสุขภาพ: ฉีดวัคซีนป้องกันโรค หากสงสัยว่าป่วยให้แยกกัก แจ้ง สพส./สนอ. ทำตามคำแนะนำสัตวแพทย์
4. ควบคุมดูแล: เลี้ยงในพื้นที่ตัวเอง ไม่ปล่อยออกนอกสถานที่โดยไม่มีคนคุม (สัตว์ดุร้ายต้องมีกรง/ที่กั้น + ป้ายเตือนชัดเจน)

• • ส่งเสริมพฤติกรรมธรรมชาติ: ให้สัตว์ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ
  • ไม่สร้างความเดือดร้อน: ควบคุมไม่ให้สัตว์ทำอันตราย/ก่อความรำคาญต่อผู้อื่น
  • จัดการซากถูกสุขลักษณะ: กำจัดซากและมูลสัตว์ ป้องกันการแพร่เชื้อโรค ไม่ก่อมลพิษ (กลิ่น / ควัน / ปนเปื้อนแหล่งน้ำ)
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำ/คำสั่ง: ทำตามคำแนะนำ/คำสั่งของเจ้าหน้าที่และข้อบังคับ กทม.

จำกัดจำนวนเลี้ยงสุนัขและแมวใน กทม. 

แจ้งข้อมูลและขึ้นทะเบียน

• เลี้ยงเกินจำนวน (ก่อน 10 ม.ค. 69)
  • แจ้งข้อมูลที่สำนักงานเขต
  • ภายใน 90 วัน หลังข้อบัญญัติใช้บังคับ (ภายใน 9 เม.ย. 69)
  • ยกเว้นการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ เช่น ฟาร์ม ร้านขายสัตว์ ฯลฯ ให้เป็นไปตาม กม. กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 

• จดทะเบียน + ฝังไมโครชิป (สุนัขและแมว)
  • ภายใน 120 วันหลังเกิด / ภายใน 30 วันหลังนำมาเลี้ยงใน กทม.
  • ที่สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขหรือสำนักงานเขต
  • เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้: บัตรประชาชนเจ้าของ, ทะเบียนบ้านที่สัตว์อยู่, หลักฐานอื่นๆ (ใบรับรองวัคซีน/ทำหมัน, หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า (ถ้ามี), หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี))

กฎเมื่อพาสุนัข/แมวออกนอกบ้าน และบทลงโทษ 

• ข้อปฏิบัติ:
  1. พก/แสดงบัตรประจำตัวสัตว์: เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ
  2. ใช้อุปกรณ์ควบคุม: สายจูงแข็งแรง (จับตลอดเวลา) กระเป๋า หรือกรงที่เหมาะสม
  3. สุนัขควบคุมพิเศษ (พิตบูล, ร็อตไวเลอร์ ฯลฯ):
     • ต้อง สวมที่ครอบปาก
     • ต้อง ใช้สายจูงแข็งแรง และจับห่างคอไม่เกิน 50 ซม. ตลอดเวลา
     • ห้าม คนอายุน้อยกว่า 15 ปี หรือมากกว่า 65 ปี เป็นผู้ควบคุมนำออกนอกสถานที่

• ฝ่าฝืนข้อบัญญัติ:
  • โทษปรับ ไม่เกิน 25,000 บาท (ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข)

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post สรุปข้อบัญญัติ กทม. ควบคุมการเลี้ยงสัตว์ เริ่ม 10 ม.ค. 69 appeared first on THE STANDARD.

ปรากฏการณ์ ‘ยุคแมวครองเมือง’ กำลังเขย่าวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงไทย! มูลค่าตลาดพุ่งทะลุ 75,000 ล้านบาท แถมยังเป็นครั้งแรกที่เปอร์เซ็นต์การเติบโตของตลาดแมวแซงหน้าสุนัข 31.6% เรียกได้ว่าเจ้าเหมียวกำลังก้าวขึ้นมาเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน

กุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยและทั่วโลกยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) พบว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยปี 2567 ที่ผ่านมามีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 75,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 12.4% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ต้องจับตาคือการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในโครงสร้างตลาด โดยเมื่อต้นปี 2567 กลุ่มคนเลี้ยงสุนัขยังนำหน้าด้วยอัตราการเติบโตที่ 40.4% ขณะที่ตลาดแมวเติบโตใกล้เคียงที่ 37.1% 

แต่มาถึงปี 2568 จากสถิติที่รวบรวมโดยอิมแพ็คฯ จากการจัดงาน Thailand International Pet Variety Exhibition พบว่า ตลาดคนเลี้ยงสุนัขเติบโตที่ 31.6% ขณะที่ตลาดแมวเติบโตถึง 32.1% ทำให้ตลาดแมวแซงหน้าตลาดสุนัขเป็นครั้งแรก

อิมแพ็คฯ ยังลงลึกเกี่ยวกับตลาดแมวในประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยมีประชากรผู้เลี้ยงแมวมากเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยจังหวัดที่มีการเลี้ยงแมวสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรสงคราม ข้อมูลระบุว่า จำนวนประชากรแมวในประเทศไทยอยู่ที่ 3,337,458 ตัว สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก

ในด้านค่าใช้จ่าย พบว่าคนไทยใช้จ่ายเพื่อเจ้าเหมียวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 14,200 บาทต่อปี หรือประมาณ 1,183 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการรับเลี้ยงแมวจรเพิ่มขึ้นกว่า 14% นับตั้งแต่ปี 2562 และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง

ส่วนในระดับโลก Fortune เว็บไซต์วิเคราะห์ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ และการเงิน ได้เปิดเผยงานวิจัยเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า ตลาดแมวทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง

น่าสนใจอย่างยิ่งคือแม้ว่าหลายคนในกลุ่ม Gen Z จะยังไม่มีบ้านหรือครอบครัว แต่กลับให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก โดยพบว่า 74% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกลุ่มนี้เลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

พฤติกรรมการ ‘ทุ่มทุน’ ให้เจ้าเหมียวของชาว Gen Z ทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูงลิ่ว โดยใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 72,624 บาทต่อปี หรือประมาณ 6,052 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็น ค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ค่าของเล่น ค่ากรูมมิ่ง และค่ารักษาพยาบาล เช่น พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ, ค่าฉีดวัคซีนประจำปี, ค่าวิตามิน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ

นอกจากนี้ ยังพบว่า เจ้าของแมวจำนวนมากยินดีจ่ายเงินสูงถึง 10,200 บาทในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าผ่าตัด ค่ารักษาอาการบาดเจ็บกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนค่าเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ และการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ

‘อาณาจักรแมว’ ที่กำลังเติบโตนี้ไม่เพียงเปลี่ยนโฉมหน้าวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความผูกพันและการดูแลเอาใจใส่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม วันที่แมวครองเมืองอาจไม่ไกลเกินรอ

The post ไม่ใช่แค่ ‘ทาสแมว’ คนไทยพร้อม ‘เปย์’ เจ้าเหมียวหนักขึ้น! เฉลี่ย 14,200 บาทต่อปี พร้อมรับเลี้ยงแมวจรเพิ่มขึ้นกว่า 14% appeared first on THE STANDARD.

ฮีลใจกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก พร้อมฉลองวันสตรีสากลที่ The PARQ กับงาน PET PARQ PLAY DAY Vol.2 ให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงแสนรักได้หยุดพัก ฟื้นฟูพลังใจ และเชื่อมโยงกับตัวเองอีกครั้ง ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวบน PET PARQ เคล้าดนตรีเพราะๆ และกิจกรรมที่เติมเต็มความสุข เสริมสร้างความมั่นใจและสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้หญิง และยกย่องบทบาทของผู้หญิงในการดูแลและให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข

ภายในงานเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ให้เหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงออกมาใช้เวลาร่วมกับสัตว์เลี้ยง สร้างสุขภาพกายและใจที่ดีไปด้วยกัน เช่น Sound Healing with Furry Friends by FOREO ผ่อนคลายความเครียดของคุณและสัตว์เลี้ยงด้วยการบำบัดด้วยเสียง, Pet Massage by Aiyara เวิร์กช็อปนวดผ่อนคลายให้สัตว์เลี้ยงแบบกลับไปทำได้เองที่บ้าน, Prep Food 101 by Storge เวิร์กช็อปสอนเตรียมอาหารสุขภาพให้สัตว์เลี้ยงด้วยเมนูโฮมเมด, PET PARQ Studio มุมถ่ายภาพสัตว์เลี้ยงที่ยกสตูดิโอและช่างภาพมืออาชีพมาให้ถึงในงาน, Pet Clinic ให้พาสัตว์เลี้ยงมาปรึกษาสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจาก Hato Pet Wellness Center ได้ฟรีๆ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่าง Pet Fashion Show ที่เหล่าครอบครัวสัตว์เลี้ยงแต่งตัวมาอวดโฉมในแฟชั่นสุดคิวต์เพื่อร่วมฉลองวันสตรีสากล สร้างรอยยิ้มและบรรยากาศให้ครื้นเครง เนรมิตงานให้กลายเป็นรันเวย์ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานสามารถเก็บความประทับใจผ่านภาพวาดที่โซน Pet Sketch เป็นของที่ระลึกแทนความทรงจำสุดพิเศษกลับบ้านได้อีกด้วย Pet Market ตลาดนัดที่รวมสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้ช้อปกันภายในงาน พร้อม Live Band มุมปิกนิกพร้อมดนตรีสดสุดชิลให้ทุกคนนั่งแฮงเอาต์กับสัตว์เลี้ยงในวันหยุด

สำหรับครอบครัวสัตว์เลี้ยงสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่น หรือมาใช้บริการในร้านค้า ร้านอาหาร และบริการกันได้ที่ THE PARQ Life ทุกวัน (เดินทางสะดวกพร้อมบริการครบครันด้วยจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และพิเศษ! เมื่อลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงผ่าน LINE OA: @The PARQ ก่อนเข้าใช้บริการ รับสิทธิ์จอดรถฟรี 4 ชั่วโมงในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ MRT ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 2

PET PARQ PLAY DAY Vol.2 จัดเมื่อวันที่ 8-9 มีนาคม 2568 ณ The PARQ Life ชั้น 3 (สวนลอยฟ้า Q Garden) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The PARQ

The post PET PARQ PLAY DAY Vol.2 จูงสัตว์เลี้ยงฮีลใจ ฉลองวันสตรีสากลด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

พบรักเพราะแมวนำพา! Speed Dating สำหรับทาสแมว

พบรักเพราะแมวนำพา! Speed Dating สำหรับทาสแมว 12 กุมภาพันธ์ ที่ Catster

เหล่าทาสแมวที่โสด…วาเลนไทน์นี้อาจไม่โสดแล้วก็ได้ กับ ‘Speed Dating for Cat Lovers’ กิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้คุณได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนใหม่ที่มีใจรักน้องแมวเหมือนกัน โดยงานจะจัดขึ้นที่ Catster by Kingdomoftigers คาเฟ่แมวจรบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง

งานนี้เปิดรับสมัครเหล่าทาสแมวทั้งหมด 40 คน เอาเป็นว่าใครที่อยากเจอเพื่อนใหม่ที่มีแพสชันตรงกันก็สามารถลงทะเบียนกับทาง Catster by Kingdomoftigers ได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 กุมภาพันธ์ 2568

The post พบรักเพราะแมวนำพา! Speed Dating สำหรับทาสแมว 12 กุมภาพันธ์ ที่ Catster appeared first on THE STANDARD.

เราทุกคนต่างรู้สึกว่า ‘แมว’ เป็นสัตว์เข้าใจยาก ทะนงตัวและเย่อหยิ่ง ขณะเดียวกันบางครั้งก็ช่างออดอ้อนจนใจละลาย ถึงกระนั้นแมวก็ยังเป็นสัตว์น่ารักน่าเอ็นดูสำหรับมนุษย์ แม้จะเย่อหยิ่งแต่ก็ติดตลก แม้จะดูเหมือนไม่สนใจเราแต่ก็เป็นเพื่อนยาใจยามเหงา (หรือเปล่า?)

ในสารคดี Inside the Mind of a Cat ที่ฉายทาง Netflix รายการโทรทัศน์ตอนเดียวที่พยายามพาเราไปรู้จักกับอีกด้านของแมว ว่าเจ้าเหมียวที่เราว่าเย่อหยิ่ง จริงๆ แล้วเข้าใจง่ายกว่าที่เราคิด มันสามารถจำชื่อตัวเองได้ จำเจ้าของได้ และชอบคุยกับมนุษย์มากกว่าแมวด้วยกันเสียอีก มนุษย์มักบอกว่าแมวเข้าใจยาก THE STANDARD LIFE จึงนำทริกดีๆ จาก Inside the Mind of a Cat มาให้ผู้อ่านลองสังเกตอารมณ์ของเจ้าเหมียวที่บ้านดูว่าเหล่านายท่านกำลังคิดอะไรอยู่ผ่านใบหน้าและหางฟูๆ เผื่อว่าเราจะได้เข้าใจเขามากขึ้น

แมวลืมตาและหูตั้ง แสดงว่ากำลังผ่อนคลาย

แมวหรี่ตาลงและกดหูต่ำ แสดงว่ากำลังแสดงความก้าวร้าว

แมวลืมตากว้างแต่หูตก แสดงว่ากำลังเตรียมป้องกันตัวเอง

แมวแยกเขี้ยว แสดงว่าพร้อมโจมตี

แมวส่ายหาง แสดงว่ากำลังรำคาญ

แมวหางตั้งตรง แสดงว่ากำลังอารมณ์ดี

หากปลายหางแมวกระตุก แสดงว่ากำลังสนใจ

แมวเก็บหางไว้หว่างขา แสดงว่ากำลังกลัวและแสดงท่าทีจำนน

แมวขนลุกชันไปทั้งตัว แสดงว่ากำลังหวาดกลัวสุดๆ

ภาพ: Netflix

อ้างอิง:

• สารคดีเรื่อง Inside the Mind of a Cat

The post สังเกตอารมณ์ ‘แมว’ กับ 9 อากัปกิริยาจากใบหน้าและหางฟูๆ appeared first on THE STANDARD.

สวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งสถานที่ออกกำลังกายของคนเมือง ในช่วงเช้าและช่วงเย็นภาพชินตาคือการวิ่งออกกำลังกายของกลุ่มคนผู้รักสุขภาพ

อีกหนึ่งมนตร์เสน่ห์ของสวนลุมพินี คงหนีไม่พ้นน้องแมวลายสลิดตัวอ้วนกลม ที่เปรียบเสมือนพนักงานต้อนรับทำหน้าที่คอยตกทาส หรือผู้คนที่เข้ามาใช้พื้นที่สวนลุมพินี ในการทำกิจกรรมหรือสัญจรไปมา

ด้วยความน่ารักน่าชัง สามารถสะกดทาสแมวให้หยุดถ่ายภาพ แวะลูบหัวเกาคางอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่ง พนักงานออฟฟิศ วัยรุ่น หรือผู้สูงอายุ ล้วนถูกอำนาจพลังแมวไม่ให้เดินผ่านไปเฉยๆ 

ความน่ารักของแมวในสวนลุมพินี ทำให้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงในวงกว้าง เมื่อแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในสวนลุมพินีถูกเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์วางยาสลบเพื่อจับตัวไปทำหมัน โดยไม่นำกลับมาไว้ที่สวนสาธารณะแห่งนี้อีก เนื่องจากสวนสาธารณะไม่ใช่สวนสัตว์ ทั้งที่แมวเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่มายาวนาน และเป็นที่คุ้นตาของผู้ที่มาออกกำลังกายในสวนลุมพินีเป็นอย่างดี และมีจำนวนไม่น้อยที่ชอบเข้าไปเล่น รวมถึงถ่ายรูปและให้อาหารแมว อีกทั้งแมวสวนลุมพินีมีกลุ่มอาสาสมัครที่คอยดูแลประจำ และมีสัตวแพทย์อาสารับไปทำหมัน โดยขลิบหูไว้เพื่อเป็นเครื่องหมาย รวมถึงเข้ามาฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่แมวจะอยู่ประจำจุดเดิมๆ ‘แมวสวนลุมฯ’ เปรียบได้กับจุดขายของสวนสาธารณะแห่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ‘Cat Lumpini แมวสวนลุม’ ได้ขอความร่วมมืองดให้ขนมกับน้องแมวในสวนลุมพินี เพราะขนมจะทำให้แมวติดรส และปฏิเสธอาหารหลัก เสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคไต มีข้อมูลว่าแมวสวนลุมพินีตรวจพบค่าตับค่าไตสูงแทบทุกตัว สำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไตจะน่าสงสารมาก เพราะต้องเจ็บตัวกับการให้น้ำเกลือ และค่ารักษาพยาบาลก็สูงอีกด้วย 

พร้อมระบุว่า ‘รักน้องแมวช่วยกันรักษาสุขภาพให้น้องแมวกันดีกว่า ไปถ่ายรูปหรือพกของเล่นไปชวนน้องเล่นให้สุขภาพแข็งแรงจะดีกว่า’

The post แก๊งแมวเหมียว เซเลบตกทาสแห่งสวนลุมพินี appeared first on THE STANDARD.

การเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเจ้าของผู้เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุคคนหนึ่งอย่าง Taylor Swift ส่งผลให้ Olivia Benson แมวพันธ์ุสก็อตติชโฟลด์เพศเมียของเธอที่เหล่า Swiftie คุ้นเคยกันดี กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 97 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.3 พันล้านบาทเลยทีเดียว

การรายงานข่าวครั้งนี้มาจากลิสต์ของ The Ultimate Pet Rich List ที่จัดอันดับทรัพย์สินของเหล่าสัตว์เลี้ยงอินฟลูเอ็นเซอร์ โดยใช้สถิติจากจำนวนผู้ติดตาม ยอดไลก์ และยอดเอ็นเกจเมนต์ใน Instagram เป็นหลัก ซึ่งน้อง Olivia Benson แมวคู่ใจของ Taylor Swift ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีทรัพย์สินสูงสุดเป็นอันดับ 3 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 3.3 พันล้านบาท โดยทางเว็บไซต์ได้เขียนกำกับว่า

“Olivia ประสบความสำเร็จเหนือไปกว่าการเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ใน Instagram เจ้าแมวสก็อตติชโฟลด์ตัวนี้มีรายได้จากการปรากฏตัวเคียงข้างเจ้าของของเธอในมิวสิกวิดีโอมากมายหลายเพลง และมีไลน์สินค้าเป็นของตัวเอง นอกจากนั้นเธอยังมีรายได้ก้อนใหญ่จากการถ่ายโฆษณาอีกมากมาย ซึ่งรวมไปถึงโฆษณา Diet Coke และ Ned Sneakers”

Taylor Swift ตั้งชื่อ Olivia Benson ตามชื่อตัวละครในซีรีส์ Law & Order: SVU (รับบทโดย Mariska Hargitay) โดยแมว Olivia Benson เคยปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอสุดฮิตของ Taylor Swift อย่างเพลง Blank Space ในปี 2014 และยังได้ถ่ายทำโฆษณา AT&T ร่วมกับเจ้าของมาแล้ว

สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 1 ยังคงตกเป็นของ Gunther IV สุนัขพันธ์ุเยอรมันเชพเพิร์ด โดยปู่ของ Gunther IV ได้รับมรดกจากเจ้าของที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 1992 สูงถึง 80 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.6 พันล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ผู้ดูแลได้นำเงินไปลงทุนซื้อขายวิลล่าและแมนชั่นสุดหรูทั่วโลก ขณะนี้ Gunther IV ก็มีทรัพสินย์ร่วม 500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 17.1 หมื่นล้านบาท ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ Nala Cat เจ้าของแบรนด์อาหารแมวพรีเมียม Love โดย Nala มีทรัพย์สินในครอบครองกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.4 พันล้านบาท

ภาพ: Raymond Hall / GC Images

อ้างอิง:

• https://www.nme.com/news/music/taylor-swifts-cat-is-reportedly-worth-80million-3373550

The post Olivia Benson แมวพันธ์ุสก็อตติชโฟลด์ของ Taylor Swift มีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 3.3 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

เมื่อนึกถึงอุปกรณ์ล้ำๆ สำหรับการทำความสะอาดบ้านที่สวยหรู ดีไซน์ดูดี และได้รับความนิยมในคนไทย คงหนีไม่พ้นเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่จะอยู่ใน Top of Mind ของใครหลายคนแน่นอน เป็นเวลาสักพักแล้วที่ไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวอะไรใหม่ๆ กลายเป็นว่าทางแบรนด์ซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่อยู่นี่เอง

จนล่าสุด Dyson เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องดูดฝุ่น Dyson V15 Detect อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และเคลมว่านี่เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทรงพลังและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Dyson ทีเดียว (ด้วยพลังดูด 240 AW และเทคโนโลยีเลเซอร์และเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น) แต่ที่ดูเหมือนจะถูกใจทาสน้องหมา น้องแมว เป็นพิเศษก็คือการที่เครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับ 3 เครื่องมือใหม่ที่ตอบสนองความต้องการในการทำความสะอาดที่หลากหลายกว่าเดิม โดยเฉพาะชุดแปรงขนสัตว์เลี้ยงที่บอกเลยว่าเหล่าทาสสามารถแปรงขนให้น้องๆ ได้อย่างสะอาด สวยงาม ราวกับเป็นมืออาชีพเลยทีเดียว

ส่วนอีกสองเครื่องมือใหม่ที่มาด้วยกันคือแปรงปัดฝุ่นไร้รอยขีดข่วน สำหรับทำความสะอาดคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ใดๆ และยังมีหัวดูดสำหรับซอกเข้าถึงยากที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นในพื้นที่ที่ตัวเราเข้าถึงยาก

การเปิดตัวเครื่องดูดฝุ่น Dyson V15 Detect ครั้งนี้เป็นผลงานทางวิศวกรรมจาก Dyson ที่มีการพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์เสริมใหม่ เป็นผลเนื่องมาจากการวิจัยระดับโลก Dyson Global Dust Study ที่ศึกษาพฤติกรรมการทำความสะอาดของคนไทย และพบว่าในปีนี้ 93% ของคนไทยทำความสะอาดบ้านบ่อยเท่ากับปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะเป็นยุคหลังโควิด ความสะอาดและสุขอนามัยของบ้านก็ยังเป็นสิ่งสำคัญของคนไทย ทางแบรนด์จึงพัฒนาเครื่องมือทำความสะอาดที่เก่งขึ้น ฉลาดขึ้น และตอบโจทย์การทำความสะอาดในหลากหลายรูปแบบมากขึ้นนั่นเอง

ขอโฟกัสไปที่เครื่องมือชุดแปรงขนสัตว์เลี้ยงก่อนเลย อุปกรณ์นี้น่าจะทำให้ปัญหาเรื่องเส้นขนสัตว์เลี้ยงในบ้านกลายเป็นเรื่องเบาๆ เส้นขนของสัตว์เลี้ยงสามารถนำละอองเกสรและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ไปทั่วบ้าน

จากการสำรวจพฤติกรรมการทำความสะอาดทั่วโลกของ Dyson พบว่า คนไทย 2 ใน 5 ให้สัตว์เลี้ยงนอนร่วมเตียงเดียวกัน และมีเพียง 3 ใน 10 ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงเท่านั้นที่ทราบว่าตัวไรฝุ่นสามารถอาศัยอยู่บนสัตว์เลี้ยงได้ ชุดแปรงขนสัตว์เลี้ยงจึงถูกออกแบบมาเพื่อดูดจับเส้นขนและสะเก็ดผิวขนาดเล็กที่หลุดร่วงออกมาในระหว่างที่เราแปรงขนของน้องๆ วิธีใช้ง่ายมาก เพียงต่อหัวดูดแปรงเข้ากับตัวเครื่องได้เลย จะต่อแบบท่อดูดเพิ่มความยาวก็ได้ โดยขนแปรงหวี 364 เส้น ที่เอียงเป็นมุม 35 องศาจะงอมาอยู่ในตำแหน่งตั้งตรงขณะที่เรากำลังแปรงขน ซึ่งสะดวกและง่ายมากๆ เพียงแค่นี้น้องหมาน้องแมวของเราก็จะมีขนที่สวย สะอาด ปราศจากฝุ่น สะเก็ดผิวหนัง และไรฝุ่น 

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เหมาะกับทุกคนคือแปรงปัดฝุ่นไร้รอยขีดข่วน เป็นแปรงแบบ Self-Cleaning ตัวแรกของ Dyson ซึ่งฉีกกรอบการกำจัดฝุ่นแบบเดิมๆ ไปเลย โดยได้แรงบันดาลใจจากพู่กันระบายสีและแปรงแต่งหน้าขนแปรงเรียวเล็กเพียง 0.05 มม. ทำให้เวลาใช้งานปัดคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กใดๆ ฝุ่นบนจอทีวี หรือฝุ่นภายในรถยนต์ ก็จะช่วยขจัดฝุ่นได้ง่ายและไม่ทำให้เป็นรอยง่าย

นอกจากนี้เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับความสามารถในการกรอง 5 ระดับ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 99.99% เล็กสุดที่ 0.3 ไมครอน แปลว่าเวลาดูดฝุ่นเรามั่นใจได้เลยว่าจะไม่เหลือฝุ่นหลุดรอดไปได้ มีการปิดผนึกทั่วทั้งตัวเครื่อง ไร้กังวลเรื่องการรั่วไหลของฝุ่นด้วยระบบการกรอง HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้ ทั้งสะเก็ดผิวหนังจากสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ตัวกรองที่อยู่ด้านในเครื่องถูกพัฒนาขึ้นจนสามารถดักจับอนุภาคได้มากถึง 99.97% โดยจับอนุภาคได้เล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน ทำให้เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ได้ชื่อว่าสามารถกรองอากาศได้สะอาดที่สุด และยังเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีระบบการกรองดีที่สุดของ Dyson อีกด้วย

ส่วนใครที่เคยเจอปัญหาพื้นที่แคบๆ ที่เครื่องดูดฝุ่นเข้าไม่ถึง เครื่องดูดฝุ่นตัวใหม่นี้แก้ Pian Point ได้แล้ว เพราะมีหัวดูดสำหรับซอกเข้าถึงยากที่สามารถบิดได้ถึง 22 องศา ด้วยความกว้างเพียง 12.5 มม. และระยะเอื้อม 254 มม. หัวดูดนี้ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงและทำความสะอาดพื้นที่แคบได้อย่างล้ำลึก ถือเป็นเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ให้ผู้ใช้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม สำหรับทุกความต้องการในการทำความสะอาดภายในบ้านได้อย่างพึงพอใจ

ภาพ:  Courtesy of Dyson 

The post ทาสต้องมีแล้วไหม? Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มีชุดแปรงขนสำหรับสัตว์เลี้ยงมาด้วย appeared first on THE STANDARD.