ยังคงถูกพูดถึงและเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลอยู่ ณ เวลานี้สำหรับกรณีของนักแสดงสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่หยิบยืมเงิน ซุง-ศตาวิน นาคทองเพชร อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง และนักธุรกิจใหญ่ เมย์-วาสนา อินทะแสง และยังไม่ได้ชดใช้ ที่ในตอนนี้ประเด็นกำลังเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ยังคงมีเรื่องราวที่ถูกขยายแง่มุมออกไปให้ถูกพูดถึงในประเด็นอื่นๆ ทั้งเรื่องสามีของเธอ การซื้อรถยนต์ รวมถึงแก๊งแบงก์ดอลลาร์ปลอมที่มีชื่อของเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง

ในวันนี้ (21 มีนาคม) ดิวได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อชี้แจงถึงข้อเท็จจริง พร้อมยอมรับผิดกับสิ่งที่เธอทำ และวานให้สื่อนำเสนอแต่สิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น โดยไม่โยงใยไปถึงสามีและลูกๆ ของเธอ

“ในวันนี้เรื่องจริง ดิว ยอมรับผิดทั้งหมด แต่เรื่องไหนที่ไม่จริง ตรงนี้ดิวต้องขอความเป็นธรรม ให้กับครอบครัวดิว และ ตัวดิวด้วยนะคะ ส่วนตัวดิวที่ผ่านมาดิวไม่เคยออกมาต่อว่า โต้ตอบอะไรใดๆ กับสื่อ เพจต่างๆ ใดๆ ทั้งเพจที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน หรือ คนที่คอมเมนต์ ด่าว่าดิวและครอบครัวอย่างรุนแรงเลยสักครั้ง ด้วยเพราะตัวดิวเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำและจุดยืนของตัวเอง อย่างตัวดิวตอนนี้ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในปัญหาที่ดิวก่อ ดิวต้องใช้หนี้ และทำหน้าที่แม่ให้ดี ที่สุดเท่าที่จะทำได้ในวันนี้ต่อลูกๆ ของดิว

“แต่สิ่งที่ดิวอยากจะพูดตรงนี้ คือ ดิวรบกวนและขอร้องให้พี่ๆ สื่อ และเพจต่างๆ ให้ความเป็นธรรมกับดิว และครอบครัวดิวด้วย ดิวอยากขอร้องให้ทุกๆ คนทำหน้าที่ของตัวเองแบบมีคุณภาพ มีข้อมูลจริง และมีจรรยาบรรณที่ถูกตามเหตุผลเรื่องราวจริง และจุดยืนของตัวเองในพื้นฐานและแบบอย่างถูกต้องที่ถูกต้อง ดิวเคารพทุกๆ คนเหมือนเดิม และไม่ขอ โกรธ โทษใคร “เพราะดิวผิดเอง” ดิวเชื่อว่าทุกๆ คนอยากทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรมให้กับสังคมและคนที่เดือดร้อน เช่นเดียวกันในวันนี้ดิวก็ขอความเป็นธรรม ในเรื่องราวที่ไม่จริง เหมือนกับใครต่างๆ ที่ต้องการความเป็นธรรม

“ดิวขอขอบคุณมากๆ ที่เพจออกมาขอโทษจากการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาดและทำให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลจริงแล้วในตอนนี้ และหนูอยากจะบอกพี่ๆ นักข่าว หรือ เพจต่างๆ ว่า ”พี่คะหนูไม่โกรธพี่เลย ไม่ว่าพี่จะเขียนอย่างไรแต่เรื่องที่หนูผิดมันคือตัวหนู พี่อย่าดึง Seb เข้ามาเกี่ยวเพราะเค้าไม่เคยทำอะไรผิดต่อใคร หรือไม่ได้เป็นคนที่ไปทำให้ใครเดือดร้อน แบบหนู และพี่คะหนูรู้ว่าหนูผิดไปแล้ว หนูขอโทษ หนูล้มอยู่พี่ ถ้าพี่จะซ้ำเติมหนูจากเรื่องจริงของหนู หนูไม่เป็นไร แต่อย่าซ้ำเติมหนูจากเรื่องไม่จริง อย่าดึงคนที่ไม่เกี่ยว มาทำร้าย หรือโจมตีเค้าเลยพี่ เค้าไม่ใช่คนในวงการบันเทิง ทุกวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นหนูก็แทบจะไม่มีใครอยู่รอบตัวหนูแล้ว หนูขอร้องพี่ และ อยากขอร้องทุกๆ คนตรงนี้ ว่าอย่าดึงคนเค้าที่ไม่เกี่ยวจากการกระทำผิดของหนูมาทำให้ Seb เค้าต้องเดือดร้อนหรือไม่สบายใจเลย มันคงไม่มีใครอยากโดนแขวนจากเรื่องที่ตัวเค้าเองไม่ได้ก่อ เค้าอยู่ในฐานะคือพ่อของลูกๆหนู เหลือทางเดินให้หนูให้ยังมีที่ยืนกับครอบครัวเล็กๆ ของหนู หน่อยเถอะพี่

“ในวันนี้ดิว อยากบอกว่าดิวขอโทษกับทุกๆ การกระทำของดิว ต่อทุกคน ต่อสังคม ต่อครอบครัว ต่อคนที่ให้โอกาส ต่อคนที่รัก ดิวขอโทษจากใจจริงๆ และ ดิวขอร้องอีกครั้ง อย่าดึงครอบครัวดิว ลูกๆ ดิว หรือ คนอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของดิวมาเกี่ยวเลยนะคะ อย่าเอารูปเขามาโพสต์ เอาครอบครัวเค้ามาโพสต์ หรือ เอารูปลูกหนูมาโพสต์แล้วก็แค่เบลอหน้าลูกหนูเลยนะคะ ดิวจะแก้ไขตัวเอง อะไรที่ผิดดิวจะรับผิดชอบและแก้ไขทุกอย่างให้อย่างดีที่สุด แต่สำหรับเรื่องที่ไม่จริง เห็นใจดิวด้วยนะคะ ใช้วิจารณญาณกับหลายๆ อย่างที่ออกมา ให้โอกาส เปิดใจ และ มองดิวด้วยหลักเหตุผลที่เป็นความจริงด้วยนะคะ

ดิวขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ดิวขอบคุณทุกคนที่ยังให้โอกาสและให้กำลังใจ ดิวขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ที่ยื่นมือช่วยเหลือ และขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ที่ส่งข้อความเป็นกำลังใจให้ดิว ขอบคุณทุกๆ คนที่ดิวกล่าวข้างต้นนี้จริงๆ จากใจค่ะ สุดท้ายดิวอยากขอโทษอีกครั้งที่ ดิว อริสรา คนนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ผิดพลาดและทำให้ใครหลายคนผิดหวัง ดิวจะ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ดิวขอโทษจากใจจริงๆ ค่ะ”

ภาพ: duearisara / Instagram

อ้างอิง:

• https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2034201000412942&id=100014691842081

The post ดิว อริสรา โพสต์ยอมรับผิด พร้อมปรับปรุงตัว ส่วนเรื่องไม่จริงวอนขอความเป็นธรรมให้เธอและครอบครัว appeared first on THE STANDARD.

สรุปไทม์ไลน์ ‘ดิว อริสรา’ ชีวิตพลิกผันจากติดแกลมใช้ชีวิตสุดหรู สู่เป็นหนี้กว่า 62 ล้าน 

The post ชมคลิป: สรุปไทม์ไลน์ ‘ดิว อริสรา’ ชีวิตพลิกผัน แกลมจนติดหนี้ | NEWS DIGEST #137 appeared first on THE STANDARD.

สืบเนื่องจากเรื่องราวของนักแสดงสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่หยิบยืมเงิน ซุง-ศตาวิน นาคทองเพชร อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง และ เมย์-วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจใหญ่ และยังไม่ได้ชดใช้ ซึ่งยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ (20 มีนาคม) ช่วงหนึ่งในรายการ โหนกระแส ของช่อง 3 หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ก็ได้ฝากข้อคิดจากกรณีของดิวไว้ให้แก่แฟนรายการ พร้อมหวังว่าดิวจะสามารมารถกลับมาทำงานในวงการบันเทิงได้อีกครั้ง เพื่อชดใช้หนี้ของเธอให้หมดสิ้น

“สิ่งที่คุณดิวกำลังเป็นอยู่ตอนนี้มันคือวิบากกรรมในสิ่งที่เธอต้องจัดการด้วยตัวเอง แต่ผมอยากจะขอในมุมหนึ่งว่า อย่าไปด่าทอถึงลูกเขาเลย

“สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้เห็นสัจธรรมอย่างหนึ่งคือ คุณจะจนคุณก็มีทุกข์ คุณจะรวยคุณก็มีทุกข์ เพราะทุกข์มันอยู่รอบตัวเราเสมอ สุดท้ายคุณดิวควรมีโอกาสและที่ยืนในสังคมในการกลับมาทำงาน เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้เจ้าหนี้ของเธอ”

ภาพ: kanchai / Instagram

อ้างอิง:

• https://www.youtube.com/watch?v=lqckhO7fjyY

The post “จนก็ทุกข์ รวยก็ทุกข์ ทุกข์อยู่รอบตัวเราเสมอ” หนุ่ม กรรชัย ฝากข้อคิดจากกรณี #ดิวอริสรา appeared first on THE STANDARD.

หลังจากเกิดแฮชแท็ก #ดิวอริสรา ที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ณ เวลานี้ ถึงเรื่องราวของนักแสดงสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่หยิบยืมเงิน ซุง-ศตาวิน นาคทองเพชร อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง และนักธุรกิจใหญ่ เมย์-วาสนา อินทะแสง และยังไม่ได้ชดใช้ ก่อนที่ในวันนี้ (19 มีนาคม) ดิวจะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ โหนกระแส ของช่อง 3 พร้อมบอกเหตุผลในการหยิบยืมเงิน โดยเธอยอมรับว่าใช้เงินเกินตัวและไม่ประมาณการใช้เงินของตัวเองให้ดี

“หนูก็ลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง บางอันมันก็ไม่ได้มีเงินหนู บางอันก็เอาไปทำอีกอย่าง แต่เอาเป็นว่าธุรกิจทั้งหมดที่ดิวทำไม่ได้มีอะไรประสบความสำเร็จเลย

“หนูยอมรับตรงๆ เลยว่าตัวหนูเองก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสังคมที่ใช้เงินเกินตัวหรือเปล่า หรือไม่ประมาณตัวเองจนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ มันถึงจุดที่ต้องยอมรับแล้วว่าเป็นแบบนั้น หนูใช้เงินเกินตัวและไม่ประมาณตัวเอง บวกกับสิ่งต่างๆ ที่หนูทำในชีวิตมันไม่ประสบความสำเร็จด้วย”

ภาพ: duearisara / Instagram

อ้างอิง:

• https://www.youtube.com/watch?v=RJun3Y9ji5k

The post “หนูเองก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสังคมที่ใช้เงินเกินตัว” ดิว อริสรา ยอมรับหลังตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องยืมแบรนด์เนม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 มีนาคม) ที่อาคารรัฐสภา ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม ชี้แจงกรณีปัญหาหนี้สินระหว่าง ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดง โดยยอมรับว่า หลังจากได้มีปัญหากันคราวที่แล้ว ก็มีคุยกันบ้างเรื่องปัญหาชีวิต ที่สำคัญคือเรื่องใช้เงินเกินตัว และหากติดหนี้หรือทำอะไรมาก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ แม้รับรู้ว่าอริสรายืมของจาก วาสนา อินทะแสง หรือ เมย์ แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก

ส่วนกรณีที่อริสราอ้างว่า ได้นำของไปจำนำกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง และผู้ใหญ่อ้างว่ากำลังวุ่นวายอยู่กับการย้ายพรรค ไผ่สวนขึ้นทันทีว่า “ผู้ใหญ่บ้านหรือเปล่า” พร้อมระบุว่าไม่มี ของไม่ได้อยู่กับตนเอง เดี๋ยวความจริงก็จะออกมา เท่าที่ดูในรายการ อริสราบอกว่าของอยู่กับรัฐมนตรี ซึ่งตนเองไม่ได้เป็นรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีการไปค้ำประกันกับผู้ใหญ่แน่นอน

ไผ่ยังยืนยันว่า ไม่รู้จักว่ารัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นใคร ก่อนจะมาให้สัมภาษณ์ก็ได้โทรฯ หาอริสราเพื่อถามว่ารัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้รับสาย ซึ่งถ้ารู้เมื่อไรแล้วจะบอก และต่อไปนี้หากอริสรามาขอความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีให้แล้ว  

จากนั้นไผ่ได้กลับมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกครั้ง หลังได้เดินไปคุยโทรศัพท์ครู่หนึ่ง และได้ยืนยันว่า สร้อยมรกต มูลค่ากว่า 26 ล้านบาทซึ่งมีการอ้างว่าอยู่กับรัฐมนตรีนั้น  รัฐมนตรีที่กล่าวไปไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าธรรม และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีคนนั้นก็ไม่ได้สังกัดอยู่พรรคกล้าธรรม ซึ่งรอเจ้าตัวออกมาพูดเองจะดีกว่า

จากนั้นสื่อมวลชนพยายามสอบถามว่ารัฐมนตรีคนนั้นเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ไผ่ตอบกลับว่าเป็นผู้ชาย

The post ไผ่ชี้แจงกรณี ‘ดิว อริสรา’ อ้างยืมของไปฝากไว้ที่รัฐมนตรีคนหนึ่ง ยืนยันไม่ใช่ธรรมนัส และไม่ได้อยู่พรรคกล้าธรรม appeared first on THE STANDARD.

สภาพแวดล้อมและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปกลายเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่อย่างมาก ไหนจะความกังวลว่าแนวทางการเลี้ยงลูกที่เลือกใช้จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายหรือไม่ ยังต้องใส่ใจความปลอดภัยจากมลพิษ โรคภัย และไวรัสรอบตัวยิ่งมีเรื่องให้ต้องระวังมาก พ่อแม่ยุคใหม่ยิ่งให้ความสำคัญกับการศึกษาที่มาพร้อมกับโลกออนไลน์ คลังความรู้มหาศาลที่พร้อมให้เข้าถึง ทำให้ความนิยมการค้นหาข้อมูลมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเลี้ยงลูกที่ต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายของแต่ละครอบครัว ไปจนถึงการเลือกผลิตภัณฑ์หรือของใช้สำหรับลูกน้อยยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ 

ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแบรนด์เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์ (Bébé Roo Baby Care) ก็เป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่ค้นพบการเลี้ยงลูกสไตล์แม่จิงโจ้ หรือที่เรียกว่า ‘Kangaroo Mom’ เป็นการเลี้ยงลูกให้เติบโตในแบบที่เป็นตัวเอง เล่าถึงแนวทางการเลี้ยงน้องไซลาสและที่มาของการปลุกปั้นแบรนด์เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา 

“แม่สมัยก่อนคุณแม่อาจจะเลี้ยงลูกแบบ Tiger Mom เป็นการเลี้ยงแบบคาดหวัง ต้องการให้ลูกมีทักษะที่เป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ทำให้เด็กเติบโตมาพร้อมความกดดัน แต่ยุคนี้มีแนวทางใหม่เรียกว่า Kangaroo Mom เป็นสไตล์การเลี้ยงลูกที่เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองผิดลองถูก ซึ่งแนวคิดนี้เชื่อว่าหนทางสู่ความสำเร็จของลูก คือเปิดโอกาสให้เขาได้ค้นหาและเรียนรู้จากความล้มเหลว โดยมีแม่เป็นผู้สนับสนุนให้เขาเติบโตในทางที่ลูกเลือก 

“สำหรับดิว ไม่ได้คาดหวังหรือต้องการให้ลูกใช้ชีวิตเพื่อเรา แค่อยากให้เขาเติบโตเป็นคนที่มีความสมดุลทั้งด้าน IQ และ EQ สามารถใช้ชีวิตแบบที่ต้องการได้อย่างมีความสุข ดิวจึงถูกใจกับแนวคิด ‘Kangaroo Mom’ ที่เน้นอิสระให้ลูกได้ค้นหาและทำกิจกรรมที่ชอบด้วยตนเอง โดยพ่อแม่จะไม่เข้าไปบังคับหรือตีกรอบมากจนเกินไป ปล่อยให้ลูกได้ทำผิดพลาดเพื่อการเรียนรู้ แต่มีแม่คอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ เสมอเวลาที่ลูกต้องการ ดิวไม่ได้อยากให้ไซลาสมาเลี้ยงดูดิวในอนาคต เพราะเราดูแลตัวเองได้ อยากให้เขาเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยแนวคิดนี้ต้องเตรียมพร้อมที่จะป้องกันไม่ให้ลูกต้องเผชิญกับอันตรายต่างๆ รวมถึงความสกปรก มลภาวะ ซึ่งจะนำไปสู่การเจ็บป่วยได้”  

แนวคิด Kangaroo Mom ยังเป็นแรงบันดาลใจให้การตั้งชื่อแบรนด์ ‘เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์ (Bébé Roo Baby Care)’ และโลโก้แบรนด์ที่มีแม่จิงโจ้กำลังอุ้มลูกที่อยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง ทะนุถนอมลูกน้อย ก่อนจะปล่อยให้เผชิญโลกกว้างได้เต็มที่เมื่อถึงเวลา

ดิวเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กว่า “การตัดสินใจทำแบรนด์สินค้าสำหรับเด็กในยุคนี้คือความท้าทาย เพราะอัตราการเกิดของเด็กในช่วงหลายปีมานี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน คนที่ตัดสินใจมีลูกก็เป็นคนที่อยู่ในนิยามของคำว่า ‘มีลูกเมื่อพร้อม’ คือคนกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) หรือในกลุ่ม Gen Y ซึ่งรวมถึงตัวเราเอง ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีพฤติกรรมในการวางแผน ชื่นชอบในการศึกษาและแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ที่จะตอบโจทย์การดูแลลูกน้อยอย่างแท้จริง เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามคุณสมบัติ ‘ดีที่สุด และจับต้องได้’ นั่นทำให้ดิวมองเห็นโอกาส ซึ่งไม่ใช่แค่โอกาสทางธุรกิจอย่างเดียว เราเห็นโอกาสที่มันซ่อนตัวอยู่ในความไม่ปกติของสภาพแวดล้อมในยุคปัจจุบัน โลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ เชื้อโรค และไวรัส ทำให้คุณพ่อคุณแม่ยุคนี้กังวล จะพาลูกออกนอกบ้านก็กลัวจะแพ้ฝุ่น แพ้อากาศ จึงต้องสรรหาสิ่งที่มาปกป้องลูกให้มากที่สุด

“ปกติแล้วเวลาจะซื้อของใช้ให้กับไซลาส ดิวจะทำการบ้านหาข้อมูลหนักมาก ต้องเป็นของใช้ที่ดีที่สุด สั่งจากต่างประเทศ รอนานแค่ไหนก็จะรอ ราคาเท่าไรก็ยอมจ่าย บางทีค่าน้ำหนักยังแพงกว่าตัวสินค้า เพราะถ้าเป็นของดีก็พร้อมซื้อ จนเรามีคำถามกับตัวเองว่า ทำไมยังไม่มีผลิตภัณฑ์แบบนี้ในเมืองไทยที่ตอบโจทย์สิ่งที่เราต้องการจริงๆ เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการลองทำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกในสไตล์เดียวกับเรา ปล่อยให้ลูกได้ค้นหาสิ่งที่ชอบ และเรียนรู้เรื่องราวใกล้ตัวผ่านการหยิบจับสิ่งของต่างๆ เพื่อสร้างพัฒนาการทั้งด้านความคิด และเติบโตสมวัย แต่อย่างที่บอกไป ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะป้องกันไม่ให้ลูกต้องเผชิญกับอันตรายต่างๆ รวมถึงความสกปรก มลภาวะ ซึ่งจะนำไปสู่การเจ็บป่วยได้ จึงเป็นที่มาของคอนเซปต์ #แม่ไม่ยอม ปล่อยผ่านไม่ได้ ดูแลไม่แพ้ใคร”

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Bébé Roo Baby Care ประกอบไปด้วย 5 ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลและบำรุงผิว ได้แก่ 

• Bébé Roo Head to Toe Hair & Body Wash สบู่เหลวอาบน้ำ และแชมพูสระผมที่มีความอ่อนโยน
• Bébe Roo Body Lotion โลชั่นถนอมผิวเด็กเนื้อเข้มข้น ที่มอบความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
• Bébe Roo 3 in 1 Baby Balm ผลิตภัณฑ์ 3 in 1 เบบี้บาล์ม ลดรอยแดงจากยุงกัด ผื่นผ้าอ้อม และผิวแห้ง
• Bébé Roo Baby Wet Wipes ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวแบบเปียก ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม
• Bébé Roo Hygiene Wipes ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวแบบเปียก สูตรแอลกอฮอล์ Food Grade สำหรับลดการสะสมของเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อราทุกชนิด
  

ดิวบอกว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย เพราะมีการคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน และทำงานร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

“เราส่งผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นเข้าไปตรวจสอบที่แล็บของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกอย่างได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยจริง และให้ความสำคัญไปที่การดูแลแบบ 3S คือ Sooth ผลิตภัณฑ์ที่ปลอบประโลมผิวลูกน้อย Safe เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย และ Screen คัดมาแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย”

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Bébé Roo Baby Care อยู่ที่สารสกัดจากธรรมชาติที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เซนเซีย แคโรต้า (Sensia Carota) สารสกัดจากแครอต เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Bébé Roo Baby Care ช่วยปลอบประโลมและปกป้องผิวบอบบางเสมือนผิวหนังชั้นที่ 2 มอบความชุ่มชื้นและปรับจุลินทรีย์ในผิวให้อยู่ในภาวะสมดุล โพลูสตอป (PolluStop) ช่วยปกป้องผิวหนังและชำระสิ่งสกปรกจากมลภาวะ ไฮโดรมานิล (Hydromanil) สารสกัดธรรมชาติจาก ‘ต้นทาร่า’ ผสานเทคโนโลยี 3D-Matrix มอบความชุ่มชื้นให้ผิวทันที ลดอาการผิวหลุดลอก เซนเซอรีน (Senseryn) สารสำคัญจาก ‘ออร์แกนิกฮอบส์’ ที่อุดมไปด้วยสาร Polyphenol มีคุณสมบัติจับกับ Bitter Taste Receptor (T2Rs) กระตุ้นการสร้าง Antimicrobial ลดการอักเสบและรอยดำ ปกป้องและฟื้นฟูผิวแพ้ง่ายให้กลับมาแข็งแรง และ ดีเฟนซิล พลัส (Defensil Plus) สารสกัดจากสามทหารเสือแห่งธรรมชาติ Blackcurrant, Ballon Vine และต้นทานตะวัน ช่วยลดการอักเสบ ลดระคายเคือง และผื่นผิวหนังจากการอักเสบ 

“ดิวตั้งเป้าว่าแบรนด์เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์ จะพัฒนาไปตามการเติบโตของน้องไซลาส เพราะสินค้าทุกชิ้นเราใช้กับลูกเราจริงๆ และกลุ่มเป้าหมายของดิวก็ค่อนข้างชัดเจน เป็นคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่เลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก ความท้าทายอาจเป็นช่วงเริ่มต้นที่เพราะเป็นแบรนด์ใหม่ต้องสร้าง Brand Awareness ควบคู่ไปกับการทำตลาดและนำสินค้าเข้าระบบ Modern Trade ตอนนี้จึงเน้นไปที่การสร้างกระดูกสันหลังของแบรนด์ให้แข็งแรง พร้อมๆ กับให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ

“เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ทุกคนต้องการสินค้าที่ดีมีคุณภาพดีในราคาเข้าถึงได้ ยิ่งเขาได้หาข้อมูลและรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราเกิดขึ้นจากความตั้งใจทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ใส่ใจทุกรายละเอียด ก็น่าจะเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์พ่อแม่ยุคใหม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ” 

หาซื้อผลิตภัณฑ์ Bébé Roo Baby Care ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านขายยาชั้นนำ เช่น Gourmet market, Villa market, Foodland, Tops, LAB Pharmacy, Fascino ร้านขายของแม่และเด็ก หรือออนไลน์ทาง Lazada และ LINE Shopping, LINE@: @beberoobabycare 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Bebe Roo Baby Care 

The post คุยกับ ดิว อริสรา ในบทบาทซีอีโอแบรนด์ ‘Bébé Roo Baby Care’ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก เจาะกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่กับการดูแลที่ไม่แพ้ใคร [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

ไผ่ ลิกค์ เผยสาเหตุที่ดิวถูกทำร้ายจากที่รับทราบ ยืนยัน “วันนี้เรื่องไปไกลกว่าที่ ดิว คาดแล้ว”

ชมคลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://thestandard.co/video/

The post ชมคลิป: ไผ่ ลิกค์ เผยสาเหตุที่ดิวถูกทำร้ายจากที่รับทราบ ยืนยันวันนี้เรื่องไปไกลกว่าที่คาดแล้ว | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

เปิดใจ ‘ผกก.สน.ทองหล่อ’ ลูกน้องตรวจร้าน ‘ดิว อริสรา’ บังเอิญ หรือมีแอบแฝง?

ชมคลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://thestandard.co/video/

The post ชมคลิป: เปิดใจ ‘ผกก.สน.ทองหล่อ’ ลูกน้องตรวจร้าน ‘ดิว อริสรา’ บังเอิญ หรือมีแอบแฝง? | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

คุยกับ พ.ต.อ. พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ และ ไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย

พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD

The post ชมคลิป: จาก ‘ดิว อริสรา’ ถึง ‘มาเก๊า 888’ ทำร้ายร่างกาย-แรงแค้น-การเปิดโปง | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมาอย่างหนักในโลกโซเชียลนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ในกรณีของ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดงชื่อดัง ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ในประเทศไทยที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน พร้อมแนะนำให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ จนเกิดเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล ที่ต่างคาดเดาว่า เบนซ์-ชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร อดีตคนรักของดิวเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องราวที่ดิวได้ออกมาเล่าครั้งนี้ ส่งผลให้แฮชแท็ก #ดิวอริสรา ยังคงติดเทรนด์ใน Twitter อย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวนี้มากขึ้น THE STANDARD POP ได้สรุป 7 ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

1. วันที่ 15 มกราคม 2566 ดิวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงครอบครัวหนึ่งที่เป็นเจ้าของเว็บพนันใหญ่ในประเทศไทยอย่าง มาเก๊า888 ซึ่งในครอบครัวนี้มีพี่น้องชื่อตัวอักษร บ. ทั้ง 4 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน และคาดว่าจะมีคนในวงการเว็บพนันมากมายเข้าร่วมพิธี โดยดิวได้เล่าถึงธุรกิจนี้ว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และฝากให้ตำรวจช่วยเข้าตรวจสอบ โดยมีใจความว่า 

“อะ…บ้านทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ ‘มาเก๊า888’ มีพี่น้อง 4 คนผู้ชายหมด

ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก เพิ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคมที่จะถึง…คาดว่าวงการเว็บพนันออนไลน์น่าจะไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า…และมีคนมีชื่อเสียงร่วมงานเยอะ สายสืบ-ตำรวจใดใดทำงานด้วยค๊าบ มีข้อมูลอยู่แล้ว อยากรวบใคร รวบเลย! ฝากนักสืบและผู้มีประสบการณ์ทำงานด้วยค๊า ปล. ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรก ไม่ขาว ผิดกฎหมาย และกล้าจัดงานใหญ่โตในขณะที่คนอื่นโดนจับกัน โชว์ความรวยที่ได้มาจากเว็บพนันที่หลอกเงินคนไทย หุหุ #ตำรวจไทยเก่งที่สุด #ทำคดีอื่นแล้วฝากคดีนี้ด้วยค๊าพี่ตำรวจ”

2. จากการโพสต์ข้อความดังกล่าวของดิว ส่งผลให้ครอบครัว 4 บ. ได้แก่ เบนซ์-ชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร, บอส-เอกชัย ขจรบุญถาวร, บิ๊ก-กิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร และ ไบร์ท-คุณากร ขจรบุญถาวร ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยการปิดการใช้งานบัญชีโซเชียลทั้งหมด และเดินทางออกนอกประเทศไปยังฮ่องกง จากการที่ผู้คนต่างสงสัยและคาดเดาว่าครอบครัวที่ดิวได้เล่านั้นหมายถึงครอบครัวนี้ โดยหนึ่งในครอบครัว 4 บ. อย่างเบนซ์ก็เป็นอดีตคนรักของนักแสดงสาวนั่นเอง ซึ่งบิ๊กคือผู้ที่กำลังจะจัดพิธีแต่งงาน และได้เลื่อนการจัดออกไปก่อน

3. ตำรวจไซเบอร์ได้เข้าตรวจสอบหลังจากทราบข้อมูลดังกล่าว และพบว่าเว็บพนันมาเก๊า888 นั้นปิดไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่ได้มา ทั้งข้อมูลจากดิวและหลักฐานต่างๆ ที่พบนั้นยังไม่เพียงพอที่จะออกหมายจับครอบครัวนี้ได้ แต่ทางตำรวจไซเบอร์ยืนยันว่าจะตรวจสอบและกวาดล้างเว็บพนันออนไลน์ทั้งหมดต่อไป ซึ่งในวันที่ 24 มกราคม 2566 ดิวก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีใจความว่า 

“4 บ. บินต่างประเทศครบ! รอเคลียร์เรื่องจบและบินกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมสินะ…หมายเหตุ* บ. ที่เป็นตำรวจลางานได้นานขนาดนั้นเลยเหรอ ปกติตำรวจลาได้มากสุด 15 วัน ได้ข่าวลาไป 10 กว่าวันแล้ว…พี่ตำรวจ บ. เที่ยวเก่ง! ตำรวจที่ไม่ใช่ตำรวจ ตำรวจที่ไม่ต้องทำงาน ตำรวจที่ขับแลมโปไปทำงาน เอ๊อออออ เลิศอ่า เชื่อมั่นในตำรวจไทย (ที่ไม่ใช่คนนี้) สังคมรอ และ ติดตามอยู่นะคะ”

4. เรื่องราวยังคงร้อนระอุและเป็นที่พูดถึงในสังคมอย่างต่อเนื่อง จนมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้รายงานข่าวของดิวผ่านทางรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ก่อนกล่าวถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าดิวเคยถูกหนึ่งในกลุ่มบุคคลในครอบครัวนี้ทำร้ายร่างกายในช่วงที่คบหากันอยู่ โดยมีใจความสำคัญว่า

“เท่าที่ทราบมา เหมือนกับว่าครั้งหนึ่งคุณดิวเองเคยถูกบุคคลหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับในข่าวนี่แหละทำร้ายร่างกาย ในครั้งนั้นที่มีการคบหากันอยู่ แล้วมันมีประเด็นว่าในช่วง 3 ปีก่อน วงการบันเทิงจะรู้ดีว่าดิว อริสรา ชอบเทงาน ไม่ไปทำงาน ถึงได้ทราบในวันนี้ว่าเธอหายไปเพราะเธอไปทำงานไม่ได้ เพราะถูกทำร้ายร่างกาย นั่งกินข้าวเฉยๆ วันดีคืนดีก็มีคนเอามาม่าต้มร้อนๆ เทใส่หัว เอาคุณดิวไปขัง เอาอาวุธปืนยิงใส่ประตูแล้วคุณดิวหลบ และผมเชื่อว่าวันที่คุณดิวถูกทำร้ายร่างกายนั้นมีพยานหลักฐาน ซึ่งดิวเองอาจยังไม่เคยเปิด ต้องติดตามกันต่อไป”

5. หากย้อนกลับไปในช่วง 3 ปีก่อน (ปี 2563) ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดงสาวมากความสามารถคนนี้มักจะมีภาพจำและมีข่าวคราวที่รายงานเรื่องราวของเธอมากมายเกี่ยวกับลักษณะนิสัยในการทำงานของเธอที่มักจะมาทำงานไม่ตรงตามเวลามากนัก โดยเธอมักลางานและหายตัวไปจากการทำงานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจากหลักฐานและการบอกเล่าเรื่องราวจาก หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ทำให้ผู้คนต่างเห็นใจและสามารถเข้าใจได้ว่าการที่ดิวกระทำเช่นนั้น เหตุผลหนึ่งอาจมาจากการที่เธอเคยถูกอดีตคนรักอย่าง เบนซ์-ชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หนึ่งในบุคคลในครอบครัว 4 บ. ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างหนักจนไม่สามารถมาทำงานได้

6. ในวันนี้ (8 กุมภาพันธ์) ดิวได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมน้ำตา จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีกระแสตีกลับบางส่วนว่า การที่ดิวออกมาแฉครอบครัวนี้เพราะต้องการแบล็กเมลเพื่อเอาเงินมาช่วยสามีของเธอที่ทำธุรกิจเดียวกัน เธอเลยได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวนี้ โดยกล่าวว่าเธอต้องการที่จะเป็นตัวแทนของผู้หญิงหลายๆ คนที่เคยโดนทำร้ายและไม่รักตัวเอง มันจะทำให้เรามีแผลติดในใจเราไปตลอดเช่นเดียวกับเธอ จากการที่เคยโดยทารุณกรรม ละเมิดร่างกายและจิตใจ ก่อนเปิดเผยภาพที่ตนเองเคยถูกทำร้าย และเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีใจความบางส่วนว่า

“ดิวขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการโพสต์ของดิวด้วย ตอนนี้ครอบครัวดิวได้ใช้ชีวิตปกติที่ไต้หวัน จนมีอยู่คืนหนึ่งหลังจากอยู่ไต้หวันไม่นาน ดิวได้ยินว่าคนหนึ่งในครอบครัวนั้นคือบิ๊กเพิ่งมีการหมั้นและกำลังจะแต่งงาน พอดิวรู้ ความทรงจำร้ายๆ ต่างๆ ที่เคยมีมันก็ผุดขึ้นมา มันเหมือนกับสิ่งต่างๆ ที่ดิวพยายามลืม พยายามกลืนไปตลอดในความทรงจำที่บ้านนี้ทำกับดิวมันก็ค่อยๆ ตีกลับขึ้นมา จนทำให้ดิวได้มีการโพสต์อะไรแบบนั้นลงไป ดิวเคยคบกับแฟนเก่า ดิวเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนทำร้ายร่างกายหลายครั้งตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ดิวโดนคนชื่อเบนซ์ที่อยู่ในครอบครัวนี้ทำร้ายมาโดยตลอดทั้งร่างกายและจิตใจ มันเป็นแผลในใจดิวที่ใหญ่ มันเป็นสิ่งที่ติดในใจเรา ในสิ่งที่เราเคยโดนและสิ่งที่เราได้รับ

“ในขณะที่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ตัวบิ๊กเองรับรู้อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนในครอบครัวเขาก็อยู่ แต่ไม่เคยมีใครยื่นมือมาช่วยเหลือดิวเลยสักคน ดิวโดนเอามาม่าใส่หัวแบบร้อนๆ เลยนะคะ ไม่มีใครห้ามหรือช่วยดิวเลยสักคน ซึ่งดิวไม่ได้ไตร่ตรองหรือคิดว่าสุดท้ายแล้วการที่ดิวโพสต์มันจะมีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดิวคิดและทำไป มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ดิวออกมาเปิดโปงมาเก๊า888

“ส่วนประเด็นเงินต่างๆ ที่บางกระแสพูดว่าทำไม เพราะดิวแบล็กเมลหรือเปล่าเลยมาทำแบบนี้ จริงๆ ดิวมีเอกสารข้อมูลอยู่กับตัวอยู่แล้ว และอะไรก็ตามที่ดิวอยากได้ แต่ดิวตอบกลับไปเป็นสิ่งที่ความเจ็บปวดที่ดิวเคยมีทั้งหมดจากบ้านหลังนี้แค่นั้นเลย ไม่ได้เรียกร้องเงินหรืออะไรเลย ทำไมเขาถึงอยู่ได้อย่างมีความสุขตลอดมา ในเมื่อที่ผ่านมาดิวหมดศรัทธาในชีวิต และต้องอยู่อย่างหวาดกลัวจากแผลเป็นในใจของดิว ทำไมดิวถึงต้องไปหาหมอ กินยา เพราะนอนไม่หลับทุกคืน แต่ในวันนี้ดิวขอไม่ใช่คนนั้นอีกต่อไป ดังนั้นหลังจากนี้ดิวจะให้ทนายความของดิวตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาและข้อจำกัดทางกฎหมาย ในเรื่องการโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจนะคะ”

7. จากมหากาพย์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ เบนซ์-ชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หนึ่งในบุคคลในครอบครัว 4 บ. และอดีตคนรักของดิว จะส่งทนายความเข้าพบตำรวจไซเบอร์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อขอทราบแนวทางการเข้ามอบตัว และสามารถที่จะยื่นประกันตัวได้หรือไม่ โดยเบนซ์รวมถึงน้องชายอีก 3 คน จะต้องเดินทางออกจากฮ่องกงเพื่อกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามระยะเวลาของวีซ่า

กรณีระหว่างดิวและกลุ่มบุคคลเจ้าของธุรกิจมาเก๊า888 เป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวและมีข้อมูลสำคัญเพิ่มขึ้นมามากมาย ทั้งการทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส และการถูกทำร้ายร่างกายของดิว จนเกิดเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสังคม

ประเด็นดังกล่าวยังคงต้องใช้เวลาในการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบต่อไป โดยผู้ที่ติดตามข่าวในกรณีนี้ก็ยังคงต้องติดตามบทสรุปของความจริงจากเรื่องนี้กันต่อในอนาคต

อ้างอิง:

• https://web.facebook.com/100014691842081/videos/2929978260469896/ 
• https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1527783514388029&id=100014691842081&_rdc=1&_rdr 
• https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1533407563825624&id=100014691842081&_rdc=1&_rdr 

The post สรุป 7 ประเด็น #ดิวอริสรา ปมประเด็นร้อน มาเก๊า888 appeared first on THE STANDARD.