วันนี้ (24 ตุลาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เดินทางไปยังจุดชมวิวดอยสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าของการเข้าสู่ช่วง ฤดูหนาว ของประเทศไทย

ทั้งนี้ พบว่าท้องฟ้ากลางเมืองเชียงใหม่ปกคลุมด้วยเมฆ มีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาเบาๆ อากาศเย็นสบาย มีลมหนาวพัดอ่อน สร้างความสดชื่นให้กับนักท่องเที่ยวและช่างภาพที่มารอบันทึกภาพยามเช้าเป็นอย่างดี

ในวันนี้แม้จะมีเมฆมากแต่ก็มีความสวยงามด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้าลอดผ่านกลุ่มเมฆลงมาเป็นริ้วสีทอง ทาบผ่านแนวเทือกเขา และพื้นที่ด้านล่างเป็นแห่งๆ ซึ่งถือเป็นความงดงามของธรรมชาติที่เป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศเมื่อเวลา 07.00 น. จากรายงานสภาพอากาศทั่วไปของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่า บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่พบว่ามี ทัศนวิสัย 10 กิโลเมตร ความเร็วลม16 กม./ชม. ความชื้น 65% อุณหภูมิ 25.6 องศาเซลเซียส

The post เมืองเชียงใหม่ต้นฤดูหนาว ลมหนาวพัดอ่อนๆ พร้อมฝนโปรยปราย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (23 กันยายน) เมื่อเวลา 10.58 น. เฟซบุ๊กอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวเนื่องด้วยเหตุอุทกภัย โดยระบุว่า แจ้งปิดน้ำตกแม่สาและน้ำตกตาดหมอก วันที่ 23 กันยายน 2567 เตือนประชาชนในท้องที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ เนื่องจากฝนตกหนัก

เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, แพร่, น่าน, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, ตาก, เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร และนครพนม

อ้างอิง:

• เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

The post ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เตือนประชาชนในพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ระวังน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 กันยายน) เมื่อเวลา 10.37 น. Facebook อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แจ้งปิดน้ำตกแม่สา และน้ำตกตาดหมอก พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก

ระบุว่า “แจ้งปิดน้ำตกแม่สา และน้ำตกตาดหมอก เตือนประชาชนในท้องที่ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ เนื่องจากฝนตกหนัก เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

“ทั้งนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด”

อ้างอิง: 

• Facebook อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย 

The post อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา-ตาดหมอก พร้อมแจ้งเตือนประชาชน ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ระวังน้ำป่าไหลหลาก appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (14 เมษายน) ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปบริเวณพระธาตุได้แวะซื้อ จำนวน 140 ใบ โดยเป็นการให้แม่ค้าหยิบแบบสุ่มให้ ก่อนจะขึ้นไปบนวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเพื่อประกอบพิธี ไหว้พระธาตุ และทำบุญ สรงน้ำพระเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ทักษิณได้พบปะสนทนาธรรมกับพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พร้อมกล่าวกับทักษิณว่า “ขอให้ใจเย็นๆ นั่งพักผ่อนให้สบายๆ มาครั้งที่แล้วมีเวลาไม่นาน ครั้งนี้อยากให้นั่งพักนานๆ ซึ่งเงินที่ทักษิณเคยถวายไว้ครั้งก่อน ได้เอาไปทำบุญบูรณะบริเวณวัดแล้ว หลังจากมีพายุเข้าช่วงหลังจากที่ทักษิณกลับไป ถือว่าเงินทำบุญครั้งนั้นจะทำให้ครอบครัวของทักษิณมีความเจริญรุ่งเรือง”

จากนั้นทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้มีพรรคพวกชวนตนเองไปดูคอนเสิร์ต ตนก็จะไปดูว่าชีวิตของคนเชียงใหม่กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างไร เวลามาเที่ยวสงกรานต์แล้วสนุกสนานแบบไหน ตนจะได้เข้าใจเขามากขึ้น ตนห่างประเทศไทยไปนาน ก็ขอไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น พร้อมยืนยันว่าขณะนี้อาการป่วยของตนดีขึ้นมาก ได้กลับมาอยู่บ้านภาวะจิตใจก็ดี ความพร้อมในการออกกำลังกายให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีมากขึ้น อยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ออกมามักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร ป่วยก็อยากจะหาย หวังว่าคนที่วิจารณ์ตนเวลาเจ็บป่วย เขาก็คงอยากหายเหมือนตน เราก็ควรจะดีใจ อย่าไปซ้ำเติมเขา

ทักษิณกล่าวถึงการกลับมาเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ในรอบ 18 ปีว่า “รู้สึกม่วนอกม่วนใจ๋ จิตใจสบาย สงบ เพราะกลับมาแล้วก็อยากสงบ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย และการขอพรในวันนี้ เมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมก็สักการะด้วยความเคารพบูชา จะไม่ค่อยเรียกร้องอะไร เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว พระเจ้าลิขิตไว้แล้วว่าจะมีอะไร”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เป็นวันครอบครัว เมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวรู้สึกอย่างไร ทักษิณกล่าวว่า อบอุ่น เจอคนไทย ประเพณีและวัฒนธรรมไทย อาหารไทย พี่น้องเพื่อนฝูง สื่อมวลชนคนไทย ก็มีความสุข ดีกว่าอยู่เมืองนอกเยอะ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มาสงกรานต์ที่เชียงใหม่เช่นนี้ คิดถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เนื่องจากปกติในเทศกาลสงกรานต์จะอยู่ด้วยกัน ทักษิณกล่าวว่า “นายกฯ ปูอวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวปีหน้าเรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯ ปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เป็นข่าวดีใช่หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตอนที่ตนจะเดินทางกลับก็มีความมุ่งมั่นว่าอยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่ากลับอย่างไร เมื่อไร ซึ่งก็คิดแต่วันแรกที่ออกไปว่าจะต้องกลับให้ได้ เมื่อไรก็ไม่รู้ และยิ่งลักษณ์อยากกลับอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยิ่งลักษณ์บ่นเหงาบ้างหรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ก็มีบ้าง แต่ต่างคนต่างมีภารกิจเกี่ยวกับบ้านเมือง ยิ่งลักษณ์ก็ห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกัน ก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเราเป็นรัฐบาล ก็ให้ความเห็น ส่วนจะกลับมาช่องทางไหนนั้นยังไม่ทราบ เอาความตั้งใจก่อน และในส่วนยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนของตน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยิ่งลักษณ์จะกลับมาภายในปีนี้หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะอย่างไร เดี๋ยวดูเหตุการณ์ก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นเดือนตุลาคมปีนี้ใช่หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตั้งใจ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลับมาสองคนกังวลว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ทุกอย่างมีเหตุผล อยากวิจารณ์ก็วิจารณ์ไป แต่เราต้องมีเหตุผลของเรา ตอบสังคมส่วนใหญ่ได้ สังคมส่วนน้อยก็มีบ้างเป็นธรรมดา ไม่มีใครพอใจ แม้กระทั่งบางคนอยู่บ้านเดียวกันพ่อแม่ลูก บางทีลูกทำอะไรพ่อแม่อาจไม่พอใจ เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีข้อยุติร่วมกันทั้งหมด

The post ทักษิณขึ้นดอยสุเทพ พร้อมซื้อหวย 140 ใบ บอกให้รอฟังข่าวดี สงกรานต์ปีหน้า ‘ยิ่งลักษณ์’ ได้กลับบ้านทำบุญด้วยกัน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (30 ธันวาคม) ทีมช่างภาพ THE STANDARD เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 บริเวณถนนห้วยแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น วังบัวบาน, น้ำตกมณฑาธาร, วัดผาลาด (สกทาคามี), วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, ​พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์, บ้านม้งดอยปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรบริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมีปริมาณรถหนาแน่นเป็นระยะ ได้แก่ บริเวณลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย, หน้าวัดผาลาด (สกทาคามี), บริเวณจุดชมวิวที่ 1 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีรถที่ขึ้นสู่ดอยสุเทพเป็นจำนวนมาก และทำให้การจราจรติดขัดเนื่องจากผู้ขับขี่ไม่มีความชำนาญ รถหลายคันจึงต้องจอดพักก่อนจะเดินทางต่อ 

อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมีรถติดยาวตั้งแต่โค้งขุนกัน ชนะนนท์ และด้วยรถที่มีจำนวนมากทำให้ลานจอดรถทั้ง 3 จุดที่รองรับรถได้กว่า 300 คันเต็ม ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารต้องจอดรถอยู่บริเวณไหล่ทางทั้ง 2 ด้านแทน 

ทั้งนี้ แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้ามาอำนวยความสะดวก แต่ด้วยปริมาณรถจำนวนมากจึงสามารถระบายรถได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น

The post เชียงใหม่คึกคัก นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นดอยสุเทพ ทำรถติดยาวและการจราจรติดขัด appeared first on THE STANDARD.

เมื่อคืนวานนี้ (26 ธันวาคม) ช่างภาพ THE STANDARD ได้เข้าบันทึกภาพการจัดกิจกรรม ‘งานประเพณีสามเป็ง เพ็ญเดือนสามล้านนา บูชาพระธาตุแสงจันทร์’ ที่จัดขึ้นบริเวณพระธาตุแสงจันทร์ ภายในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 

โดยภาคีเครือข่ายชุมชนตำบลสุเทพ, เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, สำนักศิลปากรที่ 7 และศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ร่วมกันจัดขึ้น 

และยังถือเป็นการทำบุญเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยมีชาวบ้าน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานจำนวนมาก 

ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการจุดผางประทีป ประดับโคมบูชา และมีการสวดมนต์ ฟังเทศน์ ก่อนที่ผู้เข้าร่วมงานจะเวียนเทียนร่วมกัน และยังมีการตักบาตรเป็งปุ๊ดเพื่อบูชาพระอุปคุต ซึ่งนอกจากจะเป็นการฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่และมีความยั่งยืนทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบ Soft Power และเป็นการยกระดับอัตลักษณ์และเชิดชูวัฒนธรรมล้านนา 

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนี้เป็นต้นแบบการจัดงานของชุมชนที่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว จากการสร้างอัตลักษณ์ ชูวัฒนธรรมที่โดดเด่น ในรูปแบบงานเทศกาลท้องถิ่น หรือเฟสติวัลชุมชน แห่งแรกของประเทศ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุลงในปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี เพราะถือเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและมีความหมาย โดยงานจะมีถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 

สำหรับพระธาตุแสงจันทร์ เป็นโบราณสถาน Unseen ของล้านนา มีอายุกว่า 500 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่เชิงดอยสุเทพที่ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดเชียงใหม่ มีความเจริญรุ่งเรืองในทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในสมัยพญากือนา กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงโปรดให้อาราธนาพระสุมนเถระจากกรุงสุโขทัยมาประดิษฐานพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในล้านนา และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานบนดอยสุเทพ พระธาตุแสงจันทร์แห่งนี้จึงเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิต อัตลักษณ์ จิตวิญญาณ และมนต์เสน่ห์

The post ร่วมอนุรักษ์ประเพณี ‘สามเป็ง’ ผลักดันเป็น Soft Power ยกระดับอัตลักษณ์และเชิดชูวัฒนธรรมล้านนา appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (31 กรกฎาคม) เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ป่า พร้อมทั้งติดตามดูความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่มีการนำกล้าไม้ปลูกในบริเวณพื้นที่หมู่บ้านป่าแหว่งที่อยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากส่งมอบพื้นที่มานานกว่า 1 ปี โดยมี ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ, ลักขณา ศรีหงส์ พร้อมทั้งสมาชิกเครือข่ายฯ, นักศึกษาและประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนั้นยังมีการผูกผ้าสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ในบริเวณหมู่บ้านป่าแหว่งอีกด้วย 

สำหรับสภาพโดยทั่วไปของหมู่บ้านป่าแหว่งนั้นพบว่าไม่มีระบบน้ำและไฟฟ้าภายในพื้นที่ ตัวบ้านถูกปิดและมีสภาพทรุดโทรมจากเดิม โดยมีต้นไม้ วัชพืชปกคลุมทั้งบริเวณตัวบ้านและถนนภายในหมู่บ้าน แต่มองจากด้านนอกยังเห็นโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ภายในบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวน 2 คน ดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ธีระศักดิ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากปลูกต้นไม้ ภายหลังกรมธนารักษ์ได้รับมอบพื้นที่คืนจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยสภาพทั่วไปพบว่าต้นไม้ที่ปลูกเจริญเติบโตปกคลุมบ้านจนเกือบเต็มพื้นที่ แต่ยังไม่มีการขนย้ายหรือรื้อถอนครุภัณฑ์ภายในบ้านพักเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของมณฑลทหารบกที่ 33 ส่วนตัวอาคารบ้านพักต้องรอให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วมีมติให้ดำเนินการรื้อถอนได้ ก็จะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ ก่อนจะเข้าไปปลูกป่าบนพื้นที่ 85 ไร่ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาคารชุดจำนวน 9 หลังนั้น ขณะนี้ยังพบว่ามีผู้อยู่อาศัย ทางเครือข่ายฯ จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 5 แต่ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ทราบเพียงแต่ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 5 กำลังดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ทหารบริเวณใกล้เคียง เพื่อก่อสร้างที่พักอาศัยทดแทนอาคารชุดจำนวน 9 หลังเท่านั้น

The post เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพสำรวจบ้านป่าแหว่ง ลุ้นรัฐบาลใหม่มีมติ ครม. ให้รื้อถอน appeared first on THE STANDARD.

หลังจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่มีความรุนแรงมายาวนานต่อเนื่อง ทำให้ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนได้มีการขับเคลื่อนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 

โดยในช่วงเช้าของวันนี้ (28 มีนาคม) หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, สภาลมหายใจเชียงใหม่, กองบิน 41, สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์, ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่, กองการสื่อสาร กรมการปกครอง, โรงเรียนบ้านโป่งน้อย และวัดผาลาด ร่วมจัดกิจกรรม ‘ภาคีร่วมใจ Kick Off ป้องกันหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5’ ขึ้น ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี สิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม

สุรเชษฐ์ ตาคำมา กำนันตำบลสุเทพ เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เกิดขึ้น จึงได้มีการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ตำบลสุเทพ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งมีมติจัดกิจกรรมภาคีร่วมใจ Kick Off ป้องกันหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ขึ้นในวันนี้ เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาและหาแนวทางป้องกันหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา 

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีการทอดผ้าป่าต้นกล้วยจำนวน 300 ต้น เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ เพิ่มความชุ่มชื้นของดิน อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นกิจกรรมของภาคประชาชนในพื้นที่ตำบลสุเทพ และทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรอีกด้วย 

ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ

The post ภาครัฐจับมือประชาชน Kick Off ปลูกกล้วย-ทำแนวกันไฟป่าเชิงดอยสุเทพ หวังหยุดปัญหา PM2.5 ระยะยาว appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (12 มีนาคม) ตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00-15.00 น. ช่างภาพข่าว THE STANDARD ได้นำอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ขึ้นบินเก็บภาพบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละออง PM2.5 เต็มพื้นที่ จนบดบังทัศนียภาพของเมืองและสถานที่สำคัญ

โดยช่างภาพเลือกสำรวจใน 3 จุด ประกอบด้วย สะพานยกระดับดอนจั่น ใกล้แยกข่วงสิงห์ และริมสะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทั้ง 3 บริเวณนี้หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติที่ไม่มีการสะสมของฝุ่น PM2.5 จะสามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้ชัดเจน แต่วันนี้กลับมองไม่เห็นแล้ว

รายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 จากเว็บไซต์ IQAir พบว่าเวลา 15.00 น. เมืองเชียงใหม่มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก อยู่ที่ 186 US AQI (ดัชนีคุณภาพอากาศตามมาตรฐานของ US-EPA 2016 standard) สารมลพิษหลักคือ PM2.5 ปริมาณ 123.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ความเข้มข้นเป็น 24.6 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก

สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

DCIM100MEDIADJI_0370.JPG

DCIM100MEDIADJI_0343.JPG

DCIM100MEDIADJI_0366.JPG

DCIM100MEDIADJI_0367.JPG

The post เชียงใหม่ไร้เงา ‘ดอยสุเทพ’ PM2.5 พุ่งสูง ดัชนีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (15 สิงหาคม) อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนถึงน้ำตกแห่งหนึ่งก่อนขึ้นดอยสุเทพ ว่าเต็มไปด้วยเชื้ออีโคไล (E. coli) หรือเชื้อที่มาจากอุจจาระปนเปื้อนสูง พร้อมระบุชื่อ ซึ่งต่อมา จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา พร้อมทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

อรรถพลกล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว กรมควบคุมมลพิษ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ได้ประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าของโพสต์ ทราบข้อเท็จจริงว่า ข้อมูลที่นำเสนออ้างอิงจากผลการวิจัยของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และไม่มีข้อมูลผลการตรวจสอบอีโคไลจากแหล่งอื่น จากข้อเท็จจริงข้างต้น หากการโพสต์มีการอ้างอิงเฉพาะรายงานการวิจัยชิ้นดังกล่าวที่ปรากฏเฉพาะข้อมูลผลตรวจแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม แต่ไม่มีผลตรวจอีโคไลโดยตรง การที่ผู้โพสต์สื่อให้สาธารณชนเข้าใจว่าเป็นอีโคไล จะทำให้สาธารณชนสับสน เข้าใจคลาดเคลื่อน และเกิดความตื่นตระหนก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนรับทราบ

ทั้งนี้ การตรวจค่าอีโคไลเป็นพารามิเตอร์ที่กำหนดในมาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มเพื่อการบริโภค ซึ่งมีวัตถุประสงค์ต่างจากการตรวจวิเคราะห์ปริมาณแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด และแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม เพื่อบ่งชี้การปนเปื้อนจากของเสียที่ออกมาจากสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลือดอุ่นหรือมนุษย์ ซึ่งอาจมีการระบายน้ำเสียจากชุมชนหรือครัวเรือนลงแหล่งน้ำ เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางการจัดการ

ในวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเก็บน้ำจำนวน 3 จุด คือ น้ำตกปีนปักป้าย น้ำตกรับเสด็จ และสะพานวัดผาลาด โดยการตรวจวัดหาปริมาณอีโคไล ทางศูนย์อนามัยที่ 1 เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์ โดยใช้เวลา 7 วัน

The post กระทรวงทรัพย์ฯ นำตรวจสอบเชื้ออีโคไลจากอุจจาระ ในน้ำตกก่อนขึ้นดอยสุเทพ หลังมีนักวิชาการโพสต์ข้อมูลจากงานวิจัย appeared first on THE STANDARD.