ซอมบี้ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 05 Aug 2024 08:19:07 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ ผีชีวะฉบับย้อนยุค https://thestandard.co/operation-undead/ Mon, 05 Aug 2024 08:19:07 +0000 https://thestandard.co/?p=967457 ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

ประวัติศาสตร์มักเป็นเครื่องมือที่ถูกหยิบยกมาใช้อยู่บ่อย […]

The post ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ ผีชีวะฉบับย้อนยุค appeared first on THE STANDARD.

]]>
ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

ประวัติศาสตร์มักเป็นเครื่องมือที่ถูกหยิบยกมาใช้อยู่บ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะมันเป็นพื้นที่ว่างที่เปิดกว้างให้คนทำสามารถเติมแต่งจินตนาการลงไปได้โดยที่ไม่ติดพันกับความจริงใดๆ ยกตัวอย่างเช่นหนังเรื่อง Inglourious Basterds (2009) ของ Quentin Tarantino ที่มีพื้นหลังอยู่ในช่วงนาซีเยอรมนี แต่เล่าด้วยท่าทียียวนกวนประสาทจนทำให้เนื้อหาดูขำขันย้อนแย้งกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

 

 

ในทำนองเดียวกัน ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพซึ่งเป็นหนังเรื่องล่าสุดของ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ก็ใช้วิธีการเดียวกัน นั่นคือการสร้างโลกสมมติของตัวเองขึ้นมาโดยวางเส้นเรื่องอยู่ในห้วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังต้องการจะบุกไปยังจีนและอินเดียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสิ่งที่เป็นแกนหลักคอยขับเคลื่อนเรื่องราวก็คือ ฟุเมตสึ อาวุธชีวภาพที่มีหน้าตาคล้ายกับซอมบี้ที่หลุดออกมาในตอนที่พวกเขากำลังยกพลขึ้นบกผ่านทางจังหวัดชุมพร ทำให้กองกำลังทหารและกลุ่มยุวชนทหารหน่วย ช.พ.๑ ถูกเกณฑ์ออกไปรบเป็นจำนวนมาก ซึ่ง เมฆ (ชานน สันตินธรกุล) นายสิบผู้รักชาติก็พร้อมที่จะเข้าร่วมสมรภูมิเพื่อปกป้องแผ่นดิน แต่ หมอก (อวัช รัตนปิณฑะ) ผู้เป็นน้องชายกลับไม่คิดเช่นนั้น

 

ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

 

และอย่างที่หลายคนพอเดากันได้ ฟุเมตสึ ได้ออกอาละวาดแพร่เชื้อใส่ทหารไทยและญี่ปุ่นอย่างรวดเร็วโดยไร้การควบคุม ทำให้สถานการณ์ที่ดูตึงเครียดอยู่แล้วเริ่มทวีความรุนแรง เมื่อศัตรูที่ต้องรบราด้วยไม่ใช่คนอีกต่อไป หากแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือสามัญสำนึกของพวกเขา ทั้งสองฝ่ายจึงต้องหันมาจับมือกันเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตนี้

 

ฟังๆ แล้ว พล็อตเรื่องของ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพก็ไม่ต่างอะไรกับสูตรสำเร็จของหนังซอมบี้ แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะทำเนาได้คือจุดกำเนิดของมันอาจอ้างอิงมาจากเรื่องราวของหน่วย 731 ซึ่งเป็นหน่วยที่จักรวรรดิญี่ปุ่นนำเอาเชลยศึกมาทำการวิจัยเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ เพียงแต่ครั้งนี้มันถูกเปลี่ยนเป็นการฉีดเชื้อให้กับทหารญี่ปุ่นที่ยังไม่เสียชีวิตแทน 

 

ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การกระทำของพวกเขาเป็นไอเดียให้แก่คนทำหนัง ย้อนกลับไปปี 1988 ผู้กำกับชาวจีนนามว่า Mou Tun-fei ก็เคยเอาวีรกรรมของทหารกลุ่มนี้มาสร้างเป็นหนังเรื่อง Men Behind the Sun เพื่อตีแผ่ความโหดร้ายของญี่ปุ่นที่กระทำต่อคนจีนในช่วงเวลานั้น โดยเนื้อหาที่นำเสนอออกมาก็เผยให้เห็นถึงความอำมหิตของการจับมนุษย์มาทดลองได้เป็นอย่างดีจนถึงขั้นถูกแบนไปหลายประเทศ

 

ไม่มากไม่น้อย รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพนำมาใช้จึงมีอยู่จริง แม้ตามบันทึกจะไม่เคยมีการยืนยันว่าพวกเขาทำสำเร็จ แต่คำถามสำคัญในแง่ของการเป็นภาพยนตร์และ What if คือ ถ้าทำสำเร็จหน้าตาของมันจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าที่มาที่ไปนั้นคงจะหลีกเลี่ยงการเดินตามขนบทั่วไปของหนังซอมบี้ได้ยาก

 

ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

 

การเล่าเรื่องต่อต้านสงครามผ่านชีวิตวัยรุ่นที่กระโจนเข้าสู่สนามรบอย่างรวดเร็วเลยกลายเป็นการจั่วหัวที่น่าสนใจที่สุดในช่วงสิบนาทีแรก แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรความเสี่ยงในการเลือกเส้นทางนี้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะหนังแทบไม่ได้บอกเล่าความสัมพันธ์อันลึกตื้นหนาบางของตัวละครเลย สิ่งที่คนดูรับรู้จึงมีแค่เรื่องผิวเผินอย่างการเป็นครอบครัว เพื่อน และคนรัก โดยที่กลไกของมันยังขาดตกบกพร่องเรื่องน้ำหนักอยู่พอสมควร 

 

ด้วยความเป็นหนังแอ็กชันไม่ใช่หนังดราม่าแบบ Train to Busan (2016) การปูพื้นตัวละครก็อาจไม่ใช่เครื่องชี้วัดในแง่ของความบันเทิงอย่างเดียว และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา ก้องเกียรติ โขมศิริ ยังคงรักษามาตรฐานในการกำกับฉากแอ็กชันของตัวเองได้ดีแม้จะต้องแลกกับส่วนอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยความกระท่อนกระแท่นก็ตาม โดยเฉพาะการตัดต่อที่ให้พื้นที่แก่นักแสดงคนอื่นน้อยมากจนบทบาทของพวกเขาแทบจะจางหายไปจากโสตประสาทของคนดู หลงเหลือเพียงแค่ อัด อวัช และ นนกุล ที่ทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นคนที่แบกรับความอิหลักอิเหลื่อทั้งหมดเอาไว้ 

 

อีกคนที่มีบทบาทโดดเด่นซึ่งผู้ชมน่าจะรู้สึกสะดุดตาได้อย่างไม่ยากเย็นก็คือ เซกิ โอเซกิ นักแสดงชาวญี่ปุ่นที่บางคนอาจคุ้นหน้าเขาจากการเป็นตัวเอกในหนังเรื่อง ซามูไร อโยธยา (2010) ของ นพพร วาทิน และ โกโบริ ในละครเวที คู่กรรม The Musical (2020) ที่คราวนี้ถึงจะไม่ได้โชว์ฝีไม้ลายมืออะไรเป็นพิเศษ แต่คาแรกเตอร์อันน่ายำเกรงของเขาก็ทำให้หัวหน้าหน่วยพิฆาตกลายเป็นที่จดจำของคนดูมากขึ้น

 

 

แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หนังไม่ได้วางรากฐานที่แข็งแรงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม การที่คนดูรู้สึกว่าขาดอารมณ์ร่วมกับตัวละครย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และนั่นคงเป็นเหมือนโดมิโนที่พร้อมจะพังครืนลงมาทุกเมื่อ 

 

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นผลพวงอันเกิดจากวิธีการเล่าอีกอย่างก็คือการพยายามยัดทุกอย่างเข้ามาภายใต้ข้อจำกัดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเชิงอุดมการณ์ ความรักชาติ การต่อต้านสงคราม ดราม่าครอบครัว ทั้งหมดดูเหมือนจะอยู่ผิดที่ผิดทางไปหมด และความแปลกแปร่งของการตัดต่อก็ยิ่งทำให้บางประเด็นถูกตีฟูจนกลายเป็นการสร้างความยืดเยื้อให้กับมันแทน โดยปริยายความสำคัญในส่วนอื่นจึงถูกลดทอนคุณค่าลงและอาจส่งผลให้ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพถูกมองว่าเป็นหนังที่มีดีแค่แอ็กชันแต่ไม่สามารถผลักดันเรื่องราวของตัวเองได้เลย

 

พอพูดในแง่นี้ การจะไม่กล่าวถึงโปรดักชันที่ช่วยชีวิตหนังเอาไว้ก็คงจะไม่แฟร์เท่าไร เพราะนี่คือส่วนสำคัญที่ต่อลมหายใจให้กับหนังทุกประการจริงๆ ทั้งความดิบ โหด เลือดสาด ทุกอย่างถูกทำออกมาอย่างสมจริงและเต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียนชวนอ้วก แต่ถึงอย่างนั้นทุนสร้างที่จำกัดก็ทำให้ CGI ในหลายๆ ฉากยังคงมีปัญหา เช่น ไฟ ที่คนดูค่อนข้างจะแยกแยะคุณภาพได้ด้วยตาเปล่าจนบางครั้งมันก็สร้างปัญหาให้กับอรรถรสในการรับชมอย่างชัดเจน

 

ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ

 

จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา แม้หนังจะเต็มไปด้วยความไม่น่าอภิรมย์มากมาย แต่สิ่งที่แปลกตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นช่วงท้ายของเรื่อง ที่เหล่าบรรดาซอมบี้ได้เปลี่ยนสถานะจากผู้ล่ากลายมาเป็นผู้ที่ถูกตามล่าแทน ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง การพลิกแพลงนี้ดูจะเป็นสิ่งที่คนทำตั้งใจเอามาใช้บอกเล่าผลพวงอันน่าเศร้าที่กำลังกัดกินมนุษย์และอมนุษย์ที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม แต่สุดท้ายด้วยวิธีการนำเสนอที่ค่อนแคะ แง่มุมเหล่านี้ก็ถูกกลืนหายไปพร้อมกับไฟที่แผดเผาชีวิตของพวกเขาทุกคน

 

ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ เข้าฉายแล้วในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่าง ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ ได้ที่: 

 

The post ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ ผีชีวะฉบับย้อนยุค appeared first on THE STANDARD.

]]>
จีซู ประกบคู่ พัคจองมิน แสดงซีรีส์ซอมบี้เรื่อง Newtopia ที่เตรียมฉายปี 2025 https://thestandard.co/jisoo-park-jeong-min-newtopia-series/ Thu, 01 Aug 2024 05:35:13 +0000 https://thestandard.co/?p=965951

Coupang Play ประกาศสร้างซีรีส์เรื่องใหม่แนววันสิ้นโลกนา […]

The post จีซู ประกบคู่ พัคจองมิน แสดงซีรีส์ซอมบี้เรื่อง Newtopia ที่เตรียมฉายปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>

Coupang Play ประกาศสร้างซีรีส์เรื่องใหม่แนววันสิ้นโลกนาม Newtopia อย่างเป็นทางการ โดยได้ จีซู แห่งวง BLACKPINK และ พัคจองมิน มาแสดงนำ และจะเปิดตัวในปี 2025

 

ซีรีส์ Newtopia ว่าด้วยเรื่องราวของทหารหนุ่ม อีแจยุน กับแฟนสาวที่มีความรู้ด้านวิศวกรรมอย่าง พัคยองจู ที่ต้องหาทางฝ่าฝูงซอมบี้ที่กระจายตัวอยู่ตามถนนในกรุงโซล เพื่อจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยท่ามกลางเรื่องราวของซีรีส์ที่ติดตามคู่รักที่กำลังพยายามหากันให้เจออย่างสิ้นหวัง หลังจากไวรัสปริศนาแพร่กระจายทั่วเมือง ยังมีอุปสรรคสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับพระเอก นั่นคืออาการแพนิกที่เกิดขึ้นขณะต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ระหว่างปฏิบัติการ ในขณะที่ดูเหมือนว่านางเอกจะมีความใจเย็นและช่วยให้แฟนหนุ่มสงบลงได้

 

ซีรีส์เรื่องนี้นับเป็นผลงานเรื่องที่ 2 ของจีซูที่ได้โชว์ฝีมือการแสดง หลังฝากผลงานมาแล้วในซีรีส์ Snowdrop เมื่อปี 2021 ขณะที่พัคจองมินก็มีผลงานที่โดดเด่นอย่าง Deliver Us From Evil และ Smugglers โดยผู้ที่จะมากำกับซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ ยุนซองฮยอน ที่เดบิวต์เข้าสู่วงการด้วยภาพยนตร์เรื่อง Bleak Night และยังมีผลงานที่น่าจดจำอย่างภาพยนตร์เรื่อง Time to Hunt ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้มาชิมลางกำกับซีรีส์

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Newtopia น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือตัวผู้เขียนบทอย่าง ฮันจินวอน ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขา Best Original Screenplay มาแล้ว จากการเขียนบทภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีใต้ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอย่าง Parasite โดยเขาจะทำงานเขียนบทเคียงข้าง จีโฮจิน เจ้าของผลงานเรื่อง A Shop For Killers น่าติดตามว่าทั้งสองจะนำเสนอเรื่องราวความรักหนุ่มสาวในวันสิ้นโลกออกมาในรูปแบบใด

 

ภาพ: Coupang Play

The post จีซู ประกบคู่ พัคจองมิน แสดงซีรีส์ซอมบี้เรื่อง Newtopia ที่เตรียมฉายปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘โรคกวางซอมบี้​’ ภัยที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจแพร่ระบาดไปยังมนุษย์ https://thestandard.co/zombie-deer-disease-experts-warn/ Fri, 05 Jan 2024 05:27:46 +0000 https://thestandard.co/?p=884539

หลังพบการระบาดล่าสุดในกลุ่มสัตว์จำพวกกวางในอุทยานแห่งชา […]

The post ‘โรคกวางซอมบี้​’ ภัยที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจแพร่ระบาดไปยังมนุษย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังพบการระบาดล่าสุดในกลุ่มสัตว์จำพวกกวางในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา เหล่านักวิทยาศาสตร์และผู้เกี่ยวข้องเริ่มเกิดความกังวลว่า ‘โรคกวางซอมบี้’ มีโอกาสจะระบาดจากสัตว์สู่มนุษย์ในวงกว้าง

 

โรคระบาดดังกล่าวมีชื่อว่า CWD ซึ่งย่อมาจากคำว่า Chronic Wasting Disease ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ของใหม่ โรคนี้พบกันมานานหลายสิบปีแล้ว โดยมีการตรวจพบครั้งแรกในปี 1967 จากกวางที่อาศัยอยู่ในศูนย์วิจัยสัตว์ป่าทางตอนเหนือของรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ต่อมาพบว่ามันระบาดในกวางหลายชนิด เช่น กวางแคริบู, กวางหางขาว, กวางเอลก์, กวางมูส และกวางล่อ

 

มีการตรวจพบการระบาดของโรคเป็นระยะๆ ครั้งหลังสุดคือปี 2019 แล้วก็มาถึงครั้งนี้จากการพบฝูงกวางจำนวนมากตายด้วยโรคเดียวกัน และหลังจากมีการสอบสวนของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ หรือ CDC ก็ได้พบการแพร่กระจายของโรคนี้ใน 31 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 3 รัฐในแคนาดา รวมทั้งเริ่มมีการพบในประเทศอื่นด้วย เช่น นอร์เวย์, ฟินแลนด์, สวีเดน และเกาหลีใต้

 

ทำไมเรียกโรคนี้ว่า ‘กวางซอมบี้’

 

ชื่อเรียก Zombie Deer Disease หรือ ‘กวางซอมบี้’ นั้นมาจากอาการของโรค นั่นคือสมองกวางที่ติดเชื้อจะเกิดรูพรุน ส่งผลให้กวางเริ่มผอมแห้ง น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการน้ำลายไหล เซื่องซึม จากนั้นจะเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว เดินสะดุดไปทั่ว ด้วยอาการดวงตาล่องลอยว่างเปล่าเหมือนซอมบี้ในภาพยนตร์ และกวางที่ติดเชื้อก็จะเสียชีวิตในที่สุด

 

สาเหตุของโรค

 

โรค CWD จัดอยู่ในกลุ่มของโรคสมองฟ่ามติดต่อ (Transmissible Spongiform Encephalopathies) เกิดจากโปรตีนรูปร่างผิดปกติที่มีชื่อว่า ‘พรีออน’ (Prion) ซึ่งเป็นโปรตีนขนาดเล็กที่ตรวจไม่พบกรดนิวคลีอิก ไม่ละลายน้ำ ทนความร้อน ทนการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็น ทนต่อความแห้ง ทนต่อแสงยูวี ทนต่อการย่อยสลายโดยเอนไซม์ ทั้ง Protease และ Nuclease โปรตีนตัวนี้สามารถแพร่กระจายความผิดปกติไปสู่โปรตีนตัวอื่นได้ มีระยะฟักตัวนานมากอาจถึงหลายสิบปี ออกฤทธิ์ทำให้โปรตีนต่างๆ เกิดการผลิตสารสื่อประสาทที่ผิดปกติ ในที่สุดสมองที่ติดเชื้อจะเกิดรูพรุนเหมือนฟองน้ำ รักษาไม่หาย และเจ้าของสมองก็จะตายลงในที่สุด

 

การระบาดระหว่างสัตว์ด้วยกัน

 

โปรตีน ‘พรีออน’ สาเหตุของโรค CWD ในกวางนั้นส่งต่อกันโดยสารคัดหลั่ง ตั้งแต่น้ำลาย เลือด ปัสสาวะ หรืออุจจาระ ซึ่งมันจะคงอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานจนกวางหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เช่น หมาป่า, เสือคูการ์ และหมี หรือแม้กระทั่งนกมากินเข้าไป ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

 

การระบาดสู่มนุษย์

 

การระบาดข้ามจากสัตว์สู่มนุษย์ของโรค CWD เกิดขึ้นโดยการรับประทานชิ้นส่วนของกวางที่มี ‘พรีออน’ เข้าไป ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคสมองฝ่อวาเรียนท์ (vCJD) ในมนุษย์ ลักษณะคล้ายกับที่เกิดการระบาดจากวัวสู่มนุษย์ในโรควัวบ้าหรือ BSE (Bovine Spongiform Encephalopathy) ซึ่งเป็นโรคสมองฝ่อในวัวที่มีสาเหตุมาจากพรีออนเช่นเดียวกัน

 

โรคสมองฝ่อวาเรียนท์ (vCJD) ในมนุษย์นั้นไม่มีทางรักษา และด้วยคุณสมบัติที่อาจมีการฟักตัวของโรคนานมาก ทำให้การตรวจหาสาเหตุในภายหลังเป็นเรื่องยาก สุดท้ายผู้ติดเชื้อก็จะเสียชีวิตในที่สุด

 

‘พรีออน’ นั้นแทบจะฆ่าไม่ตาย ทำลายไม่ได้ ไม่ว่าจะนำชิ้นส่วนของกวางไปต้มให้สุกเพียงใดก็ตาม เนื่องจากอุณหภูมิที่สามารถทำลายโปรตีนนี้ได้สูงกว่าอุณหภูมิที่ใช้ประกอบอาหารตามปกติมาก นอกจากนี้มันยังมีอายุยืน แม้เอาไปแช่เย็นแล้วนำมาปรุงอาหารใหม่อีกกี่ครั้งก็ไม่อาจทำลายพรีออนลงได้

 

ปัญหาคือฤดูการล่าสัตว์ในสหรัฐอเมริกากำลังดำเนินไปในเวลานี้ และผู้ที่ยิงกวางได้มักนิยมนำเนื้อกวางมาบริโภค นำไปเป็นของฝาก และอื่นๆ ซึ่งทางศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้งดพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังคงพบว่ามีการนำเนื้อกวางไปบริโภคตามค่านิยมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

 

นอกจากติดเชื้อผ่านทางการบริโภคแล้ว พรีออนอาจเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการชำแหละซากกวางด้วยมือเปล่าแบบไม่สวมถุงมืออีกด้วย

 

จากโรคโควิด-19 ที่ระบาดไปก่อนหน้านี้ ที่ได้คร่าชีวิตมนุษย์ทั่วโลกไปหลายล้าน ซึ่งมีข้อสันนิษฐานจากหลักฐานบางอย่างว่าอาจเกิดจากการระบาดของไวรัสข้ามจากสัตว์สู่มนุษย์ หน่วยงานทั่วโลกต่างจับตามองโรคระบาดอื่นๆ ที่อาจระบาดจากสัตว์ข้ามมาสู่มนุษย์ได้อีก ไม่ว่าเกิดจากไวรัส, แบคทีเรีย หรือโปรตีนผิดปกติอย่าง ‘พรีออน’ ก็ตาม แต่เนื่องจากการรุกล้ำถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การระมัดระวังหรือชะลอการเกิดโรคลักษณะนี้จึงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ก็เพียงแต่หวังให้ผู้มีโอกาสสัมผัสเชื้อเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และคอยติดตามข่าวสารตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ อย่างเคร่งครัด

 

ภาพ: Karl Gehring / The Denver Post via Getty Images

อ้างอิง:

The post ‘โรคกวางซอมบี้​’ ภัยที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจแพร่ระบาดไปยังมนุษย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นักวิทยาศาสตร์​ปลุกไวรัส ‘ซอมบี้’ ที่นอนนิ่ง​อยู่ใน​ชั้นดินเยือกแข็งนานถึง 48,500 ปี ให้ตื่นขึ้น​มาอีก​ครั้ง​ https://thestandard.co/scientists-awaken-zombie-virus/ Fri, 10 Mar 2023 08:46:18 +0000 https://thestandard.co/?p=761099

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญทุกวันนี้กำล […]

The post นักวิทยาศาสตร์​ปลุกไวรัส ‘ซอมบี้’ ที่นอนนิ่ง​อยู่ใน​ชั้นดินเยือกแข็งนานถึง 48,500 ปี ให้ตื่นขึ้น​มาอีก​ครั้ง​ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญทุกวันนี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นนอกจากที่มนุษย์ต้องพบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายต่างๆ เช่น ฝนหนักสุดขั้ว พายุรุนแรง ภาวะแล้งจัด หรือการที่เมืองชายฝั่งทะเลทั่วโลกต้องเตรียมอพยพผู้คนหนีระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภัยซ่อนเร้นที่เราอาจมองข้ามไป นั่นคือเหล่าไวรัสและจุลชีพโบราณที่หลับไหลอยู่ในชั้นดินเยือกแข็งใกล้ขั้วโลกอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาซ้ำเติมการดำรงชีพของมนุษย์ให้ลำบากขึ้นไปอีก

 

เรื่องไวรัสโบราณคืนชีพมองเผินๆ อาจดูคล้ายพล็อตเรื่องในภาพยนตร์ไซไฟ แต่เรื่องนี้กลับเป็นเรื่องจริงจัง จนในเดือนพฤศจิกายน 2019 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างมารวมตัวที่เมืองฮันโนเฟอร์ ประเทศเยอรมนี เพื่อร่วมลงพื้นที่วิจัยผลกระทบจากการละลายอย่างรวดเร็วของชั้นดินเยือกแข็งใกล้ขั้วโลกเหนือ ทั้งเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ รวมไปถึงเรื่องของไวรัสและจุลินทรีย์ที่หลับไหลมานับหมื่นปีก็อาจตื่นขึ้นมาจากการละลายของชั้นดินเยือกแข็งที่ว่านี้ด้วย

 

ชั้นดินเยือกแข็งคืออะไร

 

จากภาพ พื้นที่ที่มีสีม่วงกำกับเป็นตัววัดบริเวณชั้นดินเยือกแข็งที่มีเปอร์เซ็นต์ความหนาจากผิวดิน โดยสีม่วงเข้มแปลว่ามีเปอร์เซ็นต์ความหนาจากผิวดินมาก Map: Philippe Rekacewicz, UNEP/GRID-Arendal, data from International Permafrost Association, 1998. Circumpolar Active-Layer Permafrost System (CAPS), version 1.0.

 

คำว่า ‘ชั้นดินเยือกแข็ง’ หรือ Permafrost นั้นแปลเป็นไทยได้เต็มๆ ว่า ‘ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว’ เป็นคำที่ใช้เรียกชั้นของดินในแถบอาร์กติกที่เย็นจัดจนเยือกแข็งมาเป็นเวลานานนับพันนับหมื่นปีโดยไม่ละลายในฤดูร้อน แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองสภาพ ‘คงตัว’ ของชั้นดินเยือกแข็งเหล่านี้ได้หายไป มันเริ่มละลายในอัตราเร็วที่น่าตกใจ ที่สำคัญคือ ‘ชั้นดินเยือกแข็ง’ ไม่เหมือนชั้นน้ำแข็ง ความที่มันเคยเป็นดินมาก่อนจึงเก็บกักแร่ธาตุต่างๆ เอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะมีเทนและคาร์บอน ประมาณกันว่า ‘ชั้นดินเยือกแข็ง’ ทั่วโลกเก็บกักคาร์บอนเอาไว้มากมายถึง 1,600 กิกะตัน ซึ่งสูงกว่าที่อยู่ในชั้นบรรยากาศถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

 

ทำไมไวรัสไปอยู่ในชั้นดินเยือกแข็ง

ความน่าสนใจ​ของชั้นดินเยือกแข็ง​คือความที่มันมีลักษณะ​เป็น ‘แคปซูล​เวลา’ ที่ดี เพราะนอกจากความเย็นแล้ว ชั้นดินเยือกแข็ง​ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ปราศจากออกซิเจน แถมยังมีความทึบแสง จนสามารถรักษา​ซากโบราณ​ต่างๆ เอาไว้ได้โดยไม่สูญสลาย​ นักบรรพชีวินวิทยามักขุดพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเก่าแก่หลายหมื่นปีใต้ชั้นดินเยือกแข็งนี้ เช่น การขุดพบซากลูกแมมมอธอายุ 30,000 ปีเมื่อกลางปี 2022 หรือเมื่อเร็วๆ นี้ก็พบซากลูกสิงโตถ้ำ 2 ตัว และแรดขนปุย 1 ตัว เป็นต้น แน่นอนว่าหากสิ่งมีชีวิตระดับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยังถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นดินเยือกแข็งได้โดยไม่เน่าเปื่อย จุลชีพขนาดเล็กรวมไปถึงไวรัสจากอดีตก็ย่อมจะหลับไหลอยู่ในชั้นดินเยือกแข็งได้โดยไม่มีปัญหาเช่นกัน 

 

แล้วนักวิทยาศาสตร์ไปปลุกไวรัสโบราณขึ้นมาทำไม

ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ลงพื้นที่เพื่อศึกษาการคืนชีพของไวรัสจากการละลายของชั้นดินเยือกแข็งนั้นมีหลายทีมในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้ผลลัพธ์แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัยดั้งเดิม 2 ชิ้นที่ศึกษาไวรัสพิโทไวรัส (ในปี 2014) และมอลลิไวรัส (ในปี 2015) ได้ผลที่ชี้ว่าไวรัสในดินเยือกแข็งไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่น่าเป็นห่วงของมนุษย์ 

 

งานวิจัยล่าสุดของทีมงาน

ศาสตราจารย์ฌอง-มิเชล คลาเวรี​ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านจีโนมิกส์และชีวสารสนเทศแห่งมหาวิทยาลัย Aix-Marseille ภายใต้ศูนย์วิจัยแห่งชาติฝรั่งเศส​ ได้ทดลองเก็บตัวอย่างไวรัสหลากหลาย​ชนิดหลากหลายสายพันธุ์​จากจุดขุดค้นที่แตกต่างกัน ผลวิจัยชี้ว่าไวรัสจากดินแดนแห่งชั้นดินเยือกแข็งที่ทีมงานตั้งชื่อ​ให้เข้าใจง่ายว่า ‘ไว​รัสซอม​บี้’ นั้น มีบางชนิดที่มีโอกาสที่จะเกิดการระบาดมาสู่สัตว์ และอาจข้ามมาสู่มนุษย์​ได้ในอนาคต

 

และเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าตัวอย่าง​ไวรัสหลากหลายชนิดที่ทีมงานค้นพบนั้นจะมีตัวอย่าง​ไหนที่ตายสนิท ตัวไหนที่สามารถ​ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ไม่มีวิธีไหนดีเท่าการทดลองปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาภายใต้​การควบคุม​ โดยทีมงานจะเลือกเฉพาะ​ไวรัสซอมบี้ที่แพร่สู่โฮสต์ที่เป็นสัตว์​เซลล์เดียวอย่างอะมีบา ไม่แพร่สู่สัตว์ชนิดอื่น และจัดสภาพแวดล้อมแบบปิดในห้องแล็บเพื่อเฝ้าดูมันตื่นขึ้นมา หลังจาก​นั้นทีมงานก็จะทำลายไวรัสเหล่านี้ทิ้งไปตามวิธีการ เมื่อได้เรียนรู้มันแล้ว (ไวรัสขยายจำนวนด้วยตัวมันเองไม่ได้ ต้องเข้าไปขยายจำนวนในเซลล์สิ่งมีชีวิตอื่น เช่น อะมีบา เซลล์สัตว์ เซลล์มนุษย์ เป็นต้น)

 

นักวิทยาศาสตร์พบอะไร

‘ไว​รัสซอม​บี้’ ที่ทีมของศาสตราจารย์คลาเวรีค้นพบมีหลากหลายช่วงอายุ (วัดอายุจากค่าของคาร์บอนกัมมันตรังสีของสิ่งแวดล้อมในแหล่งที่เก็บตัวอย่าง) ตัวอย่างอายุน้อยคือไวรัส Pacmanvirus lupus ในซากหมาป่าอายุกว่า 27,000 ปี หรือ Pandoravirus mammoth ในเส้นขนและกระเพาะของซากแมมมอธอายุกว่า 28,600 ปี ส่วนตัวอย่างอายุมากที่สุดคือไวรัส Pandoravirus yedoma ที่พบลึกลงไป 16 เมตรใต้ชั้นดินก้นทะเลสาบ Yukechi Alas ที่มีอายุเก่าแก่ย้อนหลังไปกว่า 48,500 ปี มีรูปร่างเป็นวงรีขนาดใหญ่กว่าไวรัสทั่วไปที่เราพบในปัจจุบัน

 

“เรามองว่าไวรัสอะมีบาที่เราเอามาทดลองนั้นเปรียบเหมือนตัวแทนของไวรัสโบราณอื่นๆ ที่ใช้เซลล์ของร่างกายสัตว์หรือมนุษย์เป็นที่ขยายพันธุ์” ศาสตราจารย์คลาเวรีกล่าว “ถ้าไวรัสโบราณที่ขยายจำนวนผ่านตัวอะมีบาสามารถตื่นจากการหลับไหลนานหลายหมื่นปีในชั้นดินเยือกแข็งได้ ไวรัสที่ขยายจำนวนผ่านเซลล์สัตว์หรือมนุษย์ก็ตื่นจากหลับไหลได้เช่นกัน และนั่นคือภัยที่ไม่ควรประมาท”

 

โอกาสในการแพร่ระบาดของไวรัส ‘ซอมบี้’

ในความเป็นจริงแล้วสภาพอากาศของโลกสมัยหลายหมื่นปีที่แล้วกับปัจจุบันนั้นไม่เหมือนกัน ทั้งปริมาณส่วนผสม อุณหภูมิ และอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้ไวรัสที่ฟื้นชีพขึ้นมาอยู่รอดได้ไม่นาน อีกทั้งไวรัสนั้นไม่ใช่ทุกตัวที่เป็นอันตราย ไวรัสบางชนิดก็ไม่มีพิษมีภัยแม้ขยายจำนวนอยู่ในเซลล์ของโฮสต์ นอกจากนี้ปัจจุบันเขตอาร์กติกก็มีประชากรมนุษย์อาศัยอยู่ค่อนข้างน้อย ทำให้ความเสี่ยงในการสัมผัสไวรัสโบราณที่ละลายออกมาจากชั้นดินเยือกแข็งมีไม่มาก แต่ศาสตราจารย์คลาเวรีก็ยังคงกังวลถึงความเป็นไปได้ที่ไวรัสโบราณเหล่านี้อาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่โฮสต์ใหม่ที่มันไม่รู้จัก อีกทั้งการละลายอย่างรวดเร็วกว่าที่ประเมินกันไว้ของชั้นดินเยือกแข็ง ประกอบกับการเข้าไปอาศัยในเขตอาร์กติกเพิ่มขึ้นของผู้คนจากการลงทุนในอุตสาหกรรมในอนาคต อาจก่อให้เกิดการระบาดของไวรัสโบราณเหล่านี้ได้ในวันใดวันหนึ่ง

 

งานวิจัย​ชิ้น​นี้ตีพิมพ์​ลงในวารสารไวรัสเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2023 https://www.mdpi.com/1999-4915/15/2/564​

 

ภาพ: Jean-Michel Claverie / IGS / CNRS-AMU via CNN

อ้างอิง​:

The post นักวิทยาศาสตร์​ปลุกไวรัส ‘ซอมบี้’ ที่นอนนิ่ง​อยู่ใน​ชั้นดินเยือกแข็งนานถึง 48,500 ปี ให้ตื่นขึ้น​มาอีก​ครั้ง​ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชื้อราซอมบี้ไม่มีจริง! แต่เป็น ‘ถั่งเช่า’ ที่เคยเฟื่องฟูจนมีราคา 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ก่อนถูกทางการจีนดับฝันห้ามจำหน่ายเป็น ‘อาหารเสริม’ https://thestandard.co/ophiocordyceps-the-last-of-us/ Fri, 24 Feb 2023 02:07:45 +0000 https://thestandard.co/?p=754724

เชื้อรา Ophiocordyceps เปลี่ยนคนให้กลายซอมบี้ใน The Las […]

The post เชื้อราซอมบี้ไม่มีจริง! แต่เป็น ‘ถั่งเช่า’ ที่เคยเฟื่องฟูจนมีราคา 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ก่อนถูกทางการจีนดับฝันห้ามจำหน่ายเป็น ‘อาหารเสริม’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เชื้อรา Ophiocordyceps เปลี่ยนคนให้กลายซอมบี้ใน The Last of Us ไม่มีจริง! แต่เป็น ‘ถั่งเช่า’ ซึ่งเคยเฟื่องฟูและเป็นที่ต้องการของเศรษฐีจีน จนมีราคาพุ่งสูงถึง 59,000 ดอลลาร์ หรือราว 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ก่อนจะถูกดับฝันสั่งห้ามจำหน่ายเป็นอาหารเสริม

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนเคยดู The Last of Us ซีรีส์จากค่าย HBO ที่สร้างจากวิดีโอเกมชื่อดัง โดยเนื้อหาภายในเรื่องแสดงให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์ได้รับเชื้อ Ophiocordyceps Sinensis เข้าสู่ร่างกาย เห็ดราก็จะเติบโตขึ้นแล้วเข้าควบคุมความคิดจิตใจจนกลายเป็นซอมบี้

 

แต่ในโลกแห่งความจริง เชื้อราชนิดนี้คือ ‘ถั่งเช่า’ ที่ถือเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถแพร่เชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ และปัจจุบันแพทย์แผนจีนต้องการเป็นอย่างมาก ถึงขั้นต้องเปิดพื้นที่เพาะเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรน้อยกว่าครึ่งล้านคน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

Qian Zhengming รองผู้อำนวยการหน่วยวิจัยถั่งเช่า HEC Health บริษัทในเครือ HEC Group ผู้ผลิตยาในเซินเจิ้น ระบุว่า บริษัทได้เริ่มทำฟาร์มถั่งเช่ามาตั้งแต่ปี 2007 โดยได้ลงทุนนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยควบคุมสภาพอากาศ ทำให้สามารถปลูกถั่งเช่าได้ตลอดทั้งปี

 

บริษัทดังกล่าวมีปริมาณการเก็บเกี่ยวถั่งเช่าส่งตลาดได้ประมาณ 50 ตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของถั่งเช่าที่เก็บได้จากธรรมชาติในแต่ละปี โดยปัจจุบันจำหน่ายถั่งเช่าสด 10 กรัม ในราคา 1,934 หยวน (ราว 284 ดอลลาร์)

 

“เราสร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่คล้ายกับที่ราบสูงทิเบตในด้านอุณหภูมิ ความชื้น และแสงอัลตราไวโอเลต” Zhengming กล่าว “คอมพิวเตอร์ของเราควบคุมสภาพอากาศในห้องต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าถั่งเช่าสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี”

 

ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของเศรษฐีจีนหน้าใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก และต่างเริ่มมองหาเครื่องดื่มชูกำลังที่มีความแปลกใหม่

 

South China Morning Post รายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วทำให้เกิดมหาเศรษฐีจำนวนมากในแดนมังกร ซึ่งก่อให้เกิดการบริโภคของหรูจำนวนมาก รวมไปถึง ‘ถั่งเช่า’ ด้วย

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถั่งเช่ากลายเป็นวัตถุดิบที่ตลาดต้องการอย่างมาก จนทำให้ถั่งเช่าป่ามีราคาสูงถึง 400,000 หยวนต่อกิโลกรัม (ราว 59,000 ดอลลาร์) และทำให้หลายๆ บริษัทที่ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์จำหน่ายอาหารเสริม เริ่มตั้งแต่ Jiang Zhong Pharmaceutical, Tong Ren Tang และ Qizheng Tibetan Medicine สามารถระดมทุนได้หลายพันล้านหยวนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO)

 

แต่แล้วความเฟื่องฟูของถั่งเช่าก็ได้ลดลงในปี 2016 เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลของแดนมังกรได้สั่งห้ามให้บริษัท 5 แห่ง รวมถึง Qinghai Spring ไม่ให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนประกอบ โดยอ้างว่ากังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

 

สอดคล้องกับ Li Shaoping ศาสตราจารย์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีนแห่งมหาวิทยาลัยมาเก๊า ที่กล่าวว่า การบริโภคถั่งเช่าเป็นอาหารกับยาค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากจะเพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะได้รับสารมากเกินไป

 

ขณะเดียวกัน ด้วยความที่มีราคาแพงจนเทียบได้กับ ‘ทองคำ’ ทำให้ผู้คนแห่ไปเก็บถั่งเช่าจากป่าจนสถาบันชีววิทยาที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงเหนือระบุว่า ทำให้ความหลากหลายที่เคยมีถึง 30 ชนิด เหลือเพียง 5 ชนิดเท่านั้น และเกรงว่าอาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วในอนาคต

 

ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images

อ้างอิง:

The post เชื้อราซอมบี้ไม่มีจริง! แต่เป็น ‘ถั่งเช่า’ ที่เคยเฟื่องฟูจนมีราคา 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ก่อนถูกทางการจีนดับฝันห้ามจำหน่ายเป็น ‘อาหารเสริม’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: The Last of Us กับเชื้อราซอมบี้ในโลกจริง เปลี่ยนมนุษย์เป็นซอมบี้ได้จริงหรือ? | GLOBAL FOCUS#5 https://thestandard.co/global-focus-ep5/ Mon, 06 Feb 2023 06:50:24 +0000 https://thestandard.co/?p=746479

การแพร่พันธุ์ของเชื้อราสุดสยองที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นซอม […]

The post ชมคลิป: The Last of Us กับเชื้อราซอมบี้ในโลกจริง เปลี่ยนมนุษย์เป็นซอมบี้ได้จริงหรือ? | GLOBAL FOCUS#5 appeared first on THE STANDARD.

]]>

การแพร่พันธุ์ของเชื้อราสุดสยองที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นซอมบี้ ซึ่งปรากฏในเกมฮิตที่ต่อยอดเป็นซีรีส์ดัง ‘The Last of Us’ ทาง HBO กลายเป็นประเด็นที่สร้างความฮือฮา เมื่อรู้ว่าคอนเซปต์ของเรื่องราวนั้นมีที่มาจากเรื่องจริงของราแมลง หรือราที่อาศัยในร่างกายแมลงเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหาร หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘เชื้อราซอมบี้’

 

ความน่ากลัวของเชื้อราซอมบี้นั้น หากอธิบายง่ายๆ คือ มันจะแทรกซึมเข้าสู่ร่างของแมลง เช่น มด ที่ตกเป็นเหยื่อ และจะทำให้แมลงตัวนั้นตายอย่างโหดร้าย ด้วยการดูดกลืนสารอาหารในร่างกาย เข้าควบคุมสมอง ร่างกาย และบังคับให้มันทำเรื่องผิดธรรมชาติ

 

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เชื้อราซอมบี้นี้จะแพร่เชื้อและควบคุมร่างกายมนุษย์ เหมือนซอมบี้ที่เรารู้จักกันผ่านซีรีส์หรือภาพยนตร์ต่างๆ ไหม แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่เคยมีใครพบการติดเชื้อของเชื้อราซอมบี้ในร่างกายมนุษย์ แต่ภาวะโลกรวนที่ทำให้โลกอุ่นขึ้นอาจเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะหากเชื้อราสามารถวิวัฒนาการโดยปรับตัวและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีระดับอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายมนุษย์ การติดเชื้อของเชื้อราในร่างกายมนุษย์ก็อาจเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้น แต่จะถึงขั้นเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ได้หรือไม่ ยังเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบกันต่อไป

The post ชมคลิป: The Last of Us กับเชื้อราซอมบี้ในโลกจริง เปลี่ยนมนุษย์เป็นซอมบี้ได้จริงหรือ? | GLOBAL FOCUS#5 appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead การหนีตายครั้งใหม่ เมื่อนักเรียนกลายเป็นซอมบี้ เตรียมวิ่งพร้อมกัน 28 ม.ค. บน Netflix https://thestandard.co/all-of-us-are-dead-kseries/ Thu, 13 Jan 2022 10:25:07 +0000 https://thestandard.co/?p=582233 All of Us Are Dead

“จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักเรียนในโรงเรียนกลายเป็นซอมบี้” & […]

The post All of Us Are Dead การหนีตายครั้งใหม่ เมื่อนักเรียนกลายเป็นซอมบี้ เตรียมวิ่งพร้อมกัน 28 ม.ค. บน Netflix appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead

“จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักเรียนในโรงเรียนกลายเป็นซอมบี้”

 

คำถามที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างใน มัธยมซอมบี้ All of Us Are Dead นำแสดงโดย ยุนชานยอง, พัคจีฮู, โชอีฮยอน, โรมน และยูอินซู ซีรีส์ระทึกขวัญจำนวน 8 ตอน ที่สร้างจาก WEBTOON ชื่อดัง รับชมได้ทาง Netflix เริ่มเอาตัวรอดพร้อมกัน 28 มกราคมนี้

 

All of Us Are Dead

 

“ทุกคนทอดทิ้งเรา มีแค่เราเท่านั้นที่จะช่วยตัวเราได้”

 

All of Us Are Dead เล่าเรื่องราวของเด็กมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ต้องหนีตายอย่างโดดเดี่ยว เพื่อเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้เต็มโรงเรียน โดยที่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือกันเองได้

 

สิ่งที่น่าสนใจคือข้อจำกัดที่กดดันตัวละคร เนื่องจากเรื่องราวซอมบี้นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ปิด ทำให้ตัวละครมีพื้นที่จำกัดในการหลบหนีเอาตัวรอด

 

All of Us Are Dead

 

อีกข้อสังเกตที่น่าติดตามนอกจากต้นเหตุของซอมบี้ และพวกเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร คือ ทางตำรวจที่รับแจ้งเรื่องซอมบี้ภายในโรงเรียน ทำไมถึงไม่รีบเข้ามาช่วยเหลือ หรือคิดว่านักเรียนแค่โทรมาเล่นสนุกกัน จึงเกิดเป็นการตั้งคำถามกับการทำงานของเจ้าหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง 

 

มาร่วมลุ้นเอาใจช่วยว่าพวกเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดอย่าง ‘โดดเดี่ยว’ ภายในโรงเรียนที่เต็มไปด้วย ‘ซอมบี้’ ได้หรือไม่ 28 มกราคมนี้ ทาง Netflix

 

รับชมตัวอย่างซีรีส์ได้ที่

 

The post All of Us Are Dead การหนีตายครั้งใหม่ เมื่อนักเรียนกลายเป็นซอมบี้ เตรียมวิ่งพร้อมกัน 28 ม.ค. บน Netflix appeared first on THE STANDARD.

]]>
Army of the Dead หนังเปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับ แซ็ก สไนเดอร์ ที่แม้เนื้อเรื่องจะมีจุดอ่อน แต่สร้างรากฐานไว้ได้อย่างมั่นคง https://thestandard.co/army-of-the-dead-from-zack-snyder/ Sat, 22 May 2021 07:29:01 +0000 https://thestandard.co/?p=491891 Army of the Dead หนังเปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับ แซ็ก สไนเดอร์ ที่แม้เนื้อเรื่องจะมีจุดอ่อน แต่สร้างรากฐานไว้ได้อย่างมั่นคง

Army of the Dead ภาพยนตร์ซอมบี้เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ […]

The post Army of the Dead หนังเปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับ แซ็ก สไนเดอร์ ที่แม้เนื้อเรื่องจะมีจุดอ่อน แต่สร้างรากฐานไว้ได้อย่างมั่นคง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Army of the Dead หนังเปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับ แซ็ก สไนเดอร์ ที่แม้เนื้อเรื่องจะมีจุดอ่อน แต่สร้างรากฐานไว้ได้อย่างมั่นคง

Army of the Dead ภาพยนตร์ซอมบี้เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ แซ็ก สไนเดอร์ นับว่าเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ Sucker Punch ออกฉายในปี 2011 ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวโยงกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ ก่อนที่เขาจะเริ่มสตาร์ทเครื่องยนตร์ให้กับจักรวาล DC อย่างเต็มตัวด้วยบุรุษเหล็กสุดดาร์ก Man of Steel ในปี 2013 ดังนั้นแล้ว Army of the Dead จึงมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ที่แฟนๆ ของแซ็กจะได้ชมเรื่องราว ‘บทใหม่’ ของเขาที่เราไม่ได้เห็นกันเสียนาน  

 

และที่เราต้องใช้คำว่า ‘บทใหม่’ ก็เพราะทาง Netflix กำลังเตรียมแผนขยายจักรวาลซอมบี้ฉบับแซ็กให้แฟนๆ ได้ชมอีกอย่างน้อย 2 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ แอนิเมชันซีรีส์ Army of the Dead: Lost Vegas และภาพยนตร์ภาคแยก Army of Thieves นี่จึงเป็นความน่าสนใจประการที่สองของ Army of the Dead ที่ถูกตั้งตนให้เป็นภาพยนตร์ ‘เปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับแซ็ก’ 

 

 

ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ได้สำเร็จ จนเหลือเพียงเมืองลาสเวกัสที่เดียวเท่านั้นที่เป็นเขตกักกันของฝูงซอมบี้

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง สก็อตต์ วอร์ด (เดฟ บอติสตา) อดีตวีรบุรุษสงครามซอมบี้ชาวเวกัสที่ชีวิตพลิกผันจนต้องไปทำงานเป็นพนักงานร้านเบอร์เกอร์ ได้รับข้อเสนอจาก บลาย ทานากะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) หัวหน้าบ่อนคาสิโน ให้บุกเข้าไปในเขตกักกันเพื่อฉกเงินจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ที่เก็บอยู่ในห้องนิรภัยมาให้ได้ ก่อนที่รัฐบาลจะระเบิดเมืองในอีก 32 ชั่วโมงข้างหน้า ถ้าทำสำเร็จเขาจะได้เงินรางวัลที่สามารถพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ วอร์ดจึงต้องรวบรวมพรรคพวกและฝ่าฝูง ‘อัลฟ่าซอมบี้’ ที่ทั้งเร็วและฉลาดกว่าเดิมไปให้ได้ 

 

 

จุดด้อยของภาพยนตร์ที่เราไม่ค่อยชอบเป็นการส่วนตัว คือการที่แซ็กพยายามจะเล่าหลายเส้นเรื่องหลายประเด็นเกินไปสักหน่อย เช่น ปมปัญหาความสัมพันธ์ของ สก็อตต์ วอร์ด ที่ไม่ค่อยลงรอยกับ เคท (เอลลา เพอร์เนล) ผู้เป็นลูกสาว หรือปมปัญหาส่วนตัวของ ลิลลี่ (โนรา อาร์เนเซแดร์) หญิงสาวที่พาทีมของสก็อตต์ลอบเข้ามาในเขตกักกัน ฯลฯ 

 

แม้ว่าประเด็นในแต่ละเส้นเรื่องจะมีความน่าสนใจมากๆ ในช่วงต้น แต่เมื่อภาพยนตร์ดำเนินไปเรื่อยๆ ประเด็นเหล่านั้นกลับถูกบอกเล่า ขยี้ปม และคลายปมปัญหาได้ไม่น่าสนใจเท่าไรนัก หรือในบางเส้นเรื่องก็ถูกปูทิ้งไว้จนเราลืมไปแล้วว่ายังมีเส้นเรื่องของตัวละครนี้อยู่ด้วย กาารพยายามเล่าหลายเส้นเรื่องจนเกินความจำเป็น จึงส่งผลให้ภาพยนตร์ไม่มีประเด็นที่สามารถทำให้เราจดจำได้อย่างที่ควรจะเป็น 

 

เราจึงคิดว่าหากแซ็กลองตัดทอนบางเส้นเรื่องออกไปสักหน่อยเพื่อทุ่มเวลาให้กับเส้นเรื่อง ‘ที่ควรจะเล่าจริงๆ’ จะช่วยเสริมให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับปมปัญหาของตัวละครมากกว่านี้ 

 

 

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ Army of the Dead นำเสนอได้ดีมากๆ คือฉากแอ็กชันที่โหดเลือดสาดสมการรอคอย ชนิดที่ว่าระเบิดหัวซอมบี้ใส่หน้าจอกันแบบเน้นๆ แขนหักขาขาดกันแบบจะๆ ซึ่งหัวใจสำคัญที่ส่งให้ฉากแอ็กชันโหดถึงใจผู้ชมคือเหล่า ‘อัลฟ่าซอมบี้’ ที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างโดดเด่น (โดยเฉพาะฉากซอมบี้วิ่งหลบกระสุนคือฉากที่ตราตรึงใจเรามากๆ) รวมถึงการออกแบบให้อัลฟ่าซอมบี้มีรูปแบบสังคมของตัวเอง มีการแต่งตั้งผู้นำ มีกฎเกณฑ์ในสังคมที่ทุกตัวต้องปฏิบัติตาม ซึ่งนับว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากๆ ในการต่อยอดสู่จักรวาลซอมบี้อย่างที่แซ็กตั้งใจ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นมหาสงครามระหว่างฝูงอัลฟ่าซอมบี้และมนุษยชาติในรูปแบบที่ต่างฝ่ายต่างมีกลยุทธ์ในการรบเป็นของตัวเองก็เป็นได้

 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราค่อนข้างชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คืองานภาพของ Army of the Dead ที่แซ็กรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง ซึ่งอย่างที่ทุกคนเห็นจากคลิปตัวอย่างว่างานภาพส่วนใหญ่จะค่อนข้างเบลอเป็นพิเศษ เนื่องจากแซ็กได้เลือกใช้เลนส์ f/0.95 Canon Dream Lens แบบวินเทจในการถ่ายทำ ซึ่งส่งผลให้ภาพมี Depth of Field (ความชัดลึก-ชัดตื้นของภาพ) ที่ชัดตื้นมากเป็นพิเศษ และส่งผลให้ภาพมีโบเก้ที่นุ่มนวลและแสงที่มีเอกลักษณ์ เสมือนว่าเรากำลังตกอยู่ในห้วงความฝัน ซึ่งเราคิดว่ามันคือการใส่ลายเซ็นของผู้กำกับลงไปในผลงานของตัวเอง เพื่อเสริมให้ผลงานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่านี่คืองานของแซ็ก

 

 

ในภาพรวมแล้ว Army of the Dead นับว่าเป็นการสร้างรากฐานให้แก่จักรวาลซอมบี้ฉบับแซ็กที่มั่นคงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะความสามารถของฝูงอัลฟ่าซอมบี้ที่ถูกปูมาได้อย่างน่าสนใจ ขณะเดียวกันหากแซ็กและทีมเขียนบทสามารถแก้ไขจุดอ่อนด้านเนื้อเรื่องให้มีความเข้มข้นและน่าจดมากกว่านี้ได้ล่ะก็ เราคิดว่าจักรวาลซอมบี้ฉบับแซ็กจะเป็นอีกหนึ่งจักรวาลภาพยนตร์ที่น่าติดตามไม่แพ้จักรวาลอื่นๆ อย่างแน่นอน  

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

The post Army of the Dead หนังเปิดจักรวาลซอมบี้ฉบับ แซ็ก สไนเดอร์ ที่แม้เนื้อเรื่องจะมีจุดอ่อน แต่สร้างรากฐานไว้ได้อย่างมั่นคง appeared first on THE STANDARD.

]]>
9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead หนังซอมบี้สุดระห่ำจาก แซ็ก สไนเดอร์ https://thestandard.co/army-of-the-dead-9-tips/ Tue, 18 May 2021 05:28:41 +0000 https://thestandard.co/?p=490209 9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead หนังซอมบี้สุดระห่ำจาก แซ็ก สไนเดอร์

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้วที่สาวกของ แซ็ก สไนเดอร์ จะได […]

The post 9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead หนังซอมบี้สุดระห่ำจาก แซ็ก สไนเดอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead หนังซอมบี้สุดระห่ำจาก แซ็ก สไนเดอร์

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้วที่สาวกของ แซ็ก สไนเดอร์ จะได้ชมผลงานเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Army of the Dead (2021) ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ทาง Netflix ถือเป็นการกลับมากำกับภาพยนตร์ซอมบี้อีกครั้งหลังจาก Dawn of the Dead (2004) ผลงานรีเมกภาพยนตร์ซอมบี้ระดับตำนานของ จอร์จ โรเมโร ได้ส่งให้ชื่อของแซ็กกลายเป็นผู้กำกับที่รู้จักไปทั่วโลก 

 

THE STANDARD POP ถือโอกาสนี้รวบรวม 9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead มาฝากแฟนๆ ของแซ็ก เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนไปร่วมฝ่าดงซอมบี้สุดโหดพร้อมกัน 

 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่ 

 

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

ภาพ:

  • Netflix
  • IMDb

อ้างอิง:

The post 9 เกร็ดน่าสนใจจาก Army of the Dead หนังซอมบี้สุดระห่ำจาก แซ็ก สไนเดอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Joseon Exorcist ซอมบี้คลั่งสุดขีดในยุคอีบังวอน ซีรีส์ย้อนยุคที่โหดแน่ และการเมืองหลังบัลลังก์มาเต็ม https://thestandard.co/joseon-exorcist/ Mon, 15 Mar 2021 02:24:09 +0000 https://thestandard.co/?p=464844 Joseon Exorcist ซอมบี้คลั่งสุดขีดในยุคอีบังวอน ซีรีส์ย้อนยุคที่โหดแน่ และการเมืองหลังบัลลังก์มาเต็ม

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองที่สุดในเดือนนี้ Joseon […]

The post Joseon Exorcist ซอมบี้คลั่งสุดขีดในยุคอีบังวอน ซีรีส์ย้อนยุคที่โหดแน่ และการเมืองหลังบัลลังก์มาเต็ม appeared first on THE STANDARD.

]]>
Joseon Exorcist ซอมบี้คลั่งสุดขีดในยุคอีบังวอน ซีรีส์ย้อนยุคที่โหดแน่ และการเมืองหลังบัลลังก์มาเต็ม

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองที่สุดในเดือนนี้ Joseon Exorcist หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า หมอผียุคโชซอน ซึ่งเท่าที่เปิดเผยในตัวอย่าง มันคือวิญญาณร้ายที่กลับมาฟื้นคืนชีพเพื่อแก้แค้น ซึ่งก็คือซอมบี้ยุคโชซอนที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้ดุเดือด ดราม่าเข้มข้นในปมการเมืองยุคกษัตริย์แทจง

 

 

เค้าโครงจากประวัติศาสตร์จริง

เรื่องราวของอีบังวอน ลูกชายคนที่ 5 ของอีซองกเย ที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยพ่อโค่นล้มราชวงศ์โครยอ และก่อตั้งราชวงศ์โชซอน ในปี 1392 แต่เมื่อพ่อของเขาขึ้นเป็นพระเจ้าแทโจ กษัตริย์องค์แรกแห่งโชซอน แทนที่อีบังวอนจะได้รับตำแหน่งองค์ชายรัชทายาท ก็กลับกลายเป็นว่าลูกชายสองพระองค์จากพระมเหสีองค์ใหม่กลับได้ขึ้นเป็นรัชทายาท

 

ความขัดแย้งนี้รุนแรงมากในราชวงศ์ โดยเฉพาะเมื่อพระมเหสีองค์ใหม่เสียชีวิตกะทันหัน อีบังวอนก็ทำการสังหารลูกชายพระมเหสี รวมทั้งเสนาบดีคนสำคัญของพระเจ้าแทโจ พร้อมทั้งแต่งตั้งตนเป็นองค์ชายรัชทายาท จนพระเจ้าแทโจที่เห็นการนองเลือดในครอบครัวยอมสละราชสมบัติในปี 1398 และให้องค์ชายอีบังกวาขึ้นเป็นพระเจ้าชองจง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งโชซอน แต่ก็เป็นการอยู่ในบัลลังก์ที่แสนอึดอัดและต้องคอยระแวงระวังอิทธิพลของอีบังวอน จนในปี 1400 ก็ทรงสละราชสมบัติให้อีบังวอนขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแทจง กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งโชซอน

 

ประเด็นเรื่องการเมืองหลังบัลลังก์

Joseon Exorcist น่าจะเน้นเส้นเรื่องในแง่การเมืองช่วงก่อตั้งราชวงศ์โชซอน ที่เล่าถึงความแตกต่างทางความคิดของกษัตริย์ และเหล่าเสนาบดีที่ต้องการระบบการปกครองใหม่ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยยุคโครยอที่ราชสำนักมัวเมาในความหรูหราฟุ่มเฟือย ละเลยประชาชนจนยากจนข้นแค้น แผ่นดินตกเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรมองโกล รวมถึงการเมืองภายในราชวงศ์เองที่มีการแย่งชิงอำนาจเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ซึ่งยังคงเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม แม้จะในรัชสมัยของพระเจ้าแทจงก็ตาม

 

 

วิญญาณร้ายที่กลับมาแก้แค้น

ส่วนอีกเส้นเรื่องคือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดกับอีบังวอน (คัมอูซอง) เขาเคยเดินทางไปสู้รบทางเหนือและได้เผชิญหน้ากับปีศาจร้าย ในตอนนั้นเขาได้ปิดผนึกวิญญาณร้ายเอาไว้ได้ จนเมื่อขึ้นเป็นพระเจ้าแทจง แม้ว่าจะเป็นคนเยือกเย็นและทรงอำนาจเด็ดขาด แต่พระเจ้าแทจงก็ยังมีความรู้สึกผิดจากการเข่นฆ่าผู้คนมากมายระหว่างการสู้รบเพื่อก่อตั้งราชวงศ์โชซอน ซึ่งในที่สุด วิญญาณร้ายนี้เองก็ได้กลับมาสู่โชซอนอีกครั้ง 

 

บุตรชายคนสำคัญของพระเจ้าแทจง ก็คือ องค์ชายยังนยอง (พัคซองฮุน) เป็นลูกชายคนโตที่ต้องการให้พ่อมองเห็น แต่ดูเหมือนว่าเขาทำอะไรก็ไม่เคยออกมาดีพอเลย แม้จะเป็นอย่างนั้น พระเจ้าแทจงก็ยังตั้งใจให้บุตรชายคนนี้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่ด้วยความแค้นและความโลภ องค์ชายยังนยองกลับไปทำสัญญากับปีศาจร้าย จนกลายเป็นเหตุการณ์บานปลาย

ส่วนองค์ชายชางนยอง (จางดงยุน) ที่เป็นบุตรชายคนที่ 3 เขาเป็นคนที่สนใจเรื่องการศึกษาด้านต่างๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์วิญญาณร้ายกลับมาแก้แค้น เขาจึงเข้าร่วมต่อสู้เหล่าปีศาจ เพื่อปกป้องผู้คนและแผ่นดินโชซอนเอาไว้ ซึ่งตามประวัติศาสตร์จริง องค์ชายชางนยองในภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเซจงมหาราช กษัตริย์องค์ที่ 4 ของราชวงศ์โชซอน ผู้สร้างความรุ่งเรืองให้เกาหลีสูงที่สุดอีกยุค โดยเฉพาะการประดิษฐ์ตัวอักษรเกาหลีขึ้นมาใช้ 

 

 

ทีมงานสร้างที่เชื่อมือได้

นอกจากเนื้อเรื่องที่ดุเด็ดเผ็ดมันทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ ที่เหล่าตัวละครมาจากเค้าโครงเรื่องจริงแล้วนั้น ทีมสร้างก็ต้องบอกเลยว่าการันตีความดีงาม โดยเฉพาะผู้กำกับชินคยองซู ที่นับว่าเป็นหัวหอกด้านซีรีส์ประวัติศาสตร์เกาหลี ไล่เรียงมาตั้งแต่ซีรีส์ Tree With Deep Roots (2011) ที่เล่าถึงช่วงชีวิตพระเจ้าเซจงได้อย่างคลาสสิกจนถึงทุกวันนี้, Six Flying Dragons (2015) ที่เล่าถึงยุคของอีบังวอน ซึ่งตรงกับยุคสมัยใน Joseon Exorcist และ Nokdu Flower (2019) ซีรีส์ประวัติศาสตร์การเมืองว่าด้วยปลายยุคโชซอน 

 

ทั้งยังได้นักเขียน พัคกเยอก มาร่วมงานด้วย ก็เป็นการคาดเดาได้ว่าจะเป็นคู่เคมีการทำงานที่น่าติดตาม เพราะผลงานล่าสุดของนักเขียนพัคกเยอก ก็คือซีรีส์ Mr. Queen (2020) ที่ดังจนเรตติ้งถล่มทลาย อย่างหนึ่งก็เพราะความคมคายในการตีความประวัติศาสตร์ออกมาเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจ 

 

แคสต์นักแสดงที่น่าจับตามอง

Joseon Exorcist นำแสดงโดย จางดงยุน พัคซองฮุน คัมอูซอง คิมดงจุน จองฮเยซอง อียูบี ซึ่งคัมอูซอง ผู้รับบทพระเจ้าแทจง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงนักแสดงที่รับบทเป็นลูกชายทั้งสองของเขาว่า “จางดงยุน และพัคซองฮุนเป็นคนที่เฟรนด์ลีและเป็นธรรมชาติมากครับ ตอนที่เข้าฉากด้วยกันผมรู้สึกว่าเขาสองคนเป็นลูกชายผมจริงๆ จางดงยุนเป็นคนที่อ่อนโยนและใส่ใจคนอื่น ส่วนพัคซองฮุนก็เป็นคนที่เป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง พวกเรากลายเป็นตัวละครไปแล้วจริงๆ ซึ่งทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างสนุกและน่าสนใจมากๆ ครับ”

 

จางดงยุน ได้เล่าถึงการทำงานกับนักแสดงรุ่นพี่คัมอูซอง “คุณคัมอูซองเป็นนักแสดงที่ใส่ใจในรายละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ ตอนที่เขาแสดงเขาจะใส่ใจกระทั่งพร็อพเล็กๆ น้อยๆ ท่าทาง ทิศทางการเดินไปจนถึงการชำเลืองมองที่แสดงอารมณ์ตัวละคร เขาเป็นคนที่ใส่ใจนักแสดงคนอื่นๆ รวมถึงทีมงานอย่างจริงใจ ซึ่งผมชื่นชมมากครับ” 

 

เช่นเดียวกับพัคซองฮุน “ระหว่างการถ่ายทำ คุณคัมอูซองจะคอยเช็กทุกๆ การเคลื่อนไหวและบทพูด เขาพยายามทำทุกอย่างด้วยความใส่ใจ ส่วนจางดงยุนเป็นนักแสดงที่ตื่นตัวตลอดเวลา และเรียนรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมว่าเขาเป็นคนที่สนใจการเรียนรู้ และเป็นคนที่เชื่อถือได้เลยครับ”

 

Joseon Exorcist จะออกอากาศอีพีแรก วันที่ 12 มีนาคม ทาง SBS และ Viki จากนั้นจะออกอากาศทุกๆ วันเสาร์และอาทิตย์

 

 

ตัวอย่างซีรีส์ Joseon Exorcist 

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post Joseon Exorcist ซอมบี้คลั่งสุดขีดในยุคอีบังวอน ซีรีส์ย้อนยุคที่โหดแน่ และการเมืองหลังบัลลังก์มาเต็ม appeared first on THE STANDARD.

]]>