ชูศักดิ์ ศิรินิล – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 18 Dec 2025 04:12:02 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 บวรศักดิ์ เผย ครม.เตรียมเคาะคำถามประชามติเดียวของครม. ส่งกกต. อีกรอบ ชี้หากเลือกคำถาม ภท.แต่แรก ก็ไร้ปัญหา https://thestandard.co/borwornsak-cabinet-referendum-ect/ Thu, 18 Dec 2025 04:12:02 +0000 https://thestandard.co/?p=1155934 บวรศักดิ์ เผย ครม. เตรียมเคาะคำถามประชามติเดียวของครม. ส่ง กกต. อีกรอบ ชี้หากเลือกคำถาม ภท.แต่แรก ก็ไร้ปัญหา

วันนี้ (18 ธันวาคม) เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล บวรศ […]

The post บวรศักดิ์ เผย ครม.เตรียมเคาะคำถามประชามติเดียวของครม. ส่งกกต. อีกรอบ ชี้หากเลือกคำถาม ภท.แต่แรก ก็ไร้ปัญหา appeared first on THE STANDARD.

]]>
บวรศักดิ์ เผย ครม. เตรียมเคาะคำถามประชามติเดียวของครม. ส่ง กกต. อีกรอบ ชี้หากเลือกคำถาม ภท.แต่แรก ก็ไร้ปัญหา

วันนี้ (18 ธันวาคม) เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ซึ่งมีวาระพิจารณาให้ ครม.เห็นชอบการเลือกส่งคำถามประชามติ ระหว่างคำถามของรัฐสภาและคำถามของ ครม. ภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตีกลับให้เลือกเพียงคำถามเดียว ว่า สาเหตุคือเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ครม.ได้ส่งคำถามไปให้ กกต.สองคำถาม

 

เนื่องจากมีการอภิปรายในที่ประชุม ครม. ซึ่งในส่วนของ ครม. เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ จึงต้องรักษาสัจจะ และตั้งคำถามที่ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประชามติ แต่คำถามที่รัฐสภาส่งมา ไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประชามติ เพราะฉะนั้นเมื่อ กกต.ต้องการให้ ครม.เลือกเพียงคำถามเดียว ก็ต้องเลือกคำถามของ ครม. จึงไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติที่ ครม.เลือกแบบนี้

 

แต่ที่ส่งคำถามของรัฐสภาไปตอนแรก ก็เพื่อให้เกียรติว่าเราเคารพมติของรัฐสภา ไม่ส่งไม่ได้ แต่ถ้าส่งคำถามของรัฐสภาเป็นคำถามเดียว แล้ว กกต.บอกว่าทำไม่ได้ จะเป็นเรื่องใหญ่ จึงเป็นเหตุให้ ครม.ต้องส่งคำถามประกบ

 

บวรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีนักวิชาการมาติง ว่าไม่สามารถทำประชามติพร้อมกับวันเลือกตั้งได้ เนื่องจากระยะเวลาไม่ถึง 60 วัน คนที่พูดก็ไม่ใช่นักกฎหมาย คงจะอ่านกฎหมายประชามติ มาตรา 11 วรรค 3 ตอนท้ายข้ามไป หากมีเหตุจำเป็นเรื่องงบประมาณและเหตุผลอื่น ครม.สามารถกำหนดวันประชามติให้เร็วกว่านั้นได้ เพราะหากจัดการเลือกตั้งแยกกับการทำประชามติ จะเสียงบประมาณเพิ่ม 4 พันกว่าล้าน และประชาชนก็ต้องใช้สิทธิ์สองครั้ง หากไม่ไปครั้งใดครั้งหนึ่ง ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมถึง กกต.ก็ต้องเสียบุคลากรไปจัดงานทั้งสองครั้ง จึงไม่ใช่เหตุที่ไปทำความวุ่นวาย

 

บวรศักดิ์ กล่าวว่า หาก ครม.เห็นชอบ คำถามประชามติของ ครม. ก็จะต้องส่งเรื่องไปให้ กกต. และ กกต.ต้องออกประกาศเกี่ยวกับการทำประชามติภายใน 15 วัน หรือวันที่ 2 มกราคม 69 เพื่อให้สามารถทำประชามติพร้อมกับวันเลือกตั้ง ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 69

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกฤษฎีกา เคยแย้งว่าการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ต้องใช้คำถามจากรัฐสภา บวรศักดิ์ กล่าวว่า กฤษฎีกาไม่เคยแย้งอย่างนั้น เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากับตน เห็นตรงกันว่าต้องส่งสองคำถาม เพราะหากส่งคำถามของ ครม.เพียงคำถามเดียว ก็จะหาว่า ครม.ไม่ให้ความสำคัญกับรัฐสภา เพราะ ครม.รู้อยู่แล้วว่าหากส่งคำถามของรัฐสภาไป ก็จะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประชามติ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขยายความได้หรือไม่ว่าทำไมคำถามของรัฐสภา ถึงขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและกฎหมายประชามติ บวรศักดิ์ กล่าวว่า คำถามของรัฐสภาเป็นคำถามของชูศักดิ์ ศิรินิล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า “เห็นด้วยหรือไม่กับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใช้คำว่า “เห็นชอบว่าสมควรจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่“ และคำตามกฎหมายประชามติ มาตรา 11 และมาตรา 16 ก็ใช้คำว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ

 

“แต่ก็น่าเห็นใจรัฐสภา ไปโทษรัฐสภาก็ไม่ได้ เพราะวันนั้นพูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และอภิปรายก็ถึงดึก และเมื่อญัตติเกี่ยวกับคำถามประชามติเสนอขึ้นมา ก็เลยเลือกคำถามของชูศักดิ์วันนั้น ถ้าเลือกคำถามของพรรคภูมิใจไทย ที่เสนอโดยอนุทิน ชาญวีรกูล ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย และ ครม. ก็ไม่ต้องส่งคำถามไปประกบ เพราะคำถามที่นายกฯ เซ็นไป คือใช้คำว่าเห็นชอบให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” บวรศักดิ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ คำถามของรัฐสภายังมีปัญหา เมื่อไปดูกฎหมายประชามติมาตรา 11 วรรคหนึ่งบอกว่าให้ประธานรัฐสภา ส่งคำถามของแต่ละสภา แปลว่า อาจจะต้องมีการประชุมแยกกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และคำถามที่รัฐสภาส่งมา ไม่ใช่คำถามของแต่ละสภา ซึ่งก่อนหน้านี้ ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยอภิปรายในสภาว่า คำถามของรัฐสภาจะมีปัญหา เพราะต้องเป็นคำถามของแต่ละสภา เมื่อมีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งตัวคำถามและตัวมติ แต่ที่ส่งคำถามไป ก็เพื่อให้เกียรติรัฐสภา ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ก็มีความเห็นตามแนวทางของตนด้วย

 

บวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุม ครม.วันนี้ก็จะเร็วมาก ไม่นานก็เสร็จ และจะเลือกคำถามของ ครม. ส่วน ครม.จะเห็นชอบตามที่ตนพูดมาหรือไม่ก็ไม่ทราบ ตนไม่บังอาจ เพราะยังไม่ประชุม

The post บวรศักดิ์ เผย ครม.เตรียมเคาะคำถามประชามติเดียวของครม. ส่งกกต. อีกรอบ ชี้หากเลือกคำถาม ภท.แต่แรก ก็ไร้ปัญหา appeared first on THE STANDARD.

]]>
เพื่อไทยยื่นญัตติขอรัฐสภาส่งคำถามประชามติ ‘รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่’ ถึงนายกฯ ทันที ไม่ต้องรอวาระ 3 https://thestandard.co/pheu-thai-referendum-no-wait-for-v3/ Thu, 11 Dec 2025 08:03:50 +0000 https://thestandard.co/?p=1153539 เพื่อไทยยื่นญัตติขอ รัฐสภาส่งคำถามประชามติ ‘รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่’ ถึง นายกฯ ทันที ไม่ต้องรอ วาระ 3

วันนี้ (11 ธันวาคม) พรรคเพื่อไทย นำโดย ชูศักดิ์ ศิรินิล […]

The post เพื่อไทยยื่นญัตติขอรัฐสภาส่งคำถามประชามติ ‘รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่’ ถึงนายกฯ ทันที ไม่ต้องรอวาระ 3 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เพื่อไทยยื่นญัตติขอ รัฐสภาส่งคำถามประชามติ ‘รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่’ ถึง นายกฯ ทันที ไม่ต้องรอ วาระ 3

วันนี้ (11 ธันวาคม) พรรคเพื่อไทย นำโดย ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ, จาตุรนต์ ฉายแสง สส. บัญชีรายชื่อ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเสนอญัตติให้รัฐสภามีมติส่งให้นายกรัฐมนตรีจัดทำประชามติคำถามที่ 1

 

ชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอญัตติขอให้สภามีมติเพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรีจัดทำประชามติคำถามที่ 1 สอบถามประชาชนว่าสมควรจัดให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้ครบถ้วนตามกระบวนการกฎหมายประชามติ และรัฐธรรมนูญ และตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานรัฐสภาแล้ว และได้มีการบรรจุญัตติแล้ว

 

พรรคเพื่อไทยมีความต้องการร่วมกันว่าหลังจากพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 เสร็จสิ้นแล้ว ไม่ว่าจะกี่โมงก็ตามอยากจะให้รัฐสภาพิจารณาญัตตินี้ มีมติเรื่องนี้เลยทันที ขณะเดียวกันก็ทราบว่ามีญัตติในลักษณะนี้ของพรรคการเมืองอื่นยื่นต่อประธานรัฐสภาด้วย

 

ด้าน จาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอยากให้คณะรัฐมนตรีเร่งรัดจัดให้มีการทำประชามติโดยเร็ว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาล แต่รัฐบาลระบุว่าถูกท้วงติงจากทางกฤษฎีกา และเมื่อรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 แล้วเสร็จ ก็เข้าเกณฑ์ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ว่า หากรัฐสภาประสงค์จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้รัฐสภาร้องขอไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการลงประชามติ ดังนั้น การยื่นญัตติครั้งนี้จึงสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและจะทำให้การจัดทำประชามติสามารถทำได้พร้อมกับการเลือกตั้ง ซึ่งหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ก็จะทำให้การจัดทำประชามติได้ 2 คำถาม หรือสองคำถามในคราวเดียวตามที่หลายฝ่ายต้องการ

 

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องยื่นญัตติในครั้งนี้เพื่อให้รัฐสภาไปยังนายกรัฐมนตรีในการจัดทำประชามติคำถามที่ 1 โดยไม่ต้องรอคำถามที่ 2 เพราะคำถามที่ 2 จะต้องรอรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ก่อน

 

พรรคเพื่อไทยจึงไม่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีรอจนถึงผ่านวาระ 3 ที่จะต้องรออีก 15 วัน เพื่อเป็นหลักประกันว่าอย่างน้อยที่สุด หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นไม่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้รัฐสภาไม่สามารถให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ได้ ก็จะมีคำถามที่หนึ่งถามประชาชนเป็นเบื้องต้น ว่าควรที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

 

หากรัฐสภาส่งความเห็นไปยังนายกรัฐมนตรีก็จะส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้ก่อนเลย และเมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาวาระ 3 รัฐสภาก็จะส่งไปยังนายกรัฐมนตรีตามกระบวนการของกฎหมาย

The post เพื่อไทยยื่นญัตติขอรัฐสภาส่งคำถามประชามติ ‘รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่’ ถึงนายกฯ ทันที ไม่ต้องรอวาระ 3 appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยเสนอฟื้น สสร. ใช้สูตรรัฐสภาเลือก กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ 25 ให้องค์กรวิชาชีพเสนอเพิ่ม 10 https://thestandard.co/new-constitution-drafting-formula/ Wed, 10 Dec 2025 06:34:34 +0000 https://thestandard.co/?p=1153161 กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยเสนอฟื้น สสร. ใช้สูตรรัฐสภาเลือก กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ 25 ให้องค์กรวิชาชีพเสนอเพิ่ม 10

วันนี้ (10 ธันวาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที […]

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยเสนอฟื้น สสร. ใช้สูตรรัฐสภาเลือก กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ 25 ให้องค์กรวิชาชีพเสนอเพิ่ม 10 appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยเสนอฟื้น สสร. ใช้สูตรรัฐสภาเลือก กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ 25 ให้องค์กรวิชาชีพเสนอเพิ่ม 10

วันนี้ (10 ธันวาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. เมื่อพิจารณาถึงมาตรา 256/1 ว่าด้วยการกำหนดองค์กรที่จะทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ ผู้สงวนความเห็น อภิปรายว่า กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากกำหนดไว้ 2 องค์กร คือ คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 35 ท่าน ซึ่งรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อ และคณะกรรมาธิการรับฟังความเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 35 ท่าน ที่รัฐสภาคัดเลือก ทั้ง 2 คณะ

 

โดยคณะกรรมาธิการทั้ง 2 คณะนี้ เปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาในร่างเดิมของ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการฯ โดยตัดการเลือกจากประชาชนโดยตรงออกทั้งหมด เราเห็นว่า การจะได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะเกิดปัญหา จึงขอสงวนความเห็นและแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256/1 เป็น 2 กลุ่ม

 

กลุ่มแรกคือ เราเห็นว่าควรมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ตามที่เราร่างไว้แต่เดิม เพราะเชื่อว่าจะมีผลดีมากกว่า โดยขอเพิ่ม สสร. ให้มีองค์ประกอบ 100 คน เลือกจากประชาชน 300 คนทั่วประเทศ และท้ายสุดให้รัฐสภาเลือก โดยต้องให้มี สสร. ตัวแทนจังหวัดอย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน ทั้งนี้ เชื่อว่าวิธีการนี้ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่การให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรง

 

ทั้งนี้ ยังเห็นว่าควรมี สสร. อีกส่วนที่มาจากการเลือกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย องค์กรวิชาชีพต่างๆ รวมตัวกันแล้วเสนอชื่อมาให้รัฐสภาแต่งตั้งจำนวน 51 คน

 

ชูศักดิ์เห็นว่า การใช้สูตร 20 หยิบ 1 เพื่อเลือกกรรมาธิการฯ 35 คนนั้น ท้ายสุดจะนำไปสู่การที่ใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็จะคัดเลือกกรรมาธิการฯ ได้ตามที่ตนเองต้องการ และจะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บิดเบี้ยวไป จึงเสนอให้ใน 35 คนนั้น ใช้สูตรใหม่ คือรัฐสภาเลือกเพียง 25 ท่าน และเสนอแต่งตั้งโดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายเพิ่มเติมอีก 10 ท่าน ให้รัฐสภาคัดเลือกอีก เพื่อถ่วงดุลให้กรรมาธิการฯ หลากหลายขึ้น สำหรับกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ ก็จะเสนอให้ใช้สูตร 25 บวก 10 เช่นกัน โดยอีก 10 คน จะเสนอมาจากองค์กรด้านการสื่อสารมวลชน และวารสารศาสตร์เช่นเดียวกัน

 

พรรคเพื่อไทยเสนอให้มี 3 องค์กรทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตัดความยึดโยงต่อประชาชนออก และคิดว่าจะทำให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญหลากหลาย มีความเป็นกลาง ไม่ยึดโยงกับเสียงข้างมากหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง

 

  • ย้ำควรฟื้น สสร. องค์กรกลาง ให้ยึดโยงประชาชน

 

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยได้สงวนคำแปรญัตติในส่วนขององค์กรในการจัดทำรัฐธรรมนูญ โดยเรื่องนี้อยู่ในร่างของพรรคเพื่อไทย แต่ในวาระที่ 1 ร่างของพรรคเพื่อไทยตกไป ตนเองตั้งคำถามว่าทำไมจึงต้องมี สสร. และการไม่มี จะส่งผลเสียอย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ทางการเมืองตลอดมาหลาย 10 ปี การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ทำให้มีข้อหาว่าสมาชิกรัฐสภากำลังแก้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งที่ความจริงแล้วการแก้ไขเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภา แต่วัฒนธรรมการเมืองของประเทศไทย จะมีความรู้สึกอย่างนี้มาตลอด หลังการทำรัฐประหารปี 2557

 

จาตุรนต์กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราจึงเห็นว่าควรมี สสร. หากมีเฉพาะกรรมาธิการยกร่างมายกร่าง แล้วมารับฟังความเห็น และมาตัดสินใจเองในแต่ละมาตรานั้น จะเป็นการพิจารณาที่ไม่มีทางรับฟังความเห็นที่รอบด้าน และรอบคอบ ซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างนี้จะตรงมาที่รัฐสภา ดังนั้น จึงมีจุดอ่อนตรงที่ว่าไม่มีองค์กรตรงกลาง โดยถือว่ามีความสำคัญมาก

 

จาตุรนต์ กล่าวว่า การมี สสร. ถือว่ามีองค์กรคั่นกลาง ทำให้ผู้คนที่มาจากหลากหลาย และมีความเชื่อมโยงกับประชาชน เพราะเราเสนอว่าที่มาต้องมาจากประชาชน เราเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ สสร. มีความเชื่อมโยงกับประชาชน และพิจารณาร่างที่คณะกรรมการยกร่างมา สสร. จะพิจารณาได้เต็มที่ และไม่มีข้อครหาว่ากำลังทำเพื่อตัวเองทำเพื่ออำนาจของสมาชิกรัฐสภา

 

ดังนั้น แนวความคิดนี้มีเหตุผลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมการเมือง และทำให้โอกาสในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบผลสำเร็จได้มากกว่า เป็นที่ยอมรับของประชาชนได้มากกว่า การไม่มี สสร. เป็นความสูญเสียอย่างมาก อาจมีการเผชิญหน้ากับรัฐสภาเอง หรืออาจมีการเผชิญหน้ากับประชาชน ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าโครงสร้างดังกล่าวมีส่วนร่วมได้น้อย ร่างเอง ตัดสินเอง

 

จาตุรนต์ย้ำว่า การสงวนคำแปรญัตติของพรรคเพื่อไทย เรายังถือว่าที่มาขององค์กรที่สำคัญนี้ ควรจะต้องยึดโยงเชื่อมโยงกับประชาชน คำว่ารัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงได้ ในคำว่าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้หมายความว่า จะให้ประชาชนร่วมเลือกร่วมแสดงความเห็นร่วมพิจารณาคัดเลือก หรือแม้แต่เลือกตั้งมา หากรัฐสภามาคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง การตัดสินสุดท้าย ก็อยู่ที่รัฐสภาไม่ใช่การให้ประชาชนเป็นผู้เลือกโดยสมบูรณ์ เรายืนยันเรื่องนี้ ว่าต้องมี สสร. และต้องเชื่อมโยงกับประชาชน สุดท้ายให้ประชาชนเป็นคนตัดสินในการทำประชามติ

 

  • เสนอแบ่งที่มา กมธ. ยกร่าง ตามภูมิภาค-ความเชี่ยวชาญ ลดการครอบงำ

 

ต่อมา นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ ผู้สงวนความเห็น อภิปรายว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ห้ามมิให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง แต่พรรคเพื่อไทยเสนอให้เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อม จึงไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยแน่นอน กรรมาธิการฯ ที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ หากเป็นไปตามเสียงข้างมาก มีความสุ่มเสี่ยงจะถูกครอบงำชี้นำโดยรัฐสภาชุดต่อไปหลังการเลือกตั้ง

 

“ผู้ที่ครองเสียงข้างมากในสภาฯ ชุดที่ 27 และรัฐสภา บวกกับ สว. ที่มีอยู่ในปัจจุบัน นั่นแหละคือรัฐสภาชุดนั้น สามารถจะชี้นำครอบงำผู้จะมาเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญได้ แม้เราจะใช้สูตร 20 หยิบ 1 สุดท้ายก็เป็นไปตามเสียงข้างมาก และเสียงข้างมากทำ 2 อย่างในคราวเดียวกัน คือยกร่าง และเห็นชอบร่างเลยก่อนเสนอให้รัฐสภาพิจารณา เบ็ดเสร็จอยู่ในตัว 35 คน กำหนดประเทศได้” นพ. ชลน่านกล่าว

 

นพ. ชลน่านเสนอที่มาของกรรมาธิการฯ 35 คน แบ่งออกเป็นที่มาตามสัดส่วนภูมิภาค 20 คน แบ่งตามความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น ด้านกฎหมาย 5 คน ด้านรัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ 5 คน เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน หรือการร่างรัฐธรรมนูญ 5 คน กำหนดคุณสมบัติไว้ให้มีผู้มาสมัคร และให้รัฐสภาคัดเลือก

 

นพ. ชลน่านเสนอด้วยว่า ในการเห็นชอบกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 1 คน ต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากรัฐสภา โดยเสียงต้องเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา โดยต้องมี สว. เห็นชอบด้วย ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือ 40 คน และต้องมีเสียงเห็นชอบจากสมาชิกฝ่ายค้าน ไม่น้อยกว่า 20% เหมือนกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 256/1

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยเสนอฟื้น สสร. ใช้สูตรรัฐสภาเลือก กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ 25 ให้องค์กรวิชาชีพเสนอเพิ่ม 10 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ย้ำเพื่อไทยหวังฟื้น สสร. หวั่นสูตร 20 หยิบ 1 ทำเสียงข้างมากครอบงำ https://thestandard.co/pheu-thai-20-1-domination/ Sat, 29 Nov 2025 08:00:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1149536 ชูศักดิ์ย้ำ เพื่อไทยหวังฟื้น สสร. หวั่นสูตร 20 หยิบ 1 ทำเสียงข้างมากครอบงำ

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายช […]

The post ชูศักดิ์ย้ำเพื่อไทยหวังฟื้น สสร. หวั่นสูตร 20 หยิบ 1 ทำเสียงข้างมากครอบงำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ย้ำ เพื่อไทยหวังฟื้น สสร. หวั่นสูตร 20 หยิบ 1 ทำเสียงข้างมากครอบงำ

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา กล่าวว่า ถึงขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการแล้ว พร้อมที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 10 และ 11 ธันวาคมนี้

 

โดยประเด็นสำคัญที่พิจารณากันมาและใช้เวลามากที่สุด คือองค์กรยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่กรรมาธิการมีมติเสียงข้างมากให้ใช้รูปแบบกรรมาธิการยกร่าง และให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก โดยตัดกระบวนการเลือกโดยประชาชนออก และปฏิเสธกระบวนการยกร่างที่ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยเสนอสูตร 20 หยิบ 1 ในการคัดเลือกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภา

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า สาระสำคัญที่ใช้กระบวนการดังกล่าว โดยตัดการเลือกชั้นต้นโดยประชาชนออก เพราะเกรงว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ห้ามเลือกผู้ร่างโดยตรง โดยกรรมาธิการในส่วนของเพื่อไทย แม้แต่ของพรรคประชาชนซึ่งเป็นร่างหลักเห็นว่าไม่ขัดต่อคำวินิจฉัย เพราะเป็นการให้ประชาชนเลือกผู้สมัครมาก่อนแล้วให้รัฐสภาเลือก เป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในชั้นต้น มิใช่การให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรงแต่อย่างใด

 

ชูศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ในส่วนกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย เราสงวนคำแปรญัตติในส่วนสำคัญสองส่วน ส่วนแรกเราสงวนให้องค์กรยกร่างเป็น สสร. ตามร่างเดิมของเรา ที่แม้จะตกไปในวาระที่ 1 เพราะได้เสียงสนับสนุนจาก สว. ไม่ถึง โดยเราเห็นว่าการมี สสร. ที่มาจากการเลือกของประชาชนเป็นเบื้องต้น บวกกับมาจากการเสนอชื่อขององค์กรต่างๆ จะตอบโจทย์ได้มากกว่า ทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน และการมีสภาฯ มากลั่นกรองร่างรัฐธรรมนูญก่อนเสนอรัฐสภา และไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยแต่อย่างใด

 

ส่วนที่สอง คือหาก สสร. ตามที่เราสงวนความเห็นไม่ได้รับการยอมรับ เราขอสงวนความเห็นต่อองค์กรยกร่างในรูปแบบกรรมาธิการ ทั้งในส่วนกรรมาธิการยกร่างและกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ โดยเฉพาะการให้รัฐสภาเลือกโดยใช้วิธีให้มาสมัคร และใช้วิธีให้รัฐสภารวมตัวกันให้ได้ 20 คนแล้วเลือกกรรมาธิการได้ 1 คน หรือสูตร ‘20 หยิบ 1’ จะนำไปสู่กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญของเสียงข้างมากนั่นเอง

 

“ถ้าใครรวมตัว สส. และ สว. ได้เกินครึ่งค่อนของรัฐสภา ก็ไม่ยากที่จะตกลงกันให้ใครเป็นกรรมาธิการใน 35 คนนั้น รัฐธรรมนูญใหม่ก็จะเป็นไปตามข้างมากของรัฐสภานั่นเอง มิใช่รัฐธรรมนูญที่ตอบสนอง และสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน เราจึงเสนอให้นอกจากให้รัฐสภาจับอย่างเดียวใน 35 คนทั้งหมด ก็ให้เลือกจากผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ด้วย กรรมาธิการบางท่านก็เสนอสูตรการจับให้รอบคอบรัดกุมขึ้น ทั้งหมดเพื่อป้องกันมิให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญถูกผูกขาดโดยเสียงข้างมากฝ่ายเดียว” ชูศักดิ์กล่าว

 

ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีกรรมาธิการและ สส. ของพรรคขอสงวนและแปรญัตติอีกหลายประเด็น ซึ่งล้วนอยู่ในกรอบความรอบคอบ การมีส่วนร่วมของประชาชน และให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าเดิม

 

ส่วนการพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 และ 3 จะผ่านรัฐสภาหรือไม่ สถานการณ์ขณะนี้ประเมินยาก เช่น จะได้เสียง สว. ถึง 1 ใน 3 หรือไม่ ยิ่งมีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทางใต้ เหตุการณ์ที่หาดใหญ่มีประชาชนสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มีความเสียหายเดือดร้อนแก่ประชาชนมหาศาล เข้าใจว่าอารมณ์ความรู้สึกของคนไทยต่อเรื่องรัฐธรรมนูญในขณะนี้จะเป็นอย่างไร ต้องเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเอามาประเมินกันด้วย

The post ชูศักดิ์ย้ำเพื่อไทยหวังฟื้น สสร. หวั่นสูตร 20 หยิบ 1 ทำเสียงข้างมากครอบงำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทย ยังอุบชะลอยื่นซักฟอกหรือไม่ รอรัฐสภาพิจารณารัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง https://thestandard.co/pheu-thai-delay-no-confidence-decision/ Wed, 26 Nov 2025 08:18:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1147925 กมธ. สัดส่วนเพื่อไทย ยังอุบชะลอยื่นซักฟอกหรือไม่ รอ รัฐสภาพิจารณา รัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง

วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล ส […]

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทย ยังอุบชะลอยื่นซักฟอกหรือไม่ รอรัฐสภาพิจารณารัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทย ยังอุบชะลอยื่นซักฟอกหรือไม่ รอ รัฐสภาพิจารณา รัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง

วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน และ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าวในนามของคณะกรรมาธิการฯ สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการเตรียมสงวนคำแปลญัตติเพื่อนำไปอภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาสมัยวิสามัญ วาระพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ เพื่อให้รัฐสภาได้พิจารณาวาระ 2 และ 3 ต่อไป ชูศักดิ์ตอบว่า เรื่องนี้กรรมาธิการไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องของพรรค อีกทั้งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยุบสภา ความจริงเป็นคนละเรื่อง ถ้ารัฐสภามีอยู่ก็อภิปรายเมื่อใดก็ได้ หรือจะพิจารณารัฐธรรมนูญเมื่อใดก็ได้ จะพิจารณาไม่ได้ก็ต่อเมื่อมีการยุบสภา

 

“ทั้งหมดเป็นคนละเรื่องกัน แต่เราไปสับสนนำไปปนกัน โดยมีความพยายามโดยตั้งใจว่า หากยื่นมา รัฐบาลจะยุบสภา ดังนั้น ความตั้งใจของกรรมาธิการขณะนี้ คือเราอยากพิจารณาวาระ 2 และ 3 อยากจะเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร” ชูศักดิ์กล่าว

 

ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า เท่าที่สดับตรับฟังมา ขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็อาจจะยังไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนกว่าจะถึงการพิจารณาในวาระ 2 เสียก่อน พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจอยู่ที่พรรค เพราะเกรงว่า จะมีคนเอาไปอ้างว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และทำให้นายกรัฐมนตรียุบสภา จนไม่ได้พิจารณาวาระ 2 ท้ายที่สุดแกนนำของพรรคก็ต้องนำไปพิจารณา

 

ชูศักดิ์กล่าวย้ำว่า เรายังไม่ได้พูดว่า ผ่านวาระ 2 แล้วจะยื่นหรือยังไม่ยื่น แต่หมายความว่า ข้อสรุปในขณะนี้ คือเราเข้าใจว่าจะยังไม่ยื่นจนกว่าจะถึงวาระ 2 เสียก่อน แต่หลังจากนั้น จะยื่นหรือไม่ยื่น ก็เป็นเรื่องที่พรรคกําลังพิจารณาในรายละเอียดอยู่

 

“สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเราไม่อยากเห็นว่า การยื่นหรือไม่ยื่นจะเป็นการขัดขวางการอภิปรายในวาระ 2 เช่น หากเราไปทําอะไรแล้วท้ายที่สุดมีการยุบสภา ก็จะไปอ้างว่าเพราะพรรคเพื่อไทยจะยื่น” ชูศักดิ์กล่าว

 

ขณะที่จาตุรนต์กล่าวเสริมว่า พวกเราที่ยืนอยู่นี้ ก็ต่างใส่หมวกกันอย่างน้อยคนละสองใบ หรือมากกว่านั้น ทั้งกรรมาธิการ และตําแหน่งในพรรค จึงไม่ต้องการมาแถลงในนามพรรค หรือในนามคณะยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยในเวลานี้

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทย ยังอุบชะลอยื่นซักฟอกหรือไม่ รอรัฐสภาพิจารณารัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยสงวนความเห็น ฟื้นประเด็น สสร. เข้าถกในรัฐสภาวาระ 2 หวั่นประชาชนขาดส่วนร่วมแก้ รธน. https://thestandard.co/pheu-thai-cda-public-participation/ Wed, 26 Nov 2025 07:53:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1147919 กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยสงวนความเห็น ฟื้นประเด็น สสร. เข้าถกในรัฐสภาวาระ 2 หวั่นประชาชนขาดส่วนร่วมแก้ รธน.

วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล ส […]

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยสงวนความเห็น ฟื้นประเด็น สสร. เข้าถกในรัฐสภาวาระ 2 หวั่นประชาชนขาดส่วนร่วมแก้ รธน. appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยสงวนความเห็น ฟื้นประเด็น สสร. เข้าถกในรัฐสภาวาระ 2 หวั่นประชาชนขาดส่วนร่วมแก้ รธน.

วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน และ จาตุรนต์ ฉายแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าวในนามของคณะกรรมาธิการฯ สัดส่วนพรรคเพื่อไทย

 

ชูศักดิ์ระบุว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ข้อสรุปสาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่จะนำสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 และ 3 ทุกครั้งกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยก็ให้ความสนใจร่วมประชุมโดยตลอด และวันนี้จะได้สรุปการแปรญัตติของกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยในหลายประเด็นด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การอภิปรายในรัฐสภาวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า ประเด็นแรกคือ ที่ประชุมกรรมาธิการฯ ไม่ได้นำเอาประเด็นเรื่องสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเข้าสู่การพิจาณา กรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยจึงสงวนความเห็นว่า ขอให้มี สสร. ตามร่างที่เราเคยนำเสนอ เพราะเห็นว่าจะเป็นคำตอบของสภาที่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราเชื่อว่า สสร. จะทำหน้าที่ได้ดีกว่ามีเพียงกรรมาธิการ

 

“สสร ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยให้มีการเลือกตั้งโดยประชาชนมา 300 คน รัฐสภาคัดเลือกให้เหลือ 100 คน เป็นสสร. จากนั้น สสร. จะตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา”

 

ชูศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่ 2 เมื่อกรรมาธิการฯ ไม่เห็นชอบให้มี สสร. และกำหนดให้มีกรรมาธิการ 2 ประเภท คือกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการรับฟังความเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรรมาธิการชุดละ 35 คน แต่เราเห็นว่า เขาตัดการเลือกตั้งโดยประชาชนออก จึงไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่ยึดโยงกับประชาชน การให้รัฐสภาคัดเลือกโดยตรงด้วยระบบ 20 หยิบ 1 เสี่ยงทำให้ในที่สุดผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้น จะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญของรัฐสภาเสียงข้างมาก เราจึงได้สงวนความเห็นในประเด็นนี้ไว้ด้วย

 

“แทนที่จะใช้ 20 หยิบ 1 ทั้งหมด เราเสนอให้มาจากรัฐสภาเพียง 25 คน จึงต้องใช้สูตรคำนวณ 28 หยิบ 1 แต่ที่เหลืออีก 10 คนให้มาจากการแต่งตั้งโดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ให้เป็น 35 คน เพราะเราต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาถ่วงดุลในกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นกรรมาธิการของรัฐสภาเสียทั้งหมด ส่วนคณะกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ ก็ใช้วิธีแบบเดียวกัน คือให้มาจากการคัดเลือกขององค์กร หรือสมาคมต่างๆด้วย 10 คน” ชูศักดิ์กล่าว

 

ชูศักดิ์เชื่อว่า สสร. วิธีนี้ ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้เป็นการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง แต่ให้ประชาชนเสนอตัวเป็นผู้สมัคร แล้วให้รัฐสภาหยิบมาให้เหลือ 100 คน ตรงกันข้าม หากเราตัดประชาชนออกจากกระบวนการเหล่านี้ อาจทำให้ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

แก้รายละเอียดป้องกันเสียงข้างมากครอบงำ

 

ด้าน นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในหลักการที่คณะกรรมาธิการสัดส่วนพรรคเพื่อไทยวางไว้ คือการสงวนความเห็นในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม แบ่งเป็น 2 ลักษณะใหญ่ คือ 1.หลักการใหญ่โดยรวม เช่น องค์กรผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่เราเห็นต่างกับกรรมาธิการส่วนใหญ่ชัดเจน บวกกับมาตราที่ต่อเนื่อง และ 2.เป็นการสงวนความเห็นหลายประเด็น หลายมาตรา กับที่ร่างกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว แต่เราเห็นควรว่าควรเห็นด้วยอย่างอื่น

 

เราจึงเสนอสงวนความเห็น ดังนี้ เรื่องที่มาของผู้เป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ ซึ่งมีที่มาจะแตกต่างกับร่างของกรรมาธิการ แต่ส่วนของตนคือมีลักษณะเป็นการทั่วไป ตามความเชี่ยวชาญ และแบ่งสัดส่วนชัดเจน คือ คุณสมบัติทั่วไป 20 คน และผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาต่างๆ อีก 15 คน

 

ส่วนกรณีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ในสัดส่วนกรรมาธิการยกร่างฯ และกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ นั้น กรรมาธิการทำร่างแบบเปิดกว้างให้มีเฉพาะเรื่องสัญชาติการเกิด คือสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ส่วนตัวเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสําคัญ การกําหนดถิ่นที่อยู่ภูมิลําเนามีผลสําคัญ จึงขอสงวนความเห็นไว้ว่า ผู้ที่จะเข้ามาเป็นจะต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยหรือมีทะเบียนบ้านในประเทศไทยที่ตรวจสอบได้ แม้ตัวอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องมีทะเบียนบ้านในประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันในการตรวจสอบ เรื่องความเป็นอยู่ และที่มาที่ไป ความรับผิดรับผิดชอบที่เกิดขึ้น จะต้องติดตามได้

 

สำหรับการคัดเลือกกรรมาธิการของรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมาธิการ สูตร 20 หยิบ 1 นั้น เราเห็นภาพแล้วว่า อนาคตรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นอย่างไร หากผ่านวาระ 2 เราพอเห็นเงาแล้วว่า กรรมาธิการ 35 คนนั้น จะถูกเสมือนจัดตั้งในระบบรัฐสภาชุดหน้า และเห็นภาพว่าใครคุมเสียงข้างมาก ซึ่งเสียงข้างมากก็ย่อมเลือกกรรมาธิการยกร่างฯ ในสัดส่วนที่เป็นกรรมาธิการเสียงข้างมากได้เช่นกัน แม้มีเพียงแค่ 20 คน ก็สามารถกําหนดเกณฑ์วิธีการเขียนรัฐธรรมนูญด้านใดด้านหนึ่งได้อยู่แล้ว

 

“เราจึงเป็นห่วง และเป็นที่มาที่ผมจะสงวนความเห็น ให้เลือกจากรัฐสภาโดยการลงคะแนนจากเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แสนยากนี้มาใช้ ซึ่งมีหลักการว่า ทุกภาคส่วนของสมาชิกรัฐสภาต้องให้ความเห็นชอบ คือมีเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง และต้องมี สว. เห็นชอบด้วยในกึ่งนั้น แต่ข้อเสนอของผม ใช้แค่ 1 ใน 5 หรือคือ 40 คน และสัดส่วนฝ่ายค้านอีกไม่น้อยกว่า 20% มาเลือก 1 คน เชื่อว่า เสียงข้างมากไม่สามารถครอบงําชี้นําได้ ถ้า สส. สว. ตามสัดส่วนดังกล่าวไม่เห็นด้วย ก็จะไม่มีทางได้เป็น” นพ. ชลน่านกล่าว

 

นพ. ชลน่านยังเสนอประเด็นการให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของที่ประชุมรัฐสภา เมื่อกรรมาธิการยกร่างฯ เสร็จแล้ว ให้ส่งมาให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ ถ้าเห็นชอบแล้ว ก็ส่งร่างนั้นไปทําประชามติเลย แต่หากพิจารณาแล้วยังมีสิ่งควรแก้ไข รัฐสภาก็ส่งสิ่งที่ควรแก้ไขไปให้กรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณาแก้ไข แล้วส่งกลับมาให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง

 

ประเมินเนื้อหา-ท่าทีหลังวาระ 2 จะได้ รธน. ยึดโยงประชาชนหรือไม่

 

ขณะที่ จาตุรนต์ระบุว่า ในขณะนี้เราเห็นปัญหา เราก็จะไปทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการพิจารณาวาระ 2 คืออภิปรายให้ที่ประชุมรัฐสภา เห็นว่า ปัญหาคืออะไรและมีทางออกอย่างไร เมื่อพิจารณาวาระ 2 เสร็จแล้วจึงจะเห็นแนวโน้มว่า รางแก้ไขรัฐธรรมนูญควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีเนื้อหา ที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ มีเงื่อนไข 2 ข้อ

 

ประกอบด้วย เนื้อหาสุดท้ายจะออกมาอย่างไร และท่าทีของสมาชิกรัฐสภาส่วนต่างๆ ได้แสดงความเห็นในมาตราสำคัญๆ ไว้อย่างไร จึงจะมีแนวโน้มให้เห็นได้ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่ เราต้องการให้พิจารณาอย่างรอบคอบจริงจัง ใช้เหตุผล หลักการของเราคือ ต้องการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ส่วนการสงวนคำแปรญัตติ ได้มีการประเมิน หรือไม่ว่าจะมีโอกาสชนะหรือไม่ จาตุรนต์มองว่า มีโอกาสชนะและไม่ชนะ เพราะข้อเสนอมีความหลากหลายมาก บางเรื่องก็เห็นชัดว่ากรรมาธิการในส่วนของพรรคใหญ่มองตรงกัน หากยังยันยืนยันตามที่สงวนนั้น แล้วเสียงของส่วนอื่นไม่มากกว่า บางเรื่องก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราสงวนเป็นฝ่ายเสียงข้างมากก็ได้ โดยผลการพิจารณาในวาระสอง จะเป็นผลต่อการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ว่าจะลงมติอย่างไร ในวาระ 3

The post กมธ. สัดส่วนเพื่อไทยสงวนความเห็น ฟื้นประเด็น สสร. เข้าถกในรัฐสภาวาระ 2 หวั่นประชาชนขาดส่วนร่วมแก้ รธน. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ชี้ยื่นซักฟอกแล้วยุบสภาไม่ได้ ป้องกันหนีการตรวจสอบ https://thestandard.co/chusak-no-confidence-stop-dissolve/ Thu, 20 Nov 2025 01:01:05 +0000 https://thestandard.co/?p=1145203 ชูศักดิ์ ชี้ ยื่นซักฟอก แล้ว ยุบสภา ไม่ได้ ป้องกัน หนีการตรวจสอบ

วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ […]

The post ชูศักดิ์ชี้ยื่นซักฟอกแล้วยุบสภาไม่ได้ ป้องกันหนีการตรวจสอบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ ชี้ ยื่นซักฟอก แล้ว ยุบสภา ไม่ได้ ป้องกัน หนีการตรวจสอบ

วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเห็นต่างระหว่างสภากับรัฐบาล กรณีเมื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อสภาแล้วจะยุบสภาไม่ได้ โดยฝ่ายสภาถือเอารัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เป็นหลัก ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าต้องบรรจุญัตติอภิปรายเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาเสียก่อนตามข้อบังคับการประชุมสภานั้น

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยที่ประธานรัฐสภามีความเห็นเช่นนั้น คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือทำไมรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จึงเขียนว่ายื่นญัตติแล้วยุบสภาไม่ได้ คำตอบเพราะเมื่อก่อนเมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว มีการยุบสภาหนี ที่เรียกว่าหนีการซักฟอกไม่ต้องการถูกตรวจสอบ ไม่รวมถึงการใช้วิธีอื่นๆ เช่น ให้ผลประโยชน์กันแล้วให้ไปถอนชื่อ ทำให้ชื่อไม่ครบ

 

ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนตัวถ้าเป็นรัฐบาล หากฝ่ายค้านอยากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยื่นเลย รัฐบาลมีสิทธิชี้แจงได้อยู่แล้ว อย่าไปคิดว่าจะโดนด่าฟรี ดีเสียอีกจะได้เคลียร์ตนเอง เว้นแต่จะรู้สึกว่าเคลียร์ลำบาก เคลียร์ไม่ได้

 

ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการตั้งประเด็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่กำลังพิจารณากันอยู่ขณะนี้ ควรจะเสร็จวาระสามก่อนแล้วค่อยยื่นอภิปรายหรือไม่ ชูศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลไปทำ MOA กันไว้ เข้าใจได้ว่าต้องให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านวาระสามเสียก่อน จึงจะยุบสภา ถ้ายุบสภาก่อนผ่านวาระสาม ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจะตกไป ซึ่งไม่ใช่เพราะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เพราะรัฐบาลยุบสภาก่อนวาระสาม

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า ในฐานะกรรมาธิการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย อยากให้การพิจารณาของกรรมาธิการเสร็จโดยเร็ว แม้ร่างของเพื่อไทยจะตกไปในวาระที่หนึ่ง ก็คงโต้แย้งและสงวนความเห็นไว้เป็นหลัก การพูดว่าจะเอาร่างรัฐธรรมนูญไว้เป็นตัวประกันจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวกัน ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านวาระสามหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ จะได้เสียงเกินครึ่ง หรือได้เสียงวุฒิสภาถึงหนึ่งในสามหรือไม่ ก็ยังไม่รู้เช่นกัน แม้ไม่อภิปรายก็อาจจะตกไปก็ได้

 

ส่วนปัญหาว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เมื่อไร ชูศักดิ์กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคกำลังพิจารณาอยู่ แต่ที่รัฐบาลเสนอแนะว่าให้อภิปรายตามมาตรา 152 (อภิปรายโดยไม่ลงมติ) คงเป็นไปไม่ได้

The post ชูศักดิ์ชี้ยื่นซักฟอกแล้วยุบสภาไม่ได้ ป้องกันหนีการตรวจสอบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์เชื่อร่างแก้รัฐธรรมนูญถูกปัดตก เหตุผลทางการเมือง ยืนยันพร้อมร่วมดันร่างหลักของพรรคประชาชนต่อ https://thestandard.co/chusak-constitution-amendment-rejection/ Wed, 15 Oct 2025 14:21:01 +0000 https://thestandard.co/?p=1131133 ชูศักดิ์ ร่างแก้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาชน

วันนี้ (15 ตุลาคม) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พร […]

The post ชูศักดิ์เชื่อร่างแก้รัฐธรรมนูญถูกปัดตก เหตุผลทางการเมือง ยืนยันพร้อมร่วมดันร่างหลักของพรรคประชาชนต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ ร่างแก้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาชน

วันนี้ (15 ตุลาคม) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมตัวแทน สส. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยความรู้สึกเสียใจต่อกรณีที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ต้องตกไปในการโหวตวาระแรกของรัฐสภา โดยระบุว่าแม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เนื่องจากได้เสียง สว. เพียง 60 เสียง ขาดไป 6 เสียง

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคได้พยายามอย่างสุดความสามารถ และยึดโยงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและหลักเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยยืนยันว่าร่างของพรรคเพื่อไทย มีความเป็นกลางที่สุด เปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมเป็น สสร. และเป็นร่างที่สมควรได้รับการสนับสนุนมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ชูศักดิ์เชื่อว่าสาเหตุที่ร่างพรรคเพื่อไทยตกไปเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง และไม่ได้ทำข้อตกลง MOA เหมือนกับอีก 2 ร่างที่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. ทำให้ได้รับเสียงเกิน 1ใน 3 และทำให้ผ่านเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ

แม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะตกไป แต่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจโหวตสนับสนุนร่างหลักของพรรคประชาชน เนื่องจากมีความใกล้เคียงกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็น สสร. เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นประชาธิปไตย

ชูศักดิ์ยืนยันว่า ถึงแม้ผลจะเป็นเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยจะให้ความร่วมมือและส่งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมาธิการอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สำเร็จ พร้อมฝากให้พรรคประชาชนติดตามตรวจสอบไตร่ตรองให้ดี โดยเฉพาะรูปแบบของ สสร. ที่อาจต้องมีการผสมผสานกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย และอาจมีการแปรญัตตินำร่างพรรคเพื่อไทย ไปประกอบในวาระที่ 2 เพื่อให้เป็นทางออก

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความกังวลเรื่องเวลาที่จำกัดในการทำประชามติ ซึ่งอาจทำให้มีเวลาในการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่เกิน 2 เดือน 

 

ส่วนการที่ ร่างของพรรคประชาชน จะเป็นร่างหลัก อาจมีการแก้ไขในหมวดที่ 1และหมวดที่ 2 นั้น ตามกฎหมายไม่ได้มีข้อห้าม แต่การแก้จะต้องมีการทําประชามติ ซึ่งส่วนตัวมองว่าจะไม่มีการแก้ไข และกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่มีการระบุไว้ เพราะเกรงว่าจะไม่มีทางออก  

 

ทั้งนี้ หากจะสอบถามศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างของพรรคประชาชนจะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะต้องมีมติจากที่ประชุมรัฐสภาเท่านั้น

 

The post ชูศักดิ์เชื่อร่างแก้รัฐธรรมนูญถูกปัดตก เหตุผลทางการเมือง ยืนยันพร้อมร่วมดันร่างหลักของพรรคประชาชนต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ชี้ร่างแก้ไข รธน. เพื่อไทยยืนยันอำนาจรัฐสภา มีตัวแทนวิชาชีพ ห่วงแก้ไม่ทันยุบสภาฯ 4 เดือน https://thestandard.co/chusak-phue-thai-constitution-amendment/ Tue, 14 Oct 2025 05:14:17 +0000 https://thestandard.co/?p=1130161 ชูศักดิ์ชี้ร่างแก้ไข รธน. เพื่อไทยยืนยันอำนาจรัฐสภา มีตัวแทนวิชาชีพ ห่วงแก้ไม่ทันยุบสภาฯ 4 เดือน

วันนี้ (14 ตุลาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ […]

The post ชูศักดิ์ชี้ร่างแก้ไข รธน. เพื่อไทยยืนยันอำนาจรัฐสภา มีตัวแทนวิชาชีพ ห่วงแก้ไม่ทันยุบสภาฯ 4 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ชี้ร่างแก้ไข รธน. เพื่อไทยยืนยันอำนาจรัฐสภา มีตัวแทนวิชาชีพ ห่วงแก้ไม่ทันยุบสภาฯ 4 เดือน

วันนี้ (14 ตุลาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายหลักการและเหตุผลของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2560 จัดทำขึ้นในช่วงที่ประเทศปกครองด้วยรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รัฐสภามาจากการแต่งตั้ง และประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ทำให้บทบัญญัติหลายประการขาดความเป็นประชาธิปไตย ขาดความสมดุลในการใช้อำนาจ และการตรวจสอบขององค์กรต่างๆ มีที่มาไม่เหมาะสมและมีอำนาจที่ล้นเกิน ฝ่ายบริหารอยู่ในสภาพอ่อนแอ ประเทศชะงักงัน ล้าหลัง การใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจเป็นไปได้ยาก

 

ชูศักดิ์กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำ MOA กันระหว่าง 2 พรรคการเมือง ที่ให้พรรคหนึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีเงื่อนไขคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความจริงแล้วรัฐสภามีอายุ 4 ปี จะครบวาระในปี 2570 ขณะนี้ก็อยู่มา 2 ปีเศษ แต่ท้ายสุดก็ตกลงกันว่าจะยุบสภา ครั้งนี้เราก็ลงทุนสูง

 

“ลงทุนสูงประการแรกคือ เราลดอายุของสภาผู้แทนราษฎรของเราเอง จาก 4 ปีให้เหลือ 2 ปี ข้อสอง เราผูกพันว่าต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเราก็ยังไม่รู้เลยว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร และจะทำสำเร็จหรือไม่ ที่สำคัญที่สุด เราต้องทำให้เสร็จภายใน 4 เดือน เพราะถ้าทำไม่เสร็จทันภายใน 4 เดือนนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะตกไป ไม่ทันกับการยุบสภาฯ” ชูศักดิ์กล่าว

 

ชูศักดิ์ระบุว่า จึงตั้งความหวังทั้ง 3 พรรคการเมืองว่า ต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เป็นการลงทุนมหาศาล และความสำเร็จก็ยังไม่แน่ใจ 100% ความพยายามของพรรคเพื่อไทยก็ดำเนินมาโดยตลอด อย่างในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 ที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง ถือเป็นครั้งแรกที่เรานำอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปให้องค์กรอื่นวินิจฉัย ในคดีนั้นตนเองเป็นทนายไปซักค้านเอง จนกระทั่งตุลาการคนหนึ่งต้องออกจากการทำหน้าที่ในองค์คณะ จนในที่สุดศาลก็วินิจฉัยว่าไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง

 

ชูศักดิ์ยังระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เรียกกันว่าเป็น ‘ฉบับปราบโกง’ และพยายามใส่ไคร้ว่า ใครไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้เท่ากับคิดจะปกป้องคนโกง ซึ่งก็เป็นการกล่าวหาที่เกินกว่าเหตุ เราไม่ปฏิเสธที่จะนำคนไม่ดีออกจากการเมือง แต่การมีบทบัญญัติลงโทษต้องมีความชัดเจนแน่นอน ไม่ใช่เกิดจากการตีความ ใช้คำว่า “วิญญูชนเข้าใจได้ว่า..” หรือให้ศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 6 ต่อ 3 เอานายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งออกจากตำแหน่ง

 

สำหรับร่างของพรรคเพื่อไทย มีข้อสำคัญคือการตั้งกรรมาธิการจำนวน 27 คน จากวิชาชีพและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ทั้ง 150 คนเป็นผู้ตั้ง และมี สสร. ด้วยส่วนหนึ่ง และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า อำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภา หลังจาก สสร. ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ต้องนำกลับมาให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ร่างรัฐธรรมนูญก็จะตกไป เป็นการยืนยันอำนาจของรัฐสภา

 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะแก้หมวด 1 และหมวด 2 เหตุผลสำคัญคือ มาตรา 256 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองจะกระทำไม่ได้ ถือว่าครอบคลุมแล้ว แต่เมื่อค้นเหตุผลในการร่างกฎหมาย เพราะมีมาตรา 256 (8) ที่อนุญาตให้แก้หมวด 1 หมวด 2 ได้ แต่ต้องทำประชามติก่อน หากไปแก้ไขไม่ให้แก้หมวด 1 และ หมวด 2 จะทำให้กฎหมายขัดแย้งกันเอง อีกทั้งหมวด 1 เองก็เคยมีการแก้ไขมาแล้วหลายครั้งในอดีต เช่น รัฐธรรมนูญปี 2560 เอง ที่เคยแก้เรื่องการตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระมหากษัตริย์ ทั้งที่ร่างรัฐธรรมนูญนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ลงพระปรมาภิไธยแล้ว

The post ชูศักดิ์ชี้ร่างแก้ไข รธน. เพื่อไทยยืนยันอำนาจรัฐสภา มีตัวแทนวิชาชีพ ห่วงแก้ไม่ทันยุบสภาฯ 4 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชูศักดิ์ถาม 4 เดือนยุบสภา แต่ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญใครจะรับผิดชอบ https://thestandard.co/chusak-4-months-dissolution-but/ Mon, 29 Sep 2025 11:50:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1124445

วันนี้ (29 กันยายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พ […]

The post ชูศักดิ์ถาม 4 เดือนยุบสภา แต่ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญใครจะรับผิดชอบ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 กันยายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายนโยบายรัฐบาลถึงการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ประการแรกมีความเข้าใจว่ารัฐบาลนี้ทำข้อตกลง MOA โดยพรรคการเมือง และบอกว่าต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน ภายหลังแถลงนโยบายต่อประชุมรัฐสภา ซึ่งความจริงกว่าจะดำเนินการต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลามากกว่านั้น ประมาณ 8 เดือน-1 ปี

 

ประการที่สอง รัฐบาลเขียนนโยบาย 15 ข้อ แต่ท่านบอกจะไม่ทำนโยบาย อาทิ เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนัน หรือการกีฬาที่ผสมการพนัน (โป๊กเกอร์) ซึ่งอยากเสนอให้พูดไปเลยว่าจะไม่ทำ เช่น ไม่เข้าไปแทรกแซงคดีเขากระโดง และคดีเกี่ยวกับการฮั้ว สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อให้ไม่มีใครสงสัย

 

สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญได้ตั้งข้อสังเกตว่า เดิม MOA 5 ข้อ ไม่มีเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เพิ่มเติมให้รัฐบาล พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากดูในคำแถลงนโยบาย ไม่ได้อยู่ใน 15 ข้อ แต่ไปอยู่ในอารัมภบท นอกจากนี้ยังพบว่านโยบายที่เขียนกับ MOA ไม่สอดคล้องกัน

 

ขณะเดียวกัน ยังไม่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่มองว่า การนำเงื่อนไขร่างรัฐธรรมนูญไปใส่ไว้ใน MOA เพราะมีความเชื่อว่าจะโน้มน้าวให้ สว. มาลงมติผ่าน 1 ใน 3 ไปได้ แล้วหากยุบสภาภายใน 4 เดือนได้ ไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้น และท้ายที่สุดหากมีการต่อต้านไม่ให้ทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากองค์กรหรือคณะบุคคลที่เคยต่อต้านที่กำลังเคลื่อนไหวและออกมารับกันเป็นทอดๆ พรรคการเมืองไหนจะรับผิดชอบ

The post ชูศักดิ์ถาม 4 เดือนยุบสภา แต่ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญใครจะรับผิดชอบ appeared first on THE STANDARD.

]]>