ฉีดฟิลเลอร์ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 08 Jan 2025 04:14:20 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Ariana Grande ไม่ได้ทำอะไรกับใบหน้ามาแล้ว 4 ปี หลังเล่นมุกตลกขอบคุณโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ https://thestandard.co/ariana-grande-botox-fillers-4-years/ Wed, 08 Jan 2025 04:14:20 +0000 https://thestandard.co/?p=1028146

Ariana Grande ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Tonight ว่า […]

The post Ariana Grande ไม่ได้ทำอะไรกับใบหน้ามาแล้ว 4 ปี หลังเล่นมุกตลกขอบคุณโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

Ariana Grande ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Tonight ว่า เธอไม่ได้ฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ใดๆ มาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว หลังจากที่เธอเล่นมุกตลกขณะรับรางวัล Rising Star จากเวที Palm Springs International Film Awards ว่า เธอขอบคุณโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ที่ทำให้เธอยังคงดูเด็กพอที่จะได้รับรางวัล Rising Star 

 

โดยเธอกล่าวสปีชในขณะรับรางวัล Rising Star ว่า “ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ฉันในวัย 31 ปีจะได้ยินคำว่า ‘ดาวรุ่ง’ อีกครั้ง ดังนั้นฉันก็อยากจะขอขอบคุณเพื่อนสองคนของฉัน นั่นก็คือโบท็อกซ์และฟิลเลอร์”

 

ด้วยการพูดเล่นติดตลกบนเวทีทำให้เธอต้องมาให้สัมภาษณ์กับทาง Entertainment Tonight ว่า “โอ้พระเจ้า นั่นมุกตลกของฉันน่ะ ฉันยังไม่ได้ฉีดอะไรนะ แต่ถ้าฉันกลับมาเริ่มใช้อีกครั้งฉันจะบอกพวกคุณนะ คือฉันหมายถึงว่า ฉันอยากจะทำให้ทุกอย่างโปร่งใสที่สุดในฐานะผู้ก่อตั้งบิวตี้แบรนด์ และในฐานะผู้ก่อตั้ง r.e.m. beauty ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยที่เราจะต้องมีความโปร่งใส แต่ฉันก็รักโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ สนับสนุนด้วยนะ แต่ฉันก็ไม่ได้ฉีดอะไรมา 4 ปีแล้ว”

 

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อปี 2023 Ariana Grande เคยพูดในคลิปวิดีโอเคล็ดลับความงามของ VOGUE ว่า เธอเคยเป็นคนที่ชอบการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์มาก แต่จุดหนึ่งก็คิดได้ว่าเธอไม่จำเป็นจะต้องปกปิดร่องรอยอะไรอีกต่อไปแล้ว เธออยากดูดีในแบบที่เธอเป็น ดังนั้นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการขยับใบหน้า การหัวเราะ หรือการร้องไห้ เธอก็อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งนั้น

 

“เป็นเวลานานแล้วที่เรื่องความสวยงามถูกปกปิดเอาไว้มาตลอด ตอนนี้ฉันหยุดฉีดโบท็อกซ์แล้ว บางทีฉันอาจกลับมาฉีดอีกในสักวันหนึ่ง ไม่รู้สิ แต่ละคนมีความชอบเป็นของตัวเอง เราทำอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกว่าเราสวย ฉันสนับสนุนหมดเลย แต่สำหรับฉันตอนนี้ ฉันอยากเห็นร่องรอยจากการร้องไห้หรือการยิ้ม ฉันหวังว่าร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้มจะยิ่งลึกลงไปอีก ฉันจะหัวเราะให้มากขึ้น ฉันคิดจริงๆ นะว่าการแก่ตัวลงก็เป็นเรื่องที่สวยงาม”

 

ภาพ: Iron Man / GC Images

อ้างอิง:

The post Ariana Grande ไม่ได้ทำอะไรกับใบหน้ามาแล้ว 4 ปี หลังเล่นมุกตลกขอบคุณโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้ไว้ก่อนจิ้ม! 3 จุดเสี่ยงบนใบหน้าที่แพทย์มักเลี่ยง https://thestandard.co/life/3-risky-facial-areas-doctors-avoid Sun, 03 Nov 2024 04:03:51 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1003345 ใบหน้า

ดูเหมือนว่าการฝากหน้าไว้กับเข็มจะเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่ […]

The post รู้ไว้ก่อนจิ้ม! 3 จุดเสี่ยงบนใบหน้าที่แพทย์มักเลี่ยง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ใบหน้า

ดูเหมือนว่าการฝากหน้าไว้กับเข็มจะเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่หันมาให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับกลุ่ม Gen Z ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกรับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานถือเป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่เสมอ แต่อีกสิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติมคือเรื่องของความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของตัวยา ความเสี่ยง หรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังรับหัตถการ 

 

ปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ใหม่ในท้องตลาดมากมายโดยเฉพาะฟิลเลอร์และ Biostimulator สิ่งที่เราในฐานะผู้บริโภคควรรับรู้คือเรื่องของจุดเสี่ยงบนใบหน้า



ผลวิจัยจาก Aesthetic Surgery Journal (April 2024) เผยว่า 3 จุดเสี่ยงสำหรับการฉีดฟิลเลอร์และ Biostimulator ได้แก่ จมูก ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก เนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตา หากมีข้อผิดพลาดอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ 

 

ทั้งนี้ ใช่ว่า 3 จุดดังกล่าวจะเป็นที่ต้องห้ามร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่เป็นบริเวณที่แพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำ หรือหากฉีดก็จะต้องอาศัยประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างยิ่ง 

 

ดังนั้นแล้วก่อนจะเลือกรับหัตถการใดก็ตามเราควรหมั่นศึกษาหาข้อมูลให้มาก และทำความเข้าใจว่าทุกหัตถการเกิดความเสี่ยงได้เสมอ  

  

อ้างอิง:

The post รู้ไว้ก่อนจิ้ม! 3 จุดเสี่ยงบนใบหน้าที่แพทย์มักเลี่ยง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดข้อมูลเทรนด์ฉีดฟิลเลอร์น่าสนใจฉบับได้ผล เติมเต็มความดูดีให้งานผิวในทุกมิติ https://thestandard.co/interesting-trend-in-filler-injections/ Thu, 25 Apr 2024 09:30:59 +0000 https://thestandard.co/?p=926520

ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนเคยมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับผู้บริหารระด […]

The post เปิดข้อมูลเทรนด์ฉีดฟิลเลอร์น่าสนใจฉบับได้ผล เติมเต็มความดูดีให้งานผิวในทุกมิติ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนเคยมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับผู้บริหารระดับสูงแห่งแบรนด์ความงามระดับต้นๆ ของโลก ซึ่งมุมมองที่เธอสะท้อนออกมามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

 

แม้จะดูเป็นผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจสกินแคร์ที่เธอดูแลไม่น้อย แต่เธอก็บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า การทำหัตถการ ณ ปัจจุบันเป็นเรื่องที่ผู้คนทำกันอย่างแพร่หลายแล้ว และไม่ใช่เรื่องแปลกเลย 

 

อย่างไรก็ดี การทำหัตถการที่ได้ผลก็จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้สกินแคร์ที่มีคุณภาพดูแลควบคู่เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในระยะยาว

 

จะเห็นได้ว่า ค่านิยมของการทำหัตถการทั้งเพื่อมุ่งเป้าไปที่ความสวยความงาม ความหล่อดูดี หรือการชะลอวัยในมุมมองของผู้บริโภค ณ วันนี้ได้เปิดกว้าง ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายให้เป็นเรื่องปกติ ความเป็นธรรมชาติที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ (ทั้งที่จริงๆ การทำหัตถการก็ไม่เคยเป็นเรื่องที่แปลกหรือผิดเลยด้วยซ้ำ)

 

เช่นเดียวกันกับ ‘การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)’ ที่ในความเป็นจริงนั้นเป็นรูปแบบการทำหัตถการชนิดหนึ่งที่สามารถทำได้ และให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แตกต่างจากการทำหัตถการประเภทอื่นๆ หากเลือกคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และเลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานโดย FDA ของสหรัฐอเมริกา

 

แล้วมุมมองเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ในเทรนด์ระดับโลกขับเคลื่อนไปในทิศทางใดบ้าง จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ผ่านการรับรองมาตรฐานโดย FDA ของสหรัฐอเมริกา?

 

 

เลือกใช้ฟิลเลอร์ประเภทที่ใช่กับคนไข้แต่ละคนด้วยปริมาณที่เหมาะสม บทสรุปที่สามัญแต่จริงใจ

 

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา สื่อด้านความสวยความงามจากสหรัฐฯ อย่าง Byrdie ได้กล่าวถึงฟิลเลอร์ไว้อย่างน่าสนใจ โดยบอกเอาไว้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ในสหรัฐฯ บริเวณใบหน้ายังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคอยู่พอสมควร

 

แต่ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ ฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีชนิดและตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งบางทีไม่ได้ต่างกันแค่ส่วนประกอบเพียงอย่างเดียว เพราะ Byrdie ใช้คำว่าฟิลเลอร์บางชนิดก็มีความต่างกันลึกถึงระดับ ‘โมเลกุล’ 

 

นั่นหมายความว่า ผลลัพธ์ที่คุณได้จากฟิลเลอร์แต่ละรูปแบบก็อาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่คุณเลือกใช้

 

ปัจจุบัน บริษัทอย่าง ‘Allergan’ ถือเป็นหนึ่งในสองผู้ผลิตฟิลเลอร์หลักรายใหญ่ของโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการการแพทย์ ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพความน่าเชื่อถือโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ​ (FDA) จากการเปิดเผยโดย Byrdie ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่การันตีได้ถึงผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐานและความปลอดภัยที่เราในฐานะผู้รับการฉีดจะได้รับ

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทาง Byrdie ยังได้สัมภาษณ์คุณหมอ Marnie Nussbaum แพทย์ผิวหนังเพื่อความงาม และคุณหมอ Jonathan Cabin ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้า ถึงความเห็นและข้อแนะนำที่คุณหมอทั้งสองท่านมีต่อการฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบัน โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งสองรายได้ให้คำแนะนำถึงฟิลเลอร์ทั้ง 5 ชนิดที่กำลังได้รับความสนใจในเทรนด์ ณ ปัจจุบัน

 

1. Hyaluronic Acid (HA) – สำหรับฟิลเลอร์ไฮยานี้ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูมีความเป็นธรรมชาติด้วยเท็กซ์เจอร์ที่เบาบาง โดยที่ HA ยังเป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายมนุษย์เราอีกด้วย ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปยังร่างกายตามบริเวณที่ต้องการแล้ว ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะค่อยๆ เจือจางลงตามกาลเวลาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉลี่ยจะมีระยะเวลาอยู่ที่ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ฉีดและโปรดักต์ของบริษัทที่เลือกใช้ (คุณหมอทั้งสองท่านและ Byrdie แนะนำว่าฟิลเลอร์ของ Allergan ในกลุ่ม HA ก็ค่อนข้างได้รับความนิยมและแพร่หลายมาก)

 

ในเชิงการใช้งาน ฟิลเลอร์ไฮยาสามารถนำไปฉีดยังบริเวณต่างๆ ของใบหน้าได้หลากหลาย เช่น การรักษาริ้วรอยบริเวณใต้ตา, เติมเต็มร่องลึกบริเวณแก้มและริมฝีปาก ขมับ และการปรับรูปหน้า หรือการสร้างกรอบหน้าบริเวณคาง

 

2. Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ตามมาด้วยฟิลเลอร์แบบ CaHA ซึ่งความคล้ายคลึงกับ HA คือสารชนิดนี้เป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายมนุษย์เรา โดยมากมักพบในบริเวณกระดูก และด้วยความที่มีอนุภาคหลักเป็นแคลเซียม ตัวฟิลเลอร์จึงมีความแข็งกว่า HA พอสมควร และจะอยู่ได้นานมากถึงหนึ่งปีเลยทีเดียว มักใช้งานในการเติมเต็มให้ร่องแก้มและรอยพับระหว่างจมูกดูเรียบเนียน เติมเต็ม รวมถึงใช้ปรับรูปทรงของแนวสันกราม

 

3. Poly-L-lactic Acid – แม้ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่สามารถพบได้ในร่างกายเหมือนกับ HA และ CaHA แต่ Poly-L-lactic Acid ก็ถือเป็นสารสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากไม่ต่ำกว่า 2 ปีขึ้นไป 

 

โดยมากนิยมฉีดกันเพื่อเติมเต็มความสวยงามเวลาที่ยิ้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยบริเวณคาง รวมถึงแก้มและขมับ ทั้งยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้คืนสู่ผิวหน้าอีกด้วย

 

4. Polymethylmethacrylate (PMMA) – คล้ายคลึงกับ Poly-L-lactic Acid ตรงที่เป็นฟิลเลอร์จากสารสังเคราะห์ทางชีวภาพ ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์แบบไฮยา (เป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ FDA รับรองผลว่าให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า 5 ปีเต็ม) นิยมใช้เพื่อเพิ่มและเติมเต็มรอยยิ้มให้ได้รูปสวยงาม เติมเต็มร่องหลุมสิวให้เรียบเนียน และยังสามารถช่วยร่างกายให้กระตุ้นสร้างคอลลาเจนเพื่อ Maintain ความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้าได้ไม่ต่างจาก Poly-L-lactic Acid 

 

5. Autologous fat injections (facial fat grafting) – แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั้ง 4 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นตรงที่เป็นการนำไขมันส่วนอื่นในร่างกายเรามาฉีดที่บริเวณใบหน้า นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดหากต้องการใช้วิธีการนี้ในการเติมเต็มร่องรอย ริ้วรอย หรือแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้า (อาจไม่ได้จบแค่ครั้งเดียว) แต่ข้อดีคือ คุณหมอทั้งสองท่านและ Byrdie ระบุว่าฟิลเลอร์แบบนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า และบางเคสอาจได้ผลลัพธ์แบบคงทนถาวรเลยก็ว่าได้!

 

 

ถึงกระนั้นก็ดี คุณหมอ Marnie Nussbaum ย้ำว่า วิธีที่จะใช้ฟิลเลอร์ให้ได้ผลที่สุด นอกเหนือจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองโดย FDA (เช่น Allergan) คือการใช้ประเภทฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการหรือผลลัพธ์ให้ถูกกับเรา และในปริมาณที่เหมาะสม

 

‘Skin Boosters’ เทรนด์ ‘เติมความฉ่ำผิว’ รูปแบบใหม่ที่แม้แต่ Harper’s BAZAAR ยกให้เป็นหนึ่งในเทรนด์ความสวยความงามที่น่าสนใจประจำปี 2024

 

นอกเหนือจากข้อมูลที่เผยแพร่โดย Byrdie นิตยสารหัวดังอย่าง Harper’s BAZAAR ก็เคยออกมาเปิดเผยเทรนด์ความสวยความงามที่น่าจับตาประจำปี 2024 (The Biggest 2024 Beauty Trends for a Head-to-Toe Glow Up) เช่นกัน

 

หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจคือ การฉีด Skin Booster หรือ Skin Hydrator เพื่อเติมความฉ่ำ ชุ่มชื้นให้กับผิว

 

โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีความพิเศษตรงที่ถือเป็น Hyaluronic Acid สำหรับงานผิวตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการอนุมัติ FDA สหรัฐฯ มีคุณสมบัติเด่นในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงหรือเติมเต็มชั้นผิวแต่อย่างใด

 

เรียกง่ายๆ ว่าการทำหัตถการด้วยการฉีด Skin Booster จะทำหน้าที่เป็นเหมือนการบำรุงผิวขั้นพื้นฐานที่ฉีดเข้าผิวโดยตรง ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น เรียบเนียน อิ่มน้ำฉ่ำวาวโกลว (แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ทาง Allergan ก็เป็นผู้พัฒนาเช่นกัน)

 

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.allerganaesthetics.co.th/ 

 

อ้างอิง:

 

TH-JUV-240090

The post เปิดข้อมูลเทรนด์ฉีดฟิลเลอร์น่าสนใจฉบับได้ผล เติมเต็มความดูดีให้งานผิวในทุกมิติ appeared first on THE STANDARD.

]]>
คุยกับหมอเด่น Paragon Clinic คลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สูงสุดระดับประเทศ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/talk-with-dr-den-paragon-clinic/ Tue, 26 Mar 2024 08:53:04 +0000 https://thestandard.co/?p=915667

โครงหน้าที่ดี กรอบหน้าที่เป๊ะ…อาจไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิ […]

The post คุยกับหมอเด่น Paragon Clinic คลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สูงสุดระดับประเทศ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

โครงหน้าที่ดี กรอบหน้าที่เป๊ะ…อาจไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่หมอเด่นสามารถสร้างให้ได้

 

อยากปรับลุคให้ดูดี พร้อมโครงหน้าที่สวยดั่งใจฝัน ต้องทำอย่างไร? ถ้าจะตอบคำถามนี้ต้องไปคุยกับนายแพทย์อภิวัฒน์ มงคลสินธุ์ หรือหมอเด่น ผู้ชำนาญด้าน Facial Design หรือการปรับรูปหน้า เขาสั่งสมประสบการณ์ในโลกของการแพทย์และความงามมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของ Paragon Clinic ที่มีสถิติการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สูงสุดระดับประเทศ

 

 

หมอ vs. นักธุรกิจ

 

Paragon Clinic ปัจจุบันขยับขยายมาสู่สาขาที่ 5 ครอบคลุมหลายจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ และอุตรดิตถ์ นับเป็นการเติบโตที่ไม่ได้เร็วเกินไป หากอยู่ในจังหวะที่กลมกล่อมพอดี หมอเด่นเริ่มต้นเล่าถึงที่มาของการเปิดคลินิกหลังจากสั่งสมประสบการณ์ในโลกของการแพทย์และความงามมาอย่างยาวนาน

 

“เราคือหมอไม่ใช่นักธุรกิจที่มุ่งหวังกำไรมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะฉะนั้นเป้าหมายในการเปิดคลินิกของผมจึงมุ่งสู่การมอบ ‘ผลการรักษาที่ดีที่สุด’ รองลงมาจะเป็นการให้บริการที่ดีในราคาที่ดีกับคนไข้

 

“ความที่เราอยากรับผิดชอบและดูแลคนไข้ของเราไปนานๆ เป็นเหตุที่ทำให้ผมเปิดคลินิกค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับหมอในรุ่นราวคราวเดียวกัน เราสั่งสมประสบการณ์ รอให้ความรู้ความชำนาญตกตะกอนมากพอจนมั่นใจ ประจวบเหมาะกับมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านความงามเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จึงตัดสินใจเปิด Paragon Clinic สาขาแรกที่จังหวัดกำแพงเพชร จากเสียงตอบรับที่ดีก็ส่งผลให้เราสามารถขยับขยายคลินิกให้ครอบคลุมไปในจังหวัดต่างๆ ข้างเคียง”

 

 

Top 10 Premium Clinic 2023

 

Paragon Clinic ให้บริการด้าน Facial Design แบบครบวงจร มีจุดเด่นอยู่ที่ความชำนาญและความแม่นยำในการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้า ซึ่งคงคอนเซปต์ ‘1 ตำแหน่งต่อ 1 ซีซีมาโดยตลอด’

 

“การฉีดฟิลเลอร์หลอดหนึ่งประกอบด้วยตัวยา 1 ซีซี เวลาฉีด 1 จิ้ม เราฉีดไม่เกิน 0.1 ซีซี แปลว่าฟิลเลอร์หลอดหนึ่งเราฉีดได้ทั้งหมด 10 จิ้ม การฉีดที่มีประสิทธิภาพของเราช่วยให้ลูกค้าประหยัดและเห็นผลการรักษาได้อย่างชัดเจน เพราะตลอดเวลาของการฉีดเราให้ลูกค้าส่องกระจกดูได้เลย การรักษาที่ตั้งอยู่บนความโปร่งใสและได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกลายเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดให้เขากลับมาใช้บริการซ้ำ ทั้งยังบอกต่อให้กับคนรอบๆ ตัว”

 

 

จนในปีล่าสุด Paragon Clinic กลายเป็นคลินิกแห่งเดียวของภาคเหนือตอนล่างที่ได้คว้ารางวัล Top 10 Premium Clinic 2023 จาก Galderma ไปครอง ด้วยยอดผู้ใช้บริการปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Restylane และโปรแกรมฉีดโบทูลินัมท็อกซินที่นำเข้าจากอังกฤษสูงสุดระดับประเทศ

 

“ถึงแม้จะเป็นคลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สูงที่สุด แต่เชื่อไหมว่าหลายครั้งที่ลูกค้ารู้สึกว่าทำไมที่นี่กว่าจะฉีดโบท็อกซ์ให้แต่ละครั้งถึงยากเย็น เพราะเราเชื่อว่า การปรับรูปหน้าที่พอดีต้องมาจากพื้นฐานความเข้าใจมนุษย์ในแต่ละช่วงวัย คนอายุ 20s, 30s และ 40s มีโจทย์ที่แตกต่างกัน เราจะคุยถึงสิ่งที่ทำได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ รวมถึงสิ่งที่ทำแล้วดีและสิ่งที่อาจจะไม่เหมาะสมกับความพอดีของเขาด้วย” และสิ่งที่เราได้ยินจากคนไข้เป็นประจำเลยคือไม่เคยเจอที่ไหนอธิบายละเอียดแบบนี้เลย

 

 

เพราะความงามคือความพอดี 

 

หากว่ากันตามทฤษฎี โครงหน้าจะสวยเพอร์เฟกต์ก็ต่อเมื่อทุกองค์ประกอบของใบหน้าต้องสมมาตร ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งสัดส่วนตามแนวตั้ง แนวนอน หรือมุม 90 องศา แต่สำหรับหมอเด่น ประสบการณ์บอกเขาว่า

 

“ความงามอาจไม่ใช่ความเพอร์เฟกต์ แต่ความงามคือความพอดี อย่างเช่น บางคนปากนิดจมูกหน่อย ช่วง Middle Face (จากคิ้วลงมาถึงปลายจมูก) ของเขาอาจจะดู Lost แต่กลับเป็นพระเอกนางเอกเบอร์ 1 ได้ เพราะความไม่เพอร์เฟกต์เหล่านั้นเมื่อมาอยู่รวมกันแล้วมันดูพอดี จนกลายเป็นเสน่ห์ชวนมองอีกอย่างหนึ่งนั่นเอง”

 

การปรับโครงหน้าที่สมบูรณ์ที่สุดต้องลงลึกถึงทุกชั้นผิว ตั้งแต่ชั้นผิวที่ตื้นที่สุดถึงชั้นกระดูก เพราะแต่ละชั้นผิวต้องการเครื่องมือที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน

 

แต่ถ้าถามว่าส่วนไหนที่มีปัญหาแล้วจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นคือการที่โหนกแก้มทรุด ผิวตรงโหนกแก้มมีการร่วงลงมาเพราะชั้นกระดูกกร่อนตามอายุ

 

“เชื่อไหมว่าการที่โหนกแก้มทรุดเพียงแค่ 1 ตำแหน่ง นำไปสู่ปัญหาได้หลายตำแหน่ง เช่น แก้มห้อยตกลงมา ทำให้กรอบหน้าไม่ชัด รวมถึงไขมันตกลงมาเหนือร่องแก้มก็ทำให้เกิดร่องแก้มขึ้นได้ และที่เห็นชัดที่สุดคือเกิดเส้นพาดหน้าแก้ม ทำให้เกิดรอยเส้นแบ่งของใบหน้า ส่งผลให้โครงหน้าดูมีอายุและไม่สดชื่น แต่ในทางกลับกัน ถ้าเติมโหนกแก้มด้วยฟิลเลอร์ ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะดีขึ้นด้วยฟิลเลอร์เพียงหลอดเดียว เพราะหมอเด่นฉีดโหนกแก้มสองข้างโดยใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 ซีซี นี่คือความมหัศจรรย์ของฟิลเลอร์”

 

 

โครงหน้าดีเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ดี

 

นอกจากการมีทักษะความชำนาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน การจะปรับโครงหน้าให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคลินิกต้องใส่ใจ โดยหลักคิดในการนำผลิตภัณฑ์มาใช้ใน Paragon Clinic ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างต้องผ่าน 5 กระบวนการเหล่านี้เสมอ

 

  1. แก้ปัญหาให้คนไข้ได้หรือไม่ 
  2. มีความปลอดภัย ผ่าน อย. ถูกต้องหรือเปล่า
  3. ราคาเหมาะกับคนไข้ของเราหรือเปล่า
  4. นำผลิตภัณฑ์นั้นมาทดสอบว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ 
  5. ถ้าผ่านการทดสอบ ผลิตภัณฑ์จึงจะถูกนำไปใช้กับคนไข้ที่คลินิก 

 

“ผลิตภัณฑ์ที่ใช้หลักๆ ใน Paragon Clinic เพื่อการปรับรูปโครงหน้าอยู่ภายใต้แบรนด์ Galderma เช่น Restylane Lyft ฟิลเลอร์ที่โดดเด่นด้านการขึ้นรูปที่ดี มีการอยู่ตัวสูง, Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา เกลี่ยง่าย ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Restylane Kysse ฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อฉีดริมฝีปากโดยเฉพาะ ใช้ปรับเปลี่ยนทรงปากได้อย่างใจ ให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ แถมยังมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนสีผิวให้กลายเป็นสีอมชมพู”

 

เพราะการใช้ชีวิตในโลกที่วิทยาการความงามก้าวหน้า การจะปรับลุคให้ดูดีผ่านการแก้ปัญหาโครงหน้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ควบคู่ไปกับจริยธรรมในการรักษาคนไข้

The post คุยกับหมอเด่น Paragon Clinic คลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สูงสุดระดับประเทศ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
อย. แนะก่อนฉีดฟิลเลอร์ตรวจดูผลิตภัณฑ์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เตือนระวังผลข้างเคียงเนื้อเยื่อตาย-ตาบอด https://thestandard.co/oryor-filler-inject-advice/ Wed, 05 Jul 2023 09:48:35 +0000 https://thestandard.co/?p=812774 ฉีดฟิลเลอร์

วันนี้ (5 กรกฎาคม) เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการ […]

The post อย. แนะก่อนฉีดฟิลเลอร์ตรวจดูผลิตภัณฑ์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เตือนระวังผลข้างเคียงเนื้อเยื่อตาย-ตาบอด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฉีดฟิลเลอร์

วันนี้ (5 กรกฎาคม) เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัจจุบันฟิลเลอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจและมีการนำมาใช้กันอย่างมาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะนำผู้บริโภคเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้มากยิ่งขึ้น เน้นย้ำถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และวิธีตรวจสอบผลิตภัณฑ์ 

 

โดยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับฉีดเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผิวหนัง โดยการเติมเต็มหรือลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม, โหนกแก้ม, หน้าผาก, ใต้ตา, จมูก, คาง หรือริมฝีปาก ทำให้ร่องลึกและริ้วรอยดูตื้นขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้มักจะผลิตจากสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย เช่น กรดไฮยาลูโรนิก เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ฟิลเลอร์จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ขายต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อนจำหน่าย โดยฟิลเลอร์แต่ละชนิดจะมีความเหมาะสมต่อการฉีดในบริเวณต่างๆ ของร่างกายที่แตกต่างกัน รวมถึงปริมาณที่ใช้และวิธีการฉีด ซึ่งจะมีรายละเอียดกำหนดไว้อยู่บนฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ประกอบวิชาชีพ

 

เภสัชกรเลิศชายกล่าวต่อว่า การฉีดฟิลเลอร์อาจพบผลข้างเคียง ได้แก่ อาการคัน, ปวด, บวม, ตึง, แดงร้อนบริเวณที่ฉีด, ผิวหนังฟกช้ำ, ห้อเลือด, ผิวหนังติดเชื้อ, พบก้อนบริเวณที่ฉีด, ผิวหนังบริเวณที่ฉีดดูขาวขึ้นหรือคล้ำลง หรืออาจแพ้ยาชาที่เป็นส่วนผสมของฟิลเลอร์ทำให้เส้นเลือดอุดตัน และอาจทำให้เกิดภาวะเนื้อเยื่อตาย หรือตาบอดได้

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้บริโภคที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ต้องเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังประจำอยู่ และควรขอใช้สิทธิตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์ว่า ฟิลเลอร์ได้ผ่านการอนุญาตจาก อย. หรือไม่ โดยดูจากเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์ หรือตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือผ่าน QR Code พร้อมกับถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ไว้เป็นหลักฐานก่อนรับบริการ

 

เภสัชกรเลิศชายกล่าวว่า สำหรับผู้ที่ผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

The post อย. แนะก่อนฉีดฟิลเลอร์ตรวจดูผลิตภัณฑ์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เตือนระวังผลข้างเคียงเนื้อเยื่อตาย-ตาบอด appeared first on THE STANDARD.

]]>
24 เรื่องฟิลเลอร์ที่ต้องรู้จากปาก นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ https://thestandard.co/life/everything-you-must-know-about-fillers Mon, 12 Jun 2023 05:12:26 +0000 https://thestandard.co/?p=802004 ฟิลเลอร์

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ‘ฟิลเลอร์’ (Filler) หรือสารเติมเต็ม […]

The post 24 เรื่องฟิลเลอร์ที่ต้องรู้จากปาก นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฟิลเลอร์

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ‘ฟิลเลอร์’ (Filler) หรือสารเติมเต็มที่ใช้ในวงการความงามนั้นมีข่าวคราวในแง่ลบไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดแล้วตาบอด ฉีดแล้วฟิลเลอร์เน่า ติดเชื้อเป็นหนอง หรือเป็นก้อนไม่สวยดั่งใจ จนทำให้ใครหลายคนที่คิดจะเข้าวงการล้มเลิกความคิดพร้อมตีตราว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นอันตราย คำถามคือ “การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีและปลอดภัยจริงๆ 100% ยังมีอยู่ไหมในโลกใบนี้?” 

 

การฉีดฟิลเลอร์

ภาพ: Getty Images

 

งานนี้ LIFE เลยบุกไปล้วงลึกและไขข้อสงสัยทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงเทรนด์ความงามในปัจจุบันกับ นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ หรือ คุณหมอบอย แพทย์ที่คร่ำหวอดในวงการความงามและการชะลอวัยมากว่า 20 ปี 

 

การฉีดฟิลเลอร์

 

ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ (Certified Country Mentor Trainer) สำหรับเขตเอเชีย-แปซิฟิก ผู้ริเริ่มการใช้เข็มปลายทู่ในการฉีดฟิลเลอร์ของเมืองไทย การฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก (Bone Touching Filler Injection) และยังถือเป็นแพทย์ไทยคนแรกที่ได้รับเชิญให้เขียนเผยแพร่เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคสัมผัสกระดูก (Butterfly Lift) ลงตำราแพทย์ Non-Surgical Rejuvenation of Asian Faces จากสำนักพิมพ์ Springer ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC หรือ AIC Clinic อีกด้วย

 

 

หากคุณเคยแวะเวียนเข้าคลินิกเวชกรรมต่างๆ แล้วลองเดินเข้ามาที่ AIC Clinic ก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างอย่างชัดเจนด้วยการตกแต่งที่เรียบง่าย ไม่ได้เน้นความหรูหราโอ่อ่าดุจสปาเหมือนคลินิกส่วนใหญ่

 

 

AIC Clinic เป็นคลินิกระดับพรีเมียมเฉพาะทางก่อตั้งในปี 2012 ที่ให้บริการด้านความงามแบบกึ่งศัลยกรรม รวมทั้งนวัตกรรมความงามใหม่ๆ เพื่อการดูแลผิว โดยเน้นเป็นบริการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ที่ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีทุกคน และต้องมีทักษะฝีมือชั้นสูงเท่านั้น โดยทางคลินิกจะจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามารับบริการไม่เกินวันละ 10 คนแบบไม่รับวอล์กอิน 

 

 

นอกจากนี้ AIC Clinic ยังใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมและให้ความรู้ใหม่ๆ ทางด้านความงามแก่แพทย์ไทยและแพทย์ต่างชาติในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย

 

 

เทรนด์รูปหน้าและผิวพรรณในปัจจุบันเป็นอย่างไร  

ปัจจุบันเราเน้นรูปหน้าที่คมชัด มีมิติ มีสัดส่วนที่ชัดเจน กรอบหน้าชัด โหนกแก้มชัด ไม่ V-Shape อีกแล้ว แบบนั้นมันไม่มีมิติ ส่วนในเรื่องผิวพรรณก็จะเน้นเรื่องคุณภาพของผิวที่ดูเนียนใส ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้เราจะมีนวัตกรรมตัวใหม่ที่ชื่อว่า Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวแรกของโลก และผ่านการรับรองจาก US FDA ในไทยแล้วเรียบร้อย

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Sculptra USA (@sculptrausa)


 

 

การฉีดฟิลเลอร์ HA สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้บางส่วน ร่างกายเรามีต้องมีไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เซลล์ที่สร้างคอลลาเจนอยู่แล้ว แต่พออายุมากขึ้นไฟโบรบลาสต์น้อยลง Sculptra เลยจะเป็นตัวที่ช่วยเพิ่มไฟโบรบลาสต์นี่แหละ การฉีดจะแนะนำอยู่ที่ 3 เซสชัน เดือนละครั้ง จะอยู่ได้ 2 ปี 

 

นิยามของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็ม สมัยก่อนทุกตัวเป็นฟิลเลอร์หมด ซิลิโคนเหลวก็คือฟิลเลอร์ แต่ถ้าจะให้เรียกว่าฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยจริงๆ ต้องเรียกว่าฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และเป็นฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ไม่มีตัวอื่นปน ต้องมีความบริสุทธิ์มากๆ มันถึงแพง

 

ไม่ว่าอย่างไรฟิลเลอร์ก็ต้องแพง

ไม่มีของดีราคาถูก ถ้าคุณจ่ายถูก ใช้ยาถูกคุณภาพต่ำ หมอที่ฉีดก็คุณภาพต่ำลงเช่นกัน หมอดีๆ ที่มีชื่อเสียงไม่เสี่ยงใช้ของไม่ดีอยู่แล้ว ปัจจุบันฟิลเลอร์ในท้องตลาดเยอะมาก ถ้าคลินิกที่พรีเมียมหน่อยก็จะใช้ยี่ห้อที่พิสูจน์มาแล้ว ราคาสูง มีงานวิจัย ความแพงมันอยู่ที่เทคโนโลยีและงานวิจัยนี่แหละ 

 

 

มีหลายเคสที่เลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพดีราคาแพงแล้วแต่ก็ยังพลาด เช่นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ทั้งนี้เกิดจากอะไร

  1. หมอไม่เก่ง เป็นความผิดพลาดของหมอที่ฉีด
  2. เลือกยาผิด คุณสมบัติของยาบางตัวอาจจะเหมาะกับฝรั่งแต่ไม่เหมาะกับคนไทย อย่างตัวยาที่มีในไทยเราก็ฉีดไม่เหมือนฝรั่งนะ สภาพผิวต่างกัน มียี่ห้อหนึ่งที่หมอฝรั่งมาสาธิตฉีดในคนเอเชีย ปรากฏว่าตุ่ยปูดเพียบ  
  3. เดิมทีใต้ตาเป็นก้อนอยู่แล้ว เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อการตรวจดูสภาพผิวก่อนฉีดครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งการจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเพอร์เฟกต์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเหนียวของเส้นเอ็นและความหนาตัวของกล้ามเนื้อหัวตาด้วย

 

 

เมื่อฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้ว สามารถปล่อยให้สลายไปเองโดยธรรมชาติได้หรือไม่

ถ้าอยู่ผิดที่ผิดทาง ไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรมียาอยู่ ไม่สลายแน่นอน 

 

เราสามารถฉีดฟิลเลอร์หลายตัวพร้อมกันได้ไหม

ได้ ถ้าเป็นยี่ห้อเดียวกัน เราควรฉีดยี่ห้อเดียวเพราะยี่ห้อเดียวมีคุณสมบัติให้หมดแล้ว อย่าง Restylane ที่คลินิกใช้เป็นตัวพรีเมียม แพงที่สุด มีงานวิจัยรองรับมากที่สุด ใช้มานานที่สุด เรียกว่าเป็น Gold Standard ของฟิลเลอร์ทั้งหมดในโลกนี้ ถ้ามีตัวไหนผลิตใหม่มาก็ต้องมาเทียบกับมาตรฐานตัวนี้

 

 

ถ้าเทียบระหว่างการฉีดฟิลเลอร์กับการฉีดไขมันของตัวเองแบบไหนดีกว่ากัน

การฉีดไขมันคือตัวปัญหาเลย อย่าคิดว่าไขมันเป็นของตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติ แต่มันสร้างความคมชัดให้ใบหน้าไม่ได้ ทำให้หน้าไม่มีมิติ หน้าจะดูบวมตุ่ยๆ 

 

บางคนบอกฉีดทั้งหน้าต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะมาก ต้องจ่ายแพงมาก เลยเลือกฉีดไขมันแทน

จะเอาสวยไหมล่ะ (คุณหมอบอยถามติดตลก) ถ้าฉีดไขมันมาแล้วไม่สวยก็ต้องไปแก้ ซึ่งต้องใช้เงินมากกว่า 2-3 เท่าตัว แล้วการฉีดไขมัน 10 ซีซี จะเหลือบนใบหน้าแค่ 20% บางคนหายหมด

 

บางคนสลายไม่เท่ากัน ติดข้าง อีกข้างไม่ติด อันนี้แก้ยากมาก ประสบการณ์ของคนที่ฉีดไขมันเกือบ 100% ไม่แฮปปี้ 

 

แต่อย่างฟิลเลอร์ถ้าไม่ชอบตรงไหนสามารถฉีดสลายทิ้งหายหมด ขอย้ำว่าเป็นชนิดที่ดีนะ ถ้าฉีดของดีมันก็เหมือนมีปุ่มรีเซ็ตให้เราเพื่อความปลอดภัยอยู่ตลอด

 

 

นอกจากการใช้ฟิลเลอร์ถูก การฉีดไขมันแล้ว มีหัตถการไหนที่คุณหมอบอยไม่สนับสนุนให้ทำบ้าง

การผ่าตัดเสริมหน้าผาก หน้าผากเป็นส่วนที่ฉีดฟิลเลอร์สวยกว่า มันเป็นงานละเอียดอ่อน เราสามารถปรับแต่งได้เหมือนรูปปั้น แต่ข้อเสียคือหน้าผากเป็นจุดอันตราย คนที่ไปฉีดไขมันหน้าผากเขาจะทะลวงเป็นโพรง ซึ่งเป็นวิธีที่โบราณ ปัจจุบันต้องทำแบบไร้โพรง เพราะเซาะปั๊บมันจะนิ่มเป็นถุงน้ำ พอสลายปุ๊บถุงน้ำโพรงก็ยังอยู่ ฉีดของใหม่ไปอันเก่าก็ยังอยู่ วิธีที่ถูกคือเราต้องฉีดไปตรงเยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งมันเป็นเทคนิคที่ยาก แต่มันจะเนียนไปเลย ได้หน้าผากนูนสวย กดแล้วไม่นิ่ม

 

อันต่อมาคือผ่าตัดถุงใต้ตา หมอบางคนวินิจฉัยว่าเป็นถุง แต่จริงๆ เป็นกล้ามเนื้อ พอยิ้มแล้วกล้ามเนื้อหดตัวมันก็จะป่องเป็นถุง 

 

วิธีแก้ง่ายๆ คือฉีดฟิลเลอร์ไปกลบก่อนแล้วใช้โบท็อกซ์ให้มันเรียบขึ้น ยิ้มแล้วตาจะไม่ปูดตุ่ย แต่อาจกลบได้ไม่ 100% แต่ถ้าเลือกไปผ่าถุงใต้ตาก็จะอ้า จะทำให้ดูปลิ้น แต่กรณีที่เป็นเยอะมากก็อาจจะผ่าตัดก่อน แต่ผ่าเสร็จก็ต้องมาฉีดอยู่ดีถึงจะสวย 

  

ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าก็จะได้หน้ามิติเดียว ดูแบน ควรฉีดฟิลเลอร์เพื่อสร้างมิติให้ใบหน้าแทน

 

เห็นว่าทางคุณหมอมีเทคนิคฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก (Bone Touching Filler Injection) ที่สามารถทำให้หน้าเล็กได้

ใช่ คนเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ทำให้หน้าใหญ่นูนขึ้น แต่ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าทำให้เล็กลงและมีมิติได้ 

 

โหนกแก้มใหญ่ก็ปรับให้เล็กลงได้แบบมีมิติ มันเรียกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปกระดูกใบหน้า (Butterfly Lift) ไม่ได้มองที่เนื้อหนัง แต่มองที่กระดูก ซึ่งการนำตัวยาไปฉีดแปะบนกระดูกมันเป็นงานวิจัยที่ใช้ในคนไข้ที่มีอุบัติเหตุ ฟิลเลอร์สามารถแก้กระดูกที่มันแหว่งได้ แต่ก็ต้องเลือกตัวยาที่เหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์ไปวางบนกระดูกมันจะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เพราะบนกระดูกไม่มีเลือดไปเลี้ยง ยาไม่สลาย ถ้าฉีดไม่โดนกระดูกลอยๆ ฟิลเลอร์ก็สลายไวไปเร็ว

 

 

ถ้าเทียบเทคนิคการฉีด Butterfly Lift ของคุณหมอกับการทำ Ulthera แบบไหนยกกระชับได้ดีกว่ากัน

โอ้โห ลิฟต์แบบคนละเรื่อง! (คุณหมอบอยตอบด้วยน้ำเสียงตื่น) Ulthera คือเทียบไม่ได้เลย การฉีดแบบ Butterfly Lift คือแก้มหดยกทันที ยกชัดกว่า ไม่ต้องรอ เห็นผลทันที แต่ราคาก็คนละเรื่องเช่นกัน เพราะใช้ยา 6-7 หลอด ตัวเครื่องมีข้อจำกัด การทำ Ulthera มันคือการยิงพลังงานลงบนผิวลึก 4.5 มิลลิเมตร แต่การฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูกลงลึกถึง 20-30 มิลลิเมตร สามารถฉีดแก้ได้ทุกชั้นผิว

 

ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนอันตรายที่สุด

จมูก เสี่ยงตาบอดสุด ตามมาด้วยหน้าผาก และร่องแก้ม ตรงร่องหว่างคิ้วก็เสี่ยงนะ ต้องดูว่าเป็นร่องแบบไหน ถ้าร่องติด หมายถึงการที่หน้าอยู่เฉยๆ ก็เห็นเป็นร่อง ถ้าเอามือดึงไม่ออกแสดงว่าโบท็อกซ์ไม่ช่วย ก็จะต้องฉีดโบท็อกซ์ก่อนแล้วฟิลเลอร์เลาะ แต่หมอส่วนใหญ่จะไม่ทำเพราะมันเข้าตาบ่อย เป็นส่วนอันตราย ถ้าหมอเก่งมีความรู้จะไม่ฉีด แค่โบท็อกซ์ก็พอ

 

ภาพ: Getty Images

 

อายุต่ำกว่า 18 ปี ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม

ฉีดได้ แต่ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม

 

เด็กบางคนมีปมด้อยเรื่องรูปหน้า เช่น คางสั้น บ้างก็โดนสื่อโซเชียลบูลลี่ เกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งถ้าเลือกลงมีด มันจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูก โครงสร้างใบหน้า แต่ถ้าฉีด มันเป็นการเจาะรูนิดเดียว ปรับนิดเดียว ปลอดภัยกว่า

 

ใครไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือคนที่มีเริม ถ้ามีสิวก็ต้องเป็นสิวที่คุมการอักเสบได้

 

สรุปสิ่งที่ต้องคำนึงก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

อันดับแรกดูว่ายาดีไหม อย่าดูราคา ส่วนใหญ่ข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตาบอดหรืออะไร มาจากฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพทั้งนั้น รู้ไหมว่าฟิลเลอร์เกาหลีราคาแค่ 1 ใน 10 ของฟิลเลอร์ยุโรป ต้นทุนแค่ 10%  

หมอที่เอาราคาเป็นหลักก็จะเน้นต้นทุนต่ำ หมอที่มีความรู้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สองต้องเป็นเลือกยาถูกประเภท เหมาะกับบริเวณจะฉีด ฟิลเลอร์ตัวเดียวจะฉีดทั้งหน้าไม่ได้ สามคือฝีมือหมอ อย่าดูรีวิว บางทีก่อนทำกับหลังทำนี่เป็นภาพคนละมุม คนละองศา ลองศึกษาก่อน ซึ่งมันก็สอดคล้องกัน ต่อให้หมอเก่งฉีดให้แต่ถ้าเลือกยาผิด ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะไม่เพอร์เฟกต์อยู่ดี

 

ภาพ: Cottonbro Studio / Pexels

 

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดูแลตัวเองอย่างไร

แนะนำให้งดออกกำลังกาย 3 วัน แต่ออกกำลังกายเบาๆ ได้ ไม่ควรออกหนักไม่อย่างนั้นจะบวมเขียว แต่วันแรกควรงด ห้ามนวดหน้า 3 วัน ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 3 วัน

 

พวกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดเอนไซม์ การขัดผิวต่างๆ ก็ควรงด 3 วัน จะก้มนอนได้หมด ไม่มีผลต่อการรักษา 

 

หากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่ชอบ ทำอย่างไรให้สลายไวด้วยตัวเอง

ถ้าอยู่ผิดที่ทำอย่างไรก็ไม่สลาย


ระยะเวลาการสลายตัวของฟิลเลอร์ในแต่ละจุดเท่ากันไหม

ไม่เท่า จุดที่เคลื่อนไหวน้อยจะอยู่ได้นานกว่า จุดที่ฉีดลึกไปที่กระดูก โดยเฉพาะหน้าผากอยู่นานที่สุด มาตรฐานอยู่ได้ 12 เดือน แต่ฉีดจริงๆ หน้าผากอยู่ได้ 3-4 ปี

 

วิเคราะห์ปัญหารูปหน้าของผู้เขียน

บริเวณที่ผู้เขียนมีความกังวลคือใต้ตากับร่องกลางแก้ม


ใต้ตากับร่องกลางแก้มมันเป็นโซนเดียวกัน เส้นใต้ตาคือเส้นเอ็นที่วิ่งต่อเนื่องลงมาถึงร่องกลางแก้ม

 

ร่องมันเกิดได้จากกระดูกใต้เนื้อเยื่อที่ยุบลงตามวัย เส้นเอ็นที่เกาะจากกระดูกขึ้นมาที่ผิว พอมันหล่นมันก็จะดึงไว้ แก้มห้อยลงแต่เส้นเอ็นมันยังดึงไว้อยู่ การที่มันเกิดแรงดึงก็จะทำให้เกิดร่องชัดขึ้น

 

 

วิธีแก้ก็คือการดันมันกลับไปโดยการฉีดฟิลเลอร์ LYFT Lidocaine ที่แนวเส้นเอ็นเกาะกระดูก แก้มจะยกขึ้น ตรงส่วนที่ห้อยๆ จะดีขึ้นเลย 

 

จากนั้นก็ฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตาด้วยตัว Skinboosters Vital Light ซึ่งยาฉีดใต้ตาต้องเป็นยาเนื้อละเอียดและต้องกระจายตัวดี แทรกตัวในผิวเรียบเนียน ซึ่งตัวที่ฉีดให้มีคุณสมบัติ Hydrobalance ป้องกันการเกิดพังผืดได้ ช่วยรักษาความสมดุลชุ่มชื่นในผิว ให้ผิวหน้าดูโกลวสดใส

 

 

จากนั้นจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์คลายกล้ามเนื้อใต้ตาที่ยิ้มแล้วตุ่ย แต่ตาฝั่งซ้ายมีปัญหา มีก้อนนิดๆ ซึ่งประเด็นนี้บอกไม่ได้ว่าเกิดจากฟิลเลอร์เก่าสลายไม่หมดหรือเป็นธรรมชาติแต่แรก 

 

 

Result

หลังทำเห็นได้ทันทีว่าร่องหน้าแก้มตื้นขึ้น แก้มมีความยกขึ้นเล็กน้อย ใต้ตาดูคล้ำน้อยลง และผลจากโบท็อกซ์ก็ช่วยให้ความบวมใต้ตายุบลง ซึ่งผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ราว 1 ปี ส่วนโบท็อกซ์จะอยู่ได้ราว 6 เดือน

  

 

Good for

จากการได้เข้ามาพูดคุยกับคุณหมอบอย และสัมผัสการฉีดฟิลเลอร์โดยมือหมอด้วยตัวเองแล้วรู้สึกได้ว่าคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ตัวจริง ระหว่างการทำนั้นไวมาก ยาชาชนิดทาและแบบฉีดทำให้มีความรู้สึกน้อยลงไปเยอะ บอกได้เลยว่า AIC Clinic ค่อนข้างเหมาะกับคนที่มีความสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์อย่างจริงจัง รวมไปถึงใครที่อยากปรับรูปหน้า เน้นผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานโดยไม่พึ่งศัลยกรรม

 

ศูนย์นวัตกรรมความงาม AIC (สาขาพระราม 4)

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.

Address: ปากซอยงามดูพลี ติดภัตตาคารจันทร์เพ็ญ 1032/10-12 ชั้น 1-2 ถนนพระราม 4 

Budget: เคสคุณหมอบอย เริ่มต้นที่ 35,000 บาทต่อซีซี 

Tel.: 0 2287 1200

Website: https://www.aic-clinic.com/  

Map:

 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์, AIC Clinic

The post 24 เรื่องฟิลเลอร์ที่ต้องรู้จากปาก นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อยากฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ควรรู้อะไรบ้าง https://thestandard.co/lip-fillers/ Sat, 05 Mar 2022 04:29:36 +0000 https://thestandard.co/?p=602069 ฉีดฟิลเลอร์

เชื่อว่าเมื่อพูดถึงริมฝีปากที่สวยปังระดับโลก สาวๆ หลายค […]

The post อยากฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ควรรู้อะไรบ้าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฉีดฟิลเลอร์

เชื่อว่าเมื่อพูดถึงริมฝีปากที่สวยปังระดับโลก สาวๆ หลายคนน่าจะนึกถึงคนดังอย่าง แองเจลินา โจลี เป็นอันดับแรก เพราะเธอมีริมฝีปากอวบอิ่มสวยโดยธรรมชาติ การสานฝันของสาวๆ ที่อยากมีริมฝีปากเต็ม ได้รูปอวบอิ่มสวยแบบนั้น จึงนิยมตามรอยด้วยการพึ่งพาวิธีฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ซึ่งปัจจุบันมีคลินิกความงามมากมายที่ตอบโจทย์สาวๆ ด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ปากในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบธรรมชาติ แบบเซ็กซี่ รวมถึงแบบที่ช่วยแก้ปัญหารูปทรงของริมฝีปากให้ดูดีขึ้นได้ ใครที่กำลังสนใจวิธีการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก THE STANDARD POP ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้มาฝากแล้ว จะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจก่อนไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเข้ารับบริการอย่างมั่นใจ เพื่อที่จะได้สวย มีริมฝีปากที่อวบอิ่มอย่างปลอดภัยไร้กังวล

 

 

การฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มที่ชื่อว่า ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในริมฝีปาก ซึ่งจะช่วยให้ริมฝีปากได้รูป เติมเต็มความชุ่มชื้น ให้ปากอวบอิ่มมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่น่าเชื่อถือมีหลายยี่ห้อ เช่น Juvederm®, Restylane® และ Perlane® ซึ่งจากหลายๆ ข้อมูลของคลินิกเสริมความงาม ระบุว่าการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากนั้น ไม่ได้อันตรายหากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือ และโดยทั่วไป การฟิลเลอร์ริมฝีปากก็ผ่านการวิจัยและรับรองมาอย่างดีแล้วว่าปลอดภัย แต่กรณีที่ฉีดกับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็เป็นไปได้ที่จะเสี่ยงเกิดความผิดพลาด หรือความเสียหายตามมาภายหลัง

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก

การการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากนั้นช่วยแก้ปัญหาได้เยอะมาก ทั้งในคนที่มีริมฝีปากบาง เมื่อได้รับการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากจะช่วยแก้ปัญหาได้โดยตรง เติมเต็มรูปริมฝีปากให้อวบอิ่ม แก้ปัญหาร่องหรือริ้วรอยของริมฝีปากได้ดี หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนว่าริมฝีปากดูสวยขึ้น เต็มอิ่มขึ้น และช่วยสร้างความมั่นใจให้สาวๆ รู้สึกดีกับริมฝีปากของตัวเองมากขึ้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากสามารถช่วยเปลี่ยนรูปหน้าได้

 

ข้อเสียจากฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากที่อาจเกิดขึ้นได้

หากเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากจากสถานให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถือ และผู้ที่ฉีดให้ก็ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อาจสร้างความเสียหายให้ริมฝีปากได้ ดังนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากจะต้องศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนเสมอ เช็กคลินิกหรือสถานเสริมความงาม เช็กรายชื่อแพทย์ ประวัติการทำงาน รวมถึงเช็กยี่ห้อของสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ให้เป็นแบรนด์ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล 

 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรพิจารณาอะไรบ้าง


1. ควรเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี
2. ไม่ควรไปฉีดตอนเป็นแผลที่ปากหรือมีการติดเชื้อในปาก
3. ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
4. ไม่แนะนำให้ฉีดเกินปริมาตรที่แพทย์แนะนำ  

 

 

รูปทรงฟิลเลอร์ปากที่เหมาะกับคนไทย

หมอแพร จาก V Square Clinic แนะนำว่า “เนื่องจากเทรนด์ของรูปทรงปากในขณะนี้คือปากสาย ฝ. คือริมฝีปากที่ดูหนาแบบสาวฝรั่ง แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ คนไทยมักจะนำภาพของดาราฝรั่งที่มีริมฝีปากอวบอิ่มมาใช้เป็นตัวอย่างในการจะฉีดฟิลเลอร์ปาก ในกรณีนี้หมอจะพยายามอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่า โครงหน้าของฝรั่งนั้นจะชัดกว่าสาวไทย ทั้งคิ้ว ตา จมูก และมีคางที่ยาว ซึ่งถ้ามีโครงหน้าแบบนี้การมีริมฝีปากที่ดูหนา อวบอิ่ม จะดูมีเสน่ห์มากๆ แต่ถ้าโครงหน้าแบบคนไทยส่วนใหญ่มักจะไม่รับกับใบหน้าแบบดาราฝรั่ง จึงแนะนำอย่างนี้ว่าควรใช้ตัวอย่างริมฝีปากที่เป็นคนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และควรเลือกแบบตัวอย่างที่มีโครงหน้าใกล้เคียงกับตัวเองด้วย ผลของการฉีดฟิลเลอร์ปากจึงจะออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด”

  

ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง: 

The post อยากฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ควรรู้อะไรบ้าง appeared first on THE STANDARD.

]]>