จตุพร บุรุษพัฒน์ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 12 Aug 2025 03:39:22 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 รัฐมนตรีพาณิชย์เร่งฟื้นฟูการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมหาตลาดใหม่ https://thestandard.co/border-trade-recovery-new-markets-thailand-cambodia/ Tue, 12 Aug 2025 03:37:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1106223 การค้าชายแดน

วันนี้ (12 สิงหาคม) จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระท […]

The post รัฐมนตรีพาณิชย์เร่งฟื้นฟูการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมหาตลาดใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
การค้าชายแดน

วันนี้ (12 สิงหาคม) จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินสถานการณ์การเปิดด่าน โดยศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าของไทยที่วางขายในกัมพูชายังคงมีอยู่ โดยผู้ประกอบการได้ปรับตัวใช้ช่องทางการขนส่งทางเรือ และผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแทน ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 สิงหาคม) ได้พบกับเอกอัครราชทูตลาว และมีแผนที่จะหารือเพิ่มเติมเพื่อขอเส้นทางผ่านจากจังหวัดอุบลราชธานีไปยังสปป.ลาว และเข้าสู่กัมพูชา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

 

เมื่อถามถึงแนวโน้มการฟื้นฟูตลาด จตุพรกล่าวว่า เป้าหมายหลักในตอนนี้คือการรักษาฐานลูกค้าเดิมให้คงอยู่ ในขณะเดียวกันก็เร่งหาตลาดใหม่ให้กับผู้ประกอบการเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าเพิ่มเติม

The post รัฐมนตรีพาณิชย์เร่งฟื้นฟูการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมหาตลาดใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.พาณิชย์ สั่งดูแลราคาสินค้า หลังมีอุทกภัย มอบรมช. เยี่ยมศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา https://thestandard.co/product-price-flood-relief-border/ Sun, 27 Jul 2025 11:30:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1100687 รมว.พาณิชย์ลงพื้นที่ตลาดดอนหวาย สั่งคุมราคาสินค้าหลังอุทกภัย พร้อมดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา

วานนี้ (26 กรกฎาคม) จังหวัดนครปฐม จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐม […]

The post รมว.พาณิชย์ สั่งดูแลราคาสินค้า หลังมีอุทกภัย มอบรมช. เยี่ยมศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.พาณิชย์ลงพื้นที่ตลาดดอนหวาย สั่งคุมราคาสินค้าหลังอุทกภัย พร้อมดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา

วานนี้ (26 กรกฎาคม) จังหวัดนครปฐม จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า ณ ตลาดดอนหวาย จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘ตลาดต้องชม’ ที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในระดับชุมชน และสอดคล้องกับนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” ที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

 

ตลาดดอนหวายถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ ‘ตลาดต้องชม’ ที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยมีการจัดวางพื้นที่การค้าอย่างเป็นระบบ อยู่ใกล้วัดดอนหวาย ซึ่งเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางศาสนา ทำให้ตลาดแห่งนี้มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของชุมชนในทุกมิติ ทั้งการค้าขาย การทำบุญ และการท่องเที่ยว ส่งผลให้มีผู้คนหลั่งไหลมาจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งสะท้อนพลังของเศรษฐกิจฐานรากที่มีความแข็งแรงและยั่งยืน

 

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ จตุพร ได้พบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาในการดำเนินกิจการ พร้อมย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าขยายแนวคิด “ตลาดต้องชม” ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความพร้อม และมีศักยภาพในเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดตลาดต้นแบบที่สามารถเป็นทั้งแหล่งสร้างรายได้และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวในอนาคต

 

ภายในตลาด ยังมีกิจกรรมกระตุ้นการบริโภค เช่น การแจกคูปองส่งเสริมการขาย โปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนและเกษตรกรในราคายุติธรรม ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งในด้านรายได้ของผู้ค้า และด้านค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค

 

จตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดต้องชมไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ค้าขาย แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชน และสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนในระยะยาว”

 

ในขณะเดียวกัน จตุพรยังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือ และความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งดูแลไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลนหรือราคาแพง พร้อมกำชับให้ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างเข้มงวดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

 

นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายให้ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายแดน ติดตามสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด และร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านสินค้า การกระจายสินค้าเกษตร และอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งอย่างเร่งด่วน

 

ทั้งนี้ โครงการ ‘ตลาดต้องชม’ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งยกระดับตลาดชุมชนให้ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย เชื่อมโยงกับมิติทางวัฒนธรรม ศาสนา และการท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีตลาดที่ได้รับการรับรองแล้วกว่า 251 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิตรายย่อย แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นในทุกภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม

The post รมว.พาณิชย์ สั่งดูแลราคาสินค้า หลังมีอุทกภัย มอบรมช. เยี่ยมศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
DIT จับมือ 4 ปั๊มแบรนด์ดัง แจกนมไทย UHT ผ่านโครงการ ‘น้ำมันเติมรถ นมสดเติมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม https://thestandard.co/dit-oil-milk-project/ Fri, 25 Jul 2025 13:00:37 +0000 https://thestandard.co/?p=1100038 dit-oil-milk-project

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2568) วิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้ […]

The post DIT จับมือ 4 ปั๊มแบรนด์ดัง แจกนมไทย UHT ผ่านโครงการ ‘น้ำมันเติมรถ นมสดเติมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม appeared first on THE STANDARD.

]]>
dit-oil-milk-project

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2568) วิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และสนับสนุนผู้ประกอบการนมพาณิชย์ในการระบายสต็อกสินค้า 

 

จึงเปิดตัวโครงการ ‘น้ำมันเติมรถ นมสดเติมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน’ เพื่อเพิ่มช่องทางกระจายผลิตภัณฑ์นมกล่องสู่ผู้บริโภคภายในประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย’ โดยพร้อมช่วยให้เกษตรกรสามารถขายน้ำนมดิบได้ต่อเนื่อง ลดปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด และช่วยรักษาเสถียรภาพราคาน้ำนมอย่างยั่งยืน

 

โครงการนี้เป็นความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ 4 ราย ได้แก่ PTT Station, PT, บางจาก และ Susco รวม 878 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อร่วมแจกนมกล่อง UHT รสจืด ยี่ห้อ ไทย-เดนมาร์ก และหนองโพ เป้าหมาย 1,000,000 กล่อง ให้กับผู้ใช้บริการที่เติมน้ำมันครบ 400 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับนมฟรี 1 กล่อง ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม 2568 รวม 4 วัน หรือจนกว่าของจะหมด

 

โครงการน้ำมันเติมนมสด

 

ขณะที่วันนี้ กรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ติดตามการดำเนินงานโครงการ ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาประชาอุทิศ-ลาดพร้าว, PT สาขาประดิษฐ์มนูธรรม, บางจาก สาขาเกษตร-นวมินทร์ และ Susco สาขาวิภาวดี 1 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบการและประชาชนที่ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

 

“ขอขอบคุณสถานีบริการน้ำมันทั้ง 4 แห่ง ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนการกระจายผลิตภัณฑ์นมให้ถึงมือผู้บริโภค ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการบริโภคนมในประเทศ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และรักษาเสถียรภาพด้านราคาน้ำนมดิบให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน” อธิบดีกล่าว

 

นอกจากช่องทางผ่านสถานีบริการน้ำมัน ยังขยายการกระจายผลิตภัณฑ์นมผ่านห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ร้านธงฟ้า รถโมบายล์ธงฟ้าเคลื่อนที่ และประสานกับหน่วยงานอื่น อาทิ กรมการขนส่งทางบก เพื่อแจกนมในรถโดยสาร และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น งานวิ่งมาราธอน เป็นต้น

 

โครงการน้ำมันเติมนมสด

 

“โครงการนี้ไม่เพียงช่วยให้เกษตรกรสามารถระบายน้ำนมดิบและผลิตภัณฑ์นมได้ แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมาบริโภคนมเพื่อสุขภาพที่ดี และเป็นแบบอย่างของการขับเคลื่อนแนวคิด ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย’ ให้เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน” วิทยากรกล่าวเพิ่มเติม

 

กรมการค้าภายในขอเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนโครงการฯ ด้วยการเติมน้ำมันครบตามเงื่อนไข รับนมฟรี ส่งต่อกำลังใจให้เกษตรกรไทย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริโภคนมคุณภาพ ผลิตโดยเกษตรกรไทย เพื่อสุขภาพที่ดีและความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยในอนาคต

 

โครงการน้ำมันเติมนมสด

โครงการน้ำมันเติมนมสด

โครงการน้ำมันเติมนมสด

The post DIT จับมือ 4 ปั๊มแบรนด์ดัง แจกนมไทย UHT ผ่านโครงการ ‘น้ำมันเติมรถ นมสดเติมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปลัด ทส. เซ็นคำสั่งไล่ชัยวัฒน์ออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. ชี้มูล ฮั้วประมูลสร้างหน่วยพิทักษ์ฯ แก่งกระจาน https://thestandard.co/dismiss-chaiwat-corruption-kaengkrachan/ Sun, 15 Jun 2025 03:12:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1085208 คำสั่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ไล่ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ

วันนี้ (15 มิถุนายน) มีการเผยแพร่เอกสารว่า เมื่อวันที่ […]

The post ปลัด ทส. เซ็นคำสั่งไล่ชัยวัฒน์ออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. ชี้มูล ฮั้วประมูลสร้างหน่วยพิทักษ์ฯ แก่งกระจาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
คำสั่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ไล่ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ

วันนี้ (15 มิถุนายน) มีการเผยแพร่เอกสารว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194 /2568 เรื่อง ลงโทษกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ไล่ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ 

 

ในเอกสารระบุว่า ด้วยชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เดิมเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการ ระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำแหน่งเลขที่ 1026 เงินเดือน 74,320 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีมติชีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (3) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 

 

ในการประชุมครั้งที่ 103/2566 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 โดยให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ และให้ถือสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัย ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน

 

บัดนี้ อ.ก.พ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2525 วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำวินิจฉัยว่า ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้กระทำความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ตามสำนวนรายงานการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนี้

 

กรณีที่ 1 การจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้เข้าซื้อของเอกสารประกวดราคา และยื่นซองเอกสารประกวดราคาในโครงการดังกล่าว จำนวน 2 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรบุรียุทธนาก่อสร้าง โดย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ขอใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรบุรียุทธนาก่อสร้าง มาจาก สนอง กิจพ่วงสวรรณ ที่เป็นผู้ตัดสินใจและผู้สั่งการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสอง แต่เพียงผู้เดียว

 

ตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อของประกวดราคา ยื่นซองประกวดราคา และเสนอราคาไม่ได้เกิดจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ทั้งสองมีเจตนาที่จะเข้าทำการแข่งขันราคากันอย่างแท้จริง แต่เกิดจากการตระเตรียมการของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร โดยการกำหนดตัวผู้เสนอราคาทั้ง 2 ราย เพื่อให้หน่วยตรวจสอบเห็นว่ามีการแข่งขันราคากันตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว โดยมีเจตนาเพียงเพื่อให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น เข้ามาเป็นคู่สัญญากับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

 

ภายหลังเมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ได้เบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น จำนวน 3,527,000 บาท ตามสัญญาจ้างเลขที่ 22/2556 ลงวันที่ 16 กันยายน 25556 แล้ว ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น ได้มีการหักลบกลบหนี้กับที่ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นหนี้ค่าซื้อวัสดุก่อสร้างกับร้านท่ายางค้าไม้ จึงเหลือเงินค่าโครงการที่จะต้องคืนให้ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ร้านท่ายางค้าไม้จ่ายเช็คธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 7921578 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2557 เป็นเช็คเงินสด จำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

 

กรณีที่ 2 โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการแนบท้ายสัญญา ไม่ได้ดำเนินการควบคุมงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ซึ่งรายงานการควบคุมงาน ช่างควบคุมงานลงนามไปนั้น 

 

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้การสั่งให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ เป็นผู้จัดทำขึ้น อันเป็นการรับรองว่าได้มีการดำเนินการแล้วเสร็จจนถึงขั้นตอนสุดท้าย แต่ในรายงานการควบคุมงาน ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดในการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการตามสัญญา โดยช่างควบคุมไม่ได้ทำการควบคุมงานแต่อย่างใด เนื่องจากการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร แต่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไป-กลับ มากกว่า 3 ชั่วโมง สภาพพื้นที่ไม่เหมาะสมที่จะให้ผู้ควบคุมงานอยู่อาศัยและค้างคืนได้ 

 

จึงเป็นไปได้ยากที่ช่างควบคุมงานจะสามารถเดินทางไปควบคุมงานได้ตลอดเวลา และ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ลงนามในใบตรวจรับงานจ้าง และรับรองผลการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง ฉบับลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 ว่าเสร็จเรียบร้อยตามสัญญา จนเป็นที่มาของการเบิกจ่ายให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ายางคอนสตรัคชั่น เป็นการกระทำโดยเจตนาที่จะให้คณะกรรมการคนอื่นๆ ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้อง

 

ดังนั้นการกระทำของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (1) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกราชการ ตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล

 

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 57 (5) มาตรา 97 วรรคสอง มาตรา 100 และ มาตรา 100/1 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับข้อ 68 ข้อ 69 และข้อ 70 (3) ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 และข้อ 15 ของระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 จึงสั่งลงโทษไล่ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ หากท่านจะฟ้องโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ถูกลงโทษ ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 หรือจะอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค. โดยทำหนังสืออุทธรณ์ถึงประธาน ก.พ.ค. ยื่นต่อพนักงานผู้รับอุทธรณ์ที่สำนักงาน ก.ก.พ. เลขที่ 47/11 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หรือยืนโดยส่งหนังสืออุทธรณ์ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังสำนักงาน ก.พ. ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบคำสั่งนี้ ตามมาตรา 114 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ. 2551

 

ทั้งนี้ การฟ้องคดีต่อศาลปกครองหรือการอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค. จะต้องเลือกใช้สิทธิทางใดทางหนึ่งเท่านั้น สั่ง ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

 

อ้างอิง: 

The post ปลัด ทส. เซ็นคำสั่งไล่ชัยวัฒน์ออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. ชี้มูล ฮั้วประมูลสร้างหน่วยพิทักษ์ฯ แก่งกระจาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
จตุพรปัดข่าวลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ-ยื่นประวัติคุณสมบัติ รมต. ยืนยันยังไม่มีทาบทามนั่งหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ https://thestandard.co/jatuporn-deny-resign-political-news/ Wed, 11 Jun 2025 09:01:40 +0000 https://thestandard.co/?p=1084035 จตุพร บุรุษพัฒน์ แถลงข่าวปัดลาออก ยังไม่มีทาบทามทางการเมือง

วันนี้ (11 มิถุนายน) จตุพร​ บุรุษพัฒน์​ ปลัดกระทรวงทรัพ […]

The post จตุพรปัดข่าวลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ-ยื่นประวัติคุณสมบัติ รมต. ยืนยันยังไม่มีทาบทามนั่งหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
จตุพร บุรุษพัฒน์ แถลงข่าวปัดลาออก ยังไม่มีทาบทามทางการเมือง

วันนี้ (11 มิถุนายน) จตุพร​ บุรุษพัฒน์​ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวง เพื่อเตรียมไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ และรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในการปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า​ ณ วันนี้ยังไม่ลาออก ยังคงทำงานอยู่ ตนไม่ทราบถึงข่าวที่ออกมา และยังไม่ได้อ่านข่าวที่มีการเผยแพร่ที่ระบุว่าตนได้ยื่นลาออกจากตำแหน่ง 

 

รวมถึงวันนี้ยังไม่มีการทาบทามให้ไปนั่งหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวการส่งประวัติ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามส่วนตัวเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมา 6 ปี ก็มีประวัติของปลัดกระทรวงอยู่แล้ว

 

เมื่อถามว่า ได้มีการทาบทามให้ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือไม่ จตุพร​ กล่าวว่า ณ วันนี้ยังเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมปฏิเสธตอบว่าหากหลังเกษียณอายุราชการจะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่

The post จตุพรปัดข่าวลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ-ยื่นประวัติคุณสมบัติ รมต. ยืนยันยังไม่มีทาบทามนั่งหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ รับรายงานสถานการณ์แม่น้ำกกดีขึ้น รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำเสียครบวงจร https://thestandard.co/pm-kok-river-situation-improves/ Sat, 31 May 2025 03:19:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1080566

วันนี้ (31 พฤษภาคม) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำ […]

The post นายกฯ รับรายงานสถานการณ์แม่น้ำกกดีขึ้น รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำเสียครบวงจร appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (31 พฤษภาคม) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจาก จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงความคืบหน้าการดำเนินงาน ทั้งในด้านการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ การฟื้นฟูคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก และการติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 

ในส่วนของความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับทางการสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อร่วมกันหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูล และกำหนดแนวทางการจัดการปัญหามลพิษข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืน นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม

 

ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรน้ำ และศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน ร่วมกันใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อบินสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่เป้าหมายอย่างละเอียด ครอบคลุมจุดก่อสร้างฝายดักตะกอน 10 จุด และพื้นที่แก้มลิง 14 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งดำเนินการไปแล้วระหว่างวันที่ 5-13 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ด้านการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กรมควบคุมมลพิษได้เก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินจากแม่น้ำกกและลำน้ำสาขาในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายรวม 24 จุด ระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคม 2568 พร้อมเตรียมขยายการตรวจสอบเพิ่มเติมไปยังแม่น้ำรวก เพื่อให้การประเมินผลครอบคลุมและรอบด้านยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะด้าน เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และติดตามสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำกกและแม่น้ำสาย โดยมีกำหนดเสนอรายชื่อเพื่อพิจารณาในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ควบคู่ไปกับการวางแผนจัดตั้ง ‘ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ (ส่วนหน้า)’ และกลุ่มประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานในระดับพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม

 

ศศิกานต์กล่าวย้ำว่า “รัฐบาลขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดและจริงจังจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบและเป็นระบบ เพื่อให้แหล่งน้ำธรรมชาติกลับคืนสู่สมดุล และเป็นต้นทางของคุณภาพชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืนของประชาชนในพื้นที่ต่อไป”

The post นายกฯ รับรายงานสถานการณ์แม่น้ำกกดีขึ้น รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำเสียครบวงจร appeared first on THE STANDARD.

]]>
กระทรวงทรัพยากรฯ หารือเตรียมความพร้อม เร่งออกแบบสถานที่ให้เหมาะสมรับแพนด้าคู่ใหม่ เชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี https://thestandard.co/thailand-new-pandas-china-relations/ Wed, 30 Oct 2024 00:52:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1001582 แพนด้า

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพย […]

The post กระทรวงทรัพยากรฯ หารือเตรียมความพร้อม เร่งออกแบบสถานที่ให้เหมาะสมรับแพนด้าคู่ใหม่ เชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
แพนด้า

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมหารือเตรียมความพร้อมรับมอบสัตว์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย, สวนสัตว์เชียงใหม่, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงบประมาณ เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมอบ แพนด้า ยักษ์คู่ใหม่จากสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับประเทศไทยในปี 2568

 

จตุพรกล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความพร้อมรับ แพนด้า คู่ใหม่จากจีนเข้ามาดูแลในนามของรัฐบาลไทย เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันระหว่างสองประเทศ หลังจากที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ จัดส่งร่างแพนด้าช่วงช่วงและหลินฮุ่ยกลับจีนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 พร้อมจัดทำรายงาน 20 ปีแพนด้าในไทยส่งให้จีนประเมินโครงการ 

 

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนยืนยันที่จะนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีนให้ประเทศไทยอีกครั้ง สำหรับการเตรียมความพร้อมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่นี้ สั่งการให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยเตรียมความพร้อมด้านการออกแบบสถานที่สำหรับรับแพนด้าคู่ใหม่ให้มีความเหมาะสม ทั้งในด้านความเป็นอยู่และในส่วนของการจัดแสดง เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าชมแพนด้ายักษ์อีกครั้ง โดยการออกแบบจะต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปตามหลักการของจีนเป็นสำคัญ

The post กระทรวงทรัพยากรฯ หารือเตรียมความพร้อม เร่งออกแบบสถานที่ให้เหมาะสมรับแพนด้าคู่ใหม่ เชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทักษิณแสดงวิสัยทัศน์ที่เนชั่น เวทีแรกหลังกลับไทยครบ 1 ปี คนการเมือง-เอกชนคับคั่ง https://thestandard.co/thaksin-shows-his-vision-at-nation-tv-dinner-talk/ Thu, 22 Aug 2024 13:53:17 +0000 https://thestandard.co/?p=974219

วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน […]

The post ทักษิณแสดงวิสัยทัศน์ที่เนชั่น เวทีแรกหลังกลับไทยครบ 1 ปี คนการเมือง-เอกชนคับคั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เนชั่นทีวีจัดดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision for Thailand 2024 โดยมี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย ซึ่งเป็นงานแรกที่ทักษิณขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ หลังจากเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 

 

ทั้งนี้ มีบรรดานักการเมือง ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, ชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

รวมถึง คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, เกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ไชยา พรหมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ, พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย, จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พิชัย ชุณหะวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

จากนั้นเวลา 17.50 น. ทักษิณพร้อมด้วย พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาว, ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของพินทองทา และ ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง โดยทันทีที่ทักษิณมาถึงงาน สุชาติได้เดินเข้าไปไหว้ เช่นเดียวกับ อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมฝากเนื้อฝากตัว ก่อนที่ทักษิณจะตบไหล่และทักทาย 

 

จากนั้นทักษิณได้ร่วมถ่ายภาพหมู่โดยขนาบข้างด้วย 2 นักธุรกิจ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการอาวุโสของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด 

 

จากนั้นทักษิณเข้าไปภายในงาน และเดินทักทายบรรดาแขกวีไอพี ทั้งภาคการเมือง เอกชน ช่วงหนึ่งทักษิณเดินเข้าไปหา ชัยชนะ เดชเดโช และได้แตะที่ไหล่ จากนั้น ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินเข้าไปพูดคุยด้วยท่าทีกระซิบกระซาบกับทักษิณ 

 

นอกจากนี้ยังมี ร.อ. ธรรมนัส นั่งร่วมโต๊ะข้าง เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมจับมือก่อนที่เดชอิศม์จะชมว่า “ต้องยอมรับว่าสุดยอดจริงๆ” ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดคุยกันอย่างมีอรรถรสและกอดคอกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนหนึ่งของบทสนทนา ร.อ. ธรรมนัส พูดติดตลกบนโต๊ะอาหารว่า “เอาของผมเข้า ยกของพี่ออก” 

 

ช่วงหนึ่ง ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันว่า ได้ส่งรายชื่อไปแล้ว 3 รายชื่อ ไม่ใช่ของพรรคพลังประชารัฐ 

 

ขณะที่โต๊ะของทักษิณเป็นโต๊ะจัดเลี้ยงกลมขนาดใหญ่ โดยมีบรรดาเจ้าสัวของประเทศและภาคเอกชนนั่งร่วมโต๊ะ เช่น สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), ธนินท์ เจียรวนนท์, คีรี กาญจนพาสน์, ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป

The post ทักษิณแสดงวิสัยทัศน์ที่เนชั่น เวทีแรกหลังกลับไทยครบ 1 ปี คนการเมือง-เอกชนคับคั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ธรรมนัส​พูดติดตลก​ “น้ำบ้านเราแปลกนะ​ ชอบนายกฯ หญิง” บอกไม่ยุ่ง พปชร.​ หลังยังไม่ส่งโผ ครม.​ เผยหลังฝนตก​ ฟ้าก็สว่าง https://thestandard.co/thamanat-prompow-22082024/ Thu, 22 Aug 2024 07:24:05 +0000 https://thestandard.co/?p=973999 ธรรมนัส​ พรหมเผ่า

วันนี้ (22 สิงหาคม) ร.อ. ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีว่า […]

The post ธรรมนัส​พูดติดตลก​ “น้ำบ้านเราแปลกนะ​ ชอบนายกฯ หญิง” บอกไม่ยุ่ง พปชร.​ หลังยังไม่ส่งโผ ครม.​ เผยหลังฝนตก​ ฟ้าก็สว่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ธรรมนัส​ พรหมเผ่า

วันนี้ (22 สิงหาคม) ร.อ. ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ เดินทางมาถึงกรมชลประทาน เพื่อร่วมการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย​ในพื้นที่ภาคเหนือ​ โดยมี ประยูร​ อินสกุล​ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ และ จตุพร​ บุรุษ​พัฒน์​ ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ มารอต้อนรับ​

 

ร.อ. ธรรมนัส ได้กล่าวแซวกับบรรดาปลัดกระทรวงว่า​ แปลกนะบ้านเราไม่รู้เป็นอะไรนะ น้ำชอบนายกฯ ผู้หญิง​ ปี​ 2554 ก็ครั้งหนึ่งแล้ว​ หากน้ำในพื้นที่จังหวัดน่านและพะเยามาก​ ก็เตรียมตัวเลย​ พร้อมแซวประยูรว่า​ น้ำมาถึงบ้านปลัดหรือยัง​ ร.อ. ธรรมนัส ยังระบุอีกว่า อย่าไปคิดมาก บ้านตนยังท่วมเลย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ร.อ. ธรรมนัส ส่งรายชื่อโควตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้วใช่​หรือไม่​ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เขามาคุยกันเรื่องน้ำ ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง พร้อมหัวเราะและกล่าวต่อว่า จบหมดแล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเคลียร์ทุกอย่างจบหมดแล้วใช่หรือไม่ แต่เหตุใด ภูมิธรรม​ เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงพาณิชย์​ว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่เรียบร้อย ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า​ อันนั้นของพลังประชารัฐ ผมไม่ได้ยุ่ง พร้อมยิ้มและมองขึ้นไปบนฟ้า​

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ในสัดส่วนของกลุ่มของ ร.อ. ธรรมนัส ส่งรายชื่อเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ให้ถามเรื่องน้ำ สื่อมวลชนจึงกล่าวต่อว่า เรื่องน้ำจะถามหลังการประชุม​ พร้อมกับกล่าวขึ้นลอยๆ และมองขึ้นไปบนฟ้า​ว่า หลังฝนตก​ ฟ้าก็สว่าง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายความว่าตอนนี้สว่างแล้วใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส หัวเราะก่อนจะกล่าวต่อว่า ตนพูดถึงเรื่องฝน​ ก่อนที่จะหัวเราะลั่นกันทั้งวงที่มีปลัดกระทรวง​

 

เมื่อถามต่อว่าเห็น ร.อ. ธรรมนัส พูดว่าน้ำชอบนายกฯ หญิงเหมือนปี 2554 ห่วงหรือไม่ว่าจะซ้ำรอย​ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า​ ไม่หรอกครับ มันเป็นน้ำหลาก ส่วนความกังวลว่าจะมีพายุลูกใหม่เข้ามานั้นมีการเตรียมการรับมืออย่างไร ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า มาช่วงเดือนกันยายน ช่วงนี้จะเริ่มเบา

 

เมื่อถามต่อถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่อุทกภัยจังหวัดเชียงราย ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ทหารเข้าไปช่วยแล้ว โดยพรุ่งนี้ (23 สิงหาคม) ตนและ อรรถกร​ ศิริลัทธยากร​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางลงพื้นที่​ตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากวันนี้ไม่มีเที่ยวบิน

 

จากนั้นภูมิธรรม​ได้เดินทางมาถึง ร.อ. ธรรมนัส ได้กล่าวแซวกับผู้สื่อข่าวว่า ห้ามถามเรื่องการเมืองนะ ให้ถามเรื่องน้ำ พร้อมกับกล่าวแซวภูมิธรรมว่า​ มากับน้ำจริงๆ แต่เป็นน้ำหลาก

 

ขณะที่ภูมิธรรมเปิดเผยว่า หลังการประชุมเสร็จแล้วจะลงมาแถลงข่าวอีกครั้ง​ แต่การสั่งนั้น ตนเองได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยในวันนี้มาเพียงดูสถานการณ์ให้รอบด้าน​ พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้มีการตั้งวอร์รูมที่จังหวัดสุโขทัย​ มีการนำรถโมบายล์และอุปกรณ์เดินทางไปล่วงหน้าแล้ว ซึ่งสถานการณ์น้ำในขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง และเขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรองรับน้ำได้อยู่​ รวมถึงพื้นที่รับน้ำอย่างบางระกำก็ยังสามารถรองรับน้ำได้อยู่

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม. ต่อหน้า ร.อ. ธรรมนัส ภูมิธรรม​ถึงกับหัวเราะ​ ก่อนจะกล่าวต่อว่าวันนี้จะคุยเรื่องน้ำ จะมี ครม. ไหนเล่า

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าโผของกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส ส่งเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่าไม่​ ยังไม่รู้​

 

กระนั้นภูมิธรรม​ได้กล่าวขอให้ประชาชนมั่นใจ​ แม้ว่าการฟอร์มทีมรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ​ แต่ ครม. เดิมยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน​ อำนาจการทำงานก็ยังคงเต็มเหมือนเดิม และกล่าวย้ำว่า ครม. วันนี้ยังทำหน้าที่เหมือนเดิมทุกอย่าง

The post ธรรมนัส​พูดติดตลก​ “น้ำบ้านเราแปลกนะ​ ชอบนายกฯ หญิง” บอกไม่ยุ่ง พปชร.​ หลังยังไม่ส่งโผ ครม.​ เผยหลังฝนตก​ ฟ้าก็สว่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เคลียร์ใจรอบ ​2 สั่ง​พิสูจน์เขตแดนใหม่ทั่วประเทศ ตกลงไม่ได้โยน One Map ชี้ขาด ส.ป.ก. บอกที่ผ่านมาช่างหัวมัน ส่วนชัยวัฒน์ชี้ เรื่องนี้ต้องมีคนผิด https://thestandard.co/new-land-boundary-demarcations-nationwide-thailand/ Mon, 04 Mar 2024 07:36:06 +0000 https://thestandard.co/?p=906923

วันนี้ (4 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการหารือข […]

The post เคลียร์ใจรอบ ​2 สั่ง​พิสูจน์เขตแดนใหม่ทั่วประเทศ ตกลงไม่ได้โยน One Map ชี้ขาด ส.ป.ก. บอกที่ผ่านมาช่างหัวมัน ส่วนชัยวัฒน์ชี้ เรื่องนี้ต้องมีคนผิด appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (4 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการหารือข้อพิพาทกรณีการออกเอกสาร​สิทธิ์​ ที่ดิน ส.ป.ก.​ 4-01 ตำบลหมูสี​ อำเภอปากช่อง​ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างกระทรวง​ทรัพยากรธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ และกระทรวง​เกษตร​และสหกรณ์​ ซึ่งใช้เวลาประมาณ​ 1 ชั่วโมง​ ได้มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง​ 2 หน่วยงาน​

 

จตุพร​ บุรุษ​พัฒน์​ ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ กล่าวว่า​ การประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนต่างให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงมีเป้าหมายทำงานเพื่อประชาชน วันนี้เราเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกันทั้งหมด รวมถึงการวางแนวทางการทำงานร่วมกัน​ นอกจากนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อมได้เสนอไปยังกระทรวง​เกษตร​และสหกรณ์ว่า จากนี้ไปการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะต้องมีคณะกรรมการ​จาก​ 9 หน่วยงาน​ ไปร่วมรับรองแนวเขตด้วย​ และมีพื้นที่ที่เป็นคอร์ริดอร์หรือแนวกันชน​ หรือพื้นที่รอยต่อ จะต้องมีการอนุรักษ์ไว้สำหรับสัตว์ป่า ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่เป็นข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกันระหว่าง 2 กระทรวง

 

รอ สคทช. เคาะ One Map ภายใน 2 เดือน

 

ขณะที่ ประยูร​ อินสกุล​ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ กล่าวยืนยันว่า​ พื้นที่กันชนจะไม่มีการนำมาจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้ประชาชน​ สำหรับพื้นที่บริเวณปัญหาพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่​ จังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี​ จะรอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ​จัดทำ​ One Map ให้แล้วเสร็จ และจนกว่าจะได้ข้อยุติใน​ 2 เดือนนี้​ โดยหากคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ข้อสรุปอย่างไร ทั้ง 2 กระทรวงจะยึดตามนั้น​ และหากพื้นที่ของ ส.ป.ก. เป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ป่า หรือเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า จะเว้นไว้ทำเป็นป่าชุมชน​ ไม่ให้มีการจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับเกษตรกร​

 

ปลัดกระทรวงเกษตร​และสหกรณ์ยังกล่าวด้วยว่า การพิสูจน์เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไปแล้วก่อนหน้านี้ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับเขตและระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบหากไม่ใช่เกษตรกรตัวจริงจะต้องดำเนินการยกเลิกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว และให้ดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่ออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ใช่เกษตรกร พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ใดที่เป็นอุปสรรคหรือมีปัญหาเรื่องการทับซ้อน จะมีการส่งเรื่องไปยัง สคทช. โดยใช้ One Map เป็นตัวตัดสิน

 

30 วัน พิสูจน์ที่ดินพิพาท 2 หน่วยงาน

 

ด้าน อรรถพล​ เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนได้คุยกับเลขาธิการ ส.ป.ก. แล้ว จะมีการกำหนดทีมงานเพื่อทำงานร่วมกัน โดยมีการวางกรอบระยะทำงาน 30 วันแรก ว่ามีพื้นที่ทับซ้อนตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าทั้งประเทศมีพื้นที่ใดบ้างที่ไม่ตรงกัน​ ซึ่งภายใน 1 เดือนนี้ พื้นที่ใดไม่มีปัญหาเรื่องการทับซ้อนก็จะสามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมการ One Map

 

ตั้ง 9 หน่วยงานตรวจสอบออกที่ดิน ส.ป.ก. ถูกที่ถูกทาง

 

วิณะโรจน์​ ทรัพย์ส่งสุข​ เลขาธิการ ส.ป.ก.​ กล่าวว่า​ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์​ที่ผ่านมา ตนได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย 9 หน่วยงาน โดยให้คณะทำงานช่วยดูว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของ ส.ป.ก. ทับซ้อนหรือไม่​ หรือรุกล้ำหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อให้ยืนยันว่า ส.ป.ก. ออกเอกสารสิทธิ์ถูกที่​ ถูกทาง ไม่ไปล้ำที่ป่าไม้ หรือสถานที่สำคัญของหลวง​ ยืนยันว่าจากนี้พื้นที่ตรงไหนที่มีปัญหาทับซ้อนกันเราจะไม่ทะเลาะกัน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ One Map และหากพื้นที่ใดเข้าใกล้พื้นที่กันชน อยากให้แจ้งผ่านกรมอุทยานฯ มายัง ส.ป.ก. เพราะก่อนหน้านี้ต่างคนต่างทำงาน​ และต่อจากนี้จะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น​

 

ที่ผ่านมาช่างมัน ขอต่างคนต่างทำงาน

 

“อดีตที่ผ่านมาก็ช่างหัวมัน​ เพราะสุดท้ายต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ เพราะสุดท้ายพี่ (ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร) ​ก็ต้องทำงานให้ชาวบ้าน​ ผมก็ต้องทำงานให้ชาวบ้าน เพียงแต่ว่าเจตนารมณ์ของแต่ละหน่วยงานมีมิติการทำงานไม่ตรงกัน​ พี่ชัยวัฒน์​มีหน้าที่อนุรักษ์​ ส่วนผมก็มีหน้าที่​หาที่ดินให้คน​ ผมก็ต้องทำตามหน้าที่​ ซึ่งวันนี้ก็ต้องมาคุยกัน” เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าว

 

เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ที่ได้ออกไปแล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการคุยกันของรัฐ และหากที่สุดแล้วมีมติออกมาเป็นอย่างไร ประชาชนที่ได้รับผลกระทบรัฐจะเยียวยาให้แน่นอน ซึ่งพื้นที่ที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นแนวตะเข็บรอยต่อ คณะกรรมการ One Map จะรับผิดชอบดูแล แต่ตอนนี้อะไรที่ยังไม่ชัดเจนขอให้ใช้ชีวิตตามปกติสุขไป

 

สำหรับเรื่องคดีความที่ 2 หน่วยงานแจ้งความดำเนินคดีไว้นั้น ปลัด​กระทรวงทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม ระบุว่า ทั้ง 2 หน่วยงานตกลงกันว่าจะให้ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน ส่วนคดีความตนจะรับผิดชอบเอง ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา ขอให้ทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้รอข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักวิทยาศาสตร์ หลังจาก One Map ชี้ขาดเส้นแนวเขตแล้ว เรื่องคดีค่อยมาพูดคุยกัน

 

พื้นที่ทับซ้อนตกลงกันไม่ได้ ให้คณะกรรมการ One Map ชี้ขาด

 

ส่วนแนวเส้นระหว่างอุทยานฯ และ ส.ป.ก. ในพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะเข้าไปตรวจสอบนั้นจะใช้วิธีการตรวจสอบจาก Field Book ของทั้ง 2 หน่วยงานมาเปรียบเทียบกัน หากมีพื้นที่ทับซ้อนก็จะต้องพูดคุยตกลงกันว่าจะยกพื้นที่นั้นให้ใครดูแล หากตกลงกันได้ก็จะดำเนินการต่อทันที แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะส่งให้คณะกรรมการ One Map เป็นผู้ชี้ขาด

 

คาด One Map ครบ 77 จังหวัด ปีงบ 68

 

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี พีรพล มั่นจิตต์ ตัวแทน สคทช. ระบุว่า สคทช. ให้ความสำคัญกับเรื่องการแบ่งเส้นที่ดินของรัฐให้ชัดเจน แต่หากหน่วยงานผู้ปฏิบัติดำเนินการแล้วมีความขัดแย้งกัน สคทช. ก็มีอนุกรรมการตามกฎหมายช่วยเหลือเพื่อเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นกฎหมายออกมา ส่วนการพิสูจน์เขตแดนก็จะส่งตัวแทนเข้าไปร่วมด้วย ส่วนความคืบหน้าการทำ One Map ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีการแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม ทำเสร็จเรียบร้อย เสนอเข้า ครม. ไปแล้ว 3 กลุ่ม และกลุ่มที่ 4 กำลังจะเข้า ส่วนกลุ่มที่ 5-7 อยู่ในปีงบประมาณ 2568

 

‘ชัยวัฒน์’ ไม่ยอมรับแผนที่ทหาร

 

ส่วนกรณีที่ชัยวัฒน์เคยประกาศว่าไม่ยอมรับแผนที่ของ One Map นั้น ชัยวัฒน์​ ลิ้มลิขิตอักษร​ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ​ ระบุว่า สิ่งที่ตนพูดไปคือไม่ยอมรับการที่กรมแผนที่ทหารนำแผนที่ที่ตัวเองรังวัดใหม่ไปส่งให้กับคณะกรรมการ One Map แล้วคณะกรรมการ One Map ยอมรับแผนที่ดังกล่าว

 

แต่หลังจากนี้เมื่อมีการหารือกันระหว่าง 2 หน่วยงานให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ One Map เป็นผู้ขีดเส้น หากอยู่ในพื้นที่ของใครก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับอีกฝ่าย ดังนั้นผลการพูดคุยวันนี้เป็นที่น่าพอใจ เพราะตนต้องการแค่ความถูกต้อง และสิ่งที่ภูมิใจมากคือการหยิบยกพื้นที่คอร์ริดอร์หากสามารถทำได้จริงจะมีพื้นที่ป่าอีกส่วนหนึ่งที่จะคืนให้ประเทศ

 

รอ ป.ป.ช. เอาผิด ‘ชัยวัฒน์’ ถอนหมุด

 

ขณะที่ ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ที่ ส.ป.ก. ไปแจ้งความเอาผิดชัยวัฒน์ ตามพระราชบัญญัติปราบปรามการทุจริตฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เวลาแสวงหาข้อเท็จจริง 30 วัน ก่อนส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 159 เนื่องจากชัยวัฒน์เข้าไปดำเนินการถอนหมุด ส.ป.ก. โดยที่เข้าใจว่าเป็นพื้นที่อุทยาน แต่ ส.ป.ก. ไปแจ้งความเอาผิดเพราะ ส.ป.ก. บอกเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. ดังนั้นชัยวัฒน์จะเจตนาหรือไม่อยู่ที่ความตั้งใจ ซึ่ง ป.ป.ช. จะตรวจสอบต่อไป แต่ในระหว่าง 2 หน่วยงานได้ปรับความเข้าใจจนได้ข้อยุติแล้ว

 

จบหล่อไม่ได้ ต้องมีคนผิด

 

ขณะเดียวกัน ชัยวัฒน์ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เรื่องแจ้งความเป็นกฎหมายอาญา ต้องมีการพิสูจน์ และคาดการณ์ว่าเขาก็ต้องแจ้งความเรา เนื่องจากตนไปถอนหมุดเขามา หากเขาไม่แจ้งก็แสดงว่าหลักนั้นเป็นหลักเถื่อน เป็นหลักเท็จ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยื่นหลักฐานมาตัดสินกันไม่ได้ก็ต้องให้คณะกรรมการเป็นคนตัดสินตามหลักฐานที่มี หากตัดสินว่าเป็นพื้นที่ในเขต ส.ป.ก. ตนรับเต็มทั้งเรื่องแจ้งความเท็จหรือเรื่องอื่นๆ แต่หากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตนก็จะฟ้องกลับเช่นเดียวกันไม่ว่าใครที่สั่งการ

 

ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า วันนี้จะจบแบบหล่อๆ ไม่ได้ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็พยายามที่จะสื่อสารมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล วันนี้ได้ข้อยุติระดับหนึ่ง ซึ่งรออีก 2 เดือนว่าพื้นที่ตรงนี้จะเป็นของใคร ยืนยันว่าหลักฐานเรามีเพียงพอที่จะยืนยันว่าเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

“ที่บอกว่าจะจบแบบหล่อๆ ไม่ได้ คือจะจบแบบไม่มีใครผิดไม่ได้ งานนี้ต้องมีคนผิดเมื่อเขาไม่ผิด ผมก็ต้องผิด เพราะเราทิ้งตัวแล้ว ไม่ใช่ว่าผมจะเกษียณแล้วทิ้งตัว แต่ผมสู้มาตลอดชีวิต การจะจบโดยไม่มีใครผิดไม่ได้ ใครที่ทำหลักฐานเท็จ ใครออกโฉนดโดยมิชอบ ต้องมีคนผิด หากเขาไม่ผิด ผมก็ต้องผิด ซึ่งต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองอยู่แล้ว” ชัยวัฒน์กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าว เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้เดินเข้าไปพูดคุยกับชัยวัฒน์เรื่องการส่ง Field Book เพื่อตรวจสอบแนวเขตระหว่าง 2 หน่วยงาน ด้วยท่าทางเป็นกันเอง และได้ยกมือไหว้กันหลังการพูดคุยอีกด้วย

 

The post เคลียร์ใจรอบ ​2 สั่ง​พิสูจน์เขตแดนใหม่ทั่วประเทศ ตกลงไม่ได้โยน One Map ชี้ขาด ส.ป.ก. บอกที่ผ่านมาช่างหัวมัน ส่วนชัยวัฒน์ชี้ เรื่องนี้ต้องมีคนผิด appeared first on THE STANDARD.

]]>