คาเฟ่ (Cafe) – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 22 Jul 2025 05:12:46 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Lacoste เปิดคาเฟ่ในโมนาโก รับซัมเมอร์ 2025 https://thestandard.co/lacoste-cafe-monaco/ Tue, 22 Jul 2025 05:12:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1098316 lacoste-cafe-monaco

ก่อนหน้านี้ Longchamp เพิ่งเปิดตัวคาเฟ่แห่งแรกในปารีสไป […]

The post Lacoste เปิดคาเฟ่ในโมนาโก รับซัมเมอร์ 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
lacoste-cafe-monaco

ก่อนหน้านี้ Longchamp เพิ่งเปิดตัวคาเฟ่แห่งแรกในปารีสไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Lacoste ก็เตรียมเปิดคาเฟ่ของตัวเองในช่วงฤดูร้อนนี้เช่นกัน 

 

Le Café Lacoste เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรม Le Méridien Beach Plaza ในโมนาโก 

 

โดยก่อนหน้านี้แฟนเทนนิสที่ติดตามการแข่งขันเทนนิส มอนติ คาร์โล มาสเตอร์ส อาจได้เห็นภาพพรีวิวของคาเฟ่สุดเก๋นี้มาแล้ว โดยคาเฟ่ตั้งอยู่ภายใต้การดูแลของ Pelagia Kolotouros ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษคนใหม่ของแบรนด์จระเข้เขียวชื่อดัง

 

Le Café Lacoste ให้บริการเมนูที่ได้รับการรังสรรค์โดยเชฟชื่อดัง Riccardo Giraudi ซึ่งนำเสนออาหารแนวร่วมสมัย เช่น แซนด์วิชคลับสูตรใหม่ที่มาพร้อมมายองเนสผสมทาร์รากอน

สลัดซีซาร์เวอร์ชัน 2.0 ที่ใส่คาราสูมิเนื้อวัวขูด และซอสมิโสะ

 

คาเฟ่ตกแต่งในธีมสีเขียวสดแบบสนามหญ้า ซึ่งเป็นเฉดสีประจำของ Lacoste และมีของหวานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ เช่น ทีรามิสุสไตล์เรโทร ที่ได้ไอเดียจากคอร์ตดินของโรลังด์ การ์รอส และ มอนติ คาร์โล และ ของหวานพิสตาชิโอ ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลโก้จระเข้สีเขียว

แน่นอนว่าคาเฟ่ยังเสิร์ฟกาแฟลาเต้หลากหลาย เช่น พิสตาชิโอลาเต้ และ วานิลลาลาเต้

 

Le Café Lacoste จะเปิดบริการทุกวันถึงตี 2 ตลอดฤดูร้อนจนถึงกันยายน และจะปรับเวลาเปิดเป็น 9 โมงเช้า – เที่ยงคืน ตั้งแต่ตุลาคมถึงเมษายน

 

Le Café Lacoste คาเฟ่ใหม่ในโมนาโก

Le Café Lacoste คาเฟ่ใหม่ในโมนาโก Le Café Lacoste คาเฟ่ใหม่ในโมนาโก

Le Café Lacoste คาเฟ่ใหม่ในโมนาโก Le Café Lacoste คาเฟ่ใหม่ในโมนาโก

 

อ้างอิง

 

The post Lacoste เปิดคาเฟ่ในโมนาโก รับซัมเมอร์ 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Early Yuyen คาเฟ่ Pet Friendly ที่สร้างขึ้นจากขยะเกือบล้านชิ้น https://thestandard.co/life/early-yuyen Wed, 11 Jun 2025 10:40:22 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1084125

เราอยากมีพื้นที่ที่ใช้สื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นเหมื […]

The post Early Yuyen คาเฟ่ Pet Friendly ที่สร้างขึ้นจากขยะเกือบล้านชิ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>

เราอยากมีพื้นที่ที่ใช้สื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นเหมือนคอมมูนิตี้สเปซให้คนเข้ามาพูดคุย แต่ถ้าเปิดเฉยๆ ก็แลดูอึดอัดไป ก็เลยคิดว่างั้นเราลองเอากาแฟมาเชื่อมคนดีกว่า

เค-เคฑิตา ชัยศักดิ์ศิริ, Co-owner of Early Yuyen

 

ทุกวันนี้คำว่า ‘ยั่งยืน’ ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่คือวิถีชีวิตที่เราทุกคนเริ่มหันกลับมามองและเอาใจใส่ มีคาเฟ่เล็กๆ แห่งหนึ่งย่านรามอินทรากำลังเล่าเรื่องนี้อย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ‘Early Yuyen’ คาเฟ่แนวรักษ์โลกสาขาใหม่ของร้านกาแฟ Early พื้นที่ที่พาเรากลับไปทบทวนว่าของเก่าที่เคยถูกมองว่า ‘หมดประโยชน์’ จริงๆ แล้วอาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ดีกว่า ทั้งประตูไม้เก่า เศษกระเบื้อง หรือแม้แต่ขวดพลาสติก ล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของร้านที่เต็มไปด้วยชีวิต

 

Eco-Curious ตอนนี้ เราอยากชวนทุกคนไปนั่งชิลยัง Early Yuyen แวะไปดูวัสดุและการออกแบบรักษ์โลก รวมถึงคุยกับ เค-เคฑิตา ชัยศักดิ์ศิริ หนึ่งในเจ้าของว่าพวกเขาคิดอย่างไรให้คาเฟ่แห่งนี้ทั้งรักษ์โลก เท่ อบอุ่น และเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงได้ในเวลาเดียวกัน

 

ดูรายการเต็มได้ที่: https://www.instagram.com/p/DKvmCyZvNlZ 

 

 

What is Early Yuyen?

 

Early Yuyen คือคาเฟ่สาขาที่สองของแบรนด์ Early BKK ที่ขยับขยายแนวคิดความยั่งยืนไปอีกขั้น ด้วยการเปิดร้านใหม่ภายใต้แนวคิด Circular Design ในโครงการ My Paws Backyard ย่านรามอินทรา ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่สำหรับจิบกาแฟหรือแฮงเอาต์กับน้องหมา แต่เป็นพื้นที่ทดลองที่ตั้งใจนำวัสดุเก่ากลับมาเล่าเรื่องใหม่อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้ หน้าต่าง เศษกระเบื้อง ขวดน้ำพลาสติก หรือเฟอร์นิเจอร์มือสอง 

 

เบื้องหลังการออกแบบเป็นผลงานของทีม ‘Spacecraft’ ที่ตั้งใจออกแบบให้ Early Yuyen เป็นสถานที่ที่ ‘สวย รื้อได้ ซ่อมง่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ โดยคำนึงถึงทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และผู้คนในเวลาเดียวกัน ร้านนี้จึงไม่ใช่แค่การพูดเรื่อง Sustainability ในเชิงอุดมคติ แต่เป็นการลงมือทำจริงในแบบที่จับต้องได้ พร้อมชวนให้เราตั้งคำถามว่า “เราจะสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน…โดยไม่ลืมตัวเราเองได้หรือไหม”

 

 

How sustainable is it?

 

Early Yuyen อาจไม่ได้เป็นคาเฟ่ที่ ‘ยั่งยืนที่สุด’ ในเชิงเทคนิค แต่กลับน่าสนใจมากในฐานะพื้นที่ทดลองที่จริงใจและทำได้จริง คาเฟ่แห่งนี้เลือกรีไซเคิลวัสดุเก่ามาตกแต่ง ซึ่งมีทั้งประตูไม้เก่าอดีตประตูโรงเรียน กระเบื้องหลังคา กล่องอาหาร Junk Food กล่องนม ไปจนถึงเศษแก้วแตกๆ ที่นำกลับมาทำใหม่จนสวยงามและเท่มาก สิ่งที่เราชอบที่สุดคือการคิด ‘เผื่อ’ เพราะคาเฟ่นี้ยังออกแบบให้รื้อถอนง่าย ซ่อมแซมได้ และไม่ทิ้งร่องรอยเมื่อเลิกใช้ 

 

นอกจากนี้ Early Yuyen ยังพยายามขยายความหมายของคำว่า ‘ยั่งยืน’ ให้ครอบคลุมมากกว่าแค่สิ่งแวดล้อม ทีมผู้ก่อตั้งพูดอย่างชัดเจนว่า ความยั่งยืนควรอยู่ได้ในโลกความจริง หมายถึงต้องดูแลทั้งเศรษฐกิจของตัวเองและคนรอบข้างควบคู่กัน ไม่สุดโต่งจนธุรกิจไปไม่รอด คาเฟ่นี้จึงเป็นตัวอย่างของความพยายามสร้างสมดุลระหว่างอุดมคติและความเป็นไปได้ 

 

 

สำหรับใครอยากแวะไปที่ Early สาขาซอยอยู่เย็น สามารถแวะไปทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/earlybkk  

The post Early Yuyen คาเฟ่ Pet Friendly ที่สร้างขึ้นจากขยะเกือบล้านชิ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
% Arabica True Digital Park สาขาแรกที่ซ่อนตัวอยู่ในสวน! https://thestandard.co/life/arabica-true-digital-park Mon, 26 May 2025 09:55:46 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1078679 arabica-true-digital-park

% Arabica True Digital Park สาขาแรกที่ซ่อนตัวอยู่ในสวน! […]

The post % Arabica True Digital Park สาขาแรกที่ซ่อนตัวอยู่ในสวน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
arabica-true-digital-park

% Arabica True Digital Park สาขาแรกที่ซ่อนตัวอยู่ในสวน!

 

แฟนคลับร้าน % Arabica ตอนนี้มีอีกหนึ่งสาขาที่คุณไม่ควรพลาด นั่นคือ % Arabica True Digital Park ซึ่งที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสาขาที่มีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้ตื่นเต้น ตั้งแต่การจัดร้านที่รอบนี้นำตัวร้านไปตั้งไว้กลางสวน ซึ่งเป็นสาขาแรกในไทยที่ % Arabica ออกแบบสวนและจัดสวนเอง พร้อมทั้งทำที่นั่งเป็นโซน Outdoor ในสวนสำหรับใครที่อยากจิบกาแฟชิลๆ

 

% Arabica True Digital Park

 

นอกจากสวนแล้ว ตัวร้านก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเป็นผลงานการออกแบบของ Selgascano สตูดิโอออกแบบจากสเปน ซึ่งโดดเด่นด้านการทำให้ตัวอาคารดูโล่ง และดึงบรรยากาศภายนอกให้เข้ามาสู่ในร้าน เหมือนกับว่าถึงแม้จะกินกาแฟในร้าน ก็ยังรู้สึกถึงความสดใสของสวนภายนอก การตกแต่งภายในสาขานี้เน้นทำให้วัตถุต่างๆ ดูลื่นไหลและลอยได้! ทำให้คนที่เข้ามาในสาขานี้รู้สึกเบาสบาย

 

% Arabica True Digital Park

 

และเช่นเคยว่า % Arabica ยังคงคอนเซปต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้แก้วกระดาษ และการตกแต่งภายในสาขานี้ก็ใช้วัสดุรีไซเคิลมาทำเป็นแผ่นอะคูสติกเพื่อใช้ดูดซับเสียง และกันความร้อนภายในร้าน ใครสนใจอยากจิบเครื่องดื่มชิลๆ ในสวน สามารถไปที่ % Arabica True Digital Park ได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.

 

% Arabica True Digital Park

Open: ทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.

Address: ชั้น 3 True Digital Park

Budget: 100-200 บาท

Facebook: Arabica Thailand 

Instagram: @arabica.thailand

Map: https://maps.app.goo.gl/yUGzsfpNQQGzyooQ6?g_st=com.google.maps.preview.copy

The post % Arabica True Digital Park สาขาแรกที่ซ่อนตัวอยู่ในสวน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดแล้ว GUMP’s Cross คอมมูนิตี้สเปซแห่งใหม่ย่านเจริญนคร https://thestandard.co/life/gumps-cross-charoen-nakhon Mon, 21 Apr 2025 09:56:27 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1066532 gumps-cross-charoen-nakhon

เจริญนครนั้นฮิปขึ้นเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนอะไรๆ ก็ขยับขยา […]

The post เปิดแล้ว GUMP’s Cross คอมมูนิตี้สเปซแห่งใหม่ย่านเจริญนคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
gumps-cross-charoen-nakhon

เจริญนครนั้นฮิปขึ้นเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนอะไรๆ ก็ขยับขยายไปเปิดฝั่งนั้นกันเสียหมด ล่าสุด GUMP’s คอมมูนิตี้สเปซชื่อดังจากย่านอารีย์ ก็ปักหลักเปิดบ้านหลังใหม่ ในซอยเจริญนคร 21 ภายใต้ชื่อ GUMP’s Cross

 

โดย GUMP’s Cross เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Gump’s Group โดย คุณธิวาภรณ์ พัฒนะรวีโรจน์ ผู้ก่อตั้ง GUMP’S กับ บริษัท นวชีวิน จำกัด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขยายโครงการมายังฝั่งเจริญนคร นำตึกเก่ามารีโนเวตให้กลายเป็นคอมมูนิตี้สเปซไวบ์น่ารัก ภายใต้แนวคิด Crossing Lifestyle Space พื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้ามาเชื่อมต่อกันผ่านกิจกรรมที่ตนสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายรูป เดินเล่น นั่งทำงาน กินของอร่อย หรือพบปะสังสรรค์

สำหรับใครที่อยากแวะมาเช็กอิน ตอนนี้ GUMP’s Cross มีนิทรรศการน่ารักๆ ให้แวะไปเยี่ยมชม เช่น Give Me Museums การปรากฏตัวของ Give Me Museums ในรูปแบบป๊อปอัพอินสตอลเลชัน ที่พาเราเข้าไปอยู่ในโลกของ ‘น้องดื้อ’ ตัวละครเอกของแบรนด์ หรือ Canvas & Co. ป๊อปอัพแกลเลอรีบนชั้น 3 ของ 3 ศิลปินและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ในรูปแบบเรียบง่าย ไม่จัดฉาก ไม่ตีกรอบ เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้ใช้เวลากับงานศิลปะอย่างเป็นธรรมชาติ

GUMP’s Cross

GUMP’s Cross

 

นอกจากนี้ Gump’s Cross ยังมีคาเฟ่ ร้านอาหาร รวมถึงร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์ไว้ให้บริการ เช่น Pacamara, Karun, Bubb, Viola Flowers, Chubby Boy, Fatboy Bar, Jian Cha หรือ Analog Skyflow เป็นต้น

 

ใครที่สนใจ แวะไปได้ที่ ซอยเจริญนคร 21 เวลา 09.00-22.00 น.

 

ภาพ: Courtesy of Brand

The post เปิดแล้ว GUMP’s Cross คอมมูนิตี้สเปซแห่งใหม่ย่านเจริญนคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
% Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ ที่นั่งเยอะ แถมเปิดให้ดูเบื้องหลังได้! https://thestandard.co/life/arabica-one-bangkok Tue, 11 Mar 2025 10:02:58 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1050947 arabica-one-bangkok

  สาขาที่ใหญ่ ที่นั่งเยอะ แถมเปิดให้ดูเบื้องหลังด้ […]

The post % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ ที่นั่งเยอะ แถมเปิดให้ดูเบื้องหลังได้! appeared first on THE STANDARD.

]]>
arabica-one-bangkok

% Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่

 

สาขาที่ใหญ่ ที่นั่งเยอะ แถมเปิดให้ดูเบื้องหลังด้วย

 

หลังจากที่เปิดเป็นป๊อปอัพมาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ % Arabica กำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่ One Bangkok แล้ว! โดยสาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ชั้นครึ่ง ชั้นแรกจะเป็นบาร์กาแฟทำเครื่องดื่มให้ดูกันสดๆ ขยับขึ้นมาที่ชั้นลอยจะเป็นโต๊ะแบบเคาน์เตอร์บาร์ไว้นั่งชิลพูดคุยกัน และชั้นบนสุดจะเต็มไปด้วยที่นั่งที่สามารถนั่งได้ทั้งคนเดียว และมีโต๊ะแยกสำหรับใครที่มาหลายคน เรียกได้ว่านี่เป็น % Arabica สาขาที่สามารถหอบงานมาทำและจิบกาแฟไปด้วยได้

 

% Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่

 

ช่นเคยว่าถ้าเป็น % Arabica ก็ต้องมีเมล็ดให้เลือกหลายชนิด ซึ่งที่สาขานี้ก็มีเยอะไม่แพ้สาขาอื่นเลย รวมถึงเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่กาแฟก็มีเยอะเช่นกัน อีกหนึ่งความพิเศษของสาขานี้คือเขามีมุมลับๆ ให้เราได้มาสัมผัสการทำงานอย่างใกล้ชิด ทั้งหลังเคาน์เตอร์กาแฟไปจนถึงห้องคั่วกาแฟที่คั่วกันให้ดูสดๆ 

 

ใครที่อยากมาเช็กอินสาขาใหม่ สามารถมาได้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมนี้ ร้านตั้งอยู่ที่โซน The Storeys, One Bangkok สามารถเข้าได้ทางชั้น 1 และชั้น 2

 

% Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่

The post % Arabica One Bangkok สาขาล่าสุดที่ใหญ่ ที่นั่งเยอะ แถมเปิดให้ดูเบื้องหลังได้! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Choco Project กลับมาในย่านเอกมัย พร้อมเมนูใหม่สุดเข้มข้น https://thestandard.co/life/choco-project-new-menu Mon, 10 Feb 2025 09:36:31 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1040344 choco-project-new-menu

คาเฟ่ที่คนรักช็อกโกแลตกำลังคิดถึงกลับมาแล้วนะ โดยรอบนี้ […]

The post Choco Project กลับมาในย่านเอกมัย พร้อมเมนูใหม่สุดเข้มข้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
choco-project-new-menu

คาเฟ่ที่คนรักช็อกโกแลตกำลังคิดถึงกลับมาแล้วนะ โดยรอบนี้ Choco Project มาป็อปอัปอยู่ในย่านเอกมัย และจะอยู่เพียง 1 เดือนครึ่งเท่านั้น อีกทั้งรอบนี้ร้านยังมาพร้อมเมนูใหม่และตกแต่งร้านสไตล์ปารีเซียงด้วย ราวกับยกปาร์ตี้ช็อกโกแลตมาเสิร์ฟให้ทุกคนเอ็นจอยกันถึงที่!

 

Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ

 

Choco Project เป็นคาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพที่นานๆ ครั้งจะกลับมา แถมยังเปลี่ยนโลเคชันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ทุกคนไม่เบื่อ ซึ่งในครั้งนี้ร้านเปิดอยู่ใน forever changing space ซอยเอกมัย 21 พร้อมการตกแต่งที่มีทั้งความเท่และเก๋ เนื่องจากร้านคอลแลบกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Ohdinary Store ด้วยการนำม้าและเชิงเทียนมาตกแต่งร้านเป็นมุมถ่ายรูป

 

ส่วนเมนูใหม่รอบนี้ เราอยากให้ลอง Triple Chocolate Layers (245 บาท) เค้กเลเยอร์เนื้อฉ่ำเข้มข้นที่ราดซอสช็อกโกแลต 3 สี คือ White Choc, Milk Choc และ Dark Choc 

 

Triple Chocolate Layers Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ

 

Chocolate Mousse (220 บาท) เมนูสุดฮอตที่ร้านนี้ก็มีเช่นกัน เป็นมูสช็อกโกแลตเนื้อแน่นเข้มข้น กินพร้อมครีมสดละมุนๆ และครัมเบิล บอกเลยว่าคนรักช็อกโกแลตต้องสั่ง

 

แต่ถ้าใครมาหลายคนและอยากได้ฟีลปาร์ตี้ เราอยากให้สั่งเมนู Chocolate Cookie Platter (390 บาท) ที่มีคุกกี้ 5 รสชาติ เสิร์ฟให้กินพร้อมกับครีมสด ซอสช็อกโกแลต ถั่วและผลไม้ ซึ่งทุกอย่างดิปลงซอสและครีมได้ตามใจ ใครชอบแบบไหนก็จัดเลย

 

Chocolate Cookie Platter Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ

 

นอกจากนี้เมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลต Choco No.1-3 (150 บาท) ที่เลือกความเข้มได้ 3 ระดับ และ Tiramisu (225 บาท) ที่หลายคนติดใจ ก็ยังมีอยู่เช่นกัน พร้อมกับมีเมนูลับอย่าง Choco Chathai ชาไทยผสมช็อกโกแลตด้วย ถ้าใครได้ลองมาบอกกันหน่อยว่าเข้มถูกใจรึเปล่า

 

Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ Choco Project คาเฟ่ช็อกโกแลตสไตล์ป๊อปอัพ

 

Choco Project No.5 เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 23 มีนาคม 2568 เวลา 10.00-18.00 น. ของทุกวัน โดยอยู่บนชั้น 2 ของ forever changing space ในซอยเอกมัย 21 สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถ เอกมัย 26 หรือลานจอดเอกมัย 19 (มีค่าใช้จ่าย) หรือเดินทางด้วย BTS ลงสถานีเอกมัย

The post Choco Project กลับมาในย่านเอกมัย พร้อมเมนูใหม่สุดเข้มข้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
HOMELAND ในบ้านหลังใหม่ซอยสุขุมวิท 39 ที่ซัพพอร์ตความโลคัลได้มากกว่าเดิม https://thestandard.co/life/homeland-new-home-sukhumvit-39 Tue, 04 Feb 2025 01:00:55 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1037441 homeland-new-home-sukhumvit-39

เมื่อครอบครัวเริ่มขยายใหญ่ขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้อง […]

The post HOMELAND ในบ้านหลังใหม่ซอยสุขุมวิท 39 ที่ซัพพอร์ตความโลคัลได้มากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
homeland-new-home-sukhumvit-39

เมื่อครอบครัวเริ่มขยายใหญ่ขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องขยับขยายพื้นที่ตาม ซึ่งครอบครัวที่ว่าของ HOMELAND Café & Grocer ก็คือเกษตรกรไทยและวัตถุดิบท้องถิ่นที่เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเก่า ฉะนั้นด้วยความที่อยากโชว์เคสวัตถุดิบของเกษตรกรไทยที่ทำงานอยู่ด้วยให้ได้มากกว่าเดิม ‘​​ณัฐ-ภัทรพร สาลีรัฐวิภาค’ ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน HOMELAND Café & Grocer ซึ่งเปิดบ้านหลังแรกอยู่ในย่านทองหล่อ ตัดสินใจขยายบ้านใหม่ด้วยการเปิด ‘HOMELAND Sukhumvit 39’ อยู่ในย่านใกล้ๆ กันอย่างพร้อมพงษ์ และพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าที่ใช้วัตถุดิบหลากหลายมากขึ้น สนุกมากขึ้น แต่ยังคงคอนเซปต์ในการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นทั่วประเทศไทยเช่นเดิม

 

“เราเปิดร้านนี้เพราะ HOMELAND มีวัตถุดิบจากเกษตรกรที่ทำงานด้วยเพิ่มมากขึ้น แต่ครัวที่สาขาทองหล่อเล็ก ทำให้ทีมมีพื้นที่จัดการของเหลือได้ไม่มากพอ หรือของบางอย่างได้ผลตอบรับดีแต่เราไม่มีที่จัดเก็บก็ทำให้ลูกค้ารอนาน อีกอย่างเราอยากทำอีเวนต์มากขึ้นด้วย ก็เลยตัดสินใจขยายร้าน” ณัฐบอกถึงความตั้งใจในการเปิด HOMELAND Sukhumvit 39 ที่จะเป็นมากกว่าคาเฟ่เสิร์ฟอาหารเช้าถึงเย็น

 

หน้าร้าน HOMELAND

HOMELAND

ที่นั่งภายในร้าน HOMELAND

อาหารร้าน HOMELAND

 

The Vibe

 

HOMELAND Sukhumvit 39 มาในบรรยากาศอบอุ่นไม่แพ้สาขาแรก เพียงแต่พื้นที่กว้างขึ้นมากทั้งโซนโต๊ะอาหารและห้องครัว แล้วยังมีโซน Grocery ที่วางขายสินค้าท้องถิ่นและของโฮมเมดต่างๆ รวมถึงตู้เย็นขายน้ำผักผลไม้สดให้เลือกหยิบเองได้ด้วย

 

ส่วนด้านในสุดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งเห็นกว้างๆ ใช้โต๊ะใหญ่ๆ แบบนี้ก็ด้วยเหตุผลอย่างที่บอกว่า HOMELAND ตั้งใจเปิดสาขานี้เพื่อใช้จัดกิจกรรมและเวิร์กช็อปต่างๆ เพิ่มมากขึ้น บรรยากาศของร้านนี้จึงดูโปร่งสบาย ทว่าเต็มไปด้วยดีเทลมากมายที่ทุกคนจะได้สัมผัสผ่านรสชาติ

 

“เราเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ HOMELAND ยั่งยืนก็คือการจัดกิจกรรมให้ทุกคนได้เจอกับเกษตรกรเจ้าของวัตถุดิบด้วย มันเป็นการสร้าง Community บางคนอาจไม่อยากมาหาเราอย่างเดียว เขาจะมาเจอเกษตรกรก็ได้ มาทำเวิร์กช็อปก็ได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากสร้างขึ้น”

 

บรรยากาศโดยรวม HOMELAND

ลูกค้าเข้าร้าน HOMELAND

กระจกหน้าร้าน HOMELAND

The taste HOMELAND

 

The Taste

 

ถ้าใครรู้จัก HOMELAND มาก่อนก็จะรู้ดีว่าพวกเขาเริ่มจากการเป็นร้านชำออนไลน์ ก่อนต่อยอดจนกลายเป็นร้านชำและคาเฟ่ HOMELAND Café & Grocer ที่วางขายทั้งวัตถุดิบและมีเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบในร้านให้สั่ง ซึ่งเราเชื่อว่าใครที่เคยไปแล้วต้องมีเมนูโปรดในใจแน่นอน

 

ทว่าความพิเศษของ HOMELAND Sukhumvit 39 ก็คือการเพิ่มเมนูใหม่เข้ามาเพื่อใช้วัตถุดิบใหม่ๆ จากเกษตรกรได้มากขึ้น อีกทั้งเน้นการเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล ไม่ยึดติดกับสูตรเดิมเหมือนร้านสาขาแรกที่คนส่วนใหญ่ติดใจรสชาตินั้นๆ ไปแล้ว

“ในเมื่อเกษตรกรกลุ่มเดิมมีวัตถุดิบใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา เราก็มาคิดว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้เกษตรกรด้วย เราจึงขยายเมนู แต่สิ่งที่สาขานี้แตกต่างก็คือเราจะเปลี่ยนวัตถุดิบตามฤดูกาล อย่างเช่นเมนู Miso Banana Bread (260 บาท) ถ้าเป็นสาขาทองหล่อจะใช้กล้วยน้ำว้าเท่านั้น เพราะลูกค้าติดรสชาตินี้แล้ว ซึ่งเราคิดว่ามันโอเคสำหรับหนึ่งสาขา แต่เกษตรกรก็มีกล้วยชนิดอื่นด้วย เราจึงไม่อยากยึดติดสาขานี้กับวัตถุดิบเดียว ก็เลยใช้กล้วยตามฤดูกาล ซึ่งตอนนี้เป็นกล้วยหักมุก”

 

Miso Banana Brea at Homeland

 

ณัฐเล่าให้ฟังอีกว่าหรืออย่างปีที่แล้วไม่มีมะพร้าวน้ำหอมเลย เกษตรกรที่ทำสวนมะพร้าวจึงทำน้ำหวานดอกมะพร้าวเพื่อกระจายรายได้ HOMELAND จึงซื้อน้ำหวานดอกมะพร้าวมาใช้ในหลายๆ เมนู ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Sea Salt Limeade (140 บาท) เครื่องดื่มเมนูใหม่ที่สดชื่นสุดๆ

 

“อย่างสมูทตี้โบลว์ก็จะเปลี่ยนผลไม้ตามฤดูเช่นกัน เพราะเราก็เข้าใจลูกค้าว่าไม่อยากมาแล้วไม่เจอเมนูที่ชอบ เราก็เลยเปลี่ยนเฉพาะวัตถุดิบ แต่เมนูยังอยู่เหมือนเดิม ทุกคนจะได้ลองผลไม้ใหม่ๆ ด้วย”

 

ด้วยเหตุผลนี้ ถ้าใครแวะมาที่ HOMELAND สาขาใหม่แล้วเห็นว่าจานที่ชอบใช้วัตถุดิบเปลี่ยนไปบ้างก็อย่าตกใจ เพราะร้านตั้งใจใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล หรือผลผลิตที่เกษตรกรมีในช่วงนั้นๆ ซึ่งเมนูที่เปลี่ยนวัตถุดิบจะมีสัญลักษณ์บอกไว้ชัดเจน

 

เมนู Morning Platter

 

โดยเมนูส่วนใหญ่ของ HOMELAND Sukhumvit 39 ยังคงเป็นสไตล์อาหารเช้าแบบ All Day Dining แต่มีความอินเตอร์ขึ้นจากสาขาแรก เมนูแนะนำก็อย่างเช่น Morning Platter (280 บาท) จานมื้อเช้าที่สามารถเลือกได้ระหว่างข้าวหรือขนมปังซาวโดวจ์ กินพร้อมไข่ออร์แกนิก ผักดองและสลัดที่จะเปลี่ยนไปตามฤดู และโรยผงโรยข้าวแบบญี่ปุ่นที่ทำจากชิ้นส่วนปลาที่เหลือจากการตัดแต่งในครัว

 

Thai Croque Madam

Tomatoes on Toast

 

Thai Croque Madame (330 บาท) เป็นเมนูที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองมากๆ ตรงกลางเป็นไส้อั่วโฮมเมด กินพร้อมไข่ ซอสเบชาเมลมิโซะ และโชคุปังบริยอช ทุกคำรสชาติดี น่าจับคู่กับกาแฟหรือเครื่องดื่มสดชื่นๆ เป็นมื้อสาย

 

Tomatoes on Toast (230 บาท) เป็นอีกเมนูที่เราจะสั่งซ้ำ โดยร้านนำมะเขือเทศไปย่าง ก่อนเสิร์ฟบนขนมปังซาวโดวจ์พร้อมริคอตตาชีส

 

“มะเขือเทศอาจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ช่วงไหนมะเขือเทศป่าละอูใหญ่ก็จะใช้จากที่นี่ ส่วนช่วงอื่นๆ ก็อาจเป็นเชียงใหม่” ณัฐบอก

 

Prawn Bisqu ซุปหัวกุ้ง

 

และเนื่องจาก HOMELAND สาขานี้มีเมนูพาสต้ากุ้งด้วย จึงเกิดเป็นเมนู Prawn Bisque (290 บาท) ที่ร้านนำหัวกุ้งส่วนที่เหลือมาใช้ให้คุ้มค่า ด้วยการทำซุปหัวกุ้งที่มาพร้อมเนื้อกุ้ง เมนูนี้กินง่ายๆ สำหรับคนอยากหาเมนูรองท้อง

 

ส่วนเมนูเบเกอรีสำหรับคนอยากสั่งขนมกินคู่กับกาแฟหรือกินเป็นมื้อว่าง เราอยากให้ลอง HOMELAND French Toast (330) เฟรนช์โทสต์ขนมปังบริยอชที่ใช้กล้วยหักมุก ราดด้วยคาราเมลน้ำตาลดอกมะพร้าว ครัมเบิลน้ำตาลดอกมะพร้าว และวิปมิโซะครีม สายขนมหวานที่ชอบความหอมละมุนน่าจะติดใจน่าดู

 

สุดท้ายสำหรับสายสุขภาพที่รักษ์โลกแล้วอยากรักตัวเองด้วย ให้ลองสั่ง HOMELAND Wellness Shot (80 บาท) เมนูที่ใช้ส่วนผสมเพียง 3 อย่าง คือมะนาวแป้นจากป่าละอู กระชายจากเกษตรกรท้องถิ่น และน้ำหวานดอกมะพร้าว

 

“เมนูนี้เกิดจากการจัดเวิร์กช็อปที่ทองหล่อ เป็นเมนูที่ใช้ของจากเกษตรกรทั้งแก้ว ซึ่งวัตถุดิบหลายๆ อย่างเราวางขายในร้านอยู่แล้วแต่ไม่มีใครซื้อ อาจเพราะคนส่วนใหญ่เห็นในเมนูแล้วอยากกินมากกว่าซื้อไปทำเอง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจเปิดร้านอาหารด้วย”

 

HOMELAND French Toast

 

Good for

 

เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่ HOMELAND อยากสนับสนุนเกษตรกรไทย และพวกเขาลงมือทำอย่างจริงจัง อย่างที่บอกว่าที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่หรือร้านอาหารเช้าธรรมดาๆ แต่ละเมนูที่ทุกคนสั่งและได้ชิมล้วนเป็นวัตถุดิบจากเกษตรกรท้องถิ่นที่ทีม HOMELAND ลงพื้นที่เองและติดต่อกับเกษตรกรเพื่อรับซื้อวัตถุดิบเอง ถ้าเราได้เห็นร้านแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกก็คงดี

 

“เราอยากเปิดร้านนี้เพราะอยากมีความสุขกับการทำเมนู ถ้าเราทำอาหารไม่อร่อย คนก็จะรู้สึกไม่ผูกพันกับ HOMELAND พวกเขาก็จะซื้อวัตถุดิบอย่างเดียว ซึ่งมันอาจไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเราอยากคุยกับลูกค้าด้วยเพื่อสื่อสารว่าวัตถุดิบรสชาติเปลี่ยนตามฤดูกาลนะ เปลี่ยนเพราะสภาพแวดล้อมนะ แบบนี้เราจึงจะโชว์เคสของจากเกษตรได้มากขึ้น”

 

HOMELAND Sukhumvit 39

 

Open: วันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดวันพุธ)

Contact: @​​homeland.bkk 

Address: ซอยสุขุมวิท 39 ด้านล่างตึก CITI RESORT

Budget: 300-500 บาท

Map: https://maps.app.goo.gl/Sxg29NNLRZyKHfuF9

The post HOMELAND ในบ้านหลังใหม่ซอยสุขุมวิท 39 ที่ซัพพอร์ตความโลคัลได้มากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์ที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล https://thestandard.co/life/gelateria-kitokki-honey-gelato Sat, 01 Feb 2025 01:00:12 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1036488 gelateria-kitokki-honey-gelato

‘ของหวานไม่ดีต่อสุขภาพ’ คือสิ่งที่ทุกคนรู้กันดี แต่ในเม […]

The post Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์ที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
gelateria-kitokki-honey-gelato

‘ของหวานไม่ดีต่อสุขภาพ’ คือสิ่งที่ทุกคนรู้กันดี แต่ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้องอยู่บ่อยๆ จะให้งดไปเลยก็คงไม่ถูก พวกเราจึงพาทุกคนมาที่ Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตแห่งใหม่ย่านอารีย์ที่ไม่ใช้น้ำตาลเลยสักนิด เพราะหนึ่งในเจ้าของร้าน แบม-พัณณิน ผู้พัฒน์ ชื่นชอบไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่อยากกินน้ำตาลบ่อยๆ ให้ทำลายสุขภาพ เธอกับพาร์ตเนอร์ชาวเกาหลีจึงช่วยกันคิดค้นสูตรเจลาโตที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นเจลาโตอยู่ นี่จึงเป็นคาเฟ่ที่คนรักไอศกรีมแวะมาแล้วต้องแฮปปี้แน่นอน!

 

Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์

 

The Vibe

 

Gelateria Kitokki อยู่ในซอยอารีย์ 5 ฝั่งเหนือ มาถึงทุกคนจะยังไม่เจอหน้าร้าน เพราะที่นี่เปิดอยู่บนชั้น 2 ด้านในตึก White Cloud แต่เมื่อทุกคนเปิดบานประตูเข้ามาด้านในก็จะพบกับคาเฟ่ไวบ์น่ารักๆ แห่งนี้ ที่มาพร้อมเคาน์เตอร์สั่งไอศกรีมหลายรสชาติ และโซนนั่งกินไอศกรีมชิลๆ ดูน่าแวะมานั่งเล่นกับเพื่อนๆ

 

Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์

 

The Taste

 

“แบมเป็นคนชอบกินของหวานมาก โดยเฉพาะไอศกรีม ถ้ากินข้าวแล้วไม่กินของหวานจะรู้สึกขาดอะไรไป แต่พอมารู้ว่าน้ำตาลน่ากลัวอย่างไร แบมก็เริ่มหาข้อมูลจนพบว่าเจลาโตดีกว่าไอศกรีมทั่วไปตรงที่ใช้นมเป็นเบสเสียส่วนใหญ่ ต่างจากไอศกรีมที่ใช้ครีม ก็เลยเริ่มสนใจเจลาโตและไปลงเรียนวิธีการทำเจลาโตมา” แบม เจ้าของร้าน Gelateria Kitokki เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นในการทำเจลาโตที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล โดยเธอเป็นคนออกไอเดียเรื่องรสชาติ และมีพาร์ตเนอร์คอยช่วยเรื่องอื่นๆ ให้เจลาโตของร้านนี้เกิดขึ้นจริง

 

“แต่พอไปเรียนก็ได้รู้อีกว่าเจลาโตก็ใช้น้ำตาลไม่น้อย แบมก็เริ่มคิดว่าเราสามารถใช้อะไรแทนน้ำตาลได้บ้าง จนมาเจอน้ำผึ้งที่รู้สึกว่าดีกว่าหลายๆ อย่างที่ศึกษามา แถมกินแล้วอินซูลินไม่พุ่งสูงเหมือนน้ำตาลด้วย”

 

Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์

 

เจลาโตของ Gelateria Kitokki จึงเป็นสูตรที่ทั้งสองคนช่วยกันคิดขึ้นเองด้วยการลองผิดลองถูกจนกว่าจะได้เจลาโตที่มีเนื้อสัมผัสถูกต้อง รสชาติอร่อยแม้ไม่ใช้น้ำตาล รวมถึงใช้วัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมดตามหลักการทำเจลาโตด้วย

 

“การทำเจลาโตจะมีกฎบางอย่างที่ต้องทำตาม เช่น ห้ามใช้ผลไม้แช่แข็ง ต้องใช้วัตถุดิบทำสดเท่านั้น ร้านเราก็ทำทุกอย่างเองหมดเลย อย่างเช่น Orange Makgeolli Sorbet ที่มีน้ำส้ม เราก็ใช้น้ำส้มคั้นสด”

 

Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์

 

Gelateria Kitokki จะเปลี่ยนรสชาติเจลาโตไปตามฤดูกาล แต่รสชาติประจำที่มาแล้วเจอได้บ่อยๆ ก็อย่างเช่น Valrhona Dark Chocolate, Pistachio, Banana and Butter Crumble หรือ Baked Apple ที่เป็นเมนูโปรดของแบม เพราะเธอบอกว่าต้องนำแอปเปิ้ลไปอบนานหลายชั่วโมงจนกว่าจะนำเนื้อมาทำเจลาโตได้

 

โดยทุกคนสามารถสั่งได้ 1-3 รสชาติต่อถ้วย ราคาเริ่มต้น 135-209 บาท และที่ร้านมีไวน์สำหรับคนอยากลองแพริ่งไวน์กับเจลาโตด้วย แต่ถ้าหากกลัวจะเลือกไม่ถูกก็สามารถถามพนักงานได้เลย

 

Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์

 

Good for

 

เราว่าหลายรสชาติน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนเลย อีกทั้งชิมไปแล้วยังได้รสชาติของเจลาโตชัดเจน แต่จะมีความหวานสดชื่นแบบน้ำผึ้งเข้ามาเสริมเบาๆ กินไปเรื่อยๆ ก็แอบได้ความหอมที่ชวนให้เพลินดีด้วย 

 

ถ้าใครอยากรู้ว่าเจลาโตที่ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลจะสดชื่นขนาดไหน ต้องตามไปลองแล้วนะ

 

Gelateria Kitokki 

Open: วันพุธ-จันทร์ เวลา 12.00-21.00 น. (ปิดวันอังคาร) 

Contact: @​​gelateria_kitokki 

Address: ชั้น 2 ด้านในตึก White Cloud ปากซอยอารีย์ 5 ฝั่งเหนือ

Budget: 135-209 บาท

The post Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตในซอยอารีย์ที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
4 HOURS LIFE with Chao Chawalit ที่ออกจากบ้านแบบไม่ต้องพกเงินสด https://thestandard.co/life/4-hours-life-with-chao-chawalit Fri, 31 Jan 2025 05:00:41 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1035501 Chao Chawalit

4 ชั่วโมงที่ออกจากบ้านแบบไม่ต้องพกเงินสด   เชื่อว่ […]

The post 4 HOURS LIFE with Chao Chawalit ที่ออกจากบ้านแบบไม่ต้องพกเงินสด appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chao Chawalit

4 ชั่วโมงที่ออกจากบ้านแบบไม่ต้องพกเงินสด

 

เชื่อว่าปัจจุบันหลายคนคงอยากลองทำอะไรหลายๆ อย่าง เมื่อโอกาสเข้ามาก็อยากลองทำดู โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่แยกออกจากงานประจำ ซึ่ง เชาว์-ชวลิต ชิตตนันท์ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คว้าโอกาสนั้นไว้เหมือนกัน เพราะนอกจากจะทำงานในวงการบันเทิงแล้ว เชาว์ยังทำธุรกิจกับเพื่อนๆ อีก ทำหลายอย่างขนาดนี้ บางทีก็ต้องการตัวช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น อย่างเช่นตัวช่วยที่ทำให้เราทำธุรกิจ ไปเที่ยว ไปทำงาน ใช้ชีวิตนอกบ้านทั้งวันโดยพกของใช้แค่ไม่กี่อย่างก็เอาอยู่

 

เชาว์-ชวลิต ชิตตนันท์

เชาว์-ชวลิต ชิตตนันท์

 

วันนี้ THE STANDARD LIFE เลยอยากจะลองชวนเชาว์มาใช้ชีวิตนอกบ้าน 4 ชั่วโมงแบบที่ไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ มาดูกันว่าเชาว์จะสามารถทำอะไรที่ไหนได้บ้าง!

 

เชาว์-ชวลิต

 

เมื่อถามว่าไลฟ์สไตล์ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง เชาว์ตอบทันทีว่า “วุ่นวายใช้ได้ครับ” เพราะช่วงนี้นอกจากเชาว์จะทำงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังมีโปรเจกต์เปิดร้านกับเพื่อนๆ ด้วย ร้านที่ว่าคือ ร้านตั้งหยู่ เป็นร้านหมูกระทะในโลเคชันที่ฮอตมากๆ อย่างบรรทัดทอง โปรเจกต์นี้เป็นร้านอาหารร้านแรกที่เชาว์เริ่มทำกับเพื่อนๆ ซึ่งก็ต้องผลัดกันเข้ามาดูแลร้านบ่อยๆ หุ้นส่วนแต่ละคนก็มีงานประจำเป็นของตัวเอง เลยเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ ในการทำร้าน

 

หมูกระทะ ตั้งหยู่ (Tang Yuu)

 

ตั้งหยู่

 

ร้านนี้เป็นร้านหมูกระทะที่เน้นวัตถุดิบที่ดี ขายแบบอะลาคาร์ต ถ้าใครเคยเดินเล่นบนถนนบรรทัดทองต้องเคยผ่านร้านนี้แน่ๆ ร้านตั้งอยู่หัวมุมช่วงซอยจุฬา 16 ภายในร้านตกแต่งแบบมีกลิ่นอายความเป็นอาคารเก่า แต่ก็เสริมบางองค์ประกอบให้ดูร่วมสมัยขึ้น ถ้าถามว่าไปที่ร้านตั้งหยู่ต้องสั่งอะไร เชาว์แนะนำเมนูที่มีชื่อตั้งหยู่ เช่น ตั้งหยู่ฟราย (69 บาท) เป็นเมนูเห็ดทอดสูตรของที่บ้านเชาว์อยู่แล้ว หรือ ข้าวผัดตั้งหยู่ (119 บาท) ข้าวผัดสไตล์จีนที่กินคู่กับของย่างแล้วเข้ากันสุดๆ หรือถ้าใครไม่รู้จะสั่งอะไร แนะนำ เซ็ตตั้งหยู่ (349 บาท) เซ็ตที่รวมผักและเนื้อสัตว์หลายชนิด ส่วนใครสายเนื้อ ที่นี่ก็มีเนื้อพรีเมียมอย่างออสเตรเลียวากิวหลายส่วนให้ได้ลอง

 

ตั้งหยู่ (Tang Yuu) ชุดหมู

ออเดิร์ฟ ตั้งหยู่

หน้าร้าน ตั้งหยู่ (Tang Yuu) บรรทัดทอง

 

Open: ทุกวัน เวลา 17.00-23.00 น. (วันศุกร์และเสาร์เปิดถึง 00.00 น.)

Address: ซอยจุฬา 16

Budget: 300-500 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 

เชาว์-ชวลิต

 

เชาว์บอกกับเราว่า “การทำร้านอาหารมันเหมือนเลี้ยงลูก ซึ่งเป็นลูกที่เราปล่อยไม่ได้ จนกว่าเราจะเลี้ยงดูให้เขาแข็งแรงพอ” แต่ตัวเชาว์เองก็ทำงานหลายอย่างจนบางทีก็รู้สึกหัวหมุนในช่วงแรกๆ แต่ช่วงนี้ก็สบายใจขึ้น เพราะมีตัวช่วยในการจัดการร้านอย่างแม่มณี Tap To Pay

 

ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแอปแม่มณีจากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เข้ามาช่วยให้เจ้าของร้านสามารถรับชำระเงินได้สะดวกมากขึ้น เชาว์บอกว่า “มันช่วยให้ลูกค้าชำระเงินง่ายเหมือนเราแตะจ่ายรถไฟฟ้าเลย”

 

top to play (SCB)

เชาว์-ชวลิต tap to play แม่มณี by SCB

tap to play กับนาฬิกา

 

ตอนได้ยิน ‘Tap To Pay’ ครั้งแรกก็แอบสงสัยว่าจะต่างจากการจ่ายบัตรเครดิตธรรมดาอย่างไร เชาว์เลยแนะนำว่า “ต่างตั้งแต่การสมัครแล้ว เพราะสะดวกมากๆ ตั้งแต่การสมัครที่เราสามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชันที่บ้านได้เลย เป็นการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของเราให้กลายเป็นเครื่องแตะบัตรได้ทันที” ซึ่งในมุมมองผู้ประกอบการ เชาว์บอกว่า “สะดวกและเหมาะกับร้านค้าเล็กๆ เพราะช่วยเพิ่มช่องทางการรับชำระเงิน แถมยังสมัครฟรี ไม่ต้องไปสาขา แค่โหลดแอปแม่มณี ยิ่งร้านที่โลเคชันมีชาวต่างชาติเยอะ ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า

 

“เพราะที่ต่างประเทศจะแตะจ่ายกันเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างเวลาลูกค้าเยอะๆ แล้วเรียกเก็บบิลพร้อมๆ กัน เขาไม่จำเป็นต้องมารอคิวจ่ายเงิน เพราะเราสามารถเอามือถือไปให้แตะจ่ายที่โต๊ะได้เลย ถือว่าสะดวกทั้งฝั่งคนขายและคนซื้อ ซึ่งจริงๆ แล้วแม่มณี Tap To Pay สามารถใช้กับร้านค้าที่หลากหลาย ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นร้านอาหารเท่านั้น อีกทั้งยังรับชำระได้หลายช่องทาง ทั้งสมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอทช์, บัตรเครดิต และบัตรเดบิต”

 

ฟังเชาว์เล่าในมุมมองเจ้าของร้านไปแล้ว เราเลยลองชวนไปเป็นลูกค้าตามร้านต่างๆ ดูบ้าง ซึ่งเชาว์อยากลองไปหาอะไรกินในย่านที่ต้องการความคล่องตัว เดินสนุก อย่างย่านเยาวราช ทรงวาด และท่าเตียน โดยไม่พกเงินสด

 

JingJing Ice-cream Bar and Cafe 

 

JingJing Ice-cream Bar and Cafe 

 

JingJing เป็นร้านไอศกรีมโฮมเมด บรรยากาศอบอุ่นเหมือนได้มานั่งกินในบ้านเพื่อน นอกจากจะบรรยากาศดีแล้ว ไอศกรีมของเขาก็น่าสนใจ เพราะมีให้เลือกหลายรส ซึ่งมีรสแปลกๆ อยู่ด้วย เช่น Gin & Tonic วันนี้เชาว์รู้สึกอยากลองไอศกรีมที่มีความเป็นถั่วๆ เลยเลือกสั่ง แมคคาเดเมีย (120 บาท) มากินคู่กับรสชาติที่ขายดีของร้าน นั่นคือ ชีสพาย (90 บาท) ใครเดินเยาวราชช่วงกลางวันแล้วรู้สึกร้อน แนะนำให้แวะพักที่ร้านนี้ได้เลย

 

ไอศกรีม JingJing Ice-cream

เชาว์ ทาน JingJing Ice-cream

ป้ายร้าน JingJing Ice-cream Bar and Cafe 

 

Open: เวลา 10.00-18.30 น. ปิดวันอังคาร 

Address: เยาวราช ซอยเจริญกรุง 14

Budget: 90-120 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 

Eggplant Smoothie & Juice Bar

 

Eggplant Smoothie & Juice Bar

 

ร้านที่อยากให้คนเข้าใจว่ามะเขือยาวก็สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้ โดยเมนูแนะนำของทางร้านคือเมนูน้ำสกัดเย็นอย่าง Eggplant Recommended (70 บาท) ส่วนผสมของแก้วนี้คือ มะเขือม่วง แอปเปิ้ล ฝรั่ง บีทรูท และมะนาว แต่ก็มีเมนูอื่นๆ อย่าง Anti-Aging (70 บาท) เมนูช่วยเรื่องชะลอวัย ซึ่งประกอบด้วย บีทรูท แอปเปิ้ล และแครอต อันที่จริงก็มีเมนูสมูทตี้อีกหลายแก้วที่น่าไปลอง ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านทรงวาด ใครเดินทรงวาดจนเหนื่อย แวะมาบูสต์พลังที่ร้านนี้ได้

 

พนักงานทำเมนูในร้าน Eggplant Smoothie

เชาว์ ณ Eggplant Smoothie & Juice Bar

ป้ายร้าน Eggplant Smoothie & Juice Bar

 

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. 

Address: ทรงวาด

Budget: 70 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 

Tonkin Annam 

 

Tonkin Annam 

 

ร้านอาหารเวียดนามย่านท่าเตียนที่ต้องแวะไปให้ได้สักครั้ง เพราะวัตถุดิบหลายอย่างส่งตรงจากเวียดนาม และปรุงด้วยสูตรเวียดนามแบบต้นตำรับจากเวียดนามภาคเหนือและภาคกลาง ดูได้จาก แหนมเนือง (370 บาท) ที่ใช้แผ่นแป้งบางๆ ไม่ต้องแช่น้ำ สไตล์เวียดนามแท้ แต่ถ้าใครไปคนเดียว อยากกินอาหารจานเดี่ยว แนะนำเมนู ขนมจีนหมูย่าง / ไก่ตะไคร้ (230 บาท) สามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้ เส้นขนมจีนสั่งตรงจากเวียดนาม วิธีกินคือราดน้ำจิ้มแครอตลงไป คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน ส่วนน้ำซุปให้กินแยก ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่ทำให้สดชื่นอย่าง ชาส้มจี๊ด (110 บาท) ที่ดื่มหลังมื้ออาหารแล้วเข้ากันสุดๆ

 

ชวลิต นั่งในร้าน Tonkin Annam 

อาหาร เครื่องดื่ม Tonkin Annam 

บรรยากาศหน้าร้าน Tonkin Annam 

 

Open: ทุกวัน เวลา 11.00-20.30 น. 

Address: ท่าเตียน

Budget: 300-500 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 

welcome tap to play แม่มณี by SCB

 

โดยไลฟ์สไตล์ของเชาว์ นอกจากการกินแล้วยังมีความสนใจหลายๆ ด้าน ทั้งการออกกำลังกาย การดูแลตัวเอง แฮงเอาต์กับเพื่อน และด้านแฟชั่น วันนี้เราเลยอยากให้เชาว์แนะนำเพิ่มเติมว่าปกตินอกจากทำงาน กิน และดูแลร้าน เชาว์ชอบไปที่ไหนอีกบ้าง

 

Gym Monkey 

 

Gym Monkey 

 

การออกกำลังกายคือสิ่งที่เชาว์ทำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4 วัน หลักๆ จะเป็นการเข้ายิมแถวบ้านคือ Gym Monkey เป็นยิมที่ค่อนข้างครบครัน อยู่ในโครงการ The Circle ราชพฤกษ์ ใครอยู่แถวนั้นสามารถไปสมัครกันได้ เชาว์แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังว่า “พยายามหากิจกรรมที่ใกล้ตัว เพื่อเป็นการ Build Up วินัย”

 

Open: ทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-21.00 น.)

Address: The Circle ราชพฤกษ์ 

Map: maps.app.goo.gl

 

DICE CUP Board Game Cafe 

 

DICE CUP Board Game Cafe 

 

คาเฟ่บอร์ดเกมใกล้บรรทัดทองที่หลายคนไปนั่งเล่นแก้เบื่อ เชาว์ก็เช่นกัน ร้านนี้เป็นร้านที่เชาว์ใช้แก้เบื่อกับเพื่อนช่วงที่เฝ้าร้าน ที่นี่เป็นคาเฟ่บอร์ดเกมที่มีเกมค่อนข้างหลากหลาย เล่นได้ตั้งแต่กลุ่มเล็กๆ ไปจนถึงกลุ่มใหญ่ ซึ่งเกมที่เชาว์ชอบเล่นจะเป็นเกมง่ายๆ เน้นตลก อย่างเช่นเกมคำต้องห้าม หรือเกมโยคี ซึ่งเป็นเกมเปิดการ์ด คล้ายเกมโดราเอมอนที่หลายคนคุ้นเคย เชาว์ยืนยันว่าเกมนี้ตลกแน่นอน

 

Open: ทุกวัน เวลา 14.00-00.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.)

Address: ซอยจุฬา 5 

Map: maps.app.goo.gl

 

Carnival

 

Carnival

 

สตรีทแบรนด์สัญชาติไทยที่เรามักเห็นปรากฏการณ์คนไปต่อคิวตอนปล่อยคอลเล็กชันใหม่บ่อยๆ และนี่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เชาว์ผูกพันมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นของรุ่นพี่ที่รู้จักกันด้วย คาแรกเตอร์สินค้าของร้านก็มีความหลากหลาย นำมาแมตช์กันแล้วสนุก เมื่อก่อนเชาว์แวะไปหน้าร้านบ่อย แต่ช่วงนี้ที่เริ่มยุ่งๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นช้อปปิ้งทางออนไลน์แทน ใครที่ชอบเสื้อผ้าสตรีท ควรมีไอเท็มจาก Carnival สักชิ้น

 

Open: ทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. 

Address: สยามสแควร์ซอย 7 (ร้านมีหลายสาขา) 

Map: maps.app.goo.gl

 

หลังจากที่ได้ลองไปตระเวนทัวร์ตามร้านต่างๆ โดยไม่พกเงินสด เชาว์และทีมงาน THE STANDARD LIFE พบว่าสมัยนี้ถึงเราจะไม่พกเงินสดก็สามารถกิน เที่ยว ช้อป ได้สะดวก เพราะแต่ละร้านไม่ได้รับชำระเงินสดอย่างเดียวแล้ว แต่มีช่องทางการรับชำระอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การสแกน QR Code หรือหลายๆ ร้านก็หันมารับชำระผ่านการแตะจ่ายอย่างแม่มณี Tap To Pay ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและเทรนด์ Cashless Society เรียกได้ว่ามิชชันเที่ยวแบบไม่พกเงินสดของเชาว์ในวันนี้ถือว่าผ่านฉลุย

 

รายละเอียดแม่มณี Tap To Pay เพิ่มเติม 

The post 4 HOURS LIFE with Chao Chawalit ที่ออกจากบ้านแบบไม่ต้องพกเงินสด appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมลิสต์คาเฟ่ที่น่าไปเช็กอินจาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in https://thestandard.co/life/best-cafes-4-hours-life-with-in Tue, 14 Jan 2025 07:07:55 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1030300

ลิสต์คาเฟ่ในกรุงเทพฯ จาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS […]

The post รวมลิสต์คาเฟ่ที่น่าไปเช็กอินจาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in appeared first on THE STANDARD.

]]>

ลิสต์คาเฟ่ในกรุงเทพฯ จาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in

 

คาเฟ่ที่คุณไปบ่อยๆ คือร้านไหน? ในช่วงปีที่ผ่านมา 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in มีโอกาสไปสัมผัสกับคาเฟ่หลายๆ ร้านทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละร้านก็มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป บางร้านเป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง บางร้านอยู่นอกเมือง ขนาดใหญ่มากเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก บางร้านเป็นร้านลับๆ บนตึกที่ไม่คิดว่าที่นี่มีด้วยเหรอ! 

 

วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำคาเฟ่ที่น่าไปเช็กอินจาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in เผื่อใครยังนึกไม่ออกว่าวันนี้จะดื่มกาแฟร้านไหนดี

 


 

 

PULSE / Phra Arthit

 

หนึ่งในย่านที่กำลังกลับมาเป็นกระแสมากๆ ในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นถนนพระอาทิตย์ที่มีร้านค้า มุมถ่ายรูปมากมายให้เดินเที่ยว แต่ถ้าใครเดินเที่ยวจนเหนื่อย อยากนั่งพักจิบเครื่องดื่ม พร้อมกินขนมในบรรยากาศสงบๆ เราแนะนำให้ไปที่ร้าน PULSE / Phra Arthit คาเฟ่ลับๆ บนตึกเดียวกันกับร้าน Coconut Culture ที่นี่มีเมนูเครื่องดื่มทั้งกาแฟและไม่ใช่กาแฟ แถมมีขนมอีกด้วย และยังมีมุมซิกเนเจอร์เป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ให้ได้นั่งซึมซับบรรยากาศธรรมชาติแบบเต็มๆ

 

Open: ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

Address: ท่าพระอาทิตย์ 

Budget: 100-300 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

Resonance Read Room

 

เดินเที่ยวเยาวราชจนเหนื่อยก็ต้องหาที่นั่งพักกันหน่อย มีหนึ่งคาเฟ่ที่ค่อนข้างลับ เหมือนเป็นมุมสงบในเยาวราช นั่นคือ Resonance Read Room เป็นคาเฟ่บนชั้น 3 ของตึก ดูจากโลเคชันหลายคนอาจคุ้นๆ เหมือนเคยไปมาก่อน จริงๆ แล้วคือร้าน VAHAP COFFEE ซึ่งพอเปลี่ยนเป็น Resonance Read Room ก็เพิ่มหนังสือเข้ามาเป็นร้านหนังสือย่อมๆ ในคาเฟ่ด้วย ส่วนบรรยากาศยังคงสงบเหมือนเดิม แถมยังสามารถดูวิวเมืองเก่าจากช่องหน้าต่างตรงข้างร้านได้ด้วย

 

Open: ทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.

Address: เยาวราช

Budget: 150-200 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

LOULOU Cafe & Restaurant

 

LOULOU Cafe & Restaurant เป็นคาเฟ่และร้านอาหารแนวฟิวชัน คอนเซปต์ร้านนี้เน้นไปทาง Sustainable ร้านแทบจะไม่ได้ใช้พลาสติกเลย อย่างเมนูที่สั่งกลับบ้าน ร้านจะเลือกใช้กระป๋องแทนพลาสติกเพื่อให้ง่ายต่อการรีไซเคิล หรือกระเบื้องที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลอย่างฝาขวดน้ำ เมนูของร้านมีทั้งอาหารจานหลักอย่างเช่น LOULOU Pasta เมนูพาสต้ากุ้งตัวโตๆ, Penne AOP Liver Sausage เส้นเพนเนผัดกับไส้กรอกตับ ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งเมนูกาแฟและเมนูที่ไม่ใช่กาแฟ รวมถึงแอลกอฮอล์ด้วย มานั่งชิลๆ ที่ร้านนี้ได้เลย

 

Open: เวลา 10.00-22.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

Address: ซอยอินทามระ 37

Budget: 100-300 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

Little Hideout

 

คาเฟ่บรรยากาศร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ โดดเด่นด้านการใช้วัตถุดิบที่ดีจากต่างประเทศ ภายในร้านมีความสงบ จะมานั่งชิลหรือนั่งทำงานก็ได้เช่นกัน เมนูเค้กของที่นี่เป็นสไตล์ฝรั่งเศส เมนูแนะนำของร้านคือ Tarte au Matcha (325 บาท) เป็นเมนูที่ได้มัทฉะเข้มข้น ใช้ส่วนผสมจาก Uji Matcha 100% และแปลงมาเป็น 7 เลเยอร์ ส่วนเครื่องดื่มแนะนำให้สั่งเมนูใหม่อย่าง Verdent (390 บาท) เป็นเมนู Matcha Coconut ที่แปลกใหม่ เพราะร้านผสมน้ำมะพร้าวและน้ำช่อดอกมะพร้าวเข้าด้วยกัน ท็อปด้วย Clear Matcha เข้มข้น แฟนๆ มัทฉะห้ามพลาด

 

Open: ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. 

Address: ตลิ่งชัน

Budget: 120-400 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

Grazia Gelato & Coffee

 

ร้านนี้เป็นคาเฟ่สไตล์อิตาเลียนที่มีทั้งกาแฟและไอศกรีมเจลาโตแบบโฮมเมด เป็นร้านที่ตกแต่งออกมาดูอบอุ่นเหมือนบ้านในแถบยุโรป ซึ่งพอเข้ามาแล้วจะรู้เลยว่าไม่ได้มีดีแค่ร้านสวย แต่ยังมีไอศกรีมเจลาโตหลากหลายรส มีให้เลือกทั้งแบบใส่ถ้วยและใส่โคน ราคาเริ่มต้นเป็นถ้วยไซส์เล็กสุดอยู่ที่ 125 บาท เนื่องจากไอศกรีมมีหลายรสชาติ 

 

Open: วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.00-17.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์) 

Address: นนทบุรี

Budget: 125-200 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

Horme Cafe

 

ที่นี่เป็นคาเฟ่ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีที่นั่งเยอะพอสมควร สามารถมานั่งคุยงานที่ร้านนี้ได้ ซึ่งบรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยไม้ และภายนอกมีพื้นที่สีเขียวมากมาย เหมาะกับการนัดเพื่อนมานั่งเล่นในวันหยุด เมนูที่มาแล้วอยากให้ลองคือ Americano (ราคาเริ่มต้น 95 บาท) แนะนำให้สั่งคู่กับครัวซองต์หรือขนมปัง

 

Open: เวลา 07.00-20.00 น. 

Address: นนทบุรี

Budget: 100-200 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

BENKOFF

 

คาเฟ่เล็กๆ ในย่านทองหล่อ ถึงร้านจะเล็กแต่มีกาแฟให้เลือกหลากหลาย ใครมองหาคาเฟ่ที่มีบรรยากาศโฮมมี่ๆ บาริสต้าให้ความรู้ด้านกาแฟดี ต้องไปร้านนี้เลย ซึ่งนอกจากกาแฟจะหลากหลายแล้ว ยังมีขนมและ Merchandise น่ารักๆ ของร้านขาย และที่ร้านก็มีเจ้าถิ่นเป็นน้องหมาดัชชุนด์คอยต้อนรับแขกอยู่ด้วย

 

Open: ทุกวัน เวลา 07.30-16.00 น.

Address: ซอยทองหล่อ 9

Budget: 100-250 บาท

Map: maps.app.goo.gl

 


 

 

WWA Cafe x Chooseless

 

จุดเด่นของคาเฟ่นี้อยู่ที่การจัดวางของ อยากเอาอะไรมาวาง เอาอะไรมาโชว์ ก็ได้หมดเลย อยากวางโต๊ะตรงนี้ก็วาง อยากวางเก้าอี้ตรงนี้ก็วาง ส่วนเสื้อผ้าที่ขายก็เลือกมาดี ร้านมีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เมนูที่อยากให้ลองสั่งคือ ข้าวกะเพราหมูเกาหลีไข่ดาว เป็นเมนูรสชาติจัดจ้าน ส่วนของหวานของร้านนี้ที่ แพต ชญานิษฐ์ แนะนำเป็นบราวนีที่เสิร์ฟมาในแก้ว รสชาติเข้มข้น 

 

Open: เวลา 11.00-19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร)

Address: ซอยเอกมัย 21

Budget: 300-500 บาท

Map: maps.app.goo.gl

The post รวมลิสต์คาเฟ่ที่น่าไปเช็กอินจาก 4 HOURS LIFE with และ 4 HOURS LIFE in appeared first on THE STANDARD.

]]>