วานนี้ (12 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เขตดินแดง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ประชุมหารือความร่วมมือและรับประทานอาหารร่วมกับ หานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ พร้อมคณะผู้บริหาร   

โดยประเด็นการหารือในวันนี้เป็นด้านความร่วมมือ เรื่องคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนสังกัด กทม., อุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัด กทม., การพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และการลงทุนและการค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ   

ทั้งนี้ที่ผ่านมา กทม. ได้สถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องและเมืองฉันมิตรกับสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วจำนวน 11 เมือง ประกอบด้วย กรุงปักกิ่ง, เมืองแต้จิ๋ว, นครกวางโจว, นครฉงชิ่ง, นครเทียนจิน, มณฑลชานตง, นครอู่ฮั่น, เมืองเซินเจิ้น, นครเซี่ยงไฮ้, เมืองต้าเหลียน และนครเฉิงตู  

นอกจากนี้ที่ผ่านมาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้การสนับสนุนเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์จากความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องและหน่วยงานในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย

สมาคมวิสาหกิจชาวจีนโพ้นทะเลเมืองซัวเถา สนับสนุนหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable Surgical Mask) รวมจำนวน 139,600 ชิ้น

มณฑลชานตง สนับสนุนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Medical Surgical Mask: Non-Aseptic) จำนวน 10,000 ชิ้น

เมืองเซินเจิ้น สนับสนุนหน้ากากอนามัย (Surgical Face Mask) จำนวน 30,000 ชิ้น

สมาคมจีนเพื่อการติดต่อฉันมิตรระหว่างประเทศ (CAIFC) สนับสนุนหน้ากากอนามัย (Medical Mask) จำนวน 50,000 ชิ้น

นครกวางโจว สนับสนุนหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) จำนวน 50,000 ชิ้น และเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายแบบอินฟราเรด (Infrared Thermometer) จำนวน 100 ชิ้น

มณฑลชานซี สนับสนุนชุดป้องกันส่วนบุคคคล (Personal Protective Equipment: PPE) จำนวน 50 ชุด และหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) จำนวน 20,000 ชิ้น

นครฉงชิ่ง สนับสนุนชุดป้องกันทางการแพทย์แบบรวม (Integrated Medical Protective Garment) จำนวน 600 ชุด และชุดคลุมป้องกันเชื้อ (Isolation Clothing) จำนวน 600 ชุด

กรุงปักกิ่ง สนับสนุนชุดคลุมป้องกันเชื้อแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable Isolation Clothing) จำนวน 1,900 ชุด

นครเฉิงตู สนับสนุนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบ N95 (Medical N95 Mask) จำนวน 2,000 ชิ้น และเครื่องวัดอุณหภูมิ (Thermal Gun) จำนวน 50 ชิ้น

นครเซี่ยงไฮ้ สนับสนุนหน้ากากแบบ N95 (95 Mask) จำนวน 3,000 ชิ้น ชุดป้องกันทางการแพทย์ (Personal Protective Clothing) จำนวน 390 ชุด และแว่นตาป้องกัน (Protective Goggle) จำนวน 1,500 ชิ้น 

The post กทม. กระชับสัมพันธ์สาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นความร่วมมือด้านการศึกษา การแพทย์ การลงทุน appeared first on THE STANDARD.

     เช้าวันนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเยือน ราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลกัมพูชา ตามคำเชิญของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน และจะเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3

     สำหรับการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ เป็นการเยือนครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่การเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

     เมื่อเดินทางถึงตามกำหนด นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศมีกำหนดหารือทวิภาคี และเป็นประธานร่วมในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3

     โดยการหารือจะครอบคลุมประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยนายกรัฐมนตรีจะย้ำความร่วมมือในการสานต่อการพัฒนาเครือข่ายความเชื่อมโยงทางบกและทางน้ำ การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร และความร่วมมือด้านวิชาการ

     โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร 2 ฉบับ ได้แก่

     (1) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์จะขยายความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา

     (2) ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันต่อไป

     ภายหลังการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ยังพอใจความร่วมมือที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้านความมั่นคง มีการประสานงานใกล้ชิดทุกระดับ ทั้งการปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามการค้ามนุษย์ และเรื่องการแก้ไขการลักลอบตัดไม้พะยูง ซึ่งหน่วยงานทั้งสองฝ่ายต้องจัดการประชุมเพื่อวางขั้นตอนและแนวทางที่จะเพิ่มพูนการสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้นี้

     ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการเชื่อมต่อระบบรางรถไฟจากอรัญประเทศ ปอยเปต ศรีโสภณ ไปถึงกรุงพนมเปญให้แล้วเสร็จในปี 2562 ฝ่ายไทยได้สร้างส่วนเชื่อมต่อถึงอรัญประเทศไว้แล้ว เมื่อสร้างเสร็จจะสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางรถไฟเชื่อมสองประเทศและรองรับการท่องเที่ยวทางรถไฟในอนุภูมิภาคได้ และจะเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมไทยกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเส้นแรก

     พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยจะดูแลแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้ดีที่สุดตามหลักกฎหมายไทย ให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายไทย และย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมายแบบรัฐต่อรัฐ

     ไทยจะสนับสนุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกัมพูชา ทั้งความร่วมมือทางวิชาการด้านการเกษตร สาธารณสุข และการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ  ทั้งการพัฒนาชุมชนตัวอย่างโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ภายใต้ Think SDG, Act SEP เผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งยินดีที่ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างกันนี้เป็นส่วนต่อยอดให้กัมพูชาบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติด้วย

     พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้ชื่นชมความสำเร็จในการลงนามความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการลงทุนจากไทยไหลมาสู่กัมพูชามากขึ้น ซึ่งเน้นย้ำให้ภาคเอกชนไทยทำกิจกรรมที่คืนความสุขแก่สังคมอย่างสม่ำเสมอ โดยการลงทุนของไทยในต่างประเทศต้องควบคู่ไปกับกิจกรรมเหล่านี้

Photo: www.thaigov.go.th

The post บิ๊กตู่ เยือน กัมพูชา ถก ฮุนเซน ลงนาม 2 ฉบับ เว้นภาษีซ้อน เร่งทำรถไฟเชื่อมสองประเทศ appeared first on THE STANDARD.