ความท้อแท้ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 18 Dec 2024 07:28:07 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สมการปรับแพสชันจากความท้อในวันนี้สู่ความสำเร็จในปีหน้า https://thestandard.co/life/discouragement-to-next-years-success-equation Wed, 18 Dec 2024 07:28:07 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1020991 ความสำเร็จ

ช่วงเวลาที่สดใสที่สุดของใครหลายคนมักเป็นวันแรกของปีใหม่ […]

The post สมการปรับแพสชันจากความท้อในวันนี้สู่ความสำเร็จในปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
ความสำเร็จ

ช่วงเวลาที่สดใสที่สุดของใครหลายคนมักเป็นวันแรกของปีใหม่ เมื่อทุกอย่างดูเป็นไปได้ และความฝันทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อมมือ เราเริ่มต้นปีด้วยสมุดโน้ตเล่มใหม่ ปากกาด้ามโปรด และรายการเป้าหมายที่เขียนด้วยลายมือประณีต แต่แล้วทำไมเมื่อเวลาผ่านไป ความฝันเหล่านั้นกลับค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับแรงบันดาลใจที่เคยลุกโชน

 

เหมือนเปลวไฟที่ค่อยๆ มอดดับ แพสชันของเราก็เช่นกัน มันไม่ได้ดับวูบในคราวเดียว แต่ค่อยๆ อ่อนแรงลงทีละน้อย บางทีเริ่มจากการผัดวันประกันพรุ่งเพียงวันเดียวแล้วกลายเป็นสัปดาห์ จนท้ายที่สุดเราก็พบว่าตัวเองห่างไกลจากเป้าหมายที่เคยตั้งใจไว้เสียแล้ว ต่อไปนี้เป็นไอเดียการจุดไฟแพสชันของคุณให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง เพื่อเป้าหมายสู่ความสำเร็จในปีหน้าที่ดีกว่าเดิม

 

แพสชันที่จางหายเป็นเรื่องธรรมชาติ

รู้ไว้เถอะว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่เผชิญกับสถานการณ์นี้ การที่แพสชันจางหายไปเป็นเรื่องธรรมชาติ เหมือนกับที่เราไม่สามารถรู้สึกมีความสุขได้ตลอดเวลา หรือโกรธได้ไม่มีวันสิ้นสุด อารมณ์และแรงบันดาลใจของเราล้วนมีจังหวะขึ้น-ลงของมันเอง

 

สิ่งสำคัญไม่ใช่การพยายามรักษาแพสชันให้ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะสร้างระบบที่ช่วยพยุงเราในวันที่แรงบันดาลใจหายไป เหมือนกับนักวิ่งมาราธอนที่ไม่ได้วิ่งด้วยความรู้สึกฮึกเหิมตลอดทั้ง 42 กิโลเมตร แต่มีวินัยและระบบการซ้อมที่ช่วยให้พวกเขาก้าวต่อไปได้แม้ในวันที่ไม่อยากวิ่ง

 

ลองเริ่มต้นจากการสร้างนิสัยเล็กๆ ที่ดีสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น

ลองมาเริ่มต้นด้วยการมองความจริงที่ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากช่วงเวลาที่เรารู้สึกกระตือรือร้นที่สุด แต่เกิดจากการสร้างนิสัยเล็กๆ ที่ทำได้แม้ในวันที่แย่ที่สุด แทนที่จะตั้งเป้าอ่านหนังสือวันละ 2 ชั่วโมง ลองเริ่มจาก 5 นาทีก่อนนอนทุกคืน แทนที่จะพยายามเขียนบล็อกยาวๆ ทุกวัน ลองเริ่มจากการจดโน้ตความคิดสั้นๆ วันละ 1 ย่อหน้า

 

สิ่งสำคัญอีกประการคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุน เหมือนต้นไม้ที่ต้องการดินดี น้ำ และแสงแดดที่เหมาะสม แพสชันของเราก็ต้องการการดูแล หาเพื่อนที่มีเป้าหมายคล้ายกัน เข้าร่วมชุมชนที่สนับสนุนกัน และที่สำคัญ อย่าลืมฉลองความสำเร็จเล็กๆ ระหว่างทาง

 

จงสร้างระบบเพื่อก้าวไปข้างหน้า

สำหรับปีหน้า แทนที่จะเริ่มต้นด้วยการเขียนรายการเป้าหมายยาวเหยียด ลองเริ่มด้วยการสร้างระบบที่จะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้แม้ในวันที่ไม่มีแรงบันดาลใจ วางแผนรับมือกับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุด ให้อภัยตัวเองเมื่อพลาดพลั้ง เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่เป็นการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง


จำไว้ว่าแพสชันไม่ใช่เชื้อเพลิงที่จะต้องลุกโชนตลอดเวลา แต่เป็นแสงเทียนที่เราต้องคอยปกป้องและรักษาให้สว่างไสวอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งมันอาจจะริบหรี่ แต่ตราบใดที่เรายังไม่ยอมให้มันดับสนิท โอกาสที่จะกลับมาลุกโชนอีกครั้งก็ยังคงมีอยู่เสมอ ปีหน้าอาจไม่ใช่ปีที่สมบูรณ์แบบ แต่จะเป็นปีที่เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้จักจังหวะของชีวิตดีขึ้น และมีเครื่องมือที่จะรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ดีกว่าเดิม นั่นต่างหากคือความสำเร็จที่แท้จริง

The post สมการปรับแพสชันจากความท้อในวันนี้สู่ความสำเร็จในปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทุ่มเทให้สุดใจแต่ไร้ค่า? เผยวิธีเอาชนะความท้อแท้ เมื่อทำงานหนักฟรี และสิ่งที่องค์กรต้องปรับตัว https://thestandard.co/beating-burnout-from-overworking-without-reward/ Sun, 12 May 2024 07:28:38 +0000 https://thestandard.co/?p=932426 ความท้อแท้ ทำงานหนัก

เคยรู้สึกไหมว่า ทำงานหนัก ทุ่มเทให้กับองค์กรอย่างเต็มที […]

The post ทุ่มเทให้สุดใจแต่ไร้ค่า? เผยวิธีเอาชนะความท้อแท้ เมื่อทำงานหนักฟรี และสิ่งที่องค์กรต้องปรับตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ความท้อแท้ ทำงานหนัก

เคยรู้สึกไหมว่า ทำงานหนัก ทุ่มเทให้กับองค์กรอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่ได้รับการเห็นคุณค่าจากหัวหน้า? รู้สึกเหมือนทำงานหนักฟรี ไร้ความหมาย ความรู้สึกแบบนี้สร้างความท้อแท้ให้กับพนักงานไม่น้อยเลยทีเดียว แม้จะมีคำกล่าวที่ว่า ‘ทำดีได้ดี’ หรือ ‘ขยันทำงานเข้าไว้ ความดีย่อมส่งผล’ ก็ตาม

 

มีหลายสาเหตุที่ทำให้การทำงานหนักอาจไม่ได้รับการเห็นคุณค่า เช่น ช่องทางการสื่อสารที่ผิดพลาด พนักงานอาจไม่ได้สื่อสารผลงานของตัวเองให้ผู้บริหารทราบอย่างมีประสิทธิภาพ ขาดการรายงานความคืบหน้า หรือไม่ทราบวิธีนำเสนอผลงานให้โดดเด่น

 

นอกจากนี้ เกณฑ์การวัดผลที่ไม่ชัดเจน วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการอวดผลงานหรือการสร้างความสัมพันธ์ และอคติของผู้บริหารต่อพนักงานบางกลุ่ม ก็อาจทำให้ผลงานของพนักงานถูกมองข้ามไปได้

 

ผลเสียของการที่ ‘ทำดีให้ตาย’ แต่ไร้ค่านั้นมีมากมาย องค์กรอาจสูญเสียพนักงานที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อพนักงานรู้สึกว่าทำงานหนักแต่ไร้ค่า พวกเขามักจะลาออกเพื่อหางานใหม่ที่ได้รับการเห็นคุณค่ามากกว่า 

 

นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานคนอื่นๆ เพราะเมื่อเห็นว่าคนที่ทำงานหนักไม่ได้รับการเห็นคุณค่า แรงจูงใจในการทำงานก็จะลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมขององค์กร ภาพลักษณ์ขององค์กรก็อาจเสียหายไปด้วย เพราะองค์กรที่ไม่เห็นคุณค่าพนักงาน มักจะดึงดูดคนเก่งๆ ได้ยากขึ้น

 

ผลการวิจัยหลายชิ้นได้สนับสนุนความคิดนี้ เช่น งานวิจัยของ Carmeli et al. พบว่า การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กร (Perceived Organizational Support) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการปฏิบัติงานและความผูกพันของพนักงาน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรให้คุณค่าและพร้อมสนับสนุน พวกเขาจะทุ่มเททำงานและจงรักภักดีต่อองค์กรมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม การไม่เห็นคุณค่าจะส่งผลเสียต่อกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงาน

 

นอกจากนี้ การให้รางวัลที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การชื่นชม ยกย่อง ให้เกียรติ กลับมีผลต่อแรงจูงใจของพนักงานมากกว่าการให้เงินเสียอีก โดย Bradler et al. พบว่า พนักงานที่ได้รับการชื่นชมด้วยวาจามีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 6.6% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับการชื่นชม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของการยอมรับและเห็นคุณค่าของพนักงาน

 

ยิ่งไปกว่านั้น Gallup ได้สำรวจพนักงานกว่า 1.2 ล้านคนใน 22 องค์กรทั่วโลก พบว่าเพียง 13% เท่านั้นที่มีความผูกพันกับงานและองค์กรอย่างแท้จริง ในขณะที่ 87% ไม่รู้สึกผูกพันหรือไม่มีความผูกพันเลย ส่งผลให้ประสิทธิภาพและผลผลิตของพนักงานลดลงอย่างมาก โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความผูกพันคือความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน การได้รับการชื่นชม ยอมรับ และโอกาสในการเติบโต

 

ผลวิจัยเหล่านี้ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเห็นคุณค่าและการสนับสนุนจากผู้บริหารและองค์กร แม้พนักงานจะทุ่มเททำงานเพียงใด แต่หากขาดสิ่งเหล่านี้ ความพยายามก็อาจดูเหมือน ‘ไร้ค่า’ ในสายตาของพนักงานได้ ซึ่งนำไปสู่ผลเสียต่างๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว

 

ดังนั้น ผู้บริหารควรให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ชื่นชม และให้รางวัลเมื่อพนักงานทำผลงานได้ดี ไม่ใช่แค่คาดหวังให้พนักงาน ‘ทำดี’ เพียงอย่างเดียว ควรสร้างช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ กำหนดเกณฑ์การวัดผลที่ชัดเจน และส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการเห็นคุณค่าในตัวพนักงาน 

 

รวมถึงการสร้างบรรยากาศการทำงานเชิงบวกและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร จะช่วยผูกใจพนักงานให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว และทุ่มเทสร้างผลงานได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ นี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ ‘ทำดีไม่ตาย’ และสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนให้กับทั้งพนักงานและองค์กร

 

อ้างอิง:

The post ทุ่มเทให้สุดใจแต่ไร้ค่า? เผยวิธีเอาชนะความท้อแท้ เมื่อทำงานหนักฟรี และสิ่งที่องค์กรต้องปรับตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
LIFE TIP: Battling Discouragement จะต่อสู้กับความท้อแท้ของตัวเองอย่างไรดี? https://thestandard.co/life/life-tip-16072023 Sun, 16 Jul 2023 04:52:54 +0000 https://thestandard.co/?p=817771 Battling Discouragement

ทำไมต้องเจอแต่เรื่องผิดหวังซ้ำๆ จนรู้สึกท้อแท้ ต่อไปนี้ […]

The post LIFE TIP: Battling Discouragement จะต่อสู้กับความท้อแท้ของตัวเองอย่างไรดี? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Battling Discouragement

ทำไมต้องเจอแต่เรื่องผิดหวังซ้ำๆ จนรู้สึกท้อแท้ ต่อไปนี้คือวิธีต่อสู้กับความรู้สึกนั้น



ความท้อแท้เป็นศัตรูตัวฉกาจที่บั่นทอนจิตใจของเราอย่างเงียบๆ บ่อยครั้งที่มันคืบคลานเข้ามาในชีวิตของเราในเวลาที่เราคาดไม่ถึง ความเหนื่อยล้าจิตใจ ความสงสัยและความไม่แน่นอนที่ไม่รู้จุดสิ้นสุด นำไปสู่ความกระทบกระเทือนจิตใจ ที่ทำให้เราห่างไกลจากความสุข แต่ด้วยวิธีการคิดเชิงบวก ผสานกับการปรับมายด์เซ็ตบางอย่างของตัวเอง จะช่วยให้คุณสามารถต่อสู้กับความท้อแท้และปลุกพลังภายในของคุณให้กลับมาได้อีกครั้งด้วยวิธีต่อไปนี้

 

1. การยอมรับและเข้าใจ

แม้จะไม่ชอบ แต่ก็ต้องยอมรับการมีอยู่ของมัน ให้คิดว่าเป็นเรื่องปกติของชีวิตที่จะรู้สึกท้อแท้ หากเราเข้าใจได้ มันจะช่วยแบ่งเบาภาระความรู้สึกที่มักมาพร้อมกับความท้อแท้

 

2. หาสาเหตุให้เจอ

ความท้อแท้มักเป็นอาการที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหรือชุดของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เช่น นายกฯ ที่คุณอยากได้ถูกสกัดกั้น หรือตำแหน่งที่คุณใฝ่ฝันและตั้งใจทำงานเพื่อคว้าเก้าอี้ตัวนั้นถูกคนอื่นปาดไปซึ่งๆ หน้า การระบุต้นตอของความท้อแท้ทำให้คุณพร้อมที่จะจัดการกับความรู้สึกนั้นได้ตรงจุดต่อไป

 

3. มีความเห็นอกเห็นใจในตนเอง

การวิจารณ์ตัวเองในแง่ลบยิ่งเท่ากับจุดไฟความท้อแท้ให้กระพือหนักกว่าเดิม คุณต้องฝึกมีความเห็นอกเห็นใจตนเองให้ได้ก่อน ลองพูดกับตัวเองเหมือนพูดกับเพื่อนสนิทที่กำลังเผชิญปัญหาคล้ายๆ กัน ปลอบตัวเองให้เป็น และหมั่นเตือนตัวเองว่าทุกคนล้วนเคยพบกับความพ่ายแพ้และอุปสรรค แต่ในที่สุดต้องเชื่อมั่นว่าจะผ่านมันไปได้

 

4. อยู่ใกล้คนคิดบวก

สภาพแวดล้อมของคุณมีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์ของคุณ การพาตัวเองไปอยู่ในวงล้อมของคนที่มีอิทธิพลเชิงบวกจะช่วยขจัดความรู้สึกท้อแท้ได้ ลองออกไปใช้เวลากับเพื่อนหรือคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ดื่มด่ำกับเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น หนังสือ พอดแคสต์ ภาพยนตร์

 

5. รักษาสุขภาพ

เพราะสุขภาพที่ดีมีความเชื่อมโยงกับอารมณ์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่สมดุล และการนอนหลับอย่างเพียงพอ จะช่วยให้คุณรับมือกับความท้อแท้ได้ดีขึ้น

 

ภาพ: Shutterstock

The post LIFE TIP: Battling Discouragement จะต่อสู้กับความท้อแท้ของตัวเองอย่างไรดี? appeared first on THE STANDARD.

]]>