Revolut ธนาคารดิจิทัลระดับโลกที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 25 ล้านรายทั่วโลก ประกาศเปิดให้บริการ Crypto Staking สำหรับลูกค้าในสหราชอาณาจักรและเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) โดยในระยะแรกจะให้บริการเฉพาะเหรียญ Polkadot (DOT), Tezos (XTZ), Cardano (ADA) และ Ethereum (ETH) ก่อน 

Staking คือกระบวนการในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม (คล้ายกับการขุด) บนบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake ซึ่งเป็นการตรวจสอบโดยที่เราวางเงินค้ำประกันและเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้ตรวจสอบเครือข่าย 

โดยการ Staking จะคล้ายกับการที่เรานำเงินไปฝากธนาคาร แต่จะเป็นการฝากเงินดิจิทัลไว้ในแพลตฟอร์มหรือกระเป๋าเงินที่รองรับการ Stake เพื่อแลกกับรางวัลและผลตอบแทน ซึ่งจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม 

สำหรับผลตอบแทนที่ Revolut เสนอให้กับลูกค้าผ่านบริการ Crypto Staking ของตัวเอง จะเป็นอัตราผลตอบแทนแบบผันผวนระหว่าง 2.99-11.65% โดยไม่รับประกันผลตอบแทนแบบคงที่ 

Revolut ถือเป็นหนึ่งในธนาคารดิจิทัลที่ให้บริการเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นจากการรับซื้อและขายคริปโตเพียงอย่างเดียวในปี 2017 ก่อนจะเปิดให้ลูกค้าสามารถถ่ายโอนสินทรัพย์ผ่าน Wallet และแพลตฟอร์มได้ในปี 2021 และล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็เริ่มมีฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ลูกค้าสามารถใช้คริปโตชำระค่าใช้จ่ายประจำวันต่างๆ ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
• สรุปการล่มสลายของ FTX ที่อาจจุดชนวนวิกฤตในตลาดคริปโต
• ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต

อ้างอิง:

• https://www.coindesk.com/business/2023/02/06/digital-bank-revolut-to-offer-crypto-staking-report/?fbclid=IwAR0-z3u4-iBM-NSOqrqK5YHEJvfM-4weUBJGE09sunglop1DP_tXRWf7Aco&mibextid=Zxz2cZ

The post ธนาคารดิจิทัลยักษ์ใหญ่ Revolut เปิดตัวบริการ Crypto Staking สำหรับลูกค้าในสหราชอาณาจักรและยุโรป appeared first on THE STANDARD.

อัยการสหรัฐฯ เตรียมเข้ายึดทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ของ แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ FTX กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่ล้มละลายไปเมื่อไม่นานมานี้ หากศาลมีคำตัดสินให้เขามีความผิดฐานฉ้อโกง

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตเทศบาลตอนใต้ของนครนิวยอร์ก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอยึดทรัพย์สินของแบงก์แมน-ฟรายด์ จำนวน 10 รายการ ซึ่งประกอบด้วย เงินสด หุ้นและคริปโต ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 มกราคม)

ทั้งนี้ ทรัพย์สินส่วนตัวของแบงก์แมน-ฟรายด์ ที่มีมูลค่าสูงสุดที่คาดว่าจะถูกยึดในรอบนี้คือหุ้นของ Robinhood เเพลตฟอร์มเทรดหุ้นออนไลน์รายใหญ่ ที่เขาถือครองอยู่ราว 55 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 526 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอัยการสหรัฐฯ กล่าวหาว่าแบงก์แมน-ฟรายด์ ใช้เงินที่ฉ้อโกงมาจากลูกค้าซื้อมาในช่วงเดือนพฤษภาคมของปีก่อน นอกจากนี้ยังมีเงินเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ที่ถูกเก็บไว้ในธนาคาร Moonstone และอีกมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ในธนาคาร Silvergate รวมถึงคริปโตที่อยู่ในบัญชีของ Binance จำนวน 3 บัญชีที่คาดว่าจะถูกยึด

ปัจจุบัน แบงก์แมน-ฟรายด์ ในวัย 30 ปี อยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี และยังคงปฏิเสธว่าเขาไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาทั้ง 8 ข้อของอัยการ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงและการละเมิดกฎหมายการเงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
• บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
• แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท

อ้างอิง:

• https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-01-20/bankman-fried-assets-of-almost-700-million-may-be-forfeited?sref=CVqPBMVg

The post อัยการสหรัฐฯ เตรียมเข้ายึดทรัพย์สินมูลค่าเกือบ ‘700 ล้านดอลลาร์’ ของ แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ หากศาลตัดสินว่าผิดฐานฉ้อโกง appeared first on THE STANDARD.