วันนี้ (20 กรกฎาคม) ความคืบหน้ากรณีพบศพชาวเวียดนามเสียชีวิต 6 ราย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทีมแพทย์ที่ทำหน้าที่ชันสูตรและตำรวจพิสูจน์หลักฐานสันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากสารพิษไซยาไนด์

ล่าสุดมีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 กรกฎาคม) จนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5 คน 

มี 1 รายที่มีสัญชาติอเมริกัน ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อครอบครัวซึ่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้ ชุดสืบสวนสอบสวนจึงประสานกับสถานทูตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ให้ช่วยติดตามตัวครอบครัวมาให้ปากคำและติดต่อรับศพ

นอกจากนี้ตำรวจได้นำส่งสารพิษที่พบภายในร่างกายของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายไปให้กองพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบในห้องปฏิบัติการว่าเป็นสารพิษชนิดเดียวกันหรือไม่ คาดว่าผลการตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการจากกองพิสูจน์หลักฐานและจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จะทราบภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีความชัดเจนทางคดีเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ 

จากพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุและการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าผู้ก่อเหตุเป็นหนึ่งหรือสองคนในจำนวนของผู้เสียชีวิต และไม่มีบุคคลอื่นที่เข้ามาในที่เกิดเหตุ แต่ชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นดังกล่าวทิ้ง เพราะหากพบพยานหลักฐานอื่นๆ ที่บ่งชี้ไปในประเด็นอื่นก็พร้อมตรวจสอบในประเด็นต่างๆ ทันที

The post ครอบครัวทยอยรับศพ 5 ชาวเวียดนาม เหลือ 1 รายยังติดต่อญาติไม่ได้ คาดรู้ผลตรวจเทียบสารพิษในร่างกับวัตถุพยานสัปดาห์หน้า appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 กรกฎาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของชาวเวียดนาม 6 ราย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยต่อมาตำรวจพิสูจน์หลักฐานพบหลักฐานว่าในที่เกิดเหตุมีสารพิษประเภทไซยาไนด์ ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิต

ทั้งนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางเข้าร่วมประชุมและเก็บวัตถุพยานทางคดีเพิ่มเติม ได้แก่ กระเป๋าสัมภาระของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปเทียบเคียงกับลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต พิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุใช้สารพิษ

นอกจากนี้ มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ทั้งอดีตสามีของ Nguyen Thi Phuong Lan ผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวเวียดนามและไปทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงจะเรียกพนักงานเสิร์ฟอาหาร 2 คนของโรงแรม ที่เป็นคนเข้าไปเสิร์ฟอาหารมื้อสุดท้ายและชุดชา ก่อนจะพบศพทั้ง 6 ราย เพื่อที่จะซักถามในประเด็นเพิ่มเติมที่ตำรวจยังสงสัย

พล.ต.ท. อิทธิพล กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญตำรวจพิสูจน์หลักฐานและครอบครัวผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม 5 ราย มาร่วมเป็นพยานเปิดกระเป๋าเดินทางรวม 8 ใบ ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ยืนยันว่ากระเป๋าเดินทางตรงตามของบุคคลที่เสียชีวิต และยืนยันว่าทรัพย์สินอยู่ครบ แต่ไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตเพศชาย สัญชาติอเมริกัน ซึ่งอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มายืนยันกระเป๋าเดินทางด้วย ตำรวจอยู่ระหว่างประสานกับสถานทูตสหรัฐฯ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางพบเสื้อผ้าและถุงใส่ของใช้จำเป็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบของใช้จำเป็น เพราะต้องรอส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งไม่สามารถที่จะเปิดก่อนได้ เพราะถ้าเปิดแล้วจะไม่สามารถนำหลักฐานชิ้นนี้ไปประกอบในสำนวนได้

พล.ต.ท. อิทธิพล กล่าวถึงกรณี ‘ยางู หมายเลข 7’ (ยาบำรุงร่างกายประเภทหนึ่ง) ที่พบว่าหนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตได้สั่งซื้อผ่านไกด์ เท่าที่ตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบ ตำรวจไม่พบยาชนิดนี้ แต่เท่าที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามในกรุงเทพฯ ยืนยันว่ายางูคือยาบำรุงหรือวิตามินเพื่อสุขภาพที่ชาวเวียดนามนิยมรับประทาน

The post ตำรวจ สถานทูต ครอบครัวชาวเวียดนามที่เสียชีวิตจากไซยาไนด์ ร่วมเปิดกระเป๋าเดินทางหาหลักฐานเพิ่มเติม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 กรกฎาคม) ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของชาวเวียดนาม 6 รายในโรงแรมที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาแพทย์ได้สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่ามาจากการรับสารพิษไซยาไนด์ที่พบตกค้างในแก้วน้ำชา ส่วนผู้ก่อเหตุคือ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต

เวลาประมาณ 16.10 น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ตำรวจควบคุมตัว ฟาน หง็อก หวู (Phan Ngoc Vu) อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม อาชีพไกด์นำเที่ยว มาสอบปากคำในฐานะพยาน

มีรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไกด์รายนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า รู้จักกับกลุ่มผู้ตายหรือไม่ ฟานไม่ตอบคำถามพร้อมกับใช้มือปิดบังหน้า ระบุว่า ไม่รู้

เมื่อถามย้ำว่า เจอกลุ่มผู้เสียชีวิตครั้งแรกหรือไม่ ฟานตอบว่า ไม่รู้จักทั้งกลุ่ม แต่รู้จัก 1 คนเมื่อปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 3-5 กรกฎาคม หนึ่งในผู้เสียชีวิตได้ให้ไกด์ไปซื้อยาชนิดหนึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘ยางู หมายเลข 7’ ราคา 11,000 บาท ให้ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

สำหรับ ‘ยางู’ มีรายงานว่าเป็นยาสมุนไพรเพื่อบำรุงร่างกายประเภทหนึ่งที่คนเวียดนามนิยมซื้อรับประทาน มีทั้งหมด 8 สูตร มีราคาสูง หาซื้อได้เฉพาะย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ

The post ตำรวจสอบปากคำเข้มไกด์เวียดนามทำหน้าที่ซื้อ ‘ยางู หมายเลข 7’ ส่งให้ 1 ใน 6 ชาวเวียดนามที่เสียชีวิต appeared first on THE STANDARD.

จากดราม่าวุฒิเบิกทางการเมือง สู่ใครคุมสภาสูง? – สรุปปม 6 ชาวเวียดนามดับ

พูดคุยกับแขกรับเชิญ 2 ท่าน

• นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา
• รศ. ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD

The post ชมคลิป: จากดราม่าวุฒิเบิกทางการเมือง สู่ใครคุมสภาสูง? – สรุปปม 6 ชาวเวียดนามดับ | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 กรกฎาคม) เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงผลกระทบภายหลังเกิดเหตุฆาตกรรม 6 ศพชาวต่างชาติ ว่าขณะนี้ตำรวจในพื้นที่และกองพิสูจน์หลักฐานกำลังรวบรวมพยานหลักฐานสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริง ขณะเดียวกันในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวยังได้ร่วมให้ข้อมูลต่างๆ ทั้งการติดต่อญาติและติดต่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมมือในการคลี่คลายคดีให้รวดเร็วที่สุด   

ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้จำเป็นต้องเร่งคลี่คลายคดีว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่ แต่จากการสันนิษฐานเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะมาจากสาเหตุส่วนตัว แต่มีเบาะแสสาเหตุต่างๆ ที่เป็นเอกสาร ซึ่งได้ส่งให้สถานทูตช่วยแปล คิดว่าเร็วๆ นี้จะได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นการกระทำที่เกิดจากเรื่องส่วนตัวและเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ทั้งนี้เครือข่ายผู้ประกอบการซึ่งตนเองได้ร่วมประชุมทั้งประเทศให้ความสำคัญเรื่องการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นรัฐบาลจะเน้นในเรื่องนี้เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวได้ฝึกอบรมอาสาสมัครต่างๆ ที่อยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อให้เมื่อเกิดเหตุที่ใดจะสามารถตรวจสอบได้เร็วขึ้น 

ขณะเดียวกันได้ฝึกอบรมและพัฒนาการอำนวยความสะดวกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยครั้งแรกเพื่อให้เกิดความประทับใจ พร้อมเชิญชวนประชาชนเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 

ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจำเป็นต้องออกแถลงการณ์ในกลุ่มอาเซียน เพื่อชี้แจงว่าเรื่องนี้ไม่กระทบการท่องเที่ยว เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคลหรือไม่ เสริมศักดิ์กล่าวว่า เมื่อการสืบสวนสอบสวนชัดเจนแล้วจะมีการแถลงข่าวให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม และเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 

อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนเทศกาลเข้าพรรษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีการประชาสัมพันธ์โครงการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องหลายโครงการ โดยเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้มีกิจกรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะในเมืองน่าท่องเที่ยว ทั้งน้ำพุร้อนและประเพณีต่างๆ อีกทั้งยังมีมวยไทยใน 4 จังหวัด เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี และอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

เสริมศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยประกาศวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวใน 93 ประเทศว่า เรื่องนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางแผนการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเข้าออกได้สะดวก แต่จะต้องดูข้อมูลอื่นประกอบว่าเมื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองมากขึ้นก็อาจมีบางอย่างแทรกซ้อน

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น สาเหตุมาจากการเปิดวีซ่าฟรีหรือไม่ เสริมศักดิ์กล่าวว่า มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะเปิดวีซ่าฟรี ถือเป็นส่วนเพียงเล็กน้อย แต่วีซ่าฟรีจะเป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าเมื่อเปิดวีซ่าฟรีแล้วจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และจะจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นถึง 3.5 ล้านล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 36.7 ล้านคน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตั้งวอร์รูม จัดประชุมคณะอนุกรรมการทุกสัปดาห์ และประชุมกรรมการที่เกี่ยวข้องทุก 2 สัปดาห์ เชื่อมั่นว่าจะใช้นโยบาย IGNITE THAILAND ที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้เป็นเป้าหลัก โดยเฉพาะเปิดการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยทั้งประเทศไม่หลับใหล มีการท่องเที่ยว 24 ชั่วโมง และทั้งปีใน 365 วัน 

เสริมศักดิ์ยืนยันว่า ไทยอยากได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพื่อนำนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศ และเปิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน

The post รมว.ท่องเที่ยว เชื่อว่าคดี 6 ศพชาวเวียดนามไม่กระทบการท่องเที่ยวไทย ย้ำมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว เตรียมแถลง 1-2 วันนี้ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (27 มิถุนายน) ที่ศาลอาญาพระโขนง ถนนสรรพาวุธ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของ ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ เสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ กับพวก และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-5 ยื่นฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์หลายสมัย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)

กรณีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท. บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 และ 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

เป็นเหตุให้ชูวงษ์ถึงแก่ความตาย ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท. บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธ อ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ตำบลบางโฉลงกับตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวกัน

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 การกระทำของจำเลยกับพวกจึงเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต

ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ 

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน

เอนก คำชุ่ม ทนายความฝั่งครอบครัวชูวงษ์ กล่าวว่า วันนี้ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ โดยศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิตบรรยิน แต่ในรายละเอียดต้องรอคัดคำพิพากษามาพิจารณาก่อน

The post ยืนคำสั่ง 3 ศาล ประหารอดีต รมช.พาณิชย์ ‘บรรยิน’ ฆ่าอำพราง ‘เสี่ยชูวงษ์’ ปี 58 appeared first on THE STANDARD.

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มเยาวชน 5 รายก่อเหตุทำร้ายและฆาตกรรม บัวผัน ตันสุ หรือ กบ หญิงสติไม่สมประกอบ ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 

วานนี้ (13 มีนาคม) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 รายเดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดี ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวต่อผู้ปกครองเยาวชนทั้ง 5 รายในข้อหาส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร เสี่ยงต่อการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (3) และบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ประกอบมาตรา 78 

ต่อมาเวลา 11.30 น. มีรายงานว่า ศาลฯ มีคำสั่งสั่งปรับ 10,000 บาทต่อผู้ปกครองของเยาวชนแต่ละราย แต่เมื่อรับสารภาพศาลฯ จึงลดโทษให้เหลือปรับรายละ 5,000 บาท ส่วนคดีอาญาอื่นๆ ที่เยาวชนก่อเหตุยังไม่ได้มีการตัดสิน

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับ ปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) อรัญประเทศ บังคับให้รับสารภาพในคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน ซึ่งพฤติกรรมของตำรวจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 

ทางอัยการและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก โดยในคำให้การของปัญญาสามารถยืนยันถึงคนที่กระทำต่อตนเองได้ชัดเจนว่ามีใครบ้าง

The post ศาลฯ สั่งปรับผู้ปกครอง 5 เยาวชนฆ่าป้าบัวผันรายละ 5,000 บาท ฐานปล่อยให้เด็กทำความผิด appeared first on THE STANDARD.

รัฐแอละแบมาของสหรัฐอเมริกาดำเนินการประหารชีวิต เคนเนธ ยูจีน สมิธ (Kenneth Eugene Smith) ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมวัย 58 ปี ด้วยการรมก๊าซไนโตรเจน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ที่มีการลงโทษประหารชีวิตด้วยวิธีนี้

สมิธถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในปี 1989 ในข้อหาฆาตกรรม เอลิซาเบธ เซนเน็ตต์ (Elizabeth Sennett) ภรรยาของบาทหลวงชาร์ลส์ เซนเน็ตต์ ซีเนียร์ (Charles Sennett Sr.)

โดยเขาได้รับการจ้างวานจาก บิลลี เกรย์ วิลเลียม (Billy Gray Williams) ที่ได้รับการจ้างวานอีกต่อหนึ่งจากบาทหลวงเซนเน็ตต์ และมี จอห์น ฟอร์เรสต์ พาร์คเกอร์ (John Forrest Parker) ร่วมลงมือฆาตกรรม ซึ่งบาทหลวงเซนเน็ตต์ฆ่าตัวตายหลังรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย ขณะที่วิลเลียมถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2020 ส่วนพาร์คเกอร์ถูกประหารด้วยการฉีดสารพิษในปี 2010

ในปี 2022 ทางการรัฐแอละแบมาเคยดำเนินการประหารชีวิตสมิธด้วยการฉีดสารพิษแล้วแต่เขารอดชีวิต ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้วิธีรมก๊าซไนโตรเจนบริสุทธิ์ หรือการหายใจเอาก๊าซที่ไม่มีออกซิเจนเข้าไป จนทำให้เซลล์สลายตัวและนำไปสู่ความตาย

ก่อนหน้านี้สมิธได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดและศาลรัฐบาลกลางให้ยับยั้งการประหารชีวิตด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งทนายของเขาระบุว่าเป็นวิธีการที่ ‘โหดร้าย’ และ ‘ไม่ปกติ’ แต่ผู้พิพากษาของทั้ง 2 ศาลตัดสินปฏิเสธคำร้องดังกล่าว

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เรียกร้องให้ยุติการประหารชีวิตสมิธ และระบุว่าการประหารชีวิตสมิธด้วยวิธีรมก๊าซไนโตรเจนอาจเทียบเท่ากับการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ รัฐแอละแบมาและอีก 2 รัฐของสหรัฐฯ ได้รับรองให้ใช้วิธีการรมก๊าซไนโตรเจนในการลงโทษประหารชีวิต เนื่องจากยาที่ใช้ในการประหารด้วยการฉีดสารพิษนั้นหาได้ยากยิ่งขึ้น

ขณะที่พยานที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การประหารชีวิตเผยว่า สมิธได้กล่าวก่อนจะถูกประหารชีวิตว่า “คืนนี้แอละแบมาทำให้มนุษยชาติต้องถอยหลังหนึ่งก้าว ขอบคุณที่มาสนับสนุนผม รักทุกคนนะครับ”

ภาพ: U.S. Alabama Department of Corrections / Handout via REUTER

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-us-canada-68085513
• https://www.washingtonpost.com/politics/2024/01/24/alabama-execution-nitrogen-gas-supreme-court/

The post รัฐแอละแบมาประหารนักโทษด้วยการรมก๊าซไนโตรเจนครั้งแรกในสหรัฐฯ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (23 มกราคม) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุคดีฆาตกรรม บัวผัน ตันสุ หรือป้าบัวผัน อายุ 47 ปี ว่า ได้มีการสรุปคดีวานนี้ (22 มกราคม) พบก่อเหตุมาแล้ว 7-8 คดี ทั้งคดีฆาตกรรม ข่มขืนกระทำชำเรา กระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกาย ซึ่งการตรวจสอบพบการกระทำผิดรวมถึงมีผู้ใหญ่ร่วมด้วยในบางคดี และได้ให้ขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว โดยจะไล่เลียงและแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบทุกคดีภายในวันที่ 26 มกราคมนี้ 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้จะดำเนินคดีกับกลุ่มอื่นที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ให้หมดจากจังหวัดสระแก้ว รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย โดยจังหวัดสระแก้วจะเป็นตัวอย่าง พร้อมย้ำจะดำเนินคดีกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่เฉพาะเด็กที่อยู่ในสถานพินิจเท่านั้น และยังให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ปกครองเด็กด้วย ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กมีปัญหาทางสังคม 

ดังนั้นการบำบัดอบรมต่างๆ จะแยกเด็กกลุ่มนี้ออกจากกัน ซึ่งขั้นตอนการอยู่ในสถานพินิจคาดว่าจะใช้เวลากว่า 3 ปี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29-30 มกราคมนี้ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ จะต้องไม่มีการข่มขู่พยานและผู้เสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ตรงไปตรงมา และโดยเร็ว

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังกล่าวถึงมาตรการเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชนห้ามออกจากที่พักว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบแต่เพียงว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการ ซึ่งมาตรการการใช้กฎหมายเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่จากนี้ตำรวจต้องเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจรถจักรยานยนต์ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

The post แจ้งข้อกล่าวหาทุกคดีกลุ่มเยาวชนก่อเหตุฆาตกรรมป้าบัวผัน 26 ม.ค. นี้ พร้อมใช้สระแก้วโมเดลกวาดล้างแก๊งวัยรุ่นทั่วประเทศ appeared first on THE STANDARD.

บิ๊กโจ๊กเอาจริง ดำเนินคดี ผปค. แก๊งรุมทำร้ายป้าบัวผัน เหตุทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่

The post ชมคลิป: บิ๊กโจ๊กเอาจริง ดำเนินคดี ผปค. แก๊งรุมทำร้ายป้าบัวผัน เหตุทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.