วันนี้ (16 ธันวาคม) พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) หรือ ‘ทางด่วนฟรี’ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569

โดยการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าว มีระยะเวลารวม 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 เวลา 24.00 น.

“ครม. ได้อนุมัติเป็นของขวัญปีใหม่ และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 นี้ ได้สะดวกมากขึ้น และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการรองรับการเดินทางกลับบ้านและกลับเข้ามากรุงเทพฯ ด้วย” พิพัฒน์ระบุ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม รายงานว่า การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 รวม 7 วันครั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะได้รับ

นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ได้แก่ ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางพิเศษ และลดมลพิษทางอากาศบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ อีกทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษในช่วงเทศกาลที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากขึ้น

The post ประชาชนขึ้นทางด่วนฟรี บางพลี-สุขสวัสดิ์ ตั้งแต่ 30 ธ.ค. ถึง 5 ม.ค. เป็นของขวัญปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

เคยได้กลิ่นแล้วนึกถึงใครบางคนไหม? นอกจากภาพที่เห็นหรือเสียงที่เราจดจำแล้ว ‘กลิ่น’ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยบันทึกเรื่องราว ความรู้สึกและความทรงจำเอาไว้ได้อย่างดี

แต่ละกลิ่นล้วนพาเรากลับไป ‘ช่วงเวลาหนึ่ง’ ที่ทำให้ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ หรือใจเต้นแรง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นส้มที่ทำให้นึกถึงวันที่คุณยายปอกให้ทาน กลิ่นที่คุ้นเคยของควันจางๆ จากศาลเจ้าแถวบ้านเก่า กลิ่นสดชื่นของทะเลช่วงลาพักร้อน หรือแม้แต่กลิ่นกุหลาบในวันที่เดินจับมือกับใครบางคน

เพราะความเชื่อที่ว่า ‘กลิ่น’ คือ สสารและภาษาที่สะสมเรื่องราวอันทรงพลัง ทำให้เกิดแคมเปญส่งท้ายปีจาก Karmakamet แบรนด์น้ำหอมและเครื่องหอมสัญชาติไทย ที่มีชื่อแคมเปญว่า ‘The Air Around You’ ชวนเราสำรวจ ‘อากาศรอบตัว’ ที่ไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันมีความหมาย โดยเฉพาะองค์ประกอบของอากาศอย่าง ‘กลิ่น’ ซึ่งเป็นประตูสู่ความทรงจำของแต่ละคน เมื่อได้สัมผัสจะเชื่อมตรงสู่สัญชาตญาณ และร้อยเรียงช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิตเอาไว้อย่างประณีต

บนแนวคิดที่ว่า กลิ่นคือประสบการณ์เฉพาะตัว ที่แต่ละคนตีความต่างกัน แต่ท้ายที่สุด ทุกคนต่างมีกลิ่นหนึ่งที่พาใจย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่คิดถึงเสมอ ทำให้มีความสุขและปลุกจิตวิญญาณให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

สำหรับปีนี้ Karmakamet คัดสรรชุดของขวัญ 5 เซต ที่ออกแบบให้กลิ่นหอมทำหน้าที่เป็นเหมือน ‘ข้อความ’ ส่งถึงคนสำคัญ ผ่านผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ทั้ง Room Diffuser, Perfume Sachet, Aromatic Candle และ Room Spray พร้อมโทนกลิ่นที่สะท้อนอารมณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

• Refreshing – หอมสดชื่น มีพลัง เหมาะกับการเริ่มต้นปีใหม่อย่างสง่างาม
• Relaxing – อบอุ่น สงบ พาใจกลับมาพบความผ่อนคลาย
• Romance – ลุ่มลึก อ่อนหวาน ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่หัวใจเต้นแรง

ทั้งหมดถูกออกแบบให้เป็นเหมือนภาษาที่แทนความปรารถนาดีในช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ การหยุดพัก หรือการส่งต่อความรู้สึกลึกๆจากใจ

นอกจากนี้ยังมี Seasonal Shopping Bag สีแดงเรียบหรู ในสไตล์ของ Karmakamet ที่สามารถรับได้แม้ไม่ซื้อชุดของขวัญ ทำให้การให้หรือเก็บสะสมไว้เองพิเศษขึ้นไปอีก

หากใครกำลังมองหาของขวัญปีใหม่ สามารถเลือกซื้อ New Year Gift Set 2026 จาก Karmakamet ได้แล้ววันนี้ ที่ Karmakamet ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ www.karmakamet.co.th

The post เปิดประตูสู่ห้วงความทรงจำผ่านกลิ่นหอมที่มีความหมายจาก Karmakamet [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

คริสต์มาสก็แล้ว ปีใหม่ก็กำลังมา จะไปหาของขวัญอะไรมอบให้กับเพื่อนๆ ครอบครัว คนรัก หรือคนพิเศษดีนะ?

อภัยพร ศรีสุข Commercial Director แห่ง Oriental Princess

คิดเยอะไปทำไม เมื่อ โอเรียนทอล พริ้นเซส (Oriental Princess) เปิดสถานีส่งความสุขในคอนเซปต์ #OPสถานีส่งความสุข เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในงาน ‘Gift Fair Festival’ เนรมิตลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต พร้อมเซ็ตของขวัญมากมาย ส่งแทนใจให้กับคนสำคัญในวันสำคัญ

เรื่องของขวัญต้อง Oriental Princess แบรนด์ของขวัญอันดับหนึ่งในใจคนไทย

Oriental Princess แบรนด์ความงามจากศาสตร์แห่งดินแดนตะวันออกที่ดูแลคนไทยมานานกว่า 34 ปี เปลี่ยนบริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ให้เป็นสถานีที่รวมของขวัญมากมาย หรือ #OPสถานีส่งความสุข พร้อมให้คนไทยในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองได้ส่งต่อของขวัญเพื่อเวอร์ชันที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองให้คนสำคัญ เพราะ #OPของขวัญนัมเบอร์วัน ที่มอบให้คนสำคัญได้ในทุกโอกาส

วันที่ 25 ธันวาคม 2024 – 3 มกราคม 2025 ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต Oriental Princess ขนเซ็ตของขวัญสุดประทับใจมาในสถานีสุดแสนน่ารัก เหมาะสำหรับปลายปี รวมถึงกิจกรรมที่ทั้งสนุก อบอุ่น รวมถึงความหอมแบบเฉพาะตัวที่พลาดไม่ได้

รวมภาพบรรยากาศสุด Festive สถานีส่งความสุขจาก Oriental Princess

บรรยากาศเรียกได้ว่าอบอุ่น น่ารัก และเหมาะกับเดือนแห่งการเฉลิมฉลองแบบสุดๆ โดยมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมทั้งชมบูธ ถ่ายภาพ ทำกิจกรรม รวมถึงเลือกช้อปผลิตภัณฑ์และไอเท็มความหอมที่มีให้เลือกสรรไปฝากคนสำคัญในโอกาสสำคัญ

เซ็ตของขวัญแทนใจ และไอเท็มความหอมจาก Oriental Princess

เดินยังไม่ถึงบริเวณงาน แต่กลิ่นความหอมเป็นเอกลักษณ์ก็เตะจมูกทันใด เพราะภายในงาน Oriental Princess มีผลิตภัณฑ์ความหอมที่ติด Best Seller มาให้ทุกคนเลือกสรรเป็นของแทนใจให้คนสำคัญ เซ็ตของขวัญสุดพรีเมียม อบอวลด้วยความหอมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘Beauty Celebration Value Set 2025’ 

โซนนี้เรียกความประทับใจอย่างมาก เพราะออกแบบจากจุดแลนด์มาร์ก 5 ภาค 5 ดีไซน์ โดยอาร์ตเวิร์กของแลนด์มาร์กทั้ง 5 ภาค มาจากการคอลแลบกับศิลปิน ‘Pearada’ ด้วยลายศิลป์สุดแสนน่ารักและอบอุ่น ใครเห็นก็ต้องหยุดดูความครีเอตและความน่ารักที่มองไม่รู้เบื่อ นอกจากจะเนรมิตแลนด์มาร์กสวยๆ ให้แล้ว ยังออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ 5 แบบ 5 ภาค 5 สไตล์ เหมือนกับร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทยมากกว่า 330 สาขา

• Enriching Journey Set ความงดงามบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ของเมืองขอนแก่นในภาคอีสาน 
• Unforgettable Memories Set ความทรงจำที่ไม่อาจลืมกับเสน่ห์ล้านนาจากเมืองเชียงใหม่ในภาคเหนือ
• Vibrant Life Set ความตื่นเต้นของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย
• Leisure Paradise Set สวรรค์ของเหล่านักท่องเที่ยวกับเอกลักษณ์ของเมืองพัทยาบนชายทะเลแห่งภาคตะวันออก
• Timeless Charm Set มนตร์ขลังที่ไม่เก่าลงไปตามกาลเวลาของไข่มุกอันดามันแห่งภาคใต้กับเมืองภูเก็ต

Beauty Celebration Value Set 2025 เหมาะมากสำหรับเลือกให้เป็นรางวัลแก่คนสำคัญ พร้อมแสดงความรักและห่วงใยได้ทุกโอกาส พร้อมการ์ดอวยพรสุดน่ารักแทนใจในโอกาสต่างๆ พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิก Oriental Princess เพื่อซื้อของขวัญแทนความรู้สึกให้คนที่คุณรัก

และสินค้าที่ขายภายในงานอีกมากมาย ทั้ง Oriental Beauty, Charisma The Art of Fragrance Layering, Rhythms of Nature, Story of Happiness และ Princess Garden

กิจกรรมสุดน่ารักและห้ามพลาดภายใน Gift Fair Festival

เริ่มที่ PHOTO BOOTH สุดครีเอทีฟที่มีตู้เดียวในโลก ให้การถ่ายภาพพิเศษกว่าเดิม พร้อมพาคุณท่องเที่ยวแลนด์มาร์กทั่วไทยภายในแชะเดียวแบบไม่ต้องไปถึงสถานที่ เพราะตู้นี้มีเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว (Motion Photo) รับรองว่าทุกภาพจะมีชีวิตชีวาสุดๆ ส่งต่อความทรงจำสุดประทับใจได้ไม่รู้ลืม

ต่อมากับกิจกรรม SHOP & UNLOCK YOUR CHANCE TO WIN กับล็อกเกอร์ลุ้นรางวัลสุดเซอร์ไพรส์ จุดนี้นอกจากจะสนุกและตื่นเต้นกับล็อกเกอร์สุดเซอร์ไพรส์แล้ว ยังได้ช้อปเพลินพร้อมลุ้นรางวัลของพรีเมียมพิเศษสุดฟิน

ปิดท้ายด้วยกิจกรรม SNAP & SHARE ถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดียง่ายๆ รับฟรีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าขนาดทดลอง ใช้ได้นาน 7 วัน

งานนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับเลือกของขวัญแก่คนสำคัญ พร้อมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Oriental Princess ที่มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อให้ทุกช่วงเวลาพิเศษสมบูรณ์แบบ 

สามารถติดตามความพิเศษของโซนของขวัญในปี 2025 ได้ในร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส ทุกสาขาทั่วประเทศมากกว่า 330 สาขา เพื่อมอบความประทับใจในทุกโอกาสสำคัญของคุณ 

แอด LINE สาขาที่ https://www.orientalprincess.com/storelocator/

ช่องทางออนไลน์ www.orientalprincess.com

ช่องทาง Social Media ของแบรนด์ และ Lazada, Shopee, Konvy, LINE SHOPPING, TikTok Shop และ Food Delivery

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ครั้งแรกของน้ำหอมที่แคร์คนรอบข้างและโลกใบนี้ Floranista Limited Edition by Oriental Princess หอมใสไม่ทำร้ายใคร
• ‘bene’ Limited Edition เมกอัพไลน์ใหม่เอาใจสายคลีนในสไตล์ Peach Blossom

The post Oriental Princess เปิดสถานีส่งความสุขสู่แบรนด์ของขวัญอันดับหนึ่งในใจคนไทย [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

สปอยล์ตัวเองแบบ Ultra Luxurious and Beyond

ใกล้จะสิ้นสุดปี 2024 กันแล้ว สำหรับหลายคนอาจจะเป็นปีที่หนักหน่วง แต่เมื่อผ่านมันมาแล้ว การให้รางวัลกับตัวเองเป็นของชิ้นใหญ่สักชิ้น ก็เป็นเหมือนการสปอยล์ตัวเองว่า ‘เราเก่งมากที่ผ่านปีนี้มาได้’ ซึ่งของรางวัลไม่ได้แปลว่าต้องแพงแต่เพียงอย่างเดียว มันอาจจะเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจหรือเมื่อมีแล้วมันทำให้ชีวิตเราดีขึ้น วันนี้เราเลยอยากมาเสนอไอเดียยกระดับบ้านและชีวิต ด้วยของขวัญติดแกลมต้อนรับปีใหม่

งานศิลปะจากศิลปินคนโปรด

การผ่านปีที่หนักหน่วงมาหลายคนคงมีวิธีฮีลตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเสพงานศิลปะก็เป็นอีกหนึ่งวิธีฮีลตัวเองที่ได้ผลดีพอสมควร เราเลยอยากแนะนำให้ใครที่มีใจรักในงานศิลปะ เปลี่ยนตัวเองจากการเป็นคนเสพ กลายเป็นนักสะสม ตามเก็บงานของศิลปินที่ตัวเองชอบกัน

อุปกรณ์เพื่อทำให้เกิดงานอดิเรก

ปีใหม่เป็นเหมือนการหาอะไรใหม่ๆ ทำ เช่นการหางานอดิเรกเป็นการทำอาหาร ทำขนม หรือฝึกทำงานฝีมือต่างๆ การหาอุปกรณ์ดีๆ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเริ่มต้นงานอดิเรกได้อย่างมีความสุขในปีหน้าเช่นกัน

Gadgets สุดล้ำที่ทำให้ชีวิตสบาย

การลงทุนกับของขวัญชิ้นใหญ่ทั้งที การหานวัตกรรมที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นก็เป็นไอเดียที่ดี อย่างเช่นเครื่องมือช่วยทำความสะอาดอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหรือเครื่องล้างจาน ก็เป็นไอเดียที่ช่วยให้ปีหน้าเราไม่ต้องมาเสียเวลากับการดูแลความสะอาดบ้าน หรือการหาเก้าอี้นวดดีๆ สักตัว ก็ช่วยให้การพักผ่อนในปีหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน

เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์อยู่เหนือกาลเวลา

เชื่อว่าใครหลายคนคงมีเฟอร์นิเจอร์ในดวงใจ ที่ไม่ว่าจะกี่ปีดีไซน์ก็ยังคงสวยที่สุดสำหรับเรา สิ้นปีแบบนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อโดยไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องราคาเยอะมาก ถือว่าเป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นใหญ่ที่ใช้งานได้จริง แถมมันจะอยู่กับเราไปตลอด เมื่อเรามีแขกมาที่บ้าน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้นี่แหละจะเป็นเครื่องมือที่บอกแขกว่าเรามีความชอบแนวไหน ตัวตนเราเป็นแบบไหน

ซื้อตามความชอบไม่ต้องใช้เหตุผล

สุดท้ายคือการซื้อของตามความรู้สึก บางทีมันอาจจะดูไร้เหตุผล แต่ของบางชิ้นซื้อแล้วมีผลต่อความรู้สึก อาจจะไม่ได้ใช้งาน แต่เมื่อนำมาวางในบ้านแล้วรู้สึกฟินสุดๆ เช่น การซื้ออาร์ตทอยตัวที่ชอบ หรือชุดจานชามน่ารักๆ ใครมีแพสชันในด้านไหน รู้สึกชอบอะไร ปีใหม่นี้ซื้อเลย อย่าคิดเยอะ!

The post ยกระดับบ้านและชีวิต ด้วยของขวัญติดแกลมต้อนรับปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (24 ธันวาคม) ที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เขตจตุจักร พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

พวงเพ็ชรกล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า วันนี้เป็นการตรวจติดตามว่าการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องดูรายละเอียด อาทิ มีสินค้าอะไรในกระเช้าบ้าง สินค้าในกระเช้าตรงตามที่แจ้งในฉลากสินค้าหรือไม่ โดยสินค้าแต่ละชิ้นจะต้องมีวันหมดอายุเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน

กระเช้าของขวัญประเภทผัก/ผลไม้สดที่จัดไว้แล้วต้องตั้งวางกระเช้ารอจำหน่ายไม่เกิน 3 วัน รวมถึงให้ดูฉลากอาหารต้องมีเครื่องหมาย อย. รับรองไว้บนสินค้าอย่างชัดเจน เป็นต้น

นอกจากนี้หากสินค้ามีสภาพชำรุดเสียหายก่อนวันหมดอายุ มีอายุไม่ถึง 6 เดือน หรือสินค้าในกระเช้าไม่ตรงกับรายละเอียดที่แจ้งไว้ สามารถนำมาเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567

พวงเพ็ชรกล่าวต่อว่า นอกจากการสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจการจัดจำหน่ายชุดสังฆทานด้วย สำหรับภาพรวมในการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้จัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญและชุดสังฆทานต่างๆ ให้ดำเนินการเป็นไปตามแนวทางหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพราะหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้จะต้องโทษ โดยโทษมีทั้งปรับและจำคุก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้กระทำผิดได้รับการดำเนินคดีไปแล้วหลายราย

ด้าน พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า ฉลากสินค้าแต่ละชิ้นในกระเช้าเป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้สิทธิของตนและจะต้องดูในรายละเอียดให้ชัดเจน ในการส่งความสุขปีใหม่อยากให้ทุกคนซื้อในร้านที่มีการทำถูกต้องเพื่อที่จะได้รับสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ เพราะหากซื้อในร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีฉลากสินค้าในกระเช้า บางร้านเป็นการตกลงกันเอง ก็อาจจะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้

ซึ่งในช่วงนี้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สุ่มตรวจการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ทั่วพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการเลือกซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ว่าจะได้รับของที่ดี มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญปีใหม่แสดงฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ผู้ขายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจหรือพบว่ากระเช้าของขวัญปีใหม่ไม่มีการจัดทำฉลาก สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สคบ. ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น สายด่วน สคบ. 1166, แอปพลิเคชัน OCPB Connect, เว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค (OCPB Complain Mobile Application)

The post วิธีเลือกกระเช้าของขวัญปีใหม่ ผู้บริโภคต้องดูที่ฉลาก สินค้าทุกชิ้นต้องมีวันหมดอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ผักผลไม้วางขายไม่เกิน 3 วัน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 ธันวาคม) ที่ห้องประชุม 109 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย เรื่อง การจัดทำฉลากสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญปีใหม่แก่ผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่าย 

โดยมี วราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, สุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมด้วยกลุ่มผู้ประกอบการจำนวน 10 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด, บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด, บริษัท ซีโน-แปซิฟิคเทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท พิริยพูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน), บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด เข้าร่วมประชุม 

‘เศรษฐา’ ห่วงใยคุณภาพสินค้าในกระเช้าปีใหม่ 

พวงเพ็ชรกล่าวว่า รัฐบาลนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความห่วงใยต่อคุณภาพสินค้าและบริการที่ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุข ประชาชนนิยมนำกระเช้าของขวัญไปมอบให้แก่กัน อาจมีผู้ประกอบธุรกิจบางรายนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือใกล้หมดอายุมาบรรจุในกระเช้า รวมถึงการไม่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าให้ทราบ 

ดังนั้น เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค จึงสั่งการให้ สคบ. จัดประชุมมอบนโยบาย โดยเชิญผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่เข้าร่วม เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้มีการนำสินค้าเสื่อมคุณภาพ หมดอายุ หรือใกล้หมดอายุ มาวางจำหน่าย โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่กำหนด และต้องแสดงรายละเอียดชัดเจน นอกจากนี้ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจพิจารณานำสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP รวมถึงสินค้าสุขภาพ มาร่วมจัดกระเช้า เป็นการช่วยเหลือชุมชนและช่วยกระจายรายได้อย่างทั่วถึง

วัน เดือน ปีที่ผลิต วัน เดือน ปีที่หมดอายุ ต้องชัดเจน

“ฉลากกระเช้าของขวัญปีใหม่ จะต้องระบุชื่อ ประเภทหรือชนิดของสินค้าแต่ละรายการ ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตในประเทศไทย ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้นำเข้ามาเพื่อขาย สถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ามาเพื่อขาย ระบุขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุของสินค้าแต่ละรายการ ข้อแนะนำในการใช้หรือการเก็บรักษา วิธีใช้ วัน เดือน ปีที่ผลิต วัน เดือน ปีที่หมดอายุ ของสินค้าแต่ละรายการ คำเตือน รวมถึงราคาจำหน่ายและค่าภาชนะที่บรรจุให้ชัดเจน และต้องกำหนดเงื่อนไขกรณีการเปลี่ยนสินค้า เช่น สินค้าหมดอายุการใช้งาน เกิดการเสียหาย ไม่ตรงปก ซึ่งหากผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิจากผู้ประกอบธุรกิจ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ทางสายด่วน 1166 หรือร้องทุกข์ผ่านทางแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือผ่านทางเว็บไซต์ ocpb.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” พวงเพ็ชรกล่าว 

โอกาสนี้ พวงเพ็ชรยังได้อวยพรวันปีใหม่ 2567 ส่งความปรารถนาดีและกำลังใจให้ประชาชน โดยขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวโดยสวัสดิภาพ

The post ‘พวงเพ็ชร’ กำชับผู้ค้า-ห้าง ห้ามนำสินค้าใกล้หมดอายุและไม่มีคุณภาพจัดกระเช้าปีใหม่ขายประชาชน แนะใช้สินค้า OTOP หนุนรายได้ชุมชน appeared first on THE STANDARD.

ของขวัญปีใหม่ 2023 จาก ผบ.ตร. คืออะไร-ประชาชนได้อะไร?

The post ชมคลิป: ของขวัญปีใหม่ 2023 จาก ผบ.ตร. คืออะไร-ประชาชนได้อะไร? appeared first on THE STANDARD.

จากข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของ Green Style อาจทำให้หลายคนรู้สึกใจหาย หากได้รู้ว่าในปีหนึ่งๆ คนไทยใช้กระดาษคนละ 60 กิโลกรัมต่อปี รวมแล้วทุกปีจะมีขยะจากกระดาษถึง 3.9 ล้านตัน หรือหนักเท่ากับกระดาษ A4 จำนวน 7.8 แสนล้านแผ่น ซึ่งถ้านำกระดาษทั้งหมดมาวางเรียงกัน จะได้พื้นที่เทียบเท่ากับพื้นที่ของเกาะภูเก็ต 90 เกาะเลยทีเดียว ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่ หลายคนกำลังสนุกกับการหาของขวัญปีใหม่เพื่อจับสลาก มันจะดีกว่าไหมหากเราหันมาตระหนักเรื่องการลดปริมาณขยะจากกระดาษกันมากขึ้น ด้วยการหยิบจับสิ่งที่มีในบ้านเพื่อนำมาห่อเป็นของขวัญแบบรักษ์โลกที่ไม่เป็นการเพิ่มขยะไปมากกว่านี้ 

Pop Tip:

คนไทยใช้กระดาษคนละราวๆ 60 กิโลกรัมต่อปี รวมทุกปีจะมีขยะจากกระดาษที่หนักเท่ากระดาษ A4 จำนวน 7.8 แสนล้านแผ่น หากวางเรียงกันจะเทียบเท่าเกาะภูเก็ต 90 เกาะเลยทีเดียว ของขวัญปีใหม่ปีนี้จึงควรเปลี่ยนจากกระดาษมาห่อด้วยผ้าที่มีอยู่แล้ว และเปลี่ยนจากโบว์พลาสติกเป็นใบไม้หรือดอกไม้แทน  

ภาพ: Shutterstock

The post POP TIP: ไอเดียห่อของขวัญปีใหม่แบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างขยะเพิ่ม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (20 ธันวาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบมาตรการการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

1. มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น 

1. 1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 30,000 บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
   2. ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 10,000 บาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการ 10 ประการ ดังนี้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.16 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์

2. มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2566 โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี 2566

3. มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสัญญา

4. มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2566 เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

5. มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อเนื่อง ณ สถานประกอบการเดิม ประเภทใบอนุญาตเดิม ที่ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566 เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์โควิด

ส่วนมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ 2566 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ 

1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เช่น โครงการชำระดีมีคืน ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มาตรการส่งเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟู 
2. ธนาคารออมสิน เช่น โครงการวินัยดี มีเงิน 
3. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เช่น ยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs 
4. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (ธพว.) เช่น ผ่อนดีมีคืน (บัตรกำนันสูงสุด 300 บาท) มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน 

รัชดากล่าวด้วยว่า ยังมีมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ 2566 จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง 2 มาตรการ 5 โครงการ ดังนี้ 

1. มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 
2. มาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน / ผู้ค้ำประกัน จากบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บสอ.) 
3. โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 ให้แก่ประชาชน จากกรมธนารักษ์ 
4. โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
5. โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี และมีภูมิคุ้มกัน ไม่ถูกหลอกลวง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)
6. โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
7. โครงการ ‘ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย’ จากการยาสูบแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงของขวัญปีใหม่ 2566 ว่า รัฐบาลก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามศักยภาพที่มีอยู่ ซึ่งต้องเข้าใจด้วยว่ามีการใช้งบประมาณจำนวนมากในการดูแลประชาชนในหลายภาคส่วน สำหรับของขวัญในปีนี้จะให้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ให้ฟังจากคณะโฆษกเป็นผู้แถลง

The post เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ 2566 จากกระทรวงการคลัง ช้อปดีมีคืน ลดภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมโอน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (14 ธันวาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยเป็นอย่างมาก ในช่วงสถานการณ์โควิด ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งทาง กยศ. ได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือ อาทิ การลดเบี้ยปรับ การลดเงินต้น รวมถึงได้ดำเนินการอื่นๆ เช่น ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกัน ชะลอการฟ้องร้องคดี งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและ/หรือผู้ค้ำประกัน 

กยศ. จึงขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้อีก 6 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ออกไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน รวมถึงช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มีทางเลือกในการผ่อนชำระมากขึ้น 

สำหรับมาตรการลดหย่อนหนี้ มีดังนี้ 

1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 

2. ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว 

3. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ หรือไม่ค้างชำระ 

4. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

5. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี 

ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี

The post กยศ. มอบของขวัญปีใหม่ ขยายเวลาลดหย่อนหนี้อีก 6 เดือน ถึง 30 มิ.ย. 66 appeared first on THE STANDARD.