การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 05 Apr 2025 12:01:05 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย! https://thestandard.co/miracle-on-ice-motivation/ Sun, 06 Apr 2025 02:00:56 +0000 https://thestandard.co/?p=1061105 miracle-on-ice-motivation

“พี่โด้ๆ” (มันมาอีกแล้ว) เสียงปลายสายถามขึ้น “พี่รู้จัก […]

The post ‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
miracle-on-ice-motivation

“พี่โด้ๆ” (มันมาอีกแล้ว) เสียงปลายสายถามขึ้น “พี่รู้จัก Miracle on Ice ไหม?”

 

“รู้สิ พี่อยากไปดูทุกปีแหละแต่ไม่เคยได้ไปสักที” ผมยิงมุกกลับหนึ่งช็อตแบบเบาๆ กะว่าแค่พอเข้ากรอบ

 

“ไม่ใช่แล้ว นั่นมัน Disney on Ice” (ใช้ได้ๆ) ผมหมายถึงเรื่องฮอกกี้น้ำแข็งสมัยก่อนที่เคยเอามาทำเป็นหนังน่ะ”

 

ความจริงผมรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงเรื่องนี้ – หนึ่งในเรื่องเล่าคลาสสิกของเกมกีฬาที่เกิดขึ้นจริงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่นิวยอร์ก เมื่อปี 1980 – เรื่องราวของการต่อสู้ของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้

 

เรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจของเรื่องราว “Underdog” ทั้งปวง

 

เรื่องราวของ “Miracle on Ice” นั้นเกิดขึ้นในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เลคพลาซิด (Lake Placid) ในเมืองนิวยอร์ก โดยมีฉากหลังเป็นยุคสมัยของ “สงครามเย็น” (Cold Wars) ที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตช่วงชิงการเป็นผู้นำของโลกมาอย่างยาวนาน

 

การขับเคี่ยวกันระหว่างวอชิงตันกับมอสโกนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เรื่องของสังคม เศรษฐกิจ หรือการทหาร แต่รวมถึงการแข่งขันในสนามกีฬาด้วยแม้ว่าจะเป็นที่รู้กันว่ากีฬาและการเมืองไม่ใช่เรื่องเดียวกันและควรจะแยกจากกันก็ตาม

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

โซเวียตในยุคนั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครในเชิงกีฬา ด้วยการเป็นประเทศหลังม่านเหล็ก นักกีฬาของพวกเขาแข็งแกร่ง ดุดัน ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักหน่วง (และเป็นความได้เปรียบเพราะมีสถานะเป็นเหมือนนักกีฬาอาชีพจนชาติอื่นพยายามร้องเรียนแต่ไม่เป็นผลในเวลานั้น) 

 

ในบางประเภทกีฬานั้นเก่งกาจยากจะหาใครเทียบ ซึ่งฮอกกี้น้ำแข็งก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่ถือว่าโซเวียตเป็นเจ้าของวงการเลยก็ว่าได้

 

พวกเขากวาดแชมป์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 4 สมัยรวดมาก่อนหน้านั้นไม่เคยแพ้ใครในการแข่งโอลิมปิกมาตั้งแต่ปี 1968 ด้วย เรียกว่าเป็นเต็งหนึ่งตัวตึงที่ใครก็เชื่อว่าไม่มีวันหรอกที่จะมีใครมาเอาชนะทีมที่อุดมไปด้วยสุดยอดผู้เล่นที่ถือเป็นระดับตำนานทั้งสิ้น

 

ไม่ว่าจะเป็น บอริส มิไคลอฟ (กัปตัน), วลาดิสลาฟ เตรเตียก, วลาดิเชสลาฟ เฟติซอฟ, วาเลรี คาร์ลามอฟ รวมถึงวลาดิเมียร์ ครูตอฟ และเซอร์เก มาคารอฟ

 

โดยที่ในจำนวนนี้มีถึง 4 คนคือเตรเตียก, คาร์ลามอฟ, มาคารอฟ และเฟติซอฟ ที่ในเวลาต่อมาได้รับการบรรจุเข้าหอเกียรติยศ (Hall of Fame) ถ้าเปรียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นอาจจะเทียบกับทีมชาติบราซิลในชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1970 ที่เต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะระดับโลกทุกตำแหน่งตั้งแต่ผู้รักษาประตู กองหลัง ยันกองหน้า

 

แตกต่างจากทีมฮอกกี้น้ำแข็งสหรัฐอเมริกาอย่างสิ้นเชิง

 

และตรงนี้เองที่ทำให้เรื่องนี้มีความหมาย

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

ทีมฮอกกี้น้ำแข็งของสหรัฐอเมริกาในเวลานั้น อย่าเรียกว่าเป็นทีมระดับท็อปของการแข่งขันเลย พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของใครด้วยซ้ำ

 

เหตุผลสำคัญนั้นเป็นเพราะผู้เล่นในทีมไม่ได้เป็นผู้เล่นในระดับสตาร์อาชีพมาจากไหนเพราะตามกฎของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลจำกัดให้ผู้เล่นที่ลงแข่งขันต้องเป็น “ผู้เล่นสมัครเล่น” (Amateur) เท่านั้น นั่นทำให้ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยกลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งอายุน้อยที่อ่อนประสบการณ์ ทีมชาติสหรัฐฯกลายเป็นทีมที่อายุเฉลี่ยผู้เล่นน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนั้น

 

มองอย่างผิวเผินเหมือนเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผู้เล่นที่ไม่น่าจะเอาไหนเลย มีเพียงแค่ บัซซ์ ชไนเดอร์ เป็นผู้เล่นคนเดียวที่เคยอยู่ในชุดทีมชาติลุยโอลิมปิกในปี 1976

 

แต่ลึกๆ แล้วทีมชุดนี้ไม่ใช่ทีมที่ไม่เอาไหน แต่เป็นทีมที่ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดีจากสายตาของ เฮิร์บ บรูคส์ โค้ชทีมชาติสหรัฐฯในเวลานั้น

 

บรูคส์ เป็นอดีตผู้เล่นระดับท็อปของวงการฮอกกี้น้ำแข็งในสหรัฐอเมริกามาก่อน เคยติดทีมชาติชุดลุยโอลิมปิกฤดูหนาว 1964 ที่เมืองอินส์บรูค ประเทศออสเตรีย และเกรอนอบ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 1968 ก่อนจะหันมาเอาดีทางการเป็นโค้ช มีผลงานที่โดดเด่นในระดับมหาวิทยาลัย พาทีมมินเนโซตา โกลเดน กอฟเฟอร์ คว้าแชมป์ NCAA ได้ถึง 3 สมัย

 

ผลงานครั้งนั้นทำให้เขาได้รับเลือกให้มาคุมทีมชาติสหรัฐฯ เพื่อสู้ศึกโอลิมปิกฤดูหนาว แต่งานของเขาร้อนยิ่งกว่าเผือก

 

เพราะการจะทำทีมเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่ายาก นอกจากคู่แข่งอย่างโซเวียตจะเข้าขั้นกระบี่ไร้เทียมทานแล้ว ตัวผู้เล่นที่สหรัฐฯมีในเวลานั้นฝีไม้ลายมือห่างไกลกันอย่างมากราวกับคนละโลก

 

ดังนั้นบรูคส์จึงต้องพยายามหาหนทางในการจะทำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้เป็นไปได้

 

ทุกสิ่งเริ่มจากการคัดเลือกตัวผู้เล่นที่จัดให้มีการคัดตัวในช่วงฤดูร้อนในปี 1979 ซึ่งคนที่มาทั้งหมดคือนักกีฬาระดับสมัครเล่นจากมหาวิทยาลัยต่างๆ

 

การคัดตัวในครั้งนั้นไม่ได้เป็นการคัดตัวธรรมดาที่ดูทักษะการเล่นหรือความแข็งแรงของร่างกาย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการคัดตัวครั้งนั้นคือเรื่องของการทดสอบสภาพจิตใจ

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

บรูคส์เริ่มจากการสั่งให้ทุกคนตอบคำถามในแบบทดสอบเชิงจิตวิทยาจำนวน 300 ข้อ โดยใครที่ปฏิเสธที่จะทำแบบทดสอบให้ถือว่าตก ทันทีต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่สน

 

เพราะคำถามเชิงจิตวิทยาเหล่านี้จะเป็นการนำทางให้เขาเข้าใจถึงสภาพจิตใจลึกๆ ของผู้เล่นในแต่ละคนว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ความกดดันได้อย่างไร

 

จากจำนวนผู้เล่นที่มาสมัครเข้ารับการคัดตัวหลายร้อยก็เหลือเพียงแค่ 68 คนเท่านั้นที่ได้ไปต่อ ก่อนที่จะคัดกรองอีกจนเหลือแค่ 20 คนที่ได้ลุยโอลิมปิกในเวลาต่อมา

 

โดยที่ทุกคนถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักในการฝึกที่โหดและเข้มงวดอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่หากเล่นกันไม่ได้ความแล้วพวกเขาจะโดนบรูคส์สั่งลงโทษอย่างหนักในการซ้อม เช่น ครั้งหนึ่งในช่วงของการทัวร์แข่งอุ่นเครื่องที่นอร์เวย์ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มแล้วทีมเล่นกันไม่ได้ความ

 

ในขณะที่ผู้เล่นกลับเข้าห้องพัก บรูคส์เดินกราดเข้ามาก่อนสั่งให้ทุกคนกลับไปลงสนามอีกครั้ง เพื่อการซ้อมในแบบที่เรียกว่า “Herbies” หรือการวิ่งสปรินต์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสั่งให้หยุด ซึ่งเหนื่อยและทรมานอย่างมาก

 

การทำแบบนี้เหมือนเป็นการลงโทษที่ไร้เหตุผล แต่ลึกๆ แล้วคือการพยายามทลายขีดจำกัดของผู้เล่นที่มีอยู่ เพื่อไปให้ได้ไกลขึ้นอีกนิด

 

โดยที่โค้ชอย่างเขาเข้าใจดีว่าแต่ละคนมี “ขีดจำกัดของความอดทน” อยู่ที่ตรงไหน

 

บรูคส์ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกระตุ้นจิตใจ (Motivator) ที่รู้วิธีในการเล่นกับจิตใจของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี หนึ่งในทริกที่เขาใช้เสมอคือการเพิ่มความโกรธและเกลียดชังในตัวผู้เล่นที่มีต่อเขาให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ว่ายิ่งโกรธและเกลียดเขาเท่าไรผู้เล่นก็จะหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเอาชนะและพิสูจน์ให้ได้ว่าคนที่ผิดคือโค้ชอย่างเขา

 

ความจริงวิธีการแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากการเดิมพันแบบหมดหน้าตัก

 

ได้ก็รวย ซวยก็เจ๊ง

 

แต่สำหรับนักเดิมพันที่กล้าได้กล้าเสียอย่างบรูคส์ นี่เป็นเกมที่เขาถนัดนัก

 

โดยที่ตอนนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าไอ้เรื่องจิตวิทยาที่เขาเอามาใช้น่ะ…ครูพักลักจำมาทั้งนั้น (อ้าวเฮ้ย!)

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่บรูคส์ถ่ายทอดลงไปให้แก่ทีม โดยเฉพาะเรื่องจิตใจที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งและไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ ได้นำไปสู่หนึ่งในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์กีฬาของชาวสหรัฐอเมริกา

 

ทีมชาติสหรัฐฯ ทำผลงานได้ดีอย่างน่าประหลาดใจในการแข่งขันรอบแรกจนทำให้ได้ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงเหรียญ (Medal round) ซึ่งมีสหรัฐฯ, สวีเดน, ฟินแลนด์ และเต็งจ๋าอย่างสหภาพโซเวียตที่ผ่านเข้ามา

 

โดยที่เกมแรกในรอบชิงเหรียญนั้นพวกเขาต้องเจอกับคู่แค้นอย่างโซเวียตทันที

 

ก่อนเกมนั้นใครก็คิดว่าถึงสหรัฐฯจะทำได้ดีในรอบแรก แต่มาถึงรอบนี้เจอกับโซเวียตซึ่งก่อนหน้าโอลิมปิกไม่กี่สัปดาห์ก็เพิ่งจะแข่งอุ่นเครื่องนัดส่งท้ายกันมาและปรากฏว่าทีมของบรูคส์แพ้ขาดลอยถึง 10-3 ผลมันห่างและไม่น่าจะต่างอะไรจากเกมนั้น

 

แต่ปรากฏว่าทีมรวมดาวรุ่งโนเนมกลับต่อกรกับทีมโคตรเทพได้อย่างสนุกสูสีเหลือเชื่อ!

 

ในพีเรียดแรกของการแข่งขันสหรัฐฯต้านทานโซเวียตได้ที่ 2-2 ซึ่งก็น่าประทับใจแล้วเพราะเป็นฝ่ายที่โดนนำก่อนทั้ง 2 ครั้ง แต่ในพีเรียดที่ 2 โซเวียตมาเร่งฟอร์มทำสกอร์อีก 1 ลูกทำให้ทีมเต็งจากดินแดนหลังม่านเหล็กขึ้นนำ 3-2 และมีโอกาสที่จะเก็บชัยชนะประเดิมในรอบชิงเหรียญได้

 

ถึงตอนนั้นทุกคนคิดว่าคงเป็นเรื่องยากที่สหรัฐฯจะหาทางกลับมาได้

 

แต่บรูคส์และลูกทีมของเขาเชื่ออีกแบบ พวกเขาเชื่อในความสามารถของตัวเอง เชื่อในพลังใจ และเชื่อว่าตราบใดที่ไม่ยอมแพ้ชัยชนะก็อยู่ตรงหน้าเสมอ

 

เหมือนที่บรูคส์บอกกับลูกทีมก่อนลงสนาม

 

“วันนี้เราคือทีมฮอกกี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก พวกนายทุกคนน่ะเกิดมาเพื่อเป็นนักฮอกกี้ การที่พวกนายทุกคนอยู่ที่นี่มันมีความหมาย” 

 

“ฉันเบื่อเหลือเกินเวลาที่มีคนบอกว่าโซเวียตสุดยอดแบบนั้นแบบนี้ เวลาของพวกมันน่ะจบแล้ว ตอนนี้มันถึงเวลาของพวกนายแล้ว”

 

ในพีเรียดที่ 3 ทีมสหรัฐฯ พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ มาร์ค จอห์นสัน ซึ่งเป็นคนทำสกอร์ตีเสมอในพีเรียดแรกจัดการตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จเป็น 3-3 โดยที่ในอีกฟากของสนาม จิม เคร็ก ผู้รักษาประตูเซฟไม่หยุดและไม่ยอมให้โซเวียตทำสกอร์ได้อีก

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

ย้อนกลับไปในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่พบกับโซเวียต วันนั้นหลังเกมจบบรูคส์ได้ตำหนิใส่เคร็กอย่างรุนแรงถึงขั้นบอกว่าเขาไม่น่าเลือกเคร็กลงเล่นในเกมนั้นเลย 

 

แต่ลึกๆ แล้วบรูคส์รู้ว่าประตูของเขาเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อม และตระเวนแข่งยาวนาน เริ่มที่จะสูญเสียประสิทธิภาพในการป้องกันประตูไป เขาจึงเลือกเดิมพันที่จะกระตุ้นเคร็กด้วยคำพูดที่รุนแรงดู 

 

ผลตอบแทนที่ได้คือการที่เคร็กตั้งใจตั้งแต่วันนั้นว่าเขาจะไม่ยอมแพ้อีกแม้แต่เกมเดียว ต่อให้เจอโคตรทีมอย่างโซเวียตอีกทีก็เถอะ

 

เคร็ก กลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของทีม เซฟถึง 36 ครั้งในวันนั้นคิดเฉลี่ยแล้วสูงถึง .923 เปอร์เซ็นต์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในฟอร์มการเซฟประตูที่สุดยอดที่สุดตลอดกาลของวงการฮอกกี้น้ำแข็งเลยทีเดียว

 

การเซฟของเคร็กทำให้ทีมยังรักษาความหวังได้ ก่อนที่พวกเขาจะทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นเมื่อกัปตันทีมอย่าง ไมค์ เอรูเซียน ซึ่งแทบไม่ได้ลองลุ้นทำสกอร์เลยได้รับลูกจากมาร์ค เพฟลิชก่อนที่จะหวดเรียดเต็มแรงด้วยขวา

 

นี่เป็นแค่โอกาสครั้งที่ 2 ของเอรูเซียนในวันนั้น แต่มันกลายเป็นประตูให้สหรัฐฯ พลิกขึ้นนำได้เป็นครั้งแรกในเกม 4-3 และเป็นประตูชัยในเกมนั้น

 

‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย!

 

ทีมสมัครเล่นพิชิตโคตรทีมตลอดกาลของโลกได้ ก่อนจะเอาชนะฟินแลนด์ได้ (โดยไม่ต้องเล่นกับสวีเดนอีกนัดเพราะรวมสกอร์จากรอบแรกมาเลย) คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

 

เกมกับโซเวียตเป็นเกมที่ได้รับการเรียกขานว่า “Miracle on Ice” หรือปาฏิหาริย์บนลานน้ำแข็ง หนึ่งในเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง

 

เพียงแต่จริงๆ แล้วใต้คำว่าปาฏิหาริย์นั้น ไม่มีเรื่องของโชคหรือดวงเกื้อหนุนแต่อย่างใด

 

มันเกิดขึ้นได้เพราะความทุ่มเท วิสัยทัศน์ การเดิมพัน หยาดเหงื่อและหยดน้ำตา และที่สำคัญที่สุดคือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

 

เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกับสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์

 

อ้างอิง:

The post ‘Miracle on Ice’ เพราะหัวใจบอกไปว่าไม่ยอมเว้ย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
IOC คอนเฟิร์มต่อเนื่อง ให้ซอลต์เลกซิตี้จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 2034 https://thestandard.co/ioc-awards-2034-winter-games-salt-lake-city/ Wed, 24 Jul 2024 13:46:45 +0000 https://thestandard.co/?p=962468

ซอลต์เลกซิตี้ได้รับเลือกจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ […]

The post IOC คอนเฟิร์มต่อเนื่อง ให้ซอลต์เลกซิตี้จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 2034 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ซอลต์เลกซิตี้ได้รับเลือกจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC อย่างเป็นทางการ ให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2034 หลังจากลงคะแนนเสียงที่ปารีสในวันนี้ (24 กรกฎาคม)

 

นี่เป็นการจัดโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 2 ของซอลต์เลกซิตี้ หลังจากเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในปี 2002

 

เมืองหลวงของรัฐยูทาห์เป็นเมืองเดียวที่เสนอตัวจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปีดังกล่าว หลังจากที่ภาวะโลกร้อนและต้นทุนการจัดการแข่งขันพุ่งสูงขึ้น ทำให้บรรดาเมืองต่างๆ ตัดสินใจไม่เข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาในครั้งนี้

 

ในการนำเสนอแผนงานครั้งสุดท้ายต่อ IOC เมื่อเช้าที่ผ่านมา ซอลต์เลกซิตี้เสนอแผนการจัดโอลิมปิกที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสถานที่ทั้งหมดอยู่ห่างจากหมู่บ้านนักกีฬาในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยยูทาห์ภายในเวลา 1 ชั่วโมงหากขับรถ

 

นอกจากนี้ แผนดังกล่าวไม่จำเป็นต้องก่อสร้างอาคารถาวรขึ้นมาใหม่ โดยสถานที่ที่ใช้จัดการแข่งขันทั้งหมด 13 แห่ง มีอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพในปี 2002

 

ด้านเมืองซอลต์เลกซิตี้ก็มีแผนจัดงานเฉลิมฉลองความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ในเวลา 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยทางการคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมปาร์ตี้ครั้งนี้จำนวนมาก เนื่องจากตรงกับวันหยุดราชการด้วย

 

ภาพ: Pool / Getty Images

อ้างอิง:

 

The post IOC คอนเฟิร์มต่อเนื่อง ให้ซอลต์เลกซิตี้จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 2034 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ได้รับการเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 https://thestandard.co/ioc-names-french-alps-and-salt-lake-city-as-preferred-hosts/ Thu, 30 Nov 2023 05:43:40 +0000 https://thestandard.co/?p=871779 เทือกเขาแอลป์ โอลิมปิกฤดูหนาว

วันนี้ (30 พฤศจิกายน) BBC สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่ […]

The post เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ได้รับการเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เทือกเขาแอลป์ โอลิมปิกฤดูหนาว

วันนี้ (30 พฤศจิกายน) BBC สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศสได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2030

 

ขณะเดียวกัน ซอลต์เลกซิตี้ในมลรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ก็ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าภาพในปี 2034 เช่นกัน

 

โดยทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC เปิดเผยว่า หลังจากนี้กระบวนการสรรหาเจ้าภาพจะถูกหารือโดยละเอียดกับทั้ง 2 แห่งที่ถูกเสนอชื่อ ก่อนจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายต่อไป

 

ซึ่งทาง IOC เปิดเผยว่า พวกเขาเตรียมจะตัดสินใจเรื่องเจ้าภาพอย่างเป็นทางการสำหรับโอลิมปิกฤดูหนาวทั้ง 2 ครั้ง ในการประชุม IOC ครั้งที่ 142 ที่กรุงปารีส เดือนกรกฎาคมปีหน้า

 

โดยทาง คาร์ล สโตสส์ หัวหน้าคณะกรรมาธิการสรรหาเจ้าภาพในอนาคตของ IOC กล่าวว่า “สิ่งที่โดดเด่นเกี่ยวกับแอลป์ของฝรั่งเศสและซอลต์เลกซิตี้ในยูทาห์ คือวิสัยทัศน์ของพวกเขาเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักกีฬา ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับภูมิภาคและระดับชาติของพวกเขา และยังมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างมากจากทั้งคนในประเทศและรัฐบาลด้วย” 

 

ขณะที่ในโอลิมปิกฤดูหนาว 2038 ก็มีตัวเต็งอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังเข้าสู่ช่วงการเจรจาพิเศษเพื่อรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันครั้งดังกล่าวด้วย

 

ก่อนหน้านี้ IOC เคยกล่าวไว้ว่ามีเพียง 10 ประเทศเท่านั้นที่จะสามารถเป็นเจ้าภาพกีฬาฤดูหนาวได้ภายในปี 2040 เนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

 

อ้างอิง: 

 

The post เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ได้รับการเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปิดฉาก ‘ปักกิ่ง 2022’ พร้อมส่งมอบธงเจ้าภาพให้แก่ ‘มิลาน-คอร์ตินา 2026’ https://thestandard.co/olympic-games-beijing-2022-2/ Mon, 21 Feb 2022 04:38:13 +0000 https://thestandard.co/?p=596611 OLYMPIC GAMES BEIJING 2022

ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก […]

The post ปิดฉาก ‘ปักกิ่ง 2022’ พร้อมส่งมอบธงเจ้าภาพให้แก่ ‘มิลาน-คอร์ตินา 2026’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
OLYMPIC GAMES BEIJING 2022

ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ‘ปักกิ่ง 2022’ หลังทำการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 2,800 คนจาก 91 ชาติ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยชาติที่ได้ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ได้แก่ นอร์เวย์ ซึ่งคว้าไป 16 เหรียญทอง อันดับ 2 คือเยอรมนี ที่ได้ไป 12 เหรียญทอง และเจ้าภาพจีน ได้ครองอันดับที่ 3 ด้วยจำนวน 9 เหรียญทอง

 

ทั้งนี้ แม้จะมีกรณีที่หลายชาติคว่ำบาตรจีนในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน และมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดที่เริ่มระบาดรุนแรงขึ้น จนมีการห้ามไม่ให้แฟนกีฬาจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันภายในประเทศจีน รวมถึงมาตรการต่างๆ แต่สุดท้ายเจ้าภาพจีนก็สามารถจัดการแข่งขันออกมาได้อย่างเรียบร้อย

 

สิ่งที่น่าสนใจคือการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาภายในประเทศจีนอย่างมาก โดยจากตัวเลขที่มีการเปิดเผยกันออกมามีผู้ติดตามการแข่งขันมากถึง 600 ล้านคน หรือกว่า 40% ของจำนวนประชากรประเทศจีน ขณะที่สินค้าของตัวนำโชคอย่าง Bing Dwen Dwen เจ้าแพนด้าอ้วนกลมสุดน่ารักนั้นกลายเป็นสินค้าขายดีที่แฟนๆ ต่อคิวเพื่อเข้าซื้อมาเก็บสะสมเป็นที่ระลึกกันจนขาดตลาด และมีการขายในตลาดรีเซลด้วยสนนราคาที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า

 

ประเทศจีนยังได้ค้นพบซูเปอร์สตาร์คนใหม่อย่าง กู่อ้ายหลิง นักกีฬาสกีฟรีสไตล์ซึ่งเป็นลูกครึ่งจีน-อเมริกัน ที่เลือกสละสัญชาติสหรัฐอเมริกาเพื่อมาเล่นให้ทีมชาติจีนในการแข่งขันครั้งนี้ และสามารถคว้าได้ถึง 2 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญเงิน นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาที่แจ้งเกิดจากการแข่งขันครั้งนี้อีกหลายคน รวมถึง นาธาน เฉิน นักฟิกเกอร์สเกตทีมชาติสหรัฐฯ เจ้าของเหรียญทองฟิกเกอร์สเกต ประเภทบุคคลชาย ที่ล้ม ฮานิว ยูซุรุ เจ้าของเหรียญทอง 2 สมัยได้สำเร็จ 

 

แต่ก็มีกรณีอื้อฉาวของ คามิลา วาลิเอวา นักฟิกเกอร์สเกตหญิงทีม ROC ที่ถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้นในช่วงก่อนแข่งโอลิมปิก ซึ่งถึงสุดท้ายยังได้ลงแข่งขัน แต่ได้เพียงอันดับ 4 เท่านั้น รวมถึง จู่อี้ นักกีฬาฟิกเกอร์สเกตทีมชาติจีนที่โอนสัญชาติมาจากสหรัฐฯ เช่นกัน แต่ทำผลงานน่าผิดหวังจนถูกแฟนกีฬาถล่มในโซเชียลมีเดียอย่างเลวร้าย ขณะที่อีกหนึ่งตำนานอย่าง มิคาลา ชิฟฟริน นักสกีที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลก ปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้อย่างเลวร้ายเมื่อแข่งไม่จบ 3 จาก 5 รายการ

 

หลังเรื่องราวทั้งหมดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 กุมภาพันธ์) ได้มีพิธีปิดการแข่งขันที่สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง หรือ ‘สนามรังนก’ โดยมีการแสดงอย่างเรียบง่ายและงดงามเหมือนเดิม พร้อมพิธีสำคัญในการส่งมอบธงเจ้าภาพโอลิมปิกให้แก่เมืองมิลาน-คอร์ตินา ประเทศอิตาลี ที่จะจัดการแข่งขันในปี 2026 ต่อไป

 

OLYMPIC GAMES BEIJING 2022

The post ปิดฉาก ‘ปักกิ่ง 2022’ พร้อมส่งมอบธงเจ้าภาพให้แก่ ‘มิลาน-คอร์ตินา 2026’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
วาลิเอวาผิดฟอร์ม ได้แค่ที่ 4 ฟิกเกอร์สเกต แต่อีก 2 สาว ROC คว้าเหรียญทอง-เงิน IOC ยืนยันมีพิธีมอบเหรียญโอลิมปิก https://thestandard.co/kamila-valieva-olympic-games-beijing-2022/ Fri, 18 Feb 2022 04:16:39 +0000 https://thestandard.co/?p=595792 kamila-valieva

คามิลา วาลิเอวา ตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันฟิ […]

The post วาลิเอวาผิดฟอร์ม ได้แค่ที่ 4 ฟิกเกอร์สเกต แต่อีก 2 สาว ROC คว้าเหรียญทอง-เงิน IOC ยืนยันมีพิธีมอบเหรียญโอลิมปิก appeared first on THE STANDARD.

]]>
kamila-valieva

คามิลา วาลิเอวา ตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันฟิกเกอร์สเกตบุคคลหญิง ทีมคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (ROC) เกิดผิดฟอร์มอย่างหนักในการแข่งขันรอบฟรีสเกต ทำคะแนนรวมได้แค่ 224.09 จบที่ 4 ไม่ได้แม้แต่เหรียญทองแดง ขณะที่เหรียญทองและเหรียญเงินเป็นของ 2 นักกีฬาร่วมชาติ ซึ่งเมื่อจบแบบนี้ทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ยืนยันว่าจะมีพิธีมอบเหรียญรางวัลแน่นอน

 

หลังจากที่เป็นประเด็นอื้อฉาวมาเกือบ 2 สัปดาห์ ในที่สุดการแข่งขันฟิกเกอร์สเกตบุคคลหญิงก็มาถึงฉากสุดท้าย โดยในการแข่งขันเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 กุมภาพันธ์) นักกีฬาที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือวาลิเอวา สาววัย 15 ปี ที่ถูกตรวจพบว่าใช้สารต้องห้ามในการแข่งขันเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในประเทศบ้านเกิด แต่ทางด้านอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) อนุญาตให้ทำการลงแข่งได้ ขณะที่ทางด้าน IOC ประกาศว่าจะไม่มีพิธีมอบเหรียญรางวัลให้หากวาลิเอวาได้อันดับ 1-3

 

ปรากฏว่าในการแข่งขันรอบฟรีสเกต วาลิเอวาซึ่งทำคะแนนได้ดีที่สุดในรอบ Short Program ลงแข่งเป็นคนสุดท้ายเกิดผิดพลาดในการกระโดดหลายครั้งจนทำให้ได้คะแนนรวมสองโปรแกรมเพียงแค่ 224.09 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวผิดหวังอย่างมากถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นหลังจบการแข่งขัน แม้ว่าจะได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากผู้ชมและเพื่อนนักกีฬาในสนามก็ตาม

 

สำหรับคนที่ได้รับเหรียญทอง ได้แก่ แอนนา เชอร์บาโควา นักกีฬาจากทีม ROC เช่นเดียวกัน ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์โลกมาก่อน และสามารถแสดงผลงานได้อย่างสวยงามลื่นไหลไร้ข้อผิดพลาด ทำคะแนนรวมสองโปรแกรมได้ถึง 255.95 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นนักกีฬาจาก ROC เช่นกันคือ อเล็กซานดรา รุโซวา ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ คาโอริ ซากาโมโตะ จากทีมชาติญี่ปุ่น

 

โดยหลังจบการแข่งขันแม้ว่าเดิม IOC จะยืนยันว่าหากวาลิเอวาได้อันดับ 1-3 จะไม่มีพิธีการมอบเหรียญหรือมอบดอกไม้ แต่เมื่อผลการแข่งขันออกมาเช่นนี้ และทางด้านรุโซวาได้ยืนกรานที่จะขึ้นโพเดียม ทำให้สุดท้ายแล้วทางด้านฝ่ายจัดการแข่งขันได้ทำพิธีมอบดอกไม้ให้แก่ผู้ชนะทั้ง 3 คน ส่วนพิธีการมอบเหรียญรางวัลจะมีขึ้นในวันนี้เวลา 19.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

เด็กหญิงผู้อยู่ ณ ใจกลางพายุ

สำหรับกรณีปัญหาของวาลิเอวา เริ่มขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อไม่มีการทำพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในการแข่งขันฟิกเกอร์สเกต ประเภททีม ซึ่งทีม ROC ได้เหรียญทอง โดยมีกระแสข่าวว่ามีหนึ่งในนักกีฬารัสเซียที่ถูกพบว่ากระทำผิดโดยการใช้สารกระตุ้น 

 

ก่อนที่จะมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่านักกีฬาคนที่กระทำผิดคือวาลิเอวา สาวน้อยมหัศจรรย์วัย 15 ปีที่ทำผลงานโดดเด่นและมีส่วนช่วยให้ทีม ROC คว้าเหรียญทอง โดยยังเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ทำท่ากระโดดหมุนตัว 4 รอบ (Quad) ได้ในการแข่งขันโอลิมปิกด้วย 

 

สำหรับการกระทำผิดของวาลิเอวาไม่ได้เกิดขึ้นในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ แต่เป็นการตรวจพบจากการแข่งขันภายในประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีการใช้สาร Trimetazidine ซึ่งเป็นตัวยาที่ใช้สำหรับการกระตุ้นการทำงานของหัวใจที่ถูกบรรจุในรายชื่อสารต้องห้ามของนักกีฬา เนื่องจากมีผลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงแข่งขันได้ และยังมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าพบสารอีก 2 ชนิดที่เกี่ยวกับหัวใจ แต่อยู่ในบัญชีที่ใช้ได้จึงไม่ถือเป็นความผิดส่วนนี้

 

ภายหลังจากมีการเปิดเผยชื่อว่าเป็นวาลิเอวา ได้เกิดกรณีพิพาทขึ้นเมื่อทางด้าน RUSADA องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของรัสเซีย ได้ยกเลิกการแบนนักกีฬาสาวน้อยที่เป็นความหวังของชาติลงแข่งขันตามคำร้องของนักกีฬาที่ขออุทธรณ์ ขณะที่ทาง IOC ได้คัดค้านและทำให้เรื่องต้องถึงอนุญาโตตุลาการกีฬาพิจารณา ซึ่งผลปรากฏว่า CAS ยืนกรานที่จะให้นักกีฬาลงแข่งขันได้ตามเดิม เนื่องจากวาลิเอวาอายุยังไม่ครบ 16 ปี ทำให้เป็นบุคคลที่ได้รับการปกป้องตามกฎเกี่ยวกับการใช้สารกระตุ้น

 

โดย IOC ได้เปิดเผยถึงคำโต้แย้งและคำชี้แจงของวาลิเอวาในเวลาต่อมาว่าสารที่พบนั้นมาจากการผิดพลาดไปดื่มเครื่องดื่มที่คุณตาดื่มเข้า แต่การที่ CAS และ IOC อนุญาตให้ลงแข่งขันได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับ ‘บรรทัดฐาน’ ของการตัดสิน โดยมีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินดังกล่าวและไม่คิดว่าจะเป็นการยุติธรรมสำหรับนักกีฬาคนอื่นที่พยายามแข่งขันด้วยความบริสุทธิ์ และยังมีผลกระทบต่อนักกีฬาที่จะไม่ได้ขึ้นรับเหรียญรางวัลด้วยเพียงหากวาลิเอวาได้รับเหรียญรางวัล

 

แรงกดดันดังกล่าวทำให้วาลิเอวาหลั่งน้ำตาหลังจบการแข่งขันในรอบ Short Program เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะลงทำการแข่งขันในรอบฟรีสเกตที่แม้จะเป็นเต็งหนึ่งของการแข่งขันแต่สังเกตได้ว่าอยู่ใต้แรงกดดันมหาศาลจนแสดงผิดพลาดหลายครั้ง และสุดท้ายปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิกที่เหมือนฝันร้ายด้วยการได้ที่ 4 ในประเภทบุคคลหญิง

 

‘อย่าเพิ่งถอดใจ’ คำปลอบโยนจากตำนานถึงเด็กสาว

หนึ่งในสิ่งที่คนในวงการกีฬากังวลใจคือเรื่องสภาพจิตใจของวาลิเอวาที่อายุเพียงแค่ 15 ปี แต่ไม่เพียงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถูกตรวจพบสารกระตุ้นซึ่งถือเป็นการกระทำผิดที่จะต้องต่อสู้กันต่อไป ยังต้องตกเป็นจำเลยสังคมในโลกกีฬาด้วยเกี่ยวกับการที่ CAS อนุญาตให้ลงแข่งขันได้

 

หนึ่งในคนที่รีบออกมาให้กำลังใจแก่วาลิเอวาคือ เยฟเกเนีย เมดเวเดวา อดีตตำนานฟิกเกอร์สเกตทีมชาติรัสเซียที่เขียนข้อความส่งถึงเด็กสาววัย 15 ปี หลังจบการแข่งขันที่เลวร้าย

 

“ฉันดีใจที่การแข่งที่เหมือนนรกนี้จบลงแล้วสำหรับเธอ” เมดเวเดวาเขียนข้อความบน Instagram ถึงวาลิเอวา “ฉันรักและชื่นชมเธอและฉันก็ดีใจที่หลังจากนี้เธอจะได้พักเสียที ฉันหวังว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตและหายใจอย่างสงบได้อีกครั้ง”

 

ก่อนที่เมดเวเดวาจะส่งข้อความที่ 2 ในอีกโพสต์โดยมีใจความสำคัญว่าว่า “คามิลา ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร เธออาจจะคิดว่าทุกอย่างมันจบแล้วแต่มันยังไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันหวังว่าเธอจะยังเล่นกีฬานี้ต่อไป” พร้อมปลอบโยนด้วยการแนะนำว่าเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น และอยากให้ลบ Instagram ไปก่อนแล้วไปใช้เวลากับคนที่เธอรักในช่วงนี้

 

ขณะที่ทางด้าน โพลีนา เอ็ดมันด์ส ตำนานฟิกเกอร์สเกตทีมชาติสหรัฐอเมริกา ได้ให้กำลังใจวาลิเวอาเช่นกันผ่าน Twitter “นี่คือประสบการณ์โอลิมปิกที่เลวร้ายมากๆ ของ คามิลา วาลิเอวา เธอไม่ควรได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันเลย มันน่าเศร้ามากที่เธอถูกจับให้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม”

 

อ้างอิง:

The post วาลิเอวาผิดฟอร์ม ได้แค่ที่ 4 ฟิกเกอร์สเกต แต่อีก 2 สาว ROC คว้าเหรียญทอง-เงิน IOC ยืนยันมีพิธีมอบเหรียญโอลิมปิก appeared first on THE STANDARD.

]]>
นาธาน เฉิน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เปิดใจกับ THE STANDARD ถึงความเคารพที่เขามีให้ ฮานิว ยูซุรุ และเป้าหมายในอนาคตหลังจากนี้ https://thestandard.co/nathan-chen-olympic-games-beijing-2022/ Fri, 18 Feb 2022 01:20:06 +0000 https://thestandard.co/?p=595732 Nathan Chen

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ THE STANDARD ได้รับโอกาสพิเศษจากทา […]

The post นาธาน เฉิน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เปิดใจกับ THE STANDARD ถึงความเคารพที่เขามีให้ ฮานิว ยูซุรุ และเป้าหมายในอนาคตหลังจากนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Nathan Chen

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ THE STANDARD ได้รับโอกาสพิเศษจากทาง OMEGA ผู้สนับสนุนหลักของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ปักกิ่ง เป็นตัวแทนสื่อจากประเทศไทย พูดคุยกับ นาธาน เฉิน นักกีฬาสเกตลีลา เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมสเกตลีลาคนล่าสุด

 

โดยเราได้สอบถามถึงผลงานที่นาธานผิดหวังในโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 2018 ที่พยองชาง เกาหลีใต้ เมื่อเขาพลาดในการแข่งขัน Short Program จบในอันดับที่ 17 และพลาดเหรียญรางวัลประเภทสเกตลีลาในปีนั้น และการกลับมาทำสถิติโลกที่ 113.97 คะแนน ใน Short Program ทำลายสถิติเดิมของ ฮานิว ยูซุรุ ที่ 111.82 คะแนน ต่อด้วยการคว้าเหรียญทองได้ในโอลิมปิกครั้งนี้ที่ปักกิ่ง 2022 

 

รวมถึงการลงแข่งขันกับ ฮานิว ยูซุรุ อดีตเจ้าของเหรียญทอง 2 สมัยที่แล้วจากญี่ปุ่น ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นคู่ปรับในสังเวียนสเกตลีลาในยุคปัจจุบัน 

 

จนถึงหัวใจสำคัญของการใช้โค้ชจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการปรับสภาพจิตใจให้พร้อมรับมือกับสภาวะที่กดดันของการแข่งขันระดับสูง 

 

และท้ายที่สุดคือเป้าหมายในอนาคตที่เขากำลังจะกลับไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเยล หลังจบภารกิจโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ 

 

Nathan Chen

 

ผลงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ พยองชาง 2018 vs. ปักกิ่ง 2022 

“พยองชางเป็นประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับผม เป็นโอลิมปิกสมัยแรก เป็นรายการระดับเมเจอร์ที่ 3 หรือ 4 เพราะทุกอย่างก่อนหน้านั้นจะเป็นการแข่งขันระดับจูเนียร์ 

 

“ครั้งนั้นนับเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผมมากในการรับมือกับโอลิมปิกเกม ผมเข้าไปร่วมการแข่งขันแบบยังไม่พร้อม และผมคิดว่าผลงานในการแข่งขันครั้งนั้นก็แสดงออกมาให้เห็นเช่นเดียวกัน 

 

“ผมคิดว่าการที่ได้มีโอกาสเรียนรู้จากความผิดพลาด ทำให้ผมเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน 4 ปีต่อมา ทำให้ได้เข้าใจวิธีการเรียนรู้และแก้ไขข้อผิดพลาด และพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

“ระหว่าง 4 ปีนั้นการฝึกซ้อมไม่ได้แตกต่างกันมาก เว้นแต่ว่าผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเป็นเวลา 2 ปี ระหว่างนั้นผมได้โฟกัสกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่สเกตลีลา 

 

“หลังจากนั้นผมก็ได้มาที่ปักกิ่งพร้อมกับประสบการณ์ที่ดีขึ้น มีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการแข่งขัน แม้ว่ารายการนี้จะเป็นรายการที่สำคัญมากๆ เป็นรายการที่ผมรู้จักตั้งแต่เด็ก ผมรู้ดีว่าโอลิมปิกยิ่งใหญ่ขนาดไหน และการได้มีประสบการณ์จากปี 2018

 

“ผมรู้ทันทีหลังจากลงสนามว่าการแข่งขันโอลิมปิกก็เหมือนกับทุกรายการที่เราลงแข่งขัน ไม่มีอะไรแตกต่าง ทั้งโปรแกรมแข่งขันจนถึงคู่แข่งต่างๆ และสนามการเดินทางต่างๆ เหมือนกับการแข่งขันรายการอื่นๆ ในอดีต 

 

“การที่เราได้มองเห็นจุดนี้และพยายามสนุกไปกับการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ทำครั้งที่แล้ว แต่เริ่มทำในครั้งนี้ และการได้มาอยู่ที่นี่ในจุดนี้เป็นสิ่งที่พิเศษมาก” 

 

Nathan Chen

 

ความสัมพันธ์กับ ฮานิว ยูซุรุ ที่หลายคนมองว่าเป็นคู่ปรับในสังเวียน 

“การได้ลงเล่นกับยูซุรุนับเป็นเกียรติสำหรับผมมาก หลายปีที่ผ่านมาที่ผมได้มีโอกาสลงแข่งขัน ผมเติบโตมากับการดูเขาแข่งขันตั้งแต่ระดับจูเนียร์ ตอนที่ผมยังไม่เริ่มต้นแข่งขัน ผมเห็นความสามารถของเขาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

“เขาเติบโตขึ้นไปเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันอย่างรวดเร็วตั้งแต่โอลิมปิกสมัยแรก ผมจำได้ว่าผมเห็นเขาตั้งแต่ตอนนั้นและได้รับแรงบันดาลใจเป็นอย่างมาก 

 

“หลายปีต่อมา เมื่อผมได้เริ่มต้นแข่งขันในระดับจูเนียร์ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขาบนผืนน้ำแข็ง ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาความรู้สึกนี้ก็ไม่เคยหายไปไหน เพราะผมได้แรงบันดาลใจในการชมเขาลงแข่งขัน

 

“เขาได้เริ่มต้นเทรนด์ใหม่ๆ เขาอาจจะเป็นนักสเกตที่ดีที่สุดที่เคยมีมา ดังนั้นจึงเป็นเกียรติมากที่ได้แข่งขันกับเขาและสเกตในช่วงเวลาเดียวกับเขา 

 

“ผมคิดว่าสิ่งที่พิเศษสำหรับกีฬาสเกตลีลาคือ แม้ว่าเราจะแข่งขันกันอย่างดุเดือดบนผืนน้ำแข็ง แต่ตอนที่เราลงแข่งขันเราอยู่ตัวคนเดียว ดังนั้นเราไม่ได้แข่งขันโดยตรงกับนักกีฬาคนอื่นๆ คุณอยู่ตรงนั้นเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด มีผืนน้ำแข็งทั้งหมดให้กับตัวเอง 

 

“นั่นทำให้เราแข่งขันกันได้บนผืนน้ำแข็ง แต่เมื่อเราก้าวออกจากสังเวียน เราไม่ได้ต่อสู้กับใครอีกต่อไป ไม่ใช่คู่แข่ง แต่คือคนทั่วไป นักกีฬาร่วมอาชีพ ผมคิดว่าเราแบ่งปันความเคารพร่วมกัน ทำงานด้วยกัน เพื่อช่วยให้ทุกคนกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่พิเศษมากสำหรับกีฬาชนิดนี้ ซึ่งผมค้นพบว่าสิ่งเหล่านี้คือความจริงทั้งหมดตลอดช่วงเวลาที่ผมเล่นกีฬาชนิดนี้ และผมก็มีความเคารพเป็นอย่างมากให้กับยูซูรุ”

 

Nathan Chen

 

การใช้โค้ชจิตวิทยาในการแข่งขันกีฬา

“สุขภาพจิตใจที่ดีคือสิ่งสำคัญต่อชีวิตไม่ใช่เพียงกีฬา แต่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางสู่เป้าหมายที่คุณต้องการสำหรับตัวเอง ระหว่างการเดินทางคุณจะเข้าใจว่าสุขภาพจิตใจสำคัญพอๆ กับสุขภาพร่างกาย

 

“ผมคิดว่าการทำงานกับโค้ชจิตวิทยาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีความแตกต่างกับการทำงานกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพราะการทำงานกับนักจิตวิทยากับการทำงานกับโค้ชจิตวิทยามีความแตกต่างกัน 

 

“โค้ชจิตวิทยาจะดูแลเรื่องการพัฒนาจิตใจระหว่างการแข่งขันให้คุณอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นศาสตร์ระหว่างจิตวิทยากับการบำบัด 

 

“นี่เป็นสิ่งที่เหมือนกับการฝึกซ้อมร่างกาย ผมไปยิมเพื่อฟิตซ้อม และไปทำงานฝึกซ้อมสภาพจิตใจกับโค้ชต่อ 

 

“เทคนิคต่างๆ จะเป็นเรื่องเบสิก เช่น การฝึกหายใจ การฝึกด้วยภาพจินตนาการ การปรับวิธีคิด ซึ่งมีผลอย่างมากต่อเวลาลงแข่งขัน ผมคิดว่าผมโชคดีมากที่มีโอกาสทำงานกับโค้ชจิตวิทยาของผม การได้สื่อสารกับพวกเขาระหว่างแข่งขัน การได้เทคนิคการเตรียมความพร้อมสภาพจิตใจสำหรับการแข่งขัน 

 

“ผมคิดว่าทีมงานผมทุกคนมีส่วนสำคัญหมด ทั้งบนผืนน้ำแข็งและนอกสนาม ทั้งการเตรียมพร้อมร่างกายและการเตรียมพร้อมจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน” 

 

Nathan Chen

 

การบริหารเวลาระหว่างเรียนกับกีฬา 

“เวลาส่วนใหญ่ของผมหมดไปกับการฝึกซ้อมสเกต และหลังจากนี้ผมก็ต้องปรับตัวกลับไปสู่โหมดวิชาการในช่วงที่กลับไปเรียน แน่นอน เป็นหลายอย่างที่ต้องทำ

 

“แต่สิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญไม่แพ้กันคือการมีเวลาให้ตัวเอง ให้กับสิ่งที่คุณชื่นชอบนอกเหนือจากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง นักกีฬาบางครั้งก็มีโหมดที่ทำงานตลอดเวลา แต่เพื่อให้เรามีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการแข่งขัน และสำหรับสิ่งที่สำคัญหลายๆ อย่างในชีวิต

 

“เราต้องสามารถกลับเข้าสู่โหมดของการแข่งขัน พร้อมกับมุมมองใหม่ๆ ซึ่งบางครั้งมักเกิดจากการใช้เวลาห่างจากงานประจำ แต่ไปทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบบ้าง การใช้เวลากับเพื่อนกับครอบครัว เล่นกีตาร์ ผมก็เป็นคนที่ชื่นชอบนาฬิกามาก ผมก็มักจะดูวิดีโอรีวิวนาฬิกาบ่อยๆ ใน YouTube ตลอด

 

“ผมเลยคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะใช้เวลากับงานอดิเรกและสิ่งที่คุณชื่นชอบที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับงาน”

 

Nathan Chen

 

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต? 

“ผมไม่คิดว่าชีวิตผมมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ผ่านมาเป็นการเดินทางที่ยาวไกล แต่ไม่มีเหตุการณ์ใดที่เฉพาะเจาะจงจนเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของผม 

 

“ตั้งแต่ผมเริ่มต้นสเกตมา ผมได้รับการช่วยเหลือจากผู้คนที่หลากหลาย ทั้งในโลกสเกตและนอกวงการ ตั้งแต่การได้ชุดแข่งวันแรกและหาสนามฝึกซ้อมที่ผมสามารถใช้งานได้ 

 

“การได้รับแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ตลอดช่วงเวลาที่ผมเป็นเด็ก และการได้โค้ชหลายคนที่ให้ข้อมูลผมตลอดเส้นทางที่ผมต้องการจะไป และสร้างฐานที่แข็งแรงให้กับผม เสริมสร้างเบสิก เทคนิค และรูปแบบของผม 

 

“ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญ ผมจึงไม่มีก้าวใหญ่ที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนักกีฬา เพราะทั้งหมดเกิดขึ้นจากความช่วยเหลือที่ผมได้รับตลอดอาชีพ 

 

“ช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ ช่วงเวลาที่บาดเจ็บต่างก็เป็นบทเรียนสำคัญ สิ่งที่ผมทำตลอดการเดินทางไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ต่างสอนผมได้เยอะ และช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ ดังนั้นผมจึงมีความรู้สึกขอบคุณทุกการสนับสนุนที่ได้รับ และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทางของการเป็นนักกีฬาสเกตลีลา” 

 

Nathan Chen

 

เป้าหมายใหญ่ต่อจากนี้? 

“เป้าหมายใหญ่ของผมตลอดมาคือการมาที่โอลิมปิกและคว้าเหรียญทอง ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้ผมคงยังไม่มีเป้าหมายใหญ่ แต่คงต้องมองหนทางต่อจากนี้ไปก่อน 

 

“การมีเป้าหมายใหญ่เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นเป้าหมายของผมต่อจากนี้คือการจบจากมหาวิทยาลัย และเมื่อชีวิตเราผ่านพ้นไป เป้าหมายใหม่ๆ ก็จะมีขึ้นมา และเมื่อเวลานั้นมาถึงผมก็จะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมายต่อไป

 

“ตอนนี้ผมยังพยายามดูหลายๆ หนทางต่อจากนี้ พูดคุยกับหลายๆ คน ก้าวต่อไปสำหรับผมตอนนี้คงเป็นการเรียน และสเกตผมก็ยังเดินหน้าต่อไป สำหรับการแข่งขันผมคงต้องใช้เวลาคิดต่อจากนี้ 

 

“การเป็นนักกีฬาคุณต้องหาสิ่งที่ผลักดันตัวคุณไปข้างหน้า ผมต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมต่อเนื่อง เพราะระหว่างไปแข่งขันที่โอลิมปิกหรือรายการอื่น เราไม่ได้เตรียมพร้อม

 

“คนเห็นนักกีฬาเฉพาะช่วงเวลาที่พวกเขาลงแข่งขัน แต่มีการลงทุนกับเวลาทั้งที่บ้านและการฝึกซ้อมที่คนไม่ได้เห็น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำผลงานได้ดีในระหว่างการแข่งขัน 

 

“ตอนนี้ผมต้องมีเวลาตั้งเป้าหมายใหม่ให้กับตัวเองและทำงานหนักเพื่อเป้าหมาย แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีแรงผลักดันตัวเองอย่างต่อเนื่องระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ

 

“การเรียนผมยังคงจะเรียนสาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มหาวิทยาลัยเยลต่อไป” 

 

Nathan Chen

 

สิ่งที่คุณรักเกี่ยวกับสเกตลีลา และอนาคตของกีฬาชนิดนี้? 

“สำหรับผมสิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับสเกตลีลามีหลายอย่างมาก เหมือนกับที่ผมตอบก่อนหน้านี้ว่าแรงผลักดันไม่จำเป็นต้องมาจากความกระหายชัยชนะเพียงเท่านั้น แต่มันสามารถมาจากความรักที่มีต่อกีฬาชนิดนี้ 

 

“ผมมีความสุขที่ได้ใช้เวลาฝึกซ้อม พยายามทำทักษะใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ๆ ไปถึงระดับถัดไปว่าเราจะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งทำให้เราสนุกไปกับกีฬามากขึ้น

 

“สเกตลีลาเป็นกีฬาที่เราสามารถพัฒนาได้ทั้งด้านร่างกายและศิลปะไปพร้อมๆ กัน ทำให้คุณมีความผูกพันทางอารมณ์กับกีฬามากขึ้นไปอีก และการที่เราสามารถมีสติบนพื้นผิวน้ำแข็งและมีความสนุกไปกับมัน 

 

“แน่นอนสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราค้นพบว่าสนุกมากในฐานะนักกีฬาสเกตลีลา 

 

“แน่นอนกีฬากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องกับท่าต่างๆ ที่เราพยายามทำในระหว่างการแข่งขัน 

 

“เรามีนักกีฬาหลายคนที่สามารถสร้างลีลาที่งดงามบนสเกตน้ำแข็ง ด้วยทักษะและความสามารถที่แข่งขันได้ในระดับสูง เพื่อนร่วมทีมผมอย่าง เจสัน บราวน์ ที่สร้างผลกระทบให้กับการแข่งขันสเกตลีลาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

“ด้วยการเป็นตัวของเขาเองและสร้างสรรค์สเกตลีลาที่งดงามบนผิวน้ำแข็ง ที่สามารถบ่งบอกเรื่องราวและตัวตนของเขาได้

 

“อนาคตของกีฬาก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงนักกีฬาเท่านั้น แต่เรามีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้จากการประชุมร่วมกันในระดับต่างๆ ในอนาคต ซึ่งผมรู้สึกตื่นเต้นมากกับการรอคอยที่จะเห็นอนาคตของกีฬาชนิดนี้ และผมรู้ว่านักกีฬาหลายคนปรับตัวได้ และเรามีนักกีฬาที่มีความสามารถหลายคนที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบในเวลานี้”

 

The post นาธาน เฉิน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เปิดใจกับ THE STANDARD ถึงความเคารพที่เขามีให้ ฮานิว ยูซุรุ และเป้าหมายในอนาคตหลังจากนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นักสกีรัสเซียเข้าสวมกอดนักสกียูเครนในโอลิมปิกฤดูหนาว ท่ามกลางความตึงเครียดที่ชายแดนของสองประเทศ https://thestandard.co/russian-skiers-embrace-ukrainian-skiers-at-olympic-games-beijing-2022/ Thu, 17 Feb 2022 04:51:05 +0000 https://thestandard.co/?p=595310 อิเลีย บูรอฟ และโอเลกซานเดอร์ อบราเมนโก

อิเลีย บูรอฟ นักกีฬาสกีจากรัสเซีย เข้าสวมกอด โอเลกซานเด […]

The post นักสกีรัสเซียเข้าสวมกอดนักสกียูเครนในโอลิมปิกฤดูหนาว ท่ามกลางความตึงเครียดที่ชายแดนของสองประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อิเลีย บูรอฟ และโอเลกซานเดอร์ อบราเมนโก

อิเลีย บูรอฟ นักกีฬาสกีจากรัสเซีย เข้าสวมกอด โอเลกซานเดอร์ อบราเมนโก นักกีฬาสกีจากยูเครน ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 หลังจากที่ทั้งคู่คว้าเหรียญรางวัลได้จากการแข่งขันสกี Aerials เมื่อวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

 

โดยการฉลองความสำเร็จของอบราเมนโกที่คว้าเหรียญเงินแรกให้กับยูเครน และบูรอฟที่คว้าเหรียญทองแดงให้กับรัสเซีย หรือทีมคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (ROC) เกิดขึ้นในช่วงเวลาความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ เมื่อรัสเซียมีทหารประจำการอยู่มากกว่า 150,000 นายใกล้กับชายแดนของยูเครน ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่าจะมีการรุกรานจากทหารรัสเซียเข้ามายังยูเครน 

 

ก่อนหน้านี้ วลาดิสลาฟ เฮเรสเควิช นักกีฬาสเกเลตัน เพื่อนร่วมทีมของอบราเมนโก ได้ชูป้าย ‘ไม่มีสงครามในยูเครน’ หลังจากจบการแข่งขันสเกเลตัน ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์กับทาง AP ว่า

 

“นี่คือจุดยืนของผม เหมือนกับคนปกติทุกคน ผมไม่ต้องการสงคราม ผมอยากได้สันติภาพในประเทศและสันติภาพบนโลก นี่เป็นจุดยืนที่ผมพร้อมจะต่อสู้เพื่อมัน ต่อสู้เพื่อสันติภาพ” 

 

แม้ว่ารายงานจากหลายแห่งระบุว่า รัสเซียจะทยอยถอนกำลังออกจากพื้นที่ชายแดน และกลับไปประจำการยังค่ายทหารตามจุดต่างๆ แล้ว ชาติตะวันตกอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ยังคงมีความกังวลว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อาจเดินหน้าบุกยูเครนได้ทุกเมื่อ 

 

อ้างอิง: 

The post นักสกีรัสเซียเข้าสวมกอดนักสกียูเครนในโอลิมปิกฤดูหนาว ท่ามกลางความตึงเครียดที่ชายแดนของสองประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้! เมื่อต้นทุนการจัดโอลิมปิกฤดูหนาว ‘ปักกิ่ง 2022’ อาจสูงกว่าที่จีนบอกไว้ถึง 10 เท่า ทะลุ 1.24 ล้านล้านบาท https://thestandard.co/olympic-games-beijing-2022/ Thu, 17 Feb 2022 02:01:39 +0000 https://thestandard.co/?p=595197 Olympic Games Beijing 2022

ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันโอลิมปิก มีหรือที่ชาติเจ้าภาพจะไม่ […]

The post เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้! เมื่อต้นทุนการจัดโอลิมปิกฤดูหนาว ‘ปักกิ่ง 2022’ อาจสูงกว่าที่จีนบอกไว้ถึง 10 เท่า ทะลุ 1.24 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Olympic Games Beijing 2022

ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันโอลิมปิก มีหรือที่ชาติเจ้าภาพจะไม่ยอมทุ่มทุนสร้างเพื่อเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างให้สมกับการเป็นมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ เพราะนอกจากจะเป็นงานระดับโลกที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศแล้ว โอลิมปิกยังเคยถูกมองว่าเป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาประเทศเจ้าภาพได้ด้วย

 

เพียงแต่ค่านิยมดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนไป หลังเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในหลายครั้งหลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการลงทุน ทั้งด้านของสนามการแข่งขัน หมู่บ้านนักกีฬา ไปจนถึงสาธารณูปโภคต่างๆ ที่หลังจบการแข่งขันก็ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น เหมือนเช่น ริโอ 2016 ที่สนามที่สวยงามถูกทิ้งร้างอย่างน่าเศร้า

 

เหตุผลดังกล่าวทำให้การแข่งขันโอลิมปิกยุคสมัยใหม่ ไม่ว่าจะโอลิมปิกฤดูร้อนหรือฤดูหนาวจะตั้งอยู่บนคอนเซปต์ของ ‘ความยั่งยืน’ เป็นหลัก ซึ่งตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ โอลิมปิกที่กรุงโตเกียวเมื่อปีกลาย ที่แม้จะน่าเศร้าเพราะไม่อาจเปิดให้ผู้ชมเข้าสนามแข่งขันได้ แต่เรื่องแนวคิดคอนเซปต์แล้วสอบผ่านฉลุย

 

นั่นทำให้การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวของประเทศจีน ซึ่งกรุงปักกิ่งได้เป็นเมืองแรกของโลกที่เป็นเจ้าภาพของการแข่งขันโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว ทางด้านประธานาธิบดี สีจิ้นผิง จึงได้ประกาศต่อทุกคนถึงเป้าหมายของการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ของจีน

 

นี่คือโอลิมปิกที่จะ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และเรียบง่าย”

 

Olympic Games Beijing 2022

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ปรากฏตัวบนจอระหว่างพิธีเปิด ‘ปักกิ่ง 2022’ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน – ภาพ: Annice Lyn / Getty Images

 

ในขณะที่การจัดการแข่งขัน ‘ปักกิ่ง 2008’ ใช้งบประมาณมหาศาลกว่า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.4 ล้านล้านบาท แต่ครั้งนี้จีนบอกว่า พวกเขาใช้งบประมาณเพียงแค่ 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 แสนล้านบาทเท่านั้น เป็นโอลิมปิกที่ใช้งบประมาณจัดการแข่งขันน้อยที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษเลยทีเดียว น้อยกว่าโอลิมปิกฤดูร้อน ‘แอตแลนตา 1996’ ที่ใช้งบ 4.2 พันล้านดอลลาร์เสียอีก

 

ว่าแต่ที่บอกน่ะเชื่อถือได้ใช่ไหม?

 

ความจริงแบบจีนที่น่าสงสัย

หากให้เปรียบเทียบตัวเลขงบประมาณ 3.9 พันล้านดอลลาร์ ที่เป็นข้อมูลอย่างเป็นทางการที่จีนเผยแพร่แล้ว อารมณ์น่าจะคล้ายในแอนิเมชันเรื่องดัง Mulan ที่ฮัวมู่หลาน วีรสตรียืนอยู่หน้ากระจกเงา และเห็นภาพของตัวเองแบ่งออกเป็น 2 ซีก (เสียงเพลง Reflection คลอขึ้นมา)

 

ด้านหนึ่งคือตัวตนที่แท้จริง ขณะที่อีกด้านคือสิ่งที่อยากให้โลกเห็น

 

ตัวเลขงบประมาณ 3.9 พันล้านดอลลาร์ ที่จีน ‘เคลม’ นั้นถูกมองว่าเป็นตัวเลขที่ถูกตกแต่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของประเทศที่มีความสามารถจัดการแข่งขันระดับมหกรรมกีฬาระดับโอลิมปิกโดยใช้งบประมาณเพียงเสี้ยวหนึ่งของที่ญี่ปุ่น (โตเกียว 2020) หรือรัสเซีย (โซชิ 2014) ยอมจ่าย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

อย่างไรก็ดี เพราะนี่คือ ‘แดนมังกร’ ประเทศที่มีระบบการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดที่สุดชาติหนึ่งของโลก ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่โลกได้รับการบอกกล่าวก็ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อตามนั้นได้ทั้งหมด

 

“เพราะมันเป็นข้อมูลที่ออกมาจากจีน มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบรายละเอียดหรือเช็กความถูกต้องของข้อมูล” แอนดรูว์ ซิมบาลิสต์ นักเศรษฐศาสตร์การกีฬา เปิดเผยถึง Insider สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังระดับโลก “ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกคุณว่าที่นี่มีการควบคุมและมีการรวมศูนย์กันมากแค่ไหน ดังนั้นจนถึงวันนี้ผมเองก็ยังไม่สามารถประเมินงบประมาณที่ใช้จริงๆ ได้”

 

ซิมบาสลิสต์ยังบอกต่อว่า ในสิ่งที่จีนบอก พวกเขาบอกไม่ครบ ไม่มีการพูดถึงงบประมาณที่ลงทุนปรับปรุงพัฒนาระบบคมนาคม ไม่มีการพูดถึงการลงทุนเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคของเกมกีฬา ไม่มีการเอ่ยถึงมูลค่าในการก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬา (Olympic Village)

 

ดังนั้นตัวเลขอะไรก็ตามที่ออกมาจากทางการจีนจึงถือว่า ‘น่ากังขา’ ไว้ก่อน

 

ต้นทุนที่จีนไม่อยากบอกและเหตุผลที่ซ่อนอยู่

ในการสืบค้นของ Insider ยังพบว่า มีงบประมาณหลายรายการที่ไม่ถูกนำมารวมกับงบจัดการแข่งขันด้วย

 

ยกตัวอย่างเช่น การสร้างสนามสเกตความเร็ว หรือ National Speed Skating Oval หรือที่เรียกกันว่าสนาม ‘Ice Ribbon’ ซึ่งเพิ่งก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2020 และใช้สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กำลังแข่งขันอยู่ตอนนี้

 

หรือการปรับปรุงสนามแข่งขันหลายแห่งที่สร้างมารองรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 2008 ซึ่งรวมถึงสนามพระเอกอย่างสนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง หรือ ‘สนามรังนก’ (Bird’s Nest) กับศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ หรือที่เรียกว่า Water Cube

 

Olympic Games Beijing 2022

ดอกไม้ไฟในรูปวงแหวนโอลิมปิกส่องสว่างบนท้องฟ้าเหนือสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ ‘สนามรังนก’ (Bird’s Nest) ระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 – ภาพ: VCG / VCG via Getty Images

 

พวกนี้ไม่ได้ลงในบัญชีรายจ่าย และไม่มีใครรู้ด้วยว่าใช้งบประมาณเท่าไร

 

ขณะที่ยังมีอีกหลายรายการที่ถูกโยกออกจากส่วนของงบประมาณ ‘ปักกิ่ง 2022’ ไปอยู่ในงบประมาณส่วนอื่นของการพัฒนาประเทศแทน นั่นหมายถึงการที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจะแยกส่วนนี้ออกจากรายจ่ายของการจัดการแข่งขัน

 

แหล่งข่าวของ IOC แง้มความลับเรื่องนี้ว่า “งบประมาณนั้นขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายระยะยาวของชาติเจ้าภาพที่ตั้งใจไว้สำหรับการจัดการแข่งขันเป็นอย่างไร เช่น สนามกีฬานั้นไม่ได้ถูกสร้างเพื่อใช้จัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกแค่ 4 สัปดาห์

 

“สนามเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อใช้สำหรับชุมชนและสามารถใช้หารายได้ได้ ซึ่งจะมีผลประโยชน์ต่อเจ้าภาพในระยะยาว”

 

งบประมาณจำนวนมากได้ถูกใช้ไปกับการพัฒนาเมือง 2 แห่ง คือ เมืองเหยียนชิ่งและจางเจียโข่ว ที่อยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยจีนได้เนรมิตสนามแข่งสกีอัลไพน์ที่สวยงาม รวมถึงหมู่บ้านนักกีฬาอีกแห่งที่รองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้ 1,400 คน ขณะที่หมู่บ้านนักกีฬาแห่งที่สองในกรุงปักกิ่งจะรองรับได้ 2,300 คน

 

เมืองอีกแห่งที่มีประชากร 1.5 ล้านคนที่ได้รับการเปรียบว่าเป็น ‘ประตูสู่ปักกิ่ง’ มีโครงการก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกแห่งที่ 3 ที่จะรองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้ 2,640 คนรวม ไม่นับสนามแข่งขันอย่าง Genting Snow Park, The National Biathlon Center, The National Ski Jumping Center และ The National Cross-Country Center

 

การกระจายสนามกีฬาและหมู่บ้านนักกีฬาไปรอบนอกปักกิ่งเช่นนี้หมายถึงการที่จีนจะต้องลงทุนสร้างระบบคมนาคมเพื่อรองรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และแฟนๆ แม้จะไม่ได้มีจำนวนมากเนื่องจากสถานการณ์โควิดก็ตาม

 

ตามรายงานข่าวแล้วจีนลงทุนสร้างรถไฟหัวกระสุนที่จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเมืองจางเจียโข่วมายังกรุงปักกิ่ง จากเดิมที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ให้เหลือเพียงแค่ 50 นาที ซึ่งเอาแค่งบส่วนนี้ก็ใช้ถึง 9.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.9 แสนล้านบาทแล้ว สูงกว่างบประมาณจัดการแข่งขันที่เปิดเผยเกือบ 3 เท่า

 

Olympic Games Beijing 2022

รถไฟหัวกระสุน Fuxing ที่ตกแต่งด้วยธีมโอลิมปิกฤดูหนาว โดยไม่เพียงแต่รองรับฟังก์ชันการปรับแสงอัจฉริยะและการเปิดประตูอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังติดตั้งสตูดิโอสตรีมมิงแบบสด 5G แห่งแรกของโลกอีกด้วย – ภาพ: Shi Jiamin / VCG via Getty Images

 

เมื่อปี 2015 รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีนเคยกล่าวว่า ทางการจีนหวังว่าจะแบ่งเบางบประมาณรายจ่ายที่ใช้สำหรับการสร้างหมู่บ้านนักกีฬาใน 2 เมืองนี้ เพื่อให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ในอนาคต และจะใช้สนามแข่งขันที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้เพื่อเป็น ‘สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน’

 

ผลพลอยได้ที่คาดหวังไว้คือ การสร้างความนิยมของกีฬาฤดูหนาวภายในภูมิภาคนี้ด้วย เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในอนาคต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 

ราคาที่ต้องจ่ายด้านด้านอื่นๆ

นักเศรษฐศาสตร์การกีฬา แอนดรูว์ ซิมบาลิสต์ ยังชี้ให้เห็นถึงต้นทุนอื่นๆ ที่จีนต้องจ่าย อย่างเช่น เรื่องของการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายของปักกิ่ง และต้นทุนทางสังคมที่เชื่อมโยงกับการจัดการแข่งขัน งบประมาณส่วนนี้ย่อมไม่ถูกรวมอยู่ในงบประมาณจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

 

“ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่งหรือเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือขึ้นไป ซึ่งจะติดกับทะเลทรายโกบี เป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งมาก นั่นหมายถึงการที่จีนจะต้องนำน้ำจำนวนมากจากทางตอนใต้ของประเทศขึ้นมาในภูมิภาคนี้เพื่อใช้สำหรับภาคกสิกรรม เพื่อพื้นที่ที่ผลิตอาหารหล่อเลี้ยงประเทศจีน” ซิมบาลิสต์อธิบายต่อ

 

“พวกเขายังต้องแบ่งน้ำที่เตรียมไว้สำหรับใช้ในภาคกสิกรรมเอามาสร้างหิมะเทียม งบประมาณที่ใช้ด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำมาคิดรวมด้วย” แน่นอนว่าเรื่องของต้นทุนทางสังคมในการบริหารจัดการคนก็ไม่ได้นำมารวมด้วย

 

Olympic Games Beijing 2022

คนงานยืนอยู่ข้างเครื่องผลิตหิมะ ซึ่งทำหิมะเทียมนอกหมู่บ้านนักกีฬาแห่งหนึ่งสำหรับโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 – ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images 

 

ต้นทุนซ่อนเร้นที่คาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลไม่แพ้เรื่องอื่นคือ มาตรการเกี่ยวกับโควิด, การสร้าง Bubble เพื่อใช้จัดการแข่งขัน, ค่าตรวจหาเชื้อ, ค่าทำความสะอาด หรือแม้แต่การสร้างหุ่นยนต์เพื่อมาช่วยปฏิบัติหน้าที่แทนคน และส่วนของคนที่จะต้องถูกจ้างเพื่อมาดำเนินงาน ส่วนนี้ก็ไม่มีการเปิดเผยเช่นกัน

 

ด้าน Insider มีการคำนวณตัวเลขว่างบประมาณที่แท้จริงที่ทางการจีนใช้คาดว่าจะสูงถึง 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.24 ล้านล้านบาท) หรือมากกว่าที่มีการเปิดเผยเกือบ 10 เท่าด้วยกัน และมากกว่างบประมาณเบื้องต้นที่คาดไว้ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ถึง 24 เท่า

 

ความปรารถนาที่แท้จริงของจีน

อย่างไรก็ดี ด้านตัวแทนจาก IOC ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า งบประมาณส่วนของการจัดการแข่งขันกับงบประมาณที่จะใช้เพื่อการพัฒนาประเทศของเจ้าภาพนั้นมีการแยกกัน ส่วนของการจัดการแข่งขันไม่ว่าจะเป็น งบจัดการแข่งขัน, งบจัดการสนาม, งบบุคลากร, เทคโนโลยี, ระบบคมนาคมนั้น จะเป็นงบที่มาจากการสนับสนุนจากรายได้จากสปอนเซอร์, การจำหน่ายตั๋วเข้าชม, การจำหน่ายสินค้า (Merchandise) และที่พัก

 

IOC ยังสนับสนุนทางการเงินให้อีกด้วย โดยการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้แทบจะใช้งบประมาณสมดุลหลังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก IOC จำนวน 880 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.6 หมื่นล้านบาท

 

ด้านตัวแทนฝ่ายจัดการแข่งขันยืนยันว่า งบประมาณสำหรับการเตรียมการทั้งหมดใกล้เคียงกับงบที่มีการรายงานออกไป ‘โดยประมาณ’ เพียงแต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มสูงขึ้น แต่จีนยืนยันว่าพวกเขาต้องการทำตามความปรารถนาที่จะจัดการแข่งขันที่ ‘เรียบง่าย ปลอดภัย และตื่นเต้น’ และทำให้มีการตัดลดงบประมาณส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป

 

กระนั้นเมื่อนำสิ่งที่ฝั่งรัฐบาลจีนได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาใช้งบประมาณจำนวน 1.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับการจัดการสนาม, ระบบสาธารณสุข และการคมนาคมของนักกีฬากับสตาฟฟ์ และอีก 1.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับการก่อสร้างและตกแต่งสนามแข่งขันหรือส่วนที่ไม่ใช่สนามแข่งขัน

 

Olympic Games Beijing 2022

เพื่อพยายามรักษาแนวทางปลอดโควิดของจีน ในระหว่างการแข่งขันปักกิ่ง 2022 พนักงานที่ประจำอยู่ที่ส่วนบุฟเฟต์ของห้องอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่งจึงต้องใส่ชุดป้องกันอย่างเข้มงวดระหว่างตักอาหารสำหรับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน – ภาพ: Annice Lyn / Getty Images

 

นั่นหมายถึงจะเหลืองบประมาณอีก 900 ล้านดอลลาร์ที่จะใช้ในส่วนที่เหลือทั้งหมด ฟังดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

แต่ทางการจีนยืนยันว่าพวกเขาตั้งใจจะใช้งบประหยัดจริง “เรามีเงินและมีความเข้มแข็ง แต่เราจะใช้จ่ายอย่างเคร่งครัดโดยที่ยังจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวได้อย่างมีคุณภาพสูง” โจว ชิง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการที่เป็นคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าว

 

ขณะที่ สวีจี้เฉิง ที่ดูแลด้านข้อมูลและแผนงานของคณะกรรมการโอลิมปิกฤดูหนาว ย้ำว่า “เราจัดโอลิมปิกมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเรารู้วิธีว่าจะประหยัดเงินได้อย่างไร”

 

สุดท้ายสิ่งที่จีนพยายามทำมาทั้งหมดกับการเน้นย้ำให้เห็นภาพของเจ้าภาพที่จัดการแข่งขันอย่างเรียบง่ายและใช้งบประมาณน้อยนั้น เป้าหมายอยู่ที่เรื่องเดียว

 

“ระหว่างโตเกียวเกมส์กับครั้งนี้ระยะเวลาห่างกันแค่ 6 เดือน มันทำให้มีการเปรียบเทียบกันง่ายระหว่างการจัดการแข่งขันทั้งสองครั้ง” ไบรอัน ชิว ศาสตราจารย์ด้านการบริหารจัดการกีฬา กล่าว “จีนต้องการจะดีกว่าญี่ปุ่น และนี่คือหนทางที่ดีที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าจีนคือชาติที่พัฒนาแล้วด้วยการบอกว่า เราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเราก็มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี”

 

Olympic Games Beijing 2022

นักกีฬาของจีนที่สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมาเป็นผลสำเร็จ – ภาพ: Li Jun / China News Service via Getty Images

 

ขณะที่ปักกิ่งเกมส์ในปี 2008 คือการประกาศศักดาของจีนให้โลกรู้ ‘ปักกิ่ง 2022’ ก็ไม่ได้แตกต่างกัน และอาจจะยิ่งสำคัญกว่าด้วย

 

ต่อให้ต้องจ่ายเท่าไรและต้องตกแต่งตัวเลขเท่าไรก็ยอม เข้าทำนองเสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

อ้างอิง: 

The post เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้! เมื่อต้นทุนการจัดโอลิมปิกฤดูหนาว ‘ปักกิ่ง 2022’ อาจสูงกว่าที่จีนบอกไว้ถึง 10 เท่า ทะลุ 1.24 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ปักกิ่ง 2022 สำคัญกับจีนแค่ไหน มีอะไรซ่อนในประเด็นร้อนโอลิมปิกฤดูหนาว https://thestandard.co/thestandardnow150265-2/ Wed, 16 Feb 2022 02:02:15 +0000 https://thestandard.co/?p=594983 Olympic Games Beijing 2022

ระหว่างวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันโอลิมปิกฤดู […]

The post ชมคลิป: ปักกิ่ง 2022 สำคัญกับจีนแค่ไหน มีอะไรซ่อนในประเด็นร้อนโอลิมปิกฤดูหนาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Olympic Games Beijing 2022

ระหว่างวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งมหานครที่เก่าแก่ของจีนแห่งนี้นับเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก ทั้งฤดูร้อนในปี 2008 และฤดูหนาวในปีนี้

 

ซึ่งเป้าหมายสำคัญคงเป็นผลงานในสนามสำหรับนักกีฬาที่ลงแข่งขัน แต่สำหรับเจ้าภาพจีนในยุคสงครามเย็น 2.0 ความสำเร็จของปักกิ่ง 2022 จึงมีหลายมิติมากกว่าแค่ผลการแข่งขันในสนาม

 

แต่ในขณะที่โรคระบาดจะสร้างความลำบากให้เพิ่มขึ้น โอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้กลับร้อนระอุไปด้วยเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศอีกด้วย

The post ชมคลิป: ปักกิ่ง 2022 สำคัญกับจีนแค่ไหน มีอะไรซ่อนในประเด็นร้อนโอลิมปิกฤดูหนาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จัก Fuxing Bullet Train รถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบมาสำหรับกีฬาโอลิมปิกโดยเฉพาะ https://thestandard.co/fuxing-bullet-train/ Tue, 15 Feb 2022 08:44:14 +0000 https://thestandard.co/?p=594704 Fuxing Bullet Train

หากพูดถึงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กำลังมีการแข่งขันอยู่ที่ […]

The post รู้จัก Fuxing Bullet Train รถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบมาสำหรับกีฬาโอลิมปิกโดยเฉพาะ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Fuxing Bullet Train

หากพูดถึงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กำลังมีการแข่งขันอยู่ที่ประเทศจีนในขณะนี้ (4-20 กุมภาพันธ์) ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศเจ้าภาพก็คือรถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาครั้งนี้โดยเฉพาะ

 

จีนเรียกมันว่า Fuxing Bullet Train ซึ่งความพิเศษของรถไฟหัวกระสุนนี้คือเป็นรถไฟไร้คนขับที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะพานักกีฬาและสื่อมวลชนโดยสารไป-กลับจากกรุงปักกิ่งถึงเมืองจางเจียโข่ว (หนึ่งในเมืองที่จัดโอลิมปิก) ภายในเวลาแค่ 50 นาที (ระยะทาง 174 กิโลเมตร) ซึ่งถ้าเทียบกับรถไฟด่วนธรรมดาจะใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง เรียกว่าประหยัดเวลาไปถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว 

 

นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว รถไฟขบวนนี้ยังมี 5G Ultra HD Mobile Studio สตูดิโอถ่ายทอดสดที่รองรับเครือข่าย 5G จึงทำให้นักข่าวสามารถรายงานข่าวด่วนในแบบเรียลไทม์ได้ตลอดเวลาแม้จะเดินทางบนรถไฟที่มีความเร็วสูง นอกเหนือจาก WiFi, ที่ชาร์จแบตแบบ USB ตลอดจนการบริการอาหารเครื่องดื่มและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงอื่น ในขบวนรถไฟขนาด 8 ตู้ที่รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 564 คน ยังมีล็อกเกอร์พิเศษที่จัดไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์กีฬาต่างๆ เช่น สโนว์บอร์ด ฯลฯ อีกด้วย 

 

นอกจากนี้รถไฟหัวกระสุน Fuxing Bullet Train ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะออกแบบมาให้สามารถลดอัตราการบริโภคพลังงานลงได้ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 1.8 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปีเลยทีเดียว 

 

อ่านต่อ: 

 

อ้างอิง:

The post รู้จัก Fuxing Bullet Train รถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบมาสำหรับกีฬาโอลิมปิกโดยเฉพาะ appeared first on THE STANDARD.

]]>