การลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องซับซ้อนและเคร่งเครียดอีกต่อไป คุณไม่จำเป็นต้องอดอาหารอย่างทรมานหรือออกกำลังกายหักโหม เพียงแค่เพิ่ม “นิสัยเล็กๆ” หรือ “Micro Habits” เหล่านี้เข้าไปในกิจวัตรประจำวัน คุณก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง เรามาดูกันว่านิสัยเล็กๆ เหล่านี้มีอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้แบบไม่รู้ตัว

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการดื่มน้ำหนึ่งแก้วใหญ่ก่อนมื้ออาหารทุกครั้ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้รับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป ถัดมาคือการขยับตัวให้บ่อยขึ้น ลองลุกขึ้นเดินไปมาสัก 5-10 นาทีทุกๆ ชั่วโมง หรือเลือกเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ตลอดวันช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าที่คุณคิด และอย่าลืมเน้นโปรตีนในทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นอกไก่ ปลา ไข่ หรือเต้าหู้ โปรตีนช่วยให้อิ่มนานและยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งสำคัญต่อการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

แล้วยังรู้ไหมว่าการเคี้ยวอาหารให้ช้าลงและตั้งใจมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งนิสัยที่สำคัญ เมื่อคุณเคี้ยวช้าลง สมองจะมีเวลาส่งสัญญาณความอิ่มไปยังร่างกาย ทำให้คุณรับประทานอาหารในปริมาณที่พอดี และเพื่อเพิ่มใยอาหารและวิตามิน ลองเติมผักใบเขียวให้เต็มครึ่งจานในทุกมื้อ ผักจะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นโดยเพิ่มแคลอรี่เพียงเล็กน้อย ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการนอนหลับให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนไม่พอส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนความหิว ทำให้คุณอยากอาหารมากขึ้น และสุดท้ายจัดการกับความเครียดของคุณ ความเครียดสามารถเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งนำไปสู่การสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง ลองหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือฟังเพลง

The post Micro Habits: 7 นิสัยลดน้ำหนักง่ายๆ ไม่ต้องอดอาหาร appeared first on THE STANDARD.

โรงแรมในญี่ปุ่นปิ๊งไอเดีย เปิดตัวแพ็กเกจเข้าพักพร้อมอดอาหาร ระหว่างวันกินได้แค่ลูกพลัมดองและน้ำเปล่า จ่ายราคาเริ่มต้น 32,150 บาทต่อคืน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง พักนาน 3-7 วัน 

Nikkei Asia รายงานว่า ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพมาแรงและได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้โรงแรม First Cabin Ichigaya ในโตเกียวเปิดตัวแพ็กเกจอดอาหาร เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับแขกผู้เข้าพัก โดยหากเข้าพัก 3 วัน 2 คืน ราคาจะอยู่ที่ 136,620-389,620 เยน หรือราวๆ 32,150-91,618 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• โรงแรมแคปซูลแห่งใหม่ที่จะเปิดในญี่ปุ่น จะรวบบริการ ‘สลีปเทค’ เพื่อวิเคราะห์การนอนหลับโดยใช้ AI เข้ามาช่วย
• ราคาห้องพักและโรงแรมใน ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นแล้ว 10-20% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเงินเฟ้อ
• ญี่ปุ่นทาสแมว! สตาร์ทอัพโตเกียวแห่ใช้ AI ดูแลสุขภาพแมวสูงวัย หลังมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเทียบกับ 79 ปีของมนุษย์

สิ่งที่น่าสนใจของแพ็กเกจอดอาหารดังกล่าวคือจะไม่มีอาหารให้ลูกค้า เนื่องจากลูกค้าที่เข้าพักจะต้องอดอาหารท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย แต่สามารถไปออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือเดินรอบบริเวณโรงแรมซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายหาดได้ ความปลอดภัยทั้งหมดจะอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ในโรงแรม

ลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมรายหนึ่งเล่าว่า ในช่วงเข้ามาใช้บริการในโรงแรมแรกๆ ค่อนข้างตกใจที่โรงแรมไม่เสิร์ฟอาหารให้เลย ด้วยราคาเข้าพักก็แพงมาก ในช่วงที่พักกลับมองว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่า เพราะเราสามารถรีเซ็ตกิจวัตรประจำวันได้ และหลังจากเข้าพักเป็นเวลา 3 วัน ลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม

ทั้งนี้ โรงแรมระบุว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อแพ็กเกจอดอาหารดังกล่าวเป็นผู้หญิง ถ้าตรงกับเทศกาลวันหยุดยาว บางคนเข้าพักนานถึง 7 วัน ส่วนใหญ่จะมากับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว และลูกค้ากลุ่มเดิมมักจะกลับมาใช้บริการซ้ำในทุกๆ เดือน ขณะที่กลุ่มลูกค้าผู้ชายก็มีบ้าง แต่อยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้มีแค่โรงแรม First Cabin Ichigaya แต่ยังมีโรงแรม Kahala ในโยโกฮามา ที่เสนอแพ็กเกจให้ลูกค้าที่เข้าพักจ่ายแค่ 6,500 เยน หรือราวๆ 1,528 บาทต่อคืนต่อคน และลูกค้าจะต้องอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งในระหว่างวันลูกค้าที่เข้าร่วมแพ็กเกจกินได้แค่ลูกพลัมดอง นมอัลมอนด์ และน้ำเปล่า และในวันสุดท้ายก่อนเช็กเอาต์ถึงจะอนุญาตให้กินอาหารที่เสิร์ฟด้วยเมนูโจ๊ก 

อ้างอิง:

• https://asia.nikkei.com/Business/Travel-Leisure/Japan-hotels-cash-in-on-healthy-fasting-trend-with-luxury-packages

The post เทรนด์สุขภาพมาแรงจนโรงแรมในญี่ปุ่นปิ๊งไอเดีย เสนอแพ็กเกจเข้าพักพร้อมอดอาหาร จ่ายราคา 32,150 บาทต่อคืน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่วัดสุทธาโภชน์ เขตลาดกระบัง ชัยธวัช ตุลาธน สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมในพิธีบำเพ็ญกุศลคืนแรกของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ ‘บุ้ง’ นักกิจกรรมที่เสียชีวิตในเรือนจำระหว่างการอดอาหารประท้วงสิทธิประกันตัว

ชัยธวัชกล่าวถึงข้อเรียกร้องเรื่องการประกันตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด โดยระบุว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเคยพูดว่าเป็นเรื่องของศาล ซึ่งก็ถูกต้อง แต่สิ่งที่ฝ่ายรัฐบาลสามารถทำได้หากต้องการฟื้นฟูระบบนิติรัฐตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา รัฐบาลก็สามารถหารือพูดคุยกับฝ่ายตุลาการได้เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าตนสนับสนุนให้รัฐบาลไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

ส่วนอีกมุมของสังคมที่มองว่าพรรคก้าวไกลเป็นผู้นำทางความคิดของนักกิจกรรมเยาวชน กระทั่งนำมาสู่การเสียชีวิตนั้น ชัยธวัชระบุว่า ถ้าเราพิจารณาดูข้อเท็จจริง พรรคก้าวไกลไม่เคยสนับสนุนเนติพรหรือการอดอาหารประท้วงแน่นอน แต่เป็นการตัดสินใจของแต่ละท่าน ตั้งแต่กรณีของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เราก็มีความพยายามประสานงานติดต่อให้ทานตะวันยุติการประท้วง แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่าตัวเขาเองเป็นผู้ตัดสินใจ

“ผมไม่เห็นใครที่คงอยากจะผลักให้ใครไปอดอาหารจนเสียชีวิต ผมคิดว่าปัญหาตอนนี้ต้องพูดว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหน อย่างนี้เหมือนกับเราบอกว่าสุภาพสตรีที่ถูกข่มขืนเป็นเพราะแต่งตัวโป๊ ซึ่งก็ไม่ถูก ผมคิดว่าต้นเหตุของปัญหาที่นำไปสู่การอดอาหารประท้วง คือปัญหาซ้ำซากของการไม่ได้รับสิทธิในกระบวนการยุติธรรมแม้กระทั่งเรื่องที่เป็นพื้นฐานมากๆ อย่างการประกันตัว” ชัยธวัชกล่าว

ชัยธวัชยังย้ำว่า สิทธิการประกันตัวเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ไปว่ากันในชั้นศาล แต่สิทธิการประกันตัวเป็นเรื่องของทุกคน การไม่ให้ประกันตัวควรจะเป็นเพียงข้อยกเว้นจริงๆ

ขณะที่กรณีของทานตะวันนั้น ชัยธวัชมองว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์อย่างเนติพรเกิดขึ้นอีก เราคงต้องพยายามสื่อสารกับทานตะวัน แต่สิ่งที่อาจจะช่วยได้มากในการให้ยุติการอดอาหารประท้วง คือหากมีสัญญาณที่ดีเกิดขึ้นไม่ว่ามาจากฝั่งไหน น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้อีก

“ผมคงห้ามไม่ได้หากจะมีใครโจมตีว่าพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของหนุ่มสาว ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ปี 2563 ผมยืนยันโดยข้อเท็จจริงว่าเราไม่เคยอยู่เบื้องหลัง การเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวเป็นไปโดยอิสระ สิ่งที่เราพยายามจะทำคือสื่อสารกับสังคมว่าแม้ว่าหลายคนอาจจะตกใจหรือไม่เห็นด้วย แต่แนวทางที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย คือแนวทางสายกลาง ไม่ควรผลักให้ใครต้องสุดขั้วมากขึ้นเรื่อยๆ” ชัยธวัชระบุ

ชัยธวัชยังตั้งคำถามต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สุดท้ายผลักให้คนที่เพียงถือกระดาษทำโพลต้องออกมาแสดงออกในรูปแบบที่หลายคนมองว่าก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ต่างหากที่ต้องช่วยกันทบทวน ขณะเดียวกันก็ต้องชวนคิดกับคนรุ่นใหม่ว่าวิธีการสื่อสารแบบใดจะทำให้คนรับฟังมากขึ้น

“ประเด็นตอนนี้อยู่แค่เพียงสิทธิการประกันตัวขั้นพื้นฐาน เหตุใดจึงไม่ได้รับการรับรอง ส่วนเขาจะผิดจริงหรือไม่ตามที่กล่าวหาก็ว่ากันไปตามชั้นศาล ทำไมคนบางกลุ่มจึงมีอภิสิทธิ์ที่จะได้รับการดูแลอย่างดีในราชทัณฑ์ หรือได้รับการปล่อยตัว ทั้งที่ในบางมิติกระทำการรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ ผมว่าอย่าเพิ่งผิดประเด็น” ชัยธวัชกล่าว

The post ชัยธวัชยืนยัน ก้าวไกลไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว ชวนสังคมมองต้นเหตุของโศกนาฏกรรมอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (16 พฤษภาคม) มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ให้ความเห็นถึงวิธีการอดอาหารประท้วงในเรือนจำของนักกิจกรรม กระทั่งเกิดเหตุการเสียชีวิตในเรือนจำของ บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง โดยระบุว่า การอดอาหารเป็นสันติวิธีที่ทุกคนสามารถใช้ได้ หากว่าใครตัดสินใจที่จะใช้ร่างกาย ชีวิต ของตนเองเป็นต้นทุนอย่างเดียวที่มีอยู่ในการเรียกร้อง ก็เป็นสิทธิที่เขาจะทำได้

“เราคงไม่สามารถที่จะไปพูดได้ว่าควรหรือไม่ควรทำ เพราะทุกการแสดงออก ทุกการกระทำ อยู่ที่บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ประเมินเอง และเราไม่สามารถพูดได้ว่าคนที่ตัดสินใจแบบนี้ตัดสินใจผิด หรือทำไปแล้วจะสูญเปล่า” ภัสราวลีกล่าว

ภัสราวลีระบุว่า อย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับเนติพร เราสามารถพูดได้จริงๆ หรือว่าไม่เกิดผลอะไร ความจริงเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบหนักมาก แต่น่าเศร้าที่รัฐและกระบวนการยุติธรรมปล่อยให้เขาใช้วิธีนี้จนเขาต้องเสียชีวิต ดังนั้นคนที่เราควรตั้งคำถามถึงในกรณีความสูญเสียนี้ รัฐและกระบวนการยุติธรรมเห็นความสำคัญของการคืนสิทธิประกันตัวให้พวกเขาหรือยัง ถ้าหากว่าคืนสิทธิประกันตัวให้ พวกเขาจะเลือกใช้การประท้วงด้วยการใช้ชีวิตของตัวเองแบบนี้ไหม

“เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมเองยังไม่ได้เห็นว่าประชาชนสู้จริงๆ ด้วยอุดมการณ์ เขายังเมินเฉยและละเลยอยู่ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ทำให้ความสูญเสียตรงนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกก็ได้” ภัสราวลีระบุ

ภัสราวลีกล่าวต่อไปว่า ถ้าหากการเสียชีวิตของเนติพรไม่ได้มีสาเหตุจากการอดอาหาร แต่เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ร่างกายน็อกไป แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อข้อเรียกร้องของเนติพร รวมถึงจะสะท้อนคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในชีวิตของผู้ต้องขังในเรือนจำอื่นๆ ว่าเมื่อพวกเขาถูกขังแล้วจะถูกปล่อยให้ตายอีกหรือไม่

ภัสราวลีกล่าวด้วยว่า กลายเป็นว่าตอนนี้ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองหรือถูกขังในเรือนจำจะถูกจำแนกโดยใช้มาตรฐานอื่น ต่างจากคดีอื่นๆ ทั้งไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว มาตรฐานในการดูแลรักษาก็ไม่ชัดเจน

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคนที่อยู่ในเรือนจำจะได้รับประกันตัวหรือไม่ หากไม่ได้ประกันแล้วความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างไร เขาจะยังสามารถเรียกร้องอยู่ในเรือนจำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่”

สำหรับอีก 3 คนที่ยังอดอาหารอยู่ในเรือนจำ ได้แก่ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์, แฟรงค์-ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร และ บัสบาส-มงคล ถิระโคตร จะมีแพทย์ที่ได้มาตรฐานคอยประกบดูแลอาการของพวกเขาอย่างใกล้ชิดหรือไม่ การใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อเรียกร้องเป็นสิทธิของเขา แต่รัฐได้ให้การดูแลรักษาตามหลักสิทธิมนุษยชนเท่าเทียมกับกรณีอื่นๆ แล้วหรือยัง นี่เป็นหลักสำคัญที่ทางรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม กระทั่งกรมราชทัณฑ์เอง ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนให้ได้

The post ภัสราวลีชี้การอดอาหารประท้วงเป็นสิทธิ ตั้งคำถาม จนท.รัฐ ดูแลนักโทษคดีการเมืองเท่าเทียมกับคดีอื่นหรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

พรรณิการ์-อ.ปวิน ย้ำ ไม่ควรด้อยค่า ‘บุ้ง เนติพร เสียชีวิต’ เผยอดอาหารประท้วง แม้จะสำเร็จยากแต่ทำเพราะรัฐบาลหน้าด้าน “ทำไมคุณไปตัดสินว่าเขาโดนหลอกให้ไปประท้วง”

The post ชมคลิป: พรรณิการ์-อ.ปวินชี้ อดอาหารประท้วง เพราะไร้ทางเลือก “ทำไมตัดสินว่าโดนหลอก” | THE STANDARD NOW (HL) appeared first on THE STANDARD.

ทำความรู้จัก บุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมทางการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อข้อเรียกร้องต่างๆ ในสังคม จนมาถึงการเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ในปัจจุบัน ที่ทำให้เธอกลายมาเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘บุ้ง ทะลุวัง’

เนติพร เสน่ห์สังคม

ชื่อเล่น: บุ้ง

อายุ 28 ปี

เสียชีวิต: วันที่ 14 พฤษภาคม 2567

ครอบครัว

พ่อ: ผู้พิพากษา

พี่สาว: ทนายความ

การเคลื่อนไหวทางการเมือง

• กลุ่มนักเรียนเลว: เรียกร้องสิทธิการไว้ทรงผมของนักเรียน LGBTQIA+, วัคซีนป้องกันโควิดให้นักเรียน (ปี 2563)
• กลุ่มทะลุวัง: เรียกร้องการปฏิรูปสถาบันฯ (ปัจจุบัน)

ถูกดำเนินคดี (7 คดี) เช่น

• ม.112 จากการทำโพลสำรวจความคิดเห็นเรื่องขบวนเสด็จฯ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565
• ม.112 จากการทำโพลสำรวจความคิดเห็นเรื่องการที่รัฐให้อำนาจสถาบันฯ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565
• ข้อหาละเมิดอำนาจศาล กรณีมีเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 

2 ข้อเรียกร้องอดอาหารประท้วง

1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2. ต้องไม่มีผู้เห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีกในอนาคต

อ้างอิง: THE STANDARD รวบรวม, ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, ประชาไท

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ณัฐวุฒิ-พรรณิการ์ อาลัย ‘บุ้ง เนติพร’ ย้ำ ไม่ควรมีคนตายเพราะความเห็นต่าง
• กรมราชทัณฑ์ขอให้แพทย์ชันสูตร ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

The post รู้จัก ‘บุ้ง เนติพร’ กลุ่มทะลุวัง ผู้อดอาหารประท้วงในเรือนจำ appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (22 กุมภาพันธ์) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ ซึ่งถูกฝากขังจากกรณีการก่อกวนขบวนเสด็จฯ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถูกย้ายตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อช่วงบ่าย หลังอดอาหารและน้ำประท้วงเข้าสู่วันที่ 9 เพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง ได้แก่

1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2. ต้องไม่มีคนติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก
3. ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 

ด้าน แฟรงค์-ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ที่ถูกคุมขังในคดีเดียวกัน และเริ่มต้นประท้วงพร้อมกันยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์  

อย่างไรก็ตามศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเพิ่มเติมว่า จากการเข้าเยี่ยมของทนายความพบว่า ตะวันดูอ่อนแรงและเหนื่อยล้ามาก ตอนนี้ไม่ขับถ่ายแล้ว และปัสสาวะออกเพียงนิดเดียว รู้สึกพะอืดพะอมตลอดเวลา รู้สึกร้อนมากจากข้างใน ร่างกายซูบผอมมากจนเห็นกระดูกไหปลาร้า ช่วงหน้าอกเห็นกระดูกเป็นซี่ๆ หน้าตอบจนเห็นสันกราม ใต้ตาคล้ำ ผิวหน้าดูโทรมคล้ำ และปากแห้งแตกจนลอกออก

โดยตะวันยืนยันจะไม่รับการรักษา รวมถึงยืนยันที่จะเดินหน้าอดน้ำและอาหารประท้วงต่อไปเช่นเดิมตาม 3 ข้อเรียกร้องที่ประกาศไว้

อ้างอิง: 

• ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

The post ตะวันถูกย้ายตัวด่วนไป รพ.ธรรมศาสตร์ หลังอดอาหาร-น้ำ ประท้วง 3 ข้อเรียกร้องเข้าสู่วันที่ 9 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานอาการของ บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม โดยระบุว่า ล่าสุดเนติพรได้ถูกนำตัวส่งไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว หลังอดอาหาร-น้ำประท้วงเข้าสู่วันที่ 11 มีภาวะตับอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และอ่อนแรงมากจนเดินไม่ไหว

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า หลังทนายความเข้าเยี่ยมเนติพรในช่วงเช้าวันนี้เสร็จสิ้น บุ้งก็ถูกพาตัวไปโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ บุ้งอดอาหาร-น้ำมาตั้งแต่เย็นวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ได้แก่ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีประชาชนถูกคุมขังเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก

เนติพรคือใคร

จากบทสัมภาษณ์ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 โดยระบุว่า บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม เป็นติวเตอร์และนักกิจกรรมวัย 26 ปี เคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันในนามกลุ่มทะลุวัง

เนติพรยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเขาเคลื่อนไหวโดยคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเด็กๆ ที่เขาออกไปเคลื่อนไหว เพราะส่วนใหญ่ที่ออกมากันก็ยังเป็นเด็กอยู่ ยังไม่มีความพร้อมเรื่องทรัพยากร ก็จะช่วยหาเงินให้การเคลื่อนไหวของเขามันไปต่อได้

เด็กบางคนแค่ออกมาเคลื่อนไหวก็โดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกาย เพราะว่าทัศนคติแตกต่างกัน โดนลิดรอนเสรีภาพ เราไม่มีแรงอำนาจภายในที่จะปกป้องเขาได้ เราก็เลยเลือกที่จะมาทำตำแหน่งนี้

โดยหนึ่งในการเคลื่อนไหวสนับสนุนในช่วงหลังคือกรณีการเคลื่อนไหวของหยก (เยาวชน) ที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นการศึกษา โดยมีเนติพรแสดงตัวเป็นผู้ปกครอง

เหตุใดเนติพรจึงถูกคุมขัง

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่า การถูกคุมขังครั้งนี้ของเนติพรเกิดจากการถูกกล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาล ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ให้จำคุก 1 เดือน ขณะที่หยก (เยาวชน) ซึ่งถูกกล่าวหาในกรณีเดียวกัน ศาลเพียงตักเตือนเท่านั้น

โดยการถูกกล่าวหาดังกล่าวเกิดจากกรณีที่เดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อฟังคำพิพากษาและให้กำลังใจ โฟล์ค-สหรัฐ สุขคำหล้า ที่ถูกพิพากษาจำคุกในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ซึ่งเนติพรเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล

อีกทั้งเนติพรยังถูกคุมขังจากเหตุการถอนประกันจากคำร้องขอถอนประกันของพนักงานสอบสวน ในคดีที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา 112 กรณีทำโพลขบวนเสด็จที่ห้างสยามพารากอนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 โดยพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกัน และศาลมีคำสั่งให้ถอนประกันตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ เพราะผิดเงื่อนไขการประกันตัวในคดีดังกล่าว

ข้อความจากเนติพรผ่านศูนย์ทนายฯ

เนติพรฝากความผ่านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า “ถ้าตายไปก็ไม่เป็นไร จะได้ประจานความอยุติธรรมของศาล กระบวนการยุติธรรมและเรือนจำของไทย ว่าไม่ได้เห็นผู้ต้องขังเป็นคน กระบวนการที่บอกว่าให้รับโทษในนี้เพื่อให้คนกลับตัวเป็นคนดีไม่มีจริงหรอก

“ไม่รู้ว่าจะไหวถึงวันไหน แต่ขอให้ทุกคนตระหนักว่าการมีผู้พิพากษาที่ไม่ยุติธรรม คนที่ตกเป็นเหยื่อคือคนไทยทุกคน”

อ้างอิง:

• https://tlhr2014.com/archives/64152
• https://tlhr2014.com/archives/44709
• https://twitter.com/TLHR2014/status/1754769454242918773

The post นำตัว บุ้ง เนติพร ส่งโรงพยาบาลแล้ว หลังอดอาหารประท้วงวันที่ 11 มีภาวะตับอักเสบ อ่อนแรงจนเดินไม่ไหว appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (31 สิงหาคม) สำนักข่าว BBC รายงานว่า อังเคเลส เบฆาร์ แม่ของ หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) ต้องถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลังอดอาหารประท้วงต่อเหล่าผู้ที่ต่อต้านการกระทำของลูกชายเธอที่ไปจูบ เจนนี เอร์โมโซ หลังจบรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกหญิง 2023

เบฆาร์ขังตัวเองอยู่ในโบสถ์ดิบินา ปาสโตรา ในเมืองมอตรีล บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของสเปน เธอเริ่มอดอาหารตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (28 สิงหาคม) หลังจากที่รูเบียเลส ลูกชายของเธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

โดยในตอนแรกที่เธอเริ่มทำการประท้วงนั้น เธอกล่าวกับ EFE สำนักข่าวแห่งหนึ่งในสเปนว่า การประท้วงจะดำเนินต่อไปและเธอจะไม่กินอะไรทั้งกลางวันและกลางคืน

เบฆาร์มองว่าสิ่งที่ลูกชายของเธอต้องเผชิญในตอนนี้คือการแขวนประจานอย่างไร้มนุษยธรรม และเขาไม่ควรต้องเจอกับสิ่งนั้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากและความอ่อนล้าสะสมจากการอดอาหารมานานเกิน 3 วัน ทำให้เบฆาร์ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในที่สุด

โดยบาทหลวงประจำโบสถ์ซึ่งคือคุณพ่ออันโตนิโอ เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่าเบฆาร์ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองมอตรีล ซึ่งเป็นเมืองที่ลูกชายของเธอเติบโตมา ดังนั้นจึงต้องยกเลิกการแถลงข่าวตามกำหนด

คุณพ่ออันโตนิโอกล่าวว่า “เธอรู้สึกไม่สบายเพราะความร้อนและทุกสิ่งทุกอย่าง

“เท้าของเธอบวม เธอดูเหนื่อยมากและก็กังวลมากเช่นกัน”

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/sport/football/66664374

The post แม่ของหลุยส์ รูเบียเลส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังอดอาหารประท้วงต่อต้านคนที่วิจารณ์ลูกชายของเธอ appeared first on THE STANDARD.

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเคนยาตรวจพบหลุมศพขนาดใหญ่ที่มีศพจำนวนมากอยู่ในป่าชากาโฮลาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเคนยา ใกล้กับโบสถ์ของลัทธิ Good News International Church ทางการเชื่อว่า ศพเหล่านี้เกี่ยวพันกับลัทธินี้ที่เชื่อว่า อดอาหารจนตายก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึงจะได้ขึ้นสวรรค์ 

ล่าสุด ทางการเคนยายังขุดพบร่างผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้สูงกว่า 300 คนแล้ว โดยเชื่อว่ายังมีผู้สูญหายอีกราว 600 คน นับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ เบื้องต้น นักบวชพอล แมคเคนซี ผู้นำลัทธิดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งยังให้การปฏิเสธและยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ยังมีรายงานระบุว่า สมาชิกลัทธิบางส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเคนยาพยายามที่จะอดอาหารจนเสียชีวิตตามความเชื่อของพวกเขา ขณะที่อยู่ภายในศูนย์พักฟื้นแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง

The post ชมคลิป: เปิดปมโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในเคนยา ลัทธิอดอาหารจนตาย จะได้ขึ้นสวรรค์? | GLOBAL FOCUS #29 appeared first on THE STANDARD.