ตลาดแชมเปญเจอปัญหายอดขายร่วง 2 ปีติด หลังผู้คนกังวลความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจนไม่มีอารมณ์สังสรรค์ กระทบยอดขาย LVMH ครึ่งแรกของปี 2024 ลดลงกว่า 15%

Comité Champagne รายงานว่า ตลาดแชมเปญกำลังเผชิญกับปัญหายอดขายที่ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกแชมเปญจากฝรั่งเศสไปยังประเทศอื่นๆ ในปี 2024 ลดลงมากกว่า 10% ส่วนตัวเลขปี 2023 ฝรั่งเศสส่งออกแชมเปญเพียง 153.2 ล้านขวด โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 3 ประเทศเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ส่วนในประเทศขายได้ 118.2 ล้านขวดเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• เจาะลึกทำไมเหล้าไม่โตเหมือนเบียร์? เบื้องหลังมาจากผู้คนประหยัดและปาร์ตี้น้อยลง…
• อยากเริ่มต้นสะสมไวน์ ต้องคำนึงอะไรบ้าง?
• สะสมไวน์ 101: จากนักดื่มผู้คลั่งไคล้ในรสชาติ จะก้าวขึ้นมาเป็น ‘นักสะสม’ ได้อย่างไร

โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดซบเซา เป็นเพราะผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ที่จะเฉลิมฉลอง เพราะกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งภาวะสงคราม เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ ล้วนมีผลให้คนไม่อยากจัดงานสังสรรค์ในช่วงนี้

Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LVMH กลุ่มธุรกิจสินค้าหรู กล่าวว่า การดื่มแชมเปญส่วนใหญ่จะเลือกดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญ แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่จะเฉลิมฉลอง ด้วยปัญหาต่างๆ ทั้งการเมืองและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายหลายอย่าง จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ยอดขายแชมเปญในครึ่งแรกของปี 2024 ลดลง 15%

โดยปัจจุบัน LVMH เป็นผู้ผลิตแชมเปญที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของ Dom Pérignon, Krug, Veuve Clicquot รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ซึ่งยังมั่นใจว่าตลาดยังมีโอกาสกลับมาสดใส และอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในปีที่แล้วคือบริษัทลงทุนขยายฐานการผลิตสปาร์กลิงไวน์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ป้อนตลาด แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุนแต่อย่างใด

David Chatillon ประธานสมาคมผู้ผลิตแชมเปญ ย้ำว่า แม้ธุรกิจแชมเปญจะเจอปัญหาตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในการเติบโต แต่ยังมีความมั่นคงและมีคุณค่าในตัวผลิตภัณฑ์เอง เพราะแชมเปญเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองในทุกๆ เทศกาล และนักดื่มทั่วโลกยังรู้จักกันเป็นอย่างดี

ภาพ:​​ PeopleImages.com-Yuri A / Shutterstock

อ้างอิง:

• https://qz.com/champagne-sales-down-because-no-time-for-celebration-1851746367
• https://edition.cnn.com/2025/01/20/food/champagne-sales-2024/index.html

The post ปัญหาเศรษฐกิจโลกทำผู้คนไม่มีอารมณ์สังสรรค์ กระทบยอดขาย ตลาดแชมเปญร่วง 2 ปีติด appeared first on THE STANDARD.

วัฒนธรรมการจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีหรือ ‘โบเนงไค’ ของบริษัทญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนไป เมื่อคนรุ่นใหม่หันมานัดสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานกลุ่มเล็กๆ แทนงานเลี้ยงใหญ่ขององค์กร สวนทางกับวัฒนธรรม ‘นอมุนิเคชัน’ ที่ใช้การดื่มสร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ซึ่งเมื่อ 10 ปีก่อนการปฏิเสธงานเลี้ยงปีใหม่ถือเป็นการไม่จงรักภักดีต่อองค์กร และอาจถูกมองว่าเป็นพนักงานที่สร้างปัญหา

Issei พนักงานวัย 20 ปลายๆ ของโรงแรมชื่อดังเผยว่า “หัวหน้าพยายามผลักดันให้ไปงานโบเนงไค แต่ผมไม่อยากไปจริงๆ ผมทำงานกับพวกเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว บางคนก็เป็นเพื่อนผม แต่ก็มีหลายคนที่ผมไม่อยากไปดื่มด้วย ผมไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว และรู้ว่าวันรุ่งขึ้นต้องตื่นมาพร้อมความรู้สึกแย่ๆ แต่ที่แย่ที่สุดคือความรู้สึกที่ต้องไปทั้งๆ ที่ไม่อยากไป”

นอกจากนี้แฟนสาวของเขาก็ลังเลที่จะไปงานเลี้ยงบริษัทในโตเกียวเช่นกัน ส่วนหนึ่งเพราะค่าใช้จ่ายในการดื่มที่ ‘อาฟเตอร์ปาร์ตี้’ ที่บริษัทไม่ออกให้มีราคาแพง โดยเฉพาะในช่วงที่โบนัสบริษัทไม่ได้งามเหมือนแต่ก่อน

ข้อมูลจาก Toreta Inc. บริษัทจองร้านอาหารในโตเกียวเผยว่า แม้จำนวนผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงปีใหม่จะฟื้นตัวหลังโควิด โดยเดือนธันวาคมนี้มีผู้จองร้านอาหารราว 574,972 คน คิดเป็น 99.5% ของตัวเลขในเดือนเดียวกันของปี 2019 

แต่การจองสำหรับกลุ่ม 10 คนขึ้นไปกลับลดลง 11.3% ขณะที่การจองสำหรับกลุ่ม 3-4 คนเพิ่มขึ้นกว่า 50% สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนยังต้องการสังสรรค์ แต่เปลี่ยนรูปแบบไปอย่างชัดเจน

Hiromi Iuchi จากสมาคมผู้ผลิตสาเกและโซจูแห่งญี่ปุ่นกล่าวว่า “คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พวกเขาไม่รู้สึกว่าต้อง ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ขององค์กรอีกต่อไป และหลายคนที่ไม่ชอบเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานก็กล้าที่จะหลีกเลี่ยงงานพวกนี้ เพื่อไปใช้เวลากับเพื่อนที่สนิทจริงๆ แทน”

ไม่เพียงคนรุ่นใหม่เท่านั้นที่พยายามหลีกเลี่ยงงานโบเนงไค แม้แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ใกล้เกษียณท่านหนึ่งก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงปีใหม่ของคณะเช่นกัน โดยกล่าวว่า “ผมไม่สนุกกับงานพวกนี้ และน่ารำคาญที่รู้สึกว่าต้องไป ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคนดื่มมากๆ อาจพูดหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสม และตัวตนที่แท้จริงอาจออกมา ผมจึงอยากหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แบบนั้น”

นิตยสาร Diamond Online เสนอกฎพื้นฐานเพื่อให้งานเลี้ยงสนุกขึ้น เช่น ห้ามเจ้านายพูดเรื่องงาน ไม่บังคับให้คนที่ไม่ชอบดื่มต้องดื่ม และหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาที่ละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง ประเด็นเพศสภาพ หรือแม้แต่ทีมกีฬาที่ชื่นชอบ 

อย่างไรก็ตาม มีความเห็นแตกต่างในคอมเมนต์ บางคนเชื่อว่างานสังสรรค์แบบนี้ยังมีที่ยืนในบริษัทสมัยใหม่ และเป็นเรื่องดีที่พนักงานจะได้ผ่อนคลายในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ 

แต่อีกหลายคนไม่เห็นด้วย โดยหนึ่งในนั้นระบุว่า “การสื่อสารอาจเสี่ยง ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะตีความอย่างไร” ขณะที่อีกคนเล่าว่า “สมัยก่อนงานเลี้ยงมีแต่การบรรยาย การคุกคามทางเพศ และการนินทาผู้บริหาร ผมเปลี่ยนงานมาที่ใหม่ก็ยังเจอบรรยากาศแย่ๆ งานเลี้ยงกลายเป็นโอกาสให้คนวิจารณ์กันเอง คนพากันหาข้ออ้างไม่ไปงาน”

ในขณะที่ผู้บริหารรุ่นเก่าอาจสงสัยว่าทำไมพนักงานไม่อยากใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกิน ดื่ม เล่าเรื่อง และร้องคาราโอเกะร่วมกัน แต่สำหรับพนักงานรุ่นใหม่ กิจกรรมเหล่านี้เป็นเพียงการต่อเวลาการทำงานที่พวกเขาอยากหลีกเลี่ยง สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างวัย และการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่นที่กำลังเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

อ้างอิง:

• https://www.scmp.com/week-asia/lifestyle-culture/article/3289218/japans-end-year-bonenkai-drinking-parties-downsize-enthusiasm-wanes

The post ปาร์ตี้ส่งท้ายปีแบบเดิมๆ ของญี่ปุ่น ‘กำลัง’ เปลี่ยนไป! คนรุ่นใหม่ ‘ไม่’ นิยมสังสรรค์กับบริษัท หันจัดปาร์ตี้เล็กกับแก๊งเพื่อนสนิทแทน appeared first on THE STANDARD.

โลกของเรามีผู้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 พันล้านคน รวมกันแล้วกว่า 4 แสนล้านลิตรต่อปี แต่ละคนก็ดื่มด้วยปัจจัยและเหตุผลที่ต่างกัน และปัจจุบันมีสถิติน่าสนใจหลายชิ้นชี้ไปในทางเดียวกันว่า คนรุ่นใหม่ทั่วโลกมีแนวโน้มดื่มแอลกอฮอล์ลดลงจากคนรุ่นก่อนมากพอสมควร แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเลขการดื่มในไทยกลับไม่ได้ลดไปพร้อมกัน

จริงหรือไม่ที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ดื่มน้อยลง แล้วทำไมตัวเลขในไทยถึงดูไม่ได้ลดลงอย่างที่ควรจะเป็นเหมือนกับหลายพื้นที่บนโลก สำรวจพฤติกรรมการดื่มของคนทั่วโลกที่อาจเริ่มเปลี่ยนไปได้ในรายการ KEY MESSAGES

เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์
ตัดต่อ: ธนวัฒน์ กางกรณ์

The post ชมคลิป: คนรุ่นใหม่ทั่วโลกดื่มน้อยลง ยกเว้นไทย? | KEY MESSAGES #151 appeared first on THE STANDARD.

สิ่งที่อยากชวนมาโฟกัสอย่างใส่ใจก่อนพาตัวเองไปปาร์ตี้ปีใหม่คือ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและต้องมีแผน แม้หลายคนอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และเพลิดเพลินกับทุกโอกาสการสังสรรค์ที่มาถึง แต่การปล่อยจอยอย่างไม่มีขีดจำกัดอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว การดูแลสุขภาพและร่างกายก่อนปาร์ตี้จะสามารถช่วยให้คุณรักษาความสมดุลและความแข็งแรงได้ ทำให้คุณเพลิดเพลินกับปาร์ตี้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีปัญหาสุขภาพที่ตามมา

LIFE จะขอพาไปสำรวจเคล็ดลับและวิธีการต่างๆ ที่จะสามารถช่วยให้คุณเตรียมตัวอย่างเหมาะสมสำหรับปาร์ตี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสิ่งที่จะกิน จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างเหมาะสม กำหนดเวลานอนหลับที่เพียงพอ หรือแม้แต่การออกกำลังกาย ซึ่งการทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ปาร์ตี้สนุกสนานยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถรักษาสมดุลของสุขภาพที่ดีในระยะยาวอีกด้วย

อย่าอดนอนก่อนไปปาร์ตี้ เพราะการนอนหลับที่เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนวันปาร์ตี้ จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับความสนุกอย่างเต็มที่ 

รักษาความแข็งแรงของร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มระดับพลังงานและสร้างความอดทนให้กับร่างกาย

สายดื่มห้ามลืมข้อนี้ นั่นคือการดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนวันปาร์ตี้ จะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและลดอาการเมาค้างหลังการดื่มแอลกอฮอล์

กินอย่างสมดุล เลือกอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนก่อนวันปาร์ตี้ จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานและสามารถรับมือกับแอลกอฮอล์ได้ดีขึ้น

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนมากเกินไป จะช่วยให้ร่างกายไม่เสียสมดุล เพราะหากมีปริมาณคาเฟอีนมากเกินไปจะยิ่งทำให้ขาดน้ำ 

ผ่อนคลาย ไม่เครียด ทำสมองให้โล่ง การมีเวลาสำหรับการผ่อนคลายและทำกิจกรรมที่ชอบจะช่วยปรับทั้งอารมณ์ ร่างกาย และจิตใจ ให้รู้สึกดี ส่งผลต่อบุคลิกที่มีเสน่ห์

วางแผนการดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีสติ ต้องรู้จักสภาพร่างกายของตัวเอง รู้จักวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับปริมาณแอลกอฮอล์ที่จะดื่มอย่างเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสในการดื่มเกินขนาดได้ 

การเตรียมยาไปด้วย (หากมีโรคประจำตัว) หากคุณมีอาการแพ้อาหารบางชนิด ควรมีการเตรียมยาหรืออาหารเสริมที่จำเป็นไว้ล่วงหน้าเผื่อฉุกเฉิน และหากมีอาการเมา ไม่ควรเมาแล้วขับเด็ดขาด

The post 8 เทคนิครักษาสุขภาพก่อนปาร์ตี้ไม่ให้ปีใหม่ทำร้ายคุณ appeared first on THE STANDARD.

วันศุกร์สิ้นเดือนนี้ นัดเพื่อนไปปลดปล่อยเถอะ

ไม่แน่ใจว่าใครเคยรู้สึกแบบนี้บ้าง “วันศุกร์สิ้นเดือนทั้งทีขอสนุกสุดๆ หน่อยเถอะ” และคงจะดีมากๆ ถ้าคุณสามารถรวมตัวแก๊งเพื่อนกันได้ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้สึก 1 เดือนที่ผ่านมา หรือไม่ถ้าคุณอยากสนิทกับเพื่อนร่วมงาน เราว่าโอกาสนี้เหมาะสมมากๆ ที่จะชวนคนในบริษัทไปแฮงเอาต์หลังเลิกงาน เชื่อเหลือเกินว่าถ้าได้ลองไปด้วยกันสักครั้ง มันจะทำให้คุณสนิทกับทีมมากขึ้น และจะส่งผลดีให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้นอีกด้วย

ไม่แน่ใจว่าถ้าคุณรวมแก๊งได้ คุณอยากจะไปสนุกกันแบบไหน เราเลยรวมลิสต์ 15 ร้านที่มีสไตล์แตกต่างกันเพื่อเป็นตัวเลือก แต่ทุกร้านจะคำนึงว่าต้องสนุกหลายๆ คนได้!

1. Sunray (BTS สนามเป้า)

นี่ถือเป็นร้านกินดื่มสุดฮอตในย่านสนามเป้า ถ้าอยากไปแนะนำให้จองล่วงหน้า จุดเด่นคือเดินทางสะดวก แค่มาลง BTS สถานีสนามเป้าก็ถึงเลย บรรยากาศภายในร้านจะออกสลัวๆ น่ามานั่งเมาท์กับเพื่อน ที่ร้านมีทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ เครื่องดื่มมีหลายรูปแบบ มีครบทุกสาย วิสกี้ เบียร์ ค็อกเทล และทางร้านก็มีซิกเนเจอร์ค็อกเทลหลายตัวที่ดื่มง่ายมากๆ 

ภาพ: Sunray

2. Baobao Bar (BTS สนามเป้า)

ถ้าใครกำลังหาร้านที่นั่งเมาท์กับเพื่อนสนุก นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งที่ ที่นี่มี 2 ชั้น เป็นร้านกินดื่มที่ตกแต่งเหมือนนั่งในคาเฟ่ บรรยากาศน่านั่งเมาท์กับเพื่อน แต่ถ้าใครสายร้องเพลง ร้านนี้เขามีดนตรีสดให้เราร้องตามได้เต็มที่ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นลุกขึ้นเต้นนะ ร้านนี้ก็เดินทางสะดวก เพราะอยู่ติด BTS สถานีสนามเป้า แค่ลงมาก็ถึงเลย

ภาพ: Baobao Bar

3. ลาดพริ้ว (ห้าแยกลาดพร้าว, MRT พหลโยธิน)

เด็กลาดพร้าวต้องรู้จักร้านนี้ ร้านกินดื่มตัวท็อปในย่านลาดพร้าว ที่บอกว่าท็อปคือต้องวางแผนจองคิวกันดีๆ ไม่งั้นไม่ได้นั่งแน่ บรรยากาศในร้านบอกได้คำเดียวว่าสนุก เหมือนได้มานั่งในบ้านเพื่อน มีดนตรีสด แถมอาหารที่นี่อร่อยมาก คือถ้าเลิกงานแล้วสามารถมากินข้าวเย็นที่นี่แล้วนั่งยาวๆ ได้เลย

ภาพ: ลาดพริ้ว

4. The Cassette (Groove centralwOrld, เอกมัย)

ถ้าใครเป็นแฟนเพลงไทยยุค 90 นี่คือตัวเลือกที่คุณต้องไปกับแก๊งเพื่อนให้ได้สักครั้ง เพราะแต่ละเพลงที่เขาเล่นจะพาเราย้อนวัยกลับไปในยุคนั้น ยิ่งถ้าได้ไปกับเพื่อนวัยเดียวกัน บอกเลยว่าไม่ยอมกลับแน่ๆ ร้านนี้มีหลายสาขา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย

ภาพ: The Cassette 

5. ODB (สาทร 12)

ร้านนี้เอาใจคนที่ทำงานแถวสาทรแล้วอยากหาร้านสไตล์เกาหลีนั่งหลังเลิกงาน นี่เป็นร้านเกาหลีที่มีเมนูหลากหลาย ทั้งจอน ไก่ทอด แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือโอเด้ง ที่นี่เขาจริงจังถึงขั้นมีหม้อโอเด้งฝังอยู่ในทุกๆ โต๊ะ แถมเครื่องดื่มก็มีหลากหลาย คุณสามารถเลือกแพริ่งกับอาหารได้เหมือนในซีรีส์เลย ใครออฟฟิศอยู่แถวสาทรต้องลองไปดูสักครั้ง

6. SoMaek (BTS, Airport Rail Link พญาไท)

ใครที่กำลังติดซีรีส์แล้วเห็นว่าในเรื่องเขาไปสังสรรค์กันในร้านที่เป็นเต็นท์สีแดงๆ ร้านนี้ให้อารมณ์แบบนั้นเลย ที่นี่มีอาหารและเครื่องดื่มครบในแบบที่ร้านเกาหลีควรจะมี บรรยากาศภายในร้านจะออกแนวสบายๆ มากินหลังเลิกงานได้แบบไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนชุด แถมที่นี่ยังเดินทางสะดวก ติดทั้ง BTS และ Airport Rail Link คือเราสามารถสนุกได้เต็มที่แบบไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางกลับเลย 

ภาพ: SoMaek

7. Overseoul (BTS สนามเป้า)

แก๊งใครบ้างที่เวลาสังสรรค์กันแล้วชอบเต้น ร้านนี้เหมาะกับคุณ นี่คือร้านเกาหลีที่ไปแล้วต้องเต้น คุณไม่มีทางจะฝืนนั่งได้นานหรอก เพราะทั้งร้านมีแต่คนเต้น! บรรยากาศภายในก็มาในสไตล์ร้านเกาหลีที่ออกแนวสนุกๆ ใครที่ซ้อมเต้นกับตัวเองหน้ากระจกอยู่แล้ว นี่คือโอกาสที่คุณจะได้เฉิดฉาย รีบนัดเพื่อนแล้วไปกันเลย

ภาพ: Overseoul

8. Ebisu Shoten (อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, พระโขนง)

เมื่อพูดถึงร้านกินดื่มหลังเลิกงานจะขาดร้านอิซากายะได้อย่างไร ร้านนี้คืออิซากายะที่มีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภท ที่สำคัญราคาสบายกระเป๋ามากๆ ทุกๆ วันศุกร์เราจะเห็นพนักงานบริษัทมากินเลี้ยงกันหลังเลิกงานที่ร้านนี้ ของที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับร้านนี้คือคุชิคัตสึ ถ้าใครเป็นคนชอบของทอด ร้านนี้ต้องไปให้ได้

ภาพ: Ebisu Shoten

9. Sekai No Yamachan

นี่คือร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่มีสาขาเยอะมากๆ ต้นตำรับของร้านนี้มาจากนาโกย่า เป็นร้านบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการมาสังสรรค์หลังเลิกงาน สำหรับใครที่เป็นคอเบียร์ ที่นี่เขาแช่แก้วเบียร์ไว้เย็นจัด สามารถดื่มแบบสดชื่นได้โดยไม่ต้องใส่น้ำแข็งเลย ยิ่งได้กินคู่กับปีกไก่ของทางร้านแล้วบอกเลยเข้ากันสุดๆ 

ภาพ: Sekai No Yamachan

10. Very Nice Bar (เจริญกรุง)

ร้านนี้จัดมาให้สำหรับใครที่อยากได้ร้านนั่งดื่มชิลๆ อาหารอร่อย และไม่ต้องตะโกนคุยกัน อาหารและเครื่องดื่มของที่ร้านจะเป็นแนวโมเดิร์นอิซากายะ เครื่องดื่มของที่ร้านก็มีหลากหลายสไตล์อิซากายะ และรสชาติเขาปรับมาให้ดื่มง่ายทุกเมนู สามารถดื่มกันเพลินๆ พร้อมกับกินอาหารอร่อยๆ ในบรรยากาศที่มีเพลงเบาๆ

ภาพ: Very Nice Bar

11. Rimshot (สุขุมวิท 22)

เชื่อว่าหลายคนเคยเห็นร้านนี้ผ่านไอจีสตอรีกันมาบ้างแล้ว ร้านนี้เป็นค็อกเทลบาร์ที่กำลังฮอตสุดๆ ในตอนนี้ อาจจะไม่เหมาะกับการไปแบบแก๊งใหญ่มาก เพราะร้านไม่ได้มีขนาดใหญ่ เรามองว่าไป 3-4 คนกำลังดี ที่นี่มีค็อกเทลดีๆ หลายตัว แต่ที่สำคัญคือบรรยากาศที่ทุกคนสนุกมาก บางทีคุณอาจเห็นคนไปยืนสนุกกันตรงหน้าบูธดีเจ เราแนะนำว่าอย่าลังเล ลากเพื่อนไปเต้นตรงนั้นเดี๋ยวนี้

12. Echelon (Marché Thonglor)

เป็นอีกหนึ่งบาร์ที่กำลังมาแรงมากๆ ในทองหล่อ ตัวร้านเป็นบาร์ที่หลัง 4 ทุ่มจะเปลี่ยนเป็นไนต์คลับ คือสามารถนั่งชิลกับเพื่อนได้ตอนเย็น พอเริ่มได้ที่ก็ลุกขึ้นมาเต้นได้ ค็อกเทลที่นี่ออกไปในโทนดื่มง่าย กลิ่นแอลกอฮอล์ไม่แรง ดื่มได้เรื่อยๆ ตัวร้านตกแต่งเป็นเหมือนขบวนรถไฟซึ่งมาจากซีรีส์เรื่อง Snowpiercer 

13. Paper Plane Project (BTS ทองหล่อ)

ร้านนี้จุดเด่นอยู่ที่นั่งยาวทั้งวันได้ ถ้าออฟฟิศใครไม่ซีเรียสว่าต้องเข้าไปทำงาน เราแนะนำว่าช่วงบ่ายของวันศุกร์หอบงานมาทำตั้งแต่บ่ายได้ เพราะที่นี่กลางวันเป็นเหมือน Co-working Space จากนั้นพอทำงานเสร็จก็สังสรรค์กันต่อได้เลย บรรยากาศในร้านดีมากๆ เห็นวิวเมืองย่านทองหล่อ เครื่องดื่มและอาหารก็มีหลายอย่าง แถมยังมีดนตรีสดอีกด้วย

ภาพ: Paper Plane Project

14. The Commons Saladaeng (ศาลาแดง)

ถ้าถามว่าแถวสีลม-ศาลาแดง แฮงเอาต์กับเพื่อนที่ไหนดี เราว่า The Commons ครบที่สุด เพราะคุณสามารถนั่งเมาท์กันในบรรยากาศสบายๆ หลังเลิกงาน มีดนตรีเบาๆ อาหารที่นี่ก็มีหลากหลาย เช่น ข้าวมันไก่ ไก่ทอด เบอร์เกอร์ พิซซ่า และอีกมากมาย เครื่องดื่มก็มีครบทุกสาย สาขานี้มีร้าน Cloud Wine ที่ขายไวน์ทีละแก้วให้มาชิมได้ด้วย

ภาพ: The Commons Saladaeng 

15. The Commons Thonglor (ทองหล่อ 17)

แต่ถ้าคนอยากแฮงเอาต์บรรยากาศชิลๆ ในสไตล์ The Commons สาขาทองหล่อก็คืออีกหนึ่งที่ที่พลาดไม่ได้ ความแตกต่างคือที่นี่จะให้อารมณ์เหมือนเราได้มานั่งเล่นในพื้นที่หลังบ้าน ใครอยากกินอะไรก็ไปสั่งแล้วมานั่งกินรวมกัน ยิ่งถ้าได้นั่งตรงขั้นบันไดยิ่งได้อารมณ์ความเป็นกันเองแบบสุดๆ

ภาพ: The Commons Thonglor

The post 15 แหล่งแฮงเอาต์เย็นวันศุกร์สิ้นเดือน เงินเดือนออกแล้วไปกินกัน appeared first on THE STANDARD.

ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะไปดื่มหลังเลิกงานเช่นเดียวกับชายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกเพราะไม่ต้องการไปปาร์ตี้ที่ต้องกินเหล้าและเล่าเรื่อง 18+ หลังเลิกงาน จนนำไปสู่การฟ้องร้องและชนะคดีเนื่องจากศาลสูงสุดของฝรั่งเศสมองเป็น ‘เสรีภาพขั้นพื้นฐาน’ ที่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการทำได้

ตามเอกสารที่ยืนฟ้องเผยว่า Mr.T ถูกไล่ออกจาก Cubik Partners บริษัทที่ปรึกษาในปารีสในปี 2015 หลังจากปฏิเสธที่จะเข้าร่วมสัมมนาและกิจกรรมทางสังคมในช่วงสุดสัปดาห์

ชายคนนี้เข้าร่วมบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งในปี 2014 แต่ถูกไล่ออกในอีกหนึ่งปีต่อมาด้วยข้อหา ‘ไร้ความสามารถทางวิชาชีพ’ โดยเฉพาะการที่เขาปฏิเสธที่จะยึดมั่นในค่านิยม ‘ความสนุกสนาน’

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• จะให้สร้างตัวในเศรษฐกิจแบบนี้? ‘ปล่อยให้เน่าไป’ แนวคิดล่าสุดของหนุ่มสาวชาวจีนที่ขอยอมแพ้กับชีวิต
• อยากได้งานดี แต่แค่คอมพิวเตอร์ยังไม่มีให้พนักงานใช้? ปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่องค์กรต้องรีบแก้ไข
• ‘โตไปอย่าเป็นแบบนี้’ ฮาร์วาร์ดจัดประเภท เจ้านาย หัวหน้า ที่ไม่น่ารัก 5 แบบที่ลูกน้องไม่อยากทำงานด้วย

คำว่า ‘สนุกสนาน’ ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับ ‘การกระทำที่น่าอับอายและล่วงล้ำ’ รวมถึงต้องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากและการล้อเลียนการกระทำทางเพศ

ต้นสังกัดยังวิจารณ์ว่าบางครั้งเขา ‘ใช้น้ำเสียงที่รุนแรงและบั่นทอนกำลังใจ’ ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และถูกกล่าวหาว่าไม่สามารถยอมรับคำติชมและมุมมองที่แตกต่างได้

สุดท้ายศาลสูงสุดของฝรั่งเศสตัดสินว่าชายคนนี้มีสิทธิใน ‘เสรีภาพในการแสดงออก’ และการปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมทางสังคมถือเป็น ‘เสรีภาพขั้นพื้นฐาน’ ภายใต้กฎหมายแรงงานและสิทธิมนุษยชน และไม่ใช่เหตุผลในการเลิกจ้างเขา

เพื่อเป็นการชดเชย ศาลสั่งให้บริษัทจ่ายเงินให้อดีตพนักงาน 3,114 ดอลลาร์ (3,000 ยูโร) อย่างไรก็ตาม เขาได้เรียกร้องเงินอีก 478,789 ดอลลาร์ (461,000 ยูโร) ซึ่งศาลจะพิจารณาในภายหลัง

ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดในโลก อายุขั้นต่ำตามกฎหมายสำหรับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะคือ 18 ปี แต่ไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่ส่วนตัว

น่าเสียดายที่การทำงานและปาร์ตี้มักจะไปควบคู่กันในหลายวัฒนธรรม ซึ่งการดื่มเป็นประจำแทบจะเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการเลื่อนตำแหน่งในองค์กร แต่ก็มีความพยายามที่จะต่อสู้กับวัฒนธรรมปาร์ตี้ เช่น ในปี 2018 WeWork ยกเลิกการดื่มเบียร์ฟรีไม่จำกัดที่สำนักงานในนิวยอร์กซิตี้

อ้างอิง:

• https://www.washingtonpost.com/world/2022/11/27/france-man-fired-company-drinking-culture/
• https://www.businessinsider.com/man-won-legal-right-not-be-fun-at-work-alcoholism-2022-11
• https://nypost.com/2022/11/25/frenchman-wins-the-right-to-be-no-fun-at-work/ 

The post ชายชาวฝรั่งเศสยื่นฟ้องหลังถูก ‘ไล่ออก’ เพราะไม่ต้องการไปปาร์ตี้ที่ต้องกินเหล้าและเล่าเรื่อง 18+ สุดท้ายชนะด้วยศาลมองเป็น ‘เสรีภาพขั้นพื้นฐาน’ appeared first on THE STANDARD.

ปาร์ตี้อย่างมีสติ! เมื่อน้ำและไวน์ถูกผลิตมาอยู่ในกล่องเดียว สิ่งนี้อาจช่วยเรื่องอาการเมาค้างได้หากได้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และล่าสุด Essentia Water แบรนด์น้ำดื่มอัลคาไลน์ชื่อดัง จับมือกับ House Wine เพื่อสร้างสิ่งพิเศษสำหรับสายสังสรรค์

Essentia Water & Wine กล่องที่สามารถบรรจุได้ทั้งน้ำดื่ม ไวน์ขาว และไวน์แดง ซึ่งหากพูดถึงปริมาณ เรียกได้ว่าสามารถสังสรรค์กันได้ทั้งคืนเลยทีเดียว เพราะในนั้นมีน้ำเทียบเท่ากับ 32 แก้ว พร้อมทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงอย่างละ 4 ขวด

ลักษณะของกล่องถูกแบ่งเป็นน้ำและไวน์ พร้อมทั้งมีหัวกดน้ำเพื่อความสะดวกสบายในการสังสรรค์ โดย Zola Kane หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดของ Essentia ได้เล็งเห็นปัญหาของสายปาร์ตี้ และอยากช่วยให้ช่วงเทศกาลนี้หลายบ้านมีเครื่องดื่มที่ครบครันมากขึ้น จึงเสนอสิ่งที่ขึ้นมา และสามารถใช้งานได้จริง

Water & Wine box มีจำหน่ายในจำนวนจำกัด โดยจะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 ในราคา 45.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,750 บาท) ที่เว็บไซต์ Original House Wine

ภาพ: Original House Wine

อ้างอิง:

• https://www.foodandwine.com/boxed-house-wine-water-same-box-6755062 

The post ไม่ต้องกลัวเมาค้างอีกต่อไปกับ Water & Wine Box กล่องที่มีทั้งน้ำและไวน์สำหรับสายปาร์ตี้ appeared first on THE STANDARD.

ทางการเกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการ Social Distancing สำหรับป้องกันการระบาดของโรคโควิด และเคอร์ฟิวเที่ยงคืนของร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวไม่ถือเป็นข่าวดีของหนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้เลย

สำหรับพนักงานออฟฟิศอายุน้อยบางคน การผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิดหมายถึงการกลับมาของ ‘Hoesik’ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมในสำนักงานที่มีมาช้านาน ซึ่งส่งเสริมให้มีการรวมตัวของบริษัท การประชุมสายสัมพันธ์มักจัดขึ้นนอกเวลาทำงาน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่อาหารเย็นแบบง่ายๆ ไปจนถึงการออกนอกบ้านในช่วงสุดสัปดาห์

“ในอดีต Hoesik ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีของกลุ่ม แต่ทุกวันนี้พนักงานรุ่นใหม่ถือว่า Hoesik เป็นการทำงานล่วงเวลา” กวางยองชิน ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยจุงอัง กล่าวกับ Insider พร้อมเสริมว่า ความรู้สึกดังกล่าวแพร่หลายในหมู่คนรุ่น MZ ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มคน Millennials และ Gen Z 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แม่ว่าอย่างนี้ต้องลาออก! Break My Soul เพลงใหม่จาก ‘บียอนเซ่’ ที่สะท้อนปรากฏการณ์ ‘การลาออกครั้งใหญ่’ ที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกา
• ผลวิจัยใหม่ Gen Z และ Millennials ยอม ‘ลาออก’ หรือ ‘ว่างงาน’ ถ้าต้องทำงานในบริษัทที่ ‘ไม่มีความสุข’

ชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุมากกว่ามองว่าการชุมนุมเหล่านี้เป็นการเข้าสังคม แต่สำหรับหลายๆ คนในรุ่น MZ การชุมนุมมีแนวโน้มที่จะ “เสริมสร้างวัฒนธรรมเผด็จการที่ชาวเกาหลีใต้อายุน้อยกว่าจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะไม่เข้าร่วมอีกต่อไป” ยุนดุกฮวาน บอกกับ BBC ในปี 2020

สำหรับหลายๆ คนทั่วโลกที่ชื่นชอบการทำงานจากที่บ้าน วัฒนธรรมในที่ทำงานเปลี่ยนแปลงไปเป็นหนึ่งในผลพลอยได้เพียงไม่กี่อย่างของโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับพนักงานชาวเกาหลีใต้ ซึ่งก่อนเกิดโรคระบาดเป็นที่รู้กันว่าต้องทำงานล่วงเวลา โดยมีการทำงาน 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และยังคงต้องออกไปสังสรรค์หลังเลิกงาน

อีริค ซอ ผู้จัดการฝ่ายขายวัย 30 ปีของธุรกิจสตาร์ทอัพบอกกับ Insider ว่า เขาโชคดีที่ไม่ต้องสัมผัสกับวัฒนธรรม Hoesik “(พวกเรา) ส่วนใหญ่ยังเด็กและไม่อยากปฏิบัติตามวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติ คุณสามารถปฏิเสธได้”

ชิน ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยากล่าวว่า “วัฒนธรรมในที่ทำงานได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเผยให้เห็นถึงความเป็นปัจเจกบุคคลที่สำคัญในหมู่คนรุ่นใหม่”

แม้ว่าพนักงานรุ่นใหม่จะมีความรู้สึกเชิงลบต่อ Hoesik แต่ ซูยงกู ศาสตราจารย์ด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยสตรีซุกมยอง ในกรุงโซล บอกกับ Reuters ว่า “คนงานอาวุโสจำนวนมากยังคงเชื่อว่าการรวมตัวกันดังกล่าวจำเป็นต่อการสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน”

“Hoesik ไม่ใช่แค่ดื่มหนักหลายชั่วโมงโดยเปล่าประโยชน์ แต่ยังเป็นวิธีการสื่อสารและเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม” แช ซึ่งอายุ 40 ปีและไม่เปิดเผยชื่อเต็มของเขา บอกกับ Korea Herald ในเดือนพฤศจิกายน

น่าเสียดาย สำหรับเพื่อนของซอบางคนที่บริษัทยังคงต้องปฏิบัติตามวัฒนธรรม Hoesik ด้วยการปฏิเสธคำเชิญของผู้บังคับบัญชาให้ออกไปเที่ยวหลังเลิกงานไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ซึ่ง “พวกเขารู้สึกกดดัน พวกเขารู้สึกว่าหากไม่ไปจะถูกมองว่าไม่เหมาะกับวัฒนธรรมของบริษัท” 

อย่างไรก็ตาม ชินบอกกับ Insider ว่า พนักงานอาวุโสยอมรับมากขึ้นต่อความลังเลใจของรุ่น MZ ที่มีต่อ Hoesik เพราะ “คนทำงานรุ่นเก่าตระหนักดีว่าคนรุ่นใหม่ค่อนข้างแตกต่างจากตัวเอง”

อ้างอิง:

• https://www.insider.com/young-south-koreans-dreading-return-hoesik-work-culture-office-2022-5 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post หนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้กำลังต่อสู้กับการกลับมาของ ‘Hoesik’ การบังคับให้ไปสังสรรค์หลังเลิกงานหรือวันหยุด เพราะมองเป็น ‘การทำงานล่วงเวลา’ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (11 มีนาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ ส.ส. พรรคเล็ก ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 พร้อมเปิดเผยว่า กลุ่ม ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค อยากรับประทานข้าวร่วมกันอยู่แล้ว ซึ่งวานนี้ (10 มีนาคม) สุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ โทรศัพท์มาเชิญว่าอยากให้มาร่วมด้วย ตนจึงเดินทางมาในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษ 

ส่วนความรู้สึกของพรรคเล็กที่ไม่ได้รับเชิญในการร่วมรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ต้องไปถามพรรคนั้นๆ เอง 

ส่วนกรณีที่สุรทินระบุว่า เป็นการนัดกินข้าวเพื่อนับนิ้วหรือเช็กเสียงพรรคเล็กนั้น ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่า ต้องไปถามเอง ส่วนจะเป็นนัยหรือกำหนดการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือจะชักชวนให้มาร่วมพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส ตอบว่า ส.ส. พรรคเล็กในส่วนนี้ ตนได้ดูแลมาตลอด 3 ปี โดยเฉพาะเรื่องการลงพื้นที่ ไม่ใช่เรื่องเงินทอง ซึ่ง ส.ส. กลุ่มนี้มีพื้นฐานมาจากภาคอีสาน และตนได้ลงพื้นที่ภาคอีสานบ่อยครั้ง จึงทำให้สนิทกับ ส.ส. กลุ่มนี้เป็นอย่างดี 

ร.อ. ธรรมนัส ยังระบุด้วยว่า ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะพูดถึงตัวเลขและเสียงสนับสนุนรัฐบาล เพราะต้องดูประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายในการเปิดประชุมสมัยหน้า และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจไทยมีหลักที่ชัดเจน โดยยึดมติพรรคเป็นที่ตั้ง 

นอกจากนี้ ร.อ. ธรรมนัส ยังกล่าวว่า ตนกับ ส.ส. พรรคเล็ก รักกันมานาน ไม่ได้เพิ่งมาสร้างภาพว่ารักกัน  และอย่าลืมว่าตนเป็นคนชวนพรรคเล็กมาร่วมรัฐบาล ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าบนโต๊ะอาหารพูดคุยอะไรกัน แต่อยากย้ำว่า การทำการเมืองต้องมีอุดมการณ์ของตัวเอง ไม่ใช่ชักเข้า-ชักออก ไม่เช่นนั้นประชาชนจะฝากความหวังไว้กับใคร  

ร.อ. ธรรมนัส ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มีการเตรียมสาขาพรรคเกือบ 90% แล้ว และยืนยันจะส่ง ส.ส. ครบทั้ง 400 เขต โดยวันที่ 18 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะทยอยเปิดชื่อคณะทำงานของพรรครวมถึงแคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรีในนามพรรค พร้อมระบุว่า นโยบายของพรรคเศรษฐกิจไทยมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งหากเปิดชื่อหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเชื่อว่าจะเปรี้ยงแน่นอน เพราะมีประสบการณ์และผ่านงานเศรษฐกิจมานาน

The post ธรรมนัสร่วมวงกินข้าวเที่ยงพรรคเล็ก เผยหัวหน้าทีมพรรคเศรษฐกิจไทยเปรี้ยงแน่ พร้อมส่ง ส.ส. ทั้ง 400 เขต appeared first on THE STANDARD.

นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร เผชิญกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังปรากฏรายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่นว่า เลขาธิการส่วนตัวของเขา ส่งอีเมลเชิญเจ้าหน้าที่รัฐราว 100 คน ไปร่วมงานดื่มสังสรรค์ที่สวนของบ้านหมายเลข 10 ถนนดาวนิง หรือทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงลอนดอน ช่วงที่มีการล็อกดาวน์ป้องกันโควิดเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020

ข่าวดังกล่าวถูกรายงานโดยสถานีโทรทัศน์ ITV ของอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ (10 มกราคม) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเผยแพร่อีเมลของ มาร์ติน เรย์โนลด์ส เลขาธิการส่วนตัวของจอห์นสัน ที่มีข้อความเชิญเจ้าหน้าที่รัฐบาล 100 คน ไปร่วมงานดื่มสังสรรค์แบบรักษาระยะห่าง ที่สวนของบ้านหมายเลข 10 ถนนดาวนิง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่อังกฤษกำลังบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และห้ามการรวมกลุ่มนอกบ้านของผู้คนจำนวนมาก

ข้อความในอีเมล เชิญชวนเจ้าหน้าที่ให้ไปร่วมสังสรรค์ หลังจากที่เผชิญภารกิจวุ่นวายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์ระบาดของโควิดในอังกฤษทวีความรุนแรง พร้อมระบุให้แขกนั้น ‘นำเหล้ามาเอง’

“สวัสดีทุกคน หลังจากช่วงเวลาที่ยุ่งวุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ เราคิดว่าคงจะดีถ้าได้ใช้สภาพอากาศที่น่ารักให้เต็มที่ และดื่มเครื่องดื่มแบบรักษาระยะห่างกันที่สวนหมายเลข 10 ในเย็นนี้” ข้อความในอีเมลระบุ

ข่าวที่ออกมาส่งผลให้ประชาชนและกลุ่มนักการเมืองจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ โดยกลุ่ม ส.ส. จากพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก พร้อมด้วย ส.ส. จากพรรคอนุรักษ์นิยมของจอห์นสัน เรียกร้องให้จอห์นสันออกมาชี้แจงและให้คำตอบว่าได้ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวด้วยหรือไม่ 

ขณะที่ด้าน ดักลาส รอสส์ ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมสกอตแลนด์ ระบุว่าจอห์นสันต้องออกจากตำแหน่ง หากพบว่าละเมิดกฎหมายควบคุมโควิด 

ด้านสำนักข่าว BBC ระบุคำบอกเล่าจากพยานอ้างว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน พร้อมด้วย แคร์รี จอห์นสัน ภริยา ได้ไปร่วมดื่มสังสรรค์ในงานดังกล่าว ท่ามกลางแขกที่ร่วมงานทั้งหมดราว 30 คน

ทั้งนี้ พรรคแรงงานได้เชิญรัฐบาลของจอห์นสันให้ตอบคำถามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนในสภาสามัญชน โดย ไมเคิล เอลลิส รัฐมนตรีงบประมาณ เป็นตัวแทนจอห์นสันในการเข้าตอบคำถาม ซึ่งเขาแสดงความมั่นใจในความซื่อสัตย์และศักดิ์ศรีของจอห์นสัน และชี้ว่าจอห์นสันนั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องนี้ และย้ำว่ากำลังมีการสืบสวนและรวบรวมข้อมูล ซึ่งรวมถึงการรวมกลุ่มในช่วงระหว่างวันที่ 15-20 พฤษภาคม 2020 

“นายกรัฐมนตรีไม่ไปไหน เขายังรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในประเทศนี้” เอลลิสกล่าว พร้อมทั้งชี้ถึงการสืบสวนว่า “จะก่อให้เกิดข้อเท็จจริง และหากมีการตัดสินว่ามีความผิดก็จะมีการดำเนินการทางวินัยที่จำเป็น”

ขณะที่ ซู เกรย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ จะเป็นผู้นำการสืบสวนกรณีนี้ ซึ่งครอบคลุมทั้งงานเลี้ยงนี้และงานชุมนุมอื่นๆ ที่จัดขึ้นในสถานที่ราชการช่วงปี 2020

ด้าน แองเจลา เรย์เนอร์ รองผู้นำพรรคแรงงาน กล่าวแสดงความผิดหวังที่จอห์นสันไม่มาตอบคำถามในสภาด้วยตนเอง พร้อมทั้งชี้ว่าประชาชนนั้นได้ข้อสรุปของตนในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ‘สามารถหนี แต่ไม่สามารถหลบซ่อน’ จากการตรวจสอบเรื่องงานเลี้ยงดังกล่าวได้ 

ภาพ: Photo by Tolga Akmen – WPA Pool/Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/uk-politics-59951671
• https://www.standard.co.uk/news/uk/boris-johnson-downing-street-prime-minister-cabinet-office-angela-rayner-b976006.html
• https://news.sky.com/story/downing-street-parties-paymaster-general-michael-ellis-says-boris-johnson-is-going-nowhere-despite-latest-allegations-12513632

The post นายกฯ อังกฤษเผชิญกระแสไม่พอใจ หลังสื่อแฉส่งอีเมลเชิญแขกนับร้อยร่วมงานดื่มสังสรรค์ช่วงล็อกดาวน์ appeared first on THE STANDARD.