การวิ่งมาราธอน – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 29 Oct 2024 11:33:43 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 โคลิน ฟาร์เรลล์ วิ่งเข็นเพื่อนที่ป่วยเข้าเส้นชัยในดับลินมาราธอน https://thestandard.co/colin-farrell-completes-dublin-marathon/ Tue, 29 Oct 2024 11:33:43 +0000 https://thestandard.co/?p=1001431 โคลิน ฟาร์เรลล์

โคลิน ฟาร์เรลล์ นักแสดงชื่อดัง เข้าร่วมวิ่งในรายการดับล […]

The post โคลิน ฟาร์เรลล์ วิ่งเข็นเพื่อนที่ป่วยเข้าเส้นชัยในดับลินมาราธอน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โคลิน ฟาร์เรลล์

โคลิน ฟาร์เรลล์ นักแสดงชื่อดัง เข้าร่วมวิ่งในรายการดับลินมาราธอน ณ บ้านเกิดที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยในช่วง 4 กิโลเมตรสุดท้าย เขาเข็นรถเข็นของ เอ็มมา โฟการ์ตี เพื่อนของเขาที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดหายาก เข้าเส้นชัยไปกับเขาด้วย

 

หลังจากเข้าเส้นชัยแล้ว ฟาร์เรลล์ก็เข้าไปกอดโฟการ์ตีอย่างเบามือ และพูดติดตลกกับเธอด้วยว่า “เราควรกลับไปวิ่งอีกครั้งไหม?”

 

โดยนักแสดงจากซีรีส์ The Penguin ตั้งใจกลับบ้านเกิดเพื่อมาร่วมวิ่งมาราธอนรายการนี้ และตั้งเป้าจะระดมทุนให้กับ Debra องค์กรการกุศลของไอร์แลนด์ที่ช่วยเหลือผู้คนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมที่รักษาไม่หาย

 

โดยที่ผ่านมา Debra ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องเจอกับโรคทางพันธุกรรมที่หลากหลาย อาทิ โรค Epidermolysis bullosa (ในไทยเรียกโรคดักแด้หรือโรคตุ่มน้ำทางพันธุกรรม) มาแล้วมากมาย

 

ในการวิ่งครั้งนี้เขาระดมเงินบริจาคได้มากถึง 8.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28.67 ล้านบาทเลยทีเดียว

 

ภาพ: Ramsey Cardy, Damien Storan – PA Images, Sam Barnes / Getty Images

อ้างอิง:

 

The post โคลิน ฟาร์เรลล์ วิ่งเข็นเพื่อนที่ป่วยเข้าเส้นชัยในดับลินมาราธอน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Amazing Thailand Marathon Bangkok ยืนยัน ‘คิปโชเก’ ร่วมวิ่งผ่าเมือง https://thestandard.co/atmbkk-2024-confirms-eliud-kipchoge/ Thu, 24 Oct 2024 13:16:18 +0000 https://thestandard.co/?p=999822

วันนี้ (24 ตุลาคม) สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรว […]

The post Amazing Thailand Marathon Bangkok ยืนยัน ‘คิปโชเก’ ร่วมวิ่งผ่าเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (24 ตุลาคม) สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ วิ่งผ่าเมือง ซีซั่น 7 หรือ Amazing Thailand Marathon Bangkok ครั้งที่ 7

 

โดยความพิเศษในปีนี้คือการเชิญตำนานนักวิ่งมาราธอนของโลก เอเลียด คิปโชเก อดีตเจ้าของสถิติโลก และเจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกมาเข้าร่วมงาน โดยยังมี NN Running Team ทีมวิ่งอันดับ 1 ของโลกมาร่วมวิ่งและทำกิจกรรมต่างๆ มากมายในงานนี้อีกด้วย

 

โดย ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณ NN Running Team และ เอเลียด คิปโชเก ที่ตอบรับคำเชิญจาก ททท. ในฐานะ ‘ทูตของการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเป็นทางการ’

 

“ถือว่าประเทศไทยโชคดีมากที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ คิปโชเกและทีมจะติดโลโก้ Amazing Thailand บนชุดแข่งขันและชุดฝึกซ้อมตลอดทั้งปี ซึ่งตรงนี้จะสร้างการรับรู้เป็นอย่างมากจากฐานแฟนคลับจำนวนหลายร้อยล้านคนของคิปโชเกและทีม

 

“นอกจากนี้ยังมีการทำภาพยนตร์โฆษณากับ ททท. โดยทำประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ ที่ครอบคลุมทั่วโลกอีกด้วย โดยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางมาร่วมวิ่งในงานนี้ จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมต้อนรับคิปโชเกตลอดทั้งสัปดาห์เป็นจำนวนหลายหมื่นคน ก่อให้เกิดรายได้สู่ระบบท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก”

 

ทางด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ผมให้ความสำคัญกับงานนี้เป็นอย่างมาก ถือว่าการแข่งขันรายการนี้เป็นรายการวิ่งมาราธอนที่สำคัญที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร ผมเคยร่วมวิ่งในรายการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง เห็นพัฒนาการของการจัดงานที่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ปีนี้ตนมั่นใจว่าคณะกรรมการจัดงานฯ จะทำออกมาได้ดีอย่างแน่นอน”

 

สำหรับ Amazing Thailand Marathon Bangkok รัฐบาลไทยประกาศให้เป็นกิจกรรมหลักที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสู่ประเทศไทยในช่วงปลายปี ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมากกว่า 900 ล้านบาทเลยทีเดียว

The post Amazing Thailand Marathon Bangkok ยืนยัน ‘คิปโชเก’ ร่วมวิ่งผ่าเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ททท. จับมือกับ เอเลียด คิปโชเก ส่งเสริมไทยเป็นปลายทางนักวิ่งในเอเชีย https://thestandard.co/tat-joins-hands-with-eliud-kipchoge/ Thu, 24 Oct 2024 10:01:21 +0000 https://thestandard.co/?p=999685

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความร่วมมืออย่า […]

The post ททท. จับมือกับ เอเลียด คิปโชเก ส่งเสริมไทยเป็นปลายทางนักวิ่งในเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ เอเลียด คิปโชเก ตำนานนักวิ่งมาราธอน และทีมของเขาอย่าง NN Running Team เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของเอเชียสำหรับนักวิ่งทั่วโลก 

 

จากแถลงการณ์ของ NN Running Team ระบุว่า พวกเขาและคิปโชเกจะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในความร่วมมือนี้ โดยจะให้ทั้งนักกีฬาในทีมและเจ้าหน้าที่มาสำรวจประเทศไทยเพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดกับนักกีฬาในท้องถิ่น พร้อมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมการเตรียมตัววิ่งมาราธอนอย่างยั่งยืน 

 

นอกจากนี้ NN Running Team ยังยืนยันว่า พวกเขาจะสนับสนุนชุมชนนักวิ่งชาวไทย เพื่อให้สอดคล้องไปกับการพัฒนาของตลาดการวิ่งในเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 

 

โดย เอเลียด คิปโชเก จะเดินทางมายังประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมในฐานะทูต และจะเข้าร่วมงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok (ATMBKK2024) ซึ่งเขาจะเข้าร่วมงานวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจนักวิ่ง 33,000 คนที่เข้าร่วมงานด้วย

 

อดีตเจ้าของสถิติโลกระยะมาราธอนกล่าวว่า “ผมเดินทางมาเอเชียบ่อยครั้ง และผมมีความทะเยอทะยานที่จะพัฒนากีฬาวิ่ง เพื่อให้ผู้คนมีความสุขและมีสุขภาพดีขึ้น 

 

“โลกของนักวิ่งในเอเชียมีศักยภาพมหาศาล และผมยินดีที่ได้เริ่มทำงานร่วมกับ Amazing Thailand เพื่อส่งเสริมการวิ่งในภูมิภาคเอเชีย 

 

“ผมพูดเสมอว่าผมต้องการทำให้โลกใบนี้เป็นโลกแห่งการวิ่ง เพราะโลกแห่งการวิ่งคือโลกที่มีความสุข โลกแห่งการวิ่งคือโลกที่มีสุขภาพดี และโลกแห่งการวิ่งคือโลกที่สงบสุข ความร่วมมือนี้ช่วยเติมเต็มความทะเยอทะยานส่วนตัวของผม”

 

ภาพ: Marvin Ibo Guengoer / Getty Images

อ้างอิง:

The post ททท. จับมือกับ เอเลียด คิปโชเก ส่งเสริมไทยเป็นปลายทางนักวิ่งในเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘SuperHalfs Series’ 6 สุดยอดรายการฮาล์ฟมาราธอนเอาใจสายวิ่ง https://thestandard.co/superhalfs-series/ Thu, 10 Oct 2024 06:00:44 +0000 https://thestandard.co/?p=994073 SuperHalfs Series

หลายคนอาจรู้จัก World Major Marathon รายการวิ่งมาราธอนท […]

The post ‘SuperHalfs Series’ 6 สุดยอดรายการฮาล์ฟมาราธอนเอาใจสายวิ่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
SuperHalfs Series

หลายคนอาจรู้จัก World Major Marathon รายการวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้ง 6 รายการอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการวิ่งในระยะ 42.195 กิโลเมตรเช่นกัน นั่นคือ SuperHalfs Series รายการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระดับโลก 6 รายการ

 

และนี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายวิ่งที่ THE STANDARD SPORT อยากแนะนำให้รู้จักกัน

 

 

SuperHalfs Series นับเป็นซีรีส์วิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ดีที่สุด 6 รายการ โดยทั้งหมดจัดการแข่งขันในยุโรป ซึ่งเพียบพร้อมทั้งการจัดการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและสาธารณูปโภคต่างๆ

 

 

Sports Tours International ในฐานะองค์กรที่จัดตั้ง SuperHalfs Series เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการวิ่งระยะไกลอย่างมาราธอน 42.195 กิโลเมตร และการวิ่ง 21.1 กิโลเมตร เป็นการวิ่งที่เหมาะสำหรับนักวิ่งทั่วไปมากกว่า ทำให้ SuperHalfs Series เกิดขึ้น

 

SuperHalfs Series

 

ในขณะที่ World Major Marathon ไม่กำหนดระยะเวลาในการวิ่งให้ครบทั้ง 6 รายการ เพื่อคว้าเหรียญ Six Star Medal (หรือที่ชาวไทยเรียกว่าเหรียญพอน เดอ ริง) แต่ SuperHalfs Series กำหนดเวลาไว้ที่ 60 เดือน หรือ 5 ปี เนื่องจากการพิชิตฮาล์ฟมาราธอนทำได้ง่ายกว่า และต้องการให้นักวิ่งลงแข่งขันอย่างต่อเนื่องเพื่อท้าทายตัวเอง

 

 

ทั้ง 6 สนามจะเป็นสนามที่ตั้งอยู่ในยุโรป ซึ่งเป็นประเทศที่มีสาธารณูปโภคที่ยอดเยี่ยม และยังง่ายต่อการเดินทาง แม้โปรแกรมของทั้ง 6 สนามจะมีบางรายการที่จัดชนกันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะพิชิตทั้ง 6 รายการในเวลาราว 2-3 ปี

 

 

ด้วยความที่มีคอนเซปต์เดียวกับ World Major Marathon แต่อาจท้าทายกว่าในแง่ของกรอบเวลา ทว่าพิชิตได้ง่ายกว่าในแง่ระยะทาง ทำให้ SuperHalfs Series เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายวิ่งอย่างแท้จริง

 

ภาพ: SuperHalfs / Facebook, Anadolu / Getty Images

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

อ้างอิง:

The post ‘SuperHalfs Series’ 6 สุดยอดรายการฮาล์ฟมาราธอนเอาใจสายวิ่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทามิรัต โทลา นักวิ่งจากเอธิโอเปีย ผงาดเหรียญทอง คิปโชเกแข่งไม่จบในการวิ่งมาราธอน โอลิมปิก 2024 https://thestandard.co/paris2024-10082024-12/ Sat, 10 Aug 2024 11:16:28 +0000 https://thestandard.co/?p=969870 ทามิรัต โทลา หรียญทอง วิ่ง มาราธอน โอลิมปิก 2024

จบลงไปแล้วสำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอน (ชาย) โอลิมปิกเกม […]

The post ทามิรัต โทลา นักวิ่งจากเอธิโอเปีย ผงาดเหรียญทอง คิปโชเกแข่งไม่จบในการวิ่งมาราธอน โอลิมปิก 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทามิรัต โทลา หรียญทอง วิ่ง มาราธอน โอลิมปิก 2024

จบลงไปแล้วสำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอน (ชาย) โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 บนเส้นทางประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษอย่างปารีส-แวร์ซาย-ปารีส ที่สะท้อนเส้นทางการเดินขบวนในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส

 

โดยผลการวิ่งร่วม 2 ชั่วโมง ผู้ชนะคือ ทามิรัต โทลา นักวิ่งจากเอธิโอเปีย และแชมป์โลก 2022 ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 02:06:26 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากคว้าเหรียญทองไปครองแล้ว ยังทำลายสถิติโอลิมปิกของ ซามูเอล วานจีรู จากเคนยาที่เคยทำได้ 02:06:32 ชั่วโมง ในปักกิ่งปี 2008

 

นอกจากนั้น เหรียญเงินเป็นของ บาเชียร์ อับดี จากเบลเยียม กับเวลา 02:06:47 ชั่วโมง และเหรียญทองแดงเป็นของ เบนสัน คิปรูโต นักวิ่งจากเคนยาวัย 33 ปี กับเวลา 02:07:00 ชั่วโมง

 

ขณะที่ เอเลียด คิปโชเก ปอดเหล็กวัย 39 ปีจากเคนยา ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ริโอ 2016 และโตเกียว 2020 วิ่งไม่จบแข่งขัน (เป็น Did Not Finish ครั้งแรกในโอลิมปิก) หลังถอนตัวช่วงเข้าสู่กิโลเมตรที่ 30

 

 

ภาพ: Andrej Isakovic, Anne-Christine Poujoulat, Odd Andersen, Kirill Kudryavtsev / AFP

 


 

ติดตามการแข่งขัน โอลิมปิก ปารีส 2024 – Paris 2024 Olympic Games ได้ที่

The post ทามิรัต โทลา นักวิ่งจากเอธิโอเปีย ผงาดเหรียญทอง คิปโชเกแข่งไม่จบในการวิ่งมาราธอน โอลิมปิก 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุกแคมปัส Garmin ดู DNA ความเก๋าจากแบรนด์ GPS สู่สมาร์ทวอทช์ ครบรอบ 35 ปี https://thestandard.co/life/garmin-35-years-campus-tour Mon, 03 Jun 2024 10:50:37 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=940786 Garmin

เมื่อพูดถึง Garmin (การ์มิน) คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดีกับก […]

The post บุกแคมปัส Garmin ดู DNA ความเก๋าจากแบรนด์ GPS สู่สมาร์ทวอทช์ ครบรอบ 35 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Garmin

เมื่อพูดถึง Garmin (การ์มิน) คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดีกับการเป็นแบรนด์สมาร์ทวอทช์ ที่เหล่าคนรักการออกกำลังกายและทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ความไว้วางใจ แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ แบรนด์ Garminมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี GPS ก่อนต่อยอดมาสู่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการบิน (Aviator) และทางน้ำ (Marine) จากนั้นก็พัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถย่อส่วนทุกอย่างที่ดีให้มาอยู่ในสมาร์ทวอทช์ ที่เราสามารถสวมใส่ติดตัวไปได้ทุกที่ แม้จะอยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยก็ตาม

 

ตลอดระยะเวลา 35 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ โดย Gary Burrell และ Dr.Min Kao (จะเห็นว่าชื่อแบรนด์มาจากชื่อของสองผู้ก่อตั้งนั่นเอง) สิ่งเหล่านี้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความสามารถอันเหนือชั้นของ Garminที่สามารถ ‘พัฒนาและปรับตัว’ ให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างรวดเร็ว จากผู้นำด้านเทคโนโลยี GPS ของเครื่องบินและเรือ ได้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ทวอทช์ที่ครองใจคนทั่วโลก

 

 

บทความชิ้นนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปดูเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ Garmin หลังเราได้ไปเยือนแคมปัสของพวกเขาที่โอเลเธอ ในเมืองแคนซัส สหรัฐอเมริกา และพูดคุยกับซีอีโอ Clifton Pemble ถึงสิ่งที่ทำให้แบรนด์ Garmin ประสบความสำเร็จ และสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่หมุนไวขึ้นทุกวันได้อย่างสง่างาม

 

อาวุธลับคือความสามารถในการปรับตัว

 

คนกลาง: ซีอีโอ Clifton Pemble

 

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น หากบริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี บริษัทย่อมล้าหลังอย่างรวดเร็ว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าจุดเริ่มต้นของGarmin ไม่ใช่สมาร์ทวอทช์ แต่เป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ‘ยาก’ อย่างเครื่องบินและเรือ เราจึงต้องยอมรับว่า Garminนั้นเชี่ยวชาญศิลปะการปรับตัวมาก เพราะพวกเขาไม่ได้ยึดติดกับสูตรสำเร็จที่ล้าสมัย หรือความสำเร็จในอดีต

 

Garmin Garmin

 

แต่ Garminนำเทคโนโลยีหลักที่ใช้กันในเครื่องบินและเรือ มาใช้กับตลาดใหม่ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น สินค้าที่สวมใส่ได้ (Wearable Product) และสมาร์ทวอทช์ที่ตอนนี้กลายเป็นสินค้าทำเงินของแบรนด์

 

ปัจจุบันตลาดของGarmin  มี 5 ประเภท ได้แก่ ฟิตเนส, กิจกรรมกลางแจ้ง, เครื่อง,บิน เรือ และ OEM ให้กับแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ความแม่นยำ การมอบข้อมูลเชิงลึก และประหยัดพลังงาน

 

Garmin

อุปกรณ์ Garminในเรือยอชต์

 

ร่วมมือกับแบรนด์รถยนต์ผลิต OEM Automotive

 

หัวใจสำคัญอยู่ที่การโฟกัสลูกค้า (Customer Focus)

 

 

ตลอดระยะเวลาที่พบปะกับผู้บริหารและพนักงานของGarmin  เราพบว่าหนึ่งในความสำเร็จของ Garmin คือ มีความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ สิ่งที่ผู้บริหารหลายคนพูดอยู่เสมอคือ “พวกเขาไม่ได้แค่ผลิตอุปกรณ์ให้ลูกค้า แต่สิ่งที่Garmin ทำคือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนไล่ตามความฝัน”

 

แน่นอนว่าแม้จะเป็นสินค้าเดียวกัน แต่ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่ต่างกันเยอะ ความใส่ใจยังสะท้อนให้เห็นถึงไลน์สินค้าที่หลากหลาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าลูกค้ามีความต้องการเฉพาะทางที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีทางที่สมาร์ทวอทช์รุ่นเดียวจะตอบโจทย์ทุกกิจกรรมหรือทุกความสนใจ นั่นจึงเป็นที่มาของสมาร์ทวอทช์ที่มีมากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะสำหรับนักวิ่ง นักปั่น ดำน้ำ เดินป่า การติดตามการนอน ฯลฯ ตั้งแต่รุ่นไฮเอนด์สำหรับนักกีฬาชั้นนำ ไปจนถึงรุ่นสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน

 

Garmin

Garmin มีสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์ความสนใจ และการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ

ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ

 

รวมถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับความสนใจอื่นๆ เช่น ขับเครื่องบิน ล่องเรือ ตกปลา ฯลฯ คนเหล่านี้ล้วนมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานของเขาจริงๆ

 

Garmin

อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อสำรวจสภาพพื้นที่ใต้น้ำสำหรับนักตกปลา

 

Garmin

ห้องสำหรับทดสอบผลิตภัณฑ์ทางการบินของแบรนด์

 

นอกจากนั้น Garminยังมีจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน เพราะสินค้าส่วนใหญ่ของGarmin ใช้พลังงานต่ำ ทำให้มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นสัปดาห์ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของแบรนด์เช่นกัน

 

มีวัฒนธรรมแห่งการออกกำลังกาย (A Culture of Fitness) เป็นรากฐานของแบรนด์ 

 

 

เมื่อได้ไปเยือนแคมปัสแห่งนี้ เราพบว่าสิ่งที่ทำให้ Garminแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ได้แก่ วัฒนธรรมการทำงานขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Well-being ของพนักงาน แทนที่วันๆ เอาแต่นั่งทำงาน Garminกลับให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งเสริมเรื่องสุขภาพ และการออกกำลังกายของพนักงาน 

ล่าสุดทางแบรนด์เพิ่งปรับโฉมแคมปัสครั้งใหญ่ เราได้เห็นพื้นที่อย่าง Well-being Centre ที่มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่มาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย พื้นที่ออกกำลังกายอเนกประสงค์ คลาสโยคะ คลาสปั่นจักรยาน สนาม Pickleball และสนามบาสเกตบอลในร่ม สนามฟุตบอลกลางแจ้ง ฯลฯ นอกจากนี้ในโรงอาหารยังมีอาหารสุขภาพไว้เป็นทางเลือกสำหรับพนักงานอีกด้วย

 

Garmin

ภายในแคมปัสหรือสำนักงานใหญ่ของ Garmin มี Well-being Centre สนับสนุนให้คนออกกำลังกาย

 

เหล่านี้เป็นสิ่งที่ Garminทำให้พนักงาน ซึ่งพนักงานสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องแวะมาตอนเช้าก่อนเข้างาน หรือหลังงานเลิก

 

เราคิดว่าข้อดีของเรื่องนี้คือพนักงานส่วนใหญ่รักการออกกำลังกาย และใช้สินค้าของGarmin อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักผลิตภัณฑ์ของตัวเองดี และรู้ว่าสิ่งที่ขาดไปคืออะไร

 

นอกจากนั้น Garminยังส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา (Culture of Intellectual Curiosity) และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้พนักงานท้าทายตัวเองและกล้าแหวกไปสู่แนวคิดใหม่ๆ นี่เองที่ช่วยให้ Garminพัฒนาสินค้าของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

มองไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมที่มาพร้อม Human Touch

 

เราคิดว่าสิ่งสำคัญของ Garminหลังจากนี้คือ การเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าสุขภาพ การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในวงการเทคโนโลยี

 

Garmin

Garmin Hangar สำหรับไฟลต์เดโมด้วยเครื่องบินที่มีอุปกรณ์Garmin

 

เราคาดหวังว่าจะได้เห็น Garminนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ซึ่งมีอยู่แล้วในบางฟีเจอร์ถูกนำมาใช้มากขึ้น รวมถึง Virtual Reality ที่ผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงยึดมั่นในมิชชันหลักของแบรนด์ อย่างการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อGarmin มีแนวทางปฏิบัติที่ได้ทำไปแล้ว เช่น การลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกในสินค้าใหม่ๆ และการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในอนาคตทางแบรนด์เองก็มีแผนที่จะยกระดับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

 

ภาพ:Garmin

The post บุกแคมปัส Garmin ดู DNA ความเก๋าจากแบรนด์ GPS สู่สมาร์ทวอทช์ ครบรอบ 35 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
อะไรที่ทำให้ชาวแอฟริกันผูกขาดแชมป์มาราธอน? https://thestandard.co/what-makes-african-marathon-champion/ Thu, 16 May 2024 00:29:58 +0000 https://thestandard.co/?p=931652 มาราธอน

เอเลียด คิปโชเก, เคลวิน คิปตัม, เคเนนิซา เบคเคเล, ซิเซย […]

The post อะไรที่ทำให้ชาวแอฟริกันผูกขาดแชมป์มาราธอน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาราธอน

เอเลียด คิปโชเก, เคลวิน คิปตัม, เคเนนิซา เบคเคเล, ซิเซย์ เลมมา, เบนสัน คิปรูโต, เดนนิส คิเมตโต, ทิกิสต์ อัสเซฟา, บริจิด คอสเก และ รูธ เชปเงติช เหล่านี้คือชื่อนักวิ่งระยะไกลชั้นนำของโลก แต่ไม่ว่าชื่อที่กล่าวมาจะเป็นชายหรือหญิง พวกเขาและเธอมีจุดร่วมเดียวกันคือ การเป็นชาวแอฟริกัน

 

แม้แต่ ซีฟาน ฮัสซัน ยอดนักวิ่งระยะไกลหญิงแห่งเนเธอร์แลนด์ ก็ยังมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ เอธิโอเปีย

 

ยอดนักวิ่งระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นระยะฮาล์ฟมาราธอนหรือระยะมาราธอนนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นชาวแอฟริกัน หรือหากให้ระบุลึกลงไปกว่านั้นคือ พวกเขาและเธอล้วนแล้วแต่เป็นชาวแอฟริกันแถบแอฟริกาตะวันออก แถบเคนยา เอธิโอเปีย ยูกันดา และแทนซาเนีย ทั้งสิ้น

 

ดังนั้นจึงเกิดคำถามที่น่าสนใจว่า ‘เพราะอะไรเชื้อสายชนชาติจากประเทศแถบนี้ถึงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในการวิ่งระยะไกล จนสามารถผูกขาดความสำเร็จในกีฬาชนิดนี้ได้?’

 

แล้วอะไรถึงทำให้พวกเขาและเธอเหล่านี้วิ่งระยะไกลได้ยอดเยี่ยมชนิดที่ไม่มีชนชาติหรือเผ่าพันธุ์ใดในโลกทำได้ 

 

BORN to RUN

 

มาราธอน

 

ความสงสัยว่าทำไมชาวแอฟริกันแถบแอฟริกาตะวันออกถึงผูกขาดความยอดเยี่ยมในการทำสถิติโลกการวิ่งระยะไกลทั้งมาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน หรืออาจจะรวมไปถึงระยะ 10,000 เมตร และ 5,000 เมตรนั้น นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมามีผู้คนมากมายทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักเขียน นักข่าว หรือคอลัมนิสต์สายกีฬา พยายามค้นหาคำตอบในเรื่องนี้มาก่อนแล้ว

 

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ชาวแอฟริกันเป็นนักวิ่งที่ยอดเยี่ยม หนึ่งในเรื่องที่ถูกพูดถึงกันเป็นอันดับแรกๆ คือ เรื่องของ ‘ยีน’ ที่ส่งต่อกันมาตามสายเลือดในเผ่าพันธุ์

 

ยีนตัวนี้ทำให้พวกเขามีร่างกายที่ผอมกว่าชนชาติอื่นๆ มีการบันทึกสถิติว่า นักวิ่งชาวแอฟริกามีน้ำหนักโดยเฉลี่ยน้อยกว่าชาวยุโรปอยู่ที่ 400 กรัม ซึ่งเหตุผลนี้เองที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบในการวิ่งระยะไกลอยู่เล็กน้อย

 

จากข้อมูลค้นพบว่า นักวิ่งเคนยาส่วนใหญ่มาจากชนเผ่าพื้นเมืองชื่อคาเลจิน (Kalejin) ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มพยายามอธิบายว่า ยีนของเผ่าคาเลจินมีส่วนช่วยให้พวกเขาสามารถวิ่งได้อึดกว่ามนุษย์ทั่วไป

 

โดยนักวิทยาศาสตร์จาก National Institute of Health (NIH) พบว่า ยีนของคนแอฟริกันตะวันออกในประเทศเคนยา เอธิโอเปีย และยูกันดา มีความแตกต่างจากคนแอฟริกันตะวันตกอย่างไอวอรีโคสต์ เซเนกัล หรือกานา

 

ร่างกายของชาวแอฟริกันตะวันตกมียีนที่จะสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่าชาวแอฟริกันตะวันออก นั่นทำให้กล้ามเนื้อของพวกเขาสามารถระเบิดพลังงานสูงสุดในระยะสั้นๆ ได้ดีกว่า กล่าวคือพวกเขาจะสร้างกล้ามเนื้อได้ง่ายกว่า มัดใหญ่กว่า รับแรงปะทะได้มากกว่า แต่ในระยะยาวจะไม่อึดและทนทานเท่านักกีฬาแอฟริกันตะวันออก

 

นั่นพอจะอธิบายได้เบื้องต้นว่า ชาวแอฟริกันตะวันออกถึงพอจะเรียกได้ว่า ‘เกิดมาเพื่อวิ่ง’ อย่างแท้จริง

 

‘อิเตน’ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวิธีมาราธอน

 

 

นอกจากร่างกายที่เหมาะสมสำหรับการวิ่ง ซึ่งมาพร้อมกับยีนของชาวคาเลจินอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ส่งเสริมพรสวรรค์ที่ได้มาพร้อมกับร่างกายของพวกเขาคือสภาพแวดล้อม

 

ชาวเคนยาจะมีศูนย์ฝึกวิ่งระยะไกลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอยู่ที่อีเตน เมืองเล็กๆ ในหุบเขาริฟต์วัลเลย์ ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร

 

สถานที่แห่งนี้นับเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักวิ่งเลยก็ว่าได้ เพราะอิเตนไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เท่านั้น แต่มันยังครอบคลุมไปถึงการฝึกซ้อม การกิน การอยู่ หรืออาจเรียกรวมได้ว่าเป็นวิถีชีวิตเลยทีเดียว

 

โดยมีคำนิยามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ว่าวิถีแห่งอิเตน หรือ Iten Way

 

โดยเมื่อ 15 ปีก่อน อาดาห์ราแนนด์ ฟินน์ นักวิ่งและนักเขียนจากสหราชอาณาจักร ได้เดินทางไปยังอิเตน เพื่อใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นและเก็บข้อมูลเคล็ดลับความสำเร็จในการวิ่งของพวกเขา ก่อนจะกลายเป็นหนังสือ Running with the Kenyans ที่โด่งดังไปทั่วโลก

 

ซึ่งฟินน์สรุปว่า กุญแจสู่ความสำเร็จของบรรดานักวิ่งเคนยานั้นมีอยู่ 3 อย่าง นั่นคือ การดำรงชีวิต ภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม และทั้ง 3 ปัจจัยนั้นกลายเป็นสิ่งที่หาได้ เฉพาะที่อิเตนเท่านั้น

 

เคล็ดไม่ลับจากวิถีแห่งอิเตน

 

มาราธอน

 

นอกจาก อาดาห์ราแนนด์ ฟินน์ แล้ว ยังมีอีกหลายคนที่เคยเข้าไปใช้ชีวิตที่อิเตน ซึ่งปัจจุบันดึงดูดนักวิ่งมากหน้าหลายตาให้ไปเก็บตัวเพื่อเตรียมการแข่งขันที่นั่น ทำให้วิถีแห่งอิเตนไม่ใช่ความลับอีกต่อไป 

 

โดยครั้งหนึ่ง เนล โรฮาส นักมาราธอนหญิงชาวอเมริกัน ก็ได้ไปสัมผัสวิถีแห่งอิเตนเช่นกัน เนื่องจาก Nike และนิตยสาร RUN ได้ส่งเธอไปเข้าแคมป์เก็บตัวที่นั่น

 

โรฮาสได้จดบันทึกประสบการณ์ที่เธอได้สัมผัสตลอดเวลาที่อยู่ที่อิเตนก่อนนำมาเผยแพร่

 

โรฮาสบอกว่า ในเมืองอิเตนมีนักวิ่งอาชีพหมุนเวียนมาเก็บตัวกว่าปีละ 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิ่งท้องถิ่น พวกเขารวมตัวฝึกซ้อมเป็นกลุ่มเล็กๆ แบบไม่มีกฎกติกา ไม่มีข้อบังคับ

 

ที่น่าแปลกใจคือ ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี รักษากฎและมีระเบียบวินัยเหมือนกับอยู่ในค่ายทหาร แต่ที่ต่างจากค่ายทหารจริงๆ ก็คือ ทุกคนดูมีความสุขแม้ต้องเจอโปรแกรมฝึกซ้อมอันแสนหฤโหด

 

นอกเวลาฝึกซ้อมพวกเขาจะอ่านหนังสือ พักผ่อน และนอนหลับ เพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการฝึกซ้อมมื้อต่อไปอย่างมีระเบียบ พวกเขากินอยู่ หลับนอน เวลาเดิมทุกวัน และไม่เปลืองสมองกับความเครียดใดๆ ทั้งสิ้น

 

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจในแอฟริกาเป็นที่ขึ้นชื่อกันว่าแร้นแค้นและยากลำบาก แต่นั่นเองที่เป็นเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งของที่อิเตน เพราะพวกเขากินพืชผัก ผลไม้ แบบออร์แกนิกที่ปลูกกันเอง

 

ขณะที่อาหารท้องถิ่นซึ่งนักวิ่งทุกคนกินเป็นประจำคืออูกาลี (Ugali) เป็นอาหารจานหลักที่ทำมาจากแป้งข้าวโพดผสมน้ำ ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตสูงมาก

 

นอกจากนี้การที่อิเตนอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร ทำให้มีออกซิเจนเบาบางกว่าที่ราบลุ่มหรือตัวเมืองทั่วไป ซึ่งจะใช้ฝึกฝนความอึดและกล้ามเนื้อหัวใจได้เป็นอย่างดี

 

โดยโรฮาสเล่าว่า ในตอนแรกที่เธอซ้อมที่อิเตนเธอเหนื่อยง่ายกว่าปกติมาก แต่สำหรับคนท้องถิ่นหรือนักวิ่งที่ซ้อมที่นี่มานานแล้ว นี่คือสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคย 

 

นั่นทำให้นักวิ่งชาวเคนยาที่ซ้อมวิ่งบนที่สูงแล้วลงไปแข่งที่ต่ำ สถิติวันแข่งจึงดีกว่าวันซ้อมเสมอ 

 

นอกจากนี้ด้วยภูมิประเทศของอิเตนยิ่งทำให้พวกเขาเลือกที่จะวิ่งแทนการใช้ยานพาหนะ โดยภาพที่ชินตาคือ การที่เด็กๆ วิ่งเท้าเปล่าไปโรงเรียนเป็นระยะทางไป-กลับราว 5-20 กิโลเมตร นั่นจึงเหมือนกับการซ้อมวิ่งอยู่ตลอดเวลา

 

นี่คือส่วนหนึ่งจากบันทึกของโรฮาส และหากอ่านดีๆ จะพบว่า สิ่งที่เธอเล่ามาสอดคล้องกับใจความจากหนังสือ Running with the Kenyans ของ อาดาห์ราแนนด์ ฟินน์ ที่พูดถึงไปก่อนหน้านี้ นั่นคือมีเรื่องของการดำรงชีวิต ภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม มาเกี่ยวข้องนั่นเอง

 

พรสวรรค์ผสานพรแสวง

 

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ชาวคาเลจินหรือชาวแอฟริกันตะวันออกทุกคนจะเป็นนักวิ่งที่ยอดเยี่ยม 

 

แม้จะเห็นชื่อนักวิ่งแอฟริกันมากมายผลัดกันสร้างความสำเร็จในการแข่งขันรายการต่างๆ แต่นั่นก็เหมือนจะเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วยังมีนักวิ่งชาวแอฟริกันอีกหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสายนี้

 

นักวิ่งชาวแอฟริกันหลายคนไม่ได้ตัดสินใจมาวิ่งเพราะระยะไกล แต่เพราะใจรัก บางคนตัดสินใจมาวิ่งเพราะแค่ทำมันได้ดี และการวิ่งเป็นลู่ทางให้พวกเขาลืมตาอ้าปากได้

 

อย่างที่เรียนไปก่อนหน้านี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่แอฟริกานั้นไม่ดีนัก ดังนั้นการมาเป็นนักวิ่งแล้วคว้าแชมป์ในรายการต่างๆ เพื่อรับเงินรางวัลนั้น ถือเป็นลู่ทางที่นักวิ่งหลายคนใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง หากทำผลงานได้ดีและสม่ำเสมอเพียงพอก็อาจมีสปอนเซอร์สนับสนุนด้วย

 

ทำให้นักวิ่งชนพื้นเมืองหลายๆ คนตัดสินใจเดินไปในเส้นทางนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่เข้าเส้นชัยของชีวิตตามที่พวกเขาหวังไว้ 

 

นักวิ่งมาราธอนที่ประสบความสำเร็จนั้น นอกจากพรสวรรค์แล้ว ยังต้องมุมานะฝึกซ้อมอย่างหนักด้วย

 

ซึ่งในเรื่องนี้นักวิ่งที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น เอเลียด คิปโชเก เพราะแม้จะเคยถือครองสถิติโลกแล้ว เขาก็ยังมีแพสชันในการวิ่งอย่างเต็มเปี่ยมและซ้อมหนักแทบจะตลอดเวลา

 

ดังนั้นลำพังแค่เกิดเป็นชาวแอฟริกันไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผูกขาดความสำเร็จในมาราธอนได้ แต่พวกเขาต้องทุ่มเท มีวินัย และฝึกซ้อมอย่างหนักด้วย

 

นั่นเองถึงจะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่แชมป์มาราธอนได้

The post อะไรที่ทำให้ชาวแอฟริกันผูกขาดแชมป์มาราธอน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
จัสมิน ปารีส กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่จบบาร์กลีย์มาราธอนส์ได้สำเร็จ https://thestandard.co/jasmin-paris-barkley-marathons/ Sat, 23 Mar 2024 07:19:38 +0000 https://thestandard.co/?p=914621 จัสมิน ปารีส ผู้หญิงคนแรกที่จบ บาร์กลีย์มาราธอนส์

บาร์กลีย์มาราธอนส์ เป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งระยะอัลตราม […]

The post จัสมิน ปารีส กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่จบบาร์กลีย์มาราธอนส์ได้สำเร็จ appeared first on THE STANDARD.

]]>
จัสมิน ปารีส ผู้หญิงคนแรกที่จบ บาร์กลีย์มาราธอนส์

บาร์กลีย์มาราธอนส์ เป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งระยะอัลตรามาราธอนที่โหดหินแบบไร้เหตุผลมากที่สุดในโลก เพราะแม้จะจัดการแข่งขันมากกว่า 30 ปี แต่มีผู้พิชิตการวิ่งนี้ได้เพียงแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น

 

โดยการวิ่งนี้จะจัดขึ้นที่สวนป่าบริเวณเขาฟรอเซนเฮด ในมลรัฐเทนเนสซี ผู้เข้าแข่งขันจะต้องวิ่ง 100 ไมล์ หรือราว 160 กิโลเมตร กลางสวนป่าเขา แบ่งเป็นการวิ่งวน 5 รอบ รอบละ 20 ไมล์ หรือ 32 กิโลเมตร และผู้เข้าแข่งขันต้องวิ่งให้จบภายในระยะเวลา 60 ชั่วโมงเท่านั้น

 

ในปีนี้บาร์กลีย์มาราธอนส์ก็ได้ผู้ที่พิชิตมันซึ่งเป็นสุภาพสตรีคนแรก นั่นคือ จัสมิน ปารีส หลังเธอวิ่งครบ 5 รอบ ด้วยเวลา 59 ชั่วโมง 58 นาที 21 วินาที นั่นหมายความว่าเธอวิ่งได้จบก่อนคัตออฟไป 99 วินาทีด้วยกัน

 

ในปีนี้มีผู้จบการแข่งขันนี้ทั้งหมด 5 คน ได้แก่ อิฮอร์ เวริส, จอห์น เคลลี, จาเร็ด แคมป์เบลล์ และ เกร็ก แฮมิลตัน และ ปารีส อีกคนนั่นเอง

 

อ้างอิง:

The post จัสมิน ปารีส กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่จบบาร์กลีย์มาราธอนส์ได้สำเร็จ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เบนสัน คิปรูโต คว้าแชมป์โตเกียวมาราธอน 2024 https://thestandard.co/benson-kipruto-tokyo-marathon-2024/ Sun, 03 Mar 2024 02:55:38 +0000 https://thestandard.co/?p=906560 Benson Kipruto

เบนสัน คิปรูโต นักวิ่งจากเคนยา คว้าแชมป์ในโตเกียวมาราธอ […]

The post เบนสัน คิปรูโต คว้าแชมป์โตเกียวมาราธอน 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Benson Kipruto

เบนสัน คิปรูโต นักวิ่งจากเคนยา คว้าแชมป์ในโตเกียวมาราธอนด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 2 นาที 16 วินาที ด้าน เอเลียด คิปโชเก จบอันดับที่ 10

 

โตเกียวมาราธอน 1 ใน 6 เวิลด์เมเจอร์มาราธอนรายการใหญ่ของโลก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 มีนาคม) ซึ่งมีนักวิ่งชื่อดังอย่าง เอเลียด คิปโชเก และ วินเซนต์ คิปคิโมย เข้าร่วมการแข่งขัน

 

ในช่วง 30 กิโลเมตรแรกเป็นทาง ทิโมธี คิปลาแก็ต ที่ขึ้นนำเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่ตำแหน่งผู้นำจะเปลี่ยนมือมาเป็นของ เบนสัน คิปรูโต ในกิโลเมตรที่ 35 ก่อนที่นักวิ่งวัย 32 ปี จะนำแบบม้วนเดียวจบหลังจากขึ้นนำ

 

เบนสัน คิปรูโต เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 2 นาที 16 วินาที เอาชนะ ทิโมธี คิปลาแก็ต ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ 39 วินาที และที่ 3 เป็น วินเซนต์ คิปคิโมย ที่ทำเวลาได้ 2 ชั่วโมง 4 นาที 18 วินาที ตามหลังผู้ชนะ 2 นาที 2 วินาทีด้วยกัน

 

ขณะที่ เอเลียต คิปโชเก ทำเวลาจบอันดับ 10 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 6 นาที 50 วินาที ตามหลังผู้ชนะ 4 นาที 34 วินาที

 

ขณะที่นักวิ่งญี่ปุ่นที่ทำผลงานดีที่สุด ได้แก่ ยูสุเกะ นิชิยามะ ทำเวลาได้ 2 ชั่วโมง 6 นาที 31 วินาที จบอันดับ 9 ของการแข่งขันในปีนี้

 

ภาพ: TokyoMarathon_E / X

The post เบนสัน คิปรูโต คว้าแชมป์โตเกียวมาราธอน 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Before & After ทิปส์เตรียมผิวก่อนและหลังวิ่ง 5 กม. https://thestandard.co/life/5k-running-before-and-after-skincare-prep Wed, 14 Feb 2024 12:45:01 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=899920 วิ่ง

การเตรียมผิวก่อนและหลังการ วิ่ง 5 กิโลเมตร เป็นสิ่งสำคั […]

The post Before & After ทิปส์เตรียมผิวก่อนและหลังวิ่ง 5 กม. appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิ่ง

การเตรียมผิวก่อนและหลังการ วิ่ง 5 กิโลเมตร เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวของคุณอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย การดูแลผิวอย่างเหมาะสมสามารถลดโอกาสในการเกิดปัญหาผิว เช่น การอุดตันของรูขุมขน การระคายเคือง และการเสียดสี LIFE อยากให้ทุกคนที่รักการวิ่งมีการ ดูแลผิว ทั้งก่อนและหลังการวิ่งของตัวเองในทุกๆ ครั้ง มันไม่เพียงจะช่วยให้ผิวสะอาด ดูดี และรู้สึกดีเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายอีกมากมาย นี่คือคำแนะนำในการเตรียมผิวก่อนและหลังการ วิ่ง 5 กิโลเมตร

 

 

ก่อน วิ่ง


1. ทำความสะอาดผิว

เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายเบาๆ เพื่อล้างเอาสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป

 

 

2. ใช้ครีมกันแดด

การใช้ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งสามารถทำให้ผิวเสียหายได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปและหมั่นทาซ้ำ 

 

 

3. บำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือเจล

เพื่อเพิ่มการปกป้องและการบำรุงให้กับผิว การใช้เซรั่มหรือเจลที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, E หรือไฮยาลูรอนิกแอซิด สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระได้ ยิ่งผิวที่ต้อง วิ่ง เจอฝุ่น แดด และมลภาวะ การบำรุงเหล่านี้จะป้องกันผิวแก่ก่อนวัยได้ 

 

วิ่ง

 

หลังวิ่ง

 

1. ทำความสะอาดผิวอีกครั้ง

หลังจากการ วิ่ง เสร็จสิ้น ควรกลับบ้านไปทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายอีกครั้ง เพื่อล้างเหงื่อและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน

 

วิ่ง

 

2. ใช้โทนเนอร์

โทนเนอร์จะช่วยปรับสภาพผิวหลังจากการล้างหน้า ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนการบำรุงต่อไป

 

วิ่ง

 

3. บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์

ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิวของตนเอง และอาจเพิ่มการใช้ครีมบำรุงรักษาพิเศษสำหรับบริเวณที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม เช่น รอบดวงตา 

 

วิ่ง

 

4. การดูแลพิเศษสำหรับผิวที่เสียดสี

หากมีบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่เกิดการเสียดสีหรือระคายเคืองจากการวิ่ง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการระคายเคืองและเร่งการฟื้นฟูผิวในบริเวณนั้น 

 

วิ่ง

 

5. หลังจากการวิ่ง 5 กิโลเมตร การพักผ่อนและการฟื้นฟูร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและผิวพรรณฟื้นตัวจากความเครียดและความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้น การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวของคุณได้รับการฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นที่สูญเสียไประหว่างการวิ่ง

The post Before & After ทิปส์เตรียมผิวก่อนและหลังวิ่ง 5 กม. appeared first on THE STANDARD.

]]>