การลักลอบหนีเข้าเมือง – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 04 Jul 2025 08:35:22 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 รวบ 3 หนุ่มจีนพร้อมมือถือ 6 เครื่อง ชายแดนไทย อ้างหนีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต กัมพูชา https://thestandard.co/3-chinese-men-arrested-at-thai-border-fleeing-poipet/ Fri, 04 Jul 2025 08:35:22 +0000 https://thestandard.co/?p=1092929 หนุ่มจีน ชายแดน

วันนี้ (4 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำล […]

The post รวบ 3 หนุ่มจีนพร้อมมือถือ 6 เครื่อง ชายแดนไทย อ้างหนีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
หนุ่มจีน ชายแดน

วันนี้ (4 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา โดยชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 (ชค.ทพ.13) ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ จับกุมชายชาวจีน 3 ราย ขณะลักลอบเดินเท้าข้ามแดนจากประเทศกัมพูชากลับเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณบ้านโคกสะแบง ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 

 

โดยไม่พบเอกสารประจำตัวใดๆ ติดตัว แต่กลับพบโทรศัพท์มือถือมากถึง 6 เครื่อง ผู้ต้องหาทั้งสามคนประกอบด้วย เชา อายุ 21 ปี, ฮู อายุ 20 ปี และ อู๋ อายุ 29 ปี

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งสามให้การว่าเดินทางมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ผ่านเข้ามายังประเทศเมียนมา ก่อนจะลักลอบข้ามมายังประเทศไทย โดยมีคนไทยไม่ทราบชื่อขับรถมาส่งต่อเพื่อข้ามไปยังประเทศกัมพูชา 

 

ชายชาวจีนอ้างว่าถูกหลอกให้ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ตรงตามข้อตกลงที่ได้รับมาแต่แรก จึงตัดสินใจหลบหนีออกมา

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การทั้งหมด เนื่องจากเมื่อสอบถามถึงรายละเอียดที่สำคัญ เช่น ชื่อบริษัทที่ไปทำงาน, ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือลักษณะงานที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ทั้งสามกลับอ้างว่าไม่ทราบข้อมูล โดยมีผู้จัดหาจัดการให้ทั้งหมด ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่ว่า งานไม่ตรงตามข้อตกลง

 

ประเด็นที่น่าสงสัยนี้ ประกอบกับจำนวนโทรศัพท์มือถือที่มากผิดปกติถึง 6 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการก่ออาชญากรรม ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า แท้จริงแล้วชาวจีนกลุ่มนี้เป็นเพียงเหยื่อที่ถูกหลอกมา หรือเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังลักลอบเข้าประเทศไทย

 

ขณะนี้ ชายชาวจีนทั้งสามคนถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อเค้นสอบสวนอย่างละเอียด และตรวจสอบเส้นทางการเดินทางข้ามชาติทั้งหมดอย่างละเอียด คาดว่าจะสามารถขยายผลไปถึงเครือข่ายใหญ่ที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

The post รวบ 3 หนุ่มจีนพร้อมมือถือ 6 เครื่อง ชายแดนไทย อ้างหนีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ปราบปรามค้ามนุษย์ ลักลอบหลบหนีเข้า-ออกเมือง https://thestandard.co/police-border-security-human-trafficking/ Fri, 15 Nov 2024 04:20:00 +0000 https://thestandard.co/?p=1008955

วานนี้ (14 พฤศจิกายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู […]

The post ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ปราบปรามค้ามนุษย์ ลักลอบหลบหนีเข้า-ออกเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วานนี้ (14 พฤศจิกายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), ตำรวจภูธรภาค 6 (ภ.6) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ลาดตระเวนและตรวจตราบริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก (อำเภอแม่สอด) และจังหวัดพื้นที่แนวชายแดน ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองหรือเดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งกำชับมาตรการดังนี้

 

  1. บูรณาการด้านการข่าวฝ่ายความมั่นคง ทหาร ฝ่ายปกครอง และประชาชนในพื้นที่
  2. จัดชุดตรวจตราลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนป้องกันการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
  3. ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดตลอดแนวชายแดนและเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางการเดินทางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วจังหวัด รวมถึงพื้นที่ติดต่อ รอยต่อชายแดน และช่องทางธรรมชาติต่างๆ
  4. สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจคัดกรองคนต่างด้าวจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศ และร่วมกับการท่าอากาศยานเพื่อตรวจคัดกรองคนต่างด้าวที่เดินทางโดยสายการบินภายในประเทศ
  5. กรณีที่ตรวจพบคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัด ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จะต้องพูดคุย ซักถาม สัมภาษณ์คนต่างด้าวทุกราย เพื่อให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ
  6. ให้ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และกองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานความร่วมมือด้านการข่าวและให้ความช่วยเหลือกรณีที่มีข้อมูลความร่วมมือระหว่างประเทศ

 

โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. เข้าไปควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติและรายงานผลให้ทราบโดยด่วน

 

ทั้งนี้ นโยบายการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นนโยบายที่เร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายและดำเนินการอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และเข้มงวด ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน ประพฤติมิชอบ จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

The post ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ปราบปรามค้ามนุษย์ ลักลอบหลบหนีเข้า-ออกเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
มหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ ชายแดนเมียนมา เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย https://thestandard.co/strictly-control-illegal-immigration-myanmar-border-area/ Tue, 02 Feb 2021 03:04:46 +0000 https://thestandard.co/?p=449797 ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ ชายแดนเมียนมา เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

วานนี้ (1 กุมภาพันธ์) ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไ […]

The post มหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ ชายแดนเมียนมา เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ ชายแดนเมียนมา เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

วานนี้ (1 กุมภาพันธ์) ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามสถานการณ์ของพื้นที่ จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านเมียนมาพิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่ชายแดน และดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน 

 

รวมทั้งให้เป็นไปตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเคร่งครัด รวมทั้งจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางดำเนินการในการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของพื้นที่ 

 

พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภอชายแดนเพิ่มการเฝ้าระวัง ติดตามข่าวสารและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ที่อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมากขึ้น และการไม่อนุญาตให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดใช้ดินแดนประเทศไทยเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

 

ฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบกับเมียนมาเพิ่มความเข้มงวดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่พักพิง และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงที่อาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง โดยให้รายงานข้อมูลสถานการณ์และผลดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงมหาดไทยทราบด้วย

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post มหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ ชายแดนเมียนมา เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน https://thestandard.co/tighten-unlocking-measures-prevent-smuggling-across-the-border/ Sun, 31 Jan 2021 12:24:18 +0000 https://thestandard.co/?p=449173 สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน

วันนี้ (31 มกราคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบค […]

The post สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน

วันนี้ (31 มกราคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 829 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 822 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ (15 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2564) มีจำนวน 14,545 ราย ทั้งนี้ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 700-800 ราย เกินกว่า 96% อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ตั้งเป้าตรวจอย่างน้อยวันละ 10,000 ราย และจะนำข้อมูลผลการตรวจเชื้อไปปรับมาตรการควบคุมโรคต่อไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและรวดเร็ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อมีการสอบสวนโรคและกักกันผู้สัมผัส ทำให้ไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนใต้ที่ยังต้องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศอย่างเข้มงวด เนื่องจากมาเลเซียยังมีการระบาดสูงและมีมาตรการล็อกดาวน์ ให้คนต่างชาติกลับประเทศ ขณะนี้ยังพบผู้ลักลอบเข้ามาทางพรมแดนธรรมชาติ เช่น กรณีหญิงอายุ 31 ปี ทำงานสถานบันเทิงในมาเลเซีย เดินทางข้ามพรมแดนธรรมชาติมากับหญิงไทยอีก 2 คน นั่งรถจากสุไหงโก-ลกถึงหาดใหญ่ และเช่ารถตู้มาสถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ ต่อมาไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการแล้วพบเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้ที่มีญาติทำงานอยู่ในต่างประเทศและผู้ที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศเข้ามาตามระบบเพื่อรับการกักกัน หากติดเชื้อจะได้รับการดูแลรักษาเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่ชุมชน และไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

“ในการสอบสวนโรค เราไม่ได้เชื่อไทม์ไลน์ที่ผู้ป่วยให้ทั้งหมด เนื่องจากมีการให้ข้อมูลจริงและไม่จริง หรือบางครั้งจำไม่ได้ ต้องเอาหลักฐานต่างๆ มาประกอบกัน ไทม์ไลน์กับจุดเชื่อมโยงจึงไม่สามารถบอกได้ในวันเดียว ต้องมีการสอบทานว่าให้ข้อมูลตรงกันครบถ้วนหรือไม่ กว่าจะได้ข้อมูลก็ใช้เวลาเช่นกัน และบางกรณีไทม์ไลน์อาจเปลี่ยนแปลงจากหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกันก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากวัตถุประสงค์ของไทม์ไลน์คือต้องการให้เห็นว่าผู้ติดเชื้อไปตรงไหนบ้าง เพื่อแจ้งประชาชนที่อยู่จุดเดียวกันมารับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนโรคเพื่อไม่ให้โรคแพร่ระบาด เช่น กรณีลักลอบเดินทางมาจากมาเลเซีย มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าสวมหน้ากากตลอดตามที่ให้ข้อมูล ทำให้ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ หรือกรณีสมุทรปราการที่ติดเชื้อในบริษัท 21 ราย ก็ใช้เวลาสอบทานข้อมูลจนถึงได้ไทม์ไลน์และจุดเชื่อมโยง” นพ.โอภาสกล่าว

 

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่ากรณีจังหวัดสมุทรปราการพบว่าเกี่ยวเนื่องกับสองเหตุการณ์คือ พนักงานบริษัทหญิงเมียนมา อายุ 19 ปี ติดเชื้อคนแรก จากการตรวจคนในบริษัท 281 คน พบติดเชื้อ 18 คน เป็นคนเมียนมา 15 คน คนไทย 2 คน และกัมพูชา 1 คน นอกจากนี้ยังไปตรวจเชิงรุกในชุมชนตลาดโต้รุ่ง พบผู้ติดเชื้ออีก 2 คน เนื่องจากเป็นชุมชนแออัด มีคนกว่า 2,000 คน จึงลงไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ถือว่าควบคุมได้รวดเร็ว ติดตามผู้สัมผัสได้ ส่วนกรณีไอคอนสยามเป็นการติดเชื้อในพนักงานร้านอาหารจากการมีกิจกรรมงานเลี้ยงในกลุ่ม โดยตรวจพนักงานกว่าร้อยคน พบการติดเชื้อ 7 คน และได้ปิดสถานที่ทำความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่มีการออกมาเพิ่มนั้นเป็นการทำไทม์ไลน์อย่างละเอียดของผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ 7 คน ถือเป็นกรณีเดิม ไม่ใช่กรณีใหม่ สำหรับกรณีกลุ่มเสี่ยงสูง แม้ว่าผลตรวจ 2 ครั้งไม่พบเชื้อก็จะต้องกักตัวอยู่ที่บ้านจนครบ 14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อให้คนในชุมชนปลอดภัย

 

“การติดเชื้อไม่ได้ติดได้ง่ายๆ ไม่ใช่ว่าเดินผ่านแล้วติด เราไม่พบการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์แล้วติดเชื้อ จุดสำคัญในการติดเชื้อคือการไม่สวมหน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง นั่งใกล้ชิดกัน อยู่ในสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท บริเวณจุดสัมผัสในห้องน้ำ การรับประทานอาหารร่วมกันนานๆ งานปาร์ตี้สังสรรค์ คนในบ้านที่อยู่ใกล้ชิดร่วมกัน เพื่อนร่วมงาน สถานบันเทิง ดังนั้นประชาชนอย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยเราสามารถเลือกการใช้ชีวิตได้ เช่น เลือกซื้อของกับคนที่ป้องกัน ใส่หน้ากาก สถานบันเทิงที่กลับมาเปิดให้ดื่มสุราได้ก็ต้องเลือกร้านที่พนักงานใส่หน้ากาก อากาศถ่ายเทสะดวก และเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จังหวัดพื้นที่สีเขียวใช้ชีวิตได้ตามปกติแบบ New Normal คือต้องใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ก็จะปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งสแกนไทยชนะ ลงทะเบียนหมอชนะ เพื่อช่วยให้การสอบสวนโรคสะดวก ควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว” นพ.โอภาสกล่าวในที่สุด

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
นราธิวาสผนึกกำลังตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง เข้มแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย https://thestandard.co/narathiwat-to-prevent-illegal-immigration/ Sun, 24 Jan 2021 05:26:13 +0000 https://thestandard.co/?p=446757 นราธิวาส

วันนี้ (24 มกราคม) ที่ด่านศุลกากรตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอ […]

The post นราธิวาสผนึกกำลังตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง เข้มแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
นราธิวาส

วันนี้ (24 มกราคม) ที่ด่านศุลกากรตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ร.อ. ฟอซี ยีวา ผู้บังคับการกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยลงเรือติดตามการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอตากใบโดยทางน้ำ จากด่านศุลกากรตากใบไปยังบ้านกัวลอต๊ะ อำเภอตากใบ เป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านปาดังยอ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก และบ้านมูโนะ ซึ่งมีการยกเรือขึ้นบกและถอดเครื่องยนต์เรือออก เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ

 

ร.อ. ฟอซี กล่าวว่า กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 มีเขตพื้นที่ความรับผิดชอบตามแนวชายแดนอำเภอตากใบเป็นระยะทาง 21 กิโลเมตร ประกอบด้วยเขตเทศบาล 1 เทศบาล และ 6 หมู่บ้านตามแนวชายแดน โดยมีการจัดกำลังดูแลพื้นที่ทางน้ำ 3 ชุดปฏิบัติการ ลาดตระเวนทางน้ำตลอดแนวชายแดนอำเภอตากใบ และมีกำลังทางบกเป็นกำลังชุดปฏิบัติการจรยุทธ์จำนวน 10 ทีม มีการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ โดยปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง มาช่วยในการสกัดกั้นเฝ้าช่องทางตามจุดบางจุด สำหรับกำลังของตำรวจจะมีการลาดตระเวนตามแนวชายแดนโดยใช้รถจักรยานยนต์ และได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น

 

ด้าน ณรงค์ศักดิ์ ฮารง ปลัดอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า อำเภอสุไหงโก-ลก มีพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนเป็นระยะทาง 29 กิโลเมตร โดยได้มีการบูรณาการกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดน สำหรับในพื้นที่ตำบลหรือหมู่บ้าน จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เป็นกำลังหลักในการ Re-X-Ray พื้นที่ เพื่อป้องกันและแจ้งเบาะแสการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าวและคนไทยที่กลับจากมาเลเซีย โดยได้มีการดำเนินการตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสตามมาตรการป้องกันการลักลอบการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวและคนไทย โดยการปิดช่องทางธรรมชาติ พร้อมทั้งยกเรือขึ้นมาไว้บนบกในจุดเดียว นอกจากนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีในการดำเนินการ

 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น และยังได้สนับสนุนกำลังอาสาสมัครจาก 13 อำเภอ จำนวน 100 นาย เพื่อร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพิ่มเติมอีกด้วย

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post นราธิวาสผนึกกำลังตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง เข้มแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ สั่งเพิ่มมาตรการป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา https://thestandard.co/pm-orders-measures-to-prevent-illegal-entry-into-the-country/ Tue, 22 Dec 2020 02:43:26 +0000 https://thestandard.co/?p=434312 นายกฯ สั่งเพิ่มมาตรการป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา

วันนี้ (22 ธันวาคม) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายก […]

The post นายกฯ สั่งเพิ่มมาตรการป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ สั่งเพิ่มมาตรการป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา

วันนี้ (22 ธันวาคม) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในประเทศ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งทหาร ตำรวจ และกองกำลังต่างๆ ให้เพิ่มความเข้มงวด และเพิ่มมาตรการป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะที่ลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ รวมถึงการเพิ่มมาตรการในการปฏิบัติ เช่น เพิ่มจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เป็นช่องทางธรรมชาติที่สามารถเดินข้ามได้สะดวก ด้วยการวางเครื่องกีดขวางต่างๆ รวมถึงการเพิ่มกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในส่วนของการเดินเท้า การใช้รถจักรยานยนต์ การใช้รถยนต์ เรือ การใช้โดรนบินลาดตระเวน พร้อมตรวจจุดพักพิงตามแนวชายแดนให้มากขึ้น  

 

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้เพิ่มมาตรการการตรวจสอบพื้นที่อีกชั้นหนึ่ง โดยจะต้องมีการสกัดกั้น ตั้งจุดสกัดต่างๆ ให้มีความพร้อมในการตรวจสกัดการลักลอบที่จะเข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวด 

 

นอกจากนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเฝ้าสังเกตคนที่เข้ามาในหมู่บ้านหรือชุมนุม ที่ซึ่งแม้จะเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรือชุมชน แต่อาจมีการลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย หากประชาชนพบสิ่งผิดปกติขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบด้วย

 

ทั้งนี้การลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด และหากมีขบวนการช่วยเหลือและลักลอบให้ต่างด้าวหรือคนไทยเข้าประเทศโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ในปัจจุบัน ทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อทำลายขบวนการดังกล่าวให้หมดไป

 

อนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพได้รายงานการเพิ่มน้ำหนักงานข่าวและเฝ้าระวังชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มข้น โดยเสริมกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งเพิ่มมาตรการสกัดกั้นและเฝ้าตรวจตามช่องทางต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันตกที่มีช่องทางธรรมชาติเป็นแนวยาว ด้วยการขยายผลติดตั้งไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมกว่า 40 ตัว รวมทั้งการวางแนวลวดหนามกว่า 100 ช่องทาง ระยะทางกว่า 6,000 เมตร และได้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการและเครื่องมือเสริมการลาดตระเวนกลางวันและกลางคืน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจภายในหมู่บ้าน ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองต่อเนื่องกันมา

 

พร้อมกันนี้กองทัพได้ให้น้ำหนักกับมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองมากขึ้น โดยเพิ่มความเข้มข้นงานด้านการข่าวเชื่อมโยงเครือข่ายขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมทั้งได้ประสานการทำงานร่วมกับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านที่มีจุดผ่านแดนร่วมกัน เพื่อร่วมเฝ้าตรวจดูแลมาตรการเฝ้าระวังป้องกันร่วมกันมากขึ้นในภาพรวม

 

พิสูจน์อักษร:​ พรนภัส ชำนาญค้า

The post นายกฯ สั่งเพิ่มมาตรการป้องกันลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา appeared first on THE STANDARD.

]]>
บก.ทัพไทย โต้ข่าวแรงงานต่างชาติข้ามแดนเข้าไทยที่ระนอง ชี้คนปล่อยข่าวไม่หวังดี หวังซ้ำเติมสถานการณ์ https://thestandard.co/foreign-workers-crossing-into-thailand-in-ranong/ Mon, 21 Dec 2020 04:59:31 +0000 https://thestandard.co/?p=433837 บก.ทัพไทย โต้ข่าวต่างแรงงานต่างชาติข้ามแดนเข้าไทยที่ระนอง ชี้คนปล่อยข่าวไม่หวังดี หวังซ้ำเติมสถานการณ์

วันนี้ (21 ธันวาคม) พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พูนศรี รองโฆษกกองบ […]

The post บก.ทัพไทย โต้ข่าวแรงงานต่างชาติข้ามแดนเข้าไทยที่ระนอง ชี้คนปล่อยข่าวไม่หวังดี หวังซ้ำเติมสถานการณ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บก.ทัพไทย โต้ข่าวต่างแรงงานต่างชาติข้ามแดนเข้าไทยที่ระนอง ชี้คนปล่อยข่าวไม่หวังดี หวังซ้ำเติมสถานการณ์

วันนี้ (21 ธันวาคม) พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พูนศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ชี้แจงกรณีตามที่มีข้อมูลข่าวสารในสื่อโซเชียลได้กล่าวว่ามีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดระนอง และเข้ามาทำงานในไทย จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ว่ากองบัญชาการกองทัพไทยได้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐได้มีการบูรณาการร่วมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ดำเนินการวางกำลังตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางทะเลแบบเข้มงวด   

 

ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางตรวจพื้นที่ด้วยตนเองทุกครั้ง ประกอบกับขบวนการค้าแรงงานในพื้นที่จังหวัดระนองที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่เป็นการใช้เส้นทางทางทะเลเป็นหลัก เนื่องจากทางบกมีด่านสกัดกั้นทุกช่องทางเข้า-ออก 

 

ตลอดจนปัจจุบันนี้ ขบวนการแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้สลายตัวเบาบางลงมาก เนื่องจากมีการปราบปรามอย่างเข้มงวดในห้วงที่มีการจับกุมขบวนการค้าชาวโรฮิงญา    

 

นอกจากนั้นแล้วยังได้มีการโจมตีด้วยข่าวอันเป็นเท็จเกี่ยวกับว่ามีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางบกด้วยรถตู้ เพื่อเข้ามายังพื้นที่จังหวัดระนองนั้น ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด

 

จึงขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และอย่าส่งต่อข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นความจริงเสียก่อน ซึ่งอาจเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม 

 

ทั้งนี้ ความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติคือพลังที่สำคัญในการนำประเทศไทยก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปได้

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post บก.ทัพไทย โต้ข่าวแรงงานต่างชาติข้ามแดนเข้าไทยที่ระนอง ชี้คนปล่อยข่าวไม่หวังดี หวังซ้ำเติมสถานการณ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผบ.ทบ. สั่งเข้มมาตรการป้องโควิด-19 ตามแนวชายแดน เตือนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมีโทษหนัก https://thestandard.co/measures-to-prevent-covid-19-along-the-border/ Wed, 09 Dec 2020 05:14:21 +0000 https://thestandard.co/?p=429924 มาตรการป้องโควิด-19 ตามแนวชายแดน

วันนี้ (9 ธันวาคม) พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญ […]

The post ผบ.ทบ. สั่งเข้มมาตรการป้องโควิด-19 ตามแนวชายแดน เตือนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมีโทษหนัก appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาตรการป้องโควิด-19 ตามแนวชายแดน

วันนี้ (9 ธันวาคม) พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการดูแลป้องกันโควิด-19 ตามแนวชายแดนว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยทหารทุกหน่วย ยกระดับมาตรการคุมเข้มป้องกันพื้นที่ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 3 ได้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการและเพิ่มเครื่องมือ ทั้งลวดหนามหีบเพลงตามแนวช่องทางธรรมชาติ และเพิ่มการลาดตระเวน โดยทั้งเดินเท้าและทางรถยนต์ และลาดตระเวนด้วยโดรน เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะภาคเหนือมีภูมิประเทศตามธรรมชาติด้วยระยะทางที่ยาว จึงต้องใช้กำลัง ความทุ่มเท อุทิศตนในการป้องกันตลอด 24 ชั่วโมง แต่สิ่งสำคัญคือประชาชนในพื้นที่ที่ต้องช่วยกัน

 

พล.อ. ณรงพันธ์ ยังกล่าวถึงการให้ความมั่นใจกับประชาชนในการป้องกันโควิด-19 ที่จะเข้ามาตามแนวชายแดนว่า ขณะนี้กับประเทศเพื่อนบ้านมีการประสานงานกันในทุกระดับ โดยเฉพาะกองกำลังป้องกันชายแดนของทั้งสองประเทศในการประสานและแจ้งข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนของประเทศอีกฝั่งว่า หากจะเดินทางเข้ามาต้องเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย เพื่อจะช่วยดูแลป้องกันและรักษา และจะไม่ถูกดำเนินการทางกฎหมายในขั้นหนัก ซึ่งในระดับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนได้ประสานกันอยู่แล้ว ให้คนไทยที่ต้องการกลับเข้ามาให้เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย เพื่อรับการตรวจคัดกรอง

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post ผบ.ทบ. สั่งเข้มมาตรการป้องโควิด-19 ตามแนวชายแดน เตือนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมีโทษหนัก appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘นักวิเคราะห์’ หวังภาครัฐคุมโควิด-19 อยู่หมัด ย้ำไทยกลับไป ‘ล็อกดาวน์’ รอบสองไม่ได้ เหตุต้นทุนเศรษฐกิจมหาศาล https://thestandard.co/thailand-cant-go-back-lock-down-for-the-second-round/ Fri, 04 Dec 2020 00:28:21 +0000 https://thestandard.co/?p=428417 ‘นักวิเคราะห์’ หวังภาครัฐคุมโควิด-19 อยู่หมัด ย้ำไทยกลับไป ‘ล็อกดาวน์’ รอบสองไม่ได้ เหตุต้นทุนเศรษฐกิจมหาศาล

แม้ว่าที่ผ่านมา ‘คนไทย’ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอก […]

The post ‘นักวิเคราะห์’ หวังภาครัฐคุมโควิด-19 อยู่หมัด ย้ำไทยกลับไป ‘ล็อกดาวน์’ รอบสองไม่ได้ เหตุต้นทุนเศรษฐกิจมหาศาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘นักวิเคราะห์’ หวังภาครัฐคุมโควิด-19 อยู่หมัด ย้ำไทยกลับไป ‘ล็อกดาวน์’ รอบสองไม่ได้ เหตุต้นทุนเศรษฐกิจมหาศาล

แม้ว่าที่ผ่านมา ‘คนไทย’ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปจะพยายามเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างดี จนไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศมาเป็นเวลานาน ทำให้ทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

 

แต่ล่าสุดดูเหมือนความพยายามเหล่านี้กำลังจะล้มเหลวลง หลังเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศจากฝั่งเมียนมานับ 10 ราย กระจายอยู่ในหลายจังหวัด ทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ราชบุรี พิจิตร และกรุงเทพมหานคร จนสร้างความกังวลว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวอาจกลับมาระบาดรอบสองภายในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง

 

นริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ข้อมูลที่มีในขณะนี้ยังประเมินได้ค่อนข้างยากว่าจะเกิดการระบาดในประเทศระลอกสองหรือไม่ แต่ถ้าดูเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อในปัจจุบันถือว่าผลต่อเศรษฐกิจยังไม่น่ากังวลมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้จะถือเป็นทางออกที่ดีสุด เนื่องจากเศรษฐกิจไทยไม่สามารถกลับไปล็อกดาวน์ได้อีกรอบ เพราะการล็อกดาวน์จะส่งผลต่อต้นทุนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

 

นริศกล่าวว่า การล็อกดาวน์ในรอบที่ผ่านมาทำให้เศรษฐกิจไทยสูญเสียโอกาสไปกว่า 4-5 แสนล้านบาท จากมูลค่าเศรษฐกิจที่หายไปและเงินที่ต้องนำมาใช้ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเงินส่วนนี้หากนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก 

 

“เป็นเรื่องที่ภาครัฐควรต้องจัดการให้อยู่หมัดในเชิงสาธารณสุข และทุกคนควรต้องมีส่วนร่วมในการช่วยๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงประชาชนทั่วไป เพราะถ้าเราต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกรอบ จะสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจจำนวนมาก เวลานี้เราควรต้องพ้นช่วงของการเยียวยามาสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจได้แล้ว”

 

สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ทางศูนย์วิจัยฯ มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 คาดว่าแรงขับเคลื่อนหลักจะมาจากการส่งออก ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากการค้าโลกที่ฟื้นตัว ไม่ใช่จากการท่องเที่ยว ดังนั้นหากมีการระบาดระลอกสองมองว่าจะมีผลกระทบน้อยกว่า

 

ส่วนหนึ่งเพราะคาดการณ์ว่าวัคซีนโควิด-19 จะใช้ในหลายประเทศช่วงกลางปี 2564 และจะค่อยๆ ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยคาดว่าปีหน้าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าปี 2562 ที่อยู่ราว 40 ล้านคน 

 

นอกจากนี้เศรษฐกิจในไทย ความเสี่ยงที่ต้องจับตามากกว่าโควิด-19 คือ สถานการณ์การควบคุมโรคระบาดที่ยังเข้มข้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังไม่เพียงพอ หากมีการระบาดระลอกสองที่อาจต้องลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ​อีก ยิ่งทำให้ต้องมีนโยบายเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นมากกว่านี้

 

อย่างไรก็ตามมองว่าการระบาดจะไม่เกิดขึ้นในวงกว้างจนต้องล็อกดาวน์เหมือนช่วงก่อนหน้า แต่ปัจจัยในประเทศอย่างภัยแล้งและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามมาก

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post ‘นักวิเคราะห์’ หวังภาครัฐคุมโควิด-19 อยู่หมัด ย้ำไทยกลับไป ‘ล็อกดาวน์’ รอบสองไม่ได้ เหตุต้นทุนเศรษฐกิจมหาศาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
มหาดไทย สั่งทุกจังหวัดเข้ม 4 มาตรการ สกัดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564 https://thestandard.co/interior-orders-four-provinces-to-block-covid-19/ Thu, 03 Dec 2020 04:12:37 +0000 https://thestandard.co/?p=428115 หาดไทย สั่งทุกจังหวัดเข้ม 4 มาตรการ สกัดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564

วันนี้ (3 ธันวาคม) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโ […]

The post มหาดไทย สั่งทุกจังหวัดเข้ม 4 มาตรการ สกัดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>
หาดไทย สั่งทุกจังหวัดเข้ม 4 มาตรการ สกัดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564

วันนี้ (3 ธันวาคม) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ประชุมเมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม) พิจารณากรณีพบชาวไทยที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน และติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 10 ราย โดยได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดในช่วงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2563 เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

 

ด้าน ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการ และประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถือปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มเติมของศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยเคร่งครัด ได้แก่

 

  1. เฝ้าตรวจ/เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตอนใน โดยให้ความสำคัญเร่งด่วน และความเข้มข้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนด้านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามลำดับ 

 

  1. ตรวจกำกับดูแลกิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคฯ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ร้านอาหาร สถานประกอบการ สถานบันเทิง สนามกีฬา สถานที่ท่องเที่ยว ให้มีความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้น 

 

  1. ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เฝ้าสังเกตและกำกับดูแลบุคคลที่กลับเข้ามาในพื้นที่ชุมชน เพื่อซักถามและให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และ 

 

  1. สร้างการรับรู้ความเข้าใจในการขอความร่วมมือภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ทั้งผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ ผู้จัดกิจกรรม และผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย เว้นระยะห่างหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น และใช้แพลตฟอร์ม ‘ไทยชนะ’ ในการเข้า-ออกสถานที่สาธารณะ

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post มหาดไทย สั่งทุกจังหวัดเข้ม 4 มาตรการ สกัดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>