การยิ้ม – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 22 Feb 2025 03:25:17 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 10 Small Wins ที่เราควรเอาชนะให้ได้ทุกๆ วัน https://thestandard.co/life/10-small-wins-everyday-success-habits/ Sat, 22 Feb 2025 06:00:45 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1044692 10 Small Wins ความสำเร็จเล็กๆ ที่ควรทำให้ได้ทุกวัน เพื่อพัฒนาตัวเองและมีความสุขในชีวิตประจำวัน

ทุกๆ วันเราต้องเจอกับความท้าทายมากมาย แต่บางครั้งเราอาจ […]

The post 10 Small Wins ที่เราควรเอาชนะให้ได้ทุกๆ วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 Small Wins ความสำเร็จเล็กๆ ที่ควรทำให้ได้ทุกวัน เพื่อพัฒนาตัวเองและมีความสุขในชีวิตประจำวัน

ทุกๆ วันเราต้องเจอกับความท้าทายมากมาย แต่บางครั้งเราอาจลืมไปว่าชัยชนะเล็กๆ ก็มีความหมายไม่แพ้เป้าหมายใหญ่ การเริ่มต้นวันด้วยพลังบวก จัดการกับความรู้สึกได้ และดูแลตัวเองให้ดี คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

 

เมื่อเราใส่ใจกับชัยชนะเล็กๆ เหล่านี้ในทุกๆ วัน เราจะค่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในชีวิต และกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง เพราะความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่เป้าหมายใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การเอาชนะตัวเองในทุกๆ วัน ผ่านการลงมือทำสิ่งเล็กๆ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

 

เริ่มวันใหม่ของเราด้วย 10 ชัยชนะเล็กๆ ที่จะเติมพลังให้ชีวิต

 

1. ตื่นนอนโดยไม่กดเลื่อนนาฬิกาปลุก

ถึงจะง่วงแค่ไหน แต่การลุกขึ้นมาในครั้งแรกที่นาฬิกาปลุกดังจะทำให้รู้สึกว่าเราเป็นผู้ชนะตั้งแต่เริ่มต้นวัน เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

 

2. ยืดเหยียด 5 นาที ก่อนเข้าห้องน้ำ

แม้จะดูเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่การยืดเหยียดร่างกายตอนเช้าเป็นหนึ่งในกิจวัตรที่สำคัญที่สุด เพราะช่วยปลุกกล้ามเนื้อให้ตื่นตัว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเตรียมร่างกายให้พร้อมรับวันใหม่ โดยเฉพาะการยืดเหยียดก่อนเข้าห้องน้ำจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลองเริ่มจากท่าง่ายๆ เช่น ยืดแขน บิดลำตัว หรือย่อเข่าเบาๆ

 

3. ทำอะไรสักอย่างที่ดีต่อสุขภาพ

อาจจะเป็นการตั้งใจกินเมนูผัก 1 มื้อ การดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว งดน้ำอัดลมทั้งวัน หรือเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ก็ได้ เพราะการเลือกทำสิ่งที่ดีต่อสุขภาพส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง และมันคือจุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จในชีวิตได้เลย

 

4. ยิ้มหน่อยนะ

ส่งยิ้มก่อนบ้างแม้จะเป็นอินโทรเวิร์ตหรือไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ลองทักทายเพื่อนร่วมงานด้วยรอยยิ้มดีกว่าเดินผ่านกันไปเฉยๆ บางทีการทำให้คนอื่นมีความสุขก็เป็นยาวิเศษที่ทำให้เรามีความสุขไปด้วยนะ

 

5. จัดโต๊ะทำงานก่อนกลับบ้านทุกวัน

ก่อนจะเลิกงานสัก 5 นาที แค่จัดของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ เก็บของใช้เข้าที่ให้พร้อมใช้งานในวันต่อไป จะช่วยสร้างนิสัยดีๆ ติดตัว เมื่อจะเริ่มต้นทำงานในวันต่อไปทุกอย่างก็พร้อมและราบรื่น เป็นวิธีที่ดีต่อประสิทธิภาพการทำงานและดีต่อจิตใจโดยรวมด้วย

 

6. อยู่กับธรรมชาติอย่างน้อย 5-10 นาที

การแบ่งเวลาสั้นๆ ให้ตัวเองได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นการรีเซ็ตพลังงานที่ดีที่สุด ลองหาจังหวะระหว่างวันเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ มองท้องฟ้า ต้นไม้ใบหญ้า หรือแค่นั่งฟังเสียงนกร้อง รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า การได้พักสายตาจากหน้าจอสักพัก ปล่อยให้ตัวเองได้ผ่อนคลายกับความเขียวขจีของต้นไม้ จะช่วยลดความเครียด คลายความกังวล และเติมพลังให้สมองปลอดโปร่ง

 

7. เคลียร์อินบ็อกซ์ประจำวัน

ล้างกล่องจดหมายให้สะอาด เริ่มจากจัดการอีเมลที่กองพะเนิน ตั้งแต่ตอบกลับอีเมลสำคัญที่รอค้างอยู่ กำจัดอีเมลขยะที่ไม่จำเป็น หรือยกเลิกการติดตามจดหมายข่าวที่ไม่ได้อ่าน การทำความสะอาดกล่องจดหมายทีละนิดแบบนี้นอกจากจะช่วยให้เราทำงานได้คล่องตัวขึ้น ยังทำให้รู้สึกโล่งใจ เหมือนได้จัดระเบียบความคิดไปด้วย แถมยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะพลาดอีเมลสำคัญๆ ที่อาจจมอยู่ในกองสแปม ลองทำเป็นกิจวัตรเล็กๆ แค่วันละ 5-10 นาที รับรองว่าอินบ็อกซ์จะน่าใช้งานขึ้นเยอะ

 

8. ชื่นชมความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่คุณได้ทำสำเร็จลงไปแล้ว ทั้งการตื่นตรงเวลา การยืดเหยียดร่างกาย การจัดการอีเมลได้เรียบร้อย หรือแม้แต่การแบ่งเวลาให้ตัวเองได้พักสักนิด สิ่งเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่มันคือความสำเร็จที่น่าภูมิใจ

 

9. Me Time อยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ

แม้จะยุ่งแค่ไหนก็ต้องหาเวลาพักสักช่วงทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จะนั่งจิบกาแฟ ฟังเพลงโปรด หรือเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ การพักไม่ใช่การเสียเวลา แต่เป็นการชาร์จพลังให้ตัวเอง

 

10. จบวันด้วยความรู้สึกดีๆ

ก่อนนอนลองนึกถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ได้ เพราะความรู้สึกดีๆ ก่อนนอนจะช่วยให้เราพร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส

The post 10 Small Wins ที่เราควรเอาชนะให้ได้ทุกๆ วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
การยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) สมาธิที่ทำได้ทุกวัน https://thestandard.co/life/inner-smile-meditation-that-can-be-done-every-day/ Sun, 07 Jul 2024 00:00:54 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=954304

ชีวิตของเราทุกคนมักจะเต็มไปด้วยความกังวล ความเครียด และ […]

The post การยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) สมาธิที่ทำได้ทุกวัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ชีวิตของเราทุกคนมักจะเต็มไปด้วยความกังวล ความเครียด และความไม่แน่นอน ถ้าหากเราสามารถหาวิธีที่จะสร้างความสุขและความสงบในใจได้ก็จะช่วยทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้น การยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและเติมเต็มความสุขได้ในทุกๆ วัน

 

การยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) ไม่ใช่เพียงแค่การยิ้มที่เห็นได้จากภายนอก แต่เป็นการสร้างความรู้สึกดีๆ ภายในใจเรา มันคือการทำให้จิตใจเราผ่อนคลายและเปิดรับความสุขจากภายในตัวเอง การยิ้มจากข้างในสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหรือช่วงเวลาที่เหนื่อยล้า

 

ตามการวิจัยของวงการแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ในหัวข้อ How Positive Emotions Build Physical Health มีการศึกษาว่า อารมณ์บวกและความรู้สึกดีสามารถเสริมสุขภาพจิตและสุขภาพกายทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และการยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) สามารถช่วยลดระดับความเครียดและความกังวล ช่วยปรับสมดุลของจิตใจและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดี 

 

วิธีการฝึกการยิ้มจากข้างในนั้นไม่ยาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝนการหายใจและการผ่อนคลาย เริ่มต้นด้วยการหาที่นั่งสบายๆ ปิดตา และหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ ลองนึกถึงเหตุการณ์หรือสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและสงบ ให้ภาพนั้นปรากฏในใจคุณ ค่อยๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย และกล่าวขอบคุณตัวเองสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาตลอดวัน 

 

ในช่วงที่คุณหายใจและผ่อนคลาย ให้ลองยิ้มออกมาจากใจ จะรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มนั้นเริ่มแผ่ขยายไปทุกส่วนของร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกเบาและสงบ เป็นความรู้สึกดีที่สามารถนำพาคุณให้ผ่านพ้นวันอันน่าหนักใจได้อย่างง่ายดาย

 

การฝึกยิ้มในใจ (Inner Smile) ไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง แต่ยังสามารถส่งผลต่อคนรอบข้างด้วย เมื่อคุณยิ้มออกมาจากใจ คนรอบข้างก็จะรู้สึกได้ถึงพลังบวกจากคุณ บรรยากาศรอบตัวคุณก็จะเต็มไปด้วยความสุขและพลังงานที่ดี แล้วคุณจะพบว่าชีวิตมีความหมายและมีความสุขมากยิ่งขึ้น นี่เป็นวิธีดีๆ ในการเติมเต็มความสุขและทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตในทุกๆ วัน

The post การยิ้มจากข้างใน (Inner Smile) สมาธิที่ทำได้ทุกวัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หลังอายุ 23 ปี ผู้คนมักหัวเราะและยิ้มน้อยลง ทั้งที่อารมณ์ขันไม่ใช่แค่เรื่องตลก! แต่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน https://thestandard.co/after-23-people-tend-to-laugh-and-smile-less/ Sun, 09 Jun 2024 06:23:21 +0000 https://thestandard.co/?p=943086

อายุที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้แค่กล้ามเนื้อลีบหรือสายตาฝ้าฟา […]

The post หลังอายุ 23 ปี ผู้คนมักหัวเราะและยิ้มน้อยลง ทั้งที่อารมณ์ขันไม่ใช่แค่เรื่องตลก! แต่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน appeared first on THE STANDARD.

]]>

อายุที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้แค่กล้ามเนื้อลีบหรือสายตาฝ้าฟาง แต่ยังทำให้เราสูญเสีย อารมณ์ขัน ไปเรื่อยๆ ซึ่งนักวิชาการเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘หน้าผาอารมณ์ขัน’ (Humor Cliff) ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานของเรา

 

จากผลสำรวจของ Gallup ในปี 2013 พบว่า คนส่วนใหญ่มักจะเริ่มหัวเราะและยิ้มน้อยลงตั้งแต่อายุ 23 ปี Jennifer Aaker และ Naomi Bagdonas ผู้เขียนหนังสือ Humor, Seriously ตั้งคำถามว่า ‘ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น’

 

สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะงานที่เราทำ เมื่อเราโตขึ้น เข้าสู่โลกการทำงาน และกลายเป็น ‘คนสำคัญ’ เราจึงแลกเสียงหัวเราะกับชุดสูทและเนกไท จนในที่สุดก็สูญเสียความร่าเริงไปกับเรื่องเครียดๆ ในที่ทำงาน

 

จากการสำรวจพบว่า หลายคนกลัวที่จะแสดงอารมณ์ขันในที่ทำงาน เพราะกลัวว่าจะดูไม่เป็นมืออาชีพ หรือกลัวว่ามุกตลกจะแป้ก แต่ในความเป็นจริง อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้เราดูเป็นธรรมชาติ เป็นมนุษย์มากขึ้น และยังช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้อีกด้วย

 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้บริหารส่วนใหญ่ยังชอบพนักงานที่มีอารมณ์ขัน และเชื่อว่าพวกเขาทำงานได้ดีกว่าด้วย

 

อารมณ์ขันไม่ได้หมายถึงการเป็นนักแสดงตลกในห้องประชุม แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดรับอารมณ์ขันของทุกคน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา

 

ที่สำคัญ อารมณ์ขันไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ การหัวเราะเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตของเรา และยังช่วยให้คนรอบข้างรู้สึกดีไปด้วย

 

การมีอารมณ์ขันยังส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานอีกด้วย 

 

งานวิจัยพบว่า ผู้นำเสนอที่มีอารมณ์ขันถูกมองว่ามีความสามารถและความมั่นใจมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าทีมมากกว่าคนที่ไม่มีอารมณ์ขัน นอกจากนี้ อารมณ์ขันยังช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานอีกด้วย

 

แต่แน่นอนว่าการใช้อารมณ์ขันต้องระมัดระวัง ผู้เขียนแนะนำให้ประเมินทุกมุกตลกว่ามันบอกความจริงที่โหดร้ายเกินไปหรือไม่ แตะประเด็นที่เจ็บปวดเกินไปหรือไม่ และมีระยะห่างจากความเจ็บปวดมากพอที่จะหัวเราะได้หรือไม่

 

ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกหน้าผาอารมณ์ขัน ลองทำ Humor Audit โดยจดบันทึกว่าคุณหัวเราะเมื่อไร อะไรทำให้คุณหัวเราะ และเมื่อไรที่คุณทำให้คนอื่นหัวเราะ ซึ่งจะช่วยฝึกให้คุณมองเห็นโอกาสที่จะใช้อารมณ์ขันได้ดีขึ้น

 

“อย่าปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในหน้าผาอารมณ์ขัน เพียงเพราะคิดว่าความเป็นมืออาชีพต้องจริงจัง” Aaker กล่าว “จงนำอารมณ์ขันมาสู่ที่ทำงานและแสดงตัวตนของคุณออกมาให้มากขึ้น…ก่อนที่จะสายเกินไป”

 

ภาพ: PAstudio / Shutterstock

อ้างอิง:

The post หลังอายุ 23 ปี ผู้คนมักหัวเราะและยิ้มน้อยลง ทั้งที่อารมณ์ขันไม่ใช่แค่เรื่องตลก! แต่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หลักสูตร ‘สอนการยิ้ม’ กำลังได้รับความนิยม เมื่อชาวญี่ปุ่นรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องทำความคุ้นเคยกับการยิ้มง่ายๆ อีกครั้ง หลังไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย https://thestandard.co/no-joke-smile-training-booms-japan-face-masks-slowly-come/ Thu, 08 Jun 2023 02:35:13 +0000 https://thestandard.co/?p=800547 สอนการยิ้ม

ขณะที่โลกค่อยๆ เปลี่ยนกลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังการแพร่ระบ […]

The post หลักสูตร ‘สอนการยิ้ม’ กำลังได้รับความนิยม เมื่อชาวญี่ปุ่นรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องทำความคุ้นเคยกับการยิ้มง่ายๆ อีกครั้ง หลังไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สอนการยิ้ม

ขณะที่โลกค่อยๆ เปลี่ยนกลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ได้มีเทรนด์ที่น่าสนใจกำลังเกิดขึ้นในญี่ปุ่น นั่นคือหลักสูตร ‘สอนการยิ้ม’ ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากปีที่แล้ว

 

ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น? คำตอบอยู่ที่การรับมืออย่างเข้มแข็งของญี่ปุ่นต่อโรคระบาด เพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส คนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นปฏิบัติตามแนวทางการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ปกปิดใบหน้าเพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่น ซึ่งรอยยิ้มของพวกเขาจะถูกซ่อนไว้

 

แต่ปัจจุบัน ในขณะที่โลกเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างช้าๆ และหน้ากากอนามัยก็หมดประโยชน์ไป ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงรู้สึกว่า จำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกับการยิ้มง่ายๆ อีกครั้ง

 

เซสชัน ‘การฝึกยิ้ม’ ที่สอนโดย Keiko Kawano ผู้ที่เข้าเรียนจะใช้กระจก เพื่อวิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้า เหยียดปากเป็นรอยยิ้ม และเรียนรู้วิธียิ้มให้สมบูรณ์แบบ ผ่าน ‘เทคนิคการยิ้มสไตล์ฮอลลีวูด’ ซึ่งเป็นวิธีที่เน้นให้ได้ตาเสี้ยว แก้มกลม และปรับปากให้เผยฟันบนแปดซี่ เพื่อให้ได้รอยยิ้มในอุดมคติ

 

สำหรับหลายๆ คนแล้ว แนวคิดเรื่องการจ่ายเงินเพื่อเรียนรู้วิธียิ้มอาจดูแปลก แต่นักเรียนเหล่านี้ได้พบคุณค่าที่สำคัญในบทเรียน Himawari Yoshida อธิบายว่า พวกเขาไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อใบหน้ามากนักในช่วงที่เกิดโรคระบาด เนื่องจากต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลักสูตรเหล่านี้เป็นวิธีการออกกำลังกล้ามเนื้อและบริหารรอยยิ้ม ซึ่งไม่ได้ใช้อย่างเด่นชัดมาเป็นเวลานาน

 

Egaoiku บริษัทของ Kawano ได้เสนอการเรียนแบบตัวต่อตัว นานหนึ่งชั่วโมง ในราคา 7,700 เยน หรือเกือบ 2,000 บาท ความสนใจที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้มาจากผู้คนที่ต้องการสร้างรอยยิ้มให้สมบูรณ์แบบเท่านั้น ธุรกิจและรัฐบาลท้องถิ่นก็กำลังผลักดันความต้องการนี้เช่นกัน 

 

บริษัทต่างๆ กำลังมองหาชั้นเรียนเหล่านี้ เพื่อช่วยให้พนักงานขายเข้าถึงได้ง่ายและยิ้มแย้ม ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นในการโต้ตอบกับลูกค้า ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นกำลังใช้เป็นเครื่องมือในการยกระดับความเป็นอยู่โดยรวมของผู้อยู่อาศัย

 

เทรนด์การสวมหน้ากากอนามัยไม่ใช่เรื่องใหม่ในญี่ปุ่น ก่อนเกิดโรคระบาดผู้คนก็มักสวมหน้ากากอนามัยในช่วงฤดูไข้หวัด หรือในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญ เช่น การสอบ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และแม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเลิกคำแนะนำในการสวมหน้ากากอนามัยในเดือนมีนาคม แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงสวมหน้ากากอนามัยทุกวัน

 

ผลสำรวจที่จัดทำโดยสถานีโทรทัศน์ NHK ในเดือนพฤษภาคม พบว่า 55% ของชาวญี่ปุ่นยังคงสวมหน้ากากอนามัยบ่อยเท่ากับเมื่อ 2 เดือนก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงนิสัยนี้ที่ฝังลึก ข้อเท็จจริงนี้เห็นได้ชัดเจนในชั้นเรียนฝึกยิ้ม ที่ผู้เรียนบางส่วนตัดสินใจสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเรียน

 

ภาพ: Stanislav Kogiku / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

อ้างอิง:

The post หลักสูตร ‘สอนการยิ้ม’ กำลังได้รับความนิยม เมื่อชาวญี่ปุ่นรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องทำความคุ้นเคยกับการยิ้มง่ายๆ อีกครั้ง หลังไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย appeared first on THE STANDARD.

]]>