ฮ่องกงและพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนได้สั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจหลายแห่ง รวมถึงยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยววานนี้ (1 กันยายน) ขณะที่ไต้ฝุ่นเซาลาได้เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กับชายฝั่ง โดยอิทธิพลจากพายุทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนัก ขณะที่ทางการระบุว่า นี่อาจเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปีที่พัดเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้

เซาลามีสถานะเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันได้อ่อนกำลังลงเป็นไต้ฝุ่นแล้ว อย่างไรก็ตาม เซาลายังคงมีความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับ 4 โดยมีความเร็วลมสูงถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้สร้างความเสียหายให้กับหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้

หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) เปิดเผยว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนัก กระแสลมแรง และทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง อีกทั้งยังได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุระดับ T10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หรือเทียบเท่ากับเมื่อปี 2018 ที่มีการประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นมังคุด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนในมาเก๊า และสร้างความเสียหายอย่างมากในฮ่องกง

ล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนจากไต้ฝุ่นในฮ่องกง ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายสิบแห่ง เพื่อเปิดให้ประชาชนสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้ชั่วคราว อีกทั้งยังมีรายงานว่า มีน้ำท่วมเกิดขึ้นแล้วใน 7 จุด แต่ยังไม่มีรายงานดินถล่ม

ด้านประชาชนในดินแดนแห่งนี้ต่างเร่งเตรียมตัวรับมือกับไต้ฝุ่นที่จะเคลื่อนตัวเข้ามา โดยหลายคนได้แห่กันไปซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆ เพื่อกักตุนอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ขณะที่เริ่มมีกระแสลมพัดแรงในช่วงบ่ายวานนี้ โดยพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะเข้ามาใกล้เมืองมากที่สุดและพัดเข้าสู่มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ในช่วงเช้าวันนี้ (2 กันยายน)

อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วม (Joint Typhoon Warning Center) ระบุว่า ศูนย์กลางของพายุน่าจะยังคงอยู่นอกชายฝั่ง ไม่ได้เคลื่อนตัวเข้ามาพัดผ่านแผ่นดิน และจะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้ดินแดนแห่งนี้ จนมีระดับความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับ 2

ภาพ: Vernon Yuen / NurPhoto via Getty Images

อ้างอิง:

• https://edition.cnn.com/2023/08/31/asia/hong-kong-china-macau-typhoon-saola-intl-hnk/index.html

The post ฮ่องกงสั่งปิดโรงเรียน พร้อมยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว รับมือไต้ฝุ่นเซาลาบุก appeared first on THE STANDARD.

ผู้โดยสารเครื่องบินหลายพันคนในสหราชอาณาจักรต้องเผชิญความเดือดร้อนภายหลังมีการเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากระบบควบคุมการจราจรทางอากาศเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ในขณะที่สนามบินและสายการบินหลายแห่งในสหราชอาณาจักร รวมถึง British Airways, Virgin Atlantic และ TUI ก็ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนและยกเลิกเที่ยวบินเมื่อวานนี้ (28 สิงหาคม) 

โดยสายการบินและสนามบินหลายแห่งประกาศหลังเกิดเหตุขัดข้อง เตือนว่าเที่ยวบินต่างๆ ยังคงประสบความล่าช้าอย่างมากในการให้บริการ แม้ว่าปัญหาขัดข้องดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินชี้ว่า การหยุดชะงักของเที่ยวบินต่างๆ ภายหลังจากเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคจะคงอยู่อีกเป็นเวลาหลายวัน

ด้านสำนักข่าว BBC รายงานว่า ผู้โดยสารบางคนถูกเลื่อนเที่ยวบินตั้งแต่บ่ายวานนี้ โดยหน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศได้จำกัดจำนวนเครื่องบินลงจอด ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องติดค้างทั้งในสนามบินของสหราชอาณาจักรและในต่างประเทศ 

ขณะที่สนามบินฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนประกาศช่วงเย็นวานนี้ว่า ตารางเที่ยวบินยังคงหยุดชะงัก ซึ่งผู้โดยสารที่จะเดินทางในวันนี้ (29 สิงหาคม) ควรติดต่อสายการบินก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามบิน

เช่นเดียวกับสนามบินแกตวิกที่เปิดเผยว่า กำลังวางแผนให้บริการเที่ยวบินในวันนี้ตามตารางปกติ แต่แนะนำให้ผู้โดยสารตรวจสอบสถานะของเที่ยวบินกับสายการบินก่อนเดินทางไปสนามบิน

ภาพ: Martin Rickett / PA Images via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/uk-66637156

The post ผู้โดยสารนับพันเดือดร้อน เที่ยวบินอังกฤษเลื่อน-ยกเลิก หลังระบบควบคุมจราจรทางอากาศขัดข้อง appeared first on THE STANDARD.

ผลกระทบจากการที่พายุฤดูหนาวกำลังแรงจากแถบอาร์กติก หรือขั้วโลกเหนือ ที่พัดเข้าปกคลุมสหรัฐฯ และแคนาดา ส่งผลให้ระดับอุณหภูมิหลายพื้นที่หนาวเย็นจัดถึงระดับติดลบ ขณะที่เกิดผลกระทบต่อการเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศ โดยเว็บไซต์การบิน FlightAware รายงานว่ามีเที่ยวบินในสหรัฐฯ ยกเลิกแล้วมากกว่า 5,300 เที่ยว ตั้งแต่เมื่อวานนี้และวันนี้ (22-23 ธันวาคม) เพื่อระวังอันตรายจากพายุ

เบื้องต้น คาดว่ามีประชาชนกว่า 100 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ ที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังผลกระทบจากพายุฤดูหนาวลูกนี้ ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก และคาดว่าจะส่งผลให้หลายพื้นที่ อาทิ รัฐฟลอริดา ต้องเผชิญกับบรรยากาศคริสต์มาสที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 30 ปี 

โดยล่าสุด หลายรัฐ เช่น เท็กซัส แคนซัส มิสซูรี พบว่าอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับโคโลราโด ที่อุณหภูมิลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากประมาณ 5 องศาเซลเซียสเป็นติดลบ 22 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ ส่วนที่รัฐไวโอมิง อุณหภูมิลดต่ำสุดถึงติดลบ 37 องศาเซลเซียส

นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า พายุฤดูหนาวลูกนี้อาจกลายเป็น ‘บอมบ์ไซโคลน (Bomb Cyclone)’ ซึ่งเป็นคำที่ไม่เป็นทางการสำหรับพายุที่ทวีกำลังแรงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่หน่วยงานสภาพอากาศแห่งชาติ (National Weather Service: NWS) ของสหรัฐฯ ชี้ว่า พายุฤดูหนาวครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ด้านสภาพอากาศในฤดูหนาวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชั่วอายุคน ซึ่งแรงกดอากาศของพายุที่ตอนนี้เคลื่อนตัวไปถึงภูมิภาคเกรตเลกส์ (Great Lakes) คาดว่าจะเทียบเท่ากับเฮอริเคนระดับ 3 

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่หลายพื้นที่ทั่วประเทศจะเผชิญกับอุณหภูมิหนาวเย็นจัดระดับติดลบ 45 องศาเซลเซียส ถึงติดลบ 56 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และคาดว่าอิทธิพลพายุที่ก่อให้เกิดหิมะตกหนักและลมกระโชกแรง อาจทำให้เกิดความเสียหายและไฟฟ้าดับในแถบมิดเวสต์ไปจนถึงแคนาดา 

ขณะที่หิมะและคราบน้ำแข็งที่ปกคลุมถนนหลายสาย ตลอดจนทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ลดต่ำลง คาดว่าจะกระทบต่อการเดินทางบนท้องถนนในช่วงสุดสัปดาห์เช่นกัน โดยถนนหลวงบางพื้นที่ อาทิ ถนนเชื่อมระหว่างรัฐโคโลราโดและไวโอมิง เริ่มปิดใช้งานแล้ว เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ลดต่ำจนเกือบมองไม่เห็นทาง

ภาพ:Scott Olson / Getty Images

อ้างอิง:

• www.bbc.com/news/world-us-canada-64061588

The post พายุฤดูหนาวพัดกระหน่ำสหรัฐฯ ส่งผลยกเลิกเที่ยวบินแล้วกว่า 5,300 เที่ยว หวั่นอุณหภูมิบางพื้นที่ลดต่ำถึง -56 องศาฯ appeared first on THE STANDARD.

แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศว่า ฮ่องกงจะกลับมาใช้บางมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 5 ซึ่งรวมถึงการจำกัดกิจกรรมทางสังคม การสั่งแบนเที่ยวบินที่มาจาก 8 ประเทศ และการเคอร์ฟิวห้ามกินอาหารในร้านตั้งแต่ 18.00 น.

โดยการประกาศใช้มาตรการเข้มงวดดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจนถึงเมื่อวานนี้ (5 มกราคม) พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในฮ่องกงแล้วทั้งหมด 114 คน และช่วงสัปดาห์นี้ปรากฏรายงานกรณีผู้ติดเชื้อโอไมครอนในท้องถิ่นรายแรกที่ทางการฮ่องกงไม่สามารถติดตามที่มาของการระบาดได้ โดยเป็นชายที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 

ขณะที่ที่ปรึกษาด้านโรคระบาดของรัฐบาลฮ่องกง เตือนว่าการระบาดของโควิดระลอก 5 นั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเรียกร้องให้ทางการเร่งเพิ่มมาตรการควบคุมและยับยั้งการระบาดอย่างเข้มงวดในทันที

ทั้งนี้ลัมชี้ว่ามาตรการเข้มงวดเหล่านี้มีความจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเน้นย้ำความสำคัญในการป้องกันกรณีผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อโอไมครอน

“มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสถานการณ์โรคระบาดซึ่งทำให้เราต้องกังวล วันนี้เราจะประกาศมาตรการที่รวดเร็ว เด็ดขาด และแม่นยำในการตัดห่วงโซ่ของการแพร่เชื้อ” ลัมกล่าว

ภายใต้มาตรการเข้มงวดล่าสุดนี้จะส่งผลให้ร้านอาหารต้องปิดให้บริการกินอาหารในร้านตั้งแต่เวลา 18.00 – 04.59 น. ของวันรุ่งขึ้น ขณะที่มีการสั่งปิดสถานประกอบการตามที่กำหนด 15 ประเภท ได้แก่ บาร์ ผับ ไนต์คลับ ฟิตเนส สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ห้องจัดเลี้ยง สถานเสริมความงาม สระว่ายน้ำ โรงอาบน้ำ ศูนย์เกม ห้องคาราโอเกะ สถานที่เล่นกีฬา สถานประกอบการเล่นการพนันสไตล์จีนประเภทไพ่นกกระจอกและทินเกา (โดมิโน) สถานที่จัดงานและการแสดง รวมทั้งโรงภาพยนตร์

ขณะที่เที่ยวบินที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินที่มาต่อเครื่อง จะถูกแบนไม่ให้เดินทางเข้าฮ่องกงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (8 มกราคม) 

นอกจากนี้ยังยกเลิกการจัดงานขนาดใหญ่ และระงับทัวร์ท้องถิ่นและการล่องเรือสำราญชมวิวทั้งหมด ตลอดจนห้ามการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐหรือผู้สูงอายุในสถานดูแลต่างๆ และจะมีการบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลใหม่ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (7 มกราคม) โดยจะมีผลอย่างน้อย 14 วัน ก่อนจะมีการทบทวนอีกครั้ง

ภาพ: Photo by Li Zhihua / China News Service via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3162190/coronavirus-hong-kongs-fifth-wave-has-already?module=lead_hero_story&pgtype=homepage
• https://www.businesstimes.com.sg/government-economy/hong-kong-shortens-dining-in-bans-flights-as-omicron-emerges

The post ฮ่องกงแบนเที่ยวบินจาก 8 ประเทศ สั่งปิดบาร์ ไนต์คลับ ยิม เคอร์ฟิวกินอาหารในร้านตั้งแต่ 18.00 น. รับมือโควิดระลอก 5 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (25 ธันวาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สายการบินเชิงพาณิชย์ทั่วโลกยกเลิกอย่างน้อย 4,300 เที่ยวบินทั่วโลกช่วงเทศกาลคริสต์มาสตลอดสุดสัปดาห์นี้แล้ว หลังเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอนระบาดอย่างหนัก พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป

เฉพาะในวันคริสต์มาสอีฟ (24 ธันวาคม) ที่ผ่านมา มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินอย่างน้อย 2,366 เที่ยวบิน ขณะที่เว็บไซต์ติดตามสถานะของเที่ยวบินต่างๆ อย่าง FlightAware.com ระบุว่า มีเกือบ 9,000 เที่ยวบินที่ล่าช้า

หลายประเทศจึงยกระดับมาตรการรับมือโควิดอีกครั้ง กลับมาให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงเข้ารับวัคซีนโควิด โดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่นี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง: 

• รู้จัก Omicron โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล
• WHO ประกาศให้ ‘โอไมครอน’ เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธ์ุ เป็นสายพันธ์ุระดับที่น่ากังวลตัวใหม่
• A Pandemic of the Unvaccinated คืออะไร ทำไมผู้ติดเชื้อในยุโรปถึงพุ่งอีกครั้ง
• เทียบประสิทธิภาพยาเม็ดรักษาโควิดของ Merck vs. Pfizer

ภาพ: Eduard Goricev / Shutterstock

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-59780318
• https://www.aljazeera.com/news/2021/12/25/wrapup-3-thousands-of-flights-canceled-globally-as-omicron-mars-christmas-weekend 

The post เชื้อโอไมครอนเป็นเหตุ อย่างน้อย 4,300 เที่ยวบินทั่วโลกช่วงคริสต์มาสถูกยกเลิกแล้ว appeared first on THE STANDARD.

หลายประเทศในทวีปเอเชียและยุโรป เช่น สิงคโปร์, อินเดีย, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, อิตาลี และเยอรมนี ตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการควบคุมพรมแดนและระงับเที่ยวบินจากหลายประเทศในทวีปแอฟริกา หลังจากที่เมื่อวานนี้ (25 พฤศจิกายน) กระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้ ประกาศยืนยันการค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่คาดว่าอาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันและต้านทานวัคซีน รวมถึงแพร่ระบาดได้ง่ายกว่า

นักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีการกลายพันธุ์ในจำนวนที่สูงเกินปกติ โดยพบการกลายพันธุ์มากกว่า 30 จุดในโปรตีนหนามของไวรัส ซึ่งเป็นส่วนที่ไวรัสใช้เกาะเข้ากับเซลล์ในร่างกาย

ขณะที่ทางการแอฟริกาใต้ ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ในแอฟริกาใต้ รวมถึงบอตสวานา และในผู้โดยสารที่เดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังฮ่องกง 

ความหวั่นวิตกต่ออันตรายของโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ประกาศห้ามการเข้าประเทศ สำหรับนักเดินทางที่มีประวัติมาจาก 7 ประเทศแอฟริกาในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ได้แก่ แอฟริกาใต้, บอตสวานา, เอสวาตินี, เลโซโท, โมซัมบิก, นามิเบีย และซิมบับเว 

ขณะที่อังกฤษตัดสินใจระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และเพื่อนบ้านอีก 5 ประเทศในทันที เช่นเดียวกับอิตาลีที่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้และประเทศใกล้เคียงเข้าประเทศ ส่วนเยอรมนีเตรียมประกาศให้แอฟริกาใต้เป็นพื้นที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่

ทางด้านองค์การอนามัยโลกหรือ WHO เตรียมประชุมเร่งด่วนในวันนี้ (26 พฤศจิกายน) เพื่อหารือเรื่องไวรัสสายพันธุ์ B.1.1.529 ซึ่งถูกจับตามองว่าอาจอันตรายกว่าสายพันธุ์เดลตา ที่กำลังแพร่ระบาดรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลกตอนนี้ โดยจะมีการพิจารณาว่าจะมีการจัดให้ไวรัสสายพันธุ์นี้ อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่าสนใจหรือสายพันธุ์ที่น่ากังวลหรือไม่

ขณะที่การกลายพันธุ์หลายจุดของไวรัสสายพันธุ์นี้ ยังมีความเชื่อมโยงกับการต่อต้านภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าอาจลดทอนประสิทธิภาพของวัคซีน และส่งผลต่อพฤติกรรมของไวรัส ทั้งในด้านการตอบสนองต่อวัคซีน การรักษา และการแพร่ระบาด

ภาพ: Photo by Suhaimi Abdullah/Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/japan-tighten-border-controls-s-africa-others-new-virus-variant-jiji-2021-11-26/
• https://edition.cnn.com/2021/11/25/world/covid-variant-south-africa-immune-evasion-transmissibility/index.html
• https://www.cnbc.com/2021/11/26/covid-variant-emerges-in-south-africa-heres-what-we-know-so-far.html
• https://www.channelnewsasia.com/singapore/covid-19-moh-singapore-restrict-entry-7-african-countries-2339956

The post หลายประเทศเอเชีย-ยุโรป สั่งระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ หลังพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ระบาด หวั่นอันตรายหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (18 กรกฎาคม) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย​ (กพท.) ออกประกาศ​ เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 3) มีสาระสำคัญ​ ดังนี้

1. ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 2) และให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน

2. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับแก่เที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic Flight) ที่ให้บริการผู้โดยสาร ​(Passenger Flight) เท่านั้น

3. ห้ามมิให้มีการขนส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ในช่วงเวลาที่มีการระบาดสูงตามข้อกำหนด เว้นแต่

• เป็นเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (Sandbox)
• เป็นกรณีอากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency Landing) หรือขอลงทางเทคนิค (Technical Landing) โดยไม่มีผู้โดยสารลงจากเครื่อง
• มีความจำเป็นและได้รับอนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งจะต้องแสดงหลักฐานเพื่อแสดงความจำเป็น​เพื่อประกอบการขออนุญาต เช่น เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ เพื่อการรับวัคซีน

ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้​ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม​ 2564 เป็นต้นไป

The post สำนักงานการบินพลเรือนฯ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินในประเทศในพื้นที่สีแดงเข้ม ยกเว้น​พื้นที่ Sandbox​, การขอลงฉุกเฉิน และขนส่งวัคซีน appeared first on THE STANDARD.

สายการบิน EVA Air ของไต้หวัน ประกาศยกเลิกเที่ยวบินรวม 852 เที่ยว หลังพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนัดผละงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรง โดยเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกครอบคลุมถึงเส้นทางไทเป-ฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางบินระหว่างประเทศที่คึกคักที่สุดในโลก

EVA Air ระบุบนเว็บไซต์ว่า การยกเลิกเที่ยวบินจำนวนหลายร้อยเที่ยวจะมีผลเป็นเวลา 8 วัน สิ้นสุดในวันที่ 24 มิถุนายน โดยเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ นอกจากเส้นทางไทเป-ฮ่องกงแล้ว ยังมีเส้นทางไต้หวัน-ญี่ปุ่น, ไต้หวัน-สิงคโปร์, ไต้หวัน-ลอนดอน และไต้หวัน-นิวยอร์ก ที่ถูกยกเลิกบางส่วนด้วย

เพจเฟซบุ๊กของสหภาพ Taoyuan Flight Attendants ระบุว่า การหยุดงานประท้วงซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา มีพนักงานเข้าร่วมกว่า 2,000 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวเป็นตัวเลขเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทั้งหมดของ EVA Air ตามที่มีการระบุบนเว็บไซต์ (ข้อมูลจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม)

ทั้งนี้ พนักงาน EVA Air ได้รวมตัวกันเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงและเงื่อนไขการทำงานที่ดีขึ้น แต่หลังจากที่การเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว ทางสหภาพจึงลงมติหยุดงานประท้วง อย่างไรก็ตาม บริษัทสายการบินยืนยันว่าจะเจรจากับพนักงานต่อไป

การยกเลิกเที่ยวบินของ EVA Air รวมกว่า 150 เที่ยวในช่วง 4 วันก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้แล้วราว 18,682,090 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทร่วงลง 4.5% นับตั้งแต่ปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว

สำหรับการผละงานประท้วงของพนักงานสายการบินครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของไต้หวันในรอบปีนี้ หลังพนักงาน China Airlines ซึ่งเป็นสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ได้หยุดงานประท้วงรวม 7 วัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่นักบินจะตกลงกับทางสายการบินได้ โดยบริษัทยอมจ่ายเงินชดเชยให้พนักงาน ซึ่งคิดเป็นต้นทุนเพิ่มให้กับสายการบินประมาณ 3,671,997 เหรียญสหรัฐต่อปี  

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• www.straitstimes.com/asia/east-asia/hundreds-of-flights-cancelled-as-air-attendants-go-on-strike-in-taiwan

The post EVA Air ยกเลิก 852 เที่ยวบิน เหตุพนักงานผละงานประท้วง กระทบเส้นทางบินไต้หวันสู่ฮ่องกง-ลอนดอน-นิวยอร์ก appeared first on THE STANDARD.

หลังเหตุการณ์กรณีพิพาทระหว่างอินเดียและปากีสถานที่ลุกลามกลายเป็นเหตุการณ์ยิงเครื่องบินอินเดียตกเมื่อบ่ายวานนี้ รัฐบาลปากีสถานตัดสินใจประกาศ ‘ปิดน่านฟ้า’ แบบฉับพลัน ส่งผลให้หลายเที่ยวบินได้รับผลกระทบแบบทันด่วน บางลำตัดสินใจบินกลับ บางลำเลือกบินอ้อม ท่ามกลางความโกลาหลของการสับเปลี่ยนตารางบินกันอุตลุด หลายคนสงสัยว่าทำไมการบินไทยจึงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินแทนการบินอ้อมน่านฟ้าดังเช่นสายการบินอื่นในละแวก ซึ่งแลดูง่ายและไม่กระทบต่อตารางชีวิตของผู้โดยสารเท่าไรนัก เก็บความกริ้วโกรธของคุณไว้ก่อน อย่าเพิ่งเอ่ยปากต่อว่า แล้วมาดูกันว่าทำไมหลายสายการบินจึงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินแทนการดันทุรังบินอ้อมน่านฟ้า

น่านฟ้าใคร ใครก็หวง

อย่างที่ทราบกันว่าน่านฟ้าก็ไม่ต่างจากน่านน้ำ อยู่ในขอบเขตประเทศใด ประเทศนั้นก็หวง การจะบินผ่านน่านฟ้าใดต้องได้รับการอนุญาตก่อน จะขับเครื่องบินผ่านแบบสุ่มสี่สุ่มห้าก็อาจโดนสอยร่วง ซึ่งการขออนุญาตที่ว่าไม่ใช่ว่าโทรกริ๊งเดียวก็สามารถร่อนผ่านได้ทันที แต่ต้องทำเรื่องขออนุญาตที่เรียกว่า Overflight Permit กับกรมการบินพลเรือนของประเทศนั้นๆ ล่วงหน้า 30 วันในกรณีปกติ หรือ 2-3 วันในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะเร็วหรือช้านั้นก็อยู่ที่อำนาจต่อรองระหว่างประเทศด้วย และเมื่อได้รับการอนุญาตแล้ว ก่อนการบิน 2 ชั่วโมงต้องส่งแผนการบินล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่สถานที่ปลายทางยืนยันอีกครั้งก่อนจึงจะขึ้นบินได้ ฉะนั้นการที่บางสายการบินอย่างสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส หรือนอร์วีเจียนแอร์ไลน์สามารถบินอ้อมได้ แสดงว่ามีการขออนุญาตเข้าน่านฟ้าไว้อยู่แล้ว

แม้จะอยู่บนฟ้า การสัญจรก็ติดขัดได้นะ

เมื่อมีการปิดน่านฟ้าและต้องเลือกบินอ้อม ไม่ว่าจะอ้อมบนหรืออ้อมล่างก็ย่อมส่งผลกระทบหลายอย่าง ท้องฟ้าที่เราเห็นว่าเวิ้งว้างไร้ขอบรั้ว แท้จริงแล้วมีการกำหนดเส้นทางบินคล้ายถนนไว้เหมือนกัน การจะใช้เส้นทางบินไม่ใช่ดุ่มๆ เข้าเสียบเหมือนรถบนถนน ต้องมีการจองล่วงหน้าเพื่อดูความหนาแน่นของการจราจรว่าใครบินผ่านเวลาไหนที่ความสูงใด เพราะการบินในระยะประชิดมากไปอาจทำให้เกิดกระแสอากาศปั่นป่วนจากเครื่องบินลำหน้า ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัย

ทีนี้เมื่อมีการปิดน่านฟ้าของประเทศหนึ่ง การที่เราซึ่งเป็นขาจรจะขอเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นที่มีขาประจำอยู่แล้ว ใช่ว่าทุกลำที่เข้าไปใช้ถนนเส้นนั้นได้ ต้องดูการจราจรว่าหนาแน่นเพียงใด ถ้าถนนเต็มก็อด ฉะนั้นในช่วงเวลาที่น่านฟ้าถูกปิดแล้ว และเรากำลังบินเคว้งคว้างในอากาศ ถนนเส้นเดิมก็บินไม่ได้ เส้นใหม่ก็เต็ม จะหาเส้นอื่นก็ไม่รู้ว่าจะทันเวลาไหม การยกเลิกไฟลต์หรือเลือกบินวกกลับมาจอดยังท่าอากาศยานเดิมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดกับผู้โดยสารทั้งลำ

บนฟ้าไม่มีปั๊มน้ำมันให้แวะเติม

แม้บนเครื่องบินทุกลำจะมีน้ำมันสำรองฉุกเฉินชนิดบินกลับได้ 1 รอบ ทว่าการบินออกนอกเส้นทางเดิมที่กำหนดอาจทำให้ต้องใช้น้ำมันเยอะกว่าเดิม หลายสายการบินต้องทำเรื่องขอลงจอดเติมน้ำมันสำรองในประเทศที่ 3 หรือ 4

ขอให้นึกภาพตาม สมมติว่ามีเที่ยวบินภูเก็ต-เชียงใหม่ด้วยเครื่องบินลำหนึ่ง ซึ่งปกติการสำรองน้ำมันจะสามารถเดินทางไปกลับได้พอดี ทว่าอยู่ดีๆ เส้นทางการบินเดิมก็ไม่สามารถบินผ่านได้ ต้องบินอ้อมแวะไปทางตราด จากน้ำมันเดิมที่คำนวณว่าพอดีกลับไม่เพียงพอเสียอย่างนั้น สิ่งที่ทำได้คือต้องหาสนามบินลงจอดเพื่อเติมน้ำมัน ถ้าหาได้ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ถ้าหาไม่ได้ ยอมดันทุรังบินต่อแล้วน้ำมันหมดกลางทางหรือหมดฉุกเฉินระหว่างรอหอบังคับการบินจัดคิวเครื่องลงจอดจะทำอย่างไร

บนฟ้าไม่มีปั๊มน้ำมันเปิดให้บริการเหมือนการสัญจรบนถนน การลงจอดเพื่อแวะเติมน้ำมันแต่ละครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่ความหนาแน่นของการสัญจร ปัญหาถนนเต็มอย่างที่กล่าวมาข้างต้น หรือช่องลงจอด รวมไปถึงค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขต่างๆ อีกมากมาย

ท่ามกลางความโกลาหลของสายการบินพาณิชย์จากเหตุการณ์ปิดน่านฟ้าของปากีสถาน คุณสามารถตั้งคำถามกับการบริหารจัดการแก้ปัญหาของสายการบินต่างๆ ได้ ทว่าก่อนก่นด่าหรือเกรี้ยวกราดกับสิ่งใดนั้น ขอให้หันมาดูข้อเท็จจริงสักนิดว่าโลกของการบินบนท้องฟ้าไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด แต่ถูกควบคุมด้วยกฎและข้อบังคับต่างๆ มากมาย ไม่มีสายการบินใดอยากวกกลับหรือยกเลิกเที่ยวบิน เพราะนั่นส่งผลต่อการสูญเสียเม็ดเงินมหาศาล

ใครที่มีเที่ยวบินไปยุโรปช่วงนี้ แนะนำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทางที่ดีก็ควรซื้อประกันการเดินทางติดกระเป๋าไว้ด้วย จะได้อุ่นใจหรือมีทางแก้มากขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกี่ยวกับการเดินทาง

อ่านเพิ่มเติม

• เดือด! ปากีสถานยิงเครื่องบินรบอินเดียร่วง 2 ลำ ตอบโต้อินเดียรุกล้ำน่านฟ้าโจมตีกลุ่มก่อการร้าย
• เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ในแคชเมียร์ คร่าชีวิตทหารอินเดียอย่างน้อย 44 นาย
• ตึงเครียด! ปากีสถานโวยอินเดีย หลังส่งเครื่องบินรบล่วงล้ำน่านฟ้า หมายโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้าย

ภาพ: Shutter Stock

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• en.wikipedia.org/wiki/Flight_permit
• www.airports.go.th/rbm/traffic%20right.pdf
• www.aerothai.co.th/sites/default/files/files/related-laws/กฏหมายการเดินอากาศระหว่างประเทศ%20%28อนุสัญญาชิคาโก%20ค.ศ.1944%29_1.pdf
• www.facebook.com/ThaiAirways.TH/photos/a.629441047162126/1840323712740514/?type=3&theater
• www.facebook.com/thaipilotwannabe/photos/a.1288773337801695/2346132475399104/?type=3&theater

The post ทำไมต้องยกเลิกเที่ยวบินแทนการบินอ้อม เมื่อน่านฟ้าปิดกะทันหัน appeared first on THE STANDARD.