รมว.คลัง เล็งปรับโครงการ ‘ซื้อหนี้แบงก์’ กลุ่มเกิน 1 แส […]
The post รมว.คลัง เล็งปรับแผน ‘ซื้อหนี้ประชาชน’ กลุ่มเกิน 1 แสนบาท? หันขอแบงก์ช่วยปรับโครงสร้างหนี้แทน เล็งขยายวงเงิน ‘มาตรการจ่าย ปิด จบ’ เป็น 10,000 บาท appeared first on THE STANDARD.
]]>
รมว.คลัง เล็งปรับโครงการ ‘ซื้อหนี้แบงก์’ กลุ่มเกิน 1 แสนบาท จ่อหารือ SFI แบงก์พาณิชย์ และนอนแบงก์ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้แทน พร้อมเตรียมขยายวงเงิน ‘มาตรการจ่าย ปิด จบ’ เป็น 10,000 บาท จากเดิม 5,000 บาทที่เข้าร่วมโครงการได้ หวังกดหนี้ครัวเรือนลงต่ำกว่า 80% ต่อ GDP
วันนี้ (1 พฤษภาคม) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสถาปนากระทรวงการคลัง ครบรอบ 150 ปี ‘MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย’ ว่า มีแนวคิดขยายยอดหนี้ของโครงการคุณสู้เราช่วย ในส่วนของ ‘มาตรการจ่าย ปิด จบ’ จากเดิมที่กำหนดให้กลุ่มที่มียอดหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท เข้าร่วมโครงการ ในอนาคตจะขยายไปถึงกลุ่มที่มียอดหนี้ต่ำกว่า 10,000 บาท
“เราจะขยายยอดหนี้โครงการนี้ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้มากขึ้น คุณสู้เราช่วย ตอนนี้ยอดเงินน้อยไป คนก็ไม่ค่อยเข้า หรือคนที่วงเงินเกินกว่า 5,000 ก็เข้าไม่ได้ เราก็จะขยายวงเงินให้สูงขึ้น” พิชัยกล่าว
สำหรับแนวทางการแก้หนี้กลุ่มที่เป็นหนี้เสียเกิน 100,000 บาท ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2 ล้านราย และส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่มีหลักประกัน พิชัยมองว่า เนื่องจากหนี้ส่วนใหญ่นี้ก็ตั้งสำรองหมดแล้ว ดังนั้นจึงอยู่ที่ว่า จะหาวิธีแก้หนี้อย่างไร ซึ่งตนมองว่า หนี้กลุ่มนี้ไม่เหมาะกับการใช้วิธีซื้อหนี้ แต่ควรปรับโครงสร้างหนี้จะดีกว่า
นอกจากนี้ พิชัยยังเปิดเผยอีกว่า ในอีก 2 เดือนข้างหน้า คือ มิถุนายน – กรกฎาคม 2568 จะมีการปรับเงื่อนไขมาตรการแก้หนี้บางเรื่อง และนำเข้า ครม. โดยเฉพาะในส่วนของแบงก์รัฐ ส่วนของแบงก์พาณิชย์ อาจจะต้องขอนั่งคุยก่อน
พิชัยกล่าวอีกว่า เมื่อเดือนมกราคม สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 88.6% ขณะที่จากการคำนวนคร่าวๆ ของกระทรวงการคลังคาดว่า ในเดือนมีนาคม สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะลดลงเหลือราวๆ 86% ทำให้ตนคาดหวังว่า จากมาตรการแก้หนี้ทั้งหมดนี้ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะอยู่ในระดับต่ำกว่า 80%
The post รมว.คลัง เล็งปรับแผน ‘ซื้อหนี้ประชาชน’ กลุ่มเกิน 1 แสนบาท? หันขอแบงก์ช่วยปรับโครงสร้างหนี้แทน เล็งขยายวงเงิน ‘มาตรการจ่าย ปิด จบ’ เป็น 10,000 บาท appeared first on THE STANDARD.
]]>
เครดิตบูโรเปิดเผยตัวเลขหนี้เสียสิ้น 3Q67 พุ่งแตะ 1.2 ล้ […]
The post ชมคลิป: เปิดตัวเลขหนี้เสียสิ้นไตรมาส 3 พุ่งแตะ 1.2 ล้านล้านบาท | Morning Wealth 21 ต.ค. 67 appeared first on THE STANDARD.
]]>
เครดิตบูโรเปิดเผยตัวเลขหนี้เสียสิ้น 3Q67 พุ่งแตะ 1.2 ล้านล้านบาท ด้านกลุ่มคนเป็นหนี้กำลังจะเสียไม่กล้าปรับโครงสร้างหนี้ หวั่นกู้ใหม่ไม่ได้ รายละเอียดเป็นอย่างไร
ธุรกิจ SMEs พร้อมสำหรับการรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืนแล้วหรือยัง? พูดคุยกับ ปราณิดา ศยามานนท์ ผู้อำนวยการฝ่าย Industry Analysis ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)
ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH
อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/
บัตร Early Bird ลด 2,000 บาท มีจำนวนจำกัด!
ดูรายละเอียดได้ที่: https://bit.ly/tsef2024PinEarlyMWYT
ครบที่สุดแห่งปี! ไม่ตกเทรนด์ปี 2025 ด้วยงานเดียว
THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024
บัตรใบเดียวเข้างานได้ 3 วันเต็ม
วันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้ ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
เลือกซื้อบัตร 1 วันได้ในราคาพิเศษ เพียงใบละ 1,590 บาท
เนื้อหาเจาะลึกเมกะเทรนด์ปี 2025 เศรษฐกิจ / AI / ภูมิรัฐศาสตร์ / EV
ฟังอินไซต์จากผู้ออกแบบนโยบายจริง วางแผนอะไร คิดอะไรอยู่
ซื้อบัตรองค์กร ติดต่อ [email protected]
หรือ 0 2079 5428 กด 6 (เวลาทำการ 10.00-18.00 น.)
The post ชมคลิป: เปิดตัวเลขหนี้เสียสิ้นไตรมาส 3 พุ่งแตะ 1.2 ล้านล้านบาท | Morning Wealth 21 ต.ค. 67 appeared first on THE STANDARD.
]]>
ก่อนเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ รัฐบาล แพทองธ […]
The post วิสัยทัศน์ทักษิณ รัฐบาลแพทองธารทำ? appeared first on THE STANDARD.
]]>
ก่อนเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ต้องแถลงนโยบาย ชี้แจงการดำเนินการตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐต่อรัฐสภา
ตามที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ ว่าการใช้อำนาจอธิปไตย (บริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ) จะต้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นชอบในเรื่องสำคัญของแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ
เอกสารคำแถลงนโยบาย 86 หน้า ประกอบด้วย 10 นโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลาง และระยะยาว หลายนโยบายยังคงสานต่อจากรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน แต่หลายนโยบายกลับมีแนวคิดไม่ต่างกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ในเวที Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 ของเครือเนชั่น เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 สิงหาคม 2567
‘ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ’ สโลแกนเลือกตั้งปี 2554 ของพรรคเพื่อไทย คงเป็นอีกนิยามที่ถูกหยิบยกมาพูดในเรื่องนี้ และไม่แปลกที่การครอบครองบุตรสาวของทักษิณจะถูกมองในแง่ลบว่าเป็นการครอบงำผ่านนโยบายรัฐบาล
นโยบายรัฐบาลแพทองธารและวิสัยทัศน์ของทักษิณจะมีจุดร่วมอะไรที่เหมือนกัน และมีจุดใดแตกต่างกันบ้าง THE STANDARD หยิบยกมาเปรียบเทียบให้รับทราบ

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมยินดี แพทองธาร ชินวัตร ในพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
ภาพ: ฐานิส สุดโต
วิสัยทัศน์ทักษิณ: หนี้ของประชาชนในวันนี้สูงถึง 90% ทั้งหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ และตนเองไม่อยากเห็นประชาชนถูกยึดบ้าน ถูกยึดรถ พร้อมแนะนำว่าจำเป็นจะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน โดยได้เชิญสมาคมธนาคารไทยมาพูดคุย เพื่อให้ธนาคารสามารถกลับมาปล่อยกู้ให้กับประชาชนได้ โดยให้รัฐบาลซื้อหนี้ประชาชนกลับมาบริหารเอง
รัฐบาลแพทองธาร: ผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ควบคู่กับการเพิ่มความรู้ทางการเงินและส่งเสริมการออมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย
วิสัยทัศน์ทักษิณ: แจกกลุ่มเปราะบางบวกกลุ่มคนพิการเป็นเงินสดในเดือนกันยายน จำนวน 1.45 แสนล้านบาท เมื่องบประมาณใหม่ออกมาในเดือนตุลาคม 2567 จะจ่ายให้กับคนที่ลงทะเบียนแล้วเป็นระบบดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากการใช้เงินสดอาจทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ตรงเป้าหมายโครงการ
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลและพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน และการประกอบอาชีพ

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลงพื้นที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ดำเนินการนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
วิสัยทัศน์ทักษิณ: รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายคงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราพูดไปแล้วเราต้องทำให้ได้ เราอาจจะต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหาร และเราต้องกำหนดค่าตั๋ว ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเน้นเรื่องกำไร และต้องตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟและรถไฟฟ้า
เรื่องเขตพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) มองว่าถ้ามีทรัพยากรอยู่ให้แบ่งคนละ 50% เหมือนกับที่เคยทำกับมาเลเซีย ไม่เช่นนั้นน้ำมันและก๊าซที่อยู่ตรงนั้นอีก 20 ปีใช้ไม่ได้แล้ว เพราะคนหันไปใช้พลังงานสะอาดอย่างเดียว ซึ่งตนกำลังให้ศึกษาว่านอร์เวย์ทำอย่างไรที่เอาผลประโยชน์ที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติมาแบ่งผลประโยชน์ให้กับประชาชนทั้งประเทศ และทำให้พลังงานที่ผลิตขึ้นมาถูกลง ไปเฉลี่ยพลังงานนำเข้า ทำให้ใช้ค่าไฟและค่าก๊าซได้ถูกลง
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค ปรับโครงสร้างราคาพลังงานควบคู่กับการเร่งรัดจัดทำ ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายพลังงานได้โดยตรง รวมทั้งการพัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ สำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม และการเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน
พร้อมทั้งผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับนโยบาย ‘ค่าโดยสารราคาเดียว’ ตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าเดินทาง
วิสัยทัศน์ทักษิณ: ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม Data Center และเรื่องของค่าไฟและพลังงานสีเขียว (Green Energy) ถ้าจำเป็นต้องทำเอง ทำได้แต่ห้ามขาย ไม่ใช่ให้มาทำธุรกิจไฟฟ้า แต่ทำใช้เองไม่ว่ากัน กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
ขณะที่เรื่องรถ EV โดยเฉพาะรถไฟฟ้า EV จากจีน อยากขอร้องว่าให้ไทยเป็นฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา ไม่ว่าบริษัท BYD หรือ GWM อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลบรรจุในนโยบายระยะกลางและระยะยาว ว่าจะส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว โดยอาศัยจุดแข็งของที่ตั้งใกล้เส้นศูนย์สูตรเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์ได้ตลอดทั้งปี สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาด รวมทั้งพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีและคาร์บอนเครดิต
และจะต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเพื่อตั้ง Data Center โรงงานผลิตชิปและชิปดีไซน์ และผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทย กระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในประเทศ นอกจากนี้รัฐบาลจะวางรากฐานให้คนไทยทุกกลุ่มวัยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการพัฒนาตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสีเขียว
วิสัยทัศน์ทักษิณ: การแข่งขันของ SMEs สู้สินค้าจีน มีการตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มข้น อย่าให้เอาเปรียบสินค้าของคนไทย
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะดูแลและส่งเสริม พร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติ โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และการแก้ไขปัญหาหนี้ของ SMEs จัดทำ Matching Fund ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐบาลและเอกชน เพื่อประคับประคองให้กลับมาเป็นกลไกที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
วิสัยทัศน์ทักษิณ: รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจัง หลายเรื่องเราทำได้ ตั้งมาตรฐานมวยไทย น่าจะเอามาทำลีกให้คนมาแข่งมากขึ้น ตั้งค่าตัวเพื่อให้มีมาตรฐานให้มีการแข่งขันทั่วโลก เราเทรนครูมวยและมาตรฐานมวยเหมือนที่ฟีฟ่าทำฟุตบอล รวมทั้งการสนับสนุนอีสปอร์ต ที่ต้องมีการช่วยเหลือผู้ผลิตเกมให้มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนแฟชั่นโชว์
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะส่งเสริมการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ การปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งเป็นศักยภาพของคนไทยและทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ทั้งอาหารท้องถิ่นไทย ผ้าไทย มวยไทย ศิลปะการแสดงไทย ดนตรีไทย ผสมผสานกับศิลปะร่วมสมัย และสุราชุมชน เพื่อยกระดับสินค้าโครงการ OTOP ทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่าง และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก รวมทั้งจะสนับสนุนการสอดแทรกทุนทางวัฒนธรรมในภาพยนตร์ไทยและสื่อทุกรูปแบบ
วิสัยทัศน์ทักษิณ: การปฏิรูปการเกษตรใหม่ ปัจจุบันเราไม่สามารถที่จะสู้เวียดนามได้ในการผลิตข้าวคุณภาพข้าวดีกว่า ไทยต้องใช้การวิจัยและพัฒนา (R&D) ช่วย เราสามารถทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและช่วยประเทศอื่นๆ ได้
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะยกระดับการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย โดยใช้แนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ นำเทคโนโลยีด้านการเกษตรมาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงการคว้าโอกาสในตลาดใหม่ๆ รวมทั้งอาหารฮาลาล และฟื้นนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก

การแข่งขัน F1
ภาพ: Mark Thompson / Getty Images
วิสัยทัศน์ทักษิณ: นโยบาย Entertainment Complex เคยคิดไว้แต่โดนค้าน แต่วันนี้ไม่ได้คิด มีคนเชียร์มาก พื้นที่คาสิโนมีไม่ถึง 10% แต่ในนั้นจะประกอบด้วยหลายอย่าง เช่น สวนสนุก โรงแรม คอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬา สำหรับการลงทุนแต่ละแห่งในกรุงเทพมหานครต้องเริ่มแสนล้านบาท หากลงทุนน้อยดูไม่หล่อ สู้ประเทศอื่นไม่ได้ ต่างจังหวัดแห่งละ 5 หมื่นล้านบาท เราจะถือโอกาสเติมในสิ่งที่เราขาด จะเรียกร้องให้มีการมาลงทุนใน Entertainment Complex โดยที่เราไม่ต้องลงทุนเอง
ยกระดับเศรษฐกิจใต้ดิน คนไทยขาดทุนให้พนันออนไลน์ มียอดฝาก 3 ล้านล้านบาทต่อปี และคนไทยขาดทุนประมาณ 1.7 แสนล้านบาทต่อปี ถ้าตรงนี้เรามาทำให้ถูกต้อง เราเก็บภาษีประมาณ 30% ได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท นำภาษีที่ได้มากำหนดการใช้ (Earmark Tax) เอาเงินส่วนนี้ส่งเด็กนักเรียนของเราไปต่างประเทศ หรือจ้างครูเก่งๆ มาสอนนักเรียนในประเทศก็ทำได้
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี และเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน พร้อมทั้งจะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการสานต่อความสำเร็จในการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร
นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลที่จะกระจายไปสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว
วิสัยทัศน์ทักษิณ: การลงทุนขนาดใหญ่ต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ทำต่อ รวมทั้งการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ต้องทำทั้งระบบ ถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพิ่มพื้นที่ขยายความแออัดกรุงเทพฯ เพิ่มพื้นที่สีเขียว เมืองใหม่ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น มีการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมือง
โครงการรถไฟความเร็วสูงก็ต้องทำให้เสร็จจาก กรุงเทพฯ-หนองคาย และ กรุงเทพฯ-โคราช เชื่อมเส้นทางสายไหมของจีน ในปีหน้าความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี เราก็ต้องมีการทำโครงการนี้ให้เสร็จ เพื่อส่งคนและสินค้า
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทั้งทางราง ทางน้ำ ทางถนน และทางอากาศ อย่างไร้รอยต่อ
ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนน ลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ พัฒนาระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ สร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ควบคู่กับการพัฒนาเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจ ยกระดับท่าเรือเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า พัฒนาสนามบินและเส้นทางการบินใหม่ๆ เช่น สนามบินล้านนา สนามบินอันดามัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการบิน รองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น
ขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ โดยเฉพาะด้านการลงทุนของเอกชน เพื่อให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและขนส่งของภูมิภาค
วิสัยทัศน์ทักษิณ: ไทยต้องเดินหน้าทำศูนย์กลางทางการเงิน เราพูดมานานแล้วแต่ยังทำไม่ได้ จึงให้ไปศึกษาโมเดลของดูไบและสิงคโปร์มาปรับเป็นกติกาของไทย เพื่อให้มีการทำธุรกรรมกับต่างประเทศ เพื่อสร้างเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่เราจะมีข้อได้เปรียบ ให้ธนาคารทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทย และธนาคารไทยไปตั้งในต่างประเทศได้
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะมุ่งสู่เป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก โดยจะผลักดันการยกร่างกฎหมายชุดใหม่ที่มีความเป็นสากล โปร่งใส และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ออกแบบสิทธิประโยชน์ที่จูงใจนักลงทุน และพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ให้สอดรับกับความต้องการของบริษัทด้านการเงินระดับโลก
วิสัยทัศน์ทักษิณ: การขยายกองทุนรวมวายุภักษ์จะทำหน้าที่ในการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นใน SET50 และ SET100 มาอยู่ในกองทุน อยากให้มีการปรับภาษีให้เป็นธรรม แข่งขันได้ เพื่อให้ประเทศไทยลดภาษีลง ให้คนมาอยู่มากขึ้น แต่เราจะเสียรายได้บางส่วน จะขึ้นภาษีหรือไม่ เพราะรายได้ลดลง โดยภาษีต้องเอามาคืนได้มากขึ้น และเรื่อง Negative Income Tax คนรายได้น้อยไม่เสียภาษี คนที่มีรายได้สูงจะเสียภาษีอย่างเป็นธรรม
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะเปลี่ยนโครงสร้างทางภาษีครั้งใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ ดึงแรงงานนอกระบบที่มีอยู่มากกว่าร้อยละ 50 เข้าสู่ระบบ ศึกษาความเป็นไปได้ของการปฏิรูประบบภาษีไปสู่แบบ Negative Income Tax ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นขั้นบันไดตามเกณฑ์ที่กำหนด

ข้าราชการ
วิสัยทัศน์ทักษิณ: ประเทศไทยควรมีการปรับลดขนาดของราชการและการปฏิรูประบบราชการ โดยปัญหาระบบราชการที่อุ้ยอ้ายไม่ตอบโจทย์การแข่งขันจะต้องมีการปรับการใช้เทคโนโลยีให้กับระบบราชการมากขึ้น การปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เปลี่ยนผ่านราชการไทยไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล
เปลี่ยนผ่านรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่แบบสมัครใจ เน้นใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรภาครัฐ เป็นคนดีและเก่ง มีคุณธรรม มุ่งมั่นและมืออาชีพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะของรัฐและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นและการดูแลชุมชน
วิสัยทัศน์ทักษิณ: ปัญหายาเสพติดที่มีมากจนทำให้คนวัยทำงานเกิดความเสียหายจากการติดยา การปราบยาเสพติดในปัจจุบันยากกว่าในอดีต เพราะมีฐานการติดในต่างประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องนำผู้ติดยาไปบำบัดเพื่อลดความต้องการยาเสพติดภายในประเทศ ควบคู่ไปกับนโยบายการปราบปรามด้วย
รัฐบาลแพทองธาร: รัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด
การค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด การฝึกอาชีพ การศึกษา และการฟื้นฟูสภาพทางสังคม รวมทั้งมีระบบติดตามดูแลและช่วยเหลือเพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก เพื่อคืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม
วิสัยทัศน์ทักษิณ: การขายที่ดินให้คนต่างชาติเพื่อให้ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเขา พร้อมยกตัวอย่างว่า ถ้าเราจะขายที่ดินให้นาย A ตกลงราคาเรียบร้อย ตนโอนโฉนดให้กรมธนารักษ์ดูแล แต่นาย A ได้สัญญาเช่าที่มั่นคงจากกรมธนารักษ์ 99 ปี พอครบ 99 ปี ที่ดินตรงนั้นตกเป็นของหลวง ไม่มีทางที่ต่างชาติจะนำที่ดินไปได้เลย โดยตกลงราคาซื้อขายกันเอง อาจจะมีการกำหนดกติกา เช่น มีข้อห้ามนำพื้นที่ไปทำการเกษตรแข่งกับคนไทย
รัฐบาลแพทองธาร: –
The post วิสัยทัศน์ทักษิณ รัฐบาลแพทองธารทำ? appeared first on THE STANDARD.
]]>
Babel Finance แพลตฟอร์มกู้ยืมบนคริปโตเคอร์เรนซี เตรียมเ […]
The post ‘Babel Finance’ เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ชื่อว่า HOPE หวังเข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หลังได้รับการขยายระยะเวลาคืนหนี้ appeared first on THE STANDARD.
]]>
Babel Finance แพลตฟอร์มกู้ยืมบนคริปโตเคอร์เรนซี เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ชื่อว่า HOPE หวังเข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หลังได้รับการขยายระยะในการชำระเงินคืนเจ้าหนี้ในประเทศสิงคโปร์
Babel Finance แพลตฟอร์มกู้ยืมบนคริปโต สัญชาติฮ่องกง ชูแพลตฟอร์มใหม่ HOPE หวังเข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หลังสำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 เมษายน) ว่า Babel Finance ได้รับการขยายระยะเวลาในการชำระเงินคืนกับเจ้าหนี้อย่าง Deribit ไปอีก 3 เดือน หลังระงับการถอนเงินของลูกค้าออกจากแพลตฟอร์มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2022
จึงทำให้ทาง Flex Yang ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีตประธานบริหารของ Babel Finance เข้ามาดูแลกระบวนการปรับโครงสร้าง หลังจากก้าวลงจากตำแหน่งไปตั้งแต่ปี 2021 พร้อมชี้ว่าตามข้อตกลงเดิมต้องชำระหนี้คืนแก่เจ้าหนี้ภายใน 21 กรกฎาคม ปี 2023
ส่งผลให้ทาง Babel สามารถนำ HOPE แพลตฟอร์ม DeFi ผสม CeFi ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยในการปรับโครงสร้างของบริษัท
ไม่เพียงเท่านั้น ในกระบวนการปรับโครงสร้างของ Babel ยังมีการออกเหรียญใหม่ Babel Recovery Coin เพื่อให้ผู้ปล่อยกู้ที่มีปัญหาสามารถสร้างรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.4 หมื่นล้านบาท) เพื่อไปชำระเงินคืนเจ้าหนี้
Flex ยังได้เผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงเป้าหมายในการปรับโครงสร้างของ Babel หลังฟังคำขยายระยะเวลาการชำระหนี้จากศาลสิงคโปร์ว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของรัฐศาสตร์โลก HOPE จะมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมตต่อโลกใหม่อีกครั้ง เราหวังว่าทีมงานใหม่ของเราจะนำความหวังและแสงสว่างเพื่อขับเคลื่อนโปรเจกต์ใหม่ไปข้างหน้า
ทั้งนี้ Babel ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโตที่เผชิญปัญหาด้านสภาพคล่องจากการเข้าสู่ภาวะตลาดหมีของคริปโตในช่วงปี 2022 จนทำให้ต้องระงับการถอนเงินของลูกค้าในช่วงกลางปี 2022 และยังมีรายงานว่าเผชิญผลการขาดทุนกว่า 280 ล้านดอลลาร์ (ราว 9 พันล้านบาท) จากการทำ Proprietary Trade จากเงินทุนของลูกค้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อ้างอิง:
The post ‘Babel Finance’ เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ชื่อว่า HOPE หวังเข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หลังได้รับการขยายระยะเวลาคืนหนี้ appeared first on THE STANDARD.
]]>
รายงานข่าวจาก The Wall Street Journal ซึ่งอ้างอิงแหล่งข […]
The post จีนรับโจทย์ IMF ร่วมแก้หนี้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เดินหน้าประนอมหนี้และปรับโครงสร้าง หวังคลายแรงกดดัน appeared first on THE STANDARD.
]]>
รายงานข่าวจาก The Wall Street Journal ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าววงในระบุว่า ทางรัฐบาลจีนกำลังเจรจาแผนการประนีประนอมกับเจ้าหนี้รายใหญ่รายอื่นๆ ที่อาจช่วยแก้ปัญหาติดขัดในการเจรจาบรรเทาหนี้สำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังประสบปัญหา โดยหากแผนการเจรจาดังกล่าวเป็นไปด้วยดีก็จะลดความจำเป็นที่ผู้ให้กู้รายใหญ่อย่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) จะเข้าร่วมในการรับผลขาดทุนในข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ใดๆ ที่มีอยู่ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นฟูพัฒนาประเทศต่างๆ เช่น แซมเบียและกานา
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ผู้ให้กู้พหุภาคีและพันธมิตรระดับภูมิภาค เช่น ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกา ออกมาเคลื่อนไหวโดยให้คำมั่นสัญญาที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในการจัดหาแหล่งเงินทุนใหม่ที่มีต้นทุนต่ำ รวมถึงเงินช่วยเหลือแก่ประเทศที่กำลังปรับโครงสร้างหนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของจีนในครั้งนี้จะช่วยทำลายทางตันที่จีนและเจ้าหนี้รัฐบาลอื่นๆ ได้ทำข้อตกลงเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของแซมเบีย และทำหน้าที่เป็นต้นแบบสำหรับข้อตกลงบรรเทาหนี้มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงิน
นอกจากนี้ การเจรจากำลังดำเนินการต่อในรายละเอียดของการปรับโครงสร้างหนี้ของแซมเบีย เช่น การขยายกำหนดเวลาการชำระหนี้และการลดอัตราดอกเบี้ย โดยจีนยังคงต่อต้านการขาดทุนจากมูลค่าที่ตราไว้ของเงินกู้
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากจีนจะเข้าร่วมการประชุม Global Sovereign Debt Roundtable กับธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ นับเป็นการเข้าร่วมด้วยตนเองครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังจากโควิด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 เมษายน) ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะกดดันให้แซมเบียและกานาแก้ไขคำขออย่างเร่งด่วนในการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ และดำเนินการเพื่อยุติการปฏิบัติต่อหนี้ของศรีลังกา
รายงานดังกล่าวของ The Wall Street Journal สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว Reuters ที่ระบุว่า จีนกำลังดำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อลดความจำเป็นที่ธนาคารเพื่อการพัฒนารายอื่นๆ ในการเข้ามาแบ่งปันผลขาดทุนร่วมกับเจ้าหนี้รายอื่นในการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะสำหรับประเทศยากจน ซึ่งเป็นการทำลายอุปสรรคสำคัญในการบรรเทาหนี้
โดยการพูดคุยดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างที่ตัวแทนจีนเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลม Global Sovereign Debt Roundtable ที่กรุงวอชิงตัน
ทั้งนี้ Reuters รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ทางการจีนจะไม่ยืนกรานให้ธนาคารโลกและผู้ให้กู้พหุภาคีอื่นๆ ทำ ‘Hair Cut’ ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างหนี้โดยการเจรจาขอส่วนลดจากเจ้าหนี้แล้วจ่ายหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชีทันทีในการให้เงินกู้แก่ประเทศยากจนอีกต่อไป ในขณะที่ IMF และ World Bank ก็ตกลงที่จะให้การวิเคราะห์ความยั่งยืนของหนี้ของประเทศที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับทางการจีน
ก่อนหน้านี้ คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการ IMF ได้ยืนยันในระหว่างการประชุมว่า กองทุนได้ตกลงที่จะให้ข้อมูลความยั่งยืนของหนี้ก่อนหน้านี้แก่เจ้าหนี้เพื่อให้ประเทศที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมการปรับโครงสร้างหนี้ได้ดีขึ้น พร้อมระบุว่าธนาคารโลกยังได้รับการร้องขอให้แสดงให้เห็นว่าธนาคารสามารถเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการให้เงินกู้ที่มีเงื่อนไขแบบผ่อนปรนได้อย่างไร
โดยทั้ง IMF, World Bank และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เห็นต่างกับทางการจีนในเรื่องของการให้กู้แบบยอมผ่อนปรนแก่ประเทศที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนั้นเทียบเท่ากับการยอมขาดทุนจากเงินกู้ยืม
ท่าทีล่าสุดของจีนหากเป็นจริงตามที่แหล่งข่าวอ้างอิงก็ถือได้ว่าสอดคล้องกับความต้องการของสหรัฐฯ, IMF และ World Bank ที่ต้องการให้จีนมีจุดยืนร่วมกันในการบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ โดยให้ใช้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อราคาถูก เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นการทำให้ประเทศกำลังพัฒนาขาดระเบียบวินัยและมีหนี้มากเกินจนกระเทือนต่อการพัฒนาของประเทศนั้นๆ เอง
ทั้งนี้ IMF, World Bank และอินเดียซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Global Sovereign Debt Roundtable โดยมีเป้าหมายในการเร่งบรรเทาหนี้ให้กับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ คาดว่าจะสามารถออกแถลงการณ์หลังการประชุมในวันพุธที่ 12 เมษายนนี้
อ้างอิง:
The post จีนรับโจทย์ IMF ร่วมแก้หนี้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เดินหน้าประนอมหนี้และปรับโครงสร้าง หวังคลายแรงกดดัน appeared first on THE STANDARD.
]]>
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกโรงเรียกร้องให้จ […]
The post ปมหนี้ท่วมโลกแก้ยากขึ้น ‘IMF’ เรียกร้องจีนแสดงจุดยืนในการร่วมปฏิบัติตามกฎเพื่อช่วยคลายปม appeared first on THE STANDARD.
]]>
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกโรงเรียกร้องให้จีนแสดงความพร้อมในการเข้าร่วมกับนานาประเทศเดินหน้าจัดการปรับปรุง ‘หนี้’ ในหลายประเทศทั่วโลกในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ ทั้งนี้ เรื่องการจัดการหนี้ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะมีการหารือกันระหว่าง IMF และ World Bank ในการประชุมช่วงสัปดาห์หน้า
IMF กล่าวว่า จีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้ทวิภาคีรายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถดำเนินการภายใต้กระบวนการบรรเทาหนี้ระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นสำหรับประเทศยากจนที่ประสบปัญหาในการจ่ายเงิน
คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF เชื่อว่าจีนจะเข้าร่วมในการปรับโครงสร้างให้กับหลายประเทศที่มีรายได้ต่ำ เช่น แซมเบีย ซึ่งขณะนี้ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการเจรจาเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้มูลค่า 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์
จอร์เจียวาย้ำชัดเจนว่า จีนมีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการหนี้ในกลุ่มประเทศผู้มีรายได้น้อย และยินดีอย่างยิ่งที่จีนจะเข้ามามีส่วนร่วมในกรอบการจัดระเบียบหนี้ใหม่ กระนั้น ชาติตะวันตกจำนวนหนึ่ง นำโดยสหรัฐฯ ออกโรงกล่าวหาจีนในการขัดขวางความพยายามของนานาชาติในการบรรเทาปัญหาหนี้ของหลายๆ ประเทศ เนื่องจากจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่
ขณะเดียวกัน ทางผู้อำนวยการ IMF ยังได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะโตทรงตัวที่ 3% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยเป็นตัวเลขคาดการณ์การเติบโตระยะกลางที่น้อยที่สุดเท่าที่ IMF เคยประเมินมาตั้งแต่ปี 1990 ทั้งยังน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 3.8%
ขณะเดียวกัน จอร์เจียวายังกล่าวอีกว่า เส้นทางข้างหน้าเต็มไปด้วนถนนที่ ‘ขรุขระและมีหมอกหนา’ พร้อมเตือนว่าความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหานั้นยากขึ้น
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการประชุมประจำปีของ IMF โดยจอร์เจียวาได้แสดงความกังวลว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบเป็นพิเศษต่อประเทศรายได้น้อย เพราะเสี่ยงทำให้ประชาชนหิวโหยและยากจนมากกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อำนวยการ IMF ยังแสดงความกังวลว่า การที่แบงก์ชาติประเทศต่างๆ แห่ขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับการที่ธนาคารหลายแห่งล้มละลาย และปัญหาทางการเมืองกำลังบั่นทอนเสถียรภาพในโลกการเงินด้วย ขณะที่วิกฤตหนี้สินในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ทำให้ประเทศเหล่านี้โตได้ยาก เพราะมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น อีกทั้งต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อย ทำให้เกิดความยากจนและความอดอยากมากขึ้น ดังนั้นนานาประเทศควรให้การสนับสนุนกลุ่มประเทศรายได้ต่ำที่มีความเปราะบางสูง
อย่างไรก็ตาม จอร์เจียวาก็เห็นด้วยกับการที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆ นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
The post ปมหนี้ท่วมโลกแก้ยากขึ้น ‘IMF’ เรียกร้องจีนแสดงจุดยืนในการร่วมปฏิบัติตามกฎเพื่อช่วยคลายปม appeared first on THE STANDARD.
]]>
คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF เรียกร้องให้ประเทศที่มี […]
The post คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF วอนประเทศแข็งแกร่งช่วยปรับโครงสร้างหนี้ประเทศเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงถาโถม appeared first on THE STANDARD.
]]>
คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF เรียกร้องให้ประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจีน เร่งกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับประเทศเปราะบาง พร้อมเน้นย้ำถึงอันตรายจากการแยกส่วนทางการค้า (Trade Fragmentation)
วันนี้ (30 มีนาคม) คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ขึ้นกล่าวในงาน Boao Forum ซึ่งจัดขึ้นในประเทศจีน โดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่มีสถานะค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจีน ช่วยเหลือประเทศที่เปราะบาง
โดย IMF คาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP จีนในปีนี้จะเร่งขึ้นเป็น 5.2% เป็นหนึ่งในประเทศที่โตเร็วที่สุดในโลก ตรงกันข้ามกับ 60% ของประเทศที่มีรายได้ต่ำ หรือใกล้เผชิญวิกฤตหนี้ โดยหลายประเทศเป็นหนี้รัฐบาลจีนเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น อัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกาที่สูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐที่ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น
จอร์เจียวากล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างหนี้ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งแก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยความสำเร็จจากกลไกนี้จะช่วยขจัดหนึ่งในแหล่งความไม่แน่นอนสำคัญของโลกได้
ผู้นำ IMF ยังกล่าวว่า การมีส่วนร่วมของจีนในโครงการ Common Framework เพื่อจัดระเบียบหนี้ใหม่ และโครงการ Global Sovereign Debt Roundtable นั้น ‘น่ายินดีอย่างยิ่ง’ แม้ว่าที่ผ่านมาชาติตะวันตกจำนวนหนึ่ง รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ IMF ได้กล่าวหารัฐบาลจีนมาตลอดว่าผัดผ่อนการช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว
ประเด็นการปรับโครงสร้างหนี้นี้ยังถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในประเด็นที่เตรียมจะมีการพูดคุยในการประชุมของ IMF และ World Bank รอบฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้าด้วย
ปัจจุบันจีนเป็นประเทศเจ้าหนี้แบบทวิภาคีรายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่ง
จอร์เจียวายังเตือนด้วยว่า การแยกส่วนทางการค้า (Trade Fragmentation) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการสูง
“ต้นทุนระยะยาวจากการหยุดชะงักของการค้าโลกอาจสูงถึง 7% ของ GDP โลก เทียบเท่ากับ GDP ต่อปีของเยอรมนีและญี่ปุ่นรวมกัน” จอร์เจียวากล่าว ขณะพูดถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
The post คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF วอนประเทศแข็งแกร่งช่วยปรับโครงสร้างหนี้ประเทศเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงถาโถม appeared first on THE STANDARD.
]]>
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กำลังเตรียมที่จะตัด […]
The post จีนประกาศรับรองแผนปรับโครงสร้างหนี้ของศรีลังกา เปิดทาง ‘แผนรับเงินช่วยเหลือ’ จาก IMF กว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.
]]>
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กำลังเตรียมที่จะตัดสินใจปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือจำนวน 2.9 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ศรีลังกา หลังจากที่จีนให้การรับรองว่าจะสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ของประเทศ ซึ่งเป็นการขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการอนุมัติแผนกู้เงินของ IMF
ทั้งนี้ คณะกรรมการ IMF จะพิจารณาแผนการปล่อยเงินกู้ในวันที่ 20 มีนาคม หลังจากที่จีนกลายเป็นประเทศเจ้าหนี้รายสุดท้ายที่ยืนยันการเข้าร่วมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 มีนาคม) เจ้าหน้าที่ของ IMF และศรีลังกาตกลงทำข้อตกลงระยะเวลา 4 ปีในเดือนกันยายน ซึ่งโดยทั่วไปคณะกรรมการจะสนับสนุนการจัดการเงินกู้ที่เจรจาโดยเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว
คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการของ IMF ระบุว่า รู้สึกยินดีกับความคืบหน้าของทางการศรีลังกาในการดำเนินนโยบายอย่างเด็ดขาด และได้รับการรับรองทางการเงินจากเจ้าหนี้รายใหญ่ทั้งหมด ตลอดจนตั้งตารอที่จะนำเสนอโครงการฟื้นฟูหนี้ของศรีลังกาที่ได้รับการสนับสนุนจาก IMF เพื่อขอการอนุมัติ
แผนการให้สินเชื่อแบบการให้ความอำนวยสะดวกขยายเงินกองทุน หรือที่เรียกว่า Extended Fund Facility จะสนับสนุนโครงการปฏิรูปอันทะเยอทะยานของทางการศรีลังกา ซึ่งจะช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตในปัจจุบัน และเป็นตัวกำหนดเส้นทางการเติบโตที่แข็งแกร่งและทั่วถึงในอนาคต
ความเห็นของจอร์เจียวามีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีศรีลังกา รานิล วิกรมสิงเห กล่าวกับรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้ทวิภาคีรายใหญ่ที่สุดของศรีลังกา ได้ให้การรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรแก่การปรับโครงสร้างหนี้ผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ของจีนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงสำหรับเงินกู้ IMF เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
IMF เชื่อว่าเงินกู้ดังกล่าวจะกระตุ้นการจัดหาเงินทุนจากเจ้าหนี้รายอื่นๆ รวมถึงธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยหลังจากการประกาศให้การรับรองของจีน เงินรูปีของศรีลังกาพุ่งขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรอบกว่า 3 ทศวรรษ ขณะที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้น 2%
แผนการเจรจาช่วยเหลือยืดเยื้อมานานหลายเดือน เนื่องจากทางการจีนเรียกร้องให้สถาบันพหุภาคี เช่น ธนาคารโลก เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างทางการเงินให้แก่ประเทศลูกหนี้ ซึ่งการเรียกร้องนี้เพิ่มความตึงเครียดกับสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาการเจรจามีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อหัวหน้าฝ่ายการเงินจากกลุ่มประเทศ 20 ประเทศเห็นพ้องตรงกันถึงแผนปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่นั้นมาทางการจีนได้ขยายเงินกู้มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ปากีสถาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงบอกกับกรรมการผู้จัดการ IMF เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนพร้อมเปิดกว้างที่จะเข้าร่วมในความพยายามระดับพหุภาคี เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีหนี้จำนวนมากในลักษณะที่สร้างสรรค์
การช่วยเหลือดังกล่าวจะปลดล็อกแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมให้แก่ศรีลังกา และทำให้การปรับโครงสร้างหนี้ของศรีลังกามีเส้นทางที่มั่นคงขึ้นนับตั้งแต่การผิดนัดชำระหนี้เมื่อปีที่แล้ว การพัฒนาล่าสุดอาจเป็นลางดีสำหรับประเทศที่เปราะบางอื่นๆ หลังจากที่การเจรจาบรรเทาหนี้ต่างถูกชะลอลงเช่นกัน เนื่องจากความไม่ลงรอยกันระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ ในประเด็นดังกล่าว
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนกลายเป็นเจ้าหนี้รัฐบาลรายใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ผลลัพธ์ดังกล่าวส่งผลให้จีนมีบทบาทสำคัญในการเจรจาการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ประเทศลูกหนี้ การให้กู้ยืมส่วนใหญ่ดำเนินการโดยธนาคารของรัฐจึงอาจไม่เต็มใจที่จะบันทึกเงินกู้ เนื่องจากอาจส่งผลต่อโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งผู้บริหารของธนาคาร
ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนอุปทานในศรีลังกาผ่อนคลายลง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างเย็นลง ศรีลังกาจึงต้องการเงินกู้ IMF เพื่อรับเงินทุนเพิ่มเติมและพลิกสถานการณ์ภายในประเทศ
การสนับสนุนทางการเงินของ IMF สามารถจัดหาได้สำหรับประเทศที่มีหนี้ยั่งยืนเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีหนี้สินในประเภทไม่ยั่งยืน การจัดหาเงินทุนอาจดำเนินการก่อนที่การปรับโครงสร้างจะเสร็จสิ้น หากเจ้าหนี้ทวิภาคีอย่างเป็นทางการให้การรับรองอย่างเพียงพอแก่ IMF ว่าจะดำเนินการเพื่อช่วยฟื้นฟูความยั่งยืนของหนี้
ศรีลังกาตั้งเป้าผ่านจุดวิกฤตและเริ่มฟื้นฟูหลังจากได้รับการช่วยเหลือ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงสู่ระดับเลขหลักเดียวภายในสิ้นปี 2023 เนื่องจากการท่องเที่ยวและการส่งเงินกลับประเทศฟื้นตัวขึ้น
อ้างอิง:
The post จีนประกาศรับรองแผนปรับโครงสร้างหนี้ของศรีลังกา เปิดทาง ‘แผนรับเงินช่วยเหลือ’ จาก IMF กว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.
]]>
การปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร การรวมหนี้คืออะไร แตกต่างกั […]
The post ชมคลิป: การปรับโครงสร้างหนี้ vs. การรวมหนี้ | เงินทองของจริง EP.138 | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.
]]>
การปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร การรวมหนี้คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ข้อดี ข้อเสีย ควรเลือกวิธีใดให้เหมาะกับตัวเอง
รายการ ‘เงินทองของจริง’ การเข้าสู่หน้าจอโทรทัศน์ครั้งแรกของ THE STANDARD ทางช่อง 7HD ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.05-09.15 น. หลังรายการ สนามข่าว 7 สี ดำเนินรายการโดย โค้ชหนุ่ม-จักรพงษ์ เมษพันธุ์ และ เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
The post ชมคลิป: การปรับโครงสร้างหนี้ vs. การรวมหนี้ | เงินทองของจริง EP.138 | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.
]]>
China Evergrande Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนที่ […]
The post ชมคลิป: ชี้การปรับโครงสร้างหนี้ China Evergrande จะเป็น Roadmap รับมือวิกฤตอสังหาจีน appeared first on THE STANDARD.
]]>
China Evergrande Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก เปิดเผยว่า บริษัทจะประกาศแผนปรับโครงสร้างหนี้ได้ภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะใช้เป็นแม่แบบสำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และขาดแคลนเงินสดต่อไป
ติดตามรายการ Morning Wealth ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-08.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
The post ชมคลิป: ชี้การปรับโครงสร้างหนี้ China Evergrande จะเป็น Roadmap รับมือวิกฤตอสังหาจีน appeared first on THE STANDARD.
]]>