การพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยมีผู้ต้องหาในคดีมากถึง 47 คน ซึ่งรวมถึง โจชัว หว่อง และ เบนนี ไท สองแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยคนสำคัญ ที่ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดบ่อนทำลายอำนาจรัฐ จากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อปี 2020

รายงานข่าวระบุว่า ศาลจะดำเนินการไต่สวนจำเลยเพียง 16 คน เนื่องจากอีก 31 คนให้การรับสารภาพ ซึ่งรวมถึงโจชัว หว่อง และเบนนี ไท ทั้งนี้ ผู้ที่สารภาพผิดจะไม่ถูกตัดสินโทษจนกว่าการไต่สวนจำเลย 16 คนจะเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 90 วัน 

นอกจากนี้ การพิจารณาคดีจะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้พิพากษาที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 3 คน แทนการพิจารณาโดยคณะลูกขุน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับคดีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านนอกศาลแขวงเกาลูนตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่พิจารณาคดี มีกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยจำนวนมากมารวมตัวกันพร้อมถือป้ายประท้วง เช่น “การปราบปรามเป็นเรื่องไร้ยางอาย” และ “ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดเดี๋ยวนี้”

ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาฝ่ายค้านว่า เป็นเครื่องมือที่รัฐบาลปักกิ่งใช้ในการปราบปรามผู้เห็นต่าง แต่ทางการจีนและฮ่องกงยืนยันว่า กฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบ

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 นักเคลื่อนไหว 47 คนถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2020 โดยอัยการกล่าวหาว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวพยายามคว้าเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของฮ่องกง เนื่องจากหากพวกเขาได้รับเลือกตั้งและได้รับเสียงข้างมากก็จะขัดขวางการดำเนินงานของรัฐบาล และนำไปสู่การโค่นล้มผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงที่แต่งตั้งจากปักกิ่ง

ข้อหา ‘บ่อนทำลาย’ เป็น 1 ใน 4 ข้อหาอาชญากรรมที่กำหนดไว้ในกฎหมายความมั่นคง และมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

สำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2020 นั้น มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติได้รับการประกาศใช้ โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาลงคะแนนเสียงประมาณ 6 แสนคน

หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนได้ออกมาประกาศให้การเลือกตั้งดังกล่าวผิดกฎหมาย และจับกุมนักกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก ซึ่งหลายคนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำมานับตั้งแต่นั้น 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-asia-china-64533716

The post ฮ่องกงเปิดฉากการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุด appeared first on THE STANDARD.

จิมมี ไล เจ้าพ่อวงการสื่อของฮ่องกง พร้อมด้วยกลุ่มนักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยอีก 8 คน รวมถึง มาร์ติน ลี นักการเมืองฮ่องกงผู้ได้รับฉายาบิดาแห่งประชาธิปไตย ถูกศาลตัดสินความผิดฐานเข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการประท้วงต่อต้านการใช้อำนาจโดยมิชอบของตำรวจเมื่อเดือนสิงหาคม 2019

กลุ่มนักเคลื่อนไหวทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทจัดการและเข้าร่วมการชุมนุมที่สวนสาธารณะ Victoria Park ใน Causeway Bay เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2019 ซึ่งมีการเดินขบวนอย่างสงบไปตามถนนในย่าน Cantral และเป็นหนึ่งในการประท้วงใหญ่ที่จัดต่อเนื่องเกือบทั้งปีของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง

ขณะที่นักเคลื่อนไหว 7 คน ยกเว้น อู๋หนกหิ่น และ เหลิ่งยิ่วชุง อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ ยืนกรานต่อสู้คดีว่าไม่มีความผิด และระบุว่าเสรีภาพในการชุมนุมได้รับความคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญฮ่องกง

ซึ่งผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่า เสรีภาพในการชุมนุมนั้นได้รับอนุญาตตามรัฐธรรมนูญฮ่องกง แต่ไม่ได้รับสิทธิ์ขาดและจำเป็นต้องมีการขออนุญาต

ด้านผู้พิพากษา อแมนดา วูดค็อก ให้เหตุผลการตัดสินว่า สามารถพิสูจน์ความผิดของกลุ่มเคลื่อนไหวได้โดยปราศจากข้อสงสัย และระบุว่าจะมีการตัดสินโทษอีกครั้งในวันอื่นหลังจากนี้ ซึ่งข้อหาชุมนุมผิดกฎหมายนั้นมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5 ปี

“การฟ้องร้องคดีสามารถพิสูจน์ได้โดยปราศจากข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลว่าจำเลยทั้งหมดจัดการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตในวันที่ 18 สิงหาคม 2019” เธอกล่าวในการพิจารณาความผิด

อ้างอิง:

• https://edition.cnn.com/2021/04/01/media/hong-kong-jimmy-lai-trial-intl-hnk/index.html?fbclid=IwAR2K9xEVw8X51FnUCerpCgbonaem7Ft4y-UcF8WOj-PZY4l230UtbJ0YQy4 
• https://www.bbc.com/news/world-asia-china-56598942 
• https://hongkongfp.com/2021/04/01/breaking-7-hong-kong-veteran-pro-democracy-activists-guilty-of-unauthorised-assembly/ 

The post เจ้าพ่อสื่อ ‘จิมมี ไล’ พร้อม 8 นักเคลื่อนไหวฮ่องกง ถูกตัดสินความผิดร่วมชุมนุมประท้วงปี 2019 โดยไม่ได้รับอนุญาต appeared first on THE STANDARD.

สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ลงความเห็นว่า การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงคู่ควรกับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้ โดยให้เหตุผลว่านักรณรงค์ นักเคลื่อนไหว และผู้ชุมนุมประท้วงได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทั่วโลก

ในจดหมายของสมาชิกรัฐสภา 9 คนจากสองพรรคการเมืองที่ส่งถึงคณะกรรมการโนเบลระบุว่า “รางวัลนี้จะสดุดีความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของพวกเขา ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับโลก เราหวังว่าทางคณะกรรมการโนเบลจะเดินหน้าฉายแสงไปยังผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชนในจีน

“และเราเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงคู่ควรที่จะได้รับการยอมรับในปีนี้”

กลุ่มสมาชิกสภาระบุด้วยว่า พวกเขาคาดว่าจะมีนักเคลื่อนไหวอีกหลายคนถูกตัดสินลงโทษในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า “เพียงเพราะพวกเขาแสดงมุมมองทางการเมืองอย่างสงบ” 

จดหมายฉบับดังกล่าวร่วมผลักดันโดยหัวหอกคนสำคัญอย่าง มาร์โก รูบิโอ ส.ว. พรรครีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา และ จิม แมคกอฟเวิร์น ส.ส. เดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งทั้งคู่นั่งเก้าอี้ประธานร่วมของคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสที่มีบทบาทในการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในจีน

ในจดหมายมีการประมาณการว่า ชาวฮ่องกงที่ออกมารวมตัวประท้วงบนถนนเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2019 อาจมีมากกว่า 2 ล้านคน ซึ่ง “ถือเป็นการประท้วงของมวลชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” ขณะที่ฮ่องกงมีประชากรราว 7.5 ล้านคน

เมื่อปีที่แล้วจีนได้ผลักดันบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงดังเช่นที่เกิดในระหว่างการประท้วงเมื่อปี 2019 ขณะที่หลายประเทศและนักเคลื่อนไหวต่างมองว่ากฎหมายดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือในการปราบปรามและกวาดล้างผู้ที่เห็นต่าง เพราะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจค้น จับกุม และดำเนินคดีกับผู้ที่เข้าข่ายปลุกปั่น พยายามแบ่งแยกดินแดน หรือสมคบคิดกับต่างชาติทำลายอธิปไตยและความมั่นคงของรัฐ

ภาพ: Vernon Yuen / NurPhoto via Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://amp.theguardian.com/world/2021/feb/04/hong-kong-pro-democracy-movement-nominated-for-nobel-peace-prize-by-us-lawmakers?utm_term=Autofeed&CMP=twt_gu&utm_medium=&utm_source=Twitter&__twitter_impression=true   

The post สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ยกการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง คู่ควรรางวัลโนเบลสันติภาพ appeared first on THE STANDARD.

โทนี ชุง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวฮ่องกงวัย 19 ปี และอดีตแกนนำกลุ่ม Studentlocalism ถูกศาลพิพากษาโทษจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน จากความผิดข้อหาดูหมิ่นธงชาติจีน ในระหว่างร่วมการประท้วงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 โดยศาลชี้ว่า ชุงบ่อนทำลายเกียรติภูมิของธงชาติจีนด้วยการดึงมันออกมาจากเสา และหักเสาธงทิ้ง ก่อนจะโยนธงขึ้นไปในอากาศ

ชุงถือเป็นนักเคลื่อนไหวฮ่องกงคนแรกๆ ที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับกุมตัวเขาในเดือนตุลาคม ก่อนที่จะเข้าขอลี้ภัยที่สถานกงสุลสหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากนี้เขายังถูกตั้งข้อหาด้านความมั่นคงอื่นๆ ทั้งข้อหาร่วมชุมนุมผิดกฎหมาย ปลุกระดมให้เกิดการแตกแยก สมคบคิดเผยแพร่เนื้อหาปลุกระดมและฟอกเงิน และคาดว่าจะต้องเข้ารับการไต่สวนคดีความมั่นคงเหล่านี้ในระหว่างรับโทษจำคุกจากคดีดูหมิ่นธงชาติ

อย่างไรก็ตาม นอกจากชุง ล่าสุดวันนี้ศาลพิพากษาของจีน ได้ตัดสินโทษจำคุกกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวฮ่องกงจำนวน 10 คน จากทั้งหมด 12 คน ที่พยายามใช้เรือสปีดโบ๊ทลี้ภัยจากฮ่องกงไปยังไต้หวัน

โดยทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ยามฝั่งของจีนจับกุมเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง 2 คน คือ ถังไคยิน และ ควินน์ มุน ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี และ 2 ปี ในข้อหาเป็นผู้ดำเนินจัดการการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ส่วนอีก 8 คน ถูกตัดสินจำคุก 7 เดือนในข้อหาข้ามแดนผิดกฎหมาย และทั้งหมดยังถูกลงโทษปรับเงิน 20,000 หยวน หรือประมาณ 91,900 บาท ขณะที่อีก 2 คนนั้นเป็นผู้เยาว์และถูกส่งกลับถึงฮ่องกงในช่วงบ่ายวันนี้ หลังยอมรับสารภาพผิด

ทั้งนี้ครอบครัวของกลุ่มผู้พยายามหลบหนีทั้ง 12 คน ซึ่งถูกเรียกว่า ‘Hong Kong 12’ ได้รับแจ้งก่อนการไต่สวนคดีเพียง 3 วัน ส่วนทนายความของทั้ง 12 คน ซึ่งถูกห้ามเข้าพบ มองว่าคำตัดสินของศาลนั้นรุนแรงเกินไป อีกทั้งข้อหาจัดการลักลอบข้ามแดนนั้นยังไม่ผ่านการพิสูจน์ยืนยัน

ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (28 ธันวาคม) ที่ผ่านมา ให้จีนปล่อยตัวกลุ่มชาวฮ่องกงทั้ง 12 คนที่พยายามหลบหนีจากความเป็นเผด็จการของจีน และยืนยันว่ารัฐบาลจีนไม่สามารถหยุดยั้งประชาชนจากการแสวงหาเสรีภาพจากที่อื่นๆ ได้

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-asia-china-55438574?fbclid=IwAR1OU3iWGWGZuBhCISYjkDMasXOqRPoDUnnqyt3-W5SkI0oOq7dluBSTp_Y
• https://hongkongfp.com/2020/12/30/10-hongkongers-jailed-for-up-to-3-years-in-china-after-trying-to-flee-city-for-taiwan/

The post จำคุก 4 เดือน โทนี ชุง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยฮ่องกง คดีดูหมิ่นธงชาติจีน appeared first on THE STANDARD.

กลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้าน หรือฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยของฮ่องกง แถลงข่าวการลาออกพร้อมกันทั้งหมด 15 คน เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน) เพื่อประท้วงคำสั่งตัดสิทธิ์เพื่อน ส.ส. ฝ่ายประชาธิปไตย 4 คน หลังทางการจีนแผ่นดินใหญ่อนุญาตให้รัฐบาลฮ่องกงตัดสิทธิ์การดำรงตำแหน่งของ ส.ส. ทั้ง 4 คนในทันทีโดยไม่ต้องยื่นเรื่องต่อศาล

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังที่ประชุมคณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติของจีน (NPCSC) ผ่านมติเอกฉันท์จากสมาชิก 161 คนว่า ส.ส. ฮ่องกงจะต้องถูกตัดสิทธิ์การดำรงตำแหน่งในทันที หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำที่เข้าข่าย ได้แก่ เป็นภัยต่อความมั่นคง, สนับสนุนเอกราชของฮ่องกง, ปฏิเสธที่จะยอมรับอธิปไตยของจีนเหนือฮ่องกง หรือขอให้ต่างชาติแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง

ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงรับคำสั่งและรีบดำเนินการตัดสิทธิ์ ส.ส. 3 คนจากพรรค Civic และอีก 1 คนจาก Professionals Guild ทันที ขณะที่ก่อนหน้านี้ทั้ง 4 คนเคยถูกห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

การลาออกทั้งคณะของกลุ่ม ส.ส. ฝ่ายประชาธิปไตยที่มีทั้งหมด 19 ที่นั่งจากทั้งหมด 70 ที่นั่ง ทำให้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐสภาฮ่องกงนั้นแทบจะไร้ฝ่ายค้าน นับตั้งแต่ที่ฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกจีนในปี 1997

ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าความเคลื่อนไหวของรัฐบาลปักกิ่งครั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดในการจำกัดเสรีภาพของชาวฮ่องกง ขณะที่ หวูฉีเว่ย ประธานพรรคเดโมเครติกฮ่องกง ประกาศต่อผู้สื่อข่าวว่าการกระทำของจีนในครั้งนี้ทำให้การปกครองแบบหนึ่งประเทศ สองระบบ ของฮ่องกงสิ้นสุดลง

“อำนาจทั้งหมดจะรวมศูนย์ไว้ที่หัวหน้าคณะผู้บริหารซึ่งเป็นหุ่นเชิดของรัฐบาลกลาง ดังนั้นวันนี้จึงเป็นจุดสิ้นสุดของ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ เราไม่สามารถบอกให้โลกรู้ได้อีกต่อไปว่าเรายังมี ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ นี่เป็นการประกาศสิ้นสุดอย่างเป็นทางการ” หวูกล่าว

ด้าน แคร์รี ลัม หัวหน้าคณะผู้บริหารของฮ่องกง แถลงชี้แจงว่าเธอเป็นผู้ขอให้ปักกิ่งดำเนินการ เพราะ ส.ส. ทั้ง 4 คนมีความผิดปกติตามรัฐธรรมนูญจากการที่ยังได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่ ส.ส. ต่อไปทั้งที่ถูกตัดสิทธิ์จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมการเรียกร้องให้รัฐบาลต่างชาติคว่ำบาตรฮ่องกงและรัฐบาลจีน

“คำตัดสินของปักกิ่งระบุชัดเจนมาก ในเรื่องหลักเกณฑ์ สำหรับใครก็ตามที่สาบานตนและดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติ แต่หลังจากนั้นพวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ละเมิดข้อกำหนดเหล่านั้น นั่นคือพวกเขาควรจะถูกตัดสิทธิ์ทันที” ลัมกล่าว พร้อมยืนยันว่ามติของคณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติจีนไม่ได้หมายความว่าเธอได้อำนาจในการตัดสิทธิ์ ส.ส. ซึ่งเจ้าหน้าที่ เช่น คณะกรรมการเลือกตั้ง รัฐมนตรียุติธรรม ประธานสภานิติบัญญัติ และศาลจะยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง

“ฮ่องกงเป็นสังคมที่อยู่ภายใต้หลักนิติธรรม ไม่ใช่เฉพาะคณะผู้บริหารเท่านั้นที่พูดได้” เธอกล่าว

ขณะที่ หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่าการตัดสิทธิ์ ส.ส. ฮ่องกงทั้ง 4 คนนั้นมีเหตุผล สมเหตุสมผล และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

“นี่เป็นข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามและปรับปรุงแนวทาง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ การบังคับใช้กฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง รวมถึงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง” หวังกล่าว

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-asia-china-54899171 
• https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3109454/mass-resignation-hong-kong-opposition-lawmakers-after

The post ส.ส. ฝ่ายหนุนประชาธิปไตยฮ่องกงลาออกยกชุด ประท้วงจีนบังคับตัดสิทธิ์เพื่อน ส.ส. ชี้ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ สิ้นสุดแล้ว appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (27 มิถุนายน) ตำรวจฮ่องกงปฏิเสธคำร้องขอของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังยื่นขอจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ ต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 23 ปี สหราชอาณาจักรส่งมอบฮ่องกงคืนให้แก่จีน หลังปกครองฮ่องกงยาวนานถึง 99 ปี

ทางการฮ่องกงให้เหตุผลว่า การชุมนุมดังกล่าวคาดว่าจะมีผู้มาเข้าร่วมเกินกว่าที่ทางการกำหนด เพราะกำลังอยู่ในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลก นอกจากนี้การชุมนุมมักจะบานปลาย กลายเป็นเหตุปะทะกันหรือใช้ความรุนแรง โดยกลุ่มแกนนำเองก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างสงบได้

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกา นำโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งระงับวีซ่าของเจ้าหน้าที่จีน เนื่องจากมองว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวลิดรอนสิทธิพลเมืองและอำนาจอธิปไตยของฮ่องกง ขณะที่ทางการจีนชี้ว่า ไม่มีใครสามารถแสดงความเห็นแบบไร้ความรับผิดชอบต่อกรณีของฮ่องกงที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามนโยบายจีนเดียว ซึ่งคาดว่า กฎหมายดังกล่าวจะถูกพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ ที่จัดขึ้นวันนี้ถึง 30 มิถุนายนนี้ หลายฝ่ายคาดว่า สถานการณ์จะยิ่งตึงเครียดมากขึ้นในช่วงเวลานี้

ล่าสุด ฮ่องกงมีผู้ติดโควิด-19 สะสม 1,198 ราย รักษาหายแล้ว 1,095 ราย เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ตรวจหาเชื้อไปแล้วกว่า 3.2 แสนตัวอย่าง

ภาพ: Tommy Walker / NurPhoto via Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://asiatimes.com/2020/06/hong-kong-police-ban-major-security-law-protest/
• https://hongkongfp.com/2020/06/27/breaking-hong-kong-police-ban-annual-pro-democracy-demo-for-first-time-in-17-years/ 
• https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-06-27/hong-kong-police-ban-july-1-march-amid-tension-over-security-law

The post ตำรวจฮ่องกงแบนการชุมนุมครั้งใหญ่ 1 ก.ค. นี้ หวั่นโควิด-19 ปะทุอีกระลอก appeared first on THE STANDARD.

ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกงจับกุมผู้ประท้วงราว 300 คน หลังชุมนุมต่อต้านการผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และร่างกฎหมายเกี่ยวกับการดูหมิ่นเพลงชาติจีนในย่านศูนย์กลางธุรกิจของฮ่องกง

เดิมผู้ประท้วงได้นัดรวมตัวกันที่อาคารสภานิติบัญญัติในเขตเซ็นทรัล แต่ทางการได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ห้อมล้อมไว้ รวมถึงวางสิ่งกีดขวางสกัด ทำให้ผู้ประท้วงไม่สามารถจัดการชุมนุมต่อไปได้ ในระหว่างที่ ส.ส. กำลังถกอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมายเพลงชาติจีน

กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้การดูหมิ่นเพลงชาติเป็นความผิดอาญา ขณะที่กฎหมายความมั่นคงที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาในสภาประชาชนแห่งชาติจีนมีบทบัญญัติแบนกิจกรรมที่เข้าข่ายการก่อกบฏ ปลุกระดม และบ่อนทำลายอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ซึ่งผู้ประท้วงมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกขั้นพื้นฐานของประชาชน

หลังชุมนุมกันที่อาคารสภานิติบัญญัติไม่สำเร็จ ผู้ประท้วงได้เดินขบวนไปปิดถนนในเขตเซ็นทรัลและคอสเวย์เบย์ 

เหตุการณ์ประท้วงบานปลายจนนำไปสู่การปะทะกันในหลายพื้นที่ ตำรวจได้สลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา และควบคุมตัวผู้ประท้วงหลายร้อยคนด้วยข้อกล่าวหาจัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งต่อมาตำรวจเผยว่าได้จับกุมผู้ประท้วงเพิ่มในย่านเกาลูน มงก๊ก และหว่านไจ๋ ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวชื่อดังด้วย โดยบางคนถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธร้ายแรง รวมถึงระเบิดขวด

หนึ่งในผู้ประท้วงให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post ว่า “เราต้องการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกของเรา มันไม่ใช่ฮ่องกงอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นอีกเมืองหนึ่งของจีน”

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ 

อ้างอิง:

• https://edition.cnn.com/2020/05/26/asia/hong-kong-national-anthem-protest-china-intl-hnk/index.html
• https://www.bbc.com/news/world-asia-china-52816115 

The post ฮ่องกงประท้วงเดือดต่อต้านกฎหมายความมั่นคง-ดูหมิ่นเพลงชาติ ตำรวจจับผู้ประท้วง 300 คน appeared first on THE STANDARD.

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างอิงสถิติรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ชี้ว่า รายรับรวมของธุรกิจร้านอาหารในฮ่องกงประจำปี 2019 ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นภาวะตกต่ำครั้งแรกในรอบ 16 ปี

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรของฮ่องกงระบุว่า ในภาพรวมปี 2019 มูลค่ารายรับของภาคร้านอาหารรวมอยู่ที่ประมาณ 1.1 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งลดลง 5.9% ในแง่ของมูลค่า และลดลง 8% ในเชิงปริมาณ เมื่อเทียบกับทั้งปี 2018

โฆษกของรัฐบาลฮ่องกงชี้ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่รายรับประจำปีของร้านอาหารในฮ่องกงลดลงนับตั้งแต่ปี 2003 มูลค่ารายรับของร้านอาหารทั้งหมดเริ่มพุ่งดิ่งลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 ถึงร้อยละ 14.3 จากปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นภาวะตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2003 ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส 

“เหตุการณ์ทางสังคมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มหยุดชะงักอย่างหนัก” 

ขณะเดียวกันภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยากลำบากยิ่งขึ้น หลังเกิดการคุกคามของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

“ภาพรวมนับจากนี้ต่อไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ซึ่งรัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” โฆษกกล่าวปิดท้าย

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

• สำนักข่าวซินหัว

The post เหตุการณ์ประท้วงลุกลาม ทำร้านอาหารฮ่องกงยอดขายลดฮวบ 5.9% เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี appeared first on THE STANDARD.

ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนัดชุมนุมรับวันปีใหม่เมื่อวานนี้ (1 มกราคม) โดยมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน ก่อนเกิดเหตุปะทะกันรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในหลายพื้นที่

ผู้ชุมนุมจำนวนมากรวมตัวกันเป็นห่วงโซ่มนุษย์ยาวหลายกิโลเมตรบนถนนย่านช้อปปิ้งใจกลางเมือง ซึ่งการชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ ตั้งแต่การรอเคานต์ดาวน์ขึ้นปีใหม่บริเวณริมอ่าววิกตอเรียในช่วงเวลาก่อนเที่ยงคืนของวันสิ้นปี 2019 

แต่แล้วเหตุการณ์รุนแรงก็เกิดขึ้นบนถนนนาธาน ย่านมงก๊ก รวมถึงคอสเวย์เบย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของฮ่องกง ผู้ประท้วงบางคนจุดไฟเผาสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงจุดพลุและขัดขวางการจราจร ขณะที่ตำรวจได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เพื่อสลายผู้ชุมนุม

ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งร้องตะโกนว่า “สิบ! เก้า! ปลดปล่อยฮ่องกง ปฏิวัติเดี๋ยวนี้!” และข้อความอื่นๆ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมอบสิทธิเสรีภาพในการเลือกตั้งแก่คนฮ่องกงอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ วิกฤตการประท้วงในฮ่องกงดำเนินมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว จากชนวนเหตุที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากหวาดระแวงว่า จีนจะเข้ามามีอิทธิพลในฮ่องกงมากขึ้น ตลอดจนทำลายหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนฮ่องกง 

ในวันสิ้นปี 2019 สมาชิกรัฐสภาและบุคคลระดับสูงราว 40 คน จาก 18 ประเทศ ได้ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึกถึง แคร์รี ลัม ผู้นำฮ่องกง เพื่อเรียกร้องให้เธอเร่งหาหนทางที่จะคลี่คลายวิกฤตการประท้วงที่ยืดเยื้อ เพื่อนำความสงบเรียบร้อยและสันติสุขกลับคืนสู่เกาะฮ่องกง 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• www.bbc.com/news/world-asia-china-50964278
• www.aljazeera.com/news/2020/01/hong-kong-rally-2020-ends-clashes-200101155528217.html

The post ชาวฮ่องกงประท้วงเดือดรับปีใหม่ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ชุมนุมในบางพื้นที่ appeared first on THE STANDARD.

THE STANDARD Daily ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2562  เวลา 20.00 น. 

• THE STANDARD Daily พาย้อนดูการประท้วงรอบโลกในปี 2019 แต่ละที่กินเวลายาวนานเพียงใด มีความสูญเสียมากน้อยแค่ไหน และมูลเหตุของการประท้วงส่วนใหญ่มาจากประเด็นใด

สามารถติดตาม THE STANDARD Daily ได้เป็นประจำทุกวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ที่ Facebook Live และ Youtube Live ของ thestandardth

The post สรุปประท้วงใหญ่รอบโลก 2019 – THE STANDARD Daily 26 ธันวาคม 2562 appeared first on THE STANDARD.