การติดเชื้อ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 17 Oct 2023 00:32:01 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 “ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรอด” Madonna พูดถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่วงกลางปีที่ผ่านมา https://thestandard.co/madonna-on-bacterial-infection/ Tue, 17 Oct 2023 01:00:44 +0000 https://thestandard.co/?p=855324

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นว่า Madon […]

The post “ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรอด” Madonna พูดถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่วงกลางปีที่ผ่านมา appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นว่า Madonna ถูกส่งเข้ารักษาตัวในห้อง ICU จากการติดเชื้อแบคทีเรียอยู่หลายวัน ซึ่งอาการป่วยของเธอก็หนักหนาจนต้องประกาศเลื่อนตารางทัวร์คอนเสิร์ต Celebration Tour อันเป็นคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีในวงการของเธอออกไปก่อนทั้งหมดเพื่อรักษาตัว

 

ล่าสุด Madonna ในวัย 65 ปี ก็เยียวยาสุขภาพจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และได้เริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ต Celebration Tour ดั่งที่ตั้งใจไว้ โดยไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอได้แสดงที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และระหว่างที่กำลังโชว์เพลง Mother and Father เธอก็ได้พูดถึงการป่วยของตัวเองครั้งที่ผ่านมาว่า

 

“ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรอด และหมอของฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันจึงตื่นลืมตาขึ้นมาเจอลูกๆ ทุกคนที่นั่งอยู่รอบตัวฉัน ฉันจดจำช่วงชีวิตแห่งความเป็นและความตายใน 5 วันนั้นไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่ที่ไหนมา แต่เหล่านางฟ้าได้ปกป้องฉัน และลูกๆ ของฉันก็อยู่ที่นั่น ลูกช่วยชีวิตฉันมาตลอดในทุกๆ ครั้ง

 

“ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าฉันผ่านมันมาและรอดมาได้อย่างไร ฉันคิดเพียงแค่ว่า ฉันต้องอยู่เพื่อลูก และฉันจะต้องรอดเพื่อพวกเขา” หลังจากนั้น Madonna ก็ร้องเพลงคัฟเวอร์ I Will Survive ของ Gloria Gaynor เพื่อตอกย้ำความสตรองของตัวเองที่ผ่านเหตุการณ์วิกฤตมาได้อย่างสง่างาม

 

สำหรับคอนเสิร์ต Celebration Tour ในครั้งนี้ Madonna ได้แสดงมากกว่า 40 บทเพลงจากเส้นทางการเป็นศิลปินของเธอ รวมไปถึงเหล่าเพลงฮิตสุดคลาสสิกอย่าง Like a Virgin, Into the Groove, Vogue, Like a Prayer, Ray of Light และ Hung Up

 

ภาพ: Kevin Mazur / WireImage for Live Nation

อ้างอิง: 

The post “ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรอด” Madonna พูดถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่วงกลางปีที่ผ่านมา appeared first on THE STANDARD.

]]>
Madonna เลื่อนทัวร์คอนเสิร์ต Celebration หลังถูกส่งเข้าห้อง ICU จากการติดเชื้อแบคทีเรีย https://thestandard.co/madonna-postpones-celebration-tour/ Fri, 30 Jun 2023 00:37:23 +0000 https://thestandard.co/?p=809592

แฟนเพลงหลายคนต่างตกใจเมื่อมีการรายงานข่าวว่า Madonna หม […]

The post Madonna เลื่อนทัวร์คอนเสิร์ต Celebration หลังถูกส่งเข้าห้อง ICU จากการติดเชื้อแบคทีเรีย appeared first on THE STANDARD.

]]>

แฟนเพลงหลายคนต่างตกใจเมื่อมีการรายงานข่าวว่า Madonna หมดสติ และถูกส่งตัวเข้ารักษาในห้อง ICU โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งล่าสุดมีประกาศตามมาอีกว่า ขณะนี้ Madonna อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และออกจากห้อง ICU แล้ว แต่เธอจำเป็นต้องเลื่อนตารางทัวร์คอนเสิร์ต Celebration ทั้งหมดออกไปก่อนเพื่อรักษาตัว

 

Madonna ศิลปินวัย 64 ปี ตั้งใจจัดทัวร์คอนเสิร์ตครบรอบ 40 ปีในวงการครั้งใหญ่ ในชื่อ Celebration โดยที่จริงแล้วจะต้องเริ่มต้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ณ แวนคูเวอร์ เป็นแห่งแรก นอกจากนั้นเธอยังมีตารางทัวร์คอนเสิร์ตทั่วสหรัฐฯ ทั้งนิวยอร์ก, ชิคาโก, ไมอามี, วอชิงตัน, ฮิวสตัน, ลอสแอนเจลิส, ลาสเวกัส และอีกหลายเมือง ก่อนที่จะไปเล่นคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และอีกหลายพื้นที่ทั่วยุโรป 

 

ล่าสุดทางผู้จัดการของ Madonna อย่าง Guy Oseary ได้แถลงการณ์ว่า “เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน Madonna มีอาการป่วยจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงทำให้เธอต้องรักษาตัวในห้อง ICU นานหลายวัน ขณะนี้เธอมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงอยู่ในการรักษา และเราคาดหวังว่าเธอจะหายจากการป่วยอย่างเต็มร้อย

 

“ในเวลานี้เราจำเป็นต้องหยุดสิ่งที่เราวางแผนเอาไว้ก่อน ซึ่งรวมไปถึงการทัวร์คอนเสิร์ตด้วย เราจะประกาศรายละเอียดทั้งวันเริ่มต้นทัวร์ครั้งใหม่และตารางทัวร์ใหม่ทั้งหมดให้ทราบในเร็วๆ นี้”

 

ภาพ: Stefanie Keenan / Getty Images for Burberry

อ้างอิง: 

The post Madonna เลื่อนทัวร์คอนเสิร์ต Celebration หลังถูกส่งเข้าห้อง ICU จากการติดเชื้อแบคทีเรีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ออสเตรียใช้เครื่องมือ ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ คัดกรองการติดเชื้อในเด็ก https://thestandard.co/austria-covid-19-lollipops-test-for-kid-screening/ Fri, 30 Apr 2021 04:16:33 +0000 https://thestandard.co/?p=482267 ออสเตรียใช้เครื่องมือ ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ คัดกรองการติดเชื้อในเด็ก

วันนี้ (30 เมษายน) โรงเรียนอนุบาลในออสเตรียใช้เครื่องมื […]

The post ออสเตรียใช้เครื่องมือ ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ คัดกรองการติดเชื้อในเด็ก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ออสเตรียใช้เครื่องมือ ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ คัดกรองการติดเชื้อในเด็ก

วันนี้ (30 เมษายน) โรงเรียนอนุบาลในออสเตรียใช้เครื่องมือนำร่องอย่าง ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ ตรวจคัดกรองการติดเชื้อของเด็กภายในโรงเรียน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตรวจหาเชื้อในเด็กเล็ก แทนการใช้ก้านเก็บตัวอย่างแหย่เข้าไปในโพรงจมูกด้านหลัง และใช้อีกก้านเก็บตัวอย่างจากในช่องปากบริเวณหลังลำคอ (Swab) 

 

ทางโรงเรียนจะส่งจดหมายชี้แจงถึงผู้ปกครองพร้อมระบุว่า จะมีการตรวจหาเชื้อให้เด็กๆ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อคัดกรองและเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นภายในโรงเรียนหลังเปิดภาคเรียน 

 

วิธีการใช้งานเครื่องมือดังกล่าวเริ่มจากการนำเอาที่ตรวจโควิด-19 ที่มีลักษณะคล้ายกับอมยิ้มเข้าไปในปาก ดูดและอมไว้ 90 วินาที จุ่มลงไปในบรรจุภัณฑ์ทรงกระบอกใสที่มีน้ำยาตรวจหาเชื้ออยู่ รอ 15 นาที และเช็กผลการตรวจ 

 

โดยอมยิ้มตรวจโควิด-19 เป็นผลงานการศึกษาวิจัยของ มานูเอลา โฟดินเจอร์ ประจำห้องทดลองของโรงพยาบาล Kaiser-Franz-Joseph ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาการทำงานของเครื่องมือดังกล่าวในเด็กอายุ 1-6 ปีภายในโรงเรียนอนุบาล 5 แห่ง เพื่อพัฒนาให้เครื่องมือนี้มีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

ภาพ: Joe Klamar / AFP

อ้างอิง:

The post ออสเตรียใช้เครื่องมือ ‘อมยิ้มตรวจโควิด-19’ คัดกรองการติดเชื้อในเด็ก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลวิจัยชี้ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควบคู่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 60% https://thestandard.co/covid-19-vaccination-with-lockdown-measures-reduced-infection-rate/ Mon, 12 Apr 2021 06:10:44 +0000 https://thestandard.co/?p=475177 ผลวิจัยชี้ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควบคู่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 60%

ทีมวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) […]

The post ผลวิจัยชี้ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควบคู่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 60% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลวิจัยชี้ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควบคู่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 60%

ทีมวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า โครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักรส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 2 ใน 3 หรือกว่า 60% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่พบว่าโครงการฉีดวัคซีนเริ่มทำลายความเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อกับกรณีการเสียชีวิต

 

งานวิจัยดังกล่าวซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร อ้างอิงข้อมูลการแพร่ระบาด ณ ปัจจุบันและการสุ่มเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อด้วยวิธี Swab จากประชาชนในแต่ละเดือน ภายหลังเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเมื่อเดือนมกราคม

 

ซึ่งตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมพบว่า กรณีการติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรลดลงถึง 2 ใน 3 หรือราว 60% คาดว่าเป็นผลจากทั้งการฉีดวัคซีนและมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี

 

ขณะที่การสุ่มตรวจเชื้อรอบล่าสุดจากประชาชน 140,000 คน ระหว่างวันที่ 11-30 มีนาคม พบผู้ติดเชื้อราว 0.2% หรือประมาณ 1 ใน 500 คน

 

ซึ่งในกลุ่มประชากรอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป พบว่ามีอัตราการติดเชื้อน้อยที่สุดราว 1 ใน 1,000 คน คาดว่าเป็นผลจากการฉีดวัคซีนที่มุ่งเน้นไปที่ผู้สูงอายุ

 

ผลการวิจัยยังพบว่าโครงการฉีดวัคซีนเริ่มทำลายความเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อกับกรณีผู้ติดเชื้อที่อาการรุนแรงหรือเสียชีวิต

 

จากการวิจัยพบว่า ความเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อโควิด-19 และการเสียชีวิตนั้นเริ่มแตกต่างกัน โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีน พบว่ากรณีการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจนต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือถึงขั้นเสียชีวิตนั้นมีจำนวนลดลง

 

ขณะที่ปัจจุบันมีประชากรสหราชอาณาจักรได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมากกว่า 5.6 ล้านคน และราว 31.7 ล้านคน หรือกว่า 60% ของประชากรผู้ใหญ่ของสหราชอาณาจักรได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ปรับเปลี่ยนข้อแนะนำในการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนอายุต่ำกว่า 30 ปีให้ใช้วัคซีนตัวอื่นแทนวัคซีนของ AstraZeneca เนื่องจากพบข้อมูลบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงที่ก่อให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

 

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยังเตือนให้ระมัดระวัง เนื่องจากอัตราการติดเชื้อลดลงในช่วงสิ้นสุดการวิจัย ขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเริ่มต้นผ่อนคลายล็อกดาวน์ทั่วประเทศและเด็กๆ เริ่มกลับไปโรงเรียน ซึ่งการศึกษาวิจัยในอนาคตจำเป็นต้องประเมินผลกระทบเรื่องการผ่อนคลายมาตรการป้องกันที่ส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อด้วย

 

ทั้งนี้สหราชอาณาจักรจะยกเลิกการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบล่าสุด ตั้งแต่วันนี้ (12 เมษายน) โดยอนุญาตให้ร้านค้าและสถานประกอบธุรกิจที่ไม่จำเป็นกลับมาเปิดได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับร้านตัดผม ฟิตเนส และร้านอาหาร

 

ภาพ: Jane Barlow / PA Images via Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

The post ผลวิจัยชี้ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควบคู่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 60% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: คู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ https://thestandard.co/video-new-mom-guide-unborn-child-infection-risk-group/ Fri, 02 Apr 2021 13:30:09 +0000 https://thestandard.co/?p=471667 ชมคลิป: คู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์

รับมืออย่างไร เมื่อคุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้ […]

The post ชมคลิป: คู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: คู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์

รับมืออย่างไร เมื่อคุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ

 

คุยกับ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์เจริญพันธุ์ และ ศ. พญ. ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ ถึงวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การดูแลตัวเองของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงวัคซีนที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เช่น วัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะไม่เพียงแต่คุณแม่จะมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว ยังสามารถส่งต่อภูมิคุ้มกันนี้สู่ลูกน้อยตั้งแต่ก่อนจะลืมตาดูโลกได้อีกด้วย

The post ชมคลิป: คู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรมอนามัยเตือน ซาชิมิอกไก่ดิบอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงติดเชื้อในลำไส้ https://thestandard.co/department-of-health-warns-eating-raw-chicken-sashimi/ Wed, 10 Mar 2021 05:49:05 +0000 https://thestandard.co/?p=463400 กรมอนามัยเตือน ซาชิมิอกไก่ดิบอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงติดเชื้อในลำไส้

วันนี้ (10 มีนาคม) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบด […]

The post กรมอนามัยเตือน ซาชิมิอกไก่ดิบอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงติดเชื้อในลำไส้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรมอนามัยเตือน ซาชิมิอกไก่ดิบอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงติดเชื้อในลำไส้

วันนี้ (10 มีนาคม) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีในโลกโซเซียลมีการเผยแพร่เมนูซาชิมิอกไก่ดิบสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีการจำหน่ายในร้านอาหารไทยในขณะนี้ กรมอนามัยขอความร่วมมือประชาชนเลือกร้านอาหารที่ผ่านการปรุงสุกดีกว่า เนื่องจากในเนื้อไก่ดิบหรือไก่ดิบแช่แข็งมักมีเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ปนเปื้อนมาด้วย เป็นต้นเหตุของการท้องร่วง อาหารเป็นพิษ หรือการติดเชื้อในลำไส้ และมักมีตัวอ่อนของพยาธิตัวจี๊ด เมื่อกินเข้าไปจะกลายเป็นตัวแก่ในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีอาการคัน บวมแดง หรือบวมๆ ยุบๆ และเคลื่อนที่ได้ สำหรับบางรายอาจจะร้ายแรงถึงขั้นตาบอด หรือสมองอักเสบได้ และในส่วนของสถานประกอบกิจการเลี้ยงไก่สามารถป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค Salmonella ได้ด้วยการตรวจสุขภาพของไก่และอาหารไก่ รวมถึงการตรวจสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน และสุขาภิบาลของโรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เกิดจาก Salmonella ไปสู่ผู้บริโภคอีกด้วย

 

นพ.สุวรรณชัยกล่าวอีกว่า ประชาชนควรเลือกซื้อไก่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และก่อนนำไก่ดิบมาปรุงประกอบอาหารต้องล้างให้สะอาดก่อน โดยเฉพาะสิ่งสกปรกที่ติดมากับไขมัน ถ้ามีมากควรล้างด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด แล้วจึงนำมาชำแหละเอาส่วนต่างๆ และกระดูกที่ไม่ต้องการออก เพื่อนำมาปรุงสุกโดยใช้ความร้อนสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที เป็นการทำลายเชื้อโรคที่ติดมากับเนื้อไก่ดิบ หากซื้อเนื้อไก่แช่แข็งผ่านทางออนไลน์ ต้องสังเกตบรรจุภาชนะห่อหุ้มด้วยพลาสติกแช่เย็น ป้ายที่บอกวันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่ควรบริโภค สำหรับการเก็บเนื้อไก่ดิบนั้น หากซื้อมาประกอบอาหารแล้วแต่ใช้ไม่หมด ควรเก็บในอุณหภูมิ 0-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเก็บได้นาน 3-5 วัน หรือเก็บในช่องแช่เย็นที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นาน 12 เดือน ส่วนอาหารปรุงสุกที่เก็บไว้นานกว่า 4 ชั่วโมง ควรนำมาอุ่นร้อนก่อนทุกครั้งในมื้อต่อไป และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนกินอาหารและหยิบจับอาหารสด เพื่อสุขอนามัยที่ดี 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post กรมอนามัยเตือน ซาชิมิอกไก่ดิบอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงติดเชื้อในลำไส้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
งานวิจัยเผย เจ้าเป็ดเหลืองในห้องน้ำสกปรกกว่าที่คุณคิด พบแบคทีเรียและเชื้อรามากกว่า 75 ล้านเซลล์ https://thestandard.co/yucky-ducky-study-reveals-bath-time-toys-dirty/ https://thestandard.co/yucky-ducky-study-reveals-bath-time-toys-dirty/#respond Wed, 28 Mar 2018 06:47:31 +0000 https://thestandard.co/?p=80376

ทีมนักวิจัยชาวสวิสและชาวอเมริกันเผยว่า เจ้าเป็ดเหลืองใน […]

The post งานวิจัยเผย เจ้าเป็ดเหลืองในห้องน้ำสกปรกกว่าที่คุณคิด พบแบคทีเรียและเชื้อรามากกว่า 75 ล้านเซลล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ทีมนักวิจัยชาวสวิสและชาวอเมริกันเผยว่า เจ้าเป็ดเหลืองในห้องน้ำสกปรกกว่าที่คุณคิด จากการศึกษาพบว่า 4 ใน 5 ของเหลวที่ถูกบีบออกมาจากเจ้าเป็ดมีแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคจำนวนมาก โดยแบคทีเรียที่พบส่วนใหญ่คือ Legionella และ Pseudomonas aeruginosa ซึ่งพบผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากจากการติดเชื้อเหล่านี้สูงมาก

 

 

พวกเขาพบว่ามีแบคทีเรียและเชื้อมากกว่า 75 ล้านเซลล์ต่อตารางเซนติเมตร โดยน้ำประปาที่ใช้ในแต่ละครัวเรือนไม่ได้ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเจ้าเชื้อโรคเหล่านี้ แต่เป็นโพลิเมอร์คุณภาพต่ำที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเจ้าเป็ดเหล่านี้ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคภายในตัวเป็ดยาง ซึ่งนักวิจัยด้านจุลชีววิทยาของ Lisa Neu ยืนยันว่ายางเหล่านี้สามารถปล่อยคาร์บอนซึ่งเป็นอาหารของเหล่าแบคทีเรียและเชื้อราได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าเป็ดยางจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมาย

 

แม้ว่าแบคทีเรียบางชนิดจะช่วยกระตุ้นและสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่เด็กเหล่านี้จะเกิดการติดเชื้อในตา หู และลำไส้ โดยเฉพาะเด็กที่ชอบเล่นฉีดน้ำบริเวณใบหน้ากัน ดังนั้นผู้ปกครองควรเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ได้มาตรฐาน เพื่อลดความเสี่ยงของโรคร้ายที่อาจจะติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว

 

Photo: www.yahoo.com

อ้างอิง:

The post งานวิจัยเผย เจ้าเป็ดเหลืองในห้องน้ำสกปรกกว่าที่คุณคิด พบแบคทีเรียและเชื้อรามากกว่า 75 ล้านเซลล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/yucky-ducky-study-reveals-bath-time-toys-dirty/feed/ 0