การคุกคามทางเพศ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 19 Aug 2025 04:52:24 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ภัสรินโต้ สว.เดชา ค้านแก้กฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายคุกคามทางเพศ ยกเหตุผลเลอะเทอะ อ้างว่าเรื่องธรรมชาติ ถือเป็นการปกป้องผู้คุกคาม https://thestandard.co/sexual-harassment-law-debate/ Tue, 19 Aug 2025 04:52:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1108787 ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม. แถลงโต้ สว.เดชา ค้าน กฎหมายคุกคามทางเพศ

วันนี้ (19 สิงหาคม) ภัสริน รามวงศ์ สส. กทม. พรรคประชาชน […]

The post ภัสรินโต้ สว.เดชา ค้านแก้กฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายคุกคามทางเพศ ยกเหตุผลเลอะเทอะ อ้างว่าเรื่องธรรมชาติ ถือเป็นการปกป้องผู้คุกคาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม. แถลงโต้ สว.เดชา ค้าน กฎหมายคุกคามทางเพศ

วันนี้ (19 สิงหาคม) ภัสริน รามวงศ์ สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี เดชา นุตาลัย สว. อภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานคุกคามทางเพศ ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (18 สิงหาคม) 

 

ภัสรินกล่าวว่า ได้รับฟังการอภิปรายกฎหมายคุกคามทางเพศในชั้น สว. มี สว. ท่านหนึ่งอภิปรายคัดค้านกฎหมาย โดยอ้างว่า มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริงนั้น ส่วนตัวคิดว่า ข้ออ้างของ สว. ท่านนี้มีปัญหาอย่างมาก โดยขอแยกแยะเป็น 3 ประเด็น

 

  1. กฎหมายพูดถึง “ผู้เสียหาย” เป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องสมมติว่า มีใครร้องเพลงจีบหรือแอบมองแล้วติดคุกทันที อย่างที่ สว. ท่านนี้เอามามั่วนิ่ม กฎหมายกำหนดชัดว่า ต้องมีลักษณะการกระทำที่ส่อไปทางเพศ และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ อับอาย หวาดกลัว หรือไม่ปลอดภัย ถึงจะเข้าข่ายความผิด


 

  1. การเปรียบเทียบกับเนื้อเพลงหรือบทกวีเป็นการบิดเบือน เพลงที่ไม่ได้เจาะจงใคร ย่อมไม่ใช่การคุกคามในแบบที่กฎหมายสื่อ เพราะไม่มี “ผู้เสียหายที่ชัดเจน” ในขณะที่กฎหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับการคุกคามที่มีผู้ถูกกระทำ มีผู้เสียหายจริง เช่น การตามรังควาน ตามตื๊อ การส่งข้อความส่อไปทางเพศ การเฝ้ามองจนทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งในบริบทไทยแม้วัฒนธรรมบางอย่างอาจมองพฤติกรรม “ตื๊อ” หรือ “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” เป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นการคุกคามที่ฝังรากและถูกทำให้ชอบธรรมโดยไม่รู้ตัว


 

  1. การอ้างว่า “ผู้หญิงถูกมองแล้วก็ตื่นเต้นใจเต้นแรง” เป็นการเหมารวมและเหยียดเพศ เพราะในความจริง ผู้หญิง ผู้ชาย หรือจะใครคนไหน จำนวนมากรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เขินอายอย่างที่ สว. ท่านนี้ Romanticize ให้ดูน่ารัก 

 

ภัสรินกล่าวว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนทัศนคติที่ไม่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้อื่น การคัดค้านกฎหมายด้วยเหตุผลเลอะเทอะแบบนี้ ไม่ได้ปกป้องความเป็นธรรมชาติของมนุษย์อย่างที่อ้าง แต่คือการปกป้องสิทธิของผู้คุกคามให้ยังทำร้ายคนอื่นได้โดยไม่ถูกเอาผิดต่างหาก เราควรหยุดมองการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมดา เลิกมองว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนหมาหยอกไก่ และเริ่มสร้างสังคมที่สิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยสำคัญกว่ามุกตลกหรือเพลงเก่าได้แล้ว

 

The post ภัสรินโต้ สว.เดชา ค้านแก้กฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายคุกคามทางเพศ ยกเหตุผลเลอะเทอะ อ้างว่าเรื่องธรรมชาติ ถือเป็นการปกป้องผู้คุกคาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. เดชา ค้านแก้นิยามกฎหมาย ‘คุกคามทางเพศ’ ชี้เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริง https://thestandard.co/senate-sexual-harassment-law-debate/ Mon, 18 Aug 2025 09:57:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1108523 senate-sexual-harassment-law-debate

วันนี้ (18 สิงหาคม) ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีการอภิปราย […]

The post สว. เดชา ค้านแก้นิยามกฎหมาย ‘คุกคามทางเพศ’ ชี้เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริง appeared first on THE STANDARD.

]]>
senate-sexual-harassment-law-debate

วันนี้ (18 สิงหาคม) ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีการอภิปรายร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดฐาน ‘คุกคามทางเพศ’ ซึ่งมีการเพิ่มนิยามให้ครอบคลุมการกระทำหลายลักษณะ ได้แก่ การกระทำโดยทางกาย วาจา การส่งเสียง การแสดงอากัปกิริยาหรือท่าทาง การติดต่อสื่อสาร การเฝ้าดู การติดตามรังควาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ รวมถึงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถแสดงผลให้เข้าใจความหมายได้ โดยถือว่าหากมีลักษณะส่อไปทางเพศในประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ อับอาย ถูกเหยียดหยาม หวาดกลัว หรือได้รับความไม่ปลอดภัยในทางเพศ ให้ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

 

อย่างไรก็ตาม เดชา นุตาลัย สว. ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบเป็นลำดับ โดยตั้งข้อสงสัยว่าผู้ร่างกฎหมายมีปมอะไรในใจหรือไม่ พร้อมชี้ว่าคำว่า ‘ด้วยประการใดๆ’ เป็นการกำหนดคำที่กว้างเกินไป ขณะเดียวกันยังระบุว่ามี 3 คำที่ตนเองไม่เห็นด้วย

 

เดชาอภิปรายการระบุว่า ‘การส่งเสียง’ อาจเป็นคุกคามทางเพศ โดยมองว่าการแซวจีบเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตมนุษย์ ซึ่งเป็นธรรมชาติ ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นความผิด และไม่เห็นด้วยกับการกำหนดว่า ‘การเฝ้าดู’ จะเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยอธิบายว่าคนที่ชอบใครก็มักจะมองหรือไปสืบหาว่ามีแฟนหรือยัง ซึ่งหลายครั้งความสัมพันธ์ก็ลงเอยด้วยดี พร้อมยกสุภาษิต ‘ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก น้ำหยดลงหิน หินยังกร่อน’ และตั้งคำถามว่า การกระทำเช่นนี้จะถูกนับเป็นคุกคามทางเพศจริงหรือ

 

เดชายังได้ตัวอย่างบทกวีหรือเพลง เช่น เนื้อหาที่ว่า “บ้านน้องอยู่ฝั่งทางโน้น บ้านพี่อยู่ฝั่งทางนี้ หัวสะพานตรงกัน อาบน้ำกันเห็นกันทุกที” ซึ่งตามกฎหมายใหม่ หากเห็นกันมากกว่า 2 ครั้งอาจเข้าข่ายติดคุกได้

 

เดชายังกล่าวถึงเพลงรักอื่นๆ เช่น “มองเธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มอง หากเธอไม่สวยฉันจะไม่มอง หากเธอไม่แจ่มฉันจะไม่จ้อง” พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม

 

เดชายังแสดงความกังวลว่า หากผ่านกฎหมายนี้ นักร้องนักดนตรีอาจได้รับผลกระทบเพราะเนื้อหาเพลงอาจถูกตีความว่าเป็นคุกคามทางเพศ ทั้งที่จริงเป็นการแสดงความชอบพอ พร้อมยกคำพังเพยว่า “รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ” และกล่าวกับประธานการประชุมว่า น่าจะเข้าใจเพราะเคยเป็นหนุ่มมาก่อน

 

เดชายังอภิปรายอ้างอิงร่างกฎหมายมาตรา 284/1 ที่กำหนดโทษสำหรับผู้คุกคามทางเพศ หากไม่เข้าข่ายความผิดฐานอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมเตือนว่าหากผู้ชายไปเกี้ยวสาวสุ่มสี่สุ่มห้าเสี่ยงติดคุก

 

เดชายังยกตัวอย่างว่า หากไปเดินห้างแล้วเห็นผู้หญิงสวยๆ เดินผ่านแล้วมอง 2 ครั้ง หากฝ่ายหญิงไปแจ้งความ ชายอาจถูกดำเนินคดี โดยมองว่าจะเปิดช่องให้เกิดการแบล็กเมล พร้อมบอกว่า “ผมเป็นคนจนชาวนาไม่เดือดร้อน แต่ลูกหลานคนรวยๆ จะเดือดร้อน”

 

เดชายังระบุอีกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผู้หญิงถูกผู้ชายมองแล้วย่อมรู้สึกตื่นเต้น ใจเต้นแรงบ้าง จึงไม่ควรถือว่าเป็นคุกคามทางเพศ พร้อมคัดค้านถ้อยคำว่า ‘จะคุกคามทางเพศ’ โดยเห็นว่าหมายถึงยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ผู้หญิงคาดเดาแล้วไปแจ้งความ เช่น เห็นผู้ชายสองคนเดินมาแล้วคิดว่าจะคุกคาม ทั้งที่ชายอาจไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้ตำรวจและนักกฎหมายในการทำงาน ย้ำว่าคำว่า ‘จะ’ เป็นเพียงการมโน ไม่ใช่การกระทำจริง

 

เดชายังยกตัวอย่างกรณีพระอยู่ในวัดแล้วมีผู้หญิงไปหา อาจถูกตีความว่าเป็นคุกคามทางเพศได้ พร้อมพูดเปรียบเปรยว่า “พระบางทีก็แข็งเหมือนกัน บางทีก็อ่อน คือใจแข็งใจอ่อน ก็น่าเห็นใจ”

 

เดชายังกล่าวทิ้งท้ายว่า “เราจะใช้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในฝ่ายเดียวคงไม่ได้ครับ”

 

ทั้งนี้ ร่างกฎหมาย มาตรา 284/3 ของร่างแก้ไขกฎหมาย ยังบัญญัติด้วยว่า หากคดีคุกคามทางเพศปรากฏต่อศาล ไม่ว่าจะตามข้อเสนอของพนักงานอัยการ โจทก์ ผู้เสียหาย หรือเจ้าพนักงาน ว่าจำเลยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าจะคุกคามทางเพศหรือรบกวนการดำเนินชีวิตของผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าศาลจะลงโทษจำเลยหรือไม่ ศาลสามารถมีคำสั่งห้ามจำเลยกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาได้ไม่เกิน 2 ปี

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาภายหลัง สว. อภิปรายจบ ปรากฏว่าที่ประชุม สว. ลงมติเสียงข้างมากให้รับร่างกฎหมายนี้ไว้พิจารณา

The post สว. เดชา ค้านแก้นิยามกฎหมาย ‘คุกคามทางเพศ’ ชี้เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สภามติเอกฉันท์ผ่านกฎหมายอาญา เพิ่มนิยาย ‘กระทำชำเรา-คุกคามทางเพศ’ ให้กว้างขึ้น https://thestandard.co/sexual-harassment-criminal-code/ Wed, 30 Jul 2025 12:38:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1101888 sexual-harassment-criminal-code

วันนี้ (30 กรกฎาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ […]

The post สภามติเอกฉันท์ผ่านกฎหมายอาญา เพิ่มนิยาย ‘กระทำชำเรา-คุกคามทางเพศ’ ให้กว้างขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
sexual-harassment-criminal-code

วันนี้ (30 กรกฎาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 7 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ… ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาเสร็จแล้ว มี ศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2 และวาระที่ 3 

 

ศุภชัยชี้แจงว่า กรรมาธิการฯ ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ. ในหลายประเด็น เพื่อให้ร่างกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์และสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ดังนี้ 

 

  1. มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “กระทำชำเรา” และเพิ่มบทนิยามคำว่า “คุกคามทางเพศ” 

 

  1. ยกเลิกเหตุฉกรรจ์ของความผิดฐานอนาจาร 

 

  1. กำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศ 

 

  1. แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการเพื่อความปลอดภัยเพื่อกำหนดให้คำสั่งงดเว้นการกระทำ เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยอีกวิธีการหนึ่ง 

 

  1. แก้ไขเพิ่มเติมความผิดลหุโทษ เพื่อเพิ่มอัตราโทษกรณีความผิดที่กระทำต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อน รำคาญ หรือการกระทำนั้นได้กระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล

 

ศุภชัยกล่าวต่อไปว่า เนื่องจากนิยามคำว่า “กระทำชำเรา” เดิมนั้น กำหนดวัตถุแห่งการกระทำต้องเป็นกรณีผู้กระทำความผิดใช้อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่นเท่านั้น แต่บทบัญญัติที่แก้ไขใหม่นี้ นอกจากกรณีผู้กระทำความผิดใช้อวัยวะเพศของตนล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่นแล้ว ยังหมายความครอบคลุมถึงกรณีการใช้อวัยวะอื่นของผู้กระทำความผิด หรือใช้วัตถุล่วงล้ำอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของผู้อื่น ส่วนคำว่า “อวัยวะเพศ” ให้หมายความรวมถึง “อวัยวะเพศที่เกิดจากการผ่าตัด” ด้วย

 

สำหรับกรณีผู้กระทำความผิดให้ผู้อื่นกระทำกับตนนั้น ไม่รวมถึงการใช้อวัยวะอื่นหรือวัตถุล่วงล้ำอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของตนด้วย เพราะมิฉะนั้นการกระทำของแพทย์ในการตรวจร่างกายจะเป็นความผิด กำหนดให้การคุกคามทางเพศเป็นการ

 

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้การกระทำเป็นความผิดอาญาและต้องรับโทษ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมปัจจุบันที่การกระทำความผิดทางเพศมีความหลากหลายมากขึ้น โดยการกระทำที่แม้ไม่ใช่เป็นการกระทำชำเราหรืออนาจาร แต่ส่งผลรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ถูกกระทำเช่นเดียวกัน และเพื่อให้มีความชัดเจนว่าลักษณะใดเป็นการคุกคามทางเพศ จึงได้กำหนดนิยามลักษณะการกระทำอันถือว่าเป็นความผิดฐานคุกคามทางเพศ 

 

อีกทั้งยังกำหนดให้รวมถึงการกระทำคุกคามทางเพศผ่านระบบคอมพิวเตอร์ด้วย กำหนดกลุ่มบุคคลที่ถูกกระทำและลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดที่ยอมความได้ โดยมีเหตุผลดังนี้ หากเป็นการกระทำกันเองระหว่างคู่สมรสที่ไม่ใช่เป็นการกระทำต่อหน้าบุคคลอื่นอันก่อให้เกิดความอับอาย ถูกเหยียดหยาม หรือไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย ก็ให้สามารถยอมความได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงของสถาบัน ครอบครัว 

 

เนื่องจากพิจารณาว่า หากเป็นกรณีการคุกคามทางเพศที่ไม่ร้ายแรง โดยคู่กรณีสามารถตกลงกันได้ ก็ให้สามารถยอมความกันได้เพื่อไม่เป็นการเพิ่มภาระทางปริมาณคดีแก่ศาล ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 

 

  1. หากเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัล และไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัส หรือถึงแก่ความตาย ก็ให้สามารถยอมความได้ 

 

  1. ถ้าการคุกคามทางเพศไม่ใช่เป็นการกระทำต่อบุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด หรือบุคคลซึ่งไม่สามารถปกป้องตนเอง อันเนื่องมาจากเป็นผู้ทุพพลภาพ ผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน คนป่วยเจ็บ คนชรา สตรีมีครรภ์ หรือผู้ซึ่งอยู่ในภาวะไม่สามารถรู้ผิดชอบก็ให้สามารถยอมความได้เช่นกัน

 

ศุภชัยกล่าวอีกว่า มีการกำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศ และกำหนดโทษ รวมถึงเหตุฉกรรจ์ เพื่อให้การคุกคามทางเพศเป็นความผิดทางอาญาและมีโทษ และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำขึ้นอีก อีกทั้งเพื่อป้องปรามมิให้ผู้กระทำฉวยโอกาสกระทำความผิดต่อเด็ก ซึ่งไม่สามารถต่อสู้ หรือช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากอันตรายจากการกระทำได้ 

 

กำหนดเหตุฉกรรจ์ที่ทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษเพิ่มขึ้น เพื่อป้องปรามมิให้ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือบุคคลอื่นฉวยโอกาสกระทำการคุกคามทางเพศต่อผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชา ลูกจ้าง หรือผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจประการอื่น เช่น ผู้ที่ต้องอาศัยพึ่งพา ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น

 

ให้อำนาจศาลในการกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในกรณีความผิดฐาน

คุกคามทางเพศ โดยมีเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ให้ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานคุกคามทางเพศผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลจะมีอำนาจพิจารณาออกคำสั่งให้ผู้กระทำ ตลอดจนผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Line, Tiktok เป็นต้น หยุดการเผยแพร่หรือนำภาพหรือวิดีโอลามกของผู้เสียหายออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาลก่อน รวมทั้งกำหนดโทษสำหรับผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์ที่ฝ่าฝืนไม่ทำตามคำสั่งของศาล เพื่อเป็นการหยุดยั้งความเสียหายให้แก่ผู้ถูกกระทำการคุกคามทางเพศอย่างทันท่วงที

 

มีการเพิ่มอัตราโทษการกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ กำหนดให้การกระทำดังกล่าวในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัลเป็นเหตุฉกรรจ์ ที่ต้องรับโทษเพิ่มขึ้น

 

ภายหลังสมาชิกอภิปรายเรียงตามมาตราจนจบวาระที่ 2 จากนั้นเป็นการลงมติในวาระ 3 ที่ประชุมเห็นชอบด้วยคะแนน 366 เสียง ไม่มีเสียงไม่เห็นชอบ งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน4 เสียง จึงถือว่าที่ประชุมเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จากนั้นจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

The post สภามติเอกฉันท์ผ่านกฎหมายอาญา เพิ่มนิยาย ‘กระทำชำเรา-คุกคามทางเพศ’ ให้กว้างขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
รัฐศาสตร์ มธ. เดินหน้าสอบข้อเท็จจริง เปิดช่องแจ้งเหตุเพิ่มเติม กรณีภาพนักศึกษา-ถ้อยคำคุกคามทางเพศ https://thestandard.co/thammasat-harassment-investigation/ Mon, 26 May 2025 08:18:04 +0000 https://thestandard.co/?p=1078622 thammasat-harassment-investigation

วันนี้ (26 พฤษภาคม) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ […]

The post รัฐศาสตร์ มธ. เดินหน้าสอบข้อเท็จจริง เปิดช่องแจ้งเหตุเพิ่มเติม กรณีภาพนักศึกษา-ถ้อยคำคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
thammasat-harassment-investigation

วันนี้ (26 พฤษภาคม) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์กรณีมีอาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า นำภาพของนักศึกษาไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ พร้อมกล่าวถึงด้วยถ้อยคำหยาบคายและมีเนื้อหาที่มีนัยคุกคามทางเพศ ระบุได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายแล้ว 2 ราย และกำลังดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นระบบ พร้อมยืนยันจุดยืนสร้างพื้นที่ปลอดภัยและเท่าเทียมทางเพศ

 

แถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 คณะได้รับแจ้งเหตุจากนักศึกษาผู้เสียหาย 2 ราย และได้ดำเนินกระบวนการตามระเบียบมหาวิทยาลัยเพื่อดูแลและให้ข้อมูลที่ผู้เสียหายควรรับรู้ รวมถึงเปิดโอกาสให้สอบถามข้อสงสัยต่างๆ โดยผู้เสียหายทั้งสองรายได้ตัดสินใจร่วมกันยื่นคำร้องต่อคณะ อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 คณะได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วยกรรมการ 3 ราย เป็นหญิง 2 ราย และชาย 1 ราย พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมสงเคราะห์ศาสตร์เข้าร่วมด้วย เพื่อให้กระบวนการเป็นธรรมและไว้วางใจได้ โดยคณะกรรมการเริ่มประชุมนัดแรกในวันนี้

 

ขณะเดียวกัน คณะรัฐศาสตร์ยังเปิดช่องทางให้ผู้เสียหายเพิ่มเติมสามารถแจ้งข้อมูลหรือขอคำปรึกษาได้ ผ่าน คุณทิวทิวา คนดี นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ อีเมล [email protected] หรือโทร. 02-696-5317 รวมถึงฝ่ายพิทักษ์สิทธิ คณะกรรมการนักศึกษารัฐศาสตร์ (กนศ.ร.) โทร. 098-506-0989

 

คณะย้ำว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรมที่สุด และให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เสียหาย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

 

แถลงการณ์ปิดท้ายด้วยการแสดงจุดยืนของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ยึดถือคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมย้ำว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและโปร่งใส

 

“เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก คณะฯ จะพยายามทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงสำหรับทุกคน” แถลงการณ์ระบุ

 

รัฐศาสตร์ มธ. เดินหน้าสอบข้อเท็จจริง กรณีคุกคามทางเพศในมหาวิทยาลัย

The post รัฐศาสตร์ มธ. เดินหน้าสอบข้อเท็จจริง เปิดช่องแจ้งเหตุเพิ่มเติม กรณีภาพนักศึกษา-ถ้อยคำคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ดีไซเนอร์ชื่อดัง Riccardo Tisci ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศ https://thestandard.co/riccardo-tisci-lawsuit-2025/ Fri, 02 May 2025 05:41:12 +0000 https://thestandard.co/?p=1070531 riccardo-tisci-lawsuit-2025

Riccardo Tisci ดีไซเนอร์คนดังที่เคยดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไ […]

The post ดีไซเนอร์ชื่อดัง Riccardo Tisci ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
riccardo-tisci-lawsuit-2025

Riccardo Tisci ดีไซเนอร์คนดังที่เคยดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง Givenchy และ Burberry ถูกฟ้องร้องในข้อหาวางยาและคุกคามทางเพศ ณ มหานครนิวยอร์ก

 

เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ชายนาม Patrick Cooper ได้ทำการยื่นฟ้องร้อง Riccardo Tisci ในข้อกล่าวหาที่มีทั้งเรื่องของการคุกคาม การทำร้ายร่างกาย การกักขังหน่วงเหนี่ยว การก่อให้เกิดความเสียหายทางจิตใจและอารมณ์โดยเจตนา  และการใช้ความรุนแรง ภายใต้กฎหมาย Gender-Motivated Violence Act ของนิวยอร์ก โดยเขาต้องการเรียกร้องค่าเสียหายและค่าเสียหายเชิงลงโทษ (Punitive Damage) จาก Riccardo Tisci 

 

Patrick Cooper เผยว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2024 Riccardo Tisci ได้แอบใส่ยาลงในเครื่องดื่มของเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Harlem นิวยอร์ก โดยเขาอ้างว่า Riccardo Tisci ไม่ได้เสนอยาให้กับเขาโดยตรง หรือบอกเขาว่ามียาในเครื่องดื่มเลย ซึ่งหลังจากที่ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ดีไซเนอร์คนดังก็ได้พาเขากลับบ้านและดึงดันไม่ให้เขาออกจากที่นั่น ก่อนที่จะทำการคุกคามทางเพศโดยที่เขาแทบจะไม่มีสติสัมปชัญญะ ด้วยฤทธิ์ยาที่ทำให้เขาไม่สามารถขัดขืน ต่อสู้ หรือปกป้องตัวเองได้ และเมื่อตื่นขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองและ Riccardo Tisci นอนเปลือยกายอยู่ข้างกัน 

 

ทางฝั่งตัวแทนของ Riccardo Tisci ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยแถลงการณ์ผ่านสื่อ People ว่า “ข้อกล่าวหาเหล่านี้ล้วนไม่เป็นความจริงเลยทั้งสิ้น และ Riccardo กำลังตั้งตารอที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของเขาจากข้อกล่าวหาที่มีเจตนาร้ายทั้งหมด เขาจะพิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการทางกฎหมาย”

 

ภาพ: Getty Images

 

อ้างอิง: 

The post ดีไซเนอร์ชื่อดัง Riccardo Tisci ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sony Pictures สนับสนุน Blake Lively หลังกล่าวหา Justin Baldoni เรื่องคุกคามทางเพศและทำลายชื่อเสียงของเธอ https://thestandard.co/sony-pictures-firmly-reiterates-support-for-blake-lively-amid-justin-baldoni-allegations/ Thu, 26 Dec 2024 06:06:53 +0000 https://thestandard.co/?p=1024039 Blake Lively

Sony Pictures สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์ I […]

The post Sony Pictures สนับสนุน Blake Lively หลังกล่าวหา Justin Baldoni เรื่องคุกคามทางเพศและทำลายชื่อเสียงของเธอ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Blake Lively

Sony Pictures สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์ It Ends with Us ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุน Blake Lively เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เธอฟ้องร้อง Justin Baldoni นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในข้อหาคุกคามทางเพศและมีเจตนาใส่ร้ายป้ายสีเพื่อบ่อนทำลายชื่อเสียงของเธอ ไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

ในเอกสารการฟ้องร้องนั้น Blake Lively กล่าวหา Justin Baldoni ในข้อหาคุกคามทางเพศ และกองถ่าย It Ends with Us ก็มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เป็นมิตร จนต้องเกิดการประชุมใหญ่ที่ Blake Lively ตั้งเงื่อนไขในการทำงานสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมามากมาย โดยที่มีทั้งทนายของทุกฝ่าย ทีมสตูดิโอ และสามี Ryan Reynolds มาเป็นสักขีพยานในการประชุม

 

เอกสารการฟ้องร้องเผยด้วยว่า หลังจากนั้น Justin Baldoni ได้ว่าจ้าง Melissa Nathan นักประชาสัมพันธ์ด้านวิกฤตจากบริษัท TAG PR ที่เคยทำงานให้กับ Johnny Depp ในช่วงการไต่สวนคดีกับอดีตภรรยา Amber Heard มาเพื่อสร้างกระแสข่าวให้สังคมเกิดความเกลียดชังต่อ Blake Lively และทำลายชื่อเสียงของเธออย่างเป็นกระบวนการ 

 

ล่าสุด Sony Pictures ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนสนับสนุน Blake Lively อย่างชัดเจน โดยสตูดิโอเผยว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Blake Lively ในแง่ของผลงานและภาพยนตร์ของเธอแล้ว ในวันนี้เราก็ขอตอกย้ำการสนับสนุนเธออย่างเต็มตัวและมั่นใจอีกครั้ง มากไปกว่านั้นเราขอประณามพฤติกรรมการโจมตีและบ่อนทำลายชื่อเสียง Blake Lively และการโจมตีใดๆ ในลักษณะนั้นจะต้องไม่มีที่ยืนในแวดวงของเราหรือสังคมที่เจริญแล้ว”

 

ไม่ใช่แค่เพียง Sony Pictures เท่านั้นที่ยืนหยัดเคียงข้าง Blake Lively แต่ SAG-AFTRA หรือสมาคมนักแสดงอเมริกัน ที่มีสมาชิกมากกว่า 1.6 แสนคน ก็ออกแถลงการณ์ถึงการฟ้องร้องของ Blake Lively ด้วยเช่นกัน โดยพวกเขาเผยว่า “ข้อกล่าวหาเหล่านี้น่าตกใจและน่าหนักใจเป็นอย่างมาก เหล่าลูกจ้างมีสิทธิ์ทุกประการในการแสดงถึงความกังวลใจของพวกเขาหรือร้องเรียน และการตอบโต้ แก้แค้น สำหรับการรายงานถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง

 

“เราขอชื่นชม Blake Lively สำหรับความกล้าหาญในการออกมาพูดถึงปัญหาเรื่องการตอบโต้ แก้แค้น และการคุกคาม รวมไปถึงการที่เธอเรียกร้องขอผู้ประสานงานในการดูแลเรื่องการถ่ายทำฉากเลิฟซีน (Intimacy Coordinator) สำหรับทุกฉากที่เธอต้องเปลือยกายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องทางเพศ นี่คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้กองถ่ายมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง”

 

ภาพ: Jamie McCarthy / Getty Images 

อ้างอิง:

 

 

The post Sony Pictures สนับสนุน Blake Lively หลังกล่าวหา Justin Baldoni เรื่องคุกคามทางเพศและทำลายชื่อเสียงของเธอ appeared first on THE STANDARD.

]]>
“ฉันเคยเจอมากับตัว” Amber Heard พูดถึงการฟ้องร้องของ Blake Lively ในข้อหาใส่ร้ายป้ายสี https://thestandard.co/amber-heard-blake-lively-complaint-baldoni/ Wed, 25 Dec 2024 07:09:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1023628

Amber Heard ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องการฟ้องร้องของ […]

The post “ฉันเคยเจอมากับตัว” Amber Heard พูดถึงการฟ้องร้องของ Blake Lively ในข้อหาใส่ร้ายป้ายสี appeared first on THE STANDARD.

]]>

Amber Heard ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องการฟ้องร้องของ Blake Lively ต่อ Justin Baldoni ในข้อหาคุกคามทางเพศและมีเจตนาทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังจากที่ทั้งสองร่วมงานกันใน It Ends with Us ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของความรุนแรงในครอบครัว โดย Baldoni ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำ

 

ในเอกสารการฟ้องร้องของ Lively เผยว่า ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา Baldoni ได้ว่าจ้าง Melissa Nathan ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ด้านวิกฤตมือฉมัง เพื่อให้มาช่วยบ่อนทำลายชื่อเสียงของเธอ เพียงเพราะว่าเธอร้องขอและตั้งเงื่อนไขให้กองถ่าย It Ends with Us เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่ง Nathan ก็คือพีอาร์คนเดียวกันกับที่เคยทำงานให้ Johnny Depp ในช่วงการไต่สวนคดีหมิ่นประมาทอันฉาวโฉ่กับ Heard อดีตภรรยา เมื่อปี 2022 โดยในตอนนั้น Nathan ทำงานภายใต้บริษัท Hiltzil Strategies แต่ปัจจุบันได้ออกมาตั้งบริษัทประชาสัมพันธ์ของตัวเองในนาม The Agency Group PR (TAG PR) ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

เมื่อข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยออกมา Heard ที่แพ้คดีต่อ Depp และปัจจุบันย้ายไปอาศัยอยู่ที่สเปน ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการฟ้องร้องของ Lively ผ่าน NBC News โดยเธอเผยว่า “โซเชียลมีเดียคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของคำพูดที่ว่า ‘คำโกหกแพร่กระจายไปครึ่งค่อนโลกก่อนที่ความจริงจะได้ปรากฏ’ ฉันเจอเรื่องนี้มากับตัวแบบจังๆ และพิษภัยของมันก็น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก”

 

ทางด้านทนายของ Baldoni รวมไปถึงตัวแทนคนอื่นๆ ของผู้กำกับและนักแสดงก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการที่ Baldoni ว่าจ้าง TAG PR ให้มารับมือกับวิกฤตในช่วงโปรโมตภาพยนตร์ It Ends with Us ว่า “TAG PR คงจะต้องเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ที่มีอิทธิพลที่สุดที่โลกเคยเห็นมา เพราะพวกเขาสามารถเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อทั้ง Heard และ Lively ได้สำเร็จโดยสิ้นเชิง

 

“สิ่งเดียวที่ทั้งสองมีร่วมกันก็คือการที่ผู้คนได้มองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขามานานหลายสิบปี เพราะทุกอย่างถูกบันทึกเอาไว้ให้คนดูได้ตัดสินเอาเองว่าใครเป็นคนแบบไหน แล้วคนดูก็ตัดสินกันไปแล้วโดยธรรมชาติ ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือลองไปดูการสัมภาษณ์ต่างๆ ของ Nathan ถ้ามันยังไม่โดนทีมพีอาร์ของเธอจัดการทำลายไปแล้วนะ (ซึ่งมันก็คือก้าวถัดไปของทีมพีอาร์อยู่แล้ว เพราะนั่นคือหน้าที่ของพีอาร์ฝ่ายจัดการความวิกฤต พวกเขาต้องปกป้องลูกค้าของตัวเองไง)”

 

ในช่วงการโปรโมต It Ends with Us เกิดข่าวลือเรื่องความบาดหมางระหว่าง Lively และ Baldoni ออกมามากมาย โดย Lively โดนกระแสโจมตีอย่างหนักจากวิถีการโปรโมตภาพยนตร์ที่ดูสนุกสดใสย้อนแย้งกับเรื่องราวในหนัง อีกทั้งเธอยังถูกวิจารณ์เรื่องการไม่เป็นกระบอกเสียงให้ประเด็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัวมากพอ ซึ่ง Lively ได้เผยว่า ที่จริงแล้วมันคือความตั้งใจของเธอที่ต้องการสะท้อนความเข้มแข็งและการกลับมายืนได้ใหม่ของตัวละคร Lily ในเรื่อง และทีมงานก็ทำข้อตกลงกันว่า พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงหนังเรื่องนี้ในลักษณะที่ทำให้รู้สึกเศร้าและหนักหน่วง เพราะมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความหวังมากกว่า

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post “ฉันเคยเจอมากับตัว” Amber Heard พูดถึงการฟ้องร้องของ Blake Lively ในข้อหาใส่ร้ายป้ายสี appeared first on THE STANDARD.

]]>
เพื่อนนักแสดงของ Blake Lively ออกมาสนับสนุนเธอ หลังฟ้องร้อง Justin Baldoni ข้อหาคุกคามทางเพศ https://thestandard.co/blake-lively-sisterhood-of-the-traveling-pants-stars-justin-baldoni/ Mon, 23 Dec 2024 12:04:36 +0000 https://thestandard.co/?p=1022716 Blake Lively

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดข่าวใหญ่ขึ้น เมื่อ Blake Lively ฟ […]

The post เพื่อนนักแสดงของ Blake Lively ออกมาสนับสนุนเธอ หลังฟ้องร้อง Justin Baldoni ข้อหาคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Blake Lively

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดข่าวใหญ่ขึ้น เมื่อ Blake Lively ฟ้องร้อง Justin Baldoni ในข้อหาคุกคามทางเพศและพยายามทำลายชื่อเสียงของเธอ หลังจากที่ทั้งสองร่วมงานกันในภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของความรุนแรงในครอบครัวอย่าง It Ends with Us และมีข่าวลือเรื่องความบาดหมางระหว่างเธอกับ Justin Baldoni ที่เป็นทั้งนักแสดงนำและผู้กำกับออกมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉาย

 

ล่าสุดเพื่อนนักแสดงของ Blake Lively จากภาพยนตร์แจ้งเกิดของเธออย่าง Sisterhood of the Traveling Pants ทั้ง America Ferrera, Amber Tamblyn และ Alexis Bledel ร่วมกันโพสต์ข้อความสนับสนุน Blake Lively ที่ยืนหยัดเพื่อตัวเองโดยการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นยาวนานแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเปิดตัวไปเกือบ 20 ปีแล้ว 

 

ข้อความนั้นเขียนว่า “ในฐานะที่เป็นเพื่อนและพี่น้องของ Blake Lively มามากกว่า 20 ปี เราขอยืนหยัดเคียงข้างเธอ ในขณะที่เธอสู้ต่อข่าวที่สร้างขึ้นเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอโดยเฉพาะ ตลอดช่วงการถ่ายทำ It Ends with Us เราเห็นเธอรวบรวมความกล้าในการร้องขอสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับทั้งเธอและเพื่อนร่วมงานในกองถ่าย แล้วเราก็ตกใจเมื่อเห็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความอาฆาตแค้นและการวางแผนล่วงหน้าเพื่อดิสเครดิตเธอโดยเฉพาะ”

 

หลังจากนั้นพวกเธอเขียนข้อความต่อว่า Justin Baldoni ว่าเป็นคนปากว่าตาขยิบ เพราะเขาใช้เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัวมาเป็นเครื่องมือในการปิดปากผู้หญิงที่ร้องขอความปลอดภัย และยังเผยถึงความตกใจที่ได้รับรู้ว่าแม้แต่ผู้หญิงที่เข้มแข็งและมีชื่อเสียงอย่าง Blake Lively ยังต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นที่รุนแรง แค่เพียงเพราะเธอเรียกร้องสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยมากขึ้น และพวกเธอก็ได้รับแรงบันดาลใจจากความกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเองและคนอื่นของ Blake Lively 

 

สำหรับเอกสารการฟ้องร้องของ Blake Lively เผยว่า สถานการณ์เบื้องหลังกองถ่าย It End with Us นั้นย่ำแย่จนต้องมีการประชุมใหญ่หลังจากที่เธอร้องเรียนถึงสภาพแวดล้อมการทำงานอันไม่เป็นมิตร โดยในการประชุมวาระนั้น Blake Lively ตั้งเงื่อนไขและข้อเรียกร้องมากมาย เช่น ห้ามเผยภาพและวิดีโอผู้หญิงเปลือยให้เธอดู, ห้ามพูดถึงประเด็นที่ Justin Baldoni เสพติดหนังผู้ใหญ่, ห้ามพูดถึงประสบการณ์เรื่องเพศสัมพันธ์ต่อหน้าเธอ ไปจนถึงการห้ามไม่ให้มีการพูดถึงอวัยวะเพศของนักแสดงและทีมงาน และห้ามตั้งคำถามต่อเรื่องน้ำหนักของเธอ 

 

นอกจากนั้นยังมีเงื่อนไขห้ามไม่ให้มีการเพิ่มฉากเลิฟซีน ออรัลเซ็กซ์ หรือฉากถึงจุดสุดยอดของ Blake Lively ที่นอกเหนือไปจากสคริปต์ที่เธอเซ็นสัญญาทำข้อตกลงเอาไว้แล้ว ซึ่ง Wayfarer Studios ก็อนุมัติข้อเรียกร้องของเธอทั้งหมด โดยเธอกล่าวหาว่า Justin Baldony ร่วมมือกับบริษัทประชาสัมพันธ์อย่างเป็นกระบวนการเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอโดยเฉพาะ ซึ่งเธอก็ยื่นหลักฐาน 22 หน้า รวมไปถึงข้อความที่ Justin Baldony ส่งถึงบริษัทพีอาร์ว่า “ผมอยากรู้สึกเหมือนว่าคุณ Lively ก็สามารถถูกฝังลงดินได้เหมือนกัน”

 

ภาพ: Andrew Toth / Getty Images

อ้างอิง: 

The post เพื่อนนักแสดงของ Blake Lively ออกมาสนับสนุนเธอ หลังฟ้องร้อง Justin Baldoni ข้อหาคุกคามทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
JAY-Z ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีกับ P.Diddy เมื่อปี 2000 https://thestandard.co/jay-z-denies-allegations-p-diddy/ Mon, 09 Dec 2024 04:25:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1017513

JAY-Z ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศและข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 […]

The post JAY-Z ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีกับ P.Diddy เมื่อปี 2000 appeared first on THE STANDARD.

]]>

JAY-Z ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศและข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีกับ P.Diddy ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของ MTV Video Music Awards เมื่อปี 2000 โดยการฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจากหญิงนิรนามคนหนึ่ง ก่อนจะถูกแก้ไขให้มีชื่อ JAY-Z รวมอยู่ในผู้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

ในคำฟ้องระบุว่า Shawn Carter (ชื่อจริงของ JAY-Z) และ Sean Combs (ชื่อจริงของ P.Diddy) วางยาและข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของ MTV Video Music Awards 2000 โดยมีคนดังหญิงอีกคนหนึ่งยืนดูในขณะที่ผู้ชายสองคนกำลังผลัดกันทำร้ายเด็ก

 

หลังจากมีการกล่าวหานี้เกิดขึ้น JAY-Z ก็ออกแถลงการณ์ผ่าน X ของ Roc Nation ว่า เขาได้รับอีเมลแบล็กเมลนี้จากทนายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Tony Buzbee ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง ทั้งยังเป็นการพยายามแบล็กเมล ซึ่งแน่นอนว่าคนก่อคดีนี้ควรถูกลงโทษ ส่วนเหยื่อก็ควรได้รับความยุติธรรม แต่เขาไม่ได้เป็นคนก่อความผิดก็จะต่อสู้คดีนี้อย่างเต็มที่ เพราะเขารู้ว่าคนแบบทนาย Tony Buzbee เป็นแค่คนที่พยายามมาหาประโยชน์ และจะไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับทนายเลยแม้แต่นิดเดียว 

 

ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์นี้ระบุว่า “ใครก็ตามที่ก่ออาชญากรรมดังกล่าวต่อผู้เยาว์ ควรถูกจับกุมและคุมขังไว้ คุณไม่เห็นด้วยหรือ? เหยื่อที่ได้รับผลกระทบนี้สมควรได้รับความยุติธรรม”

 

นอกจากนี้ JAY-Z ยังกล่าวว่า เขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลกับครอบครัว เพราะเด็กๆ ต้องมาเผชิญหน้ากับคำถามของสื่อและสาธารณชนในช่วงเวลานี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ยุติธรรมกับครอบครัวของเขาเลย เพราะข้อกล่าวหาเหล่านี้ทำลายจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์และครอบครัวของเขาด้วย

 

JAY-Z อธิบายเพิ่มเติมว่า “คุณคิดผิดอย่างแรงเลยที่คิดว่าพวกคนดังก็เหมือนกันหมด ผมไม่ได้มาจากโลกของคุณ ผมมาจากโลกที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามหลุดพ้นจากย่านบรูกลิน เราไม่เล่นเกมอะไรกันแบบนี้หรอกนะ เรามีกฎเกณฑ์ และเรามีเกียรติเป็นของตัวเอง เราปกป้องเด็กๆ ของเรา ในขณะที่คุณพยายามจะเอาเปรียบคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน มีแต่คนแบบพวกคุณที่เชื่อทฤษฎีสมคบคิดและฟิสิกส์มั่วๆ เท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำกล่าวหาที่คุณกล่าวหาผม”

 

ภาพ: Photo by Kevin Mazur / Getty Images for The Recording Academy

อ้างอิง:

The post JAY-Z ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีกับ P.Diddy เมื่อปี 2000 appeared first on THE STANDARD.

]]>
P. Diddy ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศเพิ่มอีกโดยชายและหญิง 6 คน https://thestandard.co/p-diddy-6-new-allegations/ Tue, 15 Oct 2024 10:00:03 +0000 https://thestandard.co/?p=996132

ระหว่างที่ถูกคุมขังเพื่อรอการไต่สวนคดีที่จะเกิดขึ้นในเด […]

The post P. Diddy ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศเพิ่มอีกโดยชายและหญิง 6 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ระหว่างที่ถูกคุมขังเพื่อรอการไต่สวนคดีที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2025 P. Diddy ก็ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศและข่มขืนเพิ่มมาอีก โดยฝั่งโจทก์มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงรวมกันจำนวน 6 คน

 

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา Tony Buzbee ทนายที่ก่อนหน้านี้เผยว่าเขาเป็นตัวแทนเหยื่อจำนวนกว่า 120 คน รวมไปถึงเด็กชายวัย 9 ขวบที่กล่าวหาว่าถูก P. Diddy คุกคามทางเพศ ข่มขืน ฯลฯ ได้ออกมาเป็นตัวแทนของผู้เสียหายที่ประกอบไปด้วยชาย 4 คน และหญิง 2 คน ในการฟ้องร้อง P. Diddy เพิ่มเติมอีก 6 คดี โดยผู้เสียหายทั้งหมดไม่ประสงค์ออกนาม และใช้ชื่อว่า Jane กับ John Does แทนชื่อจริง ซึ่งผู้เสียหายเหล่านี้กล่าวหาว่าพวกเขาถูก P. Diddy ล่วงละเมิดและทำร้ายทางเพศ, ถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศ หรือข่มขืน ในช่วงระหว่างปี 1995-2021

 

สื่อได้เปิดเผยรายละเอียดในเอกสารการฟ้องร้องบางส่วนออกมา โดยเหยื่อผู้หญิงคนหนึ่งเผยว่าในปี 2004 เมื่อครั้งที่เธออายุ 19 ปี P. Diddy ได้เชิญเธอกับเพื่อนหญิงอีกคนหนึ่งไปที่โรงแรมในแมนฮัตตัน และบังคับให้พวกเธอดื่มแอลกอฮอล์และใช้ยาเสพติด ก่อนที่จะข่มขืนพวกเธอโดยขู่เอาชีวิตด้วย

 

ส่วนเหตุการณ์ของเหยื่อผู้หญิงอีกคนเกิดขึ้นในปี 1995 โดยเธอกล่าวหาว่า P. Diddy ข่มขืนเธอในห้องน้ำที่งานปาร์ตี้ฉลองเปิดตัวเอ็มวีเพลง One More Chance ของ Biggie Smalls ที่นิวยอร์ก และเมื่อเหตุร้ายจบลง P. Diddy ก็ใส่เสื้อผ้าอย่างเฉยชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเขาก็ขู่เธอว่า “อย่าไปบอกเรื่องนี้กับใคร ไม่อย่างนั้นเธอได้หายตัวไปแน่” ทั้งนี้เธอเผยด้วยว่าปาร์ตี้ดังกล่าวเต็มไปด้วยเหล่าแขกคนดังระดับ A-List

 

นอกจากนั้นสื่อยังเปิดเผยเอกสารการฟ้องร้องของเหยื่อผู้ชายคนหนึ่งที่กล่าวหาว่าถูก P. Diddy ล่วงละเมิดทางเพศในปี 1998 ในขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น โดยเขาเผยว่าถูกชักชวนให้ไปที่ปาร์ตี้ White Parties งานหนึ่งที่แฮมป์ตัน และ P. Diddy ก็พาเขาไปในพื้นที่ส่วนตัว ก่อนที่จะบอกให้เขาถอดกางเกง และล่วงละเมิดทางเพศเขาในที่สุด ซึ่ง P. Diddy ใช้อำนาจที่มีในการเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อยอมให้เขาล่วงละเมิด โดยใช้คำพูดว่า “ไม่อยากเข้าวงการนี้หรือไง?” และเมื่อเสร็จกิจแล้ว P. Diddy ยังบอกกับเหยื่อด้วยว่า “เดี๋ยวจะมีคนติดต่อไปนะ”

 

ภาพ: Paras Griffin / Getty Images for Revolt

อ้างอิง:

The post P. Diddy ถูกฟ้องร้องข้อหาคุกคามทางเพศเพิ่มอีกโดยชายและหญิง 6 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>