กาญจนา ภัทรโชค – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 23 Nov 2023 11:45:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 โฆษก กต. เผย อิสราเอล-ฮามาสเตรียมหยุดยิงชั่วคราว พร้อมปล่อยตัวประกัน เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดมีคนไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ https://thestandard.co/kanchana-israel-hamas-to-cease-fire/ Thu, 23 Nov 2023 11:45:26 +0000 https://thestandard.co/?p=869082 อิสราเอล ฮามาส เตรียมหยุดยิงชั่วคราว

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างปร […]

The post โฆษก กต. เผย อิสราเอล-ฮามาสเตรียมหยุดยิงชั่วคราว พร้อมปล่อยตัวประกัน เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดมีคนไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อิสราเอล ฮามาส เตรียมหยุดยิงชั่วคราว

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่อิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเตรียมหยุดยิงชั่วคราว พร้อมกับดำเนินการทยอยปล่อยตัวประกันจำนวน 50 คนที่ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มฮามาส แลกกับการปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอลจำนวน 150 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันนี้

 

เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีตัวประกันคนไทยรวมอยู่ในกลุ่มตัวประกันที่กำลังจะได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้หรือไม่

 

กาญจนากล่าวถึงการประชุมทูตไทยประจำต่างประเทศในครั้งนี้ว่า ในวงประชุมไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของการปล่อยตัวประกันที่อยู่ในพื้นที่สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่ขณะนี้ได้มีการเจรจาเพื่อขอให้มีการหยุดยิงชั่วคราวระหว่างทั้งสองฝ่ายแล้ว ซึ่งมีรัฐบาลของกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐอเมริกาเป็นตัวกลางในการเจรจา เพื่อขอปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เมื่อราว 7 สัปดาห์ก่อน

 

เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานว่าจะมีการปล่อยตัวประกันผู้หญิงและเด็กรวมกันประมาณ 50 คน แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ในอัตรา 50:150 โดยคาดว่าการปล่อยตัวนั้นอาจจะเริ่มขึ้นในวันนี้ (23 พฤศจิกายน) หรือไม่ก็วันพรุ่งนี้ (24 พฤศจิกายน) ส่วนในจำนวนนี้จะมีตัวประกันที่เป็นชาวไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่นั้นยังไม่ได้รับรายงานถึงรายละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งตัวประกันของไทยที่เป็นผู้หญิงมีเพียงคนเดียว ขณะที่เหลือส่วนใหญ่ของตัวประกันชาวไทยเป็นผู้ชาย

 

ส่วนกรณีที่มีข่าวอยู่ในโซเชียลมีเดียว่าตัวประกันหญิงของไทยตั้งครรภ์นั้น จากการที่สถานทูตติดตามสอบถามจากครอบครัวของเธอเบื้องต้นได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อโซเชียลมีเดียรายงาน ขณะที่สถานทูตไทยที่อิสราเอลก็ยังคงติดตามสถานการณ์ของสงครามและการปล่อยตัวประกันอย่างใกล้ชิด

 

กาญจนายังระบุอีกว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายการเมืองของอิหร่านได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 22-23 พฤศจิกายน ในโอกาสนี้ก็จะได้พบปะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีการหยิบยกเอาสถานการณ์ในอิสราเอลและการขอปล่อยตัวประกันขึ้นมาพูดคุยหารือกัน

 

สำหรับกรณีที่อิสราเอลและฮามาสมีแนวโน้มจะแสวงหาแนวทางการหยุดยิงและปล่อยตัวประกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศเชื่อว่าน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับสถานการณ์โดยรวมในอิสราเอลและฉนวนกาซา และอาจนำไปสู่การหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนการปล่อยตัวประกันของกลุ่มฮามาสกับการปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอล

 

แฟ้มภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ

อ้างอิง: กระทรวงการต่างประเทศ

The post โฆษก กต. เผย อิสราเอล-ฮามาสเตรียมหยุดยิงชั่วคราว พร้อมปล่อยตัวประกัน เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดมีคนไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. เคาะจ่ายค่าตั๋วคืนให้คนไทยในอิสราเอลที่บินกลับเองตั้งแต่ 7 ต.ค. ตั้งเป้าอพยพวันละ 400 คน https://thestandard.co/pay-back-ticket-fees-for-thai-in-israel/ Fri, 13 Oct 2023 11:39:27 +0000 https://thestandard.co/?p=854362 กาญจนา ภัทรโชค

วันนี้ (13 ตุลาคม) กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และ […]

The post กต. เคาะจ่ายค่าตั๋วคืนให้คนไทยในอิสราเอลที่บินกลับเองตั้งแต่ 7 ต.ค. ตั้งเป้าอพยพวันละ 400 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กาญจนา ภัทรโชค

วันนี้ (13 ตุลาคม) กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำถึงการช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตะวันออกกลาง ให้ถือเป็นภารกิจของชาติ ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญสูงสุด 

 

ส่วนรายงานชาวไทยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังคงเท่ากับเมื่อวาน (12 ตุลาคม) โดยแบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 21 คน ผู้บาดเจ็บ 14 คน ผู้ที่คาดว่าถูกจับไป 16 คน และมีรายงานพบคนไทยที่หลบซ่อนอยู่เพิ่มเติมอีก 2 คน โดยภาพรวมผู้กรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ลี้ภัยกลับสู่ประเทศไทยของสถานทูต รวมกว่า 6,800 คน โดยมีการแจ้งความประสงค์กลับไทยเพิ่มเป็น 6,778 คน และไม่ประสงค์กลับอีก 85 คน 

 

โดยเบื้องต้นเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย แจ้งว่าได้อพยพชาวต่างชาติจากพื้นที่บริเวณเสี่ยงภัยใกล้ฉนวนกาซาออกสู่พื้นที่ปลอดภัยได้ร้อยละ 99 ของทั้งหมดแล้ว 

 

ส่วนสถานการณ์ภายในยังคงมีความรุนแรง สลับกับบางช่วงที่ระงับการโจมตีไป คาดการณ์ว่าเป็นช่วงที่กลุ่มฮามาสพยายามเตรียมการตั้งรับกรณีทางการอิสราเอลอาจบุกเข้าไปในพื้นที่ จากการที่ทางการอิสราเอลได้ตัดน้ำตัดไฟ และประกาศโยกย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภายใน 24 ชั่วโมง 

 

ทั้งนี้ อิสราเอลมีแผนการจัดตั้งพื้นที่อยู่อาศัยชั่วคราวสำหรับผู้อพยพบริเวณรอบนอกฉนวนกาซา ประกอบด้วย บ้าน อาคารชั่วคราว โรงเรียน ศูนย์สุขภาพต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างกำหนดพื้นที่ที่แน่นอน นอกจากนี้สถานทูตได้จัดศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อรอการเดินทางกลับประเทศไทยตามเที่ยวบินของผู้อพยพ ที่โรงแรม Dan Panorama Tel-Aviv Hotel (แดน พาโนรามา เทลอาวีฟ โฮเทล) เบื้องต้น 100 ห้อง พร้อมอาหาร ซึ่งสามารถจองเพิ่มได้หากมีความต้องการเพิ่มเติม 

 

นอกจากนี้ มีการประสานกับประเทศใกล้เคียงเพื่อจัดตั้งศูนย์พักพิงระหว่างรอเดินทางกลับประเทศไทย โดยได้ติดต่อกับประเทศจอร์แดนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือกรุงดูไบ โดยขอให้อนุโลมเรื่องเอกสารไว้ก่อน รวมถึงการเดินทางทางบกและช่องทางอื่นๆ ซึ่งอาจมีการปรับได้ตามสถานการณ์ ทั้งนี้ ยังมองว่าการเดินทางโดยเครื่องบินตรงกลับไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตั้งเป้าอพยพให้ได้วันละ 400 คนในทุกช่องทาง

 

สำหรับกรณีคนไทยที่เดินทางกลับมาเอง ที่ประชุมสถานการณ์ฉุกเฉินได้พูดคุยโดยเห็นชอบในหลักการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่เดินทางกลับไทยตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงประกาศสภาวะสงคราม โดยแรงงานไทยที่เดินทางกลับจะต้องยื่นหลักฐานประกอบด้วยบอร์ดดิ้งพาส ใบเสร็จหรือตั๋วเครื่องบิน และเอกสารหลักฐานแสดงตน หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน ยื่นผ่านสำนักงานแรงงานจังหวัดและกระทรวงแรงงาน 

 

โดยในหลักการรัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยให้ โดยขอให้แรงงานเก็บเอกสารหลักฐานไว้ก่อน รอฟังรายละเอียดที่ชัดเจนจากทางการอีกครั้ง ซึ่งแรงงานที่อยู่ต่างจังหวัด กระทรวงแรงงานจะจัดเก็บหลักฐานและยื่นเอกสารไว้ให้

The post กต. เคาะจ่ายค่าตั๋วคืนให้คนไทยในอิสราเอลที่บินกลับเองตั้งแต่ 7 ต.ค. ตั้งเป้าอพยพวันละ 400 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิสราเอลรวม 20 ราย ลงชื่อกลับไทย 5,019 ราย ไม่กลับ 61 ราย https://thestandard.co/20-thai-people-died-israel/ Wed, 11 Oct 2023 05:47:31 +0000 https://thestandard.co/?p=853402

วันนี้ (11 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโ […]

The post กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิสราเอลรวม 20 ราย ลงชื่อกลับไทย 5,019 ราย ไม่กลับ 61 ราย appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (11 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางของประเทศอิสราเอล โดยระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังมีการโจมตีด้วยจรวดบริเวณใกล้เคียงฉนวนกาซา ทำให้ขณะนี้ยังมีการสูญเสียจากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งพลเรือนและทหารของประเทศอิสราเอลและ ปาเลสไตน์ ซึ่งทางฝ่ายประเทศอิสราเอลพยายามจะเข้าครอบครองยึดคืนพื้นที่กาซาและเร่งซ่อมแซมรั้วชายแดน

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ตุลาคม) ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับแจ้งจากแรงงานไทยในพื้นที่ว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จรวดโจมตีอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตเป็น 20 ราย ซึ่งข้อมูลส่วนนี้เป็นข้อมูลจากแรงงานในพื้นที่ที่เห็นเหตุการณ์ แต่การยืนยันโดยทางการอิสราเอลยังต้องใช้เวลา ในส่วนของผู้บาดเจ็บเมื่อวานนี้ทางสถานทูตฯ ได้รับรายงานรวมเป็น 13 ราย

 

วานนี้ทางสถานทูตฯ ได้ไปเยี่ยมคนไทยที่ถูกยิงอาการสาหัสซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และได้ขอให้แพทย์ดูแลรักษาให้เต็มที่

 

กาญจนากล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมตัวไปเป็นตัวประกัน จากรายงานแรงงานไทยที่เห็นเหตุการณ์มีเพิ่มเติมอีก 3 ราย รวมเป็น 14 ราย ทั้งนี้ ฝ่ายกองทัพอิสราเอลและบริษัทจัดหางานเร่งอพยพพลเมืองออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงแรงงานไทยออกไปยังจุดที่ปลอดภัยได้หลายร้อยคนแล้ว โดยพาไปพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ปลอดภัย ทั้งที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ของประเทศอิสราเอล

 

ในส่วนการอพยพคนไทยรอบแรกที่เที่ยวบินจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (12 ตุลาคม) ผู้โดยสาร 15 ท่าน ถึงไทยในเวลา 10.35 น. จะมีผู้แทนต่างๆ เดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรอรับ

 

กาญจนาระบุว่า ขณะนี้ยอดประชาชนไทยที่แสดงความประสงค์จะกลับไทยเพิ่มขึ้นเป็น 5,019 ราย แสดงความประสงค์ไม่กลับ 61 ราย แต่ทั้งนี้มีชาวไทยในประเทศอิสราเอลประมาณ 30,000 ราย ฉะนั้นอาจจะมีหลายรายที่ยังไม่ได้ติดต่อลงทะเบียนหรือได้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่ประสงค์อพยพ

 

โดยกลุ่มที่ 2 ที่จะเดินทางกลับไทยจะออกเดินทางวันที่ 18 ตุลาคม ทางสถานทูตฯ ได้สำรองที่นั่งสายการบินพาณิชย์ไว้ 80 ที่นั่งแล้ว

 

สำหรับเครื่องบินของทหารอากาศที่จะทำการขออนุญาตบินข้ามน่านฟ้า มีข้อสงสัยว่าทำไมถึงดำเนินการช้า กาญจนาระบุว่า การจะบินผ่านน่านฟ้าต้องทำการขออนุญาตเป็นหลักปฏิบัติสากล รวมถึงในพื้นที่ก็ต้องมีการนัดหมายให้ชัดเจนกับผู้ที่จะเดินทาง ฉะนั้นทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนที่ดำเนินการ

 

เมื่อถามว่าขณะนี้ยืนยันได้หรือไม่ว่าตัวประกันที่ถูกจับตัวไปยังอยู่ในสถานะปลอดภัย กาญจนากล่าวว่าต้องรายงานว่ายืนยันได้ยาก เพราะขณะนี้อยู่ในสถานการณ์สงคราม โดยทางกลุ่มฮามาสได้แจ้งว่าจับกุมคนไปทุกชาติประมาณ 150 ราย มีการคาดการณ์ว่าน่าจะจับไปและกระจัดกระจายตามที่ต่างๆ เพราะฉะนั้นไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้

The post กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิสราเอลรวม 20 ราย ลงชื่อกลับไทย 5,019 ราย ไม่กลับ 61 ราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล 18 คน ปมแรงงานถูกขายต่อทางการมองเป็นเรื่องย้ายงาน ย้ำคนไทยทุกคนสามารถติดต่อขออพยพกลับได้หมด https://thestandard.co/18-thai-people-dead-in-israel/ Tue, 10 Oct 2023 05:46:48 +0000 https://thestandard.co/?p=852899 กาญจนา ภัทรโชค

วันนี้ (10 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กาญจนา […]

The post กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล 18 คน ปมแรงงานถูกขายต่อทางการมองเป็นเรื่องย้ายงาน ย้ำคนไทยทุกคนสามารถติดต่อขออพยพกลับได้หมด appeared first on THE STANDARD.

]]>
กาญจนา ภัทรโชค

วันนี้ (10 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รายงานถึงสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอลว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงมีความรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณฉนวนกาซาที่มีการปะทะกันทั้งสองฝ่าย 

 

ทางฝ่ายอิสราเอลมีความพยายามเข้าไปยึดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำมีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ไปสู่พื้นที่ปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขณะนี้มีการขยายพื้นที่โจมตี โดยขยายพื้นที่จากฉนวนกาซาไปเทลอาวีฟ และนครเยรูซาเล็มด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการโจมตีที่มีรัศมีกว้าง และเน้นการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอิสราเอล

 

ประเทศอิสราเอลเองก็มีการโจมตีเข้าไปในพื้นที่ปาเลสไตน์เช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศอิสราเอลมีการประกาศว่าสามารถกระชับพื้นที่ในเขตเมืองต่างๆ ได้สำเร็จ สามารถอพยพคนจากเมืองรอบฉนวนกาซาได้แล้ว 15 เมืองจาก 24 เมือง แต่ยังคงมีผู้ก่อการร้ายหลงเหลือในพื้นที่บ้าง แต่ทางการได้ระดมกองกำลังและกองหนุนมากกว่า 3 แสนคนเข้าไปปฏิบัติการ ถือว่าเป็นการระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์อิสราเอล

 

กาญจนากล่าวต่อว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวไทยได้รับรายงานจากนายจ้างอยู่ที่ 18 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บยังอยู่ที่ 9 คน และผู้ที่ถูกจับกุมไปมี 11 คน แต่จำนวนนี้ไม่ใช่ยอดยืนยันอย่างเป็นทางการจากประเทศอิสราเอล

 

อย่างไรก็ตาม ทางการอิสราเอลได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย จากบริเวณไม่เกิน 4 กิโลเมตรรอบฉนวนกาซา ได้จำนวนหลายร้อยคน โดยทางสถานทูตกรุงเทลอาวีฟได้ร่วมกันสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีความพยายามใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการค้นหาผู้ที่สูญหาย ตรวจสอบในพื้นที่ต่างๆ

 

ซึ่งที่รายงานไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม) หลายประเทศพยายามติดต่อพูดคุยกับประเทศปาเลสไตน์เพื่อขอให้ยุติความรุนแรงนี้ ด้าน ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีประเทศอิสราเอล ทางรัฐมนตรีอิสราเอลได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เช่นนี้ และให้คำมั่นที่จะดูแลคนไทยในอิสราเอลอย่างดีที่สุด และแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งที่ผ่านมาอิสราเอลได้ยืนยันที่จะดูแลคนทุกๆ ชาติอย่างดี

 

ทางประเทศไทยเองได้ขอให้อิสราเอลช่วยดูแลพี่น้องคนไทยให้ดีที่สุด ขอให้ทางการอิสราเอลตรวจสอบยืนยันผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการมาด้วย

 

ส่วนกรณีที่กลุ่มฮามาสมีการประกาศว่าหากประเทศอิสราเอลใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น จะทำร้ายผู้ที่จับกุมไป ในส่วนนี้มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มฮามาสไม่น่าจะทำร้ายในส่วนของคนต่างชาติ และคงไม่อยากจะขยายความขัดแย้งอีกหลายด้าน แต่ต้องรอดูเหตุการณ์ต่อไป

 

ในส่วนของการดำเนินการของภาครัฐ หลังจากนี้สถานทูตเทลอาวีฟจะส่งกลุ่มคนไทยกลุ่มที่ 1 เดินทางวันที่ 11 ตุลาคม ประกอบด้วยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกับผู้ที่อยู่ในสภาพที่รักษาแล้วสามารถเดินทางได้ และผู้ที่เป็นแรงงานที่เคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาในพื้นที่ปลอดภัย รวมเป็น 15 คน ด้วยเครื่องบินพาณิชย์ สายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY 083 รวมกันมาเที่ยวเดียว ในรอบแรกจะถึงประเทศไทยวันที่ 12 ตุลาคม ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีการไปรับและให้กำลังใจพี่น้องคนไทยที่นั่น 

 

และคาดว่าเที่ยวบินต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม จำนวน 80 ที่นั่ง โดยล่าสุดมีคนไทยแสดงความประสงค์จะขึ้นเครื่องบินอพยพจำนวน 3,226 คน

 

ด้าน พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กล่าวว่า ประเทศอิสราเอลมีการแบ่งพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในแถบใกล้กับฉนวนกาซา แบ่งเป็นโซนสีแดงและสีเหลือง ซึ่งการจะช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยและชาติอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าวจะสามารถเข้าช่วยได้ทีละโซน หลายครั้งเราจะได้ยินจากพี่น้องชาวไทยบางท่านว่ารอรับความช่วยเหลืออยู่ ทั้งนี้ ทางการเข้าใจและตระหนักดีถึงความเดือดร้อน ซึ่งทางสถานทูตได้ประสานกับอิสราเอลตลอดว่ายังมีคนไทยอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ขอให้ช่วยส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเหลือ

ซึ่งการดำเนินการของทางการอิสราเอลจะจัดกองกำลังไปโซนที่อันตรายที่สุดก่อน ไล่ลำดับไป จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงข้อจำกัดนี้

 

ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับภายในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ จะมีการวางแผนการเดินทางหลายแบบ ทั้งสถานทูตส่งรถไปรับ ให้นายจ้างไปส่ง เหมารถมาสนามบิน แต่เนื่องจากหลายคนไม่มีเอกสารเดินทางอยู่กับตัว ทางสถานทูตจึงจะต้องไปยืนยันที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินพาณิชย์ ทางสถานทูตยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางให้พี่น้องแรงงานทั้ง 15 คนขึ้นเครื่องให้ได้ ยกเว้นเหตุสุดวิสัยที่สนามบินปิด

 

ทั้งนี้ ในกลุ่ม 80 คนที่จะเดินทางกลับวันที่ 18 ตุลาคม ตอนนี้เจ้าหน้าที่ในสถานทูตกำลังติดต่อกลับกลุ่มนี้ เพื่อยืนยันข้อมูลในการจองตั๋วเครื่องบิน และยืนยันสถานะล่าสุดว่าอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ การเดินทางไม่ได้ทำงานได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบพื้นที่ใกล้กับฉนวนกาซา เราไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไป แต่เราพยายามจะทำเท่าที่ทำได้

 

ในส่วนที่มีข้อมูลว่ามีจำนวนคนหลายร้อยคนถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป พรรณนภากล่าวว่า ส่วนนี้ต้องเรียนว่ามีคนทุกชาติ ไม่ใช่เฉพาะชาติไทยเท่านั้น

 

ในสถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ทางสถานทูตจะดูแลทุกท่าน จะดูแลแรงงานไทยทุกคนที่เดินทางมาอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย หากท่านประสงค์ว่าจะลงทะเบียนกลับประเทศ ทางสถานทูตไทยก็จะส่งกลับทั้งหมด

 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีแรงงานไทยถูกขายต่อให้กับนายจ้างอื่นๆ พรรณนภากล่าวว่า ได้ติดต่อกับทางการอิสราเอล ได้รับข้อมูลว่าพี่น้องที่ถูกนำออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยถูกนำไปฝากไว้ในพื้นที่ปลอดภัย และถือว่าเป็นการย้ายงาน นายจ้างในพื้นที่ปลอดภัยก็จะรับคนงานเหล่านี้ไปทำงาน 

 

เข้าใจว่าหลายคนมองว่าเพิ่งออกจากสงครามทำไมต้องทำงานเลย ทางสถานทูตเองก็แสดงความกังวลว่าขอให้มีช่วงพักก่อน แต่ส่วนนี้ทางการอิสราเอลถือว่าแรงงานได้ย้ายงาน เพื่อให้พี่น้องคนไทยสามารถมีรายได้ในการดำรงชีพในประเทศอิสราเอลต่อ

 

นอกจากนี้ สำหรับแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับสามารถติดต่อสถานทูตได้ทาง Google Form และสายด่วน ซึ่งสถานทูตจะมีการขยายสายด่วนเพิ่มเพื่อรองรับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา แต่เนื่องจากมีผู้โทรเข้ามาจำนวนมาก ท่านสามารถที่จะฝากข้อความช่องทางติดต่อไว้ได้ และทางสถานทูตจะประสานกลับภายหลัง

 

อย่างไรก็ตาม ทางสถานทูตต้องขอทำความเข้าใจว่า เราจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยมากที่สุดก่อน ไล่ลำดับไป เช่นเดียวกันกับการอพยพกลับประเทศที่สถานทูตจะต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยมากที่สุดก่อน

The post กต. รายงานยอดคนไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล 18 คน ปมแรงงานถูกขายต่อทางการมองเป็นเรื่องย้ายงาน ย้ำคนไทยทุกคนสามารถติดต่อขออพยพกลับได้หมด appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. แจงอิสราเอล ยืนยันสถานการณ์ยังปลอดภัย ไม่ถึงขั้นอพยพ แต่หากประเทศใดต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวก https://thestandard.co/ministry-of-foreign-affairs-explains-israel-situation/ Mon, 09 Oct 2023 05:33:43 +0000 https://thestandard.co/?p=852341 อิสราเอล

วันนี้ (9 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโช […]

The post กต. แจงอิสราเอล ยืนยันสถานการณ์ยังปลอดภัย ไม่ถึงขั้นอพยพ แต่หากประเทศใดต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวก appeared first on THE STANDARD.

]]>
อิสราเอล

วันนี้ (9 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ของประเทศอิสราเอล ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการสั่งการจากคณะนายกรัฐมนตรี ให้จัดแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และความคืบหน้าวันละ 2 ครั้ง 2 เวลา รอบเช้า 11.00 น. และ 17.00 น. เพราะเวลาที่ประเทศไทยกับประเทศอิสราเอลห่างกันที่ 4 ชั่วโมง

 

ในประเด็นแรก พัฒนาการของสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล ณ ขณะนี้ ยังมีความรุนแรง มีการโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซา ทางฝ่ายรัฐบาลของประเทศอิสราเอลพยายามกระชับพื้นที่ เรียกคืนพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ถูกจับกุมและตัวประกัน ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าพลเรือนทั้งสองฝั่งคือฝั่งอิสราเอลและปาเลสไตน์มีผู้ได้รับผลกระทบบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ มีการยืนยันแล้วว่ามีผู้ถูกจับตัวไปประมาณ 100 คน ในที่นี้มีทั้งคนอิสราเอล, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ยูเครน, จอร์เจีย และไทย

 

กาญจนากล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ออกประกาศให้อิสราเอลอยู่ในภาวะสงครามสถานการณ์พิเศษ กองทัพมีอำนาจในการสั่งการด้านความปลอดภัย และปิดสถานที่ต่างๆ ของพลเรือนตามความเหมาะสม กองทัพอิสราเอลประกาศจะอพยพทุกคนที่อยู่ใกล้พรมแดนฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงพี่น้องคนไทยด้วย ซึ่งเป็นประกาศตั้งแต่เมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม) จะพยายามอพยพภายใน 24 ชั่วโมง และจะตรวจสอบให้แน่ใจ เนื่องจากสถานการณ์มีการพัฒนาไปอย่างมาก ทางการต้องแน่ใจว่าไม่มีผู้ก่อการร้ายในบริเวณต่างๆ ที่อพยพคน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของพลเรือน

 

ฝ่ายรัฐบาลของอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับคณะทูตผ่านทางออนไลน์อยู่ตลอดเวลา เพื่อรายงานความคืบหน้าทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อลดความกังวลของสถานทูตที่อยู่ในอิสราเอล ขณะนี้ทางท่าอากาศยานยังทำการตามปกติ มีเที่ยวบินเข้า-ออกประมาณร้อยละ 50 

 

ฝ่ายอิสราเอลยืนยันว่า อิสราเอลยังคงปลอดภัย ไม่ได้แนะนำให้มีการอพยพ แต่หากประเทศไหนประสงค์จะอพยพสามารถดำเนินการได้ โดยสามารถใช้เครื่องบินพาณิชย์ในการอพยพซึ่งจะมีความสะดวกและรวดเร็ว หากเป็นเครื่องบินของประเทศอื่นสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานได้

 

กาญจนากล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ถึงข้อมูลของชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติที่เสียชีวิตหรือถูกจับกุมเป็นตัวประกัน ซึ่งเรื่องนี้ขอให้หลายฝ่ายทำความเข้าใจเนื่องจากอยู่ในสภาวะการสู้รบ

 

ส่วนความคืบหน้าของคนไทยในพื้นที่ ที่สถานทูตได้รับแจ้งจากแรงงานและนายจ้างในพื้นที่เกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุม สถานะผู้บาดเจ็บ 8 คน ได้รับการดูแลในโรงพยาบาลเรียบร้อย ในรายที่ไม่ได้รับการดูแลที่โรงพยาบาลมีการบาดเจ็บเล็กน้อยการจับกุมตัวประกัน ตัวเลขที่มีอยู่คือ 11 คน ในแง่ผู้เสียชีวิต สถานทูตแจ้งมาว่าเป็นข้อมูลที่รับแจ้งจากนายจ้าง จำนวนขณะนี้ที่มีคือ 12 คน ในส่วนของรายชื่อ กระทรวงฯ ต้องการแจ้งให้ครอบครัวรับทราบก่อน แต่ทั้งนี้ข้อมูลส่วนนี้ทางการอิสราเอลก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน

 

ความพยายามในการอพยพคนไทยในอิสราเอล ได้อพยพคนไทยจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางการอิสราเอลได้ประสานให้สถานทูตช่วยแปลข้อมูลข่าวสาร และกระจายไปถึงพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ต่างๆ

 

สำหรับประเด็นการเดินทางกลับประเทศไทยของแรงงานไทย กาญจนากล่าวว่า มีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวานนี้ มีการคุยเตรียมการในการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศดำเนินภารกิจอพยพ ขั้นนี้ประเทศไทยได้เตรียมการไว้ก่อน ถ้าพร้อมที่จะเดินทางก็จะดำเนินการโดยคล่องแคล่วรวดเร็ว

 

ทั้งนี้ หากจะมีการอพยพเราจะต้องรู้วันและเส้นทาง เพื่อจะทำการขออนุญาตทำการบินเข้าน่านฟ้า ในส่วนของหนังสือเดินทางก็จะเป็นหนังสือเดินทางของราชการ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเพื่อให้การเดินทางรวดเร็ว

 

แต่อย่างไรก็ตามประเทศอิสราเอลยังคงยืนยันว่ายังไม่ต้องมีการอพยพ แต่หากประเทศไทยยืนยันว่าจะอพยพก็พร้อมจะอำนวยความสะดวก ซึ่งวันนี้สถานทูตได้ทำหนังสือเวียนเพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้ระบุความประสงค์ว่าพร้อมที่จะกลับประเทศไทยหรือไม่ หรือจะอยู่ต่อที่ประเทศอิสราเอล เพราะบางคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบภัย เรื่องนี้ก็อยู่ในส่วนของความสมัครใจ

 

ซึ่งสถานะการกรอกแบบฟอร์มเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมเวลา 21.00 น. มีผู้แสดงความประสงค์ขอกลับไทย 1,099 คน แจ้งว่ายังไม่ขอกลับประเทศไทยอีก 22 คน แต่ทั้งนี้ ข้อมูลพื้นฐานพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานที่อิสราเอลมีประมาณ 30,000 คน คนไทยที่อยู่บริเวณฉนวนกาซา 5,000 คน

 

จากการวิเคราะห์ของนักวิชาการให้ความเห็นว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จะยืดเยื้อ หากประเทศไทยเตรียมการไว้ก่อนก็จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถานทูตยืนยันว่าได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐและทุกฝ่ายรวมทั้งท้องถิ่น เพื่อที่จะหาหนทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ และหลังจากนี้จะมีการประชุมของศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องทุกวัน

The post กต. แจงอิสราเอล ยืนยันสถานการณ์ยังปลอดภัย ไม่ถึงขั้นอพยพ แต่หากประเทศใดต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวก appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษก กต. ยืนยัน คนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 12 คน บาดเจ็บ 8 คน ถูกลักพาตัว 11 คน ต้องการกลับประเทศ 1,099 คน https://thestandard.co/12-thai-people-in-israel-have-died/ Mon, 09 Oct 2023 05:33:32 +0000 https://thestandard.co/?p=852340 กาญจนา ภัทรโชค

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างปร […]

The post โฆษก กต. ยืนยัน คนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 12 คน บาดเจ็บ 8 คน ถูกลักพาตัว 11 คน ต้องการกลับประเทศ 1,099 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กาญจนา ภัทรโชค

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์วันนี้  (9 ตุลาคม) โดยระบุว่า พัฒนาการของสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ยังคงมีความรุนแรง กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายังคงโจมตีเข้ามายังเขตพื้นที่ของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กองทัพอิสราเอลเองพยายามกระชับพื้นที่ เพื่อให้ได้พื้นที่คืนมา 

 

ทางการอิสราเอลพยายามช่วยเหลือตัวประกันและผู้ถูกจับกุม ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีมากกว่า 100 คน โดยเป็นพลเมืองสัญชาติต่างๆ เช่น อิสราเอล, ฝรั่งเศส, จอร์เจีย รวมถึงไทย ล่าสุด กองทัพอิสราเอลได้สั่งอพยพพลเมืองทุกคนที่อยู่ใกล้ฉนวนกาซา รวมถึงพี่น้องคนไทยแล้ว ซึ่งจะพยายามอพยพให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง เน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

 

นอกจากนี้ทางการอิสราเอลยังได้บรีฟคณะทูตผ่านทางออนไลน์ โดยให้ชี้แจงข้อมูลและภาพรวมของสถานการณ์ เพื่อลดความกังวลของสาธารณชน พร้อมระบุว่า สนามบินยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีเที่ยวบินให้บริการราวร้อยละ 50 ขณะที่สถานศึกษาและร้านค้าส่วนใหญ่ปิดให้บริการทั่วประเทศ จะมีบางพื้นที่แถบตอนกลางของประเทศที่ยังพอเปิดให้บริการได้อยู่บ้าง แต่หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก็จำเป็นต้องลงไปหลบยังหลุมหลบภัย

 

ขณะที่สถานการณ์ของพี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอล ล่าสุด ทางการไทยได้รับแจ้งจากนายจ้าง มีคนไทยเสียชีวิตแล้ว 12 คน ได้รับบาดเจ็บ 8 คน และยังถูกจับกุมตัวไว้อีก 11 คน ซึ่งในส่วนนี้ทางการไทยยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เพราะอยากให้ทางญาติรับทราบก่อน อีกทั้งรายชื่อดังกล่าวก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอล แต่ทางการไทยจะติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด

 

ทางการอิสราเอลระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นจนถึงขั้นต้องอพยพใหญ่ แต่ถ้าพี่น้องแรงงานไทยขวัญเสียหรือต้องการกลับบ้านก็ยินดีประสานงานช่วยเหลือ โดยทางสถานทูตไทยพยายามติดต่อและให้กรอกแบบฟอร์มแสดงความจำนง โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีพี่น้องคนไทยขอกลับไทยจำนวน 1,099 คน และมีคนที่ยังขอไม่เดินทางกลับไทยจำนวน 22 คน โดยมีแรงงานไทยอาศัยอยู่ในอิสราเอลทั้งหมดราว 30,000 คน และอาศัยอยู่บริเวณใกล้กับฉนวนกาซาราว 5,000 คน

 

นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญประเมินสถานการณ์เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้อาจยืดเยื้อ โดยหน่วยงานไทยได้ประสานงานกับทางการอิสราเอลอย่างใกล้ชิด และได้มีการเตรียมการแผนอพยพ โดยการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศ หากสถานการณ์พร้อมที่จะไปลำเลียง ก็จะดำเนินได้อย่างรวดเร็ว โดยเบื้องต้นต้องรู้วันและเส้นทางการบิน เพราะต้องขออนุญาตข้ามน่านฟ้าประเทศต่างๆ โดยทางการไทยให้คำมั่นว่า ทุกฝ่ายจะให้ความช่วยเหลือพี่น้องแรงงานชาวไทยในอิสราเอลอย่างเต็มที่ 

 

ภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ

อ้างอิง:

  • กระทรวงการต่างประเทศ

The post โฆษก กต. ยืนยัน คนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 12 คน บาดเจ็บ 8 คน ถูกลักพาตัว 11 คน ต้องการกลับประเทศ 1,099 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. เผยความคืบหน้าประชุมสถานการณ์ในอิสราเอล ยืนยันคนไทยเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน เร่งช่วย 11 คนถูกจับ https://thestandard.co/mfa-thai-workers-israel-situation/ Sun, 08 Oct 2023 09:51:30 +0000 https://thestandard.co/?p=852063

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างปร […]

The post กต. เผยความคืบหน้าประชุมสถานการณ์ในอิสราเอล ยืนยันคนไทยเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน เร่งช่วย 11 คนถูกจับ appeared first on THE STANDARD.

]]>

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ตุลาคม) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมกรมการกงสุล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับความคืบหน้าสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.), กองทัพอากาศ (ทอ.), กระทรวงแรงงาน (รง.), กระทรวงสาธารณสุข (สธ.), กระทรวงคมนาคม (คค.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)) และ พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ร่วมประชุมออนไลน์เพื่อสรุปสถานการณ์ในพื้นที่

 

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยว่าสถานการณ์บริเวณฉนวนกาซายังรุนแรง และทางการอิสราเอลไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าพื้นที่ และไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากเคหสถานโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ อินเทอร์เน็ตในพื้นที่ฉนวนกาซายังใช้ไม่ได้ จึงสามารถติดต่อแรงงานได้ผ่านเบอร์โทรศัพท์

 

ทั้งนี้ คนไทยนอกพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบและปลอดภัยดี โดยขณะนี้มีรายงานเบื้องต้นว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 8 คน มีผู้เสียชีวิต 2 คน (ที่ได้รับการยืนยันจากทางการ 1 คน) และได้รับแจ้งจากนายจ้างว่าเสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง แต่สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอยืนยันข้อมูลเพิ่มเติม และถูกจับกุมไป 11 คน ซึ่งสถานทูตอยู่ระหว่างประสานทางการอิสราเอลเพื่อยืนยันข้อมูลและให้การช่วยเหลือ

 

ที่ประชุมยังได้ซักซ้อมหารือแผนการอพยพและแผนการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีประเทศใดทำการอพยพ แต่ทางการไทยจะเตรียมการไว้เมื่อสถานการณ์จำเป็น เพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยเร็วเมื่อถึงเวลา รวมทั้งต้องเป็นไปตามความประสงค์ของพี่น้องแรงงานไทยด้วยว่าจะเดินทางกลับหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐบาลจะติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิดและดูแลคนไทยในพื้นที่ รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดต่อครอบครัวและญาติทางไทยด้วยแล้ว

 

นอกจากนี้กรมการกงสุลยังได้ติดต่อ วนิดา อ่างแก้ว ภรรยาของหนึ่งในคนไทยที่ถูกจับกุม เพื่อสอบถามและให้กำลังใจ รวมทั้งกระทรวงแรงงานก็ได้ดำเนินการติดต่อญาติแรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วย

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศยังได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสานสำนักงานปาเลสไตน์ที่มาเลเซีย เพื่อแสดงความห่วงกังวลกับสถานการณ์และให้ประสานในการปล่อยตัวคนไทย ทั้งนี้ จะมีการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์รายวันต่อไป

 

ภาพ: Momen Faiz / NurPhoto via Getty Images

The post กต. เผยความคืบหน้าประชุมสถานการณ์ในอิสราเอล ยืนยันคนไทยเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน เร่งช่วย 11 คนถูกจับ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูต ณ เทลอาวีฟ ระบุ อาจมีแรงงานไทยถูกจับตามที่เป็นข่าว แต่ทางการอิสราเอลยังไม่ยืนยันข้อมูล https://thestandard.co/tel-aviv-yafo-embassy-thai-arrest/ Sun, 08 Oct 2023 03:07:07 +0000 https://thestandard.co/?p=851905 สถานทูต ณ เทลอาวีฟ

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างปร […]

The post สถานทูต ณ เทลอาวีฟ ระบุ อาจมีแรงงานไทยถูกจับตามที่เป็นข่าว แต่ทางการอิสราเอลยังไม่ยืนยันข้อมูล appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูต ณ เทลอาวีฟ

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศบางสำนักนำเสนอข่าวแรงงานไทยถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีในอิสราเอลนั้น

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งว่า จากการประสานแรงงานไทยในพื้นที่อาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ และจะเร่งตรวจสอบให้ต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่ และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กองทัพอากาศ (ทอ.) เตรียมพร้อมเครื่องบินเพื่อภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอลหากสถานการณ์จำเป็น โดยพรุ่งนี้ ( 8 ตุลาคม) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

 

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และกระทรวงการต่างประเทศได้เปิดหมายเลขฉุกเฉินเพิ่มเติมคือ สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลข +9725 4636 8150 สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล สามารถติดต่อ Call Center กรมการกงสุล ที่หมายเลข 0 2572 8442 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หมายเลขฉุกเฉินกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศที่หมายเลข 06 4019 8530, 06 4019 8907 และ 09 9616 4786 (เปิดให้บริการวันที่ 8 ตุลาคม 2566) หรือที่หมายเลข 0 2575 1047-51 และ 0 2575 1053 (ในวันเวลาราชการ)

The post สถานทูต ณ เทลอาวีฟ ระบุ อาจมีแรงงานไทยถูกจับตามที่เป็นข่าว แต่ทางการอิสราเอลยังไม่ยืนยันข้อมูล appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. แจง ดอนเยือนเมียนมาพบซูจีเป็นการส่วนตัว ชี้ซูจีหนุนเจรจา-ห่วงขัดแย้งรุนแรง https://thestandard.co/don-visits-myanmar/ Wed, 12 Jul 2023 09:17:25 +0000 https://thestandard.co/?p=815969 ดอน ปรมัตถ์วินัย

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างป […]

The post กต. แจง ดอนเยือนเมียนมาพบซูจีเป็นการส่วนตัว ชี้ซูจีหนุนเจรจา-ห่วงขัดแย้งรุนแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ดอน ปรมัตถ์วินัย

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ของ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าได้มีการเข้าพบ ออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา เป็นการส่วนตัวเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยได้รับความเห็นชอบจากซูจีและสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ซึ่งการหารือเป็นไปด้วยดี ขณะที่ซูจีมีสุขภาพแข็งแรงดีทั้งกายและใจ

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แจ้งผลการพบปะหารือกับซูจี ในที่ประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 56 ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย โดยแจ้งด้วยว่า ซูจีสนับสนุนการเจรจาหารือ พร้อมแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น และผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจเมียนมา 

 

ขณะที่ดอนแสดงความเห็นว่า จำเป็นต้องแยกความขัดแย้งทางการเมืองและความขัดแย้งทางอาวุธออกจากกัน เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และอาเซียนสามารถมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อหาทางออกทางการเมืองและนำสันติภาพคืนสู่เมียนมา

 

อ้างอิง: กระทรวงการต่างประเทศ

 

The post กต. แจง ดอนเยือนเมียนมาพบซูจีเป็นการส่วนตัว ชี้ซูจีหนุนเจรจา-ห่วงขัดแย้งรุนแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>
กต. ประสานช่วยอพยพคนไทย 212 คนจากซูดาน กองทัพอากาศเตรียมส่งเครื่องบินรับคืนนี้ https://thestandard.co/212-thais-evacuated-from-sudan/ Tue, 25 Apr 2023 05:34:10 +0000 https://thestandard.co/?p=780999 อพยพ คนไทย จากซูดาน

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างป […]

The post กต. ประสานช่วยอพยพคนไทย 212 คนจากซูดาน กองทัพอากาศเตรียมส่งเครื่องบินรับคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อพยพ คนไทย จากซูดาน

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในซูดาน โดยช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (25 เมษายน) กระทรวงได้รับรายงานจาก พุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ว่าคณะคนไทย 212 คน และคู่สมรสต่างชาติ 3 คนที่เดินทางโดยรถบัสจากกรุงคาร์ทูมวานนี้ ได้เดินทางถึงท่าเรือของเมืองพอร์ตซูดาน (Port Sudan) อย่างปลอดภัย 

 

คณะผู้เดินทางทั้งหมดจะเดินทางออกจากซูดานโดยเรือของทางการซาอุดีอาระเบีย เพื่อไปยังเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ จะอำนวยความสะดวกและดูแลต่อไป และภายหลังจากนั้นเครื่องบินของกองทัพอากาศพร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการเดินทางออกจากประเทศไทยคืนนี้ ไปสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก ณ เมืองเจดดาห์ และนำคนไทยกลับประเทศไทย

 

นอกจากนี้กระทรวงได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่ามีคนไทยอีก 5 คนที่แสดงความประสงค์จะอพยพออกจากซูดาน โดยพำนักอยู่นอกกรุงคาร์ทูม โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร อยู่ระหว่างประสานงานและจะเร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดต่อไป

 

สำหรับสถานการณ์ในซูดานนั้น ล่าสุดกองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่นานาประเทศทั่วโลกได้ส่งเครื่องบิน เรือ และขบวนรถยนต์ มารับพลเมืองของตนออกจากซูดาน ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งนับตั้งแต่ที่เหตุความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายนจนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 427 ราย ขณะที่โรงพยาบาลและบริการสาธารณะอื่นๆ ในซูดานได้รับความเสียหายหนัก 

 

อ้างอิง:

  • กระทรวงการต่างประเทศ

The post กต. ประสานช่วยอพยพคนไทย 212 คนจากซูดาน กองทัพอากาศเตรียมส่งเครื่องบินรับคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>