กองทุนลดหย่อนภาษี – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 13 Jun 2025 07:22:07 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ซื้อกองทุน Thai ESGX แบบไหนถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีได้แบบเต็มที่ พร้อมรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นไทยในระยะยาว https://thestandard.co/thai-esgx-fund-tax-deduction-guide/ Fri, 13 Jun 2025 07:22:07 +0000 https://thestandard.co/?p=1084708 Thai ESGX

การบริหารลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่มีรายได้ […]

The post ซื้อกองทุน Thai ESGX แบบไหนถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีได้แบบเต็มที่ พร้อมรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นไทยในระยะยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Thai ESGX

การบริหารลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่มีรายได้ ล่าสุดรัฐบาลอนุมัติให้กองทุน Thai ESGX สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม ซึ่งปีนี้สามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุดรวม 6 แสนบาท และยังได้รับสิทธิลดหย่อนอีกในปีต่อๆ ไปเพิ่มเติมอีก

 

รุ่งโรจน์ เสกสรรค์วิริยะ ผู้อำนวยการ Investment Product Selection ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Mornin Wealth ระบุว่า ปัจจุบันมีเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ากับลงทุนในกองทุน Thai ESGX นับตั้งแต่เปิดขายหน่วยลงทุนถึง ณ วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 11,300 ล้านบาท

 

สำหรับกองทุน Thai ESGX เป็นกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ มีนโยบายลงทุนเน้นในหุ้นของกลุ่มบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ได้รับการรับรองรับว่ามี ESG รวมทั้งลงทุนในตราสารหนี้บางส่วนได้ด้วย

 

กองทุน Thai ESGX มี 2 วงเงินลดหย่อนภาษีที่ต้องรู้

 

โดยมีการออกแยกประเภทเป็น 2 ประเภท คือ

 

วงเงินที่หนึ่ง ผู้ลงทุนในกองทุน Thai ESGX ที่จะได้รับวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจากเดิมเป็นวงเงินใหม่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ดังนี้

 

– เปิดให้ลงทุนได้ในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 30 มิถุนายน 2568

 

– กำหนดระยะเวลาการถือครองเท่ากับไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงทุน

 

วงเงินที่สองคือ จะให้เป็นวงเงินลดหย่อนภาษีสำหรับเงินที่ลงทุนในกอง LTF เดิมที่ครบอายุ 10 ปี โดยหากมีการโยกย้ายเงินลงทุนจากกองทุน LTF เดิมมาอยู่ที่ กองทุน Thai ESGX ใหม่ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์รถหย่อนภาษี เป็นระยะเวลา 5 ปี ดังนี้

 

– ปีที่ 1 หรือปี 2568 จะได้รับสิทธิประโยชน์รถหย่อนภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี

 

– ปีที่ 2 ถึงปีที่ 5 ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีในจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละปีภาษีสูงสุดที่ 50,000 บาทต่อปี

 

– เปิดให้สับเปลี่ยนหน่วยกองทุน LTF ไปกองทุน Thai ESGX ภายในวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 30 มิถุนายน 2568

 

โดยเงื่อนไขของกองทุน Thai ESGX ในการนำมาใช้ลดหย่อนภาษีในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่ให้วงเงินลดหย่อนมากที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมา

 

รู้จักกองทุน Thai ESGX ที่น่าสนใจของ บลจ.ไทยพาณิชย์ 

 

สำหรับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ ปัจจุบันมีการออกกองทุน Thai ESGX จำนวน 4 รูปแบบกองทุน ดังนี้

 

รูปแบบที่หนึ่งคือ รูปแบบ T70x คือกองทุน SCB Mixed 70 Thailand ESG Extra Fund  ซึ่งมีรูปแบบเป็นกองทุนผสมลงทุนในหุ้น ไม่เกิน 70% แบบเชิงรุกส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้อีก 30% 

 

รูปแบบที่สอง TAPx คือ กองทุน SCB Active Equity  Plus Thailand ESG Extra Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายเชิงรุกโดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 80% ผสมกับ หุ้นต่างประเทศไม่เกินสัดส่วนอีก 20%

 

รูปแบบที่สาม TAx SCB Active Equity Thailand ESG Extra Fund เป็นกองทุนที่บริหารในเชิงรุกเน้นลงทุนในหุ้นไทยของบริษัทที่มีการดำเนินการด้าน ESG ไม่ต่ำกว่า 80%

 

รูปแบบที่สี่ TS100x คือ กองทุน SCB SET100FF Index Thailand ESG Extra Fund เป็นกองทุนที่บริหารเชิงรุกด้วยกลยุทธ์แบบ Optimization เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET100FF

 

รุ่งโรจน์ ยังแนะนำถึงหลักในการคิดพิจารณาในการพิจารณาลงทุนในกองทุน กองทุน Thai ESGX ไว้ดังนี้

 

สำหรับกรณีที่นักลงทุนไม่ได้ถือกองทุน LTF ต่อไปแล้ว สามารถพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุน Thai ESGX โดยใช้สิทธิวงเงินที่หนึ่งตามที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยลงทุนในกองทุน Thai ESGX ใหม่ได้เท่านั้น โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2568 

 

ส่วนกรณีนักลงทุนที่ยังถือกองทุน LTF เดิมอยู่ มีหลักในการคิดพิจารณาลงทุนในกองทุน Thai ESGX ดังนี้

 

หนึ่ง ลงทุนเพิ่มใน กองทุน Thai ESGX ด้วยเงินลงทุนใหม่เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในวงเงินที่หนึ่งตามที่กล่าวไว้ในช่วงต้น

 

สอง สับเปลี่ยนไปยัง กองทุน Thai ESGX ทั้งหมดเพื่อรับสิทธิรถหย่อนภาษีในวงเงินที่สองได้เต็มที่

 

สาม ถือต่อในกองทุน LTF เดิมซึ่งจะเปลี่ยนเป็นกองทุนผสมทั่วไปหลังจากช่วงสับเปลี่ยนโดยไม่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีอีกต่อไป

 

สี่ ขายคืนกองทุน LTF แล้วนำเงินไปลงทุนใหม่ โดยใช้สิทธินำเงินไปลงทุนในกองทุน Thai ESGX ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเฉพาะวงเงินที่หนึ่งเท่านั้น

 

มองหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

รุ่งโรจน์ ให้มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นไทย ประเมินว่า ต้องการให้เน้นมองภาพการลงทุนระยะ 5 ปี เนื่องจากในระยะสั้นจะเห็นภาพการลงทุนที่มีความผันผวนอยู่บ้างจากปัจจัยประเด็นกดดันจากการสงครามทางการค้า (Trade War) ที่กระทบให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง

 

ทั้งนี้ประเมินว่าราคาหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงมาในช่วงนี้จากผลกระทบของสถานการณ์สงครามภาษีของสหรัฐฯ จะเป็นโอกาสการลงทุนในกองทุน Thai ESGX ที่มีโอกาสซื้อหุ้นไทยในราคาที่ถูกลงจากภาวะปกติเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกเหนือจากการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี

 

นอกจากนี้ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยระยะยาวมีโอกาสปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของภาพรวมภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นไทย หรือ กองทุน Thai ESGX หรือกองทุน Thai ESG ปกติจึงมีโอกาสที่จะได้รับอัปไซด์จากการลงทุนในระยะยาวในอนาคต

 

เนื่องจากมีโอกาสที่จะเห็นปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายต่างๆ รวมถึงนโยบายด้านการเงิน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงในอนาคตซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไปเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

The post ซื้อกองทุน Thai ESGX แบบไหนถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีได้แบบเต็มที่ พร้อมรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นไทยในระยะยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ‘ผุด Thai ESGX พยุงหุ้น’ ลดหย่อนสูงสุด 8 แสนบาทในปีภาษีนี้ ทำอย่างไร | Morning Wealth 12 มี.ค. 2568 https://thestandard.co/morning-wealth-12032025/ Wed, 12 Mar 2025 02:24:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1051152 Thai ESGX

ครม. อนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESGX โดยให้วงเงินลดภาษีเ […]

The post ชมคลิป: ‘ผุด Thai ESGX พยุงหุ้น’ ลดหย่อนสูงสุด 8 แสนบาทในปีภาษีนี้ ทำอย่างไร | Morning Wealth 12 มี.ค. 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Thai ESGX

ครม. อนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESGX โดยให้วงเงินลดภาษีเพิ่ม 8 แสนบาท และย้ายหน่วยลงทุน LTF ไปกองทุน Thai ESGX ได้ มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

 

ผู้ประกันตนได้อะไร เมื่อ ‘ประกันสังคม’ เก็บเงินสมทบเพิ่ม พูดคุยกับ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม และอาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

 

The post ชมคลิป: ‘ผุด Thai ESGX พยุงหุ้น’ ลดหย่อนสูงสุด 8 แสนบาทในปีภาษีนี้ ทำอย่างไร | Morning Wealth 12 มี.ค. 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ลดหย่อนภาษีให้ได้กำไร ควรลงทุนตอนไหนดี? I NEW GEN INVESTOR (HL) https://thestandard.co/new-gen-investor-ep-34-2/ Sun, 29 Dec 2024 06:00:23 +0000 https://thestandard.co/?p=1023598 new-gen-investor-ep-34-2

สำหรับคนทำงานที่อยากมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น การลงทุนลดหย่อน […]

The post ชมคลิป: ลดหย่อนภาษีให้ได้กำไร ควรลงทุนตอนไหนดี? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>
new-gen-investor-ep-34-2

สำหรับคนทำงานที่อยากมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น การลงทุนลดหย่อนภาษีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด! คลิปนี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้ว่าการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีช่วงไหนเหมาะสมที่สุด และควรซื้อกองทุนอย่างไรเพื่อสร้างกำไรมากที่สุด เฟิร์น-ศิรัถยา อิศรภักดี ชวน เอ็ม-รุ่งโรจน์ เสกสรรค์วิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเลือกและจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ มาพูดคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี

 

รับชมคลิปเต็มๆ ได้ที่:

เลือกกองทุนลดหย่อนภาษี 3 สไตล์ แบบไหนตอบโจทย์ที่สุด? | New Gen Investor EP.34

 

ติดตามรายการ NEW GEN INVESTOR ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

The post ชมคลิป: ลดหย่อนภาษีให้ได้กำไร ควรลงทุนตอนไหนดี? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เลือก ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ กองไหนเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด? I NEW GEN INVESTOR (HL) https://thestandard.co/new-gen-investor-ep-34-1/ Thu, 26 Dec 2024 11:00:10 +0000 https://thestandard.co/?p=1023592 new-gen-investor-ep-34-1

ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ใช่แค่ลดภาษี แต่เป็นการวางแ […]

The post ชมคลิป: เลือก ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ กองไหนเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>
new-gen-investor-ep-34-1

ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ใช่แค่ลดภาษี แต่เป็นการวางแผนทางการเงินระยะยาวที่ชาญฉลาด ช่วยให้เงินของคุณงอกเงยและพร้อมรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน คลิปนี้จะพาคุณไปเจาะลึกการเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีว่ากองไหนเหมาะกับเรามากที่สุด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด

 

รับชมคลิปเต็มๆ ได้ที่:

เลือกกองทุนลดหย่อนภาษี 3 สไตล์ แบบไหนตอบโจทย์ที่สุด? | New Gen Investor EP.34

 

ติดตามรายการ NEW GEN INVESTOR ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

The post ชมคลิป: เลือก ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ กองไหนเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: 5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีปี 2567 | Wealth Alert https://thestandard.co/morning-wealth-24122024-4/ Tue, 24 Dec 2024 09:54:56 +0000 https://thestandard.co/?p=1023247

Wealth Alert พาทุกคนไปทำความรู้จักกับกองทุน ThaiESG ให้ […]

The post ชมคลิป: 5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีปี 2567 | Wealth Alert appeared first on THE STANDARD.

]]>

Wealth Alert พาทุกคนไปทำความรู้จักกับกองทุน ThaiESG ให้มากขึ้นผ่าน 5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกลงทุน ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย โดยเฉพาะในโค้งสุดท้ายของปี 2567

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

 

 

The post ชมคลิป: 5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีปี 2567 | Wealth Alert appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: กลยุทธ์การลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี รับสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอน? | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-18122024-2/ Wed, 18 Dec 2024 04:18:23 +0000 https://thestandard.co/?p=1020864

วางแผนการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะสมกับตั […]

The post ชมคลิป: กลยุทธ์การลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี รับสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอน? | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

วางแผนการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเองและสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอน? พูดคุยกับ รุ่งโรจน์ เสกสรรค์วิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโส Investment Product Selection and Partnership ธนาคารไทยพาณิชย์

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: กลยุทธ์การลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี รับสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอน? | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เลือกกองทุนลดหย่อนภาษี 3 สไตล์ แบบไหนตอบโจทย์ที่สุด? I NEW GEN INVESTOR EP.34 https://thestandard.co/new-gen-investor-ep-34/ Sat, 14 Dec 2024 03:00:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1018696 วางแผนภาษี

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลายคนคงเริ่มสนใจ “การวางแผนจัดก […]

The post ชมคลิป: เลือกกองทุนลดหย่อนภาษี 3 สไตล์ แบบไหนตอบโจทย์ที่สุด? I NEW GEN INVESTOR EP.34 appeared first on THE STANDARD.

]]>
วางแผนภาษี

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลายคนคงเริ่มสนใจ “การวางแผนจัดการภาษี” โดยเฉพาะการเลือกซื้อกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษี ซึ่งนอกจากจะช่วยออมเงินแล้วยังสามารถลงทุนไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย แต่คำถามคือ กองทุนประเภทไหนที่จะตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด?

 

ในเอพิโสดนี้ เฟิร์น – ศิรัถยา อิศรภักดี ได้ชวน เอ็ม-รุ่งโรจน์ เสกสรรค์วิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเลือกและจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ มาพูดคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี โดยที่ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อในช่วงปลายปี และยังมีหลายหลายประเภทที่เหมาะกับทุกช่วงวัย

 

📈 เริ่มต้นลงทุนพร้อมบริหารภาษี TAX SAVING FUND COLLECTION รวมกองทุน RMF/SSF/Thai ESG พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ รับหน่วยลงทุน SCBSFF สูงสุด 1,600 บาท* เมื่อมียอดลงทุนสะสมในกองทุน RMF/SSF/Thai ESG ที่ร่วมรายการตั้งแต่ 2 ก.ย. 67 – 30 ธ.ค. 67 ลงทุน สะดวก ง่าย ผ่านแอป SCB EASY

📲 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก! https://link.scb/47KtDwJ

 

*เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายและกองทุนรวมที่ร่วมรายการเป็นไปตามที่บลจ.ไทยพาณิชย์กำหนด • กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน • ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนเพิ่มเติมได้จากwebsite บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและแอป SCB EASY หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

The post ชมคลิป: เลือกกองทุนลดหย่อนภาษี 3 สไตล์ แบบไหนตอบโจทย์ที่สุด? I NEW GEN INVESTOR EP.34 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2024! ลงทุนกองไหนดี | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-03122024-2/ Tue, 03 Dec 2024 07:16:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1015462 วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษี

วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2024 ลงทุนกองไหนดี […]

The post ชมคลิป: วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2024! ลงทุนกองไหนดี | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษี

วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2024 ลงทุนกองไหนดี เพื่อสร้างโอกาสเติบโตในระยะยาว พูดคุยกับ วิศกรณ์ คีรีวรรณ CFA นักกลยุทธ์การลงทุน ผู้อำนวยการฝ่าย Wealth Products & Strategy บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: วางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2024! ลงทุนกองไหนดี | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะประเด็นการลงทุนรับผู้นำสหรัฐฯ พร้อมเผยเทคนิคเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีรับโค้งสุดท้ายปีมังกร [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/investment-tips-for-year-end-taxes/ Tue, 26 Nov 2024 10:00:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1012787

SCB WEALTH จัดงานสัมมนา Exclusive Investment Talk ในหัว […]

The post เจาะประเด็นการลงทุนรับผู้นำสหรัฐฯ พร้อมเผยเทคนิคเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีรับโค้งสุดท้ายปีมังกร [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

SCB WEALTH จัดงานสัมมนา Exclusive Investment Talk ในหัวข้อ ‘เจาะประเด็นการลงทุนรับผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก’ ให้แก่กลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิในระดับสูง (HNWIs) ณ SCB Investment Center ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนระดับโลก พร้อมคำแนะนำในการปรับพอร์ต รวมถึงการใช้ประโยชน์กองทุนรวมลดหย่อนภาษี และใช้เครื่องมือสับเปลี่ยนกองทุน เพื่อบริหารจัดการพอร์ตลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

โดยในงานมี 2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ได้แก่ เกษรี อายุตตะกะ CFP® ผู้อำนวยการกลยุทธ์การลงทุน และ ธนกฤต ศรันกิตติภัทร CFP® ผู้อำนวยการที่ปรึกษาการลงทุน SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์

 

เกษรี อายุตตะกะ CFP® ผู้อำนวยการกลยุทธ์การลงทุน SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยมุมมองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจและการลงทุนว่า การที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2025 จะส่งผลให้การผ่านร่างนโยบายต่างๆ ทำได้ค่อนข้างง่าย

 

 

มัดรวมนโยบายสำคัญของทรัมป์ที่มีผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

 

สำหรับนโยบายสำคัญของทรัมป์ ได้แก่ นโยบายด้านภาษี ที่จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีรายได้ภายในประเทศจาก 21% เหลือ 15% ซึ่งจะเอื้อให้ภาคธุรกิจเสียภาษีน้อยลง ช่วยให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ปรับตัวดีขึ้น, การสนับสนุนปรับลดภาษีธุรกิจต่างๆ, การยกเลิกให้เครดิตภาษีกลุ่มพลังงานสีเขียว, การยืดเวลาลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไป จากเดิมสิ้นสุดสิ้นปี 2025 และการไม่เก็บภาษีรายได้จากประกันสังคม ค่าทิป และค่าล่วงเวลา

 

ด้วยมาตรการลดภาษีเหล่านี้จะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการคลังมากขึ้น เนื่องจากใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการป้องกันประเทศ แต่จัดเก็บรายรับภาษีได้น้อยลง รวมทั้งช่วยหนุน GDP สหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีนโยบายกีดกันการค้าที่อาจกดดัน GDP สหรัฐฯ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการจากจีน 60% รวมทั้งการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากับประเทศอื่นๆ ยกเว้นจีน 10-20%

 

ด้านนโยบายที่อยู่อาศัย จะส่งเสริมการสร้างที่อยู่อาศัยในชานเมืองและบริเวณรอบนอกเขตเมือง รวมทั้งลดหย่อนภาษีและสนับสนุนผู้ซื้อบ้านครั้งแรก ขณะที่นโยบายด้านผู้อพยพ จะจำกัดจำนวนผู้อพยพ และมีแผนเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย 7-11 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังแรงงานในสหรัฐฯ และเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อบนค่าจ้าง

 

นอกจากนี้ยังมีนโยบายต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ จะลดต้นทุนยาตามใบสั่งของแพทย์ และต้นทุนดูแลสุขภาพโดยรวม กลุ่มพลังงาน จะยกเลิกข้อจำกัดการผลิตน้ำมันและก๊าซในประเทศ ยกเลิกข้อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขยายการส่งออกก๊าซธรรมชาติ กลุ่มเทคโนโลยี จะดำเนินการคดีสำคัญกลุ่มเทครายใหญ่ที่ยังค้างอยู่ เช่น การผูกขาดตลาด และกลุ่มธนาคาร มีความเป็นไปได้ที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบให้ธนาคารไม่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์สากลการกำกับดูแลเงินกองทุนของธนาคาร (Basel III)

 

สำหรับผลกระทบของนโยบายทรัมป์ที่มีต่อเศรษฐกิจโลกนั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า กรณีสหรัฐฯ ยุโรป และจีน เก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 10% และสหรัฐฯ เก็บภาษีประเทศคู่ค้าอื่นๆ จะทำให้ GDP ของโลกปี 2025 ปรับลดลง 0.8% และปรับลดลง 1.2% ในปี 2026 จากนั้นจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2027 แต่ GDP ในระยะกลางก็ยังลดลงอยู่เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีนโยบายนี้ออกมา 

 

ในระยะสั้น เศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ต้นทุนการค้าสูงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น ขณะที่ SCB CIO มองว่า GDP โลกจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงมากกว่า GDP ของสหรัฐฯ จากประเด็นกำแพงภาษี เพราะจะทำให้รายได้ที่แท้จริง (รายได้ที่หักเงินเฟ้อแล้ว) ลดลง และทำให้ภาคธุรกิจในประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษี เลื่อนการลงทุนออกไปจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า

 

ส่วนผลต่อเศรษฐกิจไทย ในระยะกลาง GDP จะลดลงประมาณ 0.5% จากการที่สินค้าไทยที่เคยส่งออกไปสหรัฐฯ ถูกเก็บภาษีเพิ่ม ทำให้ส่งออกได้น้อยลง ขณะที่จีนก็จะกระจายสินค้าส่งออกไปยังประเทศอื่นรวมถึงไทย เมื่อถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม ทำให้สินค้าไทยได้รับผลกระทบจากการถูกสินค้าจีนทุ่มตลาด 

 

นอกจากนี้ยังกระทบกับการลงทุน เพราะนักลงทุนต่างชาติที่ไม่มั่นใจว่าไทยจะถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอย่างไร อาจมีแนวโน้มชะลอการลงทุน แต่ในเวลาเดียวกัน หากมองระยะกลาง ไทยจะได้ประโยชน์จากการที่นักลงทุนมองหาการลงทุนในประเทศอาเซียนที่ถูกเก็บภาษีนำเข้าน้อยกว่าจีน 

 

 

เกาะติดนโยบายดอกเบี้ยของ Fed หลังทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดี

 

สำหรับแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลังจากทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ SCB WEALTH คาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% (25 bps) ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสมและยังไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดแรงงานตึงตัวลดลง ทำให้จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยต่อ

 

ส่วนปี 2025 นักลงทุนมองว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยเพียง 0.75% (75 bps) น้อยกว่าที่ Fed มองว่าจะลด 1% (100 bps) จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวออกมาดี และนโยบายของทรัมป์อาจทำให้เงินเฟ้อกลับมา

 

ส่วนมุมมองของ SCB CIO คาดว่า Fed มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ย 1% (100 bps) ในปี 2025 โดย Fed จะประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อและการจ้างงานจากมาตรการของทรัมป์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ คาดว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed มีแนวโน้มดำรงตำแหน่งประธาน Fed ต่อจนครบวาระ และดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องไปได้จนกว่าจะครบวาระตำแหน่งประธาน Fed 4 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2026 และครบวาระตำแหน่งผู้ว่าการ Fed 14 ปี ในปี 2028 

 

ผลกระทบต่อจีนและประเทศในเอเชียจากการกลับมาของทรัมป์

 

เมื่อพิจารณาผลกระทบต่อจีนหลังทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง จีนมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอย่างมาก ทำให้ SCB WEALTH คาดว่า ทางการจีนจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ/หรือ ออกมาตรการตอบโต้กลับ เช่น ปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงบางส่วน และขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้กลับ 

 

ขณะที่พื้นที่อื่นในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ค่อนข้างสูง และเสี่ยงเผชิญการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ได้แก่ เวียดนาม ไต้หวัน และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี เวียดนามยังมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนอยู่ 

 

กลยุทธ์การลงทุน หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

 

เมื่อติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินพบว่า มีการตอบสนองต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาทองคำปรับลดลง 

 

ทั้งนี้ SCB WEALTH มองว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดหุ้นโลก จากการลดภาษีเงินได้บริษัท และการต่ออายุการลดภาษีเงินได้บุคคล รวมทั้งการผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งจะช่วยชดเชยผลลบจากการขึ้นภาษีนำเข้าจากคู่ค้าโดยเฉพาะจีน 

 

ส่วนในระยะยาว ความกังวลบนประเด็นขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น จะกระทบ Valuation ผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (UST Yield) ระยะยาวที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงที่ประเทศคู่ค้าจะตอบโต้ทางการค้า โดยกลุ่มหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากแนวนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ ได้แก่ กลุ่ม Financials, Energy, Materials และ Traditional Autos ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน S&P 500 ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยรวมกำไรขยายตัวและดีกว่าตลาดคาด 

 

ขณะที่ SCB WEALTH มองว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่กระทบกำไร บจ. จีน ตามที่ บจ. ใน CSI 300 โดยรวม มีรายได้จากต่างประเทศ 14% และถึงแม้ที่ผ่านมาจีนพยายามกระจายความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทานผ่านการไปตั้งโรงงานนอกจีนแล้ว แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะคุมเข้มสินค้าจีนที่ถูกส่งออกมาสหรัฐฯ ผ่านประเทศที่ 3 อยู่ดี ขณะเดียวกัน ยังเผชิญผลลบทางอ้อมจากเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และไปกดดันผลประกอบการของ บจ. จีนโดยรวม

 

นอกจากนี้ แนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเทียบเงินหยวนและ UST Yield ที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลลบต่อตลาดหุ้นจีนด้วย 

 

สำหรับตราสารหนี้ SCB WEALTH มองว่า เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Yield Curve) มีแนวโน้มปรับเพิ่มความชัน จากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นน้อยลงว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจยังเติบโตดี ประกอบกับกังวลเรื่องการใช้จ่ายทางการคลังที่มากขึ้นและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จึงแนะนำให้เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหุ้นกู้เอกชนสหรัฐฯ ที่มีอายุ 2-4 ปี ที่ให้อัตราผลตอบแทนในกรอบ 4.3-4.9% ในปัจจุบัน

 

ในส่วนราคาทองคำปรับลดลงเนื่องจากเผชิญแรงขายทำกำไร หลังทราบผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกอบกับยังได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า และ UST Yield สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น

 

ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน เพื่อให้สอดรับกับการกลับมาของทรัมป์นั้น SCB WEALTH แนะนำให้นักลงทุนยังลงทุนต่อเนื่อง (Stay Invested) บนพอร์ตลงทุนระยะยาว 1 ปีขึ้นไป (Core Portfolio) เพื่อตอบโจทย์ 3 วัตถุประสงค์ ได้แก่

 

  1. สร้างกระแสเงินสด ให้พอร์ตมีเสถียรภาพ แนะนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหุ้นกู้เอกชนคุณภาพสูง (Investment Grade) ของสหรัฐฯ อายุ 2-4 ปี 

 

  1. สร้างการเติบโตให้พอร์ต เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าพอร์ตในระยะยาว โดยเน้นลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่ม Quality Growth สหรัฐฯ ที่กำไรของ บจ. ยังเติบโตดี และอยู่ในกลุ่ม New Economy ผสมผสานกับกลุ่ม Defensive สหรัฐฯ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า นอกจากนี้ ให้กระจายการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ด้วย ได้แก่ ตลาดหุ้นอินเดีย อินโดนีเซีย จีน A-Share และไทย 

 

  1. ป้องกันความเสี่ยง ด้วยทองคำ ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ได้ดี โดยที่ขณะนี้ทองคำมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกสะสมทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้นด้วย 

 

ขณะที่พอร์ตลงทุนส่วนเสริม (Opportunistic Portfolio) ลงทุนระยะสั้นกว่า 1 ปี สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางขึ้นไป แบ่งเงินบางส่วน (15-25%) ลงทุน แนะนำดังนี้

 

  • ตลาดหุ้นเวียดนาม เนื่องจากเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ปี 2025 อยู่ที่ 6.5-7.0% กำไร บจ. ในไตรมาส 3/24 มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ขณะที่การยกเลิกมาตรการ Pre-Funding เพื่อสอดรับแนวโน้มการอัปเกรดสถานะตลาดหุ้นสู่ตลาด EM ที่ชัดเจนขึ้น มีแนวโน้มดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และ Valuation ของตลาดยังน่าสนใจ แต่ยังต้องติดตามแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่มีกับจีนและเวียดนาม

 

  • ตลาดหุ้นไทย จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการบริโภคมีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกำไรของ บจ. ขณะที่ Valuation ของดัชนียังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างยืดหยุ่น แม้ EPS จะถูกปรับประมาณการลดลงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2024 แต่ดัชนียังปรับเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี ซึ่งได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ ทั้งนี้ ผลจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ อาจกระทบการส่งออกและการลงทุนในระยะสั้น แต่ในระยะกลาง-ยาว จะเกิดการย้ายฐานการผลิต ซึ่งช่วยสนับสนุนเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่จะไหลเข้ามา

 

  • ดัชนี Russell 2000 ในระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้นได้จากการที่ Valuation เมื่อเทียบกับ S&P 500 ยังน่าสนใจ อีกทั้งดัชนีมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง เนื่องจาก บจ. ที่อยู่ในดัชนีมีสัดส่วนหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวค่อนข้างมาก ทั้งยังได้ประโยชน์จากโมเมนตัมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังดี และแนวนโยบายทรัมป์เอื้อประโยชน์ต่อดัชนี เพราะ บจ. ในดัชนีมีรายได้จากในสหรัฐฯ เป็นหลัก และผลการดำเนินงานของดัชนียัง Laggard S&P 500 อยู่

 

กลยุทธ์บริหารพอร์ตกองทุนลดหย่อนภาษีรับมือทรัมป์นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี

 

ธนกฤต ศรันกิตติภัทร CFP® ผู้อำนวยการที่ปรึกษาการลงทุน SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “สิ่งที่นักลงทุนกังวลในเวลานี้คือ จะปรับพอร์ตลงทุนอย่างไรให้สอดรับกับสถานการณ์ตลาด พร้อมกับการรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 หลังจากทรัมป์เป็นประธานาธิบดี โดยเฉพาะพอร์ตลงทุนลดหย่อนภาษี เนื่องจากช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการลงทุนลดหย่อนภาษีสำหรับปีนี้ ซึ่งมีผลวิจัยระบุว่า 90% ของนักลงทุนจะเริ่มกลับมาดูพอร์ตลดหย่อนภาษีช่วงนี้”

 

 

ทั้งนี้ SCB WEALTH มองว่า สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาก่อนลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีมีด้วยกัน 6 ประเด็น คือ

 

  1. สิทธิประโยชน์ทางภาษี ข้อกำหนด เงื่อนไขการลงทุน ของกองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) รวมถึงศึกษาว่ากองทุนที่สนใจมีนโยบายการลงทุนอย่างไร โดยในกรณีที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเงินลงทุน สามารถลงทุนได้เต็มสิทธิเลย แต่ต้องระมัดระวังไม่ลงทุนเกินสิทธิที่มี เพราะส่วนที่เกินจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี 

 

  1. กำหนดวัตถุประสงค์การลงทุน โดยจากข้อมูลในอดีต ผู้ที่ลงทุนกองทุนรวมลดหย่อนภาษีส่วนใหญ่มักจะซื้อเพื่อการลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว และถือจนกระทั่งถึงเวลาขายหน่วยลงทุนได้ หากเป็นไปได้ SCB WEALTH แนะนำให้นักลงทุนกำหนดวัตถุประสงค์ในการลงทุนด้วย เช่น เพื่อลงทุนระยะยาวหรือเพื่อเกษียณอายุ ซึ่งการกำหนดวัตถุประสงค์จะช่วยให้นักลงทุนตื่นตัวกับการเข้าไปบริหารจัดการพอร์ตกองทุนลดหย่อนภาษีมากขึ้น

 

  1. คำนึงถึงระยะเวลาลงทุนที่มี โดยกรณีเริ่มลงทุนเร็วจะมีทางเลือกการลงทุนได้มาก เพราะมีเวลาลงทุนนาน แต่กรณีที่เริ่มต้นลงทุนช้าก็จะทำให้ทางเลือกการลงทุนน้อยลง จากความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนที่ลดลง

 

  1. พิจารณานโยบายและข้อกำหนดการลงทุน ซึ่งจะช่วยคัดกรองได้ว่าจะเลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกองไหน เนื่องจากกองทุนรวมลดหย่อนภาษีมีนโยบายแยกย่อยให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย

 

  1. สภาพคล่อง หลายท่านลงทุนลดหย่อนภาษีโดยวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี กระจายการลงทุนตั้งแต่ต้นปี ทำให้การลงทุนลดหย่อนภาษีทำได้ราบรื่น แต่ในกรณีที่ไม่ได้วางแผนไว้ เพิ่งมาพิจารณาการลงทุนไตรมาสสุดท้าย และต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินก้อนใหญ่ทีเดียว จะต้องวางแผนให้ดีว่าจะนำเงินส่วนไหนมาลงทุน

 

  1. บริหารจัดการ ให้พิจารณาการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีในแบบพอร์ตการลงทุนโดยรวม พร้อมกับใช้เครื่องมือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน หรือ Switching บริหารพอร์ต เช่น มองการลงทุนในตลาดหุ้นจีนไม่ค่อยดีแล้ว หากจะขายก็ผิดกฎ แต่จะไปลงทุนสินทรัพย์ไหนยังนึกไม่ออก ก็สามารถสับเปลี่ยนเงินลงทุนไปยังกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีก่อนได้ เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะนำเงินไปลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกองไหน ก็ค่อยสับเปลี่ยนเงินไปยังกองทุนนั้นต่อได้ 

 

ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์สับเปลี่ยนกองทุนรับมือทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดี ได้แก่ กรณีนักลงทุนเคยซื้อกองทุน RMF ลดหย่อนภาษีที่ลงทุนตลาดหุ้นจีนไว้ ซึ่งมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากการที่ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้านำเข้ากับจีน ก็อาจลงทุนเพิ่ม ถัวเฉลี่ยต้นทุนได้ หากมองว่าอนาคตระยะยาวยังดี หรืออาจถือไว้ ไม่ลงทุนเพิ่มในช่วงนี้ เพื่อรอดูสถานการณ์ โดยอาจลงทุนในกองทุน RMF ที่ลงทุนในตลาดเงินหรือตราสารหนี้ก่อน 

 

เมื่อติดตามสถานการณ์แล้วเห็นภาพชัดขึ้นว่าจีนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าสนใจ มีความมั่นใจกับตลาดหุ้นจีนมากขึ้น จึงค่อยสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุน RMF ที่ลงทุนในตลาดเงินหรือตราสารหนี้ มายังกองทุน RMF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นจีน

 

 

อีกตัวอย่างคือ กรณีที่เคยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไว้แล้วขาดทุนอยู่มาก อาจเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นไทยเหมือนกัน เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือกรณีลงทุนกองทุน ThaiESG อยู่ก็สามารถจัดพอร์ตลงทุน ThaiESG ได้ เนื่องจากกองทุนนี้มีทั้งนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และกองทุนผสม ให้เลือกลงทุน

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนสามารถใช้พอร์ตลงทุนต้นแบบตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป มาปรับใช้กับกองทุนลดหย่อนภาษีได้ เช่น ตัวอย่างพอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง ซึ่ง SCB CIO แนะนำแบ่งเงินลงทุนใน Core Portfolio 85% และ Opportunistic Portfolio 15% หรือจะเน้นการลงทุนภายใต้ Core Portfolio อย่างเดียว อาจแบ่งเงินไว้ในสินทรัพย์สภาพคล่อง 5% ตราสารหนี้ 52% กองทุนผสม 4% ตราสารทุน 35% และสินค้าโภคภัณฑ์ 4% ก็สามารถนำกองทุน RMF ที่มีนโยบายการลงทุนสอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ภายใต้ Core Portfolio มาจัดพอร์ตได้ 

 

คำเตือน

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรลงทุนในกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตน และยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้
  • เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด และแอปพลิเคชัน SCB EASY หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 0 2777 7777

The post เจาะประเด็นการลงทุนรับผู้นำสหรัฐฯ พร้อมเผยเทคนิคเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีรับโค้งสุดท้ายปีมังกร [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
สรุปกองทุนลดหย่อนภาษีปี 2567: ThaiESG, SSF และ RMF https://thestandard.co/tax-deduction-funds-2024/ Thu, 21 Nov 2024 08:30:01 +0000 https://thestandard.co/?p=1005572

ThaiESG, SSF และ RMF ลงทุนสั้น-ยาว เสี่ยงน้อย-เสี่ยงมาก […]

The post สรุปกองทุนลดหย่อนภาษีปี 2567: ThaiESG, SSF และ RMF appeared first on THE STANDARD.

]]>

ThaiESG, SSF และ RMF ลงทุนสั้น-ยาว เสี่ยงน้อย-เสี่ยงมาก เลือกกองทุนไหนตอบโจทย์ที่สุด

 

กองทุน ThaiESG หรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นกองทุนที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีน้องใหม่ เพิ่มเข้ามาจากเดิมที่มี SSF และ RMF โดย ThaiESG จะลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านความยั่งยืน ESG เป็นสำคัญ

 

ปีนี้ ThaiESG ปรับเงื่อนไขใหม่ที่ทำให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีก คือผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุน ThaiESG เพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ทั้งปีที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท และระยะเวลาการลงทุนจะสั้นลงเหลือเพียง 5 ปี โดยสิทธิประโยชน์นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2569

 

กองทุนนี้จึงเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะไม่ยาวนัก นอกจากนี้วงเงินลดหย่อนของ ThaiESG ยังแยกจากกองทุน SSF, RMF และการลงทุนเพื่อเกษียณอื่นๆ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถได้รับสิทธิลดหย่อนเพิ่มเติมใน ThaiESG ได้สูงสุดอีก 300,000 บาท และไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องด้วย ปีไหนที่ลงทุนก็นำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ในปีนั้นได้

 

สำหรับกองทุนลดหย่อนภาษีอีก 2 ประเภท คือ SSF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปีที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และ RMF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปีที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เงินลงทุนใน 2 กองทุนนี้เมื่อรวมกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท*

 

 

หากใครกำลังมองหากองทุนลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้กันอยู่ THE STANDARD WEALTH มัดรวมกองทุนลดหย่อนภาษีตัวท็อปของ บลจ.กรุงศรี มาให้เลือกครอบคลุมครบทั้งกองทุนที่ลงทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้นไทย กองทุนที่ลงทุนหุ้นเด็ดทั่วโลก และกองทุนผสมที่ลงทุนหลายสินทรัพย์

 

KFGBTHAIESG กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน

 

  • ลงทุนในตราสารภาครัฐไทยกลุ่มความยั่งยืน 
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงสูง เน้นความมั่นคงมากกว่าผลตอบแทน
  • ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวน 
  • คว้าประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยจากตลาดในปัจจุบัน โอกาสรับผลตอบแทนที่ยั่งยืน

 

KFTHAIESG กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน

 

  • ลงทุนในหุ้นบริษัทที่มี ESG โดดเด่นของประเทศ 
  • 90% ของพอร์ตการลงทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนฯ ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG อีก 10% ของพอร์ตลงทุนเชิงรุก เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม
  • KFTHAIESGA ไม่มีการจ่ายเงินปันผล 
  • KFTHAIESGD มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

 

กลุ่มกองทุนกรุงศรี The One SSF และ RMF

KF1MILDSSF/RMF กรุงศรี The One Mild เพื่อการออม/เพื่อการเลี้ยงชีพ

KF1MEANSSF/RMF กรุงศรี The One Mean เพื่อการออม/เพื่อการเลี้ยงชีพ

KF1MAXSSF/RMF กรุงศรี The One Max เพื่อการออม/เพื่อการเลี้ยงชีพ

 

  • ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ผ่านกองทุนรวมที่คัดสรรมาทั้งกองทุนตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นทั่วโลก และสินทรัพย์ทางเลือก ด้วยมุมมองของกลุ่มกรุงศรีในการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะกับเป้าหมายและระดับความผันผวนที่แตกต่างกัน 3 กองทุน 
  • ผู้จัดการกองทุนจะปรับพอร์ตเชิงรุกอย่างยืดหยุ่นให้ทันสถานการณ์

 

KFGBRANSSF กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผลเพื่อการออม

KFGBRANRMF กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ

 

  • ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund ที่ลงทุนในบริษัทเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Microsoft, SAP, Visa, Accenture และ Aon 
  • เน้นหุ้นคุณภาพดีที่มีความทนทานต่อความผันผวนของตลาด (Defensive Stock) กลุ่มสินค้าที่ตัองซื้อต้องใช้ในทุกภาวะเศรษฐกิจ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สุขภาพ และไอที

 

KFS100SSF กรุงศรี SET100 เพื่อการออม 

KFS100RMF กรุงศรี SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ

 

  • ลงทุนในหุ้นของดัชนี SET100 เข้าถึงการเติบโตของหุ้นชั้นนำในประเทศไทย 
  • เป็นกองทุนแบบ Passive มุ่งเน้นให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET100 ​

 

ศึกษารายละเอียดของกองทุนและโปรโมชันเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/TaxFunds  

 

#เลือกปุ๊บซื้อปั๊บ ผ่านแอป @ccess Mobile คลิก https://bit.ly/KSAMapp 

 

สอบถามเพิ่มเติม บลจ.กรุงศรี โทร. 0 2657 5757 เว็บไซต์ www.krungsriasset.com

หรือสาขาธนาคารกรุงศรี และตัวแทนสนับสนุนการขายกองทุน

 

*วงเงินการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีของกองทุน SSF และ RMF นับรวมกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข., กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ รวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

 

ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน | KF1MILDSSF/RMF, KF1MEANSSF/RMF, KF1MAXSSF/RMF และ KFGBRANSSF/RMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

The post สรุปกองทุนลดหย่อนภาษีปี 2567: ThaiESG, SSF และ RMF appeared first on THE STANDARD.

]]>