วันนี้ (23 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา แทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ คณะกรรมการกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน และตัวแทนกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบจรรยาบรรณและความเหมาะสมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ที่เข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 และสมาชิกที่ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

อัครวุธกล่าวว่า เนื่องด้วยการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและภาคีอื่นๆ อีกหลายกลุ่ม ปรากฏว่า รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ในการชุมนุม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการชุมนุมดังกล่าวได้หมดความชอบธรรมในการออกมาเรียกร้องเชิงสัญลักษณ์และสันติ เป็นการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น การที่มี ส.ส. เข้าไปร่วมกับเหตุการณ์การชุมนุมเป็นการเหมาะสมหรือไม่ 

ทางกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์มีความคลางแคลงใจ สงสัยในพฤติกรรมของ ส.ส. ผู้นี้เป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่จะมาปรากฏอยู่ตามสถานที่ชุมนุมเท่านั้น แต่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา รังสิมันต์ โรม, ทองแดง เบ็ญจะปัก, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ยังใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองอีก รวมไปถึงกรณีของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก พรรคก้าวไกล นำรถยนต์ส่วนตัวมาร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบที่จัดขึ้นที่จังหวัดพิษณุโลก  

ดังนั้น ทางกลุ่มจึงขอให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการพิจารณาตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวของ ส.ส. ตามที่กล่าวมา ว่าประพฤติเหมาะสมหรือไม่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการดำเนินการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

ด้านแทนคุณกล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

The post กลุ่มปกป้องสถาบันฯ ร้องประธานสภา สอบจรรยาบรรณ ส.ส. ก้าวไกล ร่วมชุมนุม พ่วงใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหา ม.112 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (16 กรกฎาคม) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ ประกอบด้วย ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ (ศปปส.), ภาคีประชาชน 112 ปกป้องสถาบันฯ, อาชีวะปกป้องสถาบันฯ และศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด Bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ประเมินการทำงานของ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยมี ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

แน่งน้อย อัศวกิตติกร เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ระบุว่า ทางกลุ่มขอให้ พล.อ. ประยุทธ์ ตรวจสอบการทำงานของชัยวุฒิว่ามีความสามารถและมีความเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการเข้ามาจัดการกับข่าวปลอม (Fake News) โดยเฉพาะข่าวปลอมที่เกี่ยวกับสถาบันฯ ที่แพร่หลายอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมากในขณะนี้ 

ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ จะจับตาดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดว่ามีการจาบจ้วงสถาบันฯ หรือไม่ หากมีการก้าวล่วงจะดำเนินการตามกฎหมายทันทีและจะฟ้องอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ 15 วัน หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ตัวแทนกลุ่มจะเดินทางกลับมาทวงถามความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง

The post กลุ่ม ‘พสกนิกรปกป้องสถาบันฯ’ จี้นายกฯ ประเมินการทำงานของชัยวุฒิ เหตุปล่อยข่าวปลอมระบาดในออนไลน์ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (21 มีนาคม) ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลุ่มอาชีวะและภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบัน รวมกลุ่มจัดกิจกรรมส่งเสียงปกป้องสถาบันฯ

ทรงชัย เนียมหอม หนึ่งในแกนนำกลุ่มอนุชนคนรักสถาบัน เปิดเผยว่า หลังจากที่เครือข่ายปกป้องสถาบันเคลื่อนไหวสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถาบันผ่านทางโซเชียลมีเดียมานานพอสมควร แต่ล่าสุดเยาวชนและผู้ชุมนุมมีการแสดงออกต่อสถาบันฯ ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมมากขึ้น จึงจำเป็นต้องออกมาทำกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของสถาบัน 

“ที่ผ่านมาพวกเราได้ต่อสู้ทางโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด แต่เมื่อมาถึงจุดๆ หนึ่ง เมื่อเหตุการณ์กลับบานปลาย ทางกลุ่มเราจึงอดทนไม่ไหว จะต้องออกมาเคลื่อนไหวทางภาคสนามบ้าง” 

โดยหลังจากนี้ทางกลุ่มตนจะลงพื้นที่ภาคสนามโดยการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องแก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป เพื่อได้นำเอาข้อมูลที่ได้จากเราไปเผยแพร่หรือหาข้อมูลต่อได้อย่างถูกต้อง

ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ทางกลุ่มได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนที่ออกไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างมาก ซึ่งเป็นไปได้ว่างคนอาจจะได้รับข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง และอาจจะได้รับอันตราย

ด้าน จุฑาธุชธรา แก้วชมพูนุช ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม​ เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วยการเขียนข้อความลงพบผืนผ้าเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี​ และกิจกรรมการพูดถึงพระราชกรณียกิจ​

นอกจากนี้ ในการชุมนุมยังมีกิจกรรม​ล่ารายชื่ออาจารย์​มหาวิทยาลัย​ที่สนับสนุนนักโทษ​ในคดีมาตรา 112 เพื่อส่งมอบให้กับทางมหาวิทยาลัย​ต้นสังกัด​พิจารณา​ว่าอาจารย์​ที่มีรายชื่อนั้นมีคุณสมบัติ​เหมาะสม​ที่จะเป็นหรือไม่​ ซึ่งยืนยันว่าการชุมนุมในวันนี้คือแสดงออกทางความคิด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ​

ส่วนกรณีที่มีสื่อโซเชียล​ระบุว่า กลุ่มอาชีวะได้ดักทำร้ายกลุ่ม REDEM ขณะกำลังจะเดินทางกลับบ้านหลังเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวานนี้ (20 มีนาคม)​ ว่าข้อมูล​ดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลที่บิดเบือน และเป็นการใส่ร้ายกลุ่มอาชีวะให้ได้รับความเสียหาย​

สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครนั้น มีการนำรถกระบะบรรทุกเครื่องเสียงมาจอดหน้าหอศิลป์ ก่อนจะมีตัวแทนขึ่นไปร้องเพลงให้ฟัง ขณะที่มวลชนทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เน้นสวมเสื้อเหลืองและผูกโบว์ลายธงชาติ ใกล้กันมีการนำผ้าดิบสีขาวผืนใหญ่มาวางไว้ที่พื้น เพื่อให้มวลชนไปเขียนแสดงความคิดเห็นต่างๆ ก่อนจะนำไปแขวนบนสกายวอล์ก

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post จัดกิจกรรมส่งเสียงปกป้องสถาบันฯ หน้าหอศิลป์ เผยเป็นห่วงเยาวชนรับข้อมูลผิด ล่ารายชื่อให้ตรวจสอบอาจารย์ appeared first on THE STANDARD.

บรรยากาศ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ (ต่อ)

The post ชมคลิป: บรรยากาศ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ (ต่อ) appeared first on THE STANDARD.

บรรยากาศ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์

The post ชมคลิป: บรรยากาศ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มีนาคม) ที่บริเวณทางเท้าข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ใกล้กับสี่แยกราชประสงค์ มีการนัดรวมตัวของประชาชน นำโดยกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ เพื่อแสดงจุดยืนของประชาชนในการปกป้องสถาบันกษัตริย์ โดยเริ่มรวมตัวกันตั้งแต่เวลา 13.00 น. มีการปราศรัยด้วยรถขยายเสียง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาแจ้งว่าการชุมนุมดังกล่าวขัดต่อข้อกำหนดของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พร้อมให้เลื่อนรถเครื่องขยายเสียงออกจากพื้นผิวการจราจร แต่ผู้ชุมนุมระบุว่าได้ขอเจ้าหน้าที่ไว้ 1 ช่องการจราจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต และจะทำการออกใบสั่งเพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป 

ขณะที่ในช่วงเวลา 14.00 น. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันได้เริ่มรวมตัวและนำป้ายของกลุ่มมาแสดงต่อสื่อมวลชน ระบุว่าวันนี้ตั้งใจมาแสดงจุดยืน รับไม่ได้ที่มีการจาบจ้วงสถาบันฯ ในหลายเหตุการณ์ ต่อมาเวลา 14.32 น. กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘นักรบองค์ดำ’ ได้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม สมาชิกคนหนึ่งระบุว่าไม่ได้มาป่วนเมือง แต่มาเพื่อแสดงจุดยืน ขอให้ประเทศมีแต่ความสงบ

จากนั้นในเวลา 14.37 น. ตัวแทนกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ได้อ่านแถลงการณ์ในนามภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันฯ เพื่อแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันกษัตริย์ โดยเห็นว่าที่ผ่านมามีกลุ่มผู้เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ กระจายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความแตกแยก มีการจาบจ้วง มีการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการดูหมิ่นสถาบันฯ จนล่าสุดมีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งมองว่าการดำเนินการทั้งหมดมีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำเป็นกระบวนการ ซึ่งอาจจะมีการสร้างเหตุการณ์อื่นๆ และสร้างกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาอย่างไม่จบสิ้น

ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันฯ เชื่อว่ายังมีชาวไทยอีกจำนวนมหาศาลทั่วประเทศที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยที่อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ออกมาร่วมแสดงพลังให้ผู้ที่คิดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ขอให้หยุดการกระทำทั้งหมดทันที เราจะไม่ยอมให้มีผู้ที่ไม่หวังดีและทำการล้มล้างอย่างที่ผ่านมาได้อีกต่อไป จึงขอประกาศว่ามันผู้ใดที่บังอาจจาบจ้วง ดูหมิ่น และคิดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์และราชวงศ์ แบ่งแยกประเทศ คิดที่จะเปลี่ยนธงไตรรงค์ ขอเป็นตัวแทนร่วมกับพลังเงียบ พร้อมที่จะลุกฮือร่วมกันต่อต้านและขัดขวางทุกการกระทำที่เหยียบย่ำจิตใจคนไทยอย่างถึงที่สุด

พร้อมระบุว่านี่จะเป็นการเตือนแค่เพียงครั้งเดียว แล้วมาดูกันว่าการต่อสู้แบบถูกกฎหมายโดยพลังเงียบจากประชาชนของพระราชาจะมีแสนยานุภาพที่น่าเกรงขามที่สุด ยืนยันว่าทางกลุ่มดำเนินกิจกรรมภายใต้กฎหมายและความถูกต้องโดยไม่ใช้ความรุนแรง ก่อนที่จะมีการตะโกนร่วมกันว่า ‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’

สำหรับภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันฯ ที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ได้แก่ กลุ่มนักรบองค์ดำสองคาบสมุทร, กลุ่มนักรบศรีวิชัยสองคาบสมุทร, กลุ่มนักรบอิสระ, กลุ่มกุหลาบพิทักษ์ราชัน, กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ และกลุ่มอนุชนคนรักสถาบันฯ

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post อาชีวะปกป้องสถาบันฯ และภาคีเครือข่าย ชุมนุมแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันฯ ขออยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี พร้อมลุกฮือใต้กรอบกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มีนาคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าจากข่าวเบื้องต้นที่วันนี้จะมีการนัดหมายชุมนุมจากผู้ชุมนุม 4 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า นัดรวมตัวที้โลตัส รังสิต และเคลื่อนขบวนมาที่กรมทหารราบ 11 กลุ่มที่สองคือกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดรวมตัวที่กรมทหารราบที่ 11 กลุ่มที่สามคือกลุ่ม REDEM นัดรวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเดินทางไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มที่สี่คือกลุ่มอาชีวะป้องกันสถาบัน นัดรวมตัวที่แยกปทุมวัน 

สำหรับการชุมชนในวันนี้ ตำรวจฝากแจ้งเตือนผู้ชุมนุมว่าขณะนี้กรุงเทพมหานครยังประกาศเป็นพื้นที่ห้ามชุมนุม ซึ่งหากมีการชุมนุมจะมีความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. โรคติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นผู้โพสต์ ตัวแกนนำ ผู้มีส่วนจัดการชุมนุม และผู้เข้าร่วมการชุมนุม ต่างมีความผิดตามกฎหมายทุกคนโดยไม่สามารถเลี่ยงได้

ส่วนวันนี้จะมีการใช้ความรุนแรงหรือไม่นั้น พล.ต.ต. ปิยะ ระบุว่าขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาผู้ชุมเป็นผู้เริ่มก่อนตลอด ทั้งบุกรุกสถานที่ราชการ ทำลายรื้อถอนสิ่งกีดขวางป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ยืนยันว่าตำรวจทำเพื่อป้องกันส่วนรวม หากพบว่ามีการละเมิดกฎหมายก็ดำเนินการควบคุมจับกุมได้ทันที หากไม่ก่อให้อันตรายร้ายแรง ตำรวจคงไม่ใช้กฎหมายบังคับทันที เว้นแต่ผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์เสี่ยงต่อความไม่สงบเรียบร้อย ทุบทำลายสิ่งของราชการและเอกชน ตำรวจไม่สามารถปล่อยได้ อาจต้องใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์

ส่วนการชุมนุมวันนี้ที่ผู้ชุมนุมบอกว่าจะมีการค้างแรมในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ต.ต. ปิยะ ระบุว่าพื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ราชการ มีผู้ดูแลชัดเจน หากมหาวิทยาลัยอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ขึ้นอยู่กับมาตรการของมหาวิทยาลัย 

พล.ต.ต. ปิยะ ยังระบุด้วยว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ชุมนุมที่กรมทหารราบ 1 รักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 22 ราย และยังมีคดีอื่นๆ อีกมาก ซึ่งการชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมาตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวน 158 คดี ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว 116 คดี และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน 40 คดี 

ส่วนกรณีการพบท่อพีวีซีสีฟ้าพันเทป ลักษณะคล้ายระเบิดหรือไปป์บอมบ์จำนวน 18 ลูกในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันเมื่อวานนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การวกไปวนมา คล้ายเป็นบุคคลวิกลจริต จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้ตรวจร่างกาย และให้แพทย์ประเมินว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ชุดสืบสวนได้ไปค้นบ้านผู้ต้องหาที่จังหวัดพิษณุโลก แล้วพบอุปกรณ์การผลิตระเบิด จึงคาดว่าผู้ต้องหาทำเองทั้งหมด แต่เบื้องต้นระเบิดไปป์บอมที่พบไม่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง จึงนำตัวผู้ต้องหาแจ้งข้อหาส่งฝากขังศาลอาญาแล้ว

ด้าน พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุถึงการจัดการจราจรวันนี้ว่าตำรวจเตรียมแผนรองรับเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดแล้ว ซึ่งตำรวจจะไม่ทำการปิดการจราจร ยกเว้นผู้ชุมนุมจะปิดการจราจรเอง ตำรวจจึงจะเข้าไปปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจรตามแผนที่เตรียมไว้ ทั้งนี้ การปรับเส้นทางขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมว่าจะลงไปปิดถนนเมื่อใด

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post ตำรวจระบุ การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามสถานการณ์ เตรียมดำเนินคดีผู้โพสต์-จัดชุมนุมทั้งหมด appeared first on THE STANDARD.

จากกรณีที่วันพรุ่งนี้ (6 มีนาคม) มีการนัดหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 3 กลุ่ม โดยเป็นการเคลื่อนไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 จุดคือ กลุ่มไม่มีแกนนำ REDEM ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเคลื่อนไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก, กลุ่มที่นัดหมายชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และกลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน ที่แยกราชประสงค์

ล่าสุดวันนี้ (5 มีนาคม) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ 32 กองร้อย เพื่อนำกำลังไปตามจุดที่มีการชุมนุมในแต่ละจุด โดยจะเลือกการวางกำลังตามสถานการณ์และกลุ่มผู้ชุมนุมในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในขณะนี้ได้ว่าจะจัดกำลังลงไปแต่ละจุดเท่าใด แต่ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลัง 3 ผลัด  

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตำรวจมีความเป็นห่วงมากที่สุดได้แก่ กลุ่มที่ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะเคลื่อนไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เนื่องจากจุดดังกล่าวตามข้อมูลของผู้ชุมนุมคือจะไม่มีแกนนำ โดยที่ผ่านมาในการชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พบว่ามีการใช้ความรุนแรงรวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น จึงต้องจับตาดูสถานการณ์ในจุดดังกล่าวเป็นพิเศษ โดยในวันนี้จะมีการหารือกับทุกหน่วยงานที่ต้องลงพื้นที่ดูแลการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ เพื่อกำชับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติตามขั้นตอนการควบคุมดูแลการชุมนุม และจะกำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนทุกนายปฏิบัติเกินกว่ากฎหมายและหน้าที่

พล.ต.ท. ภัคพงศ์กล่าวด้วยว่า ล่าสุดทางศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกยังไม่ได้มีการติดต่อขอกำลังตำรวจมาดูแลภายในและนอกบริเวณศาลเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่ากำลังที่ บช.น. เตรียมไว้น่าจะเพียงพอต่อการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ และหากมีสถานการณ์ปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใดก็พร้อมจะตัดกำลังลงไปช่วยระงับเหตุเพิ่มเติมได้ทันที

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการติดเชื้อโควิค-19 ในเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล (สน.) วังทองหลาง ซึ่งไปควบคุมดูแลการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นกลยุทธ์ทางการข่าวหรือเป็นการขู่ผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ท. ภัคพงศ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเหตุการณ์จริง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดเชื้อขณะนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจรวมผู้ป่วย 17 นาย กักตัวอยู่บริเวณที่บ้านตัวเองทั้งหมด 17 นาย แล้วมีการจัดตรวจคัดกรองโรคตำรวจทั้ง สน.วังทองหลาง ทั้งหมด 195 นาย  ซึ่งตำรวจที่ติดเชื้อก็อยู่เพียงในรถควบคุมตัวผู้ต้องหา ไม่ได้ออกมาควบคุมดูแลการชุมนุมในจุดที่มีการเผชิญหน้ากับเพื่อนตำรวจและผู้ชุมนุม ซึ่งรถคันดังกล่าวก็จอดประจำอยู่ในแนวหลัง และไม่มีความจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ทางการข่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว แต่ก็ได้สั่งการกำชับเพิ่มให้ผู้บังคับบัญชาทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้เข้าทำการพักรักษาตัวก่อน

ส่วนกรณีการออกหมายจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์บริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรมอีก 2 รายนั้น พล.ต.ท. ภัคพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าทางพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ยื่นขอออกหมายจับผู้ก่อเหตุอีก 2 รายแล้ว แต่เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 2 รายไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทางศาลจึงได้มีการพิจารณาขอให้พนักงานสอบสวนทำการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 รายมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ตำรวจเตรียมกำลัง 32 กองร้อยดูแลการชุมนุม 6 มี.ค. ชี้เป็นห่วงกลุ่ม REDEM มากที่สุดเพราะไร้แกนนำ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา แทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก สืบพงษ์ ม่วงชู อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เรื่อง การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน 

ทั้งนี้กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ขอคัดค้านการทำงานตรวจสอบรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และไม่ขอยุ่งเกี่ยวประเด็นการเมืองแต่อย่างไร 

แต่หากมีการอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันอาจเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำมาซึ่งการไม่ยึดมั่นและศรัทธาในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จะขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรหยุดพฤติกรรมของ ส.ส. ที่อภิปรายเข้าข่ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และขอสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีมาตรา 112 อย่างถึงที่สุด

ด้านแทนคุณกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจการทำงานของ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้จะนำหนังสือดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post อาชีวะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ยื่นหนังสือประธานสภาฯ ค้านซักฟอกเกี่ยวข้องสถาบัน หากมีให้ดำเนินคดี ม.112 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกันใส่เสื้อเหลืองและชุดเครื่องแบบของสถาบันตนเอง เพื่อแสดงออกถึงพลังเทิดทูนและประกาศจุดยืนในการปกป้องสถาบันฯ หลังจากที่กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรมทางการเมืองใกล้กับพื้นที่เขตพระราชฐาน 

ฐากูร นวลแก้ว โฆษกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม โดยระบุว่า ข้อเรียกร้องในการชุมนุมของกลุ่มราษฎรเป็นข้อเรียกร้องที่จาบจ้วงสถาบันฯ โดยเฉพาะการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่มีการเคลื่อนขบวนไปใกล้เขตพระราชฐาน ทำลายรถตำรวจ ยิงเลเซอร์ใส่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทำร้ายชาวต่างชาติที่พัทยา การกระทำดังกล่าวสร้างความหดหู่ ความเกลียดชัง และความแตกแยก ของประชาชนที่เห็นต่าง ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายมากมาย และอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าในที่สุด 

กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มราษฎรตระหนักถึงความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยการหยุดการชุมนุมที่มีการจาบจ้วง ละเมิดสถาบันฯ ที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่ของกลุ่มไม่เห็นด้วย

พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมและคนที่อยู่เบื้องหลังให้ถึงที่สุด และควรหาทางแก้ไขเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมยืนยันว่า ประเทศไทยต้องปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น 

ส่วนในวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่มีการนัดหมายชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อติดตามการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากกลุ่มไทยภักดีและกลุ่มราษฎร ฐากูรยืนยันว่า กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ไม่ได้ไปร่วมด้วย แต่หากแนวร่วมต้องการไปติดตามสถานการณ์ก็ไม่ได้ห้าม

The post อาชีวะปกป้องสถาบันฯ รวมตัวลานคนเมือง ขอรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายกับผู้อยู่เบื้องหลังม็อบราษฎรถึงที่สุด appeared first on THE STANDARD.