สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า ไฮบาตุลเลาะห์ อัคฮุนด์ซาดา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตาลีบัน ประกาศว่า ทางกลุ่มได้กลับมาบังคับใช้โทษปาหินหรือเฆี่ยนตีสตรีในที่สาธารณะ หากพบว่าหญิงผู้นั้นคบชู้

อัคฮุนด์ซาดากล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เราจะเฆี่ยนตีผู้หญิง…เราจะปาหินใส่พวกเธอให้ตายในที่สาธารณะ (หากมีการผิดประเวณี)” พร้อมยังกล่าวด้วยว่า “คุณอาจเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิสตรีเมื่อเราปาหินหรือเฆี่ยนตีหญิงในที่สาธารณะโทษฐานคบชู้ เพราะมันขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยของคุณ แต่ผมเป็นตัวแทนของอัลลอฮ์ และคุณเป็นตัวแทนของซาตาน”

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีมองว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นการสานต่อความพยายามของตาลีบันที่จะต่อต้านอิทธิพลของชาติตะวันตก พร้อมแสดงความกังวลว่าสตรีในอัฟกานิสถานอาจต้องกลับไปสู่วันที่มืดมน ดังเช่นการปกครองของกลุ่มตาลีบันในช่วงยุค 1990

Afghan Witness ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถาน รายงานว่า เฉพาะในปีที่ผ่านมา ผู้พิพากษาที่กลุ่มตาลีบันแต่งตั้งขึ้นมามีคำสั่งให้เฆี่ยนตีหรือประหารชีวิตผู้กระทำความผิดในที่สาธารณะถึง 417 ครั้ง และในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้หญิง 57 คน

อนึ่ง นับตั้งแต่ที่กลุ่มตาลีบันกลับมามีอำนาจในอัฟกานิสถานอีกครั้งช่วงเดือนสิงหาคม 2021 กลุ่มตาลีบันก็ได้ยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญของอัฟกานิสถานที่เคยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก พร้อมระงับการใช้ประมวลกฎหมายที่มีอยู่ โดยหันมาบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ที่เข้มงวดแทน นอกจากนี้พวกเขายังสั่งห้ามไม่ให้ทนายความและผู้พิพากษาหญิงปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย

ภาพ: David Sacks via Getty Images

อ้างอิง:

• www.theguardian.com/global-development/2024/mar/28/taliban-edict-to-resume-stoning-women-to-death-met-with-horror

The post ตาลีบันฟื้นโทษปาหินใส่ผู้หญิงจนตายหากคบชู้ appeared first on THE STANDARD.

โรงเรียนหลายแห่งในอัฟกานิสถานทยอยเปิดปีการศึกษาใหม่ โดยมีนักเรียนหญิงจำนวนหลายแสนคนไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา หลังจากรัฐบาลตาลีบันสั่งห้ามนักเรียนหญิงทั่วประเทศเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา มีเพียงเด็กหญิงที่อายุต่ำกว่า 12 ปีลงมาเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน

ทางด้าน ฮาบิบูลเลาะห์ อักห์ฮา รัฐมนตรีศึกษาธิการของตาลีบันระบุว่า โรงเรียนชั้นประถมศึกษายังคงเปิดกว้างสำหรับเด็กนักเรียนหญิง แต่จะมีการจำกัดสิทธิในการเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยรัฐบาลตาลีบันให้เหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมต่อการกระทำดังกล่าวว่า พื้นที่สถานศึกษาโดยเฉพาะในระดับชั้นมัธยมศึกษาขาดสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียนหญิง 

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลตาลีบันจำกัดสิทธิในการเข้าศึกษาต่อของผู้หญิงในอัฟกานิสถาน เพราะในช่วงแรกที่กลุ่มตาลีบันเคยก้าวขึ้นมาบริหารประเทศในช่วงปี 1996-2001 พวกเขาก็เคยจำกัดพื้นที่ของผู้หญิงอัฟกันออกจากโลกของการศึกษาและการทำงาน โดยการประกาศแบนครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2022 และไม่มีประเทศมุสลิมประเทศใดในโลกที่กีดกันผู้หญิงออกจากสิทธิทางการศึกษาอย่างเช่นอัฟกานิสถาน

ทางด้าน แจ็กเกอรีน รัสเซล ผู้อำนวยการบริหารของยูนิเซฟ (UNICEF) ชี้ว่า สถานการณ์ในอัฟกานิสถานเลวร้ายมากยิ่งขึ้น การแบนดังกล่าวเป็นการพรากโอกาสและความสามารถในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รวมถึงพรากความฝันของพวกเขาที่อยากจะทำงาน อยากจะเป็นแพทย์หรือเป็นคุณครูที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ 

อัฟกานิสถานเป็นเพียงประเทศเดียวในช่วงเวลานี้ที่ประกาศแบน ห้ามนักเรียนหญิงเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา กีดกันพวกเขาออกจากการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ กดค่าแรงหรือค่าตอบแทนให้ต่ำลง เพื่อบีบให้อยู่แต่ที่พักอาศัย ห้ามไปสวนสาธารณะ ยิม หรือโรงอาบน้ำสาธารณะ โดยจะต้องแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมหากอยู่ในพื้นที่สาธารณะอีกด้วย

นอกจากนี้คำสั่งแบนดังกล่าวยังทำให้อัตราการรู้หนังสือของผู้หญิงอัฟกันที่เคยเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาต้องหยุดชะงักลง อีกทั้งจำนวนตัวเลขของนักเรียนหญิงที่เคยเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 20 เท่า ตั้งแต่ปี 2001 จากราว 5,000 คน มาอยู่ที่กว่า 1 แสนคน ในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมาลดลงอย่างมากในช่วงเวลานี้ 

ภายหลังจากที่กองทัพสหรัฐอเมริกาตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา ชาวอัฟกันจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนัก เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยบรรดากลุ่มองค์การระหว่างประเทศต่างพยายามจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออัฟกานิสถาน โดยใช้สิทธิของผู้หญิงและเด็กชาวอัฟกันเป็นเงื่อนไขในการเจรจากับรัฐบาลตาลีบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาลใดที่รับรองให้กลุ่มตาลีบันเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมด้วยกฎหมายของอัฟกานิสถาน

แฟ้มภาพ: Sardar Shafaq / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.cbsnews.com/news/afghanistan-taliban-school-year-begins-no-classes-girls-banned-students-unaware/ 
• https://www.aljazeera.com/news/2023/3/23/afghanistan-school-year-starts-without-teenage-girls
• https://www.globalpartnership.org/news/afghanistan-gpe-urges-de-facto-authorities-allow-girls-back-secondary-school 
• https://www.npr.org/2022/03/23/1088202759/taliban-afghanistan-girls-school 

The post อัฟกานิสถานเปิดปีการศึกษาใหม่ หลังห้ามนักเรียนหญิงเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมฯ appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (27 ธันวาคม) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้ออกโรงประณามคำสั่งของรัฐบาลตาลีบันที่ห้ามไม่ให้ผู้หญิงในอัฟกานิสถานเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือทำงานให้กับกลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมเรียกร้องตาลีบันเปิดโอกาสให้ผู้หญิงและเด็กหญิงในอัฟกานิสถานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมอย่างเต็มที่และเท่าเทียมกับเพศชาย 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม กระทรวงศึกษาธิการระดับอุดมศึกษาของอัฟกานิสถานได้สั่งระงับไม่ให้นักศึกษาหญิงเรียนในระดับมหาวิทยาลัยโดยไม่มีกำหนด ขณะที่เด็กหญิงถูกสั่งห้ามไม่ให้เรียนในระดับมัธยมปลายตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 

ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 ธันวาคม) รัฐบาลตาลีบันได้ออกคำสั่งให้องค์การนอกภาครัฐ (NGO) ทั้งในท้องถิ่นและจากต่างชาติห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าร่วมทำงานด้วย โดยองค์กรให้ความช่วยเหลือระดับโลก 4 แห่งที่พยายามช่วยเหลือชาวอัฟกันหลายล้านคนระบุเมื่อวันอาทิตย์ (25 ธันวาคม) ว่าพวกเขาต้องระงับการดำเนินการ เพราะไม่สามารถสานต่อภารกิจได้หากไม่มีเจ้าหน้าที่หญิง

สมาชิก UNSC ทั้ง 15 ประเทศออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า การห้ามผู้หญิงและเด็กหญิงเข้าเรียนในระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยในอัฟกานิสถาน ‘บั่นทอนความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน’ ขณะที่การสั่งห้ามผู้หญิงทำงานในองค์กรช่วยเหลือนั้นจะส่งผลกระทบต่อการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในประเทศอย่างมาก

ด้านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ทวีตข้อความว่า การจำกัดสิทธิสตรีในอัฟกานิสถานเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่ถูกต้อง และคำสั่งดังกล่าวจะต้องถูกเพิกถอน โดยระบุว่า “การกระทำที่กีดกันและปิดปากผู้หญิงและเด็กหญิงก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง และสร้างผลกระทบต่อศักยภาพของชาวอัฟกานิสถานอย่างมาก”

มาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมแห่ง UN กล่าวกับ UNSC เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สถานการณ์ในอัฟกานิสถานนั้นน่าเป็นห่วง เพราะ 97% ของชาวอัฟกันใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เส้นของความยากจน ขณะที่ประชากร 2 ใน 3 ของประเทศต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้มีชีวิตรอด ส่วนผู้คนอีกกว่า 20 ล้านคนเผชิญกับภาวะอดอยากเฉียบพลัน และเด็กสาววัยรุ่น 1.1 ล้านคนถูกห้ามเข้ารับการศึกษาโรงเรียน

อนึ่ง กลุ่มตาลีบันได้เข้าปกครองอัฟกานิสถานอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 หลังสหรัฐอเมริกาประกาศถอนกำลังทหารออกจากกรุงคาบูล อันเป็นการสิ้นสุดปฏิบัติการทางทหารที่ยาวนานถึง 20 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นหลังเหตุการณ์ 9/11 เมื่อปี 2001 โดยหลังจากที่ตาลีบันกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง รัฐบาลก็ได้ออกนโยบายที่มีลักษณะลิดรอนสิทธิสตรี เช่น ห้องเรียนและทางเดินต้องมีการแยกชาย-หญิง และต้องให้ครูผู้หญิงหรือชายสูงอายุสอนนักเรียนหญิงเท่านั้น ขณะเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลตาลีบันก็กลับคำพูดที่เคยบอกไว้ว่าจะให้โรงเรียนหญิงล้วนระดับชั้นมัธยมปลายเปิดทำการได้อีกครั้ง ส่งผลให้ตอนนี้เด็กหญิงหลายคนไม่ได้เรียนต่อ

แฟ้มภาพ: Bilal Guler/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.reuters.com/world/asia-pacific/un-official-meets-taliban-urges-reverse-ngo-female-worker-ban-2022-12-26/
• https://www.reuters.com/world/asia-pacific/un-security-council-denounces-taliban-bans-women-afghanistan-2022-12-27/
• https://www.bbc.com/news/world-asia-64106226

The post UNSC ออกโรงประณามตาลีบัน หลังออกนโยบายจำกัดสิทธิสตรีในอัฟกานิสถาน appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (16 สิงหาคม) ครบรอบ 1 ปี กลุ่มตาลีบันกลับขึ้นมากุมอำนาจในเกมการเมืองระดับชาติของอัฟกานิสถาน หลังบุกกรุงคาบูลและโค่นล้มรัฐบาลอัฟกันภายใต้การนำของประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ได้สำเร็จ เป็นเหตุให้อดีตผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาชาติตะวันตกต้องลี้ภัยไปยังอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยกลุ่มตาลีบันยังคงปกครองประเทศด้วยความหวาดกลัวตลอด 1 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่กองทัพสหรัฐฯ ถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2021 ยุติบทบาทการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในประเทศแห่งนี้ที่ดำเนินมานานเกือบ 2 ทศวรรษลงในที่สุด และเปิดโอกาสให้กลุ่มตาลีบันกลับขึ้นมาเรืองอำนาจอีกครั้ง

รัฐบาลตาลีบันเคยบริหารประเทศอัฟกานิสถานมาแล้วในช่วงปี 1996-2001 ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในแง่ของการเป็นรัฐเคร่งศาสนา รวมถึงลิดรอนสิทธิของผู้หญิงและเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะในมิติของการทำงานและการเข้าถึงการศึกษา ส่งผลให้การกลับขึ้นมามีอำนาจในครั้งนี้สร้างความกังวลให้กับนักสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก

ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านทางการเมือง มีชาวอัฟกันจำนวนไม่น้อยที่ต่างเร่งเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน จึงเกิดเป็นภาพสุดสะเทือนใจที่ผู้คนจำนวนมากต่างพยายามวิ่งตามเครื่องบิน ต้องการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่นอกประเทศ และไม่ต้องการกลับไปสู่ยุคมืดดังเช่นที่เคยเป็นมาอีกแล้ว

หลังจากความโกลาหลที่เกิดขึ้น รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอายัดทรัพย์สิน รวมถึงยุติการส่งมอบงบสนับสนุนให้กับรัฐบาลอัฟกัน ประกอบกับเหตุก่อความไม่สงบบ่อยครั้งจากบรรดากลุ่มก่อการร้าย ยิ่งทำให้สถานการณ์ภายในอัฟกานิสถานย่ำแย่ลง ไม่มีเสถียรภาพทั้งทางด้านการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ

รัฐบาลตาลีบันกลับมาปกครองประเทศด้วยความหวาดกลัว มีกองกำลังติดอาวุธกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองหลวง เพื่อตรวจตราความสงบเรียบร้อย อีกทั้งยังจัดตั้งตำรวจศาสนาและกระทรวงที่ดูแลงานเรื่องการสนับสนุนศีลธรรม ป้องกันการประพฤติผิด รวมถึงกำกับดูแลการตีความหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลามอย่างจริงจัง 

รัฐบาลตาลีบันนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้ดำรงตำแหน่งสำคัญใดๆ เลยแม้แต่คนเดียว การลิดรอนสิทธิและการไม่ได้รับความเป็นธรรมส่งผลให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิชุมนุมประท้วงกันบ่อยครั้งยิ่งขึ้น เด็กผู้หญิงเริ่มถูกจำกัดสิทธิในการเข้าชั้นเรียน ลูกจ้างของรัฐจะต้องไว้หนวดเครา ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงจำเป็นต้องสวมฮิญาบตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่สาธาณะ เพื่อผลักให้คนกลุ่มนี้อยู่แต่ที่พักอาศัยเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนตาลีบันจำนวนหนึ่งออกมาร่วมเฉลิมฉลองบนท้องถนนในกรุงคาบูล พร้อมร้องตะโกน “อิสลามจงเจริญ สหรัฐฯ จงพินาศ” เพื่อยืนยันจุดยืนว่า อัฟกานิสถานดำเนินไปทิศทางที่ควรจะเป็นแล้ว หลังจากที่ถูครอบงำโดยชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน

บรรดานักเคลื่อนไหวต่างเฝ้าจับตามองสถานการณ์ภายในอัฟกานิสถานว่าจะดำเนินไปอย่างไร วิกฤตในมิติต่างๆ ของประเทศแห่งนี้จะบรรเทาลงได้มากน้อยแค่ไหน แม้จะมีความพยายามให้กลุ่มตาลีบัน ผู้แทนภาคประชาสังคมของอัฟกานิสถาน และเจ้าหน้าที่ทางการทูตของบรรดาชาติตะวันตก ได้หารือกันที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ประสบผลเท่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้

ภาพ: Paula Bronstein / Getty Images 

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/gallery/2022/8/15/photos-afghanistan-taliban-marks-one-year-in-power-amid-diplomatic-isolation 
• https://www.aljazeera.com/gallery/2022/8/15/photos-afghanistan-taliban-marks-one-year-in-power-amid-diplomatic-isolation 
• https://www.washingtonpost.com/world/2022/08/15/celebration-uncertainty-fear-grip-kabul-one-year/ 

The post อัฟกานิสถานเป็นอย่างไร หลังครบรอบ 1 ปี ตาลีบันโค่นรัฐบาลเดิมกลับมาบริหารประเทศ appeared first on THE STANDARD.

*วิดีโอนี้อาจมีภาพประกอบหรือเนื้อหาที่ทำให้ไม่สบายใจ

นี่คือความเสียหายที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน หลังวานนี้ (22 มิถุนายน) เกิดแผ่นดินไหวแม็กนิจูด 5.9 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตัวเลขล่าสุดระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตทะยานแตะ 1,000 รายแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย

สภาพของพื้นที่เกิดเหตุในอัฟกานิสถานเรียกได้ว่าจมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง บ้านเรือนได้รับความเสียหายหนัก ขณะเจ้าหน้าที่ห่อร่างของผู้เสียชีวิตวางไว้เต็มท้องถนน สร้างความเศร้าสลดใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ส่วนการกู้ภัยก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่เผชิญกับอุปสรรคหลายประการ ทั้งฝนที่ตกหนัก ดินถล่ม อีกทั้งหลายหมู่บ้านตั้งอยู่ในพื้นที่เชิงเขาที่เข้าถึงได้ยาก

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ซ้ำเติมวิกฤตการณ์แสนเลวร้ายของอัฟกานิสถานที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทั้งการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ความแตกแยกภายในประเทศ ผู้คนขาดแคลนอาหาร และภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยที่ผ่านมาอัฟกานิสถานพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างชาติสูงถึง 80% ของงบประมาณทั้งหมด แต่เมื่อตาลีบันยึดครองประเทศ ความช่วยเหลือก็หยุดชะงักลง ระบบเศรษฐกิจจึงพังทันที และตอนนี้อัฟกานิสถานก็เหลือเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ไว้สำหรับกู้ภัยเพียงไม่กี่ลำเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านการจัดการภัยพิบัติของอัฟกานิสถานระบุว่า สถานการณ์ยังคงน่าห่วง เพราะคาดว่ายอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนนี้ยังรอตัวเลขความเสียหายจากหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลบนเชิงเขา พร้อมวอนขอให้นานาชาติยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

The post ชมคลิป: แผ่นดินไหวซ้ำเติมวิกฤตมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน ตาลีบันวอนประชาคมโลกช่วยเหลือ appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (22 พฤษภาคม) รัฐบาลตาลีบันของอัฟกานิสถานมีคำสั่งให้ผู้ประกาศข่าวหญิงต้องสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าขณะกำลังออกอากาศ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนี้มีขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่มีผู้ประกาศข่าวเพียงไม่กี่สำนักเท่านั้นที่ปฏิบัติตาม ก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะบังคับใช้กฎดังกล่าวอย่างจริงจัง

ทางด้านกระทรวงวัฒนธรรมและข้อมูลสารสนเทศระบุ นโยบายดังกล่าวถือเป็นที่สิ้นสุดและไม่สามารถต่อรองได้ ขณะที่ผู้ประกาศข่าวหญิงจำนวนมากรู้สึกไม่สบายใจ อีกทั้งยังระบุว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และศาสนาอิสลามไม่ได้บังคับให้เราต้องปิดบังใบหน้า

นอกจากนี้ตาลีบันยังชี้ว่าพรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงในอัฟกานิสถานเองก็ควรสวมหน้ากากอนามัย ข้อบังคับต่างๆ ที่บังคับใช้กับผู้หญิงอัฟกันเริ่มลดทอนสิทธิและเสรีภาพในการใช้ชีวิตของพวกเธอในประเทศแห่งนี้ นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล ยึดอำนาจประธานาธิบดีและคณะรัฐบาลชุดเดิมลง ภายหลังจากที่กองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2021

หนึ่งในหญิงอัฟกันที่ได้รับผลกระทบเผยว่า “หากคำสั่งเหล่านี้ถูกบังคับใช้ ผู้หญิงทั่วอัฟกานิสถานจะถูกตัดสิทธิต่างๆ หลายประการ อย่างที่เห็นในขณะนี้ ผู้หญิงอัฟกันกำลังค่อยๆ ถูกจำกัดสิทธิของตนมากยิ่งขึ้นทุกขณะ”

ก่อนหน้านี้กลุ่มตาลีบันก้าวขึ้นมาปกครองและบริหารประเทศในช่วงปี 1996-2001 นับเป็นยุคมืดของบรรดาผู้หญิงและเด็กผู้หญิง พวกเธอถูกจำกัดสิทธิและพื้นที่ในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในมิติของการศึกษาและการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ 

ทางด้าน ฟาวเซอย โคฟี อดีตรองประธานรัฐสภาอัฟกัน ชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการจำกัดสิทธิเสรีภาพและพื้นที่ของผู้หญิงในอัฟกานิสถาน การออกกฎข้อบังคับเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นไปเพื่อให้ความสนใจของสาธารณชนมุ่งเป้าไปยังประเด็นด้านการจำกัดสิทธิที่เกิดขึ้น หันเหไปจากประเด็นหลักประเด็นสำคัญอย่างปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ที่แม้แต่ตาลีบันเองก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ 

ภาพ: Wakil Kohsar / AFP

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2022/5/22/afghan-women-tv-anchors-forced-to-cover-faces-under-taliban-order
• https://www.theguardian.com/world/2022/may/22/taliban-enforce-face-coverings-afghanistan-female-tv-news-presenters
• https://www.politico.com/news/2022/05/22/afghanistan-taliban-women-face-covers-00034264 

The post ตาลีบันมีคำสั่ง ผู้ประกาศข่าวหญิงต้องสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้า ขณะออกอากาศ appeared first on THE STANDARD.

แอปพลิเคชัน TikTok ของ ByteDance จะถูกแบนในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการรักษาศีลธรรมโดยกลุ่มตาลีบันซึ่งมีอำนาจปกครองในขณะนี้

แอปโซเชียลมีเดียที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือสิ่งที่เข้ามา ‘สร้างความเข้าใจผิด’ ให้กับคนรุ่นใหม่ และ “เนื้อหาที่น่ารังเกียจของ TikTok ไม่สอดคล้องกับกฎหมายอิสลาม” โฆษกของกลุ่มตาลีบันกล่าว

Bloomberg รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มติดอาวุธได้สั่งแบนแอปนับตั้งแต่ที่พวกเขาขึ้นสู่อำนาจเมื่อปีที่แล้ว นอกจาก TikTok แล้ว PUBG เกมยอดนิยมของเกาหลีใต้ก็ถูกสั่งแบน ตลอดจนห้ามช่องโทรทัศน์อัฟกานิสถานออกอากาศเนื้อหาที่ ‘ผิดศีลธรรม’ ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ตาลีบันยอมเปิดมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาหญิงอัฟกันได้กลับเข้าเรียนเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี
• ตาลีบันเผยกฎใหม่ แบนผู้หญิงอัฟกันแสดงละครโทรทัศน์ นักข่าว-พรีเซนเตอร์หญิงต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ

การปราบปราม TikTok ซึ่งเป็นแอปโซเชียลมีเดียของจีน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรณรงค์ด้านศาสนาที่เข้มงวดของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการระงับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสำหรับเด็กผู้หญิง การบังคับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไว้หนวดเครา และห้ามแท็กซี่รับผู้หญิงที่เดินทางเพียงคนเดียวมากกว่า 70 กิโลเมตรโดยไม่มีสมาชิกชายในครอบครัวเดินทางด้วย

“เราได้รับการร้องเรียนมากมายเกี่ยวกับการที่แอป TikTok และเกม PUBG ทำให้ผู้คนเสียเวลาไปกับมัน” โฆษกของกลุ่มตาลีบันกล่าว “กระทรวงสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับคำสั่งให้ลบแอปออกจากเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ต และทำให้ทุกคนในอัฟกานิสถานไม่สามารถเข้าถึงได้”

รายงาน Digital 2022: Afghanistan ของ DataReportal ระบุว่า ประมาณ 23% ของประชากร 40 ล้านคนในประเทศมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเดือนมกราคม และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 7% ระหว่างปี 2021-2022 โดยนอกจาก TikTok แล้ว Facebook และ WhatsApp เป็นแอปที่ได้รับความนิยมในอัฟกานิสถานด้วย

อ้างอิง:

• https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-04-21/taliban-bans-tiktok-app-for-misleading-the-younger-generation

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post กลุ่มตาลีบันสั่งแบน TikTok ในอัฟกานิสถาน มองมีแต่เนื้อหาไม่สอดคล้องกับกฎหมายอิสลาม หวั่น ‘สร้างความเข้าใจผิด’ ให้เยาวชน appeared first on THE STANDARD.

กลุ่มตาลีบันประกาศว่า ได้เปิดมหาวิทยาลัยรัฐใน 6 จังหวัด จากทั้งหมด 34 จังหวัดของอัฟกานิสถาน เพื่อให้นักศึกษาหญิงได้เข้าเรียน โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี นับตั้งแต่ที่ตาลีบันยึดครองอำนาจรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 

อาหมัด ตากี โฆษกกระทรวงศึกษาธิการอัฟกานิสถานภายใต้รัฐบาลตาลีบัน แถลงวานนี้ (2 กุมภาพันธ์) ว่ามหาวิทยาลัยรัฐ 8 แห่ง จากทั้งหมด 39 แห่งทั่วประเทศ ได้กลับมาเปิดเพื่อให้นักศึกษาหญิงได้เข้าเรียนอีกครั้ง ซึ่งมหาวิทยาลัยบางแห่ง เช่นในจังหวัดนานกาฮาร์จะมีการแยกชั้นเรียนระหว่างนักศึกษาชายและหญิงทั้งในคาบเรียนช่วงเช้าและบ่าย โดยเป็นไปตามข้อกำหนดการแบ่งแยกเพศของตาลีบัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศหลังการเปิดมหาวิทยาลัยให้ผู้หญิงอัฟกันได้กลับเข้าเรียน พบว่ามีนักศึกษาหญิงไปเรียนยังไม่มากนัก และทุกคนต่างสวมชุดคลุมแบบเต็มตัวสีดำที่เรียกว่าบูร์กาในการเข้าเรียน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ยังมีนักรบตาลีบันคอยยืนเฝ้าระวังบริเวณหน้าห้องเรียน 

สาเหตุที่รัฐบาลตาลีบันเลือกเปิดมหาวิทยาลัยชุดแรกเพียง 6 จังหวัด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศอุ่นกว่าจังหวัดอื่นๆ ที่ยังเผชิญฤดูหนาว ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยที่เหลือจะเปิดให้ทั้งนักศึกษาชายและหญิงได้เข้าเรียน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังผู้แทนของกลุ่มตาลีบันได้เดินทางไปร่วมการประชุมกับผู้แทนชาติตะวันตกเป็นครั้งแรกที่กรุงออสโลของนอร์เวย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยชาติตะวันตกกดดันให้ตาลีบันรักษาสัญญาเรื่องการเคารพสิทธิสตรีและให้ผู้หญิงได้กลับเข้าเรียนและทำงาน หากต้องการให้ยุติการอายัดทรัพย์สินและเงินช่วยเหลือรวมหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งกลุ่มตาลีบันต้องการเงินเพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหาวิกฤตด้านมนุษยธรรมและภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงทั่วประเทศ

ภายหลังกลับคืนสู่อำนาจ รัฐบาลตาลีบันได้มีการออกกฎระเบียบเข้มงวดหลายอย่าง โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ถูกห้ามไม่ให้ไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ซึ่งเด็กผู้หญิงจะไม่สามารถไปโรงเรียนได้หลังจากจบเกรด 6 หรือระดับชั้น ป.6 

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วอัฟกานิสถานยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดชั้นเรียนสำหรับนักเรียนหญิง ขณะที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังคงประสบปัญหาขาดแคลนครูผู้หญิง ซึ่งที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดลากห์มาน พบว่ามีครูผู้หญิงแค่ 1 คนแต่ต้องรับผิดชอบการสอนนักศึษาหญิงกว่า 270 คน 

ภาพ: Photo by Paula Bronstein / Getty Images

อ้างอิง:

• https://apnews.com/article/afghanistan-kabul-taliban-b09a81e36032f8ec2551c94699c1cce5
• https://www.aljazeera.com/news/2022/2/2/afghan-universities-reopen-with-small-number-of-women-attending

The post ตาลีบันยอมเปิดมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาหญิงอัฟกันได้กลับเข้าเรียนเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (22 พฤศจิกายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กลุ่มตาลีบันเผยกฎใหม่ แบนผู้หญิงอัฟกันแสดงละครโทรทัศน์ในอัฟกานิสถาน นักข่าวและพรีเซนเตอร์ผู้หญิงต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ สื่อมวลชนหลายสำนักมองว่ากฎใหม่ของกลุ่มตาลีบันมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อยและต้องอาศัยการตีความ

กลุ่มตาลีบันก้าวขึ้นมาปกครองอัฟกานิสถาน หลังจากบุกยึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ พร้อมโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่ทางการสหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน หลังจากทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่แถบนี้มานานราว 2 ทศวรรษ

ประเด็นเรื่องการจำกัดพื้นที่และสิทธิสตรีเป็นหนึ่งในประเด็นที่ประชาคมโลกเฝ้าจับตา หลังจากที่กลุ่มตาลีบันก้าวขึ้นสู่อำนาจ เนื่องจากในช่วงทศวรรษ 1990 กลุ่มตาลีบันกีดกันผู้หญิงเข้าถึงการศึกษาและพื้นที่แรงงาน โดยกลุ่มตาลีบันอ้างว่าการจำกัดพื้นที่ของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว เพื่อประกันให้แน่ใจว่าสถานที่ศึกษาและสถานที่ทำงานทั้งหมดมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาทุกคน

ภาพ: Alkis Konstantinidis / Reuters

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-asia-59368488
• https://www.hindustantimes.com/world-news/taliban-in-new-religious-guideline-asks-tv-channels-to-stop-airing-shows-with-women-actors-101637541964058.html
• https://www.dw.com/en/afghanistan-taliban-issue-guidelines-against-women-actors/a-59895874

The post ตาลีบันเผยกฎใหม่ แบนผู้หญิงอัฟกันแสดงละครโทรทัศน์ นักข่าว-พรีเซนเตอร์หญิงต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ appeared first on THE STANDARD.

ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน) ประกาศห้ามการใช้สกุลเงินต่างประเทศในอัฟกานิสถาน โดยถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่คาดว่าจะส่งผลกระทบมากขึ้นต่อเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานที่เข้าใกล้ภาวะล้มละลาย จากการถอนการช่วยเหลือของนานาชาติอย่างกะทันหัน

“รัฐอิสลามมีคำสั่งให้พลเมือง เจ้าของร้าน พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ดำเนินธุรกรรมทั้งหมดในอัฟกานิสถาน และงดเว้นการใช้สกุลเงินต่างประเทศอย่างเคร่งครัด” มูจาฮิดระบุในแถลงการณ์ พร้อมทั้งเตือนว่า “ผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนคำสั่งนี้ จะเผชิญการดำเนินการทางกฎหมาย”

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอัฟกานิสถานใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างแพร่หลายในเมืองต่างๆ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนจะใช้สกุลเงินของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ปากีสถาน ในการค้าขาย

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลอัฟกานิสถานชุดใหม่ภายใต้การควบคุมของตาลีบัน กำลังกดดันให้สหรัฐฯ ชาติยุโรป ธนาคารโลก และ IMF ยกเลิกการอายัดเงินสำรองและสินทรัพย์ของธนาคารกลางอัฟกานิสถานจำนวนมากกว่า 9.5 พันล้านดอลลาร์ 

ซึ่งก่อนหน้านี้มูจาฮิดออกมาเตือนว่าการที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกไม่ยอมรับรัฐบาลชุดใหม่ของอัฟกานิสถานและยังคงอายัดเงินของอัฟกานิสถาน อาจส่งผลกระทบไม่เพียงแค่ในอัฟกานิสถาน แต่อาจเป็นปัญหาลุกลามไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก

ขณะที่กระทรวงการคลังอัฟกานิสถานเผยว่า ปัจจุบันสามารถจัดเก็บภาษีได้เฉลี่ยวันละประมาณ 400 ล้านอัฟกานี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 146 ล้านบาท ซึ่งธนาคารกลางอัฟกานิสถานชี้ว่า รัฐบาลอัฟกานิสถานต้องการเงินงบประมาณเดือนละ 150 ล้านดอลลาร์ เพื่อควบคุมสกุลเงินท้องถิ่นและราคาสินค้าในประเทศให้มีเสถียรภาพ และป้องกันการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตด้านมนุษยธรรม จากภาวะอดอยากและขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับล้านคน โดยผลที่ตามมาอาจก่อให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ของชาวอัฟกานิสถาน ซึ่งชาติยุโรปจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ทั้งนี้ ประกาศของกลุ่มตาลีบันมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงและระเบิดโจมตีโรงพยาบาลกองทัพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในกรุงคาบูล ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

ภาพ: Photo by Haroon Sabawoon/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2021/11/2/taliban-bans-use-of-foreign-currency-across-afghanistan

The post ตาลีบันสั่งห้ามใช้สกุลเงินต่างประเทศในอัฟกานิสถาน ฝ่าฝืนเจอลงโทษตามกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.