กรมโยธาธิการและผังเมือง – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 29 Oct 2024 10:16:36 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 อนุทินสั่งกรมโยธาฯ ศึกษาผลกระทบเพิ่มเติมเวนคืนที่ดินริมแม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย เชื่องบ 3 พันกว่าล้านบาทคุ้มค่า แก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว https://thestandard.co/land-expropriation-sai-river-study/ Tue, 29 Oct 2024 08:36:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1001354

วันนี้ (29 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ […]

The post อนุทินสั่งกรมโยธาฯ ศึกษาผลกระทบเพิ่มเติมเวนคืนที่ดินริมแม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย เชื่องบ 3 พันกว่าล้านบาทคุ้มค่า แก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความชัดเจนหลังมีกระแสข่าวรัฐบาลจะเวนคืนที่ดิน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมแม่น้ำสายเข้ามาประมาณ 40 เมตร ยาว 2 กิโลเมตร บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยระบุว่า เรื่องนี้จะไปดูเรื่องการบุกรุกพื้นที่มากกว่าว่าจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองกำลังไปวางแนวอยู่ และกำลังศึกษาการวางแผนงานทำเขื่อนกันน้ำกันดิน ซึ่งจะพาดผ่านตามแนวอำเภอแม่สาย คาดว่าจะใช้งบประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท 

 

ทั้งนี้ หากศึกษาให้ดีเชื่อว่าโครงการนี้จะคุ้มค่าและแก้ไขปัญหาได้ดี เพราะทุกวันนี้หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ รัฐบาลเสียเงินมากกว่า 3 พันกว่าล้านบาทและได้แต่เยียวยา ซึ่งปีหน้าก็อาจต้องเสียงบอีก

 

อนุทินกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ต้องไปจัดการเรื่องการรุกล้ำพื้นที่ที่ผิดกฎหมายให้เรียบร้อย และมีเรื่องการเวนคืนที่ดินด้วย ซึ่งต้องไปสำรวจอะไรให้เรียบร้อยก่อน

 

เมื่อถามว่า การรุกล้ำและการเวนคืนจะมีการเยียวยาหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า การรุกล้ำไม่มีการเยียวยา แต่ต้องแนะนำให้บุคคลเหล่านั้นไปหาที่อยู่ใหม่ ส่วนเรื่องการเวนคืนต้องไปดูว่าหากแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องเยียวยา ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม) กรมโยธาธิการและผังเมืองเพิ่งมารายงานผลการศึกษา แต่ตนให้ไปศึกษาเพิ่มเติมว่าจะมีครัวเรือนกี่ครัวเรือน ประชากรกี่คน ธุรกิจกี่อย่าง ซึ่งบริเวณนั้นมีตลาดสายลมจอยอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่นาน แต่จะใช้เวลาของบนาน โดยต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากเรื่องนี้ใช้งบกลางไม่ได้เพราะเกิน 1 ปี จึงต้องผลักดันให้ใช้งบประมาณปกติ ซึ่งต้องไปพูดคุยกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเร่งรัดเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขในระยะยาว

The post อนุทินสั่งกรมโยธาฯ ศึกษาผลกระทบเพิ่มเติมเวนคืนที่ดินริมแม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย เชื่องบ 3 พันกว่าล้านบาทคุ้มค่า แก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผังเมือง 101 ‘เวนคืนที่-เอื้อนายทุน-น้ำท่วมเมือง’ ในวันที่ กทม. หวังเปลี่ยนโฉม https://thestandard.co/town-planning-101/ Tue, 06 Feb 2024 13:39:06 +0000 https://thestandard.co/?p=896810 ผังเมือง 101

“หัวใจของผังเมืองรวมฯ คือ เราต้องการสื่อสารให้เข้าใจตรง […]

The post ผังเมือง 101 ‘เวนคืนที่-เอื้อนายทุน-น้ำท่วมเมือง’ ในวันที่ กทม. หวังเปลี่ยนโฉม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผังเมือง 101

“หัวใจของผังเมืองรวมฯ คือ เราต้องการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันว่า บ้านคุณอยู่ส่วนไหน ถนนจะเกิดขึ้นตรงไหน อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทุกคนต้องรู้อนาคตในภาพเดียวกัน แล้วมันจะเกิดการทำงานร่วมกันของภาครัฐ เอกชน และประชาชน”

 

THE STANDARD ได้รวบรวมทุกข้อสงสัย ปมปัญหา และข้อร้องเรียน ที่เกิดขึ้นหลังมีการจัดทำ ‘ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ เพื่อหาคำตอบกับ รศ.ดร.นพนันท์ ตาปนานนท์ นักวิชาการจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นหนึ่งในผู้จัดทำร่างผังเมืองรวมฯ ฉบับดังกล่าว

 

สรุปแล้วในผังเมืองรวมฯ ฉบับนี้ทำเพื่อใคร ประโยชน์คืออะไร และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดกับกรุงเทพมหานคร

 

รู้จักผังเมืองรวมฯ

 

รศ.ดร.นพนันท์ เริ่มต้นอธิบายที่มาของการจัดทำผังเมืองรวมฯ ว่า ผังเมืองรวมฯ ฉบับปี 2518 ถูกใช้มาต่อเนื่องจนถึงปี 2562 แต่เดิมประกอบด้วย 4 ผังย่อย คือ

 

– แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภท 

– แผนผังแสดงที่โล่ง

– แผนผังแสดงโครงการการคมนาคมและการขนส่ง

– แผนผังแสดงโครงการกิจการสาธารณูปโภค (ภายหลังเพิ่มเติมคำว่า ‘สาธารณูปการและบริการสาธารณะ’ ต่อท้าย)

 

สิ่งต่างๆ ที่ต้องใช้ในการวางแผนเมือง นักวางผังเมืองจะต้องพยายามบรรจุเข้าไปใน 4 ผังดังกล่าวให้ได้ เช่น การทำพื้นที่รับน้ำ หรือ Flood Way หรือแม้แต่แผนป้องกันน้ำท่วมก็ถูกใส่ลงไปในส่วนแผนผังที่โล่ง 

 

ต่อมาในผังเมืองรวมฯ ฉบับล่าสุดปี 2562 ทางคณะกรรมการผังเมืองมีมติจัดทำผังย่อยอีก 2 ผังเข้าไปในผังเมืองรวมฯ เพื่อการจัดสรรพื้นที่แบบลงรายละเอียดมากขึ้น ได้แก่

 

– แผนผังแสดงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

– แผนผังแสดงผังน้ำ

 

รศ.ดร.นพนันท์ ระบุว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในส่วนของผังที่โล่งคือจะไม่มีเรื่องการจัดการน้ำอีกต่อไป แต่ผังที่โล่งจะแสดงการจัดสรรที่ดินเพื่อนันทนาการ อาทิ สวนสาธารณะที่โล่งริมถนน ริมคลอง นอกจากนี้ยังบรรจุสวนขนาดย่อยตามนโยบายสวน 15 นาทีเข้าไปด้วย

 

ทำไมต้องเพิ่มผังทรัพยากรฯ และผังน้ำ

 

รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวว่า ตามปกติเวลาเราดูผังเมืองรวมฯ ก็มักจะดูที่แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพราะจะบอกว่าบ้านเราอยู่โซนไหน มีข้อกำหนดก่อสร้างอย่างไร ซึ่งผังแสดงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติฯ ความจริงแล้วถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะผังนี้จะทำให้เห็นการสงวนพื้นที่ป่าชายเลน แหล่งความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งทะเลแถวบางขุนเทียน ซึ่งมีเหลือน้อยมากแล้ว 

 

และยังแสดงให้เห็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่สุดฝั่งขวาของกรุงเทพฯ (มีนบุรี-หนองจอก) ซึ่งพื้นที่ส่วนนั้นกำลังมีการเสนอนโยบายให้ กทม. รักษาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่การเกษตร เพื่อเป็นพื้นที่เลี้ยงคนกรุงเทพฯ ให้ได้ 

 

“เราไม่เคยพูดถึงว่าที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ ต้องกินของไกลแค่ไหน สดสะอาดแค่ไหน ผ่านกระบวนการใดมา ฉะนั้นเราควรส่งเสริมเกษตรกรให้สร้างผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้กินของที่ดี สะอาด ปลอดภัย นี่คือการเอื้อประโยชน์ระหว่างคนเมืองกับคนเกษตร” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

กทม. ควรส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวและพืชสวน สนับสนุนการเลี้ยงประมงน้ำจืดและประมงน้ำกร่อยในพื้นที่ กทม. ผลที่ได้นอกจากแหล่งอาหารสดใหม่ใกล้ผู้บริโภคคือ เราไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรในการขนส่ง ไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึงคนกิน ซึ่งเรื่องนี้ยังเกี่ยวโยงกับเรื่องปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคขนส่งด้วย

 

แต่ทั้งนี้ เราเองต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มีพื้นที่เพื่อการเกษตรต้องการทำเกษตร ฉะนั้น กทม. ควรสนับสนุนให้เจ้าของที่ขายที่ให้กับเกษตรกร

 

เรื่องของผังน้ำ รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความสนใจเช่นกัน เพราะการเพิ่มผังย่อยนี้ขึ้นมาสืบเนื่องจากพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำที่มีการตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ต่อมาคณะกรรมการฯ ชุดนี้ได้หารือกับผู้จัดทำผังเมืองรวมฯ ว่าต้องสร้างผังน้ำแยกออกมา เพื่อให้เกิดการจัดสรรพื้นที่รับน้ำและการสงวนรักษาคูคลอง

 

ซึ่งในผังน้ำมีการแสดงพื้นที่ คาบอุบัติอุทกภัย หรือระยะเวลาครบรอบของการเกิดน้ำท่วมเมือง ตัวอย่างเช่น พื้นที่หนึ่งมีสัญลักษณ์แสดงคาบอุบัติ 10 ปี หมายความว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม ซึ่งความรุนแรงเทียบเท่าน้ำท่วมในรอบ 10 ปี

 

ซึ่งเหตุอุทกภัยเมื่อปี 2554 ถือเป็นคาบอุบัติ 75 ปี แต่ปัจจุบันด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลก โลกร้อนขึ้น นานาชาติเริ่มหารือถึงการเกิดคาบอุบัติจากภัยธรรมชาติในรอบ 400-500 ปี เช่น ปี 2566 ที่นับเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป จัดเป็นคาบอุบัติในรอบ 125,000 ปี 

 

รศ.ดร.นพนันท์ อธิบายถึงประเด็น Flood Way ว่า โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนที่กำลังหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป เนื่องจากโครงการนี้มีมาตั้งแต่ปี 2526 แผนของ Flood Way คือการระบายน้ำจากกรุงเทพฯ ผ่านสมุทรปราการออกไปอ่าวไทย แต่โครงการนี้กรุงเทพฯ ออกข้อบัญญัติควบคุมจัดพื้นที่ Flood Way จริง แต่ปรากฏว่าจังหวัดสมุทรปราการไม่ออกข้อบัญญัติ โครงการนี้จึงเป็นเรื่องคาราคาซังที่มีมาตั้งแต่ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับแรก 

 

ในผังเมืองรวมฯ ฉบับล่าสุดนี้ยังแสดงถึงพื้นที่ Flood Way ทำให้มีแรงต้านจากประชาชนมาเรื่อยๆ เพราะคนในพื้นที่รู้สึกถูกลิดรอนสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้พื้นที่ Flood Way ก็มีประชาชนทยอยเข้าไปอาศัย มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ซึ่งคณะกรรมการผังเมืองฯ ยืนยันว่าพยายามจะปรับลด Flood Way ให้ได้มากที่สุด แต่ต้องย้อนกลับไปที่ภาครัฐด้วยว่าพร้อมจะใช้งบประมาณสูง ลงทุนในพื้นที่หรือไม่ เพราะเมื่อคืนพื้นที่ก็ต้องมีสาธารณูปโภครองรับการอยู่อาศัย

 

“การมี Flood Way ต้องมีเส้นทางต่อเนื่องไปจนถึงทะเล ถ้าระบายน้ำออกไม่ได้มันก็จะกลายเป็นแค่พื้นที่รับน้ำทำให้เกิดหายนะ พื้นฐานการระบายน้ำต้องทำจากล่างขึ้นบน ถ้าข้างล่างไม่ทำ ข้างบนมีน้ำมาก็จะกระจุกที่เดียว” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

สรุปแล้วประโยชน์ของผังน้ำมีเพื่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่ได้รับทราบว่า บ้านของตนอยู่ในพื้นที่ระดับความปลอดภัยจากกระแสน้ำมากขนาดไหน 

 

“นี่คือหัวใจของผังเมืองรวมคือเราต้องการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันว่าบ้านคุณอยู่ส่วนไหน ถนนจะเกิดขึ้นตรงไหน อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทุกคนต้องรู้อนาคตในภาพเดียวกัน แล้วมันจะเกิดการทำงานร่วมกันของภาครัฐ เอกชน และประชาชน” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

รศ.ดร.นพนันท์ ยกตัวอย่างการบริหารงานของต่างประเทศว่า ภาครัฐมีหลักการคือ เก็บภาษีจากผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบ (พื้นที่น้ำท่วมไม่ถึง) รวบรวมไว้เพื่อไปจ่ายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีประชาชนอยู่ในพื้นที่คันป้องกันน้ำท่วมจะต้องเสียภาษีเพิ่ม เพื่อเอาเงินส่วนนี้ไปชดเชยให้กับผู้ที่ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยไม่มีหลักการนี้ เพราะต้องยอมรับตามตรงว่าไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาเก็บภาษีเพิ่ม

 

แดงแบบใด-แดงจุดเดียว

 

ปมปัญหาพื้นที่พาณิชยกรรม (พื้นที่สีแดงในผังเมือง) รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวว่า ประเด็นสนามไดรฟ์กอล์ฟนอร์ธปาร์ค เขตหลักสี่ พื้นที่พาณิชยกรรมส่วนนี้ถูกจัดสรรตั้งแต่แผนการปรับปรุงผังเมืองครั้งที่ 1 เมื่อปี 2542 ในครั้งนั้นพื้นที่นี้เดิมทีถูกจัดให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยแบบหนาแน่นน้อย (พื้นที่สีเหลืองในผังเมือง)

 

จากนั้นช่วงขั้นตอนปิดประกาศ 90 วันที่เปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นคำร้องขอให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิก ข้อกำหนดทางนอร์ธปาร์ค ได้ยื่นเอกสารสิทธิ์ขอให้เปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวเป็นโซนพาณิชยกรรม (สีแดง) โดยระบุเหตุผลว่า มีการประกอบกิจการตั้งสำนักงานขอให้เป็นพื้นที่พาณิชย์ ซึ่งทางกรรมการผังเมืองฯ ไม่ได้ติดข้องและเปลี่ยนแปลงสีให้

 

ต่อมาในการปรับปรุงผังเมืองปี 2556 ทางนอร์ธปาร์คได้ยื่นหนังสือโฉนดมาในช่วงปิดประกาศ 90 วันเช่นเดิม โดยมีการร้องว่า ตามพื้นที่ที่เคยขอให้ปรับเป็นโซนสีแดง ขอให้คณะกรรมการผังเมืองฯ พิจารณาปรับเพิ่มพื้นที่สีแดงตามโฉนด เนื่องจากเป็นกิจการเดียวกัน ซึ่งทางกรรมการผังเมืองฯ ก็ได้ปรับพื้นที่สีแดงเพิ่มตามโฉนดที่ยื่นมา

 

รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวว่า ช่องกฎหมายผังเมืองเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ยื่นคำร้องในช่วงปิดประกาศ 90 วันได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำผลการพิจารณาประกอบคำร้องยื่นต่อคณะกรรมการผังเมืองฯ แต่ทั้งนี้ นัยของกฎหมายผลพิจารณาจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผังเมืองได้ แต่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิก ในส่วนข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ของผังเมืองรวมได้เท่านั้น (เปลี่ยนสีในผังเมืองไม่ได้)

 

“การกระทำในอดีตที่ผ่านมาเป็นข้อผิดพลาด ตนในฐานะฝ่ายวิชาการก็มีการท้วงติงมาตลอดว่าไม่สามารถแก้ไขผังเมืองได้” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

ส่วนพื้นที่สีแดงในเขตคลองสามวาที่มีจุดเดียวเด่นขึ้นมา เป็นไปตามนโยบายผังเมืองปี 2556 โดยข้อคิดเห็นจากคณะกรรมการฯ มองว่า ในพื้นที่อาศัยขนาดใหญ่ควรจะมีการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งของพาณิชยกรรมและชุมชนขึ้น เพราะเกิดคำถามว่า ในพื้นที่อยู่อาศัยประชากรเหล่านี้จะไปซื้อของที่ไหน เรื่องนี้คือหลักการของผังเมืองคือ ต้องมีการกระจายเซอร์วิสเซ็นเตอร์

 

รศ.ดร.นพนันท์ ระบุว่า การมีหัวเมืองในลักษณะนี้ เพื่อที่ประชาชนในพื้นที่จะได้มีจุดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ในขั้นตอนต่อไปที่กรุงเทพมหานครควรทำคือ เข้าไปพูดคุยกับชุมชน ทำให้เกิดย่านตลาดและการค้า

 

เวนคืนที่อยู่และถนนให้เป็นที่พอใจทุกฝ่าย

 

การเวนคืน ตามหลักการเราต้องเข้าใจก่อนว่า กว่าจะมาเป็นถนนที่เราใช้กันทุกวันนี้ทุกที่ล้วนต้องผ่านการเวนคืน การเวนคืนถนนเป็นเรื่องปกติที่มีมาตั้งแต่อดีต คนถูกเวนคืนก็เดือดร้อน ซึ่งตามหลักผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมีค่าชดเชยที่เป็นธรรม

 

“การเวนคืน ขยายถนน การเปลี่ยนแปลงของเมือง เกิดขึ้นตลอดเวลา ยกเว้นพื้นที่อนุรักษ์ แต่โจทย์คือจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

รศ.ดร.นพนันท์ อธิบายว่า การเวนคืนทางหลวงท้องถิ่นต้องอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562

 

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง คณะกรรมการผังเมืองฯ มีหน้าที่แจ้งโครงการสิ่งที่จะสร้างเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจเวนคืน เช่น สิ่งที่จะเกิดกับซอยอารีย์คือ ผังเมืองมีการระบุโครงการว่าพื้นที่ดังกล่าวมีถนนความกว้าง 12-16 เมตร จากนั้นทางฝ่ายโยธาของสำนักงานเขตจะต้องไปของบประมาณ เพื่อมาดำเนินการตามแผนของผังเมืองที่วางไว้ แต่คณะกรรมการผังเมืองฯ ไม่สามารถไปเวนคืนที่เองได้

 

รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวว่า เรื่องค่าชดเชยถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศเรา ที่ผ่านมาเราไม่ได้ให้ค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม ซึ่งราคาที่เป็นธรรมต้องไม่ใช่ราคาประเมิน เพราะราคาประเมินคือราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด

 

วิธีแก้ปัญหาในเรื่องนี้คือ เมื่อรัฐมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากพื้นที่ รัฐต้องจ่ายค่าชดเชยตามความรู้สึกของเจ้าของที่ ไม่ใช่การประเมิน ต่างประเทศจะใช้ ‘นโยบายการบังคับซื้อ’ เพราะฉะนั้นผู้ที่ถูกเวนคืนจะได้ค่าความเป็นธรรม เท่ากับราคาขายอสังหาริมทรัพย์นั้นจริงๆ 

 

“รัฐเองก็ต้องเวนคืนตามความจำเป็น และให้ความเป็นธรรมในการจ่ายค่าชดเชย” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

ประชาชนคือหู-ตาในการดูแลเมือง

 

สำหรับข้อกังวลของประชาชน เรื่องมาตรการเพิ่มอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (FAR Bonus) รศ.ดร.นพนันท์ ระบุว่า หากเอกชนใดที่ได้รับประโยชน์จากที่ดินเพิ่มขึ้น จะต้องมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ เรื่องนี้มีระบุไว้ในกฎหมายผังเมืองชัดเจน 

 

ในกฎหมายผังเมือง มาตรา 99 ระบุไว้ว่า จะมีการตรวจสอบติดตามของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน ถ้าเอกชนไม่ปฏิบัติตามจะเริ่มจากการตักเตือน แต่สุดท้ายแล้วหากไม่ปฏิบัติ ในที่สุดเอกชนรายนั้นจะถูกดำเนินคดีอาญา

 

“ประชาชนคือผู้ที่ช่วยตรวจสอบความผิดปกติที่ดีที่สุด เช่น ประชาชนที่อาศัยในคอนโด เมื่อเห็นว่าคอนโดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะต้องหารือกับนิติคอนโด จากนั้นยื่นเรื่องมาที่ กทม.” รศ.ดร.นพนันท์ กล่าว

 

รศ.ดร.นพนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเภทหนึ่งของ FAR Bonus ที่มองว่ามีประโยชน์อย่างมากคือ เรื่องการจัดให้มีพื้นที่รับน้ำ หากคอนโดสามารถเก็บน้ำฝนไว้ได้ ก็สามารถนำน้ำนั้นมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น นำมารดน้ำต้นไม้หรือทำความสะอาดพื้นที่คอนโด

The post ผังเมือง 101 ‘เวนคืนที่-เอื้อนายทุน-น้ำท่วมเมือง’ ในวันที่ กทม. หวังเปลี่ยนโฉม appeared first on THE STANDARD.

]]>
จุดเริ่มต้น-จุดจบ ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ’ ที่เถียงกันอยู่ ได้ใช้ตอนไหน? https://thestandard.co/bangkok-city-plan-info/ Wed, 10 Jan 2024 01:00:28 +0000 https://thestandard.co/?p=885905

THE STANDARD ไล่เลียงจุดเริ่มต้นและบทสรุปของการทำ ‘ผังเ […]

The post จุดเริ่มต้น-จุดจบ ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ’ ที่เถียงกันอยู่ ได้ใช้ตอนไหน? appeared first on THE STANDARD.

]]>

THE STANDARD ไล่เลียงจุดเริ่มต้นและบทสรุปของการทำ ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนไหน และกว่าจะได้ประกาศใช้ ผังเมืองรวมฯ ฉบับนี้ต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นและปรับปรุงกันกี่รอบ

 

 

The post จุดเริ่มต้น-จุดจบ ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ’ ที่เถียงกันอยู่ ได้ใช้ตอนไหน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมคำตอบปมร้อน ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ ทำเพื่อประชาชนหรือนายทุน? https://thestandard.co/answers-of-bangkok-city-plan-rev-4/ Tue, 09 Jan 2024 07:09:55 +0000 https://thestandard.co/?p=885724

วันนี้ (9 มกราคม) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า […]

The post รวมคำตอบปมร้อน ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ ทำเพื่อประชาชนหรือนายทุน? appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (9 มกราคม) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นพนันท์ ตาปนานนท์ นักวิชาการจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ชูขวัญ นิลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง จัดแถลงข่าวตอบประเด็นที่สังคมสงสัยว่า ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ เป็นการจัดทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือกลุ่มนายทุน

 

โดยสืบเนื่องมาจากการประชุมรับฟังความคิดเห็น และปรึกษาหารือกับประชาชนเกี่ยวกับการวางและจัดทำผังเมืองรวมฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ซึ่งภาพรวมความคิดเห็นของประชาชนเป็นไปในทิศทางที่ ‘ไม่เห็นด้วย’

 

ทำไมต้องมีแผนปรับปรุงครั้งที่ 4?

 

วิศณุกล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม. ใช้ผังเมืองรวมฯ ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2556 เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ตามปกติการปรับปรุงผังเมืองจะต้องปรับเปลี่ยนทุก 5 ปี แต่ด้วยปี 2562 มี พ.ร.บ.ผังเมืองฯ ตัวใหม่ออกมา ที่กำหนดว่าต้องมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากกฎหมายเดิมที่มี 4 แผนผัง (แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน, แผนผังแสดงที่โล่ง, แผนผังแสดงโครงการคมนาคมและการขนส่ง, แผนผังแสดงโครงการกิจการสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และบริการสาธารณะ)

 

โดยกฎหมายใหม่บังคับให้มีเพิ่มอีก 2 ผัง (แผนผังแสดงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, แผนผังแสดงผังน้ำ) ต่อมาในปี 2564 กทม. จึงดำเนินการทำร่างผังเมืองใหม่ (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) ขึ้น

 

ผังรวมเมืองฯ นี้ประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วย วิศณุกล่าวว่า ผลตอบรับจากการจัดประชุมภาคประชาชน ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่าสังคมมีการตื่นตัวในเรื่องของผังเมือง ส่วนทำไมเราต้องมีการทบทวนผังเมืองทุก 5 ปี นั่นก็เพราะเมืองมีการพัฒนา มีการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เปลี่ยนไป 

 

ที่ผ่านมา กทม. เปิดรับฟังความเห็นประชาชนไม่มากพอ?

 

ชูขวัญกล่าวว่า ตามกฎหมายจะต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นก่อนทำร่าง 1 ครั้ง ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้มีการจัดประชุมภาคประชาชนไป 5 ครั้ง ผู้เข้าร่วมประมาณ 1,400 คน 

  • จัดประชุมครั้งแรกในกลุ่มปริมณฑล ช่วงเดือนเมษายน 2561 
  • จัดประชุมรายผัง คือการใช้ประโยชน์ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติฯ เดือนมิถุนายน
  • จัดประชุมด้านคมนาคมขนส่ง เดือนมิถุนายน
  • จัดประชุมเรื่องผังน้ำ ผังที่โล่ง เดือนมิถุนายน
  • จัดประชุมภาพรวมใหญ่กับประชาชนผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ประกอบการ 500 คน เดือนกรกฎาคม

 

โดยทุกครั้งที่มีการจัดประชุมจะมีทั้งรูปแบบออนไลน์และออนไลน์ ซึ่งหลังมีร่างผังเมืองฯ เข้าสู่กระบวนการปิดประกาศ 15 วัน ตามกฎหมายบังคับว่าต้องจัดประชุมไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ทางคณะกรรมการฯ จัดทั้งหมด 7 ครั้ง เป็นการจัดในรายกลุ่มเขต 6 กลุ่มเขต ได้แก่

  • 23 ธันวาคม 2566 กลุ่มเขตตะวันออก กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง และกลุ่มเขตกรุงเทพใต้
  • 24 ธันวาคม กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ กรุงธนบุรีเหนือ และกรุงธนบุรีใต้

 

และมีการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่เป็นการประชุมรวมทั้ง 50 เขต

 

วิศณุกล่าวเสริมว่า หลังจากนี้คณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมฯ จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นประชาชน ทั้งจากการจัดประชุม และที่ส่งมาทางออนไลน์เพื่อประมวลความเห็นส่งต่อให้อีก 3 ส่วนคือ คณะกรรมการผังเมืองจังหวัด กรมโยธาธิการและผังเมือง และกระทรวงมหาดไทย

 

ทั้งนี้ กทม. รวมทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นเพียงคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ไม่ได้เป็นคณะกรรมการผังเมืองเหมือนในจังหวัดอื่น

 

พื้นที่สีแดงที่ ‘เพิ่มขึ้น-มีอยู่’ อย่างเฉพาะเจาะจงในผังเมืองเพื่อนายทุนหรือไม่

 

พื้นที่สีแดงในผังเมืองคือ พื้นที่พาณิชยกรรม ที่ตั้งศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การบริการ นันทนาการ เป็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาเพื่อการเติบโตของเมืองสูงสุด

 

นพนันท์อธิบายว่า หลักการแบ่งประเภทที่ดินหรือการจัดวางพื้นที่จะต้องพิจารณาจากรูปแบบการอาศัยอยู่ของประชากร อัตราการจ้างงาน จำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งการเปลี่ยนประเภทการใช้ประโยชน์ของที่ดิน (สีพื้นที่ในผังเมือง) ก็คือการสะท้อนว่าพื้นที่นั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการเติบโตภาครัฐก็ต้องเตรียมพื้นที่ในการรองรับ

 

กรณีแดงเดียว (พื้นที่พาณิชยกรรมจุดเดียวท่ามกลางพื้นที่อยู่อาศัยปกติ) นพนันท์ระบุว่า เราใช้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) มาช่วยวิเคราะห์ เนื่องจากทุกวันนี้เรามีการพูดถึงระบบโครงสร้างของเมืองที่จะมีการปรับจากรูปแบบศูนย์กลางเดียวใน 1 เมือง ที่ทำให้ประชาชนต้องเดินทางจากชานเมืองเข้ามาส่วนกลางเพื่อหางานทำ ผลคือเมื่อเมืองขยายไปเรื่อยๆ การมีศูนย์กลางเดียวจะก่อให้เกิดปัญหา เช่น การจราจรติดขัด

 

ฉะนั้นการกระจายพื้นที่พาณิชยกรรม เหมือนการสร้างหลายศูนย์กลางในเมือง เป็นการบริหารอุปสงค์ อุปทาน ลดการเดินทาง คนในเมืองเกิดการวางระบบ มีการกระจายตัว ตัวอย่างที่ทำแล้ว เช่น เขตมีนบุรี ที่มีการคมนาคมเข้าถึง

 

วิศณุกล่าวเสริมว่า หลักการจัดพื้นที่พาณิชยกรรม กทม. ยืนยันได้ว่าไม่ได้เลือกกลุ่มทุนเป็นที่ตั้ง แต่เอาปัญหาสาธารณะเป็นหลัก แต่ด้วยกรุงเทพฯ ไม่ได้มีที่ดินใหม่ ฉะนั้นแล้วหากที่ดินของคุณได้รับจัดสรรประเภทที่ดินให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น คุณเองก็ต้องแบ่งพื้นที่ให้สาธารณะใช้เพิ่มขึ้นด้วย 

 

สรุปคือ สิทธิที่คุณได้รับจากการปรับผังที่ดิน สุดท้ายแล้วพื้นที่ที่ได้เพิ่มจะถูกใช้เพื่อสาธารณะ 

 

ในส่วน กทม. ผังเมืองใหม่ที่พยายามแก้ฉบับนี้จะนำมาแก้ไขเรื่องทางเท้าแคบเพราะมีตีนสะพานลอย หรือมีหม้อแปลงไฟฟ้า จากนี้เป็นไปได้ว่าตีนสะพานลอย หรือหม้อแปลงไฟฟ้าเหล่านั้นจะเข้าไปอยู่ในพื้นที่เอกชนแทน เพิ่มพื้นที่สาธารณะ

 

พื้นที่แดงล้อมรอบสนามกอล์ฟเขตหลักสี่ นพนันท์ระบุเพียงว่า เป็นลักษณะเช่นนี้ตั้งแต่ผังรวมเมืองฯ ปรับปรุงครั้งที่ 1

 

การตัดผ่านถนนใหม่-เพิ่มความกว้างถนน เวนคืนบ้านเรือนประชาชน

 

วิศณุกล่าวว่า ความกังวลในส่วนนี้ถือเป็นส่วนรายละเอียดลึกขึ้น การที่ผังรวมเมืองเพิ่มเติมเรื่องถนนเข้าไป เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาว่ากระทบที่ดินของตนเองอย่างไร และมีสิทธิที่จะโต้แย้งและทักท้วงกลับมา 

 

ฉะนั้น ข้อกังวลที่ว่าบ้านของตนเองจะถูกเวนคืนนั้น ขอให้เข้าใจว่าสามารถโต้แย้งได้ ส่วนบ้านที่จะสร้างใหม่หากเป็นไปตามผังเมืองที่จัดทำขึ้นนี้ ก็ต้องเว้นระยะจากถนนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความแออัดให้เมืองได้มากเพราะถนนกว้างขึ้น

 

อนาคตโครงการฟลัดเวย์ พื้นที่กรุงเทพฯ ตะวันออก

 

นพนันท์กล่าวว่า แนวฟลัดเวย์ตะวันออกที่ผ่านมาถูกใช้เป็นพื้นที่ระบายน้ำจริง แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป พื้นที่ทางใต้ของฟลัดเวย์คือสนามบินสุวรรณภูมิ ตามรายงานมหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ ระบุว่าสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัยอันดับ 1 ของโลก ฉะนั้นแล้วผังเมืองฉบับปรับปรุงล่าสุดนี้จะต้องมีการพิจารณาว่าจากนี้กรุงเทพฯ จะต้องระบายน้ำอย่างไร

 

ปัจจุบันคลองในกรุงเทพฯ สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่ากรุงเทพฯ ระบายน้ำผ่านจังหวัดสมุทรปราการไม่ได้ จึงต้องผันน้ำระยะทางที่ไกลมาก (ผ่านคลองไปแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล) ทำให้ต้องศึกษาการปรับระบบระบายน้ำต่อไป

 

ฟลัดเวย์นี้เราจะเริ่มปรับลดพื้นที่ คืนพื้นที่ให้ประชาชน ตลอด 20 ปีของโครงการนี้ถือว่าคุ้มทุนแล้ว

 

ผังรวมเมืองฯ ปรับปรุงใหม่จะแล้วเสร็จปี 2568 หรือไม่

 

วิศณุกล่าวว่า จะใช่ปี 2568 หรือไม่ ส่วนนี้เป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจของ กทม. เพราะ กทม. เป็นเพียงกรรมการที่ปรึกษาฯ ที่ต้องส่งไปที่กรมโยธาธิการฯ และ กระทรวงมหาดไทย 

 

เราคงไม่สามารถควบคุมเวลาได้ แต่ถ้าดูจากในอดีตการปรับปรุงแต่ละครั้งจะใช้เวลาที่ 2 ปี

 

ช่องทางการแสดงความคิดเห็นต่อผังรวมเมืองฯ

 

เมื่อถามว่าจะมีการขยายระยะเวลาให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพราะจากการประชุมล่าสุด ส่วนมากยังไม่เห็นด้วยกับร่างผังรวมเมืองฯ นี้

 

วิศณุกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขยายระยะเวลา จากเดิมที่จะปิดรับฟังความเห็นวันที่ 22 มกราคม 2567 ส่วนตัวคาดว่าจะมีการขยายเวลาออกไปอาจถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ กทม. ขอหารืออีกครั้ง และยืนยันว่าพร้อมที่จะรับฟังทุกปัญหา

 

ในส่วนของช่องทางการแสดงความคิดเห็น ได้แก่ 

  • ยื่นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยตนเองต่อเจ้าหน้าที่สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง หรือส่งทางไปรษณีย์ไปที่ สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร เลขที่ 45 ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 
  • ยื่นทางเว็บไซต์ของสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร https://webportal.bangkok.go.th/cpud  
  • ยื่นทางเว็บไซต์โครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร https://plan4bangkok.com โทรศัพท์ 0 2354 1275

 

The post รวมคำตอบปมร้อน ‘ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ปรับปรุงครั้งที่ 4’ ทำเพื่อประชาชนหรือนายทุน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก้าวไกลชูป้าย ‘กำแพงกันคลื่น ต้องทำ EIA’ กลางสภา รัฐบาลวุ่น เจอฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม ก่อนสั่งพักไปถกต่อ https://thestandard.co/house-of-representatives-meeting-200864/ Sat, 21 Aug 2021 02:46:13 +0000 https://thestandard.co/?p=527499 House of Representatives

วานนี้ (20 สิงหาคม) กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี สมาชิกสภาผู้ […]

The post ก้าวไกลชูป้าย ‘กำแพงกันคลื่น ต้องทำ EIA’ กลางสภา รัฐบาลวุ่น เจอฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม ก่อนสั่งพักไปถกต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
House of Representatives

วานนี้ (20 สิงหาคม) กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเสนอขอตัดลดงบประมาณกระทรวงมหาดไทยลงจากเดิม 10% เนื่องจากโครงการที่อยู่ในหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทยมีมากมายที่คิดว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม มีความซับซ้อน ไม่มีความพร้อม และไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้วิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่คือการแพร่ระบาดของโควิด เช่น กรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับงบประมาณในปี 2565 จำนวน 1.9 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการต่อเนื่องผูกพันและโครงการใหม่ที่มีทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและการดำเนินโครงการใหม่รวม 12 โครงการ คิดเป็นงบประมาณเกือบ 150 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบฯ การศึกษาในความเป็นไปได้จำนวน 6 โครงการ 49 ล้านบาท และเพื่อดำเนินการใหม่ 6 โครงการ งบประมาณ 100 ล้านบาท แล้วก็จะกลายเป็นงบประมาณผูกพันในงบประมาณปีถัดไป หากผ่านการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้

 

ดังนั้นตนจึงขอเสนอตัดงบประมาณในโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นริมชายหาด เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีผลการศึกษาออกมามากมายว่า ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งได้ทุกมิติ และจะส่งผลให้เกิดปัญหาในพื้นที่ข้างเคียงด้วย และท้ายที่สุดอาจจะเป็นโครงการที่ไม่มีที่สิ้นสุด และโครงการในลักษณะนี้ได้มีพี่น้องประชาชนยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองแล้วหลายคดี ซึ่งในบางคดีทางศาลปกครองได้มีคำสั่งให้หยุดการดำเนินการชั่วคราวด้วย

 

ขณะเดียวกันบางโครงการมีโครงสร้างที่ซับซ้อนกับโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว และมากไปกว่านั้นในบางโครงการยังไม่จบกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า ท้ายที่สุดประชาชนเห็นควรว่าจะให้ดำเนินการหรือไม่ แต่กลับมีการนำเสนอโครงการเข้ามาในงบประมาณประจำปี 2565 นี้ เพื่อทำให้ผ่านการพิจารณาของสภาและให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำไปอ้างเพื่อดำเนินโครงการได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการมัดมือชกไปยังพี่น้องประชาชนหรือไม่ เช่น โครงการอ่าวดงตาล อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะเห็นว่า โครงการดังกล่าวมีโครงสร้างป้องกันตลิ่งอยู่แล้ว จะทำให้เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนในโครงการเดิมหรือไม่ คณะกรรมาธิการวิสามัญจะต้องตอบประเด็นเรื่องนี้ให้ได้

 

ทั้งนี้ ในอีกหลายโครงการที่ยังไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเลย แต่ได้มีการเสนอของบประมาณเข้าสู่สภาแล้ว เรื่องนี้ก็จะต้องได้รับคำอธิบายด้วย เช่น โครงการบ้านผาแดง หาดทรายรี, โครงการบางกะไชย แหลมสิงห์ และโครงการอ่าวดงตาล สัตหีบ ซึ่งทั้ง 3 โครงการนี้เพิ่งจะมีการรับฟังความเห็นจากประชาชนเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะถือเป็นโครงการที่ไม่มีความพร้อมในการดำเนินการหรือไม่

 

นอกจากนั้นกัญจน์พงศ์ได้ยกตัวอย่างโครงการท่าขึ้น ท่าศาลา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า บริเวณดังกล่าวแทบจะไม่มีบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนอาศัยอยู่เลย มีเพียงหาดทรายและถนนเท่านั้น ท่านจะนำโครงการก่อสร้างกำแพงกัดเซาะชายฝั่งที่มีมูลค่าก่อสร้างกิโลเมตรละ 100 ล้านบาท ไปปกป้องถนนที่มีค่าก่อสร้างเพียงกิโลเมตรละ 80 ล้านบาท ทั้งที่เบี้ยผู้สูงอายุของประเทศไทยในขณะนี้ได้เพียงเดือนละ 600 บาท หรืออาหารกลางวันที่เด็กและเยาวชนได้เพียงมื้อละ 21 บาท

 

ซึ่งหากจะเปรียบเทียบงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกัดเซาะชายฝั่งที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทกับโควิด เราจะสามารถจัดซื้อวัคซีน Pfizer โดสละ 422 บาท ได้กี่โดส, จัดซื้อชุดตรวจ ATK ชุดละ 67 บาท ได้หลายชุด, ยาฟาวิพิราเวียร์เม็ดละ 125 บาท ที่ผู้ป่วย 1 เคส ต้องใช้ยา 50 เม็ด เคสหนึ่งใช้เงิน 6,250 บาท จะสามารถช่วยชีวิตคนได้ 16,000 คน

 

กัญจน์พงศ์กล่าวด้วยว่า ตนมีความกังวลในโครงการที่ไม่ได้จัดทำ EIA ในโครงการจัดทำกำแพงกัดเซาะชายหาดที่ได้รับข้อยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2556 จากนั้นจึงเป็นการระบาดในหมู่การจัดทำกำแพงกันคลื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอรายงานผลการศึกษา ประเด็นดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้ชะลอโครงการในลักษณะนี้ออกไปก่อน เพื่อขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2556 และเพื่อให้โครงการในลักษณะนี้จะต้องผ่านการจัดทำ EIA ก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการอภิปรายของกัญจน์พงศ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมกันชูแผ่นกระดาษที่มีข้อความว่า ‘กำแพงกันคลื่น ต้องทำ EIA’ #ปกป้องหาดดอนทะเล กลางห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร

 

ขณะที่วันนี้ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในมาตรา 22 งบประมาณในส่วนของกระทรวงแรงงานและหน่วยงานในกำกับ อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส. จังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายถึงการขอปรับลดงบประมาณกระทรวงแรงงาน ต่อมา นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วง โดยขอให้อภิปรายอยู่ในขอบเขตวาระที่ 2 ขณะเดียวกันได้ประท้วงประธานในที่ประชุมขณะนั้นคือ สุชาติ ตันเจริญ ให้ควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในขอบเขต

 

จากนั้นอุบลศักดิ์ได้เสนอญัตติให้นับองค์ประชุม โดยมี ส.ส. รับรองตามข้อบังคับการประชุม โดยอุบลศักดิ์กล่าวว่า ตลอดทั้งวันในการพิจารณางบประมาณในวันที่สองนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันอยู่ประชุมพิจารณางบประมาณให้ครบองค์ประชุม ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ แต่ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล กลับไม่อยู่เป็นองค์ประชุม จึงขอเสนอนับองค์ประชุม

 

สุชาติจึงขอให้อุบลศักดิ์ถอนญัตติในการเสนอให้นับองค์ประชุม และ วีรกร คำประกอบ ส.ส. จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นขอให้ประธานในที่ประชุมทำหน้าที่ไกลเกลี่ย เพื่อไม่ให้มีการนับองค์ประชุมและนำไปสู่การปิดประชุม

 

จากนั้น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จึงเสนอให้ประธานพักการประชุมเป็นเวลา 15 นาที ก่อนประธานจะสั่งพักการประชุมในเวลาต่อมา

 

House of Representatives

House of Representatives

House of Representatives

House of Representatives

House of Representatives

The post ก้าวไกลชูป้าย ‘กำแพงกันคลื่น ต้องทำ EIA’ กลางสภา รัฐบาลวุ่น เจอฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม ก่อนสั่งพักไปถกต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประวิตร สั่งเร่งรัดแผนฟื้นฟู ‘คลองแสนแสบ’ ให้กลับมาใสสะอาด กำชับ กทม. บริหารแผนรับมือฝนปี 2564 https://thestandard.co/prawit-order-quick-rehabilitation-plan-on-saen-saeb-canal/ Mon, 09 Aug 2021 05:59:36 +0000 https://thestandard.co/?p=523252 ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (9 สิงหาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐม […]

The post ประวิตร สั่งเร่งรัดแผนฟื้นฟู ‘คลองแสนแสบ’ ให้กลับมาใสสะอาด กำชับ กทม. บริหารแผนรับมือฝนปี 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (9 สิงหาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 4/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference) โดยมี ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.), สำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เช่น กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรุงเทพมหานคร, กรมธนารักษ์, กรมควบคุมมลพิษ, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมเจ้าท่า, กรมชลประทาน, กรมโยธาธิการและผังเมือง และจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด และให้เป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด จึงให้มีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานพัฒนาและฟื้นฟูคลองแสนแสบ พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ ความก้าวหน้าการเสนอแผนปฏิบัติการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบต่อคณะรัฐมนตรีและผลการดำเนินงาน จำนวน 84 โครงการ ตามเป้าประสงค์ 5 ด้าน คือ 

 

  1. การเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน 

 

  1. การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์บริเวณคลองแสนแสบ 

 

  1. การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบ 

 

  1. การป้องกันปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรในคลองแสนแสบ

 

  1. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในคลองแสนแสบ 

 

รวมทั้งได้ติดตามผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมชลประทาน และแนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้คาดการณ์ไว้ว่าในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้จะมีปริมาณฝนตกมากกว่าค่าปกติ จึงขอให้กรุงเทพมหานครและกรมชลประทานดำเนินงานตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำร่วมกันตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านอาคารชลศาสตร์และเครื่องจักร-เครื่องมือ สำหรับการรับมือปริมาณน้ำฝนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะสามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมและคน กทม. ได้อย่างทันท่วงที 

 

ด้าน ดร.สมเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสลงพื้นที่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรการรับมือน้ำหลากในช่วงฤดูฝนในพื้นที่ภาคกลางและจุดเชื่อมต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่มีความห่วงใยต่อชาวกรุงเทพมหานครต่อปัญหาน้ำท่วมขัง และปัญหาคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบ ที่ได้สั่งการให้ สนทช. จัดทำแผนฟื้นฟูคลองแสนแสบเป็นการเร่งด่วน ซึ่งกรุงเทพมหานครและกรมชลประทานได้ร่วมกันบริหารจัดการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน อาทิ ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำและขุดลอกคูคลอง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำและเป็นการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ ในส่วนการประชุมวันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยงานปรับรูปแบบการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด สำหรับหน่วยงานที่ดำเนินการแผนปฏิบัติการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ที่ยังไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ.2 565 ขอให้เร่งรัดดำเนินการปรับแผนการขอรับจัดสรรงบประมาณจากแหล่งงบประมาณอื่นๆ มาดำเนินการแทน เช่น ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในคลองแสนแสบ โครงการปรับปรุงคลองบางขนาก เป็นต้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการไปได้ ช่วยเร่งแก้ปัญหาการระบายน้ำและคุณภาพน้ำคลองแสนแสบ เพื่อให้คลองแสนแสบสามารถกลับมาใสสะอาดและเหมาะสมกับการใช้น้ำในภาคการเกษตร และการใช้น้ำในพื้นที่ชุมชนริมฝั่งคลองในกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน

The post ประวิตร สั่งเร่งรัดแผนฟื้นฟู ‘คลองแสนแสบ’ ให้กลับมาใสสะอาด กำชับ กทม. บริหารแผนรับมือฝนปี 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>
พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 ความหวังของผังเมือง ที่ไม่ใช่แค่การระบายสีลงบนแผนที่ https://thestandard.co/town-planning-act-2562/ Tue, 08 Oct 2019 04:16:45 +0000 https://thestandard.co/?p=290190 พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าปัจจัยสำคัญของความสำเร็จคือการมีแผนท […]

The post พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 ความหวังของผังเมือง ที่ไม่ใช่แค่การระบายสีลงบนแผนที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าปัจจัยสำคัญของความสำเร็จคือการมีแผนที่ดี แต่เมื่อพูดถึงการมีเมืองที่ดีหลายคนมองข้ามแผนของเมือง

 

อนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ถึงความเข้าใจถึงผังเมืองว่าคืออะไร และสำคัญอย่างไร

 

“ผังเมืองคือแผนของเมือง หรือเป้าหมายของเมืองในอนาคต เช่น เราจะสร้างบ้านต้องมีแปลนของบ้านว่าจะสร้างอยู่ตรงไหนของที่ดิน หันหน้าไปทางไหน มีสวนอยู่ตรงไหน ที่จอดรถอยู่ตรงไหน พอในบ้านก็ต้องบอกว่าห้องน้ำอยู่ไหน ห้องนอนอยู่ไหน เมืองก็เหมือนกัน เมืองก็ต้องรู้ว่าตรงไหนควรเป็นที่อยู่อาศัย ตรงไหนควรจะเป็นแหล่งงาน ตรงไหนเป็นสวนสาธารณะ ตรงไหนเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม แล้วมันก็จะร้อยเรียงกันด้วยคมนาคมขนส่ง” 

 

แล้วถ้าเมืองมันตั้งมาก่อนจะทำอย่างไร? 

 

“ผังเมืองมีหน้าที่อยู่สองเรื่อง หนึ่ง ป้องกันปัญหา และสอง แก้ไขปัญหา ถ้าเมืองเกิดปัญหาแล้วผังเมืองมีหน้าที่แก้ไข 

 

“ผังเมืองก็จะเข้าไปแก้ไขพื้นที่ เช่น กรณีที่เมืองตรงไหนเป็นที่สูง-ต่ำ สมมติพื้นที่ตรงนี้น้ำท่วม ข้อแรก เราก็ต้องไม่สนับสนุนให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย แต่ถ้ามีบ้านเรือนตั้งอยู่แล้วก็หาทางอยู่กับมันให้ได้แล้วสร้างความแข็งแรงให้ได้ นี่คือหน้าที่ของผังเมืองในการเข้าไปแก้ปัญหา” 

 

พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

การจัดผังเมืองของประเทศไทยมีกฎหมายรองรับตั้งแต่เมื่อ 44 ปีก่อน นั่นคือ พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2518  ซึ่งแน่นอนว่ามีปัญหาในการปฏิบัติ เพราะมิเช่นนั้นการผังเมืองของไทยน่าจะเห็นผลกว่านี้ แต่ล่าสุดเรามีเครื่องมือใหม่คือ พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 ซึ่งอุดช่องว่างในหลายประเด็น

 

“ในอดีตโครงสร้างหลักๆ ของประเทศ เช่น ถนน ทางด่วน วงแหวน มันไม่มีแผนแม่บทอยู่เลย หรือไม่ไปในทางเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะสร้างชุมชนให้ดีขนาดไหน พอถึงเวลามันเชื่อมกันไม่ได้ก็เกิดปัญหา”  

 

รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า “พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2518 พบว่ามีปัญหาอยู่หลายประเด็น เช่น อาจช้าบ้าง หรือบางเครื่องมือซึ่งเราไม่สามารถทำงานได้ ก็เลยมีแนวคิดว่าถ้าเช่นนั้นลองปรับปรุงกฎหมายดู 

 

“เราเริ่มจากพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง ประชาชน นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และบรรดาแวดวงราชการว่าควรจะปรับปรุงอะไร 

 

“ประเด็นแรกมองว่า เครื่องมือที่มีอยู่เดิม เรียกว่าผังเมืองรวม อันนี้อาจจะเป็นที่รู้จักกันทั่วๆ ไป และอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีอยู่ในกฎหมายเดิม เรียกว่าผังเมืองเฉพาะ ซึ่งอันนี้ไม่เคยใช้เลย เพราะมันยาก ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติผังเมืองรวมและออกเป็นกฎกระทรวง 

 

“ความแตกต่างของกฎหมายใหม่ พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 ก็เลยแยกเครื่องมือนี้ออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือตัวเครื่องมือผังเมืองรวมเดิมและผังนโยบาย 

 

“ความต่างคือผังนโยบายก็จะมีผังนโยบายระดับประเทศ ระดับภาค ระดับจังหวัด ตามลำดับ 

 

พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

“ถามว่าทำไมต้องมีผังนโยบาย เราหวังว่าผังเมืองรวมที่มีในอดีต ตั้งอยู่บนหลักคิดที่ว่าเมื่อบ้านหลังหนึ่งมันสมบูรณ์ สร้างหลายๆ หลังก็จะสมบูรณ์เหมือนกัน แต่พอถึงเวลาแล้วเราจะเชื่อมโยงกับบ้านอื่นได้อย่างไร ซึ่งแปลว่ามันไม่มีภาพรวมของหมู่บ้านนี้อยู่ ผังนโยบายจึงเกิดขึ้นเพื่ออุดช่องว่างนี้ 

 

“ในอดีตโครงสร้างหลักๆ ของประเทศ เช่น ถนน ทางด่วน วงแหวน มันไม่มีแผนแม่บทอยู่เลย หรือไม่ไปในทางเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะสร้างชุมชนให้ดีขนาดไหน พอถึงเวลามันเชื่อมกันไม่ได้ก็เกิดปัญหา ผังนโยบายจึงเข้ามาหวังแก้ปัญหาตรงนี้ 

 

“สมมติเราบอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่เมือง เป็นพื้นที่อยู่อาศัย นโยบายหลักก็คือคุณต้องไม่เอาอุตสาหกรรมเข้ามา คุณจะต้องปล่อยให้เขาอยู่อย่างสงบสุข คุณจะต้องสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ทางรถไฟ เข้ามาเพื่อดูแล

 

“หรือถ้าเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม แปลว่าเราต้องไปอุดหนุนเขา อาจจะต้องมีพื้นที่กันระหว่างเมืองกับอุตสาหกรรม เพราะการทำอุตสาหกรรมแปลว่า เราจะต้องไปลิดรอนสิทธิประชาชน มันก็ต้องมีการชดเชยเยียวยาเข้ามาช่วยด้วย เพราะว่าเขาต้องทำหน้าที่เพื่อจะดูแลไม่ให้เมืองกับอุตสาหกรรมมันติดกัน 

“ถ้ากำหนดให้เป็นสี แล้วคนอื่นไม่มาด้วย ไม่มีประโยชน์อะไร เรานึกภาพต่อว่าต่อไปนี้เรากำหนดให้เป็นสีตรงไหน อุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ ฯลฯ เข้ามาร่วมด้วยเพื่อจะพัฒนาพื้นที่ตามเป้าหมายเดียวกันต่อไปนี้ นี่คือความคาดหวังของ พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 นี้”

มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การผังเมืองไทยทำหน้าที่เหมือนระบายสีพื้นที่ต่างๆ ไว้เฉย ๆ แต่ไม่ได้สอดคล้องกับคนที่อยู่ในเมืองจริงๆ ในทางปฏิบัติเห็นคล้อยหรือเห็นต่าง เราถาม

 

พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

อนวัชตอบว่า ผังเมืองส่วนใหญ่ในโลกมักใช้สีแทนความหมายของการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภท เช่น สีเหลืองคือที่อยู่อาศัย สีแดงคือย่านพาณิชย์ สีม่วงคืออุตสาหกรรม สีเขียวคือเกษตรกรรม เป็นสีมาตรฐาน ในโลกนี้เวลาทำผังลักษณะนี้แทนด้วยสีหมดแล้ว

 

“วิธีการทำผังเมือง ตามหลักวิชาการประกอบด้วย 3 เรื่องใหญ่ๆ

1. วิชาการ ในบรรดาที่พวกผมเรียนกันมา วิเคราะห์กายภาพ เศรษฐกิจ สังคม ประชากร ฯลฯ สังคมหรือชุมชนนี้เป็นชุมชนเกษตรกรรมหรือเป็นชุมชนอุตสาหกรรม นับถือศาสนาอะไรต่างๆ สุดท้ายคือการขยายตัวของประชากร

2. นโยบายรัฐบาล เช่นรัฐจะกำหนดพื้นที่ตรงนี้เป็นอะไร 

และ 3. ความเห็นของพี่น้องประชาชน 

 

“ดังนั้นผังเมืองคือการสร้างสมดุลระหว่างสามเรื่องนี้ มันไม่สามารถจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งได้ แต่ทุกครั้งที่เราเกิดปัญหาแปลว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบ 

 

“ถ้าเราเทียบว่าเป็นสีแล้วกำหนดให้เป็นสีลงไป สมมติกำหนดให้เป็นสีเขียวแล้วเขาบอกว่าจริงๆ ข้างในมีบ้านอยู่ แล้วมันมีสิวเป็นสีเหลืองเจาะๆ ไป มันก็จะประหลาด ความหมายคือเรามุ่งหวังให้การใช้ประโยชน์ที่ดินตรงนั้นเป็นอะไร ซึ่งจากการวิเคราะห์มามันยังคงเป็นพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม แต่ที่อยู่อาศัยซึ่งมีมาก่อนก็อยู่ไป แต่ในอนาคตถ้ามีแล้ว รัฐไม่สนับสนุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานนะ ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอย่าอยู่เลยตรงนี้ ไปอยู่ในเมืองเถอะ อันนี้คือความหมายของผังเมือง 

 

“ส่วนภาคธุรกิจหรือผู้ประกอบการ ถ้าผมกำหนดให้เป็นสีเขียว (เกษตรกรรม) กับกำหนดให้เป็นสีม่วง (อุตสาหกรรม) แน่นอนพื้นที่สีเขียวมันถูกกว่าอยู่แล้ว พื้นที่สีม่วงมันแพง คนก็อยากจะซื้อพื้นที่สีเขียวแล้วทำเรื่องการพัฒนาไปเป็นอุตสาหกรรมได้ ซึ่งแบบนี้จะเกิดขึ้นเยอะ ดังนั้นถ้าพื้นที่สีเขียวต้องชัดเจนว่ารัฐจะไม่สนับสนุนอุตสาหกรรมที่ตั้งในพื้นที่นี้

 

พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

“เราจึงต้องพยายามบอกว่าเวลาเรากำหนดให้เป็นสีเฉยๆ มันไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอก มันต้องมีคนเข้ามาร่วมด้วย ตัวผังเมืองรวมที่เราพูดถึงในอดีตมันจึงไม่เกิดผล นี่เป็นปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ว่า ถ้ากำหนดให้เป็นสีเฉยๆ แล้วคนอื่นไม่มาด้วย ไม่มีประโยชน์อะไร เรานึกภาพต่อว่าต่อไปนี้เรากำหนดให้เป็นสีตรงไหน แล้วกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ ฯลฯ เข้ามาร่วมด้วยเพื่อจะพัฒนาพื้นที่ตามเป้าหมายเดียวกันต่อไปนี้ นี่คือความคาดหวังของ พ.ร.บ.การผังเมืองฉบับใหม่นี้”

 

สุดท้ายเราถามว่า ประชาชนโดยเฉพาะการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ประโยชน์อะไรจาก พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

อนวัชกล่าวว่า “ข้อดีกว่าของกฎหมายผังเมืองใหม่ก็คือมันทำให้ต้นทางเกิดขึ้นได้ เพราะปกติเรามาทำกลางทางทุกทีเลย ปลายทางก็เกิดขึ้นไม่ได้ สองคือมันเร็วขึ้น เพราะจากพระราชบัญญัติเหลือแค่เพียงกฎกระทรวง สามคือการกระจายอำนาจ คือท้องถิ่นสามารถทำผังเองได้โดยที่เขาไม่ต้องกังวลกับกรม แต่เราคุมเขาด้วยมาตรฐาน”

 

ทั้งนี้เพราะ พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 ให้อิสระกับท้องถิ่นในการกำหนดผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมืองส่งเกณฑ์มาตรฐานไปให้ท้องถิ่นเท่านั้น

 

เช่น สมมติกำหนดเกณฑ์ว่าควรจะมีพื้นที่พัฒนาประมาณ 60% ส่วนอีก 40% ควรจะเป็นพื้นที่สีเขียว โดยใน 60% ของพื้นที่พัฒนาต้องคำนึงถึงความหนาแน่นของประชากร

 

“จะเห็นว่าส่วนกลางจะกำหนดเป็นสัดส่วนหลวมๆ ให้ท้องถิ่น พอท้องถิ่นทำเสร็จก็ต้องส่งมาให้กรมดูก่อน ว่าเข้ามาตรฐานหรือไม่ 

 

“สมมติถ้าเข้ามาตรฐาน ก็เข้ากรรมการผังเมืองจังหวัด เข้าสภาท้องถิ่นแล้วประกาศเลย 

 

“แต่ถ้าดูแล้วเห็นว่าที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ต่ำ มันไม่ควรจะมีการตั้งถิ่นฐาน ผมว่าคุณลองไปคิดดูใหม่ ท้องถิ่นกลับไปบอกว่ายืนยันจะทำแบบนี้ เรื่องก็ต้องส่งเข้ากรรมการกลาง ถ้าโอเคไม่มีปัญหา อธิบายได้ว่าตรงนี้เราเตรียมโครงการไว้หมดแล้วท้องถิ่นก็เดินต่อ มันก็จะมีระบบถ่วงดุลอยู่

 

พ.ร.บ.การผังเมือง 2562

 

“สุดท้ายเรามีความคิดว่าในระบบของสากล ผังเมืองมันจะต้องเป็นเรื่องของท้องถิ่น ก็ควรจะกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถทำผังเมืองโดยสิ้นเชิง” อนวัช กล่าว

 

สำหรับ พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 คงไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ปัญหาต่าๆ ของการผังเมืองในอดีต หากมองให้ร่วมสมัยเปรียบเหมือนการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ แก้ไขจุดบกพร่องเดิม และเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ แต่ท้ายที่สุดระบบจะสมบูรณ์ได้ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต้องทำงานสัมพันธ์กัน 

 

ถ้าผังเมืองคือซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ก็คงเป็นภาครัฐรวมถึงส่วนราชการ ยุทธศาสตร์ชาติ และประชาชนซึ่งจะต้องกำหนดทิศทาง รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับผังเมืองที่ได้กำหนดให้เป็นสีไว้ 

 

ผังเมืองที่ดีจะเกิดขึ้นได้ จากความร่วมมือทั้งภาครัฐและประชาชน ร่วมกันสร้างผังเมืองที่ดีร่วมกัน เพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือเราทุกคนนั่นเอง

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post พ.ร.บ.การผังเมือง 2562 ความหวังของผังเมือง ที่ไม่ใช่แค่การระบายสีลงบนแผนที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทำไมเชียงคานถึงเป็นเมืองต้นแบบของการผังเมือง https://thestandard.co/chaingkhan/ Thu, 26 Sep 2019 08:40:58 +0000 https://thestandard.co/?p=289961 เชียงคาน

อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย คือพื้นที่แรกที่แม่น้ำโขงไหลจา […]

The post ทำไมเชียงคานถึงเป็นเมืองต้นแบบของการผังเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชียงคาน

อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย คือพื้นที่แรกที่แม่น้ำโขงไหลจาก สปป.ลาว เข้าสู่ไทย ทำให้เกิดทัศนียภาพของเมืองริมฝั่งโขงอันทรงเสน่ห์ ขณะที่ผู้คนในเชียงคานมีอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขงที่ผสมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว 

 

ถ้าใครเคยไปเชียงคาน จะเห็นชุมชนเรือนไม้เก่า ได้บรรยากาศสงบ น่ารัก และไม่ดูน่าเบื่อ ซึ่งทั้งหมดที่เห็นในเชียงคานไม่ใช่เรื่องบังเอิญ 

 

อนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ถึงจุดเริ่มต้นของเมืองเชียงคานในปัจจุบันว่า เริ่มจากชาวเชียงคาน นำโดยผู้นำท้องถิ่น เดินเข้ามาบอกกับรัฐส่วนกลางว่านักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่เชียงคานแล้ว พวกเขายินดีที่จะให้เชียงคานเป็นหมุดหมายของการท่องเที่ยว แต่ก็ไม่อยากให้การท่องเที่ยวทำให้เชียงคานกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งเหมือนในหลายๆ เมือง

 

ผังเมืองดีๆ เริ่มที่ข้อตกลงร่วมกัน

รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเล่าว่า ผังเมืองเชียงคานเริ่มจากคนเชียงคานค่อยๆ เขียนว่าอยากได้อะไรและไม่อยากได้อะไร

 

เชียงคาน

 

“เขาเริ่มง่ายๆ โดยการทำสิ่งหนึ่งขึ้นมาก่อน เรียกว่า ‘ธรรมนูญเชียงคาน’ เช่น ห้ามนำพาหนะที่มีเสียงดังและควันดำเข้ามา ห้ามนุ่งน้อยห่มน้อยประกอบกิจการในพื้นที่ ห้ามพลอดรักในที่สาธารณะ ฯลฯ นี่คือสิ่งที่ชาวเชียงคานต้องการ 

 

“จากนั้นก็เริ่มกำหนดว่าอยากอยู่แบบนี้ คือเป็นบ้านไม้สองชั้น วัสดุต่างๆ เริ่มร่างมาว่าอยากได้อะไร กรมโยธาธิการและผังเมืองก็เข้าไปนั่งคุยทุกบ้านเลย 

 

“ในที่สุดก็ได้ออกมาว่าเขาอยากได้อาคาร ซึ่งสีหลังคาเป็นโทนสีน้ำตาล เทา ขาว สีวัสดุธรรมชาติ อยากได้สีภายนอกเป็นสีวัสดุท้องถิ่น อยากได้องค์ประกอบอาคารเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้ตอก เจาะ ฯลฯ พอเขาได้อย่างนี้ปุ๊ป ทางกรมผังเมืองก็ช่วยร่าง นี่คือสิ่งที่เราทำ 

 

“การทำผังเมืองไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ. การผังเมืองเสมอไป มันเรียกว่าการใช้มาตรการทางผังเมืองผ่านกฎหมายต่างๆ ชาวเชียงคานคุยกันได้ข้อสรุปอะไรออกมาก็ให้ท้องถิ่นประกาศเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการก่อสร้างอาคารเลย เริ่มคุยกันตั้งแต่ปี 2550 มีผลออกมาเป็นกฎหมายท้องถิ่นปี 2553 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังบังคับใช้อยู่ 

 

“ผมก็ถามว่าขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าก็โอเค มันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ก็อยู่ภายใต้กรอบของเรา มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์นี้อยู่ ยังเป็นอาคาร 2 ชั้น คุมความสูงไว้” อนวัชกล่าว

 

ผังเมืองเชียงคานทำให้ชีวิตผู้คนในท้องถิ่นดีขึ้นอย่างไร

อนวัชกล่าวอีกว่า “ทุกอย่างเลย เอาเรื่องวิชาการคือการสร้าง เนื่องจากว่าเขาอยู่มาก่อน การปลูกสร้าง การจัดแบ่งการอยู่อาศัยมันก็สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน เช่น เขาอยู่ริมแม่น้ำ อาศัยลมจากแม่น้ำ พื้นที่ถัดออกไปก็มีความสูงต่ำตามสมควร วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็จะเป็นวัสดุท้องถิ่น ในที่สุดแล้ววัสดุในอดีต เช่น ไม้ หาได้ยาก ใช้วัสดุเทียมขึ้นมาคงเอกลักษณ์ต่างๆ ไว้

 

เชียงคาน

 

“กรมโยธาธิการและผังเมืองก็เข้าไปช่วยดูเรื่องระบบสุขาภิบาล ระบบระบายน้ำเสียต่างๆ ช่วยท้องถิ่นดูด้วยว่าต่อไปพื้นที่ตรงนี้มีแผนจะกลายเป็นโฮมสเตย์ จะทำระบบระบายน้ำเสียต่างๆ เข้ามารองรับอย่างไร 

 

“ส่วนอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือทางเดินเลียบแม่น้ำโขง ณ เชียงคาน เส้นทางเลาะเลียบริมแม่น้ำโขงที่สวยงาม กรมโยธาธิการและผังเมืองมีส่วนร่วมเข้ามาปรับและพัฒนาโดยร่วมมือของคนในชุมชน ทำให้เมืองแห่งนี้น่าอยู่มากขึ้น

 

เชียงคาน

 

“แม้เชียงคานจะยังไปไม่ถึงขั้นเมืองที่กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปี แต่มันก็ถูกจำกัดไว้ด้วยลักษณะกายภาพอยู่แล้ว เพราะมีที่พักเท่านี้ แต่ว่าถ้าเข้าไปเดินเล่นก็ไปได้ 

 

“สุดท้ายเชียงคานเกิดขึ้นได้แบบทุกวันนี้เพราะประชาชน เชียงคานจึงเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าเรื่องของการผังเมืองไม่ใช่เรื่องของกฎหมายอย่างเดียว เพราะพระเอกคือประชาชนในพื้นที่ ส่วนภาครัฐเป็นฝ่ายสนับสนุน จึงทำให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เชื้อเชิญนักท่องเที่ยว และไม่เป็นภัยต่อชุมชนดั้งเดิม” อนวัชกล่าวในที่สุด

 

เชียงคาน

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post ทำไมเชียงคานถึงเป็นเมืองต้นแบบของการผังเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘บุญเก่าของเรากำลังหมดไป’ รัฐบาลย้ำหมดยุครับจ้างผลิต ดันอีอีซี หวังไทยผนึกอาเซียนเป็นทางเลือกที่ 3 https://thestandard.co/next-step-thailand-eec/ https://thestandard.co/next-step-thailand-eec/#respond Thu, 15 Nov 2018 05:22:57 +0000 https://thestandard.co/?p=147947

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใน […]

The post ‘บุญเก่าของเรากำลังหมดไป’ รัฐบาลย้ำหมดยุครับจ้างผลิต ดันอีอีซี หวังไทยผนึกอาเซียนเป็นทางเลือกที่ 3 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรรมการเฉพาะกิจเพื่อการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กล่าวในงาน Next Step Thailand: EEC ยุทธศาสตร์ไทย เชื่อมโลก จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและเครือเนชั่น โดยชี้ว่า ขณะนี้มีสองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกคือประเทศจีนและอินเดีย มีขนาดและอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก นอกจาก 2 ประเทศนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญคือการเป็นทางเลือกที่ 3 ของนักลงทุนโลก ซึ่งขณะนี้การแข่งขันที่รุนแรงในภูมิภาคเพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนส่วนนี้

 

 

ปัจจุบันคือช่วงที่บุญเก่าของประเทศไทยกำลังหมดไป หมายถึงการทำอุตสาหกรรมที่เน้นรับจ้างผลิต หรือโออีเอ็มจะหายไป สะท้อนผ่านอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของไทยที่ขยายตัวในระดับต่ำ ทั้งที่เคยเติบโตสูงสุดติดระดับโลกมาก่อน จึงถึงเวลาที่ต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ของผู้ประกอบการไทยเอง ดร.กอบศักดิ์ย้ำว่า อีอีซีจะเป็นทางออกที่สำคัญของประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามผลักดันมาตรการสนับสนุนต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ทำงานในพื้นที่อีอีซีเพียง 17% ซึ่งต้องทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีคุณสมบัติตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอาเซียน เพื่อดึงดูดแรงงานให้เข้ามาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษดังกล่าว  

 

โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลกำลังเร่งทำคือ การร่วมมือกันระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งมีประชากรรวมกันถึง 230 ล้านคน มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง คาดว่าจะโตที่สุดในโลกในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่งสามารถเป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับนักลงทุนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ขณะนี้รัฐบาลได้เจรจากับประเทศบังกลาเทศและศรีลังกา เรื่องข้อตกลงการค้าเสรีเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงกันในภูมิภาคด้วย จากนี้จึงต้องเร่งเดินเครื่องการเชื่อมโยงทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ สนามบิน โครงข่ายดิจิทัล และเครือข่ายพลังงานที่จะเติบโตไปด้วยกัน

 

  

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เสวนาร่วมกับ มณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองยอมรับว่า อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งในการผลักดันอีอีซีคือ เรื่องผังเมือง จังหวัดระยองถือเป็นโจทย์ที่หนักที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่ทางเกษตรและป่าไม้ที่สำคัญ เน้นย้ำว่าผังเมืองเดิมยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ผังเมืองใหม่อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในเดือนธันวาคม 2561 หรือ มกราคม 2562 เป็นอย่างช้า และคาดว่าจะได้ใช้จริงในกลางปี 2562

 

ขณะที่ Pierre Jaffre ประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Airbus Group ซึ่งลงทุนในอุตสาหกรรมการบินในพื้นที่อู่ตะเภากล่าวว่า ศูนย์ซ่อมเครื่องบินที่มาลงทุนจะเป็นศูนย์ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาลงทุนคนละครึ่งกับการบินไทย จากอุปสงค์การเดินทางในอาเซียนคาดว่าจะมีจำนวนเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีก 1.6 หมื่นลำ และตอนนี้ Airbus สนใจลงทุนการผลิตเฮลิคอปเตอร์เพื่อใช้ในการขนย้ายสินค้า ผู้คนและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในอนาคตด้วย

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

The post ‘บุญเก่าของเรากำลังหมดไป’ รัฐบาลย้ำหมดยุครับจ้างผลิต ดันอีอีซี หวังไทยผนึกอาเซียนเป็นทางเลือกที่ 3 appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/next-step-thailand-eec/feed/ 0