×

ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 14 ราย ต่อ DSI กรณีสร้างราคาหุ้น KC เมื่อปี 58

01.03.2023
  • LOADING...

ก.ล.ต. กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิด 14 ราย กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (KC) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แก่ 

 

  1. ธงชัย ลิ้มทองสิทธิคุณ 
  2. ไพศาล พาณิชย์ชะวงศ์ 
  3. ภัทรภพ (ปัจจุบันชื่อ กฤติภัทร) อิทธิสัญญากร 
  4. สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ 
  5. Equities First Holdings, LLC (EFH) 
  6. Mr.Vincent DeFilippo (วินเซนต์ เดอ ฟิลิปโป) 
  7. Mr.Al Christy, Jr. (อเล็กซานเดอร์ ชาร์ลส คริสตี้ จูเนีย หรือ อัล คริสตี้ จูเนียร์) 
  8. โชติพันธุ์ เตียวิวัฒน์ 
  9. อภิเชฐ ปุสรี 
  10. เพรชรัตน์ จรรยธรรมพต 
  11. วสันต์ บุญสิริสกุล 
  12. พัชราวรรณ ปาจรีย์ 
  13. อัญชิสา บัวแก้ว 
  14. ชวนาถ สิทธิบุศย์

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำความผิดของบุคคล 14 ราย โดยแบ่งเป็นตัวการร่วม 12 ราย (ลำดับที่ 1-12) และผู้สนับสนุนให้ยืมใช้บัญชีซื้อ-ขาย 2 ราย (ลำดับที่ 13-14) ร่วมกันในการสร้างราคาหุ้น KC ในช่วงวันที่ 5 มกราคม – 19 กุมภาพันธ์ 2558 ทำให้ราคาและปริมาณการซื้อ-ขายหุ้น KC ในช่วงดังกล่าวผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อจูงใจให้นักลงทุนรายอื่นเข้าซื้อหรือขายตาม 

 

โดยมีการกระทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ เพื่อประโยชน์ของกลุ่มผู้กระทำความผิดเริ่มตั้งแต่

 

  1. การติดต่อซื้อ Big Lot หุ้น KC จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อนำหุ้นไปขายในราคาสูง หลังมีการสร้างราคาให้กับผู้กระทำความผิดรายหนึ่ง โดยการทำเป็นสัญญาขายและซื้อหุ้นคืน (Sale and Repurchase Agreement) หรือเรียกว่า ‘สัญญา REPO’
  2. การหาแหล่งเงินใช้ในการซื้อ Big Lot หุ้น KC 
  3. การสร้างราคาหุ้น KC เพื่อเตรียมการก่อนนำหุ้น KC ไปทำสัญญา REPO 
  4. การนำหุ้น KC ที่รับซื้อมาจากสัญญา REPO ไปขายในราคาสูง หลังมีการสร้างราคา 

 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 243 (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งปัจจุบันพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ยังบัญญัติเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ (กฎหมายขณะกระทำความผิด) ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (แล้วแต่กรณี) โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้รับประโยชน์เป็นเงินจำนวน 149.86 ล้านบาท จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 14 ราย ต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ การกล่าวโทษข้างต้นมีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี

 

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

 

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising