Russia Ukraine Crisis Live Report : เกาะติดสมรภูมิรัสเซียบุกยูเครน

วานนี้ (23 กรกฎาคม) กระทรวงกลาโหมของยูเครนได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันแจ้งพิกัดที่อยู่ของกองทหารรัสเซียที่แน่ชัด รวมถึงแจ้งเบาะแสของชาวยูเครนที่แอบลักลอบให้ความร่วมมือกับรัสเซีย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแอแนร์ฮอดาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสำคัญของประเทศ

แถลงการณ์ระบุว่า “โปรดแจ้งตำแหน่งของกองกำลังรัสเซีย ที่อยู่อาศัยของพวกเขา และที่อยู่อาศัยของผู้บังคับบัญชา… ท่านสามารถแจ้งเบาะแสของชาวเมืองในท้องถิ่นที่เข้าร่วมกับศัตรู ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของพวกเขา ตลอดจนข้อมูลของผู้ที่แสดงความเห็นอกเห็นใจศัตรูที่ยึดครองเมืองของเรา

“ร่วมกันขับไล่ผู้ยึดครองออกจากบ้านเกิดของเรา!” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเสริมว่าประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งรายละเอียด หรือส่งข้อมูลให้ภาครัฐผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp หรือ Signal ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่รัสเซียสามารถยึดครองเมืองแอแนร์ฮอดาร์ได้สำเร็จในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีรายงานจากสื่อต่างประเทศอยู่หลายครั้งว่า ชาวยูเครนที่สมคบคิดกับรัสเซียมักเจอกับอุบัติเหตุรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยในเดือนพฤษภาคมมีรายงานว่านายกเทศมนตรีเมืองแอแนร์ฮอดาร์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ซึ่งรัสเซียกล่าวว่าเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ถัดมาในเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียรายหนึ่งในแคว้นเคอร์ซอนก็เสียชีวิตในเหตุระเบิด และล่าสุดคือกรณีของหัวหน้าหน่วยทัณฑสถานในแคว้นเคอร์ซอนที่เจอกับเหตุระเบิดใกล้กับรถของเขา 

ในช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามนั้น แอแนร์ฮอดาร์เคยมีประชากรกว่า 50,000 คน โดยประชาชนจำนวนมากได้ทำงานที่โรงไฟฟ้า 2 แห่งใกล้กับเมืองแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

แฟ้มภาพ: Narciso Contreras/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2022/7/23/ukraine-urges-citizens-to-reveal-russian-troops-locations

วันนี้ (21 กรกฎาคม) วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข่าวกรองยืนยันว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียป่วยหนัก มีปัญหาด้านสุขภาพร้ายแรง หรืออาจป่วยด้วยโรคมะเร็ง ตามที่มีกระแสข่าวลืออย่างหนาหู 

โดย ผอ. CIA ชี้ว่า ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แล้วยังกล่าวเสริมว่า ผู้นำรัสเซียที่จะมีอายุครบ 70 ปีในปีนี้ ยังดูเหมือนจะสุขภาพดีมากเกินไปอีกด้วย 

นอกจากนี้ จากประสบการณ์ที่เบิร์นส์เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำกรุงมอสโก และต้องดีลกับผู้นำรัสเซียในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เขายังเผยอีกว่า “ปูตินเชื่อมั่นในโชคชะตาของตนเอง ที่ตนจะเป็นผู้นำพารัสเซียกลับไปสู่ประเทศมหาอำนาจอีกครั้ง เขาเชื่อว่ากุญแจสำคัญที่จะทำให้เขาเดินไปถึงเป้าหมายได้คือ การสร้างเขตอิทธิพลของรัสเซียในแถบประเทศเพื่อนบ้าน และเขาจะไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้หากปราศจากการควบคุมยูเครนให้อยู่หมัด”

ในขณะนี้กองทัพรัสเซียได้ปรับขยายเป้าหมายใหม่ นอกเหนือไปจากดอนบาส หรือภูมิภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว โดยหวังจะยึดครองเคอร์ซอนและซาปอริซเซียด้วยเช่นกัน เพื่อการันตีว่าความมั่นคงของแผ่นดินรัสเซียจะไม่ถูกสั่นคลอน หลังทางการสหรัฐฯ ประกาศเตรียมส่งอาวุธพิสัยไกลช่วยเหลือกองทัพยูเครน รับมือกับกองทัพรัสเซีย หลังจากสงครามดำเนินมานานเกือบ 5 เดือนเต็มแล้ว 

ภาพ: Sergei Savostyanov / Sputnik / AFP

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-europe-62246914 
• https://apa.az/en/america/cia-chief-says-no-intelligence-that-putin-is-in-bad-health-381278
• https://apa.az/en/america/cia-chief-says-no-intelligence-that-putin-is-in-bad-health-381278 

วันนี้ (21 กรกฎาคม) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เผยว่า กองทัพรัสเซียไม่อาจมุ่งเป้าไปที่การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส หรือพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นอิสระเพียงเป้าหมายเดียวได้อีกต่อไป รัสเซียจำเป็นต้องขยายเป้าหมายใหม่ หลังทางการสหรัฐอเมริกาประกาศส่งอาวุธพิสัยไกลช่วยเหลือยูเครน

ลาฟรอฟระบุว่า “เราไม่อาจยอมให้พื้นที่ของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้ครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อแผ่นดินรัสเซีย ขณะนี้จุดภูมิศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว” 

โดยกองทัพรัสเซียได้เตรียมขยายเป้าหมายไปยังเมืองทางตอนใต้ อย่างเคอร์ซอนและซาปอริซเซียก็เป็นเป้าหมายล่าสุดของรัสเซียด้วย ซึ่งกองกำลังของรัฐบางส่วนเริ่มทยอยยึดครองพื้นที่บางส่วนของทั้งสองดินแดนนี้ไว้แล้ว หลังสงครามดำเนินมานานเกือบ 5 เดือนเต็ม

ทางด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียกำลังเดินหมากตามแผนผนวกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตน ดังเช่นที่เคยทำมาแล้วในกรณีของการผนวกดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014

โดยเคอร์บีชี้ว่า รัสเซียได้จัดตั้งและร่วมมือกับกลุ่มโปรรัสเซียในพื้นที่เพื่อควบคุมดินแดนดังกล่าว ก่อนที่จะเปิดให้มีการลงประชามติในระดับท้องถิ่น ถามความต้องการว่าจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ ซึ่งคาดว่าการลงประชามติดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเร็วสุดในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะใช้ผลประชามติดังกล่าวสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง ในการพยายามผนวกดินแดนดังกล่าวภายใต้อำนาจอธิปไตยของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเบื้องต้นคือ เคอร์ซอน, ซาปอริซเซีย, โดเนตสก์ และลูฮันสก์ 

ภาพ: Russian Foreign Ministry / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-europe-62231936
• https://edition.cnn.com/2022/07/20/europe/russia-ukraine-military-objective-east-donbas-intl/index.html
• https://www.standard.co.uk/news/world/russia-expand-war-aims-donbas-sergei-lavrov-vladimir-putin-ukraine-b1013650.html 

นี่คือบรรยากาศการไว้อาลัยให้กับ ลิซ่า ดิมิทรีวา (Liza Dmitrieva) หนูน้อยวัยเพียง 4 ปี ผู้มีภาวะดาวน์ซินโดรม หนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตจากน้ำมือของกองทัพรัสเซียที่เดินหน้าถล่มเมืองวินนีตเซียของยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนภาพความโหดร้ายจากไฟแห่งสงครามที่รัสเซียเป็นคนก่อและต้องยุติลงโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ขอบเขตความเสียหายและการสูญเสียจะขยายตัวไปมากกว่านี้

บรรดาสมาชิกในครอบครัว ชาวเมืองและกองกำลังทหารที่ประจำอยู่ที่เมืองวินนีตเซีย ต่างนำดอกไม้ ของเล่นและตุ๊กตามาวางเพื่อไว้อาลัย รวมถึงเข้าร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายภายในโบสถ์ออร์โธดอกซ์ภายในเมือง โดยมีบาทหลวงกล่าวย้ำกับคนภายในงานว่า “ปีศาจจะไม่มีวันชนะเราได้”

ขณะที่ อีรีนา แม่ของลิซ่า ให้สัมภาษณ์ว่า “โลกไม่ได้สนใจพวกเรา พวกเขาเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่ได้ปกป้องเรา โลกแค่กำลังเฝ้าดูว่ายูเครนกำลังจะถูกฆ่าตายอย่างไร ลูกหลานของเราถูกฆ่าตาย รวมถึงทหารของเราและผู้คนในประเทศนี้ด้วย ดังนั้นได้โปรดปกป้องเราจากทรราชนี้ด้วย เพราะต่อจากเรา เขาก็จะหาเป้าหมายต่อไปและทำลายทุกสิ่งที่เขาต้องการ”

เบื้องต้น ทางการยูเครนเผยว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุกองทัพรัสเซียถล่มเขตเมืองและชุมชนของยูเครนในช่วง 3 วันที่ผ่านมาแล้วอย่างน้อย 40 ราย และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากสงครามยังคงยืดเยื้อและดำเนินต่อไป

ภาพ: Oleksandr Lapin / Reuters

ภาพ: Maxym Marusenko / NurPhoto via Getty Images

ภาพ: Maxym Marusenko / NurPhoto via Getty Images

ภาพ: Maxym Marusenko / NurPhoto via Getty Images

ภาพ: ​​LogoClub Children’s Center / Handout via Reuters

ภาพ: Oleksandr Lapin / Reuters

อ้างอิง:

• https://www.theguardian.com/world/2022/jul/17/ukraine-mourners-bury-four-year-old-liza-as-russian-attacks-intensify
• https://www.voanews.com/a/evil-cannot-win-killed-by-russian-missile-4-year-old-liza-is-buried/6662520.html 
• https://news.sky.com/story/ukraine-war-four-year-old-girl-killed-in-russian-missile-strike-is-buried-with-unknowing-mother-still-in-hospital-12653892 

วานนี้ (16 กรกฎาคม) กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีหลายพื้นที่ในยูเครน ทางการท้องถิ่นยูเครนรายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง มียอดพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 รายจากการโจมตีระลอกล่าสุด 

แม้กองทัพรัสเซียจะมุ่งเป้าการสู้รบไปยังพื้นที่แถบดอนบาส หรือภูมิภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อปลดปล่อยให้แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ให้เป็นรัฐอิสระ แต่กระนั้นกองทัพรัสเซียก็เปิดฉากโจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือและทางตอนใต้ของยูเครนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่เมืองคาร์คีฟ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยูเครน ก็เผชิญหน้ากับแรงระเบิดอยู่บ่อยครั้ง 

ขอบเขตของความเสียหายและการสูญเสียอันเกิดมาจากไฟของสงครามในครั้งนี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลังกองทัพรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนมานานเกือบ 5 เดือนเต็มแล้ว ขณะที่ทางการยูเครนเรียกร้องให้พันธมิตรตะวันตกส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือกองทัพยูเครน เพื่อการันตีว่ายูเครนจะยืนหยัดในสงครามปกป้องอธิปไตยของตนเองครั้งนี้ต่อไปได้ หากสงครามมีแนวโน้มยืดเยื้อและลดทอนกำลังในมิติต่างๆ 

ภาพ: Ukrainian State Emergency Service / Handout / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2022/7/16/civilians-killed-as-russia-intensifies-attacks-across-ukraine
• https://www.rferl.org/a/ukraine-russia-bombings-nuclear-warning-civilian-deaths/31946042.html 
• https://www.washingtonpost.com/world/2022/07/16/russia-ukraine-war-putin-news-live-updates/ 

วานนี้ (13 กรกฎาคม) ทางการยูเครนประกาศตัดสัมพันธ์กับเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ หลังรัฐบาลโสมแดงให้การรับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ในดอนบาส หรือภูมิภาคตะวันออกของยูเครน ที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย ในฐานะรัฐอิสระ

โดยเกาหลีเหนือนับเป็นประเทศที่ 3 ในประชาคมโลก ที่ให้การรับรองสถานะดังกล่าวแก่โดเนตสก์และลูฮันสก์ต่อจากรัสเซียและหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดของรัสเซียอย่างซีเรีย 

กระทรวงการต่างประเทศยูเครนออกแถลงการณ์ระบุว่า “เราพิจารณาแล้วว่า การกระทำของเกาหลีเหนือนับเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและศักดิ์ศรีเหนือดินแดนของยูเครน”

ขณะที่สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (KCNA) รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือส่งจดหมายถึงทางการในโดเนตสก์และลูฮันสก์ เพื่อเตรียมที่จะสถาปนาความสัมพันธ์แบบรัฐต่อรัฐในมิติของการเป็นรัฐเอกราช มีสันติภาพและมีมิตรไมตรีระหว่างกัน ขณะที่ทางการของทั้งสองแคว้น โดยเฉพาะโดเนตสก์ ก็หวังว่าการรับรองสถานะในครั้งนี้ของเกาหลีเหนือจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ในมิติการค้าการลงทุนกับเกาหลีเหนือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ต่างฝ่ายต่างถูกมาตรการคว่ำบาตรจากประชาคมโลก

แฟ้มภาพ: Danielo / Shutterstock

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2022/7/13/n-korea-recognises-breakaway-of-russias-proxies-in-east-ukraine
• https://www.reuters.com/world/north-korea-recognises-breakaway-russias-proxies-east-ukraine-2022-07-13/ 
• https://www.businessinsider.com/ukraine-breaks-diplomacy-north-korea-donetsk-luhansk-regions-russia-war-2022-7 

วานนี้ (11 กรกฎาคม) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ลงนามในกฤษฎีกาฉบับใหม่ ขยายช่องทางพิเศษให้ชาวยูเครนทุกคนสามารถยื่นขอสัญชาติรัสเซียได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเคยมีประวัติอยู่ในรัสเซียมาก่อน ไม่ต้องแสดงหลักฐานการเงิน และไม่ต้องผ่านการทดสอบทางภาษาก็สามารถขอสัญชาติได้

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2019 รัสเซียให้สิทธิดังกล่าวเฉพาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในโดเนตสก์และลูฮันสก์ทางตะวันออกของยูเครนเท่านั้น ซึ่งปูตินกล่าวว่าเขาต้องการปลดแอกผู้คนในดินแดนดังกล่าวให้เป็นอิสระจากยูเครน ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2022 รัสเซียก็ได้ขยายสิทธิดังกล่าวแก่ประชาชนในเมืองเคอร์ซอนและซาปอริซเซียที่กองกำลังรัสเซียยึดครองไว้ได้ รวมถึงยังออกมาตรการอื่นๆ ควบคู่ เช่น ให้สัญชาติรัสเซียแก่เด็กแรกเกิดในพื้นที่ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ

นักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจของปูตินครั้งนี้บ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัสเซียพยายามหาทางเข้าควบคุมดินแดนยูเครนอย่างถาวร อีกทั้งยังเล็งที่จะขยายอิทธิพลในยูเครนมากกว่าแค่ในเรื่องของกำลังทหาร

ด้านยูเครนได้ออกมาประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นการทำลายอธิปไตยของชาติ โดยแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า “กฤษฎีกานี้ละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ซึ่งไม่สอดคล้องกับบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ”

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า “ชาวยูเครนไม่ต้องการสัญชาติของปูติน และความพยายามบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะต้องล้มเหลว”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงกิจการภายในของรัสเซียเคยเปิดเผยกับสำนักข่าว TASS ว่า มีประชากรมากกว่า 8 แสนคนในภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ได้รับสัญชาติรัสเซียผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้ว ขณะที่ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ปัจจุบันมีชาวยูเครนมากกว่า 1.5 ล้านคนที่ลี้ภัยสงครามในประเทศไปยังรัสเซีย

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี มองว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นการยกระดับความพยายามของกระบวนการ ‘กลืนชาติ’ ของรัสเซีย (Russification) โดยกล่าวว่า “จุดประสงค์ของนโยบายที่ผิดกฎหมายนี้ไม่ใช่เพียงแต่ต้องการจะขโมยคนของเรา แต่รัสเซียยังต้องการให้พวกเขาลืมเรื่องราวเกี่ยวกับยูเครนและไม่สามารถเดินทางกลับมาได้อีก”

แฟ้มภาพ: Contributor / Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.aljazeera.com/news/2022/7/11/putin-expands-fast-track-russian-citizenship-to-all-of-ukraine
• https://www.nytimes.com/2022/07/11/world/europe/putin-russian-citizenship-ukrainians.html

วันนี้ (7 กรกฎาคม) ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เตือนสหรัฐอเมริกาและบรรดาชาติตะวันตกที่พยายามจะใช้ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมมาตัดสินการกระทำของรัสเซียในยูเครน ชี้เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ พร้อมถามกลับสหรัฐฯ ก็เคยเปียกโชกไปด้วยสงครามนองเลือดไม่ใช่หรือ

เมดเวเดฟระบุว่า “ประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ทั้งหมด ตั้งแต่การปราบปรามบรรดาชนพื้นเมืองก็นำไปสู่สงครามนองเลือดหลายต่อหลายครั้ง” นอกจากนี้สหรัฐฯ เองก็เคยทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่ทั้งญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในสงครามเวียดนาม 

“มีใครแสดงความรับผิดชอบต่ออาชญากรรมเหล่านั้นแล้วหรือยัง มีศาลไหนที่ตัดสินทะเลเลือดที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของสหรัฐฯ บ้างไหม”

ท่าทีดังกล่าวของอดีตผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้หน่วยงานด้านยุติธรรมระหว่างประเทศเร่งสืบสวนสอบสวนการก่ออาชญากรรมสงครามโดยกองทัพรัสเซียในนยูเครน พร้อมชี้ว่า สิ่งที่สหรัฐฯ พยายามทำคือ ให้ศาลตัดสินคนอื่น ในขณะที่ตัวเองก็ได้รับเอกสิทธิ์อะไรบางอย่างจากการถูกสืบสวนสอบสวน

เมดเวเดฟชี้ว่า ความพยายามดังกล่าวของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกไร้ประโยชน์ และเป็นภัยต่อประชาคมโลก โดยเน้นย้ำว่า “ความคิดที่จะลงโทษประเทศที่ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ช่างเป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะสิ่งนี้อาจบานปลายกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติได้”

โดยทางการรัสเซียยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า กองทัพรัสเซียที่เข้าไปปฏิบัติการพิเศษทางทหารไม่เคยล็อกเป้าไปที่ประชาชนพลเรือน และยังคงเดินหน้าพิชิตแคว้นโดเนตสก์ทางภาคตะวันออกต่อไป หลังยึดครองแคว้นลูฮันสก์ได้ทั้งหมด เพื่อปลดปล่อยให้ดอนบาส หรือภูมิภาคตะวันออกที่ทั้งสองแคว้นดังกล่าวตั้งอยู่ ปลดแอกจากยูเครนและกลายเป็นรัฐอิสระ หลังสงครามรุกรานยูเครนในครั้งนี้ดำเนินมานานกว่า 4 เดือนแล้ว

แฟ้มภาพ: Dmitry Astakhov / AFP

อ้างอิง:

• https://www.themoscowtimes.com/2022/07/06/russia-ex-president-invokes-nuclear-war-if-moscow-punished-by-icc-a78219 
• https://www.aljazeera.com/news/2022/7/6/putins-aide-warns-us-against-pressing-for-war-crimes-court
• https://www.reuters.com/world/russias-medvedev-warns-united-states-messing-with-nuclear-power-is-folly-2022-07-06/