×

รวมโมเมนต์ประทับใจงาน Kyoto Marathon 2023

22.02.2023
  • LOADING...

เมื่อพูดถึงงานวิ่งระดับประเทศของญี่ปุ่น นอกจาก โตเกียว มาราธอน (Tokyo Marathon) ที่เป็นสนามมาราธอนระดับเมเจอร์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสนามที่จัดขึ้นในแถบคันไซ ซึ่งเป็นสนามที่มีความสำคัญและสวยงามไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นคือ เกียวโต มาราธอน (Kyoto Marathon 2023) ที่ Wacoal และ CW-X เป็นสปอนเซอร์มายาวนานกว่า 7 ปี ครั้งนี้เมื่อเรามีโอกาสได้ลงวิ่งในสนามนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์และเล่าให้อ่านถึงบรรยากาศในสนามว่าจะสนุก สุด โหด ขนาดไหน และเราควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 

 

 

เส้นทางวิ่งที่สวยมาก 

 

เกียวโตเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องวัดวาอารามที่เก่าแก่ ประเพณีดั้งเดิม เกอิชา ออนเซน และผู้คนที่เป็นมิตรอัธยาศัยดี แต่ด้วยภูมิศาสตร์ของจังหวัดที่มีลักษณะเป็นเนินและมีภูเขากว่า 80% ไม่มีตึกสูงใหญ่เหมือนโตเกียว ทำให้นักวิ่งที่เคยผ่านสนามนี้มาก่อนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกียวโต มาราธอน เป็นหนึ่งในสนามวิ่งที่สวยติดอันดับโลก 

 

เหล่านักวิ่งกว่า 16,000 คนที่เข้าร่วมในงานนี้จึงมีโอกาสได้วิ่งชมความสวยงามของ 7 มรดกโลกที่ได้รับการยกย่องโดย UNESCO World Cultural Heritages เห็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัดมากมาย, วิ่งเลียบแม่น้ำ Katsura ที่สวยงาม, วิ่งชมภูเขา 5 ลูกของเกียวโต, ได้เห็น Kyoto Botanical Gardens และ Kyoto Gyoen National Garden หรือ Kyoto Imperial Palace ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกียวโต  

 

 

และเพื่อให้สมกับการเป็นเมืองแห่งอาหารและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จุดแจกน้ำและอาหารว่างก็มีของกินจุใจ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี มะเขือเทศ ครัวซองต์ ขนมปัง ขนมเซมเบ้ ข้าวปั้นสามเหลี่ยม สปอร์ตดริงก์อย่าง Pocari มีให้ดื่มตลอดทาง สองข้างทางคึกคักไปด้วยเสียงเชียร์จากกองเชียร์ชาวญี่ปุ่นที่ต่างออกมาให้การต้อนรับ แถมบางคนยังเตรียมขนมมาแจกให้นักวิ่งอีกด้วย แต่ที่สุดมากคือการแจกอุด้งร้อนๆ ให้นักวิ่งที่อยากเติมพลัง 

 

 

เตรียมรับมือฝน ลมหนาว เนิน 

 

จุดปล่อยตัวของเราอยู่ที่ Takebishi Stadium Kyoto ส่วนจุดสิ้นสุดคือ ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Jingu Shrine) วิ่งวนๆ ในเมืองจนครบ 42 กิโลเมตร แต่อย่างที่บอกว่าสภาพภูมิประเทศของเกียวโตเป็นภูเขา ทำให้เส้นทางวิ่งในช่วง 20-30 กิโลเมตรแรกเป็นเนินขึ้นลงตลอดเส้นทาง ตัดแรงกล้ามเนื้อกันตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นระยะที่ 30 กิโลเมตรจะเป็นเส้นเลียบแม่น้ำ Kamo ที่วิวสองข้างทางสวยมาก ก่อนวิ่งตัดเข้าถนนสายหลักของเกียวโต ซึ่งเราจะเจอเนินลูกสุดท้ายที่กิโลเมตรที่ 40 จากนั้นก็วิ่งยาวเข้าเส้นชัยที่มองเห็นประตูโทริอิสีแดงตั้งตระหง่าน 

 

 

หลังจากวิ่งจบเราได้ลองสอบถามเพื่อนนักวิ่งที่จบสนามนี้มาแล้ว และเคยลงสนามใหญ่ๆ มาก่อน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกียวโต มาราธอน เป็นสนามที่ไม่ง่าย เพราะมีเนินตลอดเส้นทาง บวกสภาพอากาศที่อุณหภูมิจะอยู่ที่ 0-7 องศา บางปีอาจเจอฝน และมี Cut-off ที่ค่อนข้างโหด เพราะให้วิ่งแค่ 6 ชั่วโมง และนับ Gun Time ทำให้คนที่อยู่บล็อกปล่อยตัวท้ายๆ เสียเวลาไปหลายสิบนาทีกว่าที่จะวิ่งผ่านจุดเริ่มต้น ดังนั้นถ้าใครอยากมาลองสนามนี้ควรเตรียมตัวมาให้ดีทั้งวิ่งและเวต เพราะต้องใช้ทั้งสองอย่างนี้แน่ๆ ทางที่ดีหาเวลาไปซ้อมวิ่งขึ้นเนินด้วย 

 

 

หิน แต่มีเสน่ห์ 

 

แม้เกียวโต มาราธอน จะไม่ใช้สนามที่ง่าย แต่ในฐานะที่เราได้มาลองวิ่งจริงๆ ในสนามนี้ ต้องบอกว่าถึงสนามจะหิน แต่ก็เป็นความหินที่มีเสน่ห์ เพราะตลอดเส้นทางวิ่งทำให้เราได้สัมผัสกับเกียวโตในมุมที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่เคยได้เห็นมาก่อนหรือไม่มีโอกาสเข้าถึง เราได้เห็นวิวทิวเขาสวยๆ จากมุมที่แปลกตา ได้วิ่งลัดเลาะไปตามถนนหนทางและชุมชนต่างๆ โดยมีผู้คนโบกมือให้การต้อนรับ ตะโกนส่งเสียงเชียร์ให้ใจฟูหลังจากที่วิ่งมาเหนื่อยๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือความประทับใจที่ทำให้เกียวโต มาราธอน เป็นสนามวิ่งที่ใครมาแล้วจะติดใจ เพราะครบเครื่องทั้งเรื่องกิน เที่ยว วิ่ง เรียกได้ว่า มาทีเดียว เก็บได้ครบหมด 

 

 

#KyotoMarathon2023 #Wacoal #CWX

 

ภาพ: Courtesy of Wacoal

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising