เลเล่เล้ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 25 May 2023 07:32:42 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน https://thestandard.co/ploy-by-valentina-ploy/ Thu, 25 May 2023 07:31:35 +0000 https://thestandard.co/?p=795063 Valentina Ploy

พยายามวางเรื่องเพลงของเธอให้ความรู้สึกเหมือนฟัง Taylor […]

The post PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Valentina Ploy

พยายามวางเรื่องเพลงของเธอให้ความรู้สึกเหมือนฟัง Taylor Swift ไว้ข้างๆ ก่อน แล้วลองฟังอัลบั้มนี้อย่างตั้งใจ มันเป็นอัลบั้มที่มีแต่เพลงเพราะๆ ทั้งอัลบั้ม

 

วาเลนติน่า พลอย เป็นใคร? เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี เกิดที่อิตาลี แต่พูดไทยได้คล่อง เธอมีความเป็นฝรั่งมาก ทำมาทุกอย่าง เช่น เธอเคยประกวดนางงาม Miss Universe Thailand ด้วย แถมได้ตำแหน่งรองอันดับสอง เพราะตอนเด็กๆ เธอชอบงานประเภทอาสาสมัคร เธอเคยแข่ง The X Factor และ Amici ที่อิตาลี เคยแข่งประกวดร้องเพลง The Voice Thailand Season 6 โดยมี โจอี้ บอย กดหันกลับมาเพียงคนเดียว 

 

อันที่จริงเธออยู่ในวงการเพลงไทยมาเกือบ 4 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้วาเลนติน่ามีอีพีหนึ่งชุดชื่อ Satellite เมื่อปี 2020 มี 5 เพลง และมีเพลงอย่าง See you in life ที่เพราะมาก ผ่านช่วงเวลาโควิดอันเสียเปล่าไปสัก 2 ปี กลับมาตอนนี้เธอมีอัลบั้มล่าสุดเป็นอัลบั้มเต็มไม่ซ้ำอีพีเดิม อัลบั้มนี้มีชื่อสั้นๆ ว่า PLOY

 

Valentina Ploy

 

เพลงในอัลบั้ม PLOY มีทั้งหมด 11 เพลง และมีพูดอินโทรตอนเริ่มอีก 1 แทรก (ซึ่งถ้าเรากดแบบวนซ้ำในสตรีมมิง พอวนกลับมาอีกทีจะข้ามแทร็กพูดไปเลย) ตรงอินโทรเหมือนเวลาเราอ่านโน้ตบทปกอัลบั้ม เธอบอกว่าอัลบั้มนี้เธอเขียนในห้องน้ำ ร้องในห้องน้ำ มันคือเรื่องราวจริงๆ ของเธอที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนเป็นไดอารีเล่มหนึ่งที่เล่าถึงแฟนเก่า แฟนใหม่ และเพื่อนไว้ให้เราฟังเพลินๆ เดิมทีอัลบั้มนี้มีชื่อว่า Song from My Bathroom 

 

ธีมของอัลบั้มมีความเป็นป๊อปที่ฟังง่าย ทำนองดี ซาวด์ดี มีเพลงที่ร้องกับกีตาร์ มีเพลงที่ใส่ซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป มีกีตาร์ไฟฟ้าเด่นออกมา มีทั้งเพลงอกหักและเพลงรัก รวมถึงเพลงที่เกี่ยวกับเพื่อนด้วย อัลบั้มเรียงเพลงอย่างตั้งใจ เริ่มจากเพลงที่มีความสุข สนุก จนกระทั่งถึงโมเมนต์อกหัก อยู่ได้ และก็มีเพื่อนคอยปลอบ 

 

Valentina Ploy

 

เปิดอัลบั้มด้วยจังหวะสนุก กีตาร์โน้ตสวย ซาวด์ก้อง ติดหูง่าย Bla Bli Blu เพลงที่พูดถึงเวลาคนที่เป็นแฟนกัน มักจะมีภาษาเฉพาะของกันและกัน รวมถึงการบอกรักด้วย เธอบอกรักด้วยคำว่า Bla Bli Blu ซึ่งไม่มีคำแปลใดๆ เป็นเพลงที่ฟังน่ารักดี มีการใส่เนื้อเพลงที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษด้วย วาเลนติน่าพูดได้ถึง 5 ภาษา ไทย อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน ต่อด้วย Again And Always เพลงกีตาร์ลอยๆ พูดกับตัวเอง เรื่องของคนสองคนที่ห่างไกล ส่งได้แค่ข้อความและรูปภาพอาหารเช้าแก่กัน หวังว่าสักวันจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

 

อัลบั้มคั่นด้วยเพลงช้าบ้าง You’ve Always Been There เพลงรักหวานฉ่ำที่บอกว่าเธอเป็นเหมือนบ้านของฉันเสมอ แล้วต่อด้วยเพลง Nobody’s Perfect ที่มีกีตาร์เฟี้ยว เพลงที่เหมือนทำความเข้าใจกันและกัน เสียงของพลอยในเพลงนี้ฟังแล้วคิดถึงงานของ SAMMii แล้วก็ต่อด้วย Berlin ที่เทียบความรักเป็นเหมือนกำแพงเบอร์ลิน สร้างกำแพงปิดกั้นไว้ ทำลายทิ้ง ซ่อนตัวหลังกำแพง ในที่สุดก็ไม่เวิร์กใดๆ เพลงทำออกมาแบบสนุกๆ ถือว่าเป็นการเลิกที่ไม่ได้เจ็บปวดมาก

 

And I know we don’t talk anymore

But I still have you captured on films that

I took of you

Here in my camera roll

Where a moment is frozen forever in time

Now that nothing’s the same as before

You are so out of touch but yet under my fingers

Now nothing’s the same as before, at all

We’re still safe in my camera roll

 

Camera Roll

 

 

ครึ่งอัลบั้มหลังเป็นเพลงเศร้าซะส่วนใหญ่ เพลงที่เพราะมากๆ คือ Camera Roll ความรู้สึกอึนๆ ในตอนที่เลิกกัน รูปถ่ายที่เคยถ่ายด้วยกันไว้ ความทรงจำที่ยังเก็บไว้ในฟิล์มของกล้องเก่า เป็นเพลงเศร้าที่เรามูฟออนไม่ได้ที่ดีมากๆ เพลงหนึ่ง เสียงร้องกับกีตาร์ตีคอร์ด คอรัสเดินเคียงไปด้วยกันให้เพลงไม่เหงามาก ต่อด้วยเพลง I’m OK เพลงที่หมายความตามชื่อเพลงจริงๆ พอต่อกันก็ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ถึงแม้ข้างในจริงๆ ยังไม่ดีขึ้นก็ตาม 

 

I Miss My Friends เพลงที่วาเลนติน่า พลอย แต่งขึ้นมาก่อนทั้งหมด แล้วอยากให้ ภูมิ วิภูริศ มาร้องด้วย เท็กซ์ไปหา (ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกัน) เขาตอบรับ แก้เนื้อนิดหน่อย แล้วก็ร้องคู่กัน เป็นเพลงที่วิเศษมากเพลงหนึ่ง มีความเหงาของคนที่ต้องจากบ้านจากเพื่อนมาไกล มีประโยคเด็ดคือ “I need someone to bring me ice cream when I sit and cry in bed” วัฒนธรรมอิตาลีเวลาใครเศร้าให้เอาไอศกรีมไปปลอบใจ เป็นเพลงที่ฮีลใจได้น่ารักมากๆ 

 

I’ll be kissing strangers, changing city

Anything to make it easy

The thing that’s hurting the most

Is that losing you feels right for us to grow

 

Shoreditch Road

 

 

Shoreditch Road กับ To Myself เป็นเพลงที่ตัดเป็นซิงเกิลและทำเอ็มวีไปแล้ว เพลงแรกมีฉากหลังเป็นถนน ทะเลาะกันในรถ แล้วก็เลิกกันไป เธอเขียนเพลงจากเหตุการณ์จริง มี Shoreditch Road เป็นพยาน ส่วนเพลง To Myself เป็นเพลงเร็ว มีความร็อกอยู่ในกีตาร์ บอกตัวเองว่าต่อไปต้องเดินเองโดยไม่มีใคร ปิดอัลบั้มด้วยเพลงช้าร้องกับกีตาร์ Left Unsaid ตอนจบของความรักจากการที่ไม่ได้พูดกันอย่างจริงจัง เป็นเพลงเหงาตายอีกเพลงหนึ่ง

 

การเขียนเพลงของวาเลนติน่า พลอย ใช้คำง่าย เล่าเรื่องดี ฟังไม่ยากแต่มีความเป็นอินเตอร์ เพลงของเธอดังไปหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว อัลบั้มทำกับ What The Duck ไม่ได้บอกว่าใครโปรดิวซ์ให้ (แต่เดาว่าคือคนเดิมคือ ปกป้อง จิตดี แห่ง Plastic Plastic) หากอัลบั้มนี้ขายในต่างประเทศให้ Warner Music Thailand เป็นคนจัดการ

 

อัลบั้ม: PLOY

ศิลปิน : วาเลนติน่า พลอย

ค่าย: What The Duck / Warner Music Thailand  

 

เลเล่เล้

พฤษภาคม 2566

Twitter: @laylaidlaid

The post PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) https://thestandard.co/top-thai-song-2022-ep2/ Tue, 10 Jan 2023 07:02:26 +0000 https://thestandard.co/?p=735058

มาต่อกันที่อันดับ 36-75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>

มาต่อกันที่อันดับ 36-75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรก เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ https://thestandard.co/top-thai-song-2022-ep1/

 

ที่จริงแล้วเพลงมีถึง 100 เพลง มีหลายเพลงที่เสียดายมากๆ ตอนตัดออกไปครับ ผมมีทำเพลย์ลิสต์ที่ชื่อว่า MixTapes Thai 2022 ไว้ด้วย ทำไว้ทั้ง Apple Music และ Spotify เลื่อนลงไปข้างล่างสุดจะเจอครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ

 


 

  1. ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง (ดอกไม้ฤดูหนาว) – เรนิษรา

เพลงที่พูดถึงอากาศหนาว การอยู่คนเดียวแบบเหงาๆ มองใครๆ เขามีคู่แต่มองกลับมาดูตัวเองเหมือนยังไม่ไปไหน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพลงนี้ทำออกมาได้เย็นเหมือนเนื้อเพลง ด้วยความเป็นป๊อป กลองจังหวะง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อน มีความเป็น Bedroom แต่จับใจคนเหงาๆ ได้ง่าย เรนิษราอ่านว่า เร-นิ-สะ-รา เป็นศิลปินดูโอ้ที่มาแรงมาก 

 

 

  1. Nobody Knows – Stamp, Christopher Chu

เพลงประกอบหนัง One for the Road ที่ได้แสตมป์เป็นคนแต่ง ออกมาในวันสุดท้ายของปีที่แล้ว เพลงนี้มีถึง 3 เวอร์ชัน อังกฤษ ไทย และญี่ปุ่น Nobody Knows เหมือนเอากลิ่น Hello, Goodbye ของ The Beatles, Piano Man ของ Billy Joel, Father and Son ของ Cat Stevens และ Tiny Dancer ของ Elton John มาทำให้เป็นเพลงของยุคปัจจุบัน ความเพราะอยู่ที่เปียโน และเชลโลในตอนท้าย

 

 

  1. ห้องเก็บของ – Max Jenmana

คนอย่างแม็กซ์เจนกลับมากับเพลงช้าๆ ที่ชื่อว่า ห้องเก็บของ เพลงแบบนี้ทำให้นึกถึงสมัยที่เขาทำเพลงอย่าง ไวน์ และ ดารา เพลงช้าเปียโน ห้องเก็บของ เป็นเรื่องของความรักที่จบลงไปแล้ว ยังลืมไม่ได้ ขอเก็บทุกอย่างไว้ในห้องเก็บของละกัน เพลงของแม็กซ์ถูกออกแบบมาสำหรับคนจำนวนมากที่โดดเดี่ยว

 

 

  1. คุก – Freehand

เพลงอกหักที่บอกว่าเหมือนติดอยูในคุกที่มองไม่เห็น หาทางออกไม่ได้ แนวดนตรีบริตป๊อปกีตาร์สาดโหยหวนแบบที่ใครชอบ Zweed n’ Roll ควรจะชอบ เสียงร้องที่ลากยาวๆ ชวนนึกถึงเสียงของ โต Silly Fools และเพลงอย่าง ไหนว่าจะไม่หลอกกัน

 

 

  1. ทรงอย่างแบด – Paper Planes

เพลงชาติเด็กอนุบาล การกลับมาอย่างทรงพลังของเพลงร็อก พังก์ อีโม ระเบิดว๊ากออกมาอย่างมัน ท่อนฮุกที่เตะหู เรื่องของความเศร้าพ่อหนุ่มแบดบอยที่ไปรักคนที่ไม่ชอบผู้ชายทรงนี้ ความดังของเพลงถึงขั้นมาหลายๆ คนพยายามวิเคราะห์ว่ามันเป็นปรากฏการณ์ได้ยังไง เอาเป็นว่า Paper Planes มาแบบถูกที่ถูกเวลามาก ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งมีเพลง เสแสร้ง อันโด่งดังไปเมื่อต้นปีนี้เอง  

 

 

  1. Temple Fair – Phum Viphurit

ปีนี้ภูมิมีเพลงใหม่ 3 เพลง เพราะแบบเหนือชั้นทั้ง 3 เพลง ถ้าให้เลือกเพลงเดียวขอเลือก Temple Fair เพราะมันมีความเป็นไทยผสมอยู่ ภูมิใส่เสียงของฉิ่งและกลองหนังไว้ในดนตรีและมันดีมากๆ เพลงที่มองเห็นบรรยากาศของงานวัด ความรื่นเริงมีชีวิตชีวา โซโล่กีตาร์ลื่นไหล เขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ ของ เป็นเอก รัตนเรือง

 

 

  1. Love Each Other – Pumpkins At Alaska 

ดนตรีหวานเบาบางชวนนึกถึงเพลงแบบ Cigarettes After Sex วงดนตรีวงนี้เป็นดูโอ้จากอุบลฯ ทำเพลงดรีมป๊อป ที่กีตาร์มีความละมุน Love Each Other เล่าถึงความรักที่เคยมีแต่ก็จางจากไปแล้ว ในความรู้สึกบางตอนมันเหมือนเธอยังอยู่ตรงนั้น มันคือความฝันที่ยังไม่ยอมหายไป

 

 

  1. ปล่อยให้เวลา – Three Man Down

ร็อกรุนแรงกับความรักที่ผิดหวัง Three Man Down ปล่อยของแบบว่าที่จริงพวกเขาเป็นวงร็อก โยนความทรมานทั้งหมดทั้งมวลใส่ลงไปในกีตาร์ และเสียงร้องอันโหยหวน ท่อนแรปเจ็บปวดแบบตะโกน MV พลิกพล็อตเรื่อง โคตรดี

 

 

  1. ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ – Billkin

เสียงของบิวกิ้นเหมาะกับเพลงโรแมนติก อาร์แอนบีผสมป๊อป เครื่องสายคลอ มีความดีว่าหรูหราอลังการ ได้ฟีลเหมือนฟังเพลงของเบล สุพล ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ มองที่ตาหวานไปถึงที่ใจ เขียนเนื้อได้หยาดเยิ้ม มีความขี้อ้อนเล็กๆ มันจะเป็นเพลงที่คนรักเอาใส่ไว้ในเพลย์ลิสต์แล้วส่งหากัน 

 

 

  1. Fire Boy – PP Krit

ร้อนแรงดั่งไฟ พ่อหนุ่มหน้าหวานจุดติดง่าย เขยิบเข้ามาใกล้เกรงจะโดนเผา Fire Boy เป็นเพลงสนุกๆ ชวนเต้น ที่มีลายเซ็นคนเขียนเพลงอยู่ชัดเจน (The Toys เขียน) จังหวะของเพลงที่ไม่ช้าไม่เร็วแต่ได้ความยั่วยวน เข้ากันได้ดีกับเสียงของพีพี กฤษฏ์ หวานแต่มีความแสบ

 

 

  1. นิมมานซอย 9 – ว่าน ธนกฤต

เพลงชื่อสถานที่สำหรับคนที่ยังมูฟออนไม่ได้สักที ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ เพลงช้าๆ ในสไตล์ของว่านหยุดเราได้ทุกครั้งที่ฟัง เสียงของว่านเหมาะกับเพลงเศร้าๆ เหงาๆ เล่าเรื่องกับคีย์บอร์ดหนึ่งตัว คลอไปกับเครื่องสาย อากาศหนาวควรคิดถึงใครสักคน

 

 

  1. ทุกนาทีที่สวยงาม – นนท์ ธนนท์ 

งานของนนท์ ธนนท์ อัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดย ไมโล Tilly Birds เพลงนี้ไมโลร่วมเขียนด้วย มันจึงมีซาวด์ของ Tilly Birds อยู่ในเพลง มีความอลังการของดนตรี มีพลังของความเสียใจ เข้าใจ และมองความรักอย่างสวยงาม การใส่แซกโซโฟนตอนท้ายเพลงคือวิเศษ เสียงของนนท์ชวนฟังแบบยิ้มทั้งน้ำตา

 

 

  1. Baby Can You Stay – WNRDA

WNRDA คือ แพท วรรณรดา นักร้องนำจากวง Part Time Musicians กับ อาร์ม ภูษณะ มือกลองจาก The Paradise Bangkok Molam International Band เพลงเป็นนีโอโซลที่ประสานเสียงดี เพลงนี้เป็นเพลงรักหวานๆ แบบอยากให้อยู่ต่อ ไม่อยากจากกันเลย น้ำเสียงอ้อน ถ้าได้ยินแบบนี้คงเคลิ้มเลย

 

 

  1. Everything You Do – The Kopycat

The Kopycat เป็นวงดนตรีที่ทำเพลงย้อนยุคไปถึงยุค 60 ความละมุนละไมของดนตรีป๊อป Everything You Do ได้ นิค นักร้องนำแห่งวง Temp. และวง Part Time Musicians มาร้องด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงคู่ที่ดีมากเพลงหนึ่งในปีนี้เลย 

 

 

  1. สุดท้ายแล้วเราจะ – AUTTA, (feat. Greasy Café)

เพลงที่เล่นกับเนื้อเพลง เล่นกับความทรงจำของมนุษย์ สิ่งที่เราอยากจะลืมแต่เรายังจำมันได้ อ้อมกอดที่เราอยากจะจำมันไว้แต่เราวันหนึ่งเราก็ลืมมันไป เหมือนลมที่พัดลอยผ่านไป เนื้อเพลงที่เป็นเหมือนปรัชญา ฟังจบแล้วจะฟังซ้ำ การแรปของอัตตาที่ไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ตรงกันข้ามกันเสียงของเล็ก Greasy Café ที่บีบรัดความรู้สึกทั้งมวล ดนตรีที่มาแบบเนิบๆ แล้วสร้างความพีคขึ้นเรื่อยๆ MV ทำน้ำตาแตกไป 3 วัน

 

 

  1. Luxury – D Gerrard

Luxury เป็นเพลงอบอุ่นและจริงใจ เรื่องราวของความรักที่อันที่จริงไม่ได้ต้องการสิ่งของใดๆ ขอแค่อยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว การหลุดพ้นสิ่งที่เป็นวัตถุนิยม ดนตรีมีความเป็นโซล เสียงของ D Gerrard สวยงามทุกครั้งเวลาขึ้นสูง แถมใส่เครื่องเป่าเข้ามาในบางช่วงทำให้เพลงนี้ลงตัวมากๆ ได้ความหวานสีชมพูไม่ต่างกับ โลกคู่ขนาน ในปีที่แล้วเลย

 

 

  1. From BANGKOK to BETONG – _less (Feat. AINN, PERTHPERACH)

เพลงนี้เล่นคำท่อนฮุคได้อย่างเหนือชั้นมากๆ แค่เนื้อเพลงธรรมดาก็กวนตีนแล้ว เธอวางสายไปเพราะขับรถอยู่แล้วก็หายไปเลย เธอคงขับไปถึงเบตงละมั้ง ตรงท่อนฮุกใช้คำว่า “ใจเย็นจังนะฮันนี่” แต่ฟังดีดีจะได้เป็น “ใจเย็นจังนะอีห่านี่” เพลงเป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปโฉบเฉี่ยว

 

 

  1. Clapton – H 3 F

เพลงหน้า B ที่ไม่ได้ดังอะไรจากอัลบั้มที่ 2 Unemployment เพลงนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับ Eric Clapton หรือเปล่า เนื้อเพลงมีความเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป อยากให้เธอยังอยู่ ถ้ามันเป็นเพลงที่เล่าความรู้สึกของ Clapton ที่มีต่อลูกชายที่เสียชีวิตไป มันคงเป็นเพลงที่เศร้ามากๆ เพลงหนึ่ง (อันนี้เดาล้วนๆ) ตัวดนตรีมีความเป็นบลูส์ 100% กีตาร์เสียงนวล ท่อนท้ายโซโล่บาดลึก เครื่องเป่าประสานที่เติมเข้ามาอย่างไพเราะ

 

 

  1. Making Move – Daniel Ryn

Daniel Ryn หรือ แดเนียล ดิษยะศริน ศิลปินลูกครึ่งที่เมื่อก่อนเคยทำวง Penny Lane แล้วก็มีผลงานเดี่ยวอยู่หลายปี ตอนนี้เข้าสังกัด Smallroom ไปเรียบร้อย ทำเพลง Making Move ออกมาแบบทุกคนต้องมีเพลงนี้ในเพลย์ลิสต์ กีตาร์จิ้มๆ ลอยๆ จังหวะสนุก เพลงชวนสาวเข้าห้องเพลงนี้เปิดเป็นเคลิ้มทุกราย

 

 

  1. Very Very Small – YOUNGOHM

คล้ายจะป็นงานยุคใหม่ของยังโอมที่ไม่เน้นคำหยาบ ยังโอมเขียนเพลงในมุมความรักของวัยรุ่น หยิบโรงเรียนของตัวเอง (วัดธาตุทอง) มาเป็นฉากหลัง การหลงรักใครสักคนในโรงเรียน อยากเดินจาก BTS เข้าโรงเรียนไปด้วยกัน การใช้คำอย่างมีชั้นเชิง บนจังหวะเซิ้งได้ เหนือชั้นและยังมีลายเซ็น

 

 

  1. Holding On (to me) – Rocket Man 

Rocket Man จากค่าย Rats Records เป็นวงที่ทำเพลงในแบบโซลฟังก์ มีกีตาร์นำ เติมด้วยจังหวะที่เป็นฮิปฮอปอาร์แอนด์บีในยุค 90 เป็นเพลงโยกได้นิดหน่อย ผสมเสียงร้องมีความละมุน ท่อนที่ขึ้นสูงฟังเคลิ้ม มีการประสานเสียงอย่างดี 

 

 

  1. ความฝัน – อิมเมจ

มีกี่คนที่เดินตามความฝันแล้วได้ดั่งฝัน? แล้วคนที่เหลือเขารู้สึกอย่างไรกัน เพลงนี้อธิบายความรู้สึกตรงนั้นได้ดีที่สุดเลย มันเป็นเพลงสำหรับ Loser ผู้ต้องการคำปลอบใจสักคำ หรือแค่การรับฟัง เนื้อเพลงทำให้คนอย่างเราน้ำตาคลอตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว หรือเสียงอิมเมจนี่แหละที่ทำให้เราร้องไห้ ชีวิตมันเศร้าไปนะ

 

 

  1. Spin – Rosalyn

เพลงในแบบโซลผสมกับดรีมป๊อป Rosalyn ทำเพลงได้เท่มาก เสียงร้องสูงๆ คีย์บอร์ดสวยๆ จังหวะเพลงช้าๆ เหมือนควันบุหรี่บางเบาที่ลอยขึ้นฟ้า Spin เหมือนเพลงที่เอาไว้ประกอบหนังฟิลม์นัวร์หรือหนังมัวแบบหว่องกาไว 

 

 

  1. เจ้าของที่ – Mirrr

Mirrr เขียนเพลง เจ้าของที่ ในความหมายของความรักที่เว้นที่ให้เธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะมีคนใหม่หรือใครๆ ที่เข้ามา เจ้าของที่นั้นก็ยังเป็นของเธอคนเดียว การมูฟออนไม่ได้ในดนตรีโซลป๊อป กลองโปรแกรม 

 

 

  1. Find Yourself – Hope The Flower

ถึงเวลาค้นพบตัวเอง เพลงบรรเลงในแบบฉบับของโพสต์ร็อกจากวง Hope The Flower ค่อยๆ ปอกเปลือกตัวตนของเราทีละนิด เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแจ่มชัด คีย์บอร์ดลื่นไหล กีตาร์มุ้งมิ้ง กลองเคาะระทึก ก่อนจะพานพบความพีคในดนตรีช่วง 2 นาทีสุดท้าย เพลงชวนนึกถึง Felicity is Out There  ของ Inspirative เป็นที่สุด  

 

 

  1. 2614 – ไมยราพ

ให้เป็นเพลงที่เหมาะจะฟังตอนขับรถมากที่สุดของปีนี้ เพลงที่มีไวบ์ดีโฟลวไหลลื่น แต่เนื้อเพลงคือกำลังโกรธเธออยู่และไม่อยากให้เธอมายุ่งในตอนนี้ ไมยราพทำเพลงนี้ที่แคลิฟอร์เนีย ใช้กลองโปรแกรมธรรมดา แค่นี้ก็เท่ได้

 

 

  1. Budapest – Wicked Lights

เพลงเหมือนการประกอบฉากที่พระเอกเพิ่งไปฆ่าแวมไพร์ในเมืองเสร็จแล้วขับกลับบ้านหาคนรัก อินดี้โฟลก์ร็อกเท่ๆ แบบที่เราชอบ Mumford & Sons, The National, และ Kings of Leon กีตาร์โปร่งคลอไปกับเสียงร้องทุ้มต่ำ มีเปียโนตอนท้าย Wicked Lights คือ ธู จารุศร งานนี้โปรดิวซ์โดย เจ มณฑล ด้วย

 

 

  1. พิพิธภัณฑ์ – Illslick

การเก็บใครสักคนไว้ในความทรงจำเป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา แต่การที่จะบอกเขาให้รู้ว่าเรายังเก็บไว้อยู่สิเป็นเรื่องอยาก เพราะเขาไม่ได้อยู่ให้บอกแล้ว ถึงแม้จะทำให้มันเป็นพิพิภัณฑ์ก็ตามเถอะ ทำเพื่อแค่หวังสักวันว่าเขาจะเดินเข้ามาดู เพลงแบบ Illslick มีความเป็นกวี ทำนองสวยงาม มีจินตนาการ บนลูปกลองง่ายๆ 

 

 

  1. Time Machine – TOFU 

ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ที่มีความฟังก์ของกีตาร์ ความเท่ของเสียงกีตาร์นำพาเพลงโดดเด่น ท่อนโซโล่โฉบเฉี่ยว ตัดลงมาด้วยคีย์บอร์ด เบสตัวตึง เป็นเพลงที่ฟังซ้ำๆ ได้ไม่เบื่อ MV น่ารัก เรื่องราวของความรักที่อยากย้อนเวลากลับไปหาเธออีกครั้ง 

 

 

  1. No Dreamer – Réjizz 

Réjizz หรือ เรย์เจย์ เป็นแรปแบบโอลด์สคูล ใส่ความเป็นแจ๊สและสำเนียงโคตรดี คือถ้าฟังผ่านๆ จะไม่คิดว่าเป็นเพลงไทย No Dreamer โชว์การแรปสองภาษาแบบเหนือๆ และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับยา ชีวิตที่โตมา หรือทองที่คอเหมือนเพลงแรปทั่วไป 

 

 

  1. Nocturnal – VINI

หากคุณหลงรักเพลงอิเล็กทรอนิกส์คุณต้องหลงรักวงนี้ VINI เป็นวงดนตรีสามสาวที่แต่ละคนแชร์ความเด่นได้ดี เพลงที่มีความลื่นไหลของคีย์บอร์ด โซโล่เบสอย่างเท่ และกีตาร์เดินสวย การประสานเสียงอย่างดี ซินธิไซเซอร์เรียบเรียงดนตรีอย่างสวย Nocturnal เป็นความโฉบเฉี่ยวทางดนตรีในยามค่ำคืน

 

 

  1. คิดถึง – QLER

QLER (อ่านว่าคิวเลอร์) ยังทำเพลงดีๆ อยู่เรื่อยๆ คิดถึง เป็นโซลป๊อปที่มีเสียงร้องกับกีตาร์ไฟฟ้า เนื้อเพลงพร่ำบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้อยู่ฟังด้วยแล้ว ก็ได้แต่บอกว่าคิดถึงไปกับรูปโพลารอยด์ที่มีอยู่ในมือ เพลงติดหูง่าย และฟังเหงาๆ 

 

 

  1. ประวัติอาชญากร – ISEAST

ISEAST เป็นแรปเปอร์สายเล่าเรื่อง การแรปที่เหนือชั้น พลุ่งพล่านในตอนท้าย ใส่ลูปเพลงดีๆ ประวัติอาชญากร เป็นการหยิบประเด็นของการจัดเก็บข้อมูลทางราชการ ที่การลงนามกลายเป็นอาชญากร ทำให้ไม่สามารถไปสมัครงานที่ไหนหรือทำธุรกรรมใดๆ ได้ ความยุติธรรมที่ควรยุติการกระทำได้แล้ว

 

 

  1. Nothing You Even Need To Know – GHQST

โปรเจกต์ของ อาร์ต-อรรณพ มุสิกโปดก อดีตมือกีตาร์วง Goose วงแนวชูเกซตัวพ่อ เขาทำเพลงนี้พร้อมวิชวลที่ไม่ธรรมดา ดูก้อนหินที่แตกออกอย่างน่าติดตาม Nothing You Even Need To Know ออกมาในแนวโพสต์ร็อก เยือกเย็นด้วยเปียโน แต่เพลงจะค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

  1. เฮอร์ไมโอน้อง – TheChanisara

เสกเพลงโดย แอ้ม อัจฉริยา เจ้าแม่แห่งการเขียนเพลง บิดนิดหนึ่งจากเฮอร์ไมโอนี เพลงออกมามีความน่ารัก ติดหูได้ง่ายๆ เสียงของ อูน-ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ ได้ความขี้อ้อน ชวนนึกถึงเพลง แม่มด ของ แสงระวี อัศวรักษ์ ในยุคต้น 90

 

 

  1. Heartbeat – ALLY

 

ALLY คือลูกสาวของ อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน เธอเขียนเพลงเองด้วย เพลง Heartbeat เป็นเพลงป๊อปบับเบิลกัม ติดหูง่ายฟังสบายๆ เหมือนเวลาเราฟังเพลงของ 4EVE, Pretzelle และ Pixxie ความฝันของหญิงสาวที่มีต่อคนที่ทำให้ใจเต้นเร็ว ใจละลายแล้ว

 

 

  1. Love in the Wild – Linda Vinta

งานเพลงป๊อปสดใสยุค 2000 ที่ทำให้นึกถึงวง Hal และ The Thrills จากไอร์แลนด์ Love in the Wild เหมาะกับเป็นเพลงปลุกเราเพื่อค้นพบความสดชื่นในตอนเช้า ซาวด์กีตาร์น่ารัก ประสานเสียงดี เสียงร้องอบอุ่น 

 

 

  1. รูดี้…ชั้นรู้ดี – VENN

สับคอร์ดแรงๆ กับการประสานเสียงแบบกระหึ่ม นี่คือเพลงโฟลก์ร็อกที่ทรงพลังเพลงหนึ่งของปีนี้ วง VENN (อ่านว่าเว็น) แตกมาจากวง Mattnimare พวกเขามีความเท่และทำดนตรีอย่างเข้าถึง เนื้อเพลงบอกกับตัวเองว่ารู้ดีว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะรั้งเธอเอาไว้ 

 

 

  1. Time Moves Slower – Varis

วริศ คงสุวรรณ หรือ Varis ยิ่งทำเพลงยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ Time Moves Slower เป็นเพลงที่ทำออกมาอย่างเท่ เสียงเคาะจังหวะ กับเสียงร้อง เหมือนเวลาเดินไปอย่างช้าๆ แล้วพอเข้าท่อนฮุก สาดกีตาร์กับฟาดกลองแบบไม่ยั้ง ใส่ความเป็นร็อกเต็มๆ ตัดกลับเข้ามาช้าอีก เหนือชั้น 

 

 

  1. ใกล้ ใกล้ – Yonlapa

แล้ว Yonlapa ก็กลายร่างเป็นชูเกซได้อย่างงดงาม ก่อนหน้านี้วงดนตรีจากเชียงใหม่ทำเพลงเบา ล่อยลอย ในแบบของดรีมป๊อป ใกล้ ใกล้ เหมือนเปิดโลกใหม่ให้กับเรา เพลงชวนนึกถึงวงอย่าง Lush, Cocteau Twins, และ Slowdive ฟังไม่ยากเนื้อเพลงออกจะหวาน

 

 

MixTapes:

Apple Music

Spotify 

 

 

เลเล่เล้

มกราคม 2566

Twitter @laylaidlaid

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>
MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง https://thestandard.co/mixtapes-milli/ Wed, 07 Dec 2022 06:51:03 +0000 https://thestandard.co/?p=720779 MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม

มิลลิเรียกตัวเองว่านวย ใครยังไม่เคยรู้ที่มา อ่านไปเดี๋ย […]

The post MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม

มิลลิเรียกตัวเองว่านวย ใครยังไม่เคยรู้ที่มา อ่านไปเดี๋ยวมีเฉลย ณ เวลานี้เธอคือเบอร์หนึ่งของวงการเพลงแรป ย้ำ! เบอร์หนึ่งแบบเบิ้มเบิ้มเลย 

 

มิลลิเพิ่งอายุ 20 ปีไปหมาดๆ แต่เธอมีความปังปุริเย่เริ่ดสะแมนแตนแบบที่ทุกคนพร้อมปรบมือให้ การเป็นศิลปินไทยที่ได้ไปอยู่บนเวที Coachella และกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์เมื่อต้นปี คือความสำเร็จระดับโลกจริงๆ มิลลิมีชื่อจริงว่า ดนุภา คณาธีรกุล เธอเป็น Singer-Songwriter อีกคนของเมืองไทยที่มีฝีไม้ลายมืออย่างมาก เพลงที่เธอเขียนทุกคนต้องหันมาสนใจ การแรปและการร้องที่ทุกคนต้องหยุดฟัง

 

มิลลิเป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา ฟังเธอตอบคำถาม ดูตามความคิดของเธอ เป็นเด็กที่มีความมั่นใจตัวเองสูงมากและทำในสิ่งที่เด็กส่วนใหญ่อยากทำ เธอเป็นไอดอลของเด็กมากมาย จากเด็กที่เป็นประธานนักเรียน การเรียนระดับปานกลาง แต่เรียน English Program มา ภาษาเธอเลยดี เธอเข้าประกวด The Rapper ในซีซัน 2 ตอนที่เพิ่งอายุ 16 ปี เธอให้สัมภาษณ์ในตอนนั้นว่า “ถ้าเลือกเธอ เธอจะเป็นความแปลกใหม่ในวงการ และเธอจะเป็นตัวประหลาดด้วย” หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เธอเป็นแบบที่เธอพูดทุกคำ เป็นในระดับที่คนในวงการเพลงแรปก็ยังทึ่ง การแรปรัวเป็นไฟด้วยท่อนที่แต่งเองทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาท้องถิ่น การแสดงบนเวที ความเป็นเฟมินิสต์ ความคิดดีๆ สะท้อนมาในเพลงของเธอ

 

 

หลังจาก The Rapper สังกัด Yupp! ก็ได้ตัวเธอไป แล้วมิลลิก็ออกเพลงแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพลงนั้นชื่อว่า พักก่อน เป็นเพลงที่ทำให้ทุกคนหันมามองเธอแบบจริงจัง ความแสบของเนื้อเพลงระดับสุด ต่อด้วยเพลงอย่าง สุดปัง เริ่มดังและฉุดไม่อยู่แล้ว หลังจากนั้นเธอก็ไปฟีเจอริงกับศิลปินอีกมากมาย ยิ่งทำให้เธอดังขึ้นไปอีก มีตัวตนที่ชัดเจนขึ้น มีสไตล์การแรปที่เป็นตัวของตัวเอง จนถึงทุกวันนี้ที่เธอฟีเจอริงกับศิลปินระดับโลกแล้ว

 

เห็นเธอบอกอย่าพักผ่อน แต่ใส่เสื้อเสียสำส่อน 

จวนจะเห็นนมย้อนหย่อน แต่มึงควรกลับไปซักก่อน 

ใส่เสื้อ Boy London แต่นัดผู้ชายที่ Bonchon 

แต่งหน้าเสียอ่อนอ่อน เดี๋ยวอีกสักพักก็ล่อนจ้อน 

และ Oh My God 

นี่ชะนีหรือ Rhino วิ่งโร่หาพวกผู้ชาย 

Oh My God 

แต่งตัวโคตรมิดชิด พี่แอบคิดว่าหนูขาย

  • พักก่อน 

 

 

แล้วเธอก็ออกอัลบั้มแรก แบบ เบิ้ม เบิ้ม ในเดือนพฤศจิกายน เรามาทำความรู้จักทีละเพลงกันดีกว่า 

 

เปิดอัลบั้มด้วย Welcome ตะโกนดังๆ Welcom to Thailand เอ้ย Welcome to myyyyy ลากยาวๆ เชิญมารู้จักชีวิตของเธอ อินโทรกลิ่นแจ๊ส เพลงที่เหมือนอยู่ในท้องถนนอลหม่าน มีเสียงบีบแตรรถตลอดเวลา เนื้อเพลงเล่าถึงสิ่งที่ผ่านมาก่อนจะมาเป็นวันนี้ เหมือนแรปเปอร์ทั่วไปที่ต้องเล่าชีวิตตัวเองในเพลงแรก ภาษาแรงมาก เช่น “โชคดีพ่อมึงอ่ะ กูพยายามแทบตาย” ใช่ครับ อย่ามาด้อยค่าความพยายามของใคร เธอโชว์ท่อนแรปไฟแลบได้อย่างสุดเดือด

 

เพลงที่ 2 เปิดด้วยเสียงเหมือนสวดมนต์ในเพลง สาธุ ท่อนเนื้อเพลงของเธออีกแล้วที่เธอได้พันล้านเพราะว่าหลวงพี่ท่าน ความคิดของเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ โลกนี้มีข้อมูลเต็มไปหมดแล้ว จะให้เชื่ออะไรงมงายอีก เพลงนี้แรปคู่กับ TangBadVoice ลิ้นติดไฟกันทั้งคู่ 

 

ปัดโถ่ อุตส่าห์นั่งฟังพระอาจารย์ 

ตั้งแต่ตำนานท่าตั้งนานสรุป แฮ่!

กูเชื่อใครได้บ้าง เชื่อตัวเองแล้วกัน

เพราะทำไงได้งั้นเนี่ยของแท้

เพราะวันก่อนโดนโจรปล้น มันเดินค้นตามคน

มันพกของมีคม กูลองและ

เลยล้วงมือเข้าไปหยิบหลวงพี่ตั้งมาอม เท่านั้นแหละ

กึบ ช็อกโกแลต

  • สาธุ 

 

 

I LUV U! เป็นเพลงรักที่ฟังดูเด็กขี้รำคาญ เป็นเพลงแรปคู่คุยกัน การเขียนเนื้อแบบตอบสวนกันไปมามีความท้าทายและไม่ง่าย เพลงนี้แรปคุยกับ NAMEMT ต่อด้วยเพลงแอโรบิกที่มีความโป๊งชึ่ง Sad Aerobic เพลงนี้มีความเป็นไทยด้วยซาวด์และเครื่องเคาะ เหมือนเพลงที่รถสองแถววิ่งข้ามจังหวัดจะเปิด ลูกทุ่งอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์อมตะนิรันดร์กาล เนื้อเพลงแซวการออกกำลังกาย กินผัก-ผลไม้ ตลกตรงขวาๆ ซ้ายๆ ได้ความฮาถ้านึกภาพตาม เพลงนี้เขียนร่วมกับ น็อต สพัชญ์นนทน์ มือโปรดิวเซอร์สายนี้ 

 

Boy Pablo หรือ บอยพาโบ้ ตั้งชื่อเพลงตามชื่อศิลปินดัง เพลงนี้ร้องกับ BOWKYLION เมื่อ Singer-Songwriter สองคนมาเจอกัน ความสุดปังก็บังเกิด เนื้อเพลงมีความหลุดกรอบมาก ประชุมกับตัวเอง ทะเลาะกับตัวเอง สับสนในตัวเอง กับผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่ง แต่ก็เลิกไม่ลง เพลงเลยเหมือนคุยอยู่กับกุมารทอง แม่ซื้อ หรือใครสักคน แล้วก็วนไปวนมาหาข้อสรุปไม่ได้ เด็ดดวงมากแม่

 

ไอ้คนนิสัยไม่ดี ต้องเป็นแบบนี้ทุกที 

บอกตรงๆ ว่าเลิกแม่งเลยเหอะ ก็คงดี

กี่ครั้งที่เสียน้ำตา ผิดแต่ไม่ยอมร่ำลา 

เลิกเลยไปถ้าคบแล้วไม่มีค่า จัดการแม่งเลย

  • บอยพาโบ้

 

 

Not Yet! เป็นเพลงดังเมื่อปีที่แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง คือผู้หญิงยังไม่พร้อมและไม่อยากเยเย่เย้หรือทำอะไร แค่มาหาเพราะคิดถึงหรืออยากจะแค่นอนกอด แต่ผู้ชายเป็นเพศที่อยากจะเยเย่เย้ เธอปฏิเสธแล้วก็ยังจะตื๊ออยู่ ผู้ชายกับผูหญิงต่างกันตรงนี้ ผู้หญิงอยากมีรักก่อนมีเซ็กซ์ ผู้ชายอยากมีเซ็กซ์ก่อนมีรัก ต่อด้วยเพลง 17 นาที มิลลิบอกไว้ว่า มันเป็นเรื่องของเวลาในการตอบไลน์ การที่ไม่ได้ตอบในทันทีแต่ทิ้งเอาไว้สัก 17 นาทีจะกำลังดี ดนตรีเพลงนี้ฟังง่าย ไหลลื่น เพลงนี้ร้องคู่กับสองหนุ่มวง mints และจัดว่าเป็นเพลงรักที่เพราะมากๆ ของมิลลิ 

 

ที่จริงฉันเองชอบเธอมากเหลือเกินจะทน 

แต่ฉันเองก็กลัวเธอจะไม่คิดเหมือนกัน 

ก็เราต่างเป็นแบบนี้ มัวแต่ดึงเช็งทุกที 

แล้วเมื่อไรจะได้คุย 

ก็เล่นตอบช้าแบบนี้ เล่นหายไปนานทุกที 

ก็คงรอกันต่อไป

  • 17 นาที 

 

 

Homework เป็นเพลงที่เปียโนคลอไปทั้งเพลงอย่างเพราะ มิลลิเล่าเรื่องการทำการบ้านที่เยอะแยะไปหมด ทำเท่าไรก็ไม่หมด ขี้เกียจทำแล้ว อยากดูหนัง เปิดเพลงฟัง ติดอยู่ที่แม่นี่แหละ เขียนเรื่องราวได้ลื่นดีเหลือเกิน ต่อด้วย สุดก่อน มีความโชว์เพลงในเพลงนี้เลย การซ้อนของเพลง การโฟลวของแรป และเครื่องดนตรีที่ใช้มีความน่าทึ่งมากๆ ปิดท้ายอัลบั้มด้วย Squad Shit เป็นเพลงสุดเหม็นเล่าเรื่องขี้และมีเสียงตดตลอดเพลง มีความกวนตีนของเพลง แขวะพวกกินบ้านกินเมือง และคำผวนเกี่ยวกับสบู่ 

 

มิลลิเป็นคนกวนๆ ชื่อเล่นจริงๆ ของเธอคือมินนี่ ซึ่งเธอตั้งชื่อตัวเองว่านวย มาจากคำผวนว่า มินนวยหัวคี่ นั่นแหละเธอล่ะ 

 

อัลบั้ม: แบบ เบิ้ม เบิ้ม (BABB BUM BUM) 

ศิลปิน: มิลลิ (MILLI) 

ค่าย: YUPP!

 

เลเล่เล้ 

พฤศจิกายน 2565 

Twitter: @laylaidlaid

 


MixTapes by laylaidlaid 

 

เนื่องจากมิลลิฟีเจอริงกับศิลปินเยอะมากทั้งในและนอกประเทศ เลยอยากทำเป็น MILLI Essential รวมเพลงเพราะๆ ของเธอไว้ให้ฟังเพลินๆ ครับ 

 

Apple Music: MixTapes MILLI 

https://music.apple.com/th/playlist/mixtapes-milli/pl.u-vxy6yXMIPXV9lp 

Spotify: MixTape MILLI 

https://open.spotify.com/playlist/40M9itxmpOOrAxQfQK0wWZ?si=zChM4Oz2Q8uqW6qMWKpdtA 

 

  1. Welcome – MILLI ft. MINUS 
  2. พักก่อน – MILLI
  3. Mind Games – MILLI ft. Jackson Wang
  4. เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน – MILLI ft. Tilly Birds
  5. Sad Areobic – MILLI
  6. สุดปัง / MILLI
  7. Not Yet – MILLI
  8. The Weekend / 88rising & BIBI (MILLI Remix)
  9. Mango Sticky Rice / MILLI
  10. สาธุ – MILLI ft. TangBadVoice
  11. หนูทำเอง – MILLI ft. FIIXD
  12. ตาแตก – MILLI ft. WONDERFRAME
  13. Boy Pablo – MILLI ft. BOWKYLION
  14. เบาได้เบา – MILLI ft. Towpee Southside
  15. ดูออก – MILLI ft. Pae Sax Mild, ว่าน วันวาน
  16. แฟนใหม่หน้าคุ้น – MILLI ft. MAIYARAP
  17. 17 นาที – MILLI ft. mints
  18. ได้อยู่ – MILLI ft. OAT PRAMOTE
  19. Homework – MILLI
  20. Booty Bomb – 4EVE
  21. Mirror Mirror – MILLI ft. F.HERO, Changbin of Stray Kids 
  22. Squad Shit – MILLI ft. 1FLOW

 

The post MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง https://thestandard.co/nont-tanont-full-album/ Fri, 02 Sep 2022 11:00:03 +0000 https://thestandard.co/?p=675521 นนท์ ธนนท์

คุณรักพาร์ตไหนที่สุด?   นนท์ ธนนท์ หรือชื่อจริงว่า […]

The post อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
นนท์ ธนนท์

คุณรักพาร์ตไหนที่สุด?

 

นนท์ ธนนท์ หรือชื่อจริงว่า ธนนท์ จำเริญ เป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศ The Voice Thailand Season 1 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 10 ปี นนท์มาไกลมาก เรียกได้ว่าในนาทีนี้เขาคือศิลปินชายเดี่ยวยืนหนึ่งของเมืองไทย ทะเยอทะยาน Concert ที่เพิ่งผ่านไปประสบความสำเร็จอย่างมาก และมันจะเป็นก้าวที่ดีของเขาต่อไปในอนาคตอีก

 

อัลบั้มนี้ชื่อว่า Cigarette Candy & Vanilla Sky ทำมาเป็นแพ็กเกจสวยงาม แบ่งเพลงออกเป็น 3 พาร์ต พาร์ตละ 4 เพลง เพลงที่ 1-4 จะได้ความขม สติล่องลอย เหมือนบุหรี่ เพลงที่ 5-8 จะได้ความหวานปนความห่วงใย เหมือนลูกกวาด เพลงที่ 9-12 จะได้ความหอมหวน ซึ่งทำให้หวนคิดถึงอดีต เป็นโมเมนต์ที่มองท้องฟ้าเวลาเหงาแล้วฟ้ามีเมฆเป็นสีวานิลลา

 

 

สไตล์การร้องของนนท์มีความเป็นอาร์แอนด์บี มีลูกเอื้อนที่ดี อัลบั้มนี้ใช้วิธีให้ศิลปินดังๆ มาเขียนเพลงให้นนท์ร้อง ซึ่งกลับกลายเป็นดีมาก เพราะแต่ละเพลงมีคาแรกเตอร์ชัดเจนตามคนเขียนเพลง แล้วมันทำให้พอฟังรวมทั้งอัลบั้มก็ไม่เบื่อง่าย แถมนนท์ยังปรับสไตล์การร้องตามคนแต่งได้หลายแบบ อัลบั้มนี้เรียกได้ว่าพามาแต่คนเก่งๆ ไม่ว่าจะเป็น เติร์ด Tilly Birds, นะ Polycat, กานต์ The Parkinson, ข้าว Fellow Fellow, แทน ลิปตา, หนึ่งและบี ETC., ปู๋ HENS, ก้อง H 3 F, เจนพัฒน์ Mad Puppet, กัน วง MEAN, โบกี้ไลอ้อน, AMBYRFEELS, HYE และ แอ้ม อัจฉริยา อัลบั้มโปรดิวซ์โดย ไมโล Tilly Birds

 

จับเพลงทั้งหมดมา ผมแบ่งกลุ่มตามเนื้อหาของเพลงออกเป็น 4 กลุ่ม ได้กลุ่มละ 3 เพลงพอดิบพอดี มันช่างลงตัว

 

(กลุ่มแรก) เพลงที่แอบรักใครสักคน มีความหวังอยู่ลึกๆ มีเพลง โต๊ะริม, แค่แอบหวัง และก็ Dark Choc ขอเริ่มจากเพลงดังก่อน โต๊ะริม เพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิลก่อนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเพลงที่ทำให้นนท์รู้จักในวงกว้าง เพลงนี้เขียนโดยโบกี้ไลอ้อน เนื้อเพลงที่ฟังครั้งแรกก็สะกดเราให้ยิ้ม มีประโยคแทงใจเต็มไปหมด เช่น “ตายแล้วตายอีก” “เชือดนิ่ม” “ใจปริ่ม” “ฆ่ากันแล้วก็เอาให้ตาย” “เธอมาทำให้ละลาย” โต๊ะริมหมายถึงโต๊ะในร้านอาหารก็ได้ โต๊ะทำงานก็ได้ โต๊ะที่นั่งประจำในมหาวิทยาลัยก็ได้ มันได้ไปหมดกับทุกที่กับทุกคน เป็นการแต่งเพลงที่เฉือนด้วยคำที่ดีมากๆ ของปีนี้เลย

 

ไม่ใช่แค่ฝัน ที่ฉันต้องตื่น

และฉันก็ฝืนหัวใจตัวเองไม่ไหว

เธออยู่ตรงนั้น

อยากเพียงแค่ชิดใกล้

ห้ามใจ เท่าไรไม่ได้สักที

โต๊ะริม 

 

 

แค่แอบหวัง เปิดต่อกันกับโต๊ะริม เพลงนี้ได้กานต์ The Parkinson มาแต่งให้ เสียงฮู้ยาวๆ ตรงอินโทรก็คือความเป็น The Parkinson เลย มีความรักแบบเพื่อนแอบรัก เปิดต่อ เพื่อนรัก ของ The Parkinson และ พอไหว ของ อะตอม ชนกันต์ ส่วนเพลง Dark Choc ใส่เครื่องเป่ากังวาน เบสคำโตๆ เพลงนี้มีความเป็น ETC. เป็นเพลงที่รู้ว่าความรักมันขมแต่ก็ไม่เข็ด เสียงร้องของนนท์มีพาวเวอร์

 

(กลุ่มสอง) มีความแบบได้อยู่ใกล้ๆ เธอ อยากให้เธอรักตอบบ้าง แต่ก็ทำใจไว้แล้วนิดหนึ่ง ได้แก่เพลง ไม่เป็นไรที่รัก, ผ้าพันแผล และ ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก ในอัลบั้มนี้มีชื่อนนท์เป็นหนึ่งในคนแต่งเพลงด้วย เพลงนั้นคือ ไม่เป็นไรที่รัก มันเป็นเพลงป๊อปฟังเย็นๆ ขึ้นด้วยคอรัส กีตาร์เพลงนี้มีลูกเล่นมาก แถมตอนท้ายมีโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าออกแนวเจ็บปวด เนื้อเพลงเป็นความผิดหวังของเธอ ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ได้แค่ปลอบ

 

เธอลองพูดคำว่ารักกับฉันไหม​​​

ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจ แบบที่เธอเคยเจอมาก่อน

ฉันขอเป็นคนที่เธอรักได้ไหม​​​

จะทำให้เธอเข้าใจ ว่าความรักที่แท้เป็นอย่างไร

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก​​จะลองดูไหมให้ฉันรักเธอเอง

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก

 

 

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก เป็นเพลงที่ร้องคู่กับ อิ้งค์ วรันธร การเลือกอิ้งค์มาร้องด้วยช่วยส่งเพลงได้ดี เพราะว่าเพลงในแบบของอิ้งค์ก็มีความเฟลในความรักไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าสองคนเสริมกันได้ดีเลย ส่วน ผ้าพันแผล เปรียบเทียบได้ดีเลย เป็นผ้าพันแผลให้เธอ อยู่ด้วยกันกับเธอตอนที่เธอเจ็บ แต่ฉันก็เป็นแค่ผ้าพันแผล เธอหายแล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการอีก เสียงคอรัสมีความเป็น Tilly Birds มีประโยคเด็ดอย่าง “สัมผัสความเป็นห่วงจากฉันในเมโลดี”

 

(กลุ่มสาม) ความรักที่เพิ่งจบ แต่ทบทวนแล้วไม่อยากให้จบ ขอเริ่มใหม่ถ้ามีโอกาส เพลงกลุ่มนี้คือ Back To You, เธอมีคนเดียวบนโลก และ คนใหม่ เพลงแรกเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงเดียวในอัลบั้ม ซึ่งนนท์ก็ร้องได้ดี เป็นเพลงที่แต่งโดย Adrian Milanio ตัวเพลงมีความเหงาด้วยคีย์บอร์ด ในคอนเสิร์ตนนท์โชว์การเล่นเปียโนในเพลงนี้ด้วย แถมกีตาร์ท่อนจบยิ่งเหงาใหญ่ได้ก้อง H 3 F มาช่วย

 

เพลงเพลงนั้นที่เธอเคยชอบฟัง

บางครั้งที่ฉันบอกว่ารำคาญ เพราะมันช่างเสียงดัง

วันนี้ฉันต้องเปิดมัน เพื่อลบเลือนความเงียบงัน

เพื่อจะเพ้อว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

เธอบ่นเสมอเวลาที่เดิน ทำไมไม่จับมือกัน

วันนี้อยากทำเท่าไรก็ ทำได้เพียงแค่เดินลำพัง

คนใหม่

 

 

คนใหม่ เป็นเพลงที่น่าจะตัดเป็นซิงเกิลมาก เป็นเพลงที่เพราะแบบเหงาตาย ความรักที่รู้แล้วเมื่อขาดหาย คนเขียนเพลงนี้คือ แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ นักแต่งเพลงฝีมือฉมังในยุคนี้ เพลงเป็นเพลงช้าเศร้าๆ เสียงของนนท์บ่งบอกถึงความปวดร้าว ยอมเปลี่ยนเป็นคนใหม่เพื่อให้เธอกลับมา ส่วน เธอมีคนเดียวบนโลก มีความเป็น Tilly Birds ชัดเจนมาก เป็นเพลงที่เด่นออกมาจากสไตล์การร้องและเนื้อเพลง

 

(กลุ่มสุดท้าย) เพลงที่มูฟออนไม่ได้ ยังเสียใจอยู่ทุกวัน ยิ้มทั้งน้ำตาให้เหมือนว่าเข้าใจความเป็นไป กลุ่มนี้มี วันครบเลิก, ทุกนาทีที่สวยงาม และ Memories 

 

ขอเริ่มจากเพลงฮิตก่อน วันครบเลิก ฟังแล้วชวนคิดถึงเพลง Easy ของ Mac Ayres เพลงนี้เป็นเพลงแรกของอัลบั้มนี้ที่ปล่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว วางภาพของนนท์ไว้ชัดเจนตั้งแต่นั้นมา มันมึความเจ็บปวดในเสียงร้อง เมื่อวันครบรอบกลายเป็นวันครบเลิก เพลงนี้ นะ Polycat และ เจนพัฒน์ Mad Puppet เป็นคนเขียน

 

ไม่มีทางที่ฉันจะลืม​​​​​ทั้งเรื่องร้ายๆ ในวันที่เราจากกัน

และเรื่องดีๆ ที่ทำให้รู้ว่า​​​​ช่วงเวลาเหล่านั้น มันช่างสวยงาม

กี่คำถาม ที่มันยังคาในใจ​​​​ เธอรู้ไหมมันทรมานแค่ไหน

เพราะคำตอบ มันอยู่ในทุกนาทีที่ฉันเคยเคียงข้างเธอ

ทุกนาทีที่สวยงาม

 

 

ทุกนาทีที่สวยงาม เพลงยาว 6 นาทีที่ไม่รู้สึกว่ายาวเลย เพลงที่ให้ความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่ได้ฟัง ถ้าเราเจอกันอีก ของ Tilly Birds ครั้งแรก เพลงที่เต็มไปด้วยความเศร้า แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะเข้าใจ เพลงที่มีความอลังการของดนตรี เครื่องดนตรีแต่ะละชิ้นทำหน้าที่ได้ดี อย่างเช่น แซกโซโฟน ที่ทำให้โลกนี้สวยงามท่ามกลางความเศร้าของเพลง เพลงนี้ถูกวางไว้เป็นเพลงรองสุดท้ายของอัลบั้ม

 

อัลบั้มปิดด้วย Memories ทำให้อัลบั้มมันไม่ได้เศร้าดิ่ง เพลงนี้เป็นเพลงที่นนท์ร้องกับกีตาร์ ฟังแล้วนึกถึง ยังรอคอยเธอเสมอ ของ พรู การที่เราคิดถึงอดีต เราสามารถยิ้มและมีความสุขกับมันได้ เครื่องสายที่ใส่เติมเข้ามาคือความสวยงามของความสุข

 

เป็นอัลบั้มที่ฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ สวยงามทั้ง 12 เพลงอย่างแท้ทรู

 

 

อัลบั้ม Cigarette Candy & Vanilla Sky

ศิลปิน นนท์ ธนนท์

ค่าย LOVEiS

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

อ้างอิง:

 

MixTapes by laylaidlaid

วางคอนเซปต์ไว้เป็นอาร์แอนด์บีเพราะๆ ครับ

 

Apple Music: MixTapes Nont Tanont

 

 

 

Spotify: MixTape Nont Tanont

 

 

 

  1. โต๊ะริม / นนท์ ธนนท์
  2. แค่แอบหวัง / นนท์ ธนนท์
  3. เพลงส่วนบุคคล / fellow fellow
  4. นั่งโง่ๆ ริมทะเล / นนท์ ธนนท์, MEAN, JEEP
  5. ยอม / Yented
  6. Destiny / เบน ชลาทิศ
  7. ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก / นนท์ ธนนท์ (Feat. อิ้งค์ วรันธร)
  8. ภวังค์ / AP1WAT
  9. St. Elmo’s Fire / Michael Franks
  10. จะบอกเธอว่ารัก / The Parkinson
  11. วันครบเลิก / นนท์ ธนนท์
  12. Easy / Mac Ayres
  13. Always, I’ll Care / Jeremy Zucker
  14. มีผลต่อหัวใจ / นนท์ ธนนท์
  15. พรครับ / BayBay
  16. ผ้าพันแผล / นนท์ ธนนท์
  17. I Keep Forgettin’ (Every Time You’re Near) / Michael McDonald
  18. Back To You / นนท์ ธนนท์
  19. พอไหว / อะตอม ชนกันต์
  20. เห็นฉันไหม / Soul After Six (Feat. Jacarr)
  21. คนใหม่ / นนท์ ธนนท์
  22. ถ้าหาก / Two Popetorn, Billkin, TA The Parkinson
  23. No.15 / AMBYRFEELS
  24. หยุดได้แล้ว / MEAN, นนท์ ธนนท์
  25. รอยจูบ / Tattoo Colour
  26. ทุกนาทีที่สวยงาม / นนท์ ธนนท์
  27. ถ้าเราเจอกันอีก / Tilly Birds
  28. Nobody Knows / Stamp, Christopher Chu
  29. Memories / นนท์ ธนนท์

 

อ้างอิง:

The post อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! https://thestandard.co/the-kopycat-swirl/ Tue, 23 Aug 2022 09:30:12 +0000 https://thestandard.co/?p=670825 The Kopycat

The Kopycat เป็นวงป๊อปที่ทำเพลงออกมาละมุนละไม เพลงมีอิท […]

The post The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Kopycat

The Kopycat เป็นวงป๊อปที่ทำเพลงออกมาละมุนละไม เพลงมีอิทธิพลของเพลงป๊อปยุค 60 และ 70 ที่มีเสียงคอรัสฮูวาวาฮู กีตาร์เล่นแบบไม่ต้องเยอะ มีลูกหวานๆ เยิ้มๆ เบสลื่นไหล สร้างบรรยากาศสนุก บางเพลงใช้คีย์บอร์ดได้ความรู้สึกไปอีกแบบ ที่สำคัญเสียงร้องมีความหวานชวนหลงใหล เป็นวงที่ทำให้นึกถึงวง She & Him ก่อนเพื่อน และความใสได้ประมาณ Pink Martini

 

The Kopycat

 

วงนี้มีด้วยกัน 3 คน นักร้องสาวเสียงใสนามว่า มู่ หรือ มารีอา มู่ เธอเป็นคอรัสให้กับหลายๆ คนมาก่อน เช่น ส้ม มารี, เอิ๊ต ภัทรวี, วง Temp. และ quicksand bed ส่วนมือกีตาร์คือ แฮม-ฐาณิศร์ สินธารัตนะ ร่วมกับ ปอนด์-พรพิพัฒน์ มาลีพันธ์ เดินเบส พวกเขาทั้ง 3 คนทำ The Kopycat ด้วยกันมา 2 ปี มีเพลงรวมเป็นอัลบั้มได้พอดี จังหวะกำลังดี โควิดกำลังหมดความสำคัญ ปรากฏว่านักร้องนำได้การตอบรับไปเรียนต่อที่สเปน อัลบั้มนี้จึงออกมา มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม และคอนเสิร์ตเล็ก ก่อนที่จะพักวงกันสักแป๊บ

 

The Kopycat

 

ชื่ออัลบั้มเพราะดี SWIRL แปลว่าหมุน โลโก้ชื่ออัลบั้มที่ออกแบบมาก็ให้ความรู้สึกนี้ เพลงทั้งอัลบั้มฟังแล้วได้ความรู้สึกหมุนปลิว เหมือนเราเดินอยู่กลางทุ่งหญ้าโล่งๆ ในวันที่อากาศเย็นสบาย ไปปิกนิกกลางป่า นั่งกินแซนด์วิชริมธาร เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่มีเพื่อนคู่ใจไปด้วย หรือเป็นอารมณ์แบบเดตกันที่ร้านอาหารหรูบนตึกระฟ้า มองบรรยากาศแสงไฟตึกข้างนอกที่สวยงาม จิบเครื่องดื่ม และนั่งคุยกันอย่างมีความสุข

 

เมื่อฟังเพลงอัลบั้มนี้ครบทั้งหมดแล้ว มันเป็นการยากที่จะบอกว่าเพลงไหนดีกว่าเพลงไหน เพราะแต่ละเพลงมีความพิเศษของมันเอง และต่อกันแต่ละเพลงได้อย่างไหลลื่น 

 

Baby, I wanna see you my baby.

You’re only one that make me smile.

Why won’t you come here for a while.

Cause tonight, stars shine so bright like I see your eyes.

And I wanna hold you so tight.

Please don’t deny it, my baby.

– My Baby

 

 

เปิดอัลบั้มด้วย My Baby เพลงที่ชวนคิดถึงเพลง Earth Angel (Will You Be Mine) ในยุค 60 และมีอิทธิพลของ Be My Baby ของ The Ronettes ด้วย เพลงนี้เป็นเพลงแรกของวงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กีตาร์มีความอ่อนโยน เนื้อร้องออดอ้อน อยากให้มาเจอกัน ช่วงโซโล่กีตาร์ตรงกลางไม่ต้องเยอะก็เพราะแล้ว ใช้เพลงนี้เปิดอัลบั้มได้ดีเลย ต่อด้วย A Night Ride เพลงที่เหมือนนั่งรถไปด้วยกันช่วงเดตแรก มีความเขินปนกับความดีใจ ความฝันที่เป็นจริง การร้องที่ลากคำว่า You ยาวๆ คือความใส่ใจในตัวเธอ 

 

ต่อด้วย Painting เพลงนี้มี 2 เวอร์ชัน อีกเวอร์ชันเป็นเปียโน มู่ร้องคู่กับ JIPI หรือ จี๊ป-รัชช อมาตยกุล อดีตสมาชิกวงจินตา แต่เวอร์ชันหลักเป็นเสียงของ แฮม เล่นกับเปียโน มีเสียงของมู่เป็นคอรัส พอเพลงเข้าท่อนฮุคเพลงนี้สวยมาก การที่คนสองคนมาเจอกัน คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกัน แชร์ลมหายใจเดียวกัน และการได้เรียนรู้กัน เหมือนกับการทาสีของคนหนึ่งเข้าไปที่อีกคนหนึ่ง จบเพลงด้วยเสียงกีตาร์ใสๆ ให้เพลงไม่หม่นไปนัก

 

Waiting For You ใช้กีตาร์อะคูสติกคลอไปกับเสียงร้อง มีทำนองหวาน และหวานด้วยเสียงร้องที่ฟังเหมือนมีความดีใจที่ได้เป็นคู่อยู่ด้วยกัน มีความอาลัยเมื่อตอนจากกัน แล้วดนตรีก็ตัดเป็นอีกบทที่เร็วขึ้น เป็นเพลงที่เก๋ดี และทำให้เพลงในอัลบั้มไม่ได้เป็นโทนเดียวเกินไป 

 

เพลงดี 3 เพลงเรียงติดกัน Hideaway เป็นเพลงสนุกๆ แบบที่นึกถึง Belle and Sebastian ตอนที่แยกทำ God Help The Girl ต่อด้วย Ting A Ling ที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟังเพลงคริสต์มาส เพลงมีความอบอุ่น ฟังแล้วเคลิ้มมาก เพลงต่อไปเป็นเพลงคู่ที่เพราะมากๆ นั่นคือ Everything You Do เพลงนี้ได้ นิค นักร้องนำแห่งวง Temp. และวง Part Time Musicians มาร้องด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงคู่ที่ดีมากเพลงหนึ่งในปีนี้เลย ลองเปิดต่อเพลง You’re All I Need To Get By ของ Marvin Gaye & Tammi Terrell หรือ Cruisin ที่ Gwyneth Paltrow ร้องกับ Huey Lewis เนียนเลย

 

I’m in love with you.

And everything you do.

I’m in love with you. Oh baby.

And my heart says it’s true.

– Everything You Do

 

 

Street Regiment เล่าถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งเธอเข้ามา ทำฉันหัวเราะได้ ความรักที่อยู่รอบๆ ตัวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ส่วน Campfire เป็นการไปตั้งเต็นท์ด้วยกันที่ต่างจังหวัด นอนมองดาวด้วยกัน ตื่นมาตอนเช้าด้วยกัน เพลงนี้มีแค่เสียงร้องกับกีตาร์ ดูเป็นเพลงธรรมชาติดี เหมือนแต่งมาเพื่อเล่นกีตาร์หน้ากองไฟจริงๆ 

 

ล่าสุดพวกเขามีเพลงใหม่อีก 1 เพลง คือ Tu es mon amour เพิ่งจะปล่อยมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม เป็นเพลงที่ฟังเคลิ้มๆ เหมือนเพลงในอัลบั้ม

 

อัลบั้มนี้ทำออกมาเป็นแผ่นเสียงและซีดีด้วย แผ่นเสียงเป็นแผ่นลาย สวยมาก กระดาษเนื้อเพลงที่แนบมากับแผ่นสามารถพับเป็นรูปทรงเรือใบได้ (ใครจะไปกล้าพับ) เก๋มาก

 

อัลบั้ม: SWIRL

ศิลปิน : The Kopycat

ค่าย: ไม่มีค่าย, แผ่นเสียงทำโดย Earthtone Records 

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

MixTapes by laylaidlaid

ทำเซ็ตนี้แบบสบายๆ ให้เป็นเพลงรักที่เอาไว้ฟังตอนไปเที่ยวด้วยกันได้

 

  • Apple Music: MixTapes The Kopycat

 

 

 

  • Spotify: MixTape The Kopycat

 

 

 

  1. My Baby / The Kopycat
  2. Dream A Little Dream / Pink Martini & The Von Trapps
  3. Ting A Ling / The Kopycat
  4. Come Monday Night / God Help The Girl
  5. Don’t Leave Me (Ne me quitte pas) / Regina Spektor
  6. Everything You Do / The Kopycat (feat. Nick Temp.)
  7. Harvey / Her’s 
  8. Celia Inside / The Cardigans
  9. A Night Ride / The Kopycat
  10. Be My Baby / The Ronette
  11. Love Is Blue / Paul Mauriat 
  12. Waiting For You / The Kopycat
  13. Nightclub Love / Matt Maltese
  14. The More I See You / Chris Montez
  15. Spanish Eyes / Al Martino
  16. This Girl’s In Love With You / She & Him
  17. If I fell / Chet Atkins 
  18. Hideaway / The Kopycat
  19. Lovin’ You / Minnie Riperton
  20. Annie’s Song / John Denver
  21. Street Regiment / The Kopycat
  22. So Much In Love / The Tymes
  23. On And On / Stephen Bishop
  24. Tu es mon amour / The Kopycat

 

อ้างอิง:

The post The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี https://thestandard.co/wicked-lights/ Wed, 03 Aug 2022 13:00:55 +0000 https://thestandard.co/?p=662510 Wicked Lights

ศิลปินหน้าใหม่รายนี้มีชื่อว่า Wicked Lights เป็นงานของ […]

The post Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Wicked Lights

ศิลปินหน้าใหม่รายนี้มีชื่อว่า Wicked Lights เป็นงานของ ธู จารุสร หรือ Two Charuson เขาเคยออก EP 4 เพลงเมื่อประมาณปี 2008 ซึ่งโปรดิวซ์โดย เจ-มณฑล จิรา เวลาผ่านไป 14 ปี ทำอัลบั้มเต็มจนสำเร็จได้มาเป็นอัลบั้มนี้ Brave Face และโปรดิวซ์โดย เจ มณฑล คนเดิม ความดีความชอบของอัลบั้มนี้อยู่ที่เจด้วย เพราะทำเพลงได้ออกมาลงตัวเอามากๆ

 

เพลงของ Wicked Lights ฟังแทบไม่รู้ว่าเป็นงานของคนไทย เพราะว่าร้องเพลงภาษาอังกฤษได้สำเนียงดีมาก ธู จารุสร เกิดเมืองไทยแต่เติบโตที่อังกฤษ จบมหาวิทยาลัยเดียวกับ Thom Yorke แห่ง Radiohead งานของเขาจึงมีอิทธิพลของเพลงทางฝั่งอังกฤษอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ Eric Clapton ไปจนถึง Fleetwood Mac และฟังแล้วก็ชวนคิดถึง Mumford & Sons, The National, The Black Keys และ Kings of Leon

 

Wicked Lights

ภาพ: Wickedlightsmusic / Facebook

 

สุ้มเสียงของ ธู จารุศร มีความคล้ายกับ ตุล ไวฑูรเกียรติ แห่งอพาร์ตเมนต์คุณป้า ผสมกับ ฮิวโก้ (เล็ก-จุลจักร จักรพงษ์) และให้ชวนคิดถึงเสียงของ Elvis Costello กับ ธีร์ ไชยเดช ด้วย ทุ้มต่ำ มีพลัง พร่ำบ่น โอดครวญ แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ธู จารุศร เคยประสบอุบัติเหตุใหญ่มาก่อน แต่ก็รอดมาได้ อัลบั้มนี้จึงมีมุมของการผ่านชีวิตด้านมืดมาพอสมควร ชื่ออัลบั้ม Brave Face ก็บอกถึงการเผชิญกับความเจ็บปวดและผ่านมันมาได้ในที่สุด

 

Brave Face มีทั้งหมด 12 เพลง เป็นเพลงร็อกที่มีความเป็นโฟล์กเหมือนที่เราฟังงานของฮิวโก้ มีความดุดันในเพลง กีตาร์ เบส กลองแน่นมาก คียบอร์ด เครื่องเป่า เครื่องสายแทรกเป็นบางเพลง เป็นอัลบั้มที่ฟังยาวๆ ได้ทั้งชุด เพลงแต่ละเพลงมีทำนองสวยงาม อัลบั้มวางสลับจังหวะความเร็วของเพลงได้ดี ทำให้ไม่เบื่อง่าย

 

เพลงเด่นที่สุดยกให้ Budapest อินโทรเกากีตาร์คลอไปทั้งเพลง เปียโนที่แทรกตรงท้ายเพลงคือดี เพลงนี้เหมาะกับ ‘การขับรถไปเรื่อย ๆ ตามต่างจังหวัด นึกถึงฉากแบบว่าพระเอกเพิ่งไปฆ่าซอมบี้ในเมืองเสร็จแล้วกลับบ้านไปหาคนรัก’

 

Listen to the ghost

Leave bodies full of rest

Go where booty calls

Fucked up Budapest

Budapest

 

 

Kushty เพลงที่ปล่อยมาเป็นเพลงแรกเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ถูกวางไว้เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม เพลงในจังหวะสบายๆ เอาไว้เวลาขับรถกินลมชมวิว เนื้อเพลงให้กำลังใจ ว่าสิ่งร้าย ๆ สักวันมันต้องผ่านไป มุ่งมั่นและไปต่อ เพราะเพลงนี้นี่แหละที่ทำให้งานของ Wicked Lights เป็นที่สนใจของต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย ล่าสุดเห็นว่ามีไปสัมภาษณ์กับรายการในมาเลเซียด้วย เปิดเพลงนี้ต่อด้วย Mekong River Delta ของ Hugo ได้เลย

 

Know that it’s alright

We’re wasting time before we leave

All the days go by

Come rain or shine, let it be

 

Kushty

 


มีความเป็นร็อกหนักๆ อยู่ในเพลง Darn Respites, Fool, … And The Restless และ Edin เป็นเพลงเร่งจังหวะ ให้ความมัน เริ่มจาก 3 เพลงแรกที่วางติดกัน เปิดอัลบั้มด้วย Darn Restpites มีอินโทรย้ำคีย์บอร์ด เพลงนี้ประสานเสียงดี กีตาร์คอร์ดหนัก กลางเพลงมีใส่เครื่องเป่าเข้ามา ไม่ต้องมาก ได้จังหวะ กีตาร์ลีดก็ไม่ได้เยอะ เจ้าตัวเล่าว่ามันคือการกลับมาใหม่หลังจากหายไปนาน ส่วน Fool เป็นเพลงมีความหมายแฝงเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง กำแพงที่ไม่สามารถปีนข้ามได้ ไม่มีใครกล้าตะโกนออกไป ต่อด้วย … And The Restless มีความต่อเนื่องกันมา เพลงนี้จะเบากว่า 2 เพลงแรก ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว หมดแรงจะสู้ต่อ ส่วน Edin ดุดัน กลองหนัก เสียงร้องมีพลัง เพลงได้ความมืดหม่น ฟังแล้วจะนึกถึงเพลง Day I Die ของ The National ท่อนกลางมีกีตาร์ 2 ตัว ตัวหนึ่งหนัก ตัวหนึ่งเบา เข้ากันได้ดี

 

Sometimes

All I need is riot

Through shadows and wires

Hold them down

With the radio silence

My heads in the garden

Knock em down

Even though if it goes nowhere out there

 

Edin

 

 

อิทธิพลเพลงอังกฤษแรงๆ อยู่ใน 2 เพลงติด Lovewillalwaystearusapart ที่ดูเหมือนตั้งใจให้เรานึกถึง Love Will Tear Us Apart ของ Joy Division แต่เพลงไม่ได้หม่นไปถึงขนาดนั้น มันเป็นเพลงรักที่มีการรอคอย สับคอร์ดกีตาร์ฉับไว ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกันได้นอกจากความรัก เพลงต่อมาได้กลิ่น Radiohead ชัดเจน การร้องยาวกันกีตาร์ที่ฟังลอยๆ และเริ่มโหมขึ้นเรื่อยๆ ในเพลง Bearings เปิดต่อ Blow Out หรือ Street Spirit ของ Radiohead ประมาณนั้นเลย

 

จำชื่อวงนี้ไว้ให้ดีถ้าคุณไม่อยากจะพลาดอะไรสำคัญในปี 2022

อัลบั้ม: Brave Face

ศิลปิน: Wicked Lights

ค่าย: Samutprakarn Sound

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

อ้างอิง:

 

The post Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Desktop Error กลับมาแล้ว! ชูเกเซอร์ตัวพ่อที่ห่างหายไปจากวงการเกือบ 10 ปี https://thestandard.co/desktop-error-comeback/ Thu, 02 Jun 2022 11:28:51 +0000 https://thestandard.co/?p=637184 Desktop Error

Desktop Error กลับมากับอัลบั้มที่ 4 ที่เดิมควรจะออกตั้ง […]

The post Desktop Error กลับมาแล้ว! ชูเกเซอร์ตัวพ่อที่ห่างหายไปจากวงการเกือบ 10 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Desktop Error

Desktop Error กลับมากับอัลบั้มที่ 4 ที่เดิมควรจะออกตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว พวกเขาทิ้งช่วงจากอัลบั้มที่ 3 Keep Looking at the Window ถึง 9 ปี และถ้านับตั้งแต่อัลบั้มแรก Instinct พวกเขาอยู่ในวงการนี้มาแล้ว 16 ปี ถือเป็นวงระดับต้นน้ำในแนวเพลงชูเกซของประเทศไทยไล่เลี่ยกับวง Goose และอัศจรรย์จักรวาล Desktop Error อยู่ในยุคแห่งความหนวกหู (Noisy Sound) ที่เราพอจะแนะนำวงดนตรีไทยในยุคนั้นได้ เช่น Morning Surfers, Soundlanding, Slur, Godog, Damnwrong, Red Twenty, The Eastbound Downers และทุกวงของค่าย SO::ON Dry Flower

 

พวกเขามีกัน 5 คน และเป็น 5 คนที่เหนียวแน่นตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ เล็ก-พีวรายุส กองไพบูลย์ ร้องนำและเล่นกีตาร์, เบิร์ด-อดิศักดิ์ พวงอก และ อ๊อฟ-วุฒิพงศ์ ลี้ตระกูล เล่นกีตาร์, ตุ้ย-ชาญณรงค์ แจ่มขาว เล่นเบส และ เม้ง-ภูมิพัฒน์ ชาติสุริยเกียรติ ตีกลอง 

 

ในช่วงที่พวกเขาเว้นวรรคไป เม้งไปเล่นหนังโฆษณา 20 กว่าเรื่อง โดยเฉพาะกับ ‘ไทยประกันชีวิต’ ที่สร้างชื่อให้เขามาก เบิร์ดไปเป็นมือกีตาร์หลักๆ ให้กับหลายๆ วง เช่น Hugo, น้อย วงพรู, Sqweez Animal, Greasy Cafe จนได้ฉายา ‘มือกีตาร์ร้อยวง’ อ๊อฟไปทำเพลงประกอบหนังหลายเรื่อง ได้รางวัลเพียบ และเล็กไปจัดเทศกาลคอนเสิร์ตที่ศรีสะเกษ พวกเขายังคงวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงนี่แหละ

 

อัลบั้ม Indelible Stain ออกแบบได้อย่างน่าฉงน ปกเป็นภาพขาว-ดำที่มองดูเหมือนอนุสาวรีย์ของปลากระโทงดาบฝูงหนึ่ง ชื่ออัลบั้มเขียนแปลกๆ เขียนไว้แบบนี้ ˙ n d e l ˙ b l e s t a ˙ n คือที่ตัว i สามตัวบนปก ลำตัวทั้งสามแท่งหายไป มีแต่จุด เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะพยายามสื่ออะไร แต่น่าจะคิดมาแล้วแน่ๆ ปกนี้ออกแบบโดย ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ แห่งวง Goose ความหมายของชื่ออัลบั้มคือ รอยเปื้อนที่ลบไม่ออก อัลบั้มนี้มิกซ์โดย Koichi Shimizu คนเดิม เชื่อขนมกินได้

 

โดยรวมของอัลบั้มนี้ฟังยากกว่าชุดที่ 2 และ 3 คือติดหูยากกว่า ดนตรีใส่เต็มกว่า หรืออาจจะบอกได้ว่า 2 อัลบั้มก่อนหน้านี้มีความป๊อปมากกว่า แต่ไม่มีอัลบั้มไหนนัวร์เท่าอัลบั้มแรก เรียกได้ว่าอัลบั้มนี้กลับมาแบบรุ่นใหญ่ ไม่มีเพลงบรรเลงอย่างเดียวแบบไม่มีเนื้อร้องแล้ว ทั้ง 10 เพลงในอัลบั้มมีเนื้อหมด และมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัลบั้มนี้ติดหูยาก เพราะเนื้อเพลงล่องลอยเหมือนกำลังมองหาหนทาง และบางทีเราก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อ หรือถ้านึกถึงชื่ออัลบั้ม ก็คงจะต้องบอกว่าเนื้อเพลงในอัลบั้มต้องการสะท้อนสิ่งที่มันได้เกิดขึ้นและยังคงอยู่ ลบไม่ออกเหมือนรอยเปื้อนทิ้งคราบไว้

 

สิ่งใดได้เห็นความจริง

สุขแท้จริงมันอยู่ที่ใด อยู่ที่ใด

โลกรอบตัว

 

 

มาดูเพลงที่น่าสนใจกันดีกว่า เปิดอัลบั้มด้วยเพลง โลกรอบตัว แค่เริ่มตั้งแต่อินโทรกลองก็ซัดได้อย่างสุดมัน กีตาร์ 2 ตัวประสานกันอย่างดีตั้งแต่นาทีแรกไปจนถึงสุดท้าย มันมีความโหด มีความเกรี้ยวกราด เหมือนความรู้สึกหลังช่วงโควิดที่อึดอัดมานานต้องปลดปล่อย พวกเขาปล่อยดนตรีไป 3 นาที เสียงร้องถึงขึ้นมา เนื้อเพลงเพียง 3 บรรทัด คนที่ค้นหาความสุขจากการอยู่ตัวคนเดียวเป็นแบบไหนนะ ต่อด้วย เสียงที่เคยได้ยิน ปรับจังหวะลงมา เนื้อเพลงโหยหาช่วงเวลาที่เคยดี มีจังหวะหยุดกลองให้ลอยคว้าง ก่อนจะถาโถมขึ้นเรื่อยๆ น่าเปิดต่อ รอยมืดดำ ของ Torrayot

 

Cigar อินโทรเบสกับกลองแน่นมาก ได้ความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ มีความหลอนของซาวด์เมื่อขึ้นเสียงร้อง พอฟังเพลงนี้ไปสัก 3 นาที พวกเขาหย่อนเพลงลงช้าก่อนที่จะพีคเพลงขึ้น มันคือซาวด์ที่โอ่โถงและยิ่งใหญ่ ทะยานไกล พอไปสุดแล้วตัดกลับช้า กลองค่อยๆ ตีทีละคำ ขณะที่กีตาร์ยังนัวร์ให้เราปวดหูและอยู่ในภาวะจิตดับ

 

สิ่งที่เธอเห็นใช่สิ่งที่เป็น

กลับถูกซ่อนเร้นในความมืดดำ

ที่ถูกสะท้อนให้เธอและฉัน

สิ้นสุดทางนั้นไม่ใช้ทางเดิม

– Cigar 

 

 

 

อัลบั้มนี้มีเพลง ฝากลม เป็นเพลงที่ฟังง่ายสุดในอัลบั้ม เพลงทำนองสวยๆ อย่างที่เราเคยทำความรู้จักกับ ควันจางลา, ภาพลางตา และ ทุกทุกวัน อินโทรเบสพาเราลอยลม กีตาร์หูซ้ายและขวาช่วยโอบกอดเราไว้ จังหวะกลองมีลูกเล่น ทำให้เพลงมีมิติมากขึ้น

 

ฝากลม ช่วยพัดพาใจให้พ้นผ่าน

ฝากน้ำ ช่วยสะท้อนความจริงให้เห็นต่างจากที่เคยผ่านมา

บอกฝน ช่วยชะล้างหัวใจที่หมองหม่น

บอกฟ้า ว่าฉันยังมีเธอเหมือนเคย

ฝากลม

 

 

เพลงที่ 9 ของอัลบั้ม ตน อย่างมึนอย่างนัวร์ สับกีตาร์ฉับไว กลองซัดไม่มียั้ง เพลงนี้ต้องเปิดต่อ The Theory ของวง Soundlanding มันสุดยอดมาก พวกเขาต้องมีครูอย่าง Ride, Teenage Fanclub และ The Jesus and Mary Chain แน่ๆ ซาวด์ของพวกเขาเป็นซาวด์ในแบบยุค 90 ที่มีรากมาจากวง My Bloody Valentine ปิดท้ายอัลบั้มด้วย มืดมิดผ่อนคลาย ที่ดึงตบกีตาร์สบายๆ ผ่อนคลายคอร์ดวน เหมือนกับตอนอัลบั้มก่อนที่ปิดท้ายด้วย นิทานวันวาน

 

พวกเขามีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มไปเมื่อเดือนเมษายน และกำลังจะมีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ล่องไปเรื่อยๆ เหนือ ใต้ กลาง อีสาน แล้วมาปิดที่ Montri Studio กรุงเทพฯ ลองเข้าไปดูรายละเอียดกันที่เพจวง อัลบั้มนี้ออกเป็นซีดีและแผ่นเสียงด้วย (แต่ไม่แน่ใจว่า Sold Out ไปหรือยังครับ)

 

อัลบั้ม ˙ n d e l ˙ b l e s t a ˙ n

ศิลปิน Desktop Error

ค่าย E Record

 

เลเล่เล้

พฤษภาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

  

MixTapes by laylaidlaid

เพลงที่เลือกในคราวนี้เป็น Noisy Sound แบบจริงจังเลยนะครับ เตรียมรับแรงกระแทกทางหูไว้ได้เลย ผมอยากเน้นเพลงไทยเป็นหลัก มีใส่เพลงฝรั่งระดับตัวพ่อมาไม่กี่เพลง เสียดายที่สตรีมมิงไม่มี 2 อัลบั้มแรกของ Desktop Error ไม่งั้นได้ใส่เต็มกว่านี้อีกครับ

 

Apple Music: MixTapes Desktop Error

https://music.apple.com/th/playlist/mixtapes-desktop-error/pl.u-leyl9G8u0eXqgD

 

Spotify: MixTapes Desktop Error

 

 

 

  1. โลกรอบตัว / Desktop Error
  2. Cenerentola / Faustus
  3. รอยมืดดำ / Torrayot
  4. ปัจจุบันนา / Desktop Error
  5. I Can Tell / Death of Heather
  6. Come In All Night / Hariguem Zaboy
  7. ฝากลม / Desktop Error
  8. หรือไม่ใช่ (เพลงของ Dept) / Inspirative
  9. Darklands / The Jesus And Mary Chain
  10. เวลาที่มี / Goose
  11. ควันจางลา / Desktop Error
  12. สปัน / ครับ
  13. วันที่ดี / Low Fly
  14. Come In Alone / My Bloody Valentine
  15. Chem / Telever
  16. ตน / Desktop Error
  17. The Theory / Soundlanding
  18. Dreams Burn Down / Ride
  19. เสียงที่เคยได้ยิน / Desktop Error
  20. ที่ผ่านมา / Abstraction XL
  21. ร่องรอย / Flowers For Daryl
  22. Cigar / Desktop Error
  23. Sleepwalking / Follows
  24. พอเสียที / Moderndog
  25. My Dreaming Hill / Flying Saucer Attack
  26. มืดมิดผ่อนคลาย / Desktop Error

The post Desktop Error กลับมาแล้ว! ชูเกเซอร์ตัวพ่อที่ห่างหายไปจากวงการเกือบ 10 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Make Me Sick! – SAMMii ในวันที่ความฝันไม่มีเธออยู่ข้างในนั้นอีกต่อไป https://thestandard.co/make-me-sick-sammii-single/ Wed, 18 May 2022 10:28:44 +0000 https://thestandard.co/?p=630343 SAMMii

อีพีอัลบั้ม 7 เพลงยาวเพียง 20 นาที งานเดบิวต์ของแซมมี่ […]

The post Make Me Sick! – SAMMii ในวันที่ความฝันไม่มีเธออยู่ข้างในนั้นอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
SAMMii

อีพีอัลบั้ม 7 เพลงยาวเพียง 20 นาที งานเดบิวต์ของแซมมี่ (SAMMii) หรือ แซมมี่-ภัคธีมา ชิลเลอร์ งานเพลงที่ทำให้เราหยุดเพื่อหันมามอง เสียงของเธอมีเสน่ห์ เนื้อเพลงของเธอมีอะไรให้สังเคราะห์ ดนตรีเป็นพร็อพที่เรียบง่ายแต่ดูมีอะไร

 

เธอเพิ่งจะอายุ 19 ปี แต่งานเพลงของเธอเกินตัวไปนิด เพลงของแซมมี่ไม่มีงุ้งแง้ว ไม่มีแอบรักไม่กล้าบอก แต่เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังทั้งหมด พอและจะขอหยุดไว้เพียงแค่นั้น สมกับชื่ออัลบั้ม Make Me Sick! แซมมี่เขียนเพลงเองทั้งหมดทั้งเนื้อภาษาไทยและอังกฤษ อัลบั้มนี้ได้โปรดิวเซอร์มือฉมัง Richard Cracker (ริชาร์ด เครเกอร์) ผู้เคยทำเพลงให้ศิลปินไทยอย่าง วาเลนติน่า พลอย, แดเนียล ดิษยะศริน, ส้ม มารี และ LYRA (บางส่วนของ BNK48) มาแล้ว ซึ่ง Richard ก็ทำให้เพลงในอัลบั้มนี้เป็นพร็อพที่ฟังง่ายและร่วมสมัย

 

SAMMii

 

แซมมี่เป็นคนเสียงต่ำ (Low Key Voice Tone) เสียงของเธอเหมาะกับเพลงช้าและเศร้า เหมือนเสียงของ Adele และ Lana Del Rey และผมว่าเสียงของเธอมีความคล้ายกับ Dua Lipa และถ้าเป็นเพลงไทยก็คงจะนึกถึงเสียงของ พัด-สุทธิภัทร สุทธิวาณิช นักร้องนำวง Zweed n’ Roll รวมไปถึงบางเพลงที่ทำให้นึกถึงเสียงของ ปาล์มมี่ กับ วีวิโอเลต วอเทียร์ ด้วย

 

ความรักในอัลบั้มนี้เป็นความรักที่จบแล้วคือจบ ไม่อาลัยอาวรณ์มูฟออนไม่ได้เหมือนเพลงที่เราได้ยินกันทั่วไป และเพลงทั้งหมดก็เล่าไปในเรื่องราวเดียวกันด้วย คือเหมือนว่าแซมมี่ได้รักกับใครสักคน แต่ในที่สุดก็รู้ว่าคนๆ นั้นเค้ายังรักคนเก่าอยู่ สิ่งที่เธอทำคือตัดใจแล้วจากไปเองทั้งที่ก็ยังรักอยู่ มันทำให้อัลบั้มฟังวนซ้ำกลับมาได้อย่างต่อเนื่อง อยู่ในปราสาทวังวนอย่างชื่อเพลงๆ หนึ่งในนั้น Make Me Sick! ได้ความเป็น Feminist ที่แข็งแกร่ง ยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ ชวนให้นึกถึงงานของ Billie Eilish และ Lorde ที่สุด

 

อัลบั้มเปิดด้วย Bedroom Panic (Interlude) ที่มีเสียงนับถอยหลังก่อนที่ยานจะถูกปล่อยออก ซึ่งผูกกับเพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ไล่เขาให้ไปกลับดาว ชื่อเพลงมาจากการที่แซมมี่เคยเป็นโรคแพนิก เธอมีความตื่นตระหนกและไม่อยากนอน แล้วก็มีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เพื่อที่จะบอกว่าเพลงต่อจากนี้คือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

 

Make Me Sick! อินโทรกีตาร์เหมือนจะเป็นเพลงช้า แต่เพลงนี้สลับเร็วในท่อนฮุก กีตาร์หวานและพริ้ว ซาวด์แบบนี้ชวนคิดถึงเพลง Dream ของ Daniel Ryn เพลงนี้แซมมี่แต่งตั้งแต่ตอนอายุ 16 ปี ซึ่งน่าจะเป็นต้นเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่เอามาเขียนอัลบั้มนี้ทั้งหมด

 

“Please never cry for me.

Please never think that it was all a game.

Cause I loved you, but it was making me sick! sick!”

– Make Me Sick!

 

 

ต่อด้วย Plaster เพลงช้าที่เปรียบเทียบกับความรักที่เธอเข้ามาเพื่อเยียวยาเขา ทำการปิดแผลในใจที่คนอื่นทำเอาไว้ แต่วันหนึ่งเธอก็รู้ว่าการที่เธอทำไปเท่าไรก็ลบเลือนสิ่งนั้นไม่ได้ ในที่สุดเขาก็ยังคงกลับไปหาเธอคนนั้นอยู่ดี ซึ่งก็เหมือนกับพลาสเตอร์ที่มันไม่คงอยู่ตลอดไปหรอก เพลงนี้ได้ แทน ลิปตา มาช่วยเกลาเนื้อและโปรดิวซ์ให้

 

“เธอแปะแผลเองได้แล้ว

ดูแลตัวเองดีๆ เข้าใจไหม

ฉันรักษาแผลที่เขาทำไว้ได้แค่นี้”

Plaster 

 

 

ทานตะวัน เป็นเพลงแรกของแซมมี่ที่ทำออกมาและทำให้ทุกคนต้องหันมามอง วิธีการเขียนเนื้อเพลงเหมือนกวี ความล่องลอยของหัวใจที่ไหลไปกับเนื้อเพลงได้อย่างง่ายดาย การเปรียบเปรยที่ทำให้เราต้องฟังซ้ำๆ เพื่อเข้าใจ มันคือการรอคอยใครสักคนที่หลงรักใครอีกคน ดอกทานตะวันที่หันหน้าไปหาตะวันเสมอๆ มันคงเป็นสิ่งที่เศร้ามากที่เรามองทานตะวันในขณะที่ทานตะวันไม่เคยคิดจะหันมามองเรา เพลงนี้มีแค่เสียงร้องและกีตาร์ ได้ความเหงา เยือกเย็น และหนาวจับใจ แม้ในวันที่ไม่มีตะวันก็ตาม

 

“อาจเพราะ ฟ้าในวันนี้ไม่มีตะวัน

อาจเพราะ เมฆในวันนั้นทำเธอเสียใจ

หรืออาจเป็นฉัน ที่ยังคงรอดูเขาหายไป จากใจของเธอ

หันกลับมา โอ้เธอ ทานตะวัน”

– ทานตะวัน

 

 

เพลงต่อไป ปราสาทวังวน ความคิดที่ไม่สามารถสลัดมันออกจากหัวได้ วนเวียนอยู่อย่างนั้น เนื้อเพลงที่หม่นอยู่กับดนตรีที่สดใส กีตาร์เพลงนี้ใสเฟี้ยว ซินธิไซเซอร์ลื่นละมุน ชวนคิดถึงตั้งแต่วงอย่าง The Smiths ไปจนถึง The 1975 เลยทีเดียว เสียงของแซมมี่ในบางประโยคบางเบาที่ปลายประโยค ทำให้นึกถึงวิธีการร้องเพลงแบบเดียวกันกับ วี วิโอเลต นักร้องจากค่ายเดียวกัน

 

 

Why Say Why เป็นเพลงเร็ว การหลงรักใครสักคนในช่วงเวลาอันสั้นและไม่แน่นอน เพลงนี้จัดว่ามีเนื้อเพลงที่กลางๆ ที่สุดแล้วในอัลบั้ม คอรัสในท่อนฮุกทำให้เพลงสนุกสนาน กีตาร์เล่นเป็นโฟล์คร็อก จังหวะเพลงชวนให้โยกหัวตลอด เปิดต่อเพลง See You In Life ของ Valentina Ploy แล้วต่อด้วย Wildest Dreams ของ Taylor Swift

 

ปิดอัลบั้มด้วย กลับดาว เพลงที่ตัดพ้อถึงความรักที่มีกันและกัน มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเธอที่มูฟออนกับคนเก่าไม่ได้เลย ก็เลยไล่ให้กลับดาวไปเลย

 

“รอยยิ้มและดวงดาว ทุกบทกวี

ที่เราเขียนขึ้นมาด้วยกัน

มาปรากฏในใจของฉัน

ทำให้ฉันรู้ว่า ทุกช่วงเวลาที่เราผ่านมันมาด้วยกัน

ไม่เคยอยู่ในใจเธอเลยสักวัน”

– กลับดาว

 

 

บรรทัดสุดท้าย เราควรให้ข้อมูลว่าแซมมี่เป็นลูกดารา แต่ที่จริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องใช้ความดังของพ่อในการเป็นศิลปินเลย ผลงานชิ้นนี้ของเธอพิสูจน์ได้ว่าเธอไปได้อีกไกลแน่ในเส้นทางสายนี้

 

อัลบั้ม: Make Me Sick!

ศิลปิน: SAMMii

ค่าย: Universal Music Thailand

 

เลเล่เล้

พฤษภาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

อ้างอิง: 

 

Mixtapes by laylaidlaid

เลือกเพลงอกหักที่ร้องโดยผู้หญิงเสียง Low Key และเพลงจากศิลปินที่มีอิทธิพลต่อแซมมี่ครับ

Apple Music: MixTapes SAMMii

https://music.apple.com/th/playlist/mixtapes-sammii/pl.u-b3b8dB7fdbAo58

Spotify: MixTapes SAMMii 

https://open.spotify.com/playlist/3oCur1l7tbx9BW9PcH4l2k?si=z29-63YORoGhyyIBQc9cyQ

 

 

 

  1. Making Me Sick! / SAMMii
  2. Self-Love / Svmmerdose
  3. Happier / Olivia Rodrigo
  4. Amoeba / Clairo
  5. ปราสาทวังวน / SAMMii
  6. Woman / Cat Power feat. Lana Del Rey
  7. ไม่มีอะไรเหมือนเดิม / Zweed n’ Roll
  8. กลับดาว / SAMMii
  9. Make You Feel My Love / Adele
  10. Love Is A Losing Game / Amy Winehouse
  11. Sunday Morning / The Velvet Underground
  12. ทานตะวัน / SAMMii
  13. Pity Party / Melanie Martinez
  14. The River / PJ Harvey
  15. Butterfly / ปาล์มมี่
  16. The Limit To Your Love / Feist
  17. Plaster / SAMMii
  18. I Still Love You / BANKS
  19. Miss You More / Katy Perry
  20. Someone You Loved / Lewis Capaldi
  21. Why Say Why / SAMMii
  22. See You In Life / Valentina Ploy
  23. Wildest Dreams / Taylor Swift
  24. Happier Than Ever / Billie Eilish

 

SAMMii

The post Make Me Sick! – SAMMii ในวันที่ความฝันไม่มีเธออยู่ข้างในนั้นอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
Resurrection – Zweed n’ Roll ​​เชิญพบกับซาวด์แห่งความเคว้งคว้าง เหงาบ้าง แต่ก็เข้าใจได้ https://thestandard.co/resurrection-zweed-n-roll/ Fri, 18 Feb 2022 10:28:31 +0000 https://thestandard.co/?p=596025 Zweed n’ Roll

Zweed n’ Roll กลับมากับอัลบั้มที่สองของพวกเขา ที่ยังคงค […]

The post Resurrection – Zweed n’ Roll ​​เชิญพบกับซาวด์แห่งความเคว้งคว้าง เหงาบ้าง แต่ก็เข้าใจได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Zweed n’ Roll

Zweed n’ Roll กลับมากับอัลบั้มที่สองของพวกเขา ที่ยังคงความเป็น Zweed n’ Roll เหมือนเดิม คือเป็นบริตป๊อปในแบบที่ไม่รกหู กีตาร์ลีดลอยๆ กับอีกตัวสับคอร์ด เสียงทุ้มต่ำชวนดำดิ่ง จังหวะดนตรีแช่มช้า ชดช้อย อัลบั้มนี้ห่างจากอัลบั้มแรกประมาณ 3 ปี มีเพลงทั้งหมด 12 เพลง ครึ่งหนึ่งคือเพลงที่ปล่อยออกมาระหว่างการเดินทาง 3 ปีที่ผ่านมาจากอัลบั้มแรก อีกครึ่งหนึ่งคือเพลงใหม่ทั้งหมด

 

ในความเป็น Zweed n’ Roll พวกเขาเขียนทำนองได้งดงาม มีความสูงต่ำของเมโลดี เป็นลักษณะของเพลงยุคเก่าอย่างเห็นได้ชัด (หมายถึงยุคก่อน 10s) ซึ่งอายุของวงเองก็เกือบ 10 ปีแล้วที่เล่นด้วยกันมา นับว่าเป็นวงที่สมาชิกเหนียวแน่นดี แต่พวกเขาเพิ่งมาดังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าสามารถอยู่ท่ามกลางกระแสเพลงแนวโซล นีโอโซล ที่ยังจับคนฟังเพลงรุ่นใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง

 

สมาชิกทั้ง 5 คน คือ พัด-สุทธิภัทร สุทธิวาณิช นักร้องนำ ปูน-ณัฐพัชร์ สมิตนุกูลกิจ กับ มิน-ณัฐกร ศิลวัฒน์ เล่นกีตาร์ นิว-นิติ นิติยารมย์ เล่นเบส และ ทัน-ธรรม์ ดำรงรัตน์ ตีกลอง งานของพวกเขาต้องย้อนกลับไปที่ต้นแบบเลยคือ Radiohead ชุด The Bends ที่มีเพลงลอยๆ อย่าง Fake Plastic Trees, High And Dry, Black Star และ Bullet Proof … I Wish I Was และก็ชวนให้คิดถึงวงบริตป๊อปช่วงปลายอย่าง Travis, Dove, Coldplay (ยุคแรก), Electric Soft Parade, JJ Gilmour และ Elbow วงพวกนี้ล้วนแต่ติดกับดักของความอ้อยสร้อย

 

เสียงของพัดเป็นเสียงทุ้มต่ำแบบอัลโต เธอร้องชัดถ้อยชัดคำ สะกดคนฟังให้ตั้งใจฟังเนื้อร้อง แต่เนื้อร้องในอัลบั้มนี้ไม่ค่อยมีอะไรฟูมฟาย หลายเพลงเป็นการเปลี่ยนผ่านความรักจากช่วงเวลาหนึ่ง และเหมือนจะเข้าใจมันได้อย่างดี รวมทั้งมีเพลงรัก 3 เพลง เพลงภาษาอังกฤษอีก 3 เพลง (หนึ่งในนั้นเป็นเพลงรัก) ฟังโดยรวมทั้งอัลบั้มมีเพลง เร็ว 2 เพลง ช้า 9 เพลง ช้ามากๆ อีก 1 เพลง ซึ่งการฟังทั้งหมดในคราวเดียวอาจทำให้เราง่วงนอนหรือไปหาอย่างอื่นทำ มากกว่าที่จะจมจ่อมปล่อยใจไปกับเพลง

 

ฝืนเดินต่อ ก็คงไม่เป็นไร

แต่อย่าหยุดอยู่ที่เดิม

อย่ากลับไปเหมือนเดิม

อย่ากลับไปเหมือนเดิม

ไม่มีอะไรเหมือนเดิม

-ไม่มีอะไรเหมือนเดิม

 

เปิดอัลบั้มด้วย ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ชื่อเพลงก็บอก ถ้าถามว่าอัลบัม Resurrection มีอะไรต่างจากอัลบั้ม I’m 20 บ้าง? อย่างแรกก็เพลงภาษาอังกฤษน้อยลง เหลือแค่ 3 ใน 12 อย่างที่สองคือ เนื้อเพลงที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องหลักๆ ที่ทางวงต้องการจะสื่อเหมือนชื่ออัลบั้ม คือเรื่องมันจบแล้ว ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่า เพลงเปิดอัลบั้มเพลงนี้ก็เหมือนจะบอกตัวเองว่าเริ่มเปลี่ยนแปลงได้แล้ว กีตาร์ลีดใส่เอฟเฟกต์ได้ดี เพลงที่สอง เพียง เพลงเร็วที่ชวนนึกถึงวง The Cranberries กับ Catatonia ทำความเข้าใจกับความรักและการจากลา มองว่าเป็นเหมือนแค่ฝันไป ตื่นก็หายจาง

 

ลูกเล่นเดิมถูกงัดมาใช้ เพลง อยู่ ขึ้นเนื้อคำแรกว่า ‘เพียง’ พวกเขาทำให้ชื่อเพลงเกิดความสับสน ในชุดที่แล้ว เพลงที่ขึ้นประโยคว่า ‘ช่วงเวลา…ที่มีเธอเข้ามา’ ไม่ได้ชื่อเพลง ช่วงเวลา แต่เป็นเพลง ธันวาคม เพลงนี้ถ้าจับคำสามคำจากคำต้นของเนื้อเพลงจะได้คำว่า เพียง-อยาก-อยู่ เนื้อเพลงอยากให้ความรักคงอยู่ กีตาร์โถมขึ้นมีพลัง เพลงชื่อภาษาอังกฤษก็คือ You ใช่เลย ตอบโจทย์มาก

 

โลกใบเก่า

ที่เธอให้มา

ยังคงหมุนไปไม่เคยรู้วันเวลา

ช่อกุหลาบ

ที่เธอให้มา

ก็โรยราเหมือนว่ามันจะเข้าใจ

-โลกใบเก่า

 

 

โลกใบเก่า เป็นเพลงหมดแรง ทบทวนสิ่งเก่าๆ เดินห่างและจางหาย แค่เก็บความทรงจำดีๆ เก่าๆ เอาไว้ ซึ่งวางต่อเพลงแบบเนียนๆ กับ อยากมีความหมาย เพลงที่อยากจะมีใครสักคนข้างกาย เป็นความหมายของใครบางคน แต่ความดิ่งของดนตรี หย่อนเราลงไปในบ่อบาดาลร้าง และทิ้งไว้อย่างเดียวดาย เป็นสองเพลงที่เพราะมากในอัลบั้ม ถ้าจะหาเพลงต่ออยากให้นึกถึงเพลง เหตุผล ของ Buddhist Holiday และ ป่าสนในห้องหมายเลข 1 ของ Greasy Cafe

 

แล้วพวกเขาก็ต่อด้วยเพลงรัก 4 เพลงรวด ฟื้น, Lighting in the Sky, ทุกวัน แล้วก็ เรา มีเพลง ทุกวัน เป็นเพลงเร็ว ที่เหลือช้าหมด โดยเฉพาะ ฟื้น ที่ช้ามาก เนื้อเพลงพูดถึงการเข้ามาของเธอที่ทำให้ชีวิตเหมือนฟื้นขึ้นมา Lighting in the Sky เปรียบเทียบเธอคือแสงสว่างจากฟากฟ้า ทุกวัน ใส่เครื่องสายไว้เป็นฉากหลัง ทำให้เพลงมีมิติขึ้น และ เรา ที่ดีใจกับการอยู่ด้วยกัน

 

ตัวฉันคงอยู่ ฉันนั้นยังอยากรู้

ทิ้งเขาไปเธอลองดู วันนี้เธอยังไม่รู้

ตัวฉันคงอยู่ ฉันยังคงอยากรู้

ทิ้งฉันไปเธอลองดู วันนี้เธอแค่ยังไม่รู้

-อย่าไป

 

 

สามเพลงสุดท้ายเหมือนไม่เข้าพวก เนื้อเพลง อย่าไป มีความมินิมัล และต้องตีความกันเอาเองว่าเพลงหมายถึงอะไร รู้แน่ๆ ว่าเป็นรักสามเส้า พอจบเพลงนี้มีเสียงวิทยุและผู้ประกาศข่าวบอกว่า “ต่อไปเป็นข่าวต่างประเทศ” ตัดเข้าเพลงภาษาอังกฤษสองเพลง Stars กับ Fighter ที่ต่อเพลงกันได้ดี (อีกแล้ว) เพลงแรกอินโทรด้วยเบส เนื้อเพลงและวิธีการร้องมีความหลอน เดินเข้าบ้านที่มีคนอยู่เป็นพัน น่าจะเปรียบเทียบกับโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพลงปิดท้ายอัลบั้มว่าด้วยเรื่องของชีวิตที่ต้องต่อสู้ตลอด จะยอมแพ้หรือไปต่อ ดูเป็นเพลงที่เหมาะต่อสถานการณ์โควิด กลองฟาด กีตาร์ท้ายเพลงโหมขึ้นได้ในแบบของพวกเขา

 

อัลบั้ม: Resurrection

ศิลปิน: Zweed n’ Roll

ค่าย: Warner Music Thailand

 

 

เลเล่เล้

กุมภาพันธ์ 2565

Twitter: @laylaidlaid

The post Resurrection – Zweed n’ Roll ​​เชิญพบกับซาวด์แห่งความเคว้งคว้าง เหงาบ้าง แต่ก็เข้าใจได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี 2021 (ภาคจบ) https://thestandard.co/75-thai-songs-of-2021-final-part/ Wed, 12 Jan 2022 12:12:33 +0000 https://thestandard.co/?p=581815 เพลงไทย

เพลงที่ผมเลือกหลายเพลงเป็นเพลงอินดี้ เพลงดังหลาย ๆ เพลง […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2021 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>
เพลงไทย

เพลงที่ผมเลือกหลายเพลงเป็นเพลงอินดี้ เพลงดังหลาย ๆ เพลงของ 2021 ไม่ได้ถูกเลือกก็มี บางเพลงที่เลือกมามียอดวิวที่ต่ำมาก หลักพันก็มี ผมอยากให้การฟังเพลงไม่ยึดติดกับความฮิตของเพลง รวมทั้งไม่ยึดติดกับแนวเพลงด้วย จะเป็นแนวไหนก็ได้ ถ้าเพลงดีจริงก็น่าจะเป็น 1 ใน 75 เพลงที่ผมเลือกได้ ถ้าคุณได้ลองฟังดูแล้วชอบ ผมอยากบอกว่าผมจะดีใจมาก ขอขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สวัสดีปีใหม่ และขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงครับ

 

  1. ทานตะวัน – SAMMii (แซมมี่)

เสียงร้องของเธอหยุดผมไว้ เนื้อเพลงที่เธอเขียนเองทำน้ำตาผมไหล การรอคอยใครสักคนที่หลงรักใครอีกคน เหมือนมองดอกทานตะวันที่หันหน้าไปหาตะวันเสมอๆ เธอไม่เคยที่จะมองมาทางนี้เลย แซมมี่มีเสียงต่ำแบบที่เรียกว่า Low Key ชวนคิดถึงพัดแห่ง Zweed n’ Roll เธอเป็นลูกของดารานักแสดง เกริก ชิลเลอร์

 

 

  1. Ride – HYBS

วง HYBS ประกอบด้วยชายหนุ่มหน้าตาดี 2 คน เจมส์ อลิน วี กับ กานต์ กษิดิ์เดช ทำเพลงนีโอโซล เนิบช้า แบบที่เราชื่นชอบ Honne และ Adoy เป็นพิเศษ เพลงนี้คือตอนที่คุณกับคนของคุณท่องราตรีด้วยกัน จับมือกันอย่างแนบแน่น และอยากให้เวลามันหยุดไว้โดยที่ไม่มีวันแยกจากกันอีกเลย

 

 

  1. เสพเวลา – Cloud Behind

Cloud Behind ชวนเรานึกถึงงานเพลงทวีป๊อปแบบ Sarah Records พวกวง Heavenly ไปจนถึง The Field Mice ซึ่งเป็นต้นน้ำการกำเนิดของแนวดนตรีดรีมป๊อป ซาวด์กีตาร์อันงดงาม ความโฉบเฉี่ยวของเสียงคีย์บอร์ดที่แทรกขึ้นมา การร้องเพลงที่ใช้เสียงเนิบๆ จังหวะชวนกระดิกหัว เพลงพูดถึงการเก็บช่วงเวลาที่ดีเอาไว้

 

 

  1. 5:15 – Petite

“Meeting you was like listening to a song. For the first time and knowing it would be my favorite one.” โอ้โห เนื้อเพลงนี้โคตรดี บทสนทนาของคู่รัก การเชื่อในรักแรกหรือการเชื่อในรักแท้แรก เพลงนี้เป็นโซลที่งดงาม เสียงของเปอติ๊ดเพราะแบบละลาย นี่คือเพลงสำหรับการเมกเลิฟของปี 2021          

 

 

  1. ถ้าเราเจอกันอีก – Tilly Birds

เพลงสุดท้ายจากอัลบั้มที่ 2 ของวงดนตรีที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ ความรักที่จบไปแล้ว การจากลาที่เหมือนจะไม่มีวันได้เจอกันอีก เพียงแค่ขอให้ได้เจอกันอีกสักครั้ง ถึงจะเป็นเพลงช้า แต่ Tilly Birds ก็ใส่ความเป็นอิเล็กทรอนิกส์แนวถนัด เป็นป๊อปที่อยู่ในรูปของร็อก มีท่อนเร็ว ท่อนทิ้งไว้ให้โหยหา

 

 

  1. อ้ายบ่ะได้ฮักเจ้า – พรพนา

มันไม่ใช่เพลงรัก เรายกนิ้วให้กับความกล้าในการเขียนเพลงของพรพนา ความแรงของเนื้อเพลงที่สื่อสารออกมาในเชิงเสียดสี คำหยาบไม่มียั้ง แถมร้องออกมาเป็นบทสวดของพระ ขอเชิญประชาชนชาวไทยสวดกันอย่างพร้อมเพรียง

 

 

  1. อยากให้เธอกลับมา – Nipat Newwave

เพลงแห่งความคิดถึง Nipat Newwave คือ โอ๊ต-นิพัฒน์ ศรีสวัสดิ์ แห่งวง Wave And So ทำเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยว เพลงนี้มีความเย็น เปิดด้วยเครื่องเคาะที่เสียงเหมือนจิ้งหรีดตอนกลางคืน ได้บรรยากาศของความเหงา กีตาร์คีย์บอร์ดไม่ได้เยอะ เปิดต่อด้วย ยังรอ ของ Loserpop กับ ฤดู ของ Dept

 

 

  1. I ไม่ O (IXO) – Billkin

ได้บรรยากาศการย้อนยุคไปถึงสมัยที่ Bee Gees ทำดิสโก้ในยุค 70 ผสมกับซิตี้ป๊อป โซล เสียงร้องสูงปรี๊ดของบิวกิ้น เครื่องสายที่คลอไปกับจังหวะที่สนุกสนาน เนื้อหาของเพลงคือการสารภาพว่าหลงรักใครสักคน ในแบบที่ว่าคนได้ฟังน่าจะเคลิ้มตามไป

 

 

  1. เธอเหมือนเดือนกุมภา – Fellow Fellow

เพลงรักละมุนบนความเป็นโซลป๊อป เมื่อตกอยู่ในห้วงรัก มองอะไรก็เป็นเธอไปหมด เป็นเพลงที่มีความน่ารัก มีความยินดีที่มีเธออยู่ในนั้น มีความอิมโพรไวส์ในเนื้อเพลง มองครัวซองต์ กาแฟ แสงแดดยามเช้า เพลย์ลิสต์ กล้องฟิล์ม เชื่อว่าปฏิทินเปิดมามีเดือนเดียวคือเดือนกุมภาพันธ์ ในเนื้อเพลงมีชื่อหนังรักดีๆ 5 เรื่อง  

 

  

  1. Nothing Nothing Nothing – Cupnoodle

เป็นเพลงที่ฟังแค่ครั้งสองครั้งแล้วกดเก็บเข้าเพลย์ลิสต์ในทันที ความสว่างของเพลง จังหวะสนุกสนาน ทำนองติดหูกับคำว่า Nothing ซ้ำๆ เป็นเพลงที่จังหวะชวนคิดถึงเพลง คิดมาก ของ Palmy น่าจะเปิดต่อกันได้ดีเลย เสียงของ Cupnoodle ใหญ่ แต่ตอนเอื้อนสูงก็ทำได้สวยเลย

 

https://www.youtube.com/watch?v=Lnv5MdcNsTE

 

 

 

  1. Forever Young – Henri Dunant

เพลงของวงอังรีดูนังต์ วงของแม็กซ์ เจนมานะ กับไบรท์ ชัชชล เพลงนี้เป็นเพลงปิดอัลบั้มที่สง่างาม เสียงร้องกับเปียโนกระแทกคอร์ดแรงๆ ใส่เอฟเฟกต์ลอยๆ ชวนนึกถึง Sea Fog ของวง Keane เนื้อเพลงว่าด้วยเรื่องของการจากไปด้วยตัวเปล่า มีแค่ชื่อเธอที่ยังคงค้างในจิตใจ ฟังแล้วอยากขับรถออกต่างจังหวัดไปดูดาวในที่โล่งๆ สักคืน

 

*ไม่มีใน YouTube

 

  1. ANTLV – AUTTA (อัตตา)

ANTLV ย่อมาจากคำว่า Another Level มันคือการไปอีกขั้นของแรป การที่เราเหนือกว่าไม่ได้หมายความว่าเหนือกว่าคนอื่น แต่เป็นการเหนือกว่าตนเองของเมื่อวาน เพลงนี้เป็นเพลงที่เกินความเป็นแรป มันมีความพลุ่งพล่าน มีร็อก มีเมทัลอยู่ในนั้น ความเร็วในการแรป เนื้อเพลงที่เขียนอย่างลุ่มลึกและซับซ้อน ถ้าคุณบอกว่าเขาแรปได้ดีกว่าแรปเปอร์เมืองไทยคนอื่นๆ แล้ว ใช่เลย คุณมาผิดทางแล้ว (กลับไปอ่านบรรทัดแรก)    

 

 

  1. แปะหัวใจ – JAONAAY ft. Juné

คู่จิ้นของวงการบันเทิง เจ้านายกับจูเน่ดูน่ารักและเข้ากันได้ดี เป็นที่อิจฉาของแฟนคลับทั้ง 2 ฝ่าย เพลงนี้เป็นเพลงร้องคู่ที่ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างมองกันอยู่ กีตาร์เดินเหมือนกับ Comethru ของ Jeremy Zucker ที่ร้องคู่กับ Bea Miller เอาเป็นว่าถ้าชอบใคร ยังไม่รู้จะบอกดีไหม ร้องเพลงนี้ให้เค้าฟังเลย

 

 

  1. เหตุด่วน – TangBadVoice

มีความกวนอย่างสม่ำเสมอสำหรับตั้ง ตะวันวาด ที่ทั้งกัดทั้งจิกตำรวจทั้งกรมได้อย่างเจ็บแสบ เรื่องราวของบทสนทนาของคนทางบ้าน โทรไป 191 ตำรวจรับโทรศัพท์อย่างนาน ไม่รีบจนน่ารำคาญ เป็นการทำตามขั้นตอนของราชการ MV เป็นการ์ตูนที่แสบไม่แพ้กัน ตลกร้ายแห่งปี 2021

 

 

  1. ผมเกลียดคุณ – Toothpastes

คุณอาจจะไม่ชอบใครสักคนในโลกนี้ แต่ถ้าถึงกลับเกลียดเลยก็เขียนเพลงให้เขาสักหน่อย ไม่มีการเปิดเผยชื่อ ความเกลียดชังที่มีให้นั้นมันแรงกว่าที่วงอย่าง BOMB AT TRACK หรือ YOUNGOHM เคยเขียนถึง เพลงในแบบพังก์แรป แนวเพลงนั้นคิดถึงวง PLOT ก่อนเพื่อน ลองกดฟังและลองให้เพื่อนคุณฟังด้วย แล้วถ้ามันสามารถทำให้คุณและเพื่อนของคุณคิดถึงใครคนเดียวกันได้ ผมว่าเขาประสบความสำเร็จในการเขียนเพลงแล้ว

 

  

  1. เมื่อวานก็นานเกินไป – JAYLERR & Ice Paris

ความรู้สึกทรมานของการที่ไม่ได้เจอกันสักวันสองวัน การเปรียบเทียบความเหงาของสองเราว่ามันเท่ากันไหม คล้ายว่าเป็นภาคต่อกันกับเพลง คิด (แต่ไม่) ถึง ที่สงสัยว่าความคิดถึงมันเท่ากันไหม ก็มาจากคนเขียนเพลงคนเดียวกัน คือ เติร์ด แห่ง Tilly Birds การร้องสลับของเจเจและไอซ์ แรปที่ดี และจังหวะของเพลงที่ลงตัว ทำให้เพลงนี้โคตรมีเสน่ห์

 

 

  1. แอบหวัง – Anatomy Rabbit

สำหรับคนที่โสดถึงวาเลนไทน์ และได้ฉลองปีใหม่ปี่ที่แล้วอยู่กับบ้านคนเดียว แอบคิดถึงคนรักเก่าอยู่ทุกวัน และหวังว่าสักวันเขาจะกลับมา เพลง แอบหวัง คือทั้งหมดของคุณ แค่ประโยคแรกที่ประชดตัวเองว่าก็สบายดีนี่ มันก็อาจจะทำให้คุณร้องไห้ได้เป็นวรรคเป็นเวรอีกแล้ว เพลงที่วงดนตรีจากอุดรธานีปล่อยมาตั้งแต่สัปดาห์แรกของปีเลย ความเหงาอยู่ในเสียงร้องและกีตาร์

 

 

  1. ไม่มี – Image

กีตาร์ที่คลอไปกับเพลงมีความขมของกาแฟ เนื้อเพลงมีความทรงจำที่ยังติดอยู่ และคุยกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา หาทางออกไม่ได้ มองโลกในแง่ร้าย ฉากเก่าย้อนขึ้นมาบ่อยๆ อยากจะลืมแต่ก็ลืมไม่ได้ ตอนที่ฉากเก่าย้อนมา มีเสียงของสกอร์หนังบางๆ สมแล้วที่ติดอันดับ 1 ของ Cat Radio

 

 

  1. Friend – TELEx TELEXs

ความรักระหว่างความเป็นเพื่อนที่ยังไม่แน่ใจ ขอซื้อเวลาและขอความชัดเจนมากกว่านี้ จริงๆ แล้วไม่อยากเสียความเป็นเพื่อน กีตาร์มีความเฟี้ยวแบบ It’s Not Living (If It’s Not With You) ของ The 1975 เป็นเพลงที่สดใส เพลงนี้ไม่ยอมตัดออกมาเป็นซิงเกิลเหมือนเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม

 

 

  1. Funky Dog – Motley Flower feat YOUNGGU

เอาจริงๆ เพลงนี้ต้องไม่ผ่านการคัดเลือก เพราะออกเดือนธันวา 2020 แต่ด้วยความไพเราะของเพลง ผมไม่อยากให้ใครพลาด เพลงทำนองสวย โลดแล่น เหมือนเล่นเซิร์ฟบอร์ด เหมือนขี่จักรยานลมตีหน้า เสียงร้องทุ้มต่ำตัดกับเสียงของ YOUNGGU ที่แหบและชวนอึดอัด แต่เพลงนี้ไม่อึดอัด เปิดต่อ San Francisco Street ของ Sun Rai บอกเลยว่าโคตรเนียน

 

 

  1. How Can We Live Forever – Common People Like You

ชื่อวงชวนนึกถึงวง Pulp แต่แนวเพลงต้องวง The Drums วงดนตรีจากเชียงใหม่ทำเพลงพังก์ร็อก อินดี้ร็อก ซาวด์กีตาร์ดิบๆ เร่งจังหวะ แบบมีอิทธิพลนิวเวฟพวก Orange Juice ไปจนถึง The Cure ยุคแรกด้วย เพื่อนผมถามว่ามันร้องว่าอะไรวะ กูฟังไม่ออก ผมบอก เราจะมีชีวิตอมตะได้อย่างไร ถ้าไม่ยอมให้สิ่งรอบข้างเปลี่ยน ใครๆ ก็เปลี่ยน มึงเปลี่ยน กูเปลี่ยน หรือมึงจะมีชีวิตอมตะเพื่อดูจุดจบของทุกอย่าง เสียเวลาฉิบหาย

 

  

  1. อยู่เป็นของขวัญให้ฉันก่อน – Uncle Ben

เพลงป๊อปเศร้าๆ ของวง Uncle Ben ที่ชวนให้นึกถึงวงอย่าง Loserpop เรื่องของคนรักที่จากไปแล้ว เพลงเขียนกว้างๆ ไม่ได้เจาะลึกว่าเลิกรากันหรือตายจากไป เพียงแค่ไม่ได้อยู่เป็นของขวัญแล้ว กีตาร์อย่างลอย เพลงนี้ยาวถึง 7 นาทีกว่า แต่ไม่รู้สึกเลยว่ายาวเกินความเป็นป๊อปเลย

 

 

  1. Ghost – Telever

Telever เป็นวงดนตรีจากนครสวรรค์ ทำดนตรีแนวชูเกซ กีตาร์นัวร์ เสียงร้องบางเบา ทำให้เราเคลิ้มพอๆ กับทำลายโสตประสาทอันน้อยนิด วงดนตรีที่มีฝีไม้ลายมือวงนี้ทำให้เรานึกถึงวงอย่าง My Bloody Valentine เนื้อเพลงพูดถึงเธอที่ยังคอยหลอกหลอนเหมือนผีที่อยู่ใกล้ๆ

 

 

  1. สายตาหลอกกันไม่ได้ – Ink Waruntorn

เป็นเพลงที่น่าจะเป็นตัวแทนของอิ้งค์ได้เลย สายตาของเธอสะกดทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เพลงนี้เป็นมุมมองที่ต่างออกไป เป็นสายตาของคนตรงข้ามที่รู้สึกว่าเค้าจะมีใจให้กับเรา เป็นมุมที่ยังไม่ค่อยมีใครเขียนถึง ความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อป และเสียงของอิ้งค์ทำให้ทุกอย่างดูสดใสไปหมด

 

 

  1. เจ็บไม่ต่างกัน – Earth Patravee

เพลงในแบบเฟรนด์โซน นั่งอยู่ข้างๆ แต่เธอก็ไม่เคยเห็น จะลุกออกไปเธอก็ไม่รู้อยู่ดี คือจะอยู่หรือจะไปก็เจ็บไม่ต่างกัน เพลงเศร้าของเอิ๊ตเพลงนี้อึนมาก เรียกได้ว่าอึนกว่าเพลงก่อนๆ ของเอิ๊ตอีก ในความรู้สึกของผม เพลงเศร้าของเอิ๊ตเพลงอื่นออกเหงาๆ มีเพลงนี้ที่เจ็บจริง

 

 

  1. โทษตัวเองไม่เป็น – Varis

อินดี้โฟล์ก จังหวะเหมือนเล่นเพลงรอบกองไฟ มีความเป็นยิปซีสนุกสนาน เพลงของ วริศ คงสุวรรณ ไม่ซับซ้อน แต่ซ่อนอะไรไว้ ทรัมเป็ต คีย์บอร์ด เครื่องเคาะ และเสียงปรบมือ ฟังแล้วชวนคิดถึงวง Beirut ของ Zach Condon โคตรเท่

 

 

  1. LALISA – Lisa

คิดว่าลิซ่าต้องภูมิใจในความเป็นคนไทยของเธอมากๆ ในเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเธอ นอกจากจะตั้งชื่อเพลงตามชื่อจริงแล้ว เธอใส่ความเป็นไทยเข้าไปในเพลง ฟังแล้วมีกลิ่นไทยๆ ในซินธิไซเซอร์และเครื่องเคาะที่ใช้ใน MV มีทั้งปราสาทหิน ผ้าไหมยกดอก ดอกพุดซ้อน และชฎา เราขอบอกว่าเราภูมิใจในตัวเธอจริงๆ  

 

  

  1. Crush – FEVER

FEVER แตกวงไปแล้ว เศร้าเลย วงดนตรีสาวสวย 12 คนที่ยังไม่ทันดังเปรี้ยงปร้างเหมือน BNK48 แต่เพลงของพวกเธอมีคุณภาพทั้งหมด เพลงนี้ก็เช่นกัน จังหวะสนุกของเพลง ซินธิไซเซอร์ที่ชวนนึกถึงเพลงป๊อปแดนซ์ยุค 80 เสียดาย เสียดาย

 

 

  1. Why Cry – Gencry

แนวเพลงชวนคิดถึงวง Sigur Rós มันมีความเป็นอินดี้ป๊อป เย็นยะเยือก เป็นดรีมป๊อปที่ฟังแล้วลอย วงดนตรี 4 หน่อ ชาย 3 หญิง 1 ชื่อแปลกหูวงนี้ย่อมาจาก Generation of Cry การเขียนเนื้อใช้คำสละสลวย เป็นเพลงเศร้าและเหงามากเพลงหนึ่งเลย

 

 

  1. Drunk Sleeping in Taxis – Valentina Ploy

Valentina Ploy เป็น Singer & Songwriter ที่ไปได้ไกลเทียบได้เท่างานระดับอินเตอร์ เพลงของเธอเพลงนี้ชวนให้นึกถึง Taylor Swift ความเป็นป๊อป น้ำเสียงที่ไพเราะ ความสวยงาม และความมั่นใจในตัวเองของเธอ แต่บางทีก็มีมุมที่อ่อนแอและต้องการความใส่ใจออกมาทางเนื้อเพลง                                 

 

 

  1. Song4U – Gym and Swim

ปีนี้ Gym and Swim ทำเพลงออกมาแค่เพลงเดียว แถมออกเป็นแผ่นเสียง 7 นิ้วซะด้วย เพลงที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปแนวถนัด การประสานเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเพลงมีความหวานมาก

 

 

  1. Test Drive – KUNST

ใครที่เป็นแฟนเพลงบริตป๊อปยุค 90 อันแสนเฟื่องฟูน่าจะชอบเพลงนี้ มันทำให้เราย้อนระลึกไปถึงช่วงนั้นอย่างชัดเจน กีตาร์สับคอร์ดแรงฉับไว จังหวะที่ทำให้ต้องโดด Test Drive ชวนคิดถึงวงอย่าง Echobelly, Sleeper ด้วยความที่มีนักร้องหญิง และคิดถึงความโครมครามของกีตาร์แบบ Ash และ Smashing Pumpkins รวมไปถึงความเป็นชูเกซจาก Lush และ My Bloody Valentine ด้วย

 

 

  1. ขโมย – Death of a Salesman

การกลับมาของวงที่มีคนพูดถึงตลอด 19 ปีนับตั้งแต่อัลบั้มเดียวอัลบั้มแรก ซึ่งเพลงสุดท้ายที่พวกเขาทำคือเพลงคัฟเวอร์วงครับในปี 2004 เพลงนี้ของพวกเขาไม่เหลือเค้าเพลงของพวกเขา ความช้าของดนตรี ความซับซ้อนของสรรพเสียง เนื้อเพลงมีวุฒิภาวะ ล่องลอย ล้ำลึก และรักษ์โลก เหมือนฟัง Radiohead ที่ไม่ได้เป็น Radiohead แบบที่ฟังไม่ได้ ดีใจที่พวกเขากลับมา

 

 

  1. We’ll Never Be Someone – Hugo Darwin

อินดี้ร็อก พาวเวอร์ร็อก หรือจะสุดแท้แต่ร็อกที่เราจะนิยาม กีตาร์และจังหวะที่มัน ทำให้เรานึกถึงวงอย่าง Jimmy Eat World, Yellowcard, Stereophonics และ The Killers เนื้อเพลงดูท้อแท้ไปกับฤดูกาลที่เปลี่ยนไป เราคงตายไปกับฤดูหนาวที่แผดเผา 

 

 

  1. ไม่อาจอธิบาย – Seal Pillow

Seal Pillow ทำเพลงอีกเพลงหลังจากการประกาศจากลากันไปเมื่อปีก่อน เพลงเพราะจับใจ แค่เสียงร้องกับคีย์บอร์ด ไม่มีเครื่องดนตรีอื่นให้รก เหมือนฟังเพลงของ Harvey Williams จากค่าย Sarah Records เศร้า เหงา ไม่ฟูมฟาย เพลงของ Seal Pillow ได้รับการออกแบบมาให้ตรงกับคนจำนวนมากที่ยังคงแอบรักใครคนหนึ่งตลอดไป

 

 

  1. The Cage – VINI

วงดนตรี 3 สาว เบส กีตาร์ คีย์บอร์ด ทำเพลงแบบเฟรนช์เลาจน์มิวสิก อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ชวนนึกถึง Spillers, Dimitri from Paris และ Modjo เพลงมีความเฟี้ยวด้วยท่วงทำนอง เบสเดินสวยๆ กีตาร์มีกรู๊ฟ คีย์บอร์ดละมุน เสียงร้องหวานฉ่ำ เนื้อเพลงต้องการหลุดจากกรอบยึด VINI ไม่ใช่เด็กสาวโนเนม พวกเธอคือ บีมและปายจาก FEVER และ ฟ่ง ศิลปินอินดี้ที่เคยมีเพลงกับค่าย No More Belts แต่งเพลงเองตั้งแต่ ม.2

 

 

  1. พระจันทร์ – YEW

เป็นเพลงที่ล้ำลึกในการเปรียบเปรย และเขียนเป็นจินตนาการ เรื่องของคน 2 คนที่รักกัน นั่งมองดูพระจันทร์ด้วยกัน โยนเรื่องเข้าไปในความฝัน กลายเป็นกระต่าย และเข้าใจว่าความรักของสองคนก็อยู่ตรงนั้นแหละ กระต่ายที่ได้พบดวงจันทร์ ในภาคดนตรีทรัมเป็ตตีคู่คลอเคลียไปกับเสียงกีตาร์

 

 

  1. Have You Ever – Mindfreakkk

Mindfreakkk คือ มาย-กษิรา พรนภดล นางเอก MV เพลง ไม่รู้ทำไม เธอทำหลายอย่าง เป็นที่ปรึกษาทางจิตวิทยา และ Brand Manager ด้วย ปีนี้เธอเขียนเพลงออกมา 3 เพลง ขอเลือกเพลงนี้ เป็นป๊อปอิเล็กทรอนิกส์ ฟังง่าย ได้อิทธิพลจาก Men I Trust, Clairo, The Marias เพลงนี้ยังมีเวอร์ชันแจ๊สด้วย สุดเก๋เท่ระเบิด

 

 

  1. Wish Upon A Star – H I N A N O

คิตตี้-ฮินาโน๊ะ ไชยวิราช เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เสียงของเธอหวานมาก ฟังแล้วนึกถึงลานดอกไม้ทุกที เพลงนี้เป็นป๊อป เล่นกับจังหวะสนุก มีปล่อยช้า ล่องลอย สลับกลับมาเร็ว เธอเขียนเพลงเอง เล่นเอง แถมโปรดิวซ์เองด้วย

 

 

  1. จากหัวใจ – The Photo Sticker Machine X Kongdej Jaturanrasamee

The Photo Sticker Machine คือศิลปินยุคต้นปี 2000 ทำเพลงตั้งแต่ชิลเอาต์ อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงแจ๊สดีๆ และช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทำสกอร์เพลงให้กับหนังไทย ส่วนคงเดช คนร้องเพลงนี้ คือผู้กำกับหนังไทยชื่อดัง (ไหนว่าชื่อคงเดช) ภาคดนตรีครึ่งแรกบางเบา ครึ่งหลังหนักอึ้ง เพลงสำหรับหัวใจที่แตกสลาย แต่ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีใครสักคนที่จะอยู่ข้างๆ เสมอ เป็นเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็ขนลุกครับ

 

  

MixTapes:

Apple Music

 

 

 

Spotify

 

 

 

เลเล่เล้

มกราคม 2565

Twitter @laylaidlaid

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2021 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>