Thailand – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 03 Nov 2025 10:57:50 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน https://thestandard.co/minister-assures-ya-dom-safety/ Mon, 03 Nov 2025 10:57:50 +0000 https://thestandard.co/?p=1139302 รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข พัฒนา พร้อมพัฒ […]

The post รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวข้อเท็จจริงในการเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตยาดมสมุนไพร ที่ไม่ขออนุญาตสถานที่ผลิต โดยภายในงานยังได้เชิญ นพ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ประธานกรรมการบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด, ธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด และ รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผอ.สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เข้าร่วมด้วย

 

พัฒนากล่าวว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เก็บตัวอย่างยาดมสมุนไพรส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจกว่า 10 ยี่ห้อ พบ 3 ยี่ห้อมีจุลินทรีย์เกินมาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการทุกรายยินดีให้ความร่วมมือกับ สธ. แก้ไขปัญหาในการผลิต และยกระดับการผลิต ยืนยันว่า กระบวนการที่ทาง อย. ได้ดำเนินการไป เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ระเบียบกระทรวง ยึดหลักความโปร่งใส ความปลอดภัย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

 

“ในนามกระทรวงสาธารณสุข และอย. ไม่เป็นเครื่องมือของผู้ใดในการทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ หรือทำลายอุตสาหกรรมแต่อย่างใด การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย และการออกไปจับกุมนั้น ก็เป็นการตรวจและส่งตรวจวิเคราะห์ตามขั้นตอน เนื่องจากพบตัวอย่างไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องดูต้นเหตุ ต้นทางในการผลิตอยู่ที่ใด และมีกระบวนการผลิตได้รับการรับรองหรือไม่ จึงนำไปสู่การตรวจสอบสถานที่ผลิตอีกครั้ง ผลจึงเป็นอย่างที่ข่าวออกมา แต่ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่กลั่นแกล้งผู้ประกอบการ และทำลายอุตสาหกรรมทั้งระบบ” รมว.สธ.กล่าว

 

พัฒนากล่าวต่อว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพร เพื่อให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาประเทศไทย โดยนโยบายของกระทรวงไม่ใช่แค่ใช้งบประมาณ แต่เราจะสร้างรายได้ให้ประเทศชาติด้วย ซึ่งการสนับสนุนสมุนไพรไทย อุตสาหกรรมไทยเป็นหนึ่งในภารกิจที่ตนและผู้บริหารกระทรวง มุ่งเน้นผลักดันเรื่องนี้ให้สังคมโลกให้เห็น

 

พัฒนากล่าวอีกว่า สธ. ยืนยันว่า พร้อมให้โอกาสผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ไม่เป็นเครื่องมือของใครทำลายคู่แข่งธุรกิจแน่นอน เราจะจัดหน่วยงานให้คำปรึกษา อบรมเรื่องนี้ และร่วมกันออกแบบดูแลผลิตภัณฑ์ พัฒนากระบวนการผลิต อำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียน การตรวจวิเคราะห์ให้ได้มาตรฐาน เป็นต้น

 

ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย. ลงพื้นที่และเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพรส่งตรวจวิเคราะห์ 10 ยี่ห้อ พบผลวิเคราะห์ตก 3 ยี่ห้อ ยี่ห้อหนึ่งประกาศในเว็บไซต์ก่อนหน้านี้ และช่วงเดียวกันก็มี 2 ยี่ห้อ โดยยาดมหงส์ไทยล็อตที่มีประกาศผลตรวจพบจุลินทรีย์นั้น ทางบริษัทรับผิดชอบด้วยการเรียกคืนสินค้าทั้งหมดออกจากท้องตลาดแล้ว

 

ส่วนล็อตอื่นๆ ที่ผลิตก่อนหน้านี้ในสถานที่ผลิตที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ยังไม่มีรายงานว่าตกมาตรฐาน ส่วนตัวอย่างที่เจอสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทางอย. จะประกาศต่อไปในอนาคต สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นนั้น ทางบริษัท หงส์ไทย ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และจะดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างถูกต้อง และทราบว่ากำลังหารือกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติในการแก้ปัญหานี้

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสมุนไพรประมาณ 700 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ส่วนขึ้นทะเบียนมีหลายพันทะเบียน ทาง อย.จะประสานกับ สสจ. ช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต อำนวยความสะดวกต่างๆ ต่อไปโดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

 

“การทำงานของ อย.มีระเบียบขั้นตอนทุกครั้ง หลังเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ ซึ่งส่งทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีมาตรฐานของรัฐตรวจสอบ บางผลิตภัณฑ์ล่าช้าไปบ้าง แต่ทุกครั้งที่ อย. ประกาศก็เพื่อความปลอดภัยประชาชน ซึ่งการดำเนินการตรงนี้ เป็นไปตามกระบวนการกระบวนการของอย.แต่ละประเทศ ซึ่งมีการประกาศเรียกคืน ยกเลิกทะเบียน ส่วนผลกระทบต่อผู้ประกอบการ หากแก้ไขได้ก็ดำเนินการทางธุรกิจต่อไปได้” ภญ.สุภัทรา กล่าว

 

ขณะที่ นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของกรมวิทย์ฯ อย่างน้อย 2 ครั้ง เมื่อพบสิ่งผิดปกติก็จะแจ้งผู้ประกอบการเพื่อปรับปรุง และส่งมาให้กรมวิทย์ตรวจอีกครั้ง หากผ่านมาตรฐานก็นำใบรับรองไปยื่นต่อ อย. โดยกระบวนการตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์

 

นพ.ชัยวัฒน์ว่า จากการแถลงข่าววันนี้ ดีใจมากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกว่า สธ.ให้ความสำคัญกับประชาชน และอุตสาหกรรมสมุนไพรที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งนี้ ยอมรับว่ากระบวนการผลิตมีปัญหา ในล็อตการผลิต 000332 วันที่ผลิต 09/12/2024 วันสิ้นอายุ 08/12/2027 จำนวน 2 ล้านชิ้น ก็จะนำไปทำลายทิ้ง

 

ที่ผ่านมาถือว่าข่าวนี้สร้างความเสียหายของสมุนไพรอย่างมาก น่าเสียดายที่ลิซ่า และอินฟลูฯ เชียร์สมุนไพร แต่ชั่วข้ามคืน ข่าวออกมาแย่มาก ค่อนข้างไม่ดี ในส่วนของบริษัท เมื่อผิดพลาดเราจะแก้ไขทั้งหมด ทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ จะทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกสมุนไพร จะทบทวนกระบวนการผลิตของบริษัท ทั้งนี้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสมุนไพรไทย แต่ขอให้หงส์ไทย เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เพื่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทยแท้จริง

 

ธีระพงศ์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นต้องยอมรับทั้งหมด ตนขอโทษ น้อมรับทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่มีความดื้อดึง หรือมีความไม่อยากปฏิบัติตาม และขอโทษกับการสื่อสารบางอย่างที่อาจจะไม่เหมาะสม หรือออกความคิดเห็นมากเกินไป ตนไม่ได้ต้องการแก้ตัว แต่พร้อมจะแก้ไข

 

หลังจากนี้ จะนำสินค้าทั้งหมดทุกประเภทที่ผลิตสำเร็จแล้ว ส่งตรวจกับกรมวิทย์ หากมีปัญหาก็จะนำไปฆ่าเชื้อกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฯ ส่วนที่ผ่านมาตรฐานก็จะทำหนังสือยืนยันกับ อย. และ สธ. รวมทั้งหนังสือยืนยันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทุกล็อตการผลิต ส่วนสินค้าที่ถูกอายัดจากโรงงานที่ยังไม่ได้ขออนุญาต ก็จะรอให้ ทาง อย. สรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 1
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 2
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 3
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 4
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 5
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 6
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 7
รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน 8

The post รมว.สธ. ย้ำไม่ทำลายธุรกิจยาดม ชี้ อย. ตรวจตามขั้นตอน ยึดความปลอดภัยผู้บริโภค ด้านหงส์ไทยเล็งส่งทุกล็อตให้ กรมวิทย์ฯ ตรวจมาตรฐาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง MOA ระหว่าง ปชน.-ภท. ล้มล้างการปกครอง เหตุเป็นการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน https://thestandard.co/constitutional-court-moa-political-will/ Mon, 03 Nov 2025 10:24:28 +0000 https://thestandard.co/?p=1139282 ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง MOA ระหว่าง ปชน.-ภท. ล้มล้างการปกครอง เหตุเป็นการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ผลการ […]

The post ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง MOA ระหว่าง ปชน.-ภท. ล้มล้างการปกครอง เหตุเป็นการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง MOA ระหว่าง ปชน.-ภท. ล้มล้างการปกครอง เหตุเป็นการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ผลการประชุมปรึกษาคดีของตุลาการมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดย อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธธธรรมนูญ มาตรา 49

 

กล่าวอ้างว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่าง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ผู้ถูกร้องที่ 1) ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน (ผู้ถูกร้องที่ 2) กับ อนุทิน ชาญวีรกูล (ผู้ถูกร้องที่ 3) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) โดยตกลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 พิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ถูกร้องที่ 3 เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการได้มาซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

 

โดยอาศัยมติพรรคการเมืองยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตกอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันไว้ล่วงหน้า อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 114 และมาตรา 185 การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสี่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกรองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวแล้ว แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ

 

ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ เมื่อบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับผู้ถูกร้องที่ 3 เป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ถูกร้องทั้ง 4 กระทำการอื่นใดอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิบไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

The post ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง MOA ระหว่าง ปชน.-ภท. ล้มล้างการปกครอง เหตุเป็นการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งระบายน้ำ หลังฝนตกหนักทั่วกทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนคืนนี้ https://thestandard.co/chadchart-orders-urgent-drainage/ Mon, 03 Nov 2025 09:35:12 +0000 https://thestandard.co/?p=1139247 ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งระบายน้ำ หลังฝนตกหนักทั่ว กทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนคืนนี้

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกร […]

The post ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งระบายน้ำ หลังฝนตกหนักทั่วกทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งระบายน้ำ หลังฝนตกหนักทั่ว กทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนคืนนี้

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการระบายน้ำหลังเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนที่อาจเกิดขึ้นอีกในคืนนี้

 

สืบเนื่องจาก เมื่อคืนวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้รับอิทธิพลจาก ร่องความกดอากาศต่ำที่เลื่อนขึ้นมาปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศ ภายหลังจากความกดอากาศสูงจากจีนเริ่มอ่อนกำลังลง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ โดยฝนหยุดตกในเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันนี้

 

ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดศูนย์ราชการ-ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 131.5 มิลลิเมตร จุดวัดสำนักงานเขตบางนา 116.5 มิลลิเมตร จุดวัดสำนักงานเขตพระโขนง 115.5 มิลลิเมตร และจุดวัดสถานีสูบน้ำพระโขนง เขตคลองเตย 105.5 มิลลิเมตร

 

ในการนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำเร่งดำเนินการ เปิดประตูระบายน้ำและเดินเครื่องสูบน้ำทุกสถานีเต็มกำลัง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ค้างในระบบสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงให้ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำหลัก อุโมงค์ระบายน้ำ และจุดเฝ้าระวังพิเศษ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณฝนที่อาจตกซ้ำในคืนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ สำนักการระบายน้ำได้ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดน้ำท่วมซ้ำซาก ขุดเปิดท่อระบายน้ำและช่องรับน้ำฝน รวมถึงจัดเก็บขยะและเศษวัสดุที่อาจกีดขวางการระบายน้ำต่อไป

The post ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งระบายน้ำ หลังฝนตกหนักทั่วกทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภราดรเผยแผนอำนวยความสะดวก ปชช. กราบพระบรมศพฯ 9 พ.ย. นี้ จัดคิวจังหวัดตามตัวอักษร คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน https://thestandard.co/nov-9-respect-queue-plan/ Mon, 03 Nov 2025 09:19:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1139228 ภราดรเผยแผนอำนวยความสะดวก ปชช. กราบพระบรมศพฯ 9 พ.ย. นี้ จัดคิวจังหวัดตามตัวอักษร คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำส […]

The post ภราดรเผยแผนอำนวยความสะดวก ปชช. กราบพระบรมศพฯ 9 พ.ย. นี้ จัดคิวจังหวัดตามตัวอักษร คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภราดรเผยแผนอำนวยความสะดวก ปชช. กราบพระบรมศพฯ 9 พ.ย. นี้ จัดคิวจังหวัดตามตัวอักษร คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ประสานและอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าวถึงผลการประชุมคณะทำงานครั้งที่ 2/2568 ว่า เป็นการสรุปแนวทางในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะมีการเปิดให้เข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมราชวัง ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ หลังสำนักพระราชวัง แจ้งปิดการเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงวันที่ 8 เนื่องจากมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ

 

ภราดรกล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทย ได้ประเมินตัวเลขไว้ว่า จะมีประชาชนจากแต่ละจังหวัดเข้ามาประมาณ 3,000-5,000 คน จึงให้ทางแต่ละจังหวัดสอบถามความประสงค์จำนวนของประชาชน จากนั้นจะจัดลำดับคิวเรียงลำดับตามตัวอักษรของจังหวัด ให้เดินทางมาในวัน-เวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดมากจนเกินไป และเมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะมีรถรับ-ส่งที่บริเวณสนามหลวง จากนั้นให้เดินเท้าจากสนามหลวง เข้าไปที่พระบรมมหาราชวัง

 

ส่วนผู้สูงอายุและผู้พิการจะมีการจัด Shuttle bus ของกระทรวงคมนาคม ส่วนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของวีลแชร์ ไว้คอยบริการ

 

ส่วนการดูแลจัดการการบริการต่างๆ ขณะที่ประชาชนรอคิวภายในท้องสนามหลวง เพื่อที่จะเข้าไปถวายสักการะ ทาง กทม. จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักโดยจัดเต็นท์เป็นแนวยาวครึ่งรอบของสนามหลวง คาดว่าจุคนได้ประมาณ 10,000 คนต่อรอบ จะเปิดให้เข้าไปวันละ 3 รอบ รวมประมาณ 30,000-40,000 คนต่อวัน ซึ่งในจุดพักคอยจะมีบริการทั้งในเรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น เช่น อินเทอร์เน็ต รวมถึงจุดชาร์จโทรศัพท์

 

สำหรับกระทรวงสาธารณสุข จะร่วมมือกับทาง กทม. ดูแลเกี่ยวกับการเจ็บป่วย เหตุฉุกเฉิน ก็จะมีทั้งสิ้น 8 จุด ส่วนจิตอาสาที่จะเข้ามาบริการในสนามหลวง ทางแม่ทัพภาค 1 จะรับเป็นศูนย์อำนวยการจิตอาสาทั้งหมด

 

ภราดรกล่าวอีกว่า ในส่วนของจุดจอดรถขนาดใหญ่ที่พาประชาชนมาจากต่างจังหวัด จะให้จอดรับ-ส่ง ที่สนามหลวง แล้ววนไปจอดตามจุดที่ได้กำหนดไว้ ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลสามารถจอดรถได้ที่สนามหลวงฝั่งทิศเหนือ ราชนาวีสโมสร รวมถึงบนถนนราชินี ถนนอัสดา และถนนสนามไชย ขณะที่ทางกระทรวงคมนาคมจะยังคงให้บริการรถเมล์จากทุกมุมของกรุงเทพมหานครเข้ามายังสนามหลวงด้วย

The post ภราดรเผยแผนอำนวยความสะดวก ปชช. กราบพระบรมศพฯ 9 พ.ย. นี้ จัดคิวจังหวัดตามตัวอักษร คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย.นี้ รอคำตอบกัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน https://thestandard.co/thai-cambodia-border-14-november/ Mon, 03 Nov 2025 09:14:54 +0000 https://thestandard.co/?p=1139221 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำ […]

The post ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย.นี้ รอคำตอบกัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย เบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม, พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย, พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก, พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ, พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ และพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าจากผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (Joint Declaration) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (JBC และ GBC) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล

 

สิริพงศ์กล่าวว่า การแถลงข่าววันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน เหตุการณ์ชายแดน พร้อมเริ่มต้นด้วยการย้อนถึงเหตุการณ์ความสูญเสียในอดีต ตั้งแต่การขุดคูเลตของกัมพูชา, เหตุทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิดจนสูญเสียขาในพื้นที่ตรวจการฝั่งไทย, และเหตุระเบิดลูกแรกที่ตกลงปั๊มน้ำมันใน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิตพลเรือน 8 คน (รวมเด็ก 8 ขวบ) และการปะทะโต้ตอบกัน 4 วัน 5 คืน ทำให้สูญเสียทหารอีกนับ 10 ราย และบาดเจ็บ 666 คน

 

“เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีความโกรธแค้นในความสูญเสีย และความเสียใจ” สิริพงศ์กล่าว
สถานการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยมีสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียเป็นผู้สังเกตการณ์ ทำให้การดำเนินการใดๆ ต่อจากนี้ถูกสังคมโลกจับตามอง

 

สิริพงศ์ย้ำว่า แม้ไทยและกัมพูชามีพื้นที่ติดกันและไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงนี้ได้ “เราไม่ได้ลืมความเจ็บแค้น แต่วันนี้เรากำลังพูดถึงเมื่อมีแผ่นดินที่ติดกัน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ได้จะเดินหน้าอย่างไร”

 

สิริพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้มีการลงนามในเอกสารเพิ่มเติมคือ Joint Declaration เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อกัน โดยไทยยึดมั่นใน 4 ข้อหลัก และย้ำว่า ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ด้วยข่าวลือ แต่ประเทศจะเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง โดยกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด

 

“รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ จะนำความสงบสุขกลับมาคืนสู่คนไทยทุกคนในประเทศนี้ โดยยึดหลักที่เราจะไม่เสียดินแดน ไม่เสียอธิปไตย แม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียว ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้เลยว่า ตั้งแต่นายอนุทิน มาเป็นนายกรัฐมนตรี เราไม่มีดินแดนไทยไหน แม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียวที่เราสูญเสียให้กัมพูชา เราไม่มีอวัยวะชิ้นไหน ของทหารผู้เสียสละที่จะเสียไปจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราไม่ได้เห็นเลือดของทหารเหล่านั้น หยดลงบนผืนดินไทย และที่สำคัญที่สุดเราไม่เห็นเลือดของประชาชนที่ต้องไหลลงผืนดินไทยตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นแนวทางต่อไป รัฐบาลมีความตั้งใจอยากจะทำให้ทุกคนเป็นปกติสุข ภายใต้เงื่อนไขรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของไทย”

 

ส่วนการเปิดด่านยืนยันว่า นโยบายรัฐบาลชัดเจนมาก ยังไม่มีการพูดเรื่องเปิดด่าน ซึ่งการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พิจารณา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไขในข้อแถลง 4 ข้อ และขอให้ท่านทุกท่านมั่นใจว่า รัฐบาลไทยไม่ย่อหย่อน และไม่มีทางที่จะย่อหย่อนต่อกัมพูชาอย่างแน่นอน

 

โฆษกรัฐบาลยังพูดถึงประเด็นเรื่อง 18 ทางกัมพูชา โดยยืนยันว่า กระบวนการเหล่านี้จะเริ่มต้นก็ต่อเมื่อกัมพูชาได้ทำตามข้อตกลง 4 ข้อทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินว่า กัมพูชาได้ทำตามข้อตกลงหรือไม่

 

เมื่อถามว่า แม้ว่า 1 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ได้เสียดินแดน แต่ความรู้สึกของประชาชนที่เสียปราสาทตาควาย, ปราสาทคนา และเนิน 677 รัฐบาลจะเอาอะไรไปเจรจาไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ โฆษกรัฐบาลระบุว่า เรื่องความรุนแรงได้จบไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม รัฐบาลไม่สามารถที่จะไปใช้กำลังรุกรานก่อนได้ แต่แนวทางที่จะทำก็คือ สันติวิธีการเจรจา ในเรื่องของการปักปันเขตแดน พูดคุยข้อพิพาทที่เป็นปัญหา ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่ต้องมาพูดคุยกันในระดับทวิภาคีร่วม ซึ่งหมายถึงทุกพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีกรอบเวลาในระยะสั้น ซึ่งต้องดำเนินการตาม 4 ข้อตกลงก่อน

 

จับตา 14 พ.ย. ไทยรอคำตอบกัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดนชั่วคราว

 

ด้านเบญจมินทร์ กล่าวว่า ทางฝ่ายกัมพูชาอยู่ระหว่างร่างคําแนะนําทางเทคนิคในการสํารวจหลักเขตแดนชั่วคราวบริเวณเร่งด่วน ส่วนฝ่ายไทยได้จัดทําร่างและเสนอไปแล้ว อยู่ระหว่างรอคําตอบในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 และเริ่มสำรวจเพื่อวางหลักเขตแดนชั่วคราวในวันที่ 17 พฤศจิกายน พร้อมเสนอให้รัฐบาลแต่ละฝ่ายเห็นชอบ

 

เบญจมินทร์ ยืนยันว่าการวางหลักเขตแดนชั่วคราว เพื่อการสํารวจเท่านั้นไม่ได้กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชา ในเขตแดนทางบกตามกฎหมายของประเทศ และจะมีการประชุม JBC อีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าที่ทั้งสองฝ่ายดําเนินการในช่วงต้นเดือนมกราคม 2569

 

เร่งถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด ย้ำไม่มีการถอนกำลังป้องกันชายแดน

 

พล.ร.ต. สุรสันต์กล่าวว่า กลไก GBC ทำงานร่วมกับ JBC และมีการประชุมสมัยวิสามัญ เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าท้ายที่สุดการเจรจาเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่นำสองฝ่ายเข้าสู่สันติ

 

ข้อตกลงจากการประชุม GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม คือหยุดยิงโดยอาวุธทุกชนิด ไม่มีการเคลื่อนย้ายตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ไม่มีการเพิ่มกำลังเข้ามาตลอดแนวชายแดน ละเว้นการยั่วยุที่อาจจะนำไปสู่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ละเว้นการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หรือการเสริมความมั่นคงของที่มั่นทหาร งดเว้นการใช้กำลังทุกประเภทต่อพลเรือน และเป้าหมายทางพลเรือนโดยเด็ดขาด กรณีที่มีการขัดกันด้วยอาวุธทุกชนิด ให้ทั้งสองฝ่ายหารือกันในระดับพื้นที่ผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้เร็วที่สุด

 

ส่วนข้อตกลงในวันที่ 10 กันยายน ได้ร่วมหยิบยกในประเด็น 4 ข้อ คือ การถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามสแกมเมอร์ และการฟื้นฟูนำพื้นที่ที่มีปัญหาไปสู่ความสงบ ทั้งนี้ มีการถอนอาวุธหนักจะแล้วเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุมระยะเวลา 2 เดือน ยืนยันว่า เป็นแค่การถอนอาวุธหนัก กองกำลังป้องกันชายแดนที่มีการวางกำลังอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นไม่มีการถอนกำลังใดๆ คนที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ก็จะปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม

 

สำหรับภารกิจของ AOT เรามีกลไกเป็นตัวกำกับ เพื่อให้รายงานไปยังหน่วยขึ้นตรงหากมีปัญหาใดๆ ทั้งสองฝ่ายจะรายงานไปที่ฝ่าย AOT เพื่อให้สร้างแรงกดดันไปยังอีกฝั่ง ยืนยันว่า เรามีกลไกตรวจสอบและการปฎิบัติเรียบร้อย

 

ส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดถือเป็นประเด็นสำคัญ โดยมีการหารือ และจัดทำมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติงานในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และกำหนดพื้นที่นำร่องในการเก็บกู้ภายใน 1 เดือน โดยฝ่ายไทยเสนอพื้นที่นำร่อง 13 พื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาได้เสนอมา 1 พื้นที่เท่านั้น ซึ่งในการปฏิบัติการมีข้อตกลงกับกัมพูชาลักษณะการทำงาน จะแบ่งงานออกไปว่าอธิปไตยของใครก็เป็นของคนนั้น

 

พล.ร.ต. สุรสันต์กล่าวอีกว่า การจัดตั้งคณะทำงานร่วม (Joint Task Force) ยังมีแผนปฏิบัติการในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งขณะนี้มีการจัดส่งรายชื่อ และจัดตั้งคณะขึ้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนการลงนามกันของทั้งสองประเทศเห็นถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าว และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของที่ประชุม GBC

 

ตำรวจไทย-กัมพูชา จับมือลงนามแผน 2 ปี จัดการสแกมเมอร์

 

ด้าน พล.ต.ต. ศิริวัฒน์กล่าวว่า ไทยได้ประสานความร่วมมือกับประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2564 ในการรับตัวคนไทยที่ถูกหลอกลวง และที่สมัครใจ จนกระทั่งปี 2568 ได้มีการส่งตัวคนไทยกลับมาดำเนินคดีรวมแล้ว 249 คน ทั้งนี้ในเดือนกันยายน ทางไทยได้มอบข้อมูลเป้าหมายสแกมเมอร์ กว่า 62 เป้าหมายในกัมพูชา ให้กัมพูชาได้ตรวจสอบ

 

นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงนามแผนปฏิบัติการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ 8 ข้อ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ครอบคลุมการแบ่งปันข่าวกรอง, การปฏิบัติการพร้อมกัน, การส่งผู้ต้องสงสัยและคุ้มครองเหยื่อ โดยมีคณะทำงานร่วม และมีผลบังคับใช้ 2 ปี ตั้งแต่ 23 ตุลาคม 68-22 ตุลาคม 70 และลักษณะข้อตกลง เป็นความร่วมมือเสริมไม่แทนที่สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

 

พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของในประเทศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ มีการตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งตั้งศูนย์วอร์รูม และประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถดำเนินการคืนเงินให้กับผู้เสียหายเร็วสุดภายใน 9 วัน จำนวนกว่า 250 ล้านบาท

 

ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 1 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 2 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 3 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 4 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 5 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 6 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 7 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 8 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 9 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 10 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 11 ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือ ไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย. นี้ รอคำตอบ กัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน 12

The post ทีมโฆษกร่วมแถลงผลหารือไทย-กัมพูชา ย้ำเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข่าวลือ จับตา 14 พ.ย.นี้ รอคำตอบกัมพูชา ก่อนเริ่มวางหลักเขตแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษก ทร. ย้ำไม่ปล่อยไว้แน่ หลังรื้อบ้าน 3 หลัง จ.ตราด แต่ทหารกัมพูชาแอบกลับเข้ามาอีก รับจากนี้จะแสดงกำลังมากขึ้น https://thestandard.co/cambodia-soldiers-sneak-back-trat/ Mon, 03 Nov 2025 08:51:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1139195 โฆษก ทร. ย้ำไม่ปล่อยไว้แน่ หลังรื้อบ้าน 3 หลัง จ.ตราด แต่ทหาร กัมพูชาแอบกลับเข้ามาอีก รับจากนี้จะแสดงกำลังมากขึ้น

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) พล.ร.ต. ปารัช รัตนไชยพันธุ โฆษกกอง […]

The post โฆษก ทร. ย้ำไม่ปล่อยไว้แน่ หลังรื้อบ้าน 3 หลัง จ.ตราด แต่ทหารกัมพูชาแอบกลับเข้ามาอีก รับจากนี้จะแสดงกำลังมากขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษก ทร. ย้ำไม่ปล่อยไว้แน่ หลังรื้อบ้าน 3 หลัง จ.ตราด แต่ทหาร กัมพูชาแอบกลับเข้ามาอีก รับจากนี้จะแสดงกำลังมากขึ้น

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) พล.ร.ต. ปารัช รัตนไชยพันธุ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) รื้อบ้าน 3 หลัง บริเวณบ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด แต่ทหารกัมพูชายังไม่ยอมออกไปว่า จากที่กองทัพเรือได้เปิดดำเนินการและทำลายบ้าน 3 หลังไปแล้ว ในครั้งนั้น ยังมีเรือนขนาดเล็กที่เป็นเรือนบริวารอีก 3-4 หลัง ซึ่งตรงนั้นยังไม่เสร็จ และปรากฏว่าหลังจากที่เรารื้อทำลายบ้าน 3 หลังไปแล้ว กัมพูชาได้ถอนกำลังออกไป แต่เนื่องจากพื้นที่นี้เข้าถึงยากลำบาก เราไม่ได้วางกำลังในพื้นที่อย่างใกล้ชิด จึงทำให้ทหารกัมพูชากลับเข้ามาอีก และปักหลักในพื้นที่

 

ดังนั้นสิ่งที่ทำควบคู่กันตอนนี้คือการแสดงกำลัง และทหารเรือได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน จังหวัดตราด ในการปรับถนน ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ถนนตรงนั้นเป็นถนนทางยุทธวิธี เชื่อมต่อถึงหน้าบ้าน 3 หลังแล้ว

 

“ตรงนี้ขอย้ำว่าเป็นแผ่นดินไทยชัดเจน และเขาก็ทราบดีว่ารุกล้ำเขตแดนเข้ามาที่ไทยอ้างสิทธิถึง 200 เมตร และนอกจากเรื่องของการทำถนนแล้ว ในอนาคตอาจจะมีการเข้าไปแสดงกำลังบ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ฝั่งตรงข้ามได้รับทราบถึงแรงกดดันที่จะมีต่อเขา นอกจากนี้ก็มีการเจรจา ซึ่ง ทาง ผบ.หน่วยทหารในพื้นที่ได้มีการพูดคุยในหลายรอบแล้ว” พล.ร.ต. ปารัชกล่าว

 

พล.ร.ต. ปารัชกล่าวต่อว่า ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ก็ให้ข่าวไปในเบื้องต้นแล้วว่ามีการพูดคุย และมีการใช้ทั้งไม้นวมไม้แข็ง ไม้นวมคือการพูดกันด้วยดี ว่าถ้าติดขัดในเรื่องของการย้ายออกจากพื้นที่ ทหารไทยก็ยินดีช่วยเหลือให้ออกจากพื้นที่ตรงนั้นไป แต่ถ้าไม้แข็งก็อาจจะเป็นการขอใช้มาตรการบางอย่าง ที่ทำให้เขาไม่สะดวกสบายในการอยู่พื้นที่นั้นต่อไป ซึ่งกองทัพเรือได้เตรียมไว้แล้ว

 

เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการกำหนดกำหนดเวลาไว้หรือไม่ ว่าจะต้องออกไปจากพื้นที่เมื่อไหร่ พล.ร.ต. ปารัชกล่าวว่า เชื่อว่าในใจของผู้บังคับบัญชามีแล้ว แต่ไม่อยากเปิดเผย เพราะจะมีแรงกดดันในพื้นที่ และจะทำให้ฝั่งตรงข้ามรู้ตัวด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ปล่อยไว้แน่

The post โฆษก ทร. ย้ำไม่ปล่อยไว้แน่ หลังรื้อบ้าน 3 หลัง จ.ตราด แต่ทหารกัมพูชาแอบกลับเข้ามาอีก รับจากนี้จะแสดงกำลังมากขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษกรัฐบาลเผย ปภ. เริ่มโอนวันนี้จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ล็อตแรก 12 จังหวัด 6.8 หมื่นครัวเรือน https://thestandard.co/flood-relief-payment-starts/ Mon, 03 Nov 2025 01:47:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1138952 โฆษกรัฐบาลเผย ปภ. เริ่มโอนวันนี้จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ล็อตแรก 12 จังหวัด 6.8 หมื่นครัวเรือน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำ […]

The post โฆษกรัฐบาลเผย ปภ. เริ่มโอนวันนี้จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ล็อตแรก 12 จังหวัด 6.8 หมื่นครัวเรือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษกรัฐบาลเผย ปภ. เริ่มโอนวันนี้จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ล็อตแรก 12 จังหวัด 6.8 หมื่นครัวเรือน

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เริ่มโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท วันนี้เป็นวันแรก

 

การโอนเงินครั้งที่ 1 (วันนี้ 3 พฤศจิกายน) จะโอนเงินให้ผู้ประสบภัย 68,094 ครัวเรือน ใน 12 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี, ชัยนาท, จันทบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ตราด, สิงห์บุรี, อ่างทอง, เลย, พิจิตร, เพชรบูรณ์, สมุทรปราการ และสระแก้ว รวมเป็นเงิน 612.846 ล้านบาท

 

ส่วนครั้งที่ 2 (พรุ่งนี้ 4 พฤศจิกายน) จะโอนเงินให้ผู้ประสบภัยอีก 12,702 ครัวเรือน ในจังหวัดพิจิตร และพระนครศรีอยุธยา รวมเป็นเงิน 114.318 ล้านบาท

 

สิริพงศ์กล่าวว่า การช่วยเหลือนี้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 6,169.986 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 65 จังหวัด รวม 685,554 ครัวเรือน

 

ขณะที่ ปภ. รายงานว่า มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแล้ว 265,238 ครัวเรือน ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) 84,268 ครัวเรือน และ ปภ. ได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินเพื่อเตรียมโอนเงินแล้ว 80,796 ครัวเรือน จำนวนเงิน 727,164,000 บาท

The post โฆษกรัฐบาลเผย ปภ. เริ่มโอนวันนี้จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ล็อตแรก 12 จังหวัด 6.8 หมื่นครัวเรือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับยี่เป็ง 68 https://thestandard.co/chiang-mai-yi-peng-lights/ Mon, 03 Nov 2025 01:16:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1138946 เชียงใหม่ เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68

วานนี้ (2 พฤศจิกายน) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เก็บภาพบร […]

The post เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับยี่เป็ง 68 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชียงใหม่ เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68

วานนี้ (2 พฤศจิกายน) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เก็บภาพบรรยากาศ พิธีเปิดซุ้มไฟประดับ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา’ ในช่วงประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2568 ที่บริเวณถนนท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

 

โดยก่อนทำพิธีเปิดซุ้มไฟประดับ ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมจุดผางประทีปเพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 

ทั้งนี้ ซุ้มประดับไฟ ออกแบบเพื่อให้สะท้อนภาพลักษณ์ของ ‘เวียงพิงค์’ หรือเมืองเชียงใหม่ในฐานะแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมล้านนา โดยผสมผสานด้วยศิลป์ดั้งเดิมกับเทคโนโลยีร่วมสมัย ผ่านระบบแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี สร้างมิติใหม่ให้กับบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมชมแสงสีและได้ถ่ายภาพระหว่างที่ทำการแสดงเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

 

สำหรับโครงสร้างของซุ้มไฟประดับได้แรงบันดาลใจจาก ‘ดอกทองกวาว’ ดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่สื่อถึงความรุ่งเรืองและความภาคภูมิใจของผู้คนในท้องถิ่น

 

ขณะที่ ส่วนบนออกแบบเป็นรูปนางฟ้า พร้อมการแสดง ‘แสงเหนือจำลอง’ หรือ Northern Lights Show ที่เปล่งประกายสีสันเคลื่อนไหวบนท้องฟ้า สื่อถึงพลังแห่งความดี ความหวัง และการส่องนำทางชีวิต

 

สำหรับการแสดงจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 2 รอบ ในเวลา 19.30 น. และ 21.00 น. ความยาวรอบละประมาณ 20 นาที โดยการแสดงมีไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากซุ้มไฟประดับ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา’ ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ ยังมีการจัดตกแต่งสถานที่ด้วยวัสดุในท้องถิ่นเป็นหลัก เพื่อต้อนรับเทศกาลยี่เป็ง 2568 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งด้วย

 

เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 1 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 2 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 3 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 4 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 5 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 6 เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับ ยี่เป็ง 68 7

The post เชียงใหม่เปิดซุ้มไฟ ‘ทิพยรัศมีเวียงพิงค์’ ต้อนรับยี่เป็ง 68 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดเทอมวันแรก น้ำยังท่วม 2 จุด ‘ดอนเมือง-ประเวศ’ ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์สั่งเรียนออนไลน์ เตือนชาว กทม. ฝนถล่มอีก 70% https://thestandard.co/school-starts-amid-bangkok-flooding/ Mon, 03 Nov 2025 00:53:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1138935 เปิดเทอมวันแรก น้ำยังท่วม 2 จุด ‘ดอนเมือง-ประเวศ’ ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์สั่งเรียนออนไลน์ เตือน ชาว กทม. ฝนถล่มอีก 70%

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการ […]

The post เปิดเทอมวันแรก น้ำยังท่วม 2 จุด ‘ดอนเมือง-ประเวศ’ ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์สั่งเรียนออนไลน์ เตือนชาว กทม. ฝนถล่มอีก 70% appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดเทอมวันแรก น้ำยังท่วม 2 จุด ‘ดอนเมือง-ประเวศ’ ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์สั่งเรียนออนไลน์ เตือน ชาว กทม. ฝนถล่มอีก 70%

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมถนน ณ เวลา 05.00 น. เนื่องจากฝนตกหนักตลอดคืน ทั่ว กทม. ระดับน้ำในคลองสูงหลายแห่ง พบยังมีน้ำท่วมถนน 2 จุด คือ ถนนช่างอากาศอุทิศ บริเวณช่วงซอยช่างอากาศอุทิศ 15 เขตดอนเมือง สูง 10-15 เซนติเมตร เต็มพื้นผิวจราจร และถนนอ่อนนุช บริเวณช่วงซอยอ่อนนุช 59 เขตประเวศ สูง 15-20 เซนติเมตร เต็มพื้นผิวจราจร เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขจุดน้ำท่วมทุกจุดอยู่

 

ขณะเดียวกัน วันนี้ถือเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของหลายโรงเรียน จากสถานการณ์น้ำท่วมถนนหลายพื้นที่ ในช่วงเช้าโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ได้ออกประกาศจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ ออนไลน์ แทนการเรียนในห้องเรียนตามปกติ เนื่องด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบริเวณด้านหน้าโรงเรียน ทำให้การเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนได้รับความลำบาก

 

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่ 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

และช่วง 1-2 วันนี้ ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม. ปริมณฑลและภาคใต้ตอนบน ต้องระวังฝน ออกนอกบ้านยังต้องพกร่ม เสื้อกันฝน ระวังรักษาสุขภาพ อากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจเจ็บป่วยได้ง่ายในระยะนี้ เกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือตากผลผลิต ต้องเตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

 

ภาพ: โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์

The post เปิดเทอมวันแรก น้ำยังท่วม 2 จุด ‘ดอนเมือง-ประเวศ’ ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์สั่งเรียนออนไลน์ เตือนชาว กทม. ฝนถล่มอีก 70% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสานพระราชปณิธานพระพันปีหลวง https://thestandard.co/khon-premiere-satyapali-royal-patronage/ Mon, 03 Nov 2025 00:46:29 +0000 https://thestandard.co/?p=1138932 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง

วานนี้ (2 พฤศจิกายน) เวลา 19.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอ […]

The post ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสานพระราชปณิธานพระพันปีหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง

วานนี้ (2 พฤศจิกายน) เวลา 19.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน สัตยาพาลี ซึ่งจัดขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขน เพื่อสืบทอด ธำรงนาฏศิลป์อันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่คู่สังคมไทยสืบไป โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เฝ้าฯรับเสด็จ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

 

การนี้เมื่อเสด็จฯ เข้าหอประชุมใหญ่ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ธนวพรรษ โตกระโทก (ผู้แสดงองคต) เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรพี สิทธิชัย (ผู้แสดงองคตกุมาร) เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และ พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล รองประธานกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประธานกรรมการอำนวยการ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กราบบังคมทูลถวายรายงานวัตถุประสงค์ ของการจัดการแสดงโขน รอบปฐมทัศน์ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน สัตยาพาลี พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญทอดพระเนตรการแสดงรำหน้าพาทย์ถวาย โดยคณะครูอาวุโส ทอดพระเนตรการแสดงรำอาศิรวาทรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์เบื้องหลังการจัดการแสดงโขนรอบปฐมทัศน์ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน สัตยาพาลี และทอดพระเนตรการแสดงตามลำดับ

 

สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน สัตยาพาลี จับตอนตั้งแต่ทศกัณฐ์แปลงกายเป็นปูยักษ์หมายทำลายพิธีโสกันต์องคตกุมาร แต่พาลีผู้ได้พรจากพระอิศวรปราบได้ ต่อมาเกิดเหตุการณ์ทรพีบุตรทรพาโอหังไม่กตัญญูจนถูกพาลีฆ่าตายในถ้ำ และทำให้พาลีกับสุครีพ น้องชายเข้าใจผิดแตกกัน สุครีพจึงไปพึ่งพระรามและร่วมต่อสู้จนพาลีต้องยอมมรณภาพโดยฝากฝังบ้านเมืองไว้กับพระราม เรื่องราวดำเนินต่อด้วยทศกัณฐ์ให้นางมณโฑหุงน้ำทิพย์ชุบชีวิตพลยักษ์ แต่พระรามส่งหนุมานและเหล่าวานรไปทำลายพิธีได้สำเร็จ ก่อนที่กองทัพอธรรมจะพ่ายแพ้และทศกัณฐ์ต้องถอยทัพ เป็นการแสดงโขนที่สร้างความประทับใจ ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ความบันเทิงให้กับผู้ชม ครบทุกอรรถรส ได้ข้อคิดเรื่องของการรักษาสัจจะ รวมทั้งด้านคุณธรรม ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ รู้รักสามัคคี รู้จักหน้าที่ ถ่ายทอดการแสดงโดยนักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่ มากฝีมือ ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกซ้อมจากครูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ คีตศิลป์ หลากหลายแขนง

 

เมื่อจบการแสดง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พล.อ.ท. ภักดี แสง-ชูโต กราบบังคมทูลเบิกผู้แทนคณะทำงาน และนักแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานช่อดอกไม้ ตามลำดับ

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ว่า “ไม่มีใครดูแม่จะดูเอง” นำไปสู่การจัดแสดงโขนหน้าพระที่นั่งตามภูมิภาคต่างๆ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ทรงอุปถัมภ์และพระราชทานทุนทรัพย์สนับสนุนการศึกษาพัฒนาเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้าโขน ให้เหมาะสมกับแบบแผนโบราณให้เหมาะสมกับแบบแผนโบราณ ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระราชหฤทัยใส่ทุกมิติ มีพระราชเสาวนีย์ให้รวบรวมครูผู้เชี่ยวชาญและศิลปินหลายท่านศึกษาค้นคว้าศาสตร์และศิลป์ที่เป็นภูมิปัญญาของการจัดแสดงโขน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ฟื้นฟูจัดสร้างเครื่องแต่งกาย ศิราภรณ์ หัวโขน และเครื่องประดับทุกชนิดของโขนขึ้นมาใหม่อย่างสวยงาม

 

ปรับปรุงวิธีการแต่งหน้าโขน โดยให้ศึกษาวิธีการแต่งหน้าโขนที่เปิดหน้าให้สวยงามเหมาะสมกับการแสดงบนเวทีสมัยใหม่ ส่งเสริมนักเรียนและนักศึกษาผู้ใฝ่ใจในการแสดงโขนให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น พระราชเสาวนีย์นี้จึงก่อให้เกิดช่างฝีมือรุ่นใหม่ขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งช่างทำหัวโขน ช่างทอผ้า ช่างปักสะดึงกรึงไหม ช่างเงิน ช่างทอง ช่างแกะสลัก ช่างเขียน และช่างแต่งหน้าโขน ผู้มีความเข้าใจในศิลปะและจารีตนิยมของโขนอย่างถ่องแท้และส่งเสริมให้ครูผู้เชี่ยวชาญโขน ฝึกฝนเยาวชนรุ่นใหม่ขึ้นมา เพื่อสืบทอดการแสดงโขนต่อไป

 

และนับเป็นความโชคดีของคนไทยและประเทศไทย ในปี 2562 โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ เพื่อสืบทอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติให้มีผู้สืบทอดต่อไป

 

ทั้งนี้ การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน สัตยาพาลี จะจัดแสดงขึ้นใน วันที่ 6 พฤศจิกายน-8 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคา 2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาทและ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 200 บาท) จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.0-2262-3456 www.thaiticketmajor.com

 

ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 1 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 2 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 3 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 4 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 5 ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสาน พระราชปณิธาน พระพันปีหลวง 6

The post ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตร การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน สัตยาพาลี สืบสานพระราชปณิธานพระพันปีหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>