Thailand – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 19 Jun 2025 09:37:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สิ้น ‘สุรพล โทณะวณิก’ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ประพันธ์เพลง ‘ใครหนอ’ https://thestandard.co/surapol-national-artist-dies-at-94/ Thu, 19 Jun 2025 08:35:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1086780 สุรพล โทณะวณิก

วันนี้ (19 มิถุนายน) เพจเฟซบุ๊ก ‘สุรพลน้อย โทณะวณ […]

The post สิ้น ‘สุรพล โทณะวณิก’ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ประพันธ์เพลง ‘ใครหนอ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุรพล โทณะวณิก
วันนี้ (19 มิถุนายน) เพจเฟซบุ๊ก ‘สุรพลน้อย โทณะวณิก’ แจ้งข่าวการเสียชีวิตของ สุรพล โทณะวณิก นักประพันธ์เพลง นักเขียน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ประพันธ์) ด้วยอายุ 98 ปี
 
 
โดยมีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมในวันที่ 19-25 มิถุนายน ที่ศาลา 4 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา กทม. และพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 มิถุนายน 2568
 
 
สำหรับ สุรพล โทณะวณิก มีผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมมากมาย โดยเฉพาะเพลง ‘ใครหนอ’ ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีผลงานประพันธ์เพลงร่วมกับ เอื้อ สุนทรสนาน ที่โด่งดังคือเพลง ‘ยามรัก’
 
 
สุรพลได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ประเภทคำร้องและทำนองชนะเลิศ จากเพลง ‘ใครหนอ’ ในปี 2507 และเพลง ‘เพชรตัดเพชร’ ในปี 2509 และในปี 2553 ยังได้รับรางวัลเกียรติยศผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีตจากโครงการเพชรในเพลง โดยกรมศิลปากรอีกด้วย
 
 
ทั้งนี้ ยังได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ประพันธ์) ประจำปี 2540
 

The post สิ้น ‘สุรพล โทณะวณิก’ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ประพันธ์เพลง ‘ใครหนอ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กทม. เดินหน้าเอาผิดรถบรรทุก 465 คัน ฝ่าฝืนเขตห้ามเข้าช่วงวิกฤตฝุ่น ย้ำปีหน้าขยายพื้นที่บังคับใช้ทั่วกรุง https://thestandard.co/bangkok-lez-2025/ Thu, 19 Jun 2025 08:26:52 +0000 https://thestandard.co/?p=1086770 bangkok-lez-2025

วันนี้ (19 มิถุนายน) พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ […]

The post กทม. เดินหน้าเอาผิดรถบรรทุก 465 คัน ฝ่าฝืนเขตห้ามเข้าช่วงวิกฤตฝุ่น ย้ำปีหน้าขยายพื้นที่บังคับใช้ทั่วกรุง appeared first on THE STANDARD.

]]>
bangkok-lez-2025

วันนี้ (19 มิถุนายน) พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะการบังคับใช้มาตรการ เขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) ในปี 2568

 

พรพรหมกล่าวว่า จากการประกาศใช้มาตรการ LEZ ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป (ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า EV, รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV, และรถที่ผ่านมาตรฐาน EURO 5-6) ที่ไม่ได้ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว เข้าในพื้นที่เขตมลพิษต่ำวงแหวนรัชดาภิเษก ในช่วงวิกฤตฝุ่นวันที่ 23-24 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา พบว่ามีรถบรรทุกที่ฝ่าฝืนเข้าพื้นที่บังคับใช้และมีการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วจำนวน 465 คดี (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2568) โดยพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 4 คดี

 

ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า มาตรการ LEZ ที่ กทม. นำมาใช้พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดจำนวนรถบรรทุกขนาด 6 ล้อขึ้นไปที่เข้าพื้นที่บังคับใช้ได้เฉลี่ยวันละ 404 คัน และส่งผลให้ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่บังคับใช้น้อยกว่าพื้นที่โดยรอบถึงร้อยละ 15.6

 

สำหรับปี 2569 กทม. มีแผนที่จะพิจารณาขยายพื้นที่บังคับใช้มาตรการ LEZ ให้ครอบคลุม 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการดังกล่าว รถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปที่ต้องการลงทะเบียนในบัญชีสีเขียว สามารถนำรถเข้ารับบริการบำรุงรักษา เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป 

 

จากนั้นให้นำหลักฐานการบำรุงรักษารถบรรทุกมาลงทะเบียนบัญชีสีเขียวทางออนไลน์ได้ในช่วง เดือนตุลาคม 2568 โดยจะมีการประกาศรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

 

ในระหว่างนี้ กรุงเทพมหานครได้เปิดให้ประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการ LEZ ในมิติต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ https://u.bangkok.co.th/LEZComment เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการพัฒนาเชิงนโยบายต่อไป

 

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2568 (ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568) มีรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ได้ลงทะเบียนในบัญชีสีเขียวแล้วรวมทั้งสิ้น 57,936 คัน โดยแบ่งเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ร้อยละ 44.8, รถบรรทุก 6 ล้อ ร้อยละ 21.5, รถโดยสารประจำทาง ร้อยละ 9.4 และรถพ่วงและรถบรรทุกขนาดต่าง ๆ รวมร้อยละ 24.3

The post กทม. เดินหน้าเอาผิดรถบรรทุก 465 คัน ฝ่าฝืนเขตห้ามเข้าช่วงวิกฤตฝุ่น ย้ำปีหน้าขยายพื้นที่บังคับใช้ทั่วกรุง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดหนังสือกระทรวงการต่างประเทศไทยเรียกทูตกัมพูชาประท้วง ปมคลิปเสียง https://thestandard.co/thailand-summons-cambodia-envoy/ Thu, 19 Jun 2025 07:46:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1086747 thailand-summons-cambodia-envoy

No. 1303/1419   The Ministry of Foreign Affairs pr […]

The post เปิดหนังสือกระทรวงการต่างประเทศไทยเรียกทูตกัมพูชาประท้วง ปมคลิปเสียง appeared first on THE STANDARD.

]]>
thailand-summons-cambodia-envoy

No. 1303/1419

 

The Ministry of Foreign Affairs presents its compliments to the Royal Embassy of Cambodia and has the honour to state the following:

“The Royal Thai Government is deeply disappointed that the private telephone conversation between the Thai Prime Minister and the senior figure from Cambodia was leaked to the media. Trust and respect between the two leaders are fundamental to good neighbourliness and conduct among states. Such actions contradict internationally accepted practices, and will severely affect ongoing efforts for both sides to resolve the problem in good faith.”

The Ministry of Foreign Affairs avails itself of this opportunity to renew to the Royal Embassy of Cambodia the assurances of its highest consideration.

 

(ลงตราประทับกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมลงนาม)
Ministry of Foreign Affairs,
Bangkok
18 June B.E. 2568

The post เปิดหนังสือกระทรวงการต่างประเทศไทยเรียกทูตกัมพูชาประท้วง ปมคลิปเสียง appeared first on THE STANDARD.

]]>
DSI ออกหมายเรียก 7 พยานคดีฮั้ว สว. ปี 67 ปมเงินทุนจัดตั้งผู้สมัคร https://thestandard.co/dsi-senate-election-2024-bribery-witnesses/ Thu, 19 Jun 2025 04:49:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1086645 DSI คดีฮั้ว สว.

วันนี้ (19 มิถุนายน) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เริ่มดำ […]

The post DSI ออกหมายเรียก 7 พยานคดีฮั้ว สว. ปี 67 ปมเงินทุนจัดตั้งผู้สมัคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
DSI คดีฮั้ว สว.

วันนี้ (19 มิถุนายน) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เริ่มดำเนินการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรกจำนวน 7 ราย เพื่อเข้าชี้แจงประเด็นการรับโอนเงินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับงบประมาณในการจัดตั้งผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยพยานทั้ง 7 รายนี้ไม่ใช่ สว. และถูกนัดหมายให้ทยอยเข้าให้ข้อมูลในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

 

ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐาน ฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือที่รู้จักกันในชื่อ คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ขบวนการฮั้ว สว.

 

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีนี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงพื้นที่จริงและจำลองเหตุการณ์ที่อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดการเลือก สว. ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567

 

DSI ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการสืบสวน โดยใช้ระบบ GEO-AI (Geospatial Technology ร่วมกับ AI) เพื่อสร้างแผนที่อัจฉริยะในการแสดงเหตุการณ์เลือก สว. ระดับประเทศ และพิจารณาพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ปกปิดวิธีการดำเนินการเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายในการเลือก สว. จำนวน 138+2 ราย นอกจากนี้ยังมีการใช้ AI ตรวจจับใบลงคะแนนที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น การกาหมายเลขชุดเรียงกันซ้ำๆ หลายฉบับ หรือการโหวตตามโพย

 

จุดสำคัญของการสืบสวนคือการตรวจสอบ เส้นทางการเงิน ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว โดยล่าสุดคณะพนักงานสอบสวนพบพฤติการณ์การรับโอนเงินในช่วงเลือกตั้งที่เชื่อมโยงกับงบประมาณในการจัดตั้งผู้สมัคร ซึ่งการกระทำดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ใน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

 

การออกหมายเรียกพยานในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย หลังจากที่ DSI ได้ประสานงานขอรายการเดินบัญชีจากธนาคารต่างๆ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง

The post DSI ออกหมายเรียก 7 พยานคดีฮั้ว สว. ปี 67 ปมเงินทุนจัดตั้งผู้สมัคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผบ.ทบ. แสดงจุดยืน ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำเวลานี้ ‘คนไทยต้องสามัคคี’ https://thestandard.co/army-chief-democracy-sovereignty-thailand-unity/ Thu, 19 Jun 2025 04:00:20 +0000 https://thestandard.co/?p=1086590

วันนี้ (19 มิถุนายน) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต. วินธั […]

The post ผบ.ทบ. แสดงจุดยืน ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำเวลานี้ ‘คนไทยต้องสามัคคี’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (19 มิถุนายน) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง 

 

พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ  ภายใต้กลไกที่มีอยู่ 

 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ ‘คนไทยต้องสามัคคี’ ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ

 

อ้างอิง: 

  • ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก

The post ผบ.ทบ. แสดงจุดยืน ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำเวลานี้ ‘คนไทยต้องสามัคคี’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดบทสนทนาคำต่อคำ คลิปเสียงหลุดนายกฯ แพทองธาร คุย ฮุน เซน https://thestandard.co/key-messages-paetongtarn-hun-sen/ Wed, 18 Jun 2025 14:24:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1086483

เปิดบทสนทนา: นายกฯ แพทองธาร – สมเด็จฮุน เซน (ผ่าน […]

The post เปิดบทสนทนาคำต่อคำ คลิปเสียงหลุดนายกฯ แพทองธาร คุย ฮุน เซน appeared first on THE STANDARD.

]]>

เปิดบทสนทนา: นายกฯ แพทองธาร – สมเด็จฮุน เซน
(ผ่านล่าม เคลียง ฮวด จากคลิปความยาว 17.06 นาที)

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ถามว่าเป็นยังไงบ้าง สุขภาพดีหรือเปล่า

 

สมเด็จฮุน เซน: สุขภาพแข็งแรงดี

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: วันนี้ได้คุยเรื่องชายแดน ก็เข้าใจตรงกันว่าทั้งท่านฮุน เซน ทั้งอิ๊ง ก็อยากให้ทั้งสองประเทศสงบสุขค่ะ ไม่อยากให้ Uncle ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าพอไปฟังฝั่งตรงข้ามอย่างพวกแม่ทัพภาค 2 อย่างนี้ค่ะ เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้นเสร็จ ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจ หรือโกรธ

 

เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ เพราะตอนนี้ทางนั้นเขาอยากจะดูเท่ เขาก็จะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ แต่ว่าจริงๆ ที่เราต้องการเนี่ย คือต้องการความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนค่ะ ให้ท่านฮุน เซนเห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนนี้คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกที่เขมรหมดแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ แล้วถ้าท่านอยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้

 

สมเด็จฮุน เซน: ขั้นตอนที่ 1 อยากให้ชายแดนเปิดปกติเหมือนก่อนเกิดเหตุ

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: โอเคค่ะ ตรงกัน

 

สมเด็จฮุน เซน: จริงๆ เหตุการณ์เรื่องปิดชายแดน ฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อน ฉะนั้นถ้าฝ่ายไทยเป็นคนถอนคำสั่ง กัมพูชาก็ตามเลย เปิดปกติ เพราะว่าเราก็มีความผิดหวังเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องการมีปัญหาที่ช่องบก เราก็พยายามตามที่ฝ่ายไทยต้องการ เราก็บอกว่าโอเค เราก็ทำตามนะ แต่ขอให้สถานการณ์เข้าภาวะปกติ เราถอนแล้ว เราปรับกำลังแล้ว แต่ฝั่งไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก

 

ฉะนั้นอยากให้ท่านนายกช่วยให้ฝั่งไทยถอนเรื่องการปิดด่าน ถ้าถอนปุ๊บฝ่ายกัมพูชาจะถอนเรื่องสินค้าเกษตรนำเข้า อะไรทุกอย่างก็ถอน

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: คือตอนนี้อะค่ะ รัฐบาลโดนโจมตีอย่างมากนะคะ เพราะตอนที่ท่านสมเด็จออกมาพูด กับท่านฮุน มาเนต ที่บอกว่าจะตัดน้ำตัดไฟอะไรอย่างนี้ค่ะ คืออันนั้นต้องขอโทษด้วย เพราะจริงๆ ต่างประเทศเขาแค่รายงานขั้นตอนว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ต่อไป ประเทศไทยจะทำยังไงๆ คือเหมือนอธิบายขั้นตอนให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าจะทำ แต่ตอนนี้เหมือนกับเริ่มตัดหนังตัดละครทำทุกอย่างหมดแล้วเนี่ย จริงๆ ถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่ายค่ะ เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่าจะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้ เหมือนว่าจะเอาเป็นอิ๊ง กับฮุน มาเนต ก็ได้ ยังไงก็ได้ เหมือนกับว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วก็ทั้งสองฝ่ายเนี่ยอยากให้กลับมาเป็นเหตุการณ์ปกติ แบบนี้ค่ะ

 

ล่าม (ถามขึ้นว่า): นายกฯ อิ๊งอยากให้โพสต์ใช่ไหม ให้นายกฯ (กัมพูชา) โพสต์

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ใช่ จะโพสต์หรือจะยังไงก็ได้ ให้ท่านฮุน เซน แนะนำก็ได้ค่ะ แต่เหมือนกับว่ามันต้องเป็นการตกลงร่วมกันค่ะพี่ฮวด เพราะว่าตอนนี้อิ๊งกำลังโดนหนักมากเลยค่ะ

 

สมเด็จฮุน เซน: จริงๆ ท่านเนี่ยเป็นคนที่อยากได้เรื่องเสถียรภาพมากท่านนายกฯ แต่ว่าทหารเนี่ยมันมาปิดด่านก่อน อะไรก่อน มันเริ่มต้นก่อน กดดันก่อน ฉะนั้นต้องคุยกับทหาร พร้อมไหมเรื่องการเปิดด่าน

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: พร้อมค่ะ

 

ล่าม: ทางนี้ตามหมด ทางนี้ตามหมดเลย

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: คือเราเปิดให้อยู่แล้วพี่ฮวด แต่มันต้องเป็นการบอกว่าเราตกลงร่วมกัน ว่าเราเปิดไงพี่ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น พออิ๊งบอกว่า ยอมๆๆ ยอมหมด เดี๋ยวอิ๊งก็คือจะโดน เพราะตอนนี้มันเลยมาถึงเรื่องก่อนด่านแล้วอะค่ะ

 

สมเด็จฮุน เซน: ท่านนายกฯ อิ๊ง ไม่อยากมีเจรจาเรื่องปิดด่านเพราะว่าทหารมันเริ่มก่อน ทั้งๆ ที่มาหลอกเรา ให้เราปรับกำลัง ปรับกำลังแล้วบอกว่าสถานการณ์ต้องเข้าปกติปุ๊บตอนที่ปรับกำลังที่ช่องบก คุยกันเรียบร้อย บอกว่าถ้าปรับตรงนี้เสร็จเรียบร้อยนะทุกอย่างต้องจบ ทหาร จบครับ ถ้าไม่จบปิดด่านก่อน อันนี้เหมือนตบหน้า อันนี้ขอให้ท่านนายกฯ พิจารณาด้วยเรื่องนี้

 

ล่าม (แปลต่อ): เพราะว่าท่าน (สมเด็จฮุน เซน) เป็นลูกผู้ชาย ท่านคำไหนคำนั้น เพราะว่าฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มต้นก่อนและหลอกเรา แล้วก็ทางกัมพูชาเขาก็โดนหนักเหมือนกัน เราก็มีมวลชน เราก็โดนหนักเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าฝ่ายไทยเริ่มแล้ว ไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทุกอย่างก็เข้าปกติเลย หลานที่รัก อาบอกได้เลย ถ้าเราไม่มีคำสัญญาเรื่องปรับกำลังแล้ว ทุกอย่างปกติ แต่ว่าทหารไทยไม่ยอมเปิดด่าน ทางนี้ก็มีการห้ามเรื่องการส่งออกเกษตรทั่วชายแดนเลยเพื่อกดดันทหาร

 

สมเด็จฮุน เซน: เพราะว่าสถานการณ์เหมือนที่รายงานให้ท่านนายกฯ ทราบว่า ตอนปรับกำลังที่ช่องบกเนี่ย ก็ตกลงกันแล้วว่าจะจบกัน แต่ว่าอยู่ดีๆ ทหารไทยมาปิดด่าน ฉะนั้นให้กัมพูชาไปเจรจาเปิดด่านดูแล้วไม่สวย ไม่สมควรอย่างยิ่ง ต้องทหารไทยเริ่มก่อน ถ้าเริ่มแล้วเรื่องนี้ก็ตามหลังไม่เกิน 5 ชั่วโมงทุกอย่างปกติ ท่านสมเด็จลูกผู้ชาย

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: เดี๋ยวจะลองคุยกับทางกลาโหมดูค่ะ แต่ว่าจริงๆ แล้วเนี่ย ตอนที่คุยพี่ฮวดลองพูดด้วยแล้วกันว่าจริงๆ แล้วอะ ท่านฮุน เซน อยากได้อะไรก็ให้บอก จะได้คุยกัน ได้ตกลงกันได้ค่ะ เพราะว่าบางทีที่ท่านโพสต์เฟซบุ๊กออกมา

 

คืออิ๊งอะ ตอนนี้ก็คือรัฐบาลสั่นคลอนที่สุดแล้วค่ะ ตั้งแต่อิ๊งเป็นนายกฯ มา ก็คือเรื่องกัมพูชานี่แหละ ซึ่งอิ๊งอะ ไม่ออกมาตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะอิ๊งก็รักและเคารพท่าน เพราะฉะนั้นเนี่ย จริงๆ แล้วท่านจะเอาอะไรจริงๆ ให้บอกอิ๊งได้เลย ยกหูบอกก็ได้ อันไหนไม่เป็นข่าว ก็คือไม่เป็นข่าว อันนั้นที่หลุดไปมันหลุดเพราะสื่อ ไม่ได้คุยกับอิ๊งแค่ 2 คน มันคุยกันเป็นกลุ่มนะพี่ มันเลยหลุดน่ะ แต่ถ้าคุยกับอิ๊ง 2 คน มันไม่มีหลุดอยู่แล้ว

 

ทีนี้เนี่ยก็ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ แต่นี่อิ๊งจะไปคุยกับกลาโหมเนอะ เพราะว่าอิ๊งรู้ว่า ถ้าสมมติว่า เขาพูดว่าของไทยปิดก่อนหรืออะไรอย่างนี้ เดี๋ยวเราก็จะไปคุยกับกลาโหมว่า ว่ายังไง แต่ถ้ามันเวิร์กกันก็เดี๋ยวจะส่งบอกพี่ฮวดว่ามันเรียบร้อยไหมนะคะ เพราะจริงๆ เนี่ย คนมันไม่หวังดีกับเราทั้งคู่ มันก็ดูแบบเหมือนเรากับเขาทะเลาะกันเองอะ จริงๆ แล้วคนรุ่นใหม่มันต้องไม่มีสงครามอะพี่ คนรุ่นใหม่มีสงครามไป มันก็เสียอะ ทั้งฮุน มาเนต ด้วยก็เป็นคนรุ่นใหม่เนอะ

 

สมเด็จฮุน เซน: ท่านนายกฯ ท่านบอกว่าเรื่องการโพสต์เนี่ย ท่านก็แค่ชี้แจงให้มวลชนทางนี้ทราบก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปกระทบกับไทยอะไรมาก แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ถ้าหากว่าท่านนายกฯ แก้เรื่องเปิดด่านให้ปกติเนี่ย ท่านตกลง ท่านไม่มีอะไรอีกแล้ว ก็จบ

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ได้ค่ะ เดี๋ยวอิ๊งลองไปคุยกลาโหมดู แล้วก็ขอคอนเฟิร์มกลับมา เพราะเดี๋ยวจะต้องคุยกับกองทัพก่อน แต่ก็เดี๋ยวเราจะสั่งไปเลยค่ะพี่ แต่ว่าอิ๊งรอให้มัน 100% แล้วค่อยแจ้งท่านกลับมาดีกว่า เพราะไม่อยากจะยังไม่ 100 แล้วบอกท่านก่อน แต่ว่าจริงๆ ก็จัดการได้ค่ะพี่

 

ล่าม (ถาม): ท่านนายกฯ มีอะไรอีกไหม

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ไม่มีแล้วค่ะพี่ ก็ประมาณนี้เนอะ พี่ว่ามีอะไรอีกป่ะประเด็น ไม่มี ขอบคุณท่านฮุน เซน มาก

 

สมเด็จฮุน เซน: ขอยืนยันอีกทีว่า ท่านนายกฯ ครับ เรื่องด่านเราไม่ควรไปเจรจา เพราะว่าฝ่ายไทยเนี่ยเป็นคนที่ปิด แล้วหลอกเราให้ปรับกำลัง หลอกเราให้ปรับกำลังว่าถ้าปรับแล้วตรงนี้จบ คือจบทุกอย่าง เข้าภาวะปกติ แต่ว่าอยู่ดีๆ ทหารไทยมาปิดด่าน ฉะนั้นทหารไทยก็ต้องยกเลิกการปิดด่าน ถ้าปิดปั๊บเขมรก็ตามหลังเลย ก็ตามที่เดิม ทุกอย่างก็เข้าภาวะปกติไม่มีอะไรแล้ว

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ค่ะ ค่ะพี่ฮวด โอเคค่ะ ได้ค่ะ แล้วก็เดี๋ยวยังไงอิ๊งจะรีบแจ้งทางพี่ฮวดกลับไปนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง

 

ล่าม (แปลช่วงท้าย): ท่านสมเด็จรอท่านนายกฯ แล้วแต่ท่าน เรียบร้อยเมื่อไร

 

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณท่านสมเด็จด้วยค่ะ

 

ภาพ: Reuters / Athit Perawongmetha / File Photo, Reuters / Cindy Liu / File Photo

The post เปิดบทสนทนาคำต่อคำ คลิปเสียงหลุดนายกฯ แพทองธาร คุย ฮุน เซน appeared first on THE STANDARD.

]]>
“ไม่อยากกลับบ้าน” เสียงสะท้อนจากแรงงานกัมพูชาในไทย แม้สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด https://thestandard.co/cambodian-workers-shun-return-home/ Wed, 18 Jun 2025 13:00:30 +0000 https://thestandard.co/?p=1086462

เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้วที่ความขัดแย้งบริเวณชายแดนช่อง […]

The post “ไม่อยากกลับบ้าน” เสียงสะท้อนจากแรงงานกัมพูชาในไทย แม้สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด appeared first on THE STANDARD.

]]>

เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้วที่ความขัดแย้งบริเวณชายแดนช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่มีท่าทีจะคลี่คลาย

 

วันนี้ (18 มิถุนายน) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจและพูดคุยกับกลุ่ม แรงงานกัมพูชา ในย่านสะพานควาย กรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ความเป็นอยู่และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขา

 

โดยได้สัมภาษณ์แรงงาน 9 คน ซึ่งทุกคนต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “ไม่อยากกลับบ้าน”

 

จากการพูดคุย พบว่าแรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่ได้เข้ามาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลานาน 10-19 ปี พวกเขามีความผูกพันกับประเทศไทย ทั้งเรื่องงาน รายได้ และการสร้างครอบครัวใหม่ที่นี่

 

แรงงานหลายคนให้เหตุผลตรงกันว่า หากกลับไปกัมพูชา พวกเขาจะต้องไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งหมายถึงการขาดรายได้ที่มั่นคงและโอกาสในการทำงาน

 

แม้จะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่แรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกกับสถานการณ์ชายแดนมากนัก พวกเขามองว่าเรื่องความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องของแรงงานที่มาทำงานสุจริตอย่างพวกเขา แรงงานบางคนติดตามข่าวสารสถานการณ์ชายแดนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังคงรอดูท่าทีและสถานการณ์ต่อไป

 

แรงงานกัมพูชาเหล่านี้ต่างมีความผูกพันกับประเทศไทยและมองเห็นโอกาสในการทำงานและสร้างชีวิตที่ดีกว่าที่นี่ แม้จะมีสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน แต่ความต้องการที่จะอยู่ที่ประเทศไทยและทำงานหาเลี้ยงครอบครัวยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา

 

‘โม่’ อยู่ไทยมา 5-6 ปี ปัจจุบันอายุ 28 ปี “จากใจผมตรงๆ ถ้าสถานการณ์ไม่หนักมากก็ยังอยากอยู่ที่ไทย ผมมีแฟนเป็นคนไทยใหญ่ เราเจอกันที่นี่ มีลูกคนหนึ่ง ถ้ากลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เรามาอยู่นี่ตั้งแต่เด็กแล้ว”

 

‘โอ’ อยู่ไทยมา 10 ปี “ผมไม่อยากกลับ ผมไม่กลับครับ ผมสบายใจ ผมชอบอยู่ไทยมากกว่า ถ้าจะต้องได้กลับจริงๆ ผมรู้สึกเสียใจ เสียโอกาส ผมมีลูกกำลังใกล้จะคลอด”

 

‘ฟ้า’ อยู่ไทยมา 12 ปี “พี่ไม่อยากกลับไปเริ่มต้นใหม่ พี่มองว่าถ้าเราไม่สมัครใจกลับ เราก็ไม่กลับ เขาจะมาบังคับเราไม่ได้ เราไม่ได้ทำอะไรผิด เรื่องชายแดนไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา พี่ก็ทำงานทำการปกติไม่ได้ไปก่อเหตุอะไร ไม่เบียดเบียนใคร”

 

‘สุวัน’ อยู่ไทยมา 19 ปี ตั้งแต่อายุ 17 ปี ปัจจุบันอายุ 28 ปี “พี่ไม่อยากกลับ เพราะเราอยากอยู่ทำงานหาเงิน อยู่ไทยตื่นเช้ามาทำงานได้เงินแล้ว แต่อยู่ที่โน่นเช้ามาเสียเงินอย่างเดียว เพราะต้องไปหาเริ่มต้นใหม่ พี่เลี้ยงลูกด้วย ทำงานส่งเงินกลับบ้าน ลูกก็ยังเรียนอยู่ทั้งสองคน ถ้าเขาไม่ไล่เราก็ยังอยู่ที่ไทยเช่นเดิม”

 

‘รอดทา’ อยู่ไทยมา 10 กว่าปี ปัจจุบันอายุ 43 ปี “ถ้าถามความคิดของผม อยากอยู่ไทยต่อ ผมอยู่ดีกินดีมีค่าแรงค่าใช้จ่ายพออยู่ได้มีเลี้ยงครอบครัว ผมเป็นคนบ้านนอกกลับไปก็ต้องทำไร่ทำนา ผมอยากอยู่ทำงานหาเงินไม่เบียดเบียนใคร มีลูกน้อยที่บ้านสองคนที่ยังรออยู่”

 

‘พล’ อยู่ไทยมา 2-3 ปี ปัจจุบันอายุ 28 ปี “ผมติดตามสถานการณ์อยู่ ช่วงแรกๆ ก็อยากกลับ แต่พอคิดไปคิดมา ไม่อยากกลับแล้ว อยู่ที่นี่ยังมีงานทำ กลับไปที่โน่นผมไม่รู้ว่าผมจะต้องทำอะไร แต่ถ้าเขาให้กลับผมก็ต้องกลับไป”

 

‘กอล์ฟ’ อยู่ไทยมา 12 ปี ปัจจุบันอายุ 35 ปี “เรื่องของเรื่องผมไม่อะไรแต่ผมว่าเขาตื่นตระหนกกันไปเองอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไร ผมมีครอบครัวอยู่ที่นี่แล้ว ถ้ากลับไปที่โน่นผมก็ต้องเริ่มต้นแต่ต้นใหม่ อยู่ที่นี่ผมมีตัวตนแล้วผมไม่อยากกลับไป ผมคนทำมาหากิน”

 

‘เดิม’ อยู่ไทยมา 15 ปี ปัจจุบันอายุ 25 ปี “พี่ไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องนี้เท่าไหร่ ถ้าถามความรู้สึกพี่นะพี่ไม่อยากกลับไปแต่ถ้าจะได้กลับพี่ก็รู้สึกเสียใจ อยู่ที่เจ้าของประเทศว่าเขาเต็มใจให้เราอยู่ไหม”

 

‘ยนต์’ อยู่ไทยมาเกือบ 10 ปี “ผมก็ยังอยู่ได้ เถ้าแก่ยังดีอยู่ ยังให้โอกาส ผู้คนที่เขากลับเพราะญาติพี่น้องทางโน้นก็เป็นห่วงเรียกกันกลับบ้าน ผมยังรอดูสถานการณ์ไปก่อน ถ้าถามผม ผมชอบที่จะอยู่ไทยมากกว่า”

The post “ไม่อยากกลับบ้าน” เสียงสะท้อนจากแรงงานกัมพูชาในไทย แม้สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรมควบคุมมลพิษเร่งตรวจสอบสารหนู จากตะกอนดินแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก https://thestandard.co/arsenic-contamination-mekok-river-chiangrai/ Wed, 18 Jun 2025 06:42:53 +0000 https://thestandard.co/?p=1086285 เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมเก็บตัวอย่างตะกอนดินจากแม่น้ำกก จ.เชียงราย เพื่อตรวจหาสารหนูและโลหะหนัก

วันนี้ (18 มิถุนายน) ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมม […]

The post กรมควบคุมมลพิษเร่งตรวจสอบสารหนู จากตะกอนดินแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมเก็บตัวอย่างตะกอนดินจากแม่น้ำกก จ.เชียงราย เพื่อตรวจหาสารหนูและโลหะหนัก

วันนี้ (18 มิถุนายน) ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ตามที่นักวิชาการกังวลว่าสารหนูจะแพร่กระจาย เนื่องจากขณะนี้มีโครงการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฤดูน้ำหลาก โดยการขุดลอกลำน้ำขึ้นมากองบนฝั่ง ทำให้เกิดข้อกังวลของประชาชนว่าอาจจะมีการปนเปื้อนของสารหนูและโลหะหนักอื่นๆ เมื่อกองดินเหล่านี้อยู่บนฝั่ง อาจมีฝุ่นละอองโลหะหนักฟุ้งกระจาย และเมื่อฝนตกก็อาจชะล้างสารปนเปื้อนลงสู่เรือกสวนไร่นาของประชาชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

 

ปรีญาพรกล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) เก็บตัวอย่างตะกอนดินที่มีการได้ขุดน้ำมากองบนฝั่ง เพื่อวิเคราะห์สารหนูและโลหะอื่นๆ ในตะกอนดินดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะรีบแจ้งผลให้หน่วยงานและพี่น้องประชาชนทราบ 

 

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการการปนเปื้อนของสารโลหะหนักในพื้นที่แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดย คพ. ได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ 

 

  1. ศูนย์การแพทย์แผนไทย อบต.ท่าดอน (สะพานท่าตอน) อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
  2. สวนสาธารณะน้ำกก ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (ติดสะพานแม่ฟ้าหลวง) อ.เมือง จ.เชียงราย
  3. ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย 
  4. สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 

 

โดยศูนย์ทั้ง 4 แห่งจะทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นจุดให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเรื่องการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตร พร้อมเปิดรับเรื่องร้องเรียนและข้อกังวลจากชุมชนในพื้นที่ 

 

นอกจากนี้ คพ. ยังได้จัดทำชุดความรู้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องผ่านเสียงตามสายและช่องทางสื่อสารในพื้นที่และผ่านทางช่องทางการสื่อสารของ คพ. เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม

 

เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมเก็บตัวอย่างตะกอนดินจากแม่น้ำกก จ.เชียงราย เพื่อตรวจหาสารหนูและโลหะหนัก

The post กรมควบคุมมลพิษเร่งตรวจสอบสารหนู จากตะกอนดินแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจไซเบอร์แจงปม ‘มินนี่’ เครือข่ายเว็บพนัน ถูกปล่อยตัว เหตุสำนวนไม่สมบูรณ์ เร่งสอบเพิ่ม 10 ประเด็น พร้อมเรียกตัวส่งอัยการอีกครั้ง https://thestandard.co/minnie-bail-cybercrime/ Wed, 18 Jun 2025 05:53:18 +0000 https://thestandard.co/?p=1086274 minnie-bail-cybercrime

จากกรณีที่ ธันยนันท์ หรือมินนี่ และพวกรวม 10 คน ผู้ต้อง […]

The post ตำรวจไซเบอร์แจงปม ‘มินนี่’ เครือข่ายเว็บพนัน ถูกปล่อยตัว เหตุสำนวนไม่สมบูรณ์ เร่งสอบเพิ่ม 10 ประเด็น พร้อมเรียกตัวส่งอัยการอีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
minnie-bail-cybercrime

จากกรณีที่ ธันยนันท์ หรือมินนี่ และพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันและฟอกเงิน ถูกปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ไม่สามารถส่งสำนวนเพิ่มเติมได้ทัน ทำให้ขาดฝากขัง 

 

วันนี้ (18 มิถุนายน) พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการ สอท.1 ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ. ปรีดา คงจัด รองผู้บังคับการ สอท.1 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีจำนวน 9 แฟ้มเอกสารรวมกว่า 1,800 หน้า ซึ่งที่ประชุมได้ลงความเห็นว่าสำนวนมีความครบถ้วนสมบูรณ์ และสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ โดยพนักงานอัยการได้รับสำนวนในวันเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียง 10 วัน คือในวันที่ 26 พฤษภาคม พนักงานอัยการได้ส่งสำนวนคืนพร้อมสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมอีก 10 ประเด็น ซึ่งในขณะนั้นเหลือเวลาเพียง 2 วันก่อนครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 7 ในวันที่ 28 พฤษภาคม ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมได้ทัน ส่งผลให้ศาลต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาเนื่องจากครบกำหนดฝากขัง 

 

พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ระบุว่าได้รวบรวมพนักงานสอบสวนมาดำเนินการสอบสวนในทั้ง 10 ประเด็นเพิ่มเติม และใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว โดยในวันนี้ได้มอบหมายให้รองผู้บังคับการ สอท.1 ผู้กำกับการสอบสวน และทีมพนักงานสอบสวน เข้าพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เพื่อหารือเพิ่มเติมว่าการดำเนินการของ สอท.1 มีความครบถ้วนหรือไม่ 

 

หากครบถ้วนก็จะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ และจะนัดหมายผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้อัยการอีกครั้ง หากไม่มาก็จะออกหมายจับยืนยันว่าการดำเนินการยังคงอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย และพนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนอย่างรอบคอบ ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

 

เมื่อถามถึงความสำคัญของ 10 ประเด็นที่ถูกตีกลับมาให้สอบเพิ่มเติม พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องในสำนวนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ใน 10 ประเด็นนั้นมีประเด็นย่อยแตกออกไปอีก ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร จึงไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายใน 2 วัน ทำให้ศาลต้องปล่อยตัว

 

สำหรับกระแสข่าวว่าเป็นการดึงเวลาเพื่อให้ มินนี่ ถูกปล่อยตัว พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ยืนยันว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ มีการเรียกระดมกำลังพนักงานสอบสวนและเร่งรัดสำนวนจนใกล้จะเสร็จแล้ว โดยหลังจากสำนวนเสร็จสิ้น จะเรียกผู้ต้องหาส่งอัยการพร้อมกัน และยืนยันว่าจะไม่ขาดอายุความแน่นอน เพราะยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

 

ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกปล่อยตัวไปนั้น พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศ และได้ประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไว้แล้ว หากพบว่ากลับไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์อีกครั้ง ก็จะดำเนินการจับกุมทันที พร้อมยืนยันว่าคดีนี้จะสามารถส่งสำนวนให้พนักงานอัยการได้ภายใน 10 วัน หรืออาจจะเร็วกว่านั้น

The post ตำรวจไซเบอร์แจงปม ‘มินนี่’ เครือข่ายเว็บพนัน ถูกปล่อยตัว เหตุสำนวนไม่สมบูรณ์ เร่งสอบเพิ่ม 10 ประเด็น พร้อมเรียกตัวส่งอัยการอีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ธนกฤตยื่นดำเนินคดี 7 แพทย์ สวมชื่อคนตายรับยาเสพติด-วัตถุออกฤทธิ์ พบเบาะแสในต่างจังหวัด เตรียมขยายผล https://thestandard.co/fake-prescription-case/ Wed, 18 Jun 2025 04:35:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1086224 fake-prescription-case

วันนี้ (18 มิถุนายน) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู […]

The post ธนกฤตยื่นดำเนินคดี 7 แพทย์ สวมชื่อคนตายรับยาเสพติด-วัตถุออกฤทธิ์ พบเบาะแสในต่างจังหวัด เตรียมขยายผล appeared first on THE STANDARD.

]]>
fake-prescription-case

วันนี้ (18 มิถุนายน) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเภสัชกร ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต. โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์รายหนึ่ง ที่ลักลอบจำหน่ายสารเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.หญิง (พญ.) อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์

 

นายกองตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมกับหมอแอร์ และแพทย์อีก 6 ราย ที่สั่งซื้อสารเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยใช้ชื่อผู้เสียชีวิต 370 ราย จากทั้งหมด 3,909 ราย จากการตรวจสอบคลินิก 13 แห่ง พบว่ามี 9 คลินิกที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อยาดังกล่าว และมีแพทย์ที่สั่งซื้อรวม 7 ราย ซึ่งรวมถึงหมอแอร์ด้วย โดยได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 1 ตรวจสอบ เนื่องจากเข้าข่ายความผิดฐาน แจ้งความเท็จและใช้เอกสารเท็จต่อเจ้าพนักงาน

 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น แพทย์ทั้ง 6 รายที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม ไม่ได้สังกัดโรงพยาบาลรัฐ แต่ทำงานอยู่ในคลินิกที่สั่งยาให้กับหมอแอร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดว่ามีการรับยาจริงหรือเป็นการสวมสิทธิ์

 

นอกจากนี้ นายกองตรี ธนกฤต ระบุว่า อย. มีการตรวจสอบการสั่งซื้อยาที่ผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ โดยจะมีการเรียกตรวจสอบรายชื่อปีละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นที่มาของการตรวจพบความผิดปกติในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีการตรวจพบพฤติการณ์การกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้ในต่างจังหวัดอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางกฎหมาย โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่กำลังจะเปิดเผยในอนาคตจะสร้างความประหลาดใจอย่างแน่นอน

 

ด้าน พล.ต.ต. โชคชัย กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องจาก อย. แล้ว เจ้าหน้าที่จะพิจารณารายละเอียดของข้อร้องเรียนทั้งหมด และกำหนดแนวทางในการดำเนินการต่อไป โดยจะรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทราบในลำดับต่อไป ทั้งนี้ เบื้องต้นจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาอย่างละเอียดก่อน

The post ธนกฤตยื่นดำเนินคดี 7 แพทย์ สวมชื่อคนตายรับยาเสพติด-วัตถุออกฤทธิ์ พบเบาะแสในต่างจังหวัด เตรียมขยายผล appeared first on THE STANDARD.

]]>