LGBTQIA+ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 14 Jun 2025 03:47:15 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สถานทูตไทยในฟินแลนด์ ร่วมส่งเสริมคุณค่าความหลากหลายทางเพศ-ความเท่าเทียม ช่วง Pride Month https://thestandard.co/thai-embassy-pride-month/ Sat, 14 Jun 2025 03:46:17 +0000 https://thestandard.co/?p=1084954 เอกอัครราชทูตไทยและตัวแทนสถานทูตร่วมขบวน Pride ที่ Tallinn, เอสโตเนีย ปี 2025

สถานเอกอัครราชทูตไทยหลายแห่งทั่วโลก และกระทรวงการต่างปร […]

The post สถานทูตไทยในฟินแลนด์ ร่วมส่งเสริมคุณค่าความหลากหลายทางเพศ-ความเท่าเทียม ช่วง Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>
เอกอัครราชทูตไทยและตัวแทนสถานทูตร่วมขบวน Pride ที่ Tallinn, เอสโตเนีย ปี 2025

สถานเอกอัครราชทูตไทยหลายแห่งทั่วโลก และกระทรวงการต่างประเทศ ได้สนับสนุนการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมในช่วงเดือน Pride Month โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูตไทยในฟินแลนด์ที่ร่วมเฉลิมฉลองความแตกต่างหลากหลายอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) และเทศกาล Pride ประจำปีของประเทศเอสโตเนียและฟินแลนด์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ มีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในด้านการยอมรับความหลากหลายทางเพศและหลักความเท่าเทียม โดย วรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม LGBTQIA+ มาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศไทยประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา นับเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ ของประเทศไทยในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนอย่างเสมอภาค

 

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ส่งผู้แทนเข้าร่วมงาน Tallinn Pride 2025 ณ ใจกลางกรุงทาลลินน์ เอสโตเนีย ซึ่งถือเป็นปีแรกของการเข้าร่วมงานดังกล่าวของประเทศไทย โดยงาน Tallinn Pride เป็นเทศกาล Pride ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศบอลติก (Baltic States) และเป็นเวทีสำคัญของการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพของชุมชน LGBTQIA+ ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก 

 

ในขบวนพาเหรด Diplomats for Equality ในงาน Tallinn Pride 2025 ปีนี้ ได้รับเกียรติจาก มาร์กุส ซาห์คนา (Margus Tsahkna) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเอสโตเนีย และ มินนา-ลีนา ลินด์ (Minna-Liina Lind) รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายกิจการโลก ตลอดจนเอกอัครราชทูตจากประเทศสำคัญในยุโรปและอเมริกาเหนือเข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยประเทศไทยเป็นประเทศเดียวจากภูมิภาคเอเชียที่เข้าร่วมในกิจกรรมระดับนานาชาติครั้งนี้ สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของไทยในเรื่องการเชิดชูคุณค่าความหลากหลายทางเพศ ท่ามกลางกระแสความผันผวนของทิศทางนโยบายด้านความหลากหลายทางเพศของประเทศมหาอำนาจทั้งในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปที่มักเปลี่ยนแปลงไปตามแนวคิดของผู้นำฯ

 

โดยเอสโตเนียได้ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘ประเทศต้นแบบ’ ของยุโรปตะวันออกด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ขณะที่ฟินแลนด์ประกาศใช้กฎหมายนี้ตั้งแต่ปี 2017 

 

เอกอัครราชทูตไทยและตัวแทนสถานทูตร่วมขบวน Pride ที่ Tallinn, เอสโตเนีย ปี 2025 เอกอัครราชทูตไทยและตัวแทนสถานทูตร่วมขบวน Pride ที่ Tallinn, เอสโตเนีย ปี 2025

 

ภาพ: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

อ้างอิง: 

  • สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

The post สถานทูตไทยในฟินแลนด์ ร่วมส่งเสริมคุณค่าความหลากหลายทางเพศ-ความเท่าเทียม ช่วง Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bangkok Pride Awards 2025 ปีแรกกระหึ่ม เปิดเวทีเชิดชูผู้ขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ https://thestandard.co/bangkok-pride-awards-2025/ Sun, 01 Jun 2025 02:50:37 +0000 https://thestandard.co/?p=1080862

ปลุกพลังความหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับงาน ‘Bangkok […]

The post Bangkok Pride Awards 2025 ปีแรกกระหึ่ม เปิดเวทีเชิดชูผู้ขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปลุกพลังความหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับงาน ‘Bangkok Pride Festival 2025’ เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดตัวเวทีเกียรติยศครั้งแรกของประเทศไทย ‘Bangkok Pride Awards 2025’ เพื่อยกย่องบุคคล กลุ่ม และองค์กรที่มีบทบาทในการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิมนุษยชน

 

ภายใต้ธีม ‘Born This Way’ งานบางกอกไพรด์ปีนี้ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง แต่คือการส่งสัญญาณสู่ระดับนานาชาติว่า ประเทศไทยพร้อมเป็นผู้นำด้านความเสมอภาคทางเพศในภูมิภาค โดย ‘Bangkok Pride Awards’ จะมอบรางวัลรวม 25 รางวัล ใน 11 สาขา ครอบคลุมทั้งธุรกิจ สื่อ วัฒนธรรม สังคม การเมือง ไปจนถึงวงการบันเทิงและ Drag Entertainment

 

งานนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม โดยจัดพิธีมอบรางวัลในวันนี้ (31 พฤษภาคม) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยบุคคลสำคัญในวงการนโยบายและวัฒนธรรม

 

หนึ่งในไฮไลต์ที่สะท้อนพลังของสังคมไทย คือยอดโหวตจากประชาชนกว่า 59 ล้านครั้ง ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่เปิดให้โหวตผ่านช่องทางออนไลน์และ SMS ระหว่างวันที่ 9-23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีบางรางวัลได้รับเสียงโหวตมากกว่า 18 ล้านครั้ง

 

“Bangkok Pride Awards 2025 ไม่ใช่แค่เวทีประกาศรางวัล แต่คือการสร้างวัฒนธรรมใหม่ของการให้คุณค่ากับคนทำงานเพื่อความเท่าเทียม” อรรณว์ ชุมาพร ผู้จัดงาน และประธานบริษัท นฤมิตไพรด์ กล่าว

 

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญ คือการจัดขบวน Pride Parade ในวันที่ 1 มิถุนายน โดยมี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเดินขบวน พร้อมมอบธง Pride ประจำจังหวัด ส่งสัญญาณเปิดเทศกาล Pride ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ

 

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีงาน ’DRAG BANGKOK Festival 2025‘ ที่รวมศิลปินแดร็กกว่า 500 คนจากทั่วประเทศและต่างประเทศ ตอกย้ำบทบาทของแดร็กในฐานะ Soft Power ที่ทรงพลัง ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย

 

การจัดงาน ’Bangkok Pride Festival 2025‘ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายนนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางความหลากหลายทางเพศแห่งเอเชีย และเป็นหมุดหมายสำคัญก่อนมุ่งสู่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok World Pride 2030

 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokpride.org และ Facebook: Bangkok Pride

 

The post Bangkok Pride Awards 2025 ปีแรกกระหึ่ม เปิดเวทีเชิดชูผู้ขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เซ็นทรัลเวิลด์จัดใหญ่ Pride Month ประกาศศักดา Global Pride Destination ดึง 500 ศิลปินเปิดรันเวย์กลางกรุง https://thestandard.co/centralworld-love-with-pride-2025/ Sun, 01 Jun 2025 02:31:23 +0000 https://thestandard.co/?p=1080836

เมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ร่วมก […]

The post เซ็นทรัลเวิลด์จัดใหญ่ Pride Month ประกาศศักดา Global Pride Destination ดึง 500 ศิลปินเปิดรันเวย์กลางกรุง appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา สร้างปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิใจ ด้วยการจัดงาน centralwOrld Love with Pride 2025 ฉลอง Pride Month อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำบทบาทในฐานะ The Pioneer of Equality พร้อมยกระดับประเทศไทยให้กลายเป็นหนึ่งใน Global Pride Destination ที่ทั่วโลกจับตามอง

 

งานนี้ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลก ได้แก่ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP), Muse by Metinee, House of HEALS และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเปิดพื้นที่เสรีกลางเมืองให้กับชาว LGBTQIA+ ได้ร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลาย ภายใต้แนวคิด ‘Unity of Community’ ที่สนับสนุนความเท่าเทียมในทุกมิติ ทั้งเพศ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และความสามารถ

 

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของวันนี้คือ Rainbow Runway ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ต้อนรับขบวนศิลปิน ดารา และอินฟลูเอ็นเซอร์กว่า 500 ชีวิต ที่ร่วมเดินโชว์สุดปัง พร้อมการแสดง Extravaganza Performance Show จาก House of HEALS ซึ่งขนทัพ Drag Queen ระดับตำนานมาอย่างคับคั่ง พร้อมด้วย ลูกเกด เมทินี และแขกรับเชิญพิเศษ อมิตา ทาทา ยัง

 

อีกหนึ่งช่วงเวลาสุดประทับใจ คือการปรากฏตัวของคู่จิ้นแห่งปี ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า ในลุค The Prism พร้อมโชว์ฟินาเล่กลางลานเซ็นทรัลเวิลด์ และสำหรับแฟนๆ โพก้าซัง ห้ามพลาด! กับงานเดี่ยวครั้งแรกของ POLCASAN ในกิจกรรม Bonchon x Polcasan ที่จะมีตลอดเดือนมิถุนายนนี้

 

เซ็นทรัลเวิลด์ยังเตรียมกิจกรรมเฉลิมฉลอง Pride Month ตลอดทั้งเดือน เติมเต็มบรรยากาศด้วยสีสันและพลังแห่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

 

และในวันพรุ่งนี้ (1 มิถุนายน) เตรียมพบกับมหกรรม Bangkok Pride Parade 2025 สุดยิ่งใหญ่ ภายใต้ธีม ‘Born This Way’ เพื่อเฉลิมฉลองการประกาศใช้จริงของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ขบวนพาเหรดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ Square A-B

 

The post เซ็นทรัลเวิลด์จัดใหญ่ Pride Month ประกาศศักดา Global Pride Destination ดึง 500 ศิลปินเปิดรันเวย์กลางกรุง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ LGBTQIA+ ประเทศไทย: จากไร้ตัวตน ไร้การยอมรับ สู่สมรสเท่าเทียม และขบวน PRIDE ในวันนี้ https://thestandard.co/lgbtq-history-thailand/ Wed, 28 May 2025 02:30:10 +0000 https://thestandard.co/?p=1078643

ธงสีรุ้งที่โบกสะบัดอยู่กลางถนนสายหลักพร้อมกับขบวนของกลุ […]

The post ย้อนรอยประวัติศาสตร์ LGBTQIA+ ประเทศไทย: จากไร้ตัวตน ไร้การยอมรับ สู่สมรสเท่าเทียม และขบวน PRIDE ในวันนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ธงสีรุ้งที่โบกสะบัดอยู่กลางถนนสายหลักพร้อมกับขบวนของกลุ่มคนมากมายในทุกๆ ปี คือสัญลักษณ์ความสำเร็จของการต่อสู้อย่างยาวนานของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIA+ ของประเทศไทย 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 คือวันที่ชาว LGBTQIA+ รวมถึงประเทศไทยได้รับ ‘ชัยชนะ’ เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง นั่นก็คือ วันที่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เป็นวันที่ ‘ความรัก’ ชนะทุกอุปสรรคทั้งในเชิงกฎหมาย สังคม และวัฒนธรรม

 

ย้อนรอย LGBTQIA+ ไทย จากไร้ตัวตนสู่สมรสเท่าเทียมและ Pride Parade

 

แต่อย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงวันที่ทุกเสียงมีความหมาย กลุ่ม LGBTQIA+ ในประเทศไทยต้องผ่านอะไรมาบ้าง?

 

ตัวตนที่ไร้ตัวตนของ LGBTQIA+ ในอดีต

 

‘กะเทย’ ‘ตุ๊ด’ หรือคำอย่าง ‘ประเทือง’ ที่ถูกทำให้เป็นเพลงฮิต สะท้อนอดีตที่ไม่สวยงามของกลุ่ม LGBTQIA+ แม้อดีต ประเทศไทยจะมีภาพเป็นประเทศพหุวัฒนธรรมและดูเปิดกว้าง แต่ทว่า ความรักของคนเพศเดียวกันเคยเป็นสิ่งที่ต้องหลบซ่อน ทั้งจากสายตาสังคม บทลงโทษทางกฎหมาย และการเหมารวมในสื่อบันเทิง

 

ในอดีตจริยธรรมทางศาสนาปิดกั้นเรื่องความหลากหลายทางเพศกว่าปัจจุบันมาก

ในอดีตจริยธรรมทางศาสนาปิดกั้นเรื่องความหลากหลายทางเพศกว่าปัจจุบันมาก

 

LGBTQIA+ ถูกมองผ่านเลนส์ของความตลกขบขัน ความเบี่ยงเบน หรือแม้แต่ความบกพร่องทางจิตใจ บริบทในศาสนาและบรรทัดฐานของรัฐไทยในอดีตของกลุ่มคนที่มีเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด เป็น ‘บาป’ หรือ ‘ผิดกฎหมายและจริยธรรม’

 

อำนาจต่อรองทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่ม

 

ปลายศตวรรษที่ 20 เริ่มมีสัญญาณที่ดีเริ่มขึ้น โดยปี 2499 ประเทศไทยได้ปรับปรุงกฎหมายอาญาฉบับใหม่ และยกเลิกบทลงโทษการรักร่วมเพศ ที่เคยมีมาแต่อดีต

 

กฎหมายในอดีตยังไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกันของกลุ่ม LGBTQIA+

กฎหมายในอดีตยังไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกันของกลุ่ม LGBTQIA+

 

ต่อมาสังคมไทยเริ่มเปิดพื้นที่ LGBTQIA+ ในวงกว้างมากขึ้น แม้ในเชิงสังคมจะยังไม่ยอมรับอย่างเต็มที่ แต่ก็เริ่มมีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างพลังและอำนาจต่อรองมากขึ้น พูดถึงสิทธิ และสร้างพื้นที่ของตัวเองในสื่อ นิตยสารสำหรับเกย์เริ่มตีพิมพ์ และมีหนังไทยที่เล่าเรื่องตัวละครเกย์อย่างจริงจัง

 

แรงเสียดทานที่ยังเหลือในพื้นที่สื่อ

 

กลุ่ม LGBTQIA+ มีพื้นที่สื่อมากขึ้นในหนังไทยอย่าง เพลงสุดท้าย (2528/2529) ละครเวที ฉันผู้ชายนะยะ (2530) ละครโทรทัศน์กระแสหลักหลายเรื่องที่มีบทตัวละครเกย์หรือสาวประเภทสอง เช่น น้ำตาลไหม้, ชายไม่จริงหญิงแท้, เมืองมายา ฯลฯ 

 

แม้หลายเรื่องจะยังใช้คาแรกเตอร์เพศหลากหลายเพื่อความตลก แต่ก็เป็นการเปิดพื้นที่ในสื่อกระแสหลักให้สังคมได้เห็นตัวตนของกลุ่ม LGBTQIA+ มากขึ้น

 

ย้อนรอย LGBTQIA+ ไทย จากไร้ตัวตนสู่สมรสเท่าเทียมและ Pride Parade

 

อย่างไรก็ตาม แรงเสียดทานจากสังคมยังมีหลงเหลือ เช่น หนังเรื่อง เกมส์ (2519) ก็เป็นการเล่าถึงความผิดหวังที่หญิงสาวพบว่าสามีเป็นเกย์ หรือการใช้สื่อในด้านลบกับกลุ่ม LGBTQIA+ เช่น คดีนายถั่วดำล่อลวงเด็กชาย และการเชื่อมโยงโรคเอดส์เข้ากับกลุ่มชายรักชาย

 

เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดจากการร่วมมือ

 

ภาพสังคมที่เปลี่ยนไปต่อกลุ่ม LGBTQIA+ เกิดจากการรวมพลังของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะสื่อบันเทิง ภาคประชาชน และนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนที่ทำงานอย่างต่อเนื่องมานานหลายทศวรรษ

 

ในด้านสื่อบันเทิง หนังไทยอย่าง สตรีเหล็ก (2543), Beautiful Boxer (2546) และ รักแห่งสยาม (2550) ได้จุดประกายการพูดคุยเรื่องความหลากหลายทางเพศในสังคมอย่างกว้างขวาง ช่วยให้คนไทยได้เข้าใจชีวิตของผู้ที่แตกต่างจากตนมากขึ้น

 

ภาพยนตร์ รักแห่งสยาม เปรียบเสมือนคลื่นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย

ภาพยนตร์ รักแห่งสยาม เปรียบเสมือนคลื่นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย

 

นั่นทำให้คนในวงการก็มีการ Come Out หรือออกมาเปิดเผยเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศมากขึ้น สร้างแรงกระเพื่อมต่อการยอมรับในสังคมไทยหลายกรณี เช่น ปอย ตรีชฎา (นางงามและนักแสดงสาวข้ามเพศ) ที่คว้าตำแหน่งนางงามระดับนานาชาติในปี 2547 และเป็นที่รักและชื่นชอบของคนทุกเพศ

 

ภาคประชาชนเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย ตั้งแต่การเรียกร้องสิทธิในการแต่งกายตามเพศสภาพในโรงเรียน การรณรงค์ไม่ให้ระบุสาวประเภทสองว่า ‘โรคจิตถาวร’ ในใบตรวจเลือกทหาร ไปจนถึงการผลักดัน พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นกฎหมายแรกที่ห้ามการเลือกปฏิบัติโดยเหตุแห่งเพศอย่างชัดเจน

 

‘สมรสเท่าเทียม’ เบ่งบานในประเทศไทย

 

กิจกรรมไพรด์พาเหรดมีส่วนอย่างยิ่งในการสร้างพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ให้กลุ่มหลากหลายทางเพศ ย้อนกลับไปปี 2542 กรุงเทพฯ เคยจัดขบวนพาเหรดเกย์ไพรด์ครั้งแรกๆ โดยความริเริ่มขององค์กรเอกชนและนักกิจกรรม ก่อนจะจัดต่อเนื่องทุกปีถึงราวปี 2549 

 

ทุกเพศทุกวัยทั้งไทยและเทศต่างฉลอง Pride Month อย่างชื่นมื่นที่ประเทศไทย

ทุกเพศทุกวัยทั้งไทยและเทศต่างฉลอง Pride Month อย่างชื่นมื่นที่ประเทศไทย

 

ต่อมาขบวนพาเหรดก็เริ่มกลับมาจัดในปี 2565 และต่อเนื่องถึงปี 2566 ในหลายจังหวัด มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายในงานมีการรณรงค์ โบกธงสีรุ้ง การแสดง และการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน สะท้อนการเปิดรับความหลากหลายทางเพศ ข้อเรียกร้องเรื่องสมรสเท่าเทียมก็เป็นประเด็นสำคัญในการจัดงาน

 

ย้อนรอย LGBTQIA+ ไทย จากไร้ตัวตนสู่สมรสเท่าเทียมและ Pride Parade

 

และในที่สุด ​​จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ก็มาถึง นั่นคือการรับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ถือเป็นผลของการเดินทางอันยาวนานกว่า 20 ปีของภาคประชาชน องค์กรสิทธิ และประชาชนผู้ร่วมลงชื่อมากกว่าแสนราย เพื่อผลักดันให้ความรักทุกรูปแบบได้รับการยอมรับในทางกฎหมาย

 

ซีรีส์วาย ผลลัพธ์สู่บรรทัดฐานใหม่ของสังคมไทย 

 

ประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงมาพร้อมกับบรรทัดฐานใหม่บนพื้นที่สื่อที่ขับเคลื่อนด้วย ‘ซีรีส์วาย’ หรือซีรีส์ที่ถ่ายทอดความรักของ LGBTQIA+ มากขึ้น

 

จากเนื้อหาที่เริ่มต้นเพียงเพื่อความบันเทิงและความฟินของกลุ่มแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม วันนี้ซีรีส์วายของไทยได้กลายเป็นสื่อกระแสหลักที่มีอิทธิพลอย่างสูงทั้งในประเทศและระดับโลก ความจิ้นไม่ใช่จุดขายหลักอีกต่อไป แต่คือ ‘การเล่าเรื่องของมนุษย์’ ผ่านความสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันอย่างจริงจัง ละเอียด และมีมิติที่หลากหลายมากขึ้น

 

ภาพ: Facebook ช่อง one31

 

ซีรีส์หลายเรื่องไม่เพียงแค่โด่งดังในหมู่แฟนคลับไทย แต่ยังถูกซื้อลิขสิทธิ์ฉายในหลายประเทศทั่วเอเชียและยุโรป แบรนด์ระดับโลกเลือกนักแสดงวายไปเดินพรมแดง พรีเซนต์สินค้า หรือแม้แต่ร่วมแคมเปญเพื่อความเท่าเทียม

 

Y Economy หรือเศรษฐกิจจากซีรีส์วาย กลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของบรรทัดฐานทางสังคม และความเข้าใจต่อความหลากหลายทางเพศในระดับสากล

 

ICONSIAM PRIDE OUT LOUDER กับการสนับสนุน LGBTQ+ ในประเทศไทย

 

ปี 2568 ถือเป็นปีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในฐานะประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บังคับใช้ กฎหมายสมรสเท่าเทียม อย่างสมบูรณ์ และในเดือน Pride Month นี้ หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ อย่าง ICONSIAM และ ICS ก็ลุกขึ้นมาเป็นแนวหน้าในการเฉลิมฉลองความหลากหลายด้วยแคมเปญ ‘ICONSIAM PRIDE OUT LOUDER – ให้เสียงของความภูมิใจ ไปไกลกว่าที่เคย’

 

ICONSIAM Pride Out Louder

 

แคมเปญนี้ไม่เพียงแค่สร้างบรรยากาศสีรุ้งทั่วพื้นที่ แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่แสดงถึงพลังของความเข้าใจ ยอมรับ และผลักดันความเท่าเทียมในทุกมิติของสังคม

 

กิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้น ได้แก่

 

  • PRIDE SUCCESSORS SERIES ถ่ายทอดเรื่องราวของ LGBTQIA+ ผู้สร้างแรงบันดาลใจ
  • Fan Meet ซีรีส์ ‘กี่หมื่นฟ้า’ ที่ผสมผสาน Soft Power จากวายเข้ากับการสนับสนุนความหลากหลาย
  • Reflection of Pride ศิลปะแสงสีสะท้อนอารมณ์แห่งความภาคภูมิใจ
  • Pride Out Wall พื้นที่เปิดรับเสียงจากคนรุ่นใหม่ ว่าภาพของ Pride Era ควรเป็นอย่างไร
  • MERGE Pop-Up สนับสนุนสินค้าและแฟชั่นที่แสดงจุดยืนของความหลากหลาย

 

ICONSIAM ไม่ได้มอง Pride เป็นเพียงเทศกาล แต่คือโอกาสในการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการผลักดัน ความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย สู่ระดับสากล ด้วยพลังของพื้นที่สร้างสรรค์ วัฒนธรรม และ Soft Power ไทย

 

PRIDE OUT LOUDER คือเสียงสะท้อนของยุคสมัยใหม่ ที่ทุกหัวใจไม่เพียงมีสิทธิ์รัก แต่ยังมีสิทธิ์ภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

LGBTQIA+ กับอนาคตของสังคมไทยที่เปิดกว้างมากขึ้น

 

จากอดีตที่ LGBTQIA+ ต้องซ่อนตัวตนในเงามืด สู่วันที่สามารถแต่งงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเฉลิมฉลองเสียงของตนเองในแลนด์มาร์กอย่าง ICONSIAM คือหลักฐานของพัฒนาการทางสังคมที่สำคัญ

 

ความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย คือ ‘โครงสร้างของสังคม’ ที่กำลังเปลี่ยนไปสู่การยอมรับทุกตัวตนอย่างแท้จริง และตราบใดที่เสียงของผู้คนยังเปล่งออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ความเปลี่ยนแปลงก็จะยังคงเดินหน้า

 

ย้อนรอย LGBTQIA+ ไทย จากไร้ตัวตนสู่สมรสเท่าเทียมและ Pride Parade

 

เพราะทุกหัวใจควรได้เปล่งประกายในแบบของตัวเอง อย่างเต็มภาคภูมิที่สุด

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

The post ย้อนรอยประวัติศาสตร์ LGBTQIA+ ประเทศไทย: จากไร้ตัวตน ไร้การยอมรับ สู่สมรสเท่าเทียม และขบวน PRIDE ในวันนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
JRBUBBLEGUM, Ton Thanasit และ SILVY ส่งซิงเกิล เดิน (WALK) ต้อนรับ Pride Month https://thestandard.co/jrbubblegum-ton-thanasit-silvy-walk/ Tue, 27 May 2025 04:30:34 +0000 https://thestandard.co/?p=1078913

ยกให้เป็นงานจัดจ้านและออกรสออกชาติสำหรับ เดิน (WALK) ซิ […]

The post JRBUBBLEGUM, Ton Thanasit และ SILVY ส่งซิงเกิล เดิน (WALK) ต้อนรับ Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>

ยกให้เป็นงานจัดจ้านและออกรสออกชาติสำหรับ เดิน (WALK) ซิงเกิลที่ JRBUBBLEGUM (เจอาร์-พชร ขจรยศวรรญ), Ton Thanasit (ต้น-ธนษิต จตุรภุช) และ SILVY (ซิลวี่-ภาวิดา มอริจจิ) เกี่ยวแขนร่วมกันส่งมอบพลังแก่ชาว LGBTQIA+ ต้อนรับเดือน Pride Month ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อเป็นอีกหนึ่งเชื้อเพลิงและแรงใจให้ ‘เหล่ามนุษย์ผู้มีความฝันทุกคน’ ในการเดินไปข้างหน้าตามรูปแบบของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง โดยปล่อยมิวสิกวิดีโอออกมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

 

เดิน (WALK) เป็นซิงเกิลเปี่ยมกำลังใจที่ว่าด้วยการถ่ายทอดพลังของการเดินต่อไปข้างหน้าแม้จะเผชิญความผิดหวัง ความเจ็บปวด หรือคำตัดสินจากสังคม ด้วยการยืนยันในการเป็นตัวตนอย่างไม่สั่นคลอนของผู้เคยถูกผลักให้อยู่นอกกรอบ ด้วยเนื้อหาเข้มข้นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ฟังได้เป็นอย่างดี

 

ด้วยความสามารถและประสบการณ์ของทั้ง JRBUBBLEGUM, Ton Thanasit และ SILVY รวมถึงการที่พวกเขาเป็นหนึ่งบุคคลในชุมชน LGBTQIA+ จึงสามารถถ่ายทอดเนื้อหาและความรู้สึกของเพลงออกมาในแบบที่ทั้งสนุก จัดจ้าน และทั้งสามต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม และต้องปรบมือให้กับเสียงร้องคุณภาพของทั้ง Ton Thanasit และ SILVY ที่ทำออกมาได้อย่างออกรสออกชาติ

 

 

ด้านมิวสิกวิดีโอของ เดิน (WALK) ได้เล่าถึงการเดินผ่านซากปรักหักพังของอดีต ด้วยฉากตึกร้าง พร้อมโปรดักชันที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของการปลดแอกตัวตน ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่นและท่าเต้นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงเสรีภาพของผู้คน ที่ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในแบบฉบับของตัวเอง

 

รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง เดิน (WALK) ได้ที่: https://youtu.be/Cr4G0xwVsxc

 

The post JRBUBBLEGUM, Ton Thanasit และ SILVY ส่งซิงเกิล เดิน (WALK) ต้อนรับ Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชียงใหม่เปิดฉาก Pride Month 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ขบวนพาเหรด 25 ขบวน ฉลองความรัก ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ https://thestandard.co/chiang-mai-pride-month-2025/ Mon, 26 May 2025 00:47:50 +0000 https://thestandard.co/?p=1078353

เชียงใหม่กลายเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยที่เปิดฉากเทศกาล […]

The post เชียงใหม่เปิดฉาก Pride Month 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ขบวนพาเหรด 25 ขบวน ฉลองความรัก ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เชียงใหม่กลายเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยที่เปิดฉากเทศกาล Pride Month 2025 อย่างเป็นทางการวันนี้ (25 พฤษภาคม) ด้วยกิจกรรม ‘Pride of Chiang Mai 2025’ ที่จัดขึ้นอย่างคึกคัก โดยเริ่มต้นที่พุทธสถาน เคลื่อนขบวนผ่านถนนท่าแพ และไนท์บาซาร์ ก่อนจะสิ้นสุดที่ลานประตูท่าแพ ซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและสนับสนุนความเท่าเทียมในสังคม

 

ไฮไลต์ของงานอยู่ที่ ขบวนพาเหรด 25 ขบวน ภายใต้แนวคิด ‘พลังของความรัก ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์’ ซึ่งแต่งแต้มด้วยสีสันและพลังแห่งการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ขบวนเคลื่อนผ่านใจกลางเมืองท่ามกลางเสียงเชียร์และการร่วมสนุกของผู้ร่วมงานตลอดเส้นทาง

 

ลานประตูท่าแพยังเปิดพื้นที่ให้กับกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแสดงบนเวที เสวนาด้านสิทธิมนุษยชน การประกวด Pride Ambassador และนิทรรศการเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และองค์กรเครือข่าย LGBTQIA+ ทั่วประเทศ

 

การจัดงาน Pride Month ที่เชียงใหม่ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน และยังคงเดินหน้าส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายผ่านกิจกรรมอย่างการเสวนา นิทรรศการภาพถ่าย และแฟชั่นโชว์ที่พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ โดยทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความเท่าเทียมทางกฎหมาย โดยเฉพาะในประเด็นสมรสเท่าเทียมที่เพิ่งได้รับการยอมรับในปีที่ผ่านมา

 

The post เชียงใหม่เปิดฉาก Pride Month 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ขบวนพาเหรด 25 ขบวน ฉลองความรัก ความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เฉลิมฉลองครั้งประวัติศาสตร์ ‘Born This Way’ จากชัยชนะสมรสเท่าเทียม สู่การเดินหน้ารับรองอัตลักษณ์ ‘นฤมิตไพรด์’ จัดใหญ่ 3 วันเต็ม 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. https://thestandard.co/bangkok-pride-festival-2025-born-this-way/ Wed, 21 May 2025 08:22:49 +0000 https://thestandard.co/?p=1076704

Bangkok Pride Festival 2025 เทศกาลไพรด์ประจำปีที่ยิ่งให […]

The post เฉลิมฉลองครั้งประวัติศาสตร์ ‘Born This Way’ จากชัยชนะสมรสเท่าเทียม สู่การเดินหน้ารับรองอัตลักษณ์ ‘นฤมิตไพรด์’ จัดใหญ่ 3 วันเต็ม 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>

Bangkok Pride Festival 2025 เทศกาลไพรด์ประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมกลับมาระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ภายใต้ธีม ‘Born This Way’ สะท้อนการเดินทางจากชัยชนะของกฎหมายสมรสเท่าเทียม สู่การผลักดันการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศอย่างเป็นรูปธรรม จุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Pride Destination แห่งเอเชีย และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride 2030

 

บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และพันธมิตรจากทุกภาคส่วน จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่สถานีโทรทัศน์ NBT โดยมีบุคคลสำคัญร่วมงานมากมาย อาทิ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมเหล่าเซเลบริตี้และนักแสดงชื่อดังที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับเทศกาลในปีนี้ อาทิ ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา, โอมม่อน ภพภัทร, มิวนิค นันท์นภัส, เฮ วชิรวิทย์ และอีกหลายคนจากหลากหลายวงการบันเทิง

 

เทศกาลปีนี้จัดเต็มกับ 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่

 

1. Bangkok Pride Parade 2025

 

ขบวนพาเหรดแห่งปี ที่จะโบกสะบัดธงสีรุ้งและธงอัตลักษณ์ยาวกว่า 200 เมตรเต็มถนนพระราม 1 พร้อม 7 ขบวนหลัก 7 สี 7 แนวคิด

 

  • Born Again ฉลองการ “เกิดใหม่” ของตัวตน
  • Born to Be Loved พลังแห่งความรักและสมรสเท่าเทียม
  • Born to Be Me การยืนยันการเป็นตัวของตัวเอง
  • Born to Be Part of One ความเชื่อมโยงระหว่างตัวตนกับโลก
  • Born to Create & Inspire ยกย่องศิลปะและวัฒนธรรม
  • Born to Heal Generations การเยียวยาและสุขภาพที่เท่าเทียม
  • Born to Be Together ขบวนความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถเข้าฟรี หากมาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และต้องการจัดกิจกรรมหรือสื่อสารประเด็นเฉพาะในขบวน สามารถสมัครได้ที่ https://parade.bangkokpride.org

 

2. Bangkok Pride Forum 2025

 

เวทีเสวนาระดับประเทศปีที่ 2 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนประเด็นหลากหลายทั้งด้านสุขภาวะ เศรษฐกิจสีรุ้ง เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสิทธิมนุษยชน โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคมร่วมแสดงวิสัยทัศน์

 

3. Bangkok Pride Awards 2025

 

จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเชิดชูบุคคลและองค์กรที่มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมสิทธิและความเท่าเทียมในสังคมไทย ครอบคลุมมิติทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และธุรกิจ ปีนี้มีการเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่า 5,000 รายชื่อ สะท้อนพลังของขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อความเสมอภาคในประเทศไทย

 

4. DRAG BANGKOK Festival 2025

 

เวทีศิลปะแดร็กไทยสู่ระดับโลก ภายใต้ธีม ‘Thaituristic Drag Scene’ ที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการแสดงแดร็กสุดสร้างสรรค์ จัดขึ้นตลอด 3 วันของเทศกาล

 

ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา นักแสดงที่ร่วมงาน Bangkok Pride Festival มาตลอด กล่าวถึงงานในปีนี้ว่า “นี่คืองานประจำปีที่ชาว LGBTQIAN+ และผู้สนับสนุนรอคอย ปีนี้ธีม Born This Way คือการฉลองชัยชนะของกฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่า เราทุกคนมีบทบาทในการร่วมเดินและส่งเสียงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงจริงๆ”

 

ขณะที่ วาดดาว-อรรณว์ ชุมาพร ผู้ก่อตั้งบริษัท นฤมิตไพรด์ และหัวเรือใหญ่ของงาน Bangkok Pride กล่าวถึงเป้าหมายของเทศกาลในปีนี้ว่า “นี่ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่คือการเดินเพื่อเปลี่ยนแปลง เรามั่นใจว่าเทศกาลนี้จะกลายเป็น 1 ใน 10 ขบวน Pride ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และยกระดับประเทศไทยสู่เวทีโลกในฐานะประเทศที่เคารพศักดิ์ศรีของทุกคนอย่างแท้จริง”

 

Bangkok Pride Festival 2025 จึงเป็นมากกว่าเทศกาลแห่งสีสันและความสนุกสนาน แต่คือเวทีแสดงพลัง เปล่งเสียง และสร้างความเปลี่ยนแปลงของจริงในสังคมไทย

The post เฉลิมฉลองครั้งประวัติศาสตร์ ‘Born This Way’ จากชัยชนะสมรสเท่าเทียม สู่การเดินหน้ารับรองอัตลักษณ์ ‘นฤมิตไพรด์’ จัดใหญ่ 3 วันเต็ม 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไทยได้รางวัล Best LGBTQ Destination ตอกย้ำหมุดหมายระดับโลกของทุกวิถีชีวิต https://thestandard.co/best-lgbtq-destination/ Sun, 16 Mar 2025 09:49:40 +0000 https://thestandard.co/?p=1052802 best-lgbtq-destination

วันนี้ (16 มีนาคม) อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำน […]

The post ไทยได้รางวัล Best LGBTQ Destination ตอกย้ำหมุดหมายระดับโลกของทุกวิถีชีวิต appeared first on THE STANDARD.

]]>
best-lgbtq-destination

วันนี้ (16 มีนาคม) อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยสร้างชื่อเสียงระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการได้รับรางวัล ‘Best LGBTQ Destination’ จากผลโหวตของผู้อ่าน Spartacus Magazine นิตยสารท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ชื่อดังของเยอรมนี และการพิจารณาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ภายในงาน Spartacus Travel Awards 2025 ที่ผ่านมา ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ซึ่งมีการมอบรางวัลทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 

 

1) Best LGBTQ Friendly Airline 

2) Best LGBTQ Event Destination 

3) Best LGBTQ Honeymoon Destination 

4) Best LGBTQ Destination

 

การที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็น Best LGBTQ Destination จุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเป็นมิตรและเปิดกว้างสำหรับนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ซึ่งมาจากปัจจัยสำคัญหลายประการ อาทิ การประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียม ในเดือนมกราคมตามนโยบายของรัฐบาล แหล่งท่องเที่ยวที่เป็น LGBTQIA+ Friendly ในเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ รวมทั้งการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง 

 

“รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวและการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ทั้งนี้ ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว มุ่งสร้างความประทับใจ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรในการเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทั่วโลก” อนุกูลระบุ

The post ไทยได้รางวัล Best LGBTQ Destination ตอกย้ำหมุดหมายระดับโลกของทุกวิถีชีวิต appeared first on THE STANDARD.

]]>
เด็ก ครอบครัว โรงเรียน เดินต่อไปด้วยกันอย่างไร หลังไทยมีสมรสเท่าเทียม https://thestandard.co/thai-equal-marriage-families/ Wed, 12 Feb 2025 04:30:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1040913 thai-equal-marriage-families

ภายหลัง 23 มกราคม 2568 วันประวัติศาสตร์ที่ร่าง พ.ร.บ.แก […]

The post เด็ก ครอบครัว โรงเรียน เดินต่อไปด้วยกันอย่างไร หลังไทยมีสมรสเท่าเทียม appeared first on THE STANDARD.

]]>
thai-equal-marriage-families

ภายหลัง 23 มกราคม 2568 วันประวัติศาสตร์ที่ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ ‘สมรสเท่าเทียม’ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ คู่รัก LGBTQIA+ ต่างพากันเข้าจรดปากกาจดทะเบียนสมรส เป็นสัญญาณว่าความเท่าเทียมทางกฎหมายของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศได้กลายเป็นจริงแล้วในประเทศไทย

 

อย่างไรก็ตาม หนทางสู่ความเท่าเทียมในชีวิตจริงสำหรับเยาวชน LGBTQIA+ ยังคงอีกยาวไกล แม้ว่ากฎหมายจะช่วยลดอุปสรรคทางกฎหมายได้ แต่ความท้าทายทางสังคมและวัฒนธรรมยังคงอยู่ 

 

รายงาน ‘สุขภาพจิตและสุขภาวะของเด็กและเยาวชนหลากหลายทางเพศในประเทศไทย’ โดยองค์กร เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของเยาวชนกลุ่มนี้ โดย 71% กำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า 25% มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง และ 15% เคยพยายามคร่าชีวิตตนเอง เนื่องจากต้องเผชิญความรุนแรงในหลายระดับ ทั้งแรงกดดันจากสังคม และอคติที่นำมาสู่การเลือกปฏิบัติ 

 

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการมีกฎหมายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยอมรับและเข้าใจความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า การเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชน LGBTQIA+ ได้แสดงออกถึงตัวตนอย่างอิสระ ปราศจากการตีตราและการเลือกปฏิบัติ จะช่วยให้พวกเขามีความภาคภูมิใจในตนเอง และเติบโตขึ้นได้อย่างมีคุณภาพ 

 

เนื่องในสัปดาห์แห่งความรัก ก่อนเข้าสู่วันวาเลนไทน์ THE STANDARD โอกาสได้สนทนากับ พีราณี ศุภลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กและความหลากหลายทางเพศ จาก เซฟ เดอะ ชิลเดรน เพื่อชวนเจาะลึกลงไปในปัญหาที่เยาวชน LGBTQIA+ ต้องเผชิญในสังคมไทย และจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ไทยเป็นพื้นที่แห่งความเสมอภาคสำหรับคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง 

 

พิราณี ศุภลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กและความหลากหลายทางเพศ จาก เซฟ เดอะ ชิลเดรน

พิราณี ศุภลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กและความหลากหลายทางเพศ จาก เซฟ เดอะ ชิลเดรน

 

สังคมที่กดทับเรื่องเพศ ต้นตอของอคติ

 

พีราณีเริ่มต้นด้วยการเล่าสภาพปัญหาจากที่ได้รับฟังมาจากเด็กและเยาวชน โดยปัญหาหลักจะอยู่ที่การรังแกหรือบูลลี่ (Bully) ในโรงเรียน และการยอมรับของครอบครัว มีเด็กบางคนที่ไม่สามารถอาศัยในบ้านได้ เพราะถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้

 

“รายงานวิจัยของ Save the Children ก็พบว่า ถ้ามีคนอย่างน้อย 1 คนในครอบครัวที่ยอมรับในตัวเด็ก จะเป็นตัวเพิ่มพลังสุขภาพจิตได้ดีมาก”

 

พีราณีมองว่าต้นตอของอคติและการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศที่เกิดกับเยาวชนนั้น ประกอบไปด้วยหลายปัจจัย แต่สิ่งสำคัญคือสังคมไทยมีลักษณะที่มองว่าเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ อีกทั้งกำหนดบรรทัดฐานให้การพูดเรื่องเพศ ต้องจำกัดอยู่ในเพศชายและหญิงตามมาตรฐานที่ดีของสังคมเท่านั้น

 

“ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สิ่งอื่นที่แปลกออกไปจากค่านิยมที่สังคมบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี” พีราณีอธิบาย “อคติถูกส่งต่อมา ไม่ใช่แค่จากการเลี้ยงดูในครอบครัว แต่ในหลักสูตรการเรียนการสอนก็เช่นเดียวกัน เพราะในห้องเรียนก็ไม่ได้มีการพูดถึงครอบครัวที่หลากหลาย มีแค่ผู้ชายผู้หญิงคู่กัน”

 

เด็ก ครอบครัว โรงเรียน เดินต่อไปด้วยกันอย่างไร หลังไทยมีสมรสเท่าเทียม

 

พีราณีชี้ว่า ความเป็นมนุษย์มีความหลากหลาย รวมถึงเรื่องเพศ เพศไม่ใช่สิ่งไม่ดีที่พูดถึงไม่ได้ เพียงแต่สังคมไทยยังไม่ได้มีการปลูกฝังค่านิยมเหล่านั้น

 

ถึงกระนั้นเอง เด็กๆ ก็มีความดีใจที่สมรสเท่าเทียมได้บังคับใช้ เพราะรู้สึกได้ว่าไม่ต้องปิดบังตัวเองอีกต่อไป สามารถแสดงความรักได้เหมือนที่คนอื่นมี เป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นแล้ว 

 

ที่สำคัญเยาวชนอาจมีความคาดหวังว่าสังคมจะเข้าใจพวกเขามากขึ้น จะไม่มีคำถามแปลกๆ มาจากภาครัฐ ตลอดจนตั้งคำถามว่า หลังจากสมรสเท่าเทียม เมื่อไรจะมีกฎหมายเปลี่ยนคำนำหน้านาม เปลี่ยนจาก ด.ช. เป็น ด.ญ. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าต่อ

 

พีราณีเน้นย้ำว่า เรื่องคำนำหน้าหรือการกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากในระบบการศึกษายังมีจำกัดเพียงเพศชายและเพศหญิงตั้งแต่เกิด นับจากตอนจดสูจิบัตร ทำให้เด็กคนหนึ่งเข้าไปสู่โรงเรียนอนุบาล ต้องถูกตัดผม ถูกบังคับให้ใส่กระโปรงหรือกางเกงตามที่สังคมกำหนด โดยไม่มีอิสระในตัวเลือกอื่นๆ และหากไม่สามารถทำตามกฎได้ก็จะถูกลงโทษ

 

“จริงๆ แล้วเป็นเรื่องค่อนข้างหนักนะสำหรับชีวิตเด็กคนหนึ่ง ที่ต้องพยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบตลอดเวลา” 

 

บทบาทครอบครัว รับฟังเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

 

พีราณียังเห็นความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกช่วงที่สื่อมวลชนให้ความสำคัญกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพราะพบว่าผู้ปกครองเริ่มสามารถพูดเกี่ยวกับสมรสเท่าเทียมได้ ไม่ว่าจะมีบุตรเป็น LGBTQIA+ หรือไม่ก็ตาม ผู้ปกครองต่างรู้สึกว่าจำเป็นต้องปรับตัว ทำความเข้าใจกับสังคมที่กำลังจะเปลี่ยนไปสู่การโอบรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้นได้

 

“เด็กๆ เองเขาก็คิดว่า พ่อแม่ หรือคุณลุงคุณป้าที่บ้าน ดูซีรีส์วาย เขาเปิดรับมากขึ้น เห็นโลกมากขึ้นเลย”

 

ท้ายสุดกลับมาจบที่ว่า ผู้ปกครองทุกคนก็คงอยากเลี้ยงลูกให้เติบโตมาอย่างที่ตนเองจะรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ผู้ปกครองอาจไม่ได้เข้าใจทุกเรื่องที่เด็กพูด ดังนั้น การรับฟังคือปัจจัยสำคัญ ผู้ปกครองควรจะสามารถรับฟังและยอมรับเด็กได้

 

“อาจไม่ต้องเข้าใจในทุกครั้ง หรือเข้าใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เด็กพูด เพียงแต่ไม่ได้ห้ามหรือค้านในสิ่งที่เด็กพูด แต่ช่วยยืนอยู่เคียงข้างสิ่งที่ลูกหลานของตัวเองเป็น ให้เราเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เขาสามารถเล่าได้” พีราณีกล่าว

 

พีราณีมองว่า บทบาทของครอบครัวและผู้ปกครองควรจะเป็นผู้พร้อมสนับสนุน ซึ่งหากต้องการความช่วยเหลือ ผู้ปกครองก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เองได้ง่ายในปัจจุบันนี้ ในขณะเดียวกัน ลูกหลานเองอาจจะต้องรับฟังผู้ปกครองเช่นกัน ค่อยๆ ทำความเข้าใจว่าแต่ละคนเติบโตมาแตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยกันสร้างวัฒนธรรมแห่งการรับฟังกันในครอบครัวด้วย

 

จับมือกัน

 

ถึงเวลาการศึกษาต้องเปลี่ยนตามสังคม

 

นอกจากสถาบันทางสังคมที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัวแล้ว เรื่องการศึกษาที่บ่มเพาะประชากรขึ้นมา ก็ควรต้องปรับตามให้ทันด้วย เพราะทุกวันนี้หลักสูตรในปัจจุบันยังไม่ได้มีภาพของความหลากหลาย ยังคงปลูกฝังความเชื่อดั้งเดิมเรื่องเพศ ที่มีทั้งแบบที่ดีและไม่ดี ทั้งที่ความจริงหลักสูตรการศึกษาสามารถโอบรับความหลากหลายทางเพศได้มากกว่านี้ 

 

พีราณียกตัวอย่าง วิชาสุขศึกษา ที่สามารถสอนเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ ที่ไม่ได้นิยามแค่ว่ามีเพียงเพศชายและหญิง รวมถึงสอนให้เกิดความเข้าใจว่า เรื่องเพศเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่แปลกหรือผิดบาป แต่คือความเป็นคน

 

กล่าวโดยสรุปคือ พีราณีมองว่าหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายทางเพศนั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างวิชาใหม่ขึ้นมารองรับ แต่สามารถสอดแทรกเข้าไปในแต่ละวิชาที่มีอยู่แล้วได้

 

คู่รักตำรวจ ชายชาย

 

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่สืบทอดกันมานาน เช่น วันพ่อ วันแม่ อาจจะต้องเปลี่ยน เพราะที่ผ่านมาหลายครอบครัวไม่ได้มีลักษณะเป็นพ่อแม่ลูกอยู่แล้ว บ้างเป็นเลี้ยงเดี่ยว หรืออยู่กับปู่ย่า ตรงกันข้าม กิจกรรมนี้อาจสร้างบาดแผลให้เด็กด้วยซ้ำ จึงเสนอว่าควรปรับเป็นวันครอบครัว ที่มีนิยามกว้างไกลไปกว่า ‘พ่อ-แม่-ลูก’ เพราะครอบครัวเป็นพื้นที่ของความปลอดภัยและเติบโต ควรเป็นวันที่ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันมากกว่า ยิ่งมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ยิ่งเป็นเหตุผลให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น

 

ท้ายที่สุด อคติและความไม่เข้าใจของสังคมที่มีต่อเด็กและเยาวชน LGBTQIA+ มีที่มาหลักๆ จากค่านิยมทางสังคมที่ครอบคลุมทั้งผู้ปกครอง ครู ตลอดจนระบบการศึกษา พีราณีให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงค่านิยมทางสังคมต้องใช้เวลา แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ กฎหมายเพิ่งบังคับใช้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่โรงเรียนอาจยังไม่ได้เปลี่ยนชั่วข้ามคืน

 

“เราอาจใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสให้ทั้งเด็ก ครู ผู้ปกครอง ได้พูดคุยในเรื่องนี้ อาจจะค่อยๆ เปลี่ยนในอีก 10-20 ปี ส่วนตัวเห็นความหวังว่า เด็กๆ กำลังจะเติบโตในสังคมที่อย่างน้อยกฎหมายก็ให้การยอมรับว่า การสร้างครอบครัวเป็นสิทธิของทุกเพศ เรื่องนี้จะถูกมองว่าแปลกน้อยลง ปกติมากขึ้น และจะเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ” พีราณีทิ้งท้าย

The post เด็ก ครอบครัว โรงเรียน เดินต่อไปด้วยกันอย่างไร หลังไทยมีสมรสเท่าเทียม appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดตัวเลขคู่รัก LGBTQIA+ จรดปากกาจดทะเบียน ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วประเทศวันแรก https://thestandard.co/1st-day-equal-marriage-registration/ Fri, 24 Jan 2025 12:48:38 +0000 https://thestandard.co/?p=1034165

วันที่ 23 มกราคม 2568 นับเป็นวันแรกที่พระราชบัญญัติ (พ. […]

The post เปิดตัวเลขคู่รัก LGBTQIA+ จรดปากกาจดทะเบียน ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วประเทศวันแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันที่ 23 มกราคม 2568 นับเป็นวันแรกที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ซึ่งผ่านมา 120 วันนับจากการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือนกันยายน 2567

 

เนื้อหาในกฎหมายฉบับใหม่ดังกล่าว ปรับแก้ไขมาตรากว่า 70 มาตราในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีรายละเอียดการปรับถ้อยคำถึงเพศแบบทวิลักษณ์ เช่น ชาย-หญิง เป็นคำว่า ‘บุคคล’ ส่วนสามีหรือภรรยาให้ใช้คำว่า ‘คู่สมรส’ โดยให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในเรื่องการสมรสตามกฎหมายโดยไม่คำนึงถึงเพศ 

 

หากย้อนกลับไปในวันที่ 23 มกราคม สำนักทะเบียนทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ก็มีบรรดาคู่รัก LGBTQIA+ ที่จูงมือคนที่รักมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมรสเท่าเทียมที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย 

 

ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย (ณ วันที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 20.30 น.) เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสทั่วประเทศมีทั้งสิ้น 2,817 คู่ แบ่งเป็นสมรสเท่าเทียม 1,874 คู่ แยกเป็น ชาย-ชาย 634 คู่, หญิง-หญิง 1,240 คู่ และชาย-หญิง 943 คู่ ซึ่งสำนักทะเบียนที่มีคู่รักเดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมมากที่สุด ได้แก่ สำนักทะเบียนปทุมวัน 183 คู่

 

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post เปิดตัวเลขคู่รัก LGBTQIA+ จรดปากกาจดทะเบียน ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วประเทศวันแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>