Wellness – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 15 Mar 2024 02:03:06 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.3.1 คลินิกเสริมความงามแบบไม่ยัดเยียด จริงใจในการรักษา ฝันแสนเรียบง่ายของหมอริทที่หวังเปลี่ยนแปลงวงการ https://thestandard.co/the-ritz-clinic-2/ Fri, 15 Mar 2024 02:00:54 +0000 https://thestandard.co/?p=908813 THE RITZ CLINIC

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ‘คลินิกเสริมความงาม’ ส่วนใหญ่ใน […]

The post คลินิกเสริมความงามแบบไม่ยัดเยียด จริงใจในการรักษา ฝันแสนเรียบง่ายของหมอริทที่หวังเปลี่ยนแปลงวงการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE RITZ CLINIC

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ‘คลินิกเสริมความงาม’ ส่วนใหญ่ในประเทศไทยถูกฉาบเคลือบด้วยภาพจำแสนเลวร้ายแบบเหมารวม ทั้งการยัดเยียดขายคอร์ส ขายโปรแกรมลูกค้าแบบ Hard Sell ที่มุ่งแต่จะขาย หวังแต่จะเอาเงิน แต่ในระยะยาวกลับไม่ดูแลลูกค้าและคนไข้อย่างเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น ในวงเล็บที่ว่า ไม่ใช่คลินิกเสริมความงามทุกแห่งจะมีแนวทางการดำเนินงานตามภาพจำเชิงลบแบบนี้ แต่ก็พลอยถูกเหมารวมไปด้วย

 

ด้วยชนักติดหลังในประเด็นเดียวกัน ด้วยเพนพอยต์ที่ประสบพบเจอไม่ต่างกัน จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือที่หลายๆ คนรู้จักและคุ้นเคยในชื่อ ‘หมอริท’ ตัดสินใจเปิดคลินิกเสริมความงาม ‘THE RITZ CLINIC’ โดยปัจจุบันได้เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 5 ของการให้บริการแล้ว

 

ความตั้งใจของ นพ.เรืองฤทธิ์ ไม่ใช่แค่ล้างมุมมองเชิงลบที่ผู้คนมีต่อคลินิกเสริมความงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงความพยายามที่จะสร้างแรงกระเพื่อมที่นำไปสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคลินิกเสริมความงามด้วย (ทั้งๆ ที่เจ้าตัวบอกว่าควรจะเป็นเรื่องธรรมดาด้วยซ้ำ)

 

ควบคู่ไปกับการให้บริการลูกค้า ดูแลคนไข้อย่างจริงใจ และสร้างผลลัพธ์ปลายทางของการดูแลรักษาเพื่อให้คนไข้ที่เข้ามารับบริการที่ THE RITZ CLINIC พึงพอใจที่สุด

 

THE RITZ CLINIC

 

เด็กต่างจังหวัด ค่านิยมการเป็นหมอ และความรักในการได้ช่วยเหลือผู้อื่น ความในใจของ นพ.เรืองฤทธิ์

เราเชื่อว่าช่วงชีวิตวัยเด็กของผู้อ่าน THE STANDARD จำนวนไม่น้อยน่าจะถูกปลูกฝังด้วยค่านิยมเรื่องอาชีพที่เหมือนกันๆ โดยเฉพาะค่านิยมเรื่อง ‘การเป็นหมอ’ ที่พ่อแม่ ผู้ใหญ่ มักจะติดตั้งโปรแกรมให้กับลูกๆ หลานๆ ของตัวเองว่าเป็นอาชีพที่สูงส่ง นำพามาซึ่งเกียรติยศ ความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ในระยะยาว ซึ่งในมุมหนึ่งก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ขณะเดียวกัน ข้อเท็จจริงดังกล่าวย่อมแลกมาด้วยมวลความกดดันก้อนมหาศาลที่อาจจะกดทับใครหลายคน พร้อมๆ กับความทุ่มเท ความเสียสละ ที่ยากเกินกำลังที่ใครบางคนจะแบกรับ

 

เรื่องเดียวกันนี้ก็เป็นเรื่องที่ นพ.เรืองฤทธิ์ ต้องประสบพบเจอในช่วงวัยเด็กเหมือนๆ กัน ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘หมอ’ ในปัจจุบันพร้อมคำนำหน้านายแพทย์ ก็ยังลังเลชั่งใจด้วยซ้ำว่า จริงๆ แล้วเขาอยากเป็นหมอด้วยตัวเอง หรือเพียงเพราะถูกปลูกฝังค่านิยมดังกล่าวกันแน่

 

“ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การที่เด็กต่างจังหวัดสักคนกล้าตอบคำถามผู้ใหญ่อย่างเต็มปากเต็มคำชัดเจนว่า ‘โตขึ้นอยากเป็นหมอ’ มันคือที่สุดของเด็กต่างจังหวัดในยุคสมัยของริทเลยก็ว่าได้

 

“ถ้าถามริทตรงๆ เอาจริงๆ เราก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าเราอยากเป็นหมอจริงๆ หรือเราถูกปลูกฝังมาเรื่อยๆ ว่าเราอยากเป็นหมอกันแน่ ทั้งนี้ทั้งนั้น พื้นฐานตัวเราเองเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบแก้ไขปัญหาให้คนอื่นให้ได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”

 

ขีดเส้นใต้แบบย้ำๆ ตรงคำว่า ‘ชอบช่วยเหลือ ชอบแก้ไขปัญหาให้คนอื่น’ ที่หมอริทบอกกับ THE STANDARD ซึ่งอาจอนุมานได้ว่า ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เขามีความสุขกับการได้ดูแลรักษาคนไข้ ได้ช่วยเหลือคนไข้ที่เดินทางมาหาด้วยความต้องการในการเข้ารับการรักษาที่ต่างกันออกไป

 

ไม่แปลกใจที่เมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้วเจ้าตัวจะตัดสินใจหันหลังให้กับวงการบันเทิงในช่วงที่กำลังรุ่งโรจน์จนถึงขีดสุด เดินหน้าตามความตั้งใจจนสามารถจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาควิชาตจวิทยา (MSc Cosmetic Dermatology) หลักสูตรนานาชาติ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สำเร็จ

  

 

‘THE RITZ CLINIC’ กับ 5 ปีของจุดเล็กๆ ที่มุ่งหวังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการคลินิกเสริมความงามไทย

ในช่วงปี 2562 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ประเทศไทย (และอีกหลายประเทศทั่วโลก) กำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด นพ.เรืองฤทธิ์ ได้ตัดสินใจก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง เลือกเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการทำในสิ่งที่สวนทางกับภาพรวมของเศรษฐกิจ ณ เวลานั้น นั่นคือการเปิด THE RITZ CLINIC คลินิกเสริมความงามภายใต้การบริหารงานของตัวเองอย่างเป็นทางการครั้งแรก

 

โดยสร้างจุดตัดความแตกต่างด้วย 2 Key Purposes หลักในการบริหารงาน ประกอบไปด้วย

  1. นวัตกรรมและเทคโนโลยี
  2. การดูแลคนไข้ด้วยความจริงใจ

 

ปัจจุบัน THE RITZ CLINIC กำลังเดินหน้าสู่ปีที่ 5 และขยายไปสู่สาขาที่ 8 ของการให้บริการ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การจะยืนหยัดในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว ปราบเซียน คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่เป็นผลจาก ‘ความตั้งใจดี’ ของ นพ.เรืองฤทธิ์ ที่ทั้งใส่ใจและจริงใจในการให้บริการ และรักษาคนไข้ทุกคนที่ผลักประตูเข้ามายังคลินิกของเขา เลือกไม่ทำในสิ่งที่คลินิกเสริมความงามหลายแห่งมักทำกัน นั่นคือการ Hard Sell ยัดเยียดขายคอร์ส

 

“ทุกวันนี้เราทำคลินิกเป็นงานหลักราวๆ 80-90% เราตัดสินใจเปิดให้บริการ THE RITZ CLINIC มาตั้งแต่ช่วงโควิดในปี 2562 ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 5 ของการให้บริการแล้ว โดยคอนเซปต์ของการให้บริการจะยึดถือ 2 เรื่องเป็นหัวใจสำคัญ ประการแรกเลยคือ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เนื่องด้วยเรามองว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาแต่ละอย่างให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในวงการการแพทย์ที่ทำให้เกิดการรักษารูปแบบใหม่ๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

 

 

“ประการถัดมาคือ การดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ ซึ่งที่ THE RITZ CLINIC เราจะให้ ‘แพทย์’ เป็น ‘ผู้ประเมิน’ ว่าคนไข้แต่ละคนควรจะได้รับการรักษาแบบใด เพื่อจุดประสงค์อะไร ไม่ใช่เป็นใครก็ไม่รู้ที่จะมาบอกคนไข้ว่าคุณต้องทำตามโปรแกรมนี้นะ 1 2 3 4 เราจะให้คนไข้ทุกคนได้วางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์

 

“ก่อนหน้านี้เรามักเจอปัญหาภาพจำของคลินิกเวชกรรมความงามจำนวนไม่น้อยที่มาด้วยภาพลักษณ์สีเทาๆ ไม่ตรงไปตรงมา การดึงคนไข้เข้ามาในคลินิกแล้วมัดมือชกเขารูดบัตรเครดิตทั้งๆ ที่เขายังไม่รู้ตัวเลยว่ารูดซื้ออะไรไป ซึ่งเพนพอยต์ในมุมนี้เป็นสิ่งที่เราตั้งธงไว้ในใจตั้งแต่แรกเลยว่า ถ้าเรามีโอกาสทำคลินิกเวชกรรมความงามเป็นของตัวเอง เราจะไม่มีวันทำในวิถีทางดังกล่าวเป็นอันขาด

 

“เราจะบอกทีมงานของเราทุกคนตั้งแต่วันแรกเสมอว่า อย่าไปสนใจใคร อย่าไปมองเพื่อนรอบบ้านเรา ใครจะทำอย่างไร ใช้วิธีการไหน ไม่ต้องไปสนใจเขา เราทำของเราด้วยวิธีการและโจทย์แบบ THE RITZ CLINIC (เน้นให้ทีมแพทย์วางแผนการรักษากับคนไข้ ไม่ใช่การเน้นขายคอร์สเพื่อแสวงหากำไร) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ของเรา”

 

นอกจากจริงใจ ไม่ยัดเยียด ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่ใช้ก็ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานขั้นสูงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ในเชิงภาพรวม เราจะเห็นว่าตลาดคลินิกเวชกรรมความงามในประเทศไทยถือเป็นตลาดขาขึ้น สังเกตได้จากจำนวนคลินิกความงามที่ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และพฤติกรรมของผู้คนในโลกยุคปัจจุบันที่หันมาใส่ใจความสวยความงาม มีมุมมองเรื่องการทำหัตถการทั้งเพื่อความสวยและการชะลอวัยที่เปลี่ยนแปลงไป

 

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยออกมาประเมินว่า ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยในปี 2566 น่าจะมีมูลค่าตลาดถึงราวๆ 71,000-72,000 ล้านบาท ขยายตัวราว 2.3-3.6% (YoY) จากปีก่อนหน้า ซึ่งแม้จะยังไม่สูงเท่าช่วงก่อนโควิด แต่ก็ยังคงเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจอยู่ดี

 

อย่างไรก็ดี หากมองไปยังอนาคตข้างหน้า อุตสาหกรรมนี้ก็นับว่าเต็มไปด้วย ‘ความท้าทาย’ มากมายหลายประการ ทั้งปัญหาการขาดแคลนบุคลากรการแพทย์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แลกมาด้วยต้นทุนมหาศาล และความสามารถในการดึงลูกค้ามาใช้บริการให้ได้มากครั้งและสม่ำเสมอ

 

โดยทิ้งท้ายไว้ว่า การเติบโตของผู้ประกอบการแต่ละรายในตลาดนี้ขึ้นอยู่กับ ‘ความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้า’ ทั้งด้านค่าบริการ รสนิยม คุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการ รวมถึงผลลัพธ์หรือความพึงพอใจในผลงานของแพทย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ THE RITZ CLINIC ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากนับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้พวกเขาสามารถขยายสาขาได้อย่างแข็งแกร่ง และมีคนไข้ประจำที่ไว้วางใจในทีมแพทย์กลับมาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ

 

“เครื่องมือแพทย์ทุกชิ้น ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่จะเข้ามาใช้งานใน THE RITZ CLINIC เราจะเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ผ่านการทดลองด้วยตัวเองเท่านั้น โดยยึดมาตรฐานของสหรัฐฯ เป็นตัวตั้ง นอกจากนี้ก็จะให้ความสำคัญกับบริษัทผู้ผลิตและตัวแทนจัดจำหน่ายด้วย

 

“อย่างตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทยที่เราไว้วางใจคือ Allergan Aesthetics ซึ่งทาง THE RITZ CLINIC ก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาในทุก SKU เพราะบริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ​ ทั้งยังเป็นที่ยอมรับของคุณหมอทั่วโลก ทำให้เราและ THE RITZ CLINIC รู้สึกสบายใจที่จะเลือกใช้งานและดูแลคนไข้ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือความพึงพอใจที่คนไข้ของเราฟีดแบ็กมายังการรักษาของเรา” นพ.เรืองฤทธิ์ บอกกับเรา

 

THE RITZ CLINIC

 

เขาเล่าต่อว่า เทรนด์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในปัจจุบันคาดหวังที่จะได้ ‘ผลลัพธ์ของการรักษา’ ที่เห็นผลได้รวดเร็ว ปลอดภัย ได้มาตรฐาน นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ THE RITZ CLINIC เข้มงวดมากๆ กับการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์แต่ละราย รวมไปถึง Allergan Aesthetics ที่พวกเขาทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันมาโดยตลอด

 

“เทรนด์ส่วนใหญ่ของผู้บริโภคในปัจจุบันคือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อยากเห็นผลทันที ซึ่งก็จะตอบโจทย์ได้ด้วยการทำหัตถการในกลุ่มการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม โดยที่ฟิลเลอร์ในไทยก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อมาก แต่ THE RITZ CLINIC จะเลือกเฉพาะฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ มาใช้กับคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการที่คลินิกของเราเท่านั้น ยี่ห้ออื่นๆ เราไม่ใช้เลย

 

“สิ่งเหล่านี้เลยทำให้ลูกค้าของ THE RITZ CLINIC รับรู้ได้ทันทีว่า มาตรฐานการให้บริการของเรา ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือที่เรานำมาให้บริการกับพวกเขา อยู่ในระดับที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพสูง เชื่อใจได้ ที่สำคัญยังเห็นผลได้ทันทีที่ฉีด อย่างตัวฟิลเลอร์ที่เราใช้ก็ได้รับฟีดแบ็กว่าอยู่ได้นาน ถูกใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นมาก”

 

ฝันเล็กๆ ของหนึ่งในชิ้นส่วนฟันเฟืองที่อยาก Set Normal วงการคลินิกเสริมความงามไทย

อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นๆ ว่า หนึ่งในความตั้งใจในการทำคลินิก THE RITZ CLINIC ของ นพ.เรืองฤทธิ์ นอกเหนือจากการให้บริการที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ก็คือการล้มล้างมุมมองเชิงลบที่ผู้คนมีต่อวงการคลินิกเสริมความงามในประเทศไทยให้ได้สำเร็จ โดยการสร้างมาตรฐานใหม่เป็นแบบอย่างให้กับคลินิกความงามในไทย

 

“ริทเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความฝันมาก เราจะเป็นคนที่ฝันใหญ่ไว้ก่อน แต่ไปถึงไหมนั่นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผ่านมามีคนเคยมายื่นข้อเสนอซื้อคลินิกเราด้วยเงินมูลค่ามหาศาล ชนิดที่ว่าไม่ต้องทำงานอีกเลยก็ได้ตลอดชีวิตนี้ สบายแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจบอกปัดไป เพราะมองว่าเรายังทำตามฝันที่วางไว้ไม่สำเร็จ คิดว่าถ้าคนอื่นเข้ามาสานต่อสิ่งที่เราเริ่มต้นด้วยตัวเองมาในตอนนี้ แนวทางอาจจะไม่เป็นเหมือนสิ่งที่เราตั้งใจไว้

 

 

“ถึงแม้ว่าเราจะเป็นจุดเล็กๆ ในวงการคลินิกเวชกรรมความงามที่เริ่มเปลี่ยนในวันนี้ (แนวทางการให้บริการที่ไม่ได้มองเรื่องการ Hard Sell ยัดเยียดขายของ) แต่เราคิดว่าวันหนึ่งมันต้องสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างแน่นอน สิ่งที่เราทำมันไม่ใช่สิ่งที่พิเศษกว่าใครเลย จริงๆ มันควรจะต้องเป็นเรื่องธรรมดา เป็นมาตรฐานปกติของทุกๆ คลินิกเวชกรรมความงาม

 

“เรา Set Normal ให้เสร็จสรรพผ่านวิธีการที่ THE RITZ CLINIC ได้ให้บริการและดูแลรักษาคนไข้ทุกคน ถ้าวันหนึ่งมันเป็นไปได้ ก็คิดว่าเราน่าจะบรรลุถึงเป้าหมายและความฝันของเราแล้ว” นพ.เรืองฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

แม้ความฝันและปลายทางของความตั้งใจที่หมอริทวาดเอาไว้อาจจะยังดูห่างไกลออกไปอีกหลายช่วงตัวอยู่พอสมควร

 

แต่ตราบใดที่เขาและ THE RITZ CLINIC ยังคงมุ่งมั่น สัตย์ซื่อ และยึดถือในด้านความจริงใจในการรักษาและให้บริการคนไข้ ที่สุดแล้วแม้ปลายทางของการเดินทางจะยังไม่มีใครรู้ว่าจะมาถึงเมื่อไร แต่ ‘ระหว่างทาง’ ย่อมมีผู้คนที่เชื่อมั่นและไว้วางใจที่จะร่วมออกเดินทางไปกับพวกเขาอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเป็นแน่

 

The post คลินิกเสริมความงามแบบไม่ยัดเยียด จริงใจในการรักษา ฝันแสนเรียบง่ายของหมอริทที่หวังเปลี่ยนแปลงวงการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
PYONG Rehabilitation Clinic ฟื้นฟูโรคคนเมืองด้วยศาสตร์แห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟู https://thestandard.co/life/pyong-rehabilitation-clinic Tue, 09 Jan 2024 04:58:15 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=885655

ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาแถว Gaysorn Village คงเคยผ่านตากั […]

The post PYONG Rehabilitation Clinic ฟื้นฟูโรคคนเมืองด้วยศาสตร์แห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟู appeared first on THE STANDARD.

]]>

ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาแถว Gaysorn Village คงเคยผ่านตากับคลินิกเล็กๆ บริเวณชั้น L ที่มีบรรยากาศละม้ายคล้ายคลินิกกายภาพบำบัด แต่พอมองอีกทีป้ายกลับเขียนว่า ‘คลินิกด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู’ ซึ่งเจ้าของไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘เปียง-กันตพงศ์ ทองรงค์’ บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว-ไลฟ์สไตล์ เจ้าของเพจ Pyong Traveller X Doctor ที่สวมหมวกอีกใบเป็นคุณหมอด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร และ PYONG Rehabilitation Clinic

 

 

Why here?

 

แล้วเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพต่างกันไหม? อันที่จริงเวชศาสตร์ฟื้นฟูไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นศาสตร์แขนงใหญ่ที่รวมเอาหลายศาสตร์ไว้ด้วยกัน (กายภาพก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากที่สุดหลังเสร็จขั้นตอนรักษา ซึ่งโรคที่เกี่ยวกับเวชศาสตร์ฟื้นฟูส่วนใหญ่มักเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่มีผลพวงจากการรักษา การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา พฤติกรรมการใช้ชีวิต ภาวะเสื่อมถอยของร่างกาย ฯลฯ

 

ฉะนั้น การรักษาของ PYONG Rehabilitation Clinic จึงไม่ได้เน้นรักษาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง แต่เน้นฟื้นฟูด้วยหลากวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา การทำหัตถการ การใช้เครื่องมือ การออกกำลังกาย การทำกายภาพบำบัด ฯลฯ และที่สำคัญคือมีคุณหมอเฉพาะทางที่มีใบประกอบโรคศิลปะเป็นคนตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาด้วยตัวเองทุกขั้นตอน 

 

 

Worth it

 

PYONG Rehabilitation Clinic มีการรักษาเด่นๆ 2 แบบที่เราเห็นว่าน่าสนใจ อย่างแรกเลยคือ

 

Dry Needling การปักเข็มแผนตะวันตกเพื่อลดอาการปวด โดยคุณหมอจะใช้เข็มขนาดเล็กปักเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อบริเวณ Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ เพื่อลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งเป็นการรักษารูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ รักษาไม่นาน และหายได้เร็วกว่าวิธีอื่น 

 

ส่วนอีกโปรแกรมเป็นการรักษาด้วยเครื่อง Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) หรือเครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อาศัยหลักการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นที่เส้นประสาทโดยตรง ผ่านร่างกายและผ่านเสื้อผ้าได้ลึกถึง 10 เซนติเมตร โดยไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ทำให้อาการปวดจากระบบเส้นประสาทและกล้ามเนื้อลดลง โดยเครื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรม อาการบาดเจ็บจากกีฬา ความเสื่อมของกระดูกสันหลังและคอ เป็นต้น 

 

 

Good for

 

เราว่า PYONG Rehabilitation Clinic ค่อนข้างตอบโจทย์กับคนเมืองที่ต้องการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่รบกวนหรือสร้างความกวนใจให้แก่การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรคออฟฟิศซินโดรม โรคจากความเสื่อมของกระดูก อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ซึ่งข้อดีของคลินิกนี้ นอกจากคุณจะได้ตรวจกับคุณหมอเฉพาะทางแล้ว ยังเดินทางสะดวกมาก เพราะสามารถเดินจาก BTS สถานีชิดลมได้แค่ 5 นาที แถมยังรอคิวไม่นาน แค่มาตามเวลานัด สามารถจัดการตารางชีวิตได้ง่าย แต่อาจแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าโรงพยาบาลทั่วไปนิดหน่อย

 


 

PYONG Rehabilitation Clinic

 

Location: ชั้น L, Gaysorn Village, BTS สถานีชิดลม

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น. 

Budget: เริ่มต้น 1,500-4,000 บาทต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับแผนการรักษา)

Facebook: www.facebook.com/pyongrehab

Instagram: www.instagram.com/pyongrehabclinic

Website: www.pyongrehab.com

Map: https://maps.app.goo.gl/RaRXiBFrrvS73dDX8

 

 

The post PYONG Rehabilitation Clinic ฟื้นฟูโรคคนเมืองด้วยศาสตร์แห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟู appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชวนไปเล่นพิลาทิสพร้อมปรับสมดุลในร่างกายที่ Figure 8 Pilates ไพรเวตสตูดิโอที่ช่วยให้คุณค้นพบตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/figure-8-pilates/ Fri, 27 Oct 2023 09:00:42 +0000 https://thestandard.co/?p=858391 ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

เหตุผลที่การออกกำลังกายแบบไพรเวตเริ่มได้รับความนิยมมากข […]

The post ชวนไปเล่นพิลาทิสพร้อมปรับสมดุลในร่างกายที่ Figure 8 Pilates ไพรเวตสตูดิโอที่ช่วยให้คุณค้นพบตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

เหตุผลที่การออกกำลังกายแบบไพรเวตเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว การออกกำลังกายโดยมีครูผู้สอนดูแลอย่างใกล้ชิดยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์มากกว่า และลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บขณะออกกำลังกายได้มากขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากบาดเจ็บจนต้องหยุดออกกำลังกาย หรือแย่ไปกว่านั้นอาการบาดเจ็บอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน 

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates ในฐานะคนที่เคยบาดเจ็บจากการออกกำลังกายผิดท่าจนเกิดอาการปวดหลังและปวดเข่าเรื้อรัง หลังเข้ารับการรักษาและหยุดเล่นกีฬาหนักๆ หมอแนะนำให้เธอเล่นโยคะหรือไม่ก็พิลาทิส ซึ่งเป็นกีฬาที่เธอไม่เคยคิดจะเล่น

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

 

“เมื่อก่อนไม่ออกกำลังกายเลย แต่จู่ๆ เป็นภูมิแพ้หนักมากถึงขั้นต้องหาหมอ กินยา หมอแนะนำให้ออกกำลังกายร่วมด้วย เพราะกินยาตลอดคงไม่ดี เลยไปเล่นฟิตเนส ปรากฏว่าภูมิแพ้หายนะ แต่ได้อาการบาดเจ็บมาแทนเพราะดันเล่นผิดท่า คงเพราะชอบออกกำลังกายหนักๆ ด้วย แรกๆ พยายามฝืนเล่นต่อจนอาการเริ่มแย่ เวลาลุกจะปวดหลัง เวลาเดินหรือยืนลงน้ำหนักก็ปวดเข่า หมอบอกว่าเส้นเอ็นอักเสบ ต้องเลิกเล่นกีฬาหนักๆ ถ้าจะออกกำลังกายได้เบาที่สุดคือโยคะหรือพิลาทิส” 

 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอยอมเปิดใจเล่นโยคะ “เราเป็นคนตัวอ่อนอยู่แล้ว พอมาเล่นโยคะเลยไม่ต้องปรับตัวมาก เล่นสักพักอาการปวดเข่าและปวดหลังก็ดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด เพื่อนเลยแนะนำให้ไปเล่นพิลาทิส บอกว่าช่วยเรื่องปวดหลังและปวดเข่าได้ และช่วยทำให้แกนกลางลำตัวแข็งแรงด้วย”

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates 

 

ครูอิ๊งค์บอกว่า เธอเริ่มต้นด้วยการเข้า Group Class ซึ่งจะเล่นกับเครื่อง Reformer ซึ่งเป็นเครื่องที่สามารถบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ตั้งแต่หน้าท้อง แกนกลางลำตัว แขน ขา ไปจนถึงไหล่

 

“เข้าหลายคลาสแต่อาการก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้แย่ลงแต่ก็ไม่ได้หายขาด มารู้ทีหลังว่าที่ไม่เห็นผลเพราะโฟกัสกล้ามเนื้อไม่ถูกจุด พอเริ่มโฟกัสถูก แขม่วท้องเป็น อาการก็ดีขึ้น พอเห็นผลก็เริ่มสนุก เลยตัดสินใจไปเรียนพิลาทิสจริงจัง เพราะอยากรู้ว่ากล้ามเนื้อตรงไหนคืออะไร ต้องโฟกัสอย่างไร ก็พบว่ากีฬาพิลาทิสนั้นเป็นกีฬาที่ท้าทายร่างกายตลอดเวลา ระหว่างเรียนเหมือนได้ค้นพบตัวเอง รู้สึกมีความสุขเวลาได้อยู่กับสิ่งนี้ จึงตัดสินใจเปิดไพรเวตสตูดิโอ”

 

 

ครูอิ๊งค์บอกว่าถึงจะเคยเป็นนักการตลาด แต่พอลงมาจับธุรกิจของตัวเอง เธอไม่ได้มองการแข่งขันในตลาดกีฬาพิลาทิสเป็นตัวตั้งว่าจะทำเงินได้หรือไม่ สิ่งเดียวที่โฟกัสคือ ‘ความชอบ’ 

 

“ไม่ได้ศึกษาตลาดหรือมองใครเป็นคู่แข่งเลย คิดอย่างเดียวคือชอบและอยากถ่ายทอดสิ่งที่เรียนมา ตั้งใจเลยว่าจะสอนแบบไพรเวตเท่านั้น เพราะพอนึกย้อนประสบการณ์ที่เคยเจอตอนเรียน Group Class เราไม่อยากให้คนที่เริ่มเล่นพิลาทิสต้องล้มเลิกไปเพราะเล่นแล้วโฟกัสไม่ถูกจุด เนื่องจากเวลาเรียนเป็นคลาส ครูไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ผู้เรียนอาจโฟกัสผิดจุด ออกแรงผิดท่า เสี่ยงเกิดการบาดเจ็บได้

 

“แต่ถ้าคุณโฟกัสถูกจุด พิลาทิสจะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้ ซึ่งการสอนแบบไพรเวตทำให้เราแก้ปัญหาให้นักเรียนแต่ละคนได้ตรงจุดกว่า เพราะทุกคนมีปัญหาและความต้องการต่างกัน นี่แหละคือความท้าทาย เพราะไม่ใช่แค่ร่างกายแต่ละคนที่ต่างกัน แม้แต่คนเดิมมาแต่ละครั้งก็มีจุดที่ต้องแก้ปัญหาก็ต่างไป เราไม่รู้เลยว่าวันนี้นักเรียนจะมาด้วยอาการอะไร ก่อนหน้านี้ไม่ปวดไหล่ แต่วันนี้ปวด ต้องคิดท่าเพื่อแก้ปัญหากันสดๆ และต้องคิดให้เร็วด้วย”

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

 

ครูอิ๊งค์บอกว่า สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นพิลาทิสจะมาด้วยอาการบาดเจ็บหรือแค่อยากออกกำลังกาย การเริ่มต้นด้วย Private Class มีครูผู้สอนดูแลและบอกจุดโฟกัสกล้ามเนื้อที่ถูกต้องย่อมดีกว่า

 

“อยากให้มองว่าถ้าเริ่มต้นถูกต้อง โฟกัสถูกจุด ร่างกายจะไม่บาดเจ็บ พูดจากใจคนที่เคยเริ่มต้นจาก Group Class และบาดเจ็บเพราะโฟกัสไม่ถูกจุด โชคดีอาจรักษาหาย ถ้าโชคร้ายบาดเจ็บถาวรมันไม่คุ้ม นอกจากจะไม่เสี่ยงบาดเจ็บแล้ว ยังเห็นผลชัดเจนกว่า เมื่อสามารถโฟกัสได้ถูกจุด หายใจได้ถูกต้อง แล้วจะสลับไปเล่น Group Class ก็ได้ถ้าเล่นเป็นกับเครื่อง Reformer แต่ถ้าเป็นเครื่อง Cadillac แนะนำเป็น Private Class ดีกว่า เพราะจำเป็นต้องมีครูคอยดูแลอย่างใกล้ชิดในการทำท่าทางต่างๆ” 

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

 

หลังเปิดสาขาแรก RQ Residence สุขุมวิท ซอย 49/9 ไม่นาน Figure 8 Pilates ก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เมื่อถามว่าอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้คลาสถูกจองเต็มตลอด เธอบอกว่า “ปากต่อปากค่ะ”

 

“เชื่อว่านักเรียนสัมผัสได้ว่าเราจริงใจ อยากให้ทุกคนที่เข้ามาเรียนได้อะไรกลับไป คือถ้าบาดเจ็บมาต้องดีขึ้น อยากมาออกกำลังกายต้องได้ผลลัพธ์ที่ดี พอเห็นผลเขาก็บอกต่อ อีกส่วนคงเพราะเริ่มมีดาราเข้ามาเล่นแล้วถ่ายรูป ทำคลิปโพสท่าสวยๆ ลงโซเชียลก็ยิ่งเป็นที่รู้จัก เราว่ายุคนี้โซเชียลมีเดียมีผลอย่างมาก เมื่อก่อนเวลาจะเลือกเข้าคลาสอะไรจะดูว่าสตูดิโอน่าเชื่อถือหรือไม่ คนสอนเป็นใคร ตอนนี้มีเรื่องของภาพลักษณ์เข้ามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจด้วย เปิดเข้าไปในเพจ ในไอจี ดูว่าที่นี่ใครมาเล่นบ้าง บังเอิญว่าที่นี่เรามีดารามาเล่น เลยช่วยคอนเฟิร์มว่าเราเป็นที่ไว้วางใจ 

 

“และที่มีส่วนเช่นกันคือ คุณครูทุกคนของที่นี่ต้องมีเอเนอร์จี้ในการสอน สามารถส่งต่อพลังในการสอนให้กับนักเรียนได้ เราจะเทรนคุณครูทุกคนให้มีศักยภาพและการสอนที่ดี ถ้าคุณครูไม่มีความสุขในการสอนก็จะไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้กับนักเรียนได้” 

 

ล่าสุด Figure 8 Pilates ขยายสาขาที่ 2 เลือกปักหมุดที่โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ โดยยังคงยึดคอนเซปต์เดิมคือ ไม่เปิด Group Class เปิดสอนแค่ Private Class และเพิ่ม Duet Class เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายย่านราชพฤกษ์

 

“จากสาขาแรกจนถึงวันนี้ก็ประมาณ 4 ปีแล้ว เราเริ่มต้นจากห้องเล็กๆ ชวนคนรู้จักมาเล่น พอเขามาเล่นแล้วประทับใจก็แนะนำต่อ จากห้องเล็กๆ ก็เริ่มขยายเป็นสองห้อง และวันนี้ก็เปิดสาขาสองตามที่ตั้งใจ เลือกมาเปิดที่โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ โดยยังคงคอนเซปต์เดิม แต่เพิ่มคลาสสำหรับคนที่ต้องการมาเรียนเป็นคู่ด้วย เพราะโซนนี้นอกจากจะมีโรงเรียนนานาชาติแล้วก็ยังมีหมู่บ้านจัดสรรค่อนข้างเยอะ มองกลุ่มเป้าหมายเป็นครอบครัวหรือคุณแม่ที่มีเวลาว่างระหว่างที่ลูกไปโรงเรียน หรือคู่รักและเพื่อนที่อยากมาออกกำลังกายด้วยกัน

 

ครูอิ๊งค์-ดวงพร ต๊ะปัญญา เจ้าของ Figure 8 Pilates

 

“การเล่นพิลาทิสมันคือการดูแลร่างกาย แนะนำว่าควรเรียนต่อเนื่อง ช่วง 3 เดือนแรกเป็นการปรับร่างกาย ประมาณ 6 เดือนร่างกายจะยืดหยุ่นได้ดีขึ้น แกนกลางลำตัวแข็งแรง ได้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ส่วนกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะได้บางจุด ที่แน่ๆ คือช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ หน้าท้องแบนราบมากขึ้น ลดความเครียด และฝึกสมาธิ รวมทั้งปรับการหายใจให้ดีขึ้น บำบัดอาการปวดคอ ปวดหลัง และปวดบ่าได้แน่นอน ยิ่งถ้าเล่นสม่ำเสมอทุกอาทิตย์จะแข็งแรงขึ้นแน่ๆ แต่ถ้ามาๆ หายๆ จะเหมือนนับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง” 

 

คนที่ยังไม่เคยเล่นก็ไม่ต้องกังวลไป ครูอิ๊งค์บอกว่า “ใครๆ ก็เล่นได้ ยกเว้นเคสที่เพิ่งผ่าตัดมาไม่เกิน 6 เดือนอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ ถ้าแพทย์อนุญาตอาจต้องขอดูผลเอ็กซเรย์เพื่อความปลอดภัยว่ามีจุดไหนที่ต้องระวังบ้าง ไม่อยากให้กังวล โดยเฉพาะถ้าเลือกเล่นกับเรา เพราะอย่างที่บอกเราจะดูแลนักเรียนตามสรีระร่างกายของแต่ละคน เพื่อออกแบบท่าทางการเล่นที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ตรงจุด และทำให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน”

 

ใครอยากทดลองเล่น ตอนนี้มีโปรโมชันฉลองเปิดสาขา สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ทางเพจ Facebook: Figure eightpilates และ Instagram: Figure8pilates ได้เลย

The post ชวนไปเล่นพิลาทิสพร้อมปรับสมดุลในร่างกายที่ Figure 8 Pilates ไพรเวตสตูดิโอที่ช่วยให้คุณค้นพบตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เรื่องน้ำดื่มให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ Just Drink: เบื้องหลังแนวคิดที่เข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มน้ำของคุณให้ดีกว่าเดิม! [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/coway-just-drink/ Fri, 28 Apr 2023 03:22:14 +0000 https://thestandard.co/?p=782174

ในช่วงหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผู้บริโภคในไทยให้ความ […]

The post เรื่องน้ำดื่มให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ Just Drink: เบื้องหลังแนวคิดที่เข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มน้ำของคุณให้ดีกว่าเดิม! [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในช่วงหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผู้บริโภคในไทยให้ความสำคัญกับชีวิตสุขภาพดีมากขึ้นผ่านการเลือกอาหาร

 

งานวิจัยจากมินเทลพบว่า แรงจูงใจในการกินอาหารเพื่อสุขภาพของคนไทยนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปจากการกินเพื่อป้องกันโรค ผู้บริโภคในปัจจุบันได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย (38%) และการมีสุขภาพจิตที่ดี (28%) ผู้บริโภคจำนวนน้อยกว่า 1 ใน 5 คน (17%) ระบุว่าการป้องกัน/รักษาโรคเรื้อรังเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

 

ขณะเดียวกันผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ความงามในไทยได้เปลี่ยนความสนใจจากผลิตภัณฑ์แก้ปัญหา มาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่ดูแลเราได้มากขึ้นในช่วงหลังการระบาดสิ้นสุดลง

 

สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริโภคในไทยกำลังเปลี่ยนจากการใช้ความคิดแบบเร่งด่วนที่พบเห็นได้ทั่วไปในช่วงวิกฤต มาเป็นการวางแผนเพื่ออนาคตและคิดอะไรเป็นระยะยาวมากขึ้นกว่าเดิม

 

งานวิจัยทั้ง 2 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า คนไทยนั้นกำลังให้ความสนใจกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องของอาหารหรือวิตามินบำรุงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ‘น้ำ’ ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

 

‘การขาดน้ำ’ ส่งผลเสียมากกว่าที่คิด

 

อย่างที่เรารู้กัน ‘น้ำสะอาด’ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกายมนุษย์ เพราะน้ำคือส่วนประกอบหลักของร่างกายมนุษย์ ประมาณ 60-70% ของน้ำหนักตัว

 

 

 

ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดสามารถช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ที่สำคัญน้ำมีบทบาทในการขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกายผ่านการขับถ่าย การดื่มน้ำสะอาดจึงช่วยเสริมสร้างสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและไต

 

การดื่มน้ำยังมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เมื่อการศึกษาใหม่จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institutes of Health) ซึ่งเผยแพร่เมื่อต้นปี 2023 เผยว่า ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับน้ำเพียงพออาจแก่เร็วขึ้น มีความเสี่ยงสูงต่อโรคเรื้อรัง และมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ดื่มน้ำเพียงพอ

 

ผลวิจัยดังกล่าวอิงจากข้อมูลที่รวบรวมกว่า 25 ปีจากผู้ใหญ่มากกว่า 11,000 คนในอเมริกา ซึ่งนักวิจัยมองว่าระดับโซเดียมในเลือดของผู้เข้าร่วมเป็นเสมือนตัวแทนในการให้ความชุ่มชื้น เนื่องจากความเข้มข้นที่สูงขึ้นเป็นสัญญาณว่าพวกเขามักไม่ได้บริโภคของเหลวเพียงพอ

 

นักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมที่มีระดับโซเดียมในเลือดสูงจะแก่เร็วกว่าผู้ที่มีระดับโซเดียมในเลือดต่ำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในตัวบ่งชี้สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด

 

เช่นเดียวกับที่การออกกำลังกายเป็นประจำและโภชนาการที่เหมาะสมถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี นาตาเลีย ดมิเทรีวา หนึ่งในผู้เขียนการศึกษา นักวิจัยจากสถาบันหัวใจ ปอด และเลือดแห่งชาติของ NIH กล่าวว่า “หลักฐานที่เกิดขึ้นใหม่จากการศึกษาของเราและการศึกษาอื่นๆ บ่งชี้ว่าการดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมออาจชะลอกระบวนการชรามากยิ่งขึ้น”

 

สิ่งที่น่าตกใจคือ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้คนทั่วโลกไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับการดื่มน้ำทั้งหมดในแต่ละวัน National Academy of Medicine แนะนำให้ผู้หญิงบริโภคของเหลว 2.7 ลิตรต่อวัน และผู้ชายควรบริโภคของเหลว 3.7 ลิตรต่อวัน ซึ่งคำแนะนำนี้รวมถึงของเหลวและอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น ผลไม้ ผัก และซุป

 

ถึงอย่างนั้น “น้ำเปล่านั้นดีที่สุด” มิตเชลล์ รอสเนอร์ หัวหน้าภาควิชาแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียกล่าว

 

‘เรื่องน้ำดื่มให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ Just Drink’

 

แม้จะรู้ว่าน้ำเป็นสิ่งสำคัญกับสุขภาพ แต่การหาน้ำดื่มสะอาดและมีคุณภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กลายเป็นที่มาของ Coway ซึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่จะทำให้คุณได้ดื่มน้ำสะอาดและดีต่อสุขภาพอย่างง่ายดาย

 

 

ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะเห็นคำว่า ‘Just Drink’ และ ‘แบรนด์ Coway’ แบรนด์จากเกาหลีผ่านหลากหลายสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ ตลอดจนสื่อนอกบ้านที่เราสามารถพบเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง

 

แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความเข้าใจง่ายของแนวคิดนี้นั้น กลับอัดแน่นไปด้วยการบริการ ความสะดวกสบาย และความสะอาดจริง ที่ Coway คิดมาเป็นอย่างดี เพื่อมอบความแปลกใหม่ของการดื่มน้ำให้กับผู้บริโภคทุกคน ทำให้ลูกค้าทุกคนได้ Just Drink จริงๆ

 

สำหรับแบรนด์ การมีสโลแกนที่เข้าใจง่ายถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่จะเป็นการส่งต่อความหมายและความสำคัญของแบรนด์ให้ลูกค้าเข้าใจอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกเชื่อมโยงและจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

 

ตลอดจนช่วยสร้างความประทับใจรวมไปถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ นอกจากนี้ยังทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือและมีความเชื่อมโยงกับลูกค้า

 

ซึ่งสำหรับ Coway นั้น คำว่า ‘Just Drink’ คือแนวคิดใหม่ที่เป็นการสะท้อนความตั้งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าทำเพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือ ‘แค่ดื่ม’ เพราะ Coway เชื่อว่า ‘เรื่องน้ำดื่มให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ Just Drink’

 

 

Coway การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันดีขึ้น สะดวกขึ้น

 

Coway นั้นเชื่อในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันดีขึ้น สะดวกขึ้น นั่นคือความตั้งใจของ Coway ที่มอบให้ผู้บริโภคทุกคนในการใช้ชีวิตบนไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

 

ด้วยเหตุนี้ Coway จึงนำเสนอระบบแบบใหม่ ด้วยการนำระบบสมัครสมาชิก (Subscribe) เข้ามาเป็นรายแรกและแบรนด์เดียว ที่มุ่งเน้นพัฒนาการบริการให้กับผู้บริโภคทุกคน

 

เพราะ Coway เข้าใจว่าทุกวันนี้ชีวิตของผู้คนมีเรื่องให้ต้องทำอีกเยอะ จึงอยากเป็น One Stop Service ที่แค่สมัครสมาชิก Coway จะดูแลทุกอย่าง รวมถึงระบบการบริการที่ทำให้ผู้บริโภคดื่มน้ำได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะง่ายได้

 

 

นั่นคือที่มาของแนวคิดใหม่สำหรับ Coway ที่อยากให้ผู้บริโภคแค่ Just Drink ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับน้ำสะอาดและสดชื่นได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่ม และทิ้งความกังวลเรื่องการทำน้ำให้บริสุทธิ์ไว้ข้างหลัง สิ่งที่ต้องทำแค่ Just Drink นอกนั้นทาง Coway ดูแลให้หมด

 

 

 

สิ่งที่ทำให้ Coway แตกต่างจากเครื่องกรองน้ำยี่ห้ออื่นคือ ความมุ่งมั่นของ Coway ในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้คนผ่านรูปแบบการสมัครสมาชิกที่ไม่เหมือนใคร เพียงสมัครสมาชิก คุณจะได้รับบริการและการบำรุงรักษาเป็นประจำทุกๆ 2 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องกรองน้ำของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ

 

ซึ่งนี่คือ 3 เหตุผลที่ทำให้ Coway แตกต่างจากเครื่องกรองน้ำแบบเดิมๆ ได้แก่

 

  1. Just Drink สะอาดจริง: เพราะ Coway มีนวัตกรรมเครื่องกรองน้ำดื่มสุดสะอาดที่ลูกค้าไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองเอง และไม่ต้องจำวันเปลี่ยนไส้กรอง เพราะ Coway มีบริการให้ทั้งหมด

 

  1. Just Drink สะดวกจริง: เพราะ Coway มีบริการติดตั้งให้ฟรี ซ่อมฟรี แถมยังมี Expert Care เข้ามาดูแลให้ทุกๆ 2 เดือน ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดอายุสัญญา

 

 

  1. Just Drink บริการดีจริง: เพราะ Coway มีพนักงานที่เข้าใจเรื่องการดูแลอย่างลึกซึ้ง ชื่อ Cody มาดูแลความสะอาดให้ และเปลี่ยนไส้กรองให้ตลอดอายุสัญญา

 

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ด้วยเทรนด์สุขภาพที่มาแรง คนยุคใหม่เลยเริ่มหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องน้ำดื่มสะอาด ทำให้แบรนด์ Coway อยากมีส่วนช่วยให้คนได้เข้าถึงน้ำสะอาดที่มาพร้อมกับบริการซึ่งอยากทำให้คนได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มน้ำยุคใหม่แค่ ‘Just Drink’

 

มาร่วมบอกลาเครื่องกรองน้ำเครื่องเก่าของคุณ แล้วเข้าสู่ยุคของการดื่มน้ำสะอาดอย่างง่ายดาย ที่มาพร้อมกับดีไซน์สวยแบบที่ไม่ต้องซ่อนใต้ซิงก์อีกต่อไป เพราะสามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ เพียงสมัครสมาชิกตอนนี้และให้ Coway เข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มน้ำของคุณไปตลอดกาล! ได้ที่ https://bit.ly/3UPn8SR

 

อ้างอิง:

The post เรื่องน้ำดื่มให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ Just Drink: เบื้องหลังแนวคิดที่เข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มน้ำของคุณให้ดีกว่าเดิม! [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เผยความลับของ ‘มะเขือเทศ’ ที่แฟนมะเขือเทศตัวจริงอาจไม่เคยรู้ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/tomato-secrets-roza/ Thu, 30 Mar 2023 05:00:16 +0000 https://thestandard.co/?p=770408

เคยสงสัยไหมว่า ‘มะเขือเทศ’ ผลไม้ที่เราเห็นกันอยู่เป็นปร […]

The post เผยความลับของ ‘มะเขือเทศ’ ที่แฟนมะเขือเทศตัวจริงอาจไม่เคยรู้ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

เคยสงสัยไหมว่า ‘มะเขือเทศ’ ผลไม้ที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำในเมนูอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่มที่คุ้นเคย แท้จริงแล้วมะเขือเทศมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ยังมีความลับน่ารู้เกี่ยวกับมะเขือเทศที่เราเคยรู้กัน เช่น มะเขือเทศต่างสายพันธุ์ ก็มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันแล้ว หรือที่ใครบอกว่ากินมะเขือเทศจะช่วยให้ผิวสวย ระบบไหลเวียนโลหิตดี ลดระดับไขมันในเลือด ต้องกินแบบไหนถึงจะได้ประโยชน์สูงสุดกันแน่

 

 

ขอคัด 5 ความลับคุณประโยชน์ ‘มะเขือเทศ’ ที่คนรักสุขภาพต้องรู้ 

 

  1. ปรุงด้วยความร้อนได้ไลโคปีนสูงสุด
    อย่างที่รู้กันว่า ‘ไลโคปีน’ เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก และในมะเขือเทศ 100 กรัม จะมีปริมาณไลโคปีนสูงถึง 0.9-9.30 มิลลิกรัม แต่ถ้าจะกินมะเขือเทศให้ได้ไลโคปีนสูงสุดต้องกินโดยผ่านความร้อน เพราะเมื่อมะเขือเทศผ่านความร้อน ผนังเซลล์ของมะเขือเทศจะแตกออก เมื่อกินจะทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดี 

 

  1. ดื่มน้ำมะเขือเทศตอนท้องว่างหรือหลังอาหารทันที
    ลำดับการดื่มน้ำมะเขือเทศเกี่ยวข้องโดยตรงกับสารอาหารที่ร่างกายจะได้รับ ถ้าอยากให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากมะเขือเทศแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ควรดื่มน้ำมะเขือเทศตอนท้องว่าง โดยหยดน้ำมันลงในน้ำมะเขือเทศจะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น หรือไม่ก็ดื่มหลังอาหารทันที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดียิ่งขึ้น

 

 

  1. ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศให้ไลโคปีนมากกว่ากินมะเขือเทศสด
    มะเขือเทศเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ลบล้างความเชื่อที่ว่าของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้ว นอกจากตัวอย่างของการนำไปปรุงสุกอย่างที่บอกไปในข้อแรก การผลิตผลิตภัณฑ์มะเขือเทศยังทำให้ไลโคปีนเปลี่ยนรูปแบบจากออลทรานส์ (All-trans-isomers) เป็นชนิดซิส (Cis-isomers) หรือชนิดที่ละลายได้ดีขึ้น เทียบซอสมะเขือเทศ จะมีปริมาณไลโคปีน 6.20 กรัมต่อ 100 กรัม ส่วนมะเขือเทศสดจะมีไลโคปีนเพียง 0.88-4.20 กรัมต่อ 100 กรัม 

 

  1. ลองจับคู่มะเขือเทศกับกิมจิหรือโยเกิร์ต
    มีงานวิจัยพบว่าในมะเขือเทศอุดมไปด้วยกรดกลูตามิก หนึ่งในกรดอะมิโนที่เพิ่มรสชาติอูมามิให้กับมะเขือเทศ ยังมีประโยชน์ช่วยปกป้องลำไส้ ถ้าอยากกินให้อร่อยและได้ประโยชน์จากกรดกลูตามิกแบบเต็มๆ ลองจับคู่มะเขือเทศดิบกับกิมจิ หรือจะใส่ลงไปในโยเกิร์ตกินเป็นมื้อเช้าก็เป็นทางเลือกที่ดี 

 

  1. มะเขือเทศปั่น เมนูเติมกาบาได้มากขึ้น 1.7 เท่า
    ‘กาบา’ กรดอะมิโนอีกชนิดที่พบในมะเขือเทศ มีสรรพคุณช่วยรักษาสมดุลของระบบสารสื่อประสาท ช่วยให้ผ่อนคลาย จริงๆ แล้วไม่ว่าจะกินมะเขือเทศรูปแบบไหนก็ได้รับกาบาเหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้กาบาเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ควรนำมะเขือเทศไปปั่น จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมกาบาได้สูงกว่ากินดิบ ถ้ากลัวว่ากลิ่นจะแรงเกินไป แนะนำให้ปั่นพร้อมน้ำแข็งจะช่วยลดกลิ่นของมะเขือเทศได้

 

 

ถ้าคุณคิดว่านี่คือความลับทั้งหมดของมะเขือเทศแล้ว ลองเปิดใจและเปิดเข้าไปที่เว็บไซต์ www.rozatomatomuseum.com เพราะเราจะพาคุณวาร์ปสู่โลกมะเขือเทศอันน่าอัศจรรย์ สารพันประโยชน์ของผลไม้สีแดงที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์มหาศาล สนุกไปกับวิวัฒนาการการนำมะเขือเทศสดๆ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ ไปจนถึงเมนูอร่อยๆ จากผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ที่รับรองว่าทุกสูตร ‘อร่อยได้ ประโยชน์ด้วย’

 

ลืมภาพเว็บไซต์ให้ความรู้ที่มีตัวหนังสือยาวพรืดไปได้เลย เพราะเว็บไซต์ #RozaTomatoMuseum ที่เรากำลังจะชวนทุกคนให้คลิกเข้าไปผจญภัยค้นหาความลับสนุกๆ ในโลกมะเขือเทศนี้ต่างจากเว็บไซต์เดิมๆ ที่เราเคยคลิก

 

ถึงจะเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับมะเขือเทศ แต่กลับทำให้เราสนุกตั้งแต่คลิกแรก! ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวการ์ตูนแสนน่ารัก มีการนำแอนิเมชันมาใส่ให้ดูสนุก เวิร์กสุดๆ คือสรุปเรื่องประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขภาพ และการเกษตรให้เข้าใจง่าย ไม่เหมือนกำลังอ่านเนื้อหาวิชาการเลยสักนิด

 

แถมมีลูกเล่นในทุกชั้นเหมือนกำลังเล่นเกม เช่น ทำขวดซอสมะเขือเทศเป็น 3D ให้เราหมุนๆ ดูรอบขวด หรือตอนดูฟาร์มแค่คลิกเมาส์ก็เห็นฟาร์มมะเขือเทศได้แบบ 360 Interactive เห็นได้รอบฟาร์ม ให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในฟาร์มมะเขือเทศจริง อยากให้ลองเข้าไปกดเล่นกันดู เพราะกว่าจะรู้ตัวก็คลิกเพลินๆ ลงมาถึงชั้น 5 แบบไม่รู้ตัว

 

 

อย่างชั้นที่ 1 พาเราไปรู้จักจุดเริ่มต้นของตำนานมะเขือเทศ ก่อนจะเข้าสู่ชั้น 2 ไปล้วงลึกความลับกว่าจะเป็นซอสมะเขือเทศโรซ่าสักขวด ต้องผ่านกระบวนการพิถีพิถันและความใส่ใจขนาดไหน พร้อมสำรวจฟาร์มโรซ่าแบบ 360 Interactive จุดเริ่มต้นความอร่อยไม่เหมือนใคร 

 

สายสุขภาพน่าจะชอบชั้นที่ 3 เพราะนอกจากจะได้สนุกกับเรื่องราวของนวัตกรรมการผลิตและงานดีไซน์ขวด ยังอัดแน่นไปด้วยเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ไลโคปีน’ และไขข้อข้องใจว่า ‘ซอสมะเขือเทศ’ จะให้ไลโคปีนที่มากกว่าการกินมะเขือเทศสดได้อย่างไร ส่วนชั้น 4 มีแจกสูตรลับเมนูอร่อยที่มีมะเขือเทศเข้มข้นผสมไลโคปีนเป็นส่วนประกอบด้วยละ 

 

ปิดท้ายความสนุกด้วยการวัดคะแนนแฟนพันธุ์แท้เรื่องมะเขือเทศกันที่ชั้น 5 มาวัดกันไปเลยว่าใครความจำดีสุดก็ลุ้นรับรางวัลจากโรซ่า ส่งตรงความอร่อยได้ ประโยชน์ด้วย ถึงบ้าน เพื่อเอาไปพิสูจน์ความอร่อยด้วยตัวเอง แล้วจะเข้าใจว่าทำไม ‘เรื่องมะเขือเทศต้องโรซ่า’

 

 

ถ้าอยากรู้ว่าโลกมะเขือเทศมีความลับอะไรซ่อนอยู่ คลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3Z0f41X ตอนนี้เลย! 

 

อ้างอิง:

The post เผยความลับของ ‘มะเขือเทศ’ ที่แฟนมะเขือเทศตัวจริงอาจไม่เคยรู้ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
LIFE TIP: Plant-based กินอย่างไรให้ได้สุขภาพ? https://thestandard.co/life-tip-02032023/ Thu, 02 Mar 2023 01:54:20 +0000 https://thestandard.co/?p=757458 Plant-based

 การกินอาหาร Plant-based หรืออาหารที่มาจากพืชเป็นห […]

The post LIFE TIP: Plant-based กินอย่างไรให้ได้สุขภาพ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Plant-based

 การกินอาหาร Plant-based หรืออาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก (อย่างน้อย 95%) สามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางชนิด ช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น และเพิ่มระดับพลังงาน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมากินอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยคุณเริ่มฝึกกินอาหาร Plant-based ได้ง่ายขึ้น 

 

เริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป  

คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีกินไปกินอาหารจากพืชเป็นหลักในชั่วข้ามคืน ลองเริ่มต้นด้วยการเพิ่มอาหารจากพืชเข้าไปในมื้ออาหารของคุณ เช่น ผลไม้ ผัก เมล็ดธัญพืช และพืชตระกูลถั่ว ในขณะเดียวกันก็ให้ค่อยๆ ลดปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ลง

 

ทดลองส่วนผสมใหม่ๆ

ให้ลองส่วนผสมใหม่ๆ ที่ทำจากพืชมาประกอบอาหารมากขึ้น เช่น เต้าหู้ หรือเทมเป้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับมื้ออาหารของคุณ ทดลองทำอาหารด้วยวิธีต่างๆ เช่น ปิ้ง ย่าง หรือผัด เพื่อดึงรสชาติของส่วนผสมเหล่านี้ออกมา

 

วางแผนมื้ออาหารล่วงหน้า

การวางแผนมื้ออาหารของคุณล่วงหน้าสามารถช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังกินอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ ให้ลองทำรายการอาหารที่มีส่วนผสมจากพืชเป็นหลัก และลองสูตรอาหารใหม่ๆ ทุกสัปดาห์เพื่อให้มื้ออาหารของคุณน่าสนใจและไม่เบื่อเร็ว 

 

เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง

เรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งโปรตีนจากพืชต่างๆ เช่น ถั่วต่างๆ ควินัว และวิธีรวมโปรตีนเหล่านี้เข้ากับมื้ออาหารของคุณ อ่านหนังสือ บทความ ดูวิดีโอ หรือเข้าร่วมเวิร์กช็อปเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการจากพืช คุณจะสนุกกับการทำอาหารและได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณยืนระยะในการกิน Plant-based ได้นานขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรจำไว้ว่าการเปลี่ยนมากินอาหารจากพืชเป็นทางเลือกส่วนบุคคลและอาจต้องใช้เวลาบวกกับความอดทนกับตัวเอง ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้และความพยายามของคุณเพียงเล็กน้อยที่จะปรับวิธีกิน ร่างกายของคุณก็จะได้รับอาหารจากพืชที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยได้ในเวลาอันรวดเร็ว 

The post LIFE TIP: Plant-based กินอย่างไรให้ได้สุขภาพ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
POP Tip: กินอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน ดีต่อสุขภาพ https://thestandard.co/pop-tip-05022023/ Sun, 05 Feb 2023 02:00:42 +0000 https://thestandard.co/?p=745226

รู้หรือไม่ว่าในตอนเช้าที่มีแสงแดดส่อง หากเราออกไปรับแดด […]

The post POP Tip: กินอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน ดีต่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>

รู้หรือไม่ว่าในตอนเช้าที่มีแสงแดดส่อง หากเราออกไปรับแดดในช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอ เช่นประมาณ 7-8 โมง สารเซโรโทนินจะหลั่งออกมา และกลุ่มนักเขียน Tokio Knowledge ได้เขียนถึงข้อมูลที่น่าสนใจว่า หากคนเรากินอาหารเช้าโดยรับแสงอาทิตย์ยามเช้าไปด้วย นอกจากร่างกายจะได้รับสารอาหารแล้ว ยังช่วยให้สมองตื่นตัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และควรกินอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน จะดีต่อสุขภาพ 

 

 

Pop Tip:

รู้หรือไม่ว่าการกินอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอนนั้นดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการกินอาหารเช้าโดยรับแสงอาทิตย์ยามเช้าไปด้วย เซโรโทนินในสมองและระบบประสาทจะหลั่งออกมา ช่วยให้รู้สึกสงบสุข พร้อมเริ่มวันใหม่อย่างสุขภาพดี 

 

ภาพ: Shutterstock 

The post POP Tip: กินอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน ดีต่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
POP Tip: แนะนำอาหารที่ดีต่อการนอน โดยให้เน้นกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง https://thestandard.co/pop-tip-04022023/ Sat, 04 Feb 2023 02:00:39 +0000 https://thestandard.co/?p=745225

การเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกายก็จะส่งผลดีต่อการนอนหลับ […]

The post POP Tip: แนะนำอาหารที่ดีต่อการนอน โดยให้เน้นกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>

การเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกายก็จะส่งผลดีต่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพด้วยเช่นกัน สิ่งที่นักโภชนาการญี่ปุ่นมักแนะนำเสมอคือ ให้เลือกกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารเข้าไว้ ซึ่งตรงกับข้อแนะนำโดย มิฮะชิ มิโฮะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดการนอน ที่บอกว่าอาหารญี่ปุ่นมีไขมันน้อย และอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ เมื่อเลือกกินสิ่งที่ดีเข้าไป นอกจากจะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังจะมีส่วนช่วยให้การนอนหลับในแต่ละวันดีขึ้น และทุกๆ เช้าที่คุณจะตื่นขึ้นมาก็จะสดใสและนอนเต็มอิ่มด้วย 

 

 

Pop Tip:

อาหารที่ดีต่อการนอนหลับที่แนะนำโดยนักโภชนาการญี่ปุ่น คือขนมปังข้าวไรย์ โซบะ หัวไชเท้าแห้ง รากโกะโบ รากบัว เห็ดหูหนูแห้ง เห็ดหอมแห้ง นัตโตะที่ทำจากถั่วเหลือง ผงถั่วเหลือง ถั่วแดงแห้ง อะโวคาโด และปวยเล้ง โดยนำไปประกอบอาหารในแต่ละมื้อตามใจชอบ 

 

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ

ภาพ: Shutterstock 

The post POP Tip: แนะนำอาหารที่ดีต่อการนอน โดยให้เน้นกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>
POP Tip: วิธีแก้ไขและป้องกันอาการปวดศีรษะเรื้อรังที่พบมากในผู้หญิง https://thestandard.co/pop-tip-03022023/ Fri, 03 Feb 2023 02:00:37 +0000 https://thestandard.co/?p=745222

อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นปัญหาประจำกายของเหล่ามนุษย์เงินเ […]

The post POP Tip: วิธีแก้ไขและป้องกันอาการปวดศีรษะเรื้อรังที่พบมากในผู้หญิง appeared first on THE STANDARD.

]]>

อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นปัญหาประจำกายของเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ส่วนมากจะเริ่มจากอาการปวดไหล่หรือปวดคอก่อน จากนั้นจะค่อยๆ ลามไปสร้างปัญหาอื่นๆ เช่นนำไปสู่อาการปวดศีรษะตามมาได้ ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าอาการปวดศีรษะเรื้อรังนั้นพบมากในผู้หญิง คิดเป็น 60-70% ของอาการปวดศีรษะทั้งหมดเลยทีเดียว สาเหตุส่วนมากมักจะมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ หรือทำงานนั่งโต๊ะนานๆ จนทำให้เม็ดเลือดไหลเวียนไม่ดี กล้าเนื้อตึงและเกร็ง ทำให้รู้สึกปวด และใครที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนไม่พักผ่อน ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังได้เช่นกัน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับ

 

 

Pop Tip:

อาการปวดศีรษะเรื้อรังนั้นพบมากในผู้หญิง คิดเป็น 60-70% ของอาการปวดศีรษะทั้งหมด ในช่วงอายุ 30-40 ปี วิธีแก้คือควรปรับอิริยาบถในการทำงานให้เหมาะสม หมั่นลุกเดิน หรือขยับร่างกายบ่อยๆ ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น 

 

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ

ภาพ: Shutterstock

The post POP Tip: วิธีแก้ไขและป้องกันอาการปวดศีรษะเรื้อรังที่พบมากในผู้หญิง appeared first on THE STANDARD.

]]>
POP TIP: แค่วางผ้าอุ่นๆ ลงบนเปลือกตา ก็ช่วยผ่อนคลายอาการตาล้าอย่างได้ผล https://thestandard.co/pop-tip-02022023/ Thu, 02 Feb 2023 00:00:40 +0000 https://thestandard.co/?p=744519

เดินทางเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของสัปดาห์กันแล้ว เชื่อว่าผู้อ่ […]

The post POP TIP: แค่วางผ้าอุ่นๆ ลงบนเปลือกตา ก็ช่วยผ่อนคลายอาการตาล้าอย่างได้ผล appeared first on THE STANDARD.

]]>

เดินทางเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของสัปดาห์กันแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ดวงตาหนักอึ้ง และอยากให้ถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เร็วๆ แต่ช้าก่อน ยังเหลือวันทำงานอีก 2 วัน ก่อนที่อาการตาล้าจะกำเริบ ชวนให้ปวดหัวและรบกวนการทำงาน เรามีวิธีง่ายๆ ในการช่วยผ่อนคลายรอบดวงตา และโบกมือลาอาการตาล้าอย่างได้ผลด้วยการผ้าขนหนูอุ่นๆ แค่ผืนเดียว 

 

 

Pop Tip:

อาการตาล้าเกิดจากกล้ามเนื้อรอบดวงตาเกร็ง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ปกติ การนวดเบาๆ บริเวณรอบดวงตาช่วยได้ แนะนำให้พักสายตาด้วยการหลับตาทุกๆ ชั่วโมง และใช้ผ้าขนหนูอุ่นๆ วางบนดวงตาให้ตาได้พักสักครู่ วิธีนี้ทำกี่ครั้งก็ได้ผล 

 

ภาพ: Shutterstock

The post POP TIP: แค่วางผ้าอุ่นๆ ลงบนเปลือกตา ก็ช่วยผ่อนคลายอาการตาล้าอย่างได้ผล appeared first on THE STANDARD.

]]>