Travel – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 21 Jun 2024 05:23:39 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เมื่อของเด็ดทั่วไทยก็ Cool ไม่แพ้ใคร พบภาพยนตร์โฆษณาสุดครีเอทีฟ ‘ดั้นด้นทั่วไทยเพราะไทยเด็ด’ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/ptt-station-thai-travel/ Fri, 21 Jun 2024 05:23:39 +0000 https://thestandard.co/?p=947397 PTT Station

ห้ามพลาดทุกประการทั้งปวง! เมื่อไทยเด็ดดั้นด้นไปดึงและดั […]

The post เมื่อของเด็ดทั่วไทยก็ Cool ไม่แพ้ใคร พบภาพยนตร์โฆษณาสุดครีเอทีฟ ‘ดั้นด้นทั่วไทยเพราะไทยเด็ด’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
PTT Station

ห้ามพลาดทุกประการทั้งปวง! เมื่อไทยเด็ดดั้นด้นไปดึงและดันของเด็ดดวงทั่วไทยดีๆ มาให้ดูกันแล้วกับภาพยนตร์โฆษณาน่ารักใจฟูแบบไม่ไหวแล้วอย่าง ‘ดั้นด้นไปเพราะไทยเด็ด’ ที่กำลังไวรัลไปให้ดุ๊กดิ๊กกันทั่วทุกแพลตฟอร์ม

 

Road Trip หาของดีและเด็ดทั่วไทย

 

ไม่ว่าจะใครก็อยากได้ ‘ของเด็ด’ ดีๆ มาประดับหรือลองกินลองใช้กันสักครา อย่างการเดินทางของแก๊งเพื่อน 4 ตัวละครที่ดั้นด้นไป 4 ภาคของไทยบน Road Trip เพื่อหาของเด็ดดวงโดดเด่น ซึ่งระหว่างทางมีแต่ความน่ารัก เจ๋ง ฮา และ Proud ไปกับความเจ๋งของเด็ดในไทย ของดีของเด็ดทุกวันนี้ อยู่ที่นี่ประเทศไทยไม่ไกลตัวเลย 

 

 

ของเด็ดไทย ทำแบบไหนก็ Cool

 

ไม่ใช่แค่ของดีๆ เด็ดดวงเท่านั้น ภาพยนตร์โฆษณา ‘ดั้นด้นไปเพราะไทยเด็ด’ ยังมาในธีมของโมเดิร์นฟิล์มที่ใช้เทคนิคการ Grading ของงานให้สดใส และจับคู่กันอย่างโดดเด่น ทั้งหมดถูกใส่แทบจะทุก Elements ของภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น Road Trip สไตล์ฉิ่งฉาบทัวร์ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจากผ้าไทยท้องถิ่น ให้เป็นไอเท็มแฟชั่นเก๋ๆ หรือเพลงสไตล์ไทยวินเทจที่สร้างสีสันให้กับภาพยนตร์โฆษณา รวมถึงเทคนิคการถ่ายตัดต่อที่ชูความเด็ดที่ไปดั้นด้นดึงมาจากทั่วประเทศไทย ให้รู้ว่าไทยเด็ดด้วยความครีเอทีฟขั้นสุด ใครดูก็เผลอยิ้มตามกันไปทุกคน

 

PTT Station

 

ไม่ว่าจะของเด็ดจากไหนของไทย ทั้งหมดได้ดั้นด้นไปดึงมารวมไว้ที่ ‘ร้านไทยเด็ด’ แค่มองหาสัญลักษณ์นิ้วโป้งทุกครั้งที่คุณแวะเข้า PTT Station เตรียมพบกับไอเท็มเด็ดจากทั่วไทยไปประดับไว้ให้เด็ดดวงเด่นเกินใครกันได้เลย!

 

 

เรียกได้ว่าภาพจำของสินค้าไทยจากไทยเด็ดนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม มีความโมเดิร์นและมีสไตล์มากขึ้น ทั้งสินค้าของดี ของท้องถิ่น กลายเป็นสินค้าที่น่าซื้อ อีกทั้งยังเข้าถึงง่าย และหลังจากนี้สินค้าในร้านไทยเด็ดจะกลายเป็นสินค้าอยู่ในกระแสในอนาคต

 

ติดตามรับชมเรื่องราวการเดินทางสนุกๆ ในครั้งนี้ได้ที่

 

The post เมื่อของเด็ดทั่วไทยก็ Cool ไม่แพ้ใคร พบภาพยนตร์โฆษณาสุดครีเอทีฟ ‘ดั้นด้นทั่วไทยเพราะไทยเด็ด’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เมื่อสินค้าไทยผสานกับความป๊อป ชวนเที่ยวงาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์’ ที่ ‘ห้างฯเอ็มโพเรียม’ พร้อมกิจกรรมสนุกสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดซัมเมอร์นี้ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/emporium-kud-thai-only-thailand-best/ Fri, 05 Apr 2024 05:50:10 +0000 https://thestandard.co/?p=919428 คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

  ‘สินค้าไทย’ นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที […]

The post เมื่อสินค้าไทยผสานกับความป๊อป ชวนเที่ยวงาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์’ ที่ ‘ห้างฯเอ็มโพเรียม’ พร้อมกิจกรรมสนุกสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดซัมเมอร์นี้ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

 

‘สินค้าไทย’ นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่ไหน ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สั่งสมกันมายาวนาน ผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศจากธรรมชาติ ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม ขนมหวานโบราณ หรือแม้กระทั่งผลไม้พันธุ์พื้นเมือง ทุกชิ้นล้วนอัดแน่นไปด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่น่าหลงใหลเสมอ

 

และในช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง พร้อมกับเทศกาลสงกรานต์อันเป็นประเพณีสำคัญของไทย ก็นับเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสกับสีสันและมนต์เสน่ห์ของสินค้าไทยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็ได้จัดงาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์ – ไตรเฟส อิดิชั่น’ ขึ้น เพื่อคัดสุดยอดสินค้าจากทั่วประเทศมาให้ได้ช้อปกันในที่เดียว

 

งานนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 3 ตึกของเอ็มดิสทริค ได้แก่ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ โดยแต่ละแห่งจะนำเสนอคอนเซปต์ที่แตกต่างกันออกไป เปรียบเสมือนการออกเดินทางสำรวจความหลากหลายของสินค้าไทยในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่อง ล่อง ลอง รู้ ชิม หรือช้อป เพื่อค้นหาของดีที่ถูกใจ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ภายใต้ธีม POP FEST. ที่จะพาไปพบกับสุดยอดสินค้าไทยสไตล์ป๊อปสุดชิค ตั้งแต่แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ มวยไทย ไปจนถึงสตรีทฟู้ด และผลไม้หายากสายพันธุ์ไทยแท้

 

ภายในงานที่เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ถูกแบ่งเป็น 3 โซนหลักๆ ดังนี้

 

เริ่มต้นที่โซน Thai Pop ชั้น 1 บริเวณ Fashion Hall และ EM Walk ที่คัดสุดยอดของฝากและสินค้าไลฟ์สไตล์สไตล์ไทยร่วมสมัย (Best of Thai Souvenirs, Fashion & Lifestyle) ไม่ว่าจะเป็นงานคราฟต์จากศิลปินชั้นนำ สินค้าแฟชั่นดีไซน์เก๋ เช่น แบรนด์ The Only Market, Bangkokian by Another Story, The shop เป็นต้น 

 

คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

 

หรือขนมไทยขึ้นชื่อจากแผนก Gourmet Thai และชาผงปรุงสำเร็จตรามือสูตรต้นตำรับที่มีประวัติยาวนานกว่า 70 ปี รวมไปถึงสินค้าในกลุ่มสมุนไพรไทย (Herbal Therapy) อย่างแบรนด์ The Herbaholic’s ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สมุนไพรในรูปแบบใหม่ ยกระดับให้มีความทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมบริการทดลองนวดประคบจากผู้เชี่ยวชาญ

 

 

นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์พิเศษอย่าง Best of Thai Scent แหล่งรวมยาดมหลากหลายแบรนด์ดัง เริ่มตั้งแต่สูตรโบราณไปจนถึงยาดมสไตล์ใหม่ เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซื้อเป็นของฝากก็ถูกใจผู้รับ หรือจะใช้เองก็มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกตามความชอบ 

 

คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

 

และ Best of Thai Music & Workshop ที่เชิญชวนให้ทุกคนมาสัมผัสดนตรีไทยวินเทจจากศิลปินชั้นนำ พร้อมเข้าร่วมเวิร์กช็อปสนุกๆ เช่น การเพนต์เซรามิก การทำขนมไทย และ D.I.Y. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตลอดช่วงเวลาของงาน ซึ่งประกอบไปด้วย

 

 

 

Thai Craft Workshops

  • ทุกวัน (วันที่ 27 มีนาคม 2567 – 18 เมษายน 2567) สาธิตการใช้ลูกประคบ โดย The Herbaholic’s
  • ทุกสุดสัปดาห์ (วันที่ 30-31 มีนาคม 2567, วันที่ 6-7 และ 13-15 เมษายน 2567) กิจกรรมเพนต์เซรามิก โดย Cone No.9
  • วันที่ 6-7 เมษายน 2567 Thai Modern Craft Workshops (ทำพวงกุญแจจากผ้าขาวม้า)
  • วันที่ 13-15 เมษายน 2567 Thai Traditional Craft Workshops (ทำถุงหอมดอกไม้แห้ง)

 

Thai Music and Performance 

ร่วมฟังเพลงดนตรีสดจากวงหมอลำร่วมสมัย เอ็นจอยบรรยากาศสนุกแบบไทยๆ พร้อมชิมขนมไทยโบราณยอดนิยมสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ทุกสุดสัปดาห์ และช่วงวันหยุดสงกรานต์ เวลา 13.00 น., 15.00 น. และ 17.00 น.

 

คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

 

ขณะที่ชั้น 2 บริเวณ EM Walk โซน Thai Boxing & Culture เป็นสวรรค์สำหรับสาวกมวยไทยโดยเฉพาะ (Best of Muay Thai & Iconic Thai Fashion) ด้วยสินค้าทั้งในหมวดเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์มวยแบบจัดเต็ม พร้อมเวทีมวยจำลองให้ทดลองเล่น โดยมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากแบรนด์ Muscle Sport คอยให้คำปรึกษา 

 

และยังมีแบรนด์ไอคอนิกอย่าง Double Goose ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 60 ปี มาเปิดป๊อปอัพสโตร์ในงานนี้ด้วย ให้ได้มา Personalize เสื้อยืดในสไตล์ที่ชอบ ส่วนใครที่มองหากระเป๋าผ้าแคนวาสวินเทจสุดคูล ต้องไม่พลาดแบรนด์ Moshi Ava ที่จะมาสร้างสีสันด้วยการพิมพ์คำไทยแบบไอคอนิกบนกระเป๋า

 

ปิดท้ายกันที่ Thai Taste บนชั้น 4 ที่ Gourmet Market แหล่งรวมผลไม้สุดพรีเมียมสายพันธุ์ไทยแท้ทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ มังคุดคีรีวง ที่มีเนื้อสีขาวฉ่ำน้ำ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน, มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองผิวเหลืองนวลสวย เนื้อละเอียด รสชาติหอมหวาน, ส้มโอทับทิมสยามลูกโตเนื้อชมพูสดใส และชมพู่น้ำดอกไม้รูปทรงสวยหอมหวานฉ่ำ 

 

 

ที่พลาดไม่ได้คือ Gourmet Eats ที่ยกขบวนร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังกว่า 100 ร้านมาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ครบทั้งเมนูคาวและหวาน เช่น โกอ่างข้าวมันไก่, ยี่สับหลก, ผัดไทยไฟทะลุ, คนชงคนปรุง, นายอ้วนเย็นตาโฟ และอีกมากมาย

 

พิเศษสำหรับลูกค้าที่ช้อปภายในห้างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ เมื่อช้อปสะสมยอดครบ 5,000 บาท สามารถรับกระเป๋าผ้าขาวม้าลิมิเต็ดเอดิชันจากชุมชนในจังหวัดขอนแก่นฟรี มูลค่า 790 บาท มีให้เลือกถึง 8 ลายไม่ซ้ำใคร พร้อมบริการสกรีนชื่อ-ข้อความตามต้องการ

 

คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์

 

งาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์ – ไตรเฟส อิดิชั่น’ จึงเป็นอีเวนต์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักของไทย เพราะได้รวบรวมสุดยอดสินค้าคุณภาพจากทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักช้อป ตั้งแต่ของกิน ของใช้ ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ไปจนถึงของที่ระลึก ในราคาสุดคุ้ม พร้อมกิจกรรมและโปรโมชันพิเศษแบบจัดเต็มตลอดช่วงเวลาจัดงาน 

 

ใครที่อยากสัมผัสความยิ่งใหญ่และมนต์เสน่ห์ของสินค้าไทยในมุมมองใหม่ หรือกำลังมองหาของขวัญชิ้นพิเศษต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ จะพลาดไม่ได้เลย ไปพบกันได้ที่งาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์ – ไตรเฟส อิดิชั่น’ ที่เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 18 เมษายน 2567 นี้เท่านั้น แล้วคุณจะได้รู้ว่าของดีของไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก

The post เมื่อสินค้าไทยผสานกับความป๊อป ชวนเที่ยวงาน ‘คัดไทย โอนลี่ ไทยแลนด์ เบสต์’ ที่ ‘ห้างฯเอ็มโพเรียม’ พร้อมกิจกรรมสนุกสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดซัมเมอร์นี้ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดพิกัดเส้นทางสายมูเตลูกับ Top 5 วัดที่ฮ่องกง https://thestandard.co/life/top-5-mutelu-hong-kong-locations Sun, 10 Mar 2024 08:42:14 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=909442 วัดฮ่องกง

ชวนผู้อ่านเปิดประสบการณ์ท่องไปในเส้นทางสายมูเตลูกับ 5 ว […]

The post เปิดพิกัดเส้นทางสายมูเตลูกับ Top 5 วัดที่ฮ่องกง appeared first on THE STANDARD.

]]>
วัดฮ่องกง

ชวนผู้อ่านเปิดประสบการณ์ท่องไปในเส้นทางสายมูเตลูกับ 5 วัดฮ่องกงอันซีน และกิจกรรมเสริมดวงฉบับปีมังกรทองที่คัดมาแล้วว่าบรรยากาศสวยงามและดีต่อใจ เต็มไปด้วยพลังบวก

 

สำหรับคนไทย ฮ่องกงถือเป็นจุดหมายปลายทางที่โด่งดังในด้านการ ‘มูเตลู’ ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นหมุดหมายที่หลายๆ คนอยากไปลองสัมผัสกับประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความสนใจในวัฒนธรรมและประเพณีของการสักการบูชาตามหลักมูเตลู ซึ่ง LIFE มาพร้อมกับพิกัดยอดนิยมฉบับอัปเดตที่มีทั้งวัดดังและมีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเช่นวัดแชกงหมิวและวัดหว่องไท่ซิน แต่ยังมีวัดศักดิ์สิทธิ์ของเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง ที่เต็มไปด้วยพลังงานบวกและความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง

 

ที่สำคัญไม่ใช่แค่การนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น เส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง ในครั้งนี้ยังได้อาจารย์คฑา ชินบัญชร กูรูมูเตลูชื่อดัง มาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับและวิธีการสักการะที่ถูกต้อง เพื่อให้ทุกการขอพรและการสักการะนั้นเป็นไปอย่างมีความหมายและประสบความสำเร็จตามความปรารถนา นี่คือการพาผู้อ่านไปสำรวจมิติใหม่ของฮ่องกงผ่านมุมมองของมูเตลู ไม่ว่าคุณจะเป็นเซียนมูเตลูหรือมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ปีมังกรทองนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวและการสร้างสรรค์พลังบวกให้กับชีวิต ส่วนจะมีวัดใดที่ห้ามพลาดบ้าง ไปติดตามพร้อมกันเลย 

 

 

1. วัดหว่องไท่ซิน (Wong Tai Sin)

จุดหมายปลายทางที่โดดเด่นด้วยพิธีกรรมผูกด้ายแดงขอเนื้อคู่ศักดิ์สิทธิ์จากเทพเจ้าหยุคโหลว (Yue Lao) ผู้ช่วยปัดเป่าโชคร้าย และเสริมสร้างความรักให้กับผู้ที่มาสักการะ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก คนโสด หรือคนในชุมชน LGBTQIA+ ทุกคนสามารถขอพรและผูกด้ายแดงตามพิธีกรรมเฉพาะ เพื่อความราบรื่นในชีวิตคู่และความสัมพันธ์ ที่นี่มีเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยและห้องลับใต้ดินที่น่าสนใจ เป็นที่ซึ่งประดิษฐานพระแม่เต้าบ้อ และรูปปั้นเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย 60 องค์ ที่ช่วยปัดเป่าเคราะห์กรรม และคุ้มครองดวงชะตาของมนุษย์ตลอดปี แต่ละองค์มีลักษณะเฉพาะตัวที่สะท้อนบุคลิก นิสัย และการแต่งตัวที่คล้ายคลึงกับผู้ที่เกิดในปีนั้นๆ

 

ความเชื่อและเคล็ดลับ: ในการสักการะที่วัดนี้ ผู้มาเยือนควรปฏิบัติตามกฎของพิธีกรรมอย่างเคร่งครัด เช่น การไม่ให้นิ้วหลุดจากกันระหว่างเดิน, ไม่ให้ด้ายหลุดจากมือ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวผู้อื่นเพื่อไม่รับโชคร้าย แม้แต่การถูกธูปจากผู้อื่นจี้ก็ถือเป็นการฟาดเคราะห์ครั้งใหญ่ตามความเชื่อของชาวฮ่องกง การเยี่ยมชมห้องลับ Taisui Yuanchen Hall ณ วัดหว่องไท่ซินมีค่าใช้จ่าย 100 ดอลลาร์ฮ่องกง ผู้เข้าชมจะได้รับธูป 3 ดอกและยันต์มังกรเป็นของขวัญ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เกิดในปีชงของปีนั้นๆ สามารถเข้าชมได้ฟรี นอกจากนี้ยังมีโอกาสบริจาคเพิ่มเติม 300 ดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อร่วมพิธีฝากดวงแก้ชงกับนักพรตด้วย 

 

 

2. วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple)

สัมผัสเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และพลังมงคลที่วัดแชกงหมิว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ‘วัดกังหัน’ สถานที่แห่งการปัดเป่าโชคร้าย ประดิษฐานอยู่อย่างงดงามในย่านซาถิ่น (Sha Tin) กับประวัติศาสตร์ที่ยืนยาวนานกว่า 300 ปี สร้างขึ้นเพื่อนายพลแชกง แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่จากราชวงศ์ซ่ง ที่ช่วยนำพาผู้คนผ่านพ้นโรคระบาดที่น่ากลัวได้อย่างปาฏิหาริย์ 

 

เครื่องหมายของชัยชนะในสนามรบของเขาคือกังหันมงคลที่ได้รับการยกย่องว่ามีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและนำพาสิ่งดีๆ เข้าสู่ชีวิต

 

กังหันในวัดแชกงหมิวไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์ทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือแห่งการเสริมดวงที่มีความหมายลึกซึ้ง ใบพัดทั้งสี่ของกังหันหมายถึง 1. การปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว 2. การพัดสิ่งดีเข้าหาตัว 3. การพัดพาสุขภาพร่างกายแข็งแรงเข้ามา 4. การพัดโชคลาภเงินทองเข้ามา ซึ่งใบพัดสี่แฉกหมุนไปในทิศทางเข็มนาฬิกา เป็นการส่งเสริมให้พลังดีๆ ลมหายใจแห่งชีวิตที่แข็งแรง และโชคลาภเงินทองไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน 

 

สำหรับพิธีกรรมขอพรนั้น เมื่อเข้าไปภายในใจกลางวัดแชกง ผู้มาเยือนจะเริ่มจากการไหว้ศาลเจ้าและองครักษ์ทั้งสองข้างทาง ก่อนเข้าไปสักการะและขอพรต่อหน้าองค์แชกงในโถงกลาง ระหว่างไหว้ให้เอ่ยชื่อตนเอง พร้อมขอพรได้ตามที่ใจต้องการ ไม่จำกัดจำนวน



ความเชื่อและเคล็ดลับ: การขอพรต้องสบตากับองค์แชกงตลอดเวลา จากนั้นก็หมุนกังหัน 1 ครั้ง ตามเข็มนาฬิกา โดยห้ามหยุดกังหันเองเด็ดขาด และตีกลองอีก 3 ครั้งเพื่อปิดจบ เมื่อไหว้แล้วองค์แชกงจะคอยเตือนใจให้ผู้สักการะมีความซื่อสัตย์ดังพลทหาร ป้องกันไม่ให้เผลอใจทำผิด ในปีมังกรแบบนี้ ชาวปีมะเมียควรมาไหว้องค์แชกง ซึ่งเป็นขุนพลสายกรำศึกที่จะช่วยเสริมสิริมงคลแก่ผู้เกิดปีมะเมียตลอดปีมังกรทองได้เป็นอย่างดี

 

 

3. ขึ้นกระเช้าสักการะองค์พระใหญ่ที่นองปิง (Ngong Ping)

เป็นที่ราบสูงที่เต็มไปด้วยความสงบและสวยงาม เราสามารถขึ้นกระเช้า Ngong Ping 360 และได้เห็นวิวสุดตระการตาของเกาะลันเตาและอ่าวตุงชุง โดยจุดมุ่งหมายคือวัดโป๋หลินอายุกว่า 115 ปี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาที่ตั้งอยู่บนภูเขา มีการออกแบบมาให้ทุกอาคารกระจายกันอย่างลงตัวตามหลักฮวงจุ้ยอย่างสวยงามทีเดียว มีความสูงรวมส่วนฐาน 34 เมตร 

 

เมื่อไปถึงใจกลางวัดคืออุโบสถหลักที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสามองค์ มอบคำสอนแห่งปัญญา สุขภาพ และความสงบ ด้านหลังยังซ่อน Grand Hall of Ten Thousand Buddhas ที่เป็นทั้งหอพระไตรปิฎกและพื้นที่จัดนิทรรศการ ซึ่งเป็นมุมมองอันสงบของพระใหญ่ได้เต็มตา

 

ความเชื่อและเคล็ดลับ: เริ่มต้นด้วยการทำความเคารพฟ้าดินและทิศต่างๆ พร้อมทั้งกล่าวคำขอพรที่ชัดเจน โดยขั้นตอนการสักการะจะเริ่มต้นจากจุดรับพลังที่ด้านล่าง ด้านหน้าองค์พระ โดยเริ่มจากการเอ่ยชื่อของตนเอง ทำความเคารพฟ้าดินและทิศต่างๆ โดยอาจารย์คฑาได้เผยเคล็ดลับก็คือ คำขอต้องระบุเป้าหมาย สิ่งที่อยากได้ และระยะเวลาให้ชัดเจน พร้อมกล่าวจบด้วยคำว่า “หมื่นคำอธิษฐานสมปรารถนา” คำขอจึงจะเกิดผล

 

เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเดินบน ‘Wisdom Path’ เป็นทางเดินที่ล้อมรอบด้วยผลงานศิลปะ Heart Sutra แกะสลักบนเสาไม้ยักษ์ สื่อถึงหลักคำสอนในการไม่ยึดติดและเปิดกว้างทางจิตใจ สิ้นสุดการเยือนด้วยมื้ออาหารกลางวันในโถงรับประทานของวัดโป๋หลินที่เสิร์ฟเมนูมังสวิรัติอร่อยล้ำ ยืนยันประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่เติมเต็มทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมการกินอาหารที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดี

 

 

4. ต้นไม้ขอพรหลัมซุน (Lam Tsuen Wishing Trees)

พิกัดต่อไปคือต้นไม้ขอพรและวัดเจ้าแม่ทับทิมที่หลัมซุน มีพิธีกรรมโยนส้มเสี่ยงทายดวงชะตาที่เกี่ยวกับความรัก การมาที่นี่ยังได้สักการะเจ้าแม่ทับทิมด้วย หมู่บ้านเล็กๆ ในไทโป (Tai Po) เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่และประเพณีทางวัฒนธรรมอันงดงาม ที่เริ่มต้นด้วยการไปที่ต้นไม้ขอพรหลัมซุน ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮ่องกงนิยมมาขอพร ต้นกำเนิดมาจากตำนานรักที่สามีภรรยาคู่หนึ่งสร้างสรรค์ขึ้น และกลายเป็นจุดประสงค์เสริมสร้างความรัก ในปัจจุบันทุกช่วงเทศกาลตรุษจีน ผู้คนมากมายจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่ออธิษฐานขอพรเพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นมงคลแก่ชีวิต

 

ความเชื่อและเคล็ดลับ: การอธิษฐานที่ต้นไม้ขอพรเริ่มต้นด้วยการเขียนคำขอลงบนกระดาษ แล้วมัดด้วยเชือกสีแดงพร้อมลูกส้มเป็นน้ำหนัก ขั้นตอนนี้ต้องมีจิตอธิษฐานและโยนเชือกขึ้นไปให้ติดกิ่งไม้ เพื่อให้คำอธิษฐานเป็นจริง

 

ทุกปีจะมีการจัดเทศกาล Hong Kong Well-Wishing Festival ที่ Lam Tsuen Wishing Plaza ตั้งแต่วันที่ 1-15 ของเทศกาลตรุษจีน เป็นโอกาสที่ผู้คนทั้งในและนอกฮ่องกงจะมาร่วมกันสร้างความสุข โยนส้มเสี่ยงทาย ลอยกระทงอธิษฐาน พร้อมชมการแสดงเชิดสิงโตและกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีวัดเจ้าแม่ทับทิมหรือ Tin Hau Temple ที่เป็นที่นับถือของชาวประมงและผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเล เพราะเชื่อว่าเจ้าแม่ทับทิมจะคุ้มครองให้การเดินทางทางน้ำปลอดภัยและสงบสุขด้วย

 

 

5. สักการะเทพเจ้าห้ามังกรที่ Nam Chung Tin Hau Temple

ค้นพบความสงบที่เจ้าแม่ทับทิมย่านนัมชุง อัญมณีลับในอ้อมกอดของธรรมชาติ ซึ่งบริเวณย่านนัมชุงแห่งนี้มีวัดเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ใจกลางอุทยาน Pat Sin Leng Country Park และริมอ่าว Starling Inlet ที่นี่เป็นที่สุดของการผสานกลมกลืนกับธรรมชาติ สามารถชื่นชมทิวทัศน์ของทิวเขาและทะเลริมอ่าวได้อย่างลงตัว และยังมีโอกาสได้มองเห็นวิวเมืองเซินเจิ้นจากจุดนี้อีกด้วย

 

ถนนเข้าวัดมีความคับแคบและคดเคี้ยว เพียงรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถมินิบัสเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ แต่การเดินเท้าเข้าไปสัมผัสบรรยากาศใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ให้คุณได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ระหว่างทาง ความมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ของวัดนี้ยังเต็มไปด้วยความสิริมงคล โดยบริเวณริมอ่าวมีเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม สร้างภาพลักษณ์เหมือนไข่มุกในปากมังกร ทำให้ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการสักการะเทพเจ้าและขอพร แต่ยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการค้นหาความสงบและศึกษาฮวงจุ้ยของธรรมชาติได้เพลินใจสุดๆ 

 

ผู้คนมักจะเดินทางมาที่นี่เพื่อสักการะขอความโชคดี ความสุข และอายุที่ยืนยาว จากตำนานเล่าว่ามีเด็กหญิงค้นพบไข่ปริศนา 5 ฟอง ซึ่งฟักออกมาเป็นตัวอ่อนมังกร ถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาด แต่เธอดูแลมันจนกลายเป็นมังกรที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในปีมหามังกรนี้ วัดนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด



ความเชื่อและเคล็ดลับ: การไหว้นั้นเริ่มจากการนำธูปและผลไม้ 5 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล ส้ม ส้มโอ องุ่น และกล้วย โดย 5 เทพเจ้ามังกรจะดลบันดาลให้ผู้ขอประสบความสำเร็จไปทั่วทุกสารทิศ โดยระหว่างไหว้ให้รำลึกถึงพระคุณของมารดาดังพญามังกรที่สำนึกในบุญคุณของเด็กหญิงที่เปรียบดั่งมารดาผู้ให้กำเนิด อาจารย์คฑาจึงขอยกให้วัดแห่งนี้เป็นวัดห้ามพลาดในปีมังกรทองปีนี้ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเกิดในปีนักษัตรใดก็สามารถเดินทางมาไหว้เพื่อรับความมั่งมีได้



การมาเยือนที่วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังบวก และมีความเชื่อว่าจะเกิดความมั่งมีและความสำเร็จ ทำให้ทุกการเดินทางมายังวัดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขอพรเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้ความหมายของการให้และการดีต่อธรรมชาติและผู้อื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดอันซีนที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก และควรหาโอกาสไปสักการะสักครั้งในชีวิต

The post เปิดพิกัดเส้นทางสายมูเตลูกับ Top 5 วัดที่ฮ่องกง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เที่ยวสกลนคร ขอนแก่น บุกหลังเวทีหมอลำ ระเบียบวาทะศิลป์ กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.3 https://thestandard.co/relationtrip-ss2-ep-3/ Sat, 23 Dec 2023 11:00:21 +0000 https://thestandard.co/?p=880221

ภารกิจตะลุยอีสานครั้งแรกของ เอม ถาวรศิริ แบบไร้แพลนแต่เ […]

The post ชมคลิป: เที่ยวสกลนคร ขอนแก่น บุกหลังเวทีหมอลำ ระเบียบวาทะศิลป์ กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.3 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ภารกิจตะลุยอีสานครั้งแรกของ เอม ถาวรศิริ แบบไร้แพลนแต่เหมือนโชคเข้าข้าง ทั้งได้มาดูแข่งเรือยาวและเจอร้านเสื้อครามโดนเส้นที่สกลนคร จากนั้นมุ่งหน้าสู่ขอนแก่น เพื่อไปบุกหลังเวทีหมอลำระเบียบวาทะศิลป์แบบถึงถิ่นอีสาน รับชมความสนุกแบบจัดเต็มได้ที่ Relationtrip อีพีนี้

The post ชมคลิป: เที่ยวสกลนคร ขอนแก่น บุกหลังเวทีหมอลำ ระเบียบวาทะศิลป์ กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.3 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: นอนโฮมสเตย์ ออกเรือจับปลา ใช้ชีวิตช้าๆ ที่บ้านแหลมนาวกับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.2 https://thestandard.co/relationtrip-ss2-ep-2/ Sat, 09 Dec 2023 05:41:49 +0000 https://thestandard.co/?p=875166

ชุมชนบ้านแหลมนาวเป็นชุมชนมุสลิมขนาดเล็กที่ไร้ถนน ชาวบ้า […]

The post ชมคลิป: นอนโฮมสเตย์ ออกเรือจับปลา ใช้ชีวิตช้าๆ ที่บ้านแหลมนาวกับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.2 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ชุมชนบ้านแหลมนาวเป็นชุมชนมุสลิมขนาดเล็กที่ไร้ถนน ชาวบ้านมักสัญจรโดยเรือและประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านแบบอนุรักษ์มานานกว่า 300 ปีแล้ว

 

เมื่อ เอม ถาวรศิริ มานอนโฮมสเตย์ที่ชุมชนบ้านแหลมนาว จ.ระนอง ตามหาปูก้ามดาบและหอยชักตีน ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ทดลองเป็นชาวประมงเต็มรูปแบบ ทั้งออกเรือวางอวนจับปู จับปลา ชวนสัมผัสความสวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ และความน่ารักของชาวชุมชนบ้านแหลมนาวได้ที่ Relationtrip อีพีนี้

The post ชมคลิป: นอนโฮมสเตย์ ออกเรือจับปลา ใช้ชีวิตช้าๆ ที่บ้านแหลมนาวกับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip SS2 EP.2 appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. https://thestandard.co/y-journey-y-series-project/ Mon, 27 Nov 2023 08:45:03 +0000 https://thestandard.co/?p=868039

อาหารและการท่องเที่ยวถือเป็น ‘แก่นแท้’ ทางรากวัฒนธรรมแล […]

The post ‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. appeared first on THE STANDARD.

]]>

อาหารและการท่องเที่ยวถือเป็น ‘แก่นแท้’ ทางรากวัฒนธรรมและเสน่ห์ของประเทศไทยลำดับต้นๆ ที่ทำให้ผู้คนมากมายหลายหลากเชื้อชาติจากทั่วทุกมุมโลกถูกดึงดูด ทั้งยังสะกดให้อยากเดินทางมาเยือนยังประเทศที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้

 

ไม่แปลกที่ชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเองก็ดี ต่างก็ขนานนามให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่เคยหลับใหล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ​ อาหาร และความยั่งยืนทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

และเพื่อยกระดับมุมมองด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งด้านอาหาร วัฒนธรรม สถานที่ ชุมชน และผู้คน เรื่อยไปจนถึงสิ่งแวดล้อม ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อเร็วๆ นี้ อายิโนะโมะโต๊ะ หรือบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโปรเจกต์สุดพิเศษ ‘Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL)’ เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์และอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนผ่านแพลตฟอร์มมินิซีรีส์วาย 6 เอพิโสด นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหม่ทั้ง 12 คน

 

ผลักดันพันธกิจด้านความยั่งยืน หัวใจหลักไม่แพ้การส่งมอบ ‘ความอยู่ดีมีสุขผ่านผลิตภัณฑ์’ โดยอายิโนะโมะโต๊สู่ความร่วมมือกับ ททท.

 

การโคจรมาทำงานร่วมกันระหว่าง ททท. และอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) เกิดขึ้นภายใต้เป้าหมายที่ทั้งคู่มองเห็นร่วมกัน โดยสำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป้าหมายคือ การผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยให้คึกคักและเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ขณะที่วิสัยทัศน์และหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ณ วันนี้ของอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) คือ การเป็นผู้นำในการสร้าง ‘ความอยู่ดีมีสุข’ (Well-being) รวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านอาหารและสุขภาพ พร้อมทั้งส่งมอบความอร่อยและความสุขในการรับประทานอาหารให้กับทุกคน 

 

โดยเน้นหลักไปที่สองประเด็นคือ การช่วยยืดอายุขัยที่มีสุขภาพดีของคนทั่วโลกให้ได้กว่า 1 พันล้านคน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 50% ซึ่งจะบรรลุผ่านทุกซัพพลายเชนของ​​อายิโนะโมะโต๊ะตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ หรือตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการมอบความอร่อยและสุขภาพที่ดี (ด้วยสินค้าของอายิโนะโมะโต๊ะ) จนถึงมือผู้บริโภค

 

 

อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. ว่า “ประเทศไทยเป็นดินแดนที่มีความงามอันน่าหลงใหล ทั้งวัฒนธรรมและการต้อนรับผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า นักท่องเที่ยวไม่ได้แค่หลงใหลในภูมิประเทศที่สวยงามหรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยเท่านั้น แต่อาหารไทยรสเด็ดก็เป็นอีกหนึ่งที่ช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสและศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น 

 

 

“​​ถือเป็นโอกาสอันดีที่สององค์กรซึ่งให้ความสำคัญอย่างสูงด้านความยั่งยืน ทั้งบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาผนึกพลังในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ”

 

จากถ้อยแถลงของหัวเรือใหญ่ ‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำ จะเห็นว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องน่าฉงนชวนสงสัยเลยแม้แต่น้อย ว่าเพราะเหตุใด อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย จึงเข้ามาสนับสนุนโปรเจกต์นี้ร่วมกับทาง ททท. เพราะถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ ‘ตรงกัน’ และตอบโจทย์ความตั้งใจของอายิโนะโมะโต๊ะในการผลักดันประเด็นด้านความยั่งยืนและการอยู่ดีมีสุขของผู้คนนั่นเอง

 

นอกเหนือจากความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการส่งเสริมด้านความยั่งยืน อายิโนะโมะโต๊ะยังส่งมอบนิยาม ‘กินดี มีสุข’ หรือ Eat Well, Live Well ของพวกเขาผ่านผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคคนไทยสามารถจับต้องได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพที่ช่วยลดโซเดียม และไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ลดปริมาณความหวานลง หรือไม่หวานเลย 

 

ขณะที่เร็วๆ นี้ พวกเขายังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยส่งเสริมสังคมผู้สูงวัยให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ด้วยศาสตร์แห่งกรดอะมิโน หรือ AminoScience อีกด้วย และยังมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีกกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพให้แก่คนไทยกว่า 3 ล้านคนในทุกช่วงวัย แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์อะไรนั้นต้องลองติดตามกันดูอีกที

 

ทำไมต้อง Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ?

 

ส่วนเหตุผลที่ความร่วมมือของ ททท. และอายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านโปรเจกต์ซีรีส์วายนั้นเกิดจากความตั้งใจที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดโซนภาคตะวันออก วัฒนธรรมอาหารที่แสนเอร็ดอร่อย ให้ผู้คนได้รับชมผ่านวิธีการและรูปแบบที่ย่อยได้ง่าย เพลิน และซึมซับโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซีรีส์วายได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงอิทธิพลของไทยมากที่สุดในยุคนี้ (นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยด้วยจุดมุ่งหมายการเข้าร่วมกิจกรรมพบปะนักแสดงซีรีส์วาย) ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการนำเสนอเนื้อหาในโปรเจกต์ความร่วมมือที่เกิดขึ้น

 

 

เนื้อหาแต่ละตอนจะถูกบอกเล่าผ่านความสัมพันธ์ที่หลากหลายของตัวละคร พร้อมๆ กับฉากหลังซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดทางภาคตะวันออกของไทย เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด โดยมีการสอดแทรกความสวยงามของทัศนียภาพของแต่ละจังหวัด 

 

 

 

การให้มุมคิดด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งมิติชุมชนและมิติสิ่งแวดล้อม สอดไส้ในด้วยวัฒนธรรมทางด้านอาหารไทยจานเด็ดที่ขึ้นชื่อและอยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน เช่น ผักบุ้งผัดกะปิจากร้านสามแม่ครัว ตลาดบ้านใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา, ปากหม้อเจ๊โบ้ บ้านเลขที่ 5 พนมสารคาม, ไก่ต้มกระวาน และมัสมั่นทุเรียน ของดีของเด่นจากจันทบุรี, แกงคั่วสับปะรดตราดสีทอง​ ต้มส้มระกำปลากระบอก หรืออาหารทะเลแปรรูป แห่งจังหวัดตราด

 

ขณะที่กิมมิกความยั่งยืนก็จะถูกใส่ลงไปเป็นเส้นเรื่องหลักในทุกดีเทล ทุกเอพิโสดแบบไม่ประดักประเดิด เช่น การแปรรูปขยะอาหารแบบ Zero Food Waste, การใช้บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติในจังหวะที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อย, การจ้างงานคนในชุมชนท้องถิ่น, การรีไซเคิลขยะพลาสติกในทะเล, การใช้พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำ

 

  

 

ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ที่ได้มาฝากฝีไม้ลายมือการแสดงใน Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ได้แก่ แฟรงค์-ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล, หล่งซือ ลี, เน็ต-สิรภพ มานิธิคุณ, เจมส์-ศุภมงคล วงศ์วิสุทธิ์, ฟลุ๊ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร และ ยูโด-ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์, แม้ก-กรธัสส์ รุจีรัตนาวรพันธุ์, ณฐ-ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์, มอส-ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ, แบงค์-มณฑป เหมตาล, ยุ่น-ภูษณุ วงศาวณิชชากร และ ดิว-นิติกร ปานคร้าม

 

ซึ่งตอนที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ทั้ง 6 เอพิโสดคงได้ออนแอร์ครบทุกตอนแล้ว ใครที่สนใจรับชมสามารถติดตามได้ทั้งทาง AIS PLAY, YouTube ของ AIS และ YouTube การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ช่อง Amazing Thailand

The post ‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. appeared first on THE STANDARD.

]]>
นั่งรถไฟไปสงขลา บุกแหล่งครามพื้นเมืองปัตตานี กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip 2 EP.1 https://thestandard.co/relationtrip-ss-2-ep1/ Sun, 26 Nov 2023 13:00:32 +0000 https://thestandard.co/?p=869860

17 ชั่วโมงกับการนั่งรถไฟไปสงขลา กับ เอม ถาวรศิริ เพื่อไ […]

The post นั่งรถไฟไปสงขลา บุกแหล่งครามพื้นเมืองปัตตานี กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip 2 EP.1 appeared first on THE STANDARD.

]]>

17 ชั่วโมงกับการนั่งรถไฟไปสงขลา กับ เอม ถาวรศิริ เพื่อไปสัมผัสเสน่ห์เมืองเก่า ย่าน Old Town สงขลา ที่ที่ทำให้เขาได้สัมผัสว่าสงขลาจริงๆ เป็นอย่างไร ก่อนมุ่งหน้าสู่ปัตตานี บุกแหล่งคราม และแพะพื้นเมือง ทำให้เอมได้รู้จักเพื่อนใหม่ พร้อมแลกเปลี่ยนบทสนทนาแห่งความทุกข์และความสุข จนต้องเก็บทุกความรู้สึกของการเดินทางครั้งนี้ผ่านการบันทึกในรูปแบบของเขาเอง

 

ร่วมเดินทางใน Relationtrip ทาง YouTube และ Facebook ของ THE STANDARD POP วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายนเวลา 18.30 น.

 

[IN PARTNERSHIP WITH AIS 5G]

The post นั่งรถไฟไปสงขลา บุกแหล่งครามพื้นเมืองปัตตานี กับ เอม ถาวรศิริ | Relationtrip 2 EP.1 appeared first on THE STANDARD.

]]>
One Night Standard แอปพลิเคชันจองที่พักแสนเก๋โดย The Standard ที่คอนเฟิร์มว่าลดราคาแบบโหดยับ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/one-night-standard-by-the-standard-hotel/ Thu, 10 Aug 2023 07:20:44 +0000 https://thestandard.co/?p=827586 One Night Standard

ยกให้เป็นแอปพลิเคชันที่มีชื่อเรียกเก๋แบบตะโกน แถมยังหยิ […]

The post One Night Standard แอปพลิเคชันจองที่พักแสนเก๋โดย The Standard ที่คอนเฟิร์มว่าลดราคาแบบโหดยับ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
One Night Standard

ยกให้เป็นแอปพลิเคชันที่มีชื่อเรียกเก๋แบบตะโกน แถมยังหยิบยกเอากิมมิกความสัมพันธ์ของผู้คนมาบิดเล่นกับจุดขายของแอปได้อย่างชาญฉลาดมากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาก็ว่าได้สำหรับ ‘One Night Standard’ แอปพลิเคชันจองห้องพักของ The Standard เครือโรงแรมสุดฮอต 

 

One Night Standard คือแอปพลิเคชันที่ทาง The Standard Hotel พัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยให้นิยามว่าเป็น ‘Last Minute Booking App’ หรือแอปสำหรับการจองที่พักโรงแรมของ The Standard ในช่วงโค้งสุดท้าย กับราคาที่พักพร้อมส่วนลดสุดพิเศษที่หาไม่ได้จากดีลหรือช่องทางจองห้องพักช่องทางอื่นๆ แน่นอน

 

 

คอนเซปต์ของ One Night Standard คือการที่ตัวแอปจะเปิดให้ผู้ที่สนใจอยากเข้าพักโรงแรมในเครือของ The Standard สามารถเลือกจองที่พักที่อยากจะเข้าพัก ‘ณ วันนั้นๆ’ ด้วยราคาที่ถูกที่สุดของแต่ละวัน (The Standard เคลมว่าเป็นเรตราคาที่ถูกที่สุดแบบ As Low As!) 

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ The Standard ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน One Night Standard ออกมาในช่วงปี 2015 หรือเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้วในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ก่อนจะหยุดให้บริการ One Night Standard ไปชั่วคราวในช่วงที่โควิดระบาดรุนแรง กระทั่งในที่สุดพวกเขาก็ได้นำแอปจองที่พักสุดเจ๋งนี้ออกมาตอบสนองความต้องการ ความสนุก และความสะดวกในการเข้าพัก ให้กับกลุ่มลูกค้าของตัวเองอีกครั้งอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทั้งยังถือเป็นการเปิดตัว One Night Standard ครั้งแรกในเอเชียอีกด้วย

 

 

เปิดจองบ่าย 3 ของทุกวัน ดีลโหด ลดสูงสุดกว่า 50%!

 

กติกาการจองที่พักผ่านแอป One Night Standard จะเริ่มเปิดให้จองตั้งแต่เวลา 15.00 น. หรือบ่าย 3 ของทุกวัน โดยจะอ้างอิงตามเวลาท้องถิ่นของโรงแรม The Standard ที่เปิดให้จองในแต่ละประเทศ

 

ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยทั้ง The Standard, Bangkok Mahanakhon และ The Standard, Hua Hin หรือในต่างประเทศ เช่น The Standard, High Line, The Standard, East Village (นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา), The Standard Spa, Miami Beach (ไมอามี, สหรัฐอเมริกา), The Standard, London (ลอนดอน, สหราชอาณาจักร), The Standard, Ibiza (อิบิซา, สเปน) และ The Standard, Maldives (สาธารณรัฐมัลดีฟส์) 

 

โดยเมื่อลงทะเบียนเข้าสู่แอปพลิเคชันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวแอปจะแสดงรายชื่อโรงแรมที่เราสามารถจองได้ พร้อมเวลานับถอยหลังที่จะให้เราสามารถกดจองโรงแรม The Standard แต่ละแห่ง

 

ซึ่งจากการสังเกตการณ์เบื้องต้นของ THE STANDARD POP (อ้างอิงเรตราคา ณ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566) โดยเปรียบเทียบเรตราคาของโรงแรม The Standard ทั้ง Bangkok Mahanakhon และ Hua Hin ในช่องทางการจองต่างๆ พบจุดสังเกตที่น่าสนใจ ดังนี้

 

1. ราคาที่จองได้ผ่านแอป One Night Standard เป็นราคาที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับทุกช่องทางแพลตฟอร์ม OTA โดยเปรียบเทียบระหว่างราคาที่ถูกที่สุดของโรงแรม The Standard, Hua Hin พบว่าถูกกว่ากันถึงราว 53%

 

เปรียบเทียบราคาที่พักของ The Standard, Hua Hin 

เมื่อจองผ่าน One Night Standard (ซ้าย) และผ่าน OTA (ขวา)
(หมายเหตุ: เรตราคาข้างต้นเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลราคา 

ณ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น 

ราคาเข้าพักในวันอื่นๆ จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันออกไป)

 

2. ราคาของโรงแรม The Standard, Hua Hin เมื่อจองผ่านแพลตฟอร์ม OTA พบว่า ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 8,354 บาท ส่วนราคาจองผ่าน One Night Standard จะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,889 บาท (เฉพาะการสำรองห้องพักผ่านแอปภายในวันที่จะเข้าพักหลังเวลา 15.00 น. และเข้าพักได้ 1 คืนเท่านั้น)

 

One Night Standard

เปรียบเทียบราคาที่พักของ The Standard, Bangkok Mahanakhon
เมื่อจองผ่าน One Night Standard (ซ้าย) และผ่าน OTA (ขวา)
(หมายเหตุ: เรตราคาข้างต้นเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลราคา 

ณ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น 

ราคาเข้าพักในวันอื่นๆ จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันออกไป)

 

3. ราคาของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon เมื่อจองผ่านแพลตฟอร์ม OTA พบว่า ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 6,683 บาท ส่วนราคาจองผ่าน One Night Standard จะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,754 บาท ถูกกว่ากันราวๆ 14% (เฉพาะการสำรองห้องพักผ่านแอปภายในวันที่จะเข้าพักหลังเวลา 15.00 น. และเข้าพักได้ 1 คืนเท่านั้น)

 

 

4. ตอบโจทย์กลุ่มคนที่อาจจะไม่ได้วางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้า แต่เกิดความต้องการจองที่พักแบบกะทันหันทันทีทันใด (กรณีเข้าพักติดต่อกันหลายๆ วันอาจจะไม่สะดวกเท่าไร เพราะต้องจองแบบวันต่อวัน แต่หากใครสะดวกก็ถือว่าได้ดีลส่วนลดเข้าพักที่ดีกว่าชาวบ้านแน่นอน!)

 

5. ใครที่เป็นสายตี้ รักการแฮงเอาต์ ต้องปิดโปรเจกต์ดึก อยากเปลี่ยนที่ Staycation หรือบ้านไกล ไม่อยากเดินทางกลับบ้านตอนกลางคืนดึกๆ เปลี่ยวๆ ไหนจะต้องเดินทางไปขายงานตอนเช้าตรู่อีก ยืนยันว่าบริการจองที่พักผ่าน One Night Standard ตอบโจทย์คุณแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

 

  1. เวลาเช็กเอาต์ของทั้ง The Standard, Bangkok Mahanakhon และ The Standard, Hua Hin คือเวลา 12.00 น. เท่ากัน ส่วนเวลาเช็กอินที่ The Standard, Hua Hin จะเริ่มเปิดให้เช็กอินที่เวลา 15.00 น. ส่วนที่ The Standard, Bangkok Mahanakhon จะเริ่มเปิดให้เช็กอินที่เวลา 18.00 น.

 

หมายเหตุ: เรตราคาข้างต้นเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลราคา ณ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น ราคาเข้าพักในวันอื่นๆ จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันออกไป

 

 

‘Live Spontaneously, Live The Standard.’ ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง สนุกสุดเหวี่ยงที่ The Standard

 

แอมเบอร์ แอชเชอร์ ซีอีโอเครือโรงแรม Standard International กล่าวถึงการนำแอปพลิเคชัน One Night Standard มาเปิดให้บริการอีกครั้งว่า การกลับมาครั้งนี้ยังมาพร้อมกับโรงแรม Standard ในสาขาใหม่ๆ เพื่อตอบสนองให้กลุ่มลูกค้าที่อยากเข้าพักแบบไม่ได้แพลนไว้ล่วงหน้า สามารถใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างเต็มที่

 

“กลุ่มลูกค้าและแขกที่เข้าพักทั้งหลายไม่ได้เพียงแค่กระตือรือร้นที่จะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น แต่พวกเขายังพร้อมที่จะปลดเปลื้องทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติเหมือนเช่นเคยอีกด้วย ถือเป็นจังหวะเวลาที่ดีที่เราจะกลับมาเปิดให้บริการจองที่พักผ่านแอป One Night Standard ได้อีกครั้ง

 

“ทั้งยังถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่การกลับมาของแอป One Night Standard ในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับที่พักหมุดหมายใหม่ๆ อย่างเช่น The Standard, Ibiza หรือ The Standard, Bangkok Mahanakhon และ The Standard, Hua Hin ซึ่งตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบแสง สี ความสนุก และความครึกครื้นในยามราตรี”

 

 

การเปิดตัวแอป One Night Standard ในเฟสที่ 2 ของ The Standard ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชื่นชอบความสนุก ความตื่นเต้น ไม่นิยมแพลนการเดินทางล่วงหน้า หรือคนที่ชอบดีลส่วนลดมหาโหดเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์กับความตั้งใจ หรือ Purpose ของแบรนด์ The Standard ที่อยากให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างอิสระ เป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดเมื่อเข้าพักที่โรงแรมของพวกเขา ตามคอนเซปต์ Live Spontaneously, Live The Standard.

 

สำหรับแพลนในอนาคตต่อจากนี้ The Standard เตรียมจะขยายโลเคชันและโรงแรมที่เปิดให้แขกที่เข้าพักสามารถจองผ่าน One Night Standard ได้ครอบคลุมในทุกๆ ทำเลที่พวกเขาเปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Singapore, Melbourne, Lisbon, Dublin, Brussels, Austin และ Brooklyn เป็นต้น

 

รวมถึงการคอลแลบแคมเปญเจ๋งๆ ร่วมกับแบรนด์ผู้ให้บริการอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น การทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มหาคู่ Feeld ในการเชื้อเชิญให้ผู้ใช้งานทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่มีความชื่นชอบ สนใจ และมีเคมีที่เข้ากันได้ มาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทั้ง The Standard และ Feeld จะร่วมรังสรรค์ด้วยกัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก The Standard ว่าแคมเปญที่ว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร)

 

ส่วนใครที่อยากโหลดแอปติดเครื่องเอาไว้เผื่อกรณีปุ๊บปั๊บต้องหาที่พักแบบด่วนๆ เพื่อรองรับร่างที่ผ่านศึกยามแฮงเอาต์ดึกๆ ปาร์ตี้หนักๆ หรือต้องอยู่งานปิดโปรเจกต์จนหามรุ่งหามค่ำ สามารถกดคลิกไปที่ลิงก์นี้ได้เลย: https://www.onenightstandard.com/?utm_source=PR&utm_medium=referral&utm_campaign=PR&utm_term=PR&utm_content=PR

The post One Night Standard แอปพลิเคชันจองที่พักแสนเก๋โดย The Standard ที่คอนเฟิร์มว่าลดราคาแบบโหดยับ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
แลนด์มาร์กใหม่ชาวบางนา ‘Design Village บางนา’ เปิดแล้ว จัดเต็มร้านดัง ซูเปอร์มาร์เก็ต เสื้อผ้า กินดื่ม แต่งบ้านครบที่เดียว [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/design-village-bangna/ Sat, 15 Jul 2023 04:34:27 +0000 https://thestandard.co/?p=817120 Design Village

นี่คือข่าวดีสำหรับใครหลายคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ […]

The post แลนด์มาร์กใหม่ชาวบางนา ‘Design Village บางนา’ เปิดแล้ว จัดเต็มร้านดัง ซูเปอร์มาร์เก็ต เสื้อผ้า กินดื่ม แต่งบ้านครบที่เดียว [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Design Village

นี่คือข่าวดีสำหรับใครหลายคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ‘ชาวบางนา’ ทั้งหลาย เพราะต่อไปนี้ทางเลือกของการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในช่วงวันหยุดของพวกเราจะสะดวกสบาย ไม่กระจุกตัวเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป เมื่อ ‘Design Village บางนา’ คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์ชื่อดังภายใต้การบริหารงานของบุญถาวร เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบและเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้

 

ความดีงามของ Design Village บางนา ซึ่งเป็น Design Village แห่งที่ 4 ที่บุญถาวรเปิดให้บริการ คือการยกทัพแบรนด์ดังร้านเด็ดๆ ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้ง, เสื้อผ้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ฟิตเนส, ร้านอาหารรสเด็ดที่ใครหลายคนชื่นชอบ ไปจนถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน รวมเอาไว้ให้ครบอยู่ที่ที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนี้ รวมถึงผู้ที่เดินทางสัญจรมาเยี่ยมเยือนยังคอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์แห่งนี้

 

THE STANDARD POP รวบรวมข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่คุณต้องรู้ของคอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์ที่เปิดให้บริการ ณ ย่านบางนาแห่งนี้มาไว้ให้ชาวบางนาได้สำรวจผ่านบทความของเรา พร้อมเผยถึงเบื้องหลังความตั้งใจของบุญถาวรในการอัปเลเวลย่านบางนาผ่านนิยาม ‘ขยายความสุข ครอบคลุมให้ทั่วทุกพื้นที่!’ 

 

 

Design Village บางนามีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง?

ด้วยชื่อชั้นของ Design Village ที่บริหารงานโดยบุญถาวร สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้เลยคือ ‘ศักยภาพ’ ในการดีลและดึงพาร์ตเนอร์รีเทลและแบรนด์ดังๆ ทั้งหลายมารวมเอาไว้ให้บริการอยู่บนพื้นที่ของพวกเขา (ข้อนี้ชาวราชพฤกษ์ ชาวพุทธมณฑล และชาวเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเป็นย่านที่ Design Village ทั้ง 3 แห่งที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้น่าจะตอบได้ดีว่าจริงไหม)

 

พอเป็นทำเลย่านบางนา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในย่านที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีเหรอที่ Design Village จะทำให้เราผิดหวัง เพราะครั้งนี้พวกเขามาพร้อมกับทัพแบรนด์ดัง ร้านเด็ดๆ อีกเช่นเคย โดยแบ่งโซนให้บริการออกเป็น 3 อาคาร ดังนี้

 

 

1. อาคาร Gourmet Market Standalone Flagship: รวมของสด ของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ตไว้ให้ครบที่เดียว ถือเป็นพาร์ตเนอร์คนสำคัญที่ยืนหยัดเคียงข้างกันและกันมาโดยตลอดสำหรับ Design Village และ Gourmet Market 

 

ผลไม้นำเข้า ของสด และของแห้งคุณภาพชั้นเลิศมีให้เลือกมากมายที่ Gourmet Market 

 

Design Village บางนาแห่งนี้ยกเอาอาคาร Gourmet Market Standalone Flagship ผู้นำธุรกิจรีเทลอาหาร ที่จะเป็น Food Destination แห่งใหม่ในย่านบางนา รวมอาณาจักรอาหารและแบรนด์ชั้นนำกลางเมืองมาเสิร์ฟบนพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร ครั้งแรกกับการแนะนำเมนูใหม่ภายใต้คอนเซปต์ Bistro จาก You Hunt We Cook เปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 น.

 

 

2. อาคารไลฟ์สไตล์: ยกทัพจัดเต็มแบรนด์ดัง ร้านเด็ด – ภายใต้อาคารไลฟ์สไตล์แห่งนี้ Design Village และบุญถาวรนำแบรนด์ดังและร้านค้าจำนวนมากมาให้บริการผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนแบบเล่นใหญ่สุดๆ มีทั้งแบรนด์รีเทลกลุ่มแฟชั่น เช่น UNIQLO Roadside 

 

สินค้าจาก UNIQLO มีให้เลือกครบ สต๊อกแน่นๆ ไม่มีขาด!

 

แบรนด์กลุ่มร้านอาหารที่หลายคนรอคอยให้มาเปิดในย่านบางนา เช่น After You, Masaru Shabu & Sushi Buffet, Signature BKK บุฟเฟต์ชาบู-อาหารนานาชาติซูเปอร์พรีเมียม, รสนิยม (Rosniyom) ร้านอาหารไทยจาก Iberry Group, ลิ้มเหล่าโหงว, YAMAYA TEMPURA by Hakata สาขาแรกของเมืองไทย, วราภรณ์ ซาลาเปา, Wines Catalog, Fresh Me, Kamu Kamu และ Tora Cha เป็นต้น

 

 

กลุ่ม Home & Living เช่น OPPEIN Bangkok โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับตู้ครัว ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ และประตูภายใน OPPEIN เป็นผู้ผลิต Cabinetry รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย และแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศจีน, Zedere, Glasten หรือร้านค้ากลุ่มเฮลท์แอนด์เวลเนส อย่าง Pruksa Wellness และ GALAXY Fitness ที่ออกแบบด้วยแนวคิดใหม่ กับบรรยากาศการออกกำลังกายในธีมอวกาศ สาขาแรกในประเทศไทย

 

 

3. อาคารบุญถาวร: ออกแบบชีวิตให้ตัวเอง เลือกแต่งบ้าน เลือกอยู่ในแบบฉบับของคุณ! อาคารบุญถาวร ซึ่งเป็นพื้นที่ Home & Living Retail ที่ช่วยให้ทุกไอเดียในการออกแบบชีวิต ความเป็นอยู่ของคนรักบ้าน (คอนโด) ทุกคนเป็นจริงได้ และเป็นไปตามที่ใจเราต้องการ

 

ครบทุกโซลูชันการออกแบบความเป็นอยู่ให้กับคนรักบ้าน

 

โดยมาพร้อมกับโซลูชันด้านความเป็นอยู่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tile Gallery, Kitchen, Bath & Bath, Anyhome และ Lighting Center ที่นำแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกมามอบความลักชัวรีให้กับคุณคนพิเศษ ด้วยสินค้าคุณภาพตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับคนที่พิถีพิถันกับการตกแต่งบ้าน รองรับกลุ่มผู้ที่มีใจรักในการดีไซน์ที่อยู่อาศัย และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจรวมถึงไอเดียใหม่ๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพ

 

 

4. อาคาร Starbucks Drive-Thru: Third Place ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกคน – อีกหนึ่งเพื่อนคู่ใจยามเดินทางไกล และพื้นที่คอมฟอร์ตโซนของใครหลายๆ คน สำหรับ Starbucks Drive-Thru สถานที่ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับเหล่านักเดินทางให้แวะมาเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มที่หลากหลาย พร้อมการให้บริการแบบ Drive-Thru ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ต้องการลงจากรถเพื่อซื้อกาแฟให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

ดีไซน์การออกแบบอาคารต่างๆ ภายใน Design Village บางนา 

ที่ ‘คิดมาแล้ว’ ว่าต้อง Prompt Access 

ช่วยให้ผู้ใช้บริการเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ 

ด้วยระยะทางที่สั้น โปร่ง โล่งสบาย

 

สำหรับ Design Village บางนาแห่งนี้ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Prompt Access ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเป็นที่ปรึกษาการออกแบบพื้นที่ความเป็นอยู่ของบุญถาวร 

 

ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้การจัดโซนร้านค้าและบริการให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย โดยรอบตัวอาคารมีการปรับกระชับระยะทางจากประตูรถถึงประตูร้านให้สั้นลง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินถึงกัน และไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถ เชื่อมโยงอาคารแต่ละแห่งให้สัมพันธ์กัน

 

ทั้งยังคำนึงถึงเรื่องแสงธรรมชาติ การระบายอากาศ การประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งยังมีการบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าอีกด้วย

 

ทำไมถึงต้องเป็นบางนา?

สาเหตุที่บุญถาวรเลือก ‘ปักหมุด’ ลงเสาเข็ม Design Village พื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราด เส้นหลักแห่งนี้ให้กลายเป็น Community Living Mall แห่งใหม่ที่ชาวบางนาจะใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ของตนเองได้อย่างอิสระเป็นเพราะว่า พื้นที่แห่งนี้ถูกต่อยอดจากทำเลที่ตั้งของบุญถาวรเดิมบนพื้นที่ขนาด 30 ไร่

 

ซึ่งในเชิงศักยภาพของทำเลถนนบางนา-ตราดแห่งนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย ‘ความสุกงอม’ ในหลากหลายด้าน ทั้งการเป็นทำเลทองที่มีโครงการอาศัยในรัศมีโดยรอบ 5 กิโลเมตรมากถึง 180 โครงการ (และมีแนวโน้มจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ด้วย!)

 

เป็นโลเคชันที่เดินทางสัญจรได้อย่างสะดวกสบาย เชื่อมระหว่างเมืองหลวงกรุงเทพฯ กับโซนภาคตะวันออก ทั้งยังเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักเส้นอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนกาญจนาภิเษก และถนนกิ่งแก้ว และในอนาคตอันใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็จะเปิดให้บริการในย่านนี้อีกด้วย

 

 

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บุญถาวรมองเห็นถึงศักยภาพ โอกาส และความต้องการจากประชากรในละแวกย่านบางนาและโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกที่นับวันก็มีแต่จะขยายตัว เติบโตมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การพัฒนา Design Village บางนา บนพื้นฐานความเข้าใจความเป็นอยู่ของผู้คน และประสบการณ์ในการให้บริการ Design Village มาต่อเนื่องนานถึง 5 ปีเต็ม นับตั้งแต่เปิดให้บริการแห่งแรกที่ Design Village ราชพฤกษ์ เมื่อปี 2561 

 

และในอนาคตอันใกล้ บุญถาวรยังส่งสัญญาณมาแล้วว่า พวกเขาจะยังคงมองหาทำเลใหม่ๆ ที่มีความน่าสนใจ มีศักยภาพพร้อม เพื่อปักหมุดให้บริการ Design Village แห่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความเจริญของเมืองที่แผ่ขยายอาณาบริเวณออกไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน!

 

และสำหรับวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 Design Village บางนาจัดงานเปิดตัวภายใต้แนวคิด ‘Unfold Enjoy Party: ขยายความสุข ครอบคลุมทุกพื้นที่’ เพื่อให้เพื่อนบ้านชาวบางนานิสต้าได้ Unfold คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์กับพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ พร้อมกิจกรรมมากมาย และส่วนลดจากร้านค้าแบบจุกๆ พร้อมโปรโมชันพิเศษช้อปครบรับทันที Design Village Tumbler และพิเศษมากยิ่งขึ้น ช้อปมากก็ได้ลุ้นมากกับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2566 

 

รวมไปถึงไฮไลต์เด็ด มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เช่น เจ เจตริน, PARADOX, อะตอม ชนกันต์ และ ป๊อบ ปองกูล ที่จะขนเอาความสนุก ความสุข มาต้อนรับทุกคนแบบไม่มีกั๊กอีกด้วย!

 

  

 

ดีไซน์วิลเลจ บางนา (Design Village Bang Na)

ที่อยู่: 15 ทางคู่ขนาน ถนนบางนา-ตราด ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 

เปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

โทร.: 0 2174 6888

The post แลนด์มาร์กใหม่ชาวบางนา ‘Design Village บางนา’ เปิดแล้ว จัดเต็มร้านดัง ซูเปอร์มาร์เก็ต เสื้อผ้า กินดื่ม แต่งบ้านครบที่เดียว [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
จองตั๋วกับ Traveloka แอปที่เข้าใจไลฟ์สไตล์นักเดินทาง ดึง ‘ใบเฟิร์น’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำสถานะแพลตฟอร์มเที่ยวอันดับหนึ่งใน SEA [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/booking-with-traveloka-app/ Tue, 30 May 2023 02:00:43 +0000 https://thestandard.co/?p=795801 Traveloka

จองตั๋ว Traveloka วางแผนการเที่ยวได้ตามใจ ตอบโจทย์ทุกไล […]

The post จองตั๋วกับ Traveloka แอปที่เข้าใจไลฟ์สไตล์นักเดินทาง ดึง ‘ใบเฟิร์น’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำสถานะแพลตฟอร์มเที่ยวอันดับหนึ่งใน SEA [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Traveloka

จองตั๋ว Traveloka วางแผนการเที่ยวได้ตามใจ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

หากกล่าวถึงไลฟ์สไตล์ สิ่งหนึ่งที่มักถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือ การท่องเที่ยว เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์ได้ค้นพบประสบการณ์แตกต่าง อันเป็นคุณค่าของชีวิตที่เหนือกว่าวันธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวก็แตกแขนงบริการขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวให้ได้รับความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็แข่งขันกันในเชิงคุณค่า ทั้งในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาและความเข้ากันดีกับไลฟ์สไตล์ของผู้รับบริการ ‘ทราเวลโลก้า’ (Traveloka) แอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือหนึ่งในแพลตฟอร์มจองตั๋วท่องเที่ยวที่เกิดมาเพื่อตอบสนองนักเดินทางยุคนี้ ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ระหว่างการเดินทางให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเอง

 

ภาพประกอบ 1: ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก บน โปรโมชัน International Travel Fair ชวนคุณออกไปท่องโลกกว้างกับ Traveloka

 

 

ภาพของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ในมู้ดแอนด์โทนที่ยิ้มแย้มสดใสในชุดสีโทนน้ำเงินและฟ้า ไม่ว่าจะเป็นลุคที่เธอโพสท่าชูนิ้วเลข 1 หรือลุคที่เธอกำลังลากกระเป๋าเดินทางก้าวออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ล้วนมีนัยถึงการสื่อสารครั้งใหม่ที่ Traveloka ตั้งใจจะบอกกับกลุ่มนักเดินทาง โดยเฉพาะกับกลุ่มคนร่วมเจเนอเรชันเดียวกันกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คือ Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหญ่ มีไลฟ์สไตล์ค่อนข้างหลากหลาย และเพื่อสื่อถึงความเป็นที่หนึ่งของแพลตฟอร์มเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตอบโจทย์โดนใจทุกการเดินทาง เพราะ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็เป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลถึงต่างแดน เธอจึงควบตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ในประเทศไทยและเวียดนาม นับเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว

 

นอกเหนือจากสร้างกระแสฮือฮาด้วยการคัดสรรแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับซุปตาร์ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มุ่งหวังแล้ว ทราเวลโลก้าในฐานะแอปจองตั๋วยอดนิยม ยังถือโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงบนแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นการปรับปรุงบริการให้มีความหลากหลายในเชิงไลฟ์สไตล์ตามค่านิยมในการท่องเที่ยวที่แปรเปลี่ยนไป โดยมีที่มาที่ไปจากการที่แบรนด์วิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มซึ่งมีพื้นเพและมีความสนใจที่แตกต่างกัน เพื่อให้สมฐานะแพลตฟอร์มยืนหนึ่งในใจของนักเดินทาง

 

ภาพประกอบ 2: ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน แพลตฟอร์มเที่ยว Traveloka ก็ช่วยให้คุณวางแผนพักผ่อนได้ตรงใจ

 

แน่นอนว่า หากคุณเป็นคนชอบวางแผนการเดินทาง ย่อมคุ้นเคยกับการจองตั๋วผ่าน Traveloka เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแบบครบเครื่องตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน บริการด้านขนส่ง หารถเช่า หาที่พัก ดีลส่วนลดร้านอาหาร รวมไปจนถึงช่วยวางแผนให้ทริปของคุณลงตัวที่สุด ยิ่งเมื่อแบรนด์มีการพัฒนาฟีเจอร์ภายในแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ เพื่อให้นักเดินทางสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ เพื่อให้คุณได้ ‘ใช้ชีวิตในแบบคุณ’ หรือ ‘Life, Your Way’ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบทริป ยิ่งทวีความน่าสนใจ เพราะให้ทั้งความคุ้มค่าและคุณค่ากับผู้ใช้งาน

 

ด้านความคุ้มค่า – คุณจะได้พบกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Price Lock หรือฟีเจอร์ล็อกราคา เอาใจนักวางแผนที่จองไฟลต์แต่เนิ่นๆ แล้วต้องการระยะเวลาในการตัดสินใจโดยไม่ต้องกังวลว่าราคาตั๋วจะพุ่งทะยานขึ้น*

 

(*คลิกดูเงื่อนไขการล็อกราคาได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/price-lock)


แม้ไม่ใช่มือโปร คุณก็สามารถจองตั๋วที่โดนใจได้เร็วและสะดวกมากขึ้นด้วย Promo Filter ให้คุณจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชันผ่าน Traveloka แบบคนมือโปร เพราะทราเวลโลก้าออกแบบฟีเจอร์นี้เพื่อให้คุณค้นหาโปรโมชันตั๋วเครื่องบินได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น เหมือนเป็นมือโปรจองตั๋วยังไงยังงั้น*

(*คลิกดูเงื่อนไข Promo Filter ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/explore/destination/how-to-promo-filter/100826)

 

 

ภาพประกอบ 3: ออกไปท่องโลกกว้างเมื่อไร อย่าลืมนึกถึง Traveloka แอปจองตั๋วที่จะทำให้การเที่ยวเมืองนอกของคุณคุ้มค่ายิ่งกว่า

 

พบดีลสุดคุ้มค่ากับฟีเจอร์ Price Alerts เพียงตั้งค่าการใช้งาน Price Alerts คุณก็จะไม่พลาดราคาสุดคุ้ม พร้อมเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินสายการบินต่างๆ ให้คุณกดจองราคาที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที*

 

(*คลิกดูเงื่อนไข Price Alerts ได้ที่ https://www.traveloka.com/en-th/explore/destination/how-to-price-alert/100129)

 

นักเรียน นักศึกษา บินคุ้มราคาประหยัดกว่า ด้วยฟีเจอร์ Student Fare* สะท้อนว่าแบรนด์เห็นคุณค่าในการออกเดินทางที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ได้

(*คลิกดูเงื่อนไข Student Fare ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/promotion/studentfare)

 

ส่วนใครที่ชอบไปเที่ยวเมืองนอก หรือกำลังวางแผนจัดทริปไปตะลุยโลกกว้างยังต่างแดน ฟีเจอร์ International Travel Fair จะทำให้คุณประทับใจกับส่วนลดทริปสูงสุดถึง 99% จองแล้วไปไม่ได้สามารถยกเลิกได้ฟรี แถมมี Refund Okay คืนเงินได้สูงสุด 80% ว่าแล้วก็ค้นหาตั๋วเครื่องบิน Traveloka บน Google แล้วเช็กดูโปรโมชันบนเว็บไซต์ได้เลย ระยะเวลาการจอง 22 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2566

                     

ภาพประกอบ 4: พบความสุขได้ทุกครั้งที่เดินทาง เพียงมีผู้ช่วยวางแผนเที่ยวอย่าง Traveloka สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ระหว่างทางได้ไม่รู้จบ

 

ด้านคุณค่า – เพราะเชื่อว่าความสุขของแต่ละคนแตกต่างกัน และเพราะเห็นความสำคัญของการก้าวออกไปสัมผัสโลกภายนอก เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเอง Traveloka จึงมีฟีเจอร์ Discovery เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักเดินทางที่อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ มาทำให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบ โดยที่ไม่ต้องผูกมัดกับการเดินทางในรูปแบบเดิมๆ คุณสามารถออกแบบให้เป็นตัวเองได้ 100% ไม่ว่าคุณจะมองหาประสบการณ์ Glamping ชิลๆ พักผ่อนในรีสอร์ต 5 ดาว ผ่อนคลายในสปา กิจกรรมสนุกแอดเวนเจอร์ อยากท่องเที่ยวส่งเสริมสุขภาพและความงาม บินสบายกับเที่ยวบินชั้นหนึ่ง หรือเที่ยวโรดทริปอันแสนสนุกและน่าตื่นเต้น จะเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ ทราเวลโลก้าก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายมาตอบสนองคุณได้

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร รักในไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวในแบบไหน Traveloka จะเป็นประตูบานใหญ่ให้คุณได้เปิดออกไป ‘ใช้ชีวิตในแบบคุณ’ แค่ลองจองตั๋วผ่านทราเวลโลก้า แพลตฟอร์มเที่ยวอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วความทรงจำกับการเดินทางครั้งใหม่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

 

 

The post จองตั๋วกับ Traveloka แอปที่เข้าใจไลฟ์สไตล์นักเดินทาง ดึง ‘ใบเฟิร์น’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำสถานะแพลตฟอร์มเที่ยวอันดับหนึ่งใน SEA [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>