LIFE | PLACE – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 19 Dec 2024 14:16:56 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 21 New Things in Bangkok มัดรวมสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ตลอดปี 2024 https://thestandard.co/life/21-new-things-in-bangkok-2024 Thu, 19 Dec 2024 14:16:56 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1021645

หากปี 2023 ทำให้คุณรู้สึกว่ากรุงเทพฯ เปลี่ยนไปเยอะมาก โ […]

The post 21 New Things in Bangkok มัดรวมสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ตลอดปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>

หากปี 2023 ทำให้คุณรู้สึกว่ากรุงเทพฯ เปลี่ยนไปเยอะมาก โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานที่รถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายสร้างเสร็จเสียที ในปี 2024 โฉมหน้าของกรุงเทพฯ เปลี่ยนไปอีกครั้ง โปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่คุณเคยได้ยินตามข่าวเมื่อหลายปีก่อนเข้าสู่ช่วงผลิดอกออกผล หลายโครงการเปิดตัวแล้ว ซึ่งมีทั้งโรงแรมหรู อาคารมิกซ์ยูส สวนสาธารณะ และแหล่งแฮงเอาต์ใหม่ ที่ทำให้พฤติกรรมคนเมืองเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 


 

 

Dior Gold House

 

นาทีนี้ไม่มีอะไรฮอตไปกว่าอาคารสีทองอร่ามที่กำลังเป็น Talk of the Town และเติมเต็มย่านเพลินจิตให้ดูหรูหรา และสวยมากยิ่งขึ้นกับ Dior Gold House คอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่จากแบรนด์แฟชั่น Dior ที่จำลองร้านสาขาหลักในปารีส เลขที่ 30 Avenue Montaigne มาไว้ที่ไทย นอกจากมีสินค้าในแบรนด์ให้จับจ่ายใช้สอย ด้านในยังมี Café Dior ที่ได้เชฟ Mauro Colagreco เชฟมิชลินสตาร์ 3 ดาว จากร้าน Mirazur ในเมือง Menton ฝรั่งเศส มาดูแลด้วย

 

Location: ย่านเพลินจิต ติดกับเซ็นทรัลชิดลม

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/uwNAVtnGCVCFeEbv6

 


 

 

Central Chidlom

 

ห้างเรือธงในเครือเซ็นทรัลรีเทลที่เพิ่งเปิดให้บริการสดๆ ร้อนๆ แถมยังมาในรูปโฉมใหม่ พร้อมคอนเซปต์ใหม่ ‘The Store of Bangkok’ เปลี่ยนใหม่หมดตั้งแต่โลโก้ สีของแบรนด์ ไปจนถึงรูปลักษณ์ของห้างสรรพสินค้า การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงทำให้เซ็นทรัลชิดลมดูเด็กลงและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น แต่ยังสร้างมู้ดใหม่ๆ ให้แก่ย่านเพลินจิต

 

Location: ย่านเพลินจิต

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/aHufZH3wGTb7iE1Z6

 


 

 

One Bangkok

 

อภิมหาโปรเจกต์ที่เปลี่ยนโฉมย่านพระราม 4 ให้คึกคัก (และรถติดมากกว่าเดิม) กับ One Bangkok โครงการมิกซ์ยูสสุดยิ่งใหญ่และครบเครื่องจาก Frasers Property ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ TCC Group ที่นี่มีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรมระดับท็อป รวมไปถึงที่พักอาศัยด้วย แม้ตอนนี้จะเปิดให้บริการไม่ครบ 100% แต่ก็กลายเป็น Destination ใหม่ของคนกรุง และทำให้ Landscape ละแวกนั้นแปลกตาจากที่เคย

 

Location: พระราม 4

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

Website: www.onebangkok.com

Map: https://g.co/kgs/ewoHw9h

 


 

 

Gaysorn Amarin

 

อดีตห้างอัมรินทร์พลาซ่าที่ปิดไปเมื่อปลายปี 2022 เพื่อรีโนเวตใหม่ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วในช่วงต้นปี พร้อมกับการมาของ LV The Place แห่งแรกของโลก รูปโฉมใหม่ของ Gaysorn Amarin นั้นพัฒนาเป็น Placemaking สร้างพื้นที่ให้คนเมืองมีพื้นที่พบปะกันมากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบสิ่งเดียวกัน แน่นอนว่ายังคงเป็นอาคารแบบมิกซ์ยูส ครบทั้งร้านรวงจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ร้านอาหารดังระดับมิชลิน คาเฟ่และร้านอาหารแบบสเปเชียลตี้ และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์คนชอบดูแลตัวเอง ทั้งสุขภาพและความงาม รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกีฬาเอาต์ดอร์

 

Location: ราชประสงค์

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

Website: www.gaysornvillage.com

Map: https://maps.app.goo.gl/8JqwbSUmfCrMjSUAA

 


 

 

LV The Place Bangkok

 

เอ่ยถึง Gaysorn Amarin ก็ต้องมาต่อกันที่ LV The Place – Experiential Store แบบ 360 องศาแห่งแรกของแบรนด์ Louis Vuitton รวบรวมรีเทล คาเฟ่ ร้านอาหาร และนิทรรศการอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน เช่น Visionary Journeys นิทรรศการที่บอกเล่าประวัติของ Louis Vuitton ในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน Le Café Louis Vuitton คาเฟ่ที่ตกแต่งในบรรยากาศอันรื่นรมย์ของพืชพันธุ์ธรรมชาติ และมีเฟอร์นิเจอร์จากคอลเล็กชัน Objets Nomades และ Gaggan at Louis Vuitton ไฟน์ไดนิ่งของเชฟชื่อดังระดับโลก Gaggan Anand มาสร้างสรรค์เมนูทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น

 

Location: ราชประสงค์

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. (ยกเว้นร้านอาหาร)

Map: https://maps.app.goo.gl/8JqwbSUmfCrMjSUAA

 


 

 

สวนลอยฟ้า แจ้งวัฒนะ

 

สวนสาธารณะลอยฟ้าบนอาคารจอดรถ 2 แห่งในเขตศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่มีเจ้าของโครงการเป็นบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด รัฐวิสาหกิจภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง โดยสวนแรกตั้งอยู่บนชั้น 11 ของอาคารจอดรถ Depot ขนาดพื้นที่กว่า 2,789 ตารางเมตร เชื่อมต่อกับสวนที่ 2 บนดาดฟ้าที่จอดรถอาคาร A ขนาดพื้นที่ 5,872 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีการสร้าง Skywalk ระยะทาง 213 เมตร เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ และสร้างพื้นที่สวนด้านหน้าอาคารอีก 1,701 ตารางเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการด้วย

 

Location: ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ทางออก 3

Open: ทุกวัน เวลา 05.30-00.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/u884NmzEecrbw5ZS7

 


 

 

ป้ายกรุงเทพฯ บน Skywalk

 

เรียกว่ากลายเป็น Talk of the Town ในทันที สำหรับป้าย ‘Bangkok’ บนรางรถไฟ BTS ตรงแยกปทุมวัน ที่กลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญของกรุงเทพฯ (ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้) ถูกเปลี่ยนใหม่กลายเป็นคำว่า ‘กรุงเทพ ⦁ Bangkok’ ด้วย CI เมืองใหม่ ซึ่งมีทั้งเสียงบ่นและเสียงชื่นชมดีไม่ดีปะปนกันไป ป้ายนี้ติดตั้งเมื่อช่วงกลางปีนี้ ทำหน้าที่เป็นจุดถ่ายรูปและเช็กอินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทย

 

Location: Skywalk สี่แยกปทุมวัน

Open: ทุกวัน

Map: https://maps.app.goo.gl/6WH7L7ssRAUjtARn6

 


 

 

Bangkok Kunsthalle

 

อดีตโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งให้กลายเป็นอาร์ตสเปซแห่งใหม่ย่านเยาวราช-หัวลำโพง พร้อมนิทรรศการแรก Nine Plus Five Works โดย Michel Auder ซึ่งเป็น Artist in Residence คนแรก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Kunsthalle วางตัวเองว่าไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ ไม่มีการจัดแสดงของเก่าหรือคอลเล็กชันอะไรทั้งนั้น ที่นี่เป็นอาคาร 3 หลังเชื่อมตัวกัน ดูแลโดยมี Stefano Rabolli Pansera อดีตผู้อำนวยการแกลเลอรี Hauser & Wirth ที่กรุงลอนดอน เป็นภัณฑารักษ์ โดยตั้งเป้าผลิตผลงานศิลปะที่ถูกครีเอตขึ้นมาสำหรับพื้นที่โดยเฉพาะ 4 ครั้งต่อปี

 

Location: ถนนไมตรีจิตต์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย

Open: วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 14.00-20.00 น.

Website: www.bangkok-kunsthalle.org

Map: https://maps.app.goo.gl/z3E7RQFwzL6uCWTU8

 


 

 

UOB LIVE

 

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ EMSPHERE คือการเปิดฮอลล์ขนาดใหญ่แห่งใหม่เอาไว้ตอบโจทย์สายคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ ด้วยพื้นที่ที่รองรับผู้ชมมากถึง 6,000 ที่นั่ง แถมยังรายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านรวงต่างๆ และที่สำคัญคือทำเลทองใจกลางสุขุมวิท ตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว UOB LIVE เปิดให้บริการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยประเดิมคอนเสิร์ตแรกจากศิลปินระดับโลกอย่าง Ed Sheeran ที่เปิดขายบัตรให้เฉพาะลูกค้า UOB เท่านั้น

 

Location: พร้อมพงษ์

Website: www.uoblive.asia

Map: https://maps.app.goo.gl/dh2MWapcfXeWM3uP8

 


 

 

EM WONDER

 

พื้นที่บริเวณชั้น 5 ของศูนย์การค้า EMSPHERE ที่ถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งแฮงเอาต์ยามค่ำคืน รวบรวม Bar & Restaurant ในบรรยากาศกึ่งเอาต์ดอร์ไว้มากกว่า 40 ร้าน ครบทั้งบาร์ บีชคลับ ไนต์คลับ เลานจ์ ใครชอบแบบไหนแวะเวียนไปได้หมด ที่สำคัญพื้นที่ส่วนใหญ่ล้วนเชื่อมต่อกันหมด สามารถนั่งดื่มนั่งชิลได้ต่อเนื่องทั้งคืน

 

Location: ชั้น 5 EMSPHERE

Website: https://emsphere.co.th

Map: https://maps.app.goo.gl/oocNnvwKrTSmqhyH6

 


 

 

SurfBokk

 

หลายคนอาจรู้จัก SurfBokk ในแง่ของ Airbnb สุดเท่ที่หลบซ่อนอยู่บนห้องแถวในละแวกอุดมสุข เอาใจคนรักเซิร์ฟสเกตด้วยการยกสนามมาไว้ในห้องนอนให้เล่นกันแบบเต็มปอด แต่รู้หรือยังว่า SurfBokk โฉมใหม่เขาปิดปรับปรุงส่วนห้องพัก และเปลี่ยนพื้นที่ส่วนต่างๆ ของตัวอาคารให้กลายเป็นแหล่งร้านมือสอง ร้านขายสัตว์แปลก คาเฟ่ ร้านสัก และคอมมูนิตี้ของคนเท่ย่านอุดมสุข

 

Location: ซอยอุดมสุข 7 กรุงเทพฯ

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/6KrB6VSCBBngWuxo8

 


 

 

SUPER NICE LAND

 

คอมมูนิตี้ลับของคนเก๋ย่านอุดมสุขที่เป็นมากกว่าร้านขายเครื่องดื่ม แต่เป็นทั้งห้องรับแขก ที่นั่งเล่น สตูดิโอถ่ายภาพ รวมไปถึง Selection Shop แสนเก๋ที่รวมของเท่ๆ จากหลายแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศมาไว้รวมกัน ที่นี่ซ่อนอยู่บนชั้น 2 ของ SurfBokk แบ่งพื้นที่ครึ่งของร้านเป็นคาเฟ่ มีโต๊ะและโซฟาเบดไว้นั่งตามจุดต่างๆ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งแปลงเป็นช้อปขายของไลฟ์สไตล์ที่ ‘นน-อนน สิงห์ทองลา’ เจ้าของและช่างภาพแฟชั่นแถวหน้าในวงการบ้านเรา คัดเลือกมากับมือ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่สามารถเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้หมด เพราะฉะนั้นอย่าตกใจถ้าวันหนึ่งกลับไปที่ร้านแล้วไม่พบโคมไฟที่ชอบหรือโปสเตอร์ที่อยากมาถ่ายรูปหายไป

 

Location: ซอยอุดมสุข 7 กรุงเทพฯ

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/6KrB6VSCBBngWuxo8

 


 

 

Red Bull Skate Park

 

เป็นอีกหนึ่งปีที่สวนป่าเบญจกิติมีอะไรใหม่เยอะมาก และหนึ่งในนั้นคือสนามสเกตบอร์ดแนวสตรีท ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สนามนี้ได้ผู้ใหญ่ใจดีกลุ่มธุรกิจ TCP และ Red Bull Energy Drink พัฒนาสนามร่วมกับทีม Preduce รองรับผู้เล่นทุกระดับตั้งแต่ Beginner ไปจนถึงคนที่ลงแข่งขันระดับสูง และออกแบบลวดลายของสนามโดย พาชา ไวส์ ศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังจากรัสเซีย

 

Location: สวนป่าเบญจกิติ

Open: ทุกวัน เวลา 04.30-22.00 น.

Map: https://maps.app.goo.gl/THtHgv7yBpyQk34f7

 


 

 

EA GALLERY

 

รูฟท็อปด้านกินดื่มบนชั้น 55 ของ Empire Tower ส่วนหนึ่งของ EA Rooftop at The Empire จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบนชั้น 55-58 โดยมีคอนเซปต์ Eat, Meet, Experience เป็นทั้งแหล่งแฮงเอาต์ ทั้งที่สังสรรค์และมอบประสบการณ์การกินท่ามกลางทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร EA GALLERY มีคาเฟ่และแคชวล มีทั้งหมด 4 ร้าน ได้แก่ % Arabica, 手 qraft., Onggi และ Invitation Only

 

Location: ชั้น 55 ของ Empire Tower

Open: ทุกวัน

Map: https://maps.app.goo.gl/MzH9xUEkNkQu7z7u9

 


 

 

EA Chef’s Table

 

หลังโปรเจกต์ย่อยอย่าง EA GALLERY กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของคนกรุงเป็นที่เรียบร้อย ไม่กี่เดือนต่อมา AWC ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรูฟท็อปด้านกินดื่ม EA Rooftop at The Empire อย่างเต็มรูปแบบในโซน EA Chef’s Table บนชั้น 56-59 ของ Empire Tower ที่รวมเอาร้านดังจากเชฟระดับดาวมิชลิน 4 คน ได้แก่ Le Du Kaan ของเชฟต้น, K by Vicky Cheng ของเชฟวิกกี้ เชง, Sartoria by Paulo Airaudo ของเชฟเปาโล และร้าน Nobu Bangkok ของเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

 

Location: ชั้น 56-59 Empire Tower

Open: ทุกวัน

Map: https://maps.app.goo.gl/MzH9xUEkNkQu7z7u9

 


 

 

Kunawong House Museum

 

พิพิธภัณฑ์ในบ้านของตระกูลคุณาวงศ์ที่คนในครอบครัวตัดสินใจเปิดบ้านให้ชมครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่เปิดแบบเต็มรูปแบบในปี 2024 ที่นี่ไม่ใช่เป็นแค่พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะ แต่ยังเป็นบ้านที่ตระกูลคุณาวงศ์อาศัยอยู่จริงๆ งานสะสมของตระกูลคุณาวงศ์นั้นหลากหลายมาก มีหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีจนถึงชิ้นงานปัจจุบัน ครบทั้งภาพเขียน ประติมากรรม ศิลปะตกแต่ง ภาพถ่าย เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงอาร์ตทอย ฯลฯ ยิ่งการกลับมาคราวนี้ตระกูลคุณาวงศ์รวมชิ้นงานจาก ‘ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ’ มาไว้ด้วยแล้ว คุณแทบจะจินตนาการไม่ได้เลยว่าบ้านคนหนึ่งหลังสามารถอยู่ร่วมกับของสะสมและของแต่งบ้านกว่า 1,000 ชิ้นได้อย่างไร

 

Location: ลาดพร้าว 54

Open: วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-18.00 น.

Website: www.kunawonghousemuseum.com

Map: https://maps.app.goo.gl/YnNyLtP5zScYsMbA8

 


 

 

 

Dusit Central Park (เฟสแรก)

 

แม้จะเปิดเพียงเฟสแรก แต่โปรเจกต์ Dusit Central Park ก็สร้างความตื่นเต้นให้คนกรุงเทพฯ มากพอควร กับการกลับมาของ Dusit Thani Bangkok โรงแรมระดับไอคอนิกของเมืองกรุง ที่โฉมใหม่ยังคงเสน่ห์ไทยร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของ Dusit Thani อาคารสูงสีทองขนาด 39 ชั้น (จากเดิม 22 ชั้น) ประกอบไปด้วยห้องพักสุดหรู จำนวน 257 ห้อง (จากเดิม 517 ห้อง) ทุกห้องสะท้อนความเรียบหรู โอ่อ่า กว้างขวาง และออกแบบโดย André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชียที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล

 

Location: ถนนพระราม 4

Open: ทุกวัน

Website: www.dusit.com/dusitthani-bangkok

Map: https://maps.app.goo.gl/29hT5E3qfwua8zFG9

 


 

 

The Ritz-Carlton, Bangkok

 

หนึ่งในโรงแรมที่ทุกคนจับตามองกับการมาของ The Ritz-Carlton, Bangkok แบรนด์โรงแรมหรูที่เข้ามาเปิดในกรุงเทพฯ ครั้งแรก แถมยังปักหลักที่โครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่แห่งปี One Bangkok ในทำเลทองที่เห็นวิวสวนลุมพินีตัดกับตึกระฟ้าตรงเส้นขอบฟ้าพอดิบพอดี ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมหรูในเครือ Marriott International โดยมีบริษัท SOM จากชิคาโก และ A49 ของประเทศไทย รับหน้าที่ออกแบบอาคาร ส่วนการตกแต่งภายในทั้งหมดดูแลโดย PIA บริษัทอินทีเรียร์สัญชาติไทยที่ฝากผลงานไว้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Thien Duong แห่งบ้าน Dusit Thani, Hyatt Regency Bangkok หรือ Gentry Club แห่ง K11 MUSEA

 

Location: ถนนพระราม 4

Open: ทุกวัน

Website: www.dusit.com/dusitthani-bangkok

Map: https://maps.app.goo.gl/29hT5E3qfwua8zFG9

 


 

 

SRT Royal Blossom

 

อดีตขบวน ‘Hamanasu’ จากฮอกไกโด ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยรับมอบและนำมาชุบชีวิตใหม่ให้กลายเป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยวหรูหรา และเปิดวิ่งอย่างเป็นทางการในเที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางท่องเที่ยวแบบ One Day Trip มีทั้งกาญจนบุรี หัวหิน ลพบุรี ซึ่งแต่ทริปจะถูกปล่อยให้จองล่วงหน้าและดูแลโดยการรถไฟฯ ทั้งหมด โดยไฮไลต์ของขบวนนี้อยู่ที่โบกี้เสบียงเปิดเป็นคาเฟ่เคลื่อนที่ มู้ดดีสุดๆ

 

Location: หัวลำโพง

Map: https://maps.app.goo.gl/aGuPh4GmHvRXBeX1A

 


 

 

ฟุตปาธใหม่รอบกรุง

 

รู้สึกไหมว่าทางเท้ากรุงเทพฯ นั้นเดินง่ายขึ้น? โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กทม. เริ่มนำร่องปรับปรุงทางเดินเท้าไปแล้วมากกว่า 16 เส้นทาง ให้เดินง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เป็นมิตรกับคนพิการ แถมยังมีฝาท่อลายใหม่ให้เราไปเช็กอินถ่ายรูปด้วย และตอนนี้ก็กำลังทยอยทำให้เสร็จแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในทุกเส้นทาง ใครไปเดินเส้นไหนมาแล้ว ชอบไม่ชอบตรงไหนมาแชร์กันได้

 


 

 

ทางเชื่อมสวนหลวง ร.9 – บึงหนองบอน

 

แต่ก่อนจะเดินจากสวนหลวง ร.9 ไปบึงหนองบอนสักทีต้องอ้อมออกกำลังขากันสักหน่อย แต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา กทม. เปิดประตูทางเชื่อมสวนหลวง ร.9 – บึงหนองบอน อำนวยความสะดวกให้นักวิ่ง นักเดิน และนักปั่น ออกกำลังกายกันได้ยาวๆ ไม่ต้องอ้อมไกล ซึ่งการเชื่อมต่อนี้ก็ทำให้สวนหลวง ร.9 – บึงหนองบอน กลายเป็นพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ไปโดยปริยาย

 

Location: ประเวศ

Open: ทุกวัน

Map: https://maps.app.goo.gl/yTTvvgfpD6B75z2v9

 

ภาพ: Shutterstock, THE STANDARD TEAM, Courtesy of Brand

The post 21 New Things in Bangkok มัดรวมสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ตลอดปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
กิน ดื่ม ปาร์ตี้หนัก เล่นสกีไม่อั้นที่ Club Med Beidahu มณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน https://thestandard.co/life/club-med-beidahu-ski-party-china Wed, 18 Dec 2024 14:48:58 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1021175

ในวันที่ไม่รู้ว่าฤดูหนาวเมืองไทยจะหนาวกี่โมง เราเลยตัดส […]

The post กิน ดื่ม ปาร์ตี้หนัก เล่นสกีไม่อั้นที่ Club Med Beidahu มณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในวันที่ไม่รู้ว่าฤดูหนาวเมืองไทยจะหนาวกี่โมง เราเลยตัดสินใจบินลัดฟ้าไปสัมผัสความหนาวเย็นแบบติดลบ พร้อมปลุกอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านกับการเล่นสกีที่ Club Med Beidahu (คลับเมดเป่ยต้าหู) สกีรีสอร์ตอันเลื่องชื่อที่จีนที่ควรแวะมาเที่ยวในซีซันนี้เป็นที่สุด

 

Club Med Beidahu

 

Why here?

 

Club Med เป็นแบรนด์รีสอร์ตหรูจากฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1950 โดยปัจจุบันมีมากกว่า 60 รีสอร์ตทั่วโลก จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ Club Med เป็นที่ชื่นชอบของแขกผู้เข้าพักทั่วโลกคือคอนเซปต์ ‘All-Inclusive’ จ่ายทีเดียวจบแล้วไปกิน ดื่ม สนุกให้เต็มที่ ซึ่งความสนุกที่ว่าไม่ใช่แค่การเล่นสกีหรือเดินตะลุยหิมะทั่วรีสอร์ต แต่ยังมีกิจกรรมครบทั้งด้าน Wellness และ Entertainment ให้ทำอย่างจัดเต็มตลอดการพัก 

 

Club Med Beidahu ตั้งอยู่ที่มณฑลจี๋หลินทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน มณฑลที่มีภาพจำเป็นผลึกน้ำแข็งและผืนหิมะหนานุ่ม ไม่แปลกที่ที่นี่จะเป็นอีกจุดหมายปลายทางอันเลื่องชื่อของคนที่ชื่นชอบการเล่นสกี

 

Club Med Beidahu

 

การเดินทางจากประเทศไทยจะต้องต่อเครื่องบิน 1 ต่อ รวมเวลา 6 ชั่วโมงกว่า จากนั้นนั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมง จากสนามบิน Changchun Longjia ไปยังรีสอร์ต ฟังดูอาจจะนาน แต่ทัศนียภาพที่ได้เห็นระหว่างเดินทางทำให้เราสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เราจะเจอตรงหน้าคุ้มค่าแก่การรอคอยแน่ๆ

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ก้าวแรกที่เดินลงจากรถหน้ารีสอร์ตก็สัมผัสได้ถึงลมหนาวเยือกเย็นพร้อมอากาศที่สดชื่น ก่อนที่จะเดินเข้ามาเจอกับบรรยากาศอบอุ่นบริเวณล็อบบี้และโซน Apperif

 

Club Med Beidahu

 

ในช่วงบ่าย-เย็นของทุกวัน แขกผู้เข้าพักทุกคนสามารถเอ็นจอยกับของว่างได้ตามอัธยาศัย รวมไปถึงเครื่องดื่มบริเวณบาร์ หรือถ้าท้องร้อง อยากกินอาหารแบบจริงจังก่อนมื้อเย็น ที่นี่ก็มีอาหารจานเดี่ยวบริการเช่นกัน

 

ในส่วนของห้องที่เราพักเป็นห้องประเภท Deluxe Room ซึ่งใหญ่เหลือเฟือสำหรับการนอนคนเดียว เตียงขนาดคิงไซส์ โซฟาเบดพร้อมกระจกบานใหญ่ แต่งองค์ทรงเครื่องได้สบายๆ

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ห้องน้ำถูกแยกเป็นสัดส่วนทั้ง Bathtub และ Shower และยังมีผลิตภัณฑ์เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ Club Med อย่าง AHAVA® ซึ่งเหมาะจะใช้เป็นตัวช่วยบูสต์ความชุ่มชื้นในฤดูหนาวนี้เป็นอย่างดี

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ซึ่งถ้าตื่นตอนเช้าเปิดหน้าต่างมาก็จะเจอกับบรรยากาศสวยสดชื่นแบบนี้

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

สำหรับใครที่มีแพลนจะมากับกลุ่มเพื่อน และมองหาห้องที่พร้อมจะปาร์ตี้สุดเหวี่ยง แนะนำให้มาพัก Penthouse Suite ห้องที่รองรับแขกได้สูงสุด 6 คน แต่ดูจากสายตาแล้วน่าจะตั้งทีมฟุตบอลได้สบายๆ

 

Club Med Beidahu

 

ห้องนี้มีทั้งโซนครัว โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน โต๊ะพูล และโต๊ะ Mahjong เรียกว่าใช้ชีวิตในนี้ได้ทั้งวัน

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ในส่วนของอาหาร ที่นี่จะเป็นบุฟเฟต์ทั้ง 3 มื้อ จัดในห้องอาหารเดียวกัน มีทั้งสไตล์เอเชียและตะวันตก แต่อาหารจีนก็จะเยอะหน่อย มีให้เลือกอร่อยจากหลากหลายภาค ซึ่งรสชาติส่วนใหญ่เป็นรสที่คนไทยเข้าถึงได้ง่าย

 

Club Med Beidahu

 

แอบกระซิบว่าปาท่องโก๋ยามเช้าของที่นี่อร่อยมาก เท็กซ์เจอร์ทอดได้กรอบนอกนุ่มในแต่ไม่อมน้ำมันสักนิด กินกับนมข้นเพลินสุด

 

Club Med Beidahu

 

แน่นอนว่าใครเป็นสายดื่มก็สามารถสั่งได้ไม่อั้นตามอัธยาศัยทุกเวลา อย่างในโซนห้องอาหารจะเสิร์ฟเป็นไวน์และเบียร์ แต่ถ้าต้องการเครื่องดื่มอื่นๆ ก็สามารถเดินไปสั่งที่บาร์ด้านนอกได้ 

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ช่วงเวลาหลังจากดินเนอร์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความหรรษาของ Club Med แต่ละคืนจะมีโชว์พิเศษตั้งแต่เวลา 20.30-22.00 น. และจะมี Dress Code ให้แขกผู้เข้าพักได้แต่งกันสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น Club Med 44&88 Collection ซึ่งเป็นเสื้อคอลเล็กชันพิเศษของรีสอร์ต, Black & Gold / Silver หรือ Black & Fluorescent 

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

บางวันอาจเป็นโชว์ให้เรานั่งดูกันเพลินๆ แต่บางวันแนะนำให้กินข้าวเย็นไวหน่อย เพราะคุณอาจโดนลากไปเต้นในขณะที่ข้าวยังไม่ทันย่อย (เหมือนเรา) วันที่เป็นปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยงคงต้องยกให้เป็นวัน Glow Party ที่ทั้งฟลอร์ถูกเนรมิตเป็นไนต์คลับ ซึ่งงานนี้เด็กเล็กก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน เพียงแต่จะไม่มีการเสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

จากที่นั่งดูโชว์มาทั้งหมด 3 วัน ต้องบอกว่า Club Med Beidahu จริงจังเรื่องการแสดงใช่เล่น ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากเลยทีเดียว 

 

Club Med Beidahu

 

นอกจากโชว์แล้ว หากใครที่อยากจะอวดลูกคอ ที่นี่ก็ยังมีห้องคาราโอเกะให้บริการ รวมไปถึงโซนเกมต่างๆ เช่น พูล, Mahjong, VR หรือปิงปอง เรียกว่ามีกิจกรรมรองรับคนทุกวัย

 

Club Med Beidahu

 

มาถึงไฮไลต์สำคัญของทริปนี้กันบ้าง ซึ่งก็คือการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด

รีสอร์ตจะให้เราไปลองไซส์อุปกรณ์จำพวกหมวกกันน็อกและรองเท้า

ซึ่งถ้าใครมีอุปกรณ์เป็นของตัวเองก็จะไม่เสียค่าเช่าเพิ่มเติม

 

Club Med Beidahu

 

ในส่วนของรองเท้า แนะนำว่าไม่ควรใส่รองเท้าที่แน่นหรือหลวมจนเกินไปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และควรสวมถุงเท้าที่หนาพอ

 

Club Med Beidahu

 

ส่วนชุดที่สวมใส่เวลาเล่นสกี แนะนำให้เป็นชุดที่กันลม กันน้ำ ถ้าใครไม่มีก็สามารถเช่าเพิ่มเติมได้ ยกเว้นแว่นที่จะต้องเตรียมมาเอง ถุงมือควรมี เสื้อผ้าด้านในควรเป็นลองจอห์นที่หนาพอจะให้ความอบอุ่น 

 

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ รีสอร์ตจะให้ลงทะเบียนเรียนคอร์ส Beginner ในช่วงเช้าก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับรองเท้าสกี เรียนรู้วิธีการเคลื่อนไหว เบรก เลี้ยว ซึ่งที่นี่มีครูต่างชาติที่สอนเป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

ลานที่ครูใช้สอนช่วงเช้าจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยสูงมาก แต่พอเป็นช่วงบ่าย เราจะได้ลองขึ้นผาที่สูงขึ้น โดยจะต้องใช้ Ski Pass ในรูปแบบบัตรที่รีสอร์ตให้มา

 

Club Med Beidahu

 

จุดนี้ทำให้เราค้นพบว่าการมีเสื้อสกีโดยเฉพาะมีข้อดีพอสมควร เพราะส่วนใหญ่เสื้อสกีจะมีซิปที่สามารถเก็บบัตรได้ ทำให้ง่ายต่อการแตะบัตรเข้า-ออก และต่อให้ล้มก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเปียก 

 

ส่วนวิธีขึ้นไปยังผาก็มีเก๋ดี เราจะต้องเอาตัวไปยืนบน Magic Carpet ที่หน้าตาเหมือนบันไดเลื่อน ระหว่างรอมันเคลื่อนตัวก็สามารถทอดสายตาชมวิวรอบๆ ได้เพลินๆ

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

นอกจากนี้ สิ่งที่ค้นพบก็คือแว่นกันแดดธรรมดาอาจไม่เหมาะสำหรับการเล่นสกีเท่าไร เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องการกันฝ้าและลม แต่มีก็ยังดีกว่าไม่มี ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราแนะนำให้มีก็คือ Ski Mask หรือที่เรียกกันว่าหมวกไอ้โม่ง

 

Club Med Beidahu

 

สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะนาทีที่คุณเล่นสกีลงมาจากที่สูง หิมะและลมจะตีหน้าคุณอย่างสุดเหวี่ยง และมันจะทำให้หน้าคุณชาและแสบราวโดนหิมะกัด

 

Club Med Beidahu

 

สำหรับเราที่เป็นมือใหม่ในครั้งแรกเลยทำให้ต้องเดินทุลักทุเลฝ่าหิมะออกจากสนามเพื่อลงไปซื้อหมวกไอ้โม่งบริเวณบูติกใกล้ๆ ซึ่งทำให้เสียเวลาเล่นสกีไปพอสมควร แนะนำให้มีแอป WeChat หรือ Alipay แล้วผูกกับบัตรเครดิต เพื่อความสะดวกในการชำระเงินกับร้านค้า 

 

สรุปจากการได้สัมผัสสกีครั้งแรก รู้เลยว่าคนที่มีบาลานซ์ดี มีกล้ามเนื้อขาและแกนกลางที่แข็งแรงจะค่อนข้างได้เปรียบ เพราะต้องอาศัยการเกร็งกล้ามเนื้อในส่วนนั้นค่อนข้างเยอะ เมื่อเริ่มฝึกจนชินและสามารถปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสโลปได้แล้ว เราเชื่อว่าสกีน่าจะกลายเป็นแพสชันใหม่ของใครหลายคนแน่นอน

 

Club Med Beidahu

 

นอกจากสกีแล้ว ที่นี่ยังมีโซนให้ไปถ่ายรูปทำคอนเทนต์อีกหลายจุด โดยเราสามารถนั่ง Gondola ขึ้นไปได้ แต่ยังคงต้องใช้ Ski Pass เข้า-ออกเหมือนเดิม

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

บรรยากาศสวยประหนึ่งฉากในซีรีส์

แนะนำว่าควรแต่งตัวให้อุ่นเป็นพิเศษ เพราะอุณหภูมิด้านบนหนาวกว่าด้านล่างพอสมควร

 

Club Med Beidahu

 

ถ่ายรูปจนหนำใจแล้วจะมานั่งจิบกาแฟอบอุ่นร่างกายที่ % Arabica ต่อด้านล่างก็ฟีลกู๊ดไปอีกแบบ

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

เมื่อกลับลงมาถึงตัวรีสอร์ตก็เป็นต้องเซอร์ไพรส์กับ Outdoor BBQ อีเวนต์น่ารักๆ ที่รีสอร์ตจัดเพื่อต้อนรับเหล่าแขกผู้เข้าพักหลังกลับมาจากการเล่นสกี เหมือนเป็นการรองท้องก่อนมื้อกลางวันเบาๆ

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

บรรยากาศออกจะเหมือน Full Moon Party มากกว่าแค่ลานบาร์บีคิว เพราะดีเจเปิดเพลงมันมาก ทีมงาน Club Med ต่างออกมาเต้นบริเวณรอบกองไฟอย่างม่วน แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาเที่ยงก็ตาม

 

Club Med Beidahu

Club Med Beidahu

 

นอกจากนี้รีสอร์ตก็มีโปรแกรม Snow Trekking ซึ่งเป็นการเดินสำรวจป่าเขารอบนอกรีสอร์ต สิ่งที่ต้องเตรียมคือแจ็กเก็ตกันหิมะและรองเท้าที่ลุยหิมะได้ หากรองเท้าของใครหุ้มข้อเตี้ยก็ไม่ต้องกังวล เพราะรีสอร์ตมีผ้าคลุมรองเท้ากันหิมะให้บริการ

 

Club Med Beidahu

 

แม้เส้นทางการเดินอาจทำเอาหอบไปบ้าง แต่พอถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุดแล้วก็ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับทุกก้าวที่เดินมาจริงๆ

 

Club Med Beidahu

 

Worth it 

  • จ่ายครั้งเดียวจบ กิน ดื่ม เที่ยว เล่นได้เต็มที่ 
  • อาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย เป็นบุฟเฟต์ทุกมื้อ 
  • ห้องพักกว้างเหลือเฟือ นอนสบาย มีทุกอย่างครบ
  • โชว์และปาร์ตี้จัดเต็มทุกคืน
  • มีคลาสฟิตเนส ออนเซน เกม คาราโอเกะ ฯลฯ ให้ทำเพียบ
  • ลานสกีมีหลายระดับ มือใหม่เล่นได้ มือเก๋าสะใจ 

Good for

 

ใครที่เลิฟหิมะ ความหนาวเย็น เอ็นจอยกิน ดื่ม และลุยทุกกิจกรรมได้เต็มที่แบบไม่ต้องกังวล เรามั่นใจว่า Club Med Beidahu จะเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่คุณต้องเก็บไว้ใน Bucket List อย่างแน่นอน แนะนำให้จองมาอย่างน้อย 4 วัน 3 คืน เชื่อเถอะว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ

 

Club Med Beidahu

 

ภาพ: Club Med Beidahu

 

Club Med Beidahu 

Address: Jilin, Yongji County, Jilin, Kai Fa Qu 132224, China

Open: เปิดทำการช่วงฤดูหนาว วันที่ 15 พฤศจิกายน 2024 – 16 มีนาคม 2025 และจะเริ่มเปิดให้จองซีซัน 24/25 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป

Budget: 

  • ค่าที่พัก: 4 วัน 3 คืน ประจำซีซัน 24/25 ราคาเริ่มต้นที่ 49,000-105,000 บาทต่อ 2 คน 
  • ค่ารับ-ส่งสนามบิน: 3,120 บาทต่อคน
  • ค่าเช่าเซ็ตอุปกรณ์สกี (รองเท้าสกี, โพล, บู๊ต, หมวก): 1,900 บาทต่อวันต่อคน สามารถเช่าเป็นชิ้นได้
  • มีบริการเช่าชุดสกี สอบถามราคาได้ทางรีสอร์ต

Tel: 0 2035 6788

Website: https://www.clubmed.co.th/r/beidahu/y

Instagram: https://www.instagram.com/clubmed/ 

Facebook: https://www.facebook.com/ClubMedThailand 

Map: https://maps.app.goo.gl/7CaJTVSweN6P16KQ6 

 

 

The post กิน ดื่ม ปาร์ตี้หนัก เล่นสกีไม่อั้นที่ Club Med Beidahu มณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2568 https://thestandard.co/life/holiday-check-in-2025 Mon, 16 Dec 2024 10:46:58 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1020140 วันหยุด 2568

เผลอไม่ทันไรเราก็ก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปีกันอีกครั้ง […]

The post ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
วันหยุด 2568

เผลอไม่ทันไรเราก็ก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปีกันอีกครั้ง แม้ปีนี้การงานจะหนักหน่วง เศรษฐกิจจะไม่เฟื่องฟู แต่ก็มีอะไรใหม่ๆ มากมายเกิดขึ้นในชีวิต เราเชื่อว่าปีนี้เป็นอีกปีที่ทุกคนทำงานหนัก และไม่ว่าปี 2568 จะเป็นเช่นไร เราอยากให้คุณจัดสมดุลชีวิตให้ดี หาเวลาออกเดินทางไปพบประสบการณ์และโลกใหม่ๆ เพราะนอกจากจะฮีลใจและกายเราเองแล้ว ยังช่วยส่งเสริมไอเดียใหม่ๆ และสร้างโอกาสให้เราด้วย

 

จงใช้วันลาอย่างคุ้มค่า เพราะเราทุกคนล้วนต้องการการพักผ่อนและเวลาส่วนตัว เพื่อรักษาร่างกายและค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

 

และนี่คือ วันหยุด – วันควรลาทั้งปี 2568 เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยวได้อย่างไม่มีสะดุด

 

The post ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Grindelwald หมู่บ้านในหุบเขาของสวิส ที่แอบซ่อนความสนุกไว้เพียบ https://thestandard.co/life/grindelwald-switzerland-hidden-fun Sat, 14 Dec 2024 10:22:56 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1019639 grindelwald-switzerland-hidden-fun

ในจำนวนนักเดินทางหลายร้อยคนบนขบวนรถไฟที่นั่งมาลงจอดยังส […]

The post Grindelwald หมู่บ้านในหุบเขาของสวิส ที่แอบซ่อนความสนุกไว้เพียบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
grindelwald-switzerland-hidden-fun

ในจำนวนนักเดินทางหลายร้อยคนบนขบวนรถไฟที่นั่งมาลงจอดยังสถานี Grindelwald จะมีเพียงหยิบมือหนึ่งเท่านั้นที่ตั้งใจแวะเที่ยวเมืองนี้อย่างจริงจัง เพราะส่วนใหญ่ล้วนนั่งต่อไปยังเมือง Interlaken หรือไม่ก็เปลี่ยนรถไฟขึ้นไปยังยอดเขาจุงเฟรา Grindelwald เป็นเมืองเล็กในหุบเขาทางตอนกลางของประเทศที่มอบบรรยากาศหมู่บ้านเล็กในหุบเขาชวนฝัน ทว่าท่ามกลางภาพของกระท่อมไม้เล็กๆ วางตัวอยู่ตามเนินเขาซึ่งมีฉากหลังเป็นยอดเขาอันงดงาม อีกหนึ่งฉายาของ Grindelwald คือ ‘Top of Adventure’ ซึ่งหมายความว่าที่นี่มีกิจกรรมผจญภัยมากมายให้นักเดินทางได้สนุกแบบเต็มที่

 

Grindelwald

Grindelwald

 

Why here?

 

หมู่บ้าน Grindelwald อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร และถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี 1146 ทว่าเริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักของผู้คนในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคทองของการปีนเขา ทุกคนล้วนแวะเวียนมา Grindelwald เพื่อเป็นฐานตั้งมั่นในการพิชิตยอดเขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Finsteraarhorn (4,274 เมตร), Wetterhorn (3,692 เมตร), Schreckhorn (4,078 เมตร) ไปจนถึง Eiger (3,967 เมตร) หน้าผาน้ำแข็งสุดแสนอันตรายในเทือกเขาแอลป์ ซึ่งถูกพิชิตและกลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของนักปีนเขาในปี 1939

 

และด้วยความที่ยุคปีนเขาเฟื่องฟู Grindelwald จึงไม่ได้มีดีแค่การปีนเขา แต่หลายกิจกรรมเอาต์ดอร์ก็เริ่มผุดขึ้นตามมา จากเดิมที่มีแค่เดินป่า แคมปิ้ง ปั่นจักรยานในฤดูร้อน และเล่นสกีในฤดูหนาว ก็เพิ่มกิจกรรมที่เป็นเครื่องเล่นต่างๆ ทั้งการเล่นเครื่องร่อนพารามอเตอร์ กระโดดร่ม หรือแม้แต่การขับรถ Mountain Cart ชมทิวทัศน์ลงมาตามทาง ก็มีให้ลองเช่นกัน

 

หมู่บ้าน Grindelwald

หมู่บ้าน Grindelwald

 

Worth it 

 

หากจะตามหากิจกรรมแอดเวนเจอร์ในหมู่บ้าน Grindelwald คุณต้องเริ่มจากการนั่งกระเช้าที่สถานี Grindelwald-First แล้วขึ้นไปลงยังสถานีต่างๆ บางคนก็เลือก First ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ บ้างก็เลือก Schreckfeld หรือ Bort ซึ่งทั้ง 2 สถานีมีกิจกรรมให้ทำไม่ต่างกันเลย แถมยังมองเห็นได้ไม่ไกลกันมาก มาดูว่ามีอะไรน่าเล่นบ้าง

 

    • First Glider เครื่องเล่นที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนบินอยู่บนฟ้าราวกับนกอินทรี เครื่องจะดึงผู้เล่นจากสถานี Schreckfeld ขึ้นไปยังสถานี First ในระยะทาง 800 เมตร แล้วร่อนกลับลงมาด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในท่าทางคล้ายบินบนท้องฟ้า
    • First Flieger ถ้าใครกลัวอันแรก เราแนะนำให้ลอง First Flieger เครื่องร่อนผ่านสายเคเบิลในอิริยาบถนั่ง มองเห็นวิวทุ่งหญ้าอัลไพน์ได้สุดลูกตา
    • Mountain Cart หากคุณเป็นสายผจญภัย แต่ไม่ชอบความเสียว อยากดูวิว First ในมุมต่ำ แนะนำให้เลือกรถคาร์ทภูเขา รถโหลดต่ำนั่งได้ 1 คน สภาพคล้ายรถม้ง ไม่มีคันเร่ง ใช้แรงโน้มถ่วงของโลกในการขับเคลื่อน เส้นทางวิ่งขนานไปกับทางกระเช้าจากสถานี Schreckfeld ไปยังสถานี Bort แต่ขับลัดเลาะตามมุมเขา สามารถจอดรถแวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง
    • Trottibike หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามของสกูตเตอร์มีแต่เบรก ไม่มีคันเร่ง และใช้แรงโน้มถ่วงโลกในการขับเคลื่อน เส้นทางนี้จะไปได้ไกลหน่อย แนะนำให้เลือกขับตอนตัดสินใจลงเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยวิวทุ่งหญ้า ฝูงวัว ต้นไม้ใหญ่ และหมู่บ้านเล็กๆ ในเขต Grindelwald ก่อนจะวนกลับมาจบตรงสถานีแรกสุด Grindelwald-First เป็นอันจบรูทเดินทาง

 

Grindelwald

Grindelwald

Grindelwald

Grindelwald

 

นอกจากกิจกรรมทั้งสี่ แน่นอนว่าถ้าเบื่อเครื่องเล่นแต่อยากชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดบนสถานี First มีเส้นทางเดินป่าแบบง่ายๆ เช่นกัน จากสถานีเดินขึ้นเขาไปยังทะเลสาบ Bachalpsee ทะเลสาบเล็กๆ บนภูเขาแห่งเทือกเขาแอลป์ หรือเดินไปถ่ายรูปยัง First Cliff Walk by Tissot จุดชมวิวยอดเขา Eiger ซึ่งจะมีทางเดินเลียบผาให้เสียวหัวใจเล่นสำหรับคนกลัวความสูง

 

Good for

 

ใครที่วางแผนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ หรือวางแผนเที่ยวยอดเขาจุงเฟราอยู่แล้ว แนะนำให้ลองหาวันว่างสักวันไปทำกิจกรรมตรงเส้นทาง Grindelwald-First ดูด้านบนทิวทัศน์สวย บรรยากาศดี กิจกรรมแน่น และที่สำคัญคนน้อยกว่าจุงเฟรามาก แต่สวยงามไม่แพ้กัน

 

Grindelwald-First

Grindelwald-First

 

ภาพ: พลอยจันทร์ สุขคง

 

 

 

 

The post Grindelwald หมู่บ้านในหุบเขาของสวิส ที่แอบซ่อนความสนุกไว้เพียบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
4 HOURS LIFE with Taew Natapohn ที่ทำทั้งธุรกิจ พักผ่อน และฮีลตัวเอง https://thestandard.co/life/4-hours-life-with-taew-natapohn Thu, 12 Dec 2024 00:36:25 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1018603 แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

4 ชั่วโมงที่ทำได้ทั้งธุรกิจ พักผ่อน ดูแลตัวเอง   ถ […]

The post 4 HOURS LIFE with Taew Natapohn ที่ทำทั้งธุรกิจ พักผ่อน และฮีลตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

4 ชั่วโมงที่ทำได้ทั้งธุรกิจ พักผ่อน ดูแลตัวเอง

 

ถ้ามีคำถามว่าให้เวลา 4 ชั่วโมง คุณสามารถทำกิจกรรมได้กี่อย่าง? ‘แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์’ ตอบกับเราว่า “จริงๆ แต้วทำได้เป็นสิบอย่างเลย” แต่นั่นคือเมื่อก่อน ปัจจุบันแต้วเลือกจะใช้เวลาไปกับการทำธุรกิจ พักผ่อน และดูแลตัวเอง เหมือนเป็นการบาลานซ์ทุกอย่างในปริมาณที่พอดี

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

จุดเริ่มต้นของการที่เธอเปลี่ยนตัวเองจากทำงานหนักเป็นหันมาให้เวลากับตัวเองมากขึ้นคือช่วงโควิด ประกอบกับต้องทำธุรกิจจึงเริ่มรู้สึกว่าการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ และคนเราต้องบาลานซ์หลายสิ่งที่ต้องทำในชีวิต ทั้งธุรกิจและการพักผ่อน ซึ่งแต้วมองว่า “หัวใจหลักของการบาลานซ์หลายๆ สิ่งในชีวิตมันคือการจัดสรรเวลา และเราต้องมี Awareness ในทุกๆ ช่วงเวลาของวัน”

 

 

อีกหนึ่งสิ่งที่เธอหันมาทำจริงจังในช่วงหลังคือการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการร่วมออกแบบชุดออกกำลังกาย ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวเองจากคนไม่ชอบออกกำลังกายมาเป็นบังคับให้ตัวเองออกกำลังกายบ้างจนติดเป็นนิสัยในที่สุด

 

เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว ถ้าอย่างนั้น 4 HOURS LIFE with ในครั้งนี้เราเลยอยากให้ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ มาแชร์ตัวอย่างการจัดสรรเวลาให้ดูหน่อยว่าสามารถทำได้ทั้งธุรกิจ พักผ่อน และฮีลตัวเอง ภายใน 4 ชั่วโมง!

 

 

KAO PIAK SEN

ร้านอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม เป็นร้านเก่าแก่ที่มีอายุเกิน 40 ปี จุดเริ่มต้นอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งแต้วบังเอิญไปเจอร้านนี้ตอนไปเที่ยวกับคุณแม่ แล้วรู้สึกชอบ ทั้งอาหารและบรรยากาศ เลยรู้สึกอยากนำมาเปิดที่กรุงเทพฯ จุดเด่นของที่นี่คือการใช้วัตถุดิบที่ดีมาทำเมนูอาหารเช้าแบบเวียดนาม เช่น ข้าวเปียกเส้น, ไข่กระทะ, บั๋นหมี่ และนอกจากเมนูอาหารที่เป็นสไตล์เวียดนามแล้ว กาแฟของร้านก็นำเมนูแบบที่มีในเวียดนามมาให้ชิมกันอีกด้วย ทั้งกาแฟไข่และกาแฟเกลือ เหมือนได้มากินอาหารเช้าที่เวียดนามเลย

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Open: ทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.

Address: ชั้น G, Gaysorn Amarin

Budget: 200-500 บาท

Map: 

 

 

 

 

BENKOFF

คาเฟ่เล็กๆ ในย่านทองหล่อ ถึงร้านจะเล็กแต่มีกาแฟให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ใครมองหาคาเฟ่ที่มีบรรยากาศโฮมมี่ๆ บาริสต้าให้ความรู้ด้านกาแฟดี ต้องไปร้านนี้เลย และที่นี่เป็นร้านที่ทำให้แต้วรู้จักกาแฟฮอนดูรัสที่มีรสชาติโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ซึ่งนอกจากกาแฟจะหลากหลายแล้ว ทางร้านยังมีขนมและของ Merchandise น่ารักๆ ของร้านขายด้วย และที่ร้านก็มีเจ้าถิ่นเป็นน้องหมาดัชชุนคอยต้อนรับแขกอยู่ด้วย

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Open: ทุกวัน เวลา 07.30-16.00 น.

Address: ทองหล่อ ซอย 9

Budget: 100-250 บาท

Map: 

 

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Mei Move Lab

ถ้าถามถึงการออกกำลังกายที่แต้วทำบ่อยๆ คงหนีไม่พ้นพิลาทิส เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักเกินไป ได้ดูแลตัวเองแถมเสริมความแข็งแรงให้ Core Body ของตัวเองไปด้วย ซึ่งที่ Mei Move Lab ก็เป็นสถานที่ที่แต้วมาเล่นอยู่บ่อยๆ คนที่ช่วยเทรนของที่นี่คือครูเมย์ เป็นชาวเกาหลี ซึ่งจุดที่ทำให้แต้วชอบมาคือครูเมย์จะโฟกัสในทุกการเคลื่อนไหวของเรา และ Mei Move Lab ก็มีอุปกรณ์ค่อนข้างหลากหลายด้วย

 

Instagram: @mei.move.lab

Address: ทองหล่อ

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

เรียนเต้น

ช่วงเวลาหนึ่งเราเห็นแต้วเต้นบ่อยมากในโซเชียล เลยอยากรู้จุดเริ่มต้นของการไปเรียนเต้น แต้วบอกกับเราว่าเธอเป็นคนที่รู้สึกจอยกับเสียงเพลง ช่วงเวลาที่ฟังเพลงเหมือนร่างกายขยับไปเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ลองฝึกซ้อมเต้นเอง และเมื่อเต้นแล้วสนุกจึงไปเริ่มเรียนเต้น แต้วยังบอกอีกว่า “ค้นพบว่าตัวเองไม่ได้เต้นเก่ง แต่แค่เรามีความสุขในการเต้น” ข้อดีที่แต้วค้นพบจากการเริ่มไปเรียนเต้นคือการฝึกสกิลทั้งเรื่อง Coordination ความจำหลายๆ อย่าง และเรื่องความท้าทายว่าเราจะขยับตัวอย่างไรให้ได้แบบเขา

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Unwa Wellness

คลินิกแพทย์แผนจีน เน้นการรักษาด้วยวิธีการทางธรรมชาติ เป็นการปรับสมดุลของร่างกาย โดยจุดเริ่มต้นที่แต้วหันมาฮีลตัวเองด้วยแพทย์แผนจีนคือช่วงที่เธอใช้ร่างกายไปกับการทำงานหนัก ป่วยบ่อย ตัวร้อนเป็นประจำ รู้สึกเหนื่อยง่าย และไม่อยากรักษาด้วยสเตียรอยด์แล้ว เลยลองมาที่นี่ ซึ่งมีการรักษาหลายแบบ เช่น Cupping, Gua Sha และการใช้ยาจีน โดยคุณหมอจะแนะนำให้เราปรับไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างสมดุลให้ร่างกายและให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง เช่น ถ้าร่างกายเย็นจนเกินไปจะแนะนำให้กินอาหารร้อน เพื่อให้เชื้อโรคใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.

Address: อาคาร Kian Gwan House 3

Map: 

 

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Cento

ร้านอาหารไวบ์ดีย่านศาลาแดงที่มีแนวคิดหลักว่าอยากเป็น Hospitality House บรรยากาศร้านมีความอบอุ่น โฮมมี่ ซึ่งแต้วชอบไปนั่งชิล กินมื้อเย็นกับเพื่อน อาหารของที่นี่จะเป็นอาหารอิตาเลียนดั้งเดิม แต่มีการทวิสต์ให้สนุกเข้ากับบรรยากาศร้านมากขึ้น นอกจากอาหารแล้วที่นี่มีค็อกเทลและไวน์ให้เลือกกินคู่กันด้วย ใครมองหาร้านนั่งชิลกับเพื่อนช่วงเย็นที่บรรยากาศโฮมมี่ๆ ร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

 

 

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.30-00.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 12.00-14.30 น. และ 17.30-23.00 น.

Address: ศาลาแดง ซอย 1

Budget: 1,000-2,000 บาท

Map: 

 

 

 

Grazia Gelato and Coffee

นี่คือร้านไอศกรีมที่แต้วชอบมาก มากถึงขั้นนำมาวางขายในร้านของตัวเองด้วย ซึ่งไอศกรีมของเจ้านี้เป็นแนวเจลาโตที่มีความหนึบ ใช้วัตถุดิบสด ทำแบบโฮมเมด และมีหลากหลายรส มีให้เลือกทั้งแบบใส่ถ้วยและใส่โคน ราคาเริ่มต้นเป็นถ้วยไซส์เล็กสุดอยู่ที่ 125 บาท ใครชอบเจลาโตห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์

 

Open: เวลา 08.00-17.30 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 10.00-17.30 น.) หยุดวันจันทร์

Address: นนทบุรี

Budget: 125-200 บาท

Map: 

 

 

 

Rintaro

ปิดท้ายด้วยร้านไอศกรีมอีกหนึ่งร้านที่แต้วแนะนำ ซึ่งเธอบอกว่าชอบเท็กซ์เจอร์ของตัวไอศกรีมร้านนี้มาก นั่นคือร้าน Rintaro เป็นไอศกรีมเจลาโตสไตล์ญี่ปุ่นที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีมาเป็นส่วนประกอบ และมักออกรสชาติใหม่ตามฤดูกาลให้ได้ลองแวะมาชิมอยู่เรื่อยๆ ร้านนี้มีหลายสาขา ใครใกล้ที่ไหนแวะไปได้เลย

 

 

Address: W District, Siam Paragon, Ari, Emsphere และ The Salil Hotel Riverside-Bangkok

Budget: 130-450 บาท

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์, ณฐพร เตมีรักษ์, THE STANDARD

The post 4 HOURS LIFE with Taew Natapohn ที่ทำทั้งธุรกิจ พักผ่อน และฮีลตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE PALAZZO ความงามและประวัติศาสตร์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ https://thestandard.co/life/the-palazzo-history-and-elegance Mon, 09 Dec 2024 09:38:05 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1016505 THE PALAZZO ความงามและประวัติศาสตร์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้

ในยุคที่ที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักพิง แต่ยัง […]

The post THE PALAZZO ความงามและประวัติศาสตร์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE PALAZZO ความงามและประวัติศาสตร์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้

ในยุคที่ที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักพิง แต่ยังสะท้อนตัวตนและสุนทรียะของชีวิต โครงการ ‘THE PALAZZO’ ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับบ้านระดับ Ultra Luxury ด้วยการนำสองแรงบันดาลใจอันทรงพลัง ‘ประวัติศาสตร์’ และ ‘ธรรมชาติ’ มาผสมผสานในทุกอณูของการออกแบบ จนกลายเป็นบ้านที่สะท้อนทั้งความงดงามเหนือกาลเวลาและความสงบสุขจากธรรมชาติในที่เดียว 

 

วันนี้เราชวนมาลงลึกถึง Beaux-Arts และ Biophilic และทำไม AP จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ THE PALAZZO กลายเป็นโครงการบ้านที่สวยที่สุดในประเทศไทย

 

Beaux-Arts

 

รู้จัก ‘Beaux-Arts’ และ ‘Biophilic’

 

Grand Palais, Paris Museum of Fine Arts, Palais Garnier Opera House และอีกหลายสถานที่สำคัญในปารีส คือผลพวงของงานออกแบบที่เรียกว่า ‘Beaux-Arts Architecture’ หรือ ‘สถาปัตยกรรมแบบวิจิตรศิลป์’ งานสถาปัตยกรรมที่มีต้นกำเนิดมาจากโรงเรียนสอนการออกแบบ ‘สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงปารีส’ หรือหลายคนรู้จักกันในนามของ ‘École des Beaux-Arts’ ที่ขณะนั้นมุ่งหมายให้นักเรียนเข้าใจงานออกแบบอย่างลึกซึ้งผ่านสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันโบราณ พร้อมกับนำแนวคิดของ Renaissance และ Baroque มาเข้าคู่ด้วย จนกลายเป็นสไตล์ของตนเองที่ทั้งแข็งแรง อ่อนช้อย และรุ่มรวย 

 

สถาปัตยกรรมสไตล์ Beaux-Arts ได้รับความนิยมมากในฝรั่งเศส ก่อนขยายอิทธิพลไปสู่สหรัฐอเมริกาผ่านทางนักเรียนศิลปะในช่วงปี 1880-1920 อาคารดังหลายหลังในปารีสสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นี้ ที่เห็นได้ชัดคือ Grand Palais สนามแข่งขันฟันดาบในโอลิมปิกฤดูร้อน ปารีส 2024 ซึ่งถูกหยิบยกเอามาเป็นต้นแบบในบทเรียนเสมอมา

 

ลักษณะเด่นของ Beaux-Arts นั้นคล้ายของสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมัน คือใช้เสาและโครงสร้างคลาสสิก มีหัวเสา หลังคาแบน หน้าต่าง และประตูทรงโค้งหรือจั่ว ตัวอาคารมีความสมมาตร สมดุล และมีจุดศูนย์กลางเด่น ลักษณะใหญ่โตโอ่อ่า แต่เพิ่มรายละเอียดความอ่อนช้อยเข้าไปในงานปูนปั้น งานประติมากรรม ราวจับบันได ลูกกรง เสา ด้วยรูปทรงของดอกไม้ พืชพันธุ์ และงานสไตล์ Historicism บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

 

Beaux-Arts

Beaux-Arts

 

ขณะที่ Beaux-Arts เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 หลักการดีไซน์แบบ Biophilic กลับเริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมีรากฐานแนวคิดมาจาก ‘Edward O. Wilson’ นักชีววิทยาชาวอเมริกันผู้เขียนหนังสือ ‘Biophilia’ แนวคิดนี้กล่าวถึงสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ต้องการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เนื่องจากอยู่ร่วมกับธรรมชาติมาหลายล้านปีมากกว่าตึกรามบ้านช่องในยุคอุตสาหกรรม เหล่านักออกแบบเลยหยิบแนวคิดนี้มาใช้ในการออกแบบจัดสรรพื้นที่และตัวอาคาร โดยเน้นเชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย เช่น การนำแสงธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว และวัสดุธรรมชาติมาใช้ในงานออกแบบ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ผู้คนรู้สึกสงบ สุขภาพดี และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

 

หลักการออกแบบพื้นที่แบบ Biophilic Design ไม่เพียงแต่ออกแบบพื้นที่ให้ใกล้ชิดธรรมชาติและมีสีเขียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่ทำให้มนุษย์มีสุขภาพที่ดี (Health) และคุณภาพชีวิตที่ดี (Well-being) ด้วย มีงานวิจัยสนับสนุนว่าแค่ใช้หลัก Biophilic ในการออกแบบ ช่วยทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นในกรณีที่ทำงาน หรือช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและมูลค่าของบ้านให้ดีขึ้นในกรณีที่อยู่อาศัย

 

Beaux-Arts

 

Beaux-Art + Biophillic = THE PALAZZO

 

เมื่อโครงการบ้านระดับตำนานของ AP กลับมาทั้งที AP จึงนำเอาสองแรงบันดาลใจอันทรงพลัง ‘ประวัติศาสตร์’ และ ‘ธรรมชาติ’ มาผสานกันและ Simplify ใหม่ แนวคิดหลักของ THE PALAZZO คือการรวมเอาความสง่างามของ Beaux-Art ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคทองของฝรั่งเศส มาผสมผสานกับ Biophilic Design ที่เน้นการออกแบบพื้นที่เชื่อมโยงธรรมชาติ ความลงตัวนี้สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร บ้านแต่ละหลังเป็นดั่ง ‘คฤหาสน์ส่วนตัว’ ที่คำนึงถึงสุขภาพกายใจของผู้อยู่อาศัยผ่านองค์ประกอบธรรมชาติ ทว่ามีความโอ่อ่า มีความสมมาตร ทั้งยังแอบซ่อนสัดส่วนทองคำไว้อย่างแนบเนียน ทำให้เป็นบ้านที่มองมุมใดก็สวยและเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง 

 

นอกจากเลย์เอาต์ที่หลากหลาย บ้านแต่ละหลังใน THE PALAZZO ยังถูกออกแบบด้วยความพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ เช่น หัวเสาแกะสลักลวดลายสุดประณีต บันไดโค้งสร้างบรรยากาศหรูหราในพื้นที่อยู่อาศัย ลวดลายกระเบื้องสะท้อนศิลปะแบบยุโรปคลาสสิก ขณะเดียวกันก็มีหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ช่วยสร้างความโปร่งโล่งและกลมกลืนกับธรรมชาติรอบตัว ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบเพื่อเสริมสร้างความสง่างามและความสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

 

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ คลับเฮาส์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก The Grand Common ของพระราชวังแวร์ซาย ความยิ่งใหญ่ของห้องโถงกลางซึ่งตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์และกระจกบานสูงสะท้อนถึงความหรูหราระดับราชวงศ์ โครงสร้างภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายคลาสสิก คลับเฮาส์ของ THE PALAZZO จึงไม่ใช่แค่พื้นที่ส่วนกลาง แต่เป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตที่เหนือระดับสำหรับผู้ที่อยู่อาศัย

 

THE PALAZZO

THE PALAZZO

THE PALAZZO

 

ความงามและประวัติศาสตร์ที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้

 

การอยู่อาศัยใน THE PALAZZO ไม่ได้เป็นเพียงการครอบครองบ้าน แต่เป็นการครอบครองชิ้นงานศิลปะที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และความงามเหนือกาลเวลา ด้วยการออกแบบที่กลมกลืนระหว่างสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ บ้านแต่ละหลังจึงสามารถมอบความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว ผ่อนคลาย และสะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและธรรมชาติ THE PALAZZO จึงกลายเป็นมากกว่าบ้าน แต่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์และความสง่างามในทุกวันของการอยู่อาศัย

 

ใครที่สนใจโครงการ THE PALAZZO เตรียมตัวพบกับการเปิดตัวของทั้ง 2 โครงการ THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา และ THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมราชชนนี คฤหาสน์หรูหราซึ่งเพียบพร้อมด้วยความสง่างามและใกล้ชิดธรรมชาติ ได้เร็วๆ นี้ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.apthai.com/th/brand-concept/the-palazzo 

 

ภาพ: Getty Images

 

The post THE PALAZZO ความงามและประวัติศาสตร์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมกิจกรรมน่าทำใน Aman เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน https://thestandard.co/life/activities-in-aman-southeast-asia-china Sat, 07 Dec 2024 12:30:41 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1017127

ใครที่เป็นแฟนคลับของ Aman มาดูกันว่าในช่วงที่มีเทศกาลหย […]

The post รวมกิจกรรมน่าทำใน Aman เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ใครที่เป็นแฟนคลับของ Aman มาดูกันว่าในช่วงที่มีเทศกาลหยุดยาวตั้งแต่วันนี้จนถึงปีหน้านั้น Aman แห่งต่างๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีนมีกิจกรรมพิเศษอะไรในช่วงส่งท้ายปี 2024 ต้อนรับปี 2025 ที่น่าสนใจและคุ้มค่ากับการเข้าพักกันบ้าง

 

Amanpuri ภูเก็ต

 

Amanpuri ภูเก็ต

 

Amanpuri เตรียมเนรมิตชายหาดให้เป็นดินแดนแห่งเทศกาลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2024 – 4 มกราคม 2025 ด้วยบาร์บีคิวริมชายหาดและงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ มีโปรแกรมล่องเรือสุดหรูและกีฬาทางน้ำต่างๆ นอกจากนั้นยังเปิดตัวแพ็กเกจ Two Worlds, One Journey เชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง Amanpuri และ Amansara ด้วยเที่ยวบินตรงเส้นทางใหม่ระหว่างภูเก็ตและเสียมราฐ

 

Amansara เสียมราฐ

 

Amansara เสียมราฐ

 

Amansara เพิ่งปรับโฉมครั้งใหญ่ด้วยการเพิ่มพูลสวีทใหม่ ทำให้มีพูลสวีททั้งหมด 13 ห้อง พร้อมปรับปรุงห้องพักทุกห้องด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางหลายส่วน มี Amanbala Lunch Cruise พาล่องเรือรับประทานอาหารกลางวันบนทะเลสาบกัมพูชาหรือโตนเลสาบตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคมปีหน้า ผู้เข้าพักจะได้ชื่นชมหมู่บ้านกลางน้ำ พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนผู้รักธรรมชาติสามารถร่วมกิจกรรมดูนกซึ่งเปิดให้บริการระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เพื่อชมนกหายากและนกอพยพในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ

 

Amantaka หลวงพระบาง

 

Amantaka หลวงพระบาง

 

Amantaka ต้อนรับ ดร.บัวตั๋น เธียรอารมณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชื่อดัง ซึ่งจะมาจัดคอร์สพิเศษระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2024 – 14 มกราคม 2025 นำความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือก เต๋า และการแพทย์ทิเบต มาแบ่งปันแก่ผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังพาเปิดประสบการณ์ขี่ม้าชมเมืองมรดกโลก และเตรียมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยพิธีกรรมแบบดั้งเดิมและกิจกรรมสำหรับครอบครัวมากมาย

 

Amanoi เวียดนาม

 

Amanoi เวียดนาม

 

Amanoi จัดเทศกาลเฉลิมฉลองระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2024 – 4 มกราคม 2025 ในบรรยากาศท่ามกลางอุทยานแห่งชาติ Nui Chua ด้วยมายากล งานดินเนอร์คืนคริสต์มาสอีฟ ตามด้วยเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2025 นำเสนอวัฒนธรรมเวียดนามผ่านการแสดง อาหารในช่วงเทศกาล และพิธีกรรมตามประเพณี แถมยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับคนไทยอีกด้วย

 

Amandayan ลี่เจียง

 

Amandayan ลี่เจียง

 

Amandayan เตรียมฉลองครบรอบ 10 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ด้วยประสบการณ์พิเศษและกิจกรรมมากมาย รีสอร์ตซึ่งได้ชื่อมาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่าสันติ ผสานกับชื่อเดิมของเมืองลี่เจียง จะจัดงานคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมชนเผ่าน่าซีในลี่เจียง ตามด้วยเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2025

 

ล่าสุดมีเที่ยวบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯ สู่ลี่เจียง โดย Ruili Airlines ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และมีราคาพิเศษสำหรับคนไทยด้วย ถือว่าสะดวกสบายเอามากๆ

 

ภาพ: Aman

The post รวมกิจกรรมน่าทำใน Aman เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เริ่มต้นชีวิตใหม่กับนิยาม ‘บ้านหลังใหญ่ระดับอัลตราลักชัวรี’ Crystal Solana https://thestandard.co/life/crystal-solana-ultra-luxury Wed, 04 Dec 2024 04:00:01 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1015146

อะไรที่ทำให้เราเลือกอยู่บ้านดีๆ สักหลัง   การเลือก […]

The post เริ่มต้นชีวิตใหม่กับนิยาม ‘บ้านหลังใหญ่ระดับอัลตราลักชัวรี’ Crystal Solana appeared first on THE STANDARD.

]]>

อะไรที่ทำให้เราเลือกอยู่บ้านดีๆ สักหลัง

 

การเลือกที่อยู่อาศัยที่ดี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ใช่แค่การหาที่พักอาศัย แต่เป็นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตและเป็นรางวัลที่ล้ำค่าสำหรับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกโครงการระดับอัลตราลักชัวรี เรายิ่งต้องมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นไปอีก 

 

 

Crystal Solana โครงการระดับอัลตราลักชัวรีที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 31 ไร่ ยืนหนึ่งในฐานะผู้นำด้านบ้านหรูในประเทศไทยด้วยโลเคชันศักยภาพบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ทำเลที่สะดวกสบายใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ทั่วโลก จนมาเป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร 

 

 

ทำเลของบ้าน

 

นี่คือเหตุผลหลักที่หลายคนเลือกมาอยู่ในทำเลใหม่ที่ใช้ชีวิตสะดวกขึ้นบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เป็นเพราะความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน และสถานีรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายมากยิ่งขึ้น

 

 

การออกแบบที่โดดเด่น

 

ถ้าคุณกำลังมองหาบ้านที่สะท้อนตัวตนและสไตล์ของคุณอย่างแท้จริง ดีไซน์ Luxury Contemporary ของที่นี่ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการออกแบบที่ลงตัวระหว่างความหรูหราและความร่วมสมัย ตัวบ้านออกแบบให้มีประตูและหน้าต่างสูงโปร่ง มีดับเบิลวอลุ่ม ทุกห้องสามารถมองเห็นสวนธรรมชาติสีเขียว เสริมการใช้ชีวิตแบบมีรสนิยม

 

 

จัดพื้นที่ภายในบ้านเหมาะกับไลฟ์สไตล์

 

Crystal Solana รังสรรค์พื้นที่ภายในบ้านให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ลงตัวทั้งความสวยงามและการใช้งานจริง เช่น ห้องรับแขกขนาดใหญ่ และมุมปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งมาพร้อมแบบบ้าน 4 ขนาดด้วยกัน คือ

 

  • Emeralda พื้นที่ใช้สอย 1,010 ตารางเมตร (ราคาเริ่มต้น 132 ล้านบาท) ตกแต่งแบบนิวยอร์กไลฟ์สไตล์ เน้นพื้นที่ใช้สอยจุดต่างๆ ขนาดใหญ่ มีลิฟต์โดยสาร สระว่ายน้ำ และยิมส่วนตัว
  • Perla พื้นที่ใช้สอย 748 ตารางเมตร (ราคาเริ่มต้น 115 ล้านบาท) การตกแต่งภายในได้แรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์กรุงโรม ใช้หินสีขาว มีลิฟต์ส่วนตัว มีระเบียงขนาดใหญ่ ชมวิวได้อย่างอิสระ
  • Zafira พื้นที่ใช้สอย 690 ตารางเมตร (ราคาเริ่มต้น 111 ล้านบาท) ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากไลฟ์สไตล์ที่ลอนดอน ภายในเน้นความอบอุ่น โถงต้อนรับขนาดใหญ่ มีมุมอ่านหนังสือเป็นหลังคากระจก
  • Diamonte พื้นที่ใช้สอย 496 ตารางเมตร (ราคาเริ่มต้น 98 ล้านบาท) เป็นบ้าน 2 ชั้นที่ได้ห้องรับแขกสูงโปร่งแบบดับเบิลวอลุ่ม

 

 

Crystal Solana นำเสนอพื้นที่บ้านเริ่มต้นตั้งแต่ 490 ตารางเมตร ไปจนถึง 1,010 ตารางเมตร พร้อมดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งหรือเพิ่มขนาดพื้นที่ได้ตามความต้องการ สามารถสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ในแบบของคุณเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

 

การเลือกวัสดุของตัวบ้านที่ดี

 

การเลือกวัสดุของตัวบ้านที่ดี ได้มาตรฐานระดับโลก เป็นจุดชูความแตกต่างและโดดเด่นในด้านความเป็นอัลตราลักชัวรี ตั้งแต่การใช้สี Sherwin-Williams, สุขภัณฑ์อาร์ติสต์ เอดิชันส์ ของ KOHLER ซึ่งเป็นโครงการเดียวที่เลือกใช้, หินอ่อนทราเวอร์ทีน (Travertine) และไลม์สโตน (Limestone) คัดพิเศษจากอิตาลี, ครัว Poggenpohl จากเยอรมนี และอีกมากมายที่สะท้อนนิยามความเป็นบ้านหรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

คลับเฮาส์ของโครงการที่เหมาะกับการพักผ่อน

 

Crystal Solana เป็นโครงการเดียวที่ได้รับรางวัลที่สุดของคลับเฮาส์ระดับนานาชาติ (Best International Residential Project – Amenity) จากงานประกวด Gold Nugget Awards ในสหรัฐอเมริกา มาพร้อมกับสวนและคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ เหมาะกับการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพราะมีทั้งสนามเทนนิสหญ้าเทียม, สระว่ายน้ำในร่ม, ยิม, ห้องสปา, ห้องซาลอน, ห้องโยคะ, ห้องประชุม และอีกมากมาย สะดวกครบครันสมบูรณ์แบบ

 

 

ได้สังคมที่มีระดับและปลอดภัย

 

สุดท้ายคือการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความเป็นส่วนตัว และปลอดภัย ด้วยการจัดแบ่งที่ดินออกเป็น 47 แปลง ซึ่งไม่มากจนเกินไป โครงการให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมที่ดีและมีความปลอดภัย โดยมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย ทำให้ผู้พักอาศัยมั่นใจในความปลอดภัยและสบายใจในทุกๆ วัน

 

ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.crystalsolana.com

The post เริ่มต้นชีวิตใหม่กับนิยาม ‘บ้านหลังใหญ่ระดับอัลตราลักชัวรี’ Crystal Solana appeared first on THE STANDARD.

]]>
เที่ยวบาหลี 1 วันกับ OPPO Find X8 https://thestandard.co/life/bali-oppo-find-x8 Fri, 29 Nov 2024 13:14:08 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1014429 OPPO Find X8

ในช่วงงาน OPPO Find X8 Series & ColorOS15 Global La […]

The post เที่ยวบาหลี 1 วันกับ OPPO Find X8 appeared first on THE STANDARD.

]]>
OPPO Find X8

ในช่วงงาน OPPO Find X8 Series & ColorOS15 Global Launch ที่จัดขึ้นที่บาหลี นอกจากจะเข้าร่วมงานเปิดตัวแล้ว เรายังเอาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้มาลองถ่ายภาพระหว่างอยู่ที่บาหลีด้วย OPPO Find X8 เป็นสมาร์ทโฟนตัวมาตรฐานในซีรีส์ที่ถูกพัฒนากล้องมาให้ถ่ายง่ายและถ่ายอย่างไรก็สวย เพราะได้แบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Hasselblad มาช่วยดูแล โดยรุ่นนี้มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว 5 ระยะ ได้แก่ 24mm, 35mm, 48mm, 73mm และ 85mm และการซูมยังมีระบบ AI Telescope Zoom ทำให้ซูมไกลขึ้นสูงสุด 120 เท่า

 

โดยสถานที่ที่เราไปเยือนก็มีตั้งแต่ Gunung Kawi Temple กลุ่มวัดโบราณของบาหลีที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11, Ubud Water Palace สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศให้กับเทวีสรัสวดี เทพีแห่งการเรียนรู้วรรณกรรมและศิลปะของศาสนาฮินดู, Ubud Palace พระราชวังดั้งเดิมของราชวงศ์อูบุด มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการแสดงเต้นรำแบบบาหลีดั้งเดิม ที่มีฉากหลังเป็นอังกูลอังกูล ประตูแบบดั้งเดิมและรูปปั้นผู้พิทักษ์ ซึ่งหลังจากใช้งานมา 1 วันเต็ม นอกจากสีภาพที่สวยแล้ว สิ่งที่เราชอบคือตัวช่วย AI ที่สามารถกดเพิ่มเข้าไปก่อนถ่ายภาพ ซึ่งช่วยทำให้การถ่ายภาพในคอนเสิร์ต ที่มืด หรือแม้แต่พลุ ง่ายขึ้น เพียงกดถ่ายด้วยปลายนิ้วก็ได้ภาพสวยมาง่ายๆ 

 

ส่วนภาพที่ถ่ายออกมานั้นสวยขนาดไหนไปดูกันเลย บอกเลยว่าเป็นไฟล์จริง ไม่มีแต่งเพิ่ม

 

OPPO Find X8 มีให้เลือก 2 รุ่นความจุ ได้แก่ RAM 12GB + ROM 256GB และ RAM 16GB + ROM 512GB ราคาเริ่มต้น 29,999 บาท และ 33,999 บาท ตามลำดับ

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.oppo.com/id/smartphones/series-find-x/find-x8 

 

OPPO Find X8 OPPO Find X8

The post เที่ยวบาหลี 1 วันกับ OPPO Find X8 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Reference Ekkamai คอนโดหรูที่เรียบง่าย และใส่ใจงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด https://thestandard.co/life/reference-ekkamai Wed, 27 Nov 2024 00:00:42 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1010788

ดีไซน์คอนโดใหม่ที่สวยที่สุดในย่าน แถมใส่ใจในทุกรายละเอี […]

The post Reference Ekkamai คอนโดหรูที่เรียบง่าย และใส่ใจงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด appeared first on THE STANDARD.

]]>

ดีไซน์คอนโดใหม่ที่สวยที่สุดในย่าน แถมใส่ใจในทุกรายละเอียด

 

Reference Ekkamai ดีไซน์คอนโดใหม่ที่สะท้อนความเป็น Design District ของย่านเอกมัยออกมาได้อย่างครบถ้วนและไม่เหมือนใคร เพราะเขาใส่ใจตั้งแต่การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางให้เรียบหรูและเป็นการออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา แถมยังใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้งาน อย่างเช่น การถอยตัวอาคารมาอยู่ข้างในเพื่อให้เกิด Front Yard เหมือนกับบ้านในเอกมัย

 

 

โครงการนี้เกิดจากความตั้งใจของ SC Asset โดย กนกอร หลิมกำเนิด หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง ที่ต้องการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีดีไซน์ดี มีเอกลักษณ์ สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย และคุ้มค่าที่สุดในเอกมัย โครงการนี้เริ่มจากแรงบันดาลใจของทำเลเอกมัยที่มีเสน่ห์ผ่านกาลเวลา เป็นที่มาของคอนเซปต์ Passage of Time เพื่อสะท้อนการออกแบบที่สื่อถึงความเป็น Nostalgic บวกกับ Modern Element ทำให้คอนโดแห่งนี้สวยงามเหนือกาลเวลา

 

 

และเหตุผลที่คอนโด Reference Ekkamai ใส่ใจในเรื่องงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด เพราะ กนกอร หลิมกำเนิด มองว่าสิ่งที่ลูกค้าชอบและสิ่งที่เอกมัยเป็นคือความหลงใหลในดีไซน์ ย่านนี้รวมคนในวงการดีไซน์ไว้ด้วยกัน เป็นคอมมูนิตี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นย่านที่ Business Meet Creativity ผสมกับไลฟ์สไตล์ ทำให้คอนโดนี้มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

 

ความเป็นคอมมูนิตี้ของคนรักงานดีไซน์ทำให้เกิดการร่วมงานกันของ Reference Ekkamai และ NORSE Republics ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน โดย วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ส รีพับบลิค จำกัด คือหนึ่งในบุคคลที่หลงใหลในงานดีไซน์ ซึ่งการร่วมงานกันในครั้งนี้เป็นการหยิบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ระดับไอคอนิกจาก NORSE Republics มาตกแต่งภายในห้องด้วย เป็นการเติมความสวยงามในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้กับห้อง

 

 

ซึ่งของตกแต่งที่ใช้ในห้องพักของคอนโด Reference Ekkamai เป็นงานดีไซน์ระดับไอคอนิกจากดีไซเนอร์ระดับตำนานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Rotate Trolley เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่การใช้งานครบถ้วน ได้แรงบันดาลใจมาจากการพับกระดาษแบบโอริกามิของญี่ปุ่น, Lato เป็น Side Table ดีไซน์คล้ายประติมากรรม เรียบง่ายดูแล้วสบายตา, Flowerpot โคมไฟที่มีสีและดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ยุค 1960 มาจนถึงปัจจุบัน และ Night Owl โคมไฟตั้งโต๊ะที่ดีไซน์ไม่เหมือนใคร แถมให้แสงสว่างที่ดูอบอุ่นและสบาย

 

 

 

สามารถสัมผัสงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ระดับไอคอนิกที่ส่วนหนึ่งใช้ในโครงการได้ที่นิทรรศการ Live Where Design Matters งานที่หยิบเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงในรูปแบบ Art Exhibition จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2024

 

 

สามารถชมรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=Lu5v8Qh1BKM

 

สนใจโครงการ Reference Ekkamai หรือลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท*

คลิก: https://m.scasset.com/RE0U 

 

☎ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 𝟭𝟳𝟰𝟵 หรือ 

📲 LINE คลิก: https://lin.ee/tjzpahH

 

ภาพ: Reference Ekkamai

The post Reference Ekkamai คอนโดหรูที่เรียบง่าย และใส่ใจงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด appeared first on THE STANDARD.

]]>