LIFE | FOOD & DRINK – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 11 Jul 2025 12:45:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Cellar Cinema Series ชวนมาดูหนัง จิบไวน์ ในค่ำคืนพิเศษ https://thestandard.co/life/cellar-cinema-series Fri, 11 Jul 2025 12:45:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1095578

ใครที่กำลังมองหากิจกรรมยามเย็นที่ไม่เร่งรีบในบรรยากาศดี […]

The post Cellar Cinema Series ชวนมาดูหนัง จิบไวน์ ในค่ำคืนพิเศษ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ใครที่กำลังมองหากิจกรรมยามเย็นที่ไม่เร่งรีบในบรรยากาศดีๆ ที่ทำให้ค่ำคืนธรรมดาๆ กลายเป็นอีกหนึ่งคืนพิเศษ เราอยากชวนมานั่งเอกเขนก จิบไวน์เพลินๆ พลางดูหนัง กันที่ ‘The Cellar at Mahanakhon’ ไวน์บาร์กลางเมือง ย่านสาทร เพราะทุกวันพุธสุดท้ายของเดือน มีกิจกรรมพิเศษ  ‘Cellar Cinema Series’ ที่ ฉายภาพยนตร์คลาสสิกที่เลือกมาแล้วว่าเหมาะกับการดูในบรรยากาศสบายๆ ซึ่งก็มีทั้งโรแมนติก คอมเมดี้ ไปจนถึงแฟนตาซีและไซไฟ เช่น Clueless, Meet the Parents, Back to the Future, Notting Hill และ How the Grinch Stole Christmas เรียกได้ว่าคัดมาให้เหมาะกับทั้งดูกับเพื่อน กับครอบครัว หรือใครบางคนที่อยากใช้เวลาร่วมกัน

 

 

สำหรับคอไวน์ บอกเลยว่า The Cellar คือหนึ่งในร้านที่ตอบโจทย์มาก ทั้งในแง่ของบรรยากาศและคุณภาพของไวน์ ที่นี่เป็นไวน์บาร์ที่มีไวน์ให้เลือกจากไร่องุ่นหลากหลายแห่งทั่วโลก ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และอื่นๆ โดยเฉพาะ Wine by Glass ที่ราคาดีมากๆ แต่คุณภาพเกินราคา นอกจากตัวไวน์ที่คัดมาดีแล้ว ยังมี Head Sommelier ประจำร้านที่ช่วยแนะนำไวน์ให้เหมาะกับอาหาร หรือเลือกตามความชอบส่วนตัวได้เลย ทำให้การดื่มไวน์ไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ แต่ได้ลองอะไรใหม่ๆ ทุกครั้งที่มา

 

 

ทว่าสิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากที่สุด คือ อาหาร  เพราะที่ The Cellar เราสามารถสั่งเมนูเด็ดจากร้านต่างๆ ภายใน Mahanakhon Eatery ขึ้นมากินด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Greyhound, Hoshi, Get Fresh หรือ Babyccino เลือกมากินคู่กับไวน์ได้อย่างอิสระ ใครที่ชอบกินอาหารหลากหลาย ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกร้านให้เสียเวลา เพราะไม่ว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น หรือ อิตาเลียน ที่นี่ก็มีครบจบในที่เดียว

 

 

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดจึงทำให้ Cellar Cinema Series เป็นมากกว่ากิจกรรมดูหนัง แต่การใช้เวลาในคืนที่อบอุ่นแบบไม่เร่งรีบ ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากกิจกรรมเดิมๆ ลองแวะมาดูหนัง จิบไวน์ และเลือกอาหารในแบบที่ชอบ อาจจะพบความพิเศษที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กิจกรรมไหน และอาจจะกลายเป็นเหตุผลให้เฝ้ารอพุธสุดท้ายของเดือนอยู่ก็ได้!

 

ภาพ: ณัฐนิชา หมั่นหาดี

 


 

The Cellar

Location: อาคาร Mahanakhon CUBE ชั้น G

Open: ทุกวัน เวลา 14.00 – 22.00 น. (กิจกรรมดูหนังจัดทุกวันพุธสุดท้ายของเดือน)

Budget: 500-1,000 บาท

Facebook: www.facebook.com/mahanakhoncube 

Instagram: www.instagram.com/mahanakhoncube

Map: https://maps.app.goo.gl/E5NXEHkoSWgvb2SJ7

 

 

The post Cellar Cinema Series ชวนมาดูหนัง จิบไวน์ ในค่ำคืนพิเศษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เตรียมพบสาขาใหม่ของ UNO Coffee ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เดือนกรกฎาคมนี้! https://thestandard.co/life/uno-coffee-centralworld Fri, 11 Jul 2025 10:05:40 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1095485 uno-coffee-centralworld

ไม่ปล่อยให้รอนาน เพราะร้านกาแฟที่ทำห้างฯ แทบแตกเริ่มขยั […]

The post เตรียมพบสาขาใหม่ของ UNO Coffee ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เดือนกรกฎาคมนี้! appeared first on THE STANDARD.

]]>
uno-coffee-centralworld

ไม่ปล่อยให้รอนาน เพราะร้านกาแฟที่ทำห้างฯ แทบแตกเริ่มขยับเข้าเมืองแล้ว! กับ UNO Coffee ที่กำลังจะเปิดสาขาใหม่แห่งที่ 3 ภายในเดือนนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์

 

มีใครยังไม่เคยลองดื่มกาแฟของ UNO Coffee บ้าง? เราว่านี่คือแบรนด์กาแฟน้องใหม่ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ในตลาดกาแฟ ณ ตอนนี้เลย จึงไม่แปลกที่เดินผ่านกี่ทีก็เห็นคิวยาวทั้งวัน ซึ่งสิ่งที่เราเชื่อว่าทำให้หลายๆ คนติดใจก็คงเป็นการใช้เมล็ดกาแฟพรีเมียมอย่าง ‘เกอิชา’ แต่นำมาขายในราคาไม่ถึงร้อย (เริ่มต้น 85 บาท) หรือการเป็นร้านกาแฟแบบ Take Away (ซื้อกลับเท่านั้น) ทว่าก็มีความสเปเชียลตีหน่อยๆ เนื่องจากมีเมล็ดกาแฟให้เลือกพอสมควร แถมยังมาพร้อมแพ็กเกจจิงที่ดูดี น่าเก็บ น่าซื้อ …แบบนี้ใครต่อใครก็ยอมต่อคิวรอ

 

และหลังจาก UNO Coffee เปิดให้บริการไปแล้ว 2 สาขา คือ เซ็นทรัลลาดพร้าวและเมเจอร์รัชโยธิน ตอนนี้ร้านก็เริ่มขยับเข้าเมืองบ้างด้วยการเตรียมเปิดสาขาที่ 3 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนกรกฎาคมนี้

เพราะฉะนั้น ใครที่เป็นแฟนคลับหรือยังไม่เคยได้ยืนหัวแถวแล้วสั่งเกอิชาทันก่อนหมดสักที เตรียมปักหมุดวันเปิดด้วยการติดตามอัปเดตจากร้านได้เลย UNO Coffee Central Ladprao 

The post เตรียมพบสาขาใหม่ของ UNO Coffee ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เดือนกรกฎาคมนี้! appeared first on THE STANDARD.

]]>
6 ร้านโดรายากิ สำหรับคนอยากตามรอยของโปรดโดราเอมอน! https://thestandard.co/life/6-best-doraemon-dorayaki-shops Wed, 09 Jul 2025 08:10:22 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1094766

ถึงเวลาตามหาขนมเมนูโปรดของใครบางคนกันแล้ว! เพราะเราเชื่ […]

The post 6 ร้านโดรายากิ สำหรับคนอยากตามรอยของโปรดโดราเอมอน! appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถึงเวลาตามหาขนมเมนูโปรดของใครบางคนกันแล้ว! เพราะเราเชื่อว่าอาจมีหลายคนยังไม่เคยลองชิมขนมญี่ปุ่นอย่าง ‘โดรายากิ’ แต่เคยได้ยิน ได้อ่าน หรือได้รู้จักผ่านการ์ตูนวัยเด็กที่ทำให้รู้สึกว่าขนมเมนูนี้ช่างน่าอร่อยนักหนา

 

วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนไปตามหาขนมเมนูนี้กัน เผื่อบางคนอาจเคยกินจนลืมรสชาติไปแล้ว หรือบางคนอยากรู้ว่าโดรายากิที่แมวหุ่นยนต์ชอบนักหนาจะรสชาติเป็นอย่างไร ฉะนั้น นี่คือลิสต์ 6 ร้านโดรายากิ ที่เราออกไปรวบรวมมาแนะนำกัน!

 


 

 

Custard Nakamura

 

ร้านเบเกอรี่ย่านพร้อมพงษ์ที่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ มีทั้งเบเกอรี่ของคาวและของหวาน โดยขนมอบสดใหม่ทุกวันและราคาจับต้องได้แบบหยิบเพลินจนลืมนับชิ้น

 

นอกจากเมนูฮิตจำพวกแซนด์วิชต่างๆ Custard Nakamura ก็มีโดรายากิสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วย โดยขายเป็นชิ้นขนาดกำลังพอดีมือ กินเป็นมื้อว่างแล้วอิ่มพอดี และมีไส้เดียวคือถั่วแดง

 

CONTACT: Custard Nakamura

OPEN: เปิดทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.

LOCATION: ซอยสุขุมวิท 33 

BUDGET: ชิ้นละ 30 บาท

 


 

 

Toraya Bakery 

 

ร้านเบเกอรี่โฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นที่มี 2 สาขาในกรุงเทพฯ คือ ในย่านทองหล่อและพร้อมพงษ์ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูเบเกอรี่ญี่ปุ่นที่อบใหม่ทุกวันเช่นกัน รวมถึงเมนูที่เน้นเบเกอรี่กรุบกรอบและขนมปังรสหวาน เช่น คุกกี้ เบรดสติ๊ก ขนมปังเมลอน ขนมปังกาแฟ หรือขนมปังไส้แกงกะหรี่ก็มี

 

ส่วนโดรายากิร้านมีเสิร์ฟทุกวัน ราคาชิ้นละ 58 บาท และมีเฉพาะไส้ถั่วแดงกวนหยาบนิดๆ ที่ประกบด้วยแป้งนุ่มฟู

 

CONTACT: Toraya Bakery

OPEN: เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น.

LOCATION: สุขุมวิท 26

BUDGET: ชิ้นละ 58 บาท

 


 

 

Chaya Tea House

 

ร้านมัทฉะเล็กๆ ในย่านประดิพัทธิ์ที่คนรักมัทฉะต้องรู้จัก เพราะที่นี่เปิดมานาน แถมยังนำเข้ามัทฉะเองจากญี่ปุ่นด้วย ด้านในอาจมีพื้นที่ไม่มาก เพราะร้านมีแค่มุมโต๊ะสำหรับคนอยากนั่งสบายๆ และโต๊ะบนเสื่อทาทามิเผื่อใครอยากได้ฟีลนั่งจิบชาอยู่ญี่ปุ่น อีกทั้งหากใครสั่งมัทฉะชงร้อน ร้านจะนำมาตีให้ถึงข้างๆ โต๊ะ ทุกคนจะได้กลิ่นหอมของมัทฉะตั้งแต่มาวางเสิร์ฟเลย

 

ส่วนขนมจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นทั้งหมด มีทั้งวากาชิและโดรายากิสูตรซิกเนเจอร์ที่ร้านใช้แป้งสูตรเดียวกับร้านดังอย่าง Ganyudo แต่ที่ต่างออกไปคือไส้ครีมมัทฉะตีสดที่ผสมผงมัทฉะของร้านลงไปด้วย รสชาติหวานกำลังดี หอม นุ่มละมุน กินคู่กับมัทฉะแท้ยิ่งเข้ากันสุดๆ

 

CONTACT: Chaya Teahouse

OPEN: เปิดอังคาร-อาทิตย์ 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์) *ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า

LOCATION: ซอยประดิพัทธ์ 14 

BUDGET: ชิ้นละ 180  บาท

 


 

 

DON DON DONKI

 

ซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นที่ทุกคนชอบแวะไปเดินเล่นจะไม่มีขนมคลาสสิกอย่างโดรายากิได้อย่างไร เพราะเชื่อว่าหากวันไหนเพื่อนๆ นึกอยากกินขนมญี่ปุ่นสักอย่างขึ้นมาก็ต้องนึกถึงดองกิเป็นอันดับแรกๆ 

 

แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายเราก็คือ โดรายากิของ Donki ไม่ได้มาเป็นชิ้นกลมๆ เหมือนคนอื่น เนื่องจากที่นี่มีโดรายากิซิกเนเจอร์เป็นของตัวเองอย่าง ‘ดองเป็งยะกิ’ โดรายากิรูปเจ้าเพนกวินดองเป็งที่เป็นมาสคอตของแบรนด์ แถมยังมีให้เลือกหลายไส้ด้วย น่ารักจนแทบกินไม่ลงเลยล่ะ! (แต่ถ้าใครอยากกินแบบกลมก็มีนะ)

 

CONTACT: DonDonki TH

OPEN: ทุกสาขาเปิดให้บริการทุกวัน 

LOCATION: DON DON DONKI ทุกสาขา

BUDGET: เริ่มต้นชิ้นละ 39 บาท

 


 

 

Muji 

 

ใครชอบแวะไปซื้อขนมเมนูโปรดที่ Muji เหมือนเราบ้าง เพราะแบรนด์ไลฟสไตล์สัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์นี้ไม่ได้มีแค่ของใช้ในบ้านเท่านั้น ถ้าใครเคยเดินโฉบไปมุมขนมและอาหารจะรู้เลยว่าทุกอย่างน่าหยิบไม่แพ้กัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเมนูโดรายากิแป้งหนาๆ นุ่มๆ มาพร้อมไส้ถั่วผสมเกาลัดรสหวาน อีกทั้งในถุงหนึ่งยังมีด้วยกัน 3 ชิ้นให้เพื่อนๆ หยิบไปแบ่งกินด้วยกันได้ในราคาน่ารัก ซื้อกินได้บ่อยๆ แบบไม่ต้องคิดเยอะ

 

CONTACT: MUJI Thailand

OPEN: เปิดให้บริการทุกวัน เวลาทำการขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา

LOCATION: MUJI Thailand สาขาที่มี Food Corner

BUDGET: 3 ชิ้น 69 บาท

 


 

 

Ganyudo

 

หนึ่งในร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูโดรายากิมากที่สุดก็ต้องยกให้ที่นี่ Ganyudo ร้านขนมหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจากจังหวัดชิซูโอกะที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โดยร้านมาเปิดสาขาในประเทศไทยอยู่ที่ไอคอนสยาม พร้อมเมนูขนมหวานญี่ปุ่นทำสดใหม่ทุกวัน

 

สำหรับโดรายากิของร้านค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น แป้งมีความนุ่มหอมและเบา ร้านทำทีละแผ่นๆ ให้ความรู้สึกโฮมเมด ส่วนไส้ทุกชิ้นอัดแน่น กัดไปแล้วเต็มคำ แถมยังมีไส้ให้เลือกเยอะด้วย เช่น ถั่วแดง คัสตาร์ด หรือมันหวาน ใครอยากลองโดรายากิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องมาชิมที่นี่เลย

 

CONTACT: Ganyudo.BKK

OPEN: เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

LOCATION: ชั้น G สยามทาคาชิมาย่า ไอคอนสยาม 

BUDGET: ชิ้นละ 80-100 บาท

The post 6 ร้านโดรายากิ สำหรับคนอยากตามรอยของโปรดโดราเอมอน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทำไมใครๆ ก็ดื่ม Pimm’s Cup ตอนดู Wimbledon? https://thestandard.co/life/why-pimms-cup-is-wimbledon-drink Wed, 09 Jul 2025 07:43:56 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1094750 Pimm’s Cup Wimbledon

สำหรับคอกีฬาและคนรักเทนนิสยามนี้ไม่มีรายการแข่งขันใดไหน […]

The post ทำไมใครๆ ก็ดื่ม Pimm’s Cup ตอนดู Wimbledon? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Pimm’s Cup Wimbledon

สำหรับคอกีฬาและคนรักเทนนิสยามนี้ไม่มีรายการแข่งขันใดไหนฮอตไปกว่า Wimbledon อีกแล้ว การแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกปีที่ All England Lawn Tennis and Croquet Club ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร นอกเหนือภาพการแข่งขัน สิ่งหนึ่งที่เรามักเห็นควบคู่กับสนามหญ้าสีเขียว เสื้อสีขาว และสตรอว์เบอร์รีวิปครีม ก็คือแก้วใสที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง ผลไม้สด และใบสะระแหน่ นั่นคือ ‘Pimm’s Cup’ ค็อกเทลเบาๆ คล้ายชาดอกไม้ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Wimbledon และหน้าร้อนฉบับอังกฤษ

 

Pimm’s Cup Wimbledon

 

จากบาร์สู่สนามหญ้า

 

Pimm’s Cup มีต้นกำเนิดในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดย James Pimm เจ้าของร้าน Oyster Bar เล็กๆ ในกรุงลอนดอน ที่อยากคิดค้นเครื่องดื่มสูตรพิเศษขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟคู่กับอาหารทะเล โดยใช้ส่วนผสมของลิเคียวร์เบสเป็นจิน ผสมกับเครื่องเทศ ควินินและผลไม้ แน่นอนว่าเครื่องดื่มแก้วนี้ต้องดื่มง่าย ช่วยย่อย ให้ความสดชื่น และแอลกอฮอล์ต่ำ เพื่อให้ลูกค้าสั่งดื่มได้เรื่อยๆ โดยไม่เมาไปเสียก่อน ในช่วงแรก Pimm’s Gin เสิร์ฟในโถขนาดเล็กที่เรียกว่า No.1 Cup ทุกคนจึงเรียกค็อกเทลนี้ว่า Pimm’s No.1 Cup ทว่าบางข้อมูลก็บอกว่า No.1 นั้นหมายถึงสูตรต้นตำรับ เพราะต่อมามีสูตรอื่นๆ ตามมา เช่น No.2 ที่ใช้สก็อตช์ และ No.3 ที่ใช้บรั่นดี

 

ในยุคที่แฟชั่นหมวกปีกกว้าง กระโปรงยาว และร่มกันแดดแพร่หลาย การจัดปาร์ตี้ในสวนคือสัญลักษณ์ของชนชั้นสูง Pimm’s Cup ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสังคมผู้ดีอังกฤษโดยเฉพาะงานกลางแจ้งอย่าง การแข่งม้า Royal Ascot, แข่งเรือ Henley Royal Regatta, และการแข่งขัน Wimbledon ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว แอลกอฮอล์ไม่แรง ได้ความสดชื่นจากผลไม้สดและน้ำแข็ง ทำให้ Pimm’s Cup กลายเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับการ ‘จิบยาวๆ’ โดยไม่เสียภาพลักษณ์ เข้ากับนิยามของผู้ดีอังกฤษ ที่ต้อง ‘ดูดีโดยไม่ต้องพยายาม’

 

 

British Summer in the Glass

 

ปัจจุบัน Pimm’s Cup ถือเป็นเครื่องดื่มประจำฤดูร้อนของอังกฤษอย่างไม่เป็นทางการ ในทุกๆ ปีจะมี Pimm’s Cup นับแสนแก้วถูกเสิร์ฟในการแข่งขัน Wimbledon บางปีมียอดขายสูงถึง 275,000 แก้ว ตลอดช่วงการแข่งขัน ทั้งยังมีข่าวลือว่าราชินีอังกฤษยังชื่นชอบค็อกเทลนี้ด้วย

 

Pimm’s Cup อาจไม่ใช่ค็อกเทลที่หวือหวาหรือซับซ้อน แต่กลับเต็มไปด้วยความทรงจำและอารมณ์ร่วม เพราะการจิบ Pimm’s ใน Wimbledon กลายเป็นธรรมเนียมและสิ่งที่ผู้คนถามหาไปแล้ว ไม่ใช่เพราะ ‘จำเป็น’ ต้องดื่ม แต่ดื่มเพราะเพื่อให้ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอังกฤษแบบเนียนๆ

 

ดังนั้นปีนี้ถ้ามี Wimbledon แมตช์ไหนที่คุณรอชม ลองเตรียม Pimm’s Cup ไว้ข้างตัวดูสักแก้ว คุณอาจเข้าใจคำว่า ‘British Summer’ และอินกับการแข่งขันมากกว่าที่เคย

 

ภาพ: Getty Image, Shutterstock

อ้างอิง

 

The post ทำไมใครๆ ก็ดื่ม Pimm’s Cup ตอนดู Wimbledon? appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Shed แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ในสุขุมวิท 26 ที่นั่งได้ตั้งแต่มื้อเที่ยงยันมื้อดึก! https://thestandard.co/life/the-shed Wed, 09 Jul 2025 06:17:51 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1094674

The Shed แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ในสุขุมวิท 26 ที่นั่งได้ตั้งแ […]

The post The Shed แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ในสุขุมวิท 26 ที่นั่งได้ตั้งแต่มื้อเที่ยงยันมื้อดึก! appeared first on THE STANDARD.

]]>

The Shed แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ในสุขุมวิท 26 ที่นั่งได้ตั้งแต่มื้อเที่ยงยันมื้อดึก!

 

ในซอยสุขุมวิท 26 มีพื้นที่ใหม่ที่ชื่อว่า The Shed ซึ่งที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์รวมร้านอาหาร แต่คือคอมมูนิตี้เล็กๆ สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน กินอะไรอร่อยๆ หรือนั่งชิลกับแก๊งเพื่อน ไม่ว่าใครจะชอบแนวไหนที่นี่ก็ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะภายในโครงการถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซนด้วยกัน แถมยังมีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor อีกด้วย

 

 

ภายใน The Shed ถูกแบ่งออกเป็น 6 โซนด้วยกัน ได้แก่

 

 

  • Horsamut ร้านอาหารไทย ที่ทุกจานยังคงรากของความเป็นไทย แต่ขยับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น เสิร์ฟในบรรยากาศที่ได้แรงบันดาลใจจากเรือยอชต์คลาสสิก
  • Bimbo Pizza & Josper at The Shed ร้านพิซซ่าเมดิเตอร์เรเนียน ที่ย่างเมนูเนื้อด้วยเตาถ่าน Josper และอบพิซซ่าในเตา Moretti Neapolis เตาเดียวกับที่ใช้ในร้านพิซซ่าชั้นนำระดับโลก เพื่อให้ได้พิซซ่าที่แป้งบางกรอบ
  • Bou Bou Bar บาร์กลางแจ้งที่เหมือนพาคุณวาร์ปไปทะเลทราย เหมาะกับการไปจิบค็อกเทลที่สบายๆ เรียบง่าย ในบรรยากาศค่ำคืนกึ่ง Outdoor ของกรุงเทพฯ

 

 

  • Casabon ร้านอาหารสไตล์ Pacific Rim ที่ได้แรงบันดาลใจจากออสเตรเลีย แคลิฟอร์เนีย และอีกหลากหลายวัฒนธรรม และเป็น All-Day Dining ซึ่งมีทั้งเบเกอรี่ ขนมปัง เบอร์เกอร์ หรือเมนูหลักแบบ Casual Fine
  • The Shed Cellar โซนไวน์ที่จัดเต็มด้วยกว่า 80 เลเบลจากทั้งโลกเก่าและโลกใหม่ เหมาะกับสายจิบที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ และพูดคุยกับคนคัดไวน์ตัวจริง
  • The Shed BakeLab โซนอบขนมปังที่สดใหม่ทุกวัน ใครที่ชื่นชอบครัวซองต์ ซาวโดวจ์ หรือชอบกลิ่นขนมปังยามเช้า บอกเลยไม่ควรพลาด

 

 

The Shed เหมาะกับคนเมืองที่อยากหาพื้นที่นั่งในวันธรรมดาหรือวันพิเศษ จะมาเป็นแก๊ง มานั่งเงียบๆ ทำงาน หรือดินเนอร์กับคนรู้ใจ ก็มีมุมให้เลือกหลากหลาย มีทั้งโซน Indoor ที่ออกแบบอย่างสวยงาม และ Outdoor ที่ร่มรื่นจนลืมไปเลยว่าอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกินจริงจัง สายจิบไวน์ สายชิลหลังเลิกงาน หรือสายคาเฟ่ในวันอาทิตย์ ที่นี่มีครบจบในที่เดียว

 

ภาพ: The Shed

 


 

The Shed Bangkok

Open: เวลา 11.00-23.00 น. ปิดวันจันทร์

Address: สุขุมวิท 26

Facebook: The Shed Bangkok

Map: www.google.com/maps/place/The+Shed+Bangkok

 

 

The post The Shed แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ในสุขุมวิท 26 ที่นั่งได้ตั้งแต่มื้อเที่ยงยันมื้อดึก! appeared first on THE STANDARD.

]]>
7 ร้านไฟน์ไดนิ่งจากเชฟระดับโลก ใน “K-Curated Dining Experience” โดยเดอะวิสดอมกสิกรไทย [PR News] https://thestandard.co/life/k-curated-dining-experience Mon, 07 Jul 2025 04:00:37 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1092356

“อาหาร” ในปัจจุบันได้กลายเป็นมากกว่าเรื่องของรสชาติ แต่ […]

The post 7 ร้านไฟน์ไดนิ่งจากเชฟระดับโลก ใน “K-Curated Dining Experience” โดยเดอะวิสดอมกสิกรไทย [PR News] appeared first on THE STANDARD.

]]>

“อาหาร” ในปัจจุบันได้กลายเป็นมากกว่าเรื่องของรสชาติ แต่คือประสบการณ์ที่ยากจะลืมลง โดยเฉพาะการรังสรรค์จากฝีมือของเชฟระดับโลก 

 

“เดอะวิสดอมกสิกรไทย” ได้จุดประกายและรังสรรค์แคมเปญสุดพิเศษสำหรับลูกค้าคนพิเศษอย่าง “K-Curated Dining Experience” คัดสรรร้านอาหารชื่อดังและเชฟฝีมือระดับโลกอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันประณีต พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญถึง 7 ร้านไฟน์ไดนิ่งจากเชฟระดับโลก

 


 

1. Gianni Ristorante

 

1. Gianni Ristorante

 

เริ่มต้นประสบการณ์ในโลกอิตาเลียนคลาสสิกกับ Gianni Ristorante ร้านระดับตำนานที่พาคุณสัมผัส “Osciatra Caviar” หนึ่งในวัตถุดิบอันทรงคุณค่า ผสานเทคนิคการปรุงแบบดั้งเดิมกับฝีมือเชฟมากประสบการณ์ ทุกจานยังจับคู่กับไวน์แพริงที่ช่วยขับรสชาติให้น่าประทับใจยิ่งขึ้นอีกระดับ

 


 

2. Sorrento

 

2. Sorrento

 

ในโลกของอาหาร วัตถุดิบบางชนิดเป็นมากกว่ารสชาติ เช่นเดียวกับทรัฟเฟิลขาวจากอัลบา วัตถุดิบล้ำค่าที่ Sorrento เลือกมาเป็นหัวใจหลัก ถ่ายทอดความหรูหราของแคว้น Piemonte ได้อย่างละเมียดละไม ปิดท้ายด้วยไอศกรีมเฮเซลนัท ท็อปทรัฟเฟิลและไวท์ทรัฟเฟิลออยล์ ที่กลมกล่อมทั้งกลิ่นและรส

 


 

3. Maison Dunand

 

3. Maison Dunand

 

ความคลาสสิกในแบบฝรั่งเศสถูกถ่ายทอดผ่านฝีมือของเชฟอาโนลด์ ดูนัง มือรางวัลระดับโลก ที่รังสรรค์เมนู Caviar Kristal Kaviari พร้อมผสานวัตถุดิบซีฟู้ดและวากิวพรีเมียม กับศาสตร์การปรุงอันเป็นเอกลักษณ์ใน 5 คอร์สที่น่าจดจำ

 


 

4. Cadence

 

4. Cadence

 

เชฟแดน บาร์ก นำประสบการณ์มาถ่ายทอดผ่าน Progressive American Cuisine 8 คอร์ส ที่เปิดกว้างให้วัตถุดิบและไอเดียใหม่ได้พูดคุยกัน เมนูไฮไลต์อย่างหอยนางรมซอส Mignonette, Black Label Ibérico Jamón และ Black Forest Cake เวอร์ชั่นพิเศษ คือหลักฐานว่าความคิดสร้างสรรค์ก็มีรสชาติได้

 


 

5. NAWA Thai

 

5. NAWA Thai

 

NAWA คือการตีความอาหารไทยแบบ ‘สำรับ’ ให้ร่วมสมัย โดยยังเคารพโครงสร้างดั้งเดิม ฝีมือของเชฟเซ็ฟ–จิรพัทธ์ ประพจนาภรณ์ ถ่ายทอดรสชาติแบบไทยแท้ ผ่านรูปแบบที่ร่วมสมัย 

 


 

6. CLARA

 

6. CLARA

 

CLARA ไม่ได้เสิร์ฟเพียงอาหาร แต่พาเดินทางผ่าน 7 แคว้นของอิตาลีด้วย 7 คอร์สเมนูที่รังสรรค์อย่างประณีต ทุกจานสะท้อนวัฒนธรรม รสชาติ และภูมิปัญญาของแต่ละพื้นที่อย่างแยบยล พร้อมไวน์แพริงที่ถูกคัดมาอย่างพิถีพิถัน

 


 

7. Acqua

 

Acqua

 

ในมือของเชฟ Alessandro Frau อาหารอิตาเลียนเก่าแก่ได้ถูกเล่าใหม่ในรูปแบบ Contemporary Haute Cuisine ด้วยวัตถุดิบที่นำเข้าจากอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน และญี่ปุ่น ทุกจานคือการผสมผสานอดีตและปัจจุบันอย่างสง่างาม

 


 

สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า เดอะวิสดอมกสิกรไทย”

 

ลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทย สามารถดื่มด่ำประสบการณ์รสชาติระดับเวิลด์คลาสจากร้านไฟน์ไดนิ่งที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ พร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ เพียงแสดงบัตรเดอะวิสดอมเพื่อรับสิทธิ์ ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการ

 

Gianni Ristorante

▪รับส่วนลด 15% สำหรับค่าอาหาร เมื่อสั่งไวน์จากเมนูไวน์ของร้าน

▪หรือเลือกรับส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร

📅 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2568 – 30 เม.ย. 2569

 

Maison Dunand

▪รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร เมื่อทานครบ 8,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป (ไม่รวม VAT และ Service Charge)

▪สิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่ชำระผ่านบัตรเครดิตเดอะวิสดอมกสิกรไทย 

📅 ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2568 – 31 ม.ค. 2569

 

CLARA

▪รับฟรี Welcome Drink มูลค่า 480 บาท

📅 ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2568 – 31 ก.ค. 2568

 

NAWA Thai

▪รับฟรีต้มยำกุ้ง มูลค่า 400 บาท (เมื่อรับประทานที่ร้าน 2 ท่านขึ้นไป)

▪รับเพิ่ม Signature Cocktail: Anchan Daiquiri 1 แก้ว/โต๊ะ

📅 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2568 – 31 ธ.ค. 2568

🔔 แจ้งสิทธิ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้าใช้บริการ

 

Acqua

▪รับฟรีเมนูค็อกเทลพิเศษ Summertime in Sardinia มูลค่า 420 บาท

📅 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2568 – 31 ธ.ค. 2568

📞 สำหรับลูกค้าที่ทานอาหารที่ร้านและโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า

 

สิทธิสุดพิเศษที่หลายคนรอคอยกับ “มา 2 จ่าย 1”

 

เพลิดเพลินกับประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับโปรโมชั่น “มา 2 จ่าย 1” จากร้านอาหารที่ร่วมแคมเปญ K-Curated Dining Experience ได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถติดตามกิจกรรมและสำรองสิทธิ์ล่วงหน้าได้ทาง LINE @KBankLive เป็นประจำทุกเดือน

 

ศึกษาสิทธิพิเศษ ข้อกำหนด เงื่อนไขเพิ่มเติมที่ https://www.kasikornbank.com/th/personal/the-wisdom/events/event/pages/2024_exclusive-fine-dining.aspx   

 

*หมายเหตุ: ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

The post 7 ร้านไฟน์ไดนิ่งจากเชฟระดับโลก ใน “K-Curated Dining Experience” โดยเดอะวิสดอมกสิกรไทย [PR News] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tora Izakaya ร้านอิซากายะที่จะทำให้ย่านศาลายาไม่เหงาอีกต่อไป https://thestandard.co/life/tora-izakaya-salaya Sun, 06 Jul 2025 01:50:59 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1093347 tora-izakaya-salaya

วันไหนใครเบื่อกรุงเทพฯ แล้วอยากลองขับรถเล่นแบบ One Day […]

The post Tora Izakaya ร้านอิซากายะที่จะทำให้ย่านศาลายาไม่เหงาอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
tora-izakaya-salaya

วันไหนใครเบื่อกรุงเทพฯ แล้วอยากลองขับรถเล่นแบบ One Day Trip ไปตามหาของอร่อยๆ เที่ยวเล่นสนุกๆ เราว่าศาลายาต้องเป็นอีกจุดหมายที่หลายคนต้องนึกถึงแน่นอน เพราะนอกจากใช้เวลาเดินทางไม่นาน ย่านนี้ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และมิวเซียมให้แวะเช็คอินเพียบ

 

ซึ่งร้านที่เรามาแนะนำวันนี้ก็อาจเป็นบรรยากาศที่หลายๆ คนมองหาอยู่ เพราะหลังจากเที่ยวมาเหนื่อยๆ ทั้งวัน จะมีอะไรดีไปกว่าได้นั่งพักจิบเครื่องดื่มเบาๆ คู่กับอาหารสไตล์อิซากายะที่รสชาติถูกคอ จริงไหม

 

อีกทั้งร้าน Tora Izakaya (โทร่า อิซากายะ) ยังไม่ใช่ร้านของคนแปลกหน้าที่ไหน เพราะผู้อยู่เบื้องหลังก็คือ เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ และครอบครัวฝั่งสามี ที่เปลี่ยนพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านตัวเองให้กลายเป็นร้านอิซากายะสไตล์ยาไตและสาเกที่บรรยากาศสนุกสุดๆ

 

ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา

 

The vibe

 

Tora Izakaya อยู่ในโครงการชื่อ 4 Fat Pigs ติดถนนทวีวัฒนา ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งที่นี่มีร้านเนื้อ SMOKED สาขาแรกของเชฟแพมด้วย และเมื่อทุกคนเดินขึ้นมาบนชั้น 2 ก็จะพบกับร้านอิซากายะแห่งนี้ที่มาในบรรยากาศสนุกๆ เป็นร้านอิซากายะแนวทันสมัย พร้อมโซนที่นั่งทั้งหน้าเคาน์เตอร์บาร์ โต๊ะส่วนตัว และห้องส่วนตัวเผื่อใครมากันเป็นกลุ่มใหญ่

 

ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา

 

The taste

 

อย่างที่บอกว่า Tora Izakaya เป็นร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเมนูสาเกไม่น้อยไปกว่าอาหาร เชฟแพมบอกว่าเธอคัดมาเฉพาะเมนูที่ตัวเองชอบสั่งเวลาไปนั่งร้านอิซากายะ เพราะฉะนั้นของกินและเครื่องดื่มที่ร้านนี้จึงจัดเต็มกว่า 150 เมนู และคัดมาแล้วเน้นๆ ว่าจับคู่กินด้วยกันแล้วสมบูรณ์แบบสุดๆ

 

โดยเมนูส่วนใหญ่เป็นของทอดเสียบไม้ ยากิโทริ ซาชิมิ ข้าวหน้า หรืออาหารญี่ปุ่นสไตล์ยาไต ซึ่งจานที่เราอยากแนะนำให้ลองก็อย่างเช่น Tora Gyoza (62 บาท) เกี๊ยวซ่าที่มีทั้งความนุ่มและความกรอบ ครีบปลากระเบนย่าง (92 บาท) ยิ่งจับคู่กับไฮบอลของร้านที่ไม่เหมือนใครแล้วยิ่งเพลิน หรือเมนูที่เราเองต้องสั่งทุกครั้งเมื่อไปร้านอิซากายะอย่าง รากบัวทอดกรอบคั่วเกลือ (52 บาท) ของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน

 

วากิวยูเกะ (262 บาท) จานนี้จำให้แม่น บอกเลยว่าติดใจแน่นอน เช่นเดียวกับ ลิ้นวัวรมควัน (199 บาท) โทร่าเนื้อเรียงชีสชั้น (62 บาท) หรือของทอดเสียบไม้ อาทิ ไข่นกกระทาอาราบิกิ (50 บาท) ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ส่วนของย่างเราแนะนำให้ลอง หนังไก่ (37 บาท) หมูสามชั้นพันไข่นกกระทา (37 บาท) ตับไก่ (45 บาท) สะโพกไก่ (45 บาท) ลิ้นวัว (45 บาท) และ เนื้อวากิว คารูบิ (55 บาท)

 

ส่วนเครื่องดื่มจะมีทั้งไฮบอลที่ใช้น้ำแร่จากญี่ปุ่น เบียร์รสชาติต่างๆ อูเมะชู จิน ไวน์ และสาเก

 

ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา ร้านอิซากายะเชฟแพม ศาลายา

 

Good for

 

มาเที่ยวศาลายาครั้งต่อไปทุกคนรู้แล้วใช่ไหมว่าจะนัดเจอกับเพื่อนที่ไหนดี เพราะเราว่า Tora Izakaya เป็นร้านที่ค่อนข้างครบเลย จะแวะมากินเล่นหรือกินจริงจังก็ได้ แถมยังมีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายสุดๆ 

โดยเฉพาะคนที่กำลังหาร้านนั่งชิลกับแก๊งเพื่อนๆ ต้องห้ามพลาดมาที่นี่นะ

 

Tora Izakaya Salaya 

OPEN: ทุกวัน เวลา 16.30 – 24.00 น.

ADDRESS: ศาลายา (ชั้น 2 ในโครงการ 4 FAT PIGS)

BUDGET: 1,000-3,000 บาท

 

 

The post Tora Izakaya ร้านอิซากายะที่จะทำให้ย่านศาลายาไม่เหงาอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
3 บาร์ไทยติดลิสต์ 51–100 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 และอีกหลายร้านลุ้น Top 50 https://thestandard.co/3-thai-bars-asia-50-best-bars-2025-51-100/ Thu, 03 Jul 2025 06:19:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1092391

ใกล้ถึงวันเข้ามาทุกทีแล้วกับงานประกาศรางวัล Asia’s 50 B […]

The post 3 บาร์ไทยติดลิสต์ 51–100 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 และอีกหลายร้านลุ้น Top 50 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ใกล้ถึงวันเข้ามาทุกทีแล้วกับงานประกาศรางวัล Asia’s 50 Best Bars 2025 ที่จัดขึ้น ณ Wynn Palace มาเก๊า ในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ทาง 50 Best จะปล่อยลิสต์รายชื่อบาร์อันดับที่ 51-100 มาเป็นเรียกกระแสกันไปพลาง ๆ ซึ่งปีนี้ มีหลายบาร์ในไทยยังคงติดอันดับเช่นเคย

 

โดยปีนี้บาร์ในไทยติดอันดับ 51-100 จำนวน 3 แห่ง ได้แก่

 

  • Mahaniyom Cocktail Bar (อันดับ 71) บาร์สาย Resourceful Cocktail ที่เคยไต่อันดับสูงถึง Top 20 ในปีที่แล้ว
  • Firefly (อันดับ 82) บาร์สุดคลาสสิกจากโรงแรม Sindhorn Kempinski ซึ่งขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับ
  • Messenger Service (อันดับ 90 / New Entry) บาร์หน้าใหม่เครือเดียวกับ Bar Us ที่นำสารพันรสชาติจากร้านของชำ มาสร้างสรรค์ใหม่ พร้อมเสิร์ฟบรรยากาศบาร์ในบ้าน

 

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับลิสต์ในปีนี้คือ มีหลายบาร์จากหลายเมืองในเอเชียที่เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้เป็นครั้งแรกถึง 14 แห่ง จาก 23 เมือง เช่น Obsidian Bar จาก เซินเจิ้น, Sora จากพนมเปญ, Maltali จากเกาสง เป็นต้น โดยสิงคโปร์ยังคงเป็นผู้นำด้วยบาร์ติดอันดับมากที่สุดถึง 6 แห่ง รองลงมาคือ โซล, เซี่ยงไฮ้, โตเกียวที่มีเมืองละ 4 แห่ง

 

สำหรับบาร์ไทยที่เคยอยู่ในลิสต์เมื่อปีที่แล้ว มีสิทธิ์ลุ้นลำดับ Top 50 เช่นกัน เช่น BKK Social Club (อันดับ 7), Vesper (อันดับ 13), Bar Us (อันดับ 21), Tropic City (อันดับ 62), Opium (อันดับ 73), Asia Today (อันดับ 90), The Bamboo Bar (อันดับ 91) และ Dry Wave Cocktail Studio (อันดับ 98)

 

สำหรับรายชื่อบาร์ทั้งหมดในลิสต์ 51-100 สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.instagram.com/p/DLoFyv8P510

 

ภาพ: 50 Best

The post 3 บาร์ไทยติดลิสต์ 51–100 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 และอีกหลายร้านลุ้น Top 50 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไอศกรีมรสชาติ 10 แบรนด์ในตำนานจาก Guss Damn Good รีบตามไปชิมกัน! https://thestandard.co/life/guss-damn-good-grocery-store Thu, 03 Jul 2025 03:54:02 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1092267 Guss Damn Good

ถ้าใครยังจำไอศกรีมสุดครีเอทที่ Guss Damn Good คอลแลบกับ […]

The post ไอศกรีมรสชาติ 10 แบรนด์ในตำนานจาก Guss Damn Good รีบตามไปชิมกัน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Guss Damn Good

ถ้าใครยังจำไอศกรีมสุดครีเอทที่ Guss Damn Good คอลแลบกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อฉลองเดือนแห่งไอศกรีมโลกในปีที่แล้วได้ ปีนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อม 10 แบรนด์ใหม่ 10 รสชาติใหม่ ซึ่งเราว่าแต่ละรสค่อนข้างออกนอกกรอบและสนุกขึ้นมากๆ แถม Guss ยังตั้งใจทำเพื่อเป็นการฉลองแบรนด์อายุครบ 10 ปีไปด้วยเลย

 

 

Guss Damn Good Grocery Store เป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่ Guss ชวนแบรนด์อื่นๆ มาคอลแลบฯ กันเพื่อทำไอศกรีมรสชาติใหม่ และขายในช่วงเวลาจำกัด ซึ่งในปีนี้เป็นการคอลแลบครั้งที่ 2 พร้อมกับ 10 แบรนด์ที่เราเห็นชื่อแล้วก็เดาไม่ถูกว่าของหวานเย็นๆ ที่ใส่เอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นลงไปจะออกมารสชาติแบบไหน

 

“รอบนี้เราไม่กลัวที่จะทำเลย บอกตรงๆ ว่าปีที่แล้วต้องทำไอศกรีมของคาวหลายรสชาติมากจนเรากลัวว่ามันจะออกมาอร่อยไหม แต่รอบนี้เรารู้สึกสนุกกับการทำไอศกรีมมากกว่า ความกลัวมันหายไปกลายเป็นความสนุกในการจับคู่รสชาติ” ระริน ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Guss Damn Good เล่าให้พวกเราฟังอย่างตื่นเต้น

 

ซึ่ง 10 แบรนด์ในตำนานที่ Guss ชวนมาทำอะไรสนุกๆ ในปีนี้เพื่อให้ทุกคนชิมในเวอร์ชั่นไอศกรีม ได้แก่ น้ำปลาทิพรส, M-150, ปลาเส้นทาโร, น้ำแดงเฮลซ์บลูบอย, ซอสพริกศรีราชาพานิช, เยลลี่โยโย่, ถั่วลิสงโก๋แก่, ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์, น้ำส้มสายชู อสร. และ หอยลายปุ้มปุ้ย

 

 

“อย่างรส Yoyo Grape Gummy Sorbet ที่หลายคนชอบก็ทําไม่ง่าย เพราะเราต้องนำเยลลี่ไปต้มแล้วละลายก่อน ถ้าใส่โยโย่ลงไปเลยจะกลายเป็นน้ำแข็งและกินไม่ได้ หรือรส Tiparos Fish Sauce Caramel เราก็เอาน้ำปลาไปเคี่ยวกับน้ำตาลก่อนทำเป็นเนื้อไอศกรีม” ระรินเล่าให้ฟังถึงดีเทลในแต่ละรสชาติที่ผ่านการครีเอทมาอย่างซับซ้อนกว่าที่ทุกคนคิด

 

“รส Farmhouse Toasted Bread ที่ทุกคนชอบนำมาทำเป็นขนมปังปิ้ง เราก็เอาไปทำเป็นขนมปังปิ้งจริงๆ ก่อน เพื่อให้ไอศกรีมมีรสชาติแบบขนมปังปิ้ง แล้วเราก็ใส่เนื้อขนมปังกรอบๆ ชิ้นเล็กๆ ลงไปให้ตอนกินแล้วมีเนื้อสัมผัสสนุกๆ ด้วย” 

 

ส่วนรสชาติอื่นๆ ที่เราลองแล้วติดใจเป็นพิเศษ และอยากให้ทุกคนตามไปลองเช่นกัน ก็คือ Aor-Sor-Ror Vinegar Chili หรือ ซอร์เบต์พริกน้ำส้มสายชูอสร. ระรินบอกว่าพอพูดถึงน้ำส้มสายชูก็นึกถึงพวงเครื่องปรุงเป็นอย่างแรก Guss จึงหยิบน้ำส้มสายชูพริกเหลืองมาทำเป็นไอศกรีมรสนี้ บอกเลยว่ากินแล้วสดชื่น เหมาะกับวันที่เหนื่อยล้าสุดๆ เลย

 

 

ไอศกรีมทั้ง 10 รสชาติราคาถ้วยละ 129 บาท วางขายถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เท่านั้น ทุกคนตามไปชิมได้ที่ Guss Damn Good ทุกสาขา หรือสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ และถ้าหากใครสั่งครบทั้ง 10 รสชาติ (1,199 บาท) จะได้รับ ‘ถุงยังชีพ’ ที่มีของที่ระลึกจากทั้ง 10 แบรนด์ด้วย 

 

สอบถามเพื่มเติมได้ที่ Guss Damn Good

The post ไอศกรีมรสชาติ 10 แบรนด์ในตำนานจาก Guss Damn Good รีบตามไปชิมกัน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
KAYAKI ร้านปิ้งย่างทะเลสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย เสิร์ฟร้อนจากเตาทีละคำๆ https://thestandard.co/life/kayaki Wed, 02 Jul 2025 08:54:25 +0000 https://thestandard.co/?p=1091970

บางคนอยากกินปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น แต่ไม่อินกับเนื้อมันแท […]

The post KAYAKI ร้านปิ้งย่างทะเลสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย เสิร์ฟร้อนจากเตาทีละคำๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>

บางคนอยากกินปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น แต่ไม่อินกับเนื้อมันแทรกลายสวย ครั้นจะให้กินเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ก็รู้สึกไม่ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นอีก เราเข้าใจสุดๆ จากใจคนชอบกินอาหารญี่ปุ่นและชอบปิ้งย่างที่กินแล้วเบาท้อง ทว่าต้องชวนให้รู้สึกเพลิดเพลินคุ้มราคาด้วย

 

KAYAKI ร้านปิ้งย่างน้องใหม่ของชาวสุขุมวิทก็เปิดมาด้วยความตั้งใจนี้เช่นกัน คือเสิร์ฟปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้เฉพาะวัตถุดิบอาหารทะเลเกรดซาชิมิเพื่อให้ทุกคนกินแล้วรู้สึกดีต่อสุขภาพและฟินเพราะความสดของวัตถุดิบด้วย อีกทั้งคอนเซ็ปต์นี้ยังถือเป็นร้านแรกในประเทศไทย เอาเป็นว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองหิวไปกว่านี้ มาดูกันดีกว่าว่า KAYAKI มีอะไรห้ามพลาดอีกบ้าง

 

 

The vibe

 

KAYAKI เป็นร้านจากเครือเดียวกับร้านแฮนด์โรลเจ้าแรกของเมืองไทยอย่าง Kanori โดยร้านเปิดอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ด้านหน้าโครงการ Yard 49 (บนพื้นที่เดียวกับคาเฟ่บรันช์ Kay’s) ทั้งภายนอกและภายในมาในสไตล์ญี่ปุ่น ด้านในร้านเป็นเคาน์เตอร์บาร์ที่มาพร้อมเตาปิ้งย่างซึ่งร้านออกแบบเองเพื่อใช้ย่างเนื้อปลาและอาหารทะเลโดยเฉพาะ แต่ถ้าใครมาหลายคนและอยากนั่งด้วยกัน ร้านก็มีโต๊ะพร้อมเตาให้ด้วย

 

และทุกคนอาจรู้สึกว่าบรรยากาศของร้านดูเหมือนเคาน์เตอร์บาร์โอมากาเสะ ซึ่งเราว่าก็คล้ายๆ กัน เพราะทุกเซ็ตเมนูที่ร้านจัดไว้จะมีพนักงานคอยย่างเสิร์ฟให้เรากินร้อนๆ จากเตาทีละจานๆ เลย

 

 

The taste

 

KAYAKI มาจากคำว่า Yakizakana ที่แปลว่าปลาย่างในภาษาญี่ปุ่น เจ้าของร้านบอกว่าพวกเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและเจอร้านปิ้งย่างอาหารทะเล โดยร้านค่อยๆ ย่างให้ชิมทีละส่วนเหมือนร้านยากินิกุ แถมยังเสิร์ฟแบบ Medium Rare ด้วยความแปลกใหม่และติดใจในรสชาติพวกเขาจึงกลับมาเปิดร้าน KAYAKI และเสิร์ฟเมนูปิ้งย่างโดยใช้วัตถุดิบเกรดเดียวกับซาชิมิ โดยมีเชฟคอยย่างให้ด้วยความสุกที่พอดี และคอยแนะนำวิธีการกินแต่ละเมนูให้ทุกคนรอเอ็นจอยทีละคำๆ

 

 

เมนูมีให้เลือกทั้งหมด 3 เซ็ต โดยทุกเซ็ตมาพร้อมซุป สลัด ข้าวญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของร้านเองที่เติมได้ไม่อั้น และของหวานที่มีให้เลือกระหว่างมัทฉะและยูสุ

 

เริ่มจากเซ็ต SEIKAI 6 ชิ้น ราคา 890 บาท ประกอบด้วย ชูโทโร่ ฮามาจิ แซลมอน กุ้งแดงญี่ปุ่น ปลาหมึก และมาได ส่วนเซ็ต KAIYO 7 ชิ้น ราคา 1,290 บาท มีวัตถุดิบเพิ่มเข้ามาคือ โฮตาเตะและอากามิ (ไม่มีฮามาจิ)

 

 

สำหรับเซ็ต KAYAKI 8 ชิ้น ราคา 1,790 บาท ซึ่งเป็นเซ็ตพรีเมียมที่สุด ทุกคนจะได้เปลี่ยนจากแซลมอนเป็น คินเมได และเพิ่มเมนู ‘โอโทโร่สุกี้’ ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดสุดๆ ถ้าใครกินปลาหมดแล้วให้ลองเทข้าวลงไปผสมกับซอสสุกี้และไข่แดง รับรองฟินจนหยุดไม่อยู่

 

 

ร้านมีเมนูพิเศษให้ทุกคนอัปเกรดได้ด้วยนะ แต่เฉพาะเซ็ต KAIYO และ KAYAKI เท่านั้น คือถ้าหากอัปเกรดเมนูอากามิจะได้รับเป็น Toro Bomb (เพิ่ม 690 บาท) หรือข้าวหน้าชูโทโร่ย่างร้อนๆ กินคู่กับอูนิและอิกุระแทน

 

 

Good for

 

คำที่เราชอบเป็นพิเศษคือ ชูโทโร่ ซึ่งเสิร์ฟเป็นคำแรกด้วยรสชาติเข้มข้น ติดใจจนลืมไม่ลง Toro Bomb ก็เช่นกัน ถ้าใครรักอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้วต้องชิมให้ได้ ร้านเสิร์ฟมาเป็นถ้วยขนาดกำลังดี ไม่ทำให้จุกจนกินคำต่อไปไม่ไหว และแน่นอนว่าอีกคำคือโอโทโร่สุกี้อย่างที่บอกไป เราอยากให้คนชอบกินปิ้งย่างและอาหารญี่ปุ่นได้ลองจริงๆ ทั้งซอสสุกี้ที่เข้มข้นกำลังดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป กินคู่กับเนื้อปลาที่ย่างกำลังดีแล้วน่าประทับใจมากๆ

 

 

ภาพ: ณัฐนิชา หมั่นหาดี

 


 

KAYAKI

OPEN: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-14.30 น. และ 17.30-22.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-22.00

Contact: Kayaki

ADDRESS: โครงการ Yard 49 ซอยสุขุมวิท 49

BUDGET: เริ่มต้น 890-1,790 บาท

Map: https://maps.app.goo.gl/xtrJ8oDoNcsoq5fF6

 

 

The post KAYAKI ร้านปิ้งย่างทะเลสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย เสิร์ฟร้อนจากเตาทีละคำๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>