ยุนยอจอง นักแสดงสัญชาติเกาหลีวัย 77 ปี ผู้เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ ได้ให้สัมภาษณ์อย่างอบอุ่นถึงครอบครัวของเธอ โดยเผยว่า ลูกชายคนโตของเธอเป็นเกย์ พร้อมกับเล่นมุกว่าเธอรักคู่ชีวิตของลูกชายยิ่งกว่าลูกของตัวเองด้วย

ยุนยอจองเปิดเผยถึงเรื่องราวของลูกชายคนโตว่า เขา Come Out เปิดตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ปี 2000 อันเป็นช่วงเวลาที่คนเกาหลีส่วนมากยังคงปิดบังเพศวิถีของตัวเองอยู่

เนื่องจากค่านิยมเรื่องการอนุรักษนิยมอันเข้มข้นในเกาหลีใต้ ซึ่งเมื่อมหานครนิวยอร์กอนุมัติกฎหมายการสมรสระหว่างเพศเดียวกัน ครอบครัวของเธอก็ได้จัดงานแต่งงานอย่างเป็นส่วนตัวกันในที่แห่งนั้นและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากประเทศของตัวเอง เธอเล่าผ่าน Korea JoongAng Daily ว่า

“เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความเป็นอนุรักษนิยมสูงมากๆ ไม่มีใครเคยออกมา Come Out ว่าตัวเองเป็นเกย์ต่อสาธารณะหรือแม้แต่กับพ่อแม่ของตัวเอง แต่ปรากฏว่าลูกชายคนโตของฉันเป็นเกย์ และทุกวันนี้ฉันก็รักลูกเขยมากกว่าลูกของตัวเองเสียอีก!”

ยุนยอจองพูดถึงประเด็นดังกล่าวเพราะเธอเพิ่งรับบทเป็นคุณย่าของเกย์หนุ่มที่กำลังพยายามทำตามความคาดหวังของครอบครัวพร้อมกับปกปิดเรื่องเพศของตัวเองในภาพยนตร์เรื่อง The Wedding Banquet ผลงานรีเมกจากภาพยนตร์ปี 1993 ของผู้กำกับชาวไต้หวันอย่าง Ang Lee ซึ่งยุนยอจองเผยว่ามีความคล้ายคลึงกับชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก โดยเธอเผยด้วยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดใจพูดถึงเรื่องครอบครัวของตัวเอง และพูดอย่างติดตลกพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีด้วยว่า ครอบครัวอาจจะขว้างของใส่เธอจากการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เมื่อเธอกลับบ้าน

ภาพ: Frazer Harrison / Getty Images

อ้างอิง:

• https://malaysia.news.yahoo.com/oscar-winner-youn-yuh-jung-022616188.html

The post “เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความเป็นอนุรักษนิยมสูงมากๆ” ยุนยอจอง เผยเรื่องราวของการที่ลูกชายคนโตเป็นเกย์ appeared first on THE STANDARD.

ตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดกระแสการนำภาพถ่ายไปทำให้ออกมาอยู่ในรูปแบบการ์ตูนสไตล์ Studio Ghibli ด้วย AI และมันก็กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ พร้อมกับที่เกิดข้อถกเถียงขึ้นอย่างกว้างขวางถึงคุณค่าของงานฝีมือและการทุ่มเทใส่ใจในทุกรายละเอียดในการรังสรรค์ผลงานที่ทางสตูดิโอยึดถือ ซึ่งย้อนแย้งกับกระแสการใช้ AI ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และยังมีข้อพิพาทด้วยว่า กระแสดังกล่าวถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของ Studio Ghibli ด้วยหรือไม่

Studio Ghibli สร้างผลงานที่กลายเป็นที่รักของคนทั่วโลกมานานหลายทศวรรษ และยังมีบทบาทสำคัญในแง่ของการสะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการที่ผู้คนสร้างภาพสไตล์ Studio Ghibli ง่ายๆ ด้วยเครื่องมืออย่าง ChatGPT ก็ก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อผู้คนมากมาย และยังดูเหมือนว่าจะเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย โดยที่ผ่านมานักร่างกฎหมายและหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Studio Ghibli อย่าง Hayao Miyazaki ที่เป็นนักทั้งวาดและผู้กำกับก็ได้ออกมาพูดคุยถึงประเด็นนี้ และล่าสุดผู้ร่างกฎหมายในประเทศญี่ปุ่นก็กำลังพิจารณาดำเนินการให้การทำภาพ ‘Ghiblification’ กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยนำเรื่องเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการของรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Masato Imai สมาชิกพรรค Constitutional Democratic Party เปิดประเด็นถึงเรื่องนี้กับ Hirohika Nakahara ผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดีแห่งกระทรวงการศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งคำถามว่า

“ตอนนี้กำลังมีข้อถกเถียงถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘Ghiblification’ หรือการใช้ AI ทำภาพให้ออกมาในสไตล์ Ghibli ถือเป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์หรือไม่ ถ้าหากอ้างอิงตามกฎหมายที่เรากำลังใช้อยู่ในขณะนี้ มันถูกกฎหมายอย่างไร”

Hirohika Nakahara ให้คำตอบว่า 

“สุดท้ายแล้วมันเป็นสิ่งที่ศาลจะต้องตัดสิน ถ้าหากนับแค่เพียงเรื่องสไตล์หรือแนวคิดที่ออกมาคล้ายคลึงกันก็จะไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ถ้า AI จงใจทำให้ออกมาเหมือน หรือนำสิ่งที่มีอยู่แล้วและยังติดลิขสิทธิ์มาใช้ก็อาจเป็นไปได้ว่าเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้น ดังนั้นการนำสไตล์และไอเดียไปใช้นั้นไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ถ้าภาพที่ AI สร้างเป็นที่จดจำหรือเข้าใจได้ว่าคือภาพของ Ghibli เอง ก็อาจถือได้ว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย”

ขณะนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ได้ออกกฎหมายต่อต้านการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพออกมาให้เหมือนกับสไตล์การ์ตูนของ Studio Ghibli โดยพวกเขาต้องถกเถียงกันเรื่องลิขสิทธิ์และการใช้ AI กันต่อไปในช่วงเวลานี้

ภาพ: Daniele Venturelli / WireImage

อ้างอิง: 

• https://hypebeast.com/2025/4/japanese-lawmakers-considering-making-ai-generated-studio-ghibli-images-illegal-news 

The post ผู้ร่างกฎหมายในประเทศญี่ปุ่นกำลังพิจารณาว่าการทำภาพ ‘Ghiblification’ ด้วย AI เป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

V วง BTS เขียนข้อความตอบกลับเพื่อนทหารที่อยู่สังกัดเดียวกันในช่วงประจำการ โดยอีกฝ่ายขอบคุณ V ว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้เขาอยากทำความฝันตัวเองให้สำเร็จ เพราะในช่วงที่อยู่กรมทหารด้วยกัน เขาเห็นอีกฝ่ายเป็นคนที่มุ่งมั่นและทำทุกอย่างได้ดีเสมอ

ในโพสต์นั้นบรรยายว่า แม้ในช่วงเวลาหนึ่ง V จะมีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่และต้นขา เขาก็ยังทำผลงานในกรมทหารได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการคว้าอันดับ 1 ในการยิงเป้า การฝึกยุทธวิธีในช่วงฤดูหนาว และได้รับรางวัลดีเด่น Military Police Exemplary Award 

ดังนั้นความมุ่งมั่นและพยายามของ V กลายเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เขากล้าทำตามฝันของตัวเอง ตอนนี้เขาอยากจะเป็นนักกายภาพบำบัดด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย โดยเขากล่าวว่า “เหนือสิ่งอื่นใด ความมุ่งมั่นและแพสชันของคุณช่วยให้ผมตั้งเป้าหมายได้ว่าผมอยากเป็นนักกายภาพบำบัด”

ในขณะที่ V ก็มาตอบกลับโพสต์นี้ว่า “ฮ่าๆ อย่ายอมแพ้ในการพยายามเป็นนักกายภาพบำบัดนะ ทำความฝันให้สำเร็จแล้วมาหาผมด้วยล่ะ ผมจะรอนะ” หลังจากที่ V มาตอบข้อความเพื่อนทหารคนนี้ ก็มีหลายคนมาตอบในโพสต์นี้กันอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็น “เขาคนนี้คงทำตามความฝันได้สำเร็จแน่นอน”, “เขามีที่ปรึกษาที่ดี”, “อนาคตที่มี V รออยู่ อิจฉาจัง”, “แรงผลักดันนี้ดีมากๆ เลย”, “เขาดูเป็นคนดีมากนะ แค่อ่านคำตอบนี้ก็รู้สึกฮีลใจมากแล้ว”, “นี่เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นมาก” และอีกมากมาย

ภาพ: thv / Instagram

อ้างอิง:

• https://www.allkpop.com/article/2025/04/bts-v-leaves-thoughtful-comment-on-post-by-fellow-soldier-who-thanked-him-for-inspiring-his-career-dream

The post “ทำความฝันให้สำเร็จนะ” V วง BTS ให้กำลังใจเพื่อนทหารที่ขอบคุณเขาในการเป็นแรงบันดาลใจ appeared first on THE STANDARD.

ศิลปินหญิงชื่อดังอย่าง Tyla ยืนยันกับแฟนๆ บน X (ทวิตเตอร์) ว่า ชุดการแสดงของเธอบนเวที Coachella ไม่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดสุดไอคอนิกของ Britney Spears จากเวทีประกาศรางวัล VMAs เมื่อปี 2001 

โดยในงานเทศกาลดนตรี Coachella สัปดาห์ที่ 2 Tyla ขึ้นแสดงด้วยชุดที่มีท่อนบนเป็นบิกินีสีเขียวประดับสร้อยสีเงิน คู่กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่ชวนให้นึกถึงชุดของ Britney Spears จากปี 2001 ที่มีลักษณะแบบเดียวกัน เพียงแค่ประดับชุดให้แวววาวและมีสีสันมากขึ้นด้วยลูกปัดและคริสตัลต่างๆ 

ซึ่งหลังจากที่ Tyla ปรากฏตัวบนเวทีด้วยชุดนั้น โลกออนไลน์ต่างก็เริ่มแชร์ภาพพร้อมข้อความที่ว่าชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดในโชว์ของศิลปินหญิงสุดไอคอนิกในยุค 2000 แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็มาตอบแฟนคลับว่า “ฉันชอบเธอนะ ก็คิดว่าชุดก็ปังดี แต่ว่าไม่ได้แรงบันดาลใจอะไรมาเลยนะ”

ในขณะเดียวกันก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์ Tyla ต่อใน X โดยโต้ตอบจากข้อความตอบกลับของเธอว่า “ส่วนตัวฉันคิดว่าเธอเป็นพวกชอบก๊อบปี้คนอื่นแล้วก็หลงตัวเองมากเกินไป” ก่อนที่เธอจะมาตอบกลับเมนชันนั้นว่า “ส่วนตัวฉันคิดว่าคุณควรเงียบไปเถอะ”

อย่างไรก็ตาม แม้เธอจะออกมาปฏิเสธ แต่ภาพเปรียบเทียบชุดของเธอกับ Britney Spears ยังคงเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ และชาวเน็ตหลายคนก็ยังคงคิดว่าชุดของเธอคล้ายคลึงกับชุดบนเวที VMAs อยู่เช่นเดิม

ภาพ: Christopher Polk/Variety via Getty Images

อ้างอิง:

• https://x.com/Tyllaaaaaaa/status/1914020994567815346 

The post Tyla ยืนยันว่าชุดบนเวที Coachella ไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดสุดไอคอนิกของ Britney Spears appeared first on THE STANDARD.

เดินทางกลับมาหาเหล่าอากาเซและแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้งกับ ‘พี่แจ็ค’ หรือ แจ็คสัน หวัง ศิลปินชื่อดังและหนึ่งในสมาชิกของ GOT7 ที่มาเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมอีเวนต์ของผลิตภัณฑ์น้ำดื่มและโปรโมตเพลงใหม่จากอัลบั้ม MAGIC MAN 2 โดยเมื่อวานนี้ (19 เมษายน) แจ็คสันยังได้โพสต์ข้อความภาษาไทยลงบน X ส่วนตัวอย่างเป็นกันเองถึงแฟนๆ ที่มอบความรักให้กับเขา พร้อมบอกคิดถึงแฟนๆ ชาวไทยด้วยเช่นกัน

“ในที่สุด หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก ตอนนี้ฉันกำลังจะเดินทางไปประเทศไทยแล้ว

“in BANGKOK กลับบ้านปลอดภัยนะ! ความปลอดภัยต้องมาก่อน ดีใจมากที่ได้เจอกันอีก นานมากแล้วเนอะ คิดถึงทุกคนมากเลย จุ๊บๆ จุ๊บๆ

“ถ้าเจอกันข้างนอกมากอดกันนะ รู้ว่าหลายคนรอตั้งแต่เมื่อวาน ขอโทษด้วยนะ ครั้งหน้าจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีก มันไม่คุ้มหรอก ให้เราเดินไปหาดีกว่าเนอะ”

ภาพ: jacksonwang852g7 / Instagram

อ้างอิง:

• https://x.com/jacksonwang852/status/1913616394475933940?s=46&t=jbTXwMlqrApNjJ77TPkLcw 
• https://x.com/jacksonwang852/status/1913511416205856825?s=46&t=jbTXwMlqrApNjJ77TPkLcw
• https://x.com/jacksonwang852/status/1913618382609588407?s=46&t=jbTXwMlqrApNjJ77TPkLcw

The post “คิดถึงทุกคนมากเลย” แจ็คสัน หวัง โพสต์ข้อความแสดงความรักถึงแฟนๆ ชาวไทย appeared first on THE STANDARD.

MILLI (มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล) ศิลปินสาวมากความสามารถจาก YUPP! เตรียมลงสนามในฐานะนักมวยเป็นครั้งแรกกับการเข้าร่วมรายการ Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยเบื้องหลังการเตรียมตัวของเธอจะถูกเล่าผ่านรายการ MILLI TO THE RING ทั้งหมด 5 ตอน ทางช่อง YouTube: YUPP! ทุกวันเสาร์ โดยจะเริ่มเอพิโสดแรกในวันนี้ (19 เมษายน)

Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME เป็นรายการแข่งขันชกมวยที่ออกอากาศทางช่อง 7HD และต้อนรับนักชกจากทั่วทุกมุมโลก โดย MILLI จะเล่าที่มาที่ไปถึงความชื่นชอบในการต่อยมวยให้แฟนๆ ได้ทราบกันอีกครั้งผ่านรายการ MILLI TO THE RING

MILLI ยังได้เผยความรู้สึกถึงไฟต์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นเอาไว้เพิ่มเติมว่า “ตอนนี้ความฝันมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง หนูจะได้ขึ้นชกมวยบนเวทีมวยจริงๆ แล้ว และนี่ไม่ใช่การชกโชว์ ไม่ใช่แมตช์พิเศษอะไรใดๆ ทั้งสิ้น มันคือแมตช์การแข่งขันจริงๆ หนูอยากเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองที่สะท้อนไปถึงชื่ออัลบั้มชุดที่สองอย่าง HEAVYWEIGHT ซึ่งจะเป็นการก้าวไปอีกขั้นในฐานะศิลปิน รวมไปถึงซิงเกิลที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้อย่าง ONE PUNCH ด้วย ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ” 

สามารถรอติดตามรายละเอียดการจำหน่ายบัตร Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME ในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2025 ณ เวทีมวยลุมพินีได้เร็วๆ นี้ พร้อมติดตามรับชมรายการ MILLI TO THE RING ได้ทางช่อง YouTube: YUPP!

The post MILLI เตรียมปล่อย MILLI TO THE RING เล่าเบื้องหลังการซ้อมก่อนขึ้นชก Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 เมษายน) หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย โพสต์ข้อความเปิดใจพร้อมอธิบายเหตุผลถึงบทบาทการทำหน้าที่พิธีกรรายการ โหนกระแส รายการฮาร์ดทอล์กชื่อดังระดับมหาชนที่ออกอากาศทางช่อง 3 โดยได้แจกแจงถึงการเลือกประเด็นที่กำลังเป็นกระแสทางสังคมขึ้นมาพูดคุยในรายการ ซึ่งไม่สามารถทำได้ทุกความคาดหวังของคนในสังคม อีกส่วนคือการทำการบ้านที่ตลอดหลายปีของการทำหน้าที่ดำเนินรายการ ตนเองต้องศึกษาหาความรู้ในหลากหลายด้าน ซึ่งก็ไม่อาจจะทำได้ในทุกประเด็น โดยตนเองเคยพูดบ่อยๆ ว่า ‘ไม่ใช่ซูเปอร์แมน’ ก่อนทิ้งท้ายว่า “ในขณะที่บางคนถามว่า โหนกระแส ให้อะไรกับสังคม แต่ผมกลับภูมิใจว่ามีท่านผู้พิพากษาบางท่านบอกกับผมว่า ขอบคุณนะที่ทำให้คนไทยได้รู้ข้อกฎหมายมากขึ้น ถึงจะนำเสนอแบบกุศโลบายก็ตาม”

สำหรับบทบาทของการทำหน้าที่ของ หนุ่ม กรรชัย ในฐานะสื่อมวลชนนั้นได้รับเสียงชื่นชมและความนิยมมาตลอดหลายปี ขณะเดียวกันดูเหมือนว่าเมื่อยิ่งโด่งดังก็ยิ่งได้รับการคาดหวังจากสังคมในการคัดเลือก ‘ประเด็น’ และดูเหมือนว่าแสงสะท้อนดังกล่าวจะส่งผลต่อ ‘ครูกะปิ’ หรือ ‘พี่หน่วง’ ของแฟนรายการ จนต้องออกมาชี้แจงยาวๆ ส่วนข้อความเป็นทั้งหมดในโพสต์ดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

ผมก็อยากจะทำในทุกๆ เรื่องที่ทุกคนร้องขอมานะครับ แต่ในโลกความเป็นจริง มันไม่สามารถจะทำอะไรแบบนั้นได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ในหนึ่งสัปดาห์ซึ่งมีเรื่องราวมากมาย  และผมไม่สามารถหยิบจับมาได้ทุกเรื่อง  สุดท้ายผมก็จะถูกตำหนิ ต่อว่า ด่าทอ ว่าทำไมไม่ทำเรื่องนั้น ไม่ทำเรื่องนี้ พอผมเห็น ผมฟังแล้ว โอ้โห ผมโคตรลำบากใจเลย

อยากทำให้ทุกคนสมหวังนะครับ แต่ผมเองก็พูดอยู่บ่อยๆ ว่าผมไม่ใช่ซูเปอร์แมน แค่ทุกวันนี้ จากสิ่งที่ไม่เคยรู้ ผมก็ต้องเรียนรู้ ผมต้องหาความรู้เรื่องกฎหมาย ผมต้องหาความรู้ทางด้านการแพทย์ ผมต้องหาความรู้ทางด้านสิทธิเด็ก ผมต้องหาความรู้ทางด้านสังคมของทุกสังคม และอีกหลายอย่างมากๆ ปัจจัยในการทำงานของโหนกระแส มันยากมากๆ เลยนะครับ มันไม่ใช่จะทำเรื่องนี้ แล้วมันทำได้เลยอย่างที่บางคนต้องการ 

บางวันผมต้องเห็นคำพูดแย่ๆ ของบางคน เช่น โหนกระแสไม่ทำหรอกเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องตำรวจ เรื่องคนใหญ่คนโต ทำแต่เรื่องผัวเมีย อันนี้บอกเลยว่า ความคิดแบบนี้มันอคติเกินไปครับ ลองเปิดใจแล้วไปดูให้ชัดๆ ก่อนว่า ผมทำเรื่องราวของผู้มีอิทธิพล  หรือตำรวจแย่ๆ ทหารแย่ๆ เยอะมากนะ ผมเสี่ยงมือ เสี่ยงตีน จนบางครั้งหาคำว่าความปลอดภัยแทบไม่เจอ แต่กลับมาบอกว่าผมทำแต่เรื่องผัวเมีย

บางวันตื่นมาเจอคนในวงการสื่อบอกว่า วิเคราะห์ข่าวแทบตายคนดูไม่กี่หมื่น โหนกระแสทำเรื่องผัวเมียคนดูสองล้าน เยี่ยม! ผมไม่รู้หรอกว่าเขาชื่นชมหรือแดกดัน แต่บางทีก็งงๆ ว่าผมตัดกางเกงยีนส์ขาย แต่คุณตัดกางเกงสแล็กขาย แต่ผู้บริโภคดันซื้อกางเกงยีนส์มากกว่า มันเป็นความผิดของผมเหรอครับ มันเป็นความผิดของคนที่ซื้อกางเกงยีนส์เหรอครับ ซึ่งถ้าคุณคิดจะแดกดันทำไมคุณถึงไม่เอาเวลาอัดคลิปแดกดันไปทำ กางเกงสแล็กของคุณให้มันแปลกใหม่ เพื่อจะได้มีคนไปจับ ไปจอง ไปซื้อกันเยอะๆ แทนที่จะออกมาพูดว่า กูอุตส่าห์ตัดกางเกงสแล็กขาย แต่พวกมึงดันไปซื้อกางเกงยีนส์ เยี่ยม!  มุมผมว่ามันไม่แฟร์เลยครับ

****ฝากอีกนิดนะครับว่า เรื่องราวบางเรื่องที่ผมไม่ได้ทำ ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ แต่บางครั้งผมไม่ถนัดและผมไม่มีความรู้ทางด้านนั้นเพียงพอ ซึ่งการนำเสนอของหลายๆ ช่อง หลายๆ รายการดีกว่าผมเยอะมาก ผมจึงเกรงว่าถ้าผมทำจะกลายเป็นไปชักใบให้เรือเสียเปล่าๆ และประการสำคัญอีกอย่างคือ บางเรื่องแขกรับเชิญเขาไม่พร้อมมาครับ ถึงอยากทำยังไงก็คงทำไม่ได้ครับ****

****อีกนิดนะครับ และในขณะที่บางคน ถามว่าโหนกระแสให้อะไรกับสังคม แต่ผมกลับภูมิใจว่า มีท่านผู้พิพากษาบางท่าน บอกกับผมว่า ขอบคุณนะที่ทำให้คนไทยได้รู้ข้อกฎหมายมากขึ้น ถึงจะนำเสนอแบบกุศโลบายก็ตาม 

อ้างอิง:

• https://www.facebook.com/share/p/16MWoq77v6/

The post หนุ่ม กรรชัย ชี้แจงการเลือกประเด็นออก ‘โหนกระแส’ ที่ผ่านมาพยายามหาความรู้ทุกด้าน แต่ตนเองไม่ใช่ซูเปอร์แมน appeared first on THE STANDARD.

เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ระดับปรากฏการณ์ของวงการโทรทัศน์ไทยเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (18 เมษายน) เกิดการคอลแลบพูดคุยและสัมภาษณ์รายการข้ามช่องกันแบบสดๆ ระหว่างสองรายการฮาร์ดทอล์กชื่อดังอย่าง โหนกระแส ของช่อง 3 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ของช่อง 8 ดำเนินรายการโดย เมย์-ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ หลังเกิดประเด็นร้อนกรณี ‘พีช’ ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังขับรถยนต์เบียดชนกระบะซึ่งขับโดยสองลุง-ป้าเสียหลักลงไหล่ทางจนบาดเจ็บสาหัส ที่สังคมกำลังจับตามอง

ภาพ: โหนกระแส ของช่อง 3 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย

ภาพ: คนดังนั่งเคลียร์ ของช่อง 8 ดำเนินรายการโดย เมย์-ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ 

ที่มาของปรากฏการณ์เกิดจากสองรายการต่างได้ตัวคู่กรณีสองฝั่งมาออกรายการ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็เล่าเปิดใจถึงเหตุการณ์จากฝั่งของตนเอง โดยรายการ โหนกระแส ได้ฝั่งลูกสาวของลุง-ป้าขับรถกระบะ ด้านฝั่งรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ได้คู่กรณีคนสำคัญคือ ‘พีช’ ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกหลังจากเกิดเหตุ กระทั่งต่อมาได้กลายเป็นประเด็นทางสังคม  

ไฮไลต์สำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์คอลแลบข้ามรายการ เมื่อฝ่ายลูกสาวของลุง-ป้ารถกระบะ เปิดใจว่าอยากจะคุยกับคู่กรณี ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นนามสกุลดัง หลังจากพยายามมาหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ 

ภาพ: kanchai / Instagram, maychanitn / Instagram

กระทั่งเมื่อถึงช่วงท้ายของรายการ โหนกระแส หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย จึงตัดสินใจติดต่อไปที่รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ที่กำลังดำเนินรายการสดในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อขอคอลแลบรายการเข้าสายให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสพูดคุยกันและเคลียร์ใจในหลายๆ ประเด็นที่สองฝั่งยังพูดไม่ตรงกัน โดยในระหว่างต่อสายติดต่อสด หนุ่มกรรชัยเสนอไอเดียส่วนหนึ่งว่า “เอาไหม มันก็คอลแลบกันอย่างนี้ได้ ก็ลองดู มันไม่มีใครเขาทำนะ ก็มีแต่บ้อๆ บอๆ อย่างนี้ที่เขาทำ ก็ลองทำกันดู จะได้คุยกันตรงนี้ไปเลย พี่ว่ามันเป็นประโยชน์ เป็นโอกาส” ก่อนที่ไอเดียนี้จะถูกทำให้เกิดขึ้นจริง  

ถือเป็นเวลาประมาณ 25 นาทีของการสัมภาษณ์และพูดคุยสดระหว่างสองรายการที่สร้างมิติใหม่ให้กับคนไทยและแฟนของสองรายการได้อย่างน่าปรบมือชื่นชม 

ภาพ: kanchai / Instagram, maychanitn / Instagram

อ้างอิง: 

• https://www.youtube.com/watch?v=uOVEOt2LDkA 
• https://www.youtube.com/watch?v=j6l2_GxS5p4

The post โหนกระแส-คนดังนั่งเคลียร์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ต่อสายสัมภาษณ์แขกรับเชิญสดข้ามรายการ appeared first on THE STANDARD.

มีการรายงานว่า MARK แห่งวง NCT ได้กลายเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์สุดหรูระดับไฮเอนด์ในย่านนนฮยอนดง แห่งเขตกังนัม กรุงโซล หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกอย่าง The First Fruit จนขึ้นแท่นเป็นศิลปินที่มียอดขายถึงครึ่งล้าน

แหล่งข่าวจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์ได้ออกมาเผยข้อมูลผ่านสื่อว่า MARK ได้ทำการเข้าซื้ออพาร์ตเมนต์ลักชัวรีขนาด 126 ตารางเมตรในตึก Brighton N40 ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ด้วยราคา 5.05 พันล้านวอน หรือราว 118.7 ล้านบาท ก่อนที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้จะกลายเป็นชื่อของเขาอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ซึ่งยังมีการรายงานด้วยว่า MARK ใช้เงินมัดจำสิทธิการเช่าจำนวน 3 พันล้านวอน และคาดการณ์ว่าเขาน่าจะใช้เงินสดลงทุนซื้ออพาร์ตเมนต์แห่งนี้ 2 พันล้านวอนสำหรับการเข้าครอบครองอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ โดยเจ้าของอพาร์ตเมนต์คนก่อนก็คือ Kwon Hong Sa ประธานแห่งบริษัท BANDO E&C

สำหรับ Brighton N40 เป็นตึกอพาร์ตเมนต์ระดับหรูที่ตั้งอยู่ในย่านนนฮยอนดง แห่งกังนัม ภายในประกอบไปด้วยคอนโดทั้งหมด 5 ตึกที่มีทั้งตึกสูงตั้งแต่ 4 ชั้นไปจนถึงตึก 10 ชั้นโดยมีห้องทั้งหมด 148 ยูนิต ซึ่งก็มีทั้งห้องสแตนดาร์ดขนาด 84-176 ตารางเมตรจำนวน 140 ยูนิต และเพนต์เฮาส์ขนาด 171-248 ตารางเมตรอีก 8 ห้องโดยที่ทุกห้องมาพร้อมกับที่จอดรถอย่างต่ำ 2 ที่ 

ด้วยโลเคชันใจกลางกรุงโซลที่มีแม่น้ำฮันกับ Nodeul Island เป็นวิวทิวทัศน์ และความหรูหราของอพาร์ตเมนต์ที่ได้รับการออกแบบโดย Jean-Michel Wilmotte สถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อดัง จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยอพาร์ตเมนต์แห่งนี้เต็มไปด้วยเหล่าคนดัง อย่าง Yoo Jae Suk พิธีกรชื่อดังที่ซื้อเพนต์เฮาส์ขนาด 199 ตารางเมตรในราคา 8.66 พันล้านวอน นอกจากนั้นยังมี Hoshi วง Seventeen, Han Hyo Joo, Oh Yeon Seo, Lee Hwi Jae วง INFINITE, Kim Myung Soo, Nayeon วง TWICE และนักบาส Heo Ung ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่เดียวกับ MARK เป็นต้น

ภาพ: SM / Willmotte 

อ้างอิง: 

• https://www.allkpop.com/article/2025/04/ncts-mark-revealed-as-owner-of-5-billion-krw-about-353-million-luxury-apartment-in-gangnams-nonhyeon-dong 

The post MARK วง NCT ซื้ออพาร์ตเมนต์หรูแถบกังนัมในราคา 5.05 พันล้านวอน appeared first on THE STANDARD.

ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ไฮสคูลยุค 90 เรื่อง Clueless จะกลับมาสร้างตำนานกับภาคต่อในรูปแบบของซีรีส์ โดยมีนักแสดงหญิง Alicia Silverstone กลับมารับบทคุณหนู Cher Horowitz อีกครั้ง และซีรีส์นี้จะออกฉายผ่านทางสตรีมมิง Peacock

ซีรีส์เรื่องนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาโปรเจกต์ รายละเอียดของพลอตต่างๆ ยังเป็นความลับ แต่นักเขียนบทและโปรดิวเซอร์จากเรื่อง Gossip Girl อย่าง Josh Schwartz และ Stephanie Savage จะมารับหน้าที่เขียนบทร่วมกับ Jordan Weiss ซึ่งเพิ่งเขียนเรื่อง Freakier Friday ของ Lindsay Lohan และนักแสดงนำของเรื่อง Alicia Silverstone ก็จะเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ด้วย

นอกจากนี้  ผู้เขียนบทและผู้กำกับเวอร์ชันภาพยนตร์ Amy Heckerling และโปรดิวเซอร์ฉบับภาพยนตร์อย่าง Robert Lawrence ก็จะมาร่วมเป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ และซีรีส์เรื่องนี้จะผลิตโดย CBS Studios และ Universal Television 

ทั้งนี้ ซีรีส์ Clueless เวอร์ชันนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับซีรีส์ที่เคยพัฒนาในปี 2020 ซึ่งเป็นผลงานที่ไปต่อไม่สำเร็จและต้องพับโปรเจกต์ไปแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Alicia Silverstone กลับมารับบท Cher Horowitz เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2023 เธอเคยแสดงบทบาทสุดไอคอนิกนี้ในโฆษณา Super Bowl ของ Rakuten และการปรากฏตัวในครั้งนั้นก็ทำให้แฟนๆ ภาพยนตร์ยุค 90 ตื่นเต้นกับการกลับมาของเธอเช่นกัน

ภาพ: Paramount Pictures / Getty Images

อ้างอิง:

• https://variety.com/2025/tv/news/clueless-sequel-series-alicia-silverstone-returning-peacock-1236371844/

The post Clueless เตรียมทำภาคต่อเป็นซีรีส์ พร้อมได้ Alicia Silverstone มารับบทเดิม appeared first on THE STANDARD.