เก็บตกภาพบรรยากาศเทศกาลดนตรีฮาโลวีนสุดยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองกับงาน ENCHANTED FEST 2025 ที่จัดขึ้น ณ UOB LOVE at EMSPHERE เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยงานนี้กลับมาจัดเป็นปีที่ 2 แต่ยังคงสร้างปรากฏการณ์ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยไลน์อัปที่มาร่วมงานถึง 8 ศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น BUS because of you i shine, Jeff Satur, TATTOO COLOUR, 4EVE, THE TOYS, PiXXiE, URBOYTJ x TIMETHAI และ YOUNGOHM

ศิลปินที่มาร่วมแสดงงานนี้ไม่ได้แค่โชว์ผลงานเพลงของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีการแสดงเพลงคัฟเวอร์ของศิลปินคนอื่นสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งปรากฏตัวคอสตูมสุดพิเศษเพื่อเทศกาลฮาโลวีนอีกด้วย เช่น PiXXiE ที่มาในลุคแมวน้อยจอมเวท, 4EVE ในลุคที่ได้แรงบันดาลใจจากเมดูซ่า, THE TOYS กับลุคหมาป่า, BUS because of you i shine ในลุคผีสุดเท่กับการแสดงเพลง LOVE SHOT ของ EXO และ MANIAC ของ Stray Kids หรือจะเป็น Jeff Satur กับลุคตัวละครสุดไอคอนิกในโลกป๊อปคัลเจอร์ญี่ปุ่นอย่าง Light Yagami จากเรื่อง Death Note

เรียกได้ว่าเทศกาลดนตรีฮาโลวีน ENCHANTED FEST 2025 ในปีนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีที่เสิร์ฟความสนุกและความยิ่งใหญ่ได้อย่างเต็มที่เช่นเคย และเป็นที่น่าตั้งตารอคอยว่าในงานฮาโลวีนปีถัดไปพวกเขาจะเตรียมเซอร์ไพรส์อะไรมาให้แฟนๆ ชาว ENCHANTER ได้ชมกันอีก

ภาพ: ENCHANTED FEST

The post ENCHANTED FEST 2025 เทศกาลดนตรีฮาโลวีนสุดยิ่งใหญ่ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่สอง appeared first on THE STANDARD.

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Yang Hyun Suk ผู้ก่อตั้งค่าย YG Entertainment เคยเปรยว่า BLACKPINK จะคัมแบ็กพร้อมอัลบั้มใหม่ภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็เป็นข่าวคราวที่ทำให้แฟนๆ ตั้งตารอคอยกันไม่น้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่มากนัก นอกจากการอัปเดตว่าพวกเขากำลังทำเพลงและถ่ายมิวสิกวิดีโอกันอยู่ หรืออัลบั้มอาจจะมาช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้

จนล่าสุดนี้ก็มีข่าวลือว่า BLACKPINK มีกำหนดการจะคัมแบ็กพร้อมอัลบั้มใหม่ในช่วงเดือนมกราคมปี 2026 แต่ทางต้นสังกัด YG Entertainment จึงออกมาชี้แจงกับสื่อในเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการว่า “อัลบั้มกำลังอยู่ในกระบวนการขั้นสุดท้ายแล้ว เมื่อทุกอย่างเตรียมตัวเรียบร้อยสมบูรณ์ เราจะประกาศข่าวนี้ผ่านการโปรโมตอย่างเป็นทางการทันที”

อัลบั้มชุดใหม่ของ BLACKPINK จะถือเป็นผลงานใหม่ในรอบเกือบ 3 ปีของวง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาก็มีการรายงานว่า พวกเธอถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงในอัลบั้มใหม่นี้กันไปแล้ว ซึ่งต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า พวกเธอจะเตรียมอะไรมาให้แฟนๆ ได้ชมกันบ้าง

ภาพ: YG Entertainment

อ้างอิง:

• https://m.entertain.naver.com/home/article/609/0001055242

The post YG Entertainment ตอบถึงประเด็นการคัมแบ็กของ BLACKPINK ในเดือนมกราคมปี 2026 appeared first on THE STANDARD.

ก่อนที่วง RIIZE จะคัมแบ็กในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ทางวงก็มีอีกหนึ่งโปรเจกต์พิเศษสำหรับชาว BRIIZE นั่นคือนิทรรศการศิลปะนาม Silence: Inside the Fame – Tranquility and Resonance เพื่อฉลองการเตรียมปล่อยซิงเกิลใหม่ของพวกเขาอย่างเพลง Fame

นิทรรศการศิลปะของ RIIZE จะมาพร้อมกับคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘Fame’ หรือการมีชื่อเสียง โดยนำเสนอทั้งภาพและงานด้านมีเดียต่างๆ ที่ถ่ายทอดส่วนลึกของอารมณ์และความรู้สึกอันหลากหลายของเหล่าสมาชิกวง RIIZE บอยกรุ๊ปแห่งค่าย SM Entertainment ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์และธีมอัลบั้มใหม่ของพวกเขา

Silence: Inside the Fame – Tranquility and Resonance จะจัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ Ilmin Museum of art แห่งกรุงโซล ตั้งแต่วันที่ 16 จนถึงวันที่ 30 พฤศกายนนี้ ในขณะที่เพลง Fame ซิงเกิลใหม่ของวง RIIZE จะเปิดตัวในวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนของตั๋วกันที่ Melon Ticket ได้แล้ววันนี้

ภาพ: Noam Galai/Getty Images for Empire State Realty Trust

อ้างอิง:

• https://www.allkpop.com/article/2025/11/riize-to-host-special-exhibition-silence-inside-the-fame-tranquility-and-resonance-ahead-of-comeback

The post RIIZE เตรียมจัดนิทรรศการที่กรุงโซล ก่อนการคัมแบ็กกับเพลง Fame ปลายเดือนนี้ appeared first on THE STANDARD.

BUS because of you i shine เปิดตัวซิงเกิลใหม่ ยังรักอยู่ไหม (Stars.) เพลงสะท้อนถึงคำถามที่ตั้งอยู่ในใจว่าทำไมความรักที่ตัวเองมีต่อความสัมพันธ์ที่เลือก ถึงค่อยๆ หายไป จนกลายเป็นหน้าที่ที่จะต้องรัก แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรู้สึกในใจจริงๆ

เพลงนี้ยังได้โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ และส้ม-จิดาภา วัสโสทก มาแต่งเนื้อร้อง และท่อนแรปอันโดดเด่นก็ยังมีเมมเบอร์ในวงอย่าง ALAN, JINWOOK และ JUNGT มาร่วมแต่งและร้องแรปเองด้วย

จากเนื้อหาเพลงที่มีความลึกซึ้ง โปรดิวเซอร์จึงเลือกดีไซน์ดนตรีให้มีความ Cinematic พร้อมใช้เสียงจากเครื่องสายเพื่อให้สะท้อนถึงความรู้สึกที่อ่อนไหวและเจ็บปวดในใจ ทั้งยังได้ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ บูริน-ภูรินทร์ ตรีธรรมพินิจ ที่เคยกำกับเพลง BOW WOW กลับมาร่วมงานอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ตีความมิวสิกวิดีโอนี้ให้เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่มีความฝันเดียวกัน ทำภารกิจเดียวกัน แต่ต้องแยกออกจากกัน เพราะกลุ่มหนึ่งต้องขึ้นสู่ห้วงอวกาศ ส่วนอีกกลุ่มอยู่บนโลก และติดต่อกันไม่ได้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงพยายามสื่อสารกัน ทว่าก็ยังคงตั้งคำถามในใจว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นทำเพราะความรัก หรือเพราะหน้าที่กันแน่ ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆ ที่ได้ชมมิวสิกวิดีโอสุดยิ่งใหญ่นี้แล้วก็น่าจะอินไปกับเพลงได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

ภาพ: BUS Because of you i shine

The post BUS คัมแบ็กด้วยซิงเกิล ยังรักอยู่ไหม (Stars.) ที่มาพร้อมกับ MV สุดลึกซึ้ง appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่วงดนตรีขวัญใจแฟนๆ Three Man Down ประกาศว่าจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ในงานเทศกาลดนตรี Monster Music Festival 2025 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็มีการเผยรายละเอียดราคาบัตรและสถานที่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

คอนเสิร์ต Three Man Down จะจัดที่สนามศุภชลาศัย ในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2026 โดยมีบัตรราคา 3,000 / 2,000 / 1,500 / 1,200 และ 900 บาท พร้อมเริ่มจำหน่ายบัตร 31 มกราคม 2026 เวลา 10.00 น. ทางเว็บไซต์ www.allticket.com และ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven

ในช่วงปีที่ผ่านมา Three Man Down เพิ่งมีสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ‘III’ ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน โดยอัลบั้มนี้พวกเขาทำผลงานใหม่ 13 เพลง พร้อมร่วมงานกับศิลปินในวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nap The Nap (แน๊ป Retrospect), The TOYS และ COCKTAIL

ภาพ: Three Man Down

อ้างอิง:

• https://www.instagram.com/p/DQqTyoTgZ8-/

The post Three Man Down ประกาศคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งใหม่ 7 มีนาคม 2026 appeared first on THE STANDARD.

ดูเหมือนว่าผลงานชุดใหม่ของวง BTS ที่ชาว ARMY ทั่วโลกรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อจะมีความคืบหน้าไปตามขั้นตอน และแฟนเพลงจะได้สนุกไปกับกิจกรรมคัมแบ็กของพวกเขาในอีกไม่กี่อึดใจ เพราะล่าสุด Jimin คอนเฟิร์มว่า เหล่าสมาชิกวงทำการอัดเสียงเสร็จสิ้นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Jimin ออกมาอัปเดตสิ่งที่แฟนๆ อยากรู้ นั่นคือพวกเขาทำงานสำหรับอัลบั้มใหม่ไปถึงไหนกันแล้ว โดยระหว่างที่เซอร์ไพรส์ด้วยการไลฟ์ผ่าน WeVerse เพื่อพูดคุยกับชาว ARMY โดยมีเพื่อนสมาชิกวงอย่าง V มาร่วมปรากฏตัวสร้างความสนุกสนาน ทั้งสองก็ได้พูดถึงการคัมแบ็กของวง BTS ที่มีกำหนดการอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม 2026 ซึ่ง Jimin เผยว่า ทางวงผ่านขั้นตอนการอัดเสียงกันมาแล้ว

“ทุกคนครับ เราอัดเสียงเสร็จแล้วล่ะ ตอนนี้เราน่าจะได้ปล่อยมันออกมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิหน้า” Jimin พูดกับ V ด้วยว่า “พอเห็นนายวันนี้แล้วฉันอยากรีบโปรโมตเพลงใหม่เร็วๆ เลย” ซึ่ง V ก็ตอบโต้ด้วยการพยักหน้าเห็นด้วย

การคัมแบ็กในปี 2026 ของพวกเขาจะเป็นการปล่อยอัลบั้มใหม่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ที่วง BTS เปิดตัวอัลบั้ม Proof ทิ้งท้ายก่อนทยอยเข้ากรมทหารรับใช้ชาติ และทำงานเดี่ยวของตัวเองกันทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าชาว ARMY ต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นสมาชิกวงทั้ง 7 คนกลับมาอยู่บนเวทีเดียวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมกับผลงานเพลงใหม่ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Jungkook กับ j-hope และ Jimin กับ V ก็เพิ่งไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ต RunSeokjin Ep. Tour Encore ของ Jin พี่ใหญ่กันคนละวัน ท่ามกลางความสนุกสนานและความตื้นตันของทั้งศิลปินและแฟนเพลง

ภาพ: Swan Gallet/WWD via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.news18.com/movies/korean/bts-star-jimin-drops-hint-on-groups-comeback-album-release-for-spring-2026-9675977.html

The post Jimin คอนเฟิร์มว่าวง BTS อัดเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว appeared first on THE STANDARD.

นับว่าเป็นการคัมแบ็กที่ทำให้แฟนๆ ต้องว้าวอีกครั้ง เพราะวงบอยกรุ๊ปสุดฮอตแห่งวงการ T-Pop อย่าง ATLAS กลับมาเสิร์ฟซิงเกิลใหม่ที่มีชื่อสุดเก๋อีกครั้งกับเพลง SOMTAM (ส้มตำ) หลังจากเคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วกับเพลง มังคุด (Mangosteen) เมื่อปี 2023 และเพลงนี้เมมเบอร์ทั้ง 7 ก็ยังมาพร้อมกับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน แต่ยังคงผสมผสานกันอย่างลงตัว

เพลงนี้พวกเขาเปรียบเทียบผู้หญิงในฝันว่าเป็นเหมือนส้มตำจานเลิศที่ไม่ว่าจะเผ็ดแค่ไหน ทำให้น้ำตาไหลอย่างไร ก็เลือกที่จะสั่งกินอยู่ดี โดยมีนักแสดงหญิงชื่อดังอย่าง เจนิส เจณิสตา มาร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอนี้อีกด้วย

แต่ไม่ว่าชื่อเพลงหรือเนื้อเพลงจะดูแซ่บขนาดไหน ทว่าซิงเกิลนี้กลับถูกคอนทราสต์ด้วยดนตรีที่นุ่มนวลและมีบรรยากาศของความรัก จากฝีมือการโปรดิวซ์ของ JAP The Richman Toy และยังมี เติร์ด วง Tilly Birds มารับหน้าที่ผู้กำกับและเขียนบทสำหรับมิวสิกวิดีโอ โดยเขาก็เขียนบทให้เจนิสมาแสดงประกบคู่กับเมมเบอร์ในวงอย่าง NICE (ไนซ์ วิชญ์พล) ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนรักเก่าที่เคยเปิดร้านส้มตำด้วยกัน แต่วันนี้ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งเพราะมาแข่งขันในรายการทำอาหารที่เจนิสเป็นกรรมการนั่นเอง

ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ฟังเพลง SOMTAM (ส้มตำ) สามารถรับฟังได้แล้วในทุกช่องทางสตรีมมิ่ง และรับชมมิวสิกวิดีโอได้ทางช่อง YouTube ของ ATLAS

ภาพ: XOXO Entertainment

The post ATLAS เสิร์ฟซิงเกิลใหม่ ‘SOMTAM (ส้มตำ)’ ที่มีเจนิส เจณิสตา มาร่วมแสดง MV appeared first on THE STANDARD.

Billie Eilish ให้สัมภาษณ์ถึงเพลงยอดฮิต Birds of a Feather อันเป็นซิงเกิลที่ผู้ฟังทั่วโลกยอมรับถึงความไพเราะติดหูและยังอินไปกับความหมายที่ลึกซึ้งกินใจของเพลง แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลัง Billie Eilish กลับเคยคิดที่จะตัดเพลงดังกล่าวออกจากอัลบั้มอยู่หลายครั้ง

Billie Eilish เปิดใจผ่านนิตยสาร WSJ. Magazine ที่เธอได้ขึ้นปกฉบับล่าสุด ว่าเธอเคยเสนอให้ตัดเพลง Birds of a Feather ออกจากอัลบั้ม แม้ว่าเธอจะรังสรรค์เพลงนี้ร่วมกับพี่ชาย FINNEAS เป็นเวลายาวนานถึง 11 เดือนก็ตาม เธอเผยว่า “หลายครั้งเลยที่ฉันคิดว่าเราควรตัดมันออกซะ แม้แต่ตอนที่ฉันเล่นทั้งอัลบั้มให้ต้นสังกัดฟัง ฉันยังบอกพวกเขาอยู่เลยว่า ‘ทุกคน เพลงนี้มันค่อนข้างจะฟังดูงี่เง่านะ’”

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Billie Eilish คิดว่าเพลง Birds of a Feather อาจฟังดู ‘งี่เง่า’ เป็นเพราะปกติแล้วเธอจะทำเพลงที่มีกลิ่นอายของความหดหู่และเศร้าซึม แต่เพลง Birds of a Feather มีจังหวะที่ค่อนข้างสนุกสนาน และให้ความรู้สึกสดใสขึ้นมาเล็กน้อย “พอนึกย้อนไปถึงคำวิจารณ์เมื่อก่อนที่บอกว่า ‘เพลงของเธอเศร้าเกินไป’ มันก็ตลกดีอยู่เหมือนกัน มีหลายคนและหลายบริษัทมากเหลือเกินที่อยากให้เราทำเพลงที่มีความสุขขึ้น”

อย่างไรก็ตาม Billie Eilish และ FINNEAS ยังคงคอนเซ็ปต์ความดาร์กในผลงานเพลงของพวกเขาเพื่อไม่ให้เพลง Birds of a Feather ฟังดูมีแต่ความสุขหรือสดใสมากเกินไป โดยทั้งสองใส่คำร้องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักใครสักคนจนวันตายเอาไว้ด้วย
“เราเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องราวที่ว่า ฉันกำลังจะจากไปเร็วๆ นี้ ดังนั้นมาทำให้ความรักของเราคงอยู่ตลอดกาลกันเถอะ” สุดท้ายแล้วเพลง Birds of a Feather ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทั้งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 สูงสุดที่อันดับ 2 พร้อมกับได้การรับรองระดับแพลทินัมจาก RIAA ถึง 5 ครั้ง และยังเป็นเพลงที่มียอดสตรีมใน Spotify สูงที่สุดในปี 2024

ภาพ: Gareth Cattermole/Getty Images for Live Nation

อ้างอิง:

• https://people.com/billie-eilish-almost-scrapped-birds-of-a-feather-11840345

The post Billie Eilish เคยคิดที่จะตัดเพลง Birds of a Feather ออกจากอัลบั้มหลายครั้ง appeared first on THE STANDARD.

เมื่อเอ่ยถึงภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name ภาพจำที่ผุดขึ้นมาในความคิดของผู้ชมคงไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องราวความรักระหว่าง Elio และ Oliver เท่านั้น แต่อาจรวมถึงภาพบรรยากาศหน้าร้อนที่อบอุ่น ความงามของธรรมชาติที่เมืองฝั่งเหนือของอิตาลีจากยุค 80 หรือบทเพลงประกอบ Mystery of Love จากฝีมือศิลปินสายโฟล์กอินดี้อย่าง Sufjan Stevens ที่ตรึงหัวใจผู้ฟังไว้ได้อย่างลึกซึ้ง

ทว่าเรื่องน่าเหลือเชื่อคือ กว่าที่เพลง ‘Mystery of Love’ จะกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของภาพยนตร์ แฟนๆ เกือบจะไม่ได้ฟังเพลงนี้เลย เพราะ Sufjan เคยลังเลที่จะรับงานทำเพลงประกอบหนัง แต่เขากลับเปลี่ยนใจด้วยเหตุผล ‘บางอย่าง’ และในทางกลับกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเขียนเพลงที่ทำค้างไว้สำเร็จได้ในที่สุด และการทำเพลงประกอบหนังครั้งแรกในชีวิตของเขา พาเขาไปสู่การชิงออสการ์ครั้งแรกทันที!

เนื่องในโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะครบรอบ 8 ปี ทาง THE STANDARD POP จึงอยากจะชวนคุณออกเดินทางไปยังอิตาลีอีกครั้งเพื่อทำความรู้จักกับบทเพลง ‘Mystery of Love’ ของ Sufjan Stevens กันให้มากขึ้น หากคุณพร้อมแล้ว ก็หยิบหูฟังออกมาฟังเพลงนี้ แล้วตามมาไขปริศนาแห่งรักไปด้วยกันได้เลย

การร่วมงานกันที่เกิดจากความไว้ใจ

เบื้องหลังการทำเพลง Mystery of Love เป็นหนึ่งโมเมนต์ที่วิเศษที่สุดของการทำหนังเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้มาจากการวางแผน แต่มาจากความเชื่อใจและความรู้สึกเป็นหลัก

ผู้กำกับอย่าง Luca Guadagnino เลือกให้ Sufjan มาร้องเพลงประกอบเพราะเขามองว่า เสียงของเขาใสเหมือนกับคริสตัล เนื้อเพลงของเขามีความละเอียดอ่อน เป็นบทกวี และเปิดมุมมองได้กว้างจนทำให้ผู้ฟังตีความภาพในใจได้แตกต่างกันไป

สิ่งสำคัญก็คือเขาไม่ได้ให้ศิลปินเขียนเพลงสำหรับฉากไหนโดยเฉพาะ แต่ให้ศิลปินแต่งเพลงนี้โดยไม่ได้ดูหนัง ใช้แค่เพียงบทจากผู้กำกับ หนังสือนิยายต้นฉบับ และการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ และปล่อยให้ศิลปินสร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะผู้กำกับอยากให้เพลงนี้มีบทบาทเหมือนกับผู้บรรยายจากการตีความของศิลปิน คล้ายกับให้เป็นเสียงในใจของตัวละคร Elio และเป็นเสียงของหนังเองด้วย

ถึงแม้ว่า Luca จะสนใจดนตรีและเสียงของ Sufjan แต่เดิมทีแล้วตัวศิลปินไม่เคยอยากทำเพลงประกอบหนัง เพราะเขาคิดว่า ตัวเองไม่เคยทำเพลงประกอบหนังมาก่อน และตัวเองก็ไม่น่าจะเหมาะกับเพลงที่เขียนขึ้นเพื่อประกอบหนังโดยเฉพาะ แต่เขารู้ว่า Luca Guadagnino เป็นคนที่ใช้เสียงกับเพลงได้ดีเสมอ เขาก็เลยอยากจะลองทำเป็นครั้งแรก แต่เขาก็จะโฟกัสแค่กับการทำเพลงประกอบเท่านั้น ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะอยากให้เขาลองพากย์เสียงเป็น Elio ในตอนที่โตแล้วก็ตาม

เขากล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Deadline ว่า “ผมเป็นคนข้องใจกับเรื่องเสียงดนตรีในหนังเสมอ แต่ Luca เป็นข้อยกเว้นนะ เพราะเขาเป็นผู้กำกับไม่กี่คนที่ใช้เสียงเพลงและดนตรีในแบบที่ดุเดือดและเชี่ยวชาญมากๆ แบบที่คุณจินตนาการไม่ออกเลยว่าหนังจะเป็นอย่างไรหากไม่มีเสียงดนตรี”

เพลงที่งดงามราวกับเวทมนตร์

สุดท้ายแล้ว Sufjan เขียนเพลงขึ้นมา 3 เพลง ได้แก่ Mystery of Love, Visions of Gideon และ Futile Devices เวอร์ชันเปียโน ซึ่งผู้กำกับ Luca ได้รับเพลงมาหนึ่งสัปดาห์หลังการเริ่มถ่ายทำ แต่เมื่อพวกเขาได้ฟังแล้ว ทุกคนในทีมถึงกับช็อกในความงดงามของเพลง และพอเขาเอาเพลงไปให้ 2 นักแสดงนำฟัง พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าถูกรายล้อมด้วยเวทมนตร์ ทั้งยังเชื่อมโยงกับเพลงได้ทันที

Luca ยังเล่าว่า เมื่อเขาได้ฟัง เขารู้ทันทีว่า Visions of Gideon จะต้องเป็นเพลงปิดเรื่อง เพราะมันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของความเศร้า และเพลง Mystery of Love ก็ควรจะใช้ในฉากที่ Elio กับ Oliver ไปปีนเขาด้วยกัน เพราะเพลงนี้สื่อถึงความรู้สึกของการค้นพบตัวเองและความหวั่นไหวของรักแรก

เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในบทเพลง

Mystery of Love เป็นเพลงอะคูสติกบัลลาดฟังได้เพลินๆ โดยศิลปินเลือกใช้เสียงดนตรีที่เรียบง่ายด้วยเสียงของกีตาร์แมนโดลินและเปียโน แต่มีเนื้อหางดงามลึกซึ้งที่ทำให้บทเพลงนี้กลายเป็นเสียงสะท้อนของ Elio ที่มีต่อความรักครั้งแรกกับ Oliver ซึ่งเป็นความรักที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ความอ่อนโยน ความหลงใหล ความอบอุ่นเฉกเช่นกับแสงแดดอ่อนๆ ในฤดูร้อนของอิตาลี ก่อนที่รักนั้นจะสลายหายไปด้วยความเจ็บปวดของการจากลาในตอนจบ

ถ้าหากเราอ่านเนื้อเพลงจะพบว่า Sufjan ซ่อนสัญญะของความเป็นอิสระไว้กับคำว่า ‘นก’ เพื่อสื่อว่ารักนั้นเปี่ยมไปด้วยอิสระและความไร้ขอบเขต และยังเขียนถึงคำว่า ‘รัก’ ในแง่ของสิ่งชั่วคราวแต่เป็นนิรันดร์ในความทรงจำ เพราะแม้มันจะไม่อยู่กับเราอีกแล้ว แต่เราจะไม่มีวันลืมมัน

และเขาก็ตีความคำว่า รัก ให้เป็นปริศนาเร้นลับดังคำว่า ‘Mystery’ ที่เราไม่สามารถอธิบายรักได้ด้วยเหตุผล เพราะมันเกิดขึ้น เป็นสิ่งสวยงาม แล้วก็หายไป เหมือนกับของขวัญที่ได้รับมาจากธรรมชาติหรือพระเจ้า และเราก็ไม่มีวันเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ เพราะความรักยังคงเป็นเรื่องน่าฉงนที่ต้องใช้หัวใจเท่านั้นในการสัมผัส

ภาพยนตร์ที่สานต่อเพลงให้สมบูรณ์

ภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name เป็น ‘กุญแจสำคัญ’ ที่ทำให้ Sufjan Stevens สร้างสรรค์บทเพลงนี้สำเร็จ เพราะอันที่จริงเขาเขียนโครงเพลงนี้ไว้ก่อนแล้ว แต่เพลงก็ไม่สำเร็จเสียที จนกระทั่งเขามาทำเพลงประกอบหนัง เพลงที่ถูกทำค้างไว้นี้ก็ถูกนำมาปัดฝุ่นและกลายเป็นเพลงที่ผู้คนหลงรักจนถึงปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ เขามีความตั้งใจจะให้ Mystery of Love เป็นเพลงที่อยู่อัลบั้มส่วนตัวอย่าง Carrie & Lowell ผลงานที่พาผู้ฟังไปสำรวจความโศกเศร้าจากการสูญเสียแม่ (Carrie) ด้วยเหตุนี้ เพลงจึงเต็มไปด้วยห้วงอารมณ์และความเจ็บปวดเดียวกับที่เขาต้องเผชิญในขณะออกทัวร์อัลบั้มดังกล่าว

อาจกล่าวได้ว่า แม้เพลงจะถูกใช้สื่อถึง ‘รักแรก’ ที่มีความเป็นสากลและใครๆ ก็เข้าใจได้ แต่แก่นสารของเพลงก็ยังซ้อนทับกับธีมหลักของอัลบั้ม Carrie & Lowell ที่เล่าถึงการสูญเสีย ความเศร้าโศก การจมดิ่งลงในน้ำ และการโหยหาอิสระ และเขายังอ้างอิงเนื้อเพลงเกี่ยวกับความผูกพันส่วนตัวด้วยการกล่าวถึง ‘แม่น้ำ Rogue’ ซึ่งเป็นสถานที่ในรัฐออริกอนที่แม่ของเขาใช้ชีวิตและเสียชีวิต แทนที่จะอ้างอิงถึงทิวทัศน์ของอิตาลีตอนเหนือตามฉากในภาพยนตร์

“เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมทำเพลงนี้ไม่เสร็จสักที ทั้งการเขียนเนื้อและแต่งเพลง จนมาทำโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ ก็เพราะมันเป็นเรื่องของคำว่า ‘รักครั้งแรก’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยเจอ และยังเป็นเรื่องของการตระหนักรู้ถึงสัจธรรมของธรรมชาติว่าไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ซึ่งนั่นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าทึ่งมาก เพราะมันทำให้ผู้คนดำดิ่งไปกับประสบการณ์ที่สวยงามและแสนสั้น เป็นประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว คำว่า ‘รักครั้งแรก’ ก็เป็นแบบนั้น มันไม่มีอะไรจะเทียบเท่ากับคำนี้ได้เลย” Sufjan กล่าวในบทสัมภาษณ์ของ Los Angeles Times

ศิลปินผู้ให้ความสำคัญกับงานศิลป์มากกว่าพิธีการสำคัญ

ถึงนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ แต่ Mystery of Love เป็นเพลงที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับเส้นทางอาชีพของ Sufjan Stevens ด้วยการพาเขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และทำให้เขาได้มีโอกาสแสดงบนเวทีอันทรงเกียรตินั้น รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวที GRAMMYs ด้วย

อย่างไรก็ตาม เพลงนี้อาจกลายเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก ทว่าเรื่องที่น่าแปลกใจคือ Sufjan Stevens ยอมรับว่าเขาไม่เคยดูงานประกาศรางวัลออสการ์มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

“ผมต้องไปเช่าทักซิโด้แล้วล่ะ และผมมีความลับจะบอกนะ คือผมไม่เคยดูออสการ์เลย แต่ผมก็ภูมิใจกับหนังมาก และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมทำงานกับผู้กำกับที่เก่งและเฉียบแหลมเช่นนี้” เขากล่าวกับ Vanity Fair ถึงความรู้สึกที่จะได้แสดงในงานประกาศรางวัลออสการ์

เกร็ดน่ารู้อีกหนึ่งเรื่องคือ ถึงเพลงนี้ไม่ได้คว้ารางวัลออสการ์หรือ GRAMMY แต่เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในปีนั้น โดยเฉพาะหลังช่วงการแสดงที่งานประกาศรางวัลออสการ์ที่เพลงมียอดสตรีมเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า (เพิ่มขึ้นกว่า 80,000 ครั้ง และทำยอดรวมเป็น 129,000 ครั้ง) และในบรรดาเพลงที่เข้าชิงทั้งหมด 5 เพลง Mystery of Love เป็นเพลงที่มียอดสตรีมรายวันเพิ่มขึ้นสูงสุด

สะพานที่เชื่อมโลกส่วนตัวของศิลปินกับหัวใจผู้ฟังทั่วโลก

Mystery of Love เป็นเพลงที่เล่ามาจากเรื่องราวส่วนตัวของศิลปินสายอินดี้อย่าง Sufjan Stevens แต่เพลงของเขากลับประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและทัชใจผู้ฟังทั่วโลกจากเสียงดนตรีและเนื้อหาที่พูดถึงความรักซึ่งเป็นสิ่งสากลที่ใครๆ ก็เข้าใจได้

สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นศิลปินที่ร้อยเรียงดนตรีได้อย่างลึกซึ้งและมีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังเป็นศิลปินนอกกระแสที่สามารถเติบโตได้อย่างดีจนสามารถเข้าไปร่วมพิชิตรางวัลใหญ่ระดับโลกได้เหมือนกับศิลปินเบอร์ใหญ่คนอื่นๆ อีกด้วย

ดังนั้นจึงถือได้ว่าการตัดสินใจแต่งเพลงประกอบหนังครั้งแรกของ Sufjan Stevens ไม่เพียงสร้างอิมแพ็กต์ให้กับโลกดนตรีและภาพยนตร์เท่านั้น แต่ตัวเขาเองก็ยังได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่ากับตัวเขาในฐานะศิลปิน และไม่ว่าเราจะเปิดฟัง Mystery of Love เมื่อใด เพลงนี้ก็จะพาเราย้อนกลับไปยังฤดูร้อนในอิตาลีเมื่อปี 1983 ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของความรักระหว่าง Elio กับ Oliver และเพลงนี้ก็จะเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมให้เราได้สัมผัสความรู้สึกของ ‘รักครั้งแรก’ ตลอดไป

ภาพ: Sony Pictures Classics

อ้างอิง:

• https://deadline.com/2017/12/call-me-by-your-name-sufjan-stevens-luca-guadagnino-music-interview-1202225747/
• https://www.billboard.com/music/music-news/sufjan-stevens-call-me-by-your-name-music-luca-guadagnino-interview-8093818/
• https://www.latimes.com/entertainment/envelope/la-en-mn-sufjan-stevens-20180219-story.html#:~:text=%E2%80%9CI%20wanted%20the%20songs%20to,It’s%20unparalleled.%E2%80%9D

The post Mystery of Love เพลงที่เกือบไม่ได้เกิดขึ้น แต่กลายมาเป็นหัวใจอันงดงามของ Call Me By Your Name appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่งาน Coachella ประกาศว่า Justin Bieber จะเป็นหนึ่งในเฮดไลเนอร์ที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีในปีหน้า เหล่าคอเพลงต่างก็ตื่นเต้นเพราะนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาจะได้ทำโชว์อย่างเต็มรูปแบบ และเขายังเพิ่งปล่อยอัลบั้มใหม่ที่ได้รับความรักจากแฟนเพลงมากมาย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Justin Bieber แอบแย้มให้แฟนๆ รับชมกันว่าเขากำลังเตรียมตัวสำหรับการแสดงครั้งสำคัญอย่างไรบ้างผ่านการไลฟ์ในแพลตฟอร์ม Twitch พร้อมกับแชร์วิดีโอบรรยากาศในสตูดิโอ ที่ซึ่งเขากับทีมงานกำลังเตรียมเซ็ตการแสดงเวที Coachella 2026 ที่กำลังจะมาถึงในอีก 6 เดือนข้างหน้า

โดยแหล่งข่าวเผยผ่านสื่อ PEOPLE ถึงเบื้องหลังการเตรียมงานของ Justin Bieber ว่า “Twitch ของ Justin เป็นสื่อของเขาในการเผยให้แฟนๆ รับรู้ว่าเขาทั้งตื่นเต้นและกำลังทำงานหนักสำหรับการแสดง Coachella ในฐานะเฮดไลเนอร์ขนาดไหน”

ในการไลฟ์สตรีมครั้งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การเตรียมการแสดงงาน Coachella แต่ Justin Bieber ยังเผยให้เห็นชีวิตประจำวันของตัวเอง ที่มีตั้งแต่โมเมนต์การเล่นสเก็ตบอร์ดและบาสเกตบอล ไปจนถึงบทสนทนาที่ลึกซึ้งในประเด็นต่างๆ ที่เขาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนสนิทและเพื่อนร่วมงาน โดยนอกจาก Justin Bieber แล้ว ยังมี Sabrina Carpenter, Karol G และโปรดิวเซอร์ EDM อย่าง Anyma ที่ได้เป็นเฮดไลเนอร์ Coachella 2026 ด้วยเช่นกัน

ภาพ: Vivien Killilea/Getty Images for Homecoming Weekend

อ้างอิง:

• https://people.com/justin-bieber-excited-working-hard-coachella-prep-exclusive-11839821

The post Justin Bieber ตื่นเต้นและกำลังทำงานหนักเพื่อการแสดง Coachella 2026 appeared first on THE STANDARD.